EP.714 บ้านเดี่ยว คาซ่า วิลล์ บางนา – เทพารักษ์ Casa Ville Bangna-Thepharak
สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านชาว Homenayoo ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะพาท่านไปชมโครงการ คาซ่า วิลล์ บางนา – เทพารักษ์ จาก Q. House กันค่ะ ตัวโครงการเป็นบ้านเดี่ยว และบ้านแฝด สไตล์ซานโตรินี่ ภายใต้แนวคิด The Unique Sensations สัมผัสความผ่อนคลายอย่างเต็มอารมณ์
ตัวโครงการตั้งอยู่ในโซนอุตสาหกรรม เป็นทำเลที่เดินทางสะดวก ใกล้จุดขึ้น – ลงทางด่วนบูรพาวิถี, วงแหวนกาญจนาภิเษก และอยู่ในระยะการมาถึงของสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม ที่ สถานีบางพลีซึ่งจะสร้างเสร็จเปิดใช้งานในเร็วๆนี้ ให้ความคุ้มค่าในราคาที่เหมาะสม เริ่มต้นที่ 4 ล้านบาท
โดยรายละเอียดที่เราจะพาท่านไปชมก็จะมีทำเลที่ตั้งโครงการ, สภาพแวดล้อม, ข้อมูลโครงการ และบ้านตัวอย่างแบบเจาะลึก เชิญติดตามอ่านที่ด้านล่างนี้ได้เลยค่า
บ้านเดี่ยว CASA VILLE ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
CASA VILLE รามคำแหง-วงแหวน
CASA VILLE รามคำแหง-วงแหวน 2
CASA VILLE สุขุมวิท 103
CASA VILLE บางนา-เทพารักษ์
CASA VILLE รังสิต-คลอง 2
CASA VILLE บางนา-สุวรรณภูมิ
CASA VILLE รามอินทรา-วงแหวน
CASA VILLE รามอินทรา-วงแหวน 2
CASA VILLE รามอินทรา-หทัยราษฎร์
CASA VILLE วัชรพล
CASA VILLE วัชรพล-เพิ่มสิน
CASA VILLE วัชรพล-สุขาภิบาล 5
CASA VILLE วงแหวน-จตุโชติ
CASA VILLE ดอนเมือง-สรงประภา
ชื่อโครงการ | คาซ่า วิลล์ บางนา-เทพารักษ์ Casa Ville Bangna-Thepharak |
เจ้าของโครงการ | คาซ่าวิลล์ ในเครือ ควอลิตี้เฮ้าส์ Q.House |
ลักษณะโครงการ |
|
พื้นที่โครงการ | 66 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 329 ยูนิต |
พื้นที่ใช้สอย | เริ่มต้น 121 – 186 ตร.ม. |
เนื้อที่บ้าน | เริ่มต้น 42 ตร.วา ขึ้นไป |
จำนวนห้อง | 3 ห้องนอน, 2 – 3 ห้องน้ำ |
ที่จอดรถทั้งหมด | 1 – 2 คัน |
โซน | สมุทรปราการ |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน |
|
ที่ตั้ง | ถนนเทพารักษ์ ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ |
กำหนดการ | เริ่มก่อสร้าง ปลายปี 2556 |
ปีที่สร้างเสร็จ | กลางปี 2561 |
ราคา | เริ่มต้น 4 – 7 ล้านบาท |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | ค่าส่วนกลาง 25 บาท บาท/ ตร.วา./เดือน |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | คาซ่า วิลล์ บางนา – เทพารักษ์ สรรค์สร้างความสุขเพื่อผู้อยู่อาศัย ภายใต้แนวคิด The Unique Sensations สัมผัสความผ่อนคลายอย่างเต็มอารมณ์ พร้อมครอบครองบ้านสวยมีสไตล์ เพื่อความสุขสะดวกสบายของทุกคนในครอบครัว ราคาเริ่มต้น 3.59-6 ล้านบาท |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ถนนเทพารักษ์ ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
พิกัด : 13.600214, 100.714482
แผนที่จากทางโครงการ
ทำเลที่ตั้ง โครงการ คาซ่า วิลล์ บางนา – เทพารักษ์ ตั้งอยู่บนถนนเทพารักษ์ฝั่งวงแหวนฝั่งใต้ใกล้ด่านเทพารักษ์เลยไปทางบางบ่อ อยู่ในย่านอุตสาหกรรม มีโรงงานเอกชน รวมถึงโกดังเก็บของอยู่บริเวณใกล้เคียงกับตัวโครงการ นอกจากนั้นสองข้างทางก็จะเป็นหมู่บ้านจัดสรร, ตึกแถว, อาคารพาณิชย์, ตลาดสด, โรงพยาบาล และร้านอาหาร สร้างความคึกคักตลอดถนนทั้งสายเลยค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ จากถนนเทพารักษ์ถือว่าเดินทางได้สะดวกเพราะเป็นถนนใหญ่ขนาด 6 – 8 เลน เป็นเส้นที่เชื่อมไปยังถนนตำหรุ – บางพลี และถนนกิ่งแก้ว ซึ่งเป็นถนนเส้นอุตสาหกรรมเช่นกัน จึงมีโรงงานและอาคารของบริษัทเอกชนอยู่เป็นระยะๆ ดังนั้นบนถนนเส้นนี้จะมีรถบรรทุกและรถใหญ่วิ่งกันค่อนข้างเยอะ
โดยถนนเทพารักษ์จะเป็นถนนเส้นที่ขนานกับแกนตะวันออก – ตะวันตก จะวิ่งไปตัดกับถนนสายสำคัญอีกหลายสายอย่างถนนกาญจนาภิเษกช่วงฝั่งใต้ เป็นเส้นที่มีความคล่องตัวสูง สามารถเดินทางไปยังพระราม 2 – บางปะอินได้สะดวก, ถนนศรีนครินทร์ที่วิ่งไปตัดกับเส้นบางนา – ตราดและอุดมสุข สามารถขึ้นไปถึงเส้นอ่อนนุช, รามคำแหง และลาดพร้าวได้ ถัดจากศรีนครินทร์ไปก็จะไปเชื่อมกับถนนสุขุมวิทวิ่งขึ้นไปยังแถบปทุมวันจนถึงอโศกได้เลย ส่วนอีกด้านหนึ่งทางทิศตะวันออก ถนนเทพารักษ์จะวิ่งไปถึงย่านบางบ่อไปเชื่อมกับถนนบางบ่อ – คลองด่านเลยค่ะ เรียกได้ว่าที่ตั้งโครงการนั้นสามารถเดินทางได้หลายเส้นทาง แต่จะต้องรู้ช่วงเวลาด้วยว่าช่วงไหนรถติดตรงไหน เพื่อที่จะได้หลบหลีกเส้นทางเอาค่ะ
ทางด่วน ตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับจุดขึ้นทางด่วนทั้ง 2 เส้น เส้นที่ 1 คือจุดขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี สามารถวิ่งจากเส้นเทพารักษ์ขึ้นไปทางถนนสาย 3256 (ทางกิ่งแก้ว) เลี้ยวซ้ายเข้าถนนบางนา – ตราดแล้วสามารถวิ่งขึ้นทางด่วนไปได้เลย
ส่วนอีกเส้นหนึ่งก็จะเป็นจุดขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งตัวโครงการจะอยู่ใกล้ทั้งด่านเทพารักษ์ และด่านบางแก้ว อันนี้ก็แล้วแต่ว่าเราจะเดินทางไปไหนนะคะ ถ้าจะไปทางบางขุนเทียน (พระราม 2) ก็สามารถวิ่งตรงจากถนนเทพารักษ์ไปออกซ้ายขึ้นทางด่วนด่านเทพารักษ์ได้เลย หรือถ้าจะไปทางบางปะอินก็ให้วิ่งเหมือนจะไปขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี แต่ให้วิ่งออกทางคู่ขนานก่อนจะถึงจุดตัดระหว่างเส้นกาญจนาภิเษกกับบางนา – ตราด จะเป็นจุดขึ้นวงแหวนด่านบางแก้วค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ โดยรอบตัวโครงการก็มีสาธารณูปโภครองรับการอยู่อาศัย เนื่องจากโดยรอบมีทั้งโรงงาน, บ้านพัก, บ้านเดี่ยวและหมู่บ้านจัดสรรมากมาย ทำให้อาหารการกินหรือตลาดสดหาได้ไม่ยากค่ะ มีตลาดใหญ่กุนธรและห้าง Big C อยู่ใกล้เคียงบนถนนเทพารักษ์เลย นอกจากนั้นก็จะมีโรงพยาบาล, ที่ว่าการอำเภอบางพลี, วัดบางพลีใหญ่ และมหาวิทยาลัย แต่สาธารณูปโภคที่เป็นห้างสรรพสินค้าและแหล่งช้อปปิ้งจะมีไม่เยอะเท่าไหร่
ความอุดมสมบูรณ์นั้นจะเห็นชัดว่าอยู่ตรงเส้นสุขุมวิท จะมีทั้งตลาดสด, Big C สำโรง และอิพีเรียลสำโรง อีกเส้นคือถนนศรีนครินทร์ มีทั้ง Lotus, Major Cineplex, PalkLand และFoodLand โดยไม่ไกลจากโครงการมากนัก สามารถไปช้อปปิ้งและเดินพักผ่อนในวันหยุด หรือหลังเลิกงานอยากหาร้านอาหารดีๆและซื้อของเข้าบ้านก็ไปตรงไปที่ Ikea และ Mega บางนาได้ ตรงนั้นจะเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ร้านค้ามีให้เลือกมากมายเลยค่ะ หรือถ้าเส้นบางนา – ตราดก็จะมีเซ็นทรัลบางนาและ Index บางนาซึ่งในอนาคตจะมี Bangkok mall มาเปิดตรงแยกบางนาอีกด้วย
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ การเดินทางด้วยรถสาธารณะอาจจะไม่ถึงกับสะดวกสบายที่สุดแต่ก็สามารถทำได้ไม่ยาก บริเวณหน้าโครงการจะมีรถ 2 แถวและรถตู้สายต่างๆวิ่งผ่านโดยตลอด มีวิ่งไปถึงสถานีรถไฟฟ้าแบริ่งเลย เรียกได้ว่าช่วยประหยัดค่าเดินทางได้เยอะ นอกเหนือจากเส้นทางของรถ 2 แถวและรถตู้ก็คงจะต้องอาศัยวินมอเตอร์ไซค์และรถแท็กซี่ซึ่งมีวิ่งผ่านหน้าโครงการอยู่ตลอด นอกจากนี้ภายในปี 2565 รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มช่วงสถานีบางนา – สุวรรณภูมิ ก็คาดว่าจะแล้วเสร็จได้เปิดใช้งาน โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็นสถานีบางพลีซึ่งอยู่ห่างจากตัวโครงการออกไปประมาณ 5.2 กม. สามารถเรียกพี่วินหรือแท็กซี่นั่งไปถึงได้โดยใช้เวลาไม่นาน ไม่แน่ว่าต่อไปอาจจะมีรถ 2 แถวสายใหม่ให้บริการไปถึงเลยก็เป็นได้
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการ คาซ่า วิลล์ บางนา – เทพารักษ์ โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
วงแหวนกาญจนาภิเษก > ถนนเทพารักษ์ > คาซ่า วิลล์ บางนา – เทพารักษ์
เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากวงแหวนกาญจนาภิเษก มุ่งหน้าไปทางถนนเทพารักษ์ สังเกตป้ายถนนเทพารักษ์ (บางพลี – สำโรง) เอาไว้ ให้เตรียมชิดซ้ายออกทางออกที่ 10 จะเป็นด่านเก็บเงินด่านบางแก้ว
ชิดซ้ายวิ่งเข้าด่านเก็บเงินค่ะ ให้ชิดช่องซ้ายไปทางบางพลี
เมื่อผ่านด่านเก็บเงินมาแล้ว วิ่งลงจากวงแหวนกาญจนาภิเษกไปออกที่ถนนเทพารักษ์
เมื่อลงจากวงแหวนมาแล้วจะมาออกที่ถนนเทพารักษ์ช่วง 6 เลน ถนนเส้นนี้เป็นเส้นที่มีความคึกคัก รถใหญ่ก็วิ่งผ่านค่อนข้างเยอะ การจราจรจะค่อนข้างหนาแน่นตามช่วงเวลาเช้า – เย็น ทางซ้ายมือจะมีจุดสังเกตเป็นโชว์รูมฮอนด้า
วิ่งต่อไปเรื่อยๆจะเห็นโชว์รูมโตโยต้าอยู่ฝั่งซ้ายมือ
ไม่ไกลกันจะเจอรพ.บางนาอยู่ฝั่งขวามือ
และรร.ศรีดรุญอยู่ทางซ้ายมือ ข้างหน้าเราจะใกล้ถึงแยกไฟแดงซึ่งเป็นจุดเชื่อมระหว่างถนนกิ่งแก้ว และถนนตำหรุ – บางพลี
จากตรงนี้ก็รอสัญญาณไฟไปค่ะ แล้วให้วิ่งลอดทางยกระดับไปเลย
ผ่านจากแยกไฟแดงมาสักพักข้างหน้าฝั่งซ้ายจะเห็น Big C แล้ว แสดงว่าเราใกล้ถึงตัวโครงการแล้วค่ะ
ถัดไปไม่ไกลทางซ้ายมือจะเป็นซอยสุขาภิบาล 6 ซึ่งเป็นทางเข้าวัดบางพลีใหญ่ ส่วนทางขวามือจะเป็นตลาดกุนธรบางพลี
จากนั้นให้รีบชิดขวา จะมีป้ายบอกจุดกลับรถ
จากนั้นให้เราเลี้ยวขวาเข้าตัวโครงการได้เลยค่ะ ซุ้มทางเข้าจะอยู่ตรงกับจุดกลับรถเลย
สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
โครงการ คาซ่า วิลล์ บางนา – เทพารักษ์ ตั้งอยู่บนถนนเทพารักษ์ อยู่ในย่านอุตสาหกรรม มีโรงงานเอกชน รวมถึงโกดังเก็บของอยู่บริเวณใกล้เคียงกับตัวโครงการ นอกจากนั้นสองข้างทางก็จะเป็นหมู่บ้านจัดสรร, ตึกแถว, อาคารพาณิชย์, ตลาดสด, โรงพยาบาล และร้านอาหาร สร้างความคึกคักตลอดถนนทั้งสาย
เดี๋ยวเราจะเดินสำรวจบริเวณโดยรอบตัวโครงการกัน มาเริ่มกันที่หน้าซุ้มทางเช้าโครงการค่ะ ฝั่งตรงข้ามคืออาคารพักอาศัยสูง 4 ชั้นติดกับโรงงานเอกชน
มุมมองไปทางซ้ายมือมุ่งหน้าไปวงแหวนกาญจนาภิเษก เดี๋ยวเราจะไปเดินสำรวจเส้นทางฝั่งนี้กันก่อน
ฝั่งซ้ายมือตัวโครงการจะติดกับสถานีสูบจ่ายน้ำบางพลี
ฝั่งตรงข้ามมีร้านขายเฟอร์นิเจอร์, โรงเรียนสอนขับรถ และศูนย์บริการตรวจรถใช้ก๊าซ LPG/CNG
ถัดไปจะเป็นโรงงานเหล็ก
ติดๆกันเลยจะเป็นตลาดกุนธรบางพลี ระยะทางจากหน้าโครงการก็ประมาณ 290 เมตรเท่านั้นค่ะ
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นซอยสุขาภิบาล 6 ทางเข้าวัดบางพลีใหญ่ ข้างในซอยจะมีอู่ซ่อมรถด้วย
ถัดจากตลาดกุนธรบางพลีก็จะเป็นตึกแถว ชั้นล่างเปิดเป็นร้านรวงต่างๆมีทั้งร้านขายของสด
ร้านขายของชำ
ร้านขายผลไม้
ร้านขายอุปกรณ์เสริมสวย
ร้านถ่ายรูปและคลีนิกเวชกรรม
ติดๆกันกับปากซอยหมูบ้านบางพลีนครก็จะมี 7 – 11 เป็นร้านสะดวกซื้อ 1 จุด
ถัดมาไม่ไกลก็จะมีห้างทอง และร้านไดนาโมแบตเตอรี่แอร์อยู่ด้วย
ส่วนฝั่งตรงข้ามก็จะมีทั้ง ห้างทอง, ร้านขายอาหารหลายร้านทั้ง โจ๊ก, เกาเหลา, ราดหน้า, ข้าวต้มปลา, ก๋วยเตี๋ยว, ข้าวหมูแดงหมูกรอบ และสารพัดอาหารจากย่านดัง, ร้านขายยา, ร้านตัดผมชาย, ร้านซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้า, โรงเรียนสอนขับรถ และอื่นๆอีกมากมาย
ตรงไปข้างหน้าไกลๆจะเห็นป้าย Big C แล้วค่ะ
กลับมาที่หน้าโครงการเราจะเดินสำรวจทางฝั่งขวามือกันบ้าง
ฝั่งขวามือติดกับตัวโครงการเลยจะเป็นโรงงานสแตนเลสสตีล
ถัดไปเป็นอาคารสำนักงานของบริษัทอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ
ฝั่งตรงข้ามเป็นโรงงานจำหน่ายเหล็กรูปพรรณ
ถัดมาจะมีร้านอาหารและคอฟฟี่ช็อป
และโรงงานผลิตสินค้าประเภท เนย, มาการีน และชีส
ฝั่งตรงข้ามจะมีโรงงานบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากโลหะ
จากนั้นก็จะเจอตึกแถว ข้างล่างเปิดเป็นกิจการส่วนตัว ทั้งร้านตัดพับเหล็ก และร้านซ่อมเบรค – ถ่ายน้ำมันเครื่อง
ร้านจำหน่ายอุปกรณ์การช่าง
และร้านขายอาหารแห้ง
ไม่ไกลกันก็จะเป็นพื้นที่ของคลังเก็บสินค้า
ตรงไปข้างหน้าก็จะเห็นทั้งโรงงานและตึกแถวเรียงรายกันไป ฝั่งตรงข้ามจะเห็นโรงพยาบาลจุฬารัตน์ อินเตอร์ 3 อยู่ไกลๆ
:::: ตัวโครงการ ::::
โครงการ คาซ่า วิลล์ บางนา – เทพารักษ์ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดสูง 2 ชั้น จำนวน 329 ยูนิต บนที่ดิน 66 ไร่ สไตล์ Santorini ที่ให้อารมณ์เหมือนกับอยู่ในรีสอร์ท ภายใต้แนวคิด The Unique Sensations สัมผัสความผ่อนคลายอย่างเต็มอารมณ์ ก่อนที่จะพาเข้าไปดูภาพภายในโครงการจะขออธิบายผังโครงการคร่าวๆเพื่อความเข้าใจกันก่อนนะคะ
ไซท์โครงการเป็นรูปตัว T หน้าแคบแต่ลึก ทางเข้า – ออกของโครงการหลักจะมีเพียงทางเดียวคือจากซุ้มทางเข้าโครงการบนถนนเทพารักษ์ โดยจะต้องผ่านซุ้มรปภ.ซึ่งจะประกอบด้วย ป้อมยาม, กล้อง CCTV และรั้วไม้กระดก เมื่อ่ผ่านเข้ามาภายในตัวโครงการแล้วจะเจอถนนเมนกว้าง 16 เมตร เมื่อผ่านวงเวียนไปจะเชื่อมด้วยถนนกว้าง 12.00 เมตรผ่ายาวเข้าไปในโครงการ แตกย่อยเป็นซอยลึกยาวเข้าสู่ตัวบ้านแต่ละหลังด้วยถนนกว้าง 8.00 เมตรในช่วงท้ายๆโครงการ ส่วนกลางของโครงการจะมีคลับเฮ้าส์, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส และสวนพักผ่อน โดยส่วนกลางทั้งหมดจะอยู่ในช่วงท้ายๆโครงการ ซึ่งลูกบ้านฝั่งติดถนนเทพารักษ์จะเดินมาถึงก็ถือว่าไกลทีเดียว แต่เปลี่ยนบรรยากาศเป็นปั่นจักรยานก็จะประหยัดเวลาได้มากกว่า ปั่นไปเดี๋ยวเดียวก็ถึงแล้วค่ะ
:::: บริเวณภายในโครงการ ::::
::: ทางเข้าโครงการ :::
เราได้ชมรายละเอียดกันไปแล้ว ตอนนี้เราจะพาท่านผู้อ่านเดินชมภาพบรรยากาศจริงของโครงการกันบ้างค่ะ
ภาพป้ายโครงการ
เริ่มจากที่ซุ้มทางเข้าโครงการ ตัวซุ้มมีดีไซน์ตามสไตล์ Santorini ใช้โทนสีขาว – ฟ้าดูน่ารักสดใส
ทางเข้า – ออกของโครงการจะต้องผ่านรั้วไม้กระดก, ป้อมยาม และกล้อง CCTV
ข้างๆจะทำเป็นทางเท้ายกระดับขึ้นมาจากพื้นถนน เป็นซุ้มให้เดินเข้าได้อย่างปลอดภัย
มุมมองไปที่ป้อมยาม มีดีไซน์เป็นซุ้มโค้งตามคอนเซ็ปต์
กล้อง CCTV ติดอยู่ข้างป้อมยาม
มุมมองย้อนกลับไปที่ซุ้มทางเข้าโครงการ
::: บริเวณภายในโครงการ :::
เมื่อเข้ามาภายในโครงการแล้วจะเจอกับถนนเมนกว้าง 16 เมตร
ทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวามือจะเป็นพื้นที่ขายในอนาคตยาวเข้าไปถึงบริเวณวงเวียน
ตรงไปข้างหน้าประมาณ 300 เมตรก็จะเจอวงเวียนอยู่ข้างหน้าค่ะ
ตรงผ่านวงเวียนเข้าไปจะเชื่อมด้วยถนนกว้าง 12 เมตร
ฝั่งซ้ายมือหลังแรกจะเป็นสำนักงานขาย
ส่วน 3 หลังถัดไปจะเป็นบ้านตัวอย่าง ถัดจากนั้นไปก็จะเป็นบ้านที่มีลูกบ้านเข้าอยู่แล้วทั้งหมด
หลังแรกจะเป็นแบบบ้าน Lonic ขนาด 153 ตรม.
แบบบ้าน Attic ขนาด 169 ตรม.
และแบบบ้าน Coptic ขนาด 179 ตรม.
ฝั่งซ้ายมือก็จะเป็นบ้านที่มีลูกบ้านเข้าอยู่แล้วเช่นกันค่ะ ตัวบ้านจะใช้เป็นโทนสี ฟ้า – เขียว – ทอง สลับกันไป
ตรงต่อไปเรื่อยๆจากหน้าสำนักงานขายเป็นระยะ 400 เมตรก็จะถึงซอยบ้านซอยที่ 1 – 6
มุมมองไปทางซ้ายมือเป็นซอยบ้านซอยที่ 1
ที่หน้าปากซอยจะมีป้ายบอกเลขที่ซอยอยู่ทุกซอย
เราจะเห็นคลับเฮ้าส์ตั้งอยู่ระหว่างซอยที่ 1 และซอยที่ 3 ซึ่งเราจะเข้าไปดูรายละเอียดกันในหัวข้อถัดไปค่ะ
มุมมองไปทางขวามือเป็นซอยบ้านซอยที่ 2
ถัดไปจะเป็นซอยบ้านซอยที่ 3 – 4
มุมมองไปทางซ้ายเป็นซอยที่ 3
มุมมองไปทางขวาเป็นซอยที่ 4
เข้าไปในซอยที่ 4 ลึกสุดซอยจะเป็นสวนพักผ่อนส่วนกลางของโครงการ ซึ่งเราจะเข้าไปดูรายละเอียดกันในหัวข้อถัดไปนะคะ
ตรงเข้าไปจนสุดถนนหลักก็จะเป็นซอยที่ 5 – 6
:::: พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ::::
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ประกอบด้วย
จากเมื่อสักครู่เราได้เดินชมพื้นที่ภายในโครงการกันแล้ว เดี๋ยวเราจะมาดู คลับเฮ้าส์ และสวนพักผ่อนซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางของโครงการกันต่อเลยค่ะ
::: คลับเฮ้าส์ :::
ตัวคลับเฮ้าส์จะเป็นอาคารชั้นเดียวแต่ทำฝ้าเพดานสูงเปิดโล่งเท่าอาคารสูง 2 ชั้น หน้าตาอาคารใช้โทนสีฟ้า – ขาว สไตล์ Santorini ดูเรียบง่ายสบายๆ ไม่เป็นทางการ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายเหมือนมาพักผ่อนแบบชิลล์ๆ
บริเวณหน้าคลับเฮ้าส์จัดเป็นสวนหย่อมน่ารักๆ
ทางเข้าตัวคลับเฮ้าส์จะทำเป็นทางเดินปูหญ้าสลับกับกระเบื้อง
เมื่อเข้าไปภายในอาคารจะเป็นโถงทางเดินชั้นแรกก่อน ขั้นระหว่างตัวคลับเฮ้าส์และสระว่ายน้ำ
สระว่ายน้ำจะอยู่ทางซ้ายมือขนาดประมาณ 10 x 20 เมตรค่ะ สามารถว่ายน้ำแบบออกกำลังกายได้สบายๆ
ทางเดินข้างสระน้ำจะทำเป็นพื้นไม้เทียมตีเว้นร่อง มีเก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อน
ที่ริมสระฝั่งหนึ่งจะทำเป็นร่มแล้ววาง Day bed ไว้ในสระ ตรงนี้จะเป็นช่วงสระตื้นๆสามารถให้เด็กมาว่ายเล่นได้
บันไดเดินลงสระว่ายน้ำจะเป็นบันไดสแตนเลสพร้อมราวจับแบบทั่วไป
มุมมองย้อนกลับไปที่บริเวณ Day bed
กลับเข้ามาภายในโถงทางเดิน ส่วนปลายสุดจะเป็นโซน Shower ชำระตัวก่อนลงสระ
มีฝักบัวให้อยู่ 2 หัว โดยจะทำผนังทึบกั้นขึ้นมาขึ้นระหว่างสระเพื่อความเป็นส่วนตัว
มุมมองไปทางขวามือจะเป็นห้องน้ำหญิงและชาย
ภายในห้องน้ำหญิง ฝั่งซ้ายจะเป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ ส่วนฝั่งขวาจะเป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำ
ห้องน้ำและห้องอาบน้ำจะถูกแบ่งเป็นห้องน้ำ 3 ห้องและห้องอาบน้ำอีก 1 ห้อง
ภายในห้องน้ำ
ภายในห้องอาบน้ำ
ส่วนห้องน้ำชายก็จะไม่แตกต่างอะไรจากห้องน้ำหญิงยกเว้นโถสุขภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นมาท้ายห้อง
กลับมาที่บริเวณโถงทางเดินค่ะ เราจะเข้าไปดูภายในตัวคลับเฮ้าส์กันต่อ
ภายในคลับเฮ้าส์จะเป็นห้องเพดานสูงโปร่ง ที่ฝั่งขวาจะมีมุมนั่งเล่น ถัดเข้าไปจะเป็นเคาน์เตอร์ติดต่อดูแลลูกบ้านทำหน้าที่เป็นห้องนิติบุคคล
มุมนั่งเล่นสบายๆในวันหยุด
มุมมองไปฝั่งซ้ายมือจะเป็นโซนห้องฟิตเนส ภายในห้องจะมีเครื่องเล่นอยู่ประมาณ 6 ชิ้น
ทั้งลู่วิ่งไฟฟ้า, เครื่องเดินวงรี และจักรยานไฟฟ้า
เครื่องสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้อง และชุดยกน้ำหนัก
และเครื่องสร้างกล้ามเนื้อแขนและขา
::: สวนพักผ่อน :::
จากซอย 4 เข้ามาลึกจนสุดซอยก็จะเจอสวนพักผ่อนอยู่ทางซ้ายมือค่ะ เดี๋ยวเราจะเดินเข้าไปดูบรรยากาศภายในสวนพร้อมๆกันเลยนะคะ
มุมมองไปทางซ้ายของสวน ภายในสวนจะปูพื้นหญ้าทั้งหมด ปลูกทั้งไม้ยืนต้นและไม้ประดับอยู่หลายชนิด และทำพื้นทางเดินเป็น Jogging track ล้อมรอบสวน
มุมมองไปที่ฝั่งขวาจะมีซุ้มพักผ่อนกลางสวนและสนามเด็กเล่น
บรรยากาศภายในสวนทำได้สวยงามทีเดียวเลย
ส่วนซุ้มพักผ่อนตรงกลางช่วยสร้างบรรยากาศให้กับตัวสวนได้เยอะ แต่ตรงนี้จะไม่มีหลังคานะคะ จะมานั่งหลบแดดหลบฝนก็คงไม่ได้
ตรงต่อไปข้างหน้า อีกฟากหนึ่งของสวนจะเป็นสนามเด็กเล่นค่ะ
บริเวณสนามเด็กเล่นจะปูพื้นด้วยกระเบื้องยาง เวลาหกล้มก็จะไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่เพราะพื้นจะช่วยซับแรงกระแทกเอาไว้ ภายในมีเครื่องเล่นอยู่ 4 ประเภทด้วยกัน
2 ชิ้นแรกเป็นม้านั่งติดสปริง แต่สามารถเล่นได้เฉพาะเด็กเล็กเท่านั้นนะ
ชิงช้า 2 ที่นั่ง
ปราสาทสไลเดอร์ และไม้กระดกอีก 2 ตัว
มุมมองย้อนกลับไปที่ซุ้มพักผ่อน
:::: แบบบ้านของโครงการ และ บ้านตัวอย่าง ::::
::: แบบบ้านของโครงการ :::
แบบบ้านของโครงการได้แรงบันดาลใจมาจากสไตล์ Santorini ภายใต้แนวคิด The Unique Sensations สัมผัสความผ่อนคลายอย่างเต็มอารมณ์ ผสมผสานเข้ากับความทันสมัยและความเรียบง่ายแบบสมัยใหม่ เพื่อความสะดวกสบายของทุกคนในครอบครัว ด้วยแบบบ้านทั้งหมด 7 แบบด้วยกัน
แบบบ้านแฝด Doric
แบบบ้าน Lonic
แบบบ้าน Attic
แบบบ้าน Coptic
แบบบ้าน Coptic Plus
แบบบ้าน Doric Plus
แบบบ้าน Sperone
แบบบ้าน Moma
:: แบบบ้าน Doric ขนาด 121 ตรม. ::
แปลนบ้านชั้นที่ 1 ประกอบด้วย
แปลนชั้นที่ 2 ประกอบด้วย
:: แบบบ้าน Lonic ขนาด 135 ตรม. ::
แปลนบ้านชั้นที่ 1 ประกอบด้วย
แปลนชั้นที่ 2 ประกอบด้วย
:: แบบบ้าน Attic ขนาด 169 ตรม. ::
แปลนบ้านชั้นที่ 1 ประกอบด้วย
แปลนชั้นที่ 2 ประกอบด้วย
:: แบบบ้าน Coptic ขนาด 179 ตรม. ::
แปลนบ้านชั้นที่ 1 ประกอบด้วย
แปลนชั้นที่ 2 ประกอบด้วย
:: แบบบ้าน Coptic Plus ขนาด 186 ตรม. ::
แปลนบ้านชั้นที่ 1 ประกอบด้วย
แปลนชั้นที่ 2 ประกอบด้วย
:: แบบบ้าน Doric Plus ขนาด 135 ตรม. ::
แปลนบ้านชั้นที่ 1 ประกอบด้วย
แปลนชั้นที่ 2 ประกอบด้วย
:: แบบบ้าน Sperone ขนาด 155 ตรม. ::
แปลนบ้านชั้นที่ 1 ประกอบด้วย
แปลนชั้นที่ 2 ประกอบด้วย
:: แบบบ้าน Moma ขนาด 167 ตรม. ::
แปลนบ้านชั้นที่ 1 ประกอบด้วย
แปลนชั้นที่ 2 ประกอบด้วย
::: บ้านตัวอย่าง :::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo จะพาท่านผู้อ่านของเราไปชมบ้านตัวอย่าง 2 หลังด้วยกัน ลำดับเป็นแบบบ้าน Coptic ขนาด 179 ตรม.และตามด้วยแบบบ้าน Attic ขนาด 169 ตรม. ไปชมกันเลยค่า 😉
:: แบบ Coptic ขนาด 179 ตรม. ::
เริ่มต้นจากแบบบ้าน Coptic ขนาด 179 ตรม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถกันก่อนค่ะ หน้าตาบ้านถูกออกแบบเป็นสไตล์ Santorini โดยเล่นสีสันที่บานหน้าต่างหลอกและระเบียงห้องนอน Master bedroom ด้วยโทน ทอง – ฟ้า – เขียว ส่วนสีพื้นของบ้านจะเป็นโทนสีขาวอมครีม และฟ้าอ่อนๆ
ในส่วนของลานจอดรถพื้นจะเป็นซีเมนต์ปาดเรียบแต่ไม่ได้ลงเสาเข็มให้ ตรงนี้จะทำเป็นคานแยกจากตัวบ้าน มีข้อดีอยู่ที่หากเกิดดินทรุดขึ้นมา ก็จะไม่เกิดรอยแตกแยกกับตัวบ้าน
ที่ฝ้าเป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมซาลาเปามาให้ 1 ดวง
ที่ฝั่งซ้ายจะมีช่องเก็บของอยู่ สามารถใช้เก็บพวกสายยางหรืออุปกรณ์ทำสวนได้ทำให้บ้านดูเรียบร้อยขึ้น
ส่วนฝั่งขวาจะเป็นประตูทางเข้าบ้านเข้าสู่ส่วนโถง สามารถยกของสดจากรถตรงเข้าไปเก็บที่ห้องครัวได้สะดวกโดยไม่ต้องเดินอ้อมไปเข้าทางหน้าบ้านและยังต้องเดินผ่านห้องนั่งเล่นอีก นอกจากนี้เวลาที่ฝนตกก็สามารถเข้าบ้านจากทางนี้ได้เลยค่ะ บานประตูจะเป็นบาน HDF ลูกฟักกระจก
มือจับประตูเป็นลูกบิดสแตนเลสมาตรฐาน
ช่วงล่างของปลายประตูจะติด Door stopper มาให้กันลมพัดประตูกระแทกผนัง
ส่วนที่พื้นจะทำเป็นสเต็ปยกเข้าบ้านให้ผิวเป็นกรวดล้าง ระหว่างกำแพงบ้านกับพื้นโรงจอดรถจะเก็บงานด้วยหินกรวดโรยตามร่องเอาไว้
มาดูที่เฉลียงหน้าบ้านกันต่อค่ะ
พื้นเฉลียงทางเข้าบ้านจะทำเป็นพื้น Concrete stamp ก่อน 1 สเต็ป แล้วยกระดับขึ้นมา 30 ซม.ปูพื้นเฉลียงด้วยกระเบื้องเซรามิคชนิดกันลื่นขนาด 30 x 30 ซม. เก็บขอบด้วยกรวดล้าง พื้นเฉลียงกว้าง 0.7 เมตร
ทั้ง 2 ฝั่งของเฉลียงทางเข้าบ้านจะติดไฟกิ่งไว้ให้ทั้ง 2 ด้านสไตล์คลาสสิก
ประตูทางเข้าบ้านจะเป็นประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมสีธรรมชาติลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง สามารถเลื่อนเปิดได้ตามภาพ
มือจับและตัวล็อคประตูเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐาน ตรงนี้ถ้าใครที่ต้องการความปลอดภัยมากขึ้นก็สามารถหาระบบล็อคแบบอื่นๆมาติดเพิ่มเติมได้
ส่วนที่พื้นบ้านชั้น 1 จะยกสเต็ปขึ้นมาจากระเบียงอีก 10 ซม.
เมื่อเข้ามาในตัวบ้านแล้วจะเจอห้องนั่งเล่นก่อน ถัดเข้าไปคือห้องรับประทานอาหาร พื้นบ้านจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ผนังจะเป็นผนังติดวอลเปเปอร์เก็บขอบด้วยบัวผนังเรียบร้อยยกเว้นภายในห้องครัวและห้องน้ำ แปลนบ้านจะเป็นแบบ Open plan เชื่อมพื้นที่แต่ละฟังก์ชั่นเข้าด้วยกันทั้งหมดทำให้ภายในบ้านดูโปร่งโล่งดี
ที่ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร ก็ถือว่าสูงโปร่งกว่าหลายๆโครงการนะ ใช้เป็นฝ้าฉาบเรียบ ส่วนดวงโคมที่ใช้จะเป็นดวงโคมซาลาเปาทั้งหมด
มุมมองไปทางชุดโซฟารับแขก
ทางบ้านตัวอย่างได้จัดวาง Arm Chair ขนาด 3 ที่นั่งเอาไว้ให้ แต่จริงๆแล้วจะวางเป็นโซฟารูปตัว L ก็มีที่เหลือพอ ข้างๆยังมีที่สำหรับวางโต๊ะตัวเล็กๆได้ทั้ง 2 ข้างเลย โดยผนังช่วงห้องนั่งเล่นจะยาวถึง 3.6 เมตรทั้ง 2 ฝั่ง
ส่วนตัวแล้วผู้เขียนคิดว่าด้านนี้อาจจะเหมาะกับการเป็นผนังฝั่งทีวีเสียมากกว่า เพราะจะสามารถทำชั้น Built – in ไว้เก็บของและวางของตกแต่ง รวมถึงเก็บความไม่เรียบร้อยไว้ข้างหลังได้
มุมมองมาที่ฝั่งตรงข้าม ทางบ้านตัวอย่างได้จัดวางเป็นชั้นวางทีวี ซึ่งผู้เขียนเห็นว่าด้านนี้น่าจะเหมาะกับการวางโซฟามากกว่า เพราะเป็นด้านที่มีกระจก หากทำเป็นชั้นวางทีวีก็จะไม่สามารถเก็บความไม่เรียบร้อยของสายไฟด้านหลังได้ อีกทั้งแสงก็จะแยงตาเวลาดูทีวีด้วยนะ
จะเห็นว่าทั้งบ้านจะใช้หน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่ทั้งหลัง ซึ่งช่วยทำให้แสงธรรมชาติเข้าสู่ตัวบ้านได้อย่างทั่วถึง อีกทั้งการระบายอากาศก็ดีมากขึ้น บ้านจึงโปร่งโล่งและไม่อับ ที่ประตู – หน้าต่างชั้น 1 ทุกบานจะติดตั้งระบบ Home magnetic sensor เวลาที่มีการเปิด – ปิดประตูหรือหน้าต่างบานไหนก็จะมีเสียงแจ้งเตือนขึ้นมาค่ะ
ตัวล็อคบานหน้าต่าง
ระยะห่างของชั้นวางทีวีและโซฟากว้างประมาณ 2.3 เมตร เป็นระยะที่เหมาะสมสำหรับการดูทีวีจอขนาด 55 -60 นิ้วเลยค่ะ
มุมมองไปยังห้องรับประทานอาหารและมุมนั่งเล่น
ในส่วนของห้องรับประทานอาหารจะมีพื้นที่ที่กว้างขวางมากๆ เมื่อจัดโต๊ะทานอาหารขนาด 6 ที่แล้วจะยังเหลือพื้นที่มุมห้องไว้จัดเป็นมุมนั่งเล่น – อ่านหนังสือได้อีก 1 มุม
พื้นที่มุมห้องจะอยู่ข้างๆประตูบานเลื่อนที่สามารถออกไปสู่สวนข้างบ้านได้ พื้นที่ตรงนี้จะได้รับแสงสว่างค่อนข้างเยอะ เหมาะสำหรับจัดเป็นมุมนั่งทำงานอีกด้วย หากอยากได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นอาจทำเป็นชั้นวางของแบบโปร่งขึ้นมาตั้งไว้สักด้าน จะช่วยทำให้ได้บรรยากาศของการทำงานมากขึ้นและไม่ทำให้บ้านดูทึบตัน
ประตูบานเลื่อนกระจกข้างๆก็จะเป็นบานอลูมิเนียมกระจกเขียวตัดแสง
พื้นข้างนอกจะปูเป็นพื้นหญ้า ไม่ได้ทำส่วนเทอเรสเอาไว้ให้
ประตูส่วนนี้จะไม่มีขั้นบันไดพื้นบ้านจึงจะสูงจากพื้นดินประมาณ 30 ซม.ค่ะ
มุมมองออกไปที่สวนข้างบ้าน
มุมมองย้อนกลับเข้ามาภายในตัวบ้าน จะเป็นห้องรับประทานอาหาร ส่วนภายในโถงบันไดจะเป็นห้องน้ำ 3 ฝั่งซ้าย และห้องครัวฝั่งขวา
พื้นที่สามารถวางโต๊ะทานอาหารได้ถึง 6 ที่นั่ง ด้านข้างติดผนังมีพื้นที่เหลือสามารถวาง Pantry หรือชั้นวางของได้อีกค่ะ
มุมมองย้อนกลับไปที่ห้องนั่งเล่น
เข้าไปดูในส่วนของโถงบันไดกันต่อ
ฝั่งขวามือจะเป็นห้องครัว ประตูเป็นบาน HDF มือจับลูกบิดสแตนเลส
พื้นห้องครัวจะไม่ได้ลดระดับลงจากพื้นชั้น 1 และเปลี่ยนเป็นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม.
ภายในห้องจะสว่างดีเพราะมีหน้าต่างกระจกเหนือเคาน์เตอร์ครัวฝั่งอ่างล้างจาน ห้องนี้จะเชื่อมกับลานซักล้างหลังบ้าน ผนังห้องครัวจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสี ส่วนฝั่งที่วางเคาน์เตอร์ครัวจะกรุกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม.จนถึงฝ้าเพดาน
เคาน์เตอร์ครัวจะสามารถวางเป็นรูปตัว L ได้ เมื่อวางเตาและอ่างล้างจานแล้วก็ยังพอมีพื้นที่เหลือให้เตรียมอาหารอยู่บ้าง เมื่อวางเคาน์เตอร์แล้วจะเหลือพื้นที่ยืนทำอาหารกว้างประมาณ 1.6 เมตร ถือว่ากว้างขวางแล้วค่ะ สามารถเข้ามาช่วยกันเตรียมอาหารกันหลายๆคนได้
บริเวณหน้าต่างจะวางอ่างล้างจาน นับว่าเป็นตำแหน่งที่ดี เพราะจะช่วยระบายอากาศและแสงแดดจะช่วยฆ่าเชื้อโรคที่เกิดจากความอับชื้นได้ค่ะ
ดวงโคมและฝ้าเพดานภายในห้อง
จากภายในห้องครัวจะสามารถออกสู่ลานซักล้างได้ ประตูซักล้างจะเป็นบาน HDF
ที่ผนังจะติด Door stopper เอาไว้ให้
ลานซักล้างที่ได้จะทำเป็นพื้นซีเมนต์ปาดเรียบกว้าง 2 เมตรพื้นลาดเอียงเล็กน้อย ลดระดับลงจากพื้นห้องครัวอยู่ 20 ซม. ระหว่างตัวบ้านละพื้นจะโรยหินกรวดแม่น้ำเอาไว้เก็บความเรียบร้อย
บริเวณลานซักล้างจะติดถังเก็บน้ำและปั๊มน้ำมาให้กับตัวบ้านด้วย
ดวงโคมฟลูออเรสเซ้นต์ติดไว้ให้เหนือประตูทางออก
จากนั้นมาดูห้องน้ำกันต่อ บานประตูก็จะใช้บาน HDF เช่นกัน
พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงจากพื้นชั้น 1 อยู่ประมาณ 5 ซม.พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม.
ห้องน้ำนี้จะเป็นห้องน้ำแขก ไม่มีโซน Shower มาให้ด้วย ผนังห้องน้ำกรุด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม. ตกแต่งด้วยโมเสก
อ่างล้างมือทรงสี่เหลี่ยมแบบแขวนผนัง มีขอบมนขนาดกระทัดรัดของ Victor
ส่วนท่อดักกลิ่นจะครอบด้วยอุปกรณ์อ่างเซรามิกให้เรียบร้อย
ส่วนก๊อกน้ำจะใช้ของ Englefield
ถัดจากอ่างล้างมือจะเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์ใช้ของ American standard แบบแยกชิ้นระบบ Single flush พร้อมสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษชำระ พื้นที่นั่งบริเวณโถกว้างขวางได้ระยะมาตรฐานค่ะ
ราวแขวนผ้าเช็ดตัวข้างโถสุขภัณฑ์
เหนือบริเวณโถสุขภัณฑ์จะมีหน้าต่างบานกระทุ้งกระจกฝ้ามาให้เป็นทั้งช่องแสงและช่องระบายอากาศ
ฝ้าเพดานฉาบเรียบกันชื้น และดวงโคมดาวน์ไลท์
ออกมาจากห้องน้ำแล้วมาดูในส่วนของโถงบันไดกันต่อค่ะ
พื้นลูกนอนบันไดจะเป็นไม้สำเร็จรูป ส่วนลูกตั้งจะเป็นผนังฉาบเรียบ
ราวจับบันไดจะเป็นไม้สำเร็จรูปเช่นกัน ติดตั้งบนโครงเหล็กฝังผนัง
มุมมองจากโถงบันไดขึ้นไปที่ชั้น 2
มุมมองย้อนกลับลงไปที่ชานพักบันได
พื้นชั้น 2 จะปูด้วยพื้นไม้ลามิเนตทั้งหมด ปูยาวเข้าไปในห้องนอนทุกห้องยกเว้นห้องน้ำ
ที่โถงบันไดชั้น 2 ฝั่งซ้ายจะเป็นประตูห้องนอน 2 และห้องนอน 3, ตรงกลางคือห้องน้ำ 2 และฝั่งขวาจะเป็นห้องนอน Master bedroom ตามลำดับ
มุมมองย้อนกลับไปที่โถงบันได
เดี๋ยวเราจะเข้าไปดูห้องฝั่งขวามือของโถงบันไดกันก่อน ลำดับเป็นห้องนอน Master bedroom และห้องน้ำ 2
ประตูห้องนอนทุกห้องก็จะเป็นบาน HDF เช่นกัน
มุมมองเข้าไปภายในห้องนอนจะมีโถงหน้าห้องก่อน
ภายในห้องนอนจะถูกแบ่งออกเป็น 2 โซน โซนขวามือคือโซนที่นอน
ส่วนโซนซ้ายมือจะเป็นโซน Walk – in closet ซึ่งจะเชื่อมกับห้องน้ำ 1
ฝ้าเพดานของห้องที่ได้จริงๆจะเป็นฝ้าฉาบเรียบและดวงโคมซาลาเปา
มาดูในส่วนของโซนที่นอนกันก่อน
พื้นที่จะสามารถวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้
พื้นที่ฝั่งซ้ายยังเหลือ 1.5 เมตร ส่วนฝั่งขวาจะเหลือ 0.8 เมตร
ผนังอีกฝั่งจะสามารถทำชั้น Built – in เพื่อวางทีวีและจัดเก็บของได้ หรือจะทำเป็นชั้นวางทีวีเตี้ยๆแบบบ้านตัวอย่างก็ทำให้ห้องดูโปร่งดี ระยะที่ปลายเตียงจะเหลืออยู่ 0.6 เมตร สามารถเดินผ่านได้สบายๆ
มุมมองภายในห้องอีกมุมหนึ่ง
จากนั้นเราจะเข้าไปดูโซน Walk – in closet กันต่อ
ภายในโซน Walk – in closet จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำ 1 และสามารถจัดวางโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า Built – in รูปตัว L ได้
ภายในจะเหลือเป็นพื้นที่แต่งตัวกว้างประมาณ 1.10 เมตร ไม่แคบแล้วค่ะ
ที่ผนังฝั่งตรงข้ามกับห้องน้ำจะติดประตูบานเลื่อนออกไปสู่พื้นที่ระเบียง แต่ตรงนี้เรียกว่า Juliet จะเหมาะสมมากกว่า เพราะพื้นที่ระเบียงไม่สามารถเดินออกไปได้ จะเป็นราวกั้นตกกั้นขึ้นมาเลย
พื้นระเบียงลดระดับลงจากพื้นห้องเล็กน้อย ที่พื้นปูด้วยไม้เทียม
จะเห็นได้ว่าที่พื้นทำยื่นออกไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น ตรงนี้จะช่วยให้หน้าตาบ้านดูมีมิติมากขึ้น
มุมมองจากห้องนอนออกไปภายนอก จะเห็นว่าบ้านแต่ละหลังจะเล่นสีสันสลับกันไปเรื่อยๆ
มาดูในส่วนของห้องน้ำ 1 กันต่อ ประตูห้องน้ำก็จะใช้วัสดุเดียวกันกับห้องน้ำชั้นล่าง
พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงไปจากพื้นห้องนอนประมาณ 5 ซม.
ภายในห้องน้ำ 1 ก็จะใช้วัสดุและสุขภัณฑ์ชนิดเดียวกับห้องน้ำชั้นล่าง แต่ที่เพิ่มเติมขึ้นมาก็คือโซน Shower โดยการวางสุขภัณฑ์จะไล่จากส่วนเปียกเข้าไปยังส่วนแห้ง
อ่างล้างมือจาก Victor และก๊อกน้ำจาก Englefield
โถสุขภัณฑ์จาก American standard พื้นที่นั่งกวางขวางดี
สายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษชำระ
ถัดเข้าไปจะเป็นโซน Shower ตรงนี้ทางโครงการได้ทำธรณีขึ้นมาแบ่งส่วนของโซนเปียกเอาไว้แล้ว แนะนำให้ติด Shower box เพิ่มเติมนะคะ
พื้นที่ยืนอาบน้ำกว้างขวางดี หมุนตัวบิดตัวได้สบายๆ
ภายในโซน Shower ติดตั้งชุดฝักบัวพร้อมราวปรับระดับและชั้นวางสบู่มาให้
หัวฝักบัวขนาดพอดีมือจาก Englefield
หน้าต่างบานเลื่อนกระจกฝ้าเป็นช่องแสง
ฝ้าเพดานฉาบเรียบกันความชื้นและดวงโคมดาวน์ไลท์
มุมมองย้อนกลับไปโซนที่นอน
มาดูห้องน้ำ 2 กันต่อ ประตูห้องน้ำก็จะใช้แบบเดียวกันกับห้องน้ำชั้นล่าง
พื้นห้องน้ำลดระดับลงไปประมาณ 5 ซม.
มุมมองเข้าไปภายในห้องน้ำ 2 จะใช้วัสดุและสุขภัณฑ์แบบเดียวกันกับห้องน้ำ 1 เลย แต่ตัวกระเบื้องตกแต่งผนังอาจจะมีต่างกันบ้างนิดหน่อย การจัดวางสุขภัณฑ์ของห้องน้ำก็จะต่างกันจากแปลนของห้องน้ำเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส จึงจัดวางอ่างล้างมือไว้ทางซ้าย โถสุขภัณฑ์ไว้ทางขวา ส่วนโซน Shower จะอยู่ตรงกลางห้องน้ำ
ส่วนอ่างล้างมือ
ส่วนโถสุขภัณฑ์
โซน Shower จะอยู่มุมในของห้อง
พื้นที่ยืนอาบน้ำกระทัดรัด แนะนำให้ติด Shower box เพิ่มเติม แนะนำให้เป็นแบบเข้ามุมจะได้ประหยัดพื้นที่
ภายในโซน Shower ก็จะมีชุดฝักบัวอาบน้ำพร้อมราวปรับระดับมาให้เหมือนห้องที่แล้ว
จากนั้นมาดูห้องฝั่งซ้ายของโถงบันไดกันต่อ ลำดับเป็นห้องนอน 2 ฝั่งซ้าย และห้องนอน 3 ฝั่งขวา
ภายในห้องนอน 2 มีพื้นที่ๆกว้างขวางทีเดียว ขนาดใหญ่ไม่แพ้ห้องนอน Master bedroom ของโครงการอื่นๆเลย ภายในห้องได้หน้าต่างมาทั้ง 2 ด้านทำให้ห้องได้รับแสงธรรมชาติอย่างเพียงพอ
ภายในห้องสามารถวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้ ที่ฝั่งซ้ายเหลือพื้นที่อยู่ 0.8 เมตร จะเป็นพื้นที่สำหรับยืนแต่งตัวด้วย ส่วนฝั่งขวาเหลือ 0.4 เมตร
ฝั่งซ้ายของเตียงจะเป็นผนังที่เซ็ทเข้าไปลึกประมาณ 1 เมตร สามารถทำเป็นตู้เสื้อผ้าได้เรียบไปกับผนังพอดี
มุมมองไปที่ฝั่งปลายเตียงยังเหลือพื้นที่ให้จัดเป็นโต๊ะนั่งทำงานอ่านหนังสือ หรือจะทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งร่วมด้วยก็ได้
มาถึงห้องนอน 3 ห้องสุดท้ายของบ้านกันแล้วค่ะ ภายในห้องก็จะได้หน้าต่างมาทั้ง 2 ด้านทำให้ภายในห้องดูสว่างดี
ทางบ้านตัวอย่างได้จัดวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตมาให้ โดยวางบนชั้น Built – in ที่ยกระดับขึ้นมา พื้นที่ปลายเตียงเหลืออยู่อีก 0.55 เมตร ตรงนี้สามารถทำเป็นลิ้นชักเก็บของใต้เตียงเพิ่มเติมอีกก็ได้นะคะ
มุมมองไปฝั่งปลายเตียงถูกจัดวางเป็นชั้นวางของ ดูเก๋ไปอีกแบบ
พื้นที่อีกฝั่งจะสามารถวาตู้เสื้อผ้าขนาดกลางได้
โดยจะเหลือพื้นที่ยืนแต่งตัวกว้างประมาณ 0.8 เมตร
มุมมองย้อนกลับไปที่ประตูทางเข้าห้อง
:: แบบบ้าน Attic ขนาด 169 ตรม. ::
มาดูแบบบ้าน Attic กันอีกหลัง ขนาด 169 ตรม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถในร่ม 2 คัน หน้าตาของแบบบ้าน Attic จะไม่ต่างจากแบบบ้าน Coptic เลย
ในส่วนของโรงจอดรถก็จะเหมือนกับแบบบ้าน Coptic ทุกประการ
ส่วนของเฉลียงทางเข้าบ้านก็เช่นกัน แต่จะมีพื้นเฉลียงที่กว้างกว่า กว้างถึง 1.1 เมตร
ประตูทางเข้าบ้านจะเป็นประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมสีธรรมชาติลูกฟักกระจกเขียวตัดแสงเหมือนกัน
เมื่อเข้ามาในตัวบ้าน จะเห็นว่ามีการวางแปลนแบบเดียวกับแบบบ้าน Coptic เลย ส่วนแรกจะเป็นห้องนั่งเล่น ถัดเข้าไปคือห้องรับประทานอาหาร พื้นบ้านจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ผนังจะเป็นผนังติดวอลเปเปอร์เก็บขอบด้วยบัวผนังเรียบร้อยยกเว้นภายในห้องครัว และห้องน้ำ
มุมมองจากห้องนั่งเล่นไปที่ห้องรับประทานอาหารและโถงบันได
ขนาดห้องนั่งเล่นก็จะมีความยาวของผนังเท่าๆกัน สามารถจัดวางโซฟาได้หลายแบบตามความชอบของลูกบ้าน
ฝั่งตรงข้ามถูกจัดเป็นชั้นวางทีวี ซึ่งตรงนี้ก็เหมือนเดิมค่ะ แนะนำให้จัดสลับฝั่งกัน
ระยะดูทีวีก็เท่าเดิมค่ะ ขนาดจอประมาณ 55 – 60 นิ้ว
มุมมองไปทางห้องรับประทานอาหาร จะเห็นได้ว่าพื้นที่นั่งเล่นจากบ้าน Coptic จะถูกตัดออกไป และไม่มีประตูบานเลื่อนออกสู่สนามข้างบ้าน
ซึ่งตรงนี้จะได้เพลนผนังยาวต่อเนื่องมาแทนค่ะ ก็ยังเหลือพื้นที่สำหรับจัดวางโต๊ะทำงาน และชั้นวางหนังสือได้อยู่ ถ้าย้ายโซฟามาวางฝั่งนี้แล้วก็จัดวางแบบเชื่อมต่อกันได้เลย
มาดูในส่วนของห้องรับประทานอาหารกัน จะเห็นว่าเมื่อจัดวางโต๊ะทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ข้างๆอีกเยอะ สามารถทำแพนทรี่ หรือชั้นวางของได้รอบด้าน หรือจะหมุนทิศการวางโต๊ะก็ทำได้เช่นกัน
มุมมองไปที่โถงบันได ฝั่งซ้ายจะเป็นประตูทางเข้าจากโรงจอดรถ
ภายในโถงบันไดจะมีห้องครัวอยู่ทางขวามือและห้องน้ำอยู่ทางซ้ายมือ วัสดุประตูใช้เป็นแบบเดียวกับแบบบ้าน Coptic
ภายในห้องครัวจะเหมือนกับแบบบ้าน Coptic ทุกประการ ทั้งวัสดุ, ขนาดห้อง และการจัดวางเคาน์เตอร์ จากห้องครัวจะเชื่อมต่อกับลานซักล้างหลังบ้าน
ลานซักล้างก็ทำเหมือนกับแบบบ้าน Coptic เช่นกัน
มุมมองเข้าไปภายในห้องน้ำ 3 ซึ่งจะเหมือนกับแบบบ้าน Coptic ทุกประการ
ขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กันต่อ วัสดุของตัวบันไดและราวจับก็จะใช้แบบเดียวกันทั้งหมดค่ะ
มุมมองย้อนกลับไปที่ชานพักบันได
ขึ้นมาถึงโถงบันไดชั้น 2 การจัดวางแปลนจะไม่ต่างจากแบบบ้าน Coptic เลย ฝั่งซ้ายจะเป็นประตูห้องนอน 2 และห้องนอน 3, ตรงกลางคือห้องน้ำ 2 และฝั่งขวาจะเป็นห้องนอน Master bedroom ตามลำดับ ส่วนพื้น, ผนัง, ฝ้าเพดาน และประตูห้องทุกห้องก็จะใช้วัสดุเดียวกันกับแบบบ้าน Coptic ทั้งหมด
มาดูในส่วนของห้องฝั่งขวามือของโถงบันไดกันก่อน ลำดับเป็นห้องนอน Master bedroom และห้องน้ำ 2
มุมมองเข้าไปภายในห้องนอนจะถูกแบ่งออกเป็น 2 โซน โซนขวามือคือโซนที่นอนส่วนโซนซ้ายมือจะเป็นโซน Walk – in closet พื้นที่ตรงกลางระหว่างทั้ง 2 โซนกว้างถึง 2.1 เมตร สามารถทำเป็นมุมเขียนหนังสือได้เลย
มาดูในโซนที่นอนกันก่อน
พื้นที่จะสามารถวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้
พื้นที่ฝั่งขวายังเหลืออีก 1.4 เมตร สามารถจัดเป็นมุมนั่งเล่นได้อีกมุม
อีกฝั่งหนึ่งจะทำเป็นชั้นหนังสือเพิ่มเติมก็มีที่เหลือพอ
ผนังอีกฝั่งจะสามารถทำชั้น Built – in เพื่อวางทีวีและจัดเก็บของได้ หรือจะทำเป็นชั้นวางทีวีเตี้ยๆแบบบ้านตัวอย่างก็ทำให้ห้องดูโปร่งดี
ระยะที่ปลายเตียงจะเหลืออยู่ 0.6 เมตร สามารถเดินผ่านได้สบายๆ
มุมมองภายในห้องอีกมุมหนึ่ง
ไปดูโซน Walk – in closet กันต่อ
มุมมองเข้าไปภายในโซน Walk – in closet จะมีขนาดที่สั้นลงจากแบบบ้าน Coptic นิดหน่อย คือตรงพื้นที่วางโต๊ะเครื่องแป้งจะหายไป
ภายในยังสามารถจัดวางตู้เสื้อผ้า Built – in รูปตัว L ได้
ที่ผนังฝั่งตรงข้ามกับห้องน้ำจะมีประตูบานเลื่อนออกไปสู่พื้นที่ระเบียงเหมือนกัน
มาดูห้องน้ำ 1 กันต่อ
ภายในห้องน้ำ 1 จะเหมือนกับแบบบ้าน Coptic ทุกประการ จะขอข้ามไปเลยนะคะ
มุมมองย้อนกลับไปโซนที่นอน
มาดูห้องน้ำ 2 กันต่อ ภายในห้องน้ำ 2 ก็จะเหมือนกับแบบบ้าน Coptic ทุกประการอีกเช่นกัน
จากนั้นมาดูห้องฝั่งซ้ายของโถงบันไดกันต่อ ลำดับเป็นห้องนอน 2 ฝั่งซ้าย และห้องนอน 3 ฝั่งขวา
มุมมองเข้าไปภายในห้องนอน 2
ภายในห้องนอน 2 ก็จะเหมือนกับแบบบ้าน Coptic เลย คือสามารถวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้ และยังเหลือพื้นที่ฝั่งซ้ายและะฝั่งขวาพอๆกัน
ฝั่งซ้ายของเตียงจะเป็นผนังที่เซ็ทเข้าไปลึกประมาณ 1 เมตร สามารถทำเป็นตู้เสื้อผ้าได้
มุมมองไปที่ฝั่งปลายเตียงยังเหลือพื้นที่ให้จัดเป็นโต๊ะนั่งทำงานอ่านหนังสือ หรือจะทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งร่วมด้วยก็ได้
มุมมองย้อนกลับไปที่ประตูทางเข้าห้อง
มาถึงห้องนอน 3 ห้องสุดท้ายของบ้านกันแล้วค่ะ ทิศการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ของห้องนี้จะต่างจากแบบบ้าน Coptic โดยสลับหัวเตียงมาวางไว้ที่ผนังฝั่งทางเข้าห้อง ส่วนตู้เสื้อผ้าจะถูกวางชิดริมผนังอีกด้าน
ภายในห้องตัวอย่างได้จัดวางเตียงนอนขนาด 3 ฟุตครึ่งเอาไว้
ส่วนฝั่งปลายเตียงจะจัดเป็นโต๊ะเขียนหนังสือ ฝั่งขวาเป็นตู้เสื้อผ้า
ด้านนี้เหมาะมากสำหรับการจัดเป็นโต๊ะเขียนหนังสือเพราะว่าอยู่ติดกับหน้าต่างพอดี ทำให้ได้แสงสว่างจากธรรมชาติอย่างเพียงพอ
ผนังฝั่งขวาจัดทำเป็นชั้น Built – in เล็กๆสามารถวางหนังสือและเก็บอุปกรณ์เครื่องเขียนได้
ตู้เสื้อผ้าที่วางได้มีขนาดใหญ่พอสมควรเลยค่ะ จัดเก็บเสื้อผ้าได้อย่างเพียงพอแน่นอน ที่ฝั่งขวาของตู้จะสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งตัวเล็กๆได้อีกตัวนึง
ระยะระหว่างเตียงนอนและตู้เสื้อผ้าจะเหลืออยู่ประมาณ 0.9 เมตร สามารถเดินผ่านหรือยืนแต่งตัวได้สบายๆ
นอกจากนี้บ้านทั้ง 2 หลังก็จะใช้แผงควบคุมไฟฟ้าพร้อมเซอร์กิตเบรคเกอร์ของ Schneider Electric
สวิตช์และปลั๊กไฟของ Schneider Electric เช่นกัน
ส่วนแผงควบคุมสัญญาณกันขโมยของบ้านจะติดอยู่ที่ข้างๆประตูทางเข้าบ้านจากโรงจอดรถค่ะ
:::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (กุมภาพันธ์ 2560) ::::
วัสดุโดยรวม
ห้องน้ำ และสุขาภิบาล
งานไฟฟ้า
***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ
:::: ราคา (กุมภาพันธ์ 2560) ::::
แบบบ้าน Doric (บ้านแฝด)
พื้นที่ใช้สอย 121 ตรม. 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ และ 1 ที่จอดรถ
– แปลงมาตรฐานขนาด 42.00 ตร.วา
– ราคา 3,890,000 บาท
แบบบ้าน Doric Plus
พื้นที่ใช้สอย 135 ตรม. 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ
– แปลงมาตรฐานขนาด 50.00 ตร.วา
– ราคา 4,500,000 บาท
แบบบ้าน Sperone
พื้นที่ใช้สอย 155 ตรม. 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 ห้องพักผ่อน และ 2 ที่จอดรถ
– แปลงมาตรฐานขนาด 50.00 ตร.วา
– ราคา 5,050,000 บาท
แบบบ้าน Moma
พื้นที่ใช้สอย 167 ตรม. 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 ห้องพักผ่อน และ 2 ที่จอดรถ
– แปลงมาตรฐานขนาด 52.00 ตร.วา
– ราคา 5,950,000 บาท
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ คาซ่า วิลล์ บางนา – เทพารักษ์ ตั้งอยู่บนถนนเทพารักษ์ฝั่งวงแหวนฝั่งใต้ใกล้ด่านเทพารักษ์เลยไปทางบางบ่อ ในโซนนี้มีความคึกคักเพราะอยู่ในย่านอุตสาหกรรม มีโรงงานเอกชน รวมถึงโกดังเก็บของอยู่บริเวณใกล้เคียงกับตัวโครงการ นอกจากนั้นสองข้างทางก็จะเป็นหมู่บ้านจัดสรร, ตึกแถว, อาคารพาณิชย์, ตลาดสด, โรงพยาบาล และร้านอาหาร
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว จากถนนเทพารักษ์ถือว่าเดินทางได้สะดวกเพราะเป็นถนนใหญ่ขนาด 6 – 8 เลน ขนานกับแกนตะวันออก – ตะวันตก ที่เชื่อมไปยังถนนตำหรุ – บางพลี และถนนกิ่งแก้ว ซึ่งเป็นถนนเส้นอุตสาหกรรมเช่นกัน ถนนเทพารักษ์จะวิ่งไปตัดกับถนนสายสำคัญอีกหลายสายอย่างถนนกาญจนาภิเษกช่วงฝั่งใต้ เป็นเส้นที่มีความคล่องตัวสูง สามารถเดินทางไปยังพระราม 2 – บางปะอินได้สะดวก, ถนนศรีนครินทร์ที่วิ่งไปตัดกับเส้นบางนา – ตราดและอุดมสุข สามารถขึ้นไปถึงเส้นอ่อนนุช รามคำแหง และลาดพร้าวได้ ถัดจากศรีนครินทร์ไปก็จะไปเชื่อมกับถนนสุขุมวิทวิ่งขึ้นไปยังแถบปทุมวันจนถึงอโศกได้เลย ส่วนอีกด้านหนึ่งทางทิศตะวันออก ถนนเทพารักษ์จะวิ่งไปถึงย่านบางบ่อไปเชื่อมกับถนนบางบ่อ – คลองด่านเลยค่ะ เรียกได้ว่าที่ตั้งโครงการนั้นสามารถเดินทางได้หลายเส้นทาง แต่เนื่องจากเป็นย่านอุตสาหกรรมก็จะมีรถใหญ่วิ่งผ่านค่อนข้างเยอะ
นอกจากนี้ตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับจุดขึ้นทางด่วนทั้ง 2 เส้น เส้นที่ 1 คือจุดขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี ส่วนอีกเส้นหนึ่งก็จะเป็นจุดขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งตัวโครงการจะอยู่ใกล้ทั้งด่านเทพารักษ์ และด่านบางแก้ว
การเดินทางโดยรถสาธารณะ การเดินทางด้วยรถสาธารณะก็สามารถทำได้ไม่ยาก บริเวณหน้าโครงการจะมีรถ 2 แถวและรถตู้สายต่างๆวิ่งผ่านโดยตลอด มีวิ่งไปถึงสถานีรถไฟฟ้าแบริ่งเลย นอกเหนือจากเส้นทางของรถ 2 แถวและรถตู้ก็คงจะต้องอาศัยวินมอเตอร์ไซค์และรถแท็กซี่ซึ่งมีวิ่งผ่านหน้าโครงการอยู่ตลอด นอกจากนี้ภายในปี 2565 รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มช่วงสถานีบางนา – สุวรรณภูมิก็คาดว่าจะแล้วเสร็จได้เปิดใช้งาน โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็นสถานีบางพลีซึ่งอยู่ห่างจากตัวโครงการออกไปประมาณ 5.2 กม.
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดสไตล์ Santorini ให้อารมณ์เหมือนกับรีสอร์ท สูง 2 ชั้น มีจำนวนทั้งหมด 329 ยูนิตบนพื้นที่ 66 ไร่รูปตัว T บ้านถูกออกแบบมาให้มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางและเป็นพื้นที่ๆมีประสิทธิภาพในการใช้งาน ภายในบ้านมีหน้าต่างบานใหญ่อยู่โดยรอบทำให้ตัวบ้านสว่างด้วยแสงจากธรรมชาติ อากาศภายในบ้านสามารถถ่ายเทได้ดี ทำให้ตัวบ้านเย็นสบายและไม่อับ ส่วนวัสดุและสุขภัณฑ์ที่ใช้ภายในบ้านถือว่าได้มาตรฐานค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ภายในโครงการจะมีคลับเฮ้าส์, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ และสวนพักผ่อนรวมกันเป็นพื้นที่ขนาด 2 ไร่กว่าๆ ถือว่าให้มาค่อนข้างครบถ้วน ขนาดมีความพอเหมาะ แต่เครื่องเล่นในฟิตเนสอาจจะน้อยไปสักหน่อยเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตบ้านภายในโครงการ ส่วนตำแหน่งของส่วนกลางจะอยู่เลยไปทางส่วนท้ายของโครงการ ซึ่งเป็นส่วนที่จำนวนยูนิตบ้านสูงกว่า แต่ก็จะทำให้ลูกบ้านยูนิตหน้าๆเข้าถึงลำบากหน่อย ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยก็ได้มาตรฐาน มีรปภ.ตลอด 24 ชม., กล้องวงจรปิด และติดระบบกันขโมย Home magnetic sensor ที่บ้านทุกหลัง
:::: คะแนน ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 7.5 | อยู่บนถนนเทพารักษ์ในย่านอุตสาหรรม มีความคึกคัก สาธารณูปโภครองรับพื้นที่อยู่อาศัย แต่มีรถบรรทุกวิ่งผ่านเยอะ |
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว | 7.5 | เดินทางได้สะดวก เชื่อมต่อกับถนนใหญ่หลายเส้น อยู่ใกล้จุดขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษกและทางด่วนบูรพาวิถี |
การเดินทางโดยรถสาธารณะ | 7.7 | มีรถสาธารณะวิ่งผ่านหน้าโครงการอยู่หลายสาย และอยู่ในละแวกการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม (ในปี 2565) |
บ้านและวัสดุ | 7.6 | บ้านสไตล์โมเดิร์น Santorini ฟังก์ชั่นขนาดใหญ่ วัสดุได้มาตรฐาน |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 7.4 | สิ่งอำนวยความสะดวกมีทั้งคลับเฮ้าส์, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ และสวนสาธารณะ แต่การใช้งานภายในคลับเฮ้าส์จะต้องเสียค่าบริการเพิ่มเติม |
ความคุ้มค่ากับราคา | 7.5 | โครงการเหมาะสำหรับครอบครัวขนาด 4 – 5 คน เดิมอาศัย หรือทำงานอยู่ใกล้เคียงกับบริเวณโครงการ |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.53 | ดี |
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
CALL CENTER : 1388
สำนักงานขาย : 02 – 312 – 1111, 02 – 312 – 1424 – 25
WEBSITE : http://www.qh.co.th/project/Casa-Ville/CasaVille-BangnaTeparak
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
แสดงความคิดเห็น