EP.671 รีวิว แคสเคด บางนา Cascade Bangna
สวัสดีผู้อ่านชาว Homenayoo ทุกท่านค่ะ วันนี้ทีมงานจะขอพาทุกท่านไปชมรีวิว Cascade บางนา จาก Real Asset เป็นโครงการอาคารพาณิชย์ สูง 4 ชั้น 63 ยูนิต หน้ากว้าง 5.5 เมตร การออกแบบ Facade หน้าอาคารโมเดิร์น มีเอกลักษณ์ ส่วนกลางในโครงการมีสวนสาธารณะและที่จอดรถรองรับมากกว่า 300 คัน บนทำเลบางนา-ตราด กม. 5 ออกแบบใน Concept “สร้างธุรกิจอย่างแตกต่าง ฉายแววความสำเร็จที่โดดเด่น เจิดจรัสทุกมุมมอง” ในราคาเริ่มต้น 12.29 ล้านบาท
ชื่อโครงการ | คาสเคด บางนา Cascade Bangna |
เจ้าของโครงการ | เรียลแอสเสท Real Asset |
ลักษณะโครงการ | อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร |
พื้นที่โครงการ | 10 ไร่ 1 งาน 35.5 ตร.วา. |
จำนวนบ้าน | 63 ยูนิต |
พื้นที่ใช้สอย | ประมาณ 250 ตร.ม. |
เนื้อที่บ้าน | เริ่มต้น 20.8-33.1 ตร.วา. |
จำนวนห้อง | พื้นที่เปล่าชั้น 1-4, 4 ห้องน้ำ |
ที่จอดรถทั้งหมด | ด้านหน้าอาคารพาณิชย์ |
โซน | สมุทรปราการ |
ขนส่งสาธารณะ | – ใกล้ทางด่วนบางนา |
รถโดยสารที่ผ่าน | รถเมล์สาย 2ส, 38ร, 45ส, 46ร, 48ร, 98ร, 132ร, 133ร, 180, 207ร, 553, 558 |
ที่ตั้ง | ถนนบางนา-ตราด (กม.5) ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ |
กำหนดการ | – เริ่มก่อสร้าง ม.ค. 2559 |
ปีที่สร้างเสร็จ | ต้นปี 2560 |
ราคา | เริ่มต้น 12.29 ล้านบาท (พ.ย.59) |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | 160 บาท/ตร.วา (จ่ายล่วงหน้า 24 เดือน) |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | Cascade บางนา อาคารพาณิชย์ หน้ากว้าง 5.5 เมตร ติดถนนใหญ่สายหลัก บางนา-ตราด ก่อสร้างด้วยระบบก่ออิฐฉาบปูน ทำให้ยืดหยุ่นสูงในการปรับเปลี่ยนผัง ขยายต่อเติม ที่จอดรถเฉลี่ย4คันต่อยูนิต ออกแบบอาคารให้โปร่งโล่ง เปิดรับแสง และวางช่องลมถ่ายเทอากาศได้ดี ตัดปัญหาอับลม ทึบแสงของอาคารพาณิชย์แบบเก่า |
โครงการโดยรอบ
ที่ตั้งโครงการ
ถนนบางนา-ตราด (กม.5) ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
พิกัด google map : 13.662945, 100.656426
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัว จากภายในโครงการจะต้องเดินออกมาที่ถนนใหญ่ประมาณ 100 เมตร เมื่อออกมาถึงถนนใหญ่ก็จะสามารถเรียกแท็กซี่ที่ผ่านไปมาได้ หรือเดินจากหน้าโครงการไปทางขวามือประมาณ 80 เมตรก็จะมีป้ายรถเมล์โดยจะมีรถเมล์ผ่านไปมาหลายสายค่ะ โดยปัจจุบันจะมีสาย 2ส, 38ร, 45ส, 46ร, 48ร, 98ร, 132ร, 133ร, 180, 207ร, 553, 558
ส่วนรถไฟฟ้าในปัจจุบันจะมีสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือ BTS สถานีอุดมสุข มีระยะทางจากโครงการประมาณ 6.8 กม. พอให้ใช้บริการได้ แต่ยังไงก็ต้องนั่งแท็กซี่เพื่อไปยังตัวสถานีก่อนอยู่ดีค่ะ
นอกจากนั้นในอนาคต ก็จะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อจากลาดพร้าวมาถึงสำโรง โดยรถไฟฟ้าสายสีเหลืองนี้ จะสามารถเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน, รถไฟฟ้าสายสีเทา, รถไฟฟ้าสายสีส้มและ Airport Rail Link โดยวิ่งมาตามเส้นลาดพร้าว, ถนนศรีนครินทร์ และสิ้นสุดที่สถานีสำโรง รวมทั้งสิ้น 23 สถานี และจะมีสถานีแยกศรีเอี่ยมที่อยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุด โดยตัวสถานีจะอยู่บริเวณแยกศรีนครินทร์ทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางมากขึ้นค่ะ (กำหนดการเสร็จปี 2562)
ความอุดมสมบูรณ์ของโครงการถ้าไม่นับรวมกับร้านที่จะเปิดภายในโครงการในอนาคต ความสมบูรณ์ในระยะเดินของโครงการนี้ก็จะมีโครงการข้างเคียงคือโครงการ Plex บางนาและเอ็นเตอร์ไพรส์พาร์ค ซึ่งจะเป็นโครงการอาคารพาณิชย์ที่จะมีร้านต่างๆอยู่ภายในโครงการ
นอกจากนั้นความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้างของโครงการนี้ถือว่ามีความสมบูรณ์ค่อนข้างสูง เนื่องจากบนถนนบางนาจะมีห้างใหญ่ๆเยอะ โดยที่จากฝั่งถนนบางนามุ่งหน้าฉะเชิงเทราใกล้แยกบางนาจะมี Central บางนา และ Big C ถัดมาก็จะมี Chic Republic และ Index Living Mall ถัดมาอีกหน่อยช่วงสะพานกลับรถเข้าโครงการก็จะมี Tesco Lotus Extra และจะมีห้างใหญ่ที่เด่นๆของโซนนี้อีกคือ Mega บางนาและ Ikea อยู่บริเวณแยกบางนาตราดตัดกาญจนาภิเษกฝั่งมุ่งหน้าสุขุมวิท ส่วนใครอยากเดินตลาดนัดใหญ่ๆก็สามารถขับไปตามเส้นกาญจนาภิเษกขึ้นไปทางอ่อนนุชก็จะมี Number One Plaza ที่เป็นตลาดขนาดใหญ่ มีทั้งตลาดสดตลาดนัดและ Hyper Market อยู่ด้านใน ที่มีไว้รองรับนักศึกษาม. รามคำแหงและ ABAC บางนาค่ะ
ส่วนโรงพยาบาลใกล้เคียงก็จะมีโรงพยาบาลปิยะมินทร์และไทยนครินทร์ สวนสาธารณะที่ใกล้โครงการจะมีสวนหลวงร.9 เป็นสวนขนาดใหญ่บนเส้นศรีนครินทร์ค่ะ
การเดินทาง
การเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มต้นกันบนถนนสุขุมวิท บริเวณแยกบางนาเลี้ยวซ้ายเข้าถนนบางนา – ตราด ฝั่งมุ่งหน้าฉะเชิงเทราขับตรงมาตามทางเรื่อยๆ ผ่านแยกศรีนครินทร์ ขึ้นสะพานกลับรถเข้า Mega Bangna กลับรถมาที่ฝั่งถนนบางนา – ตราดมุ่งหน้าถนนสุขุมวิท ขับตรงต่อไปประมาณ 3 กม. จะถึงโครงการ Cascade บางนาค่ะ
สรุปการเดินทาง ถนนสุขุมวิท > แยกบางนา > ถนนบางนา – ตราด > แยกศรีนครินทร์ > สะพานกลับรถ > Cascade บางนา
เริ่มการเดินทางบนถนนสุขุมวิท บริเวณแยกบางนา เราจะเห็นป้ายเลี้ยวซ้ายไปชลบุรี
ถึงแยกเลี้ยวซ้ายเข้าถนนบางนา – ตราด
เมื่อเข้ามาบนเส้นบางนา – ตราดแล้วเราเบี่ยงเข้าเลนขวาเพื่อจะไปวิ่งใต้ทางด่วนนะคะ
ขับตรงไปเรื่อยๆตามทางจนเห็นป้ายสะพานกลับรถ และเข้าเมกะ บางนาให้เตรียมชิดซ้ายได้เลยค่ะ
เบี่ยงซ้ายออกมาเพื่อขึ้นสะพานกลับรถ จุดสังเกตคือ Tesco Lotus Extra ทางซ้ายมือ
ขึ้นสะพานกลับรถมาแล้วเราจะใช้เลนขวาเพื่อกลับรถค่ะ
ชิดเลนขวาขับตรงไปเรื่อยๆ และตรงนี้ถ้าเราออกทางซ้ายมือจะเข้าไปในห้างเมกะบางนาได้เลยค่ะ
ลงมาจากสะพานกลับรถ ตอนนี้เราอยู่บนเส้นบางนา – ตราด ฝั่งมุ่งหน้าสุขุมวิทแล้วค่ะ
ผ่านปั๊มปตท. และปั๊ม Shell ทางซ้ายมือ
ผ่านโครงการเลคไซด์วิลล่าทางซ้ายมือ
ผ่านโครงการเลคไซด์วิลล่าทางซ้ายมือมาไม่นาน จะเริ่มเห็นป้ายบอกทาง Cascade บางนา ทางซ้ายมือค่ะ
ขับตรงมาเรื่อยๆเราจะเริ่มเห็นที่ดินว่างเปล่าทางซ้ายมือ ให้สังเกตป้ายรถเมล์และสะพานลอยข้ามฝั่งลักษณะแบบนี้ค่ะ
เมื่อขับเลยสะพานมานิดเดียวเราจะเห็นทางเข้าโครงการ Cascade บางนา อยู่ก่อนถึงโครงการเอ็นเตอร์ไพรซ์ ปาร์คและ Plex บางนา
ถนนและแยกที่สำคัญรอบโครงการ
สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ
รอบๆโครงการ
พื้นที่โดยรอบของโครงการส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบโดย
ซึ่งทั้ง Enterprize Park, Plex บางนา, Pretium เป็นโครงการของ Real Asset ทั้งหมดค่ะ
ลองมาเดินดูรอบๆกันหน่อยนะคะ เริ่มจากหน้าโครงการติดกับถนนบางนาตราด
ทางขวามือ(ทิศตะวันออก)เป็นที่ดินเปล่าของ Real Asset
เดินต่อมาหน่อยจะมีสะพานข้ามฝั่ง ถ้าใครจะใช้บริการรถสาธารณะก็สามารถเดินไปใช้ฝั่งตรงข้ามได้ สะดวกดี ไม่ต้องไปกลับรถให้เสียเวลาค่ะ
ส่วนทางฝั่งทิศตะวันตกของโครงการติดกับ Enterprize Park
ถัดมาเป็น Pretium และด้านในเป็น Plex บางนาค่ะ
ตัวโครงการ
โครงการ Cascade บางนาเป็นโครงการโฮมออฟฟิศ จำนวน 63 ยูนิต บนที่ดินประมาณ 10 – 1 – 35.5 ไร่ ถือว่าเป็นโครงการที่มีความหนาแน่นน้อย พื้นที่ส่วนใหญ่จะใช้เป็นที่จอดรถจึงถือว่าเป็นโครงการที่เหมาะสำหรับการเปิดธุรกิจมากๆ เพราะมีที่จอดรถรองรับลูกค้าที่จะเข้ามาติดต่อ 252 ช่องจอด และเมื่อจอดซ้อนคันจะสามารถรองรับได้มากกว่า 300 คันเลยค่ะ
ที่ตั้งของตัวโครงการจริงๆจะอยู่ด้านหลังโครงการ Enterprize Park ค่ะ โดยจะมีทางเข้าจากถนนบางนา – ตราด เข้ามาประมาณ 100 เมตร ทำให้มีความเป็นส่วนตัวขึ้นมาหน่อยนึง เมื่อเข้ามาในโครงการจะเจอกับถนนทางเข้า เขตทางกว้าง 13.70 เมตร ผ่านป้อมรปภ. ที่คัดกรองคนเข้าออกโครงการด้วยระบบ Key Card Access ระยะใกล้ พร้อมกล้อง CCTV ที่ป้อมรปภ. และอีก 16 จุด รอบโครงการ ผ่านป้อมรปภ.เข้ามาแล้วจะผ่านห้องเก็บขยะ เป็นห้องระบบปิดที่ทางโครงการตั้งใจทำมาเพื่อความเป็นระเบียบและสะอาดเรียบร้อยของทั้งโครงการ
เมื่อเข้ามาพื้นที่ด้านในโครงการจะเจอกับที่จอดรถ และถนนเขตทางกว้างฝั่งละ 20.80 เมตร มีเกาะกลางลงต้นไม้ไว้ระหว่างถนนทั้ง 2 ฝั่ง ช่วยให้บรรยากาศดูร่มรื่น ไม่แห้งแล้ง ขนาดถนนจริงๆ เมื่อหักพื้นที่จอดรถทั้ง 2 ด้านออกไปก็จะเหลือถนนที่ให้รถวิ่งสวนกันได้กว้างประมาณ 8.30 เมตร ซึ่งถือว่ามีความกว้างพอให้รถวิ่งได้สะดวกเลยค่ะ ส่วนตัวอาคารจะวางขนาบ 2 ฝั่งถนนแบบหันหน้าเข้าหากัน และมีช่องว่างระหว่างอาคารตามกฎหมายทุกๆ 7 หลัง กว้าง 4 เมตร โดยจะมีต้นไม้ปลูกปิดไว้ด้านหน้าเพื่อไม่ให้คนเข้าไปใช้พื้นที่ช่องว่างส่วนนั้นได้ ทำให้ช่องเปิดของห้องมุมจะได้รับประโยชน์เต็มที่ และลดโอกาสการเกิดปัญหาในอนาคตด้วยค่ะ และส่วนกลางของโครงการจะ และส่วนกลางของโครงการนั้น ได้จัดสวนสาธารณะไว้ 1 จุดที่บริเวณกลางโครงการ ซึ่งเฉพาะสวนมีพื้นที่ 74.8 ตารางวา ส่วนพื้นที่สีเขียวรวมทั้งโครงการนั้น ประมาณ 400 ตารางวา
ภายในสวนสาธารณะจะมีศาลานั่งพัก หน้าตาโมเดิร์นให้ด้วยค่ะ
แบบบ้าน
แบบบ้านในโครงการจะมีแบบเดียวค่ะ เป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร เนื้อที่บ้าน เริ่มต้น 20.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 250 ตร.ม. มีห้องน้ำ 4 ห้อง ครบทุกชั้น และที่จอดรถด้านหน้าอาคารค่ะ
แปลนบ้านชั้น 1 – 2
แปลนบ้านชั้น 3 – 4
บ้านตัวอย่าง
เนื่องจากโครงการนี้มีแบบเดียวคืออาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น วันนี้เราจึงจะพาไปชมบ้านตัวอย่างที่ตกแต่งเรียบร้อยเปรียบเทียบกับบ้านมาตรฐานกันค่ะ
เริ่มจากแปลนของบ้านชั้นที่ 1 เมื่อเข้าตัวบ้านมาจะเจอกับพื้นที่โถงยาว ซึ่งพื้นที่ส่วนหน้าของอาคารประเภทนี้ โดยส่วนใหญ่ในอาคารที่เป็นอาคารพาณิชย์หรือโฮมออฟฟิศจะใช้เป็นพื้นที่สำหรับเป็น Reception Area หรือจะใช้เป็นพื้นที่แสดงของสินค้าชั้นล่าง แต่สำหรับในบ้านตัวอย่างที่เราจะไปดูกันนั้น ทางโครงการจัดมาเป็นพื้นที่ Reception เล็กๆด้านหน้าและพื้นที่โถงรับรอง บริเวณส่วนหลังของบ้านจะจัดเป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อน, ทานอาหาร พร้อมมีห้องครัวแบบเปิดมาให้เรียบร้อย ห้องน้ำในชั้น 1 นี้จะเป็นห้องน้ำรับรอง คือจะมีเฉพาะส่วนแห้งให้มาพร้อมสุขภัณฑ์ครบชุดคืออ่างล้างมือโถสุขภัณฑ์และโถปัสสาวะชายค่ะ ออกไปยังพื้นที่หลังบ้านจะเป็นส่วนของลานซักล้างสามารถทำเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนแบบ Outdoor ได้หรือใครอยากจะต่อเติมครัวออกไปให้เป็นเรื่องเป็นราวก็สามารถที่จะทำครัวไทยต่อไปด้านหลังได้ค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 พื้นที่ชั้น 2 นี้ทางโครงการจะทำมาแบบไม่เต็ม Floor คือเหลือพื้นที่ด้านหน้าไว้สำหรับเป็น Double Volume Space ให้ชั้น 1 เชื่อมกับชั้น 2 ช่วยให้บริเวณโถงด้านล่างนั้นดูสูงโปร่งและมีความโอ่อ่ามากกว่าอาคารพาณิชย์แบบทั่วๆไปที่เราเคยเห็นค่ะ โดยพื้นที่บนชั้น 2 นี้ถ้าจะเปิดเป็นร้านก็สามารถใช้เป็นพื้นที่สำหรับแสดงสินค้าได้โดยจัดเป็นโชว์รูมผนังกระจกใสทั้งหมดก็จะช่วยให้สินค้าดูมีความน่าสนใจมากขึ้นหรืออย่างในบ้านตัวอย่างทางโครงการจัดเป็นพื้นที่ห้องประชุมสำหรับเป็นออฟฟิศ/สำนักงาน ด้านหลังจะมีระเบียงด้านนอกพื้นที่ระเบียงค่อนข้างกว้าง สามารถใช้เป็นที่นั่งพักผ่อนได้ โดยจะมีห้องน้ำแยกให้อีก 1 ห้องค่ะ ห้องน้ำที่ชั้นสองนี้จะแยกพื้นที่อ่างล้างมือและตัวห้องน้ำออกจากกัน เวลาคนมาใช้งานพร้อมกันก็จะสามารถใช้งานแบบแยกส่วนได้
ขึ้นมาที่ชั้น 3 จะเป็นส่วนที่มีความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย เหมาะสำหรับจะจัดเป็นห้องทำงานของพนักงาน เราสามารถจัดเป็นโต๊ะทำงานสำหรับพนักงานหลายๆชุดและอาจจะเพิ่มมุมของผู้จัดการเข้าไปด้วยก็ได้ หรือจะใช้เป็นห้องทำงานของพนักงานทั้ง Floor เลยก็ได้ค่ะถ้ามีพนักงานในออฟฟิศเยอะ และส่วนด้านหลังของชั้นนี้ก็จะเป็นพื้นที่ที่ทำออกมาสำหรับเพื่อเป็น Pantry ทำอาหาร สามารถใช้เตรียมอาหารเล็กๆน้อยๆได้ จากส่วน Pantry จะมีระเบียงเล็กๆด้านหลังสามารถใช้เป็นที่ออกมายืนพักผ่อนสูดอากาศได้ และห้องน้ำของชั้นนี้จะเป็นห้องน้ำที่มี ฟังก์ชั่นครบ คือมีทั้งส่วนเปียกส่วนแห้งสามารถใช้รับรองเวลาพนักงานมีการค้างคืนหรือมาอาบน้ำที่ออฟฟิศตอนเช้าค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 4 จะเป็นส่วนที่มีความ Privacy มากที่สุด ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการที่อาศัยอยู่ในร้านของตัวเองจะใช้ชั้นบนสุดนี้เป็นส่วนของห้องนอน โดยในบ้านตัวอย่างจะจัดเป็นห้อง Master Bedroom ห้องใหญ่ห้องเดียว มีพื้นที่กว้างขวางแยกส่วน Walk – in Closet ชัดเจนมีห้องน้ำ 1 ห้องแยกส่วนแห้งส่วนเปียกเรียบร้อยและมีระเบียงเล็กๆเชื่อมออกไปด้านหลัง แต่ถ้าบ้านไหนที่มีสมาชิกมากกว่า 2 หรือ 3 คนก็สามารถที่จะกั้นห้องแยกเพิ่มเติมได้เพราะว่าขนาดพื้นที่ใช้สอยของชั้นนี้ค่อนข้างกว้างค่ะถ้าจัดการพื้นที่ดีๆก็อาจจะกั้นห้องประมาณ 2 ห้องกำลังดีค่ะ
มาดูของจริงกันบ้างค่ะ เริ่มจากหน้าตาภายนอกของตัวอาคารจะใช้สีเทา, ดำ เป็นหลักกระจกใช้กระจกเขียวตัดแสง หน้าตาโดยรวมดูโมเดิร์นและออกแบบมาค่อนข้างสวยเลยค่ะ และพื้นที่หน้าร้านชั้น 1 – 2 จะได้เป็นผนังกระจกมีความสูงประมาณ 5 เมตรเลยค่ะ ทำให้สามารถโชว์สินค้าด้านในได้อย่างเต็มที่
พื้นที่ด้านหน้าร้านจะมีป้ายชื่อมาให้ 2 จุด คือจุดกรอบสี่เหลี่ยมที่ห้อยลงมากับแผงด้านบนที่ติดคำว่า Show Unit ตามแบบค่ะ เราสามารถแปะชื่อบริษัทหรือชื่อร้านของเราเองได้ การทำให้เป็นแพทเทิร์นเดียวกันทั้งโครงการช่วยให้ดูมีความเป็นระเบียบและสวยงามมากขึ้นอีกด้วยค่ะ
ในบ้านมาตรฐานได้ป้ายสีดำโล่งๆแบบนี้
ส่วนประตูทางเข้าหลักของบ้านจะได้เป็นประตูบานผลัก เข้าและออก บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเชียวตัดแสง
มือจับสแตนเลสมีความแข็งแรงและจับสะดวก
พื้นที่ก่อนทางเข้าไปในบ้านจะมีเฉลียงยื่นออกมาความกว้างประมาณ 1 เมตรพื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค
เข้ามาด้านในตัวบ้านจะเจอกับโถงยาวๆ ที่เหมาะจะเป็นพื้นที่ส่วน Reception หรือส่วนแสดงสินค้าค่ะ โดยพื้นของชั้น 1 จะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งชั้น ผนังภายในในบ้านมาตรฐานทั้งหมดจะได้เป็นผนังก่ออิฐมวลเบาฉาบปูนเรียบและทาสีพร้อมบัวเชิงผนังสําเร็จรูป และไฟดาวน์ไลท์
เงยหน้าขึ้นไปดูด้านบนจะเห็นพื้นที่ Double Volume ความสูงฝ้าเพดานส่วนนี้สูงประมาณ 5.9 เมตรเลยทีเดียว ทำให้พื้นที่โถงตรงนี้ดูโอ่อ่า และให้ความรู้สึกโปร่งเกินหน้ากว้าง 5.5 เมตร ไปมากๆ โดยในห้องตัวอย่างจะติดตั้งมาเป็นกระจกใสทั้งชั้น เป็นไอเดียสำหรับใครที่อยากให้พื้นที่ชั้น 2 เป็นส่วนสำหรับโชว์สินค้าก็สามารถที่จะทำเพิ่มเติมได้ค่ะ
เรามาดูการจัดพื้นที่ในบ้านตัวอย่างกันบ้าง โดยพื้นที่โถงหน้าบ้านนี้โครงการจะจัดเป็นส่วนต้อนรับและโถงรับรอง
มีพื้นที่ Reception ด้านหน้าเป็นโต๊ะเล็กๆ 1 ตัวค่ะ
เข้ามาด้านในมองย้อนไปทางประตูทางเข้าจะเห็นว่าพื้นที่หน้าบ้านจะได้ช่องแสงขนาดใหญ่มาจากชุดกระจกฝั่งหน้าบ้านแทบจะเต็มผนัง ทำให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาในตัวบ้านเยอะ แต่อาจจะร้อนไปหน่อยในช่วงเวลาแดดแรงแนะนำให้ติดตั้งม่านเพิ่มเติมสำหรับออฟฟิศที่ไม่มีความจำเป็นจะต้องโชว์ของด้านใดบ้านนะคะ
ถัดเข้ามาจะเป็นพื้นที่โถงรับรองมองตรงไปจะเป็นส่วนทานอาหาร
พื้นที่โถงรับรองนี้ทางโครงการจัดวางโซฟาขนาดประมาณ 5-6 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่างซึ่งดูเหมาะสมกับพื้นที่ดีค่ะ
พื้นที่ด้านหลังโซฟาจะมีห้องเก็บของ 1 ห้อง เป็นห้องเก็บของใต้บันได เปิดเข้ามามีพื้นที่เก็บของสามารถเก็บของได้พอประมาณด้านในห้องเก็บของติดไฟฟลูออเรสเซนต์ให้ 1 ดวง
ฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางหนังสือแบบ Built – in ติดผนัง ซึ่งตรงนี้ถ้าใครที่อยากให้ลูกค้าได้นั่งรอเพลินๆก็สามารถติดตั้งทีวีหรือจอโปรเจคเตอร์สำหรับเสนองานได้ค่ะ
จากโถงรับรองจะไปดูในส่วนด้านหลังของบ้านต่อซึ่งในบ้านตัวอย่างจะทำเป็นส่วนพักผ่อนนั่งทานอาหารค่ะ
พื้นที่ส่วนนั่งทานอาหารนี้จะมี Pantry ครัวอยู่ติดกันและติดกับครัวจะเป็นส่วนของห้องน้ำและประตูเชื่อมไปลานซักล้างด้านหลัง
พื้นที่ทานอาหารสามารถวางโต๊ะขนาดประมาณ 6 ที่นั่งได้ โดยพื้นที่ส่วนนี้ถ้าใครไม่มีความตั้งใจจะทำเป็นครัวก็สามารถที่จะกั้นเป็นส่วนรับรองเพิ่มได้ อาจจะหาตัวยาวมาวางสำหรับลูกค้าที่ต้องการดีลงานในระยะเวลาสั้นๆก็ สามารถมานั่งทำงานด้านหลังตรงนี้ได้ค่ะ
สำหรับพื้นที่ครัวในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นพื้นที่โล่งอย่างนี้ เราสามารถที่จะต่อเติมเคาน์เตอร์ครัวเพิ่มเองได้หรือเพิ่มฉากกั้นห้องด้วยผนังกระจกก็ทำให้ดูแยกเป็นสัดส่วนดีค่ะ
ติดกับห้องครัวเป็นห้องน้ำโดยประตูห้องน้ำจะได้เป็นบาน HDF ทำสีขาว
เข้ามาด้านในห้องน้ำ จะเป็นห้องน้ำรับรอง มีส่วนแห้งเท่านั้น โดยจะได้อ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ครบชุด ยี่ห้อ Mogen พร้อมกระจกเงา
อีกด้านจะติดตั้งโถปัสสาวะชายมาให้ ยี่ห้อ Mogen เช่นกัน ในห้องนี้มีช่องแสง 1 จุด เป็นชุดหน้าต่างบานกระทุ้ง ผสมบานฟิกซ์ กระจกฝ้า
ไฟในห้องน้ำไดไฟดาวน์ไลท์ 1 ดวง
ส่วนช่องแสงหลังบ้านที่ได้ จะเป็นชุดหน้าต่างบานเลื่อนคู่ บานกรอบอลูมิเนียมสีดำกระจกเขียวตัดแสง ค่อนข้างใหญ่สามารถรับแสงธรรมชาติได้เยอะ ติดกับหน้าต่างบานเลื่อนจะเป็นประตูกระจกเชื่อมออกไปยังลานซักล้างด้านหลังค่ะ
ออกมาพื้นที่ลานซักล้างด้านหลังบ้านทางโครงการปูพื้นมาให้บางส่วน เป็นพื้นคอนกรีตขัดมัน พร้อมติดตั้งแท้งค์น้ำและก๊อกน้ำมาให้เรียบร้อย พื้นที่หลังบ้านนี้สามารถที่จะใช้เป็นจัดสวนหย่อมเล็กๆส่วนตัวสำหรับให้พนักงานมานั่งพักผ่อนหรือจะใช้ติดตั้งเครื่องซักผ้าหรือทำเป็นห้องครัวแยกส่วนจากด้านหน้าก็ได้ค่ะ
โดยพื้นที่หลังบ้านจะได้หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ 1 ดวง, ก๊อกน้ำพร้อมเต้าเสียบ เหนือประตูด้านบนจะเป็นที่สำหรับติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์แบบลอยตัวแบบนี้ค่ะ
มองย้อนจากส่วนห้องทานอาหารออกไปยังห้องรับรองด้านหน้า
ต่อมาเราจะขึ้นไปดูบนชั้น 2 กันต่อค่ะ โดยบันไดบนชั้น 2 จะได้เป็นโครงสร้างเหล็กสำเร็จรูปลูกนอนและลูกตั้งปิดหน้าด้วยไม้สำเร็จรูปในบ้านมาตรฐานจะได้ฉากกั้นส่วนบันไดมาเพิ่มเติมด้วยค่ะ
ราวจับบันไดจะได้เป็นราวไม้สําเร็จรูป ยึดด้วยเหล็กพ่นสีดำติดกับผนังยาวไปจนถึงชั้น 2 ในบ้านมาตรฐานจะได้โคมไฟติดผนังมา 1 จุดเพื่อให้แสงสว่างในเวลากลางคืนค่ะ
มองขึ้นไปดูด้านบนจะเห็นว่าบ้านตัวอย่างกันห้องเป็นกระจกแบบเข้ามุมแบบนี้ จะช่วยให้มีมุมมองที่กว้างขึ้นทั้งจากเวลายืนอยู่ด้านในห้องและมองจากด้านล่างค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 เราจะเห็นห้องเก็บของทางซ้ายมือ บันไดตรงกลางและทางขวามือจะเป็นพื้นที่เข้าไปยังห้องประชุม
สำหรับในบ้านมาตรฐาน พื้นที่บนชั้นสองนี้จะได้เป็นพื้นที่โล่ง มีราวกันตกให้ สูงประมาณ 1.5 เมตร
ในบ้านตัวอย่างจะจัดเป็นห้องประชุมวางโต๊ะกลางและเก้าอี้ 6 ที่นั่งซึ่งในความเป็นจริงพื้นที่ส่วนนี้สามารถที่จะจัดเป็นโชว์รูมได้หรือถ้าทำเป็นห้องประชุมก็สามารถที่จะวางโต๊ะขนาดใหญ่กว่านี้ได้ค่ะ อาจจะได้ถึงประมาณ 10 – 12 ที่นั่ง
ให้ดูมุมมองของจากภายในห้องมองย้อนไปทางฝั่งหน้าบ้าน และพื้นที่ Double Volume ด้านล่างจะเห็นพื้นที่เชื่อมต่อทั้งส่วนโถงหน้าบ้านและโถงบันได
หันกลับทางด้านหลังห้องจะเป็นส่วนของประตูเชื่อมออกไปยังระเบียงด้านนอก
ประตูที่เชื่อมออกยังระเบียงด้านนอกเป็นประตูบานเลื่อนคู่บานกรอบอลูมิเนียมสีดำกระจกเขียวตัดแสง
ออกมาพื้นที่ระเบียงด้านนอกมีขนาดค่อนข้างกว้าง สามารถวางชุดโต๊ะกาแฟได้ 2-3 ที่นั่งเลยค่ะ นอกจากนั้นพื้นที่ส่วนนี้เราสามารถที่จะปลูกต้นไม้เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวหรือจะปลูกต้นสูงขึ้นมาหน่อยเพื่อไว้บังแดดอย่างในบ้านตัวอย่างก็ได้ค่ะ
ไฟของระเบียงด้านนอกจะได้เป็นโคมทรงสี่เหลี่ยมแบบนี้ค่ะ
อีกด้านจะเป็นทางไปยังส่วนห้องน้ำ
พื้นที่ห้องน้ำแยกอ่างล้างมือและกระจกเงาไว้ด้านนอก
ส่วนตัวห้องน้ำจะอยู่อีกด้าน
ภายในห้องน้ำจะมีเพียงโถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Mogen พร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระครบชุด มีช่องแสงหนึ่งสุดเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งกระจกฝ้า
ต่อไปเราจะขึ้นไปดูกันที่ชั้น 3 ต่อค่ะ จากตรงนี้เราจะเห็นว่าบริเวณโถงบันไดมีช่องแสง 1 จุด ที่ช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาในบริเวณโถงในเวลากลงวัน และในเวลากลางคืนก็สามารถเปิดไฟดาวน์ไลท์ที่ทางโครงการติดตั้งมาไว้ให้ได้
ชานพักบันไดเป็นแบบสี่เหลี่ยม
ขึ้นมาบนชั้น 3 เป็นชั้นที่เหมาะสำหรับการจัดเป็นห้องทำงานของพนักงาน โดยในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นพื้นที่โถงกว้าง ส่วนในบ้านตัวอย่างเขาจะกั้นห้องมาให้ดูเป็นตัวอย่างนะคะ
ให้ดูตัวอย่างการกั้นห้องในบ้านตัวอย่างจะใช้เป็นประตูบานสูงตัวบานเป็นประตูบานเลื่อนผสมบานฟิกซ์ บานกระจกเต็มบาน ทำให้สามารถมองเข้าไปเห็นพื้นที่ด้านในและช่วยให้พื้นที่โถงบันไดได้รับแสงสว่างจากแสงธรรมชาติภายนอกด้วยค่ะ
เข้ามาด้านในห้องทำงานจัดเป็นพื้นที่นั่งทำงานทั้งห้อง มีช่องแสง 4 จุด คือหน้าต่างบานกระทุ้งเดี่ยวทางซ้าย มือและฝังหน้าบ้านจะได้เป็นหน้าชุดต่างบานกระทุ้งผสมบานฟิกซ์ 1 บานและหน้าต่างบานฟิกซ์ บานใหญ่ที่เราเห็นจากหน้าบ้าน โดยบ้านตัวอย่างที่เราดูอยู่จะเป็นบ้านหลังแปลงมุม ทำให้มีช่องแสงฝั่งข้างบ้านเพิ่มเข้ามา แต่ในบ้านมาตรฐานจะได้ช่องแสงแค่ฝั่งหน้าบ้านเท่านั้นค่ะ
นอกจากพื้นที่ทำงานของพนักงานแล้วยังสามารถจัดเป็นส่วนของผู้บริหารหรือผู้จัดการเพิ่มได้ด้วยการกั้นฉากเพิ่มแบบนี้ค่ะ
ด้านในห้องผู้จัดการก็จะสามารถมองเห็นวิวบริเวณหน้าร้านได้และเนื่องจากช่องแสงตรงนี้มีขนาดใหญ่จึงทำให้แสงแดดส่องเข้ามาในห้องเยอะและจะนำพาความร้อนเข้าห้องมามากจนเกินความจำเป็นแนะนำให้ติดมู่ลี่หรือม่านกัน UV เพิ่มเติมค่ะ
มุมจากภายในห้องมองย้อนออกไปยังส่วนโถงบันได
กลับออกมาที่โถงบันไดด้านนอกจะเป็นส่วนของ Pantry และห้องน้ำ
ไปดูตรงพื้นที่ของ Pantry กันก่อน พื้นที่ส่วนนี้ในบ้านมาตรฐานจะเป็นโถงทางเดินโล่งเชื่อมออกไปยังระเบียงด้านนอกซึ่งตรงนี้เราสามารถที่จะติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวได้ โดยจะมีงานระบบมาให้เรียบร้อยค่ะ
ติดกับส่วน Pantry จะเป็นประตูบานเลื่อนคู่ บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสงเชื่อมออกไปยังระเบียงด้านนอก
สำหรับระเบียงฝั่งหลังบ้านจะเป็นระเบียงขนาดเล็กพื้นที่ประมาณ 3.6 x 1 เมตร พอให้ออกไปยืนกินลมชมวิวได้นิดๆหน่อยๆค่ะ
ถัดมาเราจะไปดูด้านในห้องน้ำกันต่อ
สำหรับห้องน้ำของชั้นนี้จะได้ฟังก์ชันมาครบถ้วน แยกส่วนแห้ง ส่วนเปียก มีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งผสมบานฟิกซ์
อ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Mogen มีบ่าวางของด้านหลังสามารถใช้วางของได้นิดหน่อย
ส่วนห้องอาบน้ำจะแยกออกจากส่วนแห้งด้วยการก่อธรณีสูงขึ้นมาประมาณ 4 เซนติเมตร แต่จะไม่มี Shower Box ติดตั้งมาให้ ซึ่งตรงนี้เราสามารถที่จะหาม่านอาบน้ำมาติดหรือจะกั้นห้องด้วย Shower Box ก็ทำได้ไม่ยากค่ะ ขนาดของห้องอาบน้ำอยู่ที่ประมาณ 90 x 90 เซนติเมตร พอให้ยืนอาบได้ไม่อึดอัด
ต่อมาเดินขึ้นไปดูที่ชั้น 4 กันต่อ โดยพื้นที่โถงบันไดเชื่อมระหว่างชั้น 3 และชั้น 4 ก็จะมีช่องแสงมาให้ 1 จุดเช่นเดียวกัน
ขึ้นมาที่ชั้น 4 ในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นพื้นที่โล่งให้เราสามารถจัดการแบ่งพื้นที่ห้องเพื่อจัดเป็นห้องนอนได้ตามสะดวกค่ะ
ในบ้านตัวอย่างนี้ทางโครงการจะทำเป็นห้องนอนใหญ่แค่ห้องเดียว
เข้ามาดูด้านในจะเห็นว่ามีการแบ่งโซนชัดเจน ฝั่งซ้ายมือจะเป็นส่วนของ Walk – in Closet และฝั่งขวามือจะเป็นพื้นที่ของห้องนอน
เรามาดูส่วนของ Walk – in Closet กันก่อนนะคะ พื้นที่ส่วนนี้จะได้เป็นห้องที่มีขนาดค่อนข้างกว้าง สามารถ Built – in ตู้เสื้อผ้าได้ 2 – 4 ตู้และมีพื้นที่เหลือสำหรับใช้งานได้สะดวกค่ะ
พื้นที่ Walk – in Closet จะสามารถเชื่อมออกไปยังระเบียงภายนอกได้
โดยระเบียงด้านนอกของชั้นนี้จะมีขนาดเท่าๆกับระเบียงที่ชั้น 3 คือประมาณ 3.6 x 1 เมตร
สำหรับห้องน้ำก็จะสามารถเข้าได้จากส่วน Walk – in Closet
ห้องอาบน้ำจะแยกออกจากส่วนแห้งด้วยการก่อธรณีสูงขึ้นมาประมาณ 4 เซนติเมตร ตรงนี้เราสามารถที่จะหาม่านอาบน้ำมาติดหรือจะกั้นห้องด้วย Shower Box ก็ได้ ขนาดของห้องอาบน้ำอยู่ที่ประมาณ 1.20 x 80 เซนติเมตร พอให้ยืนอาบได้ไม่อึดอัด
ออกมาจากห้องน้ำมองย้อนไปทางประตูทางเข้าเมื่อสักครู่ จะเป็นส่วนของห้องนอน โดยในบ้านตัวอย่างจะกั้นห้องด้วยผนังแยกออกจากกันอย่างเป็นสัดเป็นส่วน มีช่องทางเดินเชื่อมความกว้างเท่าประตูประมาณ 2 บานค่ะ
เข้ามาในส่วนของห้องนอนเราจะเห็นว่าภายในห้องได้ช่องแสงมาค่อนข้างเยอะ เป็นชุดประตูบานเลื่อนเชื่อมออกไปยังระเบียงภายนอกซึ่งได้เป็นบานใหญ่เกือบเต็มพื้นที่หน้าบ้านและหน้าต่างบานกระทุ้ง 2 บานทางฝั่งข้างบ้าน ( สำหรับในบ้านมาตรฐานแปลงกลางก็จะได้แค่ประตูบานเลื่อนฝั่งหน้าบ้านนะคะ )
ให้ดูพื้นที่ส่วนห้องนอนแบบชัดๆ ฝั่งหัวเตียงจะได้ช่องแสงเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง 2 บาน สำหรับในบ้านตัวอย่างวางเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
จะเห็นว่าเหลือพื้นที่ข้างเตียงค่อนข้างเยอะ สามารถที่จะวางโต๊ะหัวเตียงได้สบายๆและยังสามารถวางเก้าอี้เอนหลังได้อีก 1 ตัวค่ะ
พื้นที่ปลายเตียงจัดเป็นชั้นวางหนังสือขนาดใหญ่และโต๊ะทำงานพร้อมพื้นที่นั่งพักผ่อนดูทีวี
ระยะปลายเตียงที่เหลือค่อนข้างเยอะ ประมาณ 1.3 เมตร พอให้วางโซฟาอีกตัวสำหรับนั่งดูทีวี
ต่อมาเราจะไปดูพื้นที่ระเบียงภายนอก โดยตัวประตูที่เชื่อมระหว่างห้องนอนและระเบียงภายนอกจะเป็นประตูบานเลื่อนคู่ผสมบานฟิกซ์บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง
ออกมายังพื้นที่ระเบียงจะได้เป็นระเบียงที่มีความกว้างเต็มหน้ากว้างของบ้าน ฝั่งหนึ่งของระเบียงจะมี Facade สำหรับบังสายตาจากเครื่องคอมเพรสเซอร์แอร์และเป็นส่วนตกแต่งของตัวอาคารที่เราเห็นกันจากหน้าบ้าน
ราวกันตกเป็นราวกระจกใสสลับตัวยึดสีดำหน้าตาโมเดิร์น
มองย้อนจากส่วนระเบียงไปยังโถงบันไดให้เห็นภาพรวมของชั้นนี้ค่ะ
ราคา
สรุป
ทำเล :โครงการ Cascade บางนา ตั้งอยู่ใกล้ถนนบางนา – ตราด กม.5 ฝั่งมุ่งหน้าสุขุมวิท เป็นทำเลชานเมืองที่มีความคึกคักสูง มีคนอาศัยอยู่เยอะ มีออฟฟิศเยอะ และมีความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้างสูงและมีห้างใหญ่ๆในรัศมี 10 กิโลเมตรหลายห้าง จุดเด่นของทำเลนี้คือตัวถนนบางนา – ตราด ที่เป็นถนนใหญ่ กว้าง 12 เลน ที่มีความคึกคักสูง มีการสัญจรผ่านไปมาเยอะทั้งกลางวันและกลางคืนทำให้บนถนนบางช่วงเวลาจะมีฝุ่นค่อนข้างเยอะ แต่ตัวโครงการจะไม่ได้รับผลกระทบเท่าไหร่เพราะมีการจัดผังโครงการให้มีทางเข้าห่างจากถนนใหญ่ ประมาณ 100 เมตร ใกล้ทางด่วนบูรพาวิถี
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : โครงการ Cascade บางนา การเดินทางด้วยรถยนต์ ดูจะเป็นวิธีสะดวกที่สุดสำหรับโครงการนี้โดยการใช้ถนนบางนา – ตราด เชื่อมไปยังถนนเส้นสำคัญๆต่างๆ เช่น ถนนสุขุมวิท, ถนนศรีนครินทร์, ถนนวงแหวนรอบนอกฝั่งใต้, ถนนกิ่งแก้ว ที่ช่วยให้เดินทางเข้าออกเมืองสะดวก และสามารถเลือกใช้เส้นทางในการหลีกเลี่ยงรถติดในเวลาต่างๆได้ และอยู่ใกล้จุดขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี, ทางด่วนเฉลิมมหานคร และทางด่วนวงแหวนรอบนอกฝั่งใต้ (ถนนกาญจนาภิเษก)
การเดินทางโดยรถสาธารณะ : ที่สะดวกสำหรับตอนนี้จะเป็น Taxi และรถเมล์ โดยจากภายในโครงการจะต้องเดินออกมาที่ถนนใหญ่ประมาณ 100 เมตร เมื่อออกมาถึงถนนใหญ่ก็จะสามารถเรียกแท็กซี่ได้ และถ้าเราเดินจากหน้าโครงการไปทางขวามือประมาณ 80 เมตรก็จะมีป้ายรถเมล์โดยจะมีรถเมล์ผ่านไปมาหลายสายค่ะ คือ 45ส, 46ร, 48ร, 98ร, 132ร, 133ร, 180, 207ร, 553, 558
ส่วนรถไฟฟ้าในปัจจุบันจะมีสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือ BTS สถานีอุดมสุข มีระยะทางจากโครงการประมาณ 6.8 กม. พอให้ใช้บริการได้ แต่ยังไงก็ต้องนั่งแท็กซี่เพื่อไปยังตัวสถานีก่อนอยู่ดีค่ะ นอกจากนั้นในอนาคต ก็จะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) จะมีสถานีศรีเอี่ยมที่อยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุด โดยตัวสถานีจะอยู่บริเวณแยกศรีนครินทร์ทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางมากขึ้นค่ะ (กำหนดการเสร็จปี 2562)
แบบบ้านและวัสดุในบ้าน : เป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ลึกประมาณ 10.8 เมตร พื้นที่ใช้สอย 250 ตร.ม. บนที่ดินมาตรฐาน 20.8 ตร.วา. มีการออกแบบโดยรวมในสไตล์โมเดิร์นเน้นสีเทาเป็นหลัก ใช้เส้นสายสี่เหลี่ยมสไตล์โมเดิร์น เน้นโถงฝ้าเพดานสูงที่ชั้น 1 ที่สูงถึง 5.9 เมตรโดยตัวโถงนี้จะมีผลกับทั้ง Interior และ Exterior ทำให้ได้ความโปร่ง และดูโอ่อ่ากว่าอาคารพาณิชย์ทั่วๆไป การออกแบบโครงการโดยรวมเน้นเพื่อทำธุรกิจ มีที่จอดรองรับลูกค้ามากกว่า 300 คัน และมีระบบจัดการภายในโครงการที่เป็นระบบ คือจะมีห้องขยะแยก, ถนนกว้าง, ช่องระหว่างอาคารลงต้นไม้ปิดไว้เพื่อไม่ให้มีคนเข้าไปใช้พื้นที่
ส่วนการจัดวางฟังก์ชั่นภายในตัวอาคารจะให้มาเป็นโถงโล่งทุกชั้น ให้จัดการพื้นที่กันได้เองตามการใช้งาน มีห้องน้ำรับรองทุกชั้น ห้องครัวให้มาที่ชั้น 1 และชั้น 3 วัสดุได้มาแบบมาตรฐาน โดยบ้านที่ทางโครงการขายจะเป็นบ้านมาตรฐาน (บ้านเปล่า) ลานซักล้างเป็นคอนกรีตขัดมัน, พื้นชั้น 1 เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม., พื้นชั้น 2, 3, 4 ปูด้วยลามิเนตทั้งชั้น ยกเว้นส่วนระเบียงและห้องน้ำใช้กระเบื้องเซรามิค, ผนังบ้านฉาบเรียบทาสี ติดบัวเชิงผนังมาให้ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง, ฝ้าเพดานชั้น 1 สูง 5.95 ห้องมาตรฐานสูง 2.75 และ 2.60 เมตร ชั้น 2, 3, 4 สูง 2.55 เมตร ไฟภายในเป็นไฟดาวน์ไลท์ทั้งหลัง และภายนอกได้โคมซาลาเปา
สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำได้ครบชุดของ Mogen แยกส่วนแห้งส่วนเปียกแต่ไม่มี Shower Box มาให้
ประตูทางเข้าเป็นบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง, บานประตูภายในบ้านเป็นบานไม้จริงทำสีขาว, บานประตูห้องน้ำ HDF สีขาว, อุปกรณ์ปลั๊กและสวิทช์ไฟของ Bticino
สาธารณูปโภค : มีซุ้มทางเข้าที่มีระบบรักษาความปลอดภัยด้วย รั้วไม้กระดก พร้อมกล้อง CCTV จับภาพป้ายทะเบียน และคนขับฝั่งละ 2 ตัว เข้า-ออกโครงการด้วย Key Card Access ระยะใกล้ ส่วน Visitor ต้องแลกบัตรกับทางโครงการ รั้วรอบโครงการสูง 2.25 – 3 เมตร มีกล้องวงจรปิดรอบโครงการ 16 จุดและมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
ตารางคะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.0 | บนถนนบางนา – ตราด มีความคึกคักบนถนนเส้นนี้สูง ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบสูง เหมาะกับการเปิดออฟฟิศ โดยเฉพาะ Logistic |
การเดินทาง ใช้รถ | 8.0 | เดินทางค่อนข้างสะดวก สามารถเชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักได้หลายสาย และใกล้จุดขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี, ทางด่วนเฉลิมมหานคร, วงแหวนรอบนอกฝั่งใต้ |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 7.0 | กลางๆ มีตัวเลือกให้ใช้คือต้องเดินออกมาหน้าโครงการเพื่อเรียก Taxi , ขึ้นรถเมล์ ถ้าจะขึ้นรถไฟฟ้าปัจจุบันจะต้องนั่ง Taxi ไปที่ตัวสถานีอุดมสุข |
บ้านและวัสดุ | 8.0 | แบบบ้านสไตล์โมเดิร์น ภายในบ้านได้ห้องน้ำมาทุกชั้น โถงชั้น 1 สูง พื้นที่ชั้น 2 สามารถใช้เป็น Showroom โชว์สินค้าได้ |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 7.5 | มีห้องแยกเก็บขยะ อาคารนิติบุคคล และสวนหย่อมเท่านั้น ระบบรักษาความปลอดภัยมีซุ้มทางเข้าหลัก ใช้ Key Card Access ระยะให้ มีกล้อง CCTV 16 จุด รอบโครงการ มีรปภ. 24 ชม. |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.5 | เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปิดธุรกิจทั้งแบบหน้าร้านและแบบออฟฟิศ พร้อมใช้เป็นที่อยู่อาศัยภายในตัวในย่านบางนา เน้นการใช้งานรถยนต์เป็นหลัก |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.83 | ดี |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 061-413-3355
Website : http://www.realasset.co.th/cascade/
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
แสดงความคิดเห็น