EP.1410 รีวิว ชัยพฤกษ์ พุทธมณฑล สาย 5 Chaiyapruk Phutthamonthon Sai 5
Written by : Nin Yanin Phueksoongnoen
สวัสดีค่ะผู้อ่านชาว Homenayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพามาชมโครงการบ้านเดี่ยว Chaiyapruk พุทธมณฑล สาย 5 จาก Land & Houses กันค่ะ ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนพุทธมณฑล สาย 5 ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม กับแนวคิด Convenience Turns to Happiness สิ่งอำนวยความสะดวกรองรับการอยู่อาศัย สามารถเดินทางได้สะดวกเชื่อมต่อถนนสายหลักได้อย่างง่ายดาย และอยู่ใกล้กับวงแหวนกาญจนาภิเษก
ชัยพฤกษ์ พุทธมณฑล สาย 5 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น บนพื้นที่โครงการ 70 ไร่ มีจำนวน 332 หลัง เนื้อที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา. มีพื้นที่ใช้สอย 136 – 164 ตร.ม. พร้อมฟังก์ชั่นขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน กับบ้านสไตล์โมเดิร์นจากแนวคิด Turns to Happiness บ้านท่ามกลางบรรยากาศอันร่มรื่นของสวนสวยขนาดใหญ่ เป็นบ้านสร้างเสร็จพร้อมอยู่ คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 4 ปี 2562 นี้แล้วค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการมีมาให้อย่างครบครัน กับคลับเฮ้าส์หรู, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, Co – working Space, สวนสวยขนาดใหญ่โอบล้อมโครงการ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ทั้งยามรักษาความปลอดภัยหน้าประตู, CCTV และ Key Card Access รวมถึงระบบป้องกันขโมย Magnetic Sensor ในบ้านทุกหลัง ในราคาเริ่มต้น 5.7 ล้านบาท*
อย่ามัวรอช้า เชิญติดตามรายละเอียดของโครงการที่ด้านล่างนี้ได้เลยค่า
ชื่อโครงการ | ชัยพฤกษ์ พุทธมณฑล สาย 5 Chaiyapruk Phutthamonthon Sai 5 |
เจ้าของโครงการ | แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (Land&Houses) |
ลักษณะโครงการ | บ้านเดี่ยว 2 ชั้น |
พื้นที่โครงการ | 70 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 332 หลัง |
พื้นที่ใช้สอย | 136 – 164 ตร.ม. |
เนื้อที่บ้าน | ตั้งแต่ 50 ตร.ว. |
จำนวนห้อง | 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ |
ที่จอดรถทั้งหมด | 2 ที่จอดรถ |
โซน | พุทธมณฑล, สามพราน, นครปฐม |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ถนนพุทธมณฑล สาย 5 ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170 |
กำหนดการ | PRE-SALE 27 กค. 57 |
ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าจะแล้วเสร็จใน ไตรมาสที่ 4 ปี 2562 |
ราคา | เริ่มต้น 5.7 ล้านบาท |
ค่าส่วนกลาง | ตารางวาละ 31 บาท/เดือน |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อื่นๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | “TURNS TO HAPPINESS สู่สังคมคุณภาพที่ร่มรื่น…มอบช่วงเวลาแห่งความสุข” |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ถนนพุทธมณฑล สาย 5 ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170
พิกัด : 13.794564, 100.300962
แผนที่จากทางโครงการ โครงการบ้านเดี่ยว ชัยพฤกษ์ พุทธมณฑล สาย 5 จาก Land & Houses บนถนนพุทธมณฑล สาย 5 ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม กับแนวคิด Convenience Turns to Happiness สิ่งอำนวยความสะดวกรองรับการอยู่อาศัย สามารถเดินทางได้สะดวกเชื่อมต่อถนนสายหลักได้อย่างง่ายดาย และอยู่ใกล้กับวงแหวนกาญจนาภิเษก
ทำเลที่ตั้ง โครงการ ชัยพฤกษ์ พุทธมณฑล สาย 5 ตั้งอยู่ติดถนนพุทธมณฑลสาย 5 ฝั่งมุ่งหน้าไปทางศาลายา ใกล้ถนนบรมราชชนนี และถนนเพชรเกษม ทำเลนี้จะเป็นย่านที่อยู่อาศัยในแนวราบ มีโครงการบ้านจัดสรรขนาดเล็กและขนาดใหญ่ขึ้นอยู่ใกล้ๆ กันไม่ว่าจะเป็นโครงการทาวน์โฮมหรือบ้านเดี่ยว ส่วนพื้นที่ติดถนนใหญ่ก็จะเป็นพวกอาคารพาณิชย์ค่ะ โดยรวมในทำเลนี้ยังสามารถพัฒนาไปได้อีกมาก เพราะยังมีผืนที่ดินเปล่าและพื้นที่สำหรับทำเกษตรกรรมเหลืออยู่มากพอสมควร
ถึงแม้ว่าตัวโครงการจะอยู่ไกลออกมาจากจุดศูนย์กลาง แต่ก็อยู่ไม่ไกลจากแหล่งสาธารณูปโภคต่างๆ และจะมีความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ เนื่องจากมีแผนการก่อสร้างโครงข่ายรถไฟฟ้ามายังฝั่งธนฯ อีกหลายสาย ซึ่งจุดนี้จะทำให้มีโครงการที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นตามมาไม่ว่าจะเป็น ทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยว รวมถึงคอนโดมิเนียมทั้ง Low rise และ High rise ที่ตอนนี้เกาะกลุ่มอยู่ที่เส้นเพชรเกษมค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ จากทำเลที่ตั้งทำให้การเดินทางด้วยรถส่วนตัวถือว่าค่อนข้างได้เปรียบอยู่พอตัวค่ะ เพราะตัวโครงการนั้นตั้งอยู่ติดถนนพุทธมณฑลสาย 5 ที่สามารถเชื่อมสู่ถนนบรมราชชนนีและถนนเพชรเกษมได้โดยตรง
โดย ถนนบรมราชชนนี จะสามารถใช้วิ่งตรงไปถึงสะพานธนบุรีข้ามฝั่งตรงไปถึงอนุสาวรีย์ได้เลย ส่วน ถนนเพชรเกษม ถ้าวิ่งไปฝั่งทิศตะวันออกมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองก็จะสามารถไปถึงวงเวียนใหญ่ได้เลย หรือจะวิ่งเข้าถนนราชพฤกษ์ข้ามสะพานตากสินไปฝั่งกรุงเทพฯ ก็วิ่งเข้าสู่ตัวเมืองได้สะดวก
หากวิ่งไปทางตะวันตก ถนนเพชรเกษมจะวิ่งยาวผ่านหลายจังหวัด ทั้งนครปฐม, ราชบุรี, เพชรบุรี ลงไปทางใต้ ปัจจุบันถนนเพชรเกษมฝั่งขาเข้าตัวเมืองการจราจรจะค่อนข้างหนาแน่นหน่อยเพราะกำลังก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินกันอยู่ ในช่วง Rush Hour เช้ากับเย็นถ้าใครจะต้องวิ่งผ่านช่วงนั้นก็ขอให้ทำใจและเผื่อเวลากันดีๆ นะคะ
จากเส้นเพชรเกษมก็มีถนนเส้นที่ใช้ไปออกถนนพระราม 2 ได้ ทั้งถนนบางบอน 5 และถนนบางแค เชื่อมต่อไปยังถนนบางขุนเทียน ย่านนี้จะเรียกว่าท่าเกษตร สามารถใช้ไปออกถนนกัลปพฤกษ์ตรงสาทรก็ได้เช่นกัน
ส่วนถนนพุทธมณฑลสาย 5 ก็สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนกาญจนาภิเษกได้สะดวกนะ ตรงนั้นก็จะมีจุดขึ้นทางพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอก สามารถเข้าสู่ตัวเมืองได้อย่างรวดเร็วค่ะ
นอกจากนี้ ตัวโครงการยังอยู่ใกล้กับโครงการถนนเส้นพระเทพตัดใหม่ (พรานนก – พุทธมณฑลสาย 4) อีกหนึ่งโครงข่ายสำคัญเพื่อรองรับการเดินทางที่สะดวกสบายในอนาคต ซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกคือ โครงการก่อสร้างถนนบริเวณสามแยกไฟฉายหรือ จรัญสนิทวงศ์ (พรานนก) – วงแหวนกาญจนาภิเษก ขนาด 6 ช่องจราจร ระยะทาง 8.4 กม. และช่วงที่ 2 จากถนนกาญจนาภิเษก – พุทธมณฑลสาย 4 ระยะทาง 8 กม.
สำหรับโครงการช่วง 1 (จรัญสนิทวงศ์ – กาญจนาภิเษก ) ได้เปิดให้บริการแล้ว จะช่วยระบายการจราจรออกสู่ถนนกาญจนาภิเษกเพื่อไปยังจังหวัดใกล้เคียงได้รวดเร็วขึ้นโดยไม่ต้องกระจุกตัวบริเวณถนนจรัญสนิทวงศ์, ถนนปิ่นเกล้า และ ถนนบรมราชชนนี และโครงการช่วงที่ 2 (กาญจนาภิเษก – พุทธมลฑลสาย 4) จะช่วยให้การเดินทางออกนอกเมืองสะดวกรวดเร็วขึ้นโดยไม่มีปัญหาจราจรติดขัดเลยค่ะ (ปัจจุบันโครงการช่วงที่ 2 ยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินงานค่ะ)
ทางด่วน จากตัวโครงการจะอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งสามารถใช้เชื่อมต่อไปยังจุดขึ้นทางด่วนศรีรัช – วงแหวนรอบนอก สามารถใช้วิ่งไปทางบางใหญ่หรือทางพระราม 2 ก็ได้ แต่ถ้าต้องการเข้าเมืองจะมีทางเชื่อมไปขึ้นทางด่วนศรีรัช – วงแหวนรอบนอก โดยทางนั้นจะสามารถไปยัง ปากเกร็ด, สาทร, พระราม 9 จนไปถึงบางนาและชลบุรีได้เลยค่ะ
:: สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ ::
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ปัจจุบันที่หน้าโครงการบนถนนพุทธมณฑลสาย 5 จะไม่ค่อยมีรถประจำทางวิ่งผ่านเท่าไหร่ค่ะ พอจะมีวินมอเตอร์ไซค์และรถแท็กซี่วิ่งผ่านอยู่เป็นช่วงๆ สามารถเรียกได้สะดวก แต่ถ้าจะให้สะดวกที่สุดก็คือเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอพพลิเคชั่น Grab Taxi และ Line Taxi ประกอบกันไปค่ะ
อีกทั้งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง – บางแค ก็จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนปี 2562 นี้แล้วด้วย โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีหลักสอง และก็ยังมีโครงการรถไฟฟ้าสีน้ำเงิน (ในอนาคต) ช่วง บางแค – สายสี่ อีกโครงการ ซึ่งสถานีสายสี่จะอยู่บริเวณแยกพุทธมณฑลสาย 4 พอดี แต่โครงการนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566 นะคะ
ความอุดมสมบูรณ์ ถึงแม้ตัวโครงการจะอยู่ในชานเมืองแต่ก็มีความอุดมสมบูรณ์รองรับการอยู่อาศัย ภาพรวมบริเวณโดยรอบโครงการค่อนข้างเงียบสงบค่ะ ใกล้เคียงกับตัวโครงการในระยะเดินพอจะมีร้านสะดวกซื้ออย่าง 7 – Eleven, ร้านอาหาร และอาคารพาณิชย์ พอจะให้จับจ่ายใช้สอยได้บ้าง ห่างออกไปในระยะขับรถก็ใกล้แหล่งช้อปปิ้งทั้งห้างสรรพสินค้า, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, ร้านค้า, ตลาด, โรงพยาบาล, สถานศึกษา และโรงงาน ห้างสรรพสินค้า หลักๆ เลยก็จะมี Makro ศาลายา และ Central ศาลายา ที่อยู่ใกล้ๆ
บนเส้นพุทธมณฑลสาย 4 ที่วิ่งขนานกันก็จะมี The Brio Mall, The Image Mall และ Tesco Lotus นอกจากนั้นความอุดมสมบูรณ์ก็จะกองอยู่บนเส้นเพชรเกษม ทั้ง The Mall บางแค และ Seacon บางแค, คอมมูนิตี้มอลล์ทั้ง Victoria Garden ภายในมี Foodland, Tulip Square, HomePro, Big C และ Tesco Lotus ก็มีอยู่ครบบนเส้นนี้เลย
:: สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ::
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อื่นๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถ.บรมราชชนนี > ถ.พุทธมณฑลสาย 5 > กลับรถ > ชัยพฤกษ์ พุทธมณฑล สาย 5
วันนี้เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากบนถนนบรมราชชนนี บริเวณแยกต่างระดับถนนกาญจนาภิเษกกันค่ะ จากจุดนี้ไปถึงตัวโครงการใช้เวลาประมาณ 20 นาที ให้เราวิ่งตรงไปตามป้ายนครปฐมค่ะ
ให้เราวิ่งตรงไปเรื่อยๆ ตามป้ายนครปฐม ผ่านทางออกถนนพุทธมณฑลสาย 3 ไป
ทางฝั่งซ้ายมือเราจะขับผ่านบุญถาวร สาขาปิ่นเกล้าค่ะ
ยังคงให้เราขับตามป้ายนครปฐมไปเรื่อยๆ นะคะ ผ่านทางออกถนนพุทธมณฑลสาย 4 ไป
จากนั้นให้เราเบี่ยงซ้ายออกที่ทางคู่ขนานข้างหน้า
และให้เราขับตามป้ายถนนพุทธมณฑลสาย 5 ไป
ให้เราชิดซ้ายและเลี้ยวเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 5 ค่ะ
พอเราเลี้ยวเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 5 แล้ว ให้รีบชิดขวาและกลับรถที่จุดกลับรถแรกเลยนะ
จากนั้นให้เราวิ่งข้ามสะพานข้ามถนนบรมราชชนนีเพื่อไปอีกฝั่งหนึ่งของถนนพุทธมณฑลสาย 5 ค่ะ
ตรงไปไม่ไกลที่ฝั่งซ้ายมือเราจะเห็นอาคารพาณิชย์และเซเว่น ให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยที่มีบอลลูนสีส้มอยู่ข้างหน้าค่ะ ตรงนี้จะเป็นทางเข้าของโครงการแล้ว
เราตรงตามถนนทางเข้าโครงการไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นซุ้มทางเข้าโครงการอยู่ข้างหน้าเราแล้วค่ะ
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
บริเวณโดยรอบโครงการบนถนนพุทธมณฑลสาย 5 จะเป็นโซนของที่อยู่อาศัยในแนวราบ มีทั้งโครงการบ้านจัดสรร, บ้านพักอาศัยส่วนตัวดั้งเดิม, ตึกแถว, ห้องเช่า, อาคารพาณิชย์, ร้านอาหาร, ร้านขายของชำ, ที่ดินเปล่า, ที่ดินทำเกษตรกรรม และโรงงานอุตสาหกรรม บรรยากาศจะมีความเงียบสงบและค่อนข้างเป็นส่วนตัวค่ะ
เดี๋ยวเราจะมาเดินดูบรรยากาศโดยรอบโครงการภายในถนนพุทธมณฑลสาย 5 ค่ะ ด้านหน้าทางเข้าโครงการจะอยู่ติดกับถนนพุทธมณฑลสาย 5 พอดี
เราเดินไปทางฝั่งซ้ายมือกันก่อน
ติดกับทางเข้าโครงการเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้นครึ่ง
ซึ่งตรงนี้เป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์ที่ใกล้กับตัวโครงการมากที่สุด มีทั้งเซเว่น, ร้านชายสี่บะหมี่เกี๋ยว, ร้านข้าวแกงปักษ์ใต้ และร้านชาพะยอม
บริเวณหน้าปากซอยบางเตย 3 ก็จะมีคิววินมอเตอร์ไซค์ให้เราสามารถเรียกใช้บริการได้สะดวก
ติดกับซอยบางเตยก็คือ ม.เทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ค่ะ
ตรงด้านหน้ามหาลัยมีสะพานลอยให้เราสามารถเดินข้ามฟากได้สะดวก
บริเวณใต้สะพานลอยก็มีป้ายรถเมล์นะ สามารถมารอรถตรงนี้ได้
ถ้าเราตรงไปเรื่อยๆ อีก 700 เมตรก็จะมี Makro ศาลายาอยู่ที่ฝั่งตรงข้าม ถือเป็น Hypermarket ที่อยู่ใกล้กับตัวโครงการมากที่สุด สะดวกมากๆ เวลาต้องการซื้อของเข้าบ้านค่ะ
กลับมาที่ด้านหน้าโครงการ เราจะเดินไปทางฝั่งขวามือ มุ่งหน้าบรมราชชนนีค่ะ
ติดกับทางเข้าโครงการฝั่งนี้เป็นที่ดินเปล่าผืนใหญ่
ไม่ไกลกันก็มีร้านอาหารร้านเล็กๆ ให้เรามาฝากท้องกันได้อีก 1 ร้าน
ซึ่งบริเวณตรงนี้จะเป็นจุดกลับรถพอดีค่ะ
:::: ตัวโครงการ ::::
โครงการบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น บนพื้นที่โครงการ 70 ไร่ มีจำนวน 332 ยูนิต สไตล์โมเดิร์น จากแนวคิด Turns to Happiness บ้านท่ามกลางบรรยากาศอันร่มรื่นของสวนสวยขนาดใหญ่ ก่อนที่เราจะเดินเข้าไปสำรวจบริเวณภายในโครงการจะขออธิบายผังคร่าวๆ เพื่อความเข้าใจกันก่อนนะคะ
จากถนนพุทธมณฑลสาย 5 จะมีถนนทางเข้าโครงการยาว 260 เมตรเข้ามาถึงซุ้มทางเข้าโครงการ ผ่านระบบรักษาความปลอดภัย ประกอบด้วย ป้อมยาม., ระบบ Key Card Access, กล้อง CCTV และ รั้วไม้กระดก เจอถนนหลักกว้าง 16 เมตร เชื่อมด้วยถนนซอยกว้าง 8 เมตร เข้าสู่หน้าบ้านทุกหลัง โดยรวมแล้วโครงการมีขนาดค่อนข้างใหญ่ มีบ้านจำนวนหลายยูนิต แต่สามารถจัดผังได้ดีทำให้ไม่รู้สึกว่าแออัดเพราะทำถนนซอยไม่ลึกมาก และมีการหันหน้าบ้าน – หลังบ้านตามแนวทิศเหนือ – ใต้ ช่วยทำให้บ้านเย็นเพราะสามารถรับลมได้ตลอดทั้งปี
สวนสาธารณะจะถูกจัดเอาไว้อยู่บริเวณด้านหน้าโครงการทางฝั่งซ้ายมือ เพื่อให้มุมทางเข้าโครงการดูสบายตามากขึ้น เป็นสวนขนาดใหญ่และยาวตั้งแต่หน้าโครงการจนไปถึงบริเวณกึ่งกลางโครงการ เพื่อสร้างบรรยากาศให้ลูกบ้านทางฝั่งด้านหลังโครงการด้วย ส่วนคลับเฮ้าส์จะอยู่บริเวณท้ายสวนสาธารณะใกล้กับวงเวียน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ทำให้ลูกบ้านแต่ละหลังสามารถเดินมาใช้งานได้สะดวก
:::: แบบบ้านของโครงการ ::::
บ้านภายในโครงการมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 แบบ เป็นบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์นดังนี้ค่ะ
แบบบ้าน Walnut
แปลนบ้านชั้นล่าง|แปลนบ้านชั้นบน
แบบบ้าน C – Combine
แปลนบ้านชั้นล่าง|แปลนบ้านชั้นบน
แบบบ้าน Rosewood
แปลนบ้านชั้นล่าง|แปลนบ้านชั้นบน
บ้านของโครงการถูกออกแบบภายใต้ Smart Start Living 5 แนวคิด เพื่อก้าวแรกที่ไกลกว่า ไม่ว่าจะเป็น
:::: บริเวณภายในโครงการ ::::
::: ทางเข้าโครงการ :::
เรากลับมาที่หน้าทางเข้าโครงการ เดี๋ยวเราจะเดินเข้าไปดูบรรยากาศของโครงการพร้อมๆ กันเลยค่ะ บริเวณหน้าทางเข้าโครงการมีป้ายโครงการขนาดใหญ่ชัดเจน
จากหน้าทางเข้าโครงการต้องตรงเข้าไปตามถนนอีก 250 เมตรก็จะถึงซุ้มทางเข้าโครงการค่ะ
สังเกตที่ทั้งฝั่งซ้ายและขวามีการจัด Landscape ช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูร่มรื่นและเขียวชอุ่มสบายตา เป็นร่มเงาเวลาที่ลูกบ้านเดินเข้า – ออกด้วย
เราตรงเข้ามา 250 เมตรก็จะเห็นซุ้มทางเข้าโครงการอยู่ที่ด้านหน้าของเราแล้วค่ะ
สังเกตบรรยากาศตั้งแต่ซุ้มทางเข้าทอดยาวเข้าไปภายในโครงการจะเห็นแต่ร่มเงาอันเขียวชอุ่มของต้นไม้ขนาดใหญ่ ดูร่มรื่นและน่าอยู่มากๆ
ซุ้มทางเข้าโครงการถูกออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น ใช้สีขาว – เทา – เงิน ดูเรียบแต่เก๋ การเข้า – ออกโครงการจะต้องผ่านซุ้มรปภ.ซึ่งประกอบด้วย ป้อมยาม, กล้อง CCTV, รั้วไม้กระดก และระบบ Key Card Access
ลูกบ้านที่ถือ Key Card จะสามารถใช้บัตรแตะเพื่อเปิดรั้วไม้กระดกทางฝั่งซ้ายและผ่านเข้าไปด้านในโครงการได้เลย ในกรณีที่เป็น Visitor จะต้องทำการแลกบัตรกับพี่ยามทางฝั่งขวาก่อนนะคะ
ซึ่งบริเวณป้อมยามได้ติดกล้อง CCTV เอาไว้เพื่อบันทึกภาพหน้าคนขับรวมถึงเลขทะเบียนรถด้วยค่ะ
ภาพมองย้อนกลับไปที่ซุ้มทางเข้าโครงการ
::: บริเวณภายในโครงการ :::
จากบริเวณซุ้มทางเข้าโครงการเชื่อมต่อกับถนนกว้าง 16 เมตรนำเข้าไปสู่พื้นที่ส่วนต่างๆ ด้านในโครงการ
ตลอด 2 ข้างทางมีจัด Landscape เอาไว้อย่างเรียบร้อยสวยงาม ลงทั้งต้นไม้ใหญ่เพื่อสร้างความร่มรื่น รวมถึงไม้พุ่มและหญ้าคลุมดิน ซุ้มต้นไม้สวยๆ แบบนี้ให้ร่มเงาได้เป็นอย่างดีเลยนะ สามารถเดินเข้า – ออกโครงการได้โดยจะไม่รู้สึกว่าร้อนเท่าปกติ ฝั่งซ้ายมือเป็นสวนสาธารณะของโครงการนะคะ เริ่มตั้งแต่บริเวณซุ้มทางเข้าและทอดยาวเข้าไปด้านในจนถึงใจกลางโครงการเลย
เราเดินตรงไปเรื่อยๆ จนถึงบริเวณวงเวียน สังเกตทางฝั่งซ้ายมือเป็นส่วนของสโมสรค่ะ
บริเวณด้านหน้าสโมสรค่ะ มีสะพานข้ามสระน้ำเพื่อไปยังส่วนอื่นๆ ของโครงการ
บรรยากาศภายในซอยย่อยๆ ขนาด 8 เมตรที่เชื่อมมาจากถนนใหญ่ เป็นบ้านสร้างเสร็จเรียบร้อยก่อนเข้าอยู่ ลูกบ้านจะเห็นสภาพบ้านแบบสมบูรณ์ 100% ก่อนตัดสินใจทำสัญญาซื้อขายกันค่ะ
::: สวนสาธารณะ :::
คราวนี้เราลองมาเดินชมบรรยากาศภายในสวนสาธารณะตามเส้นทาง Jogging Track กันบ้างค่ะ
สวนสาธารณะของโครงการถูกจัดเอาไว้อย่างร่มรื่นสวยงาม พร้อมสำหรับการใช้งานแล้ว ทั้งไม้ใหญ่และไม้พุ่ม หรือไม้คลุมดินก็โตแบบสมบูรณ์สร้างร่มเงาให้แก่ผู้ที่มาเดินเล่นและพักผ่อน แม้ในวันที่แดดจัดแบบนี้ก็ยังไม่รู้สึกว่าร้อนมากนัก
ภายในสวนมีโซนนั่งเล่นพักผ่อนและสนามเด็กเล่นอยู่ใกล้ๆ กัน สำหรับผู้ปกครองไว้นั่งพักคอยเวลาลูกๆ หลานๆ มาเล่นกับเพื่อนๆ
บริเวณศาลานั่งพักผ่อนค่ะ ตรงนี้จะมีหลังคาคลุมเป็นร่มให้ พร้อมม้านั่งและเก้าอี้นั่งหลายตัว
บริเวณสนามเด็กเล่นค่ะ ที่พื้นปูแผ่นยางเอาไว้ให้เพื่อกันการถลอกหรือกันการกระแทก ส่วนนี้มีทั้ง ม้าลื่น, อุโมงค์ และเชือกสำหรับปีนป่าย ช่วยสร้างพื้นฐานความแข็งแรงของกล้ามเนื้อได้ดี
จากสวนส่วนแรกเราเข้าสู่สวนส่วนที่ 2 กันค่ะ
สวนส่วนที่ 2 เน้นสร้างบรรยากาศด้วยสระน้ำขนาดใหญ่พร้อมทางเดินบนน้ำเป็น Jogging Track ต่อเนื่องไปถึงสโมสร
ระหว่างทางมีม้านั่งเป็นจุดๆ ใต้ต้นไม้สำหรับนั่งพักผ่อนชมบรรยากาศของสวนและสระน้ำได้
ภาพบรรยากาศของสระน้ำ เป็นสระบัวขนาดใหญ่ ที่มี Jogging Track ลัดเลาะรอบๆ
เรามองไปที่อีกฝั่งข้ามสะพานข้ามสระน้ำไป Jogging Track จะเชื่อมไปถึงส่วนสโมสรเลยค่ะ
ภาพบรรยากาศบริเวณสโมสร
::: สโมสร :::
สโมสรถูกออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์นเช่นกัน ออกแบบให้เหมือนกำลังลอยอยู่บนสระน้ำ พร้อม Landscape ที่สวยงาม
เราเข้าไปดูภายในด้วยกันเลยค่ะ
พอเดินขึ้นมาข้างบนอาคารจะมีทางเดินแยกไปสระว่ายน้ำทางฝั่งซ้ายและทางเดินเข้าสู่ตัวอาคารทางฝั่งขวา
เข้ามาดูภายในอาคารกันก่อน พื้นที่ส่วนนี้เป็นพื้นที่สำหรับนั่งเล่นพักผ่อน และสามารถใช้เป็น Co – working Space ได้ด้วยในตัวเลย
ภายในจัดชุดโซฟาและเก้าอี้นั่งเอาไว้หลายชุดขนาดใหญ่ ปัจจุบันภายในสโมสรยังถูกใช้เป็นออฟฟิศของสำนักงานขายด้วยนะคะ แต่ภายหลังการขายแล้วจะถูกใช้เป็นออฟฟิศของนิติบุคคลแทน
ภาพบรรยากาศโดยรวมภายในพื้นที่นั่งพักผ่อนอีก 1 มุม
นอกจากพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนแล้ว ก็ยังมีการแบ่งห้อง Meeting เล็กๆ เอาไว้สำหรับการนัดคุยแบบ Private ด้วยนะ
ภายในห้อง Meeting ขนาดสำหรับ 4 คน เอาไว้นั่งคุยงานได้แบบเป็นส่วนตัว
มุม Meeting อีกมุมนึงค่ะอยู่ห้องข้างๆ กัน
คราวนี้เราออกไปดู Facilities ส่วนอื่นๆ กันต่อ
จากทางเดินมาถึงสระว่ายน้ำภายในสโมสรค่ะ เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ มีขนาดใหญ่ถึง 25 x 10 เมตร และลึก 1.2 เมตร ส่วนอาคารด้านหลังชั้น 2 จะเป็นฟิตเนสนะ
บรรยากาศของสระถูกออกแบบให้ดูเป็นส่วนตัวทีเดียวนะ แม้จะเป็นพื้นที่เปิดโล่ง แต่ก็ไม่ทำให้รู้สึกว่า Public จนเกินไป ขนาดสระใหญ่ขนาดนี้สามารถใช้งานได้จริง ว่ายน้ำออกกำลังกายได้สบายๆ เลยค่ะ
บริเวณด้านข้างสระจัดชุดโซฟาสำหรับนั่งพักผ่อนเอาไว้ให้ในร่มอยู่ 3 ชุดพร้อมโต๊ะข้าง
และมี Outdoor Shower สำหรับล้างตัวก่อนลงสระ
ส่วนห้องน้ำจะอยู่ภายในอาคารหลักค่ะ
เปิดเข้าไปเป็นโถงทางเดินที่เชื่อมต่อกับส่วน Co – working Space ได้ ห้องน้ำจะแยกฝั่งชาย – หญิงให้เรียบร้อยเป็นสัดส่วน
เราเข้ามาดูภายในห้องน้ำหญิงกันค่ะ ทางฝั่งซ้ายมือเป็นส่วนอ่างล้างมือ ฝั่งขวาเป็นตู้ล็อคเกอร์สำหรับเก็บของ ส่วนตรงกลางเป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำค่ะ
ภายในห้องน้ำดูส่วนและโปร่งโล่งทีเดียวเพราะผนังฝั่งอ่างล้างมือถูกออกแบบให้เป็นกระจกฝ้า ซึ่งยังได้ความเป็นส่วนตัวอยู่แต่จะได้ในเรื่องของแสงธรรมชาติเข้ามาด้วยค่ะ
ภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำ มีจุดที่พิเศษกว่าโครงการอื่นๆ ตรงที่ฝารองนั่งของโถสุขภัณฑ์ใช้แบบ Washlet ด้วยนะ
เราเดินออกมาดูที่อาคารด้านหลังสระว่ายน้ำกันต่อค่ะ
พื้นที่ใต้อาคารจัดวาง Day Bed เอาไว้ให้นอนพักผ่อนได้ในร่ม
ด้านในเป็นสระเด็กค่ะ ทำลึกแค่ 60 ซม. เท่านั้นเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
จากบริเวณ Day Bed มองออกไปเห็นวิวสวนและสระน้ำที่ร่มรื่นของโครงการ
เราเดินขึ้นมาที่ชั้น 2 ซึ่งเป็นส่วนของฟิตเนส
ด้านหน้าห้องจัดพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนชมวิวสระว่ายน้ำและสวนของโครงการ
ภาพจากชั้น 2 มองลงไปยังสระว่ายน้ำ ที่เชื่อมต่อกับสระน้ำและสวนสาธารณะ บรรยากาศดีมากๆ เลยโดยเฉพาะช่วงหัวค่ำ
คราวนี้เราเข้าไปดูภายในห้องฟิตเนสกันต่อค่ะ
ภายในฟิตเนสที่ทางโครงการได้จัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับการออกกำลังกายมาอย่างครบครัน
ทางฝั่งซ้ายมือติดริมหน้าต่างเป็นเครื่องออกกำลังกายแบบ Cardio ประกอบด้วย ลู่วิ่งไฟฟ้า, เครื่องเดินวงรี และจักรยานไฟฟ้าค่ะ
ฝั่งที่ติดกระจกเงาเป็นเครื่องออกกำลังกายแบบ Weight Training ชุดใหญ่ สามารถใช้ออกกำลังกายกล้ามเนื้อได้ครบทุกสัดส่วน
พร้อมชุดดัมเบลและม้านั่งราบด้วย
:::: บ้านตัวอย่าง ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo จะพาท่านผู้อ่านทุกคนไปชมรายละเอียดของบ้านตัวอย่างแบบเจาะลึกเหมือนเช่นเคย ในโครงการมีบ้านตัวอย่างอยู่ทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน นั่นก็คือ แบบบ้านซีรี่ส์ใหม่ C – Combine เป็นบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 140 ตร.ม. กับฟังก์ชั่นขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน และ แบบบ้าน Rosewood เป็นบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 164 ตร.ม. กับฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน ไปชมกันเลยค่า
::: แบบบ้านซีรี่ส์ใหม่ C – Combine ขนาด 140 ตร.ม. :::
แบบบ้านซีรี่ส์ใหม่ C – Combine เป็นบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น ขนาด 140 ตร.ม. ฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน ออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์นแบบ Tropical เหมาะกับอากาศเของมืองร้อน ใช้สีสันโทน ขาว เทา น้ำตาล และดำ ที่ช่วยดึงให้บ้านดูเรียบเท่ แต่ก็ยังดูอบอุ่น
แปลนชั้น 1 เริ่มจากหน้าบ้านเป็นพื้นที่จอดรถ สามารถจอดรถได้ 2 คัน ก่อนเข้าบ้านมีพื้นเฉลียงขนาดใหญ่ยกระดับขึ้นมา ภายในบ้านจะเป็นพื้นที่โถง Common Area ขนาดใหญ่ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหาร เชื่อมต่อไปยัง ห้องนอนชั้นล่าง, ห้องน้ำ และห้องครัว ซึ่งบริเวณหลังห้องครัวมีประตูสามารถเปิดเชื่อมกับลานซักล้างหลังบ้านได้ค่ะ
แปลนชั้น 2 เป็น Private Zone ของเจ้าของบ้านทั้งชั้น ประกอบด้วยห้องนอน 2 ห้อง ฝั่งหน้าบ้านเป็นส่วนของ Master Bedroom ส่วนฝั่งหลังบ้านเป็นส่วนของห้องนอนเล็กอีก 1 ห้อง ซึ่งความพิเศษของบ้านหลังนี้ก็คือเหมือนได้ Master Bedroom มาถึง 2 ห้องเลย แถมภายในก็มีห้องน้ำในตัวให้เรียบร้อยเป็นสัดเป็นส่วน
มาดูรายละเอียดของบ้านด้วยกันเลยค่ะ บ้านมาตรฐานจะได้ประตูรั้วทางเข้าบ้านแบบบานเลื่อนระแนงเหล็กสีดำ 1 ตอน สามารถเลื่อนเปิดได้จนสุด
ที่รั้วบ้านติดตั้ง Mailbox พร้อมกริ่งให้เรียบร้อย และยังมีช่องสำหรับเก็บขยะให้ สะดวกสำหรับลูกบ้านสามารถทิ้งขยะจากถังฝั่งด้านในบ้านได้เลย และยังทำให้ภาพรวมของโครงการดูสะอาด
เข้ามาในพื้นที่บ้านจะเป็นพื้นที่จอดรถ สามารถจอดรถได้ 2 คันแบบสบายๆ เหลือระยะเปิดประตูรถแบบไม่บีบอัด ที่พื้นใช้คอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหมด ที่ฝ้าเพดานติดไฟ LED ให้
จากพื้นที่จอดรถจะมีทางเชื่อมกับสวนหน้าบ้าน และมีทางเชื่อมกับเฉลียงหน้าบ้านเลย โดยส่วนเฉลียงจะมี Cover Way ให้ตลอด สามารถกันฝนได้
สังเกตพื้นที่ที่บริเวณหน้าบ้าน ทางโครงการทำการจัดสวนให้ตามมาตรฐานค่ะ โดยเลือกใช้ต้นไม้หลากหลายพันธุ์ ที่นอกจากจะสร้างความร่มรื่นและสวยงามแล้ว ยังสามารถใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนได้จริง
พื้นที่สวนข้างบ้านก็ถูกจัดให้อย่างสวยงามเลย เหลือให้เราไปดูแลต่อเท่านั้นเอง
เรากลับมาที่เฉลียงทางเข้าบ้านกันค่ะ จะเห็นว่าจะบริเวณที่จอดรถจะมีทางเชื่อมต่อมายังส่วนเฉลียงได้เลย แม้ในวันที่ฝนตกก็ไม่เปียกฝนแน่นอน
พื้นที่เฉลียงมีขนาดค่อนข้างใหญ่ทีเดียวนะ ยกระดับขึ้นมาจากพื้นประมาณ 15 ซม. ปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม. เป็นจุดที่เราสามารถวางม้านั่งและนั่งเปลี่ยนรองเท้าได้
ส่วนประตูทางเข้าบ้านใช้ประตูบานเลื่อนกรอบ UPVC สีขาวติดกระจกเขียวตัดแสง ช่วยป้องกันรังสี UV ได้ดี บานประตูสามารถเลื่อนเปิดได้แบบนี้ค่ะ
มือจับประตูแบบเซาะร่องและตัวล็อคประตูค่ะ
เมื่อเข้ามาด้านในตัวบ้านแล้วจะเจอโถง Common Area ขนาดใหญ่ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหาร เชื่อมต่อไปยัง ห้องนอนชั้นล่าง, ห้องน้ำ และห้องครัว พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ส่วนผนังบ้านเป็นผนัง Precast ฉาบปูนทาสีขาว ทำการติดตั้งอย่างดี รอยต่อน้ำไม่รั่วซึม
สังเกตที่ผนังทุกด้านจะได้หน้าต่างบานเลื่อนมาด้วยทำให้บ้านดูสว่างและโปร่งโล่ง โดยประตูภายนอกและหน้าต่างทั้งหมดของบ้านจะใช้บานกรอบ UPVC ติดกระจกเขียวตัดแสงทั้งหมด รวมถึงติดตั้ง Magnetic Sensor ที่ประตู – หน้าต่างชั้น 1 ทุกบาน ซึ่งระบบนี้จะเชื่อมต่อกับมือถือของลูกบ้าน และที่ป้อม รปภ. อีกด้วย
ส่วนฝ้าเพดานภายในบ้านก็สูงโปร่งถึง 2.7 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมติดดวงโคมซาลาเปาและดวงโคมดาวน์ไลท์มาให้ทั้งหลัง
สังเกตที่ใต้หน้าต่างจะมีช่องเปิดที่รับอากาศบริสุทธิ์จากสวนนอกบ้านให้หมุนเวียนเข้ามาในบ้านด้วยค่ะ เป็นระบบ Air Plus ที่ทาง Land&House ออกแบบขึ้นมาเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าของลูกบ้าน
เรามาดูไอเดียการจัดตกแต่งบ้านด้วยกันต่อเลยค่ะ เริ่มจากห้องนั่งเล่นกันก่อน ทางบ้านตัวอย่างได้จัดวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งเอาไว้ให้ แต่จริงๆ แล้วจะวางเป็นโซฟารูปตัว L หรือโซฟาเบดก็มีที่ข้างๆ เหลือพอค่ะ
ระยะการดูทีวีจากโซฟาถึง 2.5 เมตร สามารถดูทีวีจอใหญ่ๆ ขนาด 55 – 60 นิ้วได้เลยนะ ซึ่งบริเวณผนังฝั่งนี้เราสามารถวางชั้นวางทีวีหรือทำชั้น Built – in สำหรับเก็บของเพิ่มเติมได้
ภาพอีกมุมนึงในบริเวณห้องนั่งเล่น
จากห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับห้องรับประทานอาหาร
บ้านตัวอย่างจัดวางโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งมาให้ดูเป็นไอเดีย แต่เรายังสามารถต่อเก้าอี้หัว – ท้ายโต๊ะ เพิ่มเป็น 6 ที่นั่งในวันที่มีแขกมาก็ยังทำได้ค่ะ
ด้านข้างห้องรับประทานอาหารมีประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่สามารถเปิดเชื่อมต่อกับสวนข้างบ้านได้ด้วย
เปิดออกไปเราก็จะเจอสวนที่ทางโครงการได้จัดตกแต่งเอาไว้ให้อย่างสวยงามแล้ว
จากโถง Common Area ก็จะเชื่อมต่อกับ ห้องนอนชั้นล่าง, ห้องน้ำ, โถงบันได และห้องครัวค่ะ
เราเข้าไปดูภายในห้องครัวกันก่อน ห้องครัวของบ้านหลังนี้จะได้เป็นครัวปิด กั้นส่วนจาก Common Area ด้วยประตูบานเลื่อนกระจกแบบนี้ค่ะ
พื้นในห้องครัวก็ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้เหมือนกันนะ ลดระดับจากพื้นชั้น 1 เล็กน้อย
ภายในห้องครัวมีขนาดกำลังดีกับพื้นที่ใช้สอยของบ้าน สามารถวางเคาน์เตอร์รูป L Shape ได้อย่างลงตัวพร้อมเครื่องซักผ้า วางตู้เย็นไว้ที่ฝั่งขวา และเหลือพื้นที่ให้สามารถยืนปรุงอาหารได้ประมาณ 2 – 3 คนเลย
ขนาดของเคาน์เตอร์ที่วางได้ก็มีขนาดใหญ่นะ ใหญ่พอสำหรับเตาปรุงอาหาร, อ่างล้างจาน และยังเหลือพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารได้ ข้างๆ ส่วนเคาน์เตอร์ที่วางเตาแก๊สควรทำลดระดับจากระดับเคาน์เตอร์ปกติประมาณ 10 ซม. เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
ส่วนอ่างล้างมือจะเหมาะกับตำแหน่งที่ใกล้กับหน้าต่าง เพราะจะได้ช่วยระบายความชื้นได้
จากห้องครัวมีประตูบานเปิดสามารถเปิดออกสู่ส่วนซักล้างได้ค่ะ เป็นประตูบานทึบติดลูกฟักกระจกเป็นทางยาว พร้อมมือจับประตูแบบก้านโยกมาตรฐาน
พื้นที่ลานซักล้างหลังบ้านก็มีขนาดใหญ่ทีเดียวนะ เพียงพอสำหรับซักผ้าและตากผ้าเลย ซึ่งทางโครงการเตรียมพื้นซีเมนต์ปาดหน้าเรียบเอาไว้ให้แบบนี้
ภาพจากฝั่งห้องครัวมองย้อนกลับเข้ามาภายในบ้าน
ก่อนที่เราจะขึ้นไปดูชั้น 2 กัน มาดูห้องนอนและห้องน้ำชั้นล่างกันก่อนค่ะ
บริเวณโถงหน้าห้องทำพื้นลดระดับลงประมาณ 10 ซม.
ห้องนอนชั้นล่างถือว่ามีเนื้อที่ขนาดใหญ่เลยนะคะ ถ้าจัดเป็นห้องนอนก็สามารถวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้อย่างลงตัว เหมาะมากสำหรับจัดเป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุที่เดินขึ้น – ลงบันได้ไม่สะดวก หรือเราจะใช้ห้องนี้เป็นห้องอเนกประสงค์ก็ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นห้องพักผ่อนครอบครัว, ห้องทำงานส่วนตัว, ห้องเลี้ยงเด็ก, โฮมเธียเตอร์ และอื่นๆ ตามไลฟ์สไตล์ของลูกบ้านเลยค่ะ
ถ้าจัดห้องนี้เป็นห้องนอน ผนังห้องฝั่งนี้ก็จะเหมาะกับการวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง สามารถจัดตามบ้านตัวอย่างได้เลย
ส่วนอีกฝั่งวางเตียงขนาด 5 ฟุตแล้วก็จะยังเหลือพื้นที่ข้างๆ อยู่เยอะ แต่ที่บ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องทำงานดูโปร่งๆ เก๋ๆ เหมาะกับสาย Creative
สังเกตบริเวณมุมบนของผนังห้อง มีพัดลมดูดอากาศที่จะดูดอากาศเก่าภายในห้องให้ระบายออกไปภายนอกบ้าน เป็นส่วนหนึ่งของระบบ Air Plus อีกเช่นกัน
ภายในห้องน้ำชั้นล่างจะประกอบไปด้วยส่วนเปียกและส่วนแห้ง ใช้สุขภัณฑ์จาก American Standard ทั้งหมด ส่วนที่พื้นและผนังปิดผิวด้วยกระเบื้องขนาดต่างๆ ดูเรียบร้อยสวยงาม
โดยพื้นห้องน้ำจะลดระดับจากพื้นโถงด้านหน้าห้องอีกเล็กน้อยเพื่อกันน้ำไหลย้อน
มาดูสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำกันค่ะ ส่วนแรกคืออ่างล้างมือแบบแขวนผนังทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ พร้อมก๊อกน้ำแบบก้านโยก ด้านหลังก่อ Lower Wall ให้ สามารถวางของได้มากขึ้น
ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์ พร้อมอุปกรณ์ประกอบการใช้งานสีโครเมี่ยม ระยะนั่งกำลังดีไม่อึดอัดค่ะ
ที่ผนังฝั่งตรงข้ามก็มีราวสำหรับแขวนผ้าเช็ดตัวให้
ด้านในสุดเป็นโซน Shower พื้นลดระดับจากส่วนแห้งลงไปเล็กน้อย ตรงนี้เราสามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำ จะใช้เป็นกระจก Tempered Glass หรือม่านกั้นอาบน้ำก็ได้แล้วแต่ชอบค่ะ
ที่ผนังติดตั้ง Hand Shower พร้อมราวปรับระดับ รวมถึงเตรียมจุดสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยแล้ว
หัวฝักบัวมีขนาดกำลังดีนะคะ สามารถปรับรูปแบบของสายน้ำได้ด้วย
คราวนี้เราขึ้นไปบนชั้น 2 กันต่อเลย บันไดเป็นแบบลูกตั้งลูกนอนตีปิดทึบ ใช้ลูกนอนไม้ยางพาราประสานสีอ่อน สามารถ Match เข้ากับสีอื่นๆ ได้ง่าย ส่วนที่ผนังฝั่งขวามือติดตั้งราวมือจับไม้สีเดียวกันกับลูกนอนมาให้เป็นแบบโครงเหล็กฝังผนัง
ภาพมองย้อนกลับลงไปที่บันได เวลาเดินขึ้นให้เดินชิดขวาเอาไว้ จะได้จับราวจับได้ เพราะมีบันไดบางส่วนเป็นขั้นสามเหลี่ยมด้วย
ภาพมองย้อนกลับไปที่โถงบันได จะเห็นว่ามีช่องแสงเป็นหน้าต่างบาน Fixed และบานกระทุ้ง ช่วยทำให้ภายในโถงดูสว่างแม้ไม่ได้เปิดไฟในเวลากลางวัน
และที่บริเวณโถงบันได บ้านตัวอย่างทำชั้น Built – in เอาไว้บริเวณพื้นที่ที่เหลือ ช่วยเก็บของได้ดีค่ะ
พอเราขึ้นมาถึงชั้น 2 แล้ว ส่วนโถงบันไดจะเชื่อมต่อกับห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ฝั่งขวาคือห้องนอน Master Bedroom และฝั่งซ้ายคือห้องนอนรอง ซึ่งภายในห้องนอนแต่ละห้องจะมีห้องน้ำในตัวให้ด้วยเลยค่ะ ที่พื้นบนชั้น 2 ปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. ผนังฉาบเรียบทาสีขาว ส่วนฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบสูง 2.55 เมตร ติดตั้งดวงโคมซาลาเปาและดวงโคมดาวน์ไลท์ให้เหมือนเดิม
และบริเวณโถงบันไดชั้น 2 จะเป็นจุดที่ติดตั้งแผงควบคุมระบบ Air Plus และแผงควบคุมระบบป้องกันขโมยของบ้าน
เราเข้าไปดูภายในห้อง Master Bedroom กันก่อน เห็นพื้นที่ภายในห้องกว้างขวางมากทีเดียว สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ง่ายและลงตัวเลย แถมยังสว่างโปร่งโล่งเพราะได้ช่องแสงขนาดใหญ่มาหลายด้าน รับแสงธรรมชาติอย่างพอดี
ภายในห้องจะแบ่งออกเป็นโซนพักผ่อนและโซนแต่งตัวนะคะ เริ่มจากโซนพักผ่อนกันก่อน
พื้นที่ห้องสามารถวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้อย่างสบายๆ เลย สามารถเดินผ่านได้สะดวก และยังสามารถวางโต๊ะข้างได้ทั้ง 2 ฝั่งอีกด้วย
พื้นที่ปลายเตียงสามารถวางชั้นวางทีวีขนาดใหญ่ได้
และก็ยังเหลือพื้นที่เป็นทางเดิน เป็นระยะที่เดินผ่านได้สบาย
ด้านข้างเตียงนอนฝั่งขวามือมีประตูบานเลื่อน สามารถเปิดเชื่อมสู่ระเบียงฝั่งหน้าบ้านได้
พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม. มีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ทีเดียวสามารถจัดวาง Day Bed ได้เลยนะ
พื้นที่อีกฝั่งนึงของห้องเป็นส่วนแต่งตัว สามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้แบบนี้ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่อยู่หน้าห้องน้ำส่วนตัวพอดีค่ะ
ภายในห้องน้ำมีการวาง Lay Out ไม่ต่างจากห้องน้ำชั้นล่างเลยค่ะ แต่วัสดุและสุขภัณฑ์บางอย่างมีการอัพเกรดขึ้นเล็กน้อย
อ่างล้างมือพร้อมก๊อกน้ำใช้รุ่นเดิมนะคะ ผนังด้านหลังมี Lower Wall ให้ว่างของเพิ่มเติมได้
ส่วนโถสุขภัณฑ์จะอัพเกรดขึ้นมาเป็นแบบ Washlet พร้อมรีโมทควบคุมด้านข้าง ใช้งานได้สะดวกและประหยัดไฟ
ส่วนโซนอาบน้ำจะติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเลื่อนมาให้เรียบร้อย
พื้นที่ยืนอาบน้ำภายในกว้างขวางดี แถมยังมีม้านั่งให้นั่งอาบน้ำได้ด้วย
ส่วนที่ผนังก็ติดตั้งชุด Hand Shower พร้อมราวปรับระดับมาให้เหมือนเดิมค่ะ
เราเข้าไปดูภายในห้องนอนรองกันต่อ เป็นห้องสุดท้ายของบ้านแล้วค่ะ
พอเข้าไปในห้อง ส่วนแรกที่จะเจอก็คือโซนแต่งตัวและห้องน้ำค่ะ
ภายในห้องนี้ วัสดุและสุขภัณฑ์จะเหมือนกับห้องน้ำชั้นล่างทุกประการเลย เพียงแต่จะได้ฉากกั้นอาบน้ำมาเพิ่มเติมเหมือนห้องนอน Master Bedroom ค่ะ
เข้ามาด้านในส่วนพักผ่อน จริงๆ แล้วขนาดของห้องสามารถวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้เลยนะ
ทางบ้านตัวอย่างเลือกตกแต่งห้องให้เป็นห้องนอนเด็ก และใช้เตียงนอนขนาด 3.5 ฟุตมาให้ดูเป็นไอเดีย โดยพื้นที่ใต้เตียงทำเป็นลิ้นชักเก็บของ
พื้นที่อีกฝั่งที่เชื่อมกับห้องน้ำก็ทำเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งขนาดย่อมๆ
ส่วนฝั่งปลายเตียงนอนก็สามารถทำชั้นเก็บของและวางโต๊ะทำงานได้อีก 1 ตัว
นอกจากนี้ ที่ห้องนอนชั้น 2 ทั้ง 2 ห้องก็ติดพัดลมระบายอากาศมาให้เหมือนห้องนอนชั้นล่างค่ะ
ส่วนสวิตช์และปลั๊กไฟก็ใช้ของ Siemens ทั้งหมด
::: แบบบ้าน Rosewood ขนาด 164 ตร.ม. :::
แบบบ้าน Rosewood เป็นบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น ขนาด 164 ตร.ม. ฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน ออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์นแบบ Tropical เหมาะกับอากาศเของมืองร้อน ใช้สีสันโทน ขาว เทา น้ำตาลลายไม้ และดำ ที่ช่วยดึงให้บ้านดูเรียบเท่ แต่ก็ยังดูอบอุ่น
แปลนชั้น 1 เริ่มจากหน้าบ้านเป็นพื้นที่จอดรถ สามารถจอดรถได้ 2 คัน ซึ่งบริเวณที่จอดรถจะมีประตูเล็กสามารถเปิดเข้าสู่ตัวบ้านได้ ฝั่งหน้าบ้านมีพื้นเฉลียงขนาดใหญ่ยกระดับขึ้นมา ภายในบ้านจะเป็นพื้นที่โถง Common Area ขนาดใหญ่ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหาร เชื่อมต่อไปยัง ห้องน้ำ, พื้นที่เตรียมอาหาร และห้องครัว ซึ่งบริเวณหลังห้องครัวมีประตูสามารถเปิดเชื่อมกับลานซักล้างหลังบ้านได้ค่ะ
แปลนชั้น 2 เป็น Private Zone ของเจ้าของบ้านทั้งชั้น ประกอบด้วยห้องนอน 3 ห้อง, ห้องน้ำชั้นบน และพื้นที่พักผ่อน ฝั่งหน้าบ้านเป็นส่วนของ Master Bedroom ส่วนฝั่งหลังบ้านเป็นส่วนของห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง ซึ่งภายในห้องนอน Master Bedroom จะได้ห้องน้ำในตัวมาด้วย ส่วนห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องจะแชร์ห้องน้ำชั้นบนที่อยู่ตรงกลางโถงค่ะ
มาดูรายละเอียดของบ้านด้วยกันเลยค่ะ บ้านมาตรฐานจะได้ประตูรั้วทางเข้าบ้านแบบบานเลื่อนระแนงเหล็กสีดำ 1 ตอน สามารถเลื่อนเปิดได้จนสุด ส่วนที่รั้วบ้านติดตั้ง Mailbox พร้อมกริ่งให้เรียบร้อย และยังมีช่องสำหรับเก็บขยะให้ สะดวกสำหรับลูกบ้านสามารถทิ้งขยะจากถังฝั่งด้านในบ้านได้เลย
เข้ามาในพื้นที่บ้านจะเป็นพื้นที่จอดรถ สามารถจอดรถได้ 2 คันแบบสบายๆ เหลือระยะเปิดประตูรถแบบไม่บีบอัด ที่พื้นใช้คอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหมด ที่ฝ้าเพดานติดไฟฟลูออเรสเซ้นต์ให้
บริเวณที่จอดรถมีประตูทางเข้าบ้านบานเล็ก สามารถเปิดเข้าสู่ภายในตัวบ้านได้เลยโดยไม่ต้องผ่านบริเวณห้องนั่งเล่น สะดวกเวลาที่ซื้อของเข้าบ้านก็สามารถเดินตรงเข้าไปในห้องครัวได้เลย หรือในวันที่ฝนตก ถ้าเข้าบ้านทางนี้ก็จะไม่โดนฝนสาดค่ะ นอกจากนี้ก็จะมีช่องเก็บของให้ เหมาะสำหรับพวกอุปกรณ์ทำสวนและอุปกรณ์ทำความสะอาดรถ
ประตูทางเข้าบ้านจากที่จอดรถ เป็นประตูบานทึบติดลูกฟักกระจก มือจับแบบก้านโยกมาตรฐาน พื้นยกระดับให้ 15 ซม.ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้
จากบริเวณที่จอดรถก็มีทางเชื่อมสู่เฉลียงหน้าบ้านเช่นกัน
สังเกตพื้นที่ที่บริเวณหน้าบ้าน ทางโครงการทำการจัดสวนให้ตามมาตรฐานค่ะ โดยเลือกใช้ต้นไม้หลากหลายพันธุ์ ที่นอกจากจะสร้างความร่มรื่นและสวยงามแล้ว ยังสามารถใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนได้จริง
พื้นที่สวนข้างบ้านก็ถูกจัดให้อย่างสวยงามเลย เหลือให้เราไปดูแลต่อ
เรากลับมาที่เฉลียงทางเข้าบ้านกันค่ะ
พื้นที่เฉลียงมีขนาดค่อนข้างใหญ่ทีเดียวนะ ยกระดับขึ้นมาจากพื้นประมาณ 15 ซม. ปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม. เป็นจุดที่เราสามารถวางม้านั่งและนั่งเปลี่ยนรองเท้าได้
ส่วนประตูทางเข้าบ้านใช้ประตูบานเลื่อนกรอบ UPVC สีขาวติดกระจกเขียวตัดแสง ช่วยป้องกันรังสี UV ได้ดี บานประตูสามารถเลื่อนเปิดได้แบบนี้ค่ะ
บ้านที่เราเข้ามาดูเป็นบ้านเปล่าที่ผ่าน QC แล้ว เมื่อเข้ามาด้านในตัวบ้านแล้วจะเจอโถง Common Area ขนาดใหญ่ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหาร เชื่อมต่อไปยัง ห้องน้ำ, พื้นที่เตรียมอาหาร และห้องครัว พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ส่วนผนังบ้านเป็นผนัง Precast ฉาบปูนทาสีขาว ทำการติดตั้งอย่างดี รอยต่อน้ำไม่รั่วซึม
สังเกตที่ผนังทุกด้านจะได้หน้าต่างบานเลื่อนมาด้วยทำให้บ้านดูสว่างและโปร่งโล่ง โดยประตูภายนอกและหน้าต่างทั้งหมดของบ้านจะใช้บานกรอบ UPVC ติดกระจกเขียวตัดแสงทั้งหมด รวมถึงติดตั้ง Magnetic Sensor ที่ประตู – หน้าต่างชั้น 1 ทุกบาน ซึ่งระบบนี้จะเชื่อมต่อกับมือถือของลูกบ้าน และที่ป้อม รปภ. อีกด้วย
ส่วนฝ้าเพดานภายในบ้านก็สูงโปร่งถึง 2.65 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบทาสีขาว ทำดรอปฝ้าให้เรียบร้อยเพื่อความสวยงาม และได้ประโยชน์คือเป็นการแบ่ง Area ของพื้นที่ใช้สอยด้วยในตัว พร้อมติดดวงโคมซาลาเปาและดวงโคมดาวน์ไลท์มาให้ทั้งหลัง
พื้นที่ของห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารจะเชื่อมต่อเปิดโล่งกันแบบนี้ค่ะ ในส่วนของห้องนั่งเล่นเราสามารถวางโซฟาเบดหรือโซฟารูปตัว L ได้ และสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งได้ในส่วนของห้องรับประทานอาหาร โดยส่วนนี้มีประตูบานเลื่อนสามารถเปิดเชื่อมต่อกับพื้นที่สวนได้
ที่ผนังฝั่งห้องนั่งเล่นเราสามารถวางชั้นวางทีวีหรือทำชั้น Built – in สำหรับเก็บของเพิ่มเติมได้ แถมยังมีระยะดูทีวีที่กว้างกว่า 3 เมตร สามารถรองรับจอทีวีขนาด 70 นิ้วขึ้นไปได้เลย
ส่วนบริเวณห้องรับประทานอาหารก็จะเชื่อมต่อกับพื้นที่เตรียมอาหาร เป็นช่องประตูขนาดใหญ่เปิดโล่งแบบนี้
พื้นที่ด้านในสามารถวางเคาน์เตอร์ Pantry ได้ทั้ง 2 ฝั่ง
โดยฝั่งที่อยู่ติดกับหน้าต่างได้เตรียมท่อน้ำดีน้ำเสียสำหรับอ่างล้างจานมาให้แล้วเรียบร้อย
ส่วนห้องครัวจะได้เป็นครัวปิด กั้นส่วนจาก Common Area และ Pantry ด้วยประตูบานเลื่อนกระจกแบบนี้ค่ะ
ภายในห้องครัวมีขนาดกำลังดีกับพื้นที่ใช้สอยของบ้าน ทางโครงการทำเคาน์เตอร์รูป L Shape เตรียมมาให้เราทำ Built – in ใต้เคาน์เตอร์ต่อเองตามชอบ
พื้นในห้องครัวก็ปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม. ลดระดับจากพื้นชั้น 1 เล็กน้อย
จากห้องครัวมีประตูบานเปิดสามารถเปิดออกสู่ส่วนซักล้างได้ค่ะ เป็นประตูบานทึบติดลูกฟักกระจกเป็นทางยาว พร้อมมือจับประตูแบบก้านโยกมาตรฐาน
พื้นที่ลานซักล้างหลังบ้านก็มีขนาดใหญ่ทีเดียวนะ เพียงพอสำหรับซักผ้าและตากผ้าเลย ซึ่งทางโครงการเตรียมพื้นซีเมนต์ปาดหน้าเรียบเอาไว้ให้แบบนี้
พร้อมติดตั้งถังเก็บน้ำและปั๊มน้ำมาให้กับตัวบ้านเรียบร้อยแล้วด้วย
ภาพจากฝั่งห้องครัวมองย้อนกลับเข้ามาภายในบ้าน
ก่อนที่เราจะขึ้นไปดูชั้น 2 กัน มาดูห้องน้ำชั้นล่างกันก่อนค่ะ
ห้องน้ำชั้นล่างเป็นพื้นที่ใต้บันไดชั้น 2 ขนาดของห้องจะกระทัดรัดหน่อยแต่ก็ยังมีระยะการใช้งานได้สะดวกนะ
โดยพื้นห้องน้ำจะลดระดับจากพื้นโถงด้านหน้าห้องอีกเล็กน้อยเพื่อกันน้ำไหลย้อน
ภายในห้องน้ำชั้นล่างจะประกอบไปด้วยส่วนเปียกและส่วนแห้ง ใช้สุขภัณฑ์จาก American Standard ทั้งหมด ส่วนที่พื้นและผนังปิดผิวด้วยกระเบื้องขนาดต่างๆ ดูเรียบร้อยสวยงาม
มาดูสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำกันค่ะ ส่วนแรกคืออ่างล้างมือแบบแขวนผนังทรงสี่รี พร้อมก๊อกน้ำแบบก้านโยก ด้านหลังก่อ Lower Wall ให้ สามารถวางของได้มากขึ้น
ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์ พร้อมอุปกรณ์ประกอบการใช้งาน
ที่ผนังด้านข้างก็มีราวสำหรับแขวนผ้าเช็ดตัวให้
โซน Shower จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโถสุขภัณฑ์ ที่พื้นก่อธรณีกันน้ำไหลย้อนมาให้ ตรงนี้เราสามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำ จะใช้เป็นกระจก Tempered Glass หรือม่านกั้นอาบน้ำก็ได้แล้วแต่ชอบค่ะ
ที่ผนังติดตั้ง Hand Shower พร้อมจานวางสบู่มาให้เรียบร้อยแล้ว
ขนาดหัวฝักบัวกระทัดๆ จับใช้งานได้สะดวก
ส่วนที่ฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์มาให้ มีหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บานเป็นช่องแสงและทางระบายอากาศค่ะ
เราขึ้นไปดูที่ชั้น 2 ด้วยกันต่อเลยค่ะ สังเกตที่ข้างๆ บันไดเป็นประตูทางเข้าบ้านจากส่วนที่จอดรถนั่นเอง
บันไดเป็นแบบลูกตั้งลูกนอนตีปิดทึบ ใช้ลูกนอนไม้ยางพาราประสาน เป็นสีที่สามารถ Match เข้ากับสีอื่นๆ ได้ง่าย ส่วนที่ผนังฝั่งขวามือติดตั้งราวมือจับไม้สีเดียวกันกับลูกนอนมาให้เป็นแบบโครงเหล็กฝังผนัง
ภาพมองย้อนกลับลงไปที่บันได
พอเราขึ้นมาถึงชั้น 2 แล้ว ส่วนโถงบันไดจะเชื่อมต่อกับห้องนอนทั้ง 3 ห้อง, พื้นที่พักผ่อน และห้องน้ำ ที่พื้นบนชั้น 2 ปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. ผนังฉาบเรียบทาสีขาว ส่วนฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบสูง 2.55 เมตร ติดตั้งดวงโคมซาลาเปาและดวงโคมดาวน์ไลท์ให้เหมือนเดิม
ฝั่งซ้ายมือเป็นฝั่งหน้าบ้านค่ะ คือห้องนอน Master Bedroom และพื้นที่พักผ่อน
ส่วนฝั่งขวามือคือห้องน้ำ และห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง
ภาพมองย้อนกลับไปที่โถงบันได จะเห็นว่าส่วนนี้สว่างโดยไม่ต้องเปิดไฟเลยจริงๆ เพราะมีช่องแสงมาให้โดยรอบ
พื้นที่พักผ่อนของชั้น 2 จะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าชั้นล่าง เพราะจะมีเฉพาะเจ้าของบ้านเท่านั้นที่ขึ้นมาได้ นอกจากจะจัดให้เป็นพื้นที่นั่งเล่นได้แล้ว ยังสามารถใช้เป็นห้องอเนกประสงค์ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะทำเป็นมุมนั่งอ่านหนังสือ ทำงาน หรือกั้นเป็นห้องออกกำลังกายก็สามารถทำได้ค่ะ โดยจะมีประตูบานเลื่อนสามารถเชื่อมต่อกับระเบียงหน้าบ้านได้
พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม. มีพื้นที่ที่ค่อนข้างกว้างขวางทีเดียวนะ สามารถจัดวางพวกกระถางต้นไม้และม้านั่ง ทำเป็นมุมนั่งเล่นหน้าบ้านบนชั้น 2 ได้อีกมุม
เราจะเข้าไปดูภายในห้องนอน Master Bedroom กันต่อเลยค่ะ
ภายในห้องนอนมีขนาดกว้างขว้างมากๆ สมกับเป็นห้องนอน Master สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างลงตัว โดยส่วนนี้สามารถวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุต พร้อมชุดโซฟาสำหรับนั่งพักผ่อนและนั่งดูทีวีได้อีกชุดนึงเลยทีเดียว
มองไปที่อีกฝั่งนึงของห้องจะเป็นโซนแต่งตัวซึ่งเชื่อมกับห้องน้ำส่วนตัวค่ะ
พื้นที่ส่วนนี้เราสามารถทำตู้ Built – in เป็นรูปตัว L พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งได้เลย แต่ถ้าไม่พอเราสามารถแบ่งพื้นที่ห้องส่วนอื่นเพื่อวางตู้เสื้อผ้าได้อีก เช่น บริเวณผนังข้างเตียงนอน เพราะยังเหลือพื้นที่อีกเยอะพอสมควร
ทั้งวัสดุและสุขภัณฑ์จะไม่ต่างจากห้องน้ำชั้นล่างเลยค่ะ เพียงแต่ว่าจะใช้กระเบื้องตกแต่งเยอะกว่า และมีการอัพเกรดสุขภัณฑ์บางส่วน
อย่างโถสุขภัณฑ์ก็ใช้ฝารองนั่งแบบ Washlet พร้อมรีโมทควบคุมด้านข้าง
โซน Shower ก็มีขนาดใหญ่ขึ้นแถมยังมีม้านั่งให้นั่งอาบน้ำได้
และติดตั้ง Hand Shower มาพร้อมกับราวประระดับด้วย ใช้งานสะดวกมากขึ้น
คราวนี้เรามาดูห้องน้ำชั้นบน และห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องกันต่อ
ภายในห้องน้ำชั้นบน ใช้วัสดุและสุขภัณฑ์จะไม่ต่างจากห้องน้ำ Master เลยค่ะ เพียงแต่จะไม่ได้ฝารองนั่งแบบ Washlet, ม้านั่งอาบน้ำ และราวปรับระดับตรง Hand Shower มาด้วย
ตามด้วยห้องนอนรอง ภายในห้องได้ช่องแสงมา 2 ด้าน ขนาดช่องแสงกำลังดีเหมาะกับขนาดของห้อง
พื้นที่ภายในห้องสามารถวางเตียงนอนขนาด 3.5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้อย่างลงตัว
สุดท้ายคือห้องนอนเล็ก เป็นห้องที่มีขนาดเล็กที่สุดของบ้าน แต่ห้องนี้ได้หน้าต่างมาถึง 3 ด้านเลยนะ
แม้จะมีขนาดเล็กแต่พื้นที่ห้องก็ยังสามารถวางเตียงนอนและเฟอร์นิเจอร์หลักๆ ได้ครบและลงตัวเหมือนกันค่ะ
:::: ราคา (พฤษภาคม 2562) ::::
แบบบ้าน C – Combine ขนาด 140 ตร.ม.
แบบบ้าน Rosewood ขนาด 164 ตร.ม.
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ ชัยพฤกษ์ พุทธมณฑล สาย 5 ตั้งอยู่ติดถนนพุทธมณฑลสาย 5 ใกล้ถนนบรมราชชนนี และถนนเพชรเกษม ทำเลนี้จะเป็นย่านที่อยู่อาศัยในแนวราบ มีโครงการบ้านจัดสรรขนาดเล็กและขนาดใหญ่ขึ้นอยู่ใกล้ๆ กันไม่ว่าจะเป็นโครงการทาวน์โฮมหรือบ้านเดี่ยว ส่วนพื้นที่ติดถนนใหญ่ก็จะเป็นพวกอาคารพาณิชย์ค่ะ โดยรวมในทำเลนี้ยังสามารถพัฒนาไปได้อีกมาก เพราะยังมีผืนที่ดินเปล่าและพื้นที่สำหรับทำเกษตรกรรมเหลืออยู่มากพอสมควร
ถึงแม้ว่าตัวโครงการจะอยู่ไกลออกมาจากจุดศูนย์กลาง แต่ก็อยู่ไม่ไกลจากแหล่งสาธารณูปโภคต่างๆ ใกล้เคียงกับตัวโครงการในระยะเดินพอจะมีร้านสะดวกซื้ออย่าง 7 – Eleven, ร้านอาหาร และอาคารพาณิชย์ พอจะให้จับจ่ายใช้สอยได้บ้าง ห่างออกไปในระยะขับรถก็ใกล้ Makro ศาลายา และ Central ศาลายา ค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว จากทำเลที่ตั้งทำให้การเดินทางด้วยรถส่วนตัวถือว่าค่อนข้างได้เปรียบอยู่พอตัวค่ะ เพราะตัวโครงการนั้นตั้งอยู่ติดถนนพุทธมณฑลสาย 5 ที่สามารถเชื่อมสู่ถนนบรมราชชนนีและถนนเพชรเกษมได้โดยตรง โดย ถนนบรมราชชนนี จะสามารถใช้วิ่งตรงไปถึงสะพานธนบุรีข้ามฝั่งตรงไปถึงอนุสาวรีย์ได้เลย ส่วน ถนนเพชรเกษม ถ้าวิ่งไปฝั่งทิศตะวันออกมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองก็จะสามารถไปถึงวงเวียนใหญ่ได้เช่นกัน และสามารถวิ่งเข้าถนนราชพฤกษ์ข้ามสะพานตากสินไปฝั่งกรุงเทพฯ ได้ นอกจากนี้จากตัวโครงการก็สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนกาญจนาภิเษกได้สะดวกนะ ตรงนั้นก็จะมีจุดขึ้นทางพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอก สามารถเข้าสู่ตัวเมืองได้อย่างรวดเร็วค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ ทำเลนี้จะยังเหมาะกับผู้ที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวมากกว่าค่ะเพราะปัจจุบันที่หน้าโครงการจะไม่ค่อยมีรถสาธารณะวิ่งผ่านเท่าไหร่ พอจะมีวินมอเตอร์ไซค์และรถแท็กซี่วิ่งผ่านอยู่เป็นช่วงๆ สามารถเรียกได้สะดวก แต่ถ้าจะให้สะดวกที่สุดก็คือเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอพพลิเคชั่น Grab Taxi และ Line Taxi ประกอบกันไปค่ะ
ตอนนี้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง – บางแค ก็ใกล้จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนปี 2562 นี้แล้ว โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีหลักสอง ก็ถือว่ายังไกลจากตัวโครงการพอควร แต่ที่ใกล้กว่าก็คือโครงการรถไฟฟ้าสีน้ำเงิน (ในอนาคต) ช่วง บางแค – สายสี่ ซึ่งสถานีสายสี่จะอยู่บริเวณแยกพุทธมณฑลสาย 4 พอดี แต่โครงการนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566 ต้องรอกันไปอีกหน่อยนะจ๊ะ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการบ้านเดี่ยวออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์นที่บวกความเป็น Tropical เข้าไปให้เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนชื้น ฟังก์ชั่นในบ้านเน้นการใช้ประโยชน์อย่างเต็มพื้นที่ แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน ลงตัวทุกการใช้งาน วัสดุที่ให้มาก็อยู่ในระดับดีสมราคา พื้นที่ใช้งานแต่ละส่วนมีความลงตัวดี มีระยะใช้งานสบายๆ ไม่อึดอัด บ้านทุกหลังมีเพดานสูง 2.55 – 2.7 เมตร และหน้าต่างบานใหญ่ช่วยนำแสงธรรมชาติเข้าสู่ตัวบ้านได้มาก และช่วยให้บ้านโปร่ง อากาศถ่ายเทดี
ส่วนวัสดุที่เราได้มากับบ้านมาตรฐานนั้นก็คือ ผนังบ้านฉาบปูนเรียบทาสีขาว ฝ้าเพดานยิปซั่มฉาบเรียบทาสีขาว, ลานจอดรถเป็นซีเมนต์ฉาบเรียบ, พื้นบ้านชั้นล่างปูกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 ซม. ชั้นบนเป็นพื้นลามิเนตหนา 8 มม. สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ American Standard ห้อง Master Bedroom ได้โถสุขภัณฑ์แบบ Washlet มาด้วย ประตูและหน้าต่างภายในบ้านบานใหญ่ กรอบเป็น UPVC สีขาว กระจกเขียวตัดแสง สำหรับบ้านซีรี่ส์ใหม่ หรือแบบบ้าน C – Combine ก็จะได้ระบบ Air Plus เพิ่มเติมเข้ามาด้วยค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ทางโครงการเองก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้อย่างเพียงพอ นับว่าทำมาได้ดีทีเดียวเลยนะคะ ช่วยสร้างบรรยากาศของโครงการได้เป็นอย่างดี ทั้ง คลับเฮ้าส์, สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่ใช้งานได้จริง แยกสระเด็ก – สระผู้ใหญ่, ฟิตเนสพร้อมเครื่องออกกำลังกายแบบครบชุด, ห้องรับรองภายใน และสวนสาธารณะพร้อมสระน้ำขนาดใหญ่ ส่วนกลางของโครงการเมื่อเทียบกับปริมาณยูนิตแล้วก็คือว่าดีเลยค่ะ ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยก็ได้มาตรฐานไม่น้อยหน้าโครงการอื่น เป็นแบบ Triple Security รวมถึงมีระบบป้องกันขโมยติดตั้งมาให้ภายในบ้านทุกๆ หลังอีกด้วย
:::: คะแนน ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 7.9 | อยู่ติดถนนพุทธมณฑลสาย 5 เดินทางสะดวก บรรยากาศเป็นส่วนตัว สาธารณูปโภครองรับที่อยู่อาศัย |
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว | 7.9 | อยู่ติดถนนใหญ่ สามารถเชื่อมต่อกับถนนสายหลักได้ง่าย อยู่ไม่ไกลจากวงแหวนกาญจนาภิเษก และจุดขึ้นทางพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอก |
การเดินทางโดยรถสาธารณะ | 7.0 | ไม่ค่อยมีรถประจำทางวิ่งผ่านหน้าโครงการ แต่พอจะมีวินมอเตอร์ไซค์และรถแท็กซี่วิ่งผ่าน บริเวณนั้นเองก็มี Garb Taxi รวมถึง Uber ขับผ่าน สามารถเรียกผ่าน Application ให้เข้ามาที่ตัวโครงการได้ไม่ยาก |
บ้านและวัสดุ | 7.9 | บ้านสไตล์โมเดิร์น ฟังก์ชั่นขนาดใหญ่กำลังดี จัดวางเฟอร์ได้ง่าย ใช้สอยสะดวก วัสดุได้มาตรฐาน |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.4 | สิ่งอำนวยความสะดวกมีให้อย่างเหมาะสมกับขนาดของโครงการ สัมผัสได้ว่าดีไซน์ออกมาด้วยความใส่ใจ ดูสวยงามและน่าใช้งานมากๆ |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.0 | โครงการเหมาะสำหรับครอบครัวขนาด 3 – 4 คน เดิมอาศัย หรือทำงานอยู่ใกล้เคียงกับบริเวณโครงการ ใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางเป็นหลัก |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.85 | ดี |
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
CALL CENTER : 1198
สำนักงานขาย : 092 279 8173, 086 977 5577
WEBSITE : https://www.lh.co.th/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
แสดงความคิดเห็น