EP.318 รีวิว โกลเด้น ทาวน์ รัตนาธิเบศร์ – รถไฟฟ้าบางพลู Golden Town Rattanathibet – Bang Phlu Station
สวัสดีชาว Homenayoo ที่รักทุกท่านค่ะ วันนี้เราจะพาไปชมโครงการที่ชื่อว่า Golden Town รัตนาธิเบศร์ – รถไฟฟ้าบางพลู จาก Golden Land ซึ่งตั้งอยู่ในซอยวัดโมลี บนถนนบางกรวย – ไทรน้อย ซึ่งเป็นถนนสายทางลัดเชื่อมต่อถนนหลักหลายเส้น เช่น ถนนรัตนาธิเบศร์, ถนนราชพฤกษ์, ถนนนครอินทร์ เป็นต้น นอกจากนั้นยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าบางพลูที่กำลังจะเปิดใช้ในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย ถือว่าสะดวกในระดับนึงเลย ตัวโครงการเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น มีทั้งหมด 2 แบบ บนที่ดินเริ่มต้น 21.1 ตร.วา กับราคาเริ่มต้น 2.84 ล้านบาท ที่นี่เค้าจะทำออกมาเป็นแบบไหนเราไปดูกันเลยดีกว่าค่าา
ชื่อโครงการ | โกลเด้น ทาวน์ รัตนาธิเบศร์ – สถานีรถไฟฟ้าบางพลู |
เจ้าของโครงการ | โกลเด้นแลนด์ Gloden Land |
ลักษณะโครงการ | ทาวน์โฮม 2 ชั้น |
พื้นที่โครงการ | 20-1-9 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 193 ยูนิต |
พื้นที่ใช้สอย | 113-131 ตร.ม. |
เนื้อที่บ้าน | เริ่มต้น 21.1 ตร.วา |
จำนวนห้อง | 4 ห้องนอน, 2-3 ห้องน้ำ |
ที่จอดรถทั้งหมด | 2 คัน |
โซน | นนทบุรี |
ขนส่งสาธารณะ | – รถไฟฟ้า MRT สถานีบางพลู 700 เมตร |
รถโดยสารที่ผ่าน | มีรถ Toyota Avanza รับส่งจากโครงการถึงสถานีรถไฟฟ้า |
ที่ตั้ง | ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางใหญี่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี |
กำหนดการ | Pre-Sale พ.ย. 2557 |
ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าแล้วเสร็จ ก.ค. 2558 |
ราคา | เริ่มต้น 2.84 ล้านบาท |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | 38 บาท/ตร.วา |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก | – Club House – สระว่ายน้ำ – ฟิตเนส – สวนสาธารณะ – CCTV – รปภ. 24 ชม. |
จุดเด่นของโครงการ | โกลเด้น ทาวน์ รัตนาธิเบศร์-สถานีรถไฟฟ้าบางพลู…ยิ่งพิเศษ ชิวิตยิ่งมีความสุข |
ถนนบางกรวย-ไทรน้อย (พระราม 5-บางพลู-บางรักใหญ่)
ที่ตั้งโครงการ
ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
พิกัด : 13.871331 , 100.432123
แผนที่จากทางโครงการค่ะ โครงการตั้งอยู่ในซอยโมลี บนถนนบางกรวยไทรน้อยใกล้สี่แยกบางพลู
โครงการ Golden Town รัตนาธิเบศร์ – รถไฟฟ้าบางพลู ตั้งอยู่ในซอยทางเข้าวัดโมลี บนถนนบางกรวย – ไทรน้อย ฝั่งมุ่งหน้าไปถนนนครอินทร์ เพื่อความเข้าใจง่ายเดี๋ยวจะขออธิบายถนนบางกรวย – ไทรน้อยให้ฟังกันสักหน่อยนะคะ
ถนนเส้นนี้เนี่ยจริงๆแล้วจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ถนนบางกรวย – ไทรน้อยสายหลัก (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3215) จะเป็นเส้นที่ชาวเมืองนนท์รู้จักดีเพราะเป็นถนนเส้นหลักตัดผ่านเกือบทุกอำเภอทั้งอำเภอบางกรวย, อำเภอเมืองนนทบุรี, อำเภอบางใหญ่, อำเภอบางบัวทอง และอำเภอไทรน้อย ถนนบางกรวย – ไทรน้อยอีกสายจะเป็นถนนสายย่อยซึ่งจะเป็นที่ตั้งของโครงการนี้ค่ะ ถึงแม้จะเป็นถนนสายย่อยแต่ความสะดวกก็ยังมีมากอยู่เพราะสามารถเป็นทางลัดไปถนนหลักๆได้หลายสาย เริ่มตั้งแต่ถนนชัยพฤกษ์ที่สามารถเชื่อมกับถนนกาญจนามุ่งหน้าไปบางขุนเทียน, ถนนรัตนาธิเบศร์ไปแยกแคราย, ถนนราชพฤกษ์ไปฝั่งธนบุรีและ ถนนนครอินทร์
การเข้าถึงโครงการโดยรถยนต์ส่วนตัวสามารถมาได้โดยใช้ถนนเส้นหลักๆโดยเส้นที่สะดวกที่สุดจะเป็นถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งมุ่งหน้าถนนกาญจนาภิเษกแล้วเข้าถนนบางกรวย – ไทรน้อย และเลี้ยวเข้าซอยวัดโมลี หรือถ้าใช้เส้นราชพฤกษ์ฝั่งมุ่งหน้าธนบุรีก็ต้องกลับรถที่บริเวณวงเวียนพระราม 5 ก่อนเพื่อกลับไปเข้าถนนบางกรวย – ไทรน้อย และถ้าใครใช้เส้นนครอินทร์ก็สามารถเข้าเส้นบางกรวย – ไทรน้อยได้เช่นกันค่ะ
ส่วนการเดินทางโดยบริการขนส่งสาธารณะหลักๆของโครงการนี้เลยคือรถไฟฟ้าสถานีบางพลูที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 700 เมตร ซึ่งกำลังจะเปิดให้บริการพฤษภาคม 2559
โดยทางโครงการจะมี Shuttle Bus ไว้สำหรับบริการรับ-ส่งจากโครงการไปสถานีรถไฟฟ้า 1 คัน เป็นรถ Mini Van รุ่น Avanza ซึ่งตรงนี้ก็ถือว่าทำได้ดี ลูกบ้านเดินทางได้สะดวก แต่อาจจะไม่เพียงพอถ้าวันไหนมีลูกบ้านต้องการใช้บริการพร้อมๆกันเยอะๆค่ะ
นอกจากรถไฟฟ้าแล้วก็จะมีพี่วินที่อยู่หน้าปากซอย สามารถให้รปภ.เรียกให้ได้ ส่วนที่หน้าปากซอย บนถนนบางกรวย – ไทรน้อยก็จะมีรถสองแถวผ่านอยู่บ้างค่ะ
สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการโดยทั่วไปก็ยังคงเป็นแบบชานเมือง มีที่พักอาศัยแนวราบ เป็นบ้านเดี่ยวซะเป็นส่วนใหญ่ ในซอยเองก็จะมีแต่ชุมชนของชาวบ้านที่อยู่อาศัยเดิม ที่ดินเปล่า และมีอพาร์ทเม้นท์เล็กๆอยู่บ้าง 1 – 2 แห่ง แต่ไม่มีห้างร้านสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินจึงเป็นศูนย์ ไม่มีร้านค้าเลย แต่ถ้าในวงที่กว้างออกมาหน่อยก็จะมีความอุดมสมบูรณ์เพิ่มขึ้นมาเยอะทีเดียว
เริ่มที่ตลาดใกล้บนถนนบางกรวย – ไทรน้อย ก็จะมีตลาดกลางบางใหญ่, ตลาดเจ้าพระยาเป็นตลาดสดเปิดตั้งแต่บ่ายๆ – เย็น ออกมาไกลหน่อยก็จะมีตลาดกลางบางใหญ่บนถนนกาญจนาภิเษก
ถ้าเป็นพวก Hyper Market ก็มีให้เลือกหลายจุดเหมือนกันที่ใกล้ที่สุดจะเป็น BigC บนถนนกาญจนารองลงมาก็เป็น Lotus บางใหญ่ ส่วนขา Shop ก็มี Central Westgate, Index Living Mall
นอกจากนั้น Community Mall บนเส้นราชพฤกษ์ก็จะมี The Walk, The Crystal ส่วนโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดคือโรงพยาบาลเกษมราษฏร์และโรงพยาบาลบางใหญ่ค่ะ
การเดินทางไปชมโครงการวันนี้เราเลือกใช้ถนนเส้นหลักอย่างถนนรัตนาธิเบศร์ตามชื่อโครงการกันนะคะ โดยเริ่มต้นบริเวณ BigC รัตนาธิเบศร์ บนถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งมุ่งหน้าถนนกาญจนาภิเษก ขับตรงอย่างเดียวเลยค่ะ ข้ามสะพานพระนั่งเกล้า ผ่านจุดตัดถนนราชพฤกษ์ – รัตนาธิเบศร์ ถึงแยกบางพลูเลี้ยวซ้ายเข้าถนนบางกรวย – ไทรน้อย ตรงมาอีกประมาณ 350 เมตร เลี้ยวขวาเข้าซอยวัดโมลี เข้าซอยไปประมาณ 430 เมตร ก็จะถึงโครงการค่ะ
สรุปการเดินทาง Big C รัตนาธิเบศร์ > สะพานพระนั่งเกล้า > แยกบางพลู > ซอยวันโมลี > Golden Town รัตนาธิเบศร์ – รถไฟฟ้าบางพลู
เริ่มต้นกันที่หน้า BigC รัตนาธิเบศร์ ขวามือคือสถานีรถไฟฟ้าบางกระสอ
ตรงมาเรื่อยๆ เบี่ยงขวาเข้าถนนเส้นหลัก เดี๋ยวเราจะตรงไปข้ามสะพานพระนั่งเกล้ากัน
ตอนนี้เราอยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งมุ่งหน้าไปถนนกาญจนาภิเษก ตามป้ายไปโลดด
ขับมาไม่นานจะเห็น Central รัตนาธิเบศร์อยู่ทางขวามือ ถ้าใครมาเส้นนี้แล้วอยากแวะ Shopping จะมีสะพานกลับรถอยู่ด้านหน้าไม่ไกล
ซ้ายมือเป็นสะพานกลับรถสามารถไปไป Central รัตนาธิเบศร์ได้ ส่วนเรายังคงตรงต่อไปค่า
ตรงต่อมาเรื่อยๆ
ขึ้นสะพานพระนั่งเกล้า ตรงไปเรื่อยๆ
ลงจากสะพานมายังตรงไปเรื่อยๆบนถนนรัตนาธิเบศร์
ผ่านสถานีแรกหลังจากลงจากสะพานมาคือไทรม้า
ถัดมาเป็นสถานีบางรักน้อยท่าอิฐ
และสถานีบางรักใหญ่
ผ่านสถานีบางรักใหญ่มาไม่นานจะเห็นปั๊ม ปตท. ให้เตรียมเบี่ยงออกซ้าย ถ้าเรายังตรงไปจะไปขึ้นสะพานข้ามแยกบางพลู แล้วจะต้องไปกลับรถไกลเลยค่ะ
เบี่ยงซ้ายมาแล้วก็ตรงไปเรื่อยๆ
เห็นสถานีรถไฟฟ้าบางพลูแสดงว่าใกล้ถึงแยกบางพลูแล้ว ก็เตรียมตัวชิดซ้ายไว้ค่ะ
ถึงแยกแล้วออกซ้ายได้เลยค่า
เลี้ยวซ้ายมาแล้วเราก็จะเข้าสู่ถนนกาญจนาภิเษก ถนนเส้นนี้ค่อนข้างกว้าง เป็นถนน 3 เลน รถวิ่งได้สะดวกเลยค่ะ
ใกล้ๆกับจุดกลับรถเราจะเห็นป้ายโครงการทางซ้ายมือ
และซุ้มทางเข้าวัดโมลีทางขวามือ เราก็เลี้ยวเข้าไปเลยค่ะ
เลี้ยวขวาเข้าซอยผ่านซุ้มทางเข้าป้ายวัดโมลี
จากปากซอยเข้าซอยมาประมาณ 430 เมตร ก็จะถึงโครงการ บรรยากาศในซอยนี้ถือว่ายังคงสงบเหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบความวุ่นวาย สภาพแวดล้อมโดยรวมในซอยเป็นที่ดินว่างเปล่าและชุมชนที่อยู่อาศัยเดิมซะเป็นส่วนมาก สิ่งปลูกสร้างเกือบทั้งหมดจะเป็นที่พักอาศัยแนวราบ มีอพาร์ทเม้นท์เล็กๆ 1 – 2 แห่ง ที่สำคัญคือในซอยนี้จะมีวัดโมลีและโรงเรียนวัดโมลีอยู่ก่อนจะถึงโครงการ
เข้าซอยมาจะเห็นร้านขายของชำทางซ้ายมือเป็นหนึ่งในร้านชำเล็กๆไม่กี่ร้านในซอยนี้ค่ะ
ถนนในซอยเป็นถนน 2 เลน พอให้รถขับสวนกันได้ ไม่ควรขับเร็วนะคะ เพราะถนนในซอยนี้มีโค้งค่อนข้างเยอะและบางทีอาจจะมีต้นไม้ขึ้นมาบังการมองเห็นทำให้เราไม่ทันสังเกตรถคันที่สวนมาค่ะ
พื้นที่ในซอยส่วนใหญ่ยังคงเป็นพื้นที่โล่ง ขวามือที่เราเห็นนี่คือบึงน้ำและที่ดินเปล่า
ใกล้ๆถึงโครงการแล้ว เราจะเห็นวัดโมลีทางซ้ายมือ
ขับตามทางมาอีกนิดก็ถึงโครงการแล้วค่ะ
สรุปสถานที่สำคัญ
ภายในโครงการ
บรรยากาศรอบๆโครงการยังคงสงบเงียบเหมาะแก่การเป็นที่อยู่อาศัยจะมีแหล่งศูนย์กลางของชุมชนที่สำคัญๆอยู่ 1 จุดคือ วัดโมลีและโรงเรียนวัดโมลีซึ่งอยู่ใกล้กับโครงการของเราค่อนข้างมาก แต่ไม่ค่อยมีผลอะไรนักจากการสอบถามได้ข้อมูลมาว่า โรงเรียนวัดโมลีนั้นมีนักเรียนเพียงประมาณ 200 คนจึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องเสียงรบกวนค่ะ
นอกจากบรรยากาศที่สงบเงียบแล้วในซอยนี้ยังมีทางลัดไปออกถนนรัตนาธิเบศร์ได้โดยไม่ต้องผ่านถนนบางกรวย – ไทรน้อยด้วยค่ะ นั่นคือซอยวัดบางแพรกที่แยกออกไปเป็น 2 ทางคือซอยทางขวาออกไปถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งมุ่งหน้าไปถนนกาญขนาภิเษกเลย กับซอยทางซ้ายที่ออกไปแล้วจะเจอจุดกลับรถสามารถไปถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งมุ่งหน้าเข้าเมืองได้
สำหรับพื้นที่รอบๆโครงการนั้น ทิศเหนือติดกับที่ดินเปล่า ทิศตะวันออกติดกับซอยวัดโมลี บึงน้ำและที่ดินเปล่า ทิศตะวันตกติดกับที่อยู่อาศัยข้างเคียงและทิศใต้ติดกับที่อยู่อาศัยข้างเคียงเช่นเดียวกัน
ก่อนจะเข้าไปตัวตัวโครงการเดี๋ยวเรามาเดินดูรอบๆโครงการกันก่อนนะคะ ออกมาด้านหน้าโครงการจะเจอกับป้ายขอบคุณของโครงการ
หลังป้ายเป็นที่ดินเปล่าเวิ้งว้างกว้างใหญ่พร้อมบึง มีขยะบ้างเล็กน้อยแต่ไม่มีกลิ่นเหม็น
เราจะเดินไปดูทางซ้ายของโครงการกันก่อน
ติดกับโครงการเลยจะเป็นที่ดินส่วนบุคคล
ห่างออกมาอีกนิดเป็นบ้านของคนแถวนี้และอพาร์ทเม้นท์ 2 ชั้น
เดินมาเรื่อยๆจนถึงทางโค้งจะเจอบ้านเดี่ยว 2 ชั้นสีเขียวสดใส จากตรงนี้ไปจะเป็นที่ของชุมชนหลังวัดโมลีแล้วค่ะ
เดินเลยโค้งแรกมาไม่ไกลจะเจอสะพานข้ามคลองบางแพรก
น้ำในคลองสะอาดไร้ขยะ ไร้กลิ่น
อีกด้านนึงก็สะอาดดีค่ะ
เดินมาเรื่อยๆจะเจออพาร์เม้นท์อีกแห่งชื่อห้องพัก ส.เพิ่มทรัพย์ หลังจากตรงนี้ไปอีกประมาณ 300 เมตร จะถึงทางแยกซอยวัดแพรกที่จะเป็นทางลัดพาเราไปบนถนนรัตนาธิเบศร์ค่ะ
กลับมาที่หน้าโครงการกันอีกครั้ง คราวนี้เราลองเดินไปดูทางขวาของโครงการกันบ้าง
ติดกับโครงการเลยจะเป็นอาคารเรียนพร้อมสนามของโรงเรียนวัดโมลี
และวัดโมลี ใครที่เดินเท้ามาบริเวณวัดตรงนี้ระวังสุนัขกันด้วยนะ จะมีวิ่งออกมาเห่า 2 – 3 ตัว
ถัดจากวัดจะเป็นที่ดินเปล่า มีบ้านของชาวบ้านแทรกๆอยู่บ้าง และถนนเส้นนี้ก็คือเส้นที่เราขับเข้าโครงการมานั่นเอง ถ้าเราตามทางไปอีกเรื่อยๆก็จะถึงถนนบางกรวย – ไทรน้อยค่ะ
ตัวโครงการ
ก่อนพาเข้าไปชมโครงการ ขออธิบายผังโครงการคร่าวๆก่อนนะคะ โครงการ Golden Town รัตนาธิเบศร์ – สถานีรถไฟฟ้าบางพลู เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวน 193 ยูนิต ถือว่าเป็นโครงการขนาดกลางๆ ไม่ใหญ่มาก มีบ้านทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่ Amethyst Plus ประมาณ 76 ยูนิต และ Tuequoise Plus ประมาณ 117ยูนิต
เนื่องจากโครงการมีขนาดไม่ใหญ่ การวางผังจึงออกมาเป็นแบบเข้าใจง่ายๆ มีทางเข้าออกหลักเพียงทางเดียว โดยต้องผ่านป้อมรปภ. ที่คัดแยกลูกบ้านด้วย Sticker เมื่อเข้ามาในโครงการแล้วจะเจอถนนเส้นหลักกว้างประมาณ 12 เมตร ตัวบ้านจะเริ่มมีทั้งแต่หน้าโครงการเลยค่ะ แบ่งเป็นซ้ายขวา ซึ่งบ้านโซนด้านหน้านี้จะได้เปรียบตรงที่เข้าออกจากโครงการสะดวกไม่ต้องเข้าซอยลึก แต่ก็จะเสียความเป็นส่วนตัวไปสักหน่อยเพราะใครๆก็ต้องขับรถผ่านหน้าบ้านเรานะ เข้ามาในโครงการอีกหน่อยก็จะเจอ สโมสรและสระน้ำว่ายทางซ้ายมือซึ่งปัจจุบันเป็น Sales Office จะเปลี่ยนเป็นสโมสรเมื่อโครงการปิดการขายแล้ว และสวนสาธารณะขนาดประมาณ 227.7 ตร.วา ทางขวา ถนนหลักของโครงการจะมาสุดที่วงเวียนกลับรถ และแจกไปยังซอยย่อยที่แจกเข้าตัวบ้านเลย ซึ่งซอยย่อยที่ใช้เข้าบ้านแต่ละบล็อคจะกว้างประมาณ 8 เมตร
ตัวบ้านส่วนใหญ่จะหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือที่จะร้อนหน่อยในช่วงบ่ายๆเย็นๆ ช่วงเช้าๆก็จะสบายๆ เหมาะกับคนที่กลางวันอยู่บ้าน เน้นออกไปทำงานตอนกลางคืน และทิศตะวันออกเฉียงใต้ที่จะร้อนหน่อยในช่วงกลางวัน แต่เย็นๆกลับมาจากที่ทำงานแล้วก็สบายๆ บ้านไม่ร้อนมากซึ่งใครชอบแบบไหนก็ลองไปเลือกชมกันที่โครงการได้ค่ะ
เริ่มที่ป้ายหน้าโครงการและซุ้มทางเข้า
ซุ้มโครงการแยกทางเข้าออก มีหลังคาคลุม กันแดดกันฝนได้ในกรณีที่ต้องลดกระจกมาคุยกับพี่รปภ.
ทางเข้าและออกมีรั้วกั้นไม้กระดก และกล้อง CCTV 2 ตัวส่องด้านหน้าและป้ายทะเบียนรถ นอกจากนั้นก็จะมีรปภ.ดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และคัดกรองคนเข้าออกโครงการด้วย Sticker แปะหน้ารถ
เข้ามาในโครงการถนนหลักกว้าง 12 – 15 เมตร
ด้านซ้ายเป็นบ้านบล็อคแรกที่อยู่ติดทางเข้าโครงการเลยคือบ้านตัวอย่างแบบ Amethyst Plus
ขวามือเป็นบ้านตัวอย่างแบบ Turquoise Plus
เข้าโครงการมาอีกหน่อยจะเจอสะพานข้ามคลองเล็กๆ
น้ำในคลองไม่มีขยะ ไม่มีกลิ่นรบกวน มีลงต้นไม้สร้างบรรยากาศนิดหน่อย
อีกด้านนึง
ผ่านสะพานมาจะเจอกับส่วนกลาง และ Sales Office ทางซ้าย
ส่วนบ้านบล็อคทางขวาที่เห็นอยู่นี่คือบ้านตัวอย่าง Turqouise Plus และบ้านจริงที่จะได้รับ
เลยสำนักงานขายมาหน่อยจะเจอซอยย่อยซอยแรกทางขวา
ด้านในนี้จะเป็นบ้านแบบ Turqouise Plus มีประมาณ 8 ยูนิต ใครชอบความเป็นส่วนตัวแนะนำซอยนี้เลยค่ะ
ด้านหน้าจะเป็นสวนสาธารณะขนาดประมาณ 227.5 ตร.วา เดี๋ยวเราไปเดินดูโครงการรวมๆกันก่อนแล้วค่อยกลับมาดูรายละเอียดสวนกันนะคะ
ฝั่งตรงข้ามก็เป็นพื้นที่สีเขียวลงต้นไม้ไว้ให้ร่มเงา
เราเดินตรงมาเรื่อยๆจะเจอซอยย่อยอีก 1 ซอยทางซ้ายมือ
เข้าไปดูในซอยกันสักหน่อย ในนี้จะมีซอยย่อยเข้าตัวบ้านทั้งหมด 4 ซอย(นับซอยทั้งซ้ายและขวา) ส่วนถนนในซอยย่อยจะกว้าง 8 เมตร รถพอสวนกันได้แต่ถ้ามีรถมาจอดอยู่ข้างทางก็อาจจะลำบากหน่อย เพราะจะเบียดกันทำให้ระยะเหลือน้อย
ตอนนี้โครงการเริ่มมีลูกบ้านเข้าอยู่กันบ้างแล้ว
บางหลังก็มีต่อเติมกันออกมา แต่สภาพโดยรวมยังดูโอเคอยู่ค่ะ
แต่ละบล็อคจะมีช่องว่างเว้นไว้สำหรับกลับรถ
กลับมาที่ถนนหลักของโครงการ
เราตรงมาจนถึงวงเวียนกลับรถ
ด้านซ้ายของวงเวียนจะไม่มีซอยย่อย แต่จะมีฟุตบาทและพื้นที่สีเขียวลงต้นไม้ไว้ให้เป็นระยะๆ
มองจากวงเวียนตรงไปจะเป็นกลุ่มบ้านแบบ Turquoise Plus
ที่สุดซอยจะเป็นกำแพงรอบโครงการสูง 2 เมตร
จากวงเวียนมาทางขวามือเป็นซอยย่อยถนนกว้าง 8 เมตร
มีซอยย่อยเข้าแต่ละบล็อคแบบนี้ทั้งหมด 8 ซอย
ซอยนี้ก็เริ่มมีลูกบ้านเข้าอยู่บ้างแล้วเช่นกันค่ะ
ซอยย่อยนี้จะมีฟุตบาทขนาดประมาณ 1 คนเดินให้ทั้ง 2 ข้างทาง
เราเดินมาที่สุดซอยฝั่งขวาจะมีบ้านแบบ Amethyst Plus เพียง 3 หลังเท่านั้น บ้านบล็อคนี้จึงได้ความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูงเลยทีเดียวเนื่องจากไม่ต้องประจันหน้ากับบ้านฝั่งตรงข้าม และมียูนิตติดกันแค่ 3 หลังเท่านั้น
ส่วนด้านบล็อคสุดท้ายของฝั่งซ้ายก็ได้ความเป็นส่วนตัวและความโปร่งไม่แพ้กัน
แต่ในอนาคตถ้าหากมีโครงการข้างเคียงมาสร้างติดกันหลังกำแพงโครงการนี่ ความเป็นส่วนตัวก็อาจจะลดลงนะ
กลับมาดูส่วนกลางกันต่อ เริ่มที่สวนสาธารณะ ทำประตูทางเข้าเป็นคอนกรีตทาสีขาวไว้แบบนี้
เดินตามทางเดินเข้ามาในสวนก็จะเห็นว่ามีที่นั่งไว้ให้นั่งเล่นด้วย
สวนนี้มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า คือจะมีด้านยาวมากกว่าด้านกว้างเลยอาจจะทำให้รู้สึกแคบๆไปนิด
มองย้อนกลับไปทางที่เราเดินมาอีกมุมนึง
มาที่ Sales Office ตกแต่งโดยรวมมากเข้ากับธีมโดยรวมของโครงการ ด้านหน้าจะมีที่จอดรถรวมประมาณ 3 – 4 คัน กรณีมีผู้มาติดต่อ ก็สามารถมาจอดรถที่นี่ได้
ตัวอาคารของ Sales Office นี้ในอนาคตจะเปลี่ยนเป็น Club House ส่วนจะมีการลงเครื่องเล่นฟิตเนสมั้ยนั้น ต้องแล้วแต่สมาชิกในหมู่บ้านตกลงกันค่ะ
ด้านในของตัว Club House ตอนนี้ยังคงเป็น Sales Office ในอนาคตจะมีเครื่องเล่นฟิตเนสมาวางแทนนะ
อีกด้านนึง
ด้านหลังเป็นห้องน้ำแยกชาย – หญิง
ไปดูที่ห้องน้ำชายกันก่อน
มีอ่างล้างมือ 2 ชุด โถปัสสาวะชาย 2 ชุด ห้องน้ำ 1 ห้องและห้องอาบน้ำ 1 ห้อง
พื้นที่อ่างล้างมือของ Englefield
ห้องน้ำ 1 ห้อง
และห้องอาบน้ำอีก 1 ห้อง
มาดูห้องน้ำหญิงกันต่อ
มีอ่างล้างมือ 2 ชุดพร้อมกระจกเงา
ห้องน้ำ 2 ห้อง
และห้องอาบน้ำ 1 ห้อง
สระว่ายน้ำข้าง Sales Office จะยกสูงขึ้นมาจากระดับพื้นประมาณ 1.5 เมตร ช่วยเพิ่มการบังสายตาจากคนที่ผ่านไปมาได้นิดหน่อย แต่ก็ยังเห็นอยู่ดีเพราะไม่มีแนวพุ่มต้นไม้หรือรั้วช่วยบังนะ รั้วด้านขวาที่เราเห็นเป็นรั้วสูงที่ทำมากั้นไว้เพียงชั่วคราวเท่านั้น พอเอาออกก็จะทำให้ตรงนี้ดูโล่งมากขึ้นอีก
หลังรั้วสูงที่เห็นจะเป็นโรงเรียนวัดโมลี ที่มีระยะห่างพอสมควร
สระว่ายน้ำเป็นสระระบบคลอรีน ขนาดประมาณ 16 x 20 เมตร ลึก 1.2 เมตร แยกสระเด็กสระผู้ใหญ่เอาไว้ด้วย
ที่อาบน้ำกลางแจ้งไว้ล้างตัวก่อนสงสระ 2 ชุด หันหน้าหลบจากด้านนอก
มองจากสระไปที่ถนนหลักซะหน่อย
อีกมุมนึง จะเห็นว่าที่นี่จะใช้ระบบสระน้ำล้น (infinite-edge pool)ด้วย ..ต้นลีลาวดีนี่ช่วยให้บรรยากาศโดยรวมดีขึ้นจริงๆนะ
บ้านตัวอย่าง
แบบบ้านของทางโครงการมีทั้งหมด 2 แบบคือ
เริ่มกันที่น้องเล็ก แบบ Amethyst Plus 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ เป็นบ้านที่มีฟังก์ชั่นโดยรวมครบตามมาตรฐานทาวน์โฮมทั่วไป แต่ที่จะขาดคือฟังก์ชั่นของห้องครัวที่ทางโครงการไม่ได้จัดไว้ให้ ซึ่งตรงนี้สามารถต่อเติมเองได้เลยเพราะทางโครงการได้ลงโครงสร้างเผื่อไว้ให้สำหรับการต่อเติมแล้ว หรือถ้าใครไม่อยากต่อเติม อยากเก็บพื้นที่หลังบ้านไว้ทำอย่างอื่น ก็สามารถใช้ห้องอเนกประสงค์แทนได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เดินงานระบบมาให้แต่อย่างน้อยก็มีหน้าต่างไว้ระบายอากาศเวลาทำครัวเนอะ
พื้นที่หน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 2 คัน แต่จะเป็นแบบขนาดธรรมดา 1 คัน ส่วนอีกคันต้องเป็นรถ Eco Car หรือรถคันเล็กๆ ทางเข้าบ้านจะมีเพียง 1 ทางคือที่เข้าหลักหน้าบ้าน เมื่อเข้ามาจะเจอกับส่วนต้อนรับแขกและโซฟาดูทีวี ถัดจากห้องรับแขกเป็นห้องทานอาหาร ติดกับห้องทานอาหารจะเป็นห้องอเนกประสงค์และประตูออกไปลานซักล้าง โดยลานซักล้างด้านหลังจะเทพื้นปูนไว้ให้เผื่อสำหรับต่อเติมเป็นครัวไทย ส่วนห้องน้ำและบันไดขึ้นไปชั้น 2 สามารถเข้าถึงได้จากห้องรับแขก
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอโถงบันไดขนาดกระทัดรัดที่แบ่งออกไปเป็นห้องนอน Master Bedroom ฝั่งด้านหน้าบ้านและห้องนอนเล็ก 2 ห้องทางฝั่งด้านหลังบ้าน ส่วนห้องน้ำจะมีเพียง 1 ห้องให้ใช้ร่วมกันทั้ง 3 ห้องนอนค่ะ
มาดูของจริงกันค่ะ หน้าตาภายนอกของตัวบ้านใช้เส้นแนวดิ่งและสีแนว Earth Tone เป็นหลักและผนังหน้าบ้านบางส่วน ถูกตกแต่งด้วยอิฐเทียม ดูมี texture ไม่โล่งจนเกินไปให้ความรู้สึก Modern และ อบอุ่น
รั้วบ้านเป็นรั้วเหล็กทาสีขาวบานพับ 3 ตอน มีกล่องจดหมายมให้ 1 กล่องตามรูป
รั้วของบ้านแต่ละหลังเป็นรั้วทึบสูงประมาณ 1.5 เมตร
ถ้าเป็นบ้านแปลงมุมพื้นที่เหลือข้างบ้านจะเป็นทรายปรับระดับให้แบบนี้เลยค่ะ
หน้ากว้างของบ้านจะอยู่ที่ 5.7 เมตร แบ่งเป็นฝั่งทางเข้าบ้านและโรงจอดรถ ซึ่งพื้นที่เหลือบริเวณหน้าประตูเข้าบ้านถึงรั้วบ้านกว้างประมาณ 4.2 เมตร จึงสามารถจอดได้แค่รถหน้าสั้นๆ หรือรถเล็กอย่าง Eco Car นะ
พื้นจอดรถเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก On Ground ผิวขัดหยาบ
หน้าบ้านมีไฟดาวน์ไลท์ให้ 1 ดวง แต่ที่จอดรถในซองไม่ได้มีไฟมาให้ ก็คงต้องไปติดตั้งกันเองตามระเบียบ
ก่อนเข้าบ้านจะมีพื้นยกระดับสูงประมาณ 15 ซม.
เฉลียงตื้นๆกว้างประมาณ 30 ซม. ปูด้วยกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30 x 30 ซม. ระยะเฉลียงตรงนี้ถือว่าสั้นไปสำหรับการมีที่จอดรถอยู่หน้าบ้านแบบนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นรถเล็กแต่ก็ต้องถอยจอดด้วยความระมัดระวังนะคะ เพราะจะไม่มีตัวกันท้ายรถกับประตูบ้าน
ประตูทางเข้าบ้านเป็นประตูบานเลื่อนเดี่ยว กระจกเขียวตัดแสง บานกรอบ UPVC สีขาว ซึ่งบานกรอบชนิดนี้จะมีความเรียบร้อย ป้องกันการรั่วซึมได้ดีกว่าอลูมิเนียม
พื้นบ้านยกสูงอีก 15 ซม. จากเฉลียงหน้าบ้าน รางเลื่อนติดตั้งแบบลดระดับมาให้แล้ว เวลาเดินเข้าออกบ้านจะลดโอกาสสะดุดได้ดีค่ะ
มือจับแบบเซาะร่องและตัวล็อคด้านนอกแบบกุญแจไข ด้านในแบบมือบิด
เข้ามาในตัวบ้านส่วนแรกที่เจอคือห้องรับแขก พื้นชั้น 1 ทั้งชั้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ผนังฉาบเรียบทาสีพร้อมบัว PVC สำเร็จรูปสีน้ำตาลลายไม้ ความสูงฝ้าเพดานประมาณ 3 เมตร ถัดไปจากห้องรับแขกคือห้องทานอาหาร ซ้ายมือคือบันไดขึ้นชั้นบน, ห้องอเนกประสงค์ และประตูออกไปหลังบ้านค่ะ
จากรับแขกยาวไปจนถึงห้องทานอาหารจะได้ไฟดาวน์ไลท์ทั้งหมด 6 ดวง
พื้นที่ของห้องรับแขกจะมีช่องแสง 2 จุด คือจากประตูทางเข้าหลักของบ้าน และช่องแสงจากบริเวณที่จอดรถ
พื้นที่นั่งดูทีวีไม่ใหญ่มาก แต่พอจะจัดโซฟาแบบ 3 ที่นั่งได้
ด้านตรงข้ามกับโซฟาจะเป็นที่วางทีวี ห้องน้ำและบันไดขึ้นชั้น 2 พื้นที่วางทีวีตรงนี้ของจริงจะเป็นผนังไม่กว้างเท่าไหร่
ระยะดูทีวีประมาณ 2 เมตรกว่าๆ ใส่ทีวีได้จอไม่ใหญ่มาก เต็มที่ก็ประมาณ 50 นิ้ว เพื่อความสมดุลกับการมอง ส่วนโต๊ะกลาง ถ้าจะใส่ให้เลือกที่มันอันเล็กๆหน่อย เพราะว่าถ้าใหญ่เกินไปเดี๋ยวจะขวางทางเดิน
ถัดจากห้องรับแขกมาจะเป็นพื้นที่โซนรับประทานอาหารและห้องอเนกประสงค์
พื้นที่สำหรับรับประทานอาหารวางชุดโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งได้เหมาะสมกับพื้นที่
แต่ถ้าใครอยากขยับขนายเป็น 4 – 6 ที่นั่งก็ยังพอได้อยู่เพราะยังมีพื้นที่เหลือระหว่างห้องรับแขกกับห้องทานอาหาร
บริเวณห้องทานอาหารจะมีช่องแสงเพียง 1 จุดเท่านั้นคือหน้าต่างบานเปิดเดี่ยวทางหลังบ้าน แต่ถ้าพื้นที่หลังบ้านเราทำเป็นครัวไทยเพิ่มไปแล้วช่องแสงตรงนี้ก็อาจจะหายไปนะ
มือจับแบบเซาะรองพร้อมตัวล็อคแบบกดลงล่าง
รางเลื่อนมีตัวกันกระแทก ป้องกันเวลาเราเปิดหน้าต่างแรงๆจะไม่กระแทกกันให้เกิดความเสียหาย
พื้นที่ด้านหลังจัดเป็นเคาน์เตอร์เตรียมอาหารและวางตู้เย็นมาให้ซึ่งระยะการใช้งานจะเหลือประมาณ 60 ซม. อาจจะน้อยไปหน่อยนะคะแนะนำให้เอาฟังก์ชั่นไปใส่ไว้กับครัวไทยด้านหลังจะดีกว่า
ประตูออกไปลานซักล้างด้านหลังได้เป็นบาน HDF สีขาว
ลานซักล้างลดระดับลงไปประมาณ 17 ซม. วัสดุพื้นเป็นคอนกรีตขัดหยาบ
บ้านตัวอย่างจัดครึ่งนึงของพื้นที่ลานซักล้างเป็นครัวไทยมาให้ดู ของจริงก็เป็นผนังคอนกรีตเปลือยเดินงานระบบมาให้รองรับการต่อเติม
อีกฝั่งจัดมาเป็นที่นั่งเล่น หลังคาโปร่งแสงทำให้ได้รับแสงจากธรรมชาติ ถือว่าเป็นไอเดียที่ดีสามารถเก็บไว้ใช้กันได้นะคะ
ได้ดวงไฟฟลูออเรสเซ้นท์พร้อมฝาครอบมา 1 ดวง แสงสว่างอาจจะไม่ค่อยเพียงพอแต่ว่าถ้าเราต่อเติมครัวกันก็คงต้องเดินไฟกันเพิ่มเติมอยู่แล้วเนอะ
การติดตั้งคอมเพรสเซอร์ต้องติดตั้งแบบลอยตัวแบบนี้เพราะเขาไม่ได้ทำพื้นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์มาให้ เวลาช่างมาล้างแอร์ก็อาจจะต้องปีนจากชั้น 1 แต่ถ้ามีการต่อเติมครัวจนเต็มพื้นที่แล้วก็ต้องปีนออกจากห้องนอนชั้น 2 นะ
กลับเข้าบ้านมาดูห้องอเนกประสงค์กันต่อ
บานประตูภายในทุกบานจะได้เป็นบาน HDF แบบนี้
สำหรับบ้านหลังนี้จัดเป็นโรงหนังส่วนตัว ผนังบุวัสดุซับเสียง และที่สำคัญต้องทำห้องให้มืดเข้าไว้โดยการติดม่านปิดหน้าต่าง ติดทีวีจอใหญ่ๆหน่อย, เครื่องเสียง และ Movie Seat ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่เขาจัดมานี่เพื่อให้ดูเป็นไอเดียเท่านั้นนะคะ ถ้าเราจะเปลี่ยนเป็นฟังก์ชั่นอื่นๆก็ทำได้ เช่นเป็นห้องครัว, ห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ, ห้องทำงาน หรือแม้กระทั่งห้องเก็บของ
อีกด้านนึงมีชุดหน้าต่างบาน Bay Window แบบเข้ามุม
ลักษณะการเปิดแบบดึงเข้า
มือจับก้านโยก
มีไฟดาวน์ไลท์มาให้ 2 ดวง
ถัดมาเป็นโถงบันได ที่มีห้องน้ำอยู่ข้างใต้ มีการลดระดับพื้น 2 Steps เพื่อให้ฝ้าเพดานของห้องน้ำนี้ไม่ต่ำเกินไปจากการที่ใช้พื้นที่ใต้บันไดมาทำเป็นห้องน้ำ
สเต็ปแรกลดระดับไปประมาณ 17 ซม.
อีกสเต็ปคือการลดระดับพื้นห้องน้ำลงไปประมาณ 12 ซม.
เมื่อลดระดับลงมา 2 สเต็ปแล้วเราก็จะได้ห้องน้ำที่มีความสูงฝ้าเพดานเป็นมาตรฐานสามารถใช้งานได้สะดวก ไม่ใช่ฝ้าเพดานแบบเตี้ยๆเหมือนบางโครงการ ส่วนวัสดุปูพื้นของห้องน้ำจะได้เป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม. ผนังกรุด้วยกระเบื้องตกแต่งตามภาพ
ระยะระหว่างอ่างล้างมือกับผนังด้านนี้ออกจะแคบไปสักหน่อยนะ คนอวบๆนี่เดินผ่านลำบากเลย
อ่างล้างมือของ Englefield รูปทรงออกเหลี่ยมๆหน่อย ไม่มีเคาน์เคอร์วางของและบ่าวางของ เราอาจจะต้องเอาชั้นวางของมาติดตั้งกับไว้เองในกรณีที่มีอุปกรณ์อาบน้ำเยอะๆนะ
ติดกับอ่างล้างมือคือพื้นที่อาบน้ำ มีเจาะช่องบนผนังไว้สามารถใช้เป็นที่วางของได้นิดหน่อย
ฝักบัวอาบน้ำของ Englefield ขนาดพอดีๆ
พื้นที่อาบน้ำประมาณ 1.15 x 0.6 เมตร อาจจะแคบไปนิด เวลาอาบทีนี่โถสุขภัณ์กับอ่างล้างมือคงเปียกไปด้วย ถ้าจะกั้นห้องอาบน้ำหรือติดม่านก็คงไม่ได้ด้วยระยะแค่นี้
อีกด้านเป็นโถสุขภัณฑ์ของ Englefield ระยะติดตั้งเหมาะสม
ห้องน้ำมีช่องแสงมาให้ 1 ชุดเป็นหน้าต่างบานเกล็ด ส่วนผนังด้านบนเป็นแบบตัดเฉียงๆแบบนี้เพราะเป็นพื้นที่ใต้บันไดนั่นเอง
หองน้ำที่ชั้น 1 ได้ดวงโคมซาลาเปามา 1 จุด
ไปชั้น 2 กันต่อเลยค่ะ
สำหรับพื้นที่บันไดจะได้ช่องแสงมา 2 จุด จุดแรงคือบานหน้าต่างเข้ามุมที่ใช้ร่วมกันกับห้องรับแขก อีกบานเป็นช่องแสงเล็กๆที่เราเห็นจากโรงจอดรถ
ตัวบันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กปิดหน้าด้วยลูกนอนวัสดุไม้พาราประสานสำเร็จรูป
ราวบันไดเหล็กมือจับไม้พาราประสานสีเข้ากันกับลูกนอน
โถงบันไดไม่มีดวงไฟติดให้ระหว่างทางเดินเลย เราอาจจะต้องติดกันเพิ่มนะ จะติดเป็นดวงเดี่ยวๆเกาะตามผนังหรือจะเป็นโคมไฟระย้าแบบที่เขาจัดมาให้ดูนี่ก็เก๋ไม่เบา
ชานพักบันไดเป็นแบบสามเหลี่ยม 2 ชุด อาจจะทำให้กะระยะเดินยากนิดหน่อย ก็ก้าวเดินด้วยความระมัดระวังนะคะ
ขึ้นมาถึงพื้นชั้น 2 มีตัวจบลามิเนต และปูด้วยพื้นลามิเนตทั้งชั้น
โถงบันไดหน้าห้อง แยกออกเป็นห้องต่างๆ 4 ห้อง ขวาคือห้องนอนใหญ่ ตรงกลางคือห้องน้ำ และด้านซ้ายเป็นห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง
พื้นที่โถงขนาดกระทัดรัดเดินกันได้สะดวก
หันกลับไปดูโถงบันไดโดยรวมๆกันอีกครั้ง สำหรับบ้านจริงจะมีไฟดาวน์ไลท์มาให้ 1 ดวงแต่ถ้าเราเลือกที่จะติดโคมระย้าแบบตัวอย่างแล้วไฟตรงนี้ก็ไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่นะ
เราไปดูห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องกันก่อน ห้องแรกคือห้องทางซ้ายติดกับบันได
พื้นห้องปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. เหมือนพื้นที่โถงบันไดมีตัวจบลามิเนตกั้นไว้ให้
ห้องแรกตกแต่งแบบเรียบร้อยๆด้วยโทนสีฟ้าอ่อน
ห้องนี้ได้ไฟดาวน์ไลท์มา 2 ดวง
มีช่องแสงมา 1 ชุดคือหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยว กระจกเขียวตัดแสง บานกรอบ UPVC
วางเตียงขนาด 3.5 ฟุตแบบเข้ามุม
พื้นที่ปลายเตียงเหลืออีกไม่มาก แค่พอดีๆเดินไปใส่ผ้าปูที่นอนได้ แต่พื้นที่คงไม่พอที่จะวางชั้นวางทีวี ก็สามารถใช้ทีวีแบบติดผนังได้ หรือถ้าไม่ดูทีวีจะติดชั้นวางของแบบลอยตัวก็น่าจะพอทำได้อยู่นะ
อีกด้านวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งมาแบบลงตัว ประตูตู้เสื้อผ้ามาแบบบานเลื่อนทำให้ประหยัดพื้นที่การใช้งานได้อีก
ระยะที่เหลือข้างเตียง
มาต่อที่ห้องนอนเล็กอีกห้องที่อยู่ติดกัน บานประตูห้องนอนทุกห้องเป็นบาน HDF สีขาวหน้าตาแบบนี้นะ
ห้องนี้สำหรับเด็กผู้ชายแน่นอน กัปตันอเมริกามาเต็มขนาดนี้
ได้ไปดาวน์ไลท์มา 2 ดวง เหมือนกับห้องลูกสาวเมื่อกี้
มีช่องแสงมาให้ 1 จุด
วางเตียงแบบ 3.5 ฟุต แบบเข้ามุม
พื้นที่ปลายเตียงติดชั้นวางของมาให้ดู
ซึ่งระยะปลายเตียงจริงๆแล้วเหลือน้อยมากก Built – in ปิดเต็มพื้นที่แบบนี้ก็เป็นอีกตัวเลือกนึง แต่จะเปลี่ยนผ้าปูที่นอนยากหน่อยนะ
ฝั่งหัวเตียงวางตู้เสื้อผ้าไว้ให้ดู
พื้นที่ข้างเตียงเหลือไม่เยอะ แต่พอให้แต่งตัวได้ เพราะฉะนั้นตู้เสื้อผ้าที่ใช้ควรเป็นบานเลื่อนแบบนี้แหละถูกต้องแล้ว เพราะถ้าเป็นบานเปิดก็ออกจะเกะกะไปหน่อย
ข้ามไปฝั่งตรงข้ามไปดูห้องนอน Master Bedroom ฝั่งหน้าบ้านกัน
ห้องนี้จะได้พื้นที่หน้ากว้างของบ้านไปทั้งหมด แบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่งห้องนอน
ฝั่งห้องนอนจะได้ไฟดาวน์ไลท์ไป 4 ดวง
และอีกด้านเป็นฝั่ง Walk – in Closet มีทางออกไประเบียงเล็กๆหน้าบ้านด้วย
จัดเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งจริงๆสามารถวางได้ถึงขนาดคิงส์ไซส์นะ เตียงควีนไซส์นอนสองคนอึดอัดไปนิดดด
บนหัวเตียงจะมีช่องแสงมาให้ 3 ชุด เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งแบบผลักออก
มือจับเป็นก้านจับแบบโยก
วางเตียงขนาดควีนไซส์ลงไปแล้วจะเหลือพื้นที่ข้างเตียงให้พอวางโต๊ะเล็กและโคมไฟข้างเตียงได้
ส่วนปลายเตียงวางทีวีแบบติดผนังพร้อมตู้เก็บของเตี้ยๆใต้ทีวี
ซึ่งระยะปลายเตียงที่เหลือจริงๆก็ประมาณเกือบๆ 90 ซม. พอจะวางของตามที่บ้านตัวอย่างจัดมาให้ดูได้แล้วยังเหลือพื้นที่ให้เดินได้สะดวกอยู่ค่ะ
อีกด้านของห้องเป็นส่วน Walk – in Closet จัดตู้เสื้อผ้าแบบติดผนังด้านนึงมาให้ แต่จริงๆถ้าตู้ชุดเดียวใส่เสื้อผ้าเราไม่หมด ก็ยังสามารถ Built ตู้เพิ่มตรงผนังด้านข้างที่ยังเหลืออยู่ได้นะ
พื้นที่ Walk – in Closet มีไฟดาวน์ไลท์มา 1 ดวง
ฝั่งหน้าบ้านเป็นประตูออกไปยังระเบียงหน้าบ้าน
ประตูออกไประเบียงหน้าบ้านเป็นประตูบานเลื่อนเดี่ยว กระจกเขียวตัดแสง บานกรอบ UPVC
มือจับและตัวล็อค
พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 1.40 x 0.6 เมตร พอออกไปยืนกินลมชมวิว จะวางอะไรก็คงไม่เหมาะนะ
ราวระเบียงเหล็กอบสีขาว
มาที่ห้องน้ำที่อยู่บริเวณโถงบันได
ห้องน้ำลดระดับลงไปประมาณ 5 ซม. พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีน้ำตาลอ่อนออกเหลือง
ห้องน้ำชั้น 2 นี้จะใช้ร่วมกันทั้ง 3 ห้องนอนเลยนะคะ เพราะไม่มีห้องไหนที่มีห้องน้ำในตัว ถ้าในเวลาเร่งด่วนคงต้องผลัดๆกันลงไปใช้ด้านล่างด้วย
ได้ไฟดาวน์ไลท์มา 1 ดวง
อ่างล้างหน้าแบบทางรีของ Englefield ไม่มีเคาน์เตอร์และบ่าวางของเหมือนห้องน้ำชั้นล่าง
พื้นที่อาบน้ำอยู่ติดกันกับโถสุขภัณฑ์ ไม่มีกั้นห้องอาบน้ำหรือก่อธรณีแยกส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้
พื้นที่อาบน้ำประมาณ 0.9 x 0.9 เมตร พอดีๆตัว
โถสุขภัณฑ์ของ Englefield วางด้านเดียวกับประตูห้องน้ำ ระยะการติดตั้งถูกต้องตามมาตรฐานแต่เนื่องจากอยู่ใกล้พื้นที่อาบน้ำก็คงจะเปียกเวลาอาบน้ำไปตามระเบียบ
สายชำระขนาดแอบเล็กไปนิด
สวิทช์ไฟทั้งหลังของ Schnider
ต่อมาเป็นแบบบ้าน Turquoise Plus ทาวน์โฮม 2 ชั้น 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ การวางผังของบ้านแบบนี้จะมีการจัดฟังก์ชั่นที่คล้ายๆกับแบบที่แล้วเพียงแต่จะได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น และพื้นที่หน้ากว้างของบ้านที่กว้างขึ้นทำให้สามารถจอดรถได้ 2 คันเต็มๆไม่เหมือนแบบที่แล้วที่จอดเต็มๆคันได้แค่ 1 คัน
จากแปลนเราจะเห็นว่ามีทางเข้าออกทางเดียวคือประตูหน้าบ้าน เมื่อเข้ามาแล้วจะเป็นพื้นที่รับแขก มีชุดโซฟาและทีวี จะเห็นว่าได้ระยะดูทีวีที่มากกว่าแบบที่แล้ว ต่อเนื่องจากห้องรับแขกเป็นห้องทานอาหาร ติดกับห้องทานอาหารคือห้องอเนกประสงค์และออกไปลานซักล้างด้านหลัง ส่วนห้องน้ำใต้บันไดและยันไดยังคงวางที่ตำแหน่งเดิม
ที่ชั้น 2 จะมีการวางผังคล้ายๆเดิมแตกต่างกันนิดหน่อยตรงที่ห้องนอนแต่ละห้องจะได้พื้นที่ใช้สอยมากขึ้นอีกหน่อยและห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัว
ภายนอกของตัวบ้านตกแต่งมาคล้ายๆแบบที่แล้ว โดยเน้นเส้นแนวดิ่งและใช้สี Earth Tone
พื้นที่จอดรถหน้าบ้านกว้างกว่าแบบที่แล้ว จอดได้แบบเต็มๆ 2 คัน
หน้าบ้านมีไฟดาวน์ไลท์มาให้ 2 ดวง
เฉลียงยาวเต็มหน้ากว้างบ้าน ยกพื้นประมาณ 8 ซม.
ประตูทางเข้าเป็นประตูบานเปิดเดี่ยว กระจกเขียวตัดแสงบานกรอบ UPVC สีขาว เพิ่งช่องแสงให้กับตัวบ้านอีก 1 จุดด้วยบานฟิกข้างประตู
มือจับแบบเซาะร่อง ตัวล็อคด้านนอกแบบใช้กุญแจไข และด้านในแบบตัวบิด
เข้ามาเจอกับส่วนแรกคือห้องรับแขก ที่มีพื้นที่ต่อเนื่องไปยังห้องรับประทานอาหาร
อีกด้านเป็นบันไดขึ้นไปชั้น 2 , พื้นที่วางทีวีและห้องอเนกประสงค์
พื้นที่ตั้งแต่ห้องครัวยาวไปจนถึงส่วนรับประทานอาหารจะได้ไฟดาวน์ไลท์ทั้งหมด 6 ดวง
ห้องรับแขกจะมีช่องแสง 1 จุดจากประตูทางเข้าบ้าน แต่ถ้าเป็นบ้านแปลงมุมจะได้ช่องแสงเพิ่มอีก 1 จุดเป็นหน้าต่างบานเลื่อนตามบ้านตัวอย่างค่ะ
ขนาดโซฟาจัดมาให้ดูเป็นขนาดประมาณ 2 – 3 ที่นั่ง ซึ่งเราสามารถวางโซฟาที่ใหญ่กว่านี้เพิ่มเป็น 4 ที่นั่งก็ยังไหวนะแต่จะไม่เหลือพื้นที่วางโต๊ะเล็กข้างโซฟา
พื้นที่สำหรับวางทีวี กว้างประมาณ 1.3 เมตร และลึกประมาณ 0.90 เมตร เหมาะสำหรับการวางโต๊ะวางทีวี หรือถ้าใครอยากทำผนังเบาเพิ่มมาก็ได้แต่อาจจะไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่นะ เพราะพื้นที่ตรงนี้ไม่ได้กว้างมาก ทำแล้วก็อาจจะไม่ได้เป็นจุดเด่นอะไรเท่าที่ควร
ระยะห่างระหว่างโซฟาและชั้นวางทีวีเหลือค่อนข้างเยอะ ประมาณ 3.5 เมตร สามารถวางทีวีจอใหญ่ๆได้เลย เลย แต่เนื่องจากพื้นที่วางทีวีถูกขนาบด้วยบันไดและห้องน้ำ เวลาจะหาซื้อทีวีและเครื่องเสียงต้องเช็คขนาดให้ละเอียดกันก่อนนะคะ
ต่อจากห้องรับแขกจะเป็นส่วนทานอาหาร ที่มีพื้นที่เชื่อมต่อกับห้องรับแขกเลยโดยไม่มีการกั้นห้อง ซึ่งถ้าใครชอบความเป็นสัดเป็นส่วนก็สามารถกั้นห้องเพิ่มได้ แต่แนะนำว่าควรกั้นด้วยระแนงหรือกระจก จะได้ไม่รู้สึกทึบจนเกินไปนะ
สำหรับห้องมุมจะได้ช่องแสงมา 2 จุด ตามบ้านตัวอย่าง แต่ถ้าเป็นแปลงมาตรฐานจะได้ช่องแสงมาแค่จุดเดียวคือหน้าต่างบานเลื่อนที่หลังบ้าน
พื้นที่นั่งรับประทานอาหารสามารถวางโต๊ะได้ 4 – 6 ที่นั่ง ถ้าดูจากที่ทางโครงการจัดมาให้ เราสามารถวางโต๊ะขนาดใหญ่กว่านี้ได้อีกหน่อยและเพิ่มเก้าอี้ที่หัวโต๊ะแต่ละด้าน
ระยะทางเดินระหว่างโต๊ะทานอาหารและห้องอเนกประสงค์เหลือประมาณ เมตรกว่าๆ เดินได้แบบสบายๆ
พื้นที่ด้านหลังจัดมาเป็นเคาน์เตอร์เตรียมอาหารและตู้เย็นเหมือนเดิม ก็จะแนะนำอย่างเดิมว่าแคบไป ใช้ไม่สะดวกหรอก
พื้นที่ลานซักล้างด้านหลังของบ้านหลังนี้จัดเป็นห้องครัว
และอีกครึ่งเป็นห้องซักรีด
ได้หลอดไฟฟลูออเรสเซ้นท์พร้อมฝาครอบมา 1 ดวง และไม่มีที่วางคอมเพรสเซอร์มาให้เหมือนเดิม
มาที่ห้องอเนกประสงค์
บานประตูที่ได้เป็นบาน HDF สีขาว
สำหรับบ้านหลังนี้จัดห้องอเนกประสงค์เป็นห้องนอน ซึ่งห้องนอนที่ชั้นล่างนี้ถือเป็นไอเดียที่ดีสำหรับบ้านไหนที่มีสมาชิกครอบครัวเป็นผู้สูงอายุ, หรือไม่สามารถใช้งานบันไดได้
ซึ่งถ้าจะจัดเป็นห้องนอนแล้วต้องขอบอกว่าห้องนี้ค่อนข้างเล็ก มีขนาดประมาณ 7.5 ตารางเมตรเท่านั้น เพราะฉะนั้นเตียงที่เหมาะสมก็คงไม่พ้นเตียงขนาด 3.5 ฟุต วางเข้ามุมตามตัวอย่าง
พื้นที่ปลายเตียงเหลือแค่พอให้เข้าไปใส่ผ้าปูที่นอนได้
อีกด้านก็จัดเป็นตู้เสื้อผ้า และควรเป็นบานเลื่อนด้วยนะ จะได้ไม่เกะกะเวลาใช้งาน
พื้นที่เหลือสำหรับแต่งตัวเหลือพอขยับๆตัวได้
สำหรับห้องอเนกประสงต์นี้จะได้ไฟดาวน์ไลท์มา 2 ดวง
ห้องน้ำของบ้านหลังนี้จะไม่มีการลดสเต็ป 2 ชั้นแล้ว บานประตูที่ได้เป็นบาน UPVC
ห้องน้ำลดระดับลงไปประมาณ 5 ซม.
ได้โคมซาลาเปามา 1 ดวง
พื้นและผนังห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม.สลับกับกระเบื้องตกแต่งตามภาพ
อ่างล้างมือของ Englefield ขนาดพอดีๆ
ติดกับอ่างล้างมือเป็นพื้นที่อาบน้ำ
ขนาดของพื้นที่อาบน้ำประมาณ 0.9 x 1 เมตร
อีกด้านเป็นพื้นที่วางโถสุขภัณฑ์
โถสุขภัณฑ์ของ Englefield ตำแหน่งติดตั้งถูกต้องตามมาตรฐาน แต่ที่วางกระดาษชำระอาจจะเปียกบ้างเวลาอาบน้ำ
บันไดขึ้นชั้น 2 อยู่ติดกับที่วางทีวี
มีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานฟิกบริเวณชานพักบันได
บันไดโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดหน้าด้วยลูกนอนไม้ยางพาราประสาน
ตัวบันไดค่อนข้างชัน มีชานพัก 3 เหลี่ยม 2 จุด
พื้นชั้น 2 ปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม ทั้งชั้น
ขึ้นมาที่ชั้น 2 มีจำนวนห้องหลักๆเท่าแบบแรก แต่จะมีฟังก์ชั่นที่เพิ่มเข้ามาคือห้องพระและห้องน้ำส่วนตัวใน Master Bedroom
สำหรับห้องพระจะเป็นชั้นลอยอยู่ที่โถงบันไดแบบนี้ ส่วนพื้นที่เหลือข้างบันไดนั้นเราสามารถจะเอาตู้ใส่ของเล็กๆมาวางก็ได้นะคะ
พื้นที่ด้านบนของจริงจะเป็นพื้นโล่งๆ และอากาศบนนี้จะร้อนกว่าด้านล่างหน่อยนึง
จากห้องพระมองลงไปที่โถงบันได
ลงมาจากห้องพระไปดูห้องนอนแรกที่ติดกับบันไดห้องพระทางขวามือคือ Master Bedroom
เนื่องจากห้องนอนห้องนี้ได้พื้นที่หน้ากว้างของบ้านไปทั้งหมดจึงทำให้แบ่งได้เป็น 2 ส่วนคือส่วนห้องนอน
ได้ไปดาวน์ไลท์มา 4 ดวง
และส่วน Walk – in Closet
ห้องนี้วางเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดู ซึ่งอย่างที่เห็นว่าพื้นที่ยังเหลือ เราจะเปลี่ยนเป็นที่นอนคิงส์ไซส์ก็ได้จะได้นอนสบายๆ
บนหัวเตียงมีช่องแสงมาให้ 3 จุดเหมือนเดิม
พื้นที่ข้างเตียงที่เหลือสามารถวางโต๊ะวางโคมไฟเตี้ยๆได้
ส่วนปลายเตียงที่เป็นพื้นที่สำหรับวางทีวีจะวางได้แบบเอียงซ้ายนิดนึงนะ เพราะติดประตูอยู่
พื้นที่ปลายเตียงที่เหลือหลังวางโต๊ะวางทีวีแล้วก็พอเดินได้อยู่
มาดูทางฝั่ง Walk – in Closet กันบ้าง
ทางฝั่งนี้จะได้ไฟดาวน์ไลท์มา 1 จุด
ด้านขวาเป็นระเบียงฝั่งหน้าบ้าน
พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาแบบหยาบ ขนาดระเบียงพอๆกับแบบที่แล้วแต่จะมีด้านยาวมากกว่าหน่อย ถามว่าจะวางต้นไม้ได้มั้ย ..ถ้าอยากปลูกจริงๆแนะนำให้ปลูกพวกกระถางเล็กๆแบบแขวนได้จะดีกว่า
ราวระเบียงเหล็กสีขาวลวดลายตามภาพ
อีกด้านเป็นโต๊ะเครื่องแป้งและห้องน้ำส่วนตัวในห้อง Mster Bedroom
ห้องน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้งด้วยการก่อธรณีขึ้นมาสูงประมาณ 8 ซม. มีช่องแสง 1 จุด เป็นบานกระทุ้งไว้รับแสงธรรมชาติและระบายอากาศ
พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม.
อ่างล้างมือของ Englefield
โถสุขภัณฑ์ของ Englefield เช่นเดียวกัน
พื้นที่อาบน้ำแยกไว้เป็นสัดเป็นส่วน ใครใคร่จะกั้นเป็นห้องอาบน้ำก็กั้น ใครจะปล่อยไว้แค่นี้ก็ไม่เสียหายเพราะดูจากระยะแล้วน้ำคงไม่กระเซ็นออกมาเปียกด้านนนอกเท่าไหร่
พื้นที่อาบน้ำเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสขนาดประมาณ 0.90 x 1 เมตร
ออกมาจากห้องนอนใหญ่ก็จะเจอห้องน้ำอีกห้อง
ห้องนี้จะเป็นห้องที่ห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องจะต้องใช้ร่วมกัน ห้องน้ำห้องนี้ลดระดับลงไปประมาณ 3 ซม. และไม่ได้กั้นแยกส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้แต่ด้วยลักษณะพื้นที่ทำให้ส่วนอาบน้ำโดนแยกออกจากโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือ ดูเป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น
อ่างล้างมือของ Englefield
โถสุขภัณฑ์ของ Englefield
พื้นที่อาบน้ำขนาดกระทัดรัด ฝักบัวของ Englefield
พื้นที่อาบน้ำประมาณ 1.2 x 1 เมตร
ได้ไฟดาวน์ไลท์มา 1 ดวง
ไปดูห้องนอนเล็กฝั่งหลังบ้านกันบ้าง
เริ่มที่ห้องฝั่งขวามือ
จัดมาเป็นห้องสำหรับลูกชายที่เริ่มโตหน่อย มีความขรึมๆ
ห้องนี้ได้ไฟดาวน์ไลท์มา 2 จุด
มีช่องแสง 2 จุด สำหรับแปลงมุมตามภาพ แต่ถ้าเป็นแปลงมาตรฐานก็จะมีเฉพาะบานหลังบ้านนะ
เนื่องจากห้องนี้มีเนื้อที่มากกว่าแบบที่แล้ว จึงวางเตียงขนาดควีนไซส์ได้แบบสบายๆ
พื้นที่ปลายเตียงยังเหลือให้วางตู้เก็บของและ Built – in โต๊ะเขียนหนังสืออีก
หลังวางเฟอร์นิเจอร์นั่นนี่แล้วยังมีพื้นที่เหลือให้เดินไปเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้สบายๆ
ฝั่งปลายเตียงอีกด้านวางตู้เสื้อผ้าไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง
ฝั่งหัวเตียงอีกด้าน
พื้นที่ข้างเตียงที่เหลือจะวางตู้เล็กๆแบบนี้ก็ได้ หรือถ้าใครมีของเยอะ จะวางแบบหน้ากว้างยาวกว่านี้ก็ยังได้
ห้องนอนเล็กอีกห้อง
ห้องนอนห้องนี้จัดมาแบบเรียบร้อย หวานๆ
ห้องนี้ได้ไฟดาวน์ไลท์มา 2 ดวง
มีช่องแสง 1 จุด ฝั่งหลังบ้าน
ฝั่งปลายเตียงวางชั้นวางแบบ Buit – in เล็กๆไว้
พื้นที่ด้านข้างเตียง วางโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าได้ขนาดประมาณนี้
การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ตามแบบห้องตัวอย่างนีควรใช้ตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อนเพราะจะได้ไม่ต้องเกะกะพื้นที่ของโต๊ะเครื่องแป้ง
ราคา (กุมภาพันธ์ 2559)
** เงินจอง : 10,000
**ทำสัญญา : 30,000
**ค่าสาธารณูปโภคในโครงการ : 38 บาท/ตารางวา
**ที่ดินเพิ่ม-ลด : ตารางวาละ 55,000 บาท
โปรโมชั่นอื่นๆ โปรดสอบถามทางโครงการ*
บทสรุปโครงการ
ทำเลโดยรอบ โครงการ Golden Town รัตนาธิเบศร์ – รถไฟฟ้าบางพลู เป็นโครงการทาวน์โฮมที่อยู่ในทำเลที่มีความเป็นส่วนตัวอยู่มาก ด้วยตัวโครงการที่ตั้งอยู่ในซอยที่ส่วนใหญ่ยังเป็นชุมชนดั้งเดิม บ้านในละแวกนั้นส่วนใหญ่ก็จะเป็นบ้านเดี่ยวๆ ยังไม่มีโครงการจัดสรรขึ้นมาเยอะ และยังมีที่ดินเปล่าเหลืออยู่มาก ทำให้บริเวณรอบๆโครงการไม่มีความวุ่นวาย จึงเหมาะสำหรับคนที่ชอบอยู่บ้านที่บรรยากาศสงบ ท่ามกลางธรรมชาติ
แต่ในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของบริเวณนี้อาจจะน้อยไปนิด เพราะรอบๆโครงการไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกหรือร้านค้าใดๆไว้ให้ฝากปากท้อง ความอุดมสมบูรณ์จะอยู่รอบนอกซะเป็นส่วนใหญ่ ต้องอาศัยขับรถเอา ตลาดที่อยู่รอบๆบริเวณนี้จะมีตลาดกลางบางใหญ่, ตลาดเจ้าพระยาและตลาดกลางบางใหญ่บนถนนกาญจนาภิเษก สำหรับพวก Hyper Market จุดที่ใกล้ที่สุดจะเป็น BigC บนถนนกาญจนารองลงมาก็เป็น Lotus บางใหญ่ ส่วนห้างใหญ่ๆ ก็มี Central Westgate, Index Living Mall นอกจากนั้น Community Mall ก็จะมี The Walk, The Crystal
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว เดินทางได้สะดวกเลยค่ะ เพราะถนนบางกรวยไทรน้อยเป็นถนนที่สามารถลัดไปถนนหลักๆได้หลายสายเข้าออกเมืองก็สะดวก เริ่มตั้งแต่ถนนชัยพฤกษ์ที่สามารถเชื่อมกับถนนกาญจนามุ่งหน้าไปบางขุนเทียน, ถนนรัตนาธิเบศร์ไปแยกแคราย, ถนนราชพฤกษ์ไปฝั่งธนบุรีและ ถนนนครอินทร์
การเดินทางโดยรถสาธารณะ คนที่ไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัวตอนนี้ก็ค่อนข้างลำบากหน่อยเพราะตัวโครงการอยู่ในซอยที่ไม่มีรถโดยสารสาธารณะใดๆวิ่งผ่าน แม้แต่ Taxi และพี่วิน ถ้าจะออกไปหน้าปากซอยก็ต้องให้พี่ยามเค้าโทรเรียกพี่วินให้มารับที่โครงการ แต่ในอนาคตความสะดวกในการเดินทางจะมีมากขึ้นเมื่อรถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้ใช้บริการ เพราะตัวสถานีอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าสถานีบางพลูประมาณ 700 เมตร และทางโครงการก็ยังมีรถ Shuttle Bus คอยรับส่งจากโครงการไปสถานีรถไฟฟ้าด้วย
แบบบ้าน การออกแบบโดยรวม ถือว่าทำออกมาได้ดี การใช้งานจัดวางเฟอร์นิเจอร์เป็นระยะที่เหมาะสม ไม่มีส่วนไหนที่ดูจะไม่ลงตัว ฟังก์ชั่นการใช้งานให้มาครบถ้วนยกเว้นห้องครัวที่ไม่มีมาให้ต้องไปต่อเติมกันเอาเอง และห้องน้ำเกือบทุกห้องไม่สามารถกั้นส่วนเปียกส่วนแห้งได้ ซึ่งเป็นข้อจำกัดทางพื้นที่ที่มีน้อย ส่วนพื้นที่ใช้สอยในห้องนอนแต่ละห้องจัดมาได้พอดีๆ สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นๆได้ครบไม่อึดอัดจนเกินไป
วัสดุ รวมๆแล้วก็จัดว่าพอใช้ได้ค่อนไปทางดีสำหรับบ้านราคา 2-3 ล้านและลักษณะโครงการทาวน์โฮมแบบนี้ ได้ของคุณภาพบ้านเดี่ยว เริ่มตั้งแต่ประตูหน้าบ้านและหน้าต่างทุกบานได้กระจกใสเขียวตัดแสงบานเลื่อนเดี่ยว บานกรอบประตูเป็น UPVC สีขาว ส่วนประตูในบ้านได้เป็นบาน HDF สีขาว ห้องน้ำได้เป็นบาน UPVC สีขาว ซึ่งมีคุณภาพดีกว่าอลูมิเนียมทั่วไป พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. พื้นชั้น 2 และ 3 เป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม.พื้นห้องน้ำและระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม.ผนังจะได้ฉาบเรียบทั้งหลังพร้อมบัวไม้สังเคราะห์ ดวงไฟได้เป็นแบบดาวน์ไลท์ทั้งหลัง ยกเว้นห้องน้ำบางห้องที่ไม่มีฝ้าก็จะได้เป็นโคมซาลาเปามา สุขภัณฑ์ในห้องน้ำเป็นของ Englefield ห้องน้ำไม่มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้แต่จะมีการก่อธรณีสูงขึ้นมาให้ในบางห้อง
สาธารณูปโภค ส่วนกลาง มี Club House, ฟิตเนส (ซึ่งปัจจุบันยังเป็น Sales Office) , สระว่ายน้ำคลอรีนขนาด 16 x 20 เมตร ลึก 1.2 เมตร , สวนสาธารณะขนาดประมาณ 227.5 ตร.วา ลงต้นไม้ให้ร่มเงา มีที่นั่งเล่นและทางเดินอยู่บริเณกลางโครงการ ถนนหลักโครงการกว้าง 12 – 15 เมตร ถนนซอยกว้าง 8 ม.
ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยมี ร.ป.ภ. ตลอด 24 ชม. ร้ัวรอบโครงการสูง 2 ม. ประตูทางเข้าโครงการคัดกรองลูกบ้านด้วย Sticker แปะหน้ารถส่วน Visitor ต้องแลกบัตรกับรปภ. มีไม้กระดก ตรงประตูเข้าออกติดตั้ง CCTV ไว้ฝั่งละ 2 ตัว
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.0 | มีข้อดีตรงที่มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง เหมาะเป็นที่อยู่อาศัย แต่ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบน้อยไปหน่อย |
การเดินทาง ใช้รถ | 8.0 | เข้า – ออกเมืองได้สะดวก มีทางลัดไปถนนใหญ่ๆหลายสาย |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 6.5 / 8.0 | ขอแยกเป็น 2 ช่วงคือ
|
บ้านและวัสดุ | 8.0 | ออกแบบมาน่าอยู่อาศัย พื้นที่ใช้สอยจัดมาได้ลงตัว สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นให้เข้ากับผู้พักอาศัยได้ วัสดุของบ้านค่อนข้างดี |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 7.5 | มีสวนสาธารณะ 1 จุด สระว่ายน้ำและ Club House พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย ติดตั้งกล้อง CCTV ที่ทางเข้า-ออก รปภ.เตลอด 24 ชม. |
ความคุ้มค่ากับราคา | 7.5 | ราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท ถือว่ามาตรฐานกับวัสดุที่ได้ ฟังก์ชั่นครบ Facilities พอใช้ เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.58 / 7.83 | พอใช้ดี |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
TEL : 092-820-7155
WEBSITE : คลิกที่นี่
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
แสดงความคิดเห็น