ชื่อโครงการ
ดีมูระ พหลฯ – เกษตร D’Mura Pahol-Kaset
เจ้าของโครงการ
D’Well Grand Asset
ลักษณะห้องและขนาดห้อง
1 Bedroom : 25.03-32.77 ตร.ม.
2 Bedroom : 49.09-53.61 ตร.ม.
เนื้อที่ทั้งหมด
2-0-41.7 ไร่
จำนวนตึก
1 อาคาร
จำนวนชั้น
8 ชั้น
จำนวนห้อง
216 ยูนิต
ที่จอดรถทั้งหมด
104 คัน รวมจอดซ้อนคัน (คิดเป็น 48%)
โซน
เขตจตุจักร
ขนส่งสาธารณะ
n/a
รถโดยสารที่ผ่าน
n/a
ที่ตั้ง
ซอยพหลโยธิน 34 (เสนา 2) แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กทม. 10900
กำหนดการ
เริ่มก่อสร้าง ไตรมาส 4 / 2558
ปีที่สร้างเสร็จ
แล้วเสร็จ ไตรมาส 1 / 2560
ราคา
เริ่มต้น 2.29 ล้านบาท*
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม
ประมาณ 74,000-78,000 บาท/ ตร.ม.
ค่าส่วนกลางและกองทุน
ค่าส่วนกลาง 35 บาท/ตร.ม./เดือน
ค่ากองทุน 350 บาท/ตร.ม.
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
ห้างสรรพสินค้า
ตลาดบางเขน : 1.3 กม.
Home Village : 1.8 กม.
Tops : 2.2 กม.
เมเจอร์ รัชโยธิน : 2.3 กม.
เทสโก้ โลตัส วังหิน : 2.4 กม.
The JAS วังหิน : 2.4 กม.
ตลาดอมรพันธ์ : 2.5 กม.
SCB Park : 2.9 กม.
Plaza Lagoon : 3.0 กม.
นวมินทร์ ซิตี้ อเวนิว : 4.0 กม.
Union Mall : 4.4 กม.
Big C ลาดพร้าว : 5.1 กม.
เซ็นทรัลลาดพร้าว : 5.3 กม.
The Walk เกษตร-นวมินทร์ : 6.8 กม.
เซ็นทรัลอีสต์วิลล์ : 7.4 กม.
The Crystal : 8.2 กม.
CDC : 8.8 กม.
ตลาดนัดหัวมุม : 9.0 กม.
สถานศึกษา
ม.เกษตรศาสตร์ : 1.3 กม.
ม.ศรีปทุม : 3.5 กม.
ม.ราชภัฎจันทรเกษม : 3.7 กม.
ศูนย์การแพทย์
รพ.เปาโล เกษตร : 1.1 กม.
รพ.วิภาวดี : 2.7 กม.
ศาสนสถาน
สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ
ท่ารถนครชัยแอร์ : 4.3 กม.
ธกส. : 4.5 กม.
สวนจตุจักร : 5.6 กม.
พิพิธภัณฑ์ MOCA : 7.1 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก
Lobby
Mail Room
Co-Working Space
Entertainment Room
Open Pantry
Fitness
Swimming Pool
Wi-fi
Bike Sharing
Roof Garden
Yoga Space
Garden
Shuttle Bus
Passenger Lift
Access Card Control
Digital Door Lock
กล้อง CCTV
รปภ. 24 ชม.
จุดเด่นของโครงการ
ได้รับรางวัลชนะเลิศ Winner of Best Low-Rise Affordable Condo Development (Bangkok) จากงาน PropertyGuru Thailand Property Awards ครั้งที่ 12 ปี 2017
ความ Private/สงบ
ส่วนกลางขนาดกว่า 1,000 ตรม.
Facility ส่วนกลางแบบจัดเต็ม
ราคา
ครัวปิด ทุกห้อง
ความปลอดภัย 4 ชั้น (รปภ, ลิฟท์ล็อคชั้น, Access Key card, Security door lock)
ที่จอดรถมากถึง 104 คัน
ETC.
คอนโด BTS เสนานิคม / คอนโดติดรถไฟฟ้า BTS เสนานิคม
คอนโดโดยรอบ BTS เสนานิคม
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ซอยพหลโยธิน 34 (เสนา 2) แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กทม. 10900
พิกัด : 13.837398, 100.583198
แผนที่จากทางโครงการ
ทำเลที่ตั้ง ตัวโครงการ ดี มูระ พหลฯ-เกษตร ตั้งอยู่ในซ.พหลโยธิน 34 หรือซ.ประเสริฐมนูกิจ 2 ในย่านเกษตรค่ะ จุดเด่นของทำเลนี้ก็คือเป็นบริเวณที่มีทางลัดเลาะออกไปยังถนนหลักอื่นๆ ได้หลายเส้น อีกทั้งยังมีสภาพแวดล้อมที่นับว่าคึกคักสูง แม้ว่าตัวโครงการจะอยู่ในซอยเล็กๆ แต่ก็เต็มไปด้วยแหล่งสาธารณูปโภคและแหล่งความอุดมสมบูรณ์ต่างๆ อีกทั้งยังมีการสัญจรไปมาตลอดเวลา เนื่องจากเป็นย่านที่อยู่อาศัย มีที่อยู่อาศัยทั้งแบบบ้านและคอนโดปะปนกันไป และยังอยู่ใกล้กับสถานศึกษา อย่างม.เกษตรศาสตร์ และหน่วยงานราชการอีกด้วย
จากกราฟฟิคข้างบนนี้จะเห็นถนนซอยที่เชื่อมไปสู่ถนนเส้นต่างๆ ได้ชัดเจนมากขึ้น โดยตัวโครงการจะสามารถเข้า-ออกได้ถึง 4 เส้นทางด้วยกัน นั่นก็คือจาก ถ.พหลโยธิน เข้าทาง ซ.พหลโยธิน 34 ( 1.0 กม.) และ ซ.พหลโยธิน 32 (1.5 กม.) จาก ถ.ประเสริฐมนูกิจ ทางซ.ประเสริฐมนูกิจ 2 (400 ม.) และจาก ถ.ลาดพร้าววังหิน ตรงแยกวันหิน (1.5 กม.) ถนนบริเวณนี้จึงถูกใช้เป็นเส้นทางเข้า-ออกไปยังถนนสายต่างๆ รวมถึงใช้ออกไปทางเส้นลาดพร้าววังหิน และทางเส้นโชคชัย 4 ซึ่งจะสามารถใช้ออกถ.ลาดพร้าวได้อีกด้วย
การเดินทางด้วยรถยนต์ ถึงแม้ว่าถนนใหญ่โดยรอบโครงการจะเป็นเส้นที่การจราจรจะค่อนข้างติดขัดตามปกติของกรุงเทพฯ แต่ด้วยจุดเด่นของทำเลที่มีทางเข้า-ออกหลายทาง รวมถึงทางลัดอีกมากมาย จึงทำให้มีทางเลือกอยู่พอสมควร จะไปออกเส้นหลักๆ อย่าง พหลโยธิน, ประเสริฐมนูกิจ, ลาดพร้าว, รัชดาภิเษก หรือ วิภาวดี-รังสิต นั้นง่ายอยู่แล้ว โดยถนนสายหลักเหล่านี้จะเชื่อมสู่ถนนสายสำคัญเส้นอื่นๆ ไม่ว่าจะเข้าหรือออกเมืองก็ทำได้สะดวก อีกทั้งตรงเส้นวิภาวดี-รังสิต และเส้นเลียบด่วนรามอินทรา (ประดิษฐ์มนูธรรม) ก็จะมีจุดขึ้นทางด่วน ซึ่งช่วยให้การเข้าสู่ตัวเมืองนั้นรวดเร็วมากขึ้น
ทางด่วน จุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้ที่สุดก็คือทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ (อุตราภิมุข) สามารถเลือกใช้ได้ 2 เส้นทาง ลองดูเอาว่าวันไหนใช้เส้นไหนดีกว่ากัน โดยจุดขึ้นทางด่วนจะอยู่ห่างจากตัวโครงการออกไปเพียง 6.1 กม.เท่านั้นค่ะ
ส่วนจุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ก็ถือว่าไม่ได้ไกลกว่ากันมาก โดยให้ออกไปกลับรถที่เส้นประเสริฐมนูกิจเพื่อวิ่งเข้า ถ.เลียบด่วน หรือประดิษฐ์มนูธรรม จุดขึ้นทางด่วนจะอยู่ก่อนถึง CDC ค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ ทำเลที่โครงการถือว่าเป็นจุดที่มีความอุดมสมบูรณ์อยู่พอตัวเลยค่ะ อยู่ใกล้ทั้งห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ, Hypermarket, Community Mall, ตลาด, สถานศึกษาชื่อดัง และโรงพยาบาล ถ้าออกไปตรง ถ.ลาดพร้าววังหิน ก็จะมีทั้ง Tesco Lotus, The JAS วังหิน และ Plaza Lagoon ใกล้ขนาดที่ปั่นจักรยานไปก็ยังได้ ถ.พหลโยธิน จะเป็นที่ตั้งของห้างและ Shopping Mall ขนาดใหญ่ ทั้งเซ็นทรัลลาดพร้าว, Union Mall และ เมเจอร์ รัชโยธิน
ถ.งามวงศ์วาน ฝั่งตรงข้ามกับม.เกษตรฯจะเป็นแหล่งร้านอาหารอร่อยๆ ราคาก็ไม่แพงเพราะลูกค้าหลักๆ ก็คือนักศึกษา ถ.ประเสริฐมนูกิจ ก็มี นวมินทร์ ซิตี้ อเวนิว ภายในมีร้านค้า, ร้านอาหาร, วิลล่า มาร์เก็ต รวมถึงฟิตเนสที่เปิดตลอด 24 ชม. เลยไปไม่ไกลมีตลาดนัดหัวมุมเป็นตลาดนัดขนาดใหญ่ ขายของราคาย่อมเยา มีร้านอาหารและลานเบียร์ให้แฮงเอ้าท์ได้ถึงเที่ยงคืน ถ้าออกไปที่ เส้นเลียบด่วน ก็จะมีเซ็นทรัลอีสวิลล์, กินเที่ยวแบบมีระดับหน่อยก็ที่ CDC และ The Crystal ใกล้ๆ กันเลย
ในระยะเดินโดยรอบโครงการนั้นจะไม่ขลาดแคลนอาหารอย่างแน่นอน เพราะมีทั้งร้านสะดวกซื้ออยู่ใกล้ๆ เดินไปไม่ถึง 100 เมตร ทั้ง 7-Eleven, Lotus Express, ตลาดนัดในตอนเย็น, ตลาดศรีเสนา, ตลาดบางเขน ออกไปแถวๆ ม.เกษตรฯ ก็อย่างที่บอกว่ามีร้านอาหารอยู่เพียบ เดินออกไปที่หน้าปากซอยพหลโยธิน 34 ก็เพียง 1.0 กม.เท่านั้น 10 นาทีเองค่ะ ตรงนั้นก็จะมีรพ.เปาโล เกษตร หรือที่เรียกว่ารพ.เมโย ถ้าจะเติมน้ำมันก็ออกไปที่ซ.พหลโยธิน 32 ทางซ.เสนา 1-11 จะเจอปั๊ม Esso อยู่ตรงสามแยกเหลื่อมๆ ไปทางแยกวังหินค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ บริเวณโครงการจะมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ใกล้ๆ ซึ่งขับผ่านหน้าโครงการอยู่ตลอด เรียกได้ไม่ยาก ออกไปไหนใกล้ๆ ก็สะดวก ถ้าออกไปที่หน้าปากซอยพหลโยธิน 34 เดินไปอีกเล็กน้อยก็จะมีป้ายรถเมล์แล้ว สายที่ผ่านก็มีอยู่หลายสาย รถตู้วิ่งเข้า-ออกเมืองก็เรียกว่าแทบจะมีผ่านทุกสายเลย ไม่ว่าจะไปทางอนุสาวรีย์, หมอชิต, สะพานใหม่, ปากเกร็ด, มีนบุรี มีผ่านหมด อัตราค่าโดยสารก็ถูก ไปไหนสะดวกแทบไม่ต้องพึ่งแท็กซี่หากไม่รีบมาก อีกทั้งยังมีสะพานลอยอยู่ตรงหน้าปากซอยพอดี ข้ามถนนสะดวกทีเดียวไม่ต้องเดินไกล
อีกทั้งทางโครงการยังมีบริการรถ Shuttle Service เป็นรถสามล้อคอยวิ่งรับ-ส่งระหว่างหน้าปากซอยพหลฯ 34 จนถึงโครงการด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อรองรับการใช้งานสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว ในอนาคต ช่วงหมอชิต-คูคต คาดว่าจะเปิดใช้งานปี 2563 ค่ะ ซึ่งสถานีที่ใกล้ที่สุดก็คือ BTS สถานีเสนานิคม ทางขึ้นสถานีจะอยู่บริเวณหน้าปากซอยพอดี แต่ตอนนี้สถานีที่ใกล้ที่สุดก็คือ MRT พหลโยธิน ค่ะ ห่างจากโครงการออกไป 4.1 กม. นั่งวินไปเดี๋ยวเดียวก็ถึง
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการ ดี มูระ พหลฯ-เกษตร โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ > ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม > ถ.ประเสริฐมนูกิจ > ซ.ประเสริฐมนูกิจ 2 > ซ.พหลโยธิน 34 > ดี มูระ พหลฯ-เกษตร
ตอนนี้เราอยู่บนทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์มุ่งหน้าไปทางถ.เกษตร-นวมินทร์ (ประเสริฐมนูกิจ) จากจุดนี้ไปถึงโครงการ เราจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 12 นาทีค่ะ
พอเห็นป้ายทางลงถ.เกษตร-นวมินทร์แล้วให้เราชิดซ้ายลงจากทางด่วนเลย
ลงมาจากทางด่วนเข้าเส้นประดิษฐ์มนูธรรม ให้เราขับตามป้ายประเสริฐมนูกิจ-เกษตรไปเลย อย่าขับขึ้นสะพานข้ามแยกข้างหน้านะคะ ให้เราชิดเลนซ้ายเอาไว้
เตรียมชิดเลนซ้ายเพื่อเตรียมเลี้ยวเข้าถ.ประเสริฐมนูกิจ
ข้างหน้าเราเลี้ยวซ้ายเข้าถ.ประเสริฐมนูกิจเลยค่ะ
พอเราเลี้ยวเข้าถ.ประเสริฐมนูกิจแล้ว ฝั่งซ้ายมือเราจะเห็นตลาดนัดหัวมุมก่อนเลย พื้นที่ตลาดมีขนาดใหญ่มากๆ เดินได้ไม่เบื่อ
ใกล้ๆ กันฝั่งขวามือจะเห็น The Walk เกษตร-นวมินทร์
เห็นป้ายเกษตรศาสตร์ก็ให้เราขับตรงไปเรื่อยๆ ผ่านแยกถ.สุคนธสวัสดิ์ไป
และขับผ่านแยกเกษตร-นวมินทร์-ลาดปลาเค้าไปตามป้ายเกษตรศาสตร์เรื่อยๆ
พอเราเห็นป้ายรพ.เปาโล เกษตร (รพ.เมโย) แล้วให้เรารีบชิดซ้ายทันทีค่ะ
เราจะเห็นป้ายเส้นทางลัดเสนานิคม 1 ข้างหน้าก็คือซ.ประเสริฐมนูกิจ 2 แล้ว ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลย
จากซ.ประเสริฐมนูกิจ 2 วิ่งตรงเข้าไปจะเจอสามแยกให้เลี้ยวซ้าย จะเห็นโครงการอยู่ทางฝั่งขวามือเลยค่ะ จากหน้าปากซอยจนถึงโครงการ เพียงแค่ 400 เมตรเท่านั้น
เข้ามาภายในถ.ประเสริฐมนูกิจ 2 จะเป็นลักษณะของชุมชนที่มีทั้งบ้านและคอนโด ดูบรรยากาศภายในซอยค่อนข้างคึกคักอยู่พอสมควร
พอถึงบริเวณสามแยก จะเห็น Lotus Express อยู่ฝั่งซ้ายมือ และเห็น 7-Eleven อยู่ข้างหน้าเราเลย ให้เราเลี้ยวซ้ายค่ะ
พอเราเลี้ยวซ้ายแล้ว ตรงเข้าไปนิดหน่อย ก็จะเห็นตัวโครงการอยู่ทางขวามือของเราแล้ว
ภาพบริเวณหน้าโครงการอีกรูป
สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
ถ.ประเสริฐมนูกิจ : 400 ม.
ถ.พหลโยธิน : 1.0 กม.
ถ.งามวงศ์วาน : 1.1 กม.
ถ.รัชดาภิเษก : 2.6 กม.
ถ.วิภาวดี-รังสิต : 2.9 กม.
ถ.ลาดพร้าว : 5.2 กม.
ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม : 7.5 กม.
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
ตลาดบางเขน : 1.3 กม.
Home Village : 1.8 กม.
Tops : 2.2 กม.
เมเจอร์ รัชโยธิน : 2.3 กม.
เทสโก้ โลตัส วังหิน : 2.4 กม.
The JAS วังหิน : 2.4 กม.
ตลาดอมรพันธ์ : 2.5 กม.
SCB Park : 2.9 กม.
Plaza Lagoon : 3.0 กม.
นวมินทร์ ซิตี้ อเวนิว : 4.0 กม.
Union Mall : 4.4 กม.
Big C ลาดพร้าว : 5.1 กม.
เซ็นทรัลลาดพร้าว : 5.3 กม.
The Walk เกษตร-นวมินทร์ : 6.8 กม.
เซ็นทรัลอีสต์วิลล์ : 7.4 กม.
The Crystal : 8.2 กม.
CDC : 8.8 กม.
ตลาดนัดหัวมุม : 9.0 กม.
สถานศึกษา
ม.เกษตรศาสตร์ : 1.3 กม.
ม.ศรีปทุม : 3.5 กม.
ม.ราชภัฎจันทรเกษม : 3.7 กม.
ศูนย์การแพทย์
รพ.เปาโล เกษตร : 1.1 กม.
รพ.วิภาวดี : 2.7 กม.
ศาสนสถาน
สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ
ท่ารถนครชัยแอร์ : 4.3 กม.
ธกส. : 4.5 กม.
สวนจตุจักร : 5.6 กม.
พิพิธภัณฑ์ MOCA : 7.1 กม.
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
ทำเลที่ตั้งของโครงการนั้นอยู่ในย่านที่พักอาศัยทั้งบ้านและคอนโดปนเปกันไป ซึ่งมีสภาพความเป็นชุมชนสูง โดยรอบของโครงการนั้นจะเป็นบ้านพักอาศัยดั้งเดิม และโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ ที่ทยอยสร้างขึ้นมาตามบริเวณที่ดินเปล่าที่ยังเหลืออยู่ ภายในซอยจึงมีความคึกคัก มีร้านค้าและร้านอาหารเปิดอยู่ตลอดทาง รวมถึงร้านสะดวกซื้อ และตลาดนัดที่เปิดตอนเย็นๆ เพื่อรองรับผู้คนที่อาศัยอยู่ในย่านนี้ค่ะ
ทิศเหนือ ติดกับ ซ.พหลโยธิน 34 ทิศใต้ ติดกับ หมู่บ้านซื่อตรงเสนา ทิศตะวันออก ติดกับ Low-Rise Condo และ ทิศตะวันตก ติดกับ อพาร์ทเม้นท์สูง 5 ชั้น
ตอนนี้เราอยู่ที่บริเวณหน้าทางเข้าโครงการค่ะ เดี๋ยวเราจะมาเดินสำรวจบริเวณรอบๆ โครงการกันก่อน จะได้รู้ว่ามีอะไรอยู่แถวนี้บ้าง
ฝั่งตรงข้ามกับตัวโครงการหลังรั้วสีขาวเป็นพื้นที่ของโกดังเก็บของ
มองไปทางฝั่งขวามือตรงไปตามซ.พหลโยธิน 34 จะเป็นซอยตัน
จากหน้าโครงการมองไปทางฝั่งซ้ายมือ ตามเส้นที่เราเพิ่งเดินทางเข้ามาเมื่อสักครู่
ติดกับตัวโครงการก็คืออพาร์ทเม้นท์สูง 5 ชั้นค่ะ
ใต้อพาร์ทเม้นท์มีขายอาหารตามสั่ง และผัดไทหอยทอด แค่เดินออกมาหน้าโครงการก็มีของกินนะ
ติดกับอพาร์ทเม้นท์เป็นพื้นที่ลานโล่งค่ะ ช่วงเย็นๆ จะเปิดเป็นตลาดนัด
เดินถัดไปอีกจะมีห้องแถวสูง 2 ชั้น ชั้นบนเป็นห้องเช่าส่วนชั้นล่างเปิดร้านขายของและขายอาหาร
ร้านแผงลอยขายผลไม้สดก็มีนะ
ฝั่งตรงข้ามมีร้านกาแฟค่ะ นอกจากขายกาแฟแล้วก็ยังขายอาหารทั้งคาวหวาน ตั้งแต่สเต็กจานร้อนยันวาฟเฟิลหอมอร่อย
เราเดินจนมาถึงทาง 3 แยกแล้วค่ะ เราจะเดินตรงไปตามซ.พหลโยธิน 34 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซ.เสนานิคม 1-11 อีกที ซอยทางขวาคือ ซ.ประเสริฐมนูกิจ 2 ที่ใช้ออกไปถ.ประเสริฐมนูกิจ ตรงออกไปเพียง 400 เมตรเท่านั้น
ตรงช่วงสามแยกเราจะเจอเซเว่นค่ะ เป็นแหล่งอาหารยามดึกของคนในซอยนี้
ตอนนี้เราเดินตรงไปตามซ.พหลโยธิน 34 กันอยู่นะคะ
ทั้งฝั่งซ้ายและขวาของซอยนี้เปิดเป็นร้านค้าตลอดทาง บางร้านก็ขายทั้งน้ำแข็งใส, น้ำเต้าหู้, ส้มตำ-ลาบ-น้ำตก-ต้มแซ่บ ก็มี ร้านบะหมี่เกี๊ยวข้าวหมูแดงหมูกรอบก็อยู่ถัดไปนี้เอง
ร้านขายข้าว, ร้านขายหมูปิ้ง-ปลาลวก, ร้านโชห่วย, ร้านขายยา และร้านขายก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมูน้ำใสก็มี
ร้านขายผลไม้สด, ขนมปี๊บ และร้านขายข้าวมันไก่
ตรงนี้ก็มีร้านขายยาอีก 1 ร้าน ข้างๆ กันเป็นร้านตัดผม
ฝั่งตรงข้ามมีร้านขายข้าวแกง, ร้านขายราดหน้า และ ร้านถ่ายเอกสาร-ปริ๊นงาน-ถ่ายรูป
เดินมาเจอทางสามแยกให้เราเลี้ยวซ้ายเข้า ซ.เสนานิคม 1-11 ค่ะ เพราะจากตรงนี้ไป ซ.พหลโยธิน 34 จะไม่ค่อยมีร้านค้าอะไรเท่าไหร่ยกเว้นพวกโครงการที่อยู่อาศัย ต้องตรงออกไปอีก 1 กม.จะมีทางเข้า รพ.เมโยบริเวณใกล้ๆ ปากซอยพอดี
ตอนนี้เราเดินเข้ามาในซ.เสนาฯ 1-11 แล้วค่ะ ในซอยนี้จะมีร้านค้าเปิดอยู่เยอะแยะมากมาย
ร้านขายของใช้ทั่วไปภายในบ้านก็มี พวกไม้กวาด, กะละมัง, ถัง, ที่โกยผง ซื้อตรงนี้ถูกกว่าในห้างเยอะ
ติดๆ กันมีร้านขายข้าวต้มหมู-ปลา, สุกี้, ผัดซีอิ๊ว, ราดหน้า หรือแกงจืดเต้าหู้ก็มีค่ะ ร้านข้างๆ ขายน้ำผลไม้ สามารถสั่งมานั่งกินคู่กันได้เลย
เดินไปเรื่อยๆ เราก็จะเจอร้านอาหารอยู่ตลอดทั้ง 2 ฝั่งของซอย นอกจากนี้ก็จะมีร้านบริการซักรีดและร้านนวดด้วยนะ
ใครชอบกินก๋วยเตี๋ยวเรือก็มีเหมือนกันนะ มาลองดู ร้านส้มตำก็มี อาหารตามสั่งก็มี เยอะแยะไปหมด มีให้เลือกทุกอย่างเลย
ผัดไทกุ้งสดก็ไม่ต้องไปกินถึงประตูผีค่ะ ตรงนี้ก็มีเหมือนกัน ฮ่าๆ ข้างๆ กันเป็นร้านตัดผมอีก 1 ร้าน
มีเซเว่นอีก 1 สาขา อยู่ห่างกันนิดเดียวเอง
เดินไปเรื่อยๆ เจอหมู่บ้านซื่อตรง เป็นโครงการทาวน์โฮมที่อยู่ติดกับพื้นที่ด้านหลังโครงการค่ะ
จากหมู่บ้านซื่อตรง เดินไปอีกหน่อยก็จะถึงหน้าปากซอย ออกสู่ ซ.พหลโยธิน 32
ซ.พหลโยธิน 32 จะเป็นซอยใหญ่ขนาด 4 เลนค่ะ ที่ซอยนี้ก็จะมีร้านค้าร้านอาหารเปิดอยู่บ้าง
มองไปทางฝั่งซ้ายมือ ซ.พหลโยธิน 32 จะตรงออกไปทางแยกวังหินเข้าสู่ ถ.ลาดพร้าววังหิน ตรงนี้เราจะเห็นปั๊ม Esso ถ้าใครขับรถก็สามารถออกมาเติมน้ำมันตรงนี้ได้เลย สะดวกดีค่ะ
ส่วนฝั่งขวา ซ.พหลโยธิน 32 จะตรงไปออก ถ.พหลโยธินใกล้ๆ กับตลาดบางเขน
:::: ตัวโครงการ ::::
โครงการ ดี มูระ พหลฯ-เกษตร เป็นคอนโดมิเนียม Low rise สูง 8 ชั้น จำนวน 1 อาคาร มีทั้งหมด 216 ยูนิต และ มี Black Box Social Club เป็นพื้นที่ส่วนกลาง มีพื้นที่มากกว่า 1,000 ตร.ม. สำหรับให้ลูกบ้านพบปะสังสรรค์ทำกิจกรรมร่วมกัน สูง 2 ชั้น อีก 1 อาคาร บนพื้นที่ 2 ไร่ ตัวโครงการเป็น Social Condominium การดีไซน์สไตล์โมเดิร์น ตัวอาคารใช้สีเทาเป็นหลัก และมีการใช้สีเหลืองสดตัดสร้างเส้นสายเพื่อให้เกิด Movement ดูมีชีวิตชีวา โดยตัวโครงการจะให้ความสำคัญกับส่วนกลางมากๆ เอาใจไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เพื่อให้มีพื้นที่รองรับกิจกรรมต่างๆ มากกว่าการอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยม และได้ออกมาเอ็นจอยสังคมข้างนอกมากขึ้นตามคอนเซ็ปต์ เรามาดูรายละเอียดตามผังโครงการกันเลยค่ะ
Site ของตัวโครงการจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยรอบจัดแลนสเคปเอาไว้สร้างความร่มรื่นน่าอยู่ ทางเข้า-ออกของตัวโครงการจะอยู่บน ซ.พหลโยธิน 34 โดยวนเข้าไปตามเข็มนาฬิกาเข้าส่วนลานจอดรถและวนกลับมาที่ทางเข้า-ออกเดิม
ชั้นที่ 1 เป็นพื้นที่จอดรถ มีทั้งที่จอดกลางแจ้งและที่จอดใต้อาคาร รวมทั้งหมด 104 คัน คิดเป็น 48% (รวมการจอดแบบซ้อนคัน) ถือว่าให้มาพอสมควรทีเดียวค่ะ เข้าไปภายในอาคารผ่าน Lobby เข้าสู่โถงลิฟท์ด้วยระบบ Access Card ภายในโถงลิฟท์จะมีลิฟท์โดยสารอยู่ 2 ตัว ตัวนึงใช้เป็นลิฟท์ขนของไปในตัว คิดอัตราส่วนลิฟท์ต่อห้องพักอาศัยเป็น 1 : 108 ซึ่งยังถือว่ารับได้เพราะเป็นอาคาร Low Rise ไม่ต้องรอลิฟท์นานนัก ส่วนพื้นที่อาคารที่เหลือจะเป็นห้องพักอาศัยอีก 6 ยูนิต โดยมีความพิเศษอยู่ตรงที่จะได้พื้นที่รอบสวนของโครงการเป็นเหมือนสวนหลังบ้านด้วยนะ
Facilities ของโครงการจะถูกแยกอาคารออกไป เพื่อความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวของห้องพักอาศัยทุกยูนิต เป็น Black Box Social Club สูง 2 ชั้น มีพื้นที่กว่า 1,000 ตร.ม. เน้นการ Share พื้นที่ร่วมกัน โดยชั้นที่ 1 จะเป็นส่วนของ Co-Working Space
ชั้นที่ 2 ในส่วนของตัวอาคารหลักจะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด โดยวางผังอาคารเป็นรูปตัว L จัดเรียงห้องแบบ Double Corridor โดยห้องมุมของอาคารจะเป็นห้องแบบ 2 Bedrooms มีจำนวนห้องพักอยู่ที่ 30 ห้องต่อชั้น ทำให้แต่ละชั้นมีผู้อยู่อาศัยไม่หนาแน่นจนเกินไป
ในส่วนของ Black Box Social Club ชั้นที่ 2 จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วนด้วยกัน นั่นก็คือ Entertainment Room, Open Pantry, Fitness และ Swimming Pool พร้อม Day Bed ในสระ
ชั้นที่ 3-8 อาคารหลักจะจัดวาง Typical แปลนไม่ต่างจากชั้นที่ 2 เลยค่ะ ส่วนชั้นดาดฟ้าของอาคาร Black Box Social Club จะเป็น Roof Garden เหมาะแก่การนั่งพักผ่อนในยามเย็น และมีลานเล่นโยคะให้อีกด้วย
:::: ROOM TYPE ::::
ห้องของโครงการจะขายแบบ Fully Fitted พร้อมเคาน์เตอร์ Built-in ในครัว, สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำครบ, เครื่องปรับอากาศ และ Digital Door Lock ห้องที่ขายแบบ Fully Furnished ก็มีเหมือนกันนะคะ ได้เฟอร์นิเจอร์มาครบ โดยแต่ละชิ้นจะสั่งทำพิเศษเพื่อให้พอดีกับพื้นที่ห้อง เน้นให้สามารถใช้งานและอยู่อาศัยได้จริง โดยจะแบ่งห้องของโครงการออกเป็น 2 แบบใหญ่ๆ คือ
1 Bedroom 25.03 – 32.77 ตร.ม.
2 Bedrooms 49.09 – 53.61 ตร.ม.
:::: บริเวณภายในโครงการ ::::
::: ทางเข้าโครงการ :::
เราได้ชมรายละเอียดของโครงการกันไปบ้างแล้ว คราวนี้เราจะพาท่านผู้อ่านไปชมบรรยากาศจริงของโครงการกันบ้างค่ะ เริ่มจากทางเข้าโครงการ ตัวซุ้มก็จะมาในสไตล์โมเดิร์นสีเทา ตัดด้วยสีเหลืองสดทำให้ดูสดใส
การเข้า-ออกตัวโครงการนั้นจะต้องผ่านระบบรักษาความปลอดภัย นั่นก็คือซุ้มทางเข้าโครงการ ประกอบด้วย ป้อมรปภ., ระบบ Access Card Control, รั้วไม้กระดก โดยลูกบ้านจะสามารถขับผ่านเข้าไปภายในโครงการได้เลย ส่วนผู้ที่เข้ามาติดต่อจะต้องให้เจ้าหน้าที่ทำการแลกบัตรและตรวจเช็คความปลอดภัยอีกที และมี CCTV ช่วยจับภาพเพิ่มความปลอดภัยให้อีกชั้น
ทางฝั่งซ้ายข้างป้อมรปภ.จะมีทางเท้ายกระดับแยกขึ้นมาจากพื้นถนน ลูกบ้านสามารถเดินเข้าโครงการได้อย่างปลอดภัย
CCTV และระบบ Access Card Control
มองย้อนกลับไปที่ซุ้มทางเข้าโครงการ
::: บริเวณภายในโครงการ :::
พอผ่านซุ้มทางเข้าโครงการเข้ามาแล้วก็จะเป็นทางบังคับให้เลี้ยวซ้ายวนเข้าไปภายในส่วนของที่จอดรถใต้อาคาร
เลี้ยวซ้ายตามลูกศรเข้าไปที่จอดรถใต้อาคารตรงนี้ค่ะ
เข้าไปภายในที่จอดรถ จะสามารถจอดรถได้ทั้ง 2 ฝั่ง รวมที่จอดรถทั้งโครงการแล้วได้ถึง 104 คัน (รวมจอดซ้อนคัน) คิดเป็น 48%
วนออกมาจากที่จอดรถใต้อาคาร
ข้างๆ จะเห็นประตูทางเข้าอาคารหลัก เป็นประตูบานเปิดคู่กระจกสีดำ
Lobby, Lift Hall and Mailbox
เปิดประตูเข้าไปด้านในเป็นห้อง Lobby มีโซฟาอยู่ชุดนึงให้นั่งพักคอยได้ และมีเคาน์เตอร์ Reception คอยดูแลความปลอดภัยอีกชั้นค่ะ
ฝั่งขวามือของห้องเราจะเห็นประตูทางเข้าโถงลิฟท์
โดยการผ่านเข้า-ออกโถงลิฟท์ก็จะต้องใช้ Key Card ด้วยนะ เพื่อความปลอดภัยอีกชั้น
เข้ามาภายในโถงลิฟท์ ฝั่งซ้ายมือจะเป็นประตูลิฟท์ ฝั่งขวาคือ Mailbox ส่วนประตูตรงกลางคือประตูเข้าสู่ส่วนพักอาศัยชั้น 1 ค่ะ ซึ่งจุดนั้นก็จะต้องใช้ Key Card ในการผ่านเข้าด้วยเช่นกัน
Mailbox ค่ะ
ลิฟท์โดยสารจะมีให้ 2 ตัว ทางโครงการใช้ลิฟท์ของ Kone รองรับได้ 10 คนต่อเที่ยว และใช้ระบบล็อคชั้น โดยใช้ Key Card สำหรับการกดเลือกชั้นที่ลูกบ้านอยู่อาศัยได้เท่านั้น เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านทุกคน
ขึ้นมาที่โถงลิฟท์ชั้นที่ 2-8 จะตกแต่งแบบเบาๆ เรียบๆ เพื่อปรับอารมณ์เข้าสู่พื้นที่อยู่อาศัย
ภายในโถงทางเดินของอาคารแต่ละฝั่งก็จะมีช่องแสงให้แบบนี้ค่ะ ตัวโถงทางเดินถือว่ากว้างกำลังดี ประมาณ 1.4 เมตร ไม่ทำให้รู้สึกว่าถูกบีบอัด
ช่วงกลางโถงจะมีบันไดหนีไฟ ประตูหนีไฟจะสามารถเปิดเข้าได้อย่างเดียวแล้วลงตรงสู่ชั้น 1 เลย ไม่สามารถใช้เดินไปชั้นอื่นๆ ได้ค่ะ
ภายในโถงบันไดหนีไฟค่ะ มีช่องแสงให้ตามมาตรฐาน
Main Facilities
ตอนนี้เราลงมาที่ชั้นล่าง มาดูส่วนของ Black Box Social Club ขนาดกว่า 1,000 ตร.ม. เป็นอาคารสูง 2 ชั้น และมีดาดฟ้าลอย ที่ทางโครงการได้จัดสรรมาให้กันต่อค่ะ ภายในมี Facility แบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น Lobby, Co-Working Space, Entertainment Room บนชั้น 2, Open Pantry, Fitness ที่มีอุปกรณ์ครับครัน, Swimming Pool ระบบเกลือ, Free Wi-fi, Roof Garden และ Yoga Space เปิดให้บริการถึงเที่ยงคืน เพื่อให้ลูกบ้านได้มีพื้นที่สำหรับพักผ่อน หรือการพบปะสังสรรค์ และรู้จักกับเพื่อนใหม่ ได้แบ่งปันประสบการณ์กัน สามารถใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้ทุกวัน โดยที่ไม่จำเป็นต้องนัดออกไปข้างนอก หรือนั่งอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมเสมอไป
ถ้าเราหันหน้าเข้าหาตัว Black Box Social Club ทางฝั่งขวามือ (ฝั่งหน้าโครงการ) เราจะเห็นรถสามล้อและจักรยานจอดอยู่
รถสามล้อคันนี้ก็เป็น Shuttle Service ของโครงการค่ะ จะใช้ขับไปส่งถึงฝั่งตรงข้าม ม.เกษตร เลย ซึ่งในอนาคตจะมีสถานีเสนานิคม เป็นสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยทางขึ้นสถานีจะอยู่บริเวณหน้าปากซอยพอดี
อีกด้านนึงเป็น Bike Sharing สำหรับลูกบ้านให้ปั่นออกไปร้านสะดวกซื้อ, ตลาด หรือบริเวณใกล้เคียงกับตัวโครงการ
ส่วนที่ฝั่งซ้ายของ Black Box Social Club จะมีมุมสวนเล็กๆ พร้อมชุดมานั่งหินจัดเอาไว้ให้สำหรับนั่งเล่น หรือมานั่งสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนๆ
ด้านข้างของรั้วโครงการทำเป็น Vertical Garden แบบง่ายๆ ช่วยสร้างพื้นที่สีเขียวให้กับโครงการ
ส่วนพื้นที่ด้านหลังอาคารจะเข้าสู่พื้นที่สวนหลังยูนิตชั้นล่างทั้ง 6 ยูนิต ตรงนี้จะมีรั้วกั้นเอาไว้อยู่ ไม่ให้เดินผ่านเข้า-ออกได้นะ เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านชั้นล่างค่ะ แถมยังมีกล้อง CCTV ด้านหลังเพื่อความปลอดภัยด้วยนะ
Black Box Social Club
คราวนี้เราเข้าไปดูในส่วนของ Black Box Social Club กันบ้าง เป็นอาคารสูง 2 ชั้น เน้นฟังก์ชั่นการใช้งานอยู่ที่ชั้น 2 เพื่อความเป็นส่วนตัว โดยจะใช้ผนังกระจกทั้งแผงเพื่อความโปร่งโล่ง
เราเข้าไปดูภายในอาคารด้วยกันเลยค่ะ ประตูทางเข้า-ออกจะอยู่ทางฝั่งขวาของอาคาร
โดยการเข้า-ออกนั้นจะต้องใช้ Key Card ด้วยเช่นกัน
เข้ามาภายในอาคาร จุดแรกออกแบบให้เป็นพื้นที่ที่มีฝ้าสูงแบบ Double Volume ดูโปร่งโล่งและโอ่โถง ภายในโชว์โครงสร้างเหล็ก, ผนังคอนกรีต และพื้นลายไม้ ทำให้ดูดิบๆ ออกแนว Loft หน่อยๆ
ที่ชั้น 1 จะเป็นฟังก์ชั่น Co-Working Space Space พื้นที่ดูกว้าง สบายตา แถมมีชุดโต๊ะ-เก้าอี้ และโซฟารองรับการใช้งานได้พอสมควร
โดยการจัดโต๊ะนั้น จะรองรับทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยว ใครที่มาติวหนังสือหรือทำงานกับแก๊งเพื่อน ก็เลือกโต๊ะเดี่ยวแบบ 6 ที่นั่งไปเลย ใช้คุยงานสะดวก
ส่วนใครที่มาแบบเดี่ยวๆ ก็มีมุมโต๊ะที่เป็นส่วนตัวสำหรับการนั่งทำงานคนเดียวรองรับเอาไว้ให้ด้วยค่ะ
ปัจจุบันพื้นที่ Co-Working Space ถูกใช้เป็นสำนักงานขายไปในตัวด้วย ใครสนใจอยากดูห้องตัวอย่างก็จะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายคอยให้ข้อมูลและพาชมโครงการอยู่ที่เคาน์เตอร์ตรงนี้เลย
ด้านหลังฝั่งขวาจะมีตู้ล็อกเกอร์อยู่ค่ะ จะเปิดให้บริการเช่าตู้ล็อกเกอร์เร็วๆ นี้
เราขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กันต่อ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 โซนด้วยกัน ทั้ง Entertainment Room, Open Pantry, Fitness และ Swimming Pool โดยออกแบบให้ส่วนของ Entertainment Room และ Open Pantry เชื่อมต่ออยู่ในห้องเดียวกัน
ในส่วนของ Entertainment Room ก็จะแบ่งย่อยอีกเป็น 2 โซนค่ะ คือโซน Living และ โซน Pool Table
ในส่วนของโซน Living จะจัดชุดโซฟาและเก้าอี้เอาไว้ให้หลายชุด โดยจะมีชั้นทีวีอยู่ตรงกลางสำหรับดูหนัง, ดูบอล หรือเล่นเกมส์ X-Box ร่วมกัน
ถัดมาโซนที่ 2 คือโซน Pool Table ซึ่งก็จะเป็นอีกมุมสำหรับการเข้าสังคม
มองผ่าน Pool Table ไปด้านหลังเป็นส่วนของ Open Pantry ใช้ Partition เป็นชั้นวางของแบบโปร่งกั้นส่วนออกไป
ในส่วนของ Open Pantry จะเป็นพื้นที่ที่สามารถนำอาหารมากินสังสรรค์กันแก๊งเพื่อนได้ โดยจะมี Pantry ให้เป็นพื้นที่เตรียมอาหาร แต่ไม่ได้มีเตาปรุงอาหารมาให้ทำอาหารแบบจริงจัง ประมาณว่าสั่งอาหาร Delivery เข้ามากินด้วยกัน กินเสร็จก็พอจะเก็บล้างได้
จากบริเวณ Open Pantry จะมีประตูเปิดออกไปสู่ส่วนของ Fitness และ Swimming Pool ค่ะ
เปิดไปประตูออกไปเราจะเจอโถงทางเดินแบบนี้ ประตูฝั่งซ้ายมือส่วนปลายโถงคือ Fitness เดินตรงออกไปจากโถงคือ Swimming Pool ส่วนประตูฝั่งขวามือคือห้องน้ำแยกชายหญิง และ Laundry
เราเข้าไปดูภายในห้องน้ำกันก่อน
ภายในห้องน้ำจะมีอ่างล้างมือให้ 1 อ่าง และกั้นส่วนของสุขาออกไปต่างหาก
ภายในห้องสุขาค่ะ
ภายในส่วน Laundry จัดเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญเอาไว้ให้ 2 ตัว
คราวนี้เราเข้าไปดูในส่วนของ Fitness กันต่อ
ภายในจัดเครื่องออกกำลังกายเอาไว้ให้เต็มพื้นที่ห้องเลยค่ะ มีทั้งเครื่องแบบ Cardio และ Weight Training
ฝั่งผนังกระจกหลักๆ จะวางเครื่องเล่นแบบ Cardio มีทั้ง ลู่วิ่งไฟฟ้า, เครื่องเดินวงรี และ จักรยานไฟฟ้า
ถัดเข้าไปมีม้านั่งราบ จัดเอาไว้ให้คู่กับชุดยกน้ำหนัก
ส่วนอีกฝั่งจัดเครื่องเล่นกล้ามเนื้อชุดใหญ่ สามารถใช้เล่นกล้ามได้ครบทุกสัดส่วน
โดยเครื่องเล่นแบบ Weight Training และชุดยกน้ำหนักจะจัดเอาไว้ให้อยู่ติดกับผนังกระจกเงาด้านใน สำหรับเช็คท่าในการเล่นให้ถูกต้อง
มุมมองภายใน Fitness ออกไปยังฝั่งอาคารหลัก
คราวนี้เราออกจากโถงทางเดินมาที่ Swimming Pool กันต่อ
บริเวณสระจะมี Shower สำหรับล้างตัวก่อนลงสระให้
มองกลับไป มีจัดชุดโต๊ะ-เก้าอี้หวายให้สำหรับนั่งพักผ่อน
ส่วนสระว่ายน้ำมีขนาด 5 x 15 เมตร และลึก 1.2 เมตร เป็นสระน้ำล้นระบบเกลือ ว่ายน้ำแล้วผมกับผิวไม่เสียค่ะ ฝั่งขวาของสระกดลงไปประมาณ 10 ซม. วาง Daybed ให้ 4 ตัวสำหรับนอนอาบแดด หรือพักผ่อนยามเย็น
ส่วนบันไดจะออกแบบให้อยู่ภายในสระเลย เพื่อให้ดูเรียบร้อยสวยงาม
จากบริเวณ Day Bed มองไปทางฝั่งอาคารหลัก
จากบริเวณปลายสระมองย้อนกลับเข้าไปที่ภายในอาคาร
คราวนี้เราขึ้นไปดูที่ชั้นดาดฟ้ากันต่อค่ะ
ชั้นดาดฟ้าจัดเอาไว้ให้เป็นพื้นที่ Roof Garden และ Yoga Space
พื้นที่บางส่วนสร้างหลังคาคลุมเอาไว้ให้กันแดด ในช่วงเย็นๆ ที่แดดเริ่มหมดจะเหมาะแก่การขึ้นมาพักผ่อนค่ะ
หันกลับมาทางฝั่งบันไดที่เราเดินขึ้นมาเมื่อสักครู่ เป็นส่วนที่ทำหลังคาคลุมเอาไว้ให้อีกจุด
:::: ห้องตัวอย่าง ::::
วันนี้เราจะพาไปชมห้องตัวอย่างทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน ลำดับเป็น ห้อง 2 Bedrooms ขนาด 49.09 ตร.ม. และ ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 30.93 ตร.ม.
โดยทางโครงการขายห้องแบบ Fully Fitted พร้อมเคาน์เตอร์ Built-in ในครัว, สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำครบ, เครื่องปรับอากาศ และ Digital Door Lock และขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์มาครบ โดยแต่ละชิ้นจะสั่งทำพิเศษเพื่อให้พอดีกับพื้นที่ห้อง เน้นให้สามารถใช้งานและอยู่อาศัยได้จริง มาดูรายละเอียดแบบเจาะลึกของห้องกันเลยค่ะ
แบบห้อง 2 Bedrooms ขนาด 49.09 ตร.ม.
เริ่มต้นที่ห้อง 2 Bedrooms ขนาด 49.09 ตร.ม. ขนาดของห้องนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 2-3 คน เป็นห้องที่มีความกว้างและความลึกพอๆ กัน ภายในจะจัดห้องนั่งเล่นและห้องทานอาหารอยู่รวมกันในโถง Living Area และกั้นส่วนของห้องครัวและห้องนอนออกไปอย่างเป็นสัดส่วน เนื่องจากเป็นห้องมุมอาคารจึงได้ช่องแสงมาทั้ง 2 ฝั่ง ทุกๆ ห้องจึงได้แสงสว่างอย่างเพียงพอค่ะ
ห้องนี้ขายแบบ Fully Fitted เราจะได้ ชุดครัว, สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ และเครื่องปรับอากาศ 3 เครื่อง (ภายในห้องโถงใหญ่ และภายในห้องนอนทั้ง 2 ห้อง) พร้อม Voucher จาก Index ไปชมห้องด้วยกันเลย
มาถึงประตูทางเข้าห้องแล้วค่ะ ประตูจะเป็นบาน HDF ด้านข้างติดเลขที่ห้องเอาไว้ให้
ส่วนมือจับประตูเป็นแบบก้านโยก ติด Digital Door Lock มาให้เรียบร้อยค่ะ
พื้นห้องปูด้วยไม้ลามิเนตหนา 8 มม.ทั้งหมด
เข้ามาในห้องจะเจอส่วนของ Living Area เป็นส่วนทานอาหารและส่วนรับแขก ทางฝั่งซ้ายมือคือประตูห้องนอนทั้ง 2 ห้อง และทางฝั่งขวามือคือโถงห้องครัวและห้องน้ำ ส่วนผนังห้องจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสีนะ โดยห้องตัวอย่างนี้ถูกตกแต่งด้วยธีม Forest ดูกรีนๆ อยู่สบาย หากใครชอบการแต่งห้องสไตล์นี้ ก็สามารถขอให้ทางโครงการประสานงานกับ Designer แต่งห้องแนวนี้ให้ได้นะคะ
ฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบสูง 2.5 เมตร ติดดวงโคมดาวน์ไลท์มาให้ นอกจากนี้ก็จะติด Smoke Detector มาให้เรียบร้อย
บริเวณพื้นที่ส่วนหน้าห้องฝั่งนึงจัดเป็นพื้นที่ทานอาหาร ส่วนอีกฝั่งจะยังเหลือ สามารถวางชั้นวางของ, วางกุญแจห้อง-กุญแจรถ หรือเราจะทำชั้น Built-in เพื่อเก็บของและเก็บรองเท้าเพิ่มเติมก็ได้
บริเวณเหนือประตูติด Load Center มาให้ค่ะ ใช้ของ Hugo
มาดูการจัดการพื้นที่ภายในห้องกันต่อ พื้นที่ระหว่างประตูทางเข้าและประตูห้องนอนจัดเป็นโต๊ะทานข้าว ขนาดโต๊ะ 4 ที่นั่งก็วางได้สบายๆ
ระยะนั่งก็ยังพอได้อยู่ค่ะ ไม่อึดอัดจนเกินไป
ถัดเข้าไปในส่วนของห้องนั่งเล่น
จะสามารถวางโซฟาเบดได้สบายๆ เลยค่ะ
ผนังฝั่งตรงข้ามสามารถทำเป็นชั้นวางทีวีแบบ Built-in และชั้นวางของได้ ระยะดูทีวีของห้องนี้ก็ราวๆ 2.5 เมตรได้เลยนะ ระยะนี้เหมาะสำหรับทีวีจอขนาด 50-60 นิ้วเลยค่ะ
จากบริเวณห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อสู่ระเบียงห้อง ผ่านประตูบานเลื่อนคู่กรอบอลูมิเนียมสีดำติดกระจกเขียวตัดแสง
มือจับประตูแบบเซาะร่องมาตรฐานตามภาพ
พื้นระเบียงจะลดระดับจากพื้นห้องเล็กน้อยเพื่อกันน้ำไหลย้อนเข้าห้อง ปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม. ติดลูกกรงเหล็กกันตก พื้นระเบียงกว้าง 0.9 เมตร พอเอาเก้าอี้ออกมาตั้งนั่งเล่นได้ และตากผ้าได้สะดวกอยู่
ระเบียงจะยาวเกือบเต็มหน้าห้องเลยค่ะ ใช้แขวนคอยล์แอร์ด้วยเลย
ระหว่างห้องนั่งเล่นและชั้นวางของ จะมีโถงทางเดินเข้าไปสู่ห้องครัวและห้องน้ำ
ฝั่งซ้ายคือประตูห้องครัว และฝั่งขวาคือประตูห้องน้ำ บริเวณปลายโถงเราสามารถทำเป็นตู้เก็บของได้อีกส่วนเลยนะ
เราจะเข้าไปดูในห้องครัวกันก่อนค่ะ กั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจกแบบนี้
พื้นปูด้วยลามิเนต เชื่อมต่อจากห้องโถงเข้าไป
เข้าไปภายในห้องครัวจะมีหน้าต่างบานกระทุ้งเป็นช่องแสงให้ 1 บาน เท่าที่เห็นก็ถือว่าสว่างเพียงพอเลยนะ เพราะพื้นที่ห้องครัวก็ไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก
ขนาดห้องก็พอจะยืนปรุงอาหารได้สะดวกอยู่
ในส่วนของเคาน์เตอร์ครัวที่ได้มากับตัวห้องก็จะมีหน้าตาแบบนี้ค่ะ เว้นพื้นที่ด้านข้างเอาไว้ให้สำหรับวางตู้เย็น ใต้เคาน์เตอร์มีช่องเก็บของให้หลายช่อง พอสำหรับช้อน-ส้อม, จาน-ชาม และ ไมโครเวฟ
ส่วนบนเคาน์เตอร์จะได้มาเฉพาะอ่างล้างจาน ไม่ได้ Hob&Hood ด้วย แต่เราสามารถเปิดหน้าต่างข้างๆ เพื่อระบายอากาศ หรือ จะปิดประตูกันกลิ่นเข้าห้องก็ได้นะ
ขนาดของอ่างล้างจานใหญ่ทีเดียว สามารถใช้งานได้สะดวก
ส่วนก๊อกก็เป็นทรงสูง สามารถหมุนปรับซ้าย-ขวาได้ ชุดนี้ใช้ของ American Standard นะ
ส่วนชั้นลอยก็มีช่องให้สำหรับเก็บของอีกหลายช่องค่ะ
เราเข้าไปดูห้องน้ำกันต่อ ประตูห้องน้ำเป็นบานสำเร็จรูป
มือจับใช้แบบลูกบิดสแตนเลส
พื้นห้องน้ำทำลดระดับจากพื้นห้องเล็กน้อยค่ะ ปูด้วยกระเบื้องขนาด 60 x 60 ซม.
ส่วนผนังกรุด้วยกระเบื้องขนาดเท่ากัน จัดวางสุขภัณฑ์จากส่วนแห้งเรียงเข้าไปยังส่วนเปียก โดยสุขภัณฑ์และ Accessories ภายในห้องน้ำจะใช้ของ American Standard ทั้งหมด
ฝ้าเพดานภายในห้องน้ำเป็นฝ้าฉาบเรียบกันชื้นพร้อมติดดวงโคมดาวน์ไลท์และพัดลมดูดอากาศมาให้เรียบร้อย
มาดูที่สุขภัณฑ์กันบ้าง อ่างล้างมือเป็นแบบแขวนผนัง ติดตั้งมาพร้อมกับก๊อกน้ำและกระจกเงา
ขนาดอ่างกำลังดีค่ะ ขอบอ่างสามารถวางของใช้ได้อยู่บ้าง
ก๊อกน้ำแบบมาตรฐาน รุ่นจับใช้งานสะดวก
ถัดเข้าไปเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้น ระบบ Dual Flush ติดตั้งมาพร้อมกับ Accessories ประกอบ ระยะนั่งกำลังพอดีๆ ไม่แคบจนเกินไป เหนือโถเจาะช่องผนังสามารถวางพวกขวดสบู่และของตกแต่งในห้องน้ำได้
สายฉีดชำระ และที่ใส่แกนกระดาษชำระค่ะ
ด้านในสุดเป็นส่วนของโซนอาบน้ำ โดยทางโครงการจะติดฉากกั้นอาบน้ำเป็นกระจกนิรภัยมาให้แบบนี้ ประตูเปิดโดยการผลักเข้านะ
มือจับประตูมีขนาดใหญ่ ภายนอกสามารถใช้เป็นราวแขวนผ้าเช็ดตัวได้
ข้างๆ โซนอาบน้ำก็จะมีราวแขวนผ้าเช็ดตัวติดไว้ให้ต่างหากอีกด้วย
พื้นที่ยืนอาบน้ำภายในก็กำลังพอเหมาะ มีการทำขอบธรณีขึ้นมาเพื่อกันน้ำไหลย้อนให้
ภายในติดตั้งฝักบัวอาบน้ำแบบสายอ่อนพร้อมราวปรับระดับมาให้ จะเห็นว่าเหนือหัวฝักบัวมีแผ่นเหล็กอยู่ จุดนั้นคืองานระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นค่ะ ข้างๆ เจาะผนังเข้าไปทำเป็นชั้นวางสบู่ให้เรียบร้อย
เราเทียบขนาดหัวฝักบัวกับขนาดมือให้ดูค่ะ เห็นว่าหัวฝักบัวมีขนาดใหญ่ดี หัวสามารถปรับระดับของสายน้ำได้
มองจากฝั่งโถงห้องครัวและห้องน้ำไปที่อีกฝั่ง เราจะเข้าไปดูห้องนอนอีก 2 ห้องกันต่อ โดยเริ่มจากฝั่งซ้ายคือห้องนอนเล็ก ตามด้วยฝั่งขวาคือห้องนอนใหญ่
ประตูห้องนอนก็จะใช้บานสำเร็จรูป มือจับลูกบิดสแตนเลสเช่นกัน
พื้นภายในห้องปูด้วยลามิเนตเชื่อมต่อมาจากห้องโถงใหญ่ และติดธรณีประตูให้เรียบร้อย
ทางห้องตัวอย่างได้จัดห้องนี้ให้เป็นห้องนอนอีกห้อง ซึ่งขนาดของห้องก็พอจะวางเฟอร์นิเจอร์หลักๆ ได้ครบ แต่จริงๆ แล้วห้องนี้ก็เหมือนห้องอเนกประสงค์ค่ะ จะจัดเป็นห้องทำงาน, ห้องอ่านหนังสือ หรือห้องพักผ่อนก็ได้หมด
จะเห็นว่าภายในห้องค่อนข้างสว่าง เพราะมีช่องแสงขนาดใหญ่มาให้ เป็นหน้าต่างบาน Fixed และหน้าต่างบานเปิด กรอบอลูมิเนียมสีดำ ติดกระจกเขียวตัดแสง
มือจับหน้าต่างบานเปิดค่ะ
เตียงที่จัดมาให้ดูเป็นเตียง Single Bed ขนาดกำลังพอดีกับตัวห้อง ยังเหลือพื้นที่ด้านซ้ายและขวาสามารถเดินผ่านและทำเตียงได้สะดวก
ทางด้านซ้ายมือวางตู้เสื้อผ้าได้ 1 ตู้ แต่แนะนำให้ใช้ตู้แบบบานเลื่อน จะช่วยประหยัดพื้นที่ได้ดีกว่า
พื้นที่ปลายเตียงก็เหลือกว้างพอเดินผ่านได้ แต่ไม่แนะนำให้วางชั้นวางหรือชั้นวางทีวีเพิ่มแล้วเพราะพื้นที่ทางเดินจะแคบไป ถ้าอยากติดทีวีแนะนำให้ใช้ทีวีแบบแขวนผนังแทนค่ะ
ภาพมุมมองจากฝั่งหน้าต่างในห้อง
เราเข้ามาดูห้องนอนใหญ่กันต่อค่ะ ภายในห้องนอนมีขนาดกำลังดี พอดีกับเตียงขนาด 5 ฟุต และตู้เสื้อผ้าที่เตรียมเอาไว้ให้เป็นไอเดีย
ขนาดช่องแสงของห้องมีขนาดใหญ่ เป็นบานหน้าต่างบานเปิดและบาน Fixed เข้ามุม
พื้นที่ห้องจะวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้พอดีๆ เหลือพื้นที่ทั้งฝั่งซ้ายละขวาสามารถวางโต๊ะข้างเพิ่มได้
ฝั่งปลายเตียงเหลืออยู่พอสมควร สามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้เลย
ระยะยังพอเหลือยืนแต่งตัวได้สะดวกค่ะ แต่แนะนำตู้แบบบานเลื่อนจะช่วยประหยัดพื้นที่ได้ดีกว่า
นอกจากนี้ สวิตช์และปลั๊กไฟภายในห้องจะใช้ของ Panasonic ทั้งหมด
แบบห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 30.93 ตร.ม.
มาดูห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 30.93 ตร.ม. กันต่อ ขนาดของห้องนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ถึง 4 คน เป็นห้องที่มีหน้ากว้าง 5 เมตร ลักษณะคล้ายๆ ห้อง Studio แต่กั้นส่วนห้องนอนออกจากนั่งเล่น และห้องครัว ห้องนั่งเล่นจะต้องอาศัยแสงธรรมชาติผ่านทางห้องนอนเพราะไม่มีหน้าต่าง
ห้องนี้ขายแบบ Fully Furnished เราจะได้เฟอร์นิเจอร์มาครบจาก Do more Living โดยจะสั่งทำเฟอร์นิเจอร์มาให้เป็นพิเศษเพื่อให้พอดีกับขนาดห้อง และเครื่องปรับอากาศ 2 เครื่อง (ภายในห้องโถงใหญ่ และภายในห้องนอน) แต่ถ้าไม่อยากได้เฟอร์นิเจอร์ก็สามารถใช้เปลี่ยนเป็นส่วนลดแทนได้ค่ะ เราไปชมห้องด้วยกันเลย
ประตูทางเข้าเป็นบาน HDF ด้านข้างติดเลขที่ห้องเอาไว้ให้ ติด Digital Door Lock มาให้เรียบร้อย
เข้ามาในห้องจะเจอส่วนของ Living Area พื้นห้องปูด้วยไม้ลามิเนตหนา 8 มม.ทั้งหมด ผนังห้องจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสี ฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบสูง 2.5 เมตร ติดดวงโคมดาวน์ไลท์มาให้ นอกจากนี้ก็จะติด Smoke Detector มาให้เรียบร้อย
มาดูเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มากับตัวห้องกันค่ะ จะเห็นว่าทางฝั่งซ้ายวางโซฟารับแขกขนาด 2 ที่นั่ง ส่วนทั้งผนังด้านหลังทำเป็นชั้น Built-in ทั้งหมด โดยจุดนี้เองที่มีความพิเศษ
นอกจากชั้น Built-in ส่วนนี้จะสามารถใช้เก็บของได้เยอะแล้ว ยังมีลูกเล่นสามารถดึงผนังออกมาเป็นเตียงนอนขนาด Queen Size ได้ด้วย ทำให้ห้องนอน 1 Bedroom ธรรมดาๆ กลายเป็นห้องที่สามารถรองรับได้ถึง 4 คนในเวลาเดียวกัน โดยสามารถดึงเตียงลงมาและพับเก็บขึ้นไปได้ง่าย เพราะทำ Support มาดีจึงมีน้ำหนักเบา ผู้หญิงก็สามารถทำเองคนเดียวได้ค่ะ โดยบานเปิดของเฟอร์นิเจอร์จะใช้แบบ Soft Closed ทั้งหมด
พอกางเตียงนอนลงมาก็จะเหลือพื้นที่โดยรอบห้องอยู่พอสมควร ไม่รู้สึกว่าอึดอัด
พื้นที่ปลายเตียงก็ยังเหลือสามารถเดินผ่านได้สะดวก
ที่ฝั่งขวาของชั้น Built-in สามารถเปิดออกมาเป็นโต๊ะอเนกประสงค์ ได้ด้วย
ทางโครงการได้ออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่ถือว่า Flexible มากๆ เพื่อทำให้ห้องขนาดเล็กสามารถใช้พื้นที่ของห้องได้เกิดประโยชน์สูงสุด พอพับเตียงเก็บกลับขึ้นไปเราก็จะได้พื้นที่ห้องโล่งๆ กลับมาค่ะ
ฝั่งชั้นวางทีวีก็จะทำ Built-in ให้แบบนี้
สามารถเก็บของได้อยู่บ้างไม่ว่าจะเป็นแผ่นเกมส์, แผ่นดีวีดี หรือของเครื่องใช้อื่นๆ
คราวนี้เราเข้าไปดูในห้องนอนกันต่อ ห้องจะกั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอนค่ะ ช่วยให้สามารถเปิดประตูได้กว้างมากขึ้น เชื่อมต่อพื้นที่ห้องให้ดูโปร่งโล่งกว่าเดิม
ภายในห้องนอนมีขนาดกระทัดรัด สามารถวางเฟอร์นิเจอร์หลักๆ พร้อมเตียง Queen Size ได้ลงตัวพอดี
บริเวณหัวเตียงทำชั้น Built-in เพื่อวางของ และทำโต๊ะข้างพร้อมลิ้นชักเก็บของ
โต๊ะข้างและลิ้นชักเก็บของทำมาให้ทั้ง 2 ฝั่งของเตียง
ในส่วนของฝั่งปลายเตียงก็สามารถวางตู้เสื้อผ้า และชั้นวางทีวี หรือจะวางโต๊ะเครื่องแป้งแทนก็ได้ค่ะ
พื้นที่ปลายเตียงก็จะเหลือพอเดินผ่านได้แบบนี้
ชั้นวางทีวี Built-in มาให้แบบนี้
ตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อนเปิด ช่วยประหยัดพื้นที่ ภายในมีทั้งราวแขวนเสื้อผ้า, ชั้นวางของ และลิ้นชัก รวมถึงพื้นที่เก็บของเหนือหัว
มือจับประตูบานเลื่อนค่ะ
ห้องนี้ก็จะได้ช่องแสงขนาดใหญ่มา เป็นบาน Fixed และบานเปิดอีก 2 บาน
เข้าไปดูห้องครัวกันต่อ จะถูกกั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อน
ภายในห้องครัวมีขนาดเท่าๆ กับห้อง 2 Bedrooms เลยค่ะ เคาน์เตอร์ครัวก็ได้มาแบบเดียวกัน โดยจะเว้นพื้นที่สำหรับตู้เย็นเอาไว้ให้
จากห้องครัวจะเชื่อมต่อไปยังระเบียงห้อง ด้วยประตูบานเลื่อนเปิด 3 ตอนแบบนี้
พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม.เหมือนเดิมค่ะ ขนาดพื้นที่พอจะวางเครื่องซักผ้าได้ 1 ตัวและแขวนคอยล์แอร์พอดี
มองจากระเบียงห้องลงไปเห็น Black Box Social Club พอดี
หันกลับเข้ามาภายในห้องครัว จะเชื่อมสู่ห้องน้ำด้วยเช่นกันค่ะ
ทั้งวัสดุและสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจะเหมือนกับห้อง 2 Bedrooms เมื่อสักครู่ทุกประการ
:::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (กุมภาพันธ์ 2561) ::::
วัสดุโดยรวม
พื้นห้อง : ลามิเนตหนา 8 มม.
พื้นห้องน้ำ : กระเบื้องเซรามิก ขนาด 60 x 60 ซม.
พื้นระเบียง : กระเบื้องเซรามิก ขนาด 30 x 30 ซม.
ผนังภายใน : ผนังฉาบเรียบทาสี
ผนังห้องน้ำ : กระเบื้องเซรามิก ขนาด 60 x 60 ซม.
ประตูทางเข้าห้อง : ประตูบานเปิดสำเร็จรูป มือจับแบบก้านโยก พร้อม Digital Door Lock
ประตูภายใน : ประตูบานสำเร็จรูป มือจับลูกบิดสแตนเลส
หน้าต่างภายนอก : บานเปิดและบาน Fixed อลูมิเนียมกระจกเขียวตัดแสง
ห้องน้ำ และสุขาภิบาล
สุขภัณฑ์ และ Accessories : American standard
งานไฟฟ้า
ตู้ Load Center, สวิตช์ และปลั๊กไฟ : Panasonic และ Hugo
ดวงโคมทั่วไป : ดวงโคมดาวน์ไลท์
ดวงโคมในห้องน้ำ : ดวงโคมดาวน์ไลท์
ไฟภายนอก : ดวงโคมดาวน์ไลท์
***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ
:::: ราคา (กุมภาพันธ์ 2561) ::::
ราคาเริ่มต้นที่ 2.29 ล้านบาท
เงินจอง 10,000 บาท
ค่ากองทุน 350 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง ตร.วาละ 35 บาท/เดือน
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ ตัวโครงการตั้งอยู่ในซ.พหลโยธิน 34 หรือซ.ประเสริฐมนูธรรม 2 ในย่านเกษตร เป็นบริเวณที่มีทางลัดเลาะออกไปยังถนนหลักอื่นๆ ได้หลายเส้น มีสภาพแวดล้อมที่คึกคักสูงเต็มไปด้วยแหล่งสาธารณูปโภคและแหล่งความอุดมสมบูรณ์ต่างๆ เพราะเป็นย่านที่อยู่อาศัย มีที่อยู่อาศัยทั้งแบบแนวราบและแนวดิ่งปะปนกันไป และยังอยู่ใกล้กับสถานศึกษา อย่างม.เกษตรศาสตร์, หน่วยงานราชการอีกด้วย
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว จากทำเลที่ตั้งโครงการถือว่าสามารถเดินทางได้สะดวก สามารถวิ่งทะลุถนนใหญ่ได้หลายเส้น ทั้ง ถ.พหลโยธิน, ถ.ลาดพร้าว, ถ.ลาดพร้าววังหิน และ ถ.ประเสริฐมนูกิจ สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสายสำคัญอื่นๆ ทั้ง วิภาวดี-รังสิต, งามวงศ์วาน, รัชดาภิเษก และ เส้นเลียบด่วนรามอินทราได้สะดวก อีกทั้งยังมีทางลัดเยอะ สามารถใช้หลีกหนีรถติดได้พอสมควร และยังอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้นทางด่วน 2 จุดด้วยกัน ทั้งทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ และทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ จะเข้า-ออกเมืองจากตรงนั้นสามารถทำได้ง่ายค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ การเดินทางด้วยรถสาธารณะถือว่าสะดวกสบายค่ะ ถึงแม้ว่าจะไม่มีรถประจำทางวิ่งผ่านหน้าโครงการ แต่บริเวณนั้นจะมีวินมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านอยู่ตลอดเวลา สามารถเรียกได้ไม่ยาก จากซ.พหลฯ 34 ออกไปที่ถ.พหลโยธินก็เพียง 1 กม.เท่านั้น จากตรงนั้นเดินไปอีกหน่อยจะมีป้ายรถเมล์ มีรถเมล์และรถตู้หลายสายวิ่งผ่าน จะเรียกรถแท็กซี่ก็ไม่ยาก อีกทั้งในปี 2563 บริเวณนั้นจะเป็นทางขึ้น-ลง BTS สถานีรถไฟฟ้าเสนานิคมของรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วง หมอชิต-คูคต อีกด้วย
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็นคอนโดมิเนียม สูง 8 ชั้น มี 1 อาคาร ทั้งหมด 216 ยูนิต และอาคาร Black Box Social Club 1 อาคาร สูง 2 ชั้น บนพื้นที่ 2 ไร่ วางผังอาคารเป็นรูปตัว L และจัดห้องพักอาศัยแบบ Double Corridor ปลายโถงแต่ละฝั่งเจาะช่องแสงขนาดใหญ่ทำให้โถงทางเดินไม่มืดทึบ มีจำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดที่ 30 ห้อง/ชั้น อาจจะหนาแน่นไปสักหน่อยสำหรับคอนโด Low Rise ประตูห้องบางห้องอาจจะเปิดมาเจอกันบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้เสียความเป็นส่วนตัวค่ะ ส่วนอาคาร Black Box Social Club ที่ถูกจับแยกออกมาจากตัวอาคารหลักก็เพื่อความเป็นสัดส่วนไม่รบกวนส่วนพักอาศัย
ห้องแต่ละ Type ก็ถูกออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นที่ลงตัว โดยหลักจะขอเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom Plus และ 2 Bedrooms ที่เราได้รีวิวให้ดูกันนะคะ ห้อง 1 Bedroom Plus จะมีลักษณะเหมือนห้องแบบ Studio แต่กั้นส่วนห้องนั่งเล่น, ห้องครัว และห้องนอนออกจากกันอย่างลงตัว แต่ยังคงเชื่อมต่อกันด้วยประตูบานเลื่อนกระจกใส จะมีหน้าห้องที่แคบกว่าความลึกห้องเล็กน้อย ภายในห้องนั่งเล่นจะไม่ติดกับผนังภายนอกอาคารจึงไม่มีหน้าต่างมาให้ ต้องอาศัยแสงสว่างที่ผ่านเข้ามาจากทางห้องนอนเอา ข้อดีก็คือห้องมีการแบ่งสัดส่วนได้เป็นอย่างดี ห้องครัวถูกแยกส่วนออกไป สามารถระบายอากาศเมื่อปรุงอาหารผ่านทางระเบียงห้องได้พอดี ถึงแม้ว่าห้องจะมีขนาดที่จำกัด แต่ทางโครงการก็ได้ออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่มีความ Flexible สูง เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ห้อง 2 Bedrooms จะมีหน้าห้องที่กว้างพอๆ กับความลึกห้อง เป็นห้องที่อยู่มุมอาคารจึงทำให้ได้ช่องแสงมาทั้ง 2 ฝั่ง ภายในห้องได้รับแสงแดดอย่างเต็มที่และสามารถระบายอากาศได้ดี พื้นที่ห้องโถงกลางจะค่อนข้างกว้างเหลือเฟือ สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้หลายรูปแบบตามต้องการ ส่วนห้องนอนจะถูกกั้นด้วยผนังทึบขาดจากห้องโถง
เสียดายที่ส่วนครัวของห้องนั้นไม่ได้ให้ Hob&Hood มาด้วย แต่โซนสำหรับครัวเป็นแบบปิดทุกห้อง แถมมีหน้าต่างสำหรับระบายอากาศด้วยค่ะ และเราก็สามารถหาเตาไฟฟ้ามาติดตั้งเองไม่ยาก รวมถึงติดตั้งท่อสำหรับ Hood เพิ่มเติมเพื่อดูดควัน ส่วนห้องน้ำจะต้องพึ่งระบบระบายอากาศของอาคารเพียงอย่างเดียว เพราะไม่มีหน้าต่างระบายอากาศมาให้ด้วย
ส่วนวัสดุ, สุขภัณฑ์ และเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มากับตัวห้องก็ได้มาตรฐานดี โดยโครงการขายทั้งแบบ Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์จาก Do more Living ได้เฟอร์นิเจอร์มาครบ แต่ถ้าไม่อยากได้เฟอร์นิเจอร์ก็สามารถซื้อห้องแบบ Fully Fitted แทนได้ ได้เงินคืนมาเป็นส่วนลดเพิ่ม ซึ่งจะได้ ระบบ Digital Door Lock, เครื่องปรับอากาศของ Panasonic ทุกห้อง, Built-in ครัวพร้อมชุดอ่างล้างจานและชั้นลอย, สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก American Standard ถือว่าทางโครงการมีทางเลือกในการตกแต่งให้พอสมควรเลย ตอนนี้ราคาของโครงการตกอยู่ที่ ตร.ม.ละ 74,000-78,000 บาทค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการถือว่าให้มาค่อนข้างจัดเต็มตามคอนเซ็ปต์ของโครงการที่เป็น Black Box Social Condominium เพื่อให้ลูกบ้านสามารถใช้งานได้จริง โดยจะตอบโจทย์พฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ดึง Facilities ทั้งหมดมาอยู่รวมกันภายใน Black Box Social Club เป็นจุด Sharing Space ที่ลูกบ้านจะได้ใช้งานและทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน รวมถึงการนัดเพื่อนฝูงออกมาพบปะสังสรรค์โดยไม่ต้องวิ่งเข้าห้าง เพื่อหาร้านอาหารในการนัดกัน หรือกระจุกตัวอยู่แต่ในห้องเล็กๆ
Black Box Social Club สูง 2 ชั้น ชั้นที่ 1 จะเป็นส่วนของ Co-Working Space จัดพื้นที่สำหรับนั่งทำงานด้วยกัน ทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยว โดยจะมีตู้ Locker ให้เช่าเพื่อเก็บของ ขึ้นไปที่ชั้น 2 จะเป็นส่วนของ Entertainment Room มีทั้งโซนดูหนัง-ดูบอล หรือจะเล่นเกมส์ Playstation 4 ที่ทางโครงการเตรียมไว้ให้ก็ได้ และโซน Pool Table เชื่อมต่อไปยัง Open Pantry ที่สามารถนำอาหารมานั่งกินและนั่งคุยกันได้ โดยจะมีพื้นที่เตรียมอาหารและอ่างล้างจานมาให้ มีห้อง Fitness ที่มีอุปกรณ์ให้พร้อม และ Swimming Pool ขนาดพอประมาณ ใช้ว่ายออกกำลังกายได้ พอขึ้นไปที่ชั้นดาดฟ้าจะเป็นส่วนของ Roof Garden และ Yoga Space ค่ะ
ข้างๆ Black Box Social Club ยังมีมุมสวนเล็กๆ ให้นั่งพักผ่อน อีกทั้งยังมีรถสามล้อ (Shuttle Service) บริการไปส่งถึงหน้าปากซอยพหลโยธิน 34 และ Bike Sharing สำหรับให้ลูกบ้านใช้ปั่นไปในบริเวณใกล้เคียง นอกจากนี้ทางโครงการก็จะมีที่จอดรถให้อยู่ 48%, อัตราลิฟท์โดยสารอยู่ที่ 1 : 108 รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยที่ไม่แพ้คอนโดแบบ High Rise ทั้งรปภ.ตลอด 24 ชม., กล้อง CCTV, ระบบ Key Card Access, ระบบ Lift แบบล็อคชั้น และระบบ Digital Door Lock เทียบสัดส่วน Facilities กับจำนวนยูนิตภายในโครงการถือว่าสมน้ำสมเนื้อทีเดียวค่ะ
:::: คะแนน ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ
8.0
อยู่ในซ.พหลโยธิน 34 ใกล้ม.เกษตรศาสตร์ และห้างสรรพสินค้าในระยะไม่เกิน 5 กม. สาธารณูปโภครองรับที่อยู่อาศัย ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีเสนานิคม (ในอนาคต) นับว่าเป็นทำเลที่อุดมสมบูรณ์ดีทีเดียว
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว
7.8
สามารถเข้า-ออกได้หลายเส้นทาง จากถนนใหญ่ถึง 3 เส้นด้วยกัน เดินทางได้สะดวก พอมีทางเลือกในการหลีกเลี่ยงรถติด มีทางลัดเยอะ อีกทั้งอยู่อยู่ใกล้จุดขึ้นทางด่วนอีกด้วย
การเดินทางโดยรถสาธารณะ
7.75
มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ในละแวกโครงการ ออกไปถนนใหญ่ขึ้นรถประจำทางหรือเรียกรถแท็กซี่ได้ง่าย และอยู่ในละแวกการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีเสนานิคม (ในปี 2563)
แบบห้องและวัสดุ
7.6
ทางโครงการมีทางเลือกในการแต่งห้องอยู่พอสมควร สามารถซื้อห้องได้ทั้งแบบ Fully Furnished และ Fully Fitted
สิ่งอำนวยความสะดวก
7.85
สิ่งอำนวยความสะดวกให้มาค่อนข้างสมน้ำสมเนื้อกับจำนวนยูนิตในโครงการ มีมาให้อย่างครบครันและน่าใช้งาน
ความคุ้มค่ากับราคา
7.7
โครงการเหมาะสำหรับครอบครัวขนาด 1-3 คน ต้องการหาห้องใกล้ม.เกษตรศาตร์ หรือทำงานในบริเวณใกล้เคียง มีไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ ชอบการเข้าสังคม
คะแนนรวมเฉลี่ย
7.78
ดี
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
CALL CENTER : 082 843 3434
WEBSITE : http://www.dwell-group.com/dmura/
FaceBook : https://www.facebook.com/DwellMatters/
คลิกลงทะเบียน : http://www.dwell-group.com/dmu ra/promo
Official Line : @dmura
หากเพื่อนๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
สนใจโครงการ ดี มูระ รัชโยธิน อยากสอบถามว่าตอนนี้มีห้องว่างอยู่มั้ยค่ะ รบกวนเซลล์ติดต่อกลับที่เบอร์ 0959603562