ชื่อโครงการ
ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ Chewathai Residence Bang Pho
เจ้าของโครงการ
ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) Chewathai PLC.
ลักษณะห้องและขนาดห้อง
1 Bedroom Small : Type A1-A5 ขนาด 33.5-36 ตร.ม.
1 Bedroom Big : Type B1-B5 ขนาด 42.5-49 ตร.ม.
2 Bedrooms : Type C1-C3 ขนาด 68-78.5 ตร.ม.
3 Bedrooms (Penthouse) : Type P1-P2 ขนาด 95.5-117 ตร.ม.
เนื้อที่ทั้งหมด
1-1-94.3 ไร่
จำนวนตึก
1 อาคาร
จำนวนชั้น
24 ชั้น
จำนวนห้อง
172 ยูนิต
ที่จอดรถทั้งหมด
ประมาณ 80% รวมจอดซ้อนคัน
โซน
เขตบางซื่อ
ขนส่งสาธารณะ
รถไฟฟ้า MRT บางโพ 80 เมตร
รถไฟฟ้า MRT เตาปูน
รถโดยสารที่ผ่าน
รถเมล์สาย 5, 16, 30, 66, ปอ.505
ที่ตั้ง
ถ.ประชาราษฏร์ สาย 2 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ
กำหนดการ
เปิด Pre-Sale ประมาณกลางเดือน ก.ย. 58
ปีที่สร้างเสร็จ
สร้างเสร็จพร้อมอยู่ (ประมาณ Q.4 ปี 2560)
ราคา
เริ่มต้น 4.19 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม
ราคาเริ่มต้น 117,500 บาท/ ตร.ม.
ราคาเฉลี่ย 125,000 บาท/ ตร.ม.
ค่าส่วนกลางและกองทุน
ค่าเงินกองทุนแรกเข้า : 500 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง : 50 บาท/ตร.ม.
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
MRT บางโพ 60 ม.
สถานีรถไฟบางซื่อ 2 กม.
ท่าเรือด่วนบางโพ 350 ม.
เดอะ มาร์เก็ต 200 ม.
สุพรีม คอมเพล็กซ์ สามเสน 2 กม.
แมคโคร สามเสน 2 กม.
เทสโก้ โลตัส ประชาชื่น 1.3 กม.
JJ Mall 5 กม.
JJ Green 5.8 กม.
เซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว 8 กม.
ยูเนี่ยน มอลล์ 7 กม.
บิ๊กซี สะพานควาย 5 กม.
ตลาดเตาปูน 1 กม.
ชุมทาง สยามยิปซี 2.6 กม.
ร.ร.โยธินบูรณะ 1.1 กม.
ร.ร.ราชินีบน 2.3 กม.
ร.ร.สตรีนนทบุรี 3.2 กม.
ร.ร.สามเสนวิทยาลัย 3.5 กม.
ร.ร.หอวัง 6.7 กม.
ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 2.9 กม.
ม.เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตพระนครเหนือ 2.2 กม.
ม.เซนต์จอห์น 6.3 กม.
ร.พ.บางโพ 130 ม.
ร.พ.ยันฮี 2.36 กม.
ร.พ.เปาโล เมมโมเรียล 5 กม.
รัฐสภาใหม่ 1.3 กม.
กรมสรรพาวุธ ทหารบก 1.7 กม.
ขนส่งหมอชิต 7.4 กม.
สวนจตุจักร 5.5 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก
River View Sky Lap Pool
Panoramic Fitness
Steam Room
Business Lounge
Main Lobby
Sky & Pocket Garden
Mailbox Room
Elevators Access Control
Motion sensor
Digital door lock – Yale
Water heater
CCTV
24-hour Security Guards
จุดเด่นของโครงการ
ชีวาทัย เตรียมเปิดตัวคอนโดใหม่ “ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ” คอนโดใหม่ วิวแม่น้ำ ติดรถไฟฟ้า MRT สถานีบางโพ สังคมส่วนตัวเพียง 172 ยูนิต เริ่ม 4.19 ล้านบาท*
คอนโดใกล้เคียง
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ถ.ประชาราษฏร์ สาย 2 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ
พิกัด : 13.806164, 100.522522
แผนที่จากทางโครงการ
ทำเลที่ตั้ง โครงการ Chewathai Residence บางโพ ตั้งอยู่บน ถนนประชาราษฎร์ สาย 2 หรืออยู่ติดกับ ปณ.บางโพ และตรงข้ามเยื้องๆ กับ รพ.บางโพ ค่ะ ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ใกล้กับแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงโค้งน้ำพอดี ทำเลจัดอยู่ในพื้นที่กรุงเทพตอนเหนือ ย่านบางโพ ที่ใกล้กับทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ทางด่วนเปิดใหม่ และอยู่ไม่ไกลจากแยกบางโพ เพียง 100 เมตรเท่านั้น ซึ่งตรงนั้นจะเป็นที่ตั้งของสถานี รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินบางโพ ช่วงต่อขยายบางซื่อ-ท่าพระ ที่สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงได้ในอนาคต ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2562 นับว่าเป็นโครงการคอนโด High Rise อีกตัวที่น่าสนใจในย่านนี้
ตัวโครงการสามารถเชื่อมต่อกับตัวเมือง จ.นนทบุรีได้ เนื่องจากอยู่ใกล้กับสะพานพระราม 7 ข้ามฝั่งไปก็สามารถวิ่งออก ถ.ราชพฤกษ์-บางกรวย-ไทรน้อยได้ค่ะ หรือจะวิ่งเข้าตัวเมืองกรุงเทพมหานครชั้นใน โซนดุสิต หรือวิ่งออกตัวเมืองในโซนจตุจักร กำแพงเพชร ถึงห้าแยกลาดพร้าวได้เช่นกัน
การเดินทางด้วยรถยนต์ ถือว่าเดินทางสะดวกสบายค่ะ เนื่องจากโครงการอยู่ติดถนนประชาราษฏร์สาย 2 และอยู่ใกล้แยกบางโพมากๆ เพียง 100 เมตรเท่านั้นเอง รวมถึงไม่ไกลจากทางพิเศษศรีรัช-วงแหวน ซึ่งเป็นตัวช่วยให้สามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวกกว่าเดิมที่ต้องวิ่งไปขึ้นบริเวณประชาชื่น แยกประชานุกูล
รวมถึงถนนประชาราษฏร์สาย 2 นี้ยังเชื่อมต่อกับถนนสายหลักเส้นอื่นๆ อย่างเช่น ถนนประชาราษฏร์สาย 1, ที่วิ่งไปสะพานพระราม 7 หรือแยกเกียกกาย-สามเสนได้, ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ที่แยกเตาปูน วิ่งไปแยกวงศ์สว่างได้, ถนนประชาชื่น วิ่งไปสี่แยกประชานุกูล หรือออกสู่ถนนพระราม 6 สู่โซนจตุจักร ได้อีกด้วยค่ะ รวมถึงไม่ไกลจากถนนทหาร บริเวณแยกเกียกกาย ซึ่งนอกจากจะเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งใหม่แล้ว ในอนาคตจะมีโครงการสะพานเกียกกาย ที่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเชื่อมต่อกับถนนจรัญสนิทวงศ์ เพื่อรองรับเมกะโปรเจครัฐสภาแห่งใหม่ รวมถึงการขยายถนนประชาราษฏร์สาย 1 ต่อไปยังถนนทหาร และสร้างถนนคู่ขนานสามเสน , สร้างถนนเชื่อมสะพานเกียกกาย กับถนนกำแพงเพชรอีกด้วย ซึ่งก็ล้วนเป็นถนนเส้นหลัก ที่ใช้เดินทางในละแวกโครงการแทบทั้งสิ้นค่ะ
ภาพหน้าตาของสะพานเกียกกาย เมื่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ตำแหน่งของโครงการรัฐสภาแห่งใหม่ รวมถึงสะพานเกียกกาย และอาคารสูงในอนาคต ซึ่งถึงแม้โครงการจะอยู่ใกล้รัฐสภาแห่งใหม่ระยะ 1.1 กิโลเมตรก็ตาม แต่การผุดขึ้นของคอนโด High Rise แบบโครงการเราในย่านบางโพคงจะต้องกระเถิบออกมานะคะ เนื่องจากติดข้อกฏหมายจำกัดความสูงของโครงการโดยรอบรัฐสภา
ทางด่วน หากต้องการมุ่งหน้าออกเมืองไปทางรังสิต จากโครงการสามารถวิ่งขึ้นทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ที่เพิ่งเปิดใหม่ให้ใช้งานเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งสามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก ซึ่งแต่ก่อนจะต้องวิ่งผ่าน ถ.วงศ์สว่าง ขึ้นที่ด่านประชาชื่นเพียงทางเดียวเท่านั้น ส่วนจากโครงการ ก็สามารถวิ่งออกสู่ดอนเมืองโทลเวย์ได้นะคะ
ส่วนหากต้องการเข้าเมืองไปทางฝั่งพระนคร-ดาวคะนอง-พระราม 9 จากโครงการเลี้ยวซ้าย วิ่งออกสู่ ถ.ประชาราษฏร์สาย 1 ผ่าน ถ.ทหาร และไปขึ้นทางด่วนด่านคลองประปา 2 ที่ ถ.พระราม 6 ได้ค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ ทำเลย่านบางโพที่ตั้งโครงการนี้ ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์อยู่มากค่ะ แต่เดิมเป็นย่านชุมชนเมืองในแนวราบเป็นแหล่งโรงเรียน และสถานที่ราชการมากมาย รวมถึงสำนักงานออฟฟิศด้วยเช่นกัน ซึ่งติดโครงการของเราก็จะเป็น รพ.บางโพ, ใกล้ๆ กันก็เป็นตลาดบางโพค่ะ รวมถึงข้างโครงการของเรา ในอนาคต ติด ถ.ประชาราษฏร์สาย 2 ก็จะมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ Gateway บางซื่อ ที่อยู่ติดกับ The Tree Interchange Condo ของพฤกษาไม่ไกลจากโครงการของเรา
ภาพจำลองห้างสรรพสินค้า Gateway บางซื่อ บริเวณ ถ.ประชาราษฏร์สาย 2
ทำเลบางโพนี้โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม High Rise นอกจากจะได้วิวทิวทัศน์ที่สวยงามของโค้งน้ำเจ้าพระยาแล้ว ยังเป็นแหล่งค้าขายของชาวจีนแต่ดั้งเดิมอีกด้วยค่ะ ซึ่งพื้นที่โดยรอบหากเดินเท้าสำรวจจะเป็นโกดังไม้ ร้านค้าไม้ต่างๆเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นย่านเก่าแก่ และค่อนข้างหนาแน่นค่ะ ทำให้ถึงจะมีร้านค้าให้เลือกมาก แต่ไม่มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่เลย จะมีก็แต่ Hypermarket ในระยะใกล้ๆ อย่าง Tesco Lotus ประชาชื่น, ฺBig C วงศ์สว่าง และ Supreme Complex ส่วนห้างขนาดใหญ่จะอยู่ในระยะขับรถประมาณ 5-10 กม. ค่ะ นั่นก็คือ Central ลาดพร้าว และ The Mall งามวงศ์วานนั่นเอง ซึ่งปัจจุบันย่านบางโพนี้ ก็ได้อานิสงศ์ของการมาถึงของรถไฟฟ้า ทำให้ราคาที่ดินถีบตัวสูงขึ้นและเป็นอีกทำเลที่น่าสนใจในการอยู่อาศัยหรือลงทุนค่ะ
ส่วนความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดิน นั้นก็มีร้านค้า ร้านอาหารอยู่หลายแห่งให้เลือกค่ะ ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นร้านค้าอาคารพาณิชย์ มีร้านอาหารตามสั่งและก๋วยเตี๋ยวให้เลือกรับประทาน มี 7-11 อยู่ด้วยค่ะ และยังอยู่ใกล้ๆ รพ.บางโพเพียง 100 เมตรเท่านั้น ซึ่งนั้นก็มีสาธารณูปโภคที่ครบครันรองรับผู้ที่อาศัยและทำงานอยู่ในโรงพยาบาลปกติอยู่แล้วค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ รถสาธารณะบริเวณโดยรอบโครงการค่อนข้างสะดวกสบายค่ะ มีรถผ่านสามารถเรียกได้ตลอดเวลาและหลากหลายประเภท มีป้ายรถเมล์ ห่างจากโครงการไปประมาณ 100 เมตรเท่านั้น รวมถึงวินมอเตอร์ไซค์ฝั่งโครงการก็มีเช่นกันค่ะ
รถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดก็อย่างที่กล่าวไปนั่นก็คือ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีบางโพ ห่างจากโครงการ 100 เมตร ส่วนต่อขยายช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ซึ่งก่อสร้างไปกว่า 90% แล้ว พร้อมเปิดให้บริการในปี 2562 ค่ะ และห่างจากโครงการไปอีกเพียง 1 สถานี ก็เชื่อมต่อกับ สถานีเตาปูน ซึ่งเป็นสถานี Interchange กับ รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน ที่ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้วเรียบร้อย ห่างจากโครงการ 800 เมตรค่ะ ในอนาคตหากเชื่อมต่อกันแล้วก็ไม่จำเป็นต้องเสียเงินค่าวินมอเตอร์ไซค์แล้ว ขึ้นที่สถานีบางโพสีน้ำเงินได้เลย
ซึ่ง สถานีสายสีน้ำเงิน MRT เตาปูน สามารถนั่งเชื่อมต่อไปยังย่านบางซื่อ-ลาดพร้าว-รัชดาภิเษกได้อีกด้วยค่ะค่ะ หากดูจากแผนที่โครงข่าย จะเห็นว่าสายสีน้ำเงินนี้ เป็นสายที่วิ่งวน Loop ตัดรถไฟฟ้าทุกสาย เหมือนรถไฟฟ้า JR YAMANOTE LINE ในญี่ปุ่น ที่วิ่งวนเป็น Loop รอบโตเกียว และทางโครงการมีบริการ Shuttle bus ไปส่งที่สถานีรถไฟฟ้าสถานีบางโพอีกด้วย
รวมถึงในอนาคต สถานีบางซื่อ ก็นับว่าเป็น Hub ของการเดินทางทั้งด้วยรถไฟฟ้าและรถสาธารณะอื่นๆในกรุงเทพมหานคร ซึ่งห่างจากสถานีบางโพเพียง 2 สถานีเท่านั้น (ระยะห่างจากโครงการประมาณ 2.6 กม.) ซึ่งก็จะเชื่อมต่อกับ รถไฟฟ้าสายสีแดง (ช่วงบางซื่อ-รังสิต) และ รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน ช่วง (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) : ก่อสร้างเสร็จแล้ว แต่ยังไม่เปิดให้บริการ ซึ่งในอนาคตหากสร้างเสร็จทั้งหมดจะเดินทางสะดวกสบายอย่างแน่นอน
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ทางพิเศษศรีรัช > ถ.รัชดาภิเษก > ถ.ประชาชื่น > ถ.ประชาราษฏร์สาย 2 > ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ
การเดินทางเริ่มต้นจาก ทางพิเศษศรีรัชค่ะ วิ่งตรงไปจนเจอ ป้าย ถ.รัชดาภิเษก (สี่แยกประชานุกูล-ถ.วิภาวดีรังสิต) หรือ ทางออก น.2-08 ให้ชิดซ้ายลงทางด่วน เพื่อออก ถ.รัชดาภิเษก
เมื่อลงทางด่วนมาแล้ว จะเจอทางบังคับให้เลี้ยวซ้าย เพื่อออก ถ.รัชดาภิเษก (มุ่งหน้าวงศ์สว่าง) ค่ะ ให้ เลี้ยวซ้ายไปตามทาง
เมื่อเลี้ยวซ้ายมาให้ชิดซ้ายเอาไว้ค่ะ เพราะเราจะเลี้ยวซ้ายเพื่อออกสู่ ถ.ประชาชื่น บริเวณสี่แยกไฟแดงประชานุกูล
วิ่ง ถ.ประชาชื่น ตรงไปเรื่อยๆ จนถึงแยกประชาชื่นค่ะ
เมื่อถึงแยกประชาชื่นให้ชิดขวาเอาไว้ค่ะ รอสัญญาณไฟแดงและเลี้ยวขวา ออกสู่ ถ.ประชาราษฏร์สาย 2
ตอนนี้เราอยู่บน ถ.ประชาราษฏร์สาย 2 แล้วค่ะ ผ่านรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีเตาปูน วิ่งไปอีก 800 เมตรก็จะถึงโครงการ
ก่อนถึงโครงการก็จะผ่านห้างสรรพสินค้า เกตเวย์บางซื่อ ที่กำลังก่อสร้างอยู่ในปัจจุบัน ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นโรงพยาบาลบางโพ
ถึงแล้วค่ะ โครงการ ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยสังเกตว่าด้านหน้า เลยไปอีกแค่นิดเดียวก็จะเป็นสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินบางโพ ทางขึ้นสถานีห่างจากโครงการเพียง 100 เมตรเท่านั้น
สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
แยกบางโพ 100 เมตร
แยกเตาปูน 900 เมตร
แยกประชาชื่น 1.2 กม.
แยกเกียกกาย 1.1 กม.
แยกสะพานแดง 2.2 กม.
แยกประชาราษฎร์ 1.6 กม.
แยกประดิพัทธ์ 2.9 กม.
แยกประชานุกูล 4.1 กม.
แยกวงศ์สว่าง 3.5 กม.
โครงการสะพานเกียกกาย 1.5 กม.
สะพานพระราม 7 1.6 กม.
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
MRT บางโพ 60 ม.
สถานีรถไฟบางซื่อ 2 กม.
ท่าเรือด่วนบางโพ 350 ม.
เดอะ มาร์เก็ต 200 ม.
สุพรีม คอมเพล็กซ์ สามเสน 2 กม.
แมคโคร สามเสน 2 กม.
เทสโก้ โลตัส ประชาชื่น 1.3 กม.
JJ Mall 5 กม.
JJ Green 5.8 กม.
เซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว 8 กม.
ยูเนี่ยน มอลล์ 7 กม.
บิ๊กซี สะพานควาย 5 กม.
ตลาดเตาปูน 1 กม.
ชุมทาง สยามยิปซี 2.6 กม.
สถานศึกษา
ร.ร.โยธินบูรณะ 1.1 กม.
ร.ร.ราชินีบน 2.3 กม.
ร.ร.สตรีนนทบุรี 3.2 กม.
ร.ร.สามเสนวิทยาลัย 3.5 กม.
ร.ร.หอวัง 6.7 กม.
ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 2.9 กม.
ม.เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตพระนครเหนือ 2.2 กม.
ม.เซนต์จอห์น 6.3 กม.
ศูนย์การแพทย์
ร.พ.บางโพ 130 ม.
ร.พ.ยันฮี 2.36 กม.
ร.พ.เปาโล เมมโมเรียล 5 กม.
ศาสนสถานและอื่นๆ
ขนส่งหมอชิต 7.4 กม.
สวนจตุจักร 5.5 กม.
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
รัฐสภาใหม่ 1.3 กม.
กรมสรรพาวุธ ทหารบก 1.7 กม.
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
บริบทโดยรอบโครงการส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์ 2-4 ชั้น และคอนโด High Rise นะคะ
ซึ่งทาง ทิศเหนือ จะติดกับถนนประชาราษฎร์สาย 2 ซึ่งเป็นถนนทางเข้าออกหลักของโครงการนี้ค่ะ สำหรับห้องที่อยู่ทางทิศนี้จะได้วิวของแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และ ถนนประชาราษฎร์สาย 2 แนะนำว่าใครที่จะเอาทิศนี้เลือกชั้น 10 ขึ้นไปจะดีสุด เพราะพ้นระยะรถไฟฟ้ามาแล้ว และไม่มีปัญหาเรื่องเสียงจากท้องถนนด้วย
ทิศตะวันออก ติดกับอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ห้องที่อยู่ทางทิศนี้จะได้วิวเมือง แต่ก็อาจจะมีตึกของ The tree Interchange มาบังวิวในห้องด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้อยู่บ้างเล็กน้อย
ทิศใต้ ติดกับบ้านพักอาศัย 2 ชั้นและที่ดินว่างเปล่า โดยห้องที่อยู่ทางทิศนี้จะเห็นวิวอาคารรัฐสภาและสะพานเกียกกาย ใคชรชอบวิวโปร่งโล่งหน่อยเลือกทิศนี้ได้เลย แต่ก็แลกมากับทิศทางแดดช่วงบ่ายอยู่นะคะ
ทิศตะวันตก ติดกับไปรษณีย์บางโพ บ้านพักอาศัย 2 ชั้น และ Napahe Place คอนโด 8 ชั้นที่อยู่ถัดออกไป โดยห้องที่อยู่ทางทิศนี้จะได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยา เลือกชั้นสูงๆ จะได้วิวที่ดีสุด
เดี๋ยวเราพาเดินเพื่อดูบรรยากาศบริเวณโดยรอบโครงการกันนะคะ ว่ามีสาธารณูปโภคอะไรในระยะเดินบ้าง เริ่มต้นจากฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์สูงประมาณ 3-4 ชั้น
หันหน้าไปทางฝั่งขวามือ มุ่งหน้าไปแยกประชาชื่น หรือรถไฟฟ้าสถานีเตาปูน
ติดกับตัวโครงการเป็นตึกแถวสูง 3 ชั้น ที่มีร้านค้าขายของอยู่
จะมีทั้งร้านขายศาลพระภูมิ หรือร้านค้าไม้ต่างๆ และร้านซักแห้งด้วยนะคะ
ฝั่งตรงข้ามมีทั้งร้านอาหาร และ 7-Eleven มาพึ่งพากันได้ยามหิว ตรงนี้เดินข้ามถนนมาได้ไม่ยากค่ะ
เราเดินจากโครงการมาเพียง 140 เมตรก็ถึง Gateway บางซื่อ แล้วนะ ตอนนี้กำลังดำเนินการก่อสร้างกันอยู่ พอสร้างเสร็จแล้วรับรองว่าได้ช้อปสนั่นกันทุกวันแน่นอน
ฝั่งตรงข้ามกับ Gateway บางซื่อ ก็คือ รพ.บางโพ ค่ะ
ข้างๆ กันกับ Gateway บางซื่อจะมีร้าน War Grill เป็นร้านบุฟเฟ่ต์ชาบู-ปิ้งย่าง แค่ชื่อก็มันส์แล้วค่ะ
ถัดไปมีปั๊มน้ำมัน LPG
ติดกับปั๊มน้ำมันจะเป็นหอพักสูง 5 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นร้านค้าต่างๆ มีทั้งร้านขายดอกไม้, ร้านขายกล้อง, ร้านซักรีด, ซาลอน, คลีนิกเวชกรรม และคลีนิกรักษาสัตว์
ถัดจากหอพักมาก็คือคอนโด The Tree Interchange สูง 40 ชั้น
จากตัวโครงการเดินมาประมาณ 300 เมตร ก็จะมีป้ายรถเมล์และสะพานลอยค่ะ
ซึ่งตรงใต้สะพานลอยมี 7-Eleven อีก 1 สาขา ใครไม่อยากข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามก็เดินมาตรงนี้ได้ ใกล้เหมือนกัน
บริเวณใกล้เคียงกันที่ฝั่งตรงข้ามก็จะมีธนาคารไทยพาณิชย์
เดินเลยสะพานลอยไปหน่อยก็จะมีร้านกาแฟและเบเกอรี่เล็กๆ อยู่ด้วย
จากหน้าโครงการเราเดินไป 800 เมตรก็จะถึงรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีเตาปูน ซึ่งตอนนี้ก็เปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากสถานีเตาปูนเราสามารถนั่งไปถึงสถานีสวนจตุจักร เชื่อมกับ BTS สถานีหมอชิต ได้เลย ซึ่งฝั่งนี้คือทางออกที่ 1 นะคะ
เรากลับมาที่หน้าโครงการ แล้วเดินมุ่งหน้าไปทางแยกบางโพกันต่อ
พื้นที่ข้างเคียงโครงการอยู่ติดกับไปรษณีย์บางโพพอดี
เดินต่อมาไปเรื่อยๆ จะมีบ้านพักอาศัย สลับกับอาคารพาณิชย์เป็นระยะ
เราจะเดินผ่าน Napha Place ที่ด้านล่างมีธนาคาร ธกส. ด้วยค่ะ
ถัดมาก็ถึงสถานีรถไฟฟ้าบางโพแล้วค่ะ ห่างจากโครงการเพียง 100 เมตรเท่านั้น
ถ้ามองขึ้นไปก็จะเห็นตัวสถานีสร้างใกล้เสร็จแล้ว เราจะพาเดินไปชมบริเวณแยกบางโพกันอีกหน่อย
บรรยากาศบริเวณสี่แยกไฟแดงบางโพค่ะ
ทางขึ้น-ลงสถานีอยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 100 เมตรเอง เดินได้ง่ายเลย
:::: ตัวโครงการ ::::
โครงการ Chewathai Residence บางโพ เป็นคอนโด High Rise สูง 24 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 172 ยูนิตค่ะ ตั้งอยู่บนที่ดินติด ถ.ประชาราษฏร์สาย 2 ขนาด 1-1-94.3 ไร่ ปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ที่ใช้แนวคิดการออกแบบ “The Ultimate Selection” ที่เหนือกว่าด้วยการคัดสรรทั้ง ทำเล ที่เชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้า รวมถึงเป็นโครงการที่สามารถมองเห็นวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาได้อีกด้วย อีกทั้งการออกแบบโปรดักส์ โดยใช้ความสอดคล้องกับบริบทพื้นที่ “ย่านบางโพ” ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องค้าไม้มาตั้งแต่ดั้งเดิม โดยการใช้สีโทนน้ำตาล-Warm และลายฝาปะกนไม้ บนตัวอาคารและส่วนตกแต่งอื่นๆ ภายใน และลดทอนลงให้มีความโมเดิร์น เหมาะกับยุคสมัยมากขึ้น
Master Plan ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ : หน้าโครงการหันทิศเหนือ ทางเข้า-ออก ติดถนนประชาราษฎร์ สาย 2 การเดินรถยนต์ในโครงการแบบ One Way มีจุด Drop Off สำหรับรับ-ส่งผู้อยู่อาศัย ที่จอดรถเริ่มต้นที่ชั้น 1 – ชั้น 6 คิดเป็น 80% รวมจอดซ้อนคัน โดยพื้นที่ชั้น 1 แบ่งเป็น Main Lobby เพดานสูงโปร่ง, Business Lounge สำหรับนั่งประชุม ทำการบ้าน หรือ นั่งทำงาน มีบริการ Internet Wifi ให้ใช้บริการฟรี นอกจากนั้นก็จะเป็นห้องนิติบุคคล, Mail Box และ โถงลิฟท์โดยสาร แบ่งเป็นลิฟท์โดยสาร 2 ตัว + ลิฟท์บริการ 1 ตัวค่ะ อัตราส่วน 86: 1 ซึ่งถือว่าไม่หนาแน่นเกินไปนักค่ะ
7 th Floor : ห้องพักอาศัยเริ่มต้นที่ชั้น 7 ค่ะ โดยชั้น 7 จะมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 12 ห้อง แบ่งเป็นห้องพักแบบ 1 ห้องนอน เล็ก Type A1-A4 จำนวน 5 ห้อง, ห้องพัก 1 ห้องนอนใหญ่ B1-B4 และ ห้องพัก 2 ห้องนอน C1-C2 จำนวน 2 ห้อง นอกจากนั้นที่ชั้น 7 จะมี Pocket Garden ขนาดย่อมๆ นั่งเล่น นั่งพักผ่อนรับลมเย็นๆ ชมวิวแม่น้ำได้ค่ะ
*การดูทิศทางของวิว อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ตามนี้นะคะ
– ทิศเหนือ : เห็นวิวแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และ ถนนประชาราษฎร์ สาย 2
– ทิศใต้ : ติดที่ดินเปล่า และ บ้าน-อาคารพาณิชย์สูง 1-3 ชั้น เห็นวิวรัฐสภา
– ทิศตะวันออก : เป็นวิวเมือง City View
– ทิศตะวันตก : เป็นทิศที่ดีที่สุด และ ราคาแพงกว่าทิศอื่นๆ ได้เป็นวิวแม่น้ำ River View
8-15 Floor : แปลนและจำนวนห้องพักเหมือนกันกับชั้น 7 แตกต่างตรงที่ไม่มี Pocket Garden
17-20 Floor : ห้องพักจะลดลงมาเหลือ 11 ห้อง สังเกตว่าห้องที่หายไป จะอยู่ทางฝั่งทิศเหนือ ลดลงมาให้เหลือเพียงห้องเดียว ส่วนตำแหน่งห้อง และขนาดห้องพักเหมือนกันค่ะ ดูได้ง่ายๆ เลย
21-22 Floor : เป็นชั้นที่ Exclusive กว่าชั้นอื่นๆ โดยจะได้ระยะพื้น-ฝ้า สูงถึง 3 เมตร และเป็นชั้นที่มีห้องแบบ Penthouse ถึง 2 ห้อง คือ P2 ขนาด 117 ตร.ม. วิวแม่น้ำ และ P1 ขนาด 95.5 ตร.ม. ที่ดูเหมือนว่าจะได้วิวรอบทิศทางเลยทีเดียว ส่วนห้องที่เหลือ ก็จะมี B1-B2 3 ห้อง ฝั่งทิศใต้ และ C1 / C3 2 ห้อง หันทิศตะวันออก และทิศตะวันตกค่ะ
23-24 rd Floor : เป็นชั้นของ Facilities แบ่งเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ มี River View Skylab Pool ยื่นออกไปให้เสียวเล่น ๆ รับวิวแม่น้ำนิด ๆ + วิวแนวรถไฟฟ้าเต็มตา, ห้องออกกำลังกาย+ห้องอบไอน้ำ และ ห้องอาบน้ำ+ห้องน้ำ แยกชาย-หญิง เป็นสัดส่วน รวมถึงสวนพักผ่อนบนดาดฟ้า สามารถเดินรับลมชมวิวได้ทั้งฝั่งแม่น้ำ และฝั่งวิวเมือง ค่ะ
:::: แบบห้องของโครงการ ::::
โครงการมีแบบห้องทั้งหมด 4 แบบ ด้วยกันค่ะ ประกอบด้วย
1 Bedroom(Small) : Type A1-A5 ขนาด 33.5-36 ตารางเมตร
1 Bedrooms (Big) : Type B1-B5 ขนาด 42.5-49 ตารางเมตร
2 Bedrooms : Type C1-C3 ขนาด 68-78.5 ตารางเมตร
3 Bedrooms (Penthouse) : Type P1-P2 ขนาด 95.5-117 ตารางเมตร
:: 1 Bedroom(Small) A1-A5 ขนาด 33.5-36 ตารางเมตร ::
TYPE A1 33.61/ TYPE A2 34.70
TYPE A3 35.43 / TYPE A5 35.09
แบบห้อง A 1-3 และ 5 เป็นขนาดห้องที่เล็กที่สุดของโครงการค่ะการจัดฟังก์ชั่นเหมือนกันเลย แตกต่างกันแต่ Mirror กัน และขนาดพื้นที่ห้องเท่านั้นค่ะ เมื่อเข้าไปภายในห้องก็จะเจอกับห้องนั่งเล่น ที่เชื่อมต่อกับห้องนอน ด้วยฉากกั้นอลูมิเนียม ส่วนห้องครัวและห้องน้ำก็จะเชื่อมต่อกันกับระเบียง โดยห้องครัวที่ได้จะเป็นห้องครัวปิด สามารถทำอาหารหนักได้
TYPE A 4 36.42
ส่วนห้อง Type A4 พื้นที่นั่งเล่นกับห้องนอน จะตั้งอยู่เยื้องกันค่ะ โดยห้องนอนจะมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเนื่องจากเป็นประตูบานปิดทึบ สวนห้องน้ำและห้องครัว สามารถเข้าตรงจากห้องนั่งเล่นได้เลย
:: 1 Bedrooms (Big) Type B1-B5 ขนาด 42.5-49 ตารางเมตร ::
TYPE B1 43.55 / TYPE B2 44.87
TYPE B3 45.85 / TYPE B4 48.31/ TYPE B5 49.52
ห้อง Type B หรือ 1 Bedroom ที่ขนาดใหญ่ของโครงการ นั้นก็จะมีการจัดฟังก์ชั่นแตกต่างกันจาก Type A ด้านบนค่ะ แต่ทั้ง 1-5 ก็จะเหมือนกันหมดเลยเช่นกัน แตกต่างกันแค่ขนาดเท่านั้น โดยเข้าไปก็จะเจอกับห้องครัวที่เป็น Counter Bar รูปตัว U ข้อดีก็คือผู้อาศัยไม่จำเป้็นต้องซื้อโต๊ะอาหารมาวางก็ได้ค่ะ สามารถเป็นโต๊ะทานอาหารได้เลยในตัว ห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับระเบียง และห้องนอนก็จะมีความเป็นส่วนตัวเช่นกัน ส่วนห้องน้ำ มีการแบ่งแยกสองฝั่งค่ะ คือห้องชักโครก และห้องอาบน้ำ และสามารถเข้าได้ทั้งจากห้องครัวและห้องนอน ทำให้หากอาศัยอยู่หลายคนก็สามารถแบ่งกันใช้ได้ค่ะ
:: 2 Bedrooms C1-C3 ขนาด 68-78.5 ตารางเมตร ::
TYPE C1 78.40 ตร.ม. นี้ หากดูจริงๆจะเหมือนกับ 3 ห้องน้ำภายในนะคะ เนื่องจากห้องน้ำใหญ่จะถูกซอยย่อยออกเป็นห้องชักโครกต่างหากอีก 1 จุด และข้อดีคือห้องน้ำใหญ่ตั้งอยู่ติดกับภายนอกของอาคาร สามารถระบายอากาศได้ดีด้วยส่วนการจัดผังเปิดเข้ามาก็จะเจอกับห้องครัวที่มี Island แยกออกมาด้านหน้า 1 ตัวค่ะ ทำให้สามารถเตรียมอาหารได้สองฝั่ง ส่วนห้องทานอาหารก็สามารถวางโต๊ะทานข้าวได้ขนาดใหญ่เลยทีเดียว ห้องนั่งเล่น และห้องนอนทุกห้อง อยู่ติดกับภายนอกอาคารทั้งหมดค่ะ
TYPE C2 78 ตร.ม. ผังห้องจะเป็นลักษณะตอนยาวค่ะ ซึ่งเปิดเข้ามาก็จะเจอกับโซนห้องตัวรูปตัว L อยู่ด้านขวามือ ที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น และระเบียง ส่วนห้องนอนจะเป็น Corridor แยกเป็นส่วนตัวค่ะ ทุกห้องอยู่ติดกับภายนอกอาคารเช่นกัน
TYPE C3 67.02 ตร.ม. ห้องนี้จะเป็น 2 Bedrooms ที่ขนาดเล็กที่สุดของโครงการค่ะ ทางเข้าห้องเปิดมาจะเจอกับห้องครัวที่ขนาดพอดี และห้องทานอาหาร-นั่งเล่นที่กว้างขวางค่ะ ระเบียงได้ค่อนข้างยาวตามหน้ากว้างของ Span เสาเลย ส่วนห้องนอนทั้งสองอยู่ติดกับภายนอกอาคารห้องนอนใหญ่ มี Walk-in Closet ส่วนตัว
:: 3 Bedrooms (Penthouse) P1-P2ขนาด 95.5-117 ตารางเมตร ::
TYPE P1 94.90 ตร.ม. นี้จะเป้น Penthouse ขนาดเล็กค่ะ จัดผังตามยาว มี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำด้วยกัน โดยห้องนอนใหญ่ และห้องนอน 2 จะมีห้องน้ำส่วนตัวค่ะ ส่วนห้องนอนอีกห้อง จะเป็นลักษณะห้องเอนกประสงค์มากกว่า สามารถจัดเป็นห้องทำงานได้ ห้องนี้ได้ระเบียงตามยาวเช่นกัน
TYPE P2 117.63 ตร.ม. ห้องนี้ เป็นห้อง Penthouse ที่ขนาดใหญ่ทีสุดของโครงการค่ะ ข้อดีของ Type นี้คือ ทั้งสองห้องนอนใหญ่ มีพื้นที่ Walk-in Closet ส่วนตัวทั้งสองห้องค่ะ และเป็นห้องที่มีห้องเก็บของภายในด้วย สำหรับผู้ที่มีข้าวของเครื่องใช้เยอะ รวมถึง Pantry ครัวขนาดยาวกว่า 3 เมตร และมี Island ตรงกลาง ทำให้สามารถประกอบอาหารจริงจังได้ และ Living Area ขนาดใหญ่ สามารถวางโต๊ะทานอาหารได้ถึง 6-8 ที่นั่งค่ะ
:::: บริเวณภายในโครงการ ::::
::: บริเวณภายในโครงการ :::
เดี๋ยวเราจะพาเดินเข้าไปชมภายในโครงการกันนะคะ
เริ่มต้นจากด้านหน้าโครงการบริเวณทางเท้าที่จะมีป้ายชื่อตัวเขียนภาษาอังกฤษพิมพ์ใหญ่ สแตนเลสสีทอง
ส่วนป้อมยามหาขับรถเข้ามาก็จะอยู่ทางด้านซ้ายมือค่ะ โดยเมื่อเข้ามาแล้วทางเดินรถจะเป็นทางบังคับบนไปด้านขวามือ ลักษณะทวนเข็มนาฬิกา
วนรถเข้ามาทางขวามือ จะมี Cover Way เป็นจุด Drop-off เดินเข้าภายในอาคารส่วน Main Lobby แบบนี้ค่ะ
ก่อนจะเดินเข้าไปดูภายในตัวอาคาร เราจะเดินสำรวจโดยรอบอาคารและที่จอดรถกันก่อน ซึ่งจะต้องผ่านระบบ Access Card, กล้อง CCTV และรั้วไม้กระดกค่ะ
ถ้าเป็นลูกบ้านจะสามารถนำคีย์การ์ดมาแตะได้ที่กล่องรับสัญญาณจุดนี้เพื่อเปิดรั้วไม้กระดกได้เลย แต่ถ้าเป็นผู้เยี่ยมชมโครงการ จะมีรปภ.เดินมาเปิดให้ค่ะ
เมื่อขับผ่านรั้วไม้กระดกเข้ามา ก็จะเจอทางขึ้นอาคารจอดรถค่ะ หรือขับรถวนอ้อมด้านหลังอาคารลงไปก็จะกลับสู่ทางเข้าโครงการเมื่อสักครู่นี้อีกครั้ง
วนขึ้นมาดูลานจอดรถกันหน่อย สำหรับอาคารจอดรถจะอยู่ที่ชั้น 1-6 ค่ะ ซึ่งมีที่จอดคิดเป็นประมาณ 80% หรือ 134 คันรวมจอดซ้อนคัน
จากบริเวณลานจอดรถก็จะมีประตูทางเชื่อมสู่ภายในตัวอาคารได้
ซึ่งการเปิด-ปิดประตูจะต้องใช้ Key Card แตะที่กล้องรับสัญญาณทุกครั้งนะคะ
คราวนี้เราเดินวนมาที่ด้านหลังอาคาร จะเป็นที่ตั้งของศาลพระภูมิ และสวนสาธารณะซึ่งสามารถมานั่งพักผ่อนได้
และขับวนออกสู่ทางออกเดิม โดยจะต้องใช้ Key Card ในการเปิดรั้วไม้กระดกเช่นกัน
กลับมาที่จุด Drop-off ด้านหน้าโครงการกันนะคะ เราจะเดินเข้าไปดูภายในอาคารกันต่อ
ประตูทางเข้าบานใหญ่สูง ตกแต่งด้วยกระจกสีชา
:: MAIN LOBBY ::
เมื่อเปิดเข้ามาก็จะเจอกับโถง Lobby ค่ะซึ่งตกแต่งโดยใช้สีพื้นขาว ตัดให้ดูอบอุ่นด้วยสีน้ำตาลของไม้ และกระจกเงาสี Rose Gold พร้อมซ่อนหลืบไฟ ให้บรรยากาศอบอุ่นสไตล์ Modern Contemporary ค่ะ
มีการตกแต่ง ชุดโซฟารับรองแขกเอาไว้เป็นจุดๆ ส่วนด้านหลังฉากกั้นบานเฟี้ยมจะเป็นห้องประชุมค่ะ
โครงการนี้ได้รับรางวัล Highly Commended Best High-Rise High End Condo Development (Bangkok) จาก Thailand Property Awards 2017 ด้วยนะคะ
ด้านในจะเป็นส่วน Reception Counter อยู่ด้านหน้าทางเข้า Lift Lobby
ฝั่งซ้ายมือของเราคือประตูทางเข้า Lift Lobby, ตรงกลางคือ Juristic Office และฝั่งขวามือคือห้องน้ำของส่วน Lobby ค่ะ
ห้องน้ำของ Lobby แยกฝั่งชาย-หญิงแบบนี้
ภายในห้องน้ำค่ะ มีการตกแต่งอย่างหรูหราสวยงามน่าใช้งาน ทั้งการจัดแสงไฟ และวัสดุที่นำมาใช้
:: LIFT LOBBY & MAIL ROOM ::
คราวนี้เราจะเข้าไปดูภายใน Lift Lobby กันต่อ
การเข้า-ออก Lift Lobby ก็จะต้องใช้ Key Card ในการเปิดประตูทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวค่ะ แต่ถ้าวันไหนมีเหตุฉุกเฉินก็สามารถกดปุ่มเปิดประตูสีขาวข้างๆ จุดรับสัญญาณ Key Card ได้ เฉพาะเหตุฉุกเฉินเท่านั้นนะคะ
เข้ามาภายใน Lift Lobby มีการตกแต่งให้สอดคล้องกับส่วน Lobby ดูหรูด้วยพื้นลายหินธรรมชาติและกระจกเงาสี Rose Gold
ส่วนด้านข้างก็จะเป็น Mail Room ค่ะ ซึ่งออกแบบมาให้ได้บรรยกาศเก่าๆ ไม่เสียชื่อย่านค้าไม้เก่าค่ะ
เราจะขึ้นไปที่ชั้นพักอาศัยและไปดูส่วนกลางส่วนต่างๆ ของโครงการกันต่อ เดินเข้าลิฟท์ไปด้วยกันเลย แม้แต่ภายในลิฟท์ก็มีการตกแต่งอย่างหรูหรามีระดับ ที่นี่ใช้ลิฟท์ของ Otis น้ำหนักบรรทุก 1000 กก. หรือไม่เกิน 13 คน/เที่ยว
ปุ่มกดภายในลิฟท์จะมี 2 จุด ฝั่งซ้ายอยู่ที่ระดับความสูงปกติ และฝั่งขวาอยู่ที่ระดับความสูงของคนที่นั่ง Wheel Chair ค่ะ ระบบลิฟท์ของที่นี่จะเป็นระบบล็อคชั้นด้วยนะ ต้องใช้ Key Card แตะที่จุดรับสัญญาณก่อนถึงจะสามารถกดเลือกชั้นได้
:: 7th POCKET GARDEN ::
เราขึ้นมาที่ชั้น 7 กันก่อน ซึ่งเป็นส่วนของมุมสวนหย่อมเล็กๆ
เป็นสวนเล็กๆ ที่ล้อมรอบด้วยร่มเงาไม้ เหมาะจะออกมานั่งพักผ่อนหย่อนใจ พักสายตาและความเหนื่อยล้าจากการทำงาน
บริเวณมุมสวนก็จะมีม้านั่งคอนกรีตให้ค่ะ สามารถนั่งได้ประมาณ 3-4 คน จะพาเพื่อนๆ มานั่งคุยกันตรงนี้ก็ได้หากไม่อยากรบกวนเพื่อนข้างห้อง
:: 23rd-24th SWIMMING POOL, STEAM ROOM, SKY GARDEN & FITNESS ::
คราวนี้เราขึ้นมาที่ชั้น 23-24 มาดูส่วน Main Facilities ของโครงการกันต่อ
บนชั้น 23 จะเป็นส่วนของสระว่ายน้ำ,ห้องสตีม และสวนหย่อมค่ะ เราออกไปดูด้วยกันเลย
เดินผ่านประตูออกไปจะเจอสระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool ที่สามารถชมวิวของโค้งแม่น้ำได้ โดยสระของที่นี่จะเป็นสระระบบเกลือนะ
ฝั่งทฺิศตะวันตกจะมี Daybed ไว้ 3 ตัว และมี Pool Deck ยื่นออกไปให้มองวิวทางทิศตะวันตกได้
และนี่ก็คือวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาที่ได้จากการนั่งชมบน Pool Deck
บันไดลงสระว่ายน้ำเป็นแบบทอดยาวลงไปภายใน
อีกจุดของสระก็จะมี Rain Shower ลักษณะเหมือนน้ำตกให้อาบน้ำล้างตัวก่อนลงสระด้วย
ข้างๆ สระจะมีทางเดินลงไปยังสวนที่อยู่ต่างระดับกัน
บริเวณสวนด้านล่างจัด Daybed เอาไว้ให้ 6 ตัว สามารถนอนชมวิวแม่น้ำและวิวเมืองได้
กลับเข้ามาภายในอาคารเราจะเข้าไปดูในส่วนของห้องน้ำกันต่อ
โถงทางเดินหน้าห้องน้ำค่ะ จะสามารถเดินทะลุออกไปยังสวนหย่อมได้ด้วย
ทางเข้าห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำก็มีการตกแต่งอย่างหรูหรา จะเน้นโทนสีเข้มและสี Rose Gold
บริเวณหน้าห้องจัดตู้ Locker สำหรับเก็บของเอาไว้ให้
และเคาน์เตอร์อ่างล้างมือพร้อมกระจกบานใหญ่
ส่วนด้านในจะมีห้องน้ำ, ห้องอาบน้ำ
และห้องสตีมค่ะ
จากห้องน้ำ เราเดินทะลุออกมาที่สวนหย่อม เป็นสวนแบบ Sky Garden ที่สามารถชมวิวเมืองได้
จากบริเวณสวนหย่อมก็จะมีประตูที่สามารถทะลุไปยังบริเวณโถงลิฟท์ และบันไดขึ้นชั้น 24 ได้ค่ะ
คราวนี้เราจะขึ้นไปดูฟิตเนสบนชั้น 24 กันต่อ
ฟิตเนสของที่นี่จะเป็น Panoramic Fitness คือสามารถชมวิวเมืองและวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ถึง 180 องศาเลยทีเดียว บวกกับความสูงของฝ้าที่เกือบเป็น Double Volume Space ทำให้สามารถเปิดมุมมองได้กว้างมากขึ้น
ภายในฟิตเนสเองก็จัดเครื่องออกกำลังกายเอาไว้ให้อย่างครบครันค่ะ ฝั่งติดกระจกจะเป็นโซน Cardio ประกอบด้วยจักรยานไฟฟ้า
เครื่องเดินวงรีและลู่วิ่งไฟฟ้า
ส่วนบริเวณที่ติดกับกระจกเงาสี Rose Gold จะเป็นโซน Weight Training มีชุดดัมเบล, ม้านั่งราบ และอุปกรณ์สำหรับออกกำลังกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ อย่างครบครัน
ดูวิวโดยรอบจากห้องฟิตเนสกันค่ะ นี่คือวิวฝั่งทิศใต้
วิวฝั่งทิศตะวันตกค่ะ รับช่วงโค้งน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาพอดี
และวิวฝั่งทิศเหนือ
:: LIFT HALL & HALLWAY ::
คราวนี้เรามาดูที่ชั้นพักอาศัยกันบ้าง
การตกแต่งบริเวณโถงลิฟท์จะถูกลดทอนลงไปจากชั้น Lobby และชั้น Main Facilities เพื่อให้ดูสบายตา ปรับเข้าสู่โหมดการพักผ่อน
ภายในโถงทางเดินฝั่งขวาค่ะ ติดไฟให้ค่อนข้างถี่ สว่างดีทีเดียว ตัวโถงกว้างถึง 1.5 เมตรเลย
ภายในโถงทางเดินฝั่งซ้าย ขวามือเราจะเห็นประตูบันไดหนีไฟ สามารถเปิดได้โดยการผลักเข้า แล้วลงตรงไปที่ชั้น 1 เลย ไม่สามารถเปิดเข้าสู่ชั้นอื่นๆ ได้ เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยค่ะ
ภายในโถงบันไดหนีไฟ สว่างและกว้างขวางตามมาตรฐาน และถูกต้องตามข้อกำหนดกฎหมาย
:::: ห้องตัวอย่าง ::::
สำหรับห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมในวันนี้ จะมีทั้งหมด 2 ห้องด้วยกันนะคะ นั่นก็คือ
1 Bedroom (Small) : 35.00 ตร.ม.
1 Bedroom (Big) : 43.00 ตร.ม.
โดยห้องของทางโครงการจะขายแบบ Fully Furnished ตกแต่งมาให้ครบ ได้ทั้งเฟอร์นิเจอร์ Built-in และเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวออกแบบพิเศษจาก Starmark พร้อมเครื่องปรับอากาศจาก Panasonic ส่วนรายละเอียดแบบเจาะลึกจะเป็นอย่างไรนั้น เชิญติดตามอ่านต่อได้เลยค่า
::: แบบ 1 Bedroom (Small) ขนาด 35.00 ตร.ม. :::
ห้องนี้เป็นขนาดห้องที่เล็กที่สุดของโครงการค่ะ สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 1-2 คน ภายในห้องแบ่งออกเป็น 5 ส่วนด้วยกัน ก็คือ Common Area (ห้องนั่งเล่น + ห้องรับประทานอาหาร), ห้องนอน, ห้องน้ำ, ห้องครัว และระเบียง เมื่อเข้าไปภายในห้องก็จะเจอกับห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหาร ที่เชื่อมต่อกับห้องนอน แต่กั้นด้วยประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมเพื่อความเป็นส่วนตัว ส่วนห้องครัวและห้องน้ำก็จะเชื่อมต่อกันกับระเบียง โดยห้องครัวที่ได้จะเป็นห้องครัวปิด สามารถทำอาหารหนักๆ ได้ และมีระเบียงเป็นจุดช่วยระบายอากาศได้อีกทาง
เริ่มจากประตูทางเข้าห้องบาน HDF ปิดผิวด้วยลามิเนต พร้อมให้ Digital Door Lock เป็นมาตรฐานในทุกห้อง ด้านข้างติดป้ายเลขที่ห้องสวยงาม
Digital Door Lock ที่ให้จากยี่ห้อ Yale มือจับก้านโยก ใช้งานได้สะดวกค่ะ สามารถใช้เข้าห้องได้โดยสแกนบัตร หรือ Password
พื้นห้องปูด้วยลามิเนตหนา 12 มม. เก็บรอยต่อระหว่าง Finishing โถงทางเดินและภายในห้องให้เรียบร้อย
เข้ามาภายในห้องจะเจอส่วนพื้นที่รับประทานอาหาร ที่เชื่อมกับพื้นที่นั่งเล่น ก่อนจะกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกซึ่งในสุดจะเป็นส่วนห้องนอนค่ะ บริเวณนี้ดูโปร่งโล่งด้วยเนื้อที่ห้องที่ค่อนข้างมากพอสมควร และฝ้าเพดานสูงถึง 2.8 เมตร ส่วนผนังห้องติดวอลล์เปเปอร์มาให้แล้วสีตามมาตรฐานของโครงการ
ฝ้าเป็นฝ้าฉาบเรียบค่ะ ติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้ทั้งห้อง
หันกลับมาบริเวณหน้าห้องนะคะ
สิ่งที่ทางโครงการให้มาจะประกอบด้วย โต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่ง และชุดโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง ตามภาพ
โต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่ง พร้อมเก้าอี้ขนาดใหญ่นั่งสบายและสวยงาม
ชุดโซฟาหนังเทียมสีขาว 3 ที่นั่งขนาดใหญ่นั่งสบาย พร้อมโต๊ะกาแฟขนาดใหญ่ทรงกลมหน้า Top หินแกรนิต
ฝั่งตรงข้ามกับชุดโซฟาเป็นชุด Built-in ที่ฝั่งซ้ายเป็นตู้เก็บรองเท้าและเก็บของต่างๆ ได้ ส่วนตรงกลางเป็นชั้นวางทีวีค่ะ
ชั้นวางทีวี มีลิ้นชักเก็บของขนาดใหญ่ให้อีก 4 ช่อง
ตู้เก็บรองเท้าและเก็บของ จัดมาให้เป็นสัดส่วน สามารถใช้งานได้ดี บานเปิดและลิ้นชัก Built-in ของทางโครงการจะเป็นแบบ Soft-closed ทั้งหมด
ดูระยะทีวีของห้องนี้ค่อนข้างกว้างทีเดียวนะ ระยะนี้สามารถดูทีวีจอขนาด 50-60 นิ้วได้
ถัดมาเป็นส่วนประตูบานเลื่อนกั้นระหว่าง Common Area และห้องนอน โดยใช้เป็นประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอน สีเทา กรอบอลูมิเนียมสีดำ ช่วยกรองแสงและเพิ่มความเป็นส่วนตัวในระดับนึงนะคะ
มือจับประตูเป็นแบบเซาะร่องแบบนี้
ภายในห้องนอนมีขนาดใหญ่พอสมควรเลยค่ะ ทางโครงการให้เตียงนอนขนาด 6 ฟุต, โต๊ะข้าง, โต๊ะทำงาน และตู้เสื้อผ้ามากับห้องด้วย
เตียงนอนขนาด 6 ฟุตพร้อมหัวเตียงตามภาพเลยค่ะ แต่ที่ไม่ได้แถมมาด้วยก็คือฟูกนะ
พอวางเตียงขนาด 6 ฟุตแล้วก็จะเหลือพื้นที่ข้างเตียงประมาณนี้ ฝั่งขวาเราได้โต๊ะข้างมาด้วย 1 ตัว
มองไปทางฝั่งปลายเตียง เป็นชุดโต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการให้มาด้วย
โต๊ะทำงานมีขนาดใหญ่ดีค่ะ มีลิ้นชักให้ด้วย 2 ช่อง ได้มาพร้อมกับเก้าอี้นั่งตัวนี้ด้วย
และตู้เสื้อผ้า Built-in เป็นกระจกสีเทาใส ภายในมีราวแขวนเสื้อผ้า, ลิ้นชักเก็บของ และชั้นลอยวางของให้แบบนี้
พอวางเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างด้วยกันแล้ว ก็จะเหลือพื้นที่เป็นทางเดินปลายเตียงเท่านี้ค่ะ อาจจะแคบนิดนึงสำหรับการเปิดตู้เสื้อผ้า แต่สำหรับระยะนั่งทำงานก็พอได้อยู่
ในห้องนี้เราจะได้ช่องแสงขนาดใหญ่ทรงสูง เป็นหน้าต่างบานฟิกซ์และบ้านกระทุ้ง 2 ฝั่ง กรอบอลูมิเนียม ติดกระจกตัดแสงให้
หน้าต่างบานกระทุ้งเปิด-ปิดได้ง่าย ช่วยระบายอากาศภายในห้องได้พอสมควร
ภาพมองย้อนกลับไปในส่วน Common Area
เราไปดูส่วนห้องครัวกันต่อ ครัวที่ได้จะเป็นครัวปิดโดยใช้ประตูบานเลื่อนกั้นแบบนี้ ลักษณะประตูจะเดินรางด้านบน ประตูเป็นประตูสำเร็จรูปมาตรฐานปิดผิวด้วยลามิเนตสีอ่อน ดูสวยงาม
มือจับบานประตูค่ะ
พื้นภาบในห้องครัวเปลี่ยนมาปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้แทน ขนาด 60 x 60 ซม. สามารถเช็ดล้างทำความสะอาดพวกคราบอาหารและคราบน้ำมันได้ง่ายกว่า
ภายในห้องครัวได้ชุด Built-in ตามห้องตัวอย่างเลยค่ะ ทำออกมาได้สวยงาม ชอบบานเปิดที่เป็นแบบ Glossy เงางาม และทำความสะอาดได้ง่ายดี ส่วนด้านข้างเป็นพื้นที่วางตู้เย็น ซึ่งสามารถวางตู้เย็นขนาดถึง 11.3 คิวบิกฟุตเลยทีเดียว
ส่วนเคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์ มี Back Splash ด้านหลังที่กรุเป็นกระจกสีดำเงา
Sink ล้างจานที่ได้เป็นแบบหลุมเดี่ยว จาก Teka พร้อมก็อกน้ำทรงโค้งสวย จาก Teka เช่นกัน หัวสามารถหมุนซ้าย-ขวาได้ ใช้งานสะดวกดี
ส่วนเตาเซรามิกได้ขนาด 2 หัวจาก Teka
และ Hood ด้านบนจาก Teka เช่นกัน ลักษณะเป็น Hood แบบหมุนเวียนนะคะ
ใต้เคาน์เตอร์ครัวก็มีช่องเก็บของให้พอสมควร รวมถึงช่องวางไมโครเวฟ และช่องเก็บช้อนส้อม
ดีเทลมุมบานเปิดค่ะ ไม่ต้องใช้มือจับก็สามารถเปิดได้สะดวก
ส่วนชั้นลอยเก็บของก็สามารถเก็บของได้เยอะพอสมควร
ซึ่งช่องนึงจะติดตู้ Load Center เอาไว้ด้านในให้เรียบร้อย
บานเปิดของชั้นลอยจะทำเกินขอบตู้ลงมาพอสมควร เพื่อให้สามารถจับบานเปิดจากมุมล่างได้
พอวางเคาน์เตอร์ครัวแล้วก็จะเหลือระยะในการยืนปรุงอาหารประมาณ 90 ซม.
จากห้องครัวจะเชื่อมต่อกับระเบียงห้อง ผ่านทางประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมแบบ 2 ตอน ทำให้สามารถรับแสงเข้ามาภายในได้ดี และระบายอากาศได้เช่นกัน ช่วยให้ครัวไม่มีความชื้นมากนัก
ส่วนระเบียงทำมาได้เรียบร้อยดีเลยค่ะ ด้านบนแขวน Condensing Unit เป่าลมมาด้านข้าง แต่เนื่องจากฝ้าเพดานที่สูงจึงไม่โดนลมร้อนโดยตรง แต่หากใครที่ไม่ชอบให้มีลมร้อนเป่าเข้าผนังห้อง ก็สามารถติดกริลล์เบี่ยงลมร้อนได้นะคะ ส่วนรั้วใช้เป็นรั้วเหล็กพ่นสีดำ พร้อมมีระแนงบังสายตาส่วน Condensing Unit ด้านบนให้ด้วยเรียบร้อยดีค่ะ
ส่วนพื้นระเบียงปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิกมาตรฐาน ขนาด 60 x 60 ซม. ด้านข้างเตรียมระบบน้ำให้เรียบร้อย มีก็อกสนามและท่อน้ำทิ้ง พร้อมทั้งปลั๊กไฟแบบกันน้ำ ให้วางเครื่องซักผ้าได้เลยค่ะ
และที่ผนังติดไฟกิ่งเป็นไฟแสงสว่างให้
ภาพมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้องครัว
เราเข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อค่ะ ประตูห้องน้ำเป็นแบบทรงสูง ใช้เป็นประตูสำเร็จมาตรฐาน กลอนเป็นแบบก้านโยกสแตนเลสค่ะ
พื้นห้องน้ำลดระดับจากพื้นครัวเล็กน้อยเพื่อกันน้ำไหลย้อน ภายในปูด้วยกระเบื้องเซรามิกสีเทา
ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกและส่วนแห้งให้เรียบร้อยเลยค่ะ ขนาดห้องน้ำถือว่าให้มาพอสมควร มีระยะการใช้งานแบบสบายๆ ที่ผนังก็กรุด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาดเท่ากันและกระเบื้องโมเสคตกแต่งอย่างสวยงาม
บริเวณโซนแห้งประกอบด้วย โถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือ บริเวณผนังกรุกระจกเงาขนาดใหญ่
อ่างล้างมือขนาดพอสมควรเลยค่ะ ใช้งานได้ดี ด้านบนมีพื้นที่วางของต่างๆ ได้เล็กน้อย จากยี่ห้อ Cotto
พร้อมก๊อกน้ำของ Cotto เช่นกัน
อ่างล้างมือด้านล่าง Built-in เป็นตู้เก็บของได้พอสมควรเลยค่ะ บานเปิดเป็นแบบ 2 บาน จึงไม่ไปกินพื้นที่ทางเดินมากนัก
ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์ จาก Cristina ระบบ Dual Flush ช่วยประหยัดน้ำได้
ด้านข้างติดตั้งสายฉีดชำระจาก Cotto ให้เรียบร้อยค่ะ
และที่แขวนแกนกระดาษชำระ
พร้อมทั้งราวแขวนผ้าที่ฝั่งตรงข้าม
ถัดมาเป็นโซนเปียกหรือพื้นที่อาบน้ำนะคะ โดยบริเวณนี้จะกั้นด้วยฉากกั้นกระจกแบบบานเปิด สามารถกั้นน้ำกระเด็นออกมาโซนแห้งได้ดี เป็นสัดส่วนดีมาก
ที่ประตูติดมือจับให้ขนาดใหญ่ สามารถใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ด้วย
พื้นที่อาบน้ำมีขนาดกะทัดรัด พื้นตรงกลางปูด้วยกระเบื้องผิวหยาบเพื่อกันลื่น ด้านข้างมีเว้นพื้นที่ให้สามารถวางชั้นวางของได้ด้วยนะ
ฝักบัวได้ทั้งแบบ Rain Shower และแบบสายอ่อน ส่วนด้านข้างฝักบัว Built-in ชั้นวางของให้ด้วยถือว่าดีมากๆ สามารถใช้งานได้จริง เหมาะกว่าที่ให้มาเป็นที่วางสบู่อย่างเดียว ซึ่งในการใช้งานจริงไม่เพียงพอ การ Built-in ชั้นให้เลยแบบนี้ถือว่าดีกว่ามากเลย
หน้าตาฝักบัวจะแตกต่างจากที่อื่นๆ นะคะ เป็นแบบวงกลมมีรูตรงกลาง หัวฝักบัวค่อนข้างใหญ่ทีเดียวค่ะ ใช้งานได้ดี โดยทั้งหมดจาก Cotto เช่นเดิม
ในห้องน้ำจะไม่มีหน้าต่างระบายอากาศให้ ทางโครงการจึงเตรียมระบบระบายอากาศเอาไว้ให้แล้ว
นอกจากนี้ สวิตช์และปลั๊กไฟที่ใช้ภายในห้องจะเป็นของ Bticino นะคะ
ส่วนเครื่องปรับอากาศที่ให้มากับตัวห้องจะเป็นของ Panasonic ค่ะ
::: แบบ 1 Bedroom (Big) ขนาด 43.00 ตร.ม. :::
มาดูห้อง 1 Bedroom ขนาดใหญ่กันบ้าง ภายในห้องแบ่งออกเป็น 5 ส่วนเหมือนเดิมค่ะ แต่จุดที่ต่างจากห้องที่แล้วก็คือ เปิดประตูเข้าห้องมาจะเจอกับส่วนครัวก่อน ซึ่งห้องนี้จะได้เป็นครัวที่มีขนาดใหญ่ขึ้นแต่เป็นครัวเปิด ซึ่งเชื่อมกับพื้นที่ Common Area และระเบียงห้อง ส่วนห้องนอนจะถูกกั้นส่วนออกไปด้วยผนังทึบ ได้ความเป็นส่วนตัวที่มากกว่า ส่วนห้องน้ำจะแบ่งย่อยเป็น 2 ส่วนค่ะ คือส่วนที่เป็น Powder Room สำหรับแขก กั้นส่วนจากโซนเปียกด้วยประตูบานเลื่อน สามารถล็อคได้ เพื่อความเป็นส่วนตัวของเจ้าของห้อง
เราเข้าไปดูรายละเอียดภายในห้องด้วยกันเลยค่ะ
ภาพรวมภายในห้อง ตกแต่งมาในสไตล์ Modern Contemporary ได้อารมณ์แบบโมเดิร์นจากโทนสีเทา และ อารมณ์คลาสสิค จากเฟอร์นิเจอร์ เรียบหรู ดูดี มีสไตล์ เพดานสูงถึง 2.8 เมตร โล่ง โปร่ง ให้ความรู้สึกหรูหรา เหมือนได้อยู่บ้านเดี่ยว ผนังห้องวอลเปเปอร์สีพื้น ฝ้าฉาบเรียบ และ เล่นระดับบางส่วน ไฟภายในห้องแบบดาวน์ไลท์ ส่วนพื้นห้องปูลามิเนตลายไม้หนา 12 มม. ค่ะ
เข้ามาส่วนแรกจะพบกับส่วนครัวและมุมรับประทานอาหาร โดยจัดให้เป็นชุดเคาน์เตอร์ Built-in ชุดเดียวกันเลยค่ะ ดูสวยงามทีเดียว
ชุดครัวที่โครงการเลือกใช้ เป็นของ Teka เคาน์เตอร์ครัว L-Shape ฝังไฟ LED Top ครัวหินสังเคราะห์ พร้อมตู้เก็บของด้านบน และ ด้านล่าง บานเปิดเปียโนไฮกลอส มี Island ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะทำเป็น Pantry สำหรับเตรียมอาหาร รวมถึงจัดเป็นโต๊ะทานข้าวแบบที่โครงการตกแต่งให้ดูก็ได้ค่ะ
ผนังครัวกรุกระจกสีดำเช็ดทำความสะอาดง่ายกว่าผนังปูนทั่วไป ติดตั้งปลั๊กไฟสำหรับต่อใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าให้เรียบร้อย รวมไปถึงการให้พื้นที่ทำครัว กว้าง ทำอาหาร เตรียมอาหารได้สะดวกเลยทีเดียวนะคะ
เราเปิดช่องเก็บของให้ดูค่ะว่ามีตรงจุดไหนบ้าง ได้มาเยอะพอสมควรเลย
ระยะการยืนปรุงอาหารก็กว้างขวางเหลือเฟือ
สำหรับพื้นที่รับประทานอาหารจะเป็นแบบ Breakfast Counter คือเป็นโต๊ะที่กันหน้าไปทางครัว ไม่ได้หันหน้าเข้าหากันนะ แต่เราสามารถเพิ่มเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเป็น 3 ที่นั่งได้ตามใจชอบ
ส่วนฝั่งตรงข้ามจะมีช่องวางตู้เย็น ขนาดที่เหมาะกับพื้นที่คือ 11.3 คิวบิกฟุต และตู้เก็บของที่สูงจรดฝ้า มีข้อดีคือสามารถเก็บของได้มากขึ้น
ข้างๆ พื้นที่วางตู้เย็นจะมีประตูห้องน้ำค่ะ ซึ่งเปิดเข้าไปในส่วนนี้จะเป็นส่วนของแขกนะ
ด้านในเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room ค่ะ คือมีเฉพาะอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ ไม่มีส่วนอาบน้ำให้ เราจะเห็นประตูบานเลื่อนที่กั้นส่วนระหว่างส่วนแขกกับส่วนเจ้าของห้อง (ส่วนเปียก) อยู่ด้านใน ข้อดีของการแบ่งห้องน้ำแบบนี้ก็คือ แขกจะได้ไม่ต้องเดินเข้าไปใช้ห้องน้ำจากด้านในห้องนอน และเจ้าของห้องเองก็ไม่ต้องเดินวนออกมาจากห้องนอนเพื่อใช้ห้องน้ำเวลาจะอาบน้ำแต่งตัวค่ะ
อ่างล้างมือของห้องนี้ก็จะมีขนาดเล็กหน่อย แต่ก็พอเพียงต่อการใช้งานแล้ว เพราะใช้แค่ล้างมือ ส่วนขอบอ่างก็วางขวดสบู่เพียงอย่างเดียวพอ มีกระจกเงาบานใหญ่ติดมาให้เช็คความเรียบร้อยก่อนออกจากห้อง
ขนาดอ่างและก๊อกน้ำค่ะ
ส่วนฝั่งตรงข้ามวางโถสุขภัณฑ์จาก Cristina เช่นเดิมค่ะ ด้านข้างติดตั้งสายฉีดชำระ และที่แขวนทิชชู่ให้เรียบร้อย
กลับมาที่ส่วนนั่งเล่นที่อยู่ถัดจากส่วนครัว และอยู่ติดกับห้องนอน ลูกค้าจะได้เฟอร์นิเจอร์ตามนี้เลยนะคะ บริเวณนี้ได้ความรู้สึกโปร่งโล่งดีทีเดียว ด้วยพื้นที่ใช้สอยและความสูงฝ้าเพดาน จัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่ได้พักผ่อนดีทีเดียว
ที่ได้มากับห้องก็คือโซฟาหนังเทียมสีขาว ขนาด 3 ที่นั่ง + โต๊ะรับแขกทรงกลมหน้า Top หินแกรนิต
ส่วนตรงผนังเปล่าถูกบิวท์อิน Sideboard ลูกค้าจะวางทีวีแบบนี้ก็ได้ หรือ จะแขวนผนัง เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยก็แล้วแต่สะดวกค่ะ ส่วนชั้นวางทีวีและชั้นลอยวางของก็ได้มาเหมือนห้องที่แล้ว
จากห้องนั่งเล่นจะเชื่อมกับระเบียงห้อง ผ่านทางประตูระเบียงกระจกบานเลื่อน ขอบอลูมิเนียมสีดำ
ระเบียงปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิกสีเทาเหมือนเดิม ทำความสะอาดได้ง่าย
ชอบด้านบนที่เก็บส่วน Condensing Unit ให้เรียบร้อย ทำให้ระเบียงนี้สามารถมานั่งเล่นชมวิวได้จริง
ภาพมองย้อนกลับเข้าไปภายในห้อง
คราวนี้เราเข้าไปดูภายในห้องนอนกันต่อ ซึ่งจะกั้นส่วนออกจาก Common Area ด้วยผนังทึบ มีประตูบานเปิดเข้าสำเร็จรูปแบบนี้
ภายในห้องเราก็จะได้ เตียงนอนขนาด 6 ฟุต, โต๊ะข้าง 2 ตัว, โต๊ะทำงาน และชั้นวางทีวีมาแบบในห้องเลยค่ะ
หัวเตียงก็จะได้แบบนี้เลยนะคะ ส่วนฟูกเราต้องไปซื้อเพิ่มเติมมาเอง
ข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งวางโต๊ะข้างมาให้เรียบร้อย
ส่วนฝั่งซ้ายมือเราได้โต๊ะทำงานและเก้าอี้มาด้วย เป็นแบบเดียวกันกับห้องที่แล้วค่ะ
ระยะนั่งก็ยังเหลือแบบนั่งได้สบายๆ
ฝั่งปลายเตียงที่ผนังติดชั้นวางทีวีมาให้ด้วย ระยะเดินก็ยังเหลือพอสมควร สามารถเดินผ่านหรือเปลี่ยนผ้าปูเตียงได้สบาย
ช่องแสงในห้องนี้เหมือนกับห้องที่แล้วค่ะ เป็นหน้าต่างบานฟิกซ์และบานกระทุ้งทั้ง 2 ฝั่ง
ภาพจากฝั่งมุมหน้าต่าง มองย้อนกลับไปภายในห้อง
ด้านข้างโต๊ะทำงานจะมีประตู ซึ่งเป็นส่วนของ Walk-in Closet ซึ่งจะเชื่อมต่อกับห้องน้ำในส่วนเปียกอีกที
ภายใน Walk-in Closet ค่ะ
ซ้ายมือทำบิวท์อินตู้เสื้อผ้า หน้าบานกระจกให้ทั้งสองฝั่ง เก็บเสื้อผ้าได้จัดเต็มค่ะ มีการติดตั้งไฟ LED ให้แสงสว่าง เปิดหยิบเสื้อผ้าได้ง่ายขึ้นไปอีก ส่วนฝั่งขวาจะมีตู้บิวท์อินอีก 1 ตู้ และมีประตูเป็นทางเข้า-ออกห้องน้ำจากฝั่งห้องนอน ตามที่บอกไปข้างต้น ระยะยืนแต่งตัว ไม่ได้กว้างมาก แต่ก็ไม่ได้แคบค่ะ เป็นขนาดที่พอดีแล้ว กับ 1 ห้องนอน
เข้ามาดูภายในห้องน้ำกันต่อ
แบ่งเป็นอ่างอาบน้ำ, เคาน์เตอร์อ่างล้างมือ และ กั้น Shower Box กระจกนิรภัยให้เป็นสัดส่วน
อ่างล้างมือจาก Cristina เช่นเดิมรุ่นเดียวกับห้องแรกเลยค่ะ แต่มีขนาดพื้นที่ด้านข้างมากกว่า สามารถวางของใช้ต่างๆ ได้ดี ใต้เคาน์เตอร์อ่างล้างมือมีขนาดใหญ่ เป็นตู้เก็บของใช้ ที่ผนังตกแต่งกระเบื้องโมเสกสีขาว-ดำ และกระจกเงาขนาดใหญ่ เอาใจสาวๆ มากเลยทีเดียว
ด้านข้างก็ยังมีตู้เก็บของให้อีก 1 ตู้
แม้จะเป็นห้องขนาด 1 ห้องนอน ก็มีการติดตั้งอ่างอาบน้ำให้ด้วย โดยอ่างอาบน้ำขนาดมาตรฐาน นอนแช่ได้สบายๆ มีระบบน้ำร้อนให้เรียบร้อย
ขนาดอ่างกำลังดีเลยค่ะ สามารถนอนอาบได้ 1 คนพอดี
พร้อมก๊อกน้ำติดตั้งบนอ่างให้แบบนี้ มี 2 หัวปรับอุณหภูมิของน้ำได้
ส่วนอาบน้ำ มีการกั้นประตูกระจกนิรภัย มือจับประตู L-Shape เปิด-ปิดเข้าออกง่ายค่ะ
ผนังภายในส่วนอาบน้ำ ตกแต่งกระเบื้องโมเสก ให้มีมิติ ไม่เรียบจนเกินไป พร้อมติดตั้งฝักบัวหน้าดีไซน์เก๋มาก ให้มาทั้งแบบ Hand Shower แบบไมโครโฟน และ Rain Shower 3 หัว ปรับระดับสูง-ต่ำได้
ภาพมองย้อนกลับค่ะ จะเห็นประตูทางเข้าห้องน้ำ ฝั่งซ้ายคือจากห้องนอน และฝั่งขวาคือจาก Powder Room ด้านหน้าห้องครัว
:::: ราคา (พฤษภาคม 2561) ::::
เริ่มต้น 4.19 ล้านบาท (ราคาเฉลี่ย 125,000 บาท/ ตร.ม.)
Fully Furnished ฝ้าเพดานสูง 2.8-3 ม.
เงินจอง 20,000 บาท
เงินทำสัญญา 80,000 บาท
ค่าเงินกองทุนแรกเข้า : 500 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง ตร.ม. ละ 50 บาท/เดือน (ชำระล่วงหน้า 2 ปี)
**ข้อมูลราคาและ โปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และข้อมูลที่อัพเดทที่สุดค่ะ
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ Chewathai Residence บางโพ คอนโดใหม่จาก “ชีวาทัย” ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ (ประชาราษฎร์ สาย 2) เป็นโครงการย่านบางซื่อ-เตาปูน-บางโพ ซึ่งเป็นโซนชุมชนที่ทำเฟอร์นิเจอร์ และ ค้าไม้เก่า อดีตพื้นที่โซนนี้ เคยเป็นตึกแถว ที่ยึดอาชีพเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ และ ค้าไม้ที่ดังที่สุดในกทม. ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบ อยู่ในระดับที่ดี มีห้างสรรพสินค้าอย่าง เทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี, ตลาดบางโพ นอกจากนั้นยังใกล้กับโรงพยาบาลบางโพ รวมถึงเป็นแหล่งของสถานศึกษา ใกล้รร.โยธินบูรณะ, รร.ราชินีบน ทั้งยังใกล้กับรัฐสภาใหม่ ที่คาดว่าเมื่อเปิดอย่างเป็นทางการแล้ว ผู้อยู่อาศัยโซนนี้ก็เพิ่มมากขึ้น คึกคักมากขึ้น
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว เดินทางได้สะดวก โครงการติดถนนใหญ่ ประชาราษฎร์ สาย 2 สามารถเชื่อมต่อสู่ถนนสำคัญได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี, ถนนประชาชื่น, ถนนวงศ์สว่าง ใกล้สี่แยกเตาปูน และ บางโพ เข้า-ออกเมืองก็สะดวกค่ะ ใกล้ทางด่วนพิเศษศรีรัช *อนาคตมีโครงการสะพานเกียกกาย ที่จะรองรับรถยนต์ 70,000 คันต่อวัน ซึ่งจะช่วยระบายรถยนต์โซนนี้ ให้เดินทางได้สะดวกมาขึ้น หลีกเลี่ยงรถติดได้ดี คาดว่าแล้วเสร็จปี 2561 นี้ค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ สะดวกที่สุดคือ รถไฟฟ้า MRT บางโพ ระยะเดินเท้าจากหน้าโครงการเพียง 100 เมตร รวมถึงรถเมล์โดยสาร ที่มีผ่านด้านหน้าโครงการ มีรถให้บริการหลายสาย ตามนี้ สาย5, 16, 30, 66, ปอ.505 และยูโรสาย 16
การออกแบบโครงการ และวัสดุ เป็นคอนโด High Rise 24 ชั้น 1 อาคาร บนที่ดิน 1-1-94.3 ไร่ คอนโดใหม่จากชีวาทัย ภายใต้คอนเซ็ปต์ The Ultimate Selection ใส่ใจในรายละเอียด และ ฟังก์ชั่นการใช้งานที่คุ้มค่า ออกแบบอาคารสไตล์โมเดิร์น ที่ยังคงกลิ่นอายของชุมชนค้าไม้เก่าเอาไว้ ด้วยการนำฝาไม้ มาตกแต่งอาคาร และ ทางเข้า-ออกโครงการ ให้ความเป็นส่วนตัวด้วยห้องพักเพียง 172 ยูนิต เมื่อเปรียบเทียบกับโครงการใกล้เคียง โครงการนี้ถือว่าเป็น Private Residence มากที่สุดที่มีอยู่ ณ ขณะนี้ค่ะ
โครงการขายห้องให้แบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินและลอยตัว ตามแบบที่เราพาไปชมทั้งหมด สิ่งที่ไม่ได้คือ ของตกแต่งห้อง และ ผ้าม่านเท่านั้น วัสดุชุดครัวที่ได้รับเกรดพรีเมี่ยม ออกแบบให้ใช้งานได้จริง Top ครัวหินสังเคราะห์ แข็งแรง ทนทาน ทำความสะอาดได้ง่าย ตู้เก็บของไม่ว่าจะเป็นบานเปิด หรือ บานเลื่อน ให้แบบ Soft Closed ทั้งหมด พิเศษด้วยห้องน้ำแบบ His & Her แยกส่วนแห้ง ส่วนอาบน้ำชัดเจน สามารถเข้าพร้อมกันได้สะดวก สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ Cristina หรือ เทียบเท่า
พื้นห้องถูกปูด้วยลามิเนตหนา 12 มม. ห้องน้ำปูกระเบื้องเซรามิค ผนังปูเซรามิคเล่นลาย บางส่วนปูโมเสก เพิ่มให้ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น รวมถึงผนังห้องวอลเปเปอร์ทั้งหมด ฝ้าเพดานมีทั้งฉาบเรียบ และ เล่นระดับ ไฟภายในห้องดาวน์ไลท์ทั้งหมด รวมถึงติดตั้งแอร์ให้ครบทุกห้องค่ะ
ระบบรักษาความปลอดภัยในห้อง : ประตู Digital Door Lock ของ Yale, Motion Sensor
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ไฮไลท์อยู่ที่ Main Lobby ขนาดใหญ่ แบบ Double Volume ให้อารมณ์แบบได้พักผ่อน สบายๆ โปร่งโล่ง ตกแต่งภายใน Lobby ด้วยสี Rose Gold เพิ่มเสาสเตนเลสให้ดูหรูหรา รวมถึงมีห้อง Business Lounge สำหรับนั่งทำงาน, ประชุมเล็กๆ หรือ เด็กจะลงมาทำการบ้าน ติวการบ้านกับเพื่อนที่นี่ก็ได้ มีบริการ Internet-Wifi ให้ใช้ฟรี ที่ชั้น 1 มีห้องนิติบุคคล, Mail Box และ โถงลิฟท์ที่ตกแต่งสวยงาม ได้ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว + ลิฟท์บริการ 1 ตัว ด้วยอัตราห้องที่น้อย ไม่น่าจะมีปัญหาในการใช้ลิฟท์เท่าไหร่
ที่ชั้น 7 มี Pocket Garden จัดชุดเก้าอี้พักผ่อน ให้ลูกบ้านเรียบร้อย ออกมานั่งรับลม ชมวิวได้สบายๆ ส่วน Facilities อื่นๆ ยกขึ้นไปบนดาดฟ้าชั้น 23-24 แบ่งเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ พิเศษที่โครงการเพิ่ม River View Sky Lab Pool ออกไป ให้ว่ายเสียวเล่นกันนิดหน่อย มีห้องฟิตเนส เครื่องเล่นครบครัน + ห้องอบไอน้ำ และ ห้องน้ำแยกชาย-หญิง
สวนพักผ่อนบนดาดฟ้า ขนาดใหญ่กำลังดี เดินชมวิวได้รอบอาคาร จะเห็นได้ทั้งวิวแม่น้ำ และ วิวเมืองเลยค่ะ สุดท้ายที่จอดรถ จัดให้แบบเต็มๆ เริ่มที่ชั้น 1-6 คิดเป็น 80% รวมจอดซ้อนคัน ถือว่าเยอะมาก แทบจะหาไม่ได้แล้วกับคอนโดในปัจจุบัน ระบบรักษาความปลอดภัย เข้า-ออกโครงการ และ อาคาร Access Card Control ลิฟท์โดยสารล็อคชั้น ติดตั้ง CCTV ที่ทางเข้า-ออก และ ภายในโครงการ มีรปภ. ดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
:::: คะแนน ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ
8.5
โครงการโซนบางซื่อ ติดรถไฟฟ้า MRT บางโพ และ ใกล้จุด Interchange เตาปูน เดินทางสะดวก ติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว
8.0
เดินทางได้สะดวก โครงการติดถนนใหญ่ ประชาราษฎร์ สาย 2 สามารถเชื่อมต่อสู่ถนนสำคัญได้หลากหลาย ใกล้ทางด่วนพิเศษศรีรัช
การเดินทางโดยรถสาธารณะ
8.0
เดินทางด้วยรถสาธารณะ มีรถเมล์ผ่านหน้าโครงการหลายสาย ใกล้รถไฟฟ้า Taxi มอเตอร์ไซค์รับจ้างเรียกได้ง่าย มีผ่านตลอดเดินทางด้วยรถยนต์สะดวก ใกล้ทางด่วน เชื่อมต่อถนนสำคัญได้หลายสาย
บ้านและวัสดุ
9.0
Fully Furnished By Starmark เฟอร์นิเจอร์ออกแบบพิเศษ สุขภัณฑ์ Cristina หรือ เทียบเท่า ออกแบบห้องฟังก์ชั่นครบ ห้องน้ำแบบ Multi Function Bathroom แยกส่วนแห่ง ส่วนอาบน้ำชัดเจน
สิ่งอำนวยความสะดวก
8.0
สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ที่จอดรถประมาณ 80%
ความคุ้มค่ากับราคา
8.0
เริ่ม 4.19 ล้านบาท Fully Furnished ตกแต่งครบ ได้รับวิวแม่น้ำ และ วิวเมือง ที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วในโซนนี้ (ปัจจุบัน)
คะแนนรวมเฉลี่ย
8.3
ดีมาก
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
TEL : 02-912-8808
WEBSITE : http://residencebangpho.com
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น