EP.1254 รีวิว คอนโด กรู๊ฟ รัชดา-พระราม 9 Groove Ratchada-Rama 9
Written by : Nin Yanin Phueksoongnoen
สวัสดีค่ะผู้อ่านชาว Homenayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพามาชมไปชมคอนโด Groove รัชดา-พระราม 9 ซึ่งเป็น New Urbanized Condo โครงการใหม่จาก Divine Development กันค่ะ
ตัวโครงการตั้งอยู่บนแหล่งที่อยู่อาศัยมีแสงสีเสียงและความคึกคัก ในซอยรัชดาภิเษก 3 หรือซอยข้างสถานทูตจีน แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม.
เดินทางสะดวกเชื่อมต่อถนน 3 เส้นหลัก ถนนพระราม 9, ถนนวิภาวดี และ ถนนดินแดง ใกล้ทางด่วนหลัก 2 สาย ทางพิเศษศรีรัช และ ดอนเมืองโทลล์เวย์
รายล้อมด้วยอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ทั้ง Super Tower และ G Tower และห้างใหญ่ชั้นนำ ทั้งเซ็นทรัลพระราม 9, Fortune Town, Show DC เชื่อมเข้าสู่ย่าน CBD ชั้นในอย่างอโศกและสุขุมวิทได้ง่าย ใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีพระราม 9 950 เมตร และ MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรม 900 เมตร เพียง 1 สถานี ถึง Airport Link สถานีมักกะสัน
กรู๊ฟ รัชดา-พระราม 9 เป็นคอนโด Low rise สูง 8 ชั้นมี 1 อาคาร บนพื้นที่โครงการขนาด 357 ตร.วา. กับจำนวนห้องพักอาศัยทั้งหมดเพียง 154 ยูนิต มีห้องพักให้เลือกแบบ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ขนาดเริ่มต้นที่ 22.00 – 44.00 ตร.ม. กับคอนเซ็ปต์ Modern Lively พร้อม Function สุดล้ำด้วย Innovative Living ที่ตกแต่งครบด้วยเฟอร์นิเจอร์ Trendy and Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่ ผสานไปกับเทคโนโลยี Home Automation เริ่มก่อสร้างในไตรมาส 3/2562 และ คาดว่าแล้วเสร็จในไตรมาส 4/2563
พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ภายในโครงการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี อาทิ Work Capsules, Indoor – Outdoor Lobby Area, Co – Working Space, Groove Box + Vending Machine Zone, Move Up Studio, Sunbed Seating, Escalated Sky Pool สระว่ายน้ำระบบน้ำแร่, Jacuzzi, Upbeat Fitness, Sunken Seat, Private Meeting Room, Co – Kitchen, Boosting Track, Sky Hanging Couch และ Amphi – Theater Space
โครงการมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน ใช้ประตูห้องระบบ Digital Door Lock, Security Access Card, กล้อง CCTV ในตัวอาคารและรอบอาคาร, ระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้, อุปกรณ์ตรวจจับควัน และ เจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. โดยทางโครงการจะเปิด Pre – sale ในวันที่ 24 พ.ย. 61 ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท* (พ.ย. 61)
ฟังคร่าวๆ ก็ดูน่าสนใจแล้วใช่มั้ยคะ เรามาตามอ่านรายละเอียดอื่นๆ ที่ด้านล่างนี้กันได้เลยค่ะ
ลงทะเบียนรับส่วนลด 200,000 บาท คลิก : http://bit.ly/2Jq6J2x
| ชื่อโครงการ | กรู๊ฟ รัชดา-พระราม 9 Groove Ratchada-Rama 9 |
| เจ้าของโครงการ | Divine Development |
| เนื้อที่ทั้งหมด | ประมาณ 357 ตร.วา. |
| จำนวนตึก | 1 อาคาร รูปทรง L-SHAPE |
| จำนวนชั้น | 8 ชั้น |
| จำนวนห้อง | 154 ยูนิต |
| ลักษณะ และขนาดห้อง |
|
| ที่จอดรถทั้งหมด |
|
| จำนวนลิฟต์ | 2 ตัว |
| โซน | เขตดินแดง |
| ขนส่งสาธารณะ |
|
| รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
| ที่ตั้ง | ซอยรัชดาภิเษก 3 แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. |
| กำหนดการ |
|
| ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าแล้วเสร็จ ไตรมาส 4/2563 |
| ราคา | เริ่มต้น 2.39 ล้านบาท* (ราคาวัน Pre – sale) |
| ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | เริ่มต้น ประมาณ 108,000 บาท/ตร.ม. |
| ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
| สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถานและอื่นๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
|
| สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
| จุดเด่นของโครงการ | ทางโครงการเชื่อว่าศักยภาพของทำเลที่ตั้งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในยุคนี้ โครงการกรู๊ฟคอนโด จึงตั้งอยู่ใจกลางแหล่งธุรกิจขนาดใหญ่ และเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า หรือทางด่วน จะเข้าเมือง หรือออกนอกเมืองก็สะดวก ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น มาพร้อมกับการออกแบบอย่างลงตัว ด้วยแนวคิดแบบ Modern Lively ทำให้คุณมีชีวิตชีวา แต่งแต้มสีสรรค์ในการใช้ชีวิตแต่ละวัน ไม่ซ้ำใครกับ Function สุดล้ำด้วย Innovative Living ให้คุณสุนทรีกับการพักผ่อนได้ทุกวันด้วยส่วนกลางที่ครบครัน |
คอนโดโดยรอบ MRT พระราม 9
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
รัชดา ซอย 3 แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม.
พิกัด : 13.763226, 100.563223
แผนที่จากทางโครงการ
ทำเลที่ตั้ง โครงการ Groove รัชดา-พระราม 9 ตั้งอยู่ในซอยรัชดาภิเษก 3 หรือที่เรียกว่าซอยข้างสถานฑูตจีน อยู่ระหว่าง MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรม และ สถานีพระราม 9 ทำเลนี้เป็นย่านที่อยู่อาศัย และเป็นทำเลทองที่กลายเป็น New Central Business District ติดถนนใหญ่จะเป็นอาคารสูง ทั้งอาคารสำนักงาน และคอนโดมิเนียม High rise, แหล่งบันเทิง, แหล่งช้อปปิ้ง และแหล่งการศึกษา ลึกเข้าไปในซอยจะเป็นชุมชนบ้านพักอาศัยของคนในละแวกนั้นค่ะ
นอกจากจะเป็นทำเลที่เป็นศูนย์รวมของอาคารสำนักงานแล้ว ทำเลนี้ยังเป็นศูนย์รวมด้านการคมนาคมที่สำคัญของกรุงเทพฯ เพราะมีการเชื่อมต่อถนนสายหลัก ทั้ง เพชรบุรี, สุขุมวิท, ดินแดง, พระราม 9, วิภาวดี – รังสิต ฯลฯ รวมถึงเป็นจุดที่เชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าทั้ง BTS, MRT และ Airport Link อีกด้วย
การเดินทางด้วยรถยนต์ การเดินทางเส้นหลักๆ จากโครงการต้องเป็นถนนรัชดาภิเษกแน่นอน ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสายหลักอื่นๆ ได้ทั้ง พระราม 9, ดินแดง, เพชรบุรี, สุขุมวิท, วิภาวดี – รังสิต, พหลโยธิน, ลาดพร้าว, ประดิษฐ์มนูธรรม ฯลฯ ซึ่งแต่ละเส้นที่เชื่อมไปจะเป็นถนนขนาดใหญ่ วิ่งได้สะดวก แต่การจราจรนั้นก็ค่อนข้างจะหนาแน่นอยู่ตลอดเวลา เพราะตรงนี้เป็นชุดเชื่อมต่อระหว่าง NCBD กับ CBD ชั้นในค่ะ
คนที่ขับรถอยู่ในย่านนี้เป็นประจำจะไม่ค่อยวิ่งทางหลักกันตรงๆ เท่าไหร่หากไม่จำเป็น โดยมากจะไปหาทางลัดเลาะออกตามซอยไปทะลุตามถนนเส้นอื่นๆ ซึ่งตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยรัชดาภิเษก 3 ภายในซอยจะมีทางลัดเลาะไปออกถนนสายหลักอื่นๆ ได้โดยไม่ต้องผ่านถนนรัชดาภิเษกอยู่แล้ว นอกจากนี้ก็จะใช้ทางด่วนเป็นตัวช่วยในการเดินทางเอาค่ะ
ขาเข้าเมือง จากซอยรัชดาภิเษก 3 ออกมากลับรถที่เส้นรัชดาตรงเลยแยกพระราม 9 ไปก็เข้าสู่ถนนอโศก – ดินแดงแล้วค่ะ จะสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนอโศกมนตรีเพียง 2.0 กม.เท่านั้น และยิงยาวเข้าถนนสุขุมวิทได้เลยค่ะ และจากถนนอโศก – ดินแดงสามารถเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าถนนเพชรบุรี เชื่อมไปยังย่านแห่งการสังสรรค์สุดชิคอย่าง ทองหล่อ-เอกมัย ได้ง่ายด้วย
ส่วนขาออกนอกเมือง จากแยกพระราม 9 จะสามารถเชื่อมสู่ถนนดินแดง ต่อไปยัง พหลโยธิน, วิภาวดี – รังสิต, ลาดพร้าว หรือไปทางถนนประดิษฐ์มนูธรรม, รามคำแหง สามารถไปถึง ห้าแยกลาดพร้าว, ประชาชื่น หรือบางกะปิได้ไม่ยาก ซึ่งแต่ละเส้นที่เชื่อมไปจะเป็นถนนขนาดใหญ่ค่ะ วิ่งได้สะดวก
ทางด่วน โชคดีมากที่ตัวโครงการตั้งอยู่ใกล้จุดขึ้นทางพิเศษศรีรัชถึง 2 ด่าน ฝั่งทางตะวันออกคือด่านอโศก 1 ซึ่งจากจุดนี้จะสามารถเชื่อมต่อไปยัง ทางพิเศษเฉลิมมหานคร และทางยกระดับอุตราภิมุข หรือ ดอนเมืองโทลล์เวย์ ไปได้ทั้งทาง ปากเกร็ด, รังสิต และ โซนพระราม 2 ได้สะดวก (ภาพกราฟฟิกจาก Google Map ณ เวลา 19.30น.)
ฝั่งตะวันตกคือด่านพระราม 9 สามารถเชื่อมต่อไปยัง ทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์, ทางพิเศษบูรพาวิถี และ มอเตอร์เวย์ (กรุงเทพ-ชลบุรี สายใหม่) ไปทางรามอินทรา, บางนา หรือวิ่งออกชลบุรี ได้สะดวกอีกเช่นกันค่ะ (ภาพกราฟฟิกจาก Google Map ณ เวลา 19.30น.)
ความอุดมสมบูรณ์ จุดเด่นของทำเลนี้ก็คือ มีความอุดมสมบูรณ์ที่สามารถรองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการใช้ชีวิต, แสงสีเสียง, แหล่งช้อปปิ้ง และอาหารการกิน ก็มีอยู่หลายรูปแบบให้เลือก เนื่องจากต้องคอยรองรับทั้งพนักงานออฟฟิศ, ผู้คนที่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม, บ้านส่วนตัว และแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ในละแวกนั้น ซึ่งก็ต่างมีรูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันออกไป
ใกล้แยกพระราม 9 ถือเป็น Prime Zone ของย่านนี้เลยค่ะ เพราะจะเป็นที่ตั้งของโรงแรม, ห้างใหญ่ และอาคารสำนักงาน เพราะเป็นย่าน NCBD ที่เชื่อมต่อกับ CBD ชั้นในอย่างอโศกและสุขุมวิท ไม่ว่าจะเป็น Fortune Town, เซ็นทรัลพระราม 9, RS Tower, AIA, SET, True Tower, อาคารไทยประกันชีวิต, สถานฑูตจีน ซึ่งในอนาคตจะมี เมกะโปรเจ็กท์ Bangkok Midtown อยู่ทั้ง 2 ฝั่งถนนรัชดาภิเษก เชื่อมกันด้วย Sky Walk อยู่ใกล้ MRT ศูนย์วัฒนธรรม อีกทั้ง G Tower, The Nine Tower, Unilever ซึ่งในอนาคตจะมีเมกะโปรเจ็คท์ The Grand Rama IX เป็นโครงการมิกซ์ยูส Landmark สูงอันดับ 1 ในอาเซียนอีกด้วยค่ะ
มองบนเส้นรัชดาภิเษกก็มีห้างใหญ่ๆ อยู่หลายห้างแล้ว ทั้งแบบที่เป็น Life Style เฉพาะตัวอย่าง The Street ภายในมีร้านค้าที่เปิดตลอด 24 ชม. ข้างๆ กันมี Big C Extra เป็น Hypermarket เหมาะสำหรับซื้อของเข้าบ้าน ตรงข้ามกับ MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรมมี Esplanade และตลาดนัดรถไฟ อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยสถานบังเทิง และอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาล, สถานศึกษา อีกทั้งศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งอยู่ข้างๆ กันกับ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน รวมถึงวัดพระราม 9 เรียกว่าในทำเลเดียวครอบคลุมครบทุกด้านเลยค่ะ
นอกจากนี้ในซอยรัชดาภิเษก 3 เองก็มีบรรยากาศเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยที่คึกคักมากๆ ภายในซอยจะมีร้านค้าและร้านอาหารอยู่เยอะให้เลือกทานกันได้ไม่ซ้ำทุกวัน ถ้าจะหาเป็นร้านสะดวกซื้อก็มีนะคะอย่าง 7 – Eleven เพื่อนคู่ใจของคนไทย เดินจากหน้าโครงการไปเพียง 75 เมตรเท่านั้น
The Grand Rama 9 เป็นเมกะโปรเจ็คท์ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตัวโครงการ ที่จะทำให้ย่านพระราม 9 นี้กลายเป็น New CBD ของกทม.นั่นเองค่ะ โดยจะมีตึกที่สูงที่สุดในประเทศและในอาเซียนหรือ Super Tower อยู่ที่นี่ด้วย เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่มีทั้งอาคารสำนักงาน, ห้างสรรพสินค้า, โรงแรม และคอนโดมิเนียมสำหรับพักอาศัย ซึ่งตอนนี้ก็ได้เริ่มการก่อสร้างกันแล้ว
โครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ 73 ไร่ มีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 1.2 ล้าน ตารางเมตร ทำให้รองรับคนได้สูงถึง 2-3 แสนคนต่อวัน โดยมีมูลค่าโครงการรวมกว่า 100,000 ล้านบาท ประกอบไปด้วยรูปแบบโครงการต่างๆ ได้แก่ ที่พักอาศัย (เบ็ล แกรนด์ พระราม 9), อาคารสำนักงาน (จีแลนด์ ทาวเวอร์ – เดอะ ไนน์ ทาวเวอร์ส – สำนักงานใหญ่ของยูนิลิเวอร์), ศูนย์ประชุมและห้องจัดเลี้ยง, ช็อปปิ้งอาเขต (เซ็นทรัล พลาซ่า แกรนด์ พระราม 9 – เดอะ ช็อปปส์ แกรนด์ พระราม 9) และ โรงแรมหรู โดยจีแลนด์บริหารและพัฒนาโครงการต่างๆ ดังกล่าว จึงทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบ จากนั้นจีแลนด์จึงนำเม็ดเงินส่วนนี้มาพัฒนาโครงการ The Super Tower ซึ่งจะกลายเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของประเทศไทย ที่เป็นทั้งศูนย์กลางธุรกิจชั้นนำและสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกที่ทุกคนจะต้องมาสัมผัสสักครั้งในชีวิต อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
และในอนาคตอันใกล้นี้ พื้นที่สีเขียวแปลงใหญ่บริเวณ แอร์พอร์ตลิงก์มักกะสัน 497 ไร่ กำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เรียกว่าโครงการยักษ์ระดับประเทศที่เคยพับเอาไว้ได้ถูกรื้อกลับมาอีกครั้งกับโครงการ “มักกะสันคอมเพล็กซ์” ที่คราวนี้มาในเวอร์ชั่นของ คสช. (ซึ่งกลุ่มนายทุนมาริน่าเบย์แซนด์ที่ทำคาสิโนยักษ์ที่สิงคโปร์ก็อยากได้ที่ดินตรงนี้เช่นกัน อ่านรายละเอียดเพิ่มได้ ที่นี่ ), ขอบคุณภาพประกอบจาก Realist
โดยจะแบ่งที่ดินมักกะสันเป็น พิพิธภัณฑ์ 30 ไร่ สวนสาธารณะ 150 ไร่ พื้นที่ในการพัฒนาเชิงพาณิชย์ 140 ไร่ ส่วนที่เหลืออีก 177 ไร่ จะมีการพัฒนาเชิงพาณิชย์ในอนาคตนะคะ ก็คือยังไงฝั่งตรงข้ามนี่มีสวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ และอาคารเชิงพาณิชย์มากมายแน่นอน ก็ถือว่าเป็นทำเลที่เหมาะจะเก็งกำไรในการขายและอยู่อาศัยเองที่มีศักยภาพและหาได้ยากทีเดียว เพราะที่ดินย่านนี้โดยรอบก็ถูกจับจองเกือบหมดแล้ว และราคาก็พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ เพราะในอนาคตจะมีสวนสาธารณะมักกะสันซึ่งมีความน่าจะเป็นว่าเป็นแลนด์มาร์คอีกจุดหนึ่งของกรุงเทพฯ ในอนาคตอยู่นั่นเอง โดยที่ดินมักกะสันติดแอร์พอร์ตลิงก์มักกะสันนี้อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 700 เมตรเท่านั้น
อีกจุดนึงติดแยกเพชรบุรี ห่างโครงการไปประมาณ 1.1 กม. จะมีโครงการ สิงห์ คอมเพล็กซ์ (Singha Complex) ซึ่งเป็น Community Mall + Office Mix Use ขนาดยักษ์ที่มูลค่าลงทุนกว่า 10,000 ล้าน บาท ภายในประกอบด้วย อาคารสำนักงาน, พื้นที่คอนเสิร์ตฮอลล์, Shopping mall, โรงแรม และ คอนโดมิเนียมภายในตัว โครงการมีแผนจะสร้างเสร็จในอีกประมาณ 1-2 ปีต่อจากนี้ เมื่อสร้างเสร็จแล้วก็จะเป็นแหล่งทำงานขนาดใหญ่อีกแหล่ง จากตัวโครงการไปก็ง่ายนิดเดียว
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ เนื่องจากทำเลนี้เป็นศูนย์รวมด้านการคมนาคมของกรุงเทพฯ มีการเชื่อมต่อถนนสายหลักหลายเส้น จึงทำให้มีรถสาธารณะหลายสายวิ่งผ่านตลอดทั้งวันเช่นกัน อีกทั้งยังเป็นจุดที่เชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าทั้ง BTS, MRT และ Airport Link จากภาพกราฟฟิกจะเห็นว่าโดยรอบทำเลนี้จะมีรถไฟฟ้าอีก 4 สายวิ่งผ่าน ทั้งรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วง มีนบุรี-ตลิ่งชัน, รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วง ลาดพร้าว-สำโรง, รถไฟฟ้าสายสีเทา ช่วง วัชรพล- ทองหล่อ และ รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน ที่วิ่งขนานกับ Airport Link ช่วง บางซื่อ-หัวหมาก อีกด้วย
จากตัวโครงการที่ใกล้ที่สุดก็คือ MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรม เพียง 900 เมตร ซึ่งในอนาคตจะเป็นสถานี Interchange กับ รถไฟฟ้าสายสีส้ม ด้วยค่ะ ส่วน MRT สถานีพระราม 9 ก็เดินไปไกลกว่ากันเพียง 50 เมตร ซึ่งนั่งไปเพียงสถานีเดียวก็ถึง Airport Link สถานีมักกะสัน และ 2 สถานีถึง MRT สุขุมวิท Interchange กับ BTS สถานีอโศก
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนพระราม 9 > ถนนรัชดาภิเษก > ซอยรัชดาภิเษก 3 > Groove รัชดา-พระราม 9
วันนี้เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากบนถนนพระราม 9 ช่วงแยกผังเมืองกันค่ะ ให้เราวิ่งมุ่งหน้าไปทางแยกพระราม 9 นะ
ก่อนถึงแยกพระราม 9 เราจะผ่านแยก อสมท.ก่อนอีก 1 แยก พอผ่านแยกนี้ไปให้เราชิดขวานะ
ขับผ่านแยก อสมท.มาแล้วให้เราชิดขวาค่ะ เพราะเราจะเลี้ยวเข้าถนนรัชดาภิเษกที่แยกพระราม 9 กัน
เลี้ยวเข้าถนนรัชดาภิเษกมาแล้วเราจะผ่านจุดที่เป็น Highlight บนถนนเส้นนี้ มองไปที่ฝั่งซ้ายจะมี Fortune Town ส่วนฝั่งขวาจะมี G Tower และ Central พระราม 9 ค่ะ
บริเวณช่วงท้ายของ Fortune Town เราจะเห็น Tesco Lotus Fortune Town ตลอดถนนรัชดาภิเษกทั้ง 2 ฝั่งจะมี Office Building และ High rise Condominium รวมถึงแหล่งบันเทิงต่างๆ ทำให้ถนนเส้นนี้เป็นถนนที่ไม่มีวันหลับทั้งช่วงกลางวันและกลางคืนค่ะ
พอเราขับเลย Fortune Town มาแล้วให้เราชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าซอยรัชดาภิเษก 3 หรือที่เรียกกันว่าซอยข้างสถานทูตจีนนั่นเอง
จากถนนรัชดาภิเษกเข้ามาในซอยรัชดาภิเษก 3 ให้เราขับตรงไปตามซอยเรื่อยๆ ประมาณ 400 เมตร ก็จะถึงตัวโครงการแล้วค่ะ
เข้ามาภายในซอยรัชดาภิเษก 3 มีบรรยากาศเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงทีเดียว หันไปทางไหนก็มีแต่ร้านค้าร้านอาหาร แม้ว่าซอยจะเป็นซอยเล็กๆ กว้างเพียง 2 เลนรถพอสวนกันได้ก็ตาม
จากหน้าปากซอยเราตรงเข้าไปเรื่อยๆ ประมาณ 180 เมตรก็จะเห็นเซเว่นอยู่ทางด้านขวามือค่ะ
จากเซเว่นเราตรงเข้าไปอีก 220 เมตร ก็จะเห็นตัวโครงการหรือสำนักงานขายของ Groove รัชดา – พระราม 9 อยู่ที่ฝั่งขวามือของเราแล้ว
สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถานและอื่นๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยรัชดาภิเษก 3 ซึ่งทางเข้าของโครงการจะอยู่ในซอยอยู่เจริญ 7 นะคะ บริบทภายในซอยเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง ตลอดทั้งซอยจะมีทั้งร้านค้า, ร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้อเรียงอยู่ไม่ขาดสายเลยค่ะ
ตอนนี้เรามาอยู่ที่ตัวโครงการซึ่งปัจจุบันสร้างเป็นสำนักงานขายกันแล้ว เดี๋ยวเราจะมาเดินดูบรรยากาศโดยรอบโครงการและภายในซอยรัชดาภิเษก 3 กันค่ะว่าจะอุดมสมบูรณ์และน่าอยู่แค่ไหน
ที่ฝั่งตรงข้ามกับตัวโครงการหรือฝั่งทิศใต้จะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นร้านค้าและร้านอาหารชั้นบนทำเป็นที่อยู่อาศัย อย่างร้าน Mikicha เป็นร้านขายพวกน้ำปั่น, น้ำแข็งไส, ปังเย็น และพิซซ่า
มองไปทางฝั่งขวาของโครงการลึกเข้าไปในซอยมุ่งหน้าไปทางถนนวิภาวดี – รังสิต หรือทางทิศตะวันตกของโครงการ จะมีร้านค้าอื่นๆ ด้วยเช่น ร้านบิวตี้สปา, ร้านขายเครื่องสำอาง, ร้านทำนามบัตรและตรายาง และร้านเช่าชุดไทยแต่งงาน
ร้านอาหารก็มีค่ะ อย่างร้านขายอาหารตามสั่ง, ก๋วยจั๊บญวน และก๋วยเตี๋ยวเรือ และร้านห้างทองศรีโต๊ะกัง
เราเดินตรงเข้าไปในซอยอีกก็จะมีคลินิกทันตกรรมใต้แมนชั่นสูง 7 ชั้น
ด้านหลังมีอพาร์ทเม้นท์สูง 6 ชั้น
ที่ใต้อพาร์ทเม้นท์ก็มีร้านเสริมสวย มีพวกร้านแผงลอยขายผลไม้
และมีเซเว่นด้วยค่ะ อยู่ใกล้กับตัวโครงการมากๆ เดินมาเพียง 75 เมตรเท่านั้น
ที่ฝั่งตรงข้ามกับอพาร์ทเม้นท์มีร้านอาหารเป็น Bar&Restaurant
ถัดไปติดกับร้านอาหารมีอพาร์ทเม้นท์สูง 5 ชั้นเหมือนกันค่ะ
ที่ใต้อพาร์ทเม้นท์นี้ก็มีร้าน Coffee Shop ขายกาแฟและเบเกอรี่ หรือจะเป็นอาหารก็มีขายนะ เบียร์ก็มี
เดินตรงเข้าไปในซอยอีกหน่อยก็จะมีอาคารสำนักงานสูง 8 ชั้นอยู่ด้วย
เรากลับมาที่หน้าโครงการอีกครั้ง ที่ติดกับตัวโครงการทางฝั่งซ้ายมือหรือทางฝั่งทิศตะวันออกของโครงการ ก็คืออาคารสูง 4 ชั้น
ซึ่งตัวอาคารจะอยู่หน้าปากซอยอยู่เจริญ 7 อีกฝั่งของซอยอยู่เจริญ 7 คือร้านซาลอน U US ซึ่งซอยอยู่เจริญ 7 จะเป็นซอยทางเข้า – ออกหลักของโครงการนะ
ภาพบรรยากาศภายในซอยอยู่เจริญ 7 เนี่ยจะค่อนข้างเงียบสงบเพราะเป็นบ้านพักอาศัยทั้งหมดค่ะ
คราวนี้เราจะเดินออกไปทางฝั่งถนนรัชดาภิเษกกันบ้าง
ฝั่งต้นซอยจะมีความคึกคักที่สูงกว่าค่ะ มีร้านค้าและร้านอาหารอยู่ละลานตา
อย่างตรงนี้ก็มีร้านอาหารตามสั่งร้านเล็กๆ ถัดไปมีร้านรับจำนำและร้านซาลอน
มีร้านอาหารเกาหลีมาเปิดใหม่ด้วยค่ะ ราคาก็ไม่แรงนะต้องมาลองชิมกันดู ข้างๆ กันมีร้านกล้วยทอดอัมพวาจะทานเล่นหรือทานเป็นของหวานก็ได้
ภายในซอยนี้มีร้านซาลอนแข่งขันกันอยู่หลายร้านเลยนะคะเนี่ย ถ้าจะออกงานนี่สบายเลย แถมในซอยยังมีร้านให้เช่าชุดอีกด้วย ไม่ต้องไปวิ่งหากันให้วุ่น
เดินไปเรื่อยๆ ประมาณ 100 เมตรเราก็จะเจอเซเว่นอยู่อีก 1 สาขาค่ะ ด้านหน้ามีร้านแผงลอยขายชายสี่บะหมี่เกี๊ยวที่จะเปิดตัวช่วงหัวค่ำของวัน
ข้างๆ กับเซเว่นมีร้านขายเป็ดย่างหมูแดงหมูกรอบด้วย เมนูในร้านนี้ก็จะมี ข้าวเป็ดย่างหมูกรอบ ข้าวเฉโป บะหมี่แห้งเป็ดหมูกรอบ เกี๊ยวกุ้งเป็ดย่าง บะหมี่น้ำเป็ดย่าง บะหมี่น้ำหมูแดง บะหมี่น้ำหมูแดงหมูหรอบ น่าทานมากๆ เลย
ไม่ไกลกันก็จะมีร้านขายยาค่ะ
เดินมาถึงตรงซอยรัชดาภิเษก 3 แยก 5 ก็จะมีคอนโดขึ้นใหม่สูง 8 ชั้น
เราเดินตรงไปเรื่อยๆ มาจะเจอเซเว่นอีก 1 สาขาแล้วค่ะ เป็นสาขาที่ 3 ในซอยแล้ว ซึ่งสาขานี้จะอยู่ห่างจากตัวโครงการ 220 เมตรเท่านั้น
ที่ฝั่งตรงข้ามกับเซเว่นมีร้านขายอาหารเปิดเป็นหลายๆ ซุ้มเรียงกันให้เลือกทานได้ มีทั้ง ราชาบะหมี่เกี๊ยวข้าวหมูแดง โจ๊ก ต้มเลือดหมู ก๋วยเตี๋ยวไก่ ร้านข้าวมันไก่เบตง ร้านอาหารตามสั่ง และร้านชานมไข่มุกให้ตบเป็นของหวานหรือทานคู่กันไป
ร้านนี้จะอยู่ตรงหัวมุมซอยรัชดาภิเษก 3 แยก 3 พอดี
นอกจากนี้ก็มีร้านกาแฟโบราณน่านั่งอีก 1 ร้านชื่อโกปีออ นี่ยังไม่หมดนะคะ ในซอยนี้ยังมีอะไรให้ทานอีกเยอะ
เสร็จจากสำรวจพื้นที่ในทำเลนี้กันแล้ว เราเดินกลับมาที่สำนักงานขายกันต่อ
สำนักงานขายโครงการ Groove รัชดา – พระราม 9 ภายในจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายคอยต้อนรับและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับตัวโครงการอยู่ค่ะ สามารถเข้ามาติดต่อสอบถาม ขอข้อมูลโครงการเพิ่มเติม หรือขอเข้าชมห้องตัวอย่างได้ที่นี่เลย
ภายในสำนักงานขายจัดพื้นที่รองรับเอาไว้ค่อนข้างเยอะพอสมควร รวมถึงชุดโซฟานั่งพักผ่อนคุยปรึกษากันแบบสบายๆ พวกเครื่องดื่มก็มีให้บริการค่ะ
:::: ตัวโครงการ ::::
ภาพและบรรยากาศจำลองโครงการ Groove รัชดา – พระราม 9 เป็น New Urbanized Condo Low rise สูง 8 ชั้นมี 1 อาคาร บนพื้นที่โครงการขนาด 353 ตร.วา. กับจำนวนห้องพักอาศัยทั้งหมดเพียง 154 ยูนิตที่ขยับเข้าใกล้เมืองมากขึ้น มีห้องพักให้เลือกแบบ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ขนาดเริ่มต้นที่ 22.00 – 44.00 ตร.ม. กับคอนเซ็ปต์ Modern Lively พร้อม Function สุดล้ำด้วย Innovative Living ที่ตกแต่งครบด้วยเฟอร์นิเจอร์ Trendy and Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่ ผสานไปกับเทคโนโลยี Home Automation
รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการที่มีมาให้อย่างครบครัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ Young Generation ได้เป็นอย่างดีแบบ All Day Groove ทำอะไรก็ได้ในโครงการทั้งเช้าถึงเย็น ประกอบด้วย Indoor – Outdoor Lobby Area, Work Capsules, Co – Working Space, Groove Box + Vending Machine Zone, Move Up Studio, Sunbed Seating, Escalated Sky Pool, Jacuzzi, Upbeat Fitness, Sunken Seat, Private Meeting Room, Co – Kitchen, Boosting Track, Sky Hanging Couch และ Amphi – Theater Space
พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน ใช้ประตูห้องระบบ Digital Door Lock, Security Access Card, กล้อง CCTV ในตัวอาคารและรอบอาคาร, ระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้, อุปกรณ์ตรวจจับควัน และ เจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
ภาพและบรรยากาศจำลองโครงการ Groove รัชดา – พระราม 9 ออกแบบให้เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์โมเดิร์น เล่นเส้นสายและเส้นสีให้ดูล้ำสมัยและเพิ่มความเป็น Young Generation แต่ก็ยังไม่ทิ้งความหรูหรา เลือกใช้วัสดุที่ดีมากยิ่งขึ้น รวมถึงใช้วัสดุลายหินอ่อนสีขาวที่ทำให้ดูราคาแพง
มาดูผังของโครงการกันค่ะ ชั้นที่ 1 จากถนนซอยอยู่เจริญ 7 เข้าสู่ตัวโครงการจะเป็นที่จอดรถใต้อาคารทั้งแบบ Conventional Parking 19% (รวมการจอดแบบซ้อนคัน) + Automated Parking 28% รวมเป็น 47% ของยูนิตพักอาศัย
จากนั้นจะเข้าสู่ด้านในอาคารในส่วนของ Residential Zone และ Facilities ชั้น 1 โดยจะต้องใช้ Key Card ในการเปิดประตู ประกอบด้วย Indoor – outdoor Lobby Area, Working Capsules, Co – working Space พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน, Relaxing Pit, Move up Studio สำหรับโยคะ บัลเล่ต์ หรือป็อปแดนซ์, Groove Box and Vending Machine เป็นจุดที่ทำเอาใจคนชอบสั่งของออนไลน์ บริการรับ – ส่งพัสดุ และยังเป็นจุดที่มีบริการซักผ้าอัตโนมัติ และเครื่องกดอาหาร ให้บริการตลอด 24 ชม. และ Mail Room
ส่วน Residential Zone ที่ชั้น 1 จะต้องเดินผ่านประตูโถงลิฟท์ 2 ชั้นก่อนเพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านชั้น 1 ที่ชั้นนี้จะมีจำนวนห้องพักอาศัยอยู่เพียง 5 ยูนิตเท่านั้นค่ะ จาก Corridor ของห้องพักจะมีทางเชื่อมสู่ Facilities ที่ชั้น 1 ด้วย ส่วน Residential Zone ชั้น 2 – 7 และ Facilities ชั้น 8 จะต้องขึ้นลิฟท์ขึ้นไป ลิฟท์ที่ใช้ก็เป็นลิฟท์ระบบล็อคชั้นค่ะ
นอกจากนี้ตัวโครงการยังล้อมรอบด้วยรั้วสูง 3 เมตรพร้อมพรรณไม้หลากหลายชนิด อาทิ ซิลเวอร์โอ๊ค แคนา ชาฮกเกี๊ยน พุดศุภโชค หญ้ามาเลเซีย เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านและเพื่อความร่มรื่นสวยงามค่ะ
ภาพและบรรยากาศจำลองภายใน Indoor – outdoor Lobby ภายในจัดชุดโต๊ะ – เก้าอี้ และชุดโซฟาสำหรับนั่งพักคอย พักผ่อน หรืออ่านหนังสือได้
ภาพและบรรยากาศจำลอง Groove Box + Vending Machine Zone บริการรับ – ส่งพัสดุ และยังเป็นจุดที่มีบริการซักผ้าอัตโนมัติ และเครื่องกดอาหาร ให้บริการตลอด 24 ชม.
ภาพและบรรยากาศจำลอง Groove Box + Vending Machine Zone
ภาพและบรรยากาศจำลอง Co – Working Space เชื่อมต่อกับส่วน Lobby จัดชุดโต๊ะทำงานให้ทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยว
ภาพและบรรยากาศจำลองภายใน Move up Studio สำหรับการเล่นโยคะและการเต้นโดยเฉพาะ
ชั้นที่ 2 – 7 จะเป็น Typical Floor plan ซึ่งเป็นส่วนของ Residential Zone ทั้งหมด มีจำนวนห้องพักอาศัย 22 ยูนิต/ชั้น โดยวางอาคารเป็นรูป L Shape มีทั้งส่วนที่เป็น Single Corridor และ Double Corridor กว้าง 1.5 เมตรสามารถเดินสวนกันได้สบายและสูง 2.4 เมตรค่ะ
ชั้นที่ 8 ชั้นนี้จะแบ่งออกเป็น 2 โซนด้วยกันคือ Residential Zone มีจำนวนห้องพักอาศัยทั้งหมด 17 ยูนิต/ชั้น รวมทั้งโครงการมี 154 ยูนิต คิดเป็นอัตราส่วนลิฟท์ต่อจำนวนห้องพักอาศัยอยู่ที่ 1 : 77 ถือว่ามี Traffic กำลังดีไม่เกินค่ามาตรฐานค่ะ และ Facilities Zone ประกอบด้วย Upbeat Fitness ภายในมีอุปกรณ์และเครื่องออกกำลังกายทั้ง Cardio และ Weight Training อย่างครบครัน, Private – meeting Room, Co – kitchen พร้อม Dining Area ใช้จัดปาร์ตี้หรือนัดทานอาหารแบบชิวๆ กับเพื่อนๆ ได้ และส่วน Pool Area มี Escalated Sky Pool ระบบน้ำแร่ขนาด 21 x 3.6 – 5.6 เมตร ลึก 1.2 เมตร พร้อม Sunbed Seating, Sunken Seat และ Bubble Jacuzzi
ภาพและบรรยากาศจำลองภายในส่วน Co-Kitchen Space ภายในมีพื้นที่สำหรับการเตรียมอาหารและโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่จัดไว้ให้ จะใช้สำหรับการจัดดินเนอร์เล็กๆ กับเพื่อนๆ จัดปาร์ตี้ หรือจัดเป็นพื้นที่นั่งพักทานของว่างระหว่างการประชุมจากห้อง Private Meeting Room ข้างๆ ก็ได้ค่ะ
ภาพและบรรยากาศจำลองภายในส่วน Co-Kitchen Space
ภาพและบรรยากาศจำลองจาก Co-Kitchen Space มองออกไปเห็นส่วน Sunken Seat บริเวณด้านหลังสระว่ายน้ำ
ภาพและบรรยากาศจำลองภายใน Private Meeting Room ภายในห้องจัดเตรียมโต๊ะประชุมและจอสำหรับการพรีเซ้นท์งานเอาไว้ให้
ภาพและบรรยากาศจำลองภายใน Fitness มีอุปกรณ์การออกกำลังกายทั้งแบบ Cardio และ Weight Training มาให้อย่างครบครัน ใช้สีสันที่สดใสเพื่อกระตุ้นให้เกิดแรงในการออกกำลังกาย
ชั้น Rooftop หลักๆ บนชั้นนี้เป็นส่วนพื้นที่สีเขียวของโครงการ ออกแบบ Landscape อย่างสวยงามพร้อมแทรกมุมนั่งพักผ่อนตามจุดต่างๆ สามารถชมวิวเมืองได้โดยรอบ ออกแบบทางเดินโดยรอบให้เป็น Boosting Track ใช้เดินเร็วหรือวิ่งออกกำลังกายได้ และยังมีจุด Sky Hanging Couch และ Amphi – theater Space อีกด้วย
ภาพและบรรยากาศจำลองพื้นที่ส่วนกลางชั้นดาดฟ้าทั้งหมด
ภาพและบรรยากาศจำลองบริเวณ Pool Area ระหว่างชั้นที่ 8 และชั้น Rooftop มี Escalated Sky Pool ระบบน้ำแร่ขนาด 20 x 4 เมตร พร้อม Sunbed Seating และ Bubble Jacuzzi สามารถนั่งแช่น้ำและชมวิวเมืองได้โดยรอบ
ภาพและบรรยากาศจำลองบริเวณ Amphi – theater Space
:::: แบบห้องของโครงการ ::::
ห้องของโครงการจะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบหลักๆ เป็นห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ซึ่งแบ่งออกเป็นขนาดต่างๆ ดังนี้ค่ะ
โดยโครงการขายห้องแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์มาครบพร้อมเข้าอยู่พร้อมเครื่องปรับอากาศ และระบบ Home Automation เราไปดูผังห้องด้วยกันเลยค่ะ
ห้อง GROOVE Xtend : 1 Bedroom 28.97 ตร.ม.
ห้อง GROOVE Xtend Plus : 1 Bedroom Plus 32.44 ตร.ม.
:::: ห้องตัวอย่าง ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo จะพาไปชมห้องตัวอย่าง ห้อง GROOVE Xtend ขนาด 28.97 ตร.ม. และ ห้อง GROOVE Xtend Plus 32.44 ตร.ม. เป็นห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus กันค่ะ ห้องขายแบบ Fully Furnished มาดูรายละเอียดแบบเจาะลึกของห้องกันเลย
::: ห้อง GROOVE Xtend ขนาด 28.97 ตร.ม. :::
นี่คือผังห้อง Groove Xtend เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 28.97 ตร.ม. สำหรับครอบครัวขนาดตั้งแต่ 1 – 2 คน จัดแบ่งสัดส่วนภายในห้องได้เป็นอย่างดี พอเข้ามาในห้องจะเจอห้องครัวก่อน ซึ่งแบ่งเป็นพื้นที่ครัวปิดเชื่อมกับพื้นที่ Common Area พื้นที่ของห้องนี้จะดูกว้างขวางเพราะห้องนอนจะกั้นส่วนจาก Common Area ด้วยผนังและประตูกระจก ซึ่งช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้น ส่วนห้องน้ำจะสามารถเข้าได้จากฝั่งห้องนอนค่ะ
ห้องของทางโครงการตกแต่งให้แบบ Fully Furnished พร้อม Furniture Package ได้มาทั้งชุดครัวพร้อม Sink และ Hob&Hood, ชั้นเก็บรองเท้า, ชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง, ชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่งพร้อมชั้นวางทีวี, ที่นอนขนาด 5 ฟุต โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้า ได้แอร์แบบ Wall Type และระบบ Home Automation มาด้วย เราไปดูรายละเอียดของห้องด้วยกันเลยดีกว่า
เริ่มจากประตูทางเข้าห้องจะเป็นประตูไม้ MDF ปิดผิวด้วยลามิเนต และติด Smart Digital Door Lock ของ Home Shield แบบ 3 ฟังก์ชั่น ทั้ง Biometric Fingerprint Sensor, Passcode และ Mechanical Key มาให้เพื่อความปลอดภัยอีก 1 ชั้น
เมื่อเข้ามาภายในห้องแล้วจะเจอห้องโถง Common Area ขนาดใหญ่ จากส่วนครัวเชื่อมกับ ห้องนั่งเล่น ส่วนรับประทานอาหาร จนถึงระเบียง ฝั่งขวามือของห้องคือห้องครัวแบบปิดและห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัว ภาพรวมของห้องดูโปร่งโล่งไม่อึดอัดด้วยฝ้าเพดานที่สูง 2.55 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบทาสีติดดวงโคมดาวน์ไลท์ทั้งหมด พร้อมแอร์แบบ Wall Type ใน Common Area 1 ตัว และในห้องนอนอีก 1 ตัว ผนังห้องเป็นผนังฉาบเรียบทาสี
ส่วนวัสดุพื้นของห้องจะปูด้วยกระเบื้องไวนิลลายไม้ทั้งหมดตั้งแต่หน้าประตูห้องจนไปถึงห้องนอนด้านในเลยค่ะ
หันไปทางฝั่งซ้ายมือ ทางโครงการจะให้ตู้เก็บรองเท้า Built – in สูงถึงฝ้ามาด้วย ใช้บานเปิดแบบ Soft – closed ปิดผิวด้วยลามิเนตสีตามมาตรฐานโครงการ ข้างๆ เหลือพื้นที่สามารถวางตู้เย็นได้
หันไปทางฝั่งขวามือเป็นครัวส่วนปิดกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกเฟรมอลูมิเนียมแบบ 3 ตอน
จะเห็นว่าพื้นครัวด้านในปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 60 x 60 ซม.ให้เพื่อให้เหมาะกับลักษณะการใช้งานของฟังก์ชั่นที่จะต้องเลอะบ่อย ให้สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ดูขนาดพื้นที่ยืนปรุงอาหารข้างในจะค่อนข้างกระทัดรัดนะคะ เข้าได้ 1 คนก็เต็มแล้ว
ภายในห้องครัวทางโครงการให้ชุดเคาน์เตอร์ครัวชุดนี้มาตามภาพค่ะ
บนเคาน์เตอร์เราจะได้อ่างล้างจานและเตาเซรามิกจาก Hafele มาฝังบน Top หินสังเคราะห์สีดำ ด้านหลังติดแผ่น Splash Board ให้ สามารถเช็ดทำความสะอาดคราบจากการล้างและการปรุงอาหารได้ง่าย
อ่างล้างจานขนาดกระทัดรัดค่ะ ติดตั้งมาพร้อมกับก๊อกน้ำทรงสูงใช้งานสะดวก หัวสามารถหมุนซ้าย – ขวา ได้
และเตาเซรามิกขนาด 2 หัว
ใต้เคาน์เตอร์ก็มีลิ้นชักและช่องสามารถเก็บจานชามช้อนส้อมได้พอสมควร เป็นบานเปิดและลิ้นชักแบบ Soft closed ปิดผิวด้วยลามิเนตสีตามมาตรฐานโครงการ
และได้ชั้นลอยสำหรับเก็บของมาเพิ่มพร้อมชั้นวางไมโครเวฟ ติดตั้ง Hood ดูดควันมาในตำแหน่งเดียวกับเตาเซรามิก แต่ตำแหน่งไมโครเวฟตรงนี้จะค่อนข้างสูงสำหรับคนไซส์เอเชีย เวลาหยิบของร้อนจะต้องระวังหน่อยนะ
ออกมาจากห้องครัว เรามาดูส่วน Common Area กันต่อไล่จากส่วนนั่งเล่นเข้าไปยังส่วนรับประทานอาหารค่ะ
ภายในห้องนั่งเล่น ซึ่งเราจะได้ชั้นวางทีวีและโซฟาตามแบบในห้องตัวอย่างเลย
โซฟาแบบ Love Seat ขนาด 2 ที่นั่ง ของจริงที่ได้จะเป็นสีเทาและมีที่วางแขนทั้ง 2 ฝั่งค่ะ
หันไปฝั่งตรงข้าม ดูระยะดูทีวีเหมาะสำหรับทีวีจอขนาด 42 นิ้วจะกำลังพอดีค่ะ
เราได้ชั้นวางทีวีหน้าตาแบบนี้เลย ปิดผิวด้วยลามิเนตทั้งหมด มีทั้งลิ้นชักและช่องสำหรับเก็บของ เราจะเลือกวางทีวีบนชั้นหรือติดตั้งทีวีแบบแขวนผนังแทนก็ได้ค่ะ
ระยะระหว่างชั้นวางทีวีและโซฟาก็เหลือกว้างสามารถเดินผ่านได้สบาย ถ้าเราตั้งโต๊ะกาแฟเอาไว้ตรงกลางเพิ่มอีกตัวจะแคบเกินไปนะ แต่สามารถวางโต๊ะไว้ข้างๆ โซฟาแทนได้ค่ะ
จากส่วนนั่งเล่นเชื่อมต่อไปยังพื้นที่รับประทานอาหาร
ส่วนรับประทานอาหารจะอยู่ติดริมระเบียงพอดีค่ะ คือจะต้องยกอาหารออกมาจากห้องครัวและเดินผ่านส่วนนั่งเล่นมาเพื่อมานั่งทานอาหารตรงนี้ ระยะไม่ได้ไกลนะแต่ต้องเดินระวังนิดนึง
โต๊ะรับประทานอาหารที่เราได้มาด้วยมีขนาด 2 ที่นั่งพร้อมเก้าอี้นั่งอีก 2 ตัว นอกจากจะใช้นั่งรับประทานอาหารแล้วยังสามารถใช้เป็นโต๊ะทำงานได้ด้วยนะ เพราะมีลิ้นชักใต้โต๊ะใช้เก็บอุปกรณ์เครื่องเขียนได้ดีเลย
พอวางโต๊ะและเก้าอี้แล้วก็จะเหลือทางเดินสามารถเดินเข้าห้องนอนได้และเดินออกไปที่ระเบียงได้
ติดกับส่วนรับประทานอาหารคือระเบียงห้อง กั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจก Float Glass เฟรมอลูมิเนียม สามารถเลื่อนเปิดได้ทั้ง 2 ฝั่งแบบนี้ค่ะ โดยประตูนี้ก็จะเป็นช่องแสงหลักให้กับ Common Area ด้วย
ที่ประตูติดมือจับบานประตูแบบเซาะร่องมาตรฐาน
พื้นที่ระเบียงสามารถวางเครื่องซักผ้าและตากผ้าได้ พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 60 ซม. และใช้ราวกันตกเป็นระแนงเหล็กทาสีน้ำมันสีดำ
ส่วนพื้นที่ผนังด้านข้างเราสามารถใช้แขวนตัวคอมเพรสเซอร์ได้ 2 ตัวพอดีค่ะ
ในส่วนของห้องนอนกั้นด้วยผนังกระจกเข้ามุม 2 ด้านช่วยทำให้ห้องดูเก๋ แต่ประโยชน์ของมันเลยก็คือช่วยทำให้ห้องดูโปร่งมากขึ้น และส่วน Common Area ก็จะได้รับแสงธรรมชาติผ่านทางห้องนอนอีกทีด้วย
เราเข้าไปดูภายในห้องนอนกันต่อเลยค่ะ
พื้นภายในห้องนอนก็ปูด้วยกระเบื้องยางลายไม้ให้ต่อเนื่องจาก Common Area เข้ามา
ภายในห้องนอนมีขนาดทีเดียวค่ะ ขนาดสามารถวางเฟอร์นิเจอร์หลักๆ ได้อย่างลงตัว ในห้องนี้เราจะได้เฟอร์นิเจอร์มาครบเลยทั้ง เตียงนอนขนาด 5 ฟุต โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้าหน้าบานกระจกสีชาดูหรู
จะสังเกตว่าห้องนอนมีความสว่างและโปร่งโล่งมากเพราะได้หน้าต่างกระจกบานใหญ่ค่ะ ซึ่งของจริงจะได้เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งสามารถเปิดระบายอากาศได้ จุดนี้ก็ทำให้ส่วน Common Area ได้รับประโยชน์ไปด้วย
เตียงนอนขนาด 5 ฟุตที่เราได้มาด้วยจะไม่รวมฟูกและเครื่องนอนนะคะ พอวางเตียงนอนแล้วก็ยังเหลือพื้นที่โดยรอบสามารถเปลี่ยนผ้าปูที่นอนหรือเดินผ่านได้
บริเวณฐานเตียงจะมีดีเทลจุดนึงเป็นลิ้นชัก สามารถใช้เก็บผ้าปูที่นอนหรือเก็บเสื้อผ้าเพิ่มได้ค่ะ
พื้นที่ฝั่งปลายเตียงเหลือพื้นที่กว้างประมาณ 40 ซม.ค่ะ ที่ผนังฝั่งนี้ทางโครงการเดินสายไฟและสายอากาศสำหรับติดตั้งทีวีเอาไว้ให้เรียบร้อย
จากฝั่งริมหน้าต่างมองย้อนกลับไปทางฝั่งห้องน้ำ
ที่ฝั่งนี้เราจะได้โต๊ะเครื่องแป้งพร้อมกระจกเงามา 1 บานใหญ่
และตู้เสื้อผ้าแบบบานเปิดคู่ หน้าบานที่ได้จริงๆ จะเป็นกระจกใสนะ
มือจับบานใช้สแตนเลสสีดำทำเป็นร่องแบบนี้
ภายในก็มีราวสำหรับแขวนเสื้อผ้าและลิ้นชักสำหรับเก็บของได้
เราเข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อค่ะ
พื้นห้องน้ำจะลดระดับจากพื้นห้องนอนลงไปเล็กน้อยเพื่อกันน้ำไหลย้อน
ส่วนวัสดุพื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิกสีเทา ขนาด 60 x 60 ซม. ผนังกรุด้วยกระเบื้องเซรามิกลายหินอ่อน ฝ้าเพดานใช้ฝ้าฉาบเรียบกันชื้นติดดวงโคมดาวน์ไลท์และพัดลมดูดอากาศให้ ส่วนสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำใช้ของ Hafele ทั้งหมด
เรามาดูรายละเอียดสุขภัณฑ์กันค่ะ เริ่มจากอ่างล้างมือเป็นอ่างฝังบนเคาน์เตอร์สำเร็จรูป ติดตั้งมาพร้อมกับกระจกเงาบานใหญ่
ตัวอ่างเป็นทรงสี่เหลี่ยม มีขนาดกำลังดีค่ะใช้งานได้สะดวก ติดตั้งมาพร้อมกับก๊อกน้ำทรงมาตรฐานจับได้ถนัด
ถัดมาติดตั้งโถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้นระบบ Dual Flush พร้อม Accessories ประกอบการใช้งานทั้งสายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษชำระค่ะ
และด้านในสุดเป็นโซนอาบน้ำ ติดตั้งฉากกั้นเป็นบานเลื่อนกระจก 3 ตอนให้
มีพื้นที่ยืนอาบน้ำภายในกำลังพอดีเหมาะกับคนไซส์เอเชียค่ะ
ภายในติดตั้งชุดฝักบัวสายอ่อนและเจาะผนังทำเป็นชั้นวางสบู่ให้ เราเทียบหัวฝักบัวให้ดูกับมือค่ะ หัวมีขนาดใหญ่สายน้ำแรงอาบน้ำได้เร็วทันใจ มีการดีไซน์และใช้สีดำด้านทำให้ดูทันสมัยมากกว่าหัวฝักบัวแบบทั่วๆ ไป
::: ห้อง GROOVE Xtend Plus 32.44 ตร.ม. :::
นี่คือผังห้อง Groove Xtend Plus เป็นห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 32.44 ตร.ม. สำหรับครอบครัวขนาด 2 – 3 คน จัดแบ่งสัดส่วนภายในห้องได้เป็นอย่างดี พอเข้ามาในห้องจะเจอพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกับห้องครัว ได้ครัวปิดเหมือนเดิม, ห้องน้ำ ที่สามารถเข้าได้ทั้ง 2 ฝั่ง, ห้องอเนกประสงค์ ที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้ตามความต้องการ และห้องนอน ที่เน้นความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเพราะปิดด้วยผนังทึบทั้งหมด
ห้องของทางโครงการตกแต่งให้แบบ Fully Furnished พร้อม Furniture Package ได้มาทั้งชุดครัวพร้อม Sink และ Hob&Hood, ชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง, ชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกาแฟและชั้นวางทีวี, ที่นอนขนาด 5 ฟุต โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้า ได้แอร์แบบ Wall Type และระบบ Home Automation มาด้วย
เริ่มจากประตูทางเข้าห้องจะเป็นประตูไม้ MDF ปิดผิวด้วยลามิเนต และติด Smart Digital Door Lock ของ Home Shield แบบ 3 ฟังก์ชั่น ทั้ง Biometric Fingerprint Sensor, Passcode และ Mechanical Key มาให้เพื่อความปลอดภัยอีก 1 ชั้น
เมื่อเข้ามาภายในห้องแล้วจะเจอห้องโถง Common Area ขนาดใหญ่ เชื่อมกับห้องครัว ห้องน้ำ ห้องอเนกประสงค์ และห้องนอน ภาพรวมของห้องดูโปร่งฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบทาสีติดดวงโคมดาวน์ไลท์ทั้งหมด พร้อมแอร์แบบ Wall Type ใน Common Area 1 ตัว ในห้องอเนกประสงค์ 1 ตัว และในห้องนอนอีก 1 ตัว
วัสดุพื้นของห้องจะปูด้วยกระเบื้องไวนิลลายไม้ทั้งหมดตั้งแต่หน้าประตูห้องจนไปถึงห้องนอนด้านใน ผนังห้องเป็นผนังฉาบเรียบทาสีค่ะ
เรามาดูรายละเอียดภายใน Common Area กันก่อน
เริ่มจากส่วนรับประทานอาหาร ในห้องนี้ตำแหน่งของโต๊ะรับประทานอาหารจะอยู่ตรงข้ามกับห้องครัวพอดี
เราจะได้ชุดโต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้นั่ง 2 ตัวมาแบบนี้เลยค่ะ
ถัดมาเป็นส่วนนั่งเล่น เราจะได้โซฟา Love Seat ขนาด 2 ที่นั่งมาเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือได้โต๊ะกาแฟมาด้วยอีกตัวค่ะ
มองไปที่ฝั่งตรงข้ามเราได้ชั้นวางทีวี รวมถึงได้ชั้นลอยเก็บของมาเพิ่มด้วย ระยะดูทีวีของห้องนี้จะกว้างขึ้นพอสมควรเลย ดูทีวีจอขนาด 50 – 55 นิ้วได้สบายๆ
เราเข้าไปดูภายในห้องครัวกันต่อเลย เป็นครัวส่วนปิดกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกเฟรมอลูมิเนียมแบบ 3 ตอน
พื้นที่ภายในห้องครัวมีขนาดที่กว้างขวางขึ้น สามารถวางเคาน์เตอร์ครัวฝั่งนึงและวางตู้เย็น+เครื่องซักผ้าได้อีกฝั่งนึง
เหลือระยะพอยืนปรุงอาหารได้ พื้นครัวด้านในปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 60 x 60 ซม.
เซ็ทเคาน์เตอร์ครัวพร้อมชั้นลอย Built – in ค่ะ
ออกมาจากห้องครัวแล้ว คราวนี้เราไปดูห้องอเนกประสงค์, ห้องนอน และห้องน้ำกันต่อตามลำดับ
ห้องอเนกประสงค์จะกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกเฟรมอลูมิเนียมขนาดใหญ่แบบนี้ ข้อดีก็คือทำให้ Common Area ได้รับแสงสว่างจากระเบียงห้องด้วย
ขนาดห้องอเนกประสงค์เป็นห้องขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็กว้างมากพอที่จะสามารถทำห้องนี้ให้เป็นห้องนอนเล็กอีกห้องหนึ่งได้ และเป็นห้องที่สามารถรองรับการปรับเปลี่ยนการใช้งานห้องที่หลากหลายไปตาม Lifestyle ของลูกบ้านแต่ละคน
ห้องตัวอย่างจัดห้องนี้เป็นห้องตัวอย่างให้ดูค่ะ สามารถวางโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ได้แบบนี้
จากห้องอเนกประสงค์จะเชื่อมต่อกับระเบียงห้อง กั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจก Float Glass เฟรมอลูมิเนียม สามารถเลื่อนเปิดได้ทั้ง 2 ฝั่ง โดยประตูนี้ก็จะเป็นช่องแสงหลักให้กับ Common Area ด้วย
พื้นที่ระเบียงสามารถตากผ้าและแขวนตัวคอมเพรสเซอร์ได้ 3 ตัว พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 60 ซม. และใช้ราวกันตกเป็นระแนงเหล็กทาสีน้ำมันสีดำ
เราเข้าไปดูภายในห้องนอนกันต่อค่ะ
ภายในห้องนอนมีขนาดทีเดียวค่ะ ขนาดสามารถวางเฟอร์นิเจอร์หลักๆ ได้อย่างลงตัว ในห้องนี้เราจะได้เตียงนอนขนาด 5 ฟุต โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้ามาครบเหมือนเดิม และได้ได้หน้าต่างกระจกบานใหญ่มาเป็นช่องแสงและช่องระบายอากาศ
เตียงนอนขนาด 5 ฟุตที่เราได้มาด้วยจะไม่รวมฟูกและเครื่องนอนนะคะ พอวางเตียงนอนแล้วก็ยังเหลือพื้นที่โดยรอบสามารถเปลี่ยนผ้าปูที่นอนหรือเดินผ่านได้
บริเวณปลายเตียงเราสามารถติดตั้งทีวีแบบแขวนผนังได้ค่ะ
ที่มุมห้องฝั่งปลายเตียงทางโครงการทำตู้เสื้อผ้า Built – in ให้ เราได้บานเปิดเป็นประตูบานเลื่อนแทนเพื่อช่วยประหยัดพื้นที่
ภาพย้อนกลับไปทางฝั่งห้องน้ำ
ข้างๆ ประตูห้องน้ำทางโครงการให้โต๊ะเครื่องแป้งพร้อมกระจกเงามาด้วย
ห้องน้ำของห้อง 1 Bedroom Plus จะสามารถเข้าได้ทั้ง 2 ฝั่งค่ะ ทั้งจากฝั่ง Common Area และจากฝั่งห้องนอน เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัยเวลาที่มีแขกมา จะได้ไม่ต้องให้แขกเดินผ่านทางห้องนอนของเรา
ภายในห้องน้ำจะเหมือนกับห้องน้ำ 1 Bedroom ทุกประการค่ะ ทั้งการวางผังห้อง ขนาด วัสดุ และสุขภัณฑ์
พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิกสีเทา ขนาด 60 x 60 ซม. ผนังกรุด้วยกระเบื้องเซรามิกลายหินอ่อน ฝ้าเพดานใช้ฝ้าฉาบเรียบกันชื้นติดดวงโคมดาวน์ไลท์และพัดลมดูดอากาศให้ ส่วนสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำใช้ของ Hafele ทั้งหมด
และด้านในสุดเป็นโซนอาบน้ำติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย
ภายในติดตั้งชุดฝักบัวสายอ่อนและเจาะผนังทำเป็นชั้นวางสบู่ให้
ลงทะเบียนรับส่วนลด 200,000 บาท คลิก : http://bit.ly/2Jq6J2x
:::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (พฤศจิกายน 2561) ::::
วัสดุโดยรวม
ห้องน้ำ และสุขาภิบาล
งานไฟฟ้า
เฟอร์นิเจอร์
***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ
:::: ราคา (พฤศจิกายน 2561) ::::
GROOVE Cooper : 1 Bedroom 22.13 – 26.22 ตร.ม.
GROOVE Xtend : 1 Bedroom 28.75 – 36.17 ตร.ม.
GROOVE Xcoolsive : 1 Bedroom 30.9 – 35.9 ตร.ม.
GROOVE Xtend Plus : 1 Bedroom Plus 32.29 – 44.22 ตร.ม.
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยรัชดาภิเษก 3 (ทางเข้าโครงการจะอยู่ในซอยอยู่เจริญ 7) อยู่ระหว่าง MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรม และ สถานีพระราม 9 ทำเลนี้เป็นย่านที่อยู่อาศัย และเป็นย่าน New Central Business District ซึ่งยังคงมีการเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ดูจากเมกะโปรเจ็กต์ที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคต อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมด้านการคมนาคมที่ของกรุงเทพฯ มีการเชื่อมต่อถนนสายหลักหลายสาย รวมถึงเป็นจุดที่เชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าทั้ง BTS, MRT และ Airport Link อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีความอุดมสมบูรณ์ที่สามารถรองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ที่สามารถรองรับทั้งพนักงานออฟฟิศ, ผู้คนที่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม, บ้านส่วนตัว และแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ในละแวกนั้นได้ บนเส้นรัชดาภิเษกก็มีห้างใหญ่ๆอยู่หลายห้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเซ็นทรัล, ห้างแนวไลฟ์สไตล์, ไฮเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงตลาด โดดเด่นด้วยสถานบันเทิงยามค่ำคืน และอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาล, สถานศึกษา อีกทั้งศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งอยู่ข้างๆ กันกับ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน รวมถึงวัดพระราม 9 เรียกว่าในทำเลเดียวครอบคลุมครบทุกด้านเลยค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว การเดินทางเส้นหลักๆ จากโครงการต้องเป็นถนนรัชดาภิเษก ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสายหลักอื่นๆ ได้ทั้ง พระราม 9, ดินแดง, เพชรบุรี, สุขุมวิท, วิภาวดี – รังสิต, พหลโยธิน, ลาดพร้าว, ประดิษฐ์มนูธรรม ฯลฯ แต่การจราจรนั้นก็ค่อนข้างจะหนาแน่นอยู่ตลอดเวลา คนที่ขับรถอยู่ในย่านนี้เป็นประจำจะไม่ค่อยวิ่งทางหลักกันตรงๆ เท่าไหร่ โดยจะหาทางลัดเลาะออกตามซอยไปทะลุตามถนนเส้นอื่นๆ ภายในซอยรัชดาภิเษก 3 เองก็สามารถลัดเลาะไปยังถนนสายหลักเส้นอื่นได้อยู่แล้วโดยไม่ต้องพึ่งเส้นรัชดาภิเษกก็ได้ นอกจากนี้ก็จะใช้ทางด่วนเป็นตัวช่วยในการเดินทางเอาค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ ถือว่าสะดวกสบายแบบสุดๆ เพราะ ทำเลนี้มีการเชื่อมต่อถนนสายหลักหลายเส้น จึงทำให้มีรถสาธารณะหลายสายวิ่งผ่านตลอดทั้งวันเช่นกัน อีกทั้งยังเป็นจุดที่เชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าทั้ง BTS, MRT และ Airport Link อีกทั้งโดยรอบทำเลนี้จะมีรถไฟฟ้าอีก 4 สายวิ่งผ่าน ทั้งรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วง มีนบุรี-ตลิ่งชัน, รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วง ลาดพร้าว-สำโรง, รถไฟฟ้าสายสีเทา ช่วง วัชรพล- ทองหล่อ และ รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน ที่วิ่งขนานกับ Airport Link ช่วง บางซื่อ-หัวหมาก อีกด้วย
โดยจากตัวโครงการจะอยู่ใกล้ MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรม เพียง 900 เมตร ซึ่งในอนาคตจะเป็นสถานี Interchange กับ รถไฟฟ้าสายสีส้ม และ MRT สถานี พระราม 9 เพียง 950 เมตร ซึ่งนั่งไปเพียงสถานีเดียวก็ถึง Airport Link สถานีมักกะสัน และ 2 สถานีถึง MRT สุขุมวิท Interchange กับ BTS สถานีอโศก ด้วยค่ะ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็น New Urbanized Condo สูง 8 ชั้น มี 1 อาคาร บนพื้นที่โครงการขนาด 353 ตร.วา. กับจำนวนห้องพักอาศัยทั้งหมดเพียง 154 ยูนิต มีห้องพักให้เลือกแบบ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ขนาดเริ่มต้นที่ 22.00 – 44.00 ตร.ม. กับคอนเซ็ปต์ Modern Lively พร้อม Function สุดล้ำด้วย Innovative Living ที่ตกแต่งครบด้วยเฟอร์นิเจอร์ Trendy and Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่ ผสานไปกับเทคโนโลยี Home Automation ซึ่งจะเน้นกลุ่มเป้าหมาย New Generation
ห้องของโครงการมีการวางผังได้ดี วัสดุที่ได้มาภายในห้องก็ได้คุณภาพและสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นชุดครัวจาก Hafele, สุขภัณฑ์แบรนด์ Hafele, เฟอร์นิเจอร์สไตล์ Trendy Modern พื้นห้องปูด้วยกระเบื้องไวนิลลายไม้ ส่วนห้องครัวปูด้วยกระเบื้องเซรามิกเพื่อง่ายต่อการทำความสะอาด, ผนังฉาบเรียบทาสี ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร พร้อมระบบ Home Automation
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการมีมาให้อย่างครบครันเพียงพอต่อความต้องการเทียบกับจำนวนยูนิตพักอาศัยถือว่าดีเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Indoor – Outdoor Lobby Area, Work Capsules, Co – Working Space, Groove Box + Vending Machine Zone, Move Up Studio และ Rooftop Facilities ทั้ง Sunbed Seating, Escalated Sky Pool, Jacuzzi, Upbeat Fitness, Sunken Seat, Private Meeting Room, Co – Kitchen, Boosting Track, Sky Hanging Couch และ Amphi – Theater Space มีอัตราส่วนลิฟต์ต่อห้องพักอาศัยทั้งโครงการอยู่ที่ 1 : 77 นับว่าเป็น Traffic ในการใช้ลิฟท์ที่ได้มาตรฐาน อีกทั้งยังใช้ระบบ Conventional Parking + Auto Parking รวมแล้ว 47% พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน
:::: คะแนน ::::
| ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.5 | อยู่ในซอยรัชดา 3 ใกล้ MRT 2 สถานี ใกล้ NCBD |
| การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว | 7.9 | อยู่ในซอยใกล้ถนนรัชดาภิเษก มีทางลัดเลาะไปออกถนนใหญ่เส้นอื่นๆ และใกล้ทางด่วน |
| การเดินทางโดยรถสาธารณะ | 8.2 | อยู่ใกล้ MRT 2 สถานี ภายในซอยมีวินมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านตลอด |
| บ้านและวัสดุ | 7.8 | ออกแบบมาดี วัสดุที่ใช้อยู่ในระดับมาตรฐานสวยงาม ขายแบบ Fully Furnished |
| สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.2 | มีมาให้หลากหลายและเพียงพอต่อความต้องการของลูกบ้านเพียง 154 ยูนิต |
| ความคุ้มค่ากับราคา | 7.9 | เป็นโครงการใหม่ในราคาจับต้องได้ ในทำเลที่ใกล้ NCBD เชื่อมต่อ CBD ได้ง่าย เดินทางได้ทั้งรถส่วนตัวและรถสาธารณะ |
| คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.08 | ดีมาก |
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
Tel : 095 141 5566
WEBSITE : http://www.groovecondo.com/rama9/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
ราคาเว่อร์ไปหน่อย