EP.1464 รีวิว บ้านเดี่ยว ชีวาวัลย์ ปิ่นเกล้า – สาทร Chewawan Pinklao – Sathorn
มีโปรแรง 2023 มาฝากจร้า บ้านเดี่ยว 100 ตร.ว. จาก 30 ล้าน เหลือแค่ 21 ล้าน คลิกเลย
Written by : Nin Yanin
สวัสดีค่ะผู้อ่านชาว Homenayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพามาชมโครงการ Chewawan ปิ่นเกล้า – สาทร จาก Chewathai กันค่ะ ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนพุทธมณฑล สาย 1 แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตที่สงบงดงาม หรูหรา ท่ามกลางธรรมชาติที่ห่างจากการรบกวนทั้งมวลแต่ยังต้องการความสะดวกสบาย ใกล้แหล่ง Shopping ขนาดใหญ่ทั้ง The Circle ราชพฤกษ์, The Crystal ราชพฤกษ์, Central ปิ่นเกล้า, The Mall บางแค และ Seacon บางแค สามารถเดินทางได้สะดวกเชื่อมต่อถนนสายหลักได้อย่างง่ายดาย และอยู่ใกล้กับทางด่วนศรีรัช – วงแหวนรอบนอก
ชีวาวัลย์ ปิ่นเกล้า – สาทร เป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรูสูง 2 ชั้น บนพื้นที่โครงการ 26 – 3 – 20.3 ไร่ เป็นส่วนตัวเอกสิทธิ์เฉพาะ 52 ครอบครัว 52 หลัง เนื้อที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา. มีพื้นที่ใช้สอย 333 – 432 ตร.ม. พร้อมฟังก์ชั่นขนาด 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องทำงาน 1 ห้องพระ 1 – 2 Family Area 1 ห้องแม่บ้าน และที่จอดรถ 4 – 6 คัน กับบ้านสไตล์ Modern Classic พร้อมรองรับการใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบสำหรับวิถีชีวิตที่เลือกสรรรถสนิยมและรายละเอียดอันปราณีตบรรจง ท่ามกลางภูมิทัศน์ที่สวยงาม ซึ่งทางโครงการเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2562 ค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการมีมาให้อย่างครบครัน กับ Clubhouse หรู, Swimming Pool สระว่ายน้ำระบบเกลือ แยกสระเด็ก – สระผู้ใหญ่, Fitness พร้อมเครื่องออกกำลังกายครบครัน, Squash Room, Yoga Room, Sauna Room, ใช้ Underground Cables เพื่อทัศนียภาพที่สวยงาม, Automatic Sprinkler ไฟถนนและไฟสวน LED โซล่าเซลล์ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. กับ Double Gate Security, เข้า – ออกโครงการ ด้วยระบบ Easy Pass, ติดกล้อง CCTV กระจายรอบโครงการ 32 จุด ในราคาเริ่มต้น 25 – 40 ล้านบาท*
อย่ามัวรอช้า เชิญติดตามรายละเอียดของโครงการที่ด้านล่างนี้ได้เลยค่า
ชีวารมย์ ราชพฤกษ์ตัดใหม่ เริ่ม 7 ล้าน*
ชีวารมย์ นครอินทร์ เริ่ม 10 ล้าน*
ชีวาวัลย์ ปิ่นเกล้า-สาทร เริ่ม 25 ล้าน*
ชื่อโครงการ | ชีวาวัลย์ ปิ่นเกล้า-สาทร Chewawan Pinklao-Sathorn |
เจ้าของโครงการ | บมจ.ชีวาทัย / Chewathai |
ลักษณะโครงการ | บ้านเดี่ยวหรู 2 ชั้น / แบบบ้าน 2 แบบ |
พื้นที่โครงการ | 26 – 3 – 20.3 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 52 ยูนิต |
เนื้อที่บ้าน | เริ่มต้น 100 – 190 ตร.ว. |
พื้นที่ใช้สอย |
|
จำนวนห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด |
|
โซน | เขตตลิ่งชัน |
ขนส่งสาธารณะ |
|
ที่ตั้ง | ถนนพุทธมณฑล สาย 1 แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร |
กำหนดการ | n/a |
ปีที่สร้างเสร็จ | เริ่มโอนกรรมสิทธิ์ มิ.ย. 62 |
ราคา | เริ่ม 25 – 40 ล้านบาท* (ก.ค.62) |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.วา |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อื่นๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ |
|
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ถนนพุทธมณฑล สาย1 แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร
พิกัด : 13.773722, 100.426625
แผนที่จากทางโครงการ โครงการ Chewawan ปิ่นเกล้า – สาทร ตั้งอยู่บนถนนพุทธมณฑล สาย 1 สะดวกสบายใกล้แหล่ง Shopping ขนาดใหญ่ทั้ง The Circle ราชพฤกษ์, The Crystal ราชพฤกษ์, Central ปิ่นเกล้า, The Mall บางแค และ Seacon บางแค สามารถเดินทางได้สะดวกเชื่อมต่อถนนสายหลักได้อย่างง่ายดาย และอยู่ใกล้กับทางด่วนศรีรัช – วงแหวนรอบนอก
ทำเลที่ตั้ง โครงการ Chewawan ปิ่นเกล้า – สาทร ตั้งอยู่บนถนนพุทธมณฑลสาย 1 ฝั่งมุ่งหน้าไปทางถนนเพชรเกษม ใกล้ถนนฉิมพลี และ ถนนบรมราชชนนี เป็นทำเลในฝั่งธนบุรีค่ะ ภาพรวมของทำเลนี้จะเป็นพื้นที่อยู่อาศัยในแนวราบ มีโครงการบ้านจัดสรรขนาดเล็กและขนาดใหญ่ขึ้นอยู่ใกล้ๆ กันไม่ว่าจะเป็นโครงการทาวน์โฮมหรือบ้านเดี่ยว ส่วนพื้นที่ติดถนนใหญ่ก็จะเป็นพวกอาคารพาณิชย์ค่ะ โดยรวมในทำเลนี้ยังสามารถพัฒนาไปได้อีกมาก เพราะยังมีผืนที่ดินเปล่าและพื้นที่สำหรับทำเกษตรกรรมเหลืออยู่มากพอสมควร
ถึงแม้ว่าตัวโครงการจะอยู่ไกลออกมาจากจุดศูนย์กลาง แต่ก็อยู่ไม่ไกลจากแหล่งสาธารณูปโภคต่างๆ และจะมีความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ เนื่องจากมีแผนการก่อสร้างโครงข่ายรถไฟฟ้ามายังฝั่งธนฯ อีกหลายสาย ซึ่งจุดนี้จะทำให้มีโครงการที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นตามมา ไม่ว่าจะเป็น ทาวน์โฮม, บ้านเดี่ยว รวมถึง คอนโดมิเนียมทั้ง Low rise และ High rise ค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ นับว่าสะดวกสบายทีเดียวค่ะ เพราะตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนพุทธมณฑลสาย 1 ซึ่งเป็นเส้นที่เชื่อมต่อระหว่างถนนสายหลักที่สำคัญ 2 สายอย่าง ถนนบรมราชชนนี และ ถนนเพชรเกษม อีกทั้งยังสามารถเชื่อมเข้าสู่ ถนนราชพฤกษ์, ถนนพรานนก – พุทธมณฑลสาย 4 และวงแหวนกาญจนาภิเษก ได้สะดวกอีกด้วย
จากถนนพุทธมณฑลสาย 1 หากวิ่งตรงลงมาทางใต้ จะสามารถเชื่อมต่อกับ ถนนพรานนก – พุทธมณฑลสาย 4 ใช้มุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลศิริราช หรือเชื่อมต่อกับ ถนนราชพฤกษ์ มุ่งหน้าสู่ใจกลางเมืองตรง สาทร สีลม และ พระราม 3 ได้ และจะสุดที่ถนนเพชรเกษม สามารถใช้วิ่งไปทางวงเวียนใหญ่และทางอ้อมน้อยได้ จากถนนพุทธมณฑลสาย 1 หากกลับรถเข้าสู่ถนนบรมราชชนนี ก็สามารถใช้มุ่งหน้าสู่สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า และ สะพานพระราม 8 ได้สะดวก หรือใช้เชื่อมกับวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันตก เพื่อวิ่งลงไปทางพระราม 2 หรือขึ้นไปทางบางบัวทอง ซึ่งตรงนั้นจะมีจุดขึ้นทางพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอกอยู่ด้วยค่ะ
ทางด่วน จากตัวโครงการสามารถเดินทางไปขึ้นทางพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอกได้ง่ายมาก โดยให้กลับรถขึ้นไปทางถนนบรมราชชนนี (จุดกลับรถจะอยู่บริเวณหน้าโครงการพอดีค่ะ) ตรงเลยถนนบรมราชชนนีขึ้นไปจนสุดเส้นพุทธมณฑลสาย 1 แล้วเลี้ยวซ้าย จะมีจุดกลับรถไปที่ทางขึ้นทางด่วน ใช้เวลาเพียง 8 นาทีเท่านั้นเอง
แต่ถ้าจะวิ่งลงไปทางพระราม 2 ก็ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนบรมราชชนนีแทนนะคะ
:: สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ ::
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ปัจจุบันที่หน้าโครงการบนถนนพุทธมณฑลสาย 1 จะไม่ค่อยมีรถประจำทางวิ่งผ่านเท่าไหร่ค่ะ พอจะมีรถแท็กซี่วิ่งผ่านอยู่เป็นช่วงๆ สามารถเรียกได้สะดวก แต่ถ้าจะให้สะดวกที่สุดก็คือเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอพพลิเคชั่น Grab Taxi และ Line Taxi ประกอบกันไปค่ะ
สำหรับการเดินทางด้วยระบบราง ปัจจุบันมี รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง – บางแค ที่จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนปี 2562 นี้แล้วด้วย โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีภาษีเจริญ ค่ะ และในอนาคตจะมี รถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน ช่วง บางหว้า – ตลิ่งชัน วิ่งบนเส้นเชื่อมราชพฤกษ์ เชื่อมรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสีเขียวที่สถานีบางหว้า และไปเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีแดงและสีส้ม (สายในอนาคต) ที่สถานีตลิ่งชัน ซึ่งสถานีที่อยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุดก็คือ สถานีบรมราชชนนี อยู่บริเวณจุดตัดถนนบรมราชชนนี แต่ปัจจุบันยังติดปัญหาเรื่อง EIA และ ที่ดินสร้างสถานีจ่ายไฟ จึงยังคงต้องรอลุ้นกันต่อไปนะคะว่าจะรถไฟฟ้าสายนี้จะถูกสร้างและเปิดใช้งานจริงๆ เมื่อไหร่
ความอุดมสมบูรณ์ ถึงแม้ตัวโครงการจะอยู่ในชานเมืองแต่ก็มีความอุดมสมบูรณ์รองรับการอยู่อาศัย ภาพรวมบริเวณโดยรอบโครงการค่อนข้างเงียบสงบค่ะ ใกล้เคียงกับตัวโครงการในระยะเดินพอจะมีร้านสะดวกซื้ออย่าง 7 – Eleven ตรงหน้าปากซอยถนนฉิมพลี พอจะให้จับจ่ายใช้สอยอะไรง่ายๆ ได้ ภายในถนนฉิมพลีเองนั้นเป็นชุมชนที่อยู่อาศัย มีทั้งบ้านพักอาศัย วัด และโรงเรียน จึงพอหาร้านอาหารร้านเล็กๆ ทานแถวนั้นได้บ้าง
ห่างออกไปในระยะขับรถก็ใกล้แหล่งช้อปปิ้งทั้ง ห้างสรรพสินค้า, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, คอมมูนิตี้มอลล์, ร้านค้า, โรงพยาบาล และ สถานศึกษา หลักๆ เลยบนเส้นราชพฤกษ์ก็จะมี The Circle ราชพฤกษ์, Food Villa ราชพฤกษ์, HomePro, The Crystal ราชพฤกษ์ และ The Walk ราชพฤกษ์
ส่วนห้าง Central ที่อยู่ใกล้ที่สุด ก็จะเป็น Central ปิ่นเกล้า ตรงเส้นบรมราชชนนี ข้างๆ ก็มี Tesco Lotus และ Shopping Mall อย่าง The Sense มองไปที่เส้นกาญจนาก็มี The Paseo Park เหมือนกันนะ อยู่ไม่ไกลด้วย และถ้าลงมาที่เส้นเพชรเกษมก็มีทั้ง The Mall บางแค, Tesco Lotus บางแค, ตลาดใหม่ บางแค และ Seacon บางแค ค่ะ
:: สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ::
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อื่นๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนราชพฤกษ์ > ถนนบรามราชชนนี > ถนนพุทธมณฑล สาย 1 > โครงการ Chewawan ปิ่นเกล้า – สาทร
เราเริ่มต้นการเดินทางจากบนถนนราชพฤกษ์ช่วงวงเวียน – ถนนราชพฤกษ์กันนะคะ โดยจะใช้เวลาจากจุดนี้เดินทางไปถึงตัวโครงการในเวลาเพียง 10 – 15 นาทีเท่านั้น พอผ่านวงเวียน – ถนนราชพฤกษ์มาแล้ว ทางฝั่งซ้ายมือเราจะเห็น The Walk ราชพฤกษ์ค่ะ
จากถนนราชพฤกษ์ให้เราขับตรงไปเรื่อยๆ ตามป้ายถนนบรมราชชนนีฝั่งไปถนนกาญจนาภิเษก
สังเกตป้ายถนนเพชรเกษมหรือถนนบรมราชชนนีฝั่งไปถนนกาญจนาภิเษกเอาไว้ และให้เราชิดเลนขวาเอาไว้ค่ะ ถ้าแยกออกไปทางซ้ายตอนนี้จะไปทางสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้านะ
เราขับตรงไปเรื่อยๆ ตามป้ายถนนเพชรเกษมไปค่ะ ซึ่งจะมีทางแยกอีกครั้ง ให้เรายึดขับตามช่องทางฝั่งขวาเอาไว้
คราวนี้ให้เราดูที่กลับรถใต้สะพานเพื่อเข้าถนนบรมราชชนนีค่ะ บริเวณนี้เราจะเห็นทางเข้าวัดสมรโกฏิอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ ใช้เป็นจุดสังเกตได้
ให้เราชิดซ้ายแล้วกลับรถใต้สะพาน
พอเรากลับรถใต้สะพานมาที่อีกฝั่งหนึ่งของถนนราชพฤกษ์แล้ว ยังให้เราขับชิดซ้ายเอาไว้อยู่นะคะ
สังเกตป้ายถนนกาญจนาภิเษกเอาไว้แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนบรมราชชนนี
พอเลี้ยวเข้าถนนบรมราชชนนีมาแล้ว ให้เราวิ่งตรงไปตามป้ายบางแคค่ะ
ทางฝั่งซ้ายมือของเราสามารถเชื่อมต่อกับถนนฉิมพลีได้ ซึ่งเราสามารถใช้ถนนฉิมพลีทะลุไปออกถนนพุทธมณฑลสาย 1 ถึงบริเวณหน้าโครงการเลยก็ได้ค่ะ แต่ในวันนี้เราขอวิ่งตามเส้นทางหลักให้ดูก่อนนะ
จากนั้นให้เราชิดซ้ายเอาไว้เพื่อเตรียมเลี้ยวเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 1
พอถึงทางแยกแล้วก็ให้เราเลี้ยวซ้ายไปเลยค่ะ
พอเราเลี้ยวเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 1 มาแล้ว ให้วิ่งตรงไปเรื่อยๆ สักพักเราจะเห็นทางออกของถนนฉิมพลีที่เชื่อมมาจากถนนบรมราชชนนีเมื่อสักครู่ บริเวณนี้จะมี 7 – Eleven อยู่ 1 สาขา ซึ่งห่างจากหน้าโครงการเพียง 230 เมตรเท่านั้น
เราวิ่งตรงมาอีกเพียง 230 เมตรก็จะเห็น โครงการ Chewawan ปิ่นเกล้า – สาทร อยู่ทางฝั่งซ้ายมือของเราแล้วค่ะ
และนี่ก็คือหน้าตาของซุ้มทางเข้าโครงการ Chewawan ปิ่นเกล้า – สาทร สไตล์ Modern Classic ดูหรูหราสวยงาม
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
บริเวณโดยรอบโครงการบนถนนพุทธมณฑลสาย 1 จะเป็นโซนของที่อยู่อาศัยในแนวราบ มีทั้งโครงการบ้านจัดสรร, บ้านพักอาศัยส่วนตัวดั้งเดิม, ตึกแถว, ห้องเช่า, อาคารพาณิชย์, ร้านอาหาร, ร้านขายของชำ, ที่ดินเปล่า, ที่ดินทำเกษตรกรรม และโรงงานอุตสาหกรรม บรรยากาศจะมีความเงียบสงบและค่อนข้างเป็นส่วนตัวค่ะ
ตอนนี้เรามาอยู่กันที่บริเวณซุ้มทางเข้าโครงการกันแล้ว เดี๋ยวเราจะพาเดินดูบริบทโดยรอบโครงการกันก่อนที่จะพาเข้าไปชมด้านในโครงการค่ะ
เริ่มจากบริเวณหน้าโครงการจะอยู่ติดกับถนนพุทธมณฑลสาย 1 เลย
พื้นที่ติดกับถนนพุทธมณฑลสาย 1 ก็จะมีอาคารพาณิชย์ขึ้นอยู่บ้างเป็นบางส่วน
ไม่ไกลกันก็มีหมู่บ้านนันทวันเป็นโครงการเพื่อนบ้านขนาดใหญ่
ถัดไปยังคงมีพื้นที่ดินว่างเปล่ารอการพัฒนาอยู่อีกหลายผืนเลยนะ
:::: ตัวโครงการ ::::
เป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรูสูง 2 ชั้น บนเนื้อที่โครงการ 26 – 3 – 20.3 ไร่ เอกสิทธิเพียง 52 ยูนิต เนื้อที่ดินเริ่มต้นที่ 100 ตร.วา ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 333 – 432 ตร.ม. ชั่นขนาด 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องทำงาน 1 ห้องพระ 1 – 2 Family Area 1 ห้องแม่บ้าน และที่จอดรถ 4 – 6 คัน ในสไตล์ Modern Classic พร้อม Clubhouse หรู, Swimming Pool สระว่ายน้ำระบบเกลือ แยกสระเด็ก – สระผู้ใหญ่, Fitness พร้อมเครื่องออกกำลังกายครบครัน, Squash Room, Yoga Room, Sauna Room และพื้นที่สีเขียวรอบโครงการ และ ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
ทางเข้า – ออกของโครงการจะอยู่ติดกับถนนพุทธมณฑลสาย 1 โดยจะต้องผ่าน Security Gate ประกอบด้วย ป้อมรปภ., Double Gate Security ระบบ Easy Pass และกล้อง CCTV จาก Security Gate จะเชื่อมสู่ถนนหลักกว้าง 15 เมตร ตัดเข้าไปภายในโครงการ และเชื่อมต่อด้วยถนนซอยกว้างถึง 10 เมตร ตัดผ่านหน้าบ้านทุกหลัง ทำให้หน้าบ้านทั้ง 2 ฝั่งอยู่ค่อนข้างห่างกันได้ความเป็นส่วนตัว และในวันที่มีแขกมาเยี่ยม มีการจอดรถไว้ที่หน้าบ้านทั้ง 2 ฝั่ง ก็ยังสามารถขับรถผ่านได้สะดวกค่ะ
คลับเฮ้าส์และสวนสาธารณะถูกจัดเอาไว้ตรงใจกลางโครงการ ทำให้ลูกบ้านทุกหลังสามารถเข้ามาใช้งานได้ง่ายเดินไม่ไกล นอกจากนี้ ทางโครงการยังใช้ Underground Cables เพื่อทัศนียภาพที่สวยงาม ใช้ Automatic Sprinkler ใช้ไฟถนน และไฟสวน แบบ LED โซล่าเซลล์ นอกจากนี้บริเวณภายในโครงการยังติดตั้งกล้อง CCTV รวมทั้งหมด 32 จุดด้วยกัน ซึ่งสามารถส่องเห็นหน้าบ้านภายในโครงการได้ทุกหลังค่ะ
:::: แบบบ้านของโครงการ ::::
แบบบ้านภายในโครงการจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 2 แบบค่ะ เป็นบ้านเดี่ยวหรูสูง 2 ชั้นขนาดใหญ่ สไตล์ Modern Classic บนเนื้อที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา. มีพื้นที่ใช้สอย 333 – 432 ตร.ม. พร้อมฟังก์ชั่นขนาด 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องทำงาน 1 ห้องพระ 1 – 2 Family Area 1 ห้องแม่บ้าน และที่จอดรถ 4 – 6 คัน เราไปดูแบบบ้านด้วยกันเลยค่ะ
แบบบ้านพรรณราย
แบบบ้านพรายแสง
:::: บริเวณภายในโครงการ ::::
::: ทางเข้าโครงการ :::
ตอนนี้เรามาอยู่ที่บริเวณซุ้มทางเข้าโครงการ Chewawan ปิ่นเกล้า – สาทร ที่ออกแบบมาในสไตล์ Modern Classic เน้นสีน้ำตาลและขาวเป็นหลัก ปิดผิวด้วยกระเบื้องลายหินธรรมชาติ ติดขอบบัวซ้อนหลายชั้น และตกแต่งด้วยเหล็กดัดสีดำ ดูโอ่อ่าหรูหรา
การเข้า – ออกโครงการจะต้องผ่าน Double Security Gate ซึ่งประกอบด้วย ป้อมรปภ., กล้อง CCTV, Auto Gate 2 ชั้น ระบบ Key Card Access คือรั้วไม้กระดก และรั้วเลื่อน สำหรับลูกบ้านที่ถือ Key Card จะสามารถเปิดรั้ว Auto Gate และผ่านเข้าไปด้านในโครงการได้เลย ในกรณีที่เป็น Visitor จะต้องทำการแลกบัตรกับพี่ยามทางฝั่งขวาก่อนนะคะ
กล้อง CCTV และเครื่องรับสัญญาณ Key Card
ซุ้มทางเข้ายังออกแบบให้มีทางเดินเท้ายกระดับขึ้นมาแยกต่างหากจากทางสัญจรของรถเพื่อความปลอดภัย ลูกบ้านจึงสามารถเดินเข้า – ออกโครงการได้อย่างสบายใจค่ะ
ภาพมองย้อนกลับไปที่ซุ้มทางเข้าโครงการ
::: บริเวณภายในโครงการ :::
จากบริเวณซุ้มทางเข้าโครงการเชื่อมต่อกับถนนหลักกว้าง 15 เมตรนำเข้าไปสู่พื้นที่ส่วนต่างๆ ด้านในโครงการ
สังเกตทั้ง 2 ฝั่งของถนนมีทางเท้าให้เดินเข้าไปถึงหน้าบ้านแต่ละหลังได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งยังจัด Landscape และลงต้นไม้ใหญ่เอาไว้ตลอดแนว ในอนาคตพอต้นไม้โตเต็มที่แล้วก็จะเหมือนกับอุโมงค์ต้นไม้ให้ร่มเงาสีเขียวสบายตา ช่วยสร้างบรรยากาศแห่งการพักผ่อนทุกครั้งที่กลับบ้าน ไม่ว่าจะเดิน ปั่นจักรยาน หรือขับรถเข้ามา
ตรงเข้าไปถึงช่วงใจกลางโครงการ เราจะเห็นวงเวียนและคลับเฮ้าส์ค่ะ
จากวงเวียนจะเชื่อมต่อด้วยถนนกว้าง 10 เมตรเข้าสู่ซอยย่อยและสวนสาธารณะด้านหลังคลับเฮ้าส์
อีกฝั่งหนึ่งจะผ่านหน้าคลับเฮ้าส์และผ่านหน้าบ้านหลังอื่นๆ
::: คลับเฮ้าส์ :::
คลับเฮ้าส์ของที่นี่มีขนาดใหญ่ ถูกออกแบบมาในสไตล์ Modern Classic ดูหรูด้วยสีขาวครีม ตัดกับสีม่วง สีน้ำตาล และเหล็กดัดสีดำ Facilities ภายในคลับเฮ้าส์ก็ได้มาอย่างครบครัน ประกอบด้วย Lobby, Swimming Pool ระบบเกลือแยกสระเด็ก – สระผู้ใหญ่, Fitness พร้อมเครื่องออกกำลังกายครบครัน, Squash Room, Yoga Room และ Sauna Room ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของลูกบ้านเพียง 52 ครอบครัวเท่านั้น
เราเข้าไปดูภายในคลับเฮ้าส์ด้วยกันเลยค่ะ
พอเข้ามาในคลับเฮ้าส์ส่วนแรกคือ Lobby ค่ะ เป็นห้องรับรองสำหรับลูกบ้านที่เข้ามาใช้งานคลับเฮ้าส์ สามารถใช้นั่งพักผ่อนได้ ปัจจุบันใช้เป็น Sales Gallery และรองรับลูกค้าด้วยในตัว ส่วนประตู 2 ข้างด้านหลังเคาน์เตอร์สามารถเปิดออกเชื่อมสู่สวนสาธารณะด้านหลังคลับเฮ้าส์ได้
ทางฝั่งซ้ายมือของห้องรับรองจะมีห้องรับรองสำหรับลูกค้าแยกให้อีก 1 ห้อง ซึ่งในอนาคตจะถูกใช้เป็นห้องนิติบุคคลค่ะ
ส่วนทางฝั่งขวามือคือประตูที่เชื่อมสู่โถงลิฟท์และโถงบันได เพื่อขึ้นและลงไปยัง Facilities ส่วนต่างๆ
ภายในห้องโถงเราจะเห็นโถงลิฟท์และโถงบันไดอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนทางฝั่งขวามือคือโถงทางเดินไปยังห้องน้ำค่ะ สไตล์การตกแต่งเชื่อมต่อจากส่วนรับรองเข้ามา ดูเรียบหรู เน้นโทนสีขาว
ห้องน้ำถูกแบ่งออกเป็น 3 ห้องด้วยกันค่ะ ห้องฝั่งซ้ายคือห้องน้ำแบบ Unisex ตรงกลางคือห้องน้ำชาย และฝั่งขวาคือห้องน้ำหญิง
ภายในห้องน้ำแบบ Unisex ที่รองรับการใช้งานของผู้สูงอายุและคนที่ใช้ Wheelchair
ภายในห้องน้ำหญิงค่ะ ส่วนแรกเป็นอ่างล้างมือ เข้าไปด้านในอีกทีคือห้องน้ำ
Facilities ของที่นี่จะแบ่งออกเป็น 2 ชั้นด้วยกัน ในส่วนของชั้น 1 จะมี Squash Room (ต้องเดินลงบันไดไปครึ่งชั้น ไม่สามารถใช้ลิฟท์ลงไปได้) และในส่วนของชั้น 2 จะมี Yoga Room, Fitness, Swimming Pool และ Sauna ค่ะ
เดินลงมาครึ่งชั้นเราจะเจอ Squash Room ค่ะ ตอนนี้ภายในห้องกำลังเตรียมงานพื้นกันอยู่ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว
คราวนี้เราจะใช้ลิฟท์ขึ้นไปดู Facilities ที่ชั้น 2 กันบ้าง ซึ่งเป็นส่วนที่ทั้งผู้สูงอายุและผู้ที่นั่ง Wheelchair สามารถขึ้นไปใช้งานได้ ลิฟท์ของที่นี่เลือกใช้ Home Elevator จาก Mitsubishi Electric รองรับการใช้งานได้ประมาณ 3 คน/เที่ยว หรือประมาณ 250 กก.
ภายในลิฟท์มีราวจับ มีปุ่มกดที่ค่อนข้างต่ำ เป็นระดับที่คนนั่ง Wheelchair สามารถใช้งานได้สะดวกไม่ต้องเอื้อมตัว และมีโทรศัพท์เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินค่ะ
ขึ้นมาถึงชั้น 2 เป็นห้องโถงขนาดใหญ่ เป็นพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนและเป็นส่วนที่เชื่อมต่อไปยัง Fitness ห้องตรงกลางโถง และสระว่ายน้ำทางประตูฝั่งขวา
ส่วนพื้นที่ฝั่งซ้ายมือมีโต๊ะยาวขนาดใหญ่ ที่เราสามารถใช้เป็น Co – working Space, พื้นที่สำหรับนั่งคุยงานหรือประชุมแบบไม่เป็นทางการและไม่ Confidential มาก
มองย้อนกลับไปอีกฝั่งบริเวณโถงลิฟท์และโถงบันได ทางฝั่งขวามือก็คือ Yoga Room ค่ะ
ภายใน Yoga Room มีพื้นที่ขนาดค่อนข้างใหญ่พอสมควร เหมาะกับการเล่นโยคะแบบกลุ่มเล็กๆ ไม่เกิน 5 – 6 คน หรือใช้จัด Private Class ได้ค่ะ
ภายในห้องติดกระจกเงาเอาไว้หลายด้านเพื่อให้สามารถเช็คท่าทางให้ถูกต้องและสร้างโฟกัส ส่วนพื้นปูด้วยวัสดุแทนไม้ลายก้างปลาให้สัมผัสที่นุ่มนวลและอบอุ่นกว่ากระเบื้อง
เราเข้าไปดูภายใน Fitness กันต่อค่ะ
Fitness เป็นห้องที่ปิดล้อมด้วยผนังกระจกใส สามารถเห็นวิวได้ในทุกด้าน พื้นปูด้วยวัสดุแทนไม้เช่นกัน ภายในห้องมีเครื่องออกกำลังกายมาให้อย่างครบครันทั้ง Cardio และ Weight Training ทางฝั่งขวามือซึ่งติดกับสระว่ายน้ำจะเป็นโซน Cardio ค่ะ ประกอบด้วย ลู่วิ่งไฟฟ้า เครื่องเดินวงรี และ จักรยานไฟฟ้า อย่างละ 2 เครื่อง
ส่วนฝั่งทางขวามือของห้องเป็นโซน Weight Training มีเครื่องออกกำลังกล้ามเนื้อแบบ Multi – function ครบทุกส่วน พร้อมดัมเบล และม้านั่งราบ ในโซนนี้จะมีกระจกเงาติดเอาไว้ให้เช็คท่าทางในการออกกำลังกาย และมีตู้ล็อคเกอร์สำหรับเก็บของให้ด้วย
คราวนี้เราออกไปดูส่วน Swimming Pool กันค่ะ
สระว่ายน้ำของที่นี่เป็นสระแบบ Infinity Edge Pool หันทิศทางออกไปทางฝั่งสวนสาธารณะได้วิวดี เป็นสระระบบเกลือไม่ทำลายสภาพผมและผิว มีขนาดสระ 6 x 13 เมตร ลึก 1.3 เมตร สามารถใช้ว่ายออกกำลังกายได้สบายๆ
พื้นที่ทางฝั่งขวาของสระออกแบบให้มีระแนงสามารถช่วยลดทอนแสงแดดลงไปได้บ้างสำหรับช่วงเวลากลางวัน และมีม้านั่งด้านในสระให้
และมีสระเด็กเชื่อมติดกันลึกประมาณ 0.85 เมตร ให้เด็กเล็กสามารถลงเล่นน้ำได้
พื้นที่ด้านข้างสระมี Pool Deck พร้อมเก้าอี้ และ Pool Bed ให้นอนผ่อนคลายได้ สังเกตที่พื้นที่โดยรอบสระปูด้วยกระเบื้องผิวหยาบ Non Slip Surface ปลอดภัยต่อการใช้งาน
จากสระว่ายน้ำจะมีประตูทางเชื่อมเข้าสู่ห้องน้ำและห้องอาบน้ำที่ด้านข้างของอาคาร
ที่นี่แบ่งห้องน้ำออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ทางฝั่งซ้ายมือ 2 ห้อง คือห้องน้ำแบบ Unisex และห้องน้ำชาย ส่วนประตูตรงกลางคือห้องน้ำผู้หญิง และทางฝั่งขวามือคือตู้ล็อคเกอร์สำหรับเก็บของค่ะ
ภายในห้องน้ำแบบ Unisex ที่ผู้สูงอายุและคนที่นั่ง Wheelchair สามารถใช้งานได้สะดวก
ภายในห้องน้ำหญิงค่ะ ส่วนแรกเป็นอ่างล้างหน้าและเคาน์เตอร์สำหรับแต่งหน้าแต่งตัว
เดินไปข้างในแล้วเลี้ยวซ้ายจะมี ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และห้องซาวน่า
ภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำที่มี Rain Shower ให้ด้วยพร้อมน้ำร้อน – น้ำเย็น
ภายในห้องซาวน่าค่ะ ส่วนในห้องน้ำชายก็จะได้ทุกอย่างไม่ต่างจากห้องน้ำหญิงนะคะ
จากชั้น 2 เราเดินลงมาที่ชั้น 1 ตรงห้องรับรอง เดินออกมาทางประตูด้านหลังเคาน์เตอร์ จะมีพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนแบบ Semi – outdoor อีกส่วน ซึ่งส่วนนี้จะเชื่อมกับสวนสาธารณะค่ะ
เราจะสังเกตเห็นทางลาดสำหรับขึ้นสู่ตัวอาคาร เป็นทางเข้าของผู้ที่ใช้ Wheelchair เป็นหลัก ให้สามารถเข้าถึง Facilities ส่วนต่างๆ ได้
::: สวนสาธารณะ :::
สวนสาธารณะอยู่บริเวณด้านหลังคลับเฮ้าส์ค่ะ เทียบสัดส่วนกับจำนวนลูกบ้านภายในโครงการเพียง 52 หลังถือว่าให้พื้นที่สีเขียวมาค่อนข้างเยอะทีเดียว ส่วนแรกเป็นพื้นที่สนามหญ้าขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับกิจกรรมสันทนาการของครอบครัวเช่น แบตมินตัน โยคะกลางแจ้ง หรือเป็นสนามที่ให้เด็กๆ มาวิ่งเล่นกันได้
พื้นที่บางส่วนในสวนปูแผ่นพื้นซีเมนต์ และลงต้นไม้ขนาดใหญ่โดยรอบเพื่อให้ร่มเงา สามารถใช้เป็นลานกิจกรรมได้
ทางโครงการได้ทำม้านั่งใต้ต้นไม้ให้บางมุมสำหรับนั่งพักผ่อน
ท้ายสวนฝั่งขวามือมีสนามเด็กเล่น ปูพื้นยางกันกระแทกปลอดภัยสำหรับเด็กๆ พร้อมชุดปราสาทม้าลื่น
:::: บ้านตัวอย่าง ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo จะพาท่านผู้อ่านทุกคนไปชมรายละเอียดของบ้านตัวอย่างแบบเจาะลึกเหมือนเช่นเคย ในโครงการมีบ้านตัวอย่างอยู่ 2 แบบด้วยกัน นั่นก็คือ แบบบ้านพรรณราย เป็นบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 333 ตร.ม. กับฟังก์ชั่นขนาด 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องทำงาน 1 ห้องพระ 1 Family Area 1 ห้องแม่บ้าน และที่จอดรถ 4 คัน และ แบบบ้านพรายแสง เป็นบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 432 ตร.ม. กับฟังก์ชั่น 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องทำงาน 1 ห้องพระ 2 Family Area 1 ห้องแม่บ้าน และที่จอดรถ 6 คัน ไปชมกันเลยค่า
::: แบบบ้านพรรณราย ขนาด 333 ตร.ม. :::
แบบบ้านของโครงการออกแบบมาในสไตล์ Modern Classic เน้นหน้าต่างทรงสูง ใช้โทนสีขาวครีมตัดกับสีม่วงและน้ำตาล เพิ่มมิติของบ้านด้วยขอบบัวซ้อนหลายชั้น ตกแต่งด้วยเหล็กดัดสีดำด้วย Pattern ที่ถูกลดทอนลงมาให้ดูทันสมัย แต่ยังคงความหรูหรา หน้าบ้านและหลังบ้านถูกหันทิศทางตามแกนเหนือ – ใต้ ทำให้ตัวบ้านสามารถรับลมได้ตลอดทั้งปีค่ะ
แปลนบ้านชั้น 1 เริ่มจากหน้าบ้านฝั่งพื้นที่จอดรถ สามารถจอดรถได้ 4 คัน (2 คันในร่ม) จากพื้นที่ลานจอดรถมีประตูบานเล็กสามารถเปิดเข้าสู่ตัวบ้านได้ ส่วนฝั่งหน้าบ้านเป็นพื้นเฉลียงขนาดใหญ่ยกระดับขึ้นมา ประตูทางเข้าหลักถูก Set เข้าด้านในสร้างมิติและความเป็นส่วนตัว เข้าไปด้านในบ้านจะเป็นโถงทางเดินขนาดใหญ่ที่เชื่อมกับ ห้องอเนกประสงค์, ห้องน้ำแขก, ห้องนอนชั้นล่างพร้อมห้องน้ำในตัว และเชื่อมไปยังโถง Common Area ขนาดใหญ่ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหาร ห้องรับประทานอาหารจะอยู่ติดกับโถงบันไดและห้องครัว ซึ่งจากห้องครัวจะมีประตูสามารถเปิดเชื่อมกับลานซักล้างและห้องแม่บ้านได้ค่ะ
แปลนบ้านชั้น 2 เป็น Private Zone ของเจ้าของบ้านทั้งชั้น ประกอบด้วยห้องนอน 3 ห้อง พร้อมห้องน้ำในตัว พื้นที่ห้องมีขนาดใหญ่สามารถวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้ทั้งหมด, ห้องพระ และห้องพักผ่อน ซึ่งห้องที่อยู่ทางฝั่งหน้าบ้านคือห้องนอน Master Bedroom และห้องนอน 2 ค่ะ
บ้านตัวอย่างที่เราจะพาเข้าไปชมกันจะกลับบ้านกับหน้าบ้านหลังเมื่อสักครู่นะคะ เริ่มจากประตูรั้วบ้านเป็นประตูเลื่อนระแนงเหล็กสีดำแบบ 3 ตอน ติดตั้งรีโมทคอนโทรลให้ สามารถเปิด – ปิดอัตโนมัติได้
และติดเลขที่บ้าน, กล่อง Mail Box
และช่องสำหรับใส่ถังขยะเพื่อสวยงามและความสะดวกของลูกบ้าน สามารถทิ้งขยะจากด้านในรั้วบ้านได้เลย และทางส่วนการของโครงการจะเป็นคนมาเก็บขยะไปเอง
นอกจากนี้ยังมีประตูรั้วเล็กเป็นทางสำหรับคนเดินเข้าบ้าน ซึ่งจะอยู่ตรงกับซุ้มทางเข้าบ้านเลย
โครงสร้างของบ้านใช้เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง+ฐานรากคอนกรีตเสริมเหล็ก ใช้พื้นสำเร็จรูปคอนกรีตอัดแรงและพื้นคอนกรีตหล่อในที่ ผนังเป็นผนังก่ออิฐมวลเบาฉาบเรียบ ข้อดีก็คือมีความเป็น Insulation ในตัว สามารถป้องกันความร้อนและเสียงรบกวนจากภายนอกได้ แต่ไม่ทำให้บ้านอับชื้น และทำให้สามารถรื้อ – ต่อเติมบ้านได้ง่ายกว่า และทาด้วยสี TOA SuperShield ซึ่งมีคุณสมบัติในการสะท้อนความร้อน และป้อนกันคราบต่างๆ ทำให้บ้านดูสวยงามนาน
ส่วนหลังคาบ้านใช้โครงสร้างหลังคาโลหะรูปพรรณจาก SCG มุงด้วยกระเบื้องหลังคาคอนกรีต Neustile ดีไซน์เรียบหรูทันสมัย ใต้หลังคาใช้แผ่นสะท้อนความร้อน+ฉนวนกันความร้อน Stay Cool หนา 3 นิ้ว พร้อมติดตั้งฝ้าชายคาที่สามารถระบายอากาศใต้หลังคาได้
โครงสร้างพื้นลานจอดรถเชื่อมกับโครงสร้างบ้าน (On Beam) และปูด้วย Stamped Concrete ทั้งหมดดูสวยงาม สามารถจอดรถได้ทั้งหมด 4 คัน ( 2 คันในร่ม)
บริเวณลานจอดรถมีห้องเก็บของขนาดใหญ่ให้ค่ะ เหมาะสำหรับพวกอุปกรณ์ทำสวน, อุปกรณ์สำหรับล้างรถ หรือของชิ้นใหญ่ๆ อย่างพวกรถเข็นก็สามารถเอาเข้าไปได้ง่ายเลย เพราะทางโครงการติดตั้งประตูบานเปิดคู่ขนาดใหญ่ให้
นอกจากนี้ยังมีประตูเล็กสามารถเข้าบ้านจากทางฝั่งนี้ได้ด้วย สะดวกเวลาที่ฝนตกหรือเวลาที่ซื้อของเข้าบ้านเพราะสามารถเดินตรงเข้าห้องครัวได้เลย ไม่ต้องเดินอ้อมไปที่หน้าบ้านและเดินผ่านห้องนั่งเล่น บานประตูและวงกบใช้ UPVC ติดอุปกรณ์มือจับสแตนเลสแบบก้านโยกจาก Hafele และทำสเต็ปขึ้นมาให้ 1 ขั้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อน
จากบริเวณลานจอดรถ ทางโครงการทำพื้น Concrete Stamp เชื่อมถึงบริเวณทางเข้าหน้าบ้าน พร้อมจัดสวนให้ตามมาตรฐานโครงการ
ซุ้มทางเข้าบ้านออกแบบให้เหมือนเสาคู่ทรงสูงเชื่อมขึ้นไปถึงชั้น 2 ดูเด่นสง่า โอ่อ่า และดูภูมิฐาน เชื้อเชิญให้เข้าสู่ตัวบ้าน โดยทำประตูทางเข้า Set เข้าไปด้านในเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวด้วย พื้นโถงทางเข้ายกระดับขึ้นมา 2 สเต็ป ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 60 x 60 ซม. ผิว Non Slip Surface เก็บขอบด้วย Boarder ทรายล้าง
ประตูทางเข้าบ้านใช้ประตูบานเปิดคู่ วงกบไม้เนื้อแข็ง ตัวบานใช้ไม้สัก ติดลูกฟักกระจกลามิเนต
และติดอุปกรณ์มือจับประตูจาก Hafele ค่ะ
พอเข้ามาในบ้านจะเป็นพื้นที่โถงทางเดินขนาดใหญ่ที่เชื่อมไปสู่ฟังก์ชั่นต่างๆ ทางฝั่งซ้ายมือของโถงคือ Multi – function Room และห้องน้ำแขก ทางฝั่งขวามือคือห้องนอนชั้นล่าง ส่วนตรงกลางโถงจะเชื่อมไปสู่โถง Common Area ขนาดใหญ่ประกอบด้วยห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหาร
สำหรับวัสดุที่ใช้ พื้นบ้านปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อนขนาด 60 x 60 ซม. ผนังเป็นผนังก่ออิฐมวลเบาฉาบเรียบทาสี ฝ้าเพดานสูง 3 เมตรเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสี ติดดวงโคม LED และเครื่องปรับอากาศมาให้ทั้งหลังจาก Daikin ทั้งแบบ Cassette Type และแบบ Wall Type
ภาพมองย้อนกลับไปที่ฝั่งประตูทางเข้าบ้านค่ะ จะเห็นว่าโถงทางเดินนั้นค่อนข้างกว้าง เพราะมีขนาดถึง 1.5 เมตรเลย ข้อดีของการวางผังบ้านแบบนี้ก็คือทำให้ผู้อยู่อาศัยได้ความเป็นส่วนตัวมาก คนจากภายนอกที่ยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าจะไม่สามารถเห็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นภายในบ้านได้ และยังสามารถใช้เป็นจุดพักคอยแขกก่อนเข้าถึงส่วนที่ใช้อยู่อาศัยส่วนอื่นๆ ภายในบ้านได้อีกด้วย
ถ้าหันหน้าเข้าสู่ด้านในบ้าน ทางฝั่งซ้ายมือของเราคือโถงสู่ห้อง Multi – function Room อยู่ฝั่งซ้าย, ห้องน้ำ อยู่ตรงกลางโถง และตู้งานระบบ อยู่ฝั่งขวา
ทางโครงการออกแบบซ่อนงานระบบไฟฟ้าเอาไว้ในตู้พร้อมบานเปิดให้แบบนี้ค่ะ ทำให้ภาพรวมในบ้านดูเรียบร้อยมาก
ภายในห้อง Multi – function Room หรือจะเรียกว่าห้องอเนกประสงค์ก็ได้ เพราะลูกบ้านสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นของห้องนี้ได้ตามไลฟ์สไตล์เลย สามารถจัดเป็นออฟฟิศส่วนตัว, ห้องอ่านหนังสือ, ห้องสำหรับสร้างสรรค์งานอดิเรก หรือสามารถใช้เป็นห้องสำหรับรองรับแขกที่ไม่ได้สนิทมากก็ได้ค่ะ
สังเกตว่าทั้ง 3 ด้านของห้องจะมีช่องแสงให้โดยรอบเลย เพราะฉะนั้นในห้องนี้จะได้รับแสงสว่างจากธรรมชาติอย่างเพียงพอในเวลากลางวันอย่างแน่นอน ซึ่งหน้าต่างภายนอกของบ้านหลังนี้ใช้บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ Sahara ติดกระจกลามิเนตให้ทุกบานซึ่งมักใช้ในตึกสูง นับว่าหายากมากที่โครงการบ้านจัดสรรจะให้กระจกเกรดนี้มาทั้งบ้าน
บ้านตัวอย่างจัดเฟอร์นิเจอร์และ Finishing มาให้เห็นความลงตัวในแง่ของการใช้งานและความสวยงามเพื่อเป็นไอเดียค่ะ พื้นที่ในห้องนี้สามารถรองรับโต๊ะขนาด 4 – 6 ที่นั่งได้ พร้อมชั้นวางของอีก 1 ชั้น
ในส่วนของห้องน้ำแขกจะเป็นลักษณะของ Powder Room คือใช้ทำธุระส่วนตัวเพียงอย่างเดียว ไม่มีส่วนอาบน้ำมาให้ค่ะ ทั้งพื้นและผนังใช้วัสดุปิดผิวเป็นกระเบื้องเซรามิกลายหินอ่อนขนาด 60 x 60 ซม. ส่วนสุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard ทั้งหมด
พื้นที่ภายในห้องน้ำมีขนาดกำลังพอดี เพียงพอแล้วสำหรับ Powder Room
อ่างล้างมือเป็นอ่างฝังบนเคาน์เตอร์ มีขนาดกำลังดี ติดตั้งมาพร้อมกับก๊อกน้ำ บนเคาน์เตอร์มีพื้นที่สามารถวางขวดสบู่ล้างมือ แจกันตกแต่ง กล่องกระดาษเช็ดมือ และขวดน้ำหอมสำหรับตั้งในห้องน้ำได้
ที่ใต้เคาน์เตอร์ก็มีตู้สำหรับเก็บของได้ ทั้งกระดาษชำระและผ้าขนหนูสำหรับเช็ดมือ
โถสุขภัณฑ์ที่ใช้ในห้องนี้เป็น Washlet นะคะ ซึ่งรีโมทคอนโทรลถูกติดตั้งเอาไว้ที่ผนังด้านข้าง
ตัวรีโมทคอนโทรลที่ใช้งานคู่กับ Washlet
เรามาดูห้องนอนชั้นล่างซึ่งเป็นห้องนอนของผู้สูงอายุกันต่อค่ะ ประตูทางเข้าห้องใช้เหมือนห้องอื่นๆ ทั้งบานประตูและวงกบเป็น UPVC ติดตั้งมือจับก้านโยกสแตนเลสจาก Hafele
ห้องนอนชั้นล่างมีขนาดกำลังดีสำหรับ 1 คน เป็นห้องที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่เดินขึ้น – ลงบันไดไม่สะดวก หรือผู้ที่นั่ง Wheelchair ตำแหน่งห้องถูกวางเอาไว้ฝั่งหน้าบ้านใกล้ประตูทางเข้าบ้าน สะดวกเมื่อเกิดกรณีฉุกเฉินที่ต้องการเคลื่อนย้ายผู้สูงอายุไปโรงพยาบาล ความพิเศษของห้องนี้ก็คือมีการปูพื้นด้วย SCG Soft Floor Elder Care เป็นพื้นที่ช่วยลดแรงกระแทก จึงช่วยการบาดเจ็บหากเกิดการล้มกระแทกพื้นได้ และยังช่วยรักษาอุณภูมิให้มีสัมผัสที่อบอุ่นเหมาะสำหรับผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก
พื้นที่ภายในห้องเหมาะสำหรับเตียงนอนขนาด 3.5 ฟุต ด้านข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งยังเหลือพื้นที่ให้สามารถวางโต๊ะข้างและตู้เสื้อผ้าได้ แต่ถ้าผู้อยู่อาศัยใช้ Wheelchair ควรจะจัดเตียงนอนให้ชิดริมหน้าต่างเพื่อให้เหลือระยะที่รถเข็นสามารถเลื่อนเข้ามาได้ค่ะ
พอวางเตียงนอนแล้วก็ยังเหลือระยะปลายเตียงสามารถวางชั้นวางทีวีและเดินผ่านได้ แต่ถ้าผู้สูงอายุที่อาศัยในห้องนี้เดินไม่ค่อยถนัดแล้วแนะนำให้ใช้ทีวีแบบแขวนผนังแทน เพื่อให้พื้นที่ทางเดินกว้างขึ้น ทำให้สามารถเดินได้สะดวก ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้
ระหว่างประตูทางเข้าห้องและตู้เสื้อผ้าคือประตูห้องน้ำในตัวค่ะ ทางโครงการเลือกใช้เป็นประตูบานเลื่อนเพื่อให้สะดวกสำหรับผู้ที่นั่ง Wheelchair สามารถเปิดประตูได้
สังเกตที่พื้นของห้องน้ำทำเรียบเสมอกับพื้นห้องนอนและวางรางน้ำหน้าประตูเพื่อกันน้ำไหลย้อน ไม่ให้มีพื้นต่างระดับซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักๆ ของการเกิดอุบัติเหตุในผู้สูงอายุ
พื้นที่ภายในห้องน้ำมีขนาดที่กว้างขวาง เป็นระยะที่ Wheelchair สามารถใช้งานได้สะดวก และมีการติดตั้งราวจับให้ในทุกจุดที่จำเป็น ทั้งพื้นและผนังใช้กระเบื้องเซรามิกขนาด 60 x 60 ซม. ส่วนสุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard ทั้งหมด
สังเกตที่กระจกเงาตรงอ่างล้างมือค่ะ จะติดตั้งให้เอียงลงมาในองศาที่คนนั่งรถเข็นสามารถส่องได้ ซึ่งกระจกบานนี้จะใช้ของ Cotto นะ
อ่างล้างมือที่ได้เป็นอ่างแบบแขวนผนังขนาดกำลังดีติดตั้งมาพร้อมกับก๊อกน้ำล้างมือ ด้านล่างไม่มีตู้เก็บของเพื่อให้ผู้นั่งรถเข็นสามารถใช้งานได้สะดวก
โถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้นระบบ Dual Flush ช่วยประหยัดน้ำ ติดตั้งมาพร้อมกับอุปกรณ์ประกอบการใช้งานทั้งสายฉีดชำระ ที่แขวนกระดาษชำระ และราวจับช่วยพยุงตัว
ที่ผนังติดตั้งชุด Hand Shower และราวปรับระดับให้ ทำชั้นวางขวดสบู่ด้วยการเจาะผนังเข้าไป พร้อมเตรียมงานระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นให้เรียบร้อย
ขนาดของหัวฝักบัวค่ะ มีขนาดใหญ่กำลังดี สามารถใช้งานได้สะดวกและสามารถปรับรูปแบบของสายน้ำได้
จากโถงทางเดินเราเข้ามาในโถงใหญ่ของบ้านซึ่งเป็น Common Area กันต่อ ประกอบด้วยห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารค่ะ
ความพิเศษของห้องนั่งเล่นก็คือมีการออกแบบให้เป็น Double Ceiling Space พื้นที่เปิดโล่งจากชั้น 1 ขึ้นไปถึงฝ้าเพดานชั้น 2 สูงถึง 7 เมตร ทำให้ดูโปร่งโล่ง โอ่อ่า เหมาะสำหรับการพักผ่อน สังเกตช่องแสงที่ทางโครงการออกแบบมาให้มีขนาดใหญ่ ติดตั้งมาให้หลายบานโดยรอบห้อง ทำให้พื้นที่ภายในห้องสามารถรับแสงธรรมชาติได้อย่างเพียงพอ ในวันที่อยากเปิดรับลมธรรมชาติก็สามารถรับลมได้อย่างเต็มที่ ดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้นค่ะว่า ประตู – หน้าต่างภายนอกของบ้านหลังนี้ใช้บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ Sahara และติดกระจกลามิเนตให้ทุกบาน
พื้นที่ภายในห้องนั่งเล่นมีขนาดใหญ่ จึงสามารถวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งได้ทั้ง 3 ด้าน และวางโต๊ะกาแฟเอาไว้ตรงกลางได้อีก 1 ตัว อันนี้เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ ในการจัดวางเท่านั้นนะคะ
จากห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับห้องรับประทานอาหารขนาดใหญ่ บ้านตัวอย่างจัดวางชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งมาให้ดูเป็นไอเดีย ซึ่งจริงๆ แล้วพื้นที่ของห้องสามารถรองรับโต๊ะขนาด 8 ที่นั่งได้เลยค่ะ พอวางโต๊ะและเก้าอี้แล้วก็ยังเหลือพื้นที่โดยรอบในระยะที่ยังสามารถเดินผ่านได้สะดวก
ด้านหลังห้องรับประทานอาหารมีประตูบานเลื่อนกระจกสามารถเปิดเชื่อมสู่สวนหลังบ้านได้
มือจับประตูบานเลื่อนภายในเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐานสามารถกดล็อคได้ ส่วนภายนอกเป็นแบบด้ามมือจับสามารถเปิดเลื่อนได้สะดวก
พื้นที่สวนเป็นบริเวณหลังบ้านจึงได้ความเป็นส่วนตัวสูง เหมาะสำหรับการพักผ่อนของคนในครอบครัวอย่างแท้จริง เราสามารถจัดเป็นสวนพักผ่อนหลังบ้าน หรือจะสร้างเป็นสระว่ายน้ำก็ทำได้ค่ะ
ภาพจากสวนหลังบ้านมองย้อนกลับเข้ามาภายในบ้าน มองไปด้านหลังห้องรับประทานอาหาร ทางฝั่งด้านซ้ายคือโถงทางเข้าบ้าน และฝั่งขวามือคือโถงบันไดทางขึ้นชั้น 2
ห้องรับประทานอาหารจะอยู่ติดกับห้องครัวค่ะ ซึ่งจริงๆ แล้วครัวที่ได้มาจะเป็นครัวปิด มีกำแพงกั้นแบ่งส่วนเอาไว้ แต่ที่บ้านตัวอย่างรื้อกำแพงออกแล้วทำเป็นพื้นที่ครัวเปิดเชื่อมกับห้องรับประทานอาหารให้ดูเป็นไอเดีย ข้อดีก็คือทำให้ภาพรวมของบ้านดู Flow และกว้างขวางขึ้น แต่ครัวเปิดแบบนี้จะไม่เหมาะกับการทำอาหารหนักๆ กลิ่นแรงอย่างอาหารไทยนะ
พอเชื่อมพื้นที่ห้องครัวเข้ากับห้องรับประทานอาหารก็สามารถทำครัวแบบมี Island ได้แบบนี้เลย
ฝั่งตรงข้ามเป็นจุดสำหรับติดตั้งอ่างล้างจานค่ะ ตำแหน่งอยู่ตรงกับหน้าต่างซึ่งจะสามารถช่วยระบายความชื้นและฆ่าเชื้อโรคได้ดี ซึ่งทางโครงการได้เดินท่อและเตรียมงานระบบเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว จากห้องครัวมีประตูสามารถเปิดออกสู่ลานซักล้างหลังบ้านได้
พื้นลานซักล้างจะลดระดับลงจากพื้นห้องครัวเล็กน้อยค่ะ ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. มีพื้นที่ที่ค่อนข้างกว้างขวาง ทางโครงการได้เดินท่อและเตรียมงานระบบสำหรับวางเครื่องซักผ้าเอาไว้ให้แล้ว
ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้จะยังมีหลังคาคลุมให้อยู่นะ สามารถตั้งเครื่องซักผ้าได้เลยไม่โดนแดดค่ะ แต่ถ้ากลัวฝนสาดเครื่องอาจต่อเติมกำแพงขึ้นมาหรือติดฉากบานเฟี้ยม PVC เพิ่มเติมได้
จากลานซักล้างจะมีทางเดินเชื่อมต่อไปยังห้องนอนและห้องน้ำของแม่บ้านค่ะ
ภายในห้องนอนและห้องน้ำของแม่บ้าน
เรากลับเข้ามาภายในบ้าน เราจะขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กันค่ะ สังเกตเห็นประตูฝั่งซ้ายด้านข้างบันไดก็คือประตูทางเข้าบ้านจากทางฝั่งลานจอดรถนั่นเอง
ข้างๆ ประตูมีตู้บานเปิดคู่ เราสามารถทำชั้นวางรองเท้าเพิ่มเติมข้างในได้เลยค่ะ
บันไดใช้โครงการคอนกรีตเสริมเหล็กมั่นคงแข็งแรง ปิดผิวทั้งหมดด้วยไม้มะค่าเกรดพรีเมี่ยม ราวจับบันไดใช้เหล็กฝังกับผนัง มือจับใช้ไม้มะค่าเช่นกัน โถงบันไดมีความกว้างประมาณ 1 เมตรพอดีค่ะ
ภาพมองขึ้นไปยังโถงบันไดชั้น 2 มีช่องแสงขนาดใหญ่ทำให้ตัวโถงบันไดได้รับแสงธรรมชาติอย่างเพียงพอในเวลากลางวัน ไม่มีจุดที่มืดทึบที่ทำให้เป็นอันตรายต่อวิสัยทัศน์
พื้นที่ชั้น 2 ทั้งหมดปูด้วยไม้ปาร์เกต์มะค่าเกรดพรีเมี่ยมหน้ากว้าง 6 นิ้วยาว 1.2 เมตร ส่วนแรกเป็นพื้นที่พักผ่อนชั้น 2 เชื่อมกับโถงทางเดินไปยังห้องนอนอีก 3 ห้อง และห้องพระ ประตูทางฝั่งซ้ายมือของเราคือห้องนอน 3 นะคะ
พื้นที่พักผ่อนบนชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ที่เชื่อม Flow กับห้องนั่งเล่นตรงชั้น 1 ค่ะ
พื้นที่สามารถรองรับโซฟาเบดได้สบายๆ เลย เหมาะสำหรับจัดเป็นมุมพักผ่อนส่วนตัว แต่ก็ยังสามารถมองลงไปเห็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นตรงชั้นล่างได้
ภาพจากส่วนพักผ่อนชั้น 2 มองลงไปที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่างค่ะ
จากส่วนพักผ่อนหันไปทางขวามือจะมีโถงทางเดินเชื่อมต่อไปยังห้องนอน Master ฝั่งซ้าย ห้องนอน 2 ฝั่งขวา ส่วนตรงกลางโถงคือห้องพระค่ะ จริงๆ แล้วบ้านมาตรฐานจะกั้นผนังแยกเป็นอีกห้องให้ แต่ที่บ้านตัวอย่างได้รื้อผนังออกและเชื่อมห้องพระเข้ากับโถงทางเดินให้ดูเป็นไอเดีย
เราเข้ามาดูห้อง Master Bedroom ทางฝั่งซ้ายมือกันก่อน พื้นที่ภายในห้องมีขนาดใหญ่ สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ได้ลงตัวง่ายมากๆ ภายในห้องแบ่งออกเป็น 2 โซนด้วยกัน เข้าไปในห้องเราจะเจอส่วนพักผ่อนก่อนค่ะ
ส่วนพักผ่อนสามารถจัดวางชุด Arm Chair และ Day Bed ให้นอนเล่นพักผ่อนหรือเป็นมุมอ่านหนังสือได้
อีกฝั่งหนึ่งติดริมระเบียงหน้าบ้านสามารถวางชุดเตียงนอนขนาดใหญ่ได้
แน่นอนว่าห้องขนาดนี้สามารถวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตหรือ Oversize ได้สบายๆ ค่ะ และยังสามารถวางโต๊ะข้างได้อีกทั้ง 2 ฝั่ง
พื้นที่ปลายเตียงนอนเหลือสามารถเดินผ่านได้สะดวก และยังสามารถตั้งชั้นวางทีวีขนาดใหญ่ได้อีกด้วย
ข้างเตียงนอนมีประตูบานเปิดคู่สวยๆ สามารถเปิดออกสู่ระเบียงหน้าบ้านได้ค่ะ
ขนาดระเบียงจะเป็นแบบที่สามารถพอยืนรับลมชมวิวได้นะคะ มองลงไปจะตรงกลับประตูรั้วสำหรับคนเดินเข้าพอดี พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 60 x 60 ซม. พร้อมราวกันตกเหล็กดัด
จากส่วนพักผ่อนจะมีประตูเชื่อมต่อกับส่วนแต่งตัวและห้องน้ำในตัวค่ะ
ภายในส่วนแต่งตัวเราสามารถทำ Walk – in Closet ได้แบบนี้เลยค่ะ คือตู้เสื้อผ้า Built – in เอาไว้ทั้ง 2 ฝั่ง และวางโต้ะเครื่องแป้งเอาไว้พอดีกับหน้าต่าง เป็นมุมที่สามารถใช้แต่งหน้าได้ดีที่สุดเพราะได้แสงธรรมชาติไปเต็มๆ
หันกลับมาอีกฝั่งเป็นส่วนของห้องน้ำในตัวค่ะ
ห้องน้ำของ Master Bedroom มีขนาดใหญ่ ถูกแบ่งออกเป็นสัดส่วนอย่างดี ตกแต่งพื้นและผนังด้วยกระเบื้องเซรามิกลายหินอ่อน ส่วนสุขภัณฑ์ทั้งหมดใช้ของ American Standard เหมือนเดิมค่ะ
ส่วนแรกคืออ่างล้างมือแบบ His & Her สามารถยืนล้างหน้าแปรงฟันพร้อมกันได้เลย 2 คนเพราะมีมาให้ 2 อ่าง
เป็นอ่างฝังบนเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่พร้อมก๊อกน้ำแบบผสมสามารถปรับน้ำร้อน – น้ำเย็นได้ โดยทางโครงการได้เตรียมงานระบบและเดินท่อสำหรับ Boiler เอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วสำหรับห้องน้ำชั้น 2 ทุกห้องค่ะ
ฝั่งตรงข้ามกับอ่างล้างหน้าติดกับหน้าต่างคืออ่างอาบน้ำแบบฝัง
อ่างที่ได้มาเป็นขนาดที่สามารถนั่งเอนหลังแช่น้ำพอดี ติดตั้งมาพร้อมกับ Hand Shower ชั้นวางสบู่ และราวสำหรับแขวนผ้าเช็ดตัว
ส่วนโถสุขภัณฑ์จะถูกกั้นส่วนออกมาด้วยประตูกระจก Tempered Glass บานเปลือย สำหรับห้อง Master จะได้โถสุขภัณฑ์แบบ Washlet เหมือนห้องน้ำแขกชั้นล่าง
โซน Shower ถูกกั้นส่วนออกมาด้วยประตูกระจก Tempered Glass บานเปลือยเช่นกัน ภายในติดตั้งชุด Hand Shower พร้อมราวปรับระดับ ด้านข้างก่อม้านั่งสำหรับนั่งอาบน้ำให้ กับเจาะผนังด้านหลังเข้าไปทำเป็นชั้นวางสบู่
และติดตั้ง Rain Shower มาด้วย เป็นแบบแขวนบนฝ้าเพดานค่ะ
ส่วนพื้นที่ยืนอาบน้ำก็มีขนาดกว้างขวางดี สามารถยืนอาบพร้อมๆ กันทีเดียว 2 คนยังได้เลยค่ะ
คราวนี้เราเข้ามาดูภายในห้องนอน 2 ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้อง Master Bedroom กันต่อ ซึ่งพื้นที่ภายในห้องก็มีขนาดใหญ่ไม่แพ้ห้องนอน Master ของโครงการอื่นๆ เลย จึงสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ได้ลงตัว ภายในห้องแบ่งออกเป็น 2 โซนด้วยกัน เข้าไปในห้องเราจะเจอส่วนแต่งตัวก่อนค่ะ
ทางบ้านตัวอย่างตกแต่งมาเป็นตู้เสื้อผ้า Built – in ขนาดใหญ่ ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัว
พื้นที่ภายในห้องน้ำอาจจะไม่หรูหราเท่าห้องนอน Master นะคะ แต่โดยพื้นที่ของห้องก็มีขนาดใหญ่ สามารถใช้งานได้สะดวก วัสดุพื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิกลายหินอ่อน ผนังกรุด้วยกระเบื้องลายอิฐ ส่วนสุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard เหมือนเดิมค่ะ
อ่างล้างมือเป็นอ่างแบบฝังบนเคาน์เตอร์เหมือนกัน แต่ใช้อ่างทรงวงรีแทนพร้อมก๊อกน้ำล้างมือ
โถสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ประกอบการใช้งานค่ะ
โซนอาบน้ำถูกกั้นส่วนด้วยกระจก Tempered Glass บานเปลือยมาให้เรียบร้อย พื้นที่ยืนอาบน้ำภายในได้ระยะมาตรฐาน สามารถยืนอาบน้ำได้สะดวก
ที่ผนังด้านในติดตั้งชุด Rain Shower พร้อม Hand Shower และราวปรับระดับมาให้ พร้อมทั้งเจาะผนังทั้ง 2 ฝั่งเข้าไปเป็นชั้นวางสบู่
ถัดเข้ามาด้านในห้องเป็นโซนพักผ่อนค่ะ
ซึ่งแน่นอนว่าขนาดของห้องนั้นสามารถรองรับเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้อย่างสบายๆ แถมยังมีพื้นที่เหลือสามารถวางโต๊ะข้างเพิ่มเติมได้
พื้นที่ปลายเตียงนอนก็ยังเหลือเยอะมาก สามารถวางชั้นวางทีวี ม้านั่งปลายเตียง หรืออาร์มแชร์ได้เพิ่มเติม
คราวนี้เรามาดูห้องนอน 3 ที่อยู่ฝั่งหลังบ้านกันต่อเป็นห้องสุดท้ายของบ้านหลังนี้แล้วค่ะ
แม้ว่าจะเป็นห้องขนาดเล็กที่สุดของบ้าน แต่ภายในก็ยังสามารถวางเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างลงตัวทุกประการ
และขนาดพื้นที่ภายในห้องก็ยังสามารถรองรับเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้ด้วย
ทางฝั่งปลายเตียงยังเหลือพื้นที่ให้เราสามารถวางชั้นวางทีวีเพิ่มเติมข้างๆ ประตูห้องน้ำได้
และก็ยังสามารถวางตู้เสื้อผ้า Built – in ขนาดใหญ่ได้เลย
ส่วนภายในห้องน้ำจะมีลักษณะการวางแปลนและใช้สีสันของวัสดุแตกต่างไปจากห้องนอน 2 บ้าง แต่โดยหลักๆ สเป็กของที่ให้และสุขภัณฑ์ทุกชิ้นจะใช้เหมือนกันทั้งหมดค่ะ
นอกจากนี้ภายในบ้านทุกหลังยังติดตั้งสัญญาณกันขโมยมาให้ถึง 3 ระบบ ทั้งระบบ Magnetic, Shock Sensor และ ระบบ Infrared ใช้ทำงานร่วมกันค่ะ
ส่วนสวิตช์และปลั๊กไฟที่ใช้ภายในบ้านทั้งหมดจะเป็นของ Schneider Electric นะ
::: แบบบ้านพรายแสง ขนาด 432 ตร.ม. :::
แบบบ้านออกแบบมาในสไตล์ Modern Classic เหมือนแบบบ้านพรรณราย เน้นหน้าต่างทรงสูง ใช้โทนสีขาวครีมตัดกับสีม่วงและน้ำตาล เพิ่มมิติของบ้านด้วยขอบบัวซ้อนหลายชั้น ตกแต่งด้วยเหล็กดัดสีดำด้วย Pattern ที่ถูกลดทอนลงมาให้ดูทันสมัย แต่ยังคงความหรูหรา หน้าบ้านและหลังบ้านถูกหันทิศทางตามแกนเหนือ – ใต้ ทำให้ตัวบ้านสามารถรับลมได้ตลอดทั้งปี
แปลนบ้านชั้น 1 เริ่มจากหน้าบ้านฝั่งพื้นที่จอดรถ สามารถจอดรถได้ 6 คัน (3 คันในร่ม) จากพื้นที่ลานจอดรถมีประตูบานเล็กสามารถเปิดเข้าสู่ตัวบ้านได้ ส่วนฝั่งหน้าบ้านเป็นพื้นเฉลียงขนาดใหญ่ยกระดับขึ้นมา ประตูทางเข้าหลักถูก Set เข้าด้านในสร้างมิติและความเป็นส่วนตัว เข้าไปด้านในบ้านจะเป็นโถงทางเดินขนาดใหญ่ที่เชื่อมกับ ห้องรับแขก, ห้องอเนกประสงค์, ห้องน้ำแขก, ห้องนอนชั้นล่างพร้อมห้องน้ำในตัว และเชื่อมไปยังโถง Common Area ขนาดใหญ่ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหาร ห้องรับประทานอาหารจะอยู่ติดกับโถงบันได, ส่วนเตรียมอาหาร และห้องครัว ซึ่งจากห้องครัวจะมีประตูสามารถเปิดเชื่อมกับลานซักล้างและห้องแม่บ้านได้ค่ะ นอกจากนี้ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหาร จะมีพื้นที่ Outdoor สำหรับนั่งชมสวนที่หลังบ้านได้ด้วย
แปลนบ้านชั้น 2 เป็น Private Zone ของเจ้าของบ้านทั้งชั้น ประกอบด้วยห้องนอน 3 ห้อง พร้อมห้องน้ำในตัว พื้นที่ห้องมีขนาดใหญ่สามารถวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้ทั้งหมด, ห้องพระ และห้องพักผ่อน ซึ่งห้องที่อยู่ทางฝั่งหน้าบ้านคือห้องนอน Master Bedroom และห้องนอน 2 ค่ะ
เริ่มจากประตูรั้วบ้านเป็นประตูเลื่อนระแนงเหล็กสีดำแบบ 3 ตอน ติดตั้งรีโมทคอนโทรลให้ สามารถเปิด – ปิดอัตโนมัติได้ พร้อมติดเลขที่บ้าน, กล่อง Mail Box, ช่องสำหรับใส่ถังขยะ
และมีประตูรั้วเล็กเป็นทางสำหรับคนเดินเข้าบ้าน ซึ่งจะอยู่ตรงกับซุ้มทางเข้าบ้านเลย
โครงสร้างของบ้านใช้เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง+ฐานรากคอนกรีตเสริมเหล็ก ใช้พื้นสำเร็จรูปคอนกรีตอัดแรงและพื้นคอนกรีตหล่อในที่ ผนังเป็นผนังก่ออิฐมวลเบาฉาบเรียบ ข้อดีก็คือมีความเป็น Insulation ในตัว สามารถป้องกันความร้อนและเสียงรบกวนจากภายนอกได้ แต่ไม่ทำให้บ้านอับชื้น และทำให้สามารถรื้อ – ต่อเติมบ้านได้ง่ายกว่า และทาด้วยสี TOA SuperShield ซึ่งมีคุณสมบัติในการสะท้อนความร้อน และป้อนกันคราบต่างๆ ทำให้บ้านดูสวยนาน
ส่วนหลังคาบ้านใช้โครงสร้างหลังคาโลหะรูปพรรณจาก SCG มุงด้วยกระเบื้องหลังคาคอนกรีต Neustile ดีไซน์เรียบหรูทันสมัย ใต้หลังคาใช้แผ่นสะท้อนความร้อน+ฉนวนกันความร้อน Stay Cool หนา 3 นิ้ว พร้อมติดตั้งฝ้าชายคาที่สามารถระบายอากาศจากใต้หลังคาได้
โครงสร้างพื้นลานจอดรถเชื่อมกับโครงสร้างบ้าน (On Beam) และปูด้วย Stamped Concrete ทั้งหมดดูสวยงาม สามารถจอดรถได้ทั้งหมด 6 คัน ( 3 คันในร่ม)
บริเวณลานจอดรถมีตู้เก็บของให้ค่ะ เหมาะสำหรับพวกอุปกรณ์ทำสวนและอุปกรณ์สำหรับล้างรถ
และมีประตูเล็กสามารถเข้าบ้านจากทางฝั่งนี้ได้ด้วย สะดวกเวลาที่ฝนตกหรือเวลาที่ซื้อของเข้าบ้านเพราะสามารถเดินตรงเข้าห้องครัวได้เลย ไม่ต้องเดินอ้อมไปที่หน้าบ้านและเดินผ่านห้องโถง บานประตูและวงกบใช้ UPVC ติดอุปกรณ์มือจับสแตนเลสแบบก้านโยกจาก Hafele และทำสเต็ปขึ้นมาให้ 2 ขั้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อน ด้านข้างประตูมีประตูบานเลื่อนติดกระจกฝ้า สามารถใช้เก็บของเพิ่มเติมได้อีก 1 จุด หรือจะทำเป็นชั้นวางรองเท้าก็เหมาะค่ะ
ซุ้มทางเข้าบ้านออกแบบให้เหมือนเสาคู่ทรงสูงเชื่อมขึ้นไปถึงชั้น 2 ดูเด่นสง่า โอ่อ่า และดูภูมิฐาน โดยทำประตูทางเข้า Set เข้าไปด้านในเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัว พื้นโถงทางเข้ายกระดับขึ้นมา 2 สเต็ป ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 60 x 60 ซม. ผิว Non Slip Surface เก็บขอบด้วย Boarder ทรายล้าง
ส่วนประตูทางเข้าบ้านใช้ประตูบานเปิดคู่ วงกบไม้เนื้อแข็ง ตัวบานใช้ไม้สัก ติดลูกฟักกระจกลามิเนต ติดอุปกรณ์มือจับประตูจาก Hafele
พอเข้ามาในบ้านจะเป็นพื้นที่โถงทางเดินขนาดใหญ่ที่เชื่อมไปสู่ฟังก์ชั่นต่างๆ ทางฝั่งซ้ายมือของโถงคือห้องรับแขก และห้องนอนชั้นล่าง ทางฝั่งขวามือคือห้องอเนกประสงค์ และห้องน้ำแขก ส่วนตรงกลางโถงจะเชื่อมไปสู่โถง Common Area ขนาดใหญ่ประกอบด้วยห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหาร โดยรวมแล้วการวางผังของบ้านหลังนี้จะไม่ต่างจากแบบบ้านพรรณรายเท่าไหร่ค่ะ เพราะใช้แนวคิดการวางแปลนแบบเดียวกัน
สำหรับวัสดุที่ใช้ พื้นบ้านปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อนขนาด 60 x 60 ซม. ผนังเป็นผนังก่ออิฐมวลเบาฉาบเรียบทาสี ฝ้าเพดานสูง 3 เมตรเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสี ติดดวงโคม LED และเครื่องปรับอากาศมาให้ทั้งหลังจาก Daikin ทั้งแบบ Cassette Type และแบบ Wall Type
ภาพมองย้อนกลับไปที่ฝั่งประตูทางเข้าบ้านค่ะ จะเห็นว่าโถงทางเดินนั้นมีความกว้างถึง 1.5 เมตรและมีความยาวพอสมควรเลย ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้ความเป็นส่วนตัว คนจากภายนอกที่ยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าจะไม่สามารถเห็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นภายในบ้านได้
อีกทั้งยังมีห้องที่เป็นจุดพักคอยแขกอยู่บริเวณหน้าบ้านเลยค่ะ เราเข้าไปดูภายในห้องด้วยกันเลย
ห้องรับแขกห้องนี้ถูกวางเอาไว้อยู่หน้าบ้านเพื่อเป็นจุดที่ใช้สำหรับพักคอยแขก โดยเฉพาะแขกกลุ่มที่ไม่ได้สนิท และไม่ต้องการให้แขกกลุ่มนี้เดินเข้าไปสำรวจพื้นที่สำหรับอยู่อาศัยของเจ้าของบ้านตามส่วนต่างๆ
ซึ่งพื้นที่ภายในห้องก็มีขนาดใหญ่เลย บ้านตัวอย่างสามารถจัดวางชุดโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง อาร์มแชร์อีกฝั่งละ 1 ตัว และโต๊ะกาแฟตรงกลางได้แบบสบายๆ หากเจ้าของบ้านเป็นคนที่ไม่ได้ซีเรียสเรื่องความเป็นส่วนตัวมากนัก ไม่ได้ต้องการให้ห้องนี้เป็นจุดรับแขก ก็สามารถดัดแปลงเป็นห้องอเนกประสงค์ได้อีก 1 ห้องค่ะ
ส่วนที่ฝั่งตรงข้ามกับห้องรับแขกก็คือห้องอเนกประสงค์ค่ะ
ห้องอเนกประสงค์เป็นห้องที่ลูกบ้านสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นของห้องได้ตามไลฟ์สไตล์เลย สามารถจัดเป็นออฟฟิศส่วนตัว, ห้องอ่านหนังสือ, ห้องสำหรับสร้างสรรค์งานอดิเรก ส่วนบ้านตัวอย่างตกแต่งให้เป็น Home Theater ค่ะ
ขนาดของห้องสามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ได้สบายๆ
จริงๆ แล้วห้องนี้จะมีช่องแสงให้โดยรอบเลยนะคะ แต่เนื่องจากบ้านตัวอย่างตกแต่งเป็น Home Theater จึงทำผนังและบานเลื่อนขึ้นมาเพื่อกั้นแสงสว่างจากภายนอก รวมถึงบุผนังด้วย Insulation ช่วยดูดซับเสียงสะท้อน
ส่วนหน้าต่างภายนอกของบ้านหลังนี้ใช้บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ Sahara ติดกระจกลามิเนตให้ทุกบาน เหมือนแบบบ้านพรรณรายค่ะ
ข้างๆ กับห้องอเนกประสงค์ก็คือห้องน้ำแขก ทำเป็นโถงทางเดินเข้าไปแล้วลดระดับพื้นลงไป 3 สเต็ป ส่วนที่ผนังด้านข้างเราเห็นประตูตู้บานเกล็ด นั่นก็คือตู้เก็บงานระบบไฟฟ้าของบ้านค่ะ
ในส่วนของห้องน้ำแขกจะเป็นลักษณะของ Powder Room คือใช้ทำธุระส่วนตัวเพียงอย่างเดียว ไม่มีส่วนอาบน้ำมาให้ค่ะ วัสดุและสุขภัณฑ์จะใช้เหมือนแบบบ้านพรรณรายทุกประการ ทั้งพื้นและผนังใช้วัสดุปิดผิวเป็นกระเบื้องเซรามิกลายหินอ่อนขนาด 60 x 60 ซม. สุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard อ่างล้างมือเป็นอ่างฝังบนเคาน์เตอร์ โถสุขภัณฑ์เป็น Washlet เหมือนเดิม ซึ่งมีรีโมทคอนโทรลติดตั้งเอาไว้ที่ผนังด้านข้าง
เรามาดูห้องนอนชั้นล่างซึ่งเป็นห้องนอนของผู้สูงอายุกันต่อค่ะ ประตูทางเข้าห้องใช้เหมือนห้องอื่นๆ ทั้งบานประตูและวงกบเป็น UPVC ติดตั้งมือจับก้านโยกสแตนเลสจาก Hafele
ห้องนอนชั้นล่างมีขนาดใหญ่กว่าแบบบ้านพรรณราย สามารถอยู่ได้ถึง 2 คน เป็นห้องที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่เดินขึ้น – ลงบันไดไม่สะดวก หรือผู้ที่นั่ง Wheelchair ตำแหน่งห้องถูกวางเอาไว้ฝั่งหน้าบ้านใกล้ประตูทางเข้าบ้าน สะดวกเมื่อเกิดกรณีฉุกเฉินที่ต้องการเคลื่อนย้ายผู้สูงอายุไปโรงพยาบาล พื้นห้องปูด้วย SCG Soft Floor Elder Care เหมือนเดิม
พื้นที่ภายในห้องสามารถวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้เลยนะ และยังสามารถวางโต๊ะข้างได้ทั้ง 2 ฝั่งด้วย
พอวางเตียงนอนแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงสามารถเดินผ่านได้สะดวก สำหรับคนที่ชอบดูทีวีตอนก่อนนอนแนะนำให้ติดทีวีแบบแขวนผนังค่ะ
จุดที่บ้านตัวอย่างทำ Built – in ตู้เสื้อผ้าจริงๆ แล้วจะเป็นจุดที่ผนัง Set เข้าไปประมาณ 60 ซม. พอดี จึงเป็นจุดที่เหมาะสำหรับวางตู้เสื้อผ้าแล้วค่ะ ริมฝั่งซ้ายสุดคือประตูห้องน้ำ ซึ่งทางโครงการเลือกใช้เป็นประตูบานเลื่อน
พื้นที่ภายในห้องน้ำมีขนาดที่กว้างขวาง เป็นระยะที่ Wheelchair สามารถใช้งานได้สะดวก และมีการติดตั้งราวจับให้ในทุกจุดที่จำเป็น ทั้งพื้นและผนังใช้กระเบื้องเซรามิกลายหินอ่อนขนาด 60 x 60 ซม. ส่วนสุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard ทั้งหมด
จากโถงทางเดินเราเข้ามาในโถงใหญ่ของบ้านซึ่งเป็น Common Area กันต่อ ประกอบด้วยห้องนั่งเล่นทางฝั่งซ้าย และห้องรับประทานอาหารทางฝั่งขวาค่ะ
ห้องนั่งเล่นก็มีการออกแบบให้เป็น Double Ceiling Space พื้นที่เปิดโล่งจากชั้น 1 ขึ้นไปถึงฝ้าเพดานชั้น 2 สูงถึง 7 เมตร ทำให้ดูโปร่งโล่ง โอ่อ่า เหมาะสำหรับการพักผ่อน
พื้นที่ภายในห้องนั่งเล่นมีขนาดใหญ่ จึงสามารถวางโซฟาได้หลากหลายรูปแบบเลยค่ะ
ระหว่างพื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารจะมีประตูบานเลื่อนสามารถเปิดออกไปสู่พื้นที่ชมสวนภายนอกได้
พื้นที่ชมสวนถูกออกแบบมาในลักษณะของ Court กลางบ้านแบบ Outdoor ค่ะ เป็นจุดที่มีฝ้าเพดานสูงพอๆ กับห้องนั่งเล่นเลย เพราะฝ้าเปิดโล่งขึ้นไปถึงชั้น 2 เป็นมุมที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนแบบเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง เพราะเป็นตำแหน่งหลังบ้าน บุคคลภายนอกไม่สามารถสอดส่องเข้ามาเห็นได้เลย นอกจากจะเป็นพื้นที่สำหรับนั่งชมสวนจิบ Afternoon Tea ได้แล้ว เรายังสามารถแปลงสวนหลังบ้านให้กลายเป็นสระว่ายน้ำแล้วใช้พื้นที่ส่วนนี้เป็น Pool Deck วาง Pool Bed ได้ด้วย ส่วนพื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิกค่ะ
จากบริเวณนั่งชมสวนมองออกมาก็คือสวนหลังบ้าน ที่เราสามารถออกแบบจัดสวนสร้างบรรยากาศได้ตามต้องการ หรือจะสร้างเป็นสระว่ายน้ำตามที่กล่าวไปข้างต้นได้เหมือนกัน
ภาพจากบริเวณนั่งชมสวนมองกลับเข้ามาภายในบ้าน
คราวนี้เราเข้าไปดูภายในห้องรับประทานอาหารกันต่อค่ะ
พื้นที่ห้องรับประทานอาหารมีขนาดใหญ่ และเป็นส่วนที่เชื่อมต่อกับส่วนเตรียมอาหาร ต่อเนื่องกันแบบเปิดโล่งเป็นพื้นที่ห้องเดียวกัน
บ้านตัวอย่างจัดวางชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งมาให้ดูเป็นไอเดีย ซึ่งจริงๆ แล้วพื้นที่ของห้องสามารถรองรับโต๊ะขนาด 8 ที่นั่งได้เลยค่ะ พอวางโต๊ะและเก้าอี้แล้วก็ยังเหลือพื้นที่โดยรอบในระยะที่ยังสามารถเดินผ่านได้สะดวก
บ้านตัวอย่างจัดวางส่วนเตรียมอาหารมาให้ดูเป็นไอเดีย เราสามารถทำเคาน์เตอร์ Island ได้แบบนี้เลย ส่วนประตูทางฝั่งขวามือก็คือประตูห้องครัวค่ะ
พื้นห้องครัวจะลดระดับลงจากพื้นชั้นล่างเล็กน้อย
ครัวของบ้านหลังนี้ได้เป็นครัวปิดเช่นกันค่ะ จึงสามารถทำอาหารหนักๆ กลิ่นแรงอย่างอาหารไทยได้
พื้นที่ห้องครัวมีขนาดกำลังพอดี สามารถวางตู้เย็น เตาปรุงอาหาร อ่างล้างจาน และเหลือพื้นที่สำหรับการเตรียมอาหารอยู่พอสมควร
จากห้องครัวมีประตูสามารถเปิดออกสู่ลานซักล้างหลังบ้านได้ พื้นลานซักล้างจะลดระดับลงจากพื้นห้องครัวเล็กน้อยค่ะ ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. มีพื้นที่ที่ค่อนข้างกว้างขวาง ทางโครงการได้เดินท่อและเตรียมงานระบบสำหรับวางเครื่องซักผ้าเอาไว้ให้แล้ว
ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้จะยังมีหลังคาคลุมให้อยู่นะ สามารถตั้งเครื่องซักผ้าได้เลยไม่โดนแดดโดนฝนค่ะ และจากลานซักล้างจะมีทางเดินเชื่อมต่อไปยังห้องนอนและห้องน้ำของแม่บ้านได้ไม่ต่างจากบ้านหลังที่แล้ว
กลับเข้ามาภายในบ้าน เราขึ้นไปดูพื้นที่บนชั้น 2 กันต่อค่ะ
โถงบันไดจะอยู่ติดกับห้องรับประทานอาหาร และอยู่ติดกับประตูทางเข้าบ้านจากฝั่งลานจอดรถ บันไดใช้โครงการคอนกรีตเสริมเหล็กมั่นคงแข็งแรง ปิดผิวทั้งหมดด้วยไม้มะค่าเกรดพรีเมี่ยม ราวจับบันไดใช้ราวเหล็กฝังกับพื้นบันได มือจับใช้ไม้มะค่าเช่นกัน
ภาพมองขึ้นไปยังโถงบันไดชั้น 2 ตรงกลางโถงบันไดตกแต่งด้วย Chandelier สวยๆ ช่วยทำให้บ้านดูสวยหรูมากขึ้น
ภาพมองย้อนกลับลงไปที่ชานพักบันได เห็นว่าไฟลท์บันไดมีขนาดค่อนข้างกว้างขวางจนสามารถเดินสวนกันได้เลย
พื้นที่ชั้น 2 ทั้งหมดปูด้วยไม้ปาร์เกต์มะค่าเกรดพรีเมี่ยมหน้ากว้าง 6 นิ้วยาว 1.2 เมตร ส่วนแรกทางฝั่งซ้ายมือเป็นพื้นที่พักผ่อนชั้น 2 เชื่อมกับโถงทางเดินไปยังห้องนอนอีก 3 ห้องและห้องพระ
พื้นที่พักผ่อนบนชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ที่เชื่อม Flow กับห้องนั่งเล่นตรงชั้น 1 ค่ะ
พื้นที่สามารถรองรับโซฟาเบดได้สบายๆ เลย เหมาะสำหรับจัดเป็นมุมพักผ่อนส่วนตัว แต่ก็ยังสามารถมองลงไปเห็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นตรงชั้นล่างได้
จากมุมพักผ่อนมองย้อนกลับไปที่โถงบันได ทางฝั่งซ้ายมือคือโถงทางเดินไปยังห้องพระ ห้องนอน 3 และห้องนอน 2 ส่วนทางฝั่งขวามือคือห้องนอน Master ค่ะ
จริงๆ แล้วบ้านมาตรฐานจะกั้นผนังแยกห้องพระเป็นห้องแบบปิด แต่ที่บ้านตัวอย่างได้รื้อผนังออกและเชื่อมห้องพระเข้ากับโถงทางเดินให้ดูเป็นไอเดีย
เราเข้าไปดูห้องนอน 3 ทางฝั่งซ้ายมือ ตามด้วยห้องนอน 2 ทางฝั่งขวามือกันต่อเลยค่ะ
แม้ว่าจะเป็นห้องขนาดเล็กที่สุดของบ้าน แต่ภายในก็ยังสามารถวางเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างลงตัวทุกประการ มีขนาดใหญ่กว่าห้องนอน 3 ของบ้านหลังที่แล้ว
ขนาดพื้นที่ภายในห้องก็ยังสามารถรองรับเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้ แต่ถ้าจะเผื่อที่วางโต๊ะข้างเตียงนอนขนาด 5 ฟุตแบบบ้านตัวอย่างจะเหมาะสมกับพื้นที่ห้องมากกว่า
ทางฝั่งปลายเตียงยังเหลือพื้นที่ค่อนข้างกว้างทำให้เราสามารถวางโต๊ะเขียนหนังสือได้ ส่วนทีวีใช้แบบแขวนผนังแทนจะช่วยประหยัดพื้นที่ได้ดีกว่า
พื้นที่ด้านข้างเตียงนอนทางฝั่งขวาสามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดมาตรฐานได้ 1 ตู้ ประตูที่อยู่ด้านข้างกันก็คือประตูห้องน้ำในตัวค่ะ
ส่วนภายในห้องน้ำจะมีลักษณะการวางแปลนและใช้สีสันของวัสดุแตกต่างไปจากบ้านหลังที่แล้วบ้าง แต่โดยหลักๆ สเป็กของที่ให้และสุขภัณฑ์ทุกชิ้นจะใช้เหมือนกันทั้งหมดค่ะ
แต่ที่เพิ่มเติมขึ้นมาก็คือมีการก่อม้านั่งสำหรับอาบน้ำให้ด้วย
และชุด Rain Shower ก็ได้รุ่นที่ดูดีสวยงามมากขึ้นกว่าบ้านหลังที่แล้วค่ะ
คราวนี้เราเข้ามาดูภายในห้องนอน 2 ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องนอน 3 กันต่อ พื้นที่ภายในห้องก็มีขนาดใหญ่ไม่แพ้ห้องนอน Master ของโครงการอื่นๆ เลย จึงสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ได้ลงตัว ภายในห้องแบ่งออกเป็น 2 โซนด้วยกัน เข้าไปในห้องเราจะเจอส่วนแต่งตัวก่อนค่ะ
ทางบ้านตัวอย่างตกแต่งมาเป็นตู้เสื้อผ้า Built – in ขนาดใหญ่ ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัว
ภายในห้องน้ำจะมีลักษณะการวางแปลนและใช้สีสันของวัสดุแตกต่างไปจากห้องนอน 3 บ้าง แต่โดยหลักๆ สเป็กของที่ให้และสุขภัณฑ์ทุกชิ้นจะใช้เหมือนกันทั้งหมดค่ะ
ถัดเข้ามาด้านในห้องเป็นโซนพักผ่อนค่ะ
ขนาดของห้องนั้นสามารถรองรับเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้อย่างสบายๆ แถมยังมีพื้นที่เหลือสามารถวางโต๊ะข้างเพิ่มเติมได้
พื้นที่ปลายเตียงนอนก็ยังเหลือเยอะมาก สามารถวางชั้นวางทีวีและวางโซฟาเบดได้เพิ่มเติม
สังเกตที่หน้าต่างของห้องนี้ออกแบบให้ภายนอกดูเหมือนระเบียง แต่จริงๆ แล้วไม่สามารถเดินออกไปได้นะคะ สามารถยืนชมวิวจากภายในได้อย่างเดียว
สุดท้ายตามด้วย Master Bedroom ที่อยู่ทางฝั่งหน้าบ้านกันต่อค่ะ
พื้นที่ภายในห้องมีขนาดใหญ่ สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ได้ลงตัวง่ายมากๆ ภายในห้องแบ่งออกเป็น 2 โซนด้วยกัน เข้าไปในห้องเราจะเจอส่วนพักผ่อนก่อนค่ะ
แน่นอนว่าห้องขนาดนี้สามารถวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตหรือ Oversize ได้สบายๆ ค่ะ และยังสามารถวางโต๊ะข้างได้อีกทั้ง 2 ฝั่ง
ทางฝั่งซ้ายมือของเตียงนอนเราสามารถทำเป็นชั้นเก็บของและโต๊ะทำงานเพิ่มเติมได้
ส่วนพื้นที่ปลายเตียงนอนก็ยังเหลือกว้างพอสมควรจนสามารถวางชั้นวางทีวีขนาดย่อมๆ และวางโซฟา Love Seat ได้อีก 1 ตัว
จากส่วนพักผ่อนจะมีประตูบานเลื่อนสามารถเปิดออกสู่ระเบียงหน้าบ้านได้ค่ะ
พื้นที่ระเบียงของห้องนี้มีขนาดใหญ่พอ สามารถวาง Day Bed หรือชุดโต๊ะน้ำชาสำหรับนั่งพักผ่อนชมวิวฝั่งหน้าบ้านได้เลย
ซึ่งพื้นที่ระเบียงยังเป็นจุดที่มีหลังคาคลุมให้ จึงไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องแดดเรื่องฝนเลย
จากส่วนพักผ่อนจะมีประตูเชื่อมต่อกับส่วนแต่งตัวและห้องน้ำในตัวค่ะ
Walk – in Closet ของ Master Bedroom มีขนาดที่ใหญ่มากๆ ค่ะ สามารถทำตู้ Built – in ได้ทั้ง 2 ฝั่ง แล้วยังเหลือพื้นที่กลางห้องสามารถทำเป็น Island ใช้เก็บ Accessories สำหรับแต่งตัวได้ด้วย
หันกลับมาอีกฝั่งเป็นส่วนของห้องน้ำในตัวค่ะ
ห้องน้ำของ Master Bedroom มีขนาดใหญ่ ถูกแบ่งออกเป็นสัดส่วนอย่างดี ตกแต่งพื้นและผนังด้วยกระเบื้องเซรามิกลายหินอ่อน ส่วนสุขภัณฑ์ทั้งหมดใช้ของ American Standard เหมือนบ้านหลังที่แล้วทุกประการ
ส่วนแรกคืออ่างล้างมือแบบ His & Her
เป็นอ่างฝังบนเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่พร้อมก๊อกน้ำแบบผสม รุ่นดูหรูมากขึ้น
ฝั่งตรงข้ามกับอ่างล้างหน้าติดกับหน้าต่างคืออ่างอาบน้ำแบบฝัง ใช้รุ่นที่อัพเกรดขึ้นมาอีกเช่นกัน เป็นขนาดที่สามารถนั่งเอนหลังแช่น้ำพอดี
ส่วนโถสุขภัณฑ์จะถูกกั้นส่วนออกมาด้วยประตูกระจก Tempered Glass บานเปลือย สำหรับห้อง Master จะได้โถสุขภัณฑ์แบบ Washlet เป็นรุ่นอัพเกรด
โซน Shower ถูกกั้นส่วนออกมาด้วยประตูกระจก Tempered Glass บานเปลือยเช่นกัน ภายในติดตั้งชุด Hand Shower พร้อมราวปรับระดับ ด้านข้างก่อม้านั่งสำหรับนั่งอาบน้ำให้ กับเจาะผนังด้านหลังเข้าไปทำเป็นชั้นวางสบู่
และติดตั้ง Rain Shower มาด้วย เป็นแบบแขวนบนฝ้าเพดานค่ะ
:::: ราคา (กรกฎาคม 2562) ::::
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ Chewawan ปิ่นเกล้า – สาทร ตั้งอยู่บนถนนพุทธมณฑลสาย 1 ฝั่งมุ่งหน้าไปทางถนนเพชรเกษม ใกล้ถนนฉิมพลี และ ถนนบรมราชชนนี ภาพรวมของทำเลนี้จะเป็นพื้นที่อยู่อาศัยในแนวราบ มีโครงการบ้านจัดสรรขนาดเล็กและขนาดใหญ่ขึ้นอยู่ใกล้ๆ และยังมีผืนที่ดินเปล่าและพื้นที่สำหรับทำเกษตรกรรมเหลืออยู่มากพอสมควร อยู่ไม่ไกลจากแหล่งสาธารณูปโภคต่างๆ ในระยะเดินพอจะมีร้านสะดวกซื้ออย่าง 7 – Eleven ตรงหน้าปากซอยถนนฉิมพลี
ในระยะขับรถก็ใกล้แหล่งช้อปปิ้งทั้ง ห้างสรรพสินค้า, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, คอมมูนิตี้มอลล์, ร้านค้า, โรงพยาบาล และ สถานศึกษา หลักๆ เลยบนเส้นราชพฤกษ์ก็จะมี The Circle ราชพฤกษ์, Food Villa ราชพฤกษ์, HomePro, The Crystal ราชพฤกษ์ และ The Walk ราชพฤกษ์ ส่วนห้าง Central ที่อยู่ใกล้ที่สุด ก็จะเป็น Central ปิ่นเกล้าค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว เป็นจุดเด่นหนึ่งของโครงการที่สามารถเดินทางได้สะดวกทีเดียว เพราะตั้งอยู่ติดกับถนนพุทธมณฑลสาย 1 เลยมาจากถนนบรมราชชนนีไม่ไกล สามารถขับไปขึ้นทางพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอกได้ในไม่กี่นาที และสามารถเดินทางไปยังใจกลางเมืองตรง สาทร สีลม และ พระราม 3 ได้สะดวก
การเดินทางโดยรถสาธารณะ เป็นโครงการที่เหมาะสำหรับการใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักมากกว่า เพราะที่หน้าโครงการบนถนนพุทธมณฑลสาย 1 จะไม่ค่อยมีรถประจำทางวิ่งผ่านเท่าไหร่ แต่มีรถแท็กซี่วิ่งผ่านอยู่เป็นช่วงๆ สามารถเรียกได้สะดวก แต่ถ้าจะให้สะดวกที่สุดก็คือเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอพพลิเคชั่น Grab Taxi และ Line Taxi ประกอบกันไปค่ะ
สำหรับการเดินทางด้วยระบบราง ปัจจุบันมี รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง – บางแค ที่จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนปี 2562 นี้ โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีภาษีเจริญ และในอนาคตจะมี รถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน ช่วง บางหว้า – ตลิ่งชัน วิ่งบนเส้นเชื่อมราชพฤกษ์ เชื่อมรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสีเขียวที่สถานีบางหว้า และไปเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีแดงและสีส้ม (สายในอนาคต) ที่สถานีตลิ่งชัน ซึ่งสถานีที่อยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุดก็คือ สถานีบรมราชชนนี อยู่บริเวณจุดตัดถนนบรมราชชนนี แต่ปัจจุบันยังติดปัญหาเรื่อง EIA และ ที่ดินสร้างสถานีจ่ายไฟ จึงยังคงต้องรอลุ้นกันต่อไปนะคะว่าจะรถไฟฟ้าสายนี้จะถูกสร้างและเปิดใช้งานจริงๆ เมื่อไหร่
การออกแบบโครงการ และวัสดุ จุดเด่นของโครงการนี้คือเป็นบ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern Classic ในโครงการที่มีความเป็นส่วนตัวสูง เพราะว่ามีเพียง 52 ยูนิตบนพื้นที่โครงการกว่า 26 ไร่ ที่ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางและบรรยากาศภายในโครงการทั้งหมดแบบ Exclusive ทีเดียว โดยมีบ้านให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ ขนาด 333 – 432 ตร.ม. ฟังก์ชั่นขนาด 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 4 – 6 คัน พร้อมห้องนอนและห้องน้ำแม่บ้านแยกส่วนกับเจ้าของบ้าน มีการวางผังบ้านที่แตกต่างโดดเด่นจากโครงการอื่นๆ เพื่อให้พื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน มีความเป็นส่วนตัวและส่งผลประโยชน์ต่อผู้อยู่อาศัยมากที่สุด
โดยใช้โถงทางเดินภายในบ้านเป็นตัวผลักระยะประตูทางเข้าบ้านออกจากพื้นที่ที่เจ้าของบ้านใช้อยู่อาศัยจริงๆ เพื่อไม่ให้บุคคลภายนอกสามารถมองเข้ามาเห็นกิจกรรมส่วนตัวภายในครอบครัวได้ ส่วนพื้นที่อยู่อาศัยภายในออกแบบให้เปิดโล่งเชื่อมต่อถึงกัน ทำให้พื้นที่บ้านดูโปร่งโล่ง อยู่สบาย โดยเฉพาะในส่วนของห้องนั่งเล่นที่มีฝ้าเพดานสูงถึง 7 เมตรเชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งพักผ่อนบนชั้น 2 ด้วย
นอกจากนี้ภายในห้องนอนทุกห้องยังมีห้องน้ำในตัวทั้งหมดเพื่อความเป็นส่วนตัว ส่วนวัสดุที่ใช้ภายในบ้านก็ให้มาในระดับที่ดีสมราคา ชั้นล่างใช้พื้นแกรนิตโต้ลายหินอ่อน ชั้น 2 ใช้พื้นปาร์เกต์ไม้มะค่าเกรดพรีเมี่ยมชิ้นใหญ่ ส่วนห้องนอนผู้สูงอายุใช้ SCG Soft Floor Elder Care, ห้องน้ำใช้กระเบื้องเซรามิก และสุขภัณฑ์จาก American Standard ทั้งหมด ได้ Rain Shower ทุกห้อง พร้อมระบบทำน้ำร้อน (ยกเว้นห้องนอนชั้นล่างที่จะไม่มี Rain Shower และต้องติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น) โดยเฉพาะห้องน้ำแขกและห้องน้ำ Master ที่ได้โถสุขภัณฑ์แบบ Washlet, ผนังก่ออิฐมวลเบาฉาบเรียบทาสี TOA Supershield, ประตูทางเข้าบ้านบานไม้สัก ประตูห้องนอนและอื่นๆ ใช้บาน UPVC ส่วนประตู – หน้าต่างภายนอกใช้อลูมิเนียมสีดำ Sahara ติดกระจกลามิเนตแบบอาคารสูง, ใช้หลังคา Neustile พร้อมแผ่นสะท้อนความร้อน ฉนวนกันความร้อน Stay Cool หนา 3 นิ้ว และติดฝ้าชายคาที่ระบายอากาศได้
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ให้มาแบบจัดเต็มเทียบกับจำนวนยูนิตของโครงการแล้วถือว่าได้มาเยอะมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Clubhouse หรู, Swimming Pool ระบบเกลือ แยกสระเด็ก – สระผู้ใหญ่, Fitness พร้อมเครื่องออกกำลังกายครบครัน, Squash Room, Yoga Room, Sauna Room, ใช้ Underground Cables เพื่อทัศนียภาพที่สวยงาม, Automatic Sprinkler ไฟถนนและไฟสวน LED โซล่าเซลล์ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. กับ Double Gate Security, เข้า – ออกโครงการ ด้วยระบบ Easy Pass, ติดกล้อง CCTV กระจายรอบโครงการ 32 จุดส่องเห็นหน้าบ้านทุกหลัง ถือว่าดีมากค่ะ
:::: คะแนน ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 7.9 | อยู่บนถนนพุทธมณฑลสาย 1 |
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว | 8.1 | สามารถเดินทางได้สะดวก อยู่ติดถนนใหญ่และอยู่ใกล้ทางด่วน |
การเดินทางโดยรถสาธารณะ | 7.5 | ไม่ค่อยมีรถประจำทางผ่านหน้าโครงการ แต่สามารถเรียกใช้แทกซี่ได้สะดวก ต้องรอดูว่ารถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อนช่วง บางหว้า – ตลิ่งชัน จะผ่าน EIA เมื่อไหร่ |
บ้านและวัสดุ | 8.5 | บ้านสไตล์ Modern Classic ออกแบบแปลนบ้านมาน่าสนใจไม่เหมือนกับโครงการอื่นๆ คำนึงถึงผู้อยู่อาศัยเป็นหลัก วัสดุที่ได้มาสมราคา |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.9 | สิ่งอำนวยความสะดวกมีมาให้เยอะ เทียบกับจำนวนยูนิตโครงการแล้วถือว่าดีมากค่ะ |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.1 | โครงการเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ เดิมอาศัย หรือทำงานอยู่ใกล้เคียงกับบริเวณโครงการหรือในตัวเมือง เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.16 | ดีมาก |
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
CALL CENTER : 1260
WEBSITE : https://www.chewathai.com/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
บ้านเดี่ยว ราชพฤกษ์ ทำเลใกล้เคียง ที่น่าสนใจ…
THE CITY จรัญ-ปิ่นเกล้า 25.9 ล้าน*
ชีวาวัลย์ ปิ่นเกล้า-สาทร เริ่ม 25.9 ล้าน*
ชีวารมย์ นครอินทร์ เริ่ม 10 ล้าน*
เศรษฐสิริ ราชพฤกษ์ – สาย 1 เริ่ม 20 ล้าน*
เศรษฐสิริ ราชพฤกษ์ – พรานนก เริ่ม 35 ล้าน*
เศรษฐสิริ ราชพฤกษ์ – นครอินทร์ เริ่ม 12 ล้าน*
แกรนด์ บริทาเนีย ราชพฤกษ์ – พระราม 5 เริ่ม 8.69 ล้าน*
VANA ราชพฤกษ์-เวสต์วิลล์ เริ่ม 30 ล้าน*
Bangkok Boulevard ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า เริ่ม 13 ล้าน*
Bangkok Boulevard Signature สาทร-ปิ่นเกล้า เริ่ม 24.9 ล้าน*
Grand Bangkok Boulevard ราชพฤกษ์ – ปิ่นเกล้า เริ่ม 30 ล้าน*
WONDER ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า เริ่ม 8 ล้าน*
THE CITY ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า เริ่ม 8.99 ล้าน*
CENTRO ราชพฤกษ์ 3 เริ่ม 7.99 ล้าน*
ชีวารมย์ ราชพฤกษ์ตัดใหม่ เริ่ม 7 ล้าน*
THE CITY พระราม 5-นครอินทร์ เริ่ม 8.99 ล้าน*
THE CITY พระราม 5-นครอินทร์ 2 เริ่ม 17.5 ล้าน*
CENTRO พระราม 5-นครอินทร์ 8.99 ล้าน*
Bangkok Boulevard พระราม 5 เริ่ม 15 ล้าน*
Bangkok Boulevard Signature พระราม 5 เริ่ม 29 ล้าน*
THE CITY สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ เริ่ม 11.9 ล้าน*
CENTRO สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ 3 เริ่ม 7.99 ล้าน*
สราญสิริ ราชพฤกษ์ 345 เริ่ม 7.99 ล้าน*
สราญสิริ ราชพฤกษ์ 346 เริ่ม 6.99 ล้าน*
Lake Resort ราชพฤกษ์-ปทุมธานี เริ่ม 19 ล้าน*
CENTRO ติวานนท์-ศรีสมาน 8.99 ล้าน*
THE CITY ติวานนท์-งามวงศ์วาน เริ่ม 15.99 ล้าน*
THE CITY ติวานนท์-งามวงศ์วาน 2 เริ่ม 15.99 ล้าน*
บ้านเดี่ยว แจ้งวัฒนะ ทำเลใกล้เคียง ที่น่าสนใจ…
CENTRO รัตนาธิเบศร์ 2 เริ่ม 7.99 ล้าน*
เพอร์เฟค พาร์ค แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ เริ่ม 5.29 ล้าน*
เพอร์เฟค เพลส แจ้งวัฒนะ 6.99 ล้าน*
Bangkok Boulevard แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ เริ่ม 9.9 ล้าน*
Bangkok Boulevard Signature แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ เริ่ม 21.9 ล้าน*
Zerene ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ เริ่ม 7.49 ล้าน*
เดอะ แกรนด์ แจ้งวัฒนะ-เมืองทอง เริ่ม 25 ล้าน*
Grand Britania ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ เริ่ม 10 ล้าน*
The Waterfront ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ เริ่ม 4.99 ลบ.*
ชัยพฤกษ์ แจ้งวัฒนะ เริ่ม 8.8 ล้าน*
แกรนดิโอ แจ้งวัฒนะ-เมืองทอง เริ่ม 12 ล้าน*
The Arbor ดอนเมือง-แจ้งวัฒนะ เริ่ม 12 ล้าน*
The Astoria ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ เริ่ม 6.9 ล้าน*
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
แสดงความคิดเห็น