การเดินทางสะดวกสบาย เข้า-ออกผ่านทาง ถ.พหลโยธิน ซึ่งห่างจากที่ตั้งโครงการเพียง 180 เมตร ใช้เชื่อมไปยังถนนหลักได้อีกหลายเส้น ไม่ว่าจะเป็น รามอินทรา, แจ้งวัฒนะ, วิภาวดีรังสิต, งามวงศ์วาน, ลาดพร้าว และเกษตร-นวมินทร์ เป็นต้น
ที่ตั้งโครงการรายล้อมไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven, Tesco Lotus หลักสี่, ตลาดยิ่งเจริญ, Big C สะพานใหม่, CentralPlaza ลาดพร้าว, ม.ศรีปทุม, ม.ราชภัฎ พระนคร, รพ.เซ็นทรัลเยนเนอรัล, รพ.ภูมิพลอดุลยเดช, วัดพระศรีมหาธาตุ และท่าอากาศยานดอนเมือง เป็นต้น
ชื่อโครงการ
เคนซิงตัน พหลโยธิน 63 Kensington Phaholyothin 63
เจ้าของโครงการ
บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) / Origin Property
พื้นที่โครงการ
1 – 3 – 31 ไร่
จำนวนตึก
1 อาคาร
จำนวนชั้น
8 ชั้น
จำนวนห้อง
231 ยูนิต
ลักษณะห้องและขนาดห้อง
1 Bedroom Studio Superior : 22.53 – 40.66 ตร.ม.
1 Bedroom Deluxe : 28.46 – 31.34 ตร.ม.
1 Bedroom Plus Suite : 35.57 – 36.11 ตร.ม.
2 Bedrooms Penthouse : 48.53 ตร.ม.
ที่จอดรถทั้งหมด
75 คัน หรือคิดเป็น 30% ของจำนวนห้องชุด (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
โซน
พหลโยธิน
เส้นทางคมนาคม
รถไฟฟ้า BTS สถานีพหลโยธิน 59
ถ.พหลโยธิน
ถ.รามอินทรา
ถ.แจ้งวัฒนะ
ถ.วิภาวดีรังสิต
ดอนเมืองโทลล์เวย์
ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์
ทางด่วนศรีรัช
ที่ตั้ง
ซอยพหลโยธิน 63 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ
กำหนดการ
ปี 2561
ปีที่สร้างเสร็จ
เมษายน 2563
ราคา
เริ่มต้น 1.99 ล้านบาท*
ค่าส่วนกลาง
45 /ตร.วา/เดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
ตลาดและห้างสรรพสินค้า
7-Eleven : 270 เมตร
Tesco Lotus หลักสี่ : 700 เมตร
ตลาดยิ่งเจริญ : 1.8 กม.
Big C สะพานใหม่ : 2 กม.
CentralPlaza รามอินทรา : 2.4 กม.
IT Square : 3.9 กม.
ตลาดบางเขน : 7 กม.
Tesco Lotus แจ้งวัฒนะ : 7.7 กม.
The Avenue แจ้งวัฒนะ : 7.9 กม.
Big C แจ้งวัฒนะ : 8.1 กม.
ตลาดอมรพันธ์ : 8.3 กม.
นวมินทร์ City Avenue : 8.7 กม.
Major รัชโยธิน : 9.2 กม.
Tesco Lotus ลาดพร้าว : 9.2 กม.
Tesco Lotus วังหิน : 9.4 กม.
Union Mall : 9.8 กม.
Tops Market ม.เกษตรศาสตร์ : 10.4 กม.
Big C ลาดพร้าว 2 : 10.8 กม.
The Walk : 11 กม.
Avenue รัชโยธิน : 11.2 กม.
CentralPlaza ลาดพร้าว : 11.6 กม.
The Mall งามวงศ์วาน : 11.8 กม.
ตลาดนัดจตุจักร : 11.9 กม.
สถานศึกษา
ม.ราชภัฎ พระนคร : 2.9 กม.
ม.ศรีปทุม : 4.4 กม.
รร.สารวิทยา : 4.8 กม.
ม.เกษตรศาสตร์ : 5.7 กม.
สาธิต ม.เกษตรศาสตร์ : 8.5 กม.
ม.ราชภัฏจันทรเกษม : 9.2 กม.
ม.เซนต์จอห์น : 10 กม.
รร.หอวัง : 11.9 กม.
สถานพยาบาล
รพ.เซ็นทรัลเยนเนอรัล : 1.1 กม.
รพ.ภูมิพลอดุลยเดช : 3.5 กม.
รพ.เมโย : 6.9 กม.
รพ.วิภาวดี : 11 กม.
หน่วยงานอื่น ๆ
วัดพระศรีมหาธาตุ : 2.8 กม.
กรมทหารราบที่ 11 : 2.8 กม.
ท่าอากาศยานดอนเมือง: 11 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก
Lobby
Mailbox
Social Club
Library Room
Co-Working Space
Private Meeting Room
สระว่ายน้ำระบบเกลือ
ฟิตเนส
สวนหย่อม
ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว
Digital Door Lock
CCTV
เข้า-ออกด้วยระบบ Access Card Control
ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
จุดเด่นของโครงการ
Kensington พหลโยธิน 63 โครงการ Resort Condo ให้คุณพักร้อนตลอด 365 วัน ออกแบบพื้นที่พิเศษ (Unique Space) ให้คุณได้พักผ่อน เติมเต็มพลังงาน พร้อมความเป็นส่วนตัว น่าอยู่เพื่อความสุขในทุก ๆ วัน
คอนโด BTS พหลโยธิน 59 / คอนโดติดรถไฟฟ้า BTS พหลโยธิน 59
คอนโดโดยรอบ BTS พหลโยธิน 59
ที่ตั้งโครงการ
ซอยพหลโยธิน 63 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ
พิกัด Google Maps : 13.884887, 100.599739
ทำเลที่ตั้ง โครงการ Kensington พหลโยธิน 63 ตั้งอยู่ใน ซ.พหลโยธิน 63 ห่างจากปากซอยเข้ามาประมาณ 180 เมตร ในสุดเป็นซอยตัน เข้า-ออกได้จากฝั่ง ถ.พหลโยธิน อย่างเดียวค่ะ แต่มีซอยย่อยเชื่อมไปยัง ซ.พหลโยธิน 65 และ 67 ได้
ตัว ถ.พหลโยธิน เป็นเส้นที่เริ่มต้นจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตัดผ่านห้าแยกลาดพร้าว, แยกรัชโยธิน, แยกเกษตร, วงเวียนหลักสี่ ผ่านสะพานใหม่ รังสิต และยาวไปออกอยุธยาได้เลย ใช้เดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก และแต่ละแยกที่เส้นพหลโยธินตัดผ่านจะมีถนนเชื่อมไปออกวิภาวีรังสิตได้
การเดินทางด้วยรถยนต์ สำหรับการเดินทางเข้าเมือง เส้นพหลโยธินต้องไปกลับรถ จากนั้นก็ยิงยาวเข้าเมืองมาผ่านวงเวียนหลักสี่ซึ่งเป็นจุดตัดกับ ถ.รามอินทรา และ ถ.แจ้งวัฒนะ เราสามารถตัดเข้าแจ้งวัฒนะไปเข้าเส้นวิภาวดีรังสิตเพื่อวิ่งเข้าเมืองได้ มีทางด่วนโทลล์เวย์ให้ขึ้น หรือเลยไปผ่านแยกเกษตร
ถัดมาเป็นแยกรัชโยธินซึ่งเชื่อมเข้า ถ.รัชดาภิเษก วิ่งไปสุทธิสาร ห้วยขวาง ยาวไปพระราม 9 ได้ ข้ามแยกพระราม 9 ก็ไปออกอโศกได้เลยค่ะ หรือจากแยกรัชโยธินตรงมาจะเจอห้าแยกลาดพร้าวตัดเข้า ถ.วิภาวดีรังสิต วิ่งเข้าดินแดง อนุสาวรีย์ชัยฯ ได้ ถ้าใช้เส้นพหลโยธินต่อก็ตรงข้ามแยกลาดพร้าวไปเข้าจตุจักร, สะพานควาย, อารีย์, สนามเป้า และก็ถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ จากนั้นก็เชื่อมไปทางสยาม หรือเข้าเขตพระนครก็ง่าย
ส่วนการเดินทางออกนอกเมือง ถ้าใช้เส้นพหลโยธินวิ่งไปผ่านสะพานใหม่ ยาวไปออกรังสิต อยุธยาได้เลย เส้นวิภาวดีรังสิตใช้วิ่งออกไปทางรังสิตได้อีกทางจะไปเชื่อมกับ ถ.พหลโยธิน แถวเซียร์รังสิต
ตรงวงเวียนหลักสี่จะตัดกับ ถ.รามอินทรา และแจ้งวัฒนะ เส้นรามอินทราวิ่งยาวออกมาทางมีนบุรี หนองจอกได้ จะผ่านทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ขึ้นทางด่วนไปได้ทั้งพระราม 9, เอกมัย, บางนา หรืออีกฝั่งไปจตุโชติ, ลำลูกกา
เส้นแจ้งวัฒนะจะไปศูนย์ราชการ ยาวไปปากเกร็ด ตรงแยกเกษตรจะตัดกับ ถ.เกษตรนวมินทร์ และ ถ.งามวงศ์วาน เส้นงามวงศ์วานวิ่งไปแยกพงษ์เพชร, แคราย, ติวานนท์, รัตนาธิเบศร์ ออกไปทางบางใหญ่ได้เลย ส่วนเส้นรัชดาภิเษกจะวิ่งออกไปทางประชาชื่น, วงศ์สว่าง, พระราม 7, จรัญสนิทวงศ์ และปิ่นเกล้าได้ค่ะ
ทางด่วน ตัวโครงอยู่ใกล้ดอนเมืองโทลล์เวย์ ห่างจากโครงการประมาณ 4.2 กม. โดยออกมาจาก ซ.พหลโยธิน 63 มาเข้า ถ.พหลโยธิน กลับรถช่วง ซ.พหลโยธิน 67 แล้ววิ่งตรงไปถึงแยกรามอินทราเพื่อวิ่งเข้า ถ.แจ้งวัฒนะ วิ่งตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าวิภาวดี – รังสิต จากนั้นให้วิ่งชิดขวาเอาไว้เพื่อขึ้นทางด่วนค่ะ
นอกจากนี้ทางด่วนที่อยู่ใกล้โครงการอีกเส้นคือ ทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ โดยออกมาจาก ซ.พหลโยธิน 63 เข้า ถ.พหลโยธิน แล้วเลี้ยวขวาเข้าเส้นเทพรักษ์ จากนั้นให้วิ่งตรงไปเรื่อย ๆ จนสุดเส้น เลี้ยวซ้ายเข้าสุขาภิบาล 5 แล้วเลี้ยวขวาอีกครั้ง
เพื่อขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เราสามารถใช้ ถ.รามอินทรา เพื่อไปขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ได้เช่นกันนะคะ แต่เส้นรามอินทรามีการจราจรที่ค่อนข้างจะติดขัด ถ้าใช้ ถ.เทพรักษ์ จะสามารถลดระยะเวลาการเดินทางลงได้
อีกเส้นที่อยู่ใกล้โครงการคือ ทางด่วนศรีรัช ห่างจากโครงการประมาณ 8.6 กม. โดยออกจาก ซ.พหลโยธิน 63 มาเข้า ถ.พหลโยธิน แล้วไปกลับรถวิ่งตรงไปถึงแยกรามอินทราเพื่อเข้า ถ.แจ้งวัฒนะ วิ่งตรงไปจนผ่านแยกคลองประปา หากเลี้ยวซ้ายจะขึ้นทางด่วนศรีรัชไปทางสาทร หากเลี้ยวขวาจะไปทางปทุมธานี
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ตัวโครงการอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายฯ BTS สถานีพหลโยธิน 59 หรือเดิมทีชื่อว่าสถานีอนุสาวรีย์หลักสี่ ประมาณ 300 เมตร สามารถเข้าถึงได้ง่าย ๆ ในระยะการเดินเท้า แต่ในซอยไม่มีฟุตบาท หรือทางเท้าให้เดินนะคะ ระวังรถวิ่งสวนไปมาด้วย ถ้าออกมาริม ถ.พหลโยธิน ก็สบายหน่อยมีทางเท้าเดินถึงบันไดทางขึ้นเลย
นั่งไปลง BTS วัดพระศรีมหาธาตุ เพียง 1 สถานี จะเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ซึ่งจะเปิดให้บริการในอนาคต ถ้าไปลงตรงสถานีห้าแยกลาดพร้าว หรือบริเวณ CentralPlaza ลาดพร้าว จะเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ทำให้เดินทางไปย่าน CBD สาทร ได้ง่าย และสะดวกค่ะ
นอกจากนี้ตรงสถานี ม.เกษตรศาสตร์ ยังเป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลีอีกด้วย และตรงเส้นเลียบ ถ.วิภาวดีรังสิต มีแนวรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงที่จะเปิดใช้บริการเร็ว ๆ นี้ โดยมีจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายสีน้ำตาล และถ้าเปิดใช้พร้อมกันหมดจะทำให้การเดินทางด้วยรถสาธารณะสะดวกมากขึ้น ไปได้หลายโซนเลย
ส่วนใน ซ.พหลโยธิน 63 หน้าปากซอยมีวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการ และบริเวณ ถ.พหลโยธิน มีทั้งรถแท็กซี่โบกเรียกได้ตลอด ป้ายรถเมล์ และมีรถตู้วิ่งผ่านหลายสายทั้งเข้า-ออกเมือง เดินทางไปรัชโยธิน, CentralPlaza ลาดพร้าว, จตุจักร, อนุสาวรีย์, สะพานใหม่, รังสิต, มีนบุรี, รามอินทรา และรามคำแหง
สรุปแยก และถนนสำคัญรอบโครงการ
ถ.พหลโยธิน : 180 เมตร
ถ.รามอินทรา : 1.6 กม.
ถ.แจ้งวัฒนะ : 1.6 กม.
ถ.วิภาวดีรังสิต : 3.8 กม.
ถ.งามวงศ์วาน : 6.3 กม.
ถ.เกษตร-นวมินทร์ : 6.3 กม.
ถ.รัชดาภิเษก : 7.9 กม.
ถ.ลาดพร้าว : 9.7 กม.
วงเวียนหลักสี่ : 1.6 กม.
แยกเกษตร : 6.3 กม.
แยกรัชโยธิน : 7.9 กม.
ห้าแยกลาดพร้าว : 9.7 กม.
แยกรัชดา-ลาดพร้าว : 10.7 กม.
ความอุดมสมบูรณ์ ย่านนี้มีความอุดมสมบูรณ์ในตัวอยู่แล้วเพราะเป็นย่านชุมชน มีร้านค้าร้านอาหารให้เลือกมากมาย สามารถเข้าถึงได้ในระยะเดินประมาณ 270เมตร ออกจาก ซ. พหลโยธิน 63 เลี้ยวขวาไปทาง BTS สถานีพหลโยธิน 59 มีร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven, ร้านอาหารตามสั่ง, ร้านข้าวมันไก่, ร้านก๋วยเตี๋ยว, ข้าวราดแกง, ร้านขายผลไม้, ร้านชากาแฟ และร้านตัดผม
ถ้าเดินข้ามมาอีกฝั่งก็จะมีร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven และ Tesco Lotus หลักสี่ ห่างจากโครงการประมาณ 1.3 กม. มีตลาดใกล้ ๆ อย่างตลาดยิ่งเจริญของกินเพียบ ส่วนห้างสรรพสินค้าก็มี Big C สะพานใหม่, CentralPlaza รามอินทรา, IT Square, Big C แจ้งวัฒนะ, The Avenue, Tesco Lotus แจ้งวัฒนะ
CentralPlaza แจ้งวัฒนะ, The Mall งามวงศ์วาน, Major รัชโยธิน, Tesco Lotus ลาดพร้าว, CentralPlaza ลาดพร้าว, Union Mall ตรงเส้นประเสริฐมนูกิจจะเป็นคอมมูนิตี้มอลล์อย่าง นวมินทร์ City Avenue, The Walk หรือตามเส้นเลียบด่วนก็จะมีตลาดนัดใหญ่ ๆ หลายแห่งให้เดินทางไปใช้งานค่ะ
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
ตลาดและห้างสรรพสินค้า
7-Eleven : 270 เมตร
Tesco Lotus หลักสี่ : 700 เมตร
ตลาดยิ่งเจริญ : 1.8 กม.
Big C สะพานใหม่ : 2 กม.
CentralPlaza รามอินทรา : 2.4 กม.
IT Square : 3.9 กม.
ตลาดบางเขน : 7 กม.
Tesco Lotus แจ้งวัฒนะ : 7.7 กม.
The Avenue แจ้งวัฒนะ : 7.9 กม.
Big C แจ้งวัฒนะ : 8.1 กม.
ตลาดอมรพันธ์ : 8.3 กม.
นวมินทร์ City Avenue : 8.7 กม.
Major รัชโยธิน : 9.2 กม.
Tesco Lotus ลาดพร้าว : 9.2 กม.
Tesco Lotus วังหิน : 9.4 กม.
Union Mall : 9.8 กม.
Tops Market ม.เกษตรศาสตร์ : 10.4 กม.
Big C ลาดพร้าว 2 : 10.8 กม.
The Walk : 11 กม.
Avenue รัชโยธิน : 11.2 กม.
CentralPlaza ลาดพร้าว : 11.6 กม.
The Mall งามวงศ์วาน : 11.8 กม.
ตลาดนัดจตุจักร : 11.9 กม.
สถานศึกษา
ม.ราชภัฎ พระนคร : 2.9 กม.
ม.ศรีปทุม : 4.4 กม.
รร.สารวิทยา : 4.8 กม.
ม.เกษตรศาสตร์ : 5.7 กม.
สาธิต ม.เกษตรศาสตร์ : 8.5 กม.
ม.ราชภัฏจันทรเกษม : 9.2 กม.
ม.เซนต์จอห์น : 10 กม.
รร.หอวัง : 11.9 กม.
สถานพยาบาล
รพ.เซ็นทรัลเยนเนอรัล : 1.1 กม.
รพ.ภูมิพลอดุลยเดช : 3.5 กม.
รพ.เมโย : 6.9 กม.
รพ.วิภาวดี : 11 กม.
หน่วยงานอื่น ๆ
วัดพระศรีมหาธาตุ : 2.8 กม.
กรมทหารราบที่ 11 : 2.8 กม.
ท่าอากาศยานดอนเมือง: 11 กม.
**ระยะทางวัดจากการเดินทางจากรถยนต์สู่จุดหมายโดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
การเดินทางสู่โครงการ
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการ Kensington พหลโยธิน 63 โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มต้นการเดินทางจาก
CentralPlaza ลาดพร้าว ช่วงรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายฯ สถานีห้าแยกลาดพร้าว ⇒ ขับตามแนวรถไฟฟ้าไปเรื่อย ๆ มุ่งหน้าไปทางสะพานใหม่ ⇒ สถานีพหลโยธิน 59 ⇒ ถึงโครงการ Kensington พหลโยธิน 63
เราจะเริ่มต้นการเดินทางจาก CentralPlaza ลาดพร้าว ช่วงรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายฯ สถานีห้าแยกลาดพร้าว มุ่งหน้าไปสะพานใหม่ค่ะ
ผ่านสถานีพหลโยธิน 24
ผ่านสถานีรัชโยธิน
ผ่านสถานีเสนานิคม และกรมพัฒนาที่ดิน
ผ่านสถานี ม.เกษตรศาสตร์
ผ่านสถานีกรมป่าไม้
ผ่านสถานีบางบัว
ผ่านสถานีกรมทหารราบที่ 11
จากนั้นขับตรงต่อไปเรื่อย ๆ ตามป้ายไปสะพานใหม่ค่ะ
ขับลงอุโมงค์ผ่านวัดพระศรีมหาธาตุ และวงเวียนหลักสี่ ซึ่งตรงนี้เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย – มีนบุรี (สายอนาคต) อีกด้วย
หลังจากลอดอุโมงค์มาแล้ว ขวามือจะเจอกับ Tesco Lotus หลักสี่
ขับตรงต่อมาอีกสักระยะผ่านสถานีพหลโยธิน 59 หรือเดิมทีชื่อสถานีอนุสาวรีย์หลักสี่
จากนั้นให้ขับชิดซ้ายเข้าไว้ จะเจอ ซ.พหลโยธิน 63 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยเลยค่ะ
หลังจากเข้ามาภายใน ซ.พหลโยธิน 63 แล้วขับตรงต่อไปอีกประมาณ 180 เมตร จะเจอท่อสกายทูปสีส้มตั้งอยู่หน้าโครงการทางฝั่งขวามือ
ถึงแล้วค่ะ โครงการ Kensington พหลโยธิน 63
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
โดยรอบที่ดินโครงการ Kensington พหลโยธิน 63 ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล ทางทิศเหนือและทิศตะวันตกติดกับบ้านพักอาศัยความสูงประมาณ 2 ชั้น ฝั่งทิศตะวันออกติดกับบริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง และฝั่งทิศใต้ด้านหน้าโครงการติดกับ ซ.พหลโยธิน 63 ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัย
ทิศเหนือ ติดกับ บ้านพักอาศัยส่วนบุคคล
ทิศใต้ ติดกับ ซ.พหลโยธิน 63 และ บ้านพักอาศัยส่วนบุคคล
ทิศตะวันออก ติดกับ บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง
ทิศตะวันตก ติดกับ บ้านพักอาศัยส่วนบุคคล
บริเวณภายนอกโครงการ
หลังจากที่เดินทางมาถึงโครงการแล้ว ลำดับถัดมาเราจะไปชมบรรยากาศจริงบริเวณรอบนอกโครงการกันต่อเลยค่ะ
หน้าทางเข้าโครงการติดกับ ซ.พหลโยธิน 63 ฝั่งตรงข้ามเป็นกำแพงรั้วของบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล
มุมมองหน้าโครงการฝั่งขวา ในสุดเป็นทางตัน แต่มีซอยย่อยเชื่อมไปยัง ซ.พหลโยธิน 65 และ 67 ได้ค่ะ
มุมมองหน้าโครงการฝั่งซ้าย ใช้มุ่งหน้าออกไปยัง ถ.พหลโยธิน ที่เราใช้เดินทางเข้าสู่โครงการเมื่อสักครู่นี้
เดี๋ยวเราเดินไปชมบรรยากาศฝั่งขวากันก่อนเลยค่ะ
เดินไปใกล้ ๆ กัน ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล
มุมมองย้อนกลับไปยังประตูทางเข้าโครงการ รั้วโครงการออกแบบเป็นรั้วทึบสลับกับระแนงสีน้ำตาลและสีดำ มีป้ายชื่อโครงการตัวใหญ่ติดไว้ชัดเจน
เดินไปชมบรรยากาศฝั่งซ้ายกันต่อเลย
ในซอยนี้ไม่มีทางเดินเท้านะคะ เดินเข้าออกก็ระวังรถกันด้วย
เดินออกมาสักระยะ ฝั่งขวาเป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล
ตรงข้ามเยื้อง ๆ กัน และติดกับโครงการทางฝั่งซ้ายเป็น บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง
ถัดมาเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล
ตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัย
มาถึงบริเวณหน้าปากซอยพหลโยธิน 63 จุดนี้มีวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการด้วย
อัตราค่าบริการเริ่มต้นที่ 25 บาท (พ.ค. 63)
ตรงมาปากซอยจะเจอ ถ.พหลโยธิน ข้ามไปอีกฝั่งคือ กองพันทหารสื่อสารที่ 21 กองทัพภาคที่ 1
เดี๋ยวเราเดินไปดูทางฝั่งซ้ายกันก่อนเลยค่ะ โดยถนนฝั่งนี้ใช้มุ่งหน้าไปยังสะพานใหม่, เทพรักษ์, แยกพลาธิการ ทอ.
ติดกับปากซอยพหลโยธิน 63 ทางฝั่งซ้ายเป็นศูนย์ Toyota K.Motors
เดินต่อไปอีกเล็กน้อยเป็น ซ.พหลโยธิน 63/1
หน้าปากซอยมีร้านอาหารตามสั่งให้บริการ
มีบริษัทปล่อยสินเชื่อ และไฟแนนซ์
ถัดมาเป็นร้านจำหน่ายจักรยานยนต์ ด้านหน้ามีป้ายรถเมล์ ระยะการเข้าถึงนับจากที่ตั้งโครงการประมาณ 350 เมตร
เดินต่อไปอีกหน่อยจะเจอ ซ.พหลโยธิน 65
หน้าปากซอยมีคลินิกเวชกรรม รับตรวจรักษาโรคทั่วไป เปิดทำการวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 8.00 – 18.00 น. และวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 9.00 – 12.00 น. หากฉุกเฉินทางคลินิกจะส่งต่อให้ รพ.ภูมิพลอดุลยเดช และ รพ.มงกุฎวัฒนะ
ติดกันมีร้านขายอุปกรณ์การช่าง และของใช้ต่าง ๆ
มีร้านขายชุดสูท, ชุดนักเรียน, ชุดนักศึกษา, กระโปรง, กางเกงสแล็ค และเครื่องแบบข้าราชการต่าง ๆ
มาต่อที่ฝั่งขวาทางหน้าปากซอยพหลโยธิน 63 กันเลยค่ะ
โดยถนนฝั่งตรงข้ามใช้มุ่งหน้าไปยังแจ้งวัฒนะ, รามอินทรา, งามวงศ์วาน, ลาดพร้าว และวิภาวดีรังสิต ริม ถ.พหลโยธิน หรือฝั่งเดียวกับ ซ.พหลโยธิน 63 จะมีทางเดินเท้าให้เดินได้สะดวก ใช้เดินไป BTS สถานีพหลโยธิน 59 ค่ะ
เดินต่อมาอีกเล็กน้อยจะเจอป้ายรถประจำทางที่ใกล้ที่สุดกับตัวโครงการ โดยมีระยะการเดินเท้าอยู่ที่ราว ๆ 270 เมตร
บริเวณนี้มีร้านอาหารให้เลือกหลายร้านเลย มีร้านบะหมี่เกี๊ยวหมูแดง
ร้านข้าวมันไก่
ด้านในเป็นร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ที่ใกล้กับโครงการมากที่สุด
ติดกันเป็นร้านตัดผม และร้านชากาแฟ
มีร้านขายผลไม้ทั้งแบบชั่งกิโลขาย และแบบพร้อมทาน
มีร้านขายยำ อาหารตามสั่ง และตู้ ATM ของธนาคารไทยพาณิชย์ ติดกันมีร้านขายผลไม้อีกร้านค่ะ
จากนั้นจะเจอสะพานลอย เดี๋ยวเราข้ามไปดูฝั่งตรงข้ามกันบ้างนะคะ
ซึ่งถัดจากสะพานลอยไปติด ๆ กันเป็น BTS สถานีพหลโยธิน 59
หลังจากลงสะพานลอยมาแล้ว บริเวณนี้มีร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven เปิดให้บริการอีกหนึ่งจุด
เดี๋ยวเราเดินย้อนขึ้นไปดูทางฝั่งซ้ายกันก่อนเลยค่ะ
เดินเลยสะพานลอยมาเล็กน้อยจะเจอร้านขายราดหน้า ผัดซีอิ๊ว ติดกันเป็นร้านซ่อมรถยนต์
ถัดมาเป็นร้านเสริมสวย
มีร้านซาลอน ทำผมสุภาพบุรุษ และสตรี
หน้าร้านซาลอนมีซุ้มขายพวกชากาแฟ
มีร้านขายข้าวไข่เจียว และปิ้งย่างหม่าล่า
เดินต่อมาอีกนิดหน่อยจะเจอกับกองพันทหารสื่อสารที่ 21 กองทัพภาคที่ 1
มองไปฝั่งตรงข้ามจะเห็นทางเข้า ซ.พหลโยธิน 63 มีสกายทูปสีส้มเด่นชัดตั้งอยู่หน้าปากซอย
ถัดมาเราไปดูทางฝั่งขวากันต่อเลย บริเวณนี้จะเจอทางขึ้น BTS สถานีพหลโยธิน 59 ติดกันมีร้านรับปักเสื้อ
มีร้านขายยา
เดินถัดมาหน่อยมีร้านตัด-ขาย-เช่าสูท
และติดกันเป็นป้ายรถประจำทาง
มองไปฝั่งตรงข้ามเห็นคลินิกเวชกรรมค่ะ
ตัวโครงการ
ภาพจำลองมุมมองโครงการ Kensington พหลโยธิน 63 รั้วโครงการออกแบบเป็นรั้วทึบสลับกับระแนงสีน้ำตาล มีป้ายชื่อโครงการติดชัดเจน ตัวอาคารออกแบบมาเป็นรูปตัว L สูง 8 ชั้น จำนวน 1 อาคาร บนที่ดินขนาด 1 – 3 – 31 ไร่ ชั้นพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2-8 ส่วน Facility จะแยกอาคาร 2 ชั้น อยู่มุมของอาคารพักอาศัยพอดี สีภายนอกอาคารใช้โทนเทาเข้มและอ่อน
Master Plan หรือผังอาคารชั้น 1 ที่ดินโครงการจะมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมูขนาดใหญ่ การเข้า-ออกโครงการมีทางเดียวคือบริเวณ ซ.พหลโยธิน 63 ที่เชื่อมมาจาก ถ.พหลโยธิน โดยด้านหน้ามีซุ้มทางเข้าแบบโล่งแจ้ง พร้อมรั้วไม้กระดก และ Security Gate เข้ามาด้านในจะเจออาคารพักอาศัยสูง 8 ชั้นวางเป็นรูปตัว L ส่วน Facility ด้านหน้าเป็นทางเข้า Lobby และทางเข้าลานจอดรถ มีการตกแต่งพื้นที่สีเขียวรอบโครงการ
ตัวอาคารประกอบไปด้วยห้องชุดพักอาศัยทั้งหมด 5 แบบ ได้แก่ 1 Bedroom Studio Superior พื้นที่ใช้สอย 22.53 – 24.72 ตร.ม., 1 Bedroom Deluxe พื้นที่ใช้สอย 28.46 – 31.34 ตร.ม., 1 Bedroom Plus Suite พื้นที่ใช้สอย 35.57 – 36.11 ตร.ม., 1 Bedroom Studio Superior พื้นที่ใช้สอย 40.66 ตร.ม. และ 2 Bedrooms Penthouse พื้นที่ใช้สอย 48.53 ตร.ม.
ผังอาคารชั้น 2 จะมีห้องพักอยู่ทั้งหมด 33 ยูนิต มีการวางแปลนโถงทางเดินแบบ Double Corridor คือมีห้องเรียงอยู่ทั้ง 2 ฟากของโถงทางเดิน ภายในอาคารมีลิฟต์โดยสารอยู่ 2 ตัวบริเวณ Core กลางของอาคาร ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วนจำนวนยูนิตพักอาศัยต่อจำนวนลิฟต์เป็น 116 : 1 แต่ด้วยอาคารสูงเพียง 8 ชั้นจึงถือว่าเป็นอัตราส่วนที่ยังพอรับได้ การรอลิฟต์จะไม่นานมากนัก
ห้องของชั้น 2 จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ทั้งหมด ส่วนตามมุมของอาคารจะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดใหญ่ และห้องแบบ 1 Bedroom Plus ความพิเศษของห้องในชั้น 2 คือ จะมีห้องแบบ Terrace ซึ่งห้องนี้จะมีระเบียงห้องเป็น Pool Access และ Garden Access สามารถเดินลงไปยังสระว่ายน้ำ และสวนได้เลย
ผังอาคารชั้น 3-8 จะมีลักษณะเหมือนกับการวางแปลนอาคารชั้น 2 เลยค่ะ มีห้องพักทั้งหมด 33 ยูนิต แต่จะมีแบบห้อง 2 Bedroom ขึ้นมาอยู่ที่มุมขวาบนของอาคาร ซึ่งจะมีเพียงชั้นละห้องเท่านั้น
บริเวณภายในโครงการ
ลำดับถัดมาเดี๋ยวเราไปดูกันที่ภายในโครงการต่อเลย บริเวณนี้เป็นมุมมองจากด้านหน้าโครงการ
ซุ้มทางเข้า-ออกโครงการเป็นแบบกลางแจ้ง แบ่งช่องการเดินรถเป็น 2 ฝั่ง
ด้านซ้ายเป็นทางเดินรถฝั่งขาเข้า
ด้านขวาเป็นทางเดินรถฝั่งขาออก
ติดกันฝั่งขวาเป็น Security Gate จุดนี้จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงเลยค่ะ และช่วงนี้มีสถานการณ์ COVID-19 การเข้าโครงการจะมีการตรวจวัดอุณหภูมิทุกครั้งด้วย
หลังจากผ่านทางเข้า-ออกโครงการบริเวณ Security Gate มาแล้ว มองตรงไปจะเจอทางเดินรถฝั่งขาออกจากลานจอดรถชั้นล่างของอาคาร
มุมมองย้อนกลับไปยังทางเข้า-ออกโครงการ
ส่วนฝั่งขวามีที่จอดรถกลางแจ้ง สามารถจอดรถยนต์ได้ 4 คัน พร้อมหมอนคอนกรีตกั้นล้อรถสำเร็จรูป ด้านหลังตกแต่งด้วยกำแพงพุ่มไม้สีเขียว
ถัดมาฝั่งซ้ายตรงไปเป็นทางเดินรถฝั่งขาเข้าไปยังลานจอดรถชั้นล่าง และขวามือเป็นทางเดินไปยัง Lobby ค่ะ
มุมด้านหน้าตรงนี้จะมองเห็นตึกพักอาศัยสูง 8 ชั้น ออกแบบมาในรูปตัว L แบบชัด ๆ
เดี๋ยวเราเดินเข้าไปดูด้านในกันต่อเลย
ขวามือจะเจอกับทางเข้า Lobby ชั้นล่างของอาคาร
ฝั่งตรงข้ามเป็นลานจอดรถกลางแจ้ง
สามารถจอดรถยนต์ได้ 4 คัน พร้อมหมอนคอนกรีตกั้นล้อรถสำเร็จรูป
ด้านหลังมีศาลพระภูมิประจำโครงการ บรรยากาศโดยรอบตกแต่งด้วยกำแพงต้นไม้ พุ่มไม้ ต้นไม้สีเขียว และโคมไฟสนาม
ตรงเข้าไปด้านในเป็นทางเดินรถฝั่งขาเข้าไปยังลานจอดรถชั้นล่าง จำกัดความสูงของรถอยู่ที่ 2.1 เมตร
ฝั่งซ้ายเป็นที่จอดรถจักรยานยนต์
ส่วนฝั่งขวาเป็นที่จอดรถยนต์
ช่องจอดรถยนต์กว้างกำลังดี จอดได้แบบไม่แออัดค่ะ
เมื่อเข้ามาด้านในทางเดินรถค่อนข้างกว้างขวาง เป็นการเดินรถทางเดียว ที่เสามีขอบเครื่องหมายระวังชนสีเหลืองดำติดตั้งให้อย่างเด่นชัด
บริเวณนี้เป็นท้าย ๆ ของลานจอดรถ มีทั้งที่จอดรถในร่ม และจอดกลางแจ้ง
ส่วนใหญ่แล้วบริเวณลานจอดรถจะแบ่งเป็นช่อง ๆ ช่องละ 3 คัน พร้อมหมอนคอนกรีตกั้นล้อรถสำเร็จรูปแบบนี้ค่ะ
มุมมองย้อนกลับไปยังทางเข้าลานจอดรถ
ผ่านอาคารจอดรถมาจะเชื่อมไปยังลานจอดรถอีกฝั่ง
ทางออกจากลานจอดรถ ตกแต่งด้วยพื้นที่สีเขียวให้ความร่มรื่นสบายตา
เดี๋ยวเราเดินไปดูด้านในกันต่อเลยค่ะ โดยทางเดินรถฝั่งซ้ายตกแต่งด้วยกำแพงต้นไม้
ส่วนฝั่งขวาติดกับทางออกจากลานจอดรถส่วนแรกมีพื้นที่จอดรถยนต์กลางแจ้งได้อีก 3 คัน
เมื่อเข้ามาภายในลานจอดรถฝั่งขาออก มีความกว้างกำลังดีเช่นเดียวกัน
ช่องจอดรถกว้างกำลังดี พร้อมหมอนคอนกรีตกั้นล้อรถสำเร็จรูป
ภายในลานจอดรถฝั่งขาออกมีประตูเชื่อมเข้าไปด้านใน Lobby บริเวณลิฟต์โดยสารที่ใช้ขึ้นไปยังอาคารชั้นพักอาศัย โดยจะต้องใช้ Key Card สแกนเข้าไปด้านในค่ะ
มุมมองย้อนกลับไปยังด้านในสุดของลานจอดรถฝั่งขาออก
ลำดับถัดมาเดี๋ยวเราเข้าไปดูด้านใน Lobby กันต่อเลย
โดยด้านข้างทางเข้า Lobby มีพื้นที่พักผ่อน ตกแต่งด้วยต้นไม้ พุ่มไม้สีเขียว ใช้เดินลัดเข้าไปยังลานจอดรถได้อีกทาง
มุมมองด้านหน้าทางเข้า Lobby เป็นพื้นที่ลานจอดรถกลางแจ้ง และศาลพระภูมิประจำโครงการ
ฝั่งซ้ายมองไปจะเห็นซุ้มทางเข้า-ออกโครงการ
ส่วนฝั่งขวาเป็นทางเข้าลานจอดรถ
เมื่อเปิดประตูเข้ามาด้านใน Lobby จะมีที่นั่งพักผ่อนให้หลายจุด ฝั่งซ้ายที่นั่งพักผ่อนเป็นชุดโซฟาขนาดใหญ่ และขนาด 4 ที่นั่ง ส่วนฝั่งขวามีชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง มีโมเดลโครงการ และบันไดวนเชื่อมขึ้นไปยังส่วนกลางชั้น 2 โดย Lobby ฝ้าจะสูงถึงชั้น 2 เลยค่ะ มองตรงไปด้านในมีเคาน์เตอร์ต้อนรับ และเชื่อมไปยังโถงลิฟต์ขึ้นอาคารพักอาศัย
ที่นั่งพักผ่อนส่วนใหญ่เป็นโซฟาเบาะนุ่ม พร้อมหมอนอิง และโต๊ะกลาง
บริเวณนี้คือฝั่งขวาข้างเคาน์เตอร์ต้อนรับมีทางเข้าห้องน้ำ
หน้าห้องน้ำเป็นมุมรับ-ฝากพัสดุ ใช้ระบบ Nasket อุปกรณ์สั่งสินค้าทันสมัยที่เสมือนยกห้างมาไว้ที่ห้อง
เดินตรงเข้ามาด้านในสุด บริเวณนี้เป็นโถงลิฟต์โดยสาร
มุมมองย้อนกลับไปยังทางเข้า Lobby
บริเวณนี้มี Mailbox แยกของแต่ละห้องเป็นสัดส่วน มีบริการจัดการพัสดุอย่างเป็นระเบียบ
เดินเข้าไปด้านในสุดมีทางออกไปยังลานจอดรถด้านนอก
ส่วนลิฟต์โดยสารมีให้ 2 ตัว ตกแต่งด้วยกำแพงลายหินอ่อน ขอบสีทอง
ตรงข้ามลิฟต์โดยสารมี Mailbox ให้อีกจุด
มุมมองย้อนกลับไปยังทางเข้า Lobby ลำดับถัดมาเดี๋ยวเราขึ้นไปดูส่วนกลางชั้น 2 และชั้น 8 กันค่ะ
เริ่มที่ส่วนกลางชั้น 2 ก่อนเลย โดยส่วนกลางชั้น 2 ประกอบด้วย สระว่ายน้ำระบบเกลือ, ฟิตเนส, Library Room, Private Meeting Room, Co-Working Space และ Social Club
ซึ่งหลังออกจากลิฟต์มา ฝั่งขวาเป็นทางเข้าโซนพักอาศัย
ส่วนฝั่งซ้ายเป็นทางออกไปยังพื้นที่ส่วนกลางต่าง ๆ
หลังจากเปิดประตูออกมาด้านนอก ตรงไปเป็นทางเดินเชื่อมไปยังสระว่ายน้ำ และฟิตเนส
ส่วนฝั่งซ้ายเป็นทางเชื่อมไปยัง Library Room, Private Meeting Room, Co-Working Space, Social Club และห้องน้ำส่วนกลางแยกชายหญิง
เดี๋ยวเราไปดูกันที่โซนสระว่ายน้ำ และฟิตเนสก่อนเลย
หลังจากขึ้นบันไดมาแล้ว ส่วนแรกจะพบกับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่
หันมาทางฝั่งซ้ายมีทางเดินไปยังพื้นที่พักผ่อนริมสระ, จุดชำระล้างตัวด้วยระบบน้ำจืด และฟิตเนส
มุมมองท้ายสระไปยังโซนฟิตเนสค่ะ
สระว่ายน้ำของโครงการใช้ระบบเกลือกว้าง 15 x 5.5 เมตร ความลึก 1.2 เมตร ใช้กระเบื้องสระลายหินอ่อน
เทควิวออกไปเห็นต้นไม้สีเขียวขนาดใหญ่ และบ้านพักอาศัยใกล้เคียงที่มีความสูงไม่มากนัก ทำให้วิวตรงข้ามกับพื้นที่พักผ่อนข้างสระค่อนข้างโล่งแจ้งไม่มีอาคารสูง ๆ มาบดบังวิวเลยค่ะ
มีทางเดินลงสระเป็นขั้นบันได ระหว่างขึ้น-ลงสระก็ระวังลื่นกันด้วยนะคะ เนื่องจากไม่มีราวจับมาให้
มุมมองภาพรวมทั้งหมดของสระว่ายน้ำ
ถัดมาเดี๋ยวเราไปชมริมสระฝั่งซ้ายกันต่อเลยค่ะ
โดยฝั่งนี้เป็นจุดชำระล้างตัวด้วยระบบน้ำจืด และพื้นที่พักผ่อนริมสระ
สำหรับจุดชำระล้างตัวด้วยระบบน้ำจืด มีฝักบัวและเรนชาวเวอร์ไว้ให้ใช้งานอย่างละ 1 ตัว บริเวณนี้มีการลดระดับพื้นด้านล่างลงเล็กน้อย ทำให้ระหว่างใช้งานน้ำจะไม่เลอะออกไปด้านนอก พร้อมตกแต่งด้วยก้อนหินสีเข้ม และพุ่มไม้สีเขียวรอบบริเวณ
ติดกันฝั่งขวามีพื้นที่พักผ่อนริมสระ
โดยแบ่งพื้นที่พักผ่อนไว้ 3 ล็อค คั่นกลางด้วยกระถางต้นไม้ พร้อมจัดวาง Sunbed ไว้ให้ 6 ตัว
ด้านบนเป็นหลังคาระแนงเหล็กสีดำ บริเวณโดยรอบตกแต่งด้วยพุ่มไม้ และไม้เลื้อยสีเขียว
ฝั่งขวาของมุมพักผ่อนริมสระเป็นโซนฟิตเนส
มุมมองหน้าโซนฟิตเนสย้อนกลับไปยังท้ายสระ และทางเข้าค่ะ
ลำดับถัดมาเราจะเข้าไปดูที่โซนฟิตเนสกันบ้าง
ภายในฟิตเนสมีพื้นที่ใช้งานกว้างขวาง เพดานค่อนข้างสูงโปร่ง ผนังเป็นกระจกรอบด้านชมวิวด้านนอกได้ และทำให้ห้องไม่มืดทึบ ด้านบนติดไฟดาวน์ไลท์ และติดตั้งแอร์ให้ 2 ตัว พร้อมมีอุปกรณ์เครื่องเล่นรองรับมากมาย โดยฟิตเนสเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 7.00 – 22.00 น.
กลางห้องบิวท์อินเป็นกระจกเงาขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ พร้อมติดตั้งทีวีที่ผนัง
ฝั่งซ้ายหลังเปิดประตูเข้ามาด้านในวางเป็นเครื่องบริหารกล้ามเนื้อ
ส่วนฝั่งขวามีเครื่องเล่นที่มากยิ่งขึ้น
มีลู่วิ่งไฟฟ้า 2 ตัว ติดกันเป็นเครื่องเดินวงรี เครื่องนั่งปั่นจักรยานสำหรับการทำ Cardio และเบาะสำหรับซิทอัพ
มีชุดดัมเบลให้เลือกใช้งานหลายขนาด
มุมมองย้อนกลับไปยังประตูทางเข้า
ถัดมาเราจะเข้าไปดูกันที่ส่วนกลางในอาคารกันบ้าง โดยประกอบไปด้วย Library Room, Private Meeting Room, Co-Working Space, Social Club และห้องน้ำส่วนกลางแยกชายหญิง
หลังออกมาจากโถงลิฟต์แล้วเลี้ยวซ้าย หันไปทางขวามือจะเจอทางเข้าห้องน้ำส่วนกลางแยกชายหญิง
เริ่มที่ห้องน้ำชายกันก่อนเลย
หน้าห้องน้ำมีล็อกเกอร์เก็บของให้ 8 ตู้
ภายในห้องน้ำมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัดนิดนึง แต่ใช้งานได้สะดวก ส่วนแรกซ้ายมือเป็นมุมโถสุขภัณฑ์ ติดตั้งสายฉีดชำระ และที่แขวนกระดาษทิชชู่ พร้อมวางถังขยะมาให้เรียบร้อย
ติดกันเป็นห้องอาบน้ำ แบ่งแยกส่วนแห้งส่วนเปียกชัดเจนด้วยฉากกั้นอาบน้ำแบบบานผลัก ภายในมีฝักบัว และเรนชาวเวอร์มาให้
ส่วนฝั่งซ้ายเป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างมือลายหินอ่อน พร้อมกระจกเงาขอบทองบานใหญ่เต็มพื้นที่
ถัดมาเป็นห้องน้ำหญิง
หน้าห้องน้ำมีล็อกเกอร์เก็บของให้ 8 ตู้เช่นเดียวกัน
เข้ามาภายในห้องน้ำส่วนแรกซ้ายมือเป็นมุมโถสุขภัณฑ์ ติดตั้งสายฉีดชำระ ที่แขวนกระดาษทิชชู่ พร้อมวางถังขยะมาให้เรียบร้อย
ติดกันเป็นห้องอาบน้ำ แบ่งแยกส่วนแห้งส่วนเปียกชัดเจนด้วยฉากกั้นอาบน้ำแบบบานผลัก ด้านในมีฝักบัว และเรนชาวเวอร์มาให้ใช้งาน
ส่วนฝั่งขวาเป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างมือลายหินอ่อน พร้อมกระจกเงาขอบทองบานใหญ่เต็มพื้นที่เช่นเดียวกัน
ออกมาดูกันที่หน้าห้องน้ำส่วนกลาง บริเวณนี้ประตูที่เห็นใช้เชื่อมเข้าไปยัง Co-Working Space ได้ค่ะ
ถัดมาเป็น Laundry Room และห้องเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ ของแม่บ้าน ต่อเนื่องไปเป็นประตูเข้าไปยังโซนพักอาศัย และส่วนกลางด้านในค่ะ
บรรยากาศเมื่อเปิดประตูเข้ามาด้านในมีประตูอีกชั้นเพื่อเข้าไปยังโซนห้องพักอาศัย
โถงทางเดินชั้นพักอาศัยปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีครีม ความกว้างโถงกำลังดี ด้านบนติดไฟดาวน์ไลท์ให้แสงสว่างตลอดทางเดิน
เดี๋ยวเราไปดูพื้นที่ส่วนกลางต่าง ๆ กันต่อเลย โดยห้องแรกซ้ายมือที่เห็นนั้นคือ Library Room แต่หากเดินตรงไปอีกหน่อยขวามือจะเป็น Co-Working Space, Private Meeting Room และ Social Club ค่ะ
เมื่อเข้ามาด้านใน Library Room พื้นที่ภายในกว้างขวาง มีที่นั่งพักผ่อนให้หลายจุด ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีน้ำตาลทอง
หลังจากเปิดประตูเข้ามาแล้ว ฝั่งขวาจะเจอมุมพักผ่อน โดยวางเป็นชุดโซฟาขนาด 1 ที่นั่ง ไว้ 2 ตัว พร้อมโต๊ะกลาง และหมอนอิง ด้านข้างติดกับกำแพงบิวท์อินเป็นชั้นวางของกรอบสีทองเก๋ไก๋
ส่วนตรงกลางห้องวางเป็นโต๊ะหินอ่อนสีเข้มทรงยาวขนาดใหญ่ 8 ที่นั่ง ด้านบนแขวนโคมไฟห้อยเพดานดูหรูหรา
บนโต๊ะรองรับ Wireless Charge สำหรับชาร์จอุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วยค่ะ
ในส่วนนี้มองลงไปจะเห็น Lobby ชั้นล่าง และวิวด้านหน้าอาคาร
ส่วนกำแพงที่ติดกับประตูทางเข้าแขวนผ้าม่านสีเทาดูเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น
มุมมองย้อนกลับไปยังประตูทางเข้า
ถัดมาด้านในสุดเป็นมุมพักผ่อนวางเก้าอี้ไว้ให้ 2 ตัว ที่ผนังมีปลั๊กไฟติดตั้งมาให้เรียบร้อย จะยกโน๊ตบุ๊คมานั่งทำงานก็สะดวกสบาย
ส่วนด้านข้างบิวท์อินเป็นชั้นวางของตกแต่งขนาดใหญ่ บรรยากาศโดยรอบค่อนข้างเงียบสงบ และเป็นส่วนตัว
มุมมองย้อนกลับไปยังประตูทางเข้า ส่วนทางซ้ายมือที่เห็นนั้นคือทางลงไปยัง Lobby โดยเป็นบันไดวนค่ะ
ถัดมาเราจะเข้าไปดูที่ Private Meeting Room, Co-Working Space และ Social Club กันค่ะ ซึ่งหลังจากที่เราเปิดประตูเข้ามาด้านในแล้ว ส่วนแรกเลยจะเจอกับ Co-Working Space ตรงกลางห้องคั่นด้วยชั้นวางของตกแต่งสีน้ำตาลขนาดใหญ่ ซึ่งแบ่งแยกพื้นที่ Co-Working Space กับ Social Club และ Private Meeting Room อย่างชัดเจน ภายในห้องตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์และสไตล์โทนสีน้ำตาล, เหลือง, ทอง ผ้าม่านภายในห้องเป็นสีขาว พื้นปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนสีเข้มทั่วห้อง
ติดกับประตูทางเข้ามีมุมพักผ่อนจัดวางเป็นโซฟาขนาด 1 ที่นั่ง 2 ตัว พร้อมหมอนอิง และโต๊ะกลาง ตกแต่งด้วยโคมไฟตั้งพื้นสีทองข้าง ๆ กัน
มาดูกันที่ Co-Working Space ต่อเลยค่ะ
บริเวณนี้ตรงกลางวางเป็นโต๊ะลายหินอ่อนทรงยาวขนาดใหญ่ 8 ที่นั่ง ด้านบนตกแต่งด้วยโคมไฟห้อยเพดานสีทองดีไซน์โมเดิร์น และบนโต๊ะจะรองรับ Wireless Charge ด้วยเช่นกัน
มุมมองย้อนกลับไปยังประตูทางเข้าห้อง
บริเวณนี้ฝั่งซ้ายบิวท์อินเป็นชั้นวางของตกแต่งสีน้ำตาลขนาดใหญ่ คั่นกลางระหว่างพื้นที่ Co-Working Space กับ Social Club
ส่วนฝั่งขวาเป็นผนังลายหินอ่อน แซมด้วยกรอบสีทองเพิ่มความหรูหรา และหากสังเกตดี ๆ ด้านในสุดจะเห็นประตูเปิดออกไปยังพื้นที่ด้านนอกด้วย
โดยเป็นประตูบานพลักที่เปิดออกไปยังห้องน้ำส่วนกลางแยกชายหญิงด้านนอก เมื่อเลี้ยวซ้ายก็จะไปยังโถงลิฟต์ สระว่ายน้ำ และฟิตเนสนั่นเอง
มุมมองภาพรวมทั้งหมดของ Co-Working Space ค่ะ
ลำดับต่อมาเดี๋ยวเราเข้าไปดูด้านในกันต่อเลยค่ะ
ถัดเข้ามาในส่วนนี้คือ Social Club พื้นที่การใช้งานกว้างขวาง ตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาล, เหลือง, ทอง เช่นเดียวกัน
มองตรงไปส่วนแรกจะเห็นเคาน์เตอร์บาร์
โดยเป็นเคาน์เตอร์บาร์ลายหินอ่อน วางเก้าอี้ไว้ให้ 3 ตัว
ด้านหลังตกแต่งด้วยชั้นวางของขนาดใหญ่ พร้อมกรุเป็นผนังไม้แซมด้วยกระจกดูสวยงาม
ส่วนฝั่งซ้ายมีมุมพักผ่อนวางเป็นโซฟาขนาด 1 ที่นั่ง 2 ตัว พร้อมตกแต่งด้วยโคมไฟตั้งพื้นสีทอง
ไปดูที่ฝั่งขวากันบ้าง
บริเวณนี้วางเป็นโต๊ะสนุกเกอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ด้านหน้า Private Meeting Room พอดีเลย
พื้นที่ใช้งานค่อนข้างกว้าง ไม่แออัด และได้รับแสงสว่างเข้ามาได้เยอะจากหน้าต่างด้านข้าง
ขวามือติดกับชั้นวางของตกแต่ง ด้านบนแขวนโคมไฟห้อยเพดานสีทองอร่าม
มุมมองย้อนกลับไปยังเคาน์เตอร์บาร์ค่ะ
บรรยากาศภาพรวมทั้งหมดของ Social Club
ถัดมาเราจะเข้าไปดูกันที่ Private Meeting Room กันบ้างนะคะ โดยบริเวณทางเข้าเป็นประตูบานเลื่อนสไลด์
มุมมองหน้าห้อง Private Meeting Room ย้อนกลับไปยังประตูทางเข้าห้องค่ะ
เมื่อเข้ามาด้านในจะพบกับโต๊ะลายหินอ่อนทรงยาวขนาด 8 ที่นั่งเป็นส่วนแรก บนโต๊ะรองรับ Wireless Charge เช่นเดียวกัน
ฝั่งขวาบิวท์อินเป็นชั้นวางของสีเหลืองทองขนาดใหญ่เกือบเต็มพื้นที่ ด้านบนตกแต่งด้วยโคมไฟห้อยเพดานดีไซน์เก๋
มุมมองห้องทางฝั่งซ้าย
มุมมองห้องทางฝั่งขวา
ถัดมาเราขึ้นมาดูที่ส่วนกลางชั้น 8 นั่นก็คือสวนบนดาดฟ้ากันเลย ซึ่งหลังจากออกจากลิฟต์มาแล้วให้เลี้ยวขวา
จากนั้นจะเจอทางเดินขึ้นไปยังดาดฟ้าทางขวามือค่ะ
หลังจากที่เราขึ้นมาด้านบนแล้วจะพบกับสวนบนดาดฟ้ากลางแจ้งขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับขึ้นมารับลมในช่วงเย็น ๆ
รวมทั้งยังที่นั่งพักผ่อนในสวนให้หลายจุด โดยเป็นม้านั่งทรงยาวทาสีเหลืองทอง
ภายในสวนตกแต่งด้วยพุ่มไม้ และต้นไม้สีเขียว มีราวกันตกเป็นระแนงเหล็กทาสีดำ พร้อมไฟสนามให้แสงสว่างยามมืด เดี๋ยวเราเดินเข้าไปดูด้านในกันต่อเลยค่ะ
เดินต่อเข้ามาอีกหน่อยฝั่งซ้ายจะมองเห็นวิวกว้างเต็มตาอีกมุมหนึ่ง
มีม้านั่งทำเป็นมุมพักผ่อนให้อีกจุด
ส่วนฝั่งขวามีทางเดินไปยังพื้นที่พักผ่อนด้านใน
เดินตรงเข้ามาด้านในสุดจะพบกับพื้นที่พักผ่อน ซึ่งรองรับหลายมุมเลยค่ะ
ฝั่งขวามีเคาน์เตอร์บาร์ พร้อมเก้าอี้ทรงสูงขนาด 3 ที่นั่ง มองเห็นวิวได้แบบชัด ๆ
ไปดูทางฝั่งซ้ายกันบ้างค่ะ
บริเวณนี้จัดเป็นมุมพักผ่อนด้วยการวางเก้าอี้หวายสีเข้มขนาด 3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง 2 จุด เอาไว้นั่งรับลมชิว ๆ
บริเวณโดยรอบตกแต่งด้วยพุ่มไม้ดอกไม้สวยงามเป็นธรรมชาติ
มุมนี้ตกแต่งด้วยกำแพงต้นไม้ และพุ่มไม้สีเขียว บริเวณทางเดินมีไฟสนาม
ส่วนตรงกลางมีซุ้มระแนงทาสีดำและน้ำตาล พร้อมพื้นที่พักผ่อนด้านใน
มีเคาน์เตอร์บาร์ พร้อมเก้าอี้ทรงสูง 3 ที่นั่ง
บรรยากาศภาพรวมพื้นที่พักผ่อนด้านในของสวนบนดาดฟ้า
แบบห้อง
โครงการ Kensington พหลโยธิน 63 แบบห้องมีให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ ได้แก่
แบบห้อง 1 Bedroom Studio Superior : พื้นที่ใช้สอยขนาด 22.53 – 24.72 ตร.ม.
แบบห้อง 1 Bedroom Deluxe : พื้นที่ใช้สอยขนาด 28.46 – 31.34 ตร.ม.
แบบห้อง 1 Bedroom Plus Suite : พื้นที่ใช้สอยขนาด 35.57 – 36.11 ตร.ม.
แบบห้อง 1 Bedroom Studio Superior : พื้นที่ใช้สอยขนาด 40.66 ตร.ม.
แบบห้อง 2 Bedrooms Penthouse : พื้นที่ใช้สอยขนาด 48.53 ตร.ม.
แบบห้อง 1 Bedroom Studio Superior
พื้นที่ใช้สอย 22.53 – 24.72 ตร.ม.
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ
ห้องนั่งเล่น, มุมโต๊ะทำงาน, ห้องครัว, ห้องน้ำ, ห้องนอน, พื้นที่ระเบียง
แบบห้อง 1 Bedroom Deluxe
พื้นที่ใช้สอย 28.46 – 31.34 ตร.ม.
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ
ห้องนั่งเล่น, มุมรับประทานอาหาร, มุมโต๊ะทำงาน, ห้องครัว, ห้องน้ำ, ห้องนอน, พื้นที่ระเบียง
แบบห้อง 1 Bedroom Plus Suite
พื้นที่ใช้สอย 35.57 – 36.11 ตร.ม.
2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ
ห้องนั่งเล่น, มุมรับประทานอาหาร, ห้องครัว, ห้องน้ำ, ห้องนอนหลัก, ห้องนอนรอง, พื้นที่ระเบียง
แบบห้อง 1 Bedroom Studio Superior
พื้นที่ใช้สอย 40.66 ตร.ม.
2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ
ห้องนั่งเล่น, มุมรับประทานอาหาร, มุมโต๊ะทำงาน, ห้องครัว, ห้องน้ำ, ห้องนอนหลัก, ห้องนอนรอง, พื้นที่ระเบียง
แบบห้อง 2 Bedrooms Penthouse
พื้นที่ใช้สอย 48.53 ตร.ม.
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ
ห้องนั่งเล่น, มุมรับประทานอาหาร, ห้องครัว, ห้องน้ำ, ห้องนอนหลัก + ห้องน้ำ, ห้องนอนรอง, พื้นที่ระเบียง
ห้องตัวอย่าง
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo จะพาท่านผู้อ่านไปชมห้องตัวอย่าง 3 แบบ คือ
แบบห้อง 1 Bedroom Deluxe : พื้นที่ใช้สอย 28.46 – 31.34 ตร.ม.
แบบห้อง 1 Bedroom Plus Suite : พื้นที่ใช้สอย 35.57 – 36.11 ตร.ม.
แบบห้อง 2 Bedrooms Penthouse : พื้นที่ใช้สอย 48.53 ตร.ม.
โดยห้องพักขายแบบ Fully Furnished สิ่งที่ได้จะมี Digital Door Lock, เครื่องปรับอากาศ, ชั้นวางทีวี, ตู้เก็บของ, โซฟา + โต๊ะกลาง, ชุดเคาน์เตอร์ครัว + ซิงค์ล้างจาน, เตียงนอน, ตู้เสื้อผ้า, ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ Mogen กับ VRH พร้อมฉากกั้นอาบน้ำ และมีระบบ Home Automation
เริ่มกันที่ แบบห้อง 1 Bedroom Deluxe ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 28.46 ตร.ม. กันก่อนเลยค่ะ พื้นที่การใช้งานภายในห้องแยกเป็นสัดส่วน เมื่อเข้าประตูไปจะเจอกับห้องนั่งเล่นเป็นส่วนแรก ต่อเนื่องไปเป็นมุมรับประทานอาหาร และมีประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่เปิดเข้าไปยังห้องนอน
ถัดมาอีกฝั่งมีทางเดินเชื่อมไปยังมุมโต๊ะทำงาน ที่สามารถปรับแต่งเป็นฟังก์ชันอื่น ๆ ได้ตามไลฟ์สไตล์ จากนั้นทางฝั่งขวาห้องน้ำ ที่แบ่งแยกส่วนแห้งและส่วนเปียกอย่างชัดเจนด้วยฉากกั้นอาบน้ำ
ส่วนฝั่งซ้ายเป็นห้องครัวแบบปิด มีการบิวท์อินเคาน์เตอร์ครัวพร้อมซิงค์ล้างจานมาให้เรียบร้อย มีประตูบานเลื่อนทำเป็นครัวปิด และมีพื้นที่ระเบียงหลังห้องสำหรับชมวิวด้านนอก
หลังจากที่เราได้ชมแปลนแบบห้อง 1 Bedroom Deluxe ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 28.46 ตร.ม. กันไปแล้ว ลำดับต่อไปเราจะเข้ามาดูห้องตัวอย่างกันต่อเลยนะคะ เริ่มที่บริเวณทางเข้าห้องประตูเป็นบานสำเร็จรูปลายไม้สีอ่อน ที่ประตูมีตาแมวสำหรับดูความปลอดภัยบริเวณหน้าห้อง ด้านข้างประตูมีป้ายหมายเลขห้อง และกริ่งออดติดตั้งมาให้ด้วย
ติดตั้ง Digital Door Lock ของ COLT พร้อมมือจับแบบคันโยกมาให้ ฟังก์ชันระบบล็อกใช้งานได้ทั้งรหัสผ่าน, Keycard และกุญแจ
ที่พื้นมี Door Stopper หรือตัวหยุดประตู
เมื่อเปิดประตูเข้ามาด้านใน ห้องปูพื้นด้วยลามิเนตลายไม้สีอ่อนหนา 8 มม. ผนังปูนฉาบเรียบทาสีพื้น ด้านบนติดตั้งไฟดาวน์ไลท์ เพดานห้องสูง 2.4 เมตร ทำให้มีความโปร่งโล่งสบาย
เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ สามารถจัดวางได้อย่างลงตัว ฝั่งซ้ายเป็นมุมนั่งเล่น ติดถัดไปเป็นมุมรับประทานอาหาร และห้องนอน ส่วนฝั่งขวาเป็นชั้นวางทีวี และมีทางเดินเข้าไปยังมุมโต๊ะทำงาน, ห้องน้ำ ห้องครัว และระเบียงหลังห้อง
เริ่มจากส่วนแรกทางฝั่งซ้ายคือห้องนั่งเล่น ต่อเนื่องไปเป็นมุมรับประทานอาหาร
ห้องนั่งเล่นจัดวางเป็นชุดโซฟาโทนสีเทาขนาด 2 ที่นั่ง มีที่พักแขน พร้อมหมอนอิง และโต๊ะกลางขาสีทองขนาดกะทัดรัด 2 ตัว ด้านข้างติดกับประตูทางเข้ามีโต๊ะวางของตกแต่ง
พื้นด้านล่างปูด้วยพรมขนนุ่มสีเทาเข้าชุดกับโซฟา ระยะการเดินผ่านกว้างกำลังดี เดินผ่านเข้า-ออกได้อย่างสะดวกสบาย
ด้านหลังชุดโซฟากรุเป็นผนังกระจกเงาบานใหญ่ พร้อมระแนงไม้สวยงาม
ฝั่งตรงข้ามกับชุดโซฟา ทางโครงการได้บิวท์อินเป็นชั้นวางทีวีลายไม้สีอ่อนขนาดพอเหมาะ มีตู้เก็บของในตัว วางชิดติดกับผนังห้องทางฝั่งขวา ด้านบนและล่างมีช่องเก็บของพร้อมบานปิดเลื่อนสไลด์ ส่วนระยะห่างของการนั่งดูทีวีมีขนาดกำลังดีเลยค่ะ
หน้าชั้นวางทีวีมีที่เหลือให้วางของตกแต่ง หรือของใช้อื่น ๆ ได้อีก หลังจากที่วางทีวีแล้ว
มุมมองภาพรวมของห้องนั่งเล่น
ถัดมาติดกับโซฟานั่งเล่นมีที่เหลือให้ทำเป็นมุมรับประทานอาหารได้กำลังดี
โดยทางโครงการได้จัดวางเป็นโต๊ะขนาด 2 ที่นั่ง หากจะใช้งานควรเปิดประตูบานเลื่อนของห้องนอนแล้วเขยิบเก้าอี้ไปหน่อย หรือเลื่อนเก้าอี้รับประทานอาหารออกมานั่งที่มุมตัวหนึ่งค่ะ
ลำดับถัดมาเราจะเข้าไปดูที่ห้องนอนกันบ้าง โดยประตูทางเข้าห้องเป็นบานเลื่อนสลได์ขนาดใหญ่ พร้อมติดลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง มือจับประตูเป็นแบบเซาะร่องมีที่ล็อกในตัว
ภายในห้องนอนมีความกว้าง สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว
โซนพักผ่อนเหมาะสำหรับวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุต จะได้ไม่กินพื้นที่มาก
ฝั่งหัวเตียงกรุเป็นผนังบานไม้สีอ่อนกรอบเข้มพร้อมกระจกเงา
ฝั่งปลายเตียงมีพื้นที่รองรับการติดตั้งทีวีที่ผนังห้อง
พื้นปลายเตียงสามารถเดินผ่านเข้า-ออกได้อย่างสะดวก แต่หากบิวท์อินเป็นชั้นวางทีวีจะไม่มีที่ให้เดินผ่านนะคะ เพราะพื้นที่ฝั่งนี้ค่อนข้างจำกัดนิดนึง
ติดกันข้างเตียงฝั่งซ้าย บิวท์อินเป็นตู้เสื้อผ้าบานเลื่อนสไลด์ทรงสูงขนาดกลางยาวจรดเพดาน หน้าตู้เสื้อผ้ามีบานเลื่อนแบบกระจกให้ส่องความเรียบร้อยด้วยค่ะ
หน้าตู้เสื้อผ้ามีที่เหลือให้ยืนแต่งตัวได้อย่างสะดวกสบาย
ส่วนฝั่งขวามีช่องรับแสงขนาดใหญ่ เป็นกระจกบานฟิกซ์ และบานกระทุ้ง ช่วยถ่ายเทอากาศภายในห้องได้เป็นอย่างดี ทำให้ห้องไม่มืดทึบ และรับแสงสว่างจากธรรมชาติเข้ามาภายในห้องได้เยอะทีเดียว
ถัดมาเราไปชมฝั่งขวาของห้องกันบ้างนะคะ
ตรงกลางระหว่างห้องน้ำ และห้องครัว บริเวณนี้ทางห้องตัวอย่างจัดให้เป็นมุมโต๊ะทำงาน หรือจะเปลี่ยนให้เป็นมุมแต่งตัว มุมโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้ ปรับได้ตามไลฟ์สไตล์เลยค่ะ
สำหรับห้องตัวอย่างมุมนี้บิวท์อินเป็นโต๊ะทำงานขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ มีช่องเก็บ ชั้นวางหนังสือ พร้อมกระจกเงาบานใหญ่
เดี๋ยวเข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อเลย
บริเวณทางเข้าธรณีประตูยกสูงขึ้นมาจากพื้นห้องเล็กน้อย ช่วยป้องกันน้ำกระเซ็นออกไปด้านนอก
ภายในห้องน้ำมีฟังก์ชันครบครัน แบ่งแยกเป็นส่วนแห้งส่วนเปียกอย่างชัดเจนด้วยฉากกั้นอาบน้ำ ฝาผนังปูกระเบื้องแกรนิตโต้สีน้ำตาลแบบมีลวดลายและสีครีมในบางส่วนจรดเพดาน พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้แบบผิวด้านสีเทา
ด้านบนติดไฟดาวน์ไลท์ และมีพัดลมระบายอากาศติดตั้งมาให้เสร็จสรรพ
ภายในห้องน้ำมีกระจกเงาขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ผนังฝั่งซ้าย
ใช้อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมแบบลอยติดผนังของ Mogen คู่กับก๊อกน้ำจาก VRH หน้าอ่างมีพื้นที่เหลือให้วางของใช้ หรือของตกแต่งได้อีก
ด้านล่างมีช่องเก็บของ
โถสุขภัณฑ์ใช้ของ Mogen แบบแยกชิ้นระบบ Dual Flush ระยะการใช้งานกำลังดี สะดวก ไม่แออัด ติดตั้งสายฉีดชำระสแตนเลสที่ฝั่งซ้าย ส่วนฝั่งขวามีที่แขวนทิชชู่มาให้
ถัดมาเป็นพื้นที่อาบน้ำติดตั้งฉากกั้นมาให้เรียบร้อย เป็นกระจกบานผลักมือจับราวสแตนเลส ผนังฝั่งขวาด้านหน้าติดตั้งราวแขวนผ้าขนหนูมาให้ 1 จุด
ทางเข้าพื้นที่อาบน้ำ มีขอบธรณียกสูงขึ้นมา แบ่งแยกระหว่างส่วนแห้งส่วนเปียกอย่างชัดเจน
มุมอาบน้ำติดตั้งฝักบัวของ VRH สามารถติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น หรือชั้นวางของเพิ่มเติมเองได้ที่ผนัง
ออกมาดูที่ห้องครัวและระเบียงหลังห้องกันต่อเลยนะคะ โดยเป็นห้องครัวแบบปิด มีประตูบานเลื่อนสไลด์บริเวณทางเข้า ข้อดีคือระหว่างประกอบอาหารกลิ่นจะไม่คลุ้งไปทั่วห้อง และระบายอากาศได้ดีหากเปิดประตูระเบียง หรือติดตั้งฮูดดูดควันเพิ่มเติมค่ะ
เมื่อเข้ามาภายในห้องครัวมีความกว้างจำกัดนิดนึงหลังบิวท์อินเป็นเคาน์เตอร์ครัว และได้รับแสงสว่างเข้ามาได้เยอะจากประตูระเบียง
ข้างเคาน์เตอร์ครัวมีที่เหลือให้วางตู้เย็นได้เพิ่มเติมอีก
สำหรับเคาน์เตอร์ครัวท็อปครัวเป็นพื้นสีขาว ติดตั้งเตาไฟฟ้ามาให้ทางฝั่งซ้าย
ส่วนฝั่งขวามีซิงค์ล้างจานแบบหลุมเดียว พร้อมก๊อกน้ำโครเมียม
ด้านหลังเคาน์เตอร์ครัวมี Backsplash กรุเป็นกระเบื้องเซรามิกกันเปื้อนมาให้ หากน้ำมันกระเด็นขณะประกอบอาหารก็สามารถเช็ดออกได้ง่าย ด้านบนติดตั้งเป็นฮูดดูดควัน ตรงกลางมีพื้นที่สำหรับเตรียมอาหาร หรือวางของใช้
ชุดครัวด้านบนมีตู้เก็บของบานปิดมาให้ ใช้เก็บพวกเครื่องปรุงหรือของใช้ต่าง ๆ ได้
และมีช่องเก็บของแบบชั้นลอยให้อีก 2 ช่อง
ส่วนเคาน์เตอร์ด้านล่างมีตู้เก็บของมาให้เช่นเดียวกัน ช่องนี้อาจใช้เก็บพวกน้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม หรืออุปกรณ์เครื่องใช้อื่น ๆ ได้ค่ะ
ตรงกลางมีช่องว่างขนาดใหญ่สำหรับวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าได้อย่างพอดี
ติดกันเป็นช่องสำหรับวางตู้ไมโครเวฟ
มาดูกันที่ระเบียงหลังห้องกันบ้าง โดยมีประตูบานเลื่อนสไลด์เปิดออกไปยังพื้นที่ระเบียง มือจับประตูเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐานมีที่ล็อกในตัว
พื้นที่ระเบียงมีขนาดกว้างพอเหมาะ ธรณีประตูยกพื้นขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อป้องกันน้ำกระเซ็นเข้ามาภายในห้อง พร้อมวางรางประตูด้านบนอีกที พื้นปูด้วยระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ผิวด้านสีเทาอ่อน ราวกันตกเป็นระแนงเหล็กโปร่งทาสีดำเข้ม
ระเบียงฝั่งขวาด้านบนใช้เป็นที่แขวนคอมเพลสเซอร์แอร์
ส่วนฝั่งซ้ายด้านบนมีโคมไฟกิ่ง
ด้านล่างมีก็อกน้ำให้ 1 ตัว
มุมมองย้อนกลับไปยังประตูทางเข้าห้อง
อีกห้องที่พามาชมเป็นแบบห้อง 1 Bedroom Plus Suite ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 35.57 ตร.ม. ค่ะ เดินเข้ามาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน ถัดเข้าไปเป็นห้องนอน ได้ฉากกั้นบานเลื่อน 3 บาน ภายในห้องสามารถวางโต๊ะตู้เตียงได้ครบ
อีกฝั่งจะเป็นห้องน้ำมีพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้ง หน้าห้องน้ำเป็นห้องครัว ได้เป็นครัวเปิดเชื่อมเข้ามาในห้องนั่งเล่น ถัดจากครัวอีกฝั่งเป็นห้องอเนกประสงค์ ได้ฉากกั้นบานเลื่อน 2 บาน จะทำเป็นห้องทำงาน ห้องเก็บของ หรือห้องนอนอีกห้องก็ได้ ในสุดจะเป็นระเบียง ลำดับต่อไปเราจะเข้ามาดูห้องตัวอย่างกันต่อเลยนะคะ
เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน ถัดไปเป็นห้องนอน ขวามือจะมีทางเดินไปห้องครัว ห้องน้ำ และห้องอเนกประสงค์ พื้นห้องได้ลามิเนตหนา 8 มม. ฝ้าสูง 2.4 ม. ผนังได้ฉาบเรียบทาสีทั้งห้อง
เดินเข้ามาแล้วมองกลับไปที่ประตูห้อง
ติดกับประตูห้องจะได้ชั้นวางของ แอร์ติดตรงผนัง 1 ตัว
ได้โซฟาขนาด 2-3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง
ติดกับโซฟามุมนี้เราสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหาร หรือโต๊ะทำงานก็ได้
ระยะดูทีวีประมาณ 2.9 เมตร ได้ชั้นวางทีวีตามนี้เลย ทั้งชุดล่างและบน หน้าบานเป็นแบบบานเลื่อนซ้ายขวา
ถัดเข้าไปจะเป็นห้องนอน ได้ฉากกั้นแบบบานเลื่อน 3 บาน
ภายในห้องนอนมีพื้นที่ให้มาพอสมควร
ได้เตียงนอนขนาด 5 ฟุต พื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 39 ซม.
พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 1.4 เมตร
ข้างเตียงริมหน้าต่างเหลือพื้นที่ประมาณ 38 ซม.
ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.4 ม. แอร์ติดผนังปลายเตียง 1 ตัว
หน้าต่างในห้องนอนได้เป็นบานกระทุ้ง 1 บาน ที่เหลือเป็นบาน Fixed
มองกลับเข้ามาในห้อง ข้างเตียงด้านในมีพื้นที่ให้วางตู้เสื้อผ้า
ได้ตู้เสื้อผ้าขนาดบานเลื่อน 2 บาน
ออกจากห้องนอนมา จะมีทางเดินไปยังส่วนครัว ได้เป็นครัวเปิด
ได้ชั้นวางของเป็นตู้บานเปิด 2 บาน ด้านล่างมีช่องไว้ให้วางเครื่องซักผ้าได้ มีบานพับที่สามารถกางออกเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยอาจจะเป็นจุดเตรียมอาหาร วางเสื้อผ้าเพื่อเตรียมเข้าเครื่องหรือใช้เป็นโต๊ะทานข้าวก็ได้
ถัดเข้าไปจะเป็นชุดเคาน์เตอร์ครัว ได้เป็นตู้บานเปิด 3 บาน และลิ้นชัก 1 ช้อง ได้เตาไฟฟ้า และอ่างล้างจาน วางใกล้กันเลย เรามาใช้ส่วนเตรียมอาหารตรงเคาน์เตอร์เครื่องซักผ้าได้
ติดกับครัวด้านในเป็นห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำมีพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้ง
สุขภัณฑ์ที่ได้ของ Mogen
ด้านในส่วนเปียกติดฝักบัวมาให้ของ VRH
พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.37 x 0.85 เมตร
ออกจากห้องน้ำมา ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องอเนกประสงค์ มีฉากกั้นบานเลื่อน 2 บานให้
ภายในห้องอเนกประสงค์ขนาดประมาณ 2 x 2.4 เมตร ใครจะทำเป็นห้องทำงาน ห้องเก็บของ หรือเป็นห้องนอนอีกห้องก็ได้ ขนาดวางเตียงเดี่ยวกำลังดี
ห้องตัวอย่างทำเป็นห้องทำงานให้ดูเป็นไอเดีย
แอร์ได้ติดผนัง 1 ตัว ถัดไปจะเป็นระเบียง มีประตูกระจกบานเลื่อน 2 บาน
เปิดออกมาจะเจอระเบียงขนาด 1.9 x 0.75 เมตร
ด้านข้างแขวนคอมเพลสเซอร์แอร์ 3 ตัว เป่าลมออกด้านนอก
มองกลับเข้ามาในห้องจะเห็นแบบนี้
มาถึงแบบห้องสุดท้ายที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้แล้วค่ะคือ แบบห้อง 2 Bedrooms Penthouse ขนาดพื้นที่ใช้สอย 48.53 ตร.ม. พื้นที่การใช้งานแยกเป็นสัดส่วน เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในห้องส่วนแรกคือห้องครัวแบบปิด
ถัดเข้าไปด้านในฝั่งซ้ายห้องแรกคือห้องนอนรอง ติดกันเป็นห้องนอนหลักมีห้องน้ำในตัว โดยติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย ส่วนฝั่งขวาคือห้องน้ำติดตั้งฉากกั้นแยกส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้เช่นเดียวกัน ต่อเนื่องไปเป็นมุมรับประทานอาหาร ห้องนั่งเล่น และพื้นที่ระเบียง
หลังจากที่เราได้ชมแปลนแบบห้อง แบบห้อง 2 Bedrooms Penthouse ขนาดพื้นที่ใช้สอย 48.53 ตร.ม. กันไปแล้ว ลำดับต่อไปเราจะเข้ามาดูห้องตัวอย่างกันต่อเลยนะคะ เริ่มที่บริเวณทางเข้าห้องประตูเป็นบานสำเร็จรูปลายไม้สีอ่อน ที่ประตูมีตาแมวสำหรับดูความปลอดภัยบริเวณหน้าห้อง ด้านข้างประตูมีป้ายหมายเลขห้อง และกริ่งออด
ที่ประตูติดตั้ง Digital Door Lock ของ COLT พร้อมมือจับแบบคันโยกมาให้ ฟังก์ชันระบบล็อกใช้งานได้หลายแบบทั้ง รหัสผ่าน, Keycard และกุญแจ
ที่พื้นมี Door Stopper หรือตัวหยุดประตู
เมื่อเปิดประตูเข้ามาด้านใน ส่วนแรกจะเจอห้องครัวแบบปิด มีประตูบานเลื่อนกั้นส่วนมาให้อย่างชัดเจน
บริเวณนี้ทางโครงการบิวท์อินเป็นเคาน์เตอร์ครัวขนาดพอเหมาะ สำหรับจัดเตรียมอาหาร หรือซื้อของมาทานในห้อง และหากใครต้องการประกอบอาหารก็ติดตั้งฮูดดูดควันมาให้เรียบร้อยแล้ว
ด้านข้างมีที่เหลือให้วางเป็นตู้เย็นขนาดกลางได้อีก
เคาน์เตอร์ครัวท็อปครัวเป็นพื้นสีขาว ติดตั้งเตาไฟฟ้ามาให้ทางฝั่งขวา
ส่วนฝั่งซ้ายมีซิงค์ล้างจานแบบหลุมเดียว พร้อมก๊อกน้ำโครเมียม
ด้านบนติดตั้งเป็นฮูดดูดควัน ตรงกลางมีพื้นที่สำหรับเตรียมอาหาร หรือวางของใช้ต่าง ๆ และด้านหลังเคาน์เตอร์ครัวมี Backsplash กรุเป็นกระเบื้องเซรามิกกันเปื้อนมาให้ หากน้ำมันกระเด็นขณะประกอบอาหารก็สามารถเช็ดออกได้ง่าย ๆ
ชุดครัวด้านบนเป็นลายไม้มีตู้เก็บของบานปิดมาให้
ติดกันมีชั้นลอยสำหรับวางของใช้หรือของตกแต่งอื่น ๆ
ส่วนเคาน์เตอร์ด้านล่างมีตู้เก็บของ และลิ้นชักเก็บของมาให้ ตรงกลางมีช่องว่างขนาดใหญ่สำหรับวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าได้อย่างพอดี
มีช่องสำหรับวางตู้ไมโครเวฟ 1 ช่อง
เดี๋ยวเราเข้าไปดูด้านในกันต่อเลยค่ะ
หลังจากผ่านห้องครัวเข้ามาแล้ว ฝั่งซ้ายห้องแรกคือห้องนอนรอง ถัดไปเป็นห้องนอนหลัก ฝั่งขวามือเป็นห้องน้ำ ต่อเนื่องไปเป็นมุมรับประทานอาหาร ห้องนั่งเล่น และพื้นที่ระเบียง เพดานห้องค่อนข้างโปร่งสูง 2.4 เมตร
ก่อนอื่นเดี๋ยวเราเข้าไปดูกันที่ห้องนอนหลัก หรือ Master Bedroom เป็นอันดับแรกเลย
เมื่อเข้ามาภายในห้องส่วนแรกจะเจอกับห้องน้ำในตัว และขวามือเป็นโซนพักผ่อน
สวิทช์ไฟภายในห้องใช้ของ Artani เป็นแบบสัมผัส
เข้าไปดูที่ห้องน้ำกันในตัวกันค่ะ
บริเวณทางเข้าธรณีประตูห้องน้ำยกสูงขึ้นมาจากพื้นห้องเล็กน้อย
ภายในห้องน้ำมีฟังก์ชันครบครัน ฝาผนังใช้กระเบื้องเซรามิกสีขาว และสีน้ำตาลแบบมีลวดลาย ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องมาให้จนจรดเพดาน ด้านบนติดไฟดาวน์ไลท์ พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้แบบผิวด้านสีเทา
ฝั่งขวาติดตั้งกระจกเงาบานใหญ่เต็มพื้นที่
ใช้อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมแบบลอยติดผนังของ Mogen พร้อมก๊อกน้ำแบบหมุนจาก VRH หน้าอ่างมีพื้นที่เหลือให้วางของใช้ หรือของตกแต่งได้อีก
ด้านล่างมีช่องเก็บของมาให้อีก
โถสุขภัณฑ์ใช้ของ Mogen แบบแยกชิ้นระบบ Dual Flush ระยะการใช้งานกำลังดี ติดตั้งสายฉีดชำระสแตนเลสที่ฝั่งซ้าย ส่วนฝั่งขวามีที่แขวนทิชชู่
ฝั่งซ้ายของห้องน้ำแบ่งแยกส่วนแห้งและส่วนเปียกอย่างชัดเจนด้วยฉากกั้นอาบน้ำ ผนังห้องฝั่งนี้ใช้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีขาว
ทางเข้าก่อธรณีสูงขึ้นมาจากพื้น ช่วยป้องกันน้ำกระเซ็นออกไปด้านนอก
มุมอาบน้ำติดตั้งฝักบัวของ VRH สามารถติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น หรือชั้นวางของเพิ่มเติมเองได้ที่ผนัง
ออกมาดูที่โซนพักผ่อนกันบ้างค่ะ
โซนพักผ่อนสามารถวางเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุตได้กำลังดี
ฝั่งหัวเตียงกรุเป็นกระจกเงากรอบไม้สีน้ำเงินสวยงาม และมีกระจกเงาบานใหญ่ข้างเตียงฝั่งขวา
ผนังฝั่งปลายเตียงหากต้องการติดตั้งทีวีในห้องนอนแนะนำให้แขวนไว้ที่ผนังจะสะดวกกว่า และไม่กินพื้นที่มากค่ะ
ทางเดินปลายเตียงมีพื้นที่เหลือให้สามารถผ่านเข้า-ออกได้นิดหน่อย
ข้างเตียงนอนฝั่งซ้ายมีหน้าต่างบานใหญ่เป็นช่องรับแสงธรรมชาติ ทำให้ภายในห้องไม่มืดทึบ และมีหน้าต่างบานฟิกซ์เข้ามุมทำให้ห้องดูโปร่งมากยิ่งขึ้น
ไปดูข้างเตียงฝั่งขวากันบ้างนะคะ
ทางโครงการบิวท์อินเป็นตู้เสื้อผ้าทรงสูงขนาดกลาง เป็นบานเปิดเลื่อนสไลด์ พร้อมกระจกเงาบานใหญ่
ติดกันจัดเป็นมุมโต๊ะทำงาน ใช้เฟอร์นิเจอร์โทนสีน้ำเงินและสีทอง ด้านข้างบิวท์อินเป็นชั้นวางของ หรือจะปรับเปลี่ยนให้เป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้
พื้นที่ข้างเตียงฝั่งนี้สามารถใช้เป็นที่ยืนแต่งตัวได้อย่างสะดวกสบายเลยค่ะ
มุมมองย้อนกลับไปยังประตูทางเข้าห้อง
ลำดับถัดไปเราออกมาดูห้องนอนรองที่อยู่ติดกันบ้างนะคะ
เมื่อเข้ามาภายในห้องมีความกว้างพอเหมาะ สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ได้ครบและลงตัว
ข้างเตียงฝั่งขวามีหน้าต่างบานใหญ่เป็นช่องรับแสง โดยเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง และบานฟิกซ์ สามารถถ่ายเทอากาศภายในห้องได้เป็นอย่างดี และรับแสงสว่างเข้ามาได้เยอะ ทำให้ห้องไม่มืดทึบ
โซนพักผ่อนเหมาะสำหรับวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้กำลังดี
ฝั่งหัวเตียงห้องตัวอย่างที่ผนังตกแต่งด้วยกรอบรูป และกระจกเงา พร้อมบิวท์อินเป็นโต๊ะข้างหัวเตียงทางฝั่งขวา และตู้เสื้อผ้าทางฝั่งซ้าย
ฝั่งปลายเตียงหากต้องการติดตั้งทีวีในห้องนอนแนะนำให้แขวนไว้ที่ผนังจะสะดวกกว่า
ทางเดินปลายเตียงสามารถผ่านเข้า-ออกได้อย่างสะดวก ในบริเวณนี้หากต้องการบิวท์อินเป็นชั้นวางทีวีก็สามารถทำได้ แต่จะเหลือทางให้เดินค่อนข้างจำกัดหน่อยค่ะ
ติดกันสามารถจัดให้เป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้ง หรือบิวท์อินเป็นชั้นวางของก็ได้
มองย้อนกลับไปดูข้างเตียงทางฝั่งซ้ายกันบ้าง
ฝั่งนี้บิวท์อินเป็นตู้เสื้อผ้าทรงสูงขนาดกลางจรดเพดาน มีบานเปิดแบบเลื่อนสไลด์ พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ ที่พื้นปูด้วยพรมขนนุ่มสีเทาดำ
พื้นที่ข้างเตียงและหน้าตู้เสื้อผ้าใช้ยืนเป็นที่แต่งตัวได้แบบสบาย ๆ
มุมมองย้อนกลับไปยังประตูทางเข้าห้อง
ออกมาดูที่ห้องน้ำที่อยู่ตรงข้ามกับห้องนอนรองกันบ้างนะคะ
บริเวณทางเข้าธรณีประตูยกสูงขึ้นมาจากพื้นเล็กน้อย ป้องกันน้ำไหลออกไปเปื้อนพื้นด้านนอก
เข้ามาภายในห้องน้ำจัดฟังก์ชันการใช้งานมาแบบครบครัน ฝาผนังใช้กระเบื้องเซรามิกสีขาว และสีน้ำตาลแบบมีลวดลาย ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องมาให้จนจรดเพดาน พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้แบบผิวด้านสีเทา แบ่งแยกเป็นส่วนแห้งและส่วนเปียกชัดเจนด้วยฉากกั้นอาบน้ำ
ด้านบนติดไฟดาวน์ไลท์ พร้อมพัดลมดูดอากาศ
ภายในห้องน้ำติดตั้งกระจกเงาบานใหญ่มาให้แบบเต็มพื้นที่ห้องทางฝั่งซ้าย ที่ผนังมีราวแขวนผ้าขนหนูให้ 1 จุด
ใช้อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมแบบลอยติดผนังของ Mogen คู่กับก๊อกน้ำจาก VRH หน้าอ่างมีพื้นที่เหลือให้วางของใช้ หรือของตกแต่งได้อีก ด้านล่างอ่างมีช่องเก็บของมาให้ด้วยเช่นเดียวกัน
โถสุขภัณฑ์ใช้ของ Mogen แบบแยกชิ้นระบบ Dual Flush ระยะการใช้งานกำลังดี สะดวก ไม่แออัด ติดตั้งสายฉีดชำระสแตนเลสที่ฝั่งซ้าย ส่วนฝั่งขวามีที่แขวนทิชชู่มาให้
มาต่อกันที่โซนอาบน้ำค่ะ โดยทางโครงการได้ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย เป็นกระจกบานผลักมือจับราวสแตนเลส
บริเวณทางเข้ามีขอบธรณียกสูงขึ้นจากพื้นเล็กน้อย ป้องกันน้ำไหลออกไปเลอะส่วนอื่น ๆ ในห้องน้ำ
พื้นที่อาบน้ำติดตั้งฝักบัวของ VRH ที่ผนังสามารถติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น หรือชั้นวางของเพิ่มเติมเองได้เองในภายหลัง
ออกมาดูด้านนอกกันต่อเลยค่ะ
ในส่วนนี้จัดเป็นโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง ระยะการใช้งานสะดวกสบาย ผนังด้านข้างติดกับห้องน้ำกรุเป็นผนังกระจกเงาขนาดใหญ่กรอบสีทองหรูหรา ส่วนผนังฝั่งซ้ายเป็นลายหินอ่อน ด้านบนตกแต่งด้วยโคมไฟห้อยเพดานดีไซน์เก๋
บรรยากาศภาพรวมของมุมรับประทานอาหารค่ะ
จากมุมรับประทานอาหารต่อเนื่องไปเป็นห้องนั่งเล่น
โดยห้องนั่งเล่นใช้เป็นที่พักผ่อนหรือต้อนรับแขกจะอยู่ติดกับพื้นที่ระเบียงเลยค่ะ บริเวณนี้ได้รับแสงสว่างเข้ามาได้เยอะจากประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ ทางห้องตัวอย่างจัดวางเป็นชุดโซฟาขนาดใหญ่ 1 ตัว มีที่วางแขน หมอนอิง เก้าอี้สตูล 1 ตัว พร้อมโต๊ะกลางขนาดกำลังดี
โดยชุดโซฟาจัดวางใกล้กลับมุมรับประทานอาหารเลยค่ะ แต่มีการแบ่งพื้นที่การใช้งานอย่างเป็นสัดส่วนชัดเจน พื้นที่การใช้งานกว้างกำลังดี จัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้แบบลงตัว พื้นปูด้วยพรมขนนุ่มสีเทาขนาดใหญ่
ที่ผนังหลังชุดโซฟากรุเป็นผนังลายหินอ่อนสวยงาม
ฝั่งตรงข้ามกับโซฟาบิวท์อินเป็นชั้นวางทีวี พร้อมช่องเก็บของบานปิดเลื่อนสไลด์มาให้ สามารถวางของใช้ หรือของตกแต่งอื่น ๆ ได้อีกหลังวางทีวีแล้ว
ติดกันมีประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ เปิดออกไปยังพื้นที่ระเบียงด้านนอก มือจับประตูเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐาน
พื้นที่ระเบียงมีขนาดกว้างกำลังดี ธรณีประตูยกพื้นขึ้นมาเล็กน้อย พร้อมวางรางประตูด้านบนอีกทีเพื่อกันฝุ่นและความชื้นจากระเบียง พื้นปูด้วยระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ผิวด้านสีเทาอ่อน ราวกันตกเป็นระแนงเหล็กโปร่งทาสีดำเข้ม
ฝั่งขวามีโคมไฟกิ่งให้ 1 ดวง ด้านบนใช้เป็นที่แขวนคอมเพลสเซอร์แอร์
ส่วนฝั่งซ้ายมีก๊อกน้ำให้ 1 ตัว พร้อมท่อระบายน้ำที่พื้น
มุมมองย้อนกลับไปยังประตูทางเข้าห้องค่ะ
สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (พฤษภาคม 2563)
วัสดุโดยรวม
พื้นห้อง : พื้นลามิเนตลายไม้สีอ่อนหนา 8 มม.
พื้นห้องน้ำ : กระเบื้องเซรามิกผิวด้าน
ผนังภายใน : ผนังฉาบเรียบทาสีพื้
ผนังห้องน้ำ : กระเบื้องเซรามิกผิวด้าน
ประตูระเบียง (บานเลื่อน) : ประตูบานอะลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง
ประตูภายนอก (บานเปิด) : ประตูบานสำเร็จรูป พร้อม Digital Door Lock
ประตูภายใน : ประตูบานสำเร็จรูป มือจับแบบก้านโยก พร้อมที่ล็อกในตัว
หน้าต่างภายนอก : บานเลื่อน บานฟิกซ์ และบานกระทุ้งอะลูมิเนียม กระจกเขียวตัดแสง
ท็อปครัว : สีขาว ผนังกรุกระเบื้องเซรามิก
ห้องน้ำและสุขภัณฑ์
สุขภัณฑ์และ Accessories : Mogen และ VRH
งานไฟฟ้า
ดวงโคมทั่วไป : ดวงโคมดาวน์ไลท์
ดวงโคมในห้องน้ำ : ดวงโคมดาวน์ไลท์
ไฟภายนอก : ดวงโคมดาวน์ไลท์
***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ
ราคา (พฤษภาคม 2563)
แบบห้อง 1 Bedroom Studio Superior :
– ขนาด 22.53 – 24.72 ตร.ม.
– ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท
แบบห้อง 1 Bedroom Deluxe :
– ขนาด 28.46 – 31.34 ตร.ม.
– ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท
แบบห้อง 1 Bedroom Plus Suite :
– ขนาด 35.57 – 36.11 ตร.ม.
– ราคาเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท
แบบห้อง 1 Bedroom Studio Superior :
– ขนาด 40.66 ตร.ม.
– ราคา 3.64 ล้านบาท
แบบห้อง 2 Bedrooms Penthouse :
– ขนาด 48.53 ตร.ม.
– ราคา 4.14 ล้านบาท
เงินจอง 10,000 บาท
เงินทำสัญญา 20,000 บาท
ค่าส่วนกลาง ตร.วาละ 45 บาท/เดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)
เงินกองทุน 400 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)
ห้องขายแบบ Fully Furnished : สิ่งที่ได้จะมี Digital Door Lock, เครื่องปรับอากาศ, ชั้นวางทีวี, ตู้เก็บของ, โซฟา + โต๊ะกลาง, ชุดเคาน์เตอร์ครัว + ซิงค์ล้างจาน, เตียงนอน, ตู้เสื้อผ้า, ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ Mogen กับ VRH พร้อมฉากกั้นอาบน้ำ และมีระบบ Home Automation
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ Kensington พหลโยธิน 63 ตั้งอยู่ใน ซ.พหลโยธิน 63 ย่านชุมชนพักอาศัย ห่างจากปากซอยเข้ามาประมาณ 180 เมตร ในสุดเป็นซอยตัน แต่มีซอยย่อยเชื่อมไปยัง ซ.พหลโยธิน 65 และ 67 ได้ ทำเลค่อนข้างเงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน เข้า-ออกได้จากฝั่ง ถ.พหลโยธิน อย่างเดียว มีซอยย่อยเชื่อมไป ซ.พหลโยธิน 65 และ 67 ได้
ถ.พหลโยธิน เป็นเส้นที่เริ่มต้นจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตัดผ่านห้าแยกลาดพร้าว, แยกรัชโยธิน, แยกเกษตร, วงเวียนหลักสี่ ผ่านสะพานใหม่ รังสิต และยาวไปออกอยุธยาได้เลย ใช้เดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก และแต่ละแยกที่เส้นพหลโยธินตัดผ่านจะมีถนนเชื่อมไปออกวิภาวีรังสิตได้
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ตัวโครงการตั้งอยู่ติด ซ.พหลโยธิน 63 ห่างจากปากซอย ถ.พหลโยธิน ประมาณ 180 เมตร ตัวเส้นพหลโยธินใช้วิ่งมุ่งหน้าเข้าเมืองไปผ่านวงเวียนหลักสี่ แยกเกษตร, แยกรัชโยธิน แยกนี้ตัดเข้า ถ.รัชดาภิเษก ไปโซนพระรามเก้า เชื่อมเข้าเพชรบุรี, อโศก และสุขุมวิทได้เลย หรือข้ามแยกรัชโยธินไปจะผ่านห้าแยกลาดพร้าวตัดกับ ถ.วิภาวดีรังสิต ผ่านจตุจักร, อารีย์ ยาวไปอนุสาวรีย์ได้เลย
หรืออีกเส้นจากวงเวียนหลักสี่วิ่งเข้าแจ้งวัฒนะไปเข้าวิภาวดีรังสิต จะไปผ่านห้าแยกลาดพร้าว ตรงไปดินแดงเข้าอนุสาวรีย์ชัยฯ ได้เช่นกัน หรือถ้าจะออกนอกเมือง เส้นพหลโยธินตรงเลยไปผ่านสะพานใหม่ยาวไปออกรังสิตได้ หรือเส้นวิภาวดีรังสิตวิ่งออกดอนเมือง และรังสิตได้อีกทาง
ตรงวงเวียนหลักสี่ตัดเข้ารามอินทราวิ่งออกมีนบุรีได้ เส้นงามวงศ์วานวิ่งไปแคราย, ติวานนท์, รัตนาธิเบศร์ ออกบางบัวทอง บางใหญ่ ทางด่วนที่อยู่ใกล้ดอนเมืองโทลล์เวย์, ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และทางด่วนศรีรัช
การเดินทางโดยรถสาธารณะ จุดเด่นของโครงการคืออยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยายหมอชิต-คูคต และอยู่ห่างจาก BTS สถานีพหลโยธิน 59 ประมาณ 300 เมตร สามารถใช้เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลีได้อีกด้วย หรือถ้าไปลงตรงสถานีห้าแยกลาดพร้าว หรือบริเวณ CentralPlaza ลาดพร้าว จะเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ทำให้เดินทางไปย่าน CBD สาทร ได้ง่าย และสะดวก
ส่วนใน ซ.พหลโยธิน 63 หน้าปากซอยมีวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการ และบริเวณ ถ.พหลโยธิน มีทั้งรถแท็กซี่โบกเรียกได้ตลอด ป้ายรถเมล์ และมีรถตู้วิ่งผ่านหลายสายทั้งเข้า-ออกเมือง เดินทางไปรัชโยธิน, CentralPlaza ลาดพร้าว, จตุจักร, อนุสาวรีย์, สะพานใหม่, รังสิต, มีนบุรี, รามอินทรา และรามคำแหง
การออกแบบโครงการ : โครงการ Kensington พหลโยธิน 63 เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร บนที่ดินขนาด 1 – 3 – 31 ไร่ อาคารรูปทรงสี่เหลี่ยมเป็นตัว L ก่ออิฐทั้งหลัง มีอาคาร Facility แยก 2 ชั้น ตรงมุมอาคารพักอาศัย ตกแต่งมาในสไตล์รีสอร์ท เน้นความเป็นส่วนตัว มีพื้นที่สีเขียวรอบโครงการ
ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2-8 จอดรถได้ที่ชั้น 1 ทั้งใต้อาคาร และกลางแจ้ง รวมเบ็ดเสร็จที่จอดรถทั้งหมด 75 คัน (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) คิดเป็น 30% ของจำนวนยูนิตโครงการ ถือว่าค่อนข้างน้อยไปหน่อยสำหรับโครงการที่ตั้งอยู่บนทำเลเดินทางได้สะดวกแบบนี้
ส่วนแบบห้องมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ คือ คือ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 22.53 – 40.66 ตร.ม., 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ใช้สอย 35.57 – 36.11 ตร.ม. และ 2 Bedrooms ขนาดพื้นที่ใช้สอย 48.53 ตร.ม.
วัสดุ : การออกแบบห้องพักอาศัยดูโปร่งไม่อึดอัด แบ่งพื้นที่มาเป็นสัดส่วน ฝ้าสูง 2.4 เมตร พื้นเป็นลามิเนตลายไม้สีอ่อนหนา 8 มม. ด้านบนติดไฟดาวน์ไลท์ ห้องน้ำกับระเบียงใช้กระเบื้องเซรามิกมีความทนทาน หน้าต่างบานใหญ่ ภายในห้องน้ำมีพัดลมระบายอากาศ และติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย แยกส่วนแห้งส่วนเปียกอย่างชัดเจน
ห้องพักขายแบบ Fully Furnished สิ่งที่ได้จะมี Digital Door Lock, เครื่องปรับอากาศ, ชั้นวางทีวี, ตู้เก็บของ, โซฟา + โต๊ะกลาง, ชุดเคาน์เตอร์ครัว + ซิงค์ล้างจาน, เตียงนอน, ตู้เสื้อผ้า, ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ Mogen กับ VRH พร้อมฉากกั้นอาบน้ำ และมีระบบ Home Automation
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย Facility จัดแยกอาคาร 2 ชั้น มี Lobby ฝ้าสูงถึงชั้น 2 มี Social Club, Library Room, Co-working Space, Private Meeting Room, สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 15 x 5.5 เมตร ความลึก 1.2 เมตร พร้อมพื้นที่พักผ่อนข้างสระ, ฟิตเนส และรอบ ๆ โครงการมีสวนหย่อมตกแต่ง ลิฟต์โดยสารมีให้ 2 ตัว มีระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง เสริมด้วยกล้อง CCTV และเข้าออกโครงการด้วยระบบ Access Card Control
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Call Center : 020-300-000
Website : https://www.origin.co.th/condominium/kensington-phaholyothin-63
Facebook : https://www.facebook.com/OriginPropertyGroup/
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
ยังไม่เห็นจะสร้างเลย