คอนโด KnightsBridge ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
KnightsBridge Space รัชโยธิน
KnightsBridge Prime รัชโยธิน
KnightsBridge พหลโยธิน-อินเตอร์เชนจ์
KnightsBridge Skycity สะพานใหม่
KnightsBridge ติวานนท์
KnightsBridge Sky River Ocean
KnightsBridge The Ocean Sriracha
KnightsBridge Central Pattaya
ชื่อโครงการ |
ไนท์บริดจ์ สเปซ รัชโยธิน / KnightsBridge Space Ratchayothin |
เจ้าของโครงการ |
บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) / Origin Property |
เนื้อที่ทั้งหมด |
2-2-74.1 ไร่ |
จำนวนตึก |
1 อาคาร |
จำนวนชั้น |
33 ชั้น |
จำนวนห้อง |
488 ยูนิต |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
- 1 Bedroom : 22.7 – 30.9 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus : 35.0 – 35.4 ตร.ม.
- 2 Bedrooms : 54.3 – 61.8 ตร.ม.
|
ที่จอดรถทั้งหมด |
Auto Parking 70% |
จำนวนลิฟต์ |
- ลิฟต์โดยสาร 4 ตัว
- ลิฟต์บริการ 1 ตัว
|
โซน |
รัชโยธิน |
ขนส่งสาธารณะ |
- ติดรถไฟฟ้า BTS พหลโยธิน 24
- ทางยกระดับอุตราภิมุข
- ทางพิเศษศรีรัช
|
รถโดยสารที่ผ่าน |
- รถเมล์สาย 26, 34, 39, 59, 63, 104, 107, 129, 136, 188, 191 และ 503
|
ที่ตั้ง |
ถนนพหลโยธิน แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กทม. |
กำหนดการ |
เปิดให้ชมห้องตัวอย่างสำหรับลูกค้าทั่วไป 10 มี.ค. 61 |
ปีที่สร้างเสร็จ |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ ในไตรมาสที่ 4 ปี 2563 |
ราคา |
เริ่มต้น 4.59 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม |
เริ่มต้น 130,000 บาท/ตร.ม. |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
- ค่ากองทุน 680 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง เดือนละ 68 บาท/ตร.ม.
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
ห้างสรรพสินค้า
- Avenue รัชโยธิน : 270 ม.
- Major Cineplex รัชโยธิน : 450 ม.
- SCB Park Plaza : 750 ม.
- ต.บางเขน : 1.5 กม.
- ต.อมรพันธ์ : 1.9 กม.
- เซ็นทรัลลาดพร้าว : 1.9 กม.
- Home Village : 2.5 กม.
- Union Mall : 2.5 กม.
- Tesco Lotus ลาดพร้าว : 2.6 กม.
- Tops เกษตร : 2.9 กม.
- ตลาดนัดสวนจตุจักร : 3.3 กม.
- Big C ลาดพร้าว 2 : 3.3 กม.
- สวนลุมไนท์บาซ่าร์ : 3.8 กม.
- JJ Green : 4.2 กม.
- JJ Mall : 4.2 กม.
- เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสวิลล์ : 9.4 กม.
- The Crystal : 11.4 กม.
- CDC : 11.4 กม.
สถานศึกษา
- รร.หอวัง : 1.2 กม.
- ม.ราชภัฏจันทรเกษม : 2.6 กม.
- ม.เซนต์จอห์น : 3.4 กม.
- ม.ศรีปทุม : 4.5 กม.
- ม.เกษตรศาสตร์ : 4.7 กม.
ศูนย์การแพทย์
- รพ.เปาโล เกษตร : 1.6 กม.
- รพ.วิภาวดี : 3.4 กม.
ศาสนสถาน
สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ
- สวนจตุจักร : 1.9 กม.
- ศาลอาญา : 2.4 กม.
- ไทยรัฐ : 2.6 กม.
- ธกส. : 3.1 กม.
- ท่ารถนครชัยแอร์ : 3.4 กม.
- สนง.ใหญ่การบินไทย : 4.1 กม.
- พิพิธภัณฑ์ MOCA : 4.5 กม.
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
- Biz Lobby
- Mail Box
- 24 Cafe
- Co-Working Space
- Co-Living Garden
- Presentation Room
- Sky Infinite Space
- Sky Private Massage
- Dinning Lounge
- Sky Relaxing Lounge
- Sky Social Fitness
- Sunset Pool
- Hydrotherapy
- Rooftop Garden with Chill Corner
- Crown Service (Cleaning Room, Laundry Service, Bedding and Bed Linen, Amenities (soap & shampoo), Water and Electricity Charged and Shuttle Bus Service)
- ลิฟท์โดยสารระบบล็อคชั้น
- Access Card Control
- Digital Door Lock
- CCTV
- รปภ. 24 ชม
|
จุดเด่นของโครงการ |
“KnightsBridge Space รัชโยธิน” คอนโดใหม่จาก Origin บนทำเลศักยภาพ เยื้องตึกช้าง ใกล้รถไฟฟ้า BTS พหลโยธิน 24 เชื่อมรถไฟฟ้า 3 สาย ใกล้เมเจอร์ รัชโยธิน และ SCB Park พบกันเร็ว ๆ นี้ |
คอนโด BTS พหลโยธิน 24 / คอนโดติดรถไฟฟ้า BTS พหลโยธิน 24
คอนโดโดยรอบ BTS พหลโยธิน 24 *อนาคตเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ส่วนต่อขยาย)
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
พิกัด : 13.825260, 100.566786
แผนที่จากทางโครงการ
ทำเลที่ตั้ง โครงการ KnightsฺฺBridge Space รัชโยธิน ตั้งอยู่ติดถ.พหลโยธิน ข้างๆ ซ.พหลโยธิน 27 ตรงข้ามกับตึกช้างเลยค่ะ และยังอยู่ติดกับ รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีพหลโยธิน 24 ที่เชื่อมต่อรถไฟฟ้าอีก 3 สาย คือ BTS สายสีเขียว เชื่อมต่อเข้าสยาม-อโศก-ทองหล่อ, MRT สายสีน้ำเงิน และ Monorail สายสีเหลือง
ทำเลย่านรัชโยธินนั้นได้ชื่อว่าเป็น Business Hub อยู่ใกล้ทั้งแหล่งงานขนาดใหญ่, แหล่งช็อปปิ้ง และสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้ง SCB Park, ตึกช้าง, Major รัชโยธิน และเซ็นทรัลลาดพร้าว จากการสำรวจข้อมูล ทำเลในย่านนี้ ตั้งแต่ พหลโยธิน-ลาดพร้าว-จตุจักร จนไปถึงเกษตร นั้นมีสัดส่วนการขายโครงการสูงถึง 90% ตาม Demand และ Supply ที่สูงขึ้นเรื่อยๆค่ะ
ด้วยศักยภาพของทำเล จึงถูกผลักดันให้เทียบเท่ากรุงเทพชั้นใน ย่าน สีลม, อโศก และ พระราม9 ให้เป็น New CBD ของกรุงเทพฯ ซึ่งตอนนี้ทาง BTS กำลังลงทุนร่วมกับ Gland (ผู้พัฒนาพระราม 9 ให้กลายเป็น New CBD) ก่อตั้งบริษัท Bay Water เข้าซื้อที่ดินแปลงใหญ่ ขนาด 48.5ไร่ เยื้องๆ กับแดนเนรมิต ถ.พหลโยธิน ด้วยราคามากกว่า 7,000 ล้านบาท สำหรับทำ Mega Project เป็นโครงการ Mix Used ครบวงจร ที่มีทั้ง ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่, อาคารสำนักงาน, ร้านอาหาร และอาคารพักอาศัย รวมถึงมีแผนที่จะตัดถนนเชื่อมระหว่าง เส้นวิภาวดี-รังสิต กับ เส้นพหลโยธินอีกด้วย
การเดินทางด้วยรถยนต์ การเดินทางถือว่าสะดวกค่ะ เพราะว่าตัวโครงการอยู่ติดกับ ถ.พหลโยธิน ตำแหน่งอยู่ใกล้กับแยกใหญ่ทั้ง แยกรัชโยธิน และ ห้าแยกลาดพร้าว ไม่ไกลจากจตุจักร โดยสามารถใช้เส้นพหลโยธินออกไปทางอนุสาวรีย์ต่อไปถึงอโศก หรือออกไปทางสะพานใหม่ได้ แม้ว่าเส้นพหลโยธินจะเป็นที่รู้ๆ กันอยู่ว่ามีการจราจรที่ติดขัด แต่ก็สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนใหญ่ได้อีกหลายสาย ไม่ว่าจะเป็น วิภาวดี-รังสิต ที่วิ่งขนานกับเส้นพหลโยธินเอง แต่มีการจราจรที่คล่องตัวกว่า สามารถใช้วิ่งไปทางดินแดง-รังสิตได้ โดยจะมีจุดขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์อยู่เป็นช่วงๆ ซึ่งเชื่อมต่อกับ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร และทางพิเศษศรีรัช ไปได้ทั้งทางบางนา-พระราม 9
รัชดาภิเษก ตัดกับถ.พหลโยธินตรงแยกรัชโยธิน ใช้วิ่งลงไปทางพระราม 9 ได้, งามวงศ์วาน ตรงแยกเกษตร ใช้วิ่งไปทางฝั่งนนทบุรี, ถ.ประเสริฐมนูกิจ ตรงแยกเกษตรเช่นกันค่ะ ไปเชื่อมกับ ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม มีจุดขึ้นทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ เป็นอีกตัวเลือกที่สามารถใช้ออกไปทางบางนาได้ หรือจะวิ่งขึ้นไปทางวัชรพลก็ได้ และ ถ.ลาดพร้าว ตรงห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งวิ่งขนานกับ ถ.ประเสริฐมนูกิจ เชื่อมกับ ถ.ประดิษฐ์มนูธรรมได้เช่นกัน หรือจะใช้วิ่งต่อไปทางบางกะปิ เชื่อมสู่ ถ.ศรีนครินทร์ และ ถ.รามคำแหงได้ค่ะ
ทางด่วน มาดูจุดขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ที่เราได้กล่าวกันไปข้างต้นนี้กัน จุดที่อยู่ใกล้ที่สุดห่างจากตัวโครงการเพียง 3.5 กม.เท่านั้น แม้ว่าการจราจรจะติดขัดหน่อย แต่ก็ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ ดังที่กล่าวไปแล้วว่าทำเลของโครงการนั้นเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง เพราะอยู่ใกล้ทั้ง แหล่งงานขนาดใหญ่, แหล่งช็อปปิ้ง และสิ่งอำนวยความสะดวก แหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมในย่านนี้ก็คงหนีไม่พ้นเซ็นทรัลลาดพร้าว กับ แฟชั่นมอลล์อย่าง Union Mall อยู่บริเวณทางออกรถไฟฟ้า MRT สถานีพหลโยธินพอดีค่ะ ใกล้แยกรัชโยธินก็จะมีทั้ง ตึกช้าง อยู่ตรงข้ามกับตัวโครงการพอดี, Major รัชโยธิน, Avenue รัชโยธิน เลยไปอีกหน่อยก็ SCB Park ค่ะ
ถ้าจะดูเป็น Hypermarket เพื่อซื้อของเข้าบ้านก็จะมี Gourmet Market สาขา MRT ลาดพร้าว, Big C ลาดพร้าว 2 และ Tesco Lotus อยู่ตรงข้ามกับเซ็นทรัลลาดพร้าว ออกไปทางจตุจักรก็มีพวก JJ Mall, JJ Green และตลาดนัดจตุจักรให้เลือกเดินในวันสบายๆ ตรงแยกเกษตรก็มีร้านอาหารเด็ดๆอยู่หลายร้านในราคานักศึกษา ออกไปทางเส้นเลียบด่วนรามอินทราจะมีห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสวิลล์, The Crystal และ CDC เลยขึ้นไปบนเส้นเกษตรนวมินทร์จะเป็นแหล่ง Community Mall และตลาดนัดขนาดใหญ่ จากตัวโครงการสามารถไปได้ไม่ยากค่ะ
นอกจากนี้ยังตัวโครงการยังอยู่ไม่ไกลจาก โรงพยาบาล, สถานศึกษาทั้ง รพ.วิภาวดี, รพ.เปาโล เกษตร, รร.หอวัง, ม.ราชภัฏจันทรเกษม, ม.ศรีปทุม และ ม.เกษตรศาสตร์ ใกล้ธนาคารซึ่งสะดวกต่อการทำธุรกรรมทางการเงิน โดยรวมแล้วคือมีสาธารณูปโภคคอยรองรับอย่างครบครันที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยครบวงจรค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ สำหรับการเดินทางโดยรถสาธารณะนั้นถือว่าสะดวกสบายมากเช่นกัน เพราะอยู่ติด ถ.พหลโยธิน มีรถแท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านอยู่ตลอด ถ้าวันไหนไม่เร่งรีบมาก อยากประหยัดเงินก็สามารถขึ้นรถเมล์ได้ค่ะ สายที่ผ่านก็มีสาย 26, 34, 39, 59, 63, 104, 107, 129, 136, 188, 191 และ 503
สำหรับการเดินทางด้วยโครงข่ายรถไฟฟ้า ตัวโครงการจะอยู่ติดกับ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วง หมอชิต-คูคต ที่ สถานีพหลโยธิน 24 เดินไปเพียง 20 ก้าวเท่านั้น (โครงการจะสร้างเสร็จใกล้ๆกับช่วงที่รถไฟฟ้าเปิดใช้งานพอดีค่ะ) เชื่อมต่อรถไฟฟ้าอีก 3 สาย คือ BTS สายสีเขียว เชื่อมต่อเข้าสยาม-อโศก-ทองหล่อ ที่ สถานีหมอชิต, MRT สายสีน้ำเงิน ที่ สถานีพหลโยธิน-ห้าแยกลาดพร้าว และ Monorail สายสีเหลือง ที่ สถานีรัชโยธิน ช่วง ลาดพร้าว-พัฒนาการ
ในปัจจุบันตัวโครงการอยู่ใกล้กับ รถไฟฟ้า MRT พหลโยธิน เพียง 1.5 กม.เท่านั้น (ทางออกที่ 3) สามารถเชื่อมต่อไปยัง BTS หมอชิต ได้เพียง 2 สถานีค่ะ
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการ KnightsฺฺBridge Space รัชโยธิน โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถ.รามอินทรา > แยกหลักสี่ > ถ.พหลโยธิน >แยกเกษตร > แยกรัชโยธิน > กลับรถ > KnightsฺฺBridge Space รัชโยธิน
การเดินทางเราเริ่มต้นที่ถนนรามอินทราผ่าน Ease Park ด้านซ้ายมือ
ให้เราวิ่งมุ่งหน้าไปทางหลักสี่ เริ่มเบี่ยงเข้าฝั่งขวามือเพื่อขึ้นสะพานยกระดับตรงแยกลาดปลาเค้า โดยเราจะขับผ่าน Big C รามอินทราค่ะ
เตรียมขึ้นสะพานเพื่อมุ่งหน้าไปทางหลักสี่กันต่อ
เมื่อลงสะพานมาแล้วเราจะเจอกับสนามมวยลุมพินี ให้เราจะขับตรงไปเรื่อยๆ
เราจะผ่านศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก โดยมุ่งหน้าไปป้ายสีเขียวที่เขียนว่าลาดพร้าวค่ะ
จากนั้นมุ่งหน้าไปทางลาดพร้าวตามป้ายเลย
ก่อนจะขึ้นสะพานข้ามแยกหลักสี่มุ่งหน้าไปยังปากเกร็ดนั้น เราจะเริ่มเบี่ยงเข้าเลนซ้ายเพื่อเลี้ยวซ้ายเข้า ถ.พหลโยธินค่ะ
ขับตรงไปเรื่อยๆ จากนั้นเราจะเลี้ยวซ้ายเข้าถ.พหลโยธินด้านหน้านะ
เลี้ยวซ้ายตรงแยกหลักสี่เพื่อเข้า ถ.พหลโยธินค่ะ
พอเข้าถ.พหลโยธิน ผ่านกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 บริเวณเกาะกลางนี้มีการกั้นพื้นที่สำหรับทำรถไฟฟ้าในอนาคต
ให้เราขับตรงไปเรื่อยๆ เราจะผ่านม.ศรีปทุมทางฝั่งซ้ายมือค่ะ
ขับตรงไปเรื่อยๆ ผ่านแยกเกษตรไป
พอใกล้ถึงแยกรัชโยธินเราจะเห็น Major รัชโยธิน ทางฝั่งขวา และตึกช้างอยู่ข้างหน้าเราเลย
ให้เราขับตรงไป ผ่านแยกรัชโยธินไปค่ะ
พอเราขับผ่านตึกช้างมาแล้ว ให้ชิดขวาเพื่อกลับรถ
พอเรากลับรถแล้วให้ชิดซ้าย ตรงซ.พหลโยธิน 27 จะเห็นสำนักงานขายของโครงการ KnightsฺฺBridge Space รัชโยธิน อยู่ข้างหน้าแล้วค่า
ภาพถ่ายบริเวณหน้าสำนักงานขายแบบชัดๆ ตอนนี้พื้นที่ของโครงการได้ทำการล้อมรั้วเอาไว้เรีนบร้อยแล้วค่ะ
สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
- แยกรัชโยธิน : 250 ม.
- ถ.รัชดาภิเษก : 260 ม.
- แยกลาดพร้าว : 1.4 กม.
- ถ.วิภาวดี-รังสิต : 1.7 กม.
- แยกเกษตร : 1.8 กม.
- ถ.งานวงศ์วาน : 1.9 กม.
- ถ.ลาดพร้าว : 2.1 กม.
- ถ.ประเสริฐมนูกิจ : 2.5 กม.
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
- Avenue รัชโยธิน : 270 ม.
- Major Cineplex รัชโยธิน : 450 ม.
- SCB Park Plaza : 750 ม.
- ต.บางเขน : 1.5 กม.
- ต.อมรพันธ์ : 1.9 กม.
- เซ็นทรัลลาดพร้าว : 1.9 กม.
- Home Village : 2.5 กม.
- Union Mall : 2.5 กม.
- Tesco Lotus ลาดพร้าว : 2.6 กม.
- Tops เกษตร : 2.9 กม.
- ตลาดนัดสวนจตุจักร : 3.3 กม.
- Big C ลาดพร้าว 2 : 3.3 กม.
- สวนลุมไนท์บาซ่าร์ : 3.8 กม.
- JJ Green : 4.2 กม.
- JJ Mall : 4.2 กม.
- เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสวิลล์ : 9.4 กม.
- The Crystal : 11.4 กม.
- CDC : 11.4 กม.
สถานศึกษา
- รร.หอวัง : 1.2 กม.
- ม.ราชภัฏจันทรเกษม : 2.6 กม.
- ม.เซนต์จอห์น : 3.4 กม.
- ม.ศรีปทุม : 4.5 กม.
- ม.เกษตรศาสตร์ : 4.7 กม.
ศูนย์การแพทย์
- รพ.เปาโล เกษตร : 1.6 กม.
- รพ.วิภาวดี : 3.4 กม.
ศาสนสถาน
สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ
- สวนจตุจักร : 1.9 กม.
- ศาลอาญา : 2.4 กม.
- ไทยรัฐ : 2.6 กม.
- ธกส. : 3.1 กม.
- ท่ารถนครชัยแอร์ : 3.4 กม.
- สนง.ใหญ่การบินไทย : 4.1 กม.
- พิพิธภัณฑ์ MOCA : 4.5 กม.
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
ตัวโครงการตั้งอยู่ฝั่งขาออกก่อนถึงแยกรัชโยธิน ประมาณ 250 เมตรค่ะ ตำแหน่งจะอยู่ตรงข้ามกับตึกช้างพอดี สามารถเดินไปยัง SCB Park หรือทาง Major รัชโยธินได้เลย เพราะอยู่ใกล้ในระยะ 450 เมตรจากหน้าโครงการ ทิศเหนือ ติดกับ โครงการ KnightsBridge Prime ทิศใต้ ติดกับ ซ.พหลโยธิน 27 ทิศตะวันออก ติดกับ ถ.พหลโยธิน และ ทิศตะวันตก ติดกับ บ้านพักอาศัย สูง 2-3 ชั้น
หันไปที่ฝั่งตรงข้ามกับตัวโครงการ เดี๋ยวเราจะมาเดินสำรวจบริเวณโดยรอบโครงการกันค่ะ
มองไปที่ฝั่งตรงข้าม ตัวโครงการจะตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตึกช้างพอดี
มองไปทางฝั่งขวามือ เดี๋ยวเราจะเดินจาก ซ.พหลโยธิน 27 ไปทาง ซ.พหลโยธิน 25 กันค่ะ จากตรงนี้เราจะเห็นโครงสร้างของตัวสถานีพหลโยธิน 24 แล้ว ทางขึ้น-ลงสถานีอยู่ห่างออกไปก็ไม่น่าเกิน 20 เมตร ตามที่ได้บอกเอาไว้
ก่อนถึง ซ.พหลโยธิน 25 จะมีป้ายรถเมล์อยู่ 1 ป้ายค่ะ ติดกับหน้าโครงการเลย
และตรงหน้าปาก ซ.พหลโยธิน 25 ก็มีคิววินมอเตอร์ไซค์ให้บริการในยามเร่งด่วน
ถัดจาก ซ.พหลโยธิน 25 ไป คืออาคารของบริษัทขายกระเบื้อง สูง 4 ชั้น
มีโชว์รูมรถยนต์ Thai Prestige Auto Sales อยู่ถัดไป
เราเดินมาถึงแถวปาก ซ.พหลโยธิน 21 แล้วค่ะ
ซึ่งเป็นทางเข้าของ ศุภาลัย ปาร์ค ที่สร้างเสร็จมาประมาณ 5 ปีได้ เข้าปีที่ 6
จากปาก ซ.พหลโยธิน 21 ข้างๆกันมี 7-Eleven อยู่ 1 สาขาค่ะ จากตัวโครงการเดินมาถึงก็ราวๆ 250 เมตรเท่านั้น
ถัดไปจากเซเว่น มีร้านขายส้มตำค่ะ
คลีนิกทันตกรรม และคลีนิกเวชกรรมก็มีเปิดให้บริการ
ร้านอาหารมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆตามเส้นพหลโยธิน
เราเดินมาถึงจุดที่มีสะพานลอยค่ะ อยู่ระหว่างซ.พหลโยธิน 21 และ 19/1
มุมมองจากบนสะพานลอย ออกไปทางห้าแยกลาดพร้าว ฝั่งซ้ายมือเราจะเห็น รร.สตรีวรนาถบางเขน
มองย้อนกลับไปทางแยกรัชโยธิน เราจะเห็นตึกช้างอยู่ไกลๆค่ะ ซึ่งฝั่งตรงข้ามก็คือตำแหน่งของตัวโครงการนั่นเอง
กลับมาที่บริเวณหน้าโครงการ คราวนี้เราจะเดินออกไปทางฝั่งซ้ายมือ มุ่งหน้าไปทาง ซ.พหลโยธิน 29 ข้างๆกับตัวโครงการเราติดกับ โครงการ KnightsBridge Prime ที่ได้เปิดตัวกันไปเมื่อปีที่แล้วนี้ ได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดีเลย
ระหว่างปาก ซ.พหลโยธิน 29 จะมีลานจอดรถโล่งๆ
อีกฝั่งเป็นร้านขายอุปกรณ์ทำสวน และอาหารสัตว์เลี้ยง ตัวอาคารสูง 2 ชั้น
ถัดมามีคลีนิกทางด้านความงาม เป็นอาคารสูง 2 ชั้น
จากหน้าโครงการเพียง 250 เมตร เราก็เดินมาถึงแยกรัชโยธินแล้วค่ะ ถ้าเดินข้ามฝั่งไปอีก 200 เมตร ก็จะถึงหน้า Major รัชโยธินแล้ว
แต่ถ้าเราเลี้ยวซ้าย เดินเลียบไปตามเส้นรัชดาภิเษก อีก 350 เมตร เราจะถึงหน้า SCB Park เลย ส่วนอาคารที่อยู่ข้างหน้าเราก็คือ Career @SCB ค่ะ
เรากลับมาที่หน้าสำนักงานขายกันค่ะ
ภาพหน้าสำนักงานขาย ห้องตัวอย่างจะอยู่ด้านในอาคารนี้
แต่ให้เรามาติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายที่สำนักงานขาย KnightsBridge Prime ซึ่งตั้งอยู่ข้างๆกันนะคะ
ภายในจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายคอยต้อนรับ, ให้ขอมูลเกี่ยวกับตัวโครงการ และพาไปดูห้องตัวอย่างค่ะ
ที่ตั้งอยู่ตรงกลางสำนักงานขาย ก็คือโมเดลจำลองของโครงการนั่นเอง จะได้เห็นภาพรวมของโครงการก่อนสร้างเสร็จกัน
:::: ตัวโครงการ ::::
โครงการเป็นคอนโดมิเนียม High Rise สูง 33 ชั้น จำนวน 1 อาคาร มีทั้งหมด 488 ยูนิต บนพื้นที่ 2-2-74.1 ไร่ อาคารถูกออกแบบมาให้ดูล้ำสมัย เล่นเส้นสายในแนวตั้ง ให้ดูพุ่งทะยานขึ้นไปสู่อวกาศ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Space makes possible” ฉีกกดการออกแบบที่อยู่อาศัย ด้วย “Duo Space” เพดานสูงถึง 4.2 เมตรทั้งโครงการ
มาดูในส่วนของ Plan อาคารกันค่ะ ทางเข้า-ออกของตัวโครงการจะอยู่บริเวณปาก ซ.พหลโยธิน 27 เส้นทางการเดินรถจะวนเข้าไปรอบตัวอาคารแล้วกลับออกมาที่ทางเข้า-ออกเดิม พอเข้าไปภายในตัวโครงการแล้ว จะผ่านสวนด้านหน้าโครงการ เป็น Landscape Corridor ทำให้เกิด Space ที่ผ่อนคลายมากขึ้น เหมือนเป็นทางปรับ Mood ก่อนเข้าสู่ตัวอาคาร
ชั้น G จากทางเข้า จะเจอจุด Drop-off เพื่อเดินขึ้น Lobby ที่อยู่ชั้น 2 นอกจากนี้ที่ชั้น G ก็จะมี Cafe 24, Co-Working Space ที่ใช้คอนเซ็ปต์การออกแบบ Duo Space เหมือนกัน อีกทั้งสวน Co-Living Space ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ของ Co-Working Space ที่อยู่ภายในอาคาร ซึ่งจุดนี้สามารถออกมานั่งทำงาน หรือนั่งชิวๆใต้ร่มไม้ได้ตลอดทั้งวันค่ะ
ส่วนที่จอดรถของที่นี่จะเป็น Auto Parking ทั้งหมด มีที่จอดถึง 70% ของห้องพักอาศัย เดี๋ยวนี้นับว่าหายากแล้วนะคะที่ทางโครงการจะให้ที่จอดรถเยอะแบบนี้ ทั้งๆที่อยู่ติดกับรถไฟฟ้าด้วยเหมือนกัน (โดยอาคารจอดรถจะอยู่ในส่วนของชั้นที่ 3-13 ค่ะ)
ชั้นที่ 2 จาก Drop-off เดินขึ้นมาเข้าสู่ Biz Lobby มองออกไปภายนอกก็ยังมี Garden Lobby View มี Water Feature ที่มีลักษณะเฉพาะตัว ด้วยเส้นสายของความเป็นธรรมชาติที่เชื่อมต่อ Space ไปสู่สวนด้านหลัง ทำให้ทุก Space ของสวนภายนอกอาคาร Flow ถึงกัน จากบริเวณ Biz Lobby จะมีห้อง Presentation Room และเชื่อมต่อสู่โถงลิฟท์ และห้อง Mail Box ภายในโถงลิฟท์ มีลิฟท์โดยสารอยู่ 4 ตัว และลิฟท์ขนของอีก 1 ตัว คิดเป็นอัตราส่วนลิฟท์ต่อห้องพักอาศัยอยู่ที่ 1 : 122 โดยลิฟท์จะใช้ระบบแบบล็อคชั้น เพื่อความเป็นส่วนตัวค่ะ
ชั้นที่ 14-30 จากชั้น 2 ขึ้นมายังชั้นพักอาศัย ตัวอาคารวางผังเป็นรูปตัว L จัดห้องพักแบบ Double Corridor เรียงกันไป ที่ชั้น 14-30 จะเป็นห้องพักขนาด 23-35 ตร.ม. มีจำนวน 26 ยูนิต/ชั้น โดยห้องขนาด 35 ตร.ม.จะถูกจัดให้อยู่บริเวณมุมอาคารค่ะ
ชั้นที่ 31-32 เป็นชั้นที่มีห้องพักขนาด 24-61 ตร.ม. มีจำนวน 23 ยูนิต/ชั้น
ชั้นที่ 33 จะเป็นชั้นของ Main Facilities ที่ทางโครงการได้จัดเตรียมเอาไว้ให้แบบ Premium มีทั้ง Sky Infinite Space เป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน, Sky Private Massage, Dinning Lounge, Sky Relaxing Lounge, Sky Social Fitness, Sunset Pool เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 24 x 4.5 เมตร และ Hydrotherapy ขนาด 13 x 4 (L-Shape) ออกแบบให้ผิวนํ้ามีความเชื่อมต่อกันให้ได้มากที่สุด และสามารถว่ายนํ้าพร้อมชมวิวได้โดยรอบ
ชั้น R เป็นส่วนของ Rooftop Garden และ Chill Corner ที่สามารถเดินชมวิวได้โดยรอบ และมีจุดนั่งพักผ่อนที่แทรกไปกับเส้นสายความเป็นธรรมชาติ โดยเพิ่มความพิเศษของ Space ในส่วน Sunset Amphitheatre ที่สามารถนั่งชมพระอาทิตย์ตกบนจุดสูงสุดของโครงการได้
เราดูในส่วนของแปลนของโครงการกันแล้ว มาดูตัวโครงการแบบ 3D กันบ้างค่ะ และนี่ก็คือแบบจำลองของตัวโครงการนั่นเอง
มองจากทิศตะวันออก จาก ถ.พหลโยธินเข้าไปสู่ตัวโครงการ ผ่าน Corridor Garden เข้าไปยังจุด Drop-off
รูปด้านตัวโครงการฝั่งทิศตะวันออก
รูปด้านตัวโครงการฝั่งทิศเหนือ
จากจุดเข้า-ออก ถ.พหลโยธิน เข้ามาที่จุด Drop-off ขึ้นสู่ Biz Lobby ที่ชั้น 2 มองออกมาเห็น Water Feature ที่ไหลเชื่อมต่อไปยัง Co-Living Garden เชื่อมต่อกับพื้นที่ Co-Living Space ภายในอาคารอีกที
รูปด้านตัวโครงการฝั่งทิศตะวันตก
รูปด้านตัวโครงการฝั่งทิศตะวันออก เราทำกราฟฟิคแบ่งสัดส่วนของพื้นที่ภายในโครงการออกมาได้ตามนี้
มาดูภาพบรรยากาศจำลองภายในโครงการกันบ้าง เริ่มจากส่วนของ Biz Lobby ที่ชั้น 2 ขึ้นมาจากส่วน Drop-off ตกแต่งออกมาในสไตล์เรียบหรู และดูล้ำสมัย ขั้นบันไดทางขึ้นถูกดีไซน์ออกมาร่วมกับทางลาด ตรงขึ้นไปเราจะเห็นทั้งส่วนของเคาน์เตอร์ Reception และ พื้นที่นั่งพักคอย ส่วนห้องกระจกทางฝั่งขวามือคือ Presentation Room ค่ะ
ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Cafe 24 ซึ่งสามารถเข้าได้จากทางชั้น G และเชื่อมต่อบริเวณโถงลิฟท์ชั้น 2 ออกแบบพื้นที่มาแบบ Duo Space ตามแนวคิดของโครงการ ทั้งโปร่งโล่ง และหรูหรา
ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Co-Working Space ที่ถูกออกแบบมาให้เป็น Duo Space เช่นกัน สามารถเข้าทางชั้น G หรือ ชั้น 2 ก็ได้ค่ะ โดยพื้นที่ Co-Working Space จะเชื่อมต่อกับพื้นที่ Co-Living Garden ภายนอกอาคารด้วยผนังกระจกผืนใหญ่
ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Sky Relaxing Lounge ด้วยการออกแบบพื้นที่ให้โปร่งโล่งด้วย High Ceiling ช่วยเชื่อมต่อ Space ภายในอาคาร กับ Space ภายนอกอาคาร ซึ่งอยู่ในส่วนของชั้นที่ 33 ได้วิวเมืองกรุงเทพฯ กับท้องฟ้ายามเย็นที่อลังการ
ภาพบรรยากาศจำลองของ Sunset Pool ชั้นที่ 33 เป็นสระน้ำล้น เชื่อมต่อกับเส้นขอบฟ้า
ภาพบรรยากาศจำลองของ Hydrotherapy อีกฝั่งนึงของสระว่ายน้ำ เราจะเห็นว่าชั้นที่ 33 นั้นถูกออกแบบให้เป็น High Ceiling ทั้งชั้น และล้อมกรอบด้วยผนังกระจกทั้งผืน เพื่อเชื่อมต่อ Space ระหว่างภายในอาคาร และวิวเมืองโดยรอบ ส่วนที่ชั้น Rooftop จะเป็นสวน พร้อม Sunset Amphitheatre ที่สามารถนั่งดื่มด่ำบรรยากาศของพระอาทิตย์ตก และค่ำคืนของกรุงเทพฯได้
:::: ROOM TYPE ::::
ห้องของโครงการจะมีอยู่ทั้งหมด 3 แบบหลักๆด้วยกัน ได้แก่
- 1 Bedroom : 22.7-30.9 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus : 35.0-35.4 ตร.ม.
- 2 Bedrooms : 54.3-61.8 ตร.ม.
โดยโครงการขายห้องแบบ Fully Fitted พร้อมเคาน์เตอร์ครัว, Built-in และ เครื่องปรับอากาศ จาก Daikin ระบบ Inverter แบบ Wall Type โดยการออกแบบ Built-in ภายในห้อง ได้ดึงแนวทาง “Luxmore” แบบญี่ปุ่นมาใช้ โดยคำนึงถึงปัจจัยสำคัญต่อการใช้ชีวิตในที่อยู่อาศัย, ความสะดวกในการใช้สอย และใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย อีกทั้งยังคำนึงถึงการบำรุงรักษา และการทำความสะอาด รวมถึงบริการหลังการขายที่ดี
นอกจากนี้ยังมีบริการ “Crown Service” เป็นบริการรูปแบบใหม่ สำหรับกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในธุรกิจให้เช่าที่พักอาศัยระยะยาว และมุ่งหวังที่จะสร้างผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง โดย Crown Residence จะทำหน้าที่ในการจัดหา และคัดเลือกผู้พักอาศัยให้กับนักลงทุนอย่างครบถ้วน ด้วยบริการใบรูปแบบของ Residences Service สำหรับผู้พักอาศัย โดยประกอบไปด้วยรูปแบบการตกแต่งห้องที่สวยงาม เหมาะสำหรับการพักผ่อน รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพัก ซึ่งสามารถเข้าพักอาศัยได้ทันที ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจใน ผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่สุดแก่นักลงทุนและ Service ที่ดีที่สุด สำหรับผู้พักอาศัย ซึ่งประกอบด้วย Cleaning Room, Laundry Service, Bedding and Bed Linen, Amenities (soap & shampoo), Water and Electricity Charged และ Shuttle Bus Service
เดี๋ยวเราจะไปดูผังพื้นของห้องแต่ละ Type กันเลยค่ะ
1 Bedroom : 26.00 ตร.ม.
1 Bedroom : 26.50 ตร.ม.
1 Bedroom Plus : 35.80 ตร.ม.
:::: ห้องตัวอย่าง ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo จะพาไปชมห้องตัวอย่างแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.00 ตร.ม. และ 1 Bedroom Plus ขนาด 35.00 ตร.ม. กันค่ะ ห้องขายแบบ Fully Fitted พร้อมเคาน์เตอร์ครัว, Built-in ในแนวคิด Luxmore และ เครื่องปรับอากาศ จาก Daikin ระบบ Inverter แบบ Wall Type มาดูรายละเอียดแบบเจาะลึกของห้องกันเลยค่ะ
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 26.00 ตร.ม.
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 26.00 ตร.ม. ขนาดของห้องนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 1-2 คน ภาพรวมภายในห้องสามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว แบ่งพื้นที่ครัวกับ Living Area ออกจากกัน ด้วยพื้นที่แบบ Duo Space ฝ้าสูงถึง 4.2 เมตร เพิ่มพื้นที่ใช้สอยในชั้นลอยเป็นห้องนอน และ Walk-in Closet เชื่อมต่อพื้นที่ห้องแบบ Vertical Space ห้องนี้จะเป็น Type ที่มีจำนวนยูนิตมากที่สุดในโครงการค่ะ
ในห้องนี้เราจะได้ พื้นลามิเนตหนา 12 มม., พื้นครัว แกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม., ชุดครัวพร้อมอ่างล้างจาน และ Hob&Hood จาก Hafele, ห้องน้ำพร้อมสุขภัณฑ์จาก Toto และ VRH และ Built-in ในจุดต่างๆของห้อง พร้อมแอร์จาก Daikin ระบบ Inverter อีก 2 ตัว ไปชมห้องด้วยกันเลย
มาถึงหน้าห้องตัวอย่างกันแล้ว จริงๆจะได้ประตูบานทึบนะคะ มือจับประตูเป็นก้านโยกสแตนเลสพร้อม Digital Door Lock
ที่พื้นห้องปูด้วยแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม.
เข้ามาภายในห้องเราจะเจอส่วนของห้องครัวก่อนค่ะ
บริเวณโถงทางเข้าจะเป็นช่วงที่ฝ้าสูง 2 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบ ติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้
จากภายในห้องมองย้อนกลับไปที่ส่วนโถงของครัว
มาดูเฟอร์นิเจอร์ Built-in ที่ได้มากับตัวห้องกันค่ะ จะใช้เป็นโทนสีเทาทั้งห้อง เริ่มจากในห้องครัว ได้ตามที่เห็นนี้เลย
ถ้าสงสัยว่าเฟอร์นิเจอร์ส่วนไหนที่เราจะได้มากับตัวห้องบ้าง ให้ดูอันที่มีติดป้ายเอาไว้แบบนี้
เริ่มจากชิ้นแรก ได้เป็นตู้เก็บของและเก็บรองเท้าหน้าห้อง บานเปิดของ Built-in ทุกชิ้นเป็นบานเปิดแบบ Soft Closed นะคะ
ที่ขอบบานจะทำหน้าตัดเฉียงแบบนี้ เราสามารถใช้จับเพื่อเปิดตัวบานเปิดได้โดยมีต้องมีมือจับเลย
ถัดเข้าไปได้ม้านั่งใส่รองเท้า ด้านใต้มีลิ้นชักสามารถเก็บของได้
และช่องวางตู้เย็นค่ะ มีชั้นลอยเก็บของมาให้เพิ่มเติม
ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นชุดเคาน์เตอร์ครัว ได้มากับตัวห้องทั้งชุดแบบนี้เลย ส่วนประตูฝั่งซ้ายมือคือห้องน้ำนะ
ใต้เคาน์เตอร์ได้ชั้นเก็บของมาแบบนี้ ทั้งลิ้นชักใส่ช้อน-ส้อม, ชั้นเก็บของ 2 ชั้น, ตู้เก็บของใต้อ่างล้างจาน และลิ้นชักอเนกประสงค์ ที่สามารถเลื่อนเปิดออกมา ใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหารเพิ่มได้
ในส่วนของชั้นลอยก็มีตู้เก็บของให้ 2 ช่อง รวมถึงมีช่องวางไมโครเวฟ และ ตะแกรงสำหรับซ้อนจานที่ล้างแล้ว
ท็อปครัวที่ได้เป็นหินเทียม ติดตั้ง Hob&Hood และอ่างล้างจานมาให้เรียบร้อย ใช้ของ Hafele ทั้งหมด
Hob ที่ได้เป็นเตาเซรามิค ขนาด 2 หัว
พร้อมติดตั้ง Hood ดูดควันมาให้ในตำแหน่งเดียวกัน
อ่างล้างจานขนาดกระทัดรัด
ติดตั้งมาพร้อมกับก๊อกน้ำ ใช้สะดวกนะ หัวสามารถหมุนซ้าย-ขวาได้
ระยะของพื้นที่ครัวที่เหลือก็ประมาณ 1.1 เมตรได้ค่ะ สามารถเดินผ่าน หรือยืนปรุงอาหารได้สะดวกอยู่
ถัดจากเคาน์เตอร์ครัวคือห้องน้ำค่ะ
ระหว่างพื้นห้องน้ำและห้องครัวจะกั้นด้วยธรณีประตู เพื่อกันน้ำไหลย้อนออกมา ปูด้วยกระเบื้องลายหินสีเทาผิวด้าน ขนาด 60 x 60 ซม.
ส่วนผนังห้องน้ำกรุด้วยกระเบื้องสีขาว ขนาด 30 x 60 ซม. ภายในห้องน้ำจัดเรียงสุขภัณฑ์จากส่วนแห้งเข้าไปยังส่วนเปียกด้านในสุด โดยใช้สุขภัณฑ์จาก TOTO และ Accessories จาก VRH ค่ะ
ฝ้าเพดานภายในห้องน้ำใช้ฝ้าฉาบเรียบกันชื้น ติดดวงโคมดาวน์ไลท์มาให้
เรามาดูสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำกันค่ะ เริ่มจากอ่างล้างมือ เป็นอ่างวางบนเคาน์เตอร์กระเบื้องลายหินอ่อนสีดำ เคาน์เตอร์ทำต่อเนื่องเป็น Lower Wall หลังโถสุขภัณฑ์ด้วยเลย
อ่างเป็นแบบก้นตื้น ขนาดกำลังใช้งานได้สะดวก รอบอ่างเราสามารถวางขวดสบู่, กล่องทิชชู่ หรือแจกันดอกไม้ได้สบายๆ
ก๊อกน้ำที่ใช้ก็เป็นรุ่นมาตรฐาน ขนาด และทรงสามารถจับเปิด และใช้งานได้สะดวก
ส่วนโถสุขภัณฑ์ก็มีระยะการติดตั้งที่พอดี นั่งแล้วไม่อึดอัด ใช้ระบบ Dual Flush เพื่อช่วยประหยัดน้ำ
ติดตั้งมาพร้อมกับสายฉีดชำระ น้ำหนักเบามือ
และที่ใส่กระดาษชำระค่ะ
ด้านในสุดเป็นโซนอาบน้ำค่ะ ทางโครงการได้ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยมาให้แบบนี้
มือจับประตูด้านนอกสามารถแขวนผ้าเช็ดตัวได้ด้วยนะ
พื้นที่ยืนอาบน้ำข้างในก็มีขนาดกำลังดีค่ะ มีการก่อธรณีกั้นระหว่างโซนแห้งและโซนเปียก เพื่อกันน้ำไหลย้อน
ภายในติดตั้งชุดฝักบัวสายอ่อนมาให้ พร้อมเจาะผนังทำเป็นชั้นวางสบู่ให้เรียบร้อย
เราเทียบขนาดหัวฝักบัวให้ดูค่ะ มีขนาดกำลังดี สามารถปรับระดับของสายน้ำได้
ทางโครงการได้ติดตั้ง Rain Shower มาให้ด้วยเลย นอกจากนี้ การระบายอากาศของห้องน้ำจะใช้พัดลมดูดอากาศเอานะ
ออกมาจากห้องน้ำ เราจะเข้าไปดูภายในส่วน Living Area กันต่อค่ะ โดยจะกั้นส่วนจากห้องครัวด้วย ประตูบานเลื่อน 3 ตอน กรอบอลูมิเนียม ติดกระจกเขียวตัดแสงมาให้แบบนี้
มือจับประตูแบบเซาะร่องมาตรฐานค่ะ สามารถล็อคได้ และไขด้วยกุญแจ
พอเข้าสู่ Living Area จะปูพื้นด้วยลามิเนตหนา 12 มม.ให้แทน เพื่อให้ผิวสัมผัสเหมาะแก่การอยู่อาศัย
เข้าสู่ Living Area เราจะเจอส่วนรับประทานอาหาร และห้องนั่งเล่น
โดยจุดนี้จะเป็นจุดที่มีฝ้าสูงถึง 4.2 เมตรเลยค่ะ
ฝ้าก็จะเป็นฝ้าฉาบเรียบ ติดดวงโคมดาวน์ไลท์มาให้เหมือนเดิม
มองจากภายในห้องย้อนกลับไป เราจะเห็นบันไดทางขึ้นชั้นลอย ซึ่งจะเป็นส่วนของห้องนอนค่ะ
เรามาดูที่ส่วนรับประทานอาหารกันต่อ
ตรงนี้ทางโครงการได้จัดโต๊ะกลมพร้อมเก้าอี้อีก 2 ตัว เอาไว้ให้ดูเป็นไอเดียค่ะ เฟอร์นิเจอร์ส่วนนี้เราไม่ได้มากับตัวห้องนะ
ถัดจากส่วนทานอาหารมาเป็นห้องนั่งเล่น
ซึ่งเราสามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมกับ โต๊ะกาแฟได้แบบนี้
พื้นที่ด้านข้างฝั่งริมหน้าต่างยังเหลือ สามารถจัดวางเป็นโต๊ะทำงานเพิ่มได้อีก 1 ที่
ฝั่งตรงข้ามทำเป็นชั้นวางทีวีให้ มีระยะดูทีวีอยู่ที่ 3.2 เมตรเลยค่ะ สามารถดูทีวีจอใหญ่ๆขนาด 70 นิ้วได้เลยนะ
ชั้นวางทีวีที่ได้มากับห้องค่ะ สามารถเก็บวางของได้เล็กน้อย
นอกจากเราจะได้ห้องที่มีเพดานสูงถึง 4.2 เมตรแล้ว เรายังได้หน้าต่างขนาดใหญ่สูงถึงฝ้าเพดาน ทำให้ภายในห้องสว่างและโปร่งโดยที่ไม่ต้องเปิดไฟ ทางฝั่งซ้ายคือหน้าต่างบาน Fixed และบานกระทุ้ง กรอบอลูมิเนียม ติดกระจกเขียวตัดแสง ส่วนฝั่งขวาคือ ประตูบานเลื่อนเชื่อมสู่ระเบียงห้อง
หน้าต่างบานกระทุ้งทางฝั่งซ้าย พร้อมมือจับแบบก้านโยกค่ะ
ประตูบานเลื่อนเปิดแบบ 3 ตอนค่ะ เชื่อมต่อออกไปที่ระเบียงห้อง
พื้นที่ระเบียงจะลดระดับจากพื้นส่วน Living Area เล็กน้อย ปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม. พื้นที่กว้างประมาณ 60 ซม. กั้นด้วยระแนงเหล็กกันตก ทาสีดำ
พื้นที่ระเบียงนั้นไม่กว้างขวางมากค่ะ แต่ก็พอจะออกมายืนรับลมชมวิว หรือตากผ้าได้บ้าง ตรงนี้จะติดไฟกิ่งมาให้ 1 ดวง
ภาพมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง เราจะขึ้นไปดูที่ห้องนอนบนชั้นลอยกันต่อ
จาก Living Area จะมีบันไดเล็กๆ สำหรับขึ้นไปยังห้องนอน
พื้นที่ใต้บันได้ ทางโครงการได้ทำ Built-in บานเปิดให้เป็นห้องเก็บของแบบนี้
บริเวณบันไดทางขึ้น ข้างๆชั้นวางทีวีก็เช่นกันค่ะ ทางโครงการทำ Built-in เป็นช่องสำหรับเก็บของให้แบบนี้เลย
ส่วนพื้นบันไดลูกนอนปูด้วยไม้สำเร็จรูป
จากชานพักบันได มองขึ้นไปยังชั้นลอย
มองย้อนกลับลงมาที่ชานพักบันไดค่ะ เป็นบันไดรูปตัว U ไม่มีขั้นบันไดแบบสามเหลี่ยม ทำให้เดินได้สะดวก
ขึ้นมาถึงชั้นลอยซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนนอนกันแล้วค่ะ
พื้นที่ชั้นลอยนั้นสามารถวางเตียงนอนขนาด Queen Size ได้เลยตามแบบห้องตัวอย่าง และยังสามารถวางโต๊ะข้างได้อีก 1 ตัว
ระยะจากปลายเตียงนอนถึงราวกันตกก็มีพื้นที่พอประมาณ สามารถเดินผ่านได้สบายๆ จริงๆ แล้วจะวางเก้าอี้ตัวเล็กๆ สำหรับนั่งอ่านหนังสืออีกสักตัวก็ยังได้นะ
มองจากเตียงนอนออกไปที่ Living Area ที่อยู่ที่พื้นระดับล่าง โดยจะมีราวกันตกกระจกกั้นเอาไว้อยู่
มองลงไปที่พื้นที่ Living Area จะรู้สึกได้เลยว่า การออกแบบห้องแบบ Duo Space นั้นทำให้พื้นที่ห้องดูกว้างขวาง โปร่งโล่ง และน่าอยู่มากกว่า
ที่ฝั่งซ้ายมือของชั้นลอยทำเป็น Walk-in Closet ให้
โดยกั้นจากส่วนนอนด้วยประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอน
ภายในห้องทำ Built-in มาให้แบบนี้เลยค่ะ
ที่ฝั่งซ้ายจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง
มีลิ้นชักเก็บของมาให้แบบนี้
ตรงกลางมีทั้งช่องเก็บของ ราวแขวนเสื้อผ้า และ ลิ้นชักเก็บของอีก 3 ช่อง
ส่วนฝั่งขวาทำเป็นชั้นวางของให้แบบนี้
นอกจากนี้ทั้งสวิตช์ และปลั๊กไฟ จะใช้ของ Philips ทั้งหมดค่ะ
แบบห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 35.00 ตร.ม.
มาที่ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 35.00 ตร.ม. กันต่อ ขนาดของห้องนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 3 คน การแบ่งพื้นที่ใช้สอยของห้องนี้จะไม่ต่างจากห้อง 1 Bedroom เลยค่ะ โดยจะแบ่งพื้นที่ครัวกับ Living Area ออกจากกัน ด้วยพื้นที่แบบ Duo Space ฝ้าสูงถึง 4.2 เมตร เพิ่มพื้นที่ใช้สอยในชั้นลอยเป็นห้องนอน และ Walk-in Closet เชื่อมต่อพื้นที่ห้องแบบ Vertical Space ที่ต่างออกไปก็คือจะมีห้องนอนเพิ่มมาให้อีก 1 ห้องค่ะ
ในห้องนี้เราจะได้ พื้นลามิเนตหนา 12 มม., พื้นครัว แกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม., ชุดครัวพร้อมอ่างล้างจาน และ Hob&Hood, ห้องน้ำพร้อมขภัณฑ์จาก Toto และ VRH และ Built-in ในจุดต่างๆของห้อง พร้อมแอร์ของ Daikin ระบบ Inverter อีก 3 ตัว ไปชมห้องด้วยกันเลย
มาถึงหน้าห้องตัวอย่างกันแล้ว ได้ประตูบานทึบ มือจับประตูเป็นก้านโยกสแตนเลสพร้อม Digital Door Lock เหมือนเดิมค่ะ
เข้ามาภายในห้องเราจะเจอส่วนของห้องครัวก่อน พื้นห้องปูด้วยแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม. ซึ่งโถงห้องครัวจะเป็นช่วงที่ฝ้าสูง 2 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบ ติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้
จากภายในห้องมองย้อนกลับไปที่ส่วนโถงของครัว
มาดูเฟอร์นิเจอร์ Built-in ที่ได้มากับตัวห้องกันค่ะ จะใช้เป็นโทนสีเทาทั้งห้อง ที่หน้าห้องก็จะได้ชั้นวางของ, ตู้เก็บรองเท้า, ช่องวางตู้เย็น และชั้นลอยเก็บของค่ะ
ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นชุดเคาน์เตอร์ครัว ได้มากับตัวห้องทั้งชุดแบบนี้เลย ซึ่งจะได้เหมือนกับห้อง 1 Bedroom ทุกประการค่ะ
พื้นที่โถงทางเดินก็กว้างเท่าเดิม ยืนทำอาหาร และเดินผ่านได้สะดวก
เราจะเข้าไปดูภายในส่วน Living Area กันต่อ โดยจะกั้นส่วนจากห้องครัวด้วย ประตูบานเลื่อน 3 ตอน กรอบอลูมิเนียม ติดกระจกเขียวตัดแสงมาให้เหมือนเดิม
เข้าสู่ Living Area เราจะเจอส่วนรับประทานอาหาร และห้องนั่งเล่น พื้นปูด้วยลามิเนตหนา 12 มม.
โดยจุดนี้จะเป็นจุดที่มีฝ้าสูงถึง 4.2 เมตรเลยค่ะ
โดยเราจะได้ผนังกระจกสูงถึงฝ้าเพดานแบบนี้มี 1 ด้านเลยเต็มๆ
และจะมีบานกระทุ้งสำหรับเปิดระบายอากาศอยู่ที่มุมห้องค่ะ
เรามาดูที่ส่วนรับประทานอาหารกันต่อ
ตรงนี้ทางโครงการได้จัดโต๊ะกลมพร้อมเก้าอี้อีก 2 ตัว เอาไว้ให้ดูเป็นไอเดียค่ะ เฟอร์นิเจอร์ส่วนนี้เราไม่ได้มากับตัวห้องนะ
ถัดจากส่วนทานอาหารมาเป็นห้องนั่งเล่น
ซึ่งเราสามารถวางโซฟาเบด พร้อมกับ โต๊ะกาแฟได้แบบนี้
ฝั่งตรงข้ามวางชั้นวางทีวีแบบลอยตัว
ตรงนี้มีระยะดูทีวีอยู่ที่ 2.3 เมตร ขนาดทีวีจอสัก 50-55 นิ้วจะกำลังเหมาะสมค่ะ
มองจากด้านในห้องย้อนกลับออกไป เราเห็นพื้นที่ชั้นลอยข้างบนซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนนอน
คราวนี้เรามาดูห้องน้ำ และห้องนอนใหญ่กันต่อ ซึ่งจะอยู่ระหว่างพื้นที่ห้องนั่งเล่น และห้องครัว
เริ่มจากห้องน้ำฝั่งขวามือค่ะ
ระหว่างพื้นห้องน้ำและห้องครัวจะกั้นด้วยธรณีประตู เพื่อกันน้ำไหลย้อนออกมา โดยห้องน้ำจะมีประตูเชื่อมกับห้องนอนใหญ่ด้วยค่ะ
ส่วนภายในห้องน้ำจะเหมือนกับห้อง 1 Bedroom ทุกประการค่ะ
คราวนี้เรามาดูห้องนอนใหญ่กันต่อ
ภายในห้องนอนใหญ่ก็จะมีฝ้าสูงถึง 4.2 เมตรด้วยเช่นกัน
ภายในห้องมีพื้นที่พอสมควรค่ะ สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างครบครัน
เริ่มจากตู้เสื้อผ้าที่ได้มากับห้องด้วย มีขนาดใหญ่ ภายในมีราวแขวนเสื้อผ้า, ช่องเก็บของ และชั้นลอยเก็บของค่ะ
มือจับบานประตูจะทำเป็นครีบขึ้นมาให้แบบนี้ และที่หน้าบานก็จะติดกระจกเงามาให้ด้วยเลย
ถัดเข้ามา สามารถวางเตียงนอนขนาด Queen Size ได้กำลังพอดี
พื้นที่ปลายเตียงก็ยังเหลือ สามารถเดินผ่านได้สะดวก ถ้าจะติดตั้งทีวีก็ต้องแบบแขวนผนังนะ
ส่วนช่องแสงของห้องจะเป็นประตูบานเลื่อน สามารถเปิดเชื่อมกับระเบียงห้องได้
พื้นระเบียงไม่ต่างจากห้อง 1 Bedroom เลยค่ะ วัสดุเหมือนกัน ความกว้างก็เท่ากัน
จากระเบียงมองย้อนกลับเข้ามาในห้อง จะเห็นประตูสีขาวข้างตู้เสื้อผ้า นั่นก็คือประตูเชื่อมสู่ห้องน้ำค่ะ
เรากลับออกมาที่ห้องโถงข้างนอก เพื่อขึ้นไปดูชั้นลอยกันต่อ
พื้นที่ใต้บันไดก็จะทำตู้เก็บของให้เหมือนเดิม
มองย้อนกลับลงไปที่บันได ให้เราเดินชิดฝั่งกำแพงเอาไว้ตลอดนะ เพราะเป็นบันไดขั้นสามเหลี่ยม ต้องระวังๆหน่อย
ขึ้นมาถึงชั้นลอยซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนนอนอีกส่วนแล้วค่ะ
ทางห้องตัวอย่างจัดเตียงนอนขนาด 3 ฟุตเอาไว้ให้ดูเป็นไอเดีย แต่จริงๆแล้วจะวาง Queen Bed เหมือนเดิมก็ยังได้นะ
พื้นที่ปลายเตียงเหลือน้อยลงเมื่อเทียบกับห้อง 1 Bedroom แต่ก็ยังสามารถเดินผ่านได้สะดวกอยู่
ส่วนที่ฝั่งซ้ายของห้องก็ทำเป็น Walk-in Closet ให้เหมือนเดิม
มองจากเตียงนอนออกไปที่ Living Area ที่อยู่ที่พื้นระดับล่าง โดยจะมีราวกันตกกระจกกั้นเอาไว้อยู่
มองลงไปที่พื้นที่ Living Area
:::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (กุมภาพันธ์ 2561) ::::
วัสดุโดยรวม
- พื้นห้องครัว : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม.
- พื้นห้องนั่งเล่น และห้องนอน : ลามิเนต หนา 12 มม.
- พื้นห้องน้ำ : พื้นกระเบื้องสีเทา ลายหินธรรมชาติ ขนาด 60 x 60 ซม.
- พื้นระเบียง : กระเบื้องเซรามิค ขนาด 30 x 30 ซม.
- ผนังภายใน : ผนังฉาบเรียบทาสี
- ผนังห้องน้ำ : กระเบื้องเซรามิค ขนาด 30 x 60 ซม.
- ประตูภายนอก : ประตูบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียม พร้อมกระจกเขียวตัดแสง
- ประตูทางเข้าห้อง : ประตูบานเปิดสำเร็จรูป มือจับก้านโยกสแตนเลส พร้อม Digital Door Lock
- ประตูภายใน : ประตูบานเปิดสำเร็จรูป มือจับก้านโยกสแตนเลส
- ประตูภายใน : ประตูบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียม พร้อมกระจกเขียวตัดแสง
- หน้าต่างภายนอก : บาน Fixed และ บานกระทุ้ง กรอบอลูมิเนียม พร้อมกระจกเขียวตัดแสง
ห้องน้ำ และสุขาภิบาล
- สุขภัณฑ์ และ Accessories : Toto และ VRH
งานไฟฟ้า
- สวิตช์ และปลั๊กไฟ : Philips
- ดวงโคมทั่วไป : ดวงโคมดาวน์ไลท์
- ดวงโคมในห้องน้ำ : ดวงโคมดาวน์ไลท์
- ไฟภายนอก : ไฟกิ่ง
- เครื่องปรับอากาศ : Daikin Inverter แบบ Wall Type
เฟอร์นิเจอร์
- เคาน์เตอร์ครัว พร้อม Hob & Hood และ อ่างล้างจาน จาก Hafele
- Built-in ตู้เก็บของ, ชั้นวางของ, ชั้นวางทีวี และ ตู้เสื้อผ้า
***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ
:::: ราคา (กุมภาพันธ์ 2561) ::::
- ราคา เริ่มต้นที่ 4.59 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ย เริ่มต้นที่ 202,000 บาท/ตร.ม.
- เงินจอง n/a
- เงินทำสัญญา n/a
- ค่ากองทุน 680 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง ตร.วา ละ 68 บาท/เดือน
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติ
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ ตัวโครงการตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพ ติด ถ.พหลโยธิน ใกล้ ซ.พหลโยธิน 27 ฝั่งขาออก ห่างจากแยกรัชโยธินเพียง 250 เมตร ซึ่งจะอยู่ตรงข้ามกับตึกช้างพอดี โดยย่านรัชโยธินก็เรียกได้ว่าเป็น Business Hub อยู่แล้ว ทั้ง Demand และ Supply ก็พุ่งสูงขึ้นกว่า 90% ในระยะปี-2 ปีที่ผ่านมา จากนี้ไปก็จะถูกผลักดันให้เท่าเทียมกับกรุงเทพฯชั้นในอีกด้วยค่ะ จากข่าวก็จะมี Mega Project เกิดขึ้นจากการจับมือกันระหว่างทาง BTS และ Gland เรียกว่า Bay Water สร้างโครงการ Mix Used อย่างครบวงจร ตอนนี้เราก็จะเห็นโครงข่ายรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วง หมอชิต- คูคต ถูกสร้างขึ้นมาแล้ว โดยโครงการจะอยู่ใกล้กับสถานี พหลโยธิน 24 เพียง 20 ก้าวเท่านั้น
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ถ.พหลโยธินเป็นถนนสายหลักที่สามารถเดินทางได้สะดวก สามารถวิ่งตรงเข้าสู่อโศกได้เลย เพียงแต่ว่ามีการจราจรที่ติดขัด โดยเฉพาะในช่วงปี 2 ปีที่ผ่านมา เพราะว่ากำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว แต่เชื่อว่าพอรถไฟฟ้าเปิดใช้งาน จะช่วยระบายคนที่ใช้รถยนต์บนท้องถนน ขึ้นไปใช้บริการรถไฟฟ้ากันมากขึ้น ทำให้รถติดน้อยลงค่ะ จากถ.พหลโยธินนั้นสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนหลักสายอื่นๆได้อีก และมีเส้นวิภาวดี-รังสิต ที่วิ่งอยู่คู่ขนานกัน จะมีจุดขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์อยู่ตรงนั้นด้วย จากโครงการไปขึ้นไม่เกิน 10 นาที เชื่อมต่อไป ทางพิเศษศรีรัช หรือ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ก็ได้ค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ นับว่าสะดวกมากๆ เพราะตัวโครงการอยู่ติดกับ ถ.พหลโยธิน ซึ่งมีรถสาธารณะผ่านอยู่ตลอดเวลา หรือจะขึ้นรถไฟฟ้า ก็แค่เพียง 20 ก้าวจากหน้าโครงการ นั่นก็คือ สถานีพหลโยธิน 24 เป็นรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-คูคต เชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าอีก 3 สาย คือ BTS สายสีเขียว เชื่อมต่อเข้าสยาม-อโศก-ทองหล่อ ที่ สถานีหมอชิต, MRT สายสีน้ำเงิน ที่ สถานีพหลโยธิน-ห้าแยกลาดพร้าว และ Monorail สายสีเหลือง ที่ สถานีรัชโยธิน ช่วง ลาดพร้าว-พัฒนาการ ตามแผนคาดว่า สถานีพหลโยธิน 24 น่าจะได้เปิดใช้งานใกล้เคียงกับเวลาที่โครงการสร้างเสร็จพอดีค่ะ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็นคอนโดมิเนียม สูง 33 ชั้น มี 1 อาคาร ทั้งหมด 488 ยูนิต บนพื้นที่ 2 ไร่ วางผังอาคารเป็นรูปตัว L และจัดห้องพักอาศัยแบบ Double Corridor ปลายโถงแต่ละฝั่งเจาะช่องแสงขนาดใหญ่ทำให้โถงทางเดินไม่มืดทึบ มีจำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดที่ 26 ห้อง/ชั้น ถือว่าไม่หนาแน่นจนเกินไปค่ะ ประตูห้องบางห้องอาจจะเปิดมาเจอกันบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้เสียความเป็นส่วนตัวไป
ห้องแต่ละ Type ก็ถูกออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นที่ลงตัว ด้วยการออกแบบฝ้าเพดานสูง 4.2 เมตร หรือ Duo Space ทำให้ห้องมีภาพรวมที่ดูโปร่งโล่ง และน่าอยู่มากขึ้น โดยจะแบ่งส่วน Living Area และห้องครัวออกจากกันด้วยบานเลื่อนกระจก ซึ่งถือว่าเป็นข้อดี เพราะทำให้กลิ่นจากการปรุงอาหารไม่ฟุ้งไปทั่วห้อง ซึ่งในส่วนของห้องครัวจะมีฝ้าสูงเพียง 2 เมตร แต่เป็นเพียงพื้นที่เล็กๆจึงไม่ได้รู้สึกว่าว่าอึดอัดค่ะ พอเข้าไปสู่พื้นที่ Living Area จะได้พื้นที่แบบ Duo Space มีพื้นที่ชั้นลอยเป็นห้องนอน ซึ่งจะได้ความเป็นส่วนตัวด้วยจากการแบ่งระดับพื้น แต่พื้นที่ก็จะยังคงเชื่อมกันแบบ Vertical Space เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
เสียอย่างที่มีหน้าต่างระบายอากาศในห้องน้อยไปหน่อย และห้องน้ำจะต้องพึ่งระบบระบายอากาศของอาคารเพียงอย่างเดียว เพราะไม่มีหน้าต่างระบายอากาศมาให้ด้วย
วัสดุ, สุขภัณฑ์ และเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มากับตัวห้องก็ได้มาตรฐานดี โดยโครงการขายทั้งแบบ Fully Fitted ได้ทั้งเคาน์เตอร์ครัว พร้อม Hob&Hood และ อ่างล้างจาน, Built-in ภายในห้อง ทั้งตู้เก็บรองเท้า, ชั้นวางของ, ตู้เก็บของ, ชั้นวางทีวี และตู้เสื้อผ้า ที่ถูกออกแบบมาในแนวคิด Luxmore ตามแบบญี่ปุ่น คำนึงถึงปัจจัยสำคัญต่อการใช้ชีวิตในที่อยู่อาศัย ทั้งมีดีไซน์ที่สวยงาม, ความสะดวกในการใช้สอย และใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย และคำนึงถึงการบำรุงรักษา และการทำความสะอาด
นอกจากนี้ก็จะได้ ระบบ Digital Door Lock, เครื่องปรับอากาศของ Daikin ระบบ Inverter ทุกห้อง, สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก Toto และ VRH ตอนนี้ราคาของโครงการตกอยู่ที่ ตร.ม.ละ 202,000 บาทค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ ถือว่าได้มาแบบ Premium เลยค่ะ ที่ชั้น G จะเป็นส่วนของ Cafe 24, Co-Working Space และ Co-Living Garden ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็นส่วนของ Biz Lobby มองออกไปเชื่อมสู่ Garden Lobby View , Presentation Room, Mail Box และ Lift Hall ในส่วนของชั้นที่ 3-13 จะเป็นอาคารจอดรถค่ะ โดยโครงการจะใช้ระบบ Auto Parking ทั้งหมด สามารถจอดได้ถึง 70% เลย นับว่าให้มาเยอะทีเดียว พอขึ้นไปที่ชั้น 14-32 จะเป็นส่วน Residential ทั้งหมด และจะมี Main Facilities ที่ชั้น 33 และชั้น Rooftop มีทั้ง Sky Infinite Space, Private Massage, Dinning Lounge, Sky Relaxing Lounge, Sky Social Fitness, Sunset Pool เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 24 x 4.5 เมตร และ Hydrotherapy ขนาด 13 x 4 (L-Shape) และ Rooftop Garden ที่มี Sunset Amphitheatre สามารถชมวิวเมืองกรุงเทพฯ ได้จากจุดสูงสุดของตัวโครงการค่ะ
นอกจากนี้ตัวโครงการยังมีบริการ Crown Service อำนวยความสะดวกกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในธุรกิจให้เช่าที่พักอาศัยระยะยาว มีลิฟท์โดยสารอยู่ 4 ตัว และลิฟท์ขนของอีก 1 ตัว มีอัตราส่วนอยู่ที่ 122 : 1 เกินมาตรฐานมาเล็กน้อยแต่ยังรับได้ค่ะ ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยก็จะประกอบไปด้วยกล้อง CCTV, Security guard ตลอด 24 ชม. พร้อมทั้ง Access card สำหรับเข้าสู่โถงลิฟท์ รวมถึงระบบลิฟท์แบบล็อคชั้น ถือว่าใช้ได้เลยค่ะ
:::: คะแนน ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ |
8.5 |
อยู่ในทำเลศักยภาพ ติด ถ.พหลโยธิน ตรง ซ.พหลโยธิน 27 และยังติดกับ สถานีรถไฟฟ้าพหลโยธิน 24 ในระยะเดินเพียง 20 เมตรเท่านั้น ใกล้แหล่งงาน และสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร |
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว |
8.0 |
อยู่ติดถนนใหญ่ ใกล้แยกรัชโยธิน และห้าแยกลาดพร้าว สามารถเดินทางและเชื่อมต่อสู่ถนนเส้นอื่นได้สะดวก เว้นแต่ว่ารถค่อนข้างติด ซึ่งเป็นเรื่องปกติของย่านที่เจริญและคึกคักค่ะ อยู่ใกล้ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ |
การเดินทางโดยรถสาธารณะ |
8.7 |
มีรถสาธารณะวิ่งผ่านหน้าโครงการ และอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าพหลโยธิน ซึ่งเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าอีก 3 สาย |
บ้านและวัสดุ |
8.5 |
ห้องสไตล์โมเดิร์น จุดเด่นคือมีฝ้าเพดานที่สูงถึง 4.2 เมตร และมีชั้นลอย แบ่งสัดส่วนห้องได้ดี ได้ Built-in มาค่อนข้างเยอะ วัสดุสวยงามและได้มาตรฐานค่ะ |
สิ่งอำนวยความสะดวก |
9.0 |
สิ่งอำนวยความสะดวกมีมาให้อย่าง Premium และครบครัน ซึ่งตอบโจทย์ทั้ง ความต้องการในปัจจุบัน และกลุ่มลูกค้าระดับบน |
ความคุ้มค่ากับราคา |
8.0 |
โครงการเหมาะสำหรับครอบครัวขนาด 1-4 คน ต้องการหาที่อยู่ในย่านรัชโยธิน เดินทางสะดวกทั้งระบบขนส่งสาธารณะ และรถยนต์ส่วนตัว อายุระหว่าง 26-40 ปี มีเงินเดือนตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป |
คะแนนรวมเฉลี่ย |
8.45 |
ดีมาก |
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
สำนักงานขาย : 065 520 0080
WEBSITE : http://knightsbridge.origin.co.th/knightsbridgespace/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น