ชื่อโครงการ
ลิฟวิ่งเนสท์ อุดมสุข 30 Living Nest Udomsuk 30
เจ้าของโครงการ
บริษัท ฮิวแมนเนสท์ จำกัด
เนื้อที่ทั้งหมด
0-3-24 ไร่
จำนวนตึก
1 อาคาร
จำนวนชั้น
8 ชั้น
จำนวนห้อง
119 ยูนิต
ลักษณะห้องและขนาดห้อง
1 Bedroom 25.61-36.74 ตร.ม.
1 Bedroom Plus 34.93 ตร.ม.
1 Bedroom Loft 30.43-35.63 ตร.ม. (รวมพื้นที่ด้านบน 39.62-45.17 ตร.ม.)
ที่จอดรถทั้งหมด
43%
จำนวนลิฟต์
2 ตัว
โซน
เขตบางนา
ขนส่งสาธารณะ
ถนนอุดมสุข
ถนนสุขุมวิท
ถนนศรีนครินทร์
ถนนบางนา – ตราด
ทางพิเศษสาย S1
ทางพิเศษบูรพาวิถี
รถไฟฟ้า BTS อุดมสุข
ที่ตั้ง
ซอยอุดมสุข 30 แขวงบางนา เขตบางนา กทม.
กำหนดการ
Pre – Sale 21 – 22 ก.ย.62
เริ่มก่อสร้าง ภายใน Q1 ปี 2563
ปีที่สร้างเสร็จ
คาดว่าจะแล้วเสร็จ ภายใน Q4 ปี 2564
ราคา
เริ่มต้น 1.89 ล้านบาท* (ราคาวันเปิดตัว)
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม.
93,000 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลางและกองทุน
ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ ตร.ม./เดือน*
ค่ากองทุนส่วนกลาง 600 บาท /ตร.ม./ชำระครั้งเดียว*
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
ห้างสรรพสินค้า
7 – Eleven : 300 ม.
Makro อุดมสุข : 700 ม.
ตลาดอุดมสุข : 1.3 กม.
Udomsuk Walk : 1.5 กม.
One Udomsuk : 1.6 ม.
True Digital Park : 1.9 กม.
Central บางนา : 2.6 กม.
Big C บางนา : 2.8 กม.
The Phyll : 4.4 กม.
Paradise Park : 4.4 กม.
Index บางนา : 4.5 กม.
Lotus อ่อนนุช : 4.7 กม.
Big C อ่อนนุช : 5.0 กม.
Seacon Square : 5.2 กม.
ตลาดนัดรถไฟ : 5.3 กม.
Gateway เอกมัย : 6.9 กม.
The EmQuartier : 8.9 กม.
The Emporium : 8.9 กม.
Mega บางนา : 8.9 กม.
Ikea บางนา : 9.6 กม.
สถานศึกษา
รร.สิริรัตนาธร : 100 ม.
รร.นานาชาติ Berkeley : 650 ม.
รร.นานาชาติ St.Andrews : 3.3 กม.
รร.บางกอกพัฒนา : 3.8 กม.
วิทยาลัยดุสิตธานี : 5.8 กม.
ศูนย์การแพทย์
รพ.ไทยนครินทร์ : 3.3 กม.
รพ.บางนา 1 : 4.5 กม.
รพ.ทหารเรือ กรุงเทพ : 5.1 กม.
รพ.ศิครินทร์ : 6.2 กม.
รพ.สุขุมวิท : 6.6 กม.
ศาสนสถานและอื่นๆ
Bitec บางนา : 2.6 กม.
วัดธรรมมงคล : 3.5 กม.
วัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร : 3.5 กม.
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
ไปรษณีย์ อุดมสุข : 1.9 กม.
สนง.ขนส่ง กทม.พื้นที่ 3 : 3.5 กม.
กรมสรรพาวุธ : 3.7 กม.
สนง.เขตบางนา : 3.7 กม.
สนง.เขตพระโขนง : 4.3 กม.
สถานีดับเพลิง พระโขนง : 5.2 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก
High Ceiling Lobby ชั้น G
Waiting Area ชั้น G
Laundry Area ชั้น G
Co – working Space ชั้น 2
Tropical Private Garden ชั้น 2
Sky Gym ชั้น 8
Jogging Track (ชั้นดาดฟ้า)
Sky Swimming Pool
Imagine Pool, Jacuzzi (ชั้นดาดฟ้า)
Sky Multi – purpose Area (ชั้นดาดฟ้า)
Imagine Play Area (ชั้นดาดฟ้า)
Rock Climbing Wall (ชั้นดาดฟ้า)
Party Area & BBQ Terrace (ชั้นดาดฟ้า)
Relaxing Space (ชั้นดาดฟ้า)
Creative Conner (ชั้นดาดฟ้า)
Goal Table (ชั้นดาดฟ้า)
Tropical Sky Garden (ชั้นดาดฟ้า)
กล้องวงจรปิด ตลอด 24 ชั่วโมง
Key – card Access
Digital Door Lock ทุกยูนิต
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
จุดเด่นของโครงการ
Living Nest อุดมสุข 30 คอนโดใหม่ ที่สุดของชีวิตที่ลงตัว ใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย เพียง 5 นาที ถึง BTS อุดมสุข
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ซอยอุดมสุข 30 แขวงบางนา เขตบางนา กทม.
พิกัดโครงการ : 13.674804, 100.623040
พิกัดสำนักงานขาย : 13.679068, 100.612376
แผนที่จากทางโครงการ Living Nest อุดมสุข 30 คอนโดอารมณ์บ้านสไตล์ Modern Scandinavian ในซอยอุดมสุข 30 อยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้ง ตลาดอุดมสุข, One Udomsuk, Makro อุดมสุข, Udomsuk Walk, Seacon Square, Paradise Park เดินทางได้สะดวกทั้งรถส่วนตัวและรถสาธารณะ ใกล้จุดขึ้น – ลงทางด่วน และ BTS สถานีอุดมสุขได้ในเวลาเพียง 5 นาที
ทำเลที่ตั้ง Living Nest อุดมสุข 30 ตั้งอยู่ในซอยอุดมสุข 30 เข้ามาจากถนนอุดมสุขประมาณ 300 เมตร (ส่วนสำนักงานขายของโครงการจะอยู่ที่ซอยอุดมสุข 5 นะคะ) ภายในซอยอุดมสุข 30 เป็นพื้นที่ชุมชนที่อยู่อาศัย มีขนาดถนนที่กว้าง บรรยากาศเงียบสงบและได้ความเป็นส่วนตัวสูง แต่ก็ยังมีความปลอดภัยเพราะมีผู้คนอาศัยอยู่ในซอยเยอะ อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับ รร.สิริรัตนาธร ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษของกทม. ด้วยค่ะ
ซึ่งย่านอุดมสุขนี้ถือเป็นย่านที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง ส่วนใหญ่จะเป็นชุมชนบ้านพักอาศัยที่อยู่กันมานาน สลับกับอะพาร์ตเมนต์ทั้งเก่าและใหม่ ปัจจุบันก็มีอาคารใหม่เกิดขึ้นเยอะเลยเหมือนกัน ย่านนี้หลักๆ ก็จะเป็นย่านที่ผู้คนที่ทำงานในตัวเมืองแถบอโศกเป็นต้นมามักจะมาหาที่เช่าอยู่กันค่ะ เนื่องจากเป็นทำเลที่ยังเกาะแนวรถไฟฟ้า ค่าเช่าค่ากินอยู่ก็ถูกกว่าในตัวเมือง มีสาธารณูปโภครองรับการอยู่อาศัยให้ความสะดวกสบายมากมาย และยังสามารถหารถสาธารณะได้ง่ายอีกด้วย
การเดินทางด้วยรถยนต์ ถือว่าสะดวกทีเดียวค่ะ พอออกจากซอยเพียง 300 เมตรก็จะถึงถนนอุดมสุขแล้ว ซึ่งเป็นถนนเส้นที่ตัดจากถนนสุขุมวิทและไปสิ้นสุดที่แยกหนองบอนประเวศ ซึ่งเป็นจุดตัดกับถนนศรีนครินทร์ และถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 นอกจากนี้ยังมีซอยย่อยเชื่อมไปออกอ่อนนุชได้
หลักๆ ก็ใช้เส้นสุขุมวิทวิ่งมุ่งหน้าเข้าเมืองอย่างเดียวไปเอกมัย ทองหล่อ พร้อมพงษ์ อโศก สยาม หรือเข้าถนนพระรามสี่ตรงแถวแยกพระโขนงวิ่งเข้าลุมพินี วิทยุ สาทร สีลม สามย่านได้เลย ส่วนถ้าใครจะใช้ทางด่วน วิ่งไปเข้าซอยสุขุมวิท 62 ซึ่งเป็นซอยที่ใช้เป็นจุดขึ้นลงทางด่วนเฉลิมมหานครได้หรือตรงสี่แยกบางนา ไปได้หลายที่ทั้ง พระรามเก้า ดาวคะนอง พระรามสอง แจ้งวัฒนะ ดินแดง วิภาวดี – รังสิต รามอินทรา ขากลับก็มาลงทางเดิม หรือมาลงบางนาตรงแยกบางนาแล้วก็วิ่งไปโครงการได้เลย
ถ้าไปโซนบางนาก็ใช้เส้นสุขุมวิท มาแยกบางนาวิ่งไปออกสำโรง ปู่เจ้าสมิงพราย ยาวไปสมุทรปราการได้ หรือตรงแยกบางนาจะเชื่อมออกถนนบางนา – ตราด วิ่งไปเชื่อมถนนศรีนครินทร์ ถนนกาญจนาภิเษก ถนนกิ่งแก้ว ยาวเลยไปออกฉะเชิงเทรา ชลบุรี พัทยาได้เลย และที่สำคัญเส้นนี้มีทางด่วนบูรพาวิถีวิ่งไปจนถึงชลบุรีเลย ถนนกาญจนาภิเษกวิ่งไปออกรังสิต ปทุมธานี อยุธายาได้ และถนนกิ่งแก้วไปสุววรณภูมิ ลาดกระบัง มีนบุรี ถ้าไปโซนรามอินทรา ลาดพร้าว เกษตรนวมินทร์ ก็ขึ้นทางด่วนไปได้เลยค่ะสะดวกดี
ทางด่วน สำหรับจุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้ที่สุดจะอยู่ตรงถนนสรรพาวุธใกล้ตลาดสี่แยกบางนาค่ะ จากตัวโครงการขับไปเพียง 3.1 กม.เท่านั้น สามารถใช้ไปได้ทั้งทาง พระรามเก้า ดาวคะนอง พระรามสอง แจ้งวัฒนะ ดินแดง วิภาวดี – รังสิต และรามอินทรา แต่ก็สามารถวิ่งเข้าซอยอุดมสุข 24 ทะลุออกบางนา – ตราดแล้วกลับรถ จะเจอทางให้ชิดขวาเพื่อเข้าสู่ถนนบางนา – ตราดเส้นหลัก วิ่งยาวไปเรื่อยๆ 3 กม. จะเจอทางแยก ให้ใช้ช่องทางขวาสุด เพื่อไปยังทางพิเศษเฉลิมมหานครก็ได้เช่นกัน
ส่วนอีกจุดนึงคือทางพิเศษบูรพาวิถี จะอยู่บนเส้นบางนา – ตราดเลย Central บางนาไปเล็กน้อยค่ะ จากตัวโครงการขับไปเพียง 4.3 กม. ใช้ยิงยาวออกไปทางชลบุรีได้เลย เราสามารถใช้ทางลัดซอยอุดมสุข 24 หรือ 42 วิ่งออกคู่ขนานบางนาตราด และขึ้นทางด่วนไปชลบุรีได้เลย
:: สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ ::
ถ.อุดมสุข : 300 เมตร
ถ.วชิรธรรมสาธิต (ซ.สุขุมวิท 101/1) : 1.3 กม.
แยกอุดมสุข : 1.5 กม.
ถ.บางนา – ตราด : 2.0 กม.
แยกทุ่งสาธิต : 2.3 กม.
สี่แยกบางนา : 2.7 กม.
แยกศรีอุดม : 2.8 กม.
ถ.ลาซาล : 4.5 กม.
แยกอ่อนนุช : 5.3 กม.
ถ.อ่อนนุช : 5.5 กม.
แยกศรีนุช : 6.8 กม.
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ถือว่าสะดวกมากค่ะ เพราะในซอยอุดมสุข 30 จะมีวินมอเตอร์ไซด์ให้บริการอยู่ 2 จุดใหญ่ คือ ที่หน้า รร.สิริรัตนาธร และถัดจากโครงการเข้าไปในซอยอีกไม่ไกลบริเวณสี่แยก นอกจากนั้นยังมีรถสองแถวยาสูบที่ให้บริการไป – กลับจากซอยอุดมสุข 30 ไปถึงหน้าตลาดอุดมสุขโดยเฉพาะ โดยจะมีด้วยกันทั้งหมด 6 คัน ให้บริการตั้งแต่ช่วงเช้ามืดจนถึง 3 – 4 ทุ่ม แท็กซี่ก็มีวิ่งผ่านเข้า – ออกอยู่ตลอดทั้งวัน ประกอบกับการใช้ Grab Taxi และ Line Taxi ก็จะทำให้สะดวกยิ่งขึ้นไปอีก และพอออกมาที่ถนนอุดมสุขก็จะมีรถเมล์วิ่งผ่านอยู่อีกหลายสายเลยค่ะ
อีกทั้งตัวโครงการยังอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีอุดมสุขเพียง 1.5 กม. อาจจะไม่ได้ใกล้ขนาดที่สามารถเดินไปได้ แต่สามารถนั่งรถสาธารณะไปถึงได้ในเวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงพัฒนาการ – สำโรง วิ่งขนานกับเส้นศรีนครินทร์ สถานีที่ใกล้ที่สุดก็คือสถานีศรีอุดมค่ะ ซึ่งรถไฟฟ้าเส้นนี้จะเชื่อมกับรถไฟฟ้า BTS ที่สถานีสำโรง และตรงไปยังลาดพร้าวเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT ที่สถานีลาดพร้าว
ความอุดมสมบูรณ์ ภายในซอยอุดมสุข 30 เองจะเป็นชุมชนที่พักอาศัย รวมถึงมีโรงเรียนขนาดใหญ่อยู่ด้วย จึงมีร้านอาหารและร้านโชห่วยอยู่หลายร้านคอยเปิดให้บริการนักเรียน บุคลากรของโรงเรียน และผู้ที่อยู่อาศัยในละแวกนี้ และก็ยังมี 7 – Eleven อยู่ที่หน้าปากซอยอยู่ 1 สาขาด้วยค่ะ
(ที่มาภาพ : https://www.ddproperty.com)
ส่วนบนเส้นอุดมสุขนี้เองก็ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์อยู่มากทีเดียวเพราะว่าเป็น Residential Area ที่มีคนอยู่อาศัยเยอะมาก ร้านค้าและร้านอาหารจึงเยอะตามมา มีทั้ง One Udomsuk เป็น Community Mall เล็กๆ ที่อยู่ติดกับถนนสุขุวิท ภายในมี Lawson108 Tsuruha Fit Junction มีร้านอาหาร ทั้ง ชาบู ปิ้งย่างเกาหลี อาหารญี่ปุ้น อาหารไทย อาหารอีสานก็มีครบทุกอย่างให้เลือกทานได้, ตลาดอุดมสุข สไตล์ดั้งเดิมมีอาหารสดอาหารแห้งอย่างหลากหลาย, Hypermarket อย่าง Makro อุดมสุข, Watson และ Udomsuk Walk เป็นแหล่งสินค้าและอาหารราคาถูกและอร่อย และถ้าย้อนไปที่สถานีปุณวิถีก็จะมี True Digital Park อยู่ด้วยค่ะ
สำหรับห้างขนาดใหญ่ก็จะมีอยู่ที่เส้นศรีนครินทร์ มีทั้ง Seacon Square, Paradise Park และตลาดนัดรถไฟ สามารถนั่งรถสองแถวจากถนนอุดมสุขไปได้สะดวก หรือถ้าไปทางบางนาตรงไปก็มี Central บางนา, Big C บางนา และ Ikea&Mega บางนา แอบกระซิบว่ามีรถบัสวิ่งจาก BTS อุดมสุข ไปถึงหน้าห้างเหล่านี้ด้วยเช่นกัน 🙂 นอกจากนี้ก็ยังมีสถานศึกษามากมายทั้งรัฐ, เอกชน และ โรงเรียนนานาชาติ ยกตัวอย่างเช่น Berkeley International School, รร.บางกอกพัฒนา, เซนต์โยเซฟ บางนา และ St.Andrews International School
(ที่มาภาพ : https://th.wikipedia.org/)
ในอนาคตจะมีโครงการระดับ Flagship จากเดอะมอลล์กรุ๊ป ตรงจุดตัดถนนบางนา – ตราดและถนนสุขุมวิท (ตรงข้ามกับ Bitec บางนาพอดี) เชื่อมกับรถไฟฟ้า BTS ที่สถานีอุดมสุขและสถานีบางนา บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ นั่นก็คือ Bangkok Mall มีพื้นที่โครงการมากกว่า 650,000 ตร.ม. เป็นอาณาจักรแห่งศูนย์การค้า, ที่อยู่อาศัย และออฟฟิศแบบครบวงจร ที่ทันสมัยและสมบูรณ์แบบมากที่สุดในเอเชีย
ภายใต้คอนเซ็ปต์ City within the City หรือเมืองในเมืองที่สมบูรณ์แบบ ออกแบบอาคารโดยใช้สถาปัตยกรรม The Ultra Modern & Spectacular Architecture ที่ล้ำสมัย มีกำหนดเปิดให้บริการภายในปี พ.ศ.2566 จะเป็นโครงการศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงยังเป็นหนึ่งในศูนย์การค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วย
(ที่มาภาพ : https://mgronline.com)
และยังมีอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ อย่างโครงการ Central Village Luxury Outlet แห่งแรกในประเทศไทย ที่เอาใจนักช้อปแบรนด์เนมเพราะลดสูงสุด 35-70% ทุกวัน ออกแบบตกแต่งโครงการให้เป็นสถาปัตยกรรมทรงไทยประยุกต์ เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตแห่งใหม่ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ จบครบในที่เดียว เปิดให้ใช้บริการตั้งแต่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมานี้เองค่ะ
:: สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ::
ห้างสรรพสินค้า
7 – Eleven : 300 ม.
Makro อุดมสุข : 700 ม.
ตลาดอุดมสุข : 1.3 กม.
Udomsuk Walk : 1.5 กม.
One Udomsuk : 1.6 ม.
True Digital Park : 1.9 กม.
Central บางนา : 2.6 กม.
Big C บางนา : 2.8 กม.
The Phyll : 4.4 กม.
Paradise Park : 4.4 กม.
Index บางนา : 4.5 กม.
Lotus อ่อนนุช : 4.7 กม.
Big C อ่อนนุช : 5.0 กม.
Seacon Square : 5.2 กม.
ตลาดนัดรถไฟ : 5.3 กม.
Gateway เอกมัย : 6.9 กม.
The EmQuartier : 8.9 กม.
The Emporium : 8.9 กม.
Mega บางนา : 8.9 กม.
Ikea บางนา : 9.6 กม.
สถานศึกษา
รร.สิริรัตนาธร : 100 ม.
รร.นานาชาติ Berkeley : 650 ม.
รร.นานาชาติ St.Andrews : 3.3 กม.
รร.บางกอกพัฒนา : 3.8 กม.
วิทยาลัยดุสิตธานี : 5.8 กม.
ศูนย์การแพทย์
รพ.ไทยนครินทร์ : 3.3 กม.
รพ.บางนา 1 : 4.5 กม.
รพ.ทหารเรือ กรุงเทพ : 5.1 กม.
รพ.ศิครินทร์ : 6.2 กม.
รพ.สุขุมวิท : 6.6 กม.
ศาสนสถานและอื่นๆ
Bitec บางนา : 2.6 กม.
วัดธรรมมงคล : 3.5 กม.
วัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร : 3.5 กม.
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
ไปรษณีย์ อุดมสุข : 1.9 กม.
สนง.ขนส่ง กทม.พื้นที่ 3 : 3.5 กม.
กรมสรรพาวุธ : 3.7 กม.
สนง.เขตบางนา : 3.7 กม.
สนง.เขตพระโขนง : 4.3 กม.
สถานีดับเพลิง พระโขนง : 5.2 กม.
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ทางพิเศษเฉลิมมหานคร > ถนนสุขุมวิท > ถนนอุดมสุข > ซอยอุดมสุข 30 > Living Nest อุดมสุข 30
เราเริ่มการเดินทางจากบนทางพิเศษเฉลิมมหานครมุ่งหน้าไปทางบางนานะคะ
ให้เราชิดซ้ายไปตามป้ายบางนาค่ะ ด้านหน้าจะมีด่านเก็บเงินก่อนลงจากทางพิเศษ
และให้เรามุ่งตรงไปทางบางนาต่อ เราจะออกที่ทางออกหมายเลข 17A นะ
ให้เราชิดซ้ายตามป้ายบางนา – พระโขนงหรือทางออกหมายเลข 17A
เราจะมาออกที่ถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าไปทางพระโขนงฝั่งขาเข้าเมืองค่ะ
พอเราเห็น BTS สถานีอุดมสุขอยู่ไกลๆ ให้เราชิดขวาเพื่อที่จะเลี้ยวเข้าถนนอุดมสุขตรงแยกอุดมสุขค่ะ
พอเราเข้ามาบนถนนอุดมสุขแล้ว ทางฝั่งซ้ายมือเราจะเห็น Community Mall เล็กๆ คือ One Udomsuk อยู่ทางฝั่งซ้ายมือ
ตรงไปเรื่อยๆ ให้สังเกตซอยอุดมสุข 5 จะเป็นที่ตั้งของสำนักงานขายโครงการนะ
เลี้ยวเข้าไปในซอยอุดมสุข 5 เราก็จะเห็นสำนักงานขายของโครงการ Living Nest อุดมสุข 30 อยู่ตรงกลางซอยเลย ภายในจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายคอยต้อนรับและพาชมห้องตัวอย่างของโครงการค่ะ
ทางฝั่งขวามือเลยซอยอุดมสุข 18 มาเล็กน้อยจะมี Makro อุดมสุขเป็น Hypermarket ที่อยู่ใกล้โครงการมากๆ สะดวกสำหรับการจับจ่ายซื้อของเข้าบ้าน
พอถึงซอยอุดมสุข 30 ให้เรารีบชิดขวาและเลี้ยวเข้าซอยไปเลยค่ะ
จากปากซอยให้เราขับตรงเข้าไปประมาณ 300 เมตร ผ่าน รร.สิริรัตนาธรแล้วให้เลี้ยวขวา ตัวโครงการจะอยู่ที่ฝั่งขวามือเลยค่ะ
ภายในซอยอุดมสุข 30 จะมีถนนที่ค่อนข้างกว้างขวาง ทำให้สามารถขับรถได้สะดวก เดินเข้า – ออกก็ปลอดภัยเพราะรถไม่เบียด
เราตรงไปเรื่อยๆ จะขับผ่าน รร.สิริรัตนาธรที่อยู่ทางฝั่งซ้ายมือ
จากนั้นจะมีทางแยก ทางฝั่งซ้ายคือซอยหลังโรงเรียน ให้เราเลี้ยวขวานะคะ
พอเราเลี้ยวขวามาแล้วเราก็จะเห็นที่ตั้งโครงการ Living Nest อุดมสุข 30 อยู่ทางฝั่งขวามือของเราแล้วค่า
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
ภายในซอยอุดมสุข 30 นั้นเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยในแนวราบค่ะ ตัวโครงการจึงถูกล้อมรอบด้วยบ้านพักอาศัยสูงไม่เกิน 2 ชั้นเสียเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนั้นก็จะมีทั้ง ตึกแถว อาคารพาณิชย์ ร้านขายของชำ และร้านอาหารเล็กๆ บรรยากาศภายในซอยจึงค่อนข้างเงียบสงบและเป็นส่วนตัว แต่ดูแล้วคือไม่เปลี่ยวนะคะ เพราะในซอยนี้มีผู้คนอยู่อาศัยตลอดเวลา คิววินมอเตอร์ไซค์ก็มีอยู่ใกล้ๆ แถมยังมี รร.สิริรัตนาธร อยู่ในซอยอีกด้วย ซึ่งจุดที่โครงการตั้งอยู่จะเลยโรงเรียนมาแล้ว คนภายนอกจึงไม่เดินพลุกพล่านเข้ามาค่ะ
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ติดกับ บ้านพักอาศัย สูง 2 ชั้น
ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ติดกับ ซอยอุดมสุข 30
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ติดกับ คลอง
ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ติดกับ อาคารพาณิชย์ สูง 4 ชั้นครึ่ง
ตอนนี้เรามาอยู่กันที่บริเวณที่ตั้งโครงการกันแล้ว โครงการจะเริ่มทำการก่อสร้างในไตรมาสที่ 1 ของปี 2563 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 ค่ะ
เรามาเดินดูบรรยากาศภายในซอยอุดมสุข 30 กันเลยค่ะว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง เริ่มจากที่ฝั่งตรงข้ามของตัวโครงการจะเป็นตึกแถวสูง 2 ชั้น
เราจะเดินลึกเข้าไปด้านในซอยกันค่ะ
ติดกับตึกแถวจะเป็นบ้านพักอาศัยส่วนตัวสูง 2 ชั้น
และยังมีผืนที่ดินเปล่าถูกล้อมรั้วเอาไว้อยู่ ซึ่งยังไม่มีแผนถูกพัฒนาเป็นโครงการในอนาคต
พื้นที่ติดกับตัวโครงการจะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นครึ่งค่ะ
ติดกันเลยมีตึกแถวสูง 2 ชั้น บางคูหาเปิดเป็นร้านขายอาหารตามสั่งให้ชาวบ้านในละแวกนี้มาฝากท้องกันได้
และด้านหน้าของเรานี้เองก็คือสี่แยกที่เคยกล่าวไปแล้วข้างต้นว่า เป็นจุดที่มีคิววินมอเตอร์ไซค์รอรับ – ส่งผู้โดยสารอยู่ค่ะ
มองไปที่หัวมุมทางฝั่งซ้ายมือจะมีร้านโชห่วยอยู่ถึง 2 ร้านเลย ถ้าขี้เกียจเดินไปถึงเซเว่นหน้าปากซอยก็มาอุดหนุนคนในท้องที่ได้
เรากลับมาที่บริเวณด้านหน้าโครงการอีกครั้ง คราวนี้เราจะเดินย้อนออกไปที่หน้าปากซอยกันบ้างค่ะ
ติดกับตัวโครงการจะเป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคลสูง 2 ชั้น
ถัดมาเป็นอาคารสูง 4 ชั้นค่ะ
ส่วนที่ฝั่งตรงข้ามนี้เองจะเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 และ 3 ชั้น
เราเดินออกมาเจอแยกเดิม ข้างหน้าของเราก็คือ รร.สิริรัตนาธร ให้เราเลี้ยวซ้ายค่ะ
ที่ฝั่งตรงข้ามกับโรงเรียนจะมีอะพาร์ตเมนต์และคลินิกเสริมความงาม
ช่วงใกล้เคียงกับโรงเรียนจะมีร้านอาหารมาเปิดค่อนข้างเยอะเพื่อรองรับนักเรียนและบุคลากรของโรงเรียนค่ะ มีทั้งร้านแบบที่เป็นเพิง ร้านรถเข็น และร้านในตึกแถว
มีทั้งร้านขายของทานเล่นอย่างทาโกะยากิ ไส้กรอกทอด – เกี๊ยวทอด ร้านน้ำปั่น ร้านกาแฟ ร้านน้ำชา ร้านขายอาหารตามสั่ง ร้านขายก๋วยเตี๋ยวน้ำตก – เย็นตาโฟ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือร้านขายอุปกรณ์เครื่องเขียนและร้านถ่ายเอกสารค่ะ
เดินมาใกล้ๆ บริเวณหน้าปากซอยก็จะมีร้านราดหน้ายอดผัก ร้านกาแฟ และซาลอนอยู่ในชายคาเดียวกัน
คราวนี้เราเดินตรงมุ่งหน้าออกไปที่หน้าปากซอยกันเลยค่ะ
พอเราเดินออกมาหน้าปากซอยแล้วหันซ้ายก็จะเจอเซเว่นแล้วค่ะ ที่หน้าเซเว่นจะมีสะพานลอยสามารถใช้เดินข้ามฟากได้อย่างปลอดภัย อย่าวิ่งข้ามถนนกันเลยนะคะเพราะถนนอุดมสุขนี่กว้างอยู่เหมือนกัน
ถัดจากเซเว่นมาก็จะมีร้านขายยาอยู่ด้วยอีกร้านนึงค่ะ และถ้าเราเดินตรงไปอีกประมาณ 300 เมตรก็จะถึง Makro อุดมสุขแล้ว
และถ้าเราใช้สะพานลอยข้ามไปที่อีกฝั่งหนึ่งของถนน ก็จะมีรถสองแถววิ่งผ่าน Udomsuk Walk ออกเส้นศรีนครินทร์ไปถึง Seacon Square และ Paradise Park ได้เลย
:::: ตัวโครงการ ::::
โครงการ Living Nest อุดมสุข 30 เป็น Low rise Codominium สูง 8 ชั้น บนพื้นที่โครงการขนาด 0 – 3 – 24 ไร่ เป็นส่วนตัวด้วยทำเลและห้องพักอาศัยเพียง 119 ยูนิต ตกแต่งห้องให้แบบ Fully Furnished มีให้เลือกแบบ 1 Bedroom, 1 Bedroom Loft และ 1 Bedroom Plus ขนาดเริ่มต้น 25.61 – 36.74 ตร.ม. ทางโครงการใช้แนวคิด “Nest” หรือ รังนก ถ่ายทอดออกมาเป็นเส้นสายและ Pattern ที่สะท้อนถึงความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยซึ่งถือเป็น “Sense of Living” สำหรับทุกเพศทุกวัย
อีกทั้งยังกลมกลืนระหว่างธรรมชาติและวิถีชีวิตคนเมือง หรือ “Harmony of Urban Living and Nature” ออกมาเป็นคอนโดอารมณ์บ้านในสไตล์ Modern Scandinavian มีความเรียบง่ายแต่ลงตัว พร้อมฟังก์ชั่นที่สามารถรองรับความต้องการใช้งานในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การพักผ่อน การทำงาน การคิดสร้างสรรค์ผลงาน การออกกำลังกาย และกิจกรรมสันทนาการต่างๆ ทั้งภายในยูนิตพักอาศัยที่เป็นส่วนตัว รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่สีเขียวในโครงการทั้งหมด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งกายและใจของผู้อยู่อาศัย หรือ “Well Being of both Body and Soul”
และนี่ก็คือโมเดลของโครงการค่ะ หลักๆ เลยตัวอาคารจะใช้โทนสีขาวและสีเทาดูเรียบเท่ และทำให้ดูอบอุ่นพร้อมสร้างความเป็นส่วนตัวแบบ Homey ด้วยระแนงไม้สีอ่อน จะเห็นว่าที่พื้นทางเข้าโครงการได้นำ Pattern ที่ถูกลดทอนมาจากเส้นสายของรังนกมาสร้างเป็นลูกเล่นด้วย สำหรับฝั่งนี้จะเป็นฝั่งด้านหน้าอาคารที่ติดกับถนนซอยอุดมสุข 30 ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ค่ะ
โมเดลฝั่งด้านข้างอาคารที่อยู่ติดกับอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นครึ่งทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
โมเดลฝั่งด้านหลังอาคารที่อยู่ติดกับคลองทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
และโมเดลฝั่งด้านข้างอาคารที่อยู่ติดกับบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้นทางฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
เรามาดูผังโครงการกันต่อเลย เริ่มจากที่ชั้น G ที่บริเวณทางเข้าโครงการจะเป็นจุดรักษาความปลอดภัยค่ะ มีป้อมรปภ., ระบบ Key Card Access และ CCTV ที่ชั้นนี้จะมีที่จอดรถใต้อาคาร ส่วนหนึ่งเป็นที่จอดรถแบบ Conventional Parking ทั้งหมด 19 ช่องจอด และอีกส่วนหนึ่งจะเป็นที่จอดรถแบบ Auto Parking 11 ชั้น 32 ช่องจอด โดยจะแยกโครงสร้างกับตัวอาคาร ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องเสียงหรือการสั่นสะเทือนต่อห้องพักอาศัย รวมที่จอดรถทั้งหมดเป็น 43% หรือ 51 คันไม่รวมการจอดซ้อนคันค่ะ
และจากบริเวณด้านหน้าโครงการก็จะมีทางเข้าแยกสำหรับคนเดินเท้าเพื่อตรงเข้าสู่ Lobby ได้เลย ภายใน Lobby ถูกออกแบบให้โปร่งโล่ง มีฝ้าเพดานที่สูงแบบ Double Volume เป็นโถงต้อนรับขนาดใหญ่พร้อม Free Wi-fi ให้สามารถนั่งพักผ่อนหย่อนใจได้ จาก Lobby จะเชื่อมต่อกับโถงลิฟท์ไปยังส่วน Relaxation Area ซึ่งเป็นมุมนั่งเล่นอ่านหนังสือหรือเล่นมือถือสบายๆ รอผ้าซักจาก Laundry ค่ะ และจากโถงลิฟท์ก็จะสามารถเชื่อมต่อไปยังส่วน Waiting Area เป็นพื้นที่สำหรับนั่งรอรถจากอาคาร Auto Parking ซึ่งส่วนนี้เองจะมีบันไดวนขึ้นไปยัง Co – working Space ที่ชั้น 2 ได้ด้วย
ส่วนการเข้า – ออกโถงลิฟท์นั้นเราจะต้องใช้ Key Card ในการเปิดประตูเพื่อความปลอดภัยของลูกบ้าน ภายในโถงลิฟท์จะมีลิฟท์โดยสารให้ทั้งหมด 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วนต่อห้องพักอาศัยอยู่ที่ 1 : 60 เป็น Traffic การใช้ลิฟท์ที่ดีไม่ต้องแย่งกันใช้หรือคอยลิฟท์นานค่ะ
นอกจากนี้ที่ชั้น G จะมีห้องพักอาศัยทั้งหมดอยู่ 3 ยูนิต สามารถเข้าได้จากบริเวณ Relaxation Area โดยจะต้องผ่านประตู Key Card อีกชั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว หลายคนอาจจะสงสัยว่าห้อง 3 ยูนิตนี้จะไม่ได้รับความเป็นส่วนตัวเพราะอาจมีคนเดินมาที่สวนตรงระเบียงหรือเปล่า แต่จริงๆ แล้วสวนส่วนนี้จะมีเฉพาะเจ้าหน้าที่นิติบุคคลเท่านั้นที่เข้ามาดูแลสวนได้ อีกทั้งทางโครงการได้ใช้ระแนงไม้สูงกั้นส่วนสวนออกจากพื้นที่ระเบียงพร้อมปลูกไม้พุ่มสูงเป็น Buffer อีกชั้น ทำให้ลูกบ้าน 3 ห้องนี้รู้สึกปลอดภัยและรู้สึกเป็นส่วนตัวไม่ต่างจากห้องชั้นอื่นๆ แถมยังได้วิวสวนฟรีอีกด้วยค่ะ
ภาพบรรยากาศจำลองภายใน High Ceiling Lobby ที่มีฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume เลยทีเดียว ภายในตกแต่งในสไตล์ Modern Scandinavian ใช้ไม้โทนสีอ่อนดูสว่างและอบอุ่น พร้อมเฟอร์นิเจอร์รองรับการนั่งพักผ่อนหย่อนใจหรือนั่งพักคอย ถ้าเรามองไปที่ด้านหลังเคาน์เตอร์ Reception ก็จะเห็นประตู Key Card เข้าสู่โถงลิฟท์ค่ะ
ชั้น 2 ขึ้นมาที่ชั้นนี้จะเห็นรูปทรงอาคารเป็นรูปตัว U โดยมี Court เป็น Tropical Private Garden อยู่ตรงกลาง หลักๆ เลยชั้นนี้จะเป็นชั้นพักอาศัย มีทั้งหมด 15 ห้อง/ชั้น นอกเหนือจากนั้นก็จะเป็นห้องนิติบุคคลและ Co – working Space ซึ่งห้อง Co – working Space และห้องพักอาศัยอีก 3 ยูนิตจะได้อภิสิทธิ์รับวิวจาก Tropical Private Garden ไปชมฟรีๆ ทุกวัน โดยทางโครงการได้สร้างความเป็นส่วนตัวให้ห้องพักอาศัย 3 ยูนิตดังกล่าวนี้ด้วยการล้อมรั้วระแนงสูงพร้อมปลูกไม้พุ่มตรงระเบียงเป็น Buffer อีกชั้นให้ค่ะ
ภาพจากโมเดลบริเวณ Tropical Private Garden เป็น Court กลางอาคาร มีเก้าอี้นั่งสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ จะเห็นว่าห้อง 3 ยูนิตที่อยู่ติดกับสวนนั้นจะมีรั้วระแนงสูงติดตั้งเอาไว้ให้ พร้อมปลูกไม้พุ่มกั้นอีกชั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณ Tropical Private Garden เนื่องจากว่าสวนนี้เป็น Court อยู่ตรงกลางอาคาร จึงทำให้ได้เงาจากอาคารมาช่วยบังแดด อีกทั้งยังได้ร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่ที่ทางโครงการได้ปลูกเอาไว้ให้อีกด้วยค่ะ
ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Co – working Space พร้อม Wi – fi ให้ใช้งานได้แบบฟรีๆ ภายในห้องมีการจัดชุดเฟอร์นิเจอร์เอาไว้หลายแบบเพื่อรองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งทำงานอ่านหนังสือคนเดียวบริเวณโต๊ะบาร์ข้างสวน การประชุมกลุ่มโดยใช้โต้ะใหญ่ และมุมนั่งอ่านหนังสือสบายๆ บนม้านั่งนุ่มๆ มีกรอบไม้กั้นส่วนสร้างความรู้สึกที่เป็นส่วนตัวและยังสามารถใช้พิงได้ด้วย
ชั้น 3 – 6 ตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไปจะเป็น Typical Floor Plan ซึ่งเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด โดยที่ชั้นนี้จะมีห้องพักอาศัยอยู่ทั้งหมด 18 ห้อง/ชั้นด้วยกัน
ชั้น 7 การวางผังของชั้นนี้แทบจะเหมือนผังชั้น 3 ทุกประการเลย แต่จุดที่เปลี่ยนไปก็คือห้องมุมขวาบน 5 ห้องค่ะ จะมี 4 ห้องที่กลายเป็นห้อง Loft ส่วนอีกห้องหนึ่งที่เป็นสีน้ำตาลเข้มจะมีขนาดเล็กลงเล็กน้อยค่ะ
ชั้น 8 จุดที่เปลี่ยนไปของชั้นนี้จะมีห้องพักอาศัย 3 ห้องตรงกลาง Court ที่กลายเป็นห้อง Sky Gym และกลายเป็นทางเดินขึ้นชั้นดาดฟ้า และที่ห้องมุมขวาบนจะเป็นผังชั้นบน ของห้อง Loft 4 ห้องค่ะ
ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Sky Gym ได้วิวฝั่งหน้าโครงการ ภายในมีอุปกรณ์การออกกำลังกายอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Cardio Machine หรือ Weight Training Machine ที่สามารถออกกำลังกายได้ครบทุกสัดส่วน บางส่วนของพื้นปูด้วยแผ่นยางกันกระแทกหนา 2.5 ซม. ช่วยซับแรงกระแทกและเสียงจากการออกกำลังกายค่ะ
Rooftop ที่ชั้นดาดฟ้านี้ถือเป็นจุดเด่นใหญ่ๆ ของทางโครงการเลยค่ะ เพราะเขาจัดฟังก์ชั่นมาให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่และหลากหลายมาก ซึ่งเราสามารถเดินขึ้นบันไดจากชั้น 8 มาที่ชั้นดาดฟ้า หรือจะใช้ลิฟท์โดยสารขึ้นมาก็ทำได้เหมือนกัน เรียกว่า Accessible สำหรับคนทุกเพศทุกวัย เพราะบนชั้นนี้จะไม่มี Step ให้เกิดอุบัติเหตุได้เลย สิ่งอำนวยความสะดวกในชั้นนี้แบ่งออกเป็น 2 โซนคือ Active Zone และ Passive Zone
ในส่วนของ Active Zone จะประกอบด้วย Jogging Track เป็นลู่วิ่งความยาว 104 เมตร, Sky Swimming Pool เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 19.5 x 5 เมตร ลึก 1.2 เมตร พร้อม Jacuzzi สำหรับแช่น้ำ และ Imagine Pool ลึก 0.6 เมตรสำหรับคุณหนูๆ, ห้องอาบน้ำแยกชาย – หญิง, Sky Multi – purpose Yard เป็นลานเอนกประสงค์สำหรับ เล่นโยคะ เต้นแอโรบิก หรือรำมวยจีนก็ได้, Imagine Area เป็นลานกิจกรรมสำหรับเด็กๆ อยู่ข้างๆ กับ Rock Climbing Wall หรือผาจำลองให้เด็กๆ ได้ฝึกกล้ามเนื้อให้แข็งแรง, Party Area & BBQ Terrace พร้อมเตาปิ้งบาร์บีคิวถึง 2 เตา และ Goal Table ภายในอาคาร
ส่วน Passive Zone ก็จะมี Relaxing Space เป็นมุมผ่อนคลายสำหรับนั่งเล่น อ่านหนังสือ พร้อมรับลมชมวิวเมืองบนดาดฟ้า และ Creative Corner เป็นศาลาพักริมสระว่ายน้ำให้นั่งพักผ่อนหรือนั่งดูเด็กๆ เล่นน้ำ โดยทั้งหมดนี้จะถูกแทรกด้วย Landscape ที่สวยงามหรือ Tropical Sky Garden ตามจุดต่างๆ ร่มรื่นด้วยแมกไม้นานาพันธุ์บนดาดฟ้า
โมเดลชั้นดาดฟ้ามุมด้านหน้าโครงการค่ะ จะเป็นส่วนของ Sky Multi – purpose Yard สำหรับกิจกรรมต่างๆ ทั้งโยคะ รำมวยจีน หรือเต้นแอโรบิก, Relaxing Space และ Party Area & BBQ Terrace
โมเดลชั้นดาดฟ้ามุมด้านหลังโครงการ จะเป็นส่วนของ Sky Swimming Pool และ Creative Corner หรือศาลาพักผ่อนข้างสระว่ายน้ำ บริเวณ Pool Deck ก็จะมี Pool Bed และ Day Bed จัดเอาไว้ให้สำหรับนั่งพักผ่อนชมวิวเมืองค่ะ เราจะเห็น Jogging Track เป็นลู่วิ่งไปรอบๆ ชั้น ซึ่งที่พื้นของ Track จะมีการติดเลขเอาไว้บอกระยะให้ด้วยนะคะว่าเราวิ่งได้เป็นระยะทางเท่าไหร่แล้ว พร้อมข้อความสร้างแรงบันดาลใจในการออกกำลังกายและการใช้ชีวิตเป็นระยะๆ
โมเดลชั้นดาดฟ้ามุม Imagine Area และ Rock Climbing Wall เป็นพื้นที่กิจกรรมพร้อมผาจำลองของเด็กๆ ที่พื้นส่วนนี้จะปูด้วยแผ่นยางสังเคราะห์สีสันสดใสเพื่อกันกระแทกหรือกันถลอกเวลาเกิดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี
และนี่ก็คือภาพบรรยากาศจำลองบริเวณ Party Area & BBQ Terrace เป็นมุมปาร์ตี้ ไว้จัดงานลี้ยงสังสรรค์เล็กๆ แบบครอบครัวเพื่อนฝูง พร้อมชุดโต๊ะเก้าอี้นั่งและเตาปิ้งบาร์บีคิวถึง 2 เตา
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณ Sky Multi – purpose Yard ที่พื้นปูด้วยหญ้าแท้สลับหญ้าเทียมเพื่อให้มี Texture ในการสัมผัสที่แตกต่างกัน พร้อมโรยหินกรวดแม่น้ำโดยรอบราวกันตก สร้างความรู้สึกแบบ Buffer เพื่อไม่ให้คนอยู่ใกล้ราวกันตกมากจนเกินไป
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณ Sky Swimming Pool เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 19.5 x 5 เมตร ลึก 1.2 เมตร พร้อม Jacuzzi สำหรับแช่น้ำ และ Imagine Pool ลึก 0.6 เมตรสำหรับให้เด็กๆ ได้เล่นน้ำอย่างปลอดภัย โดยรอบสระจะกั้นด้วยกระจก Tempered Glass เพื่อความปลอดภัยค่ะ
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณ Sky Swimming Pool ในช่วงเวลากลางคืน มีการจัด Lighting เพื่อความปลอดภัยและสร้างบรรยากาศให้ดูน่าผ่อนคลาย มองไปที่ริมสระจะเห็น Creative Corner เป็นศาลาพักผ่อนข้างสระว่ายน้ำ เหมาะมากๆ สำหรับเป็นจุดที่ใช้นั่งชมวิวเมืองและกินบรรยากาศพร้อมลมเย็นๆ เคลียร์สมองให้โล่งให้พร้อมใช้ความคิดสร้างสรรค์
:::: แบบห้องของโครงการ ::::
ห้องภายในโครงการจะตกแต่งให้แบบ Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่เลยค่ะ ซึ่งทางโครงการจะให้ทั้ง ชุดครัว, ชุดโต๊ะรับประทานอาหาร, ชุดโซฟาในห้องนั่งเล่น พร้อมโต๊ะกาแฟ และชั้นวางทีวี, สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ, ฐานเตียงนอนขนาด 5 ฟุต, โต๊ะเครื่องแป้ง/โต๊ะเขียนหนังสือ และตู้เสื้อผ้า แตกต่างกันไปตามเฟอร์นิเจอร์ที่เห็นในแปลนห้องแต่ละแบบเลย และขอบอกก่อนตรงนี้เลยนะคะว่า เฟอร์นิเจอร์แทบจะทุกชิ้นที่เห็นในห้องตัวอย่าง ทางโครงการจะให้มาตามที่เห็นเลยค่ะ นอกจากนี้ทางโครงการยังให้ Digital Door Lock พร้อมเครื่องปรับอากาศมาในทุกห้องอีกด้วย โดยห้องของโครงการจะถูกแบ่งออกเป็น 7 แบบหลักๆ ดังนี้ค่ะ
1 Bedroom Type A ขนาด 25.61 ตร.ม.
1 Bedroom Type B ขนาด 25.96 – 30.22 ตร.ม.
1 Bedroom Type D ขนาด 25.96 – 30.22 ตร.ม.
1 Bedroom Type F ขนาด 29.24 – 34.54 ตร.ม.
1 Bedroom Type G ขนาด 30.24 – 36.74 ตร.ม.
1 Bedroom Plus Type J ขนาด 34.93 ตร.ม.
1 Bedroom Loft Type K ขนาด 30.43 – 35.63 ตร.ม.
1 Bedroom Type A ขนาด 25.61 ตร.ม.
1 Bedroom Type B ขนาด 25.96 – 30.22 ตร.ม.
1 Bedroom Type D ขนาด 25.96 – 30.22 ตร.ม.
1 Bedroom Type F ขนาด 29.24 – 34.54 ตร.ม.
1 Bedroom Type G ขนาด 30.24 – 36.74 ตร.ม.
1 Bedroom Plus Type J ขนาด 34.93 ตร.ม.
1 Bedroom Loft Type K ขนาด 30.43 – 35.63 ตร.ม.
:::: ห้องตัวอย่าง ::::
ห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้มี 2 ห้องค่ะ นั่นก็คือ ห้อง Type B ขนาด 25.97 ตร.ม. และ ห้อง Type G ขนาด 30.47 ตร.ม. ไปดูรายละเอียดของห้องด้วยกันเลย
::: 1 Bedroom Type B ขนาด 25.97 ตร.ม. :::
ห้อง 1 Bedroom Type B1 ขนาด 25.97 ตร.ม. เป็นห้องที่สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้จำนวน 1 – 2 คน พอเข้ามาในห้องจะเป็นส่วนโถงทางเดิน มีส่วนเคาน์เตอร์ครัวอยู่ฝั่งขวาและห้องน้ำอยู่ฝั่งซ้าย ถัดไปจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น กั้นส่วนห้องนอนด้วยประตูบานเลื่อนกระจกใส ซึ่งด้านในห้องนอนจะมีระเบียงให้สามารถวางเครื่องซักผ้าและตากผ้าได้ค่ะ ซึ่งเฟอร์นิเจอร์หลักๆ ที่เราได้นั้นจะเหมือนกับในแปลนห้องหรือในห้องตัวอย่างแทบจะทุกประการเลย (ยกเว้นพวกของประดับตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ จะไม่ได้มาด้วยนะคะ) เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบโดย SB Furniture ให้เฉพาะโครงการ Living Nest อุดมสุข 30 เท่านั้น
เริ่มจากที่ประตูทางเข้าห้องจะติดตั้งอุปกรณ์ Digital Door Lock ของ Hafele ให้
เข้ามาภายในห้อง จะเจอส่วนของโถงทางเดินก่อน ฝั่งซ้ายมือของเราก็คือห้องน้ำ ฝั่งขวาคือเคาน์เตอร์ครัว ตรงเข้าไปด้านในห้องคือส่วนของห้องนั่งเล่นและห้องนอนค่ะ พื้นภายในห้องปูด้วยสมาร์ทไวนิล ส่วนผนังเป็นผนังฉาบเรียบทาสี ฝ้าเพดานภายในห้องสูง 2.45 เมตร และส่วนที่ดรอปฝ้าลงมาสูง 2.4 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบ ติดดวงโคมดาวน์ไลท์หลอด LED ให้ทั้งหมด
เรามาดูในรายละเอียดของห้องครัวกันก่อนค่ะ
ครัวที่เราได้มากับห้องนี้จะเป็นครัวเปิดนะคะ สำหรับห้องมาตรฐานเราจะได้เคาน์เตอร์ครัวชุดนี้มาด้วย โดยจะเว้นพื้นที่สำหรับตู้เย็นให้ประมาณ 60 ซม. หน้าบานของเคาน์เตอร์ปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้สีอ่อนสามารถทนน้ำได้ถึง 24 ชม. ส่วนบานพับใช้แบบ Soft Closed Top เคาน์เตอร์ใช้หินแกรนิตดำจีน
บริเวณใต้เคาน์เตอร์มีช่องสำหรับเก็บภาชนะใส่อาหาร, ช้อนส้อม, อุปกรณ์สำหรับเตรียมอาหาร, อาหารแห้ง ตรงนี้ขอแนะนำให้ติดถังขยะบริเวณใต้อ่างล้างจานเพื่อความเรียบร้อยค่ะ
สังเกตที่ด้านหลังเคาน์เตอร์ ทางโครงการจะกรุกระเบื้องแบบนี้มาให้เป็น Back Splash ทำให้สามารถเช็ดล้างทำความสะอาดพวกคราบน้ำมันหรือคราบอาหารได้ง่าย
บน Top เคาน์เตอร์ก็จะติดตั้งอ่างล้างจานพร้อมก๊อกน้ำทรงสูงมาให้พร้อมใช้งาน มีขนาดมาตรฐานของ Hafele
เตา Induction พร้อมปุ่มสั่งงานระบบสัมผัส ขนาด 2 หัว
พร้อมเครื่องดูดควันระบบหมุนเวียนจาก Hafele เช่นกัน
ส่วนตู้ลอยก็มีช่องสำหรับเก็บของได้อีกเยอะ ตรงนี้ขอแนะนำให้ติดไฟใต้ตู้ลอยเพิ่มเติม จะทำให้เราสามารถเตรียมอาหารได้สะดวกมากขึ้นค่ะ
เข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อค่ะ
ภายในมีการแบ่งโซนแห้งและโซนเปียกออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ชนิดผิวด้านกันลื่นสีเทา ส่วนผนังกรุด้วยกระเบื้องสีขาวขนาด 30 x 30 ซม. สุขภัณฑ์ภายในทั้งหมดเป็นของ Mogen ส่วนฝ้าเพดานจะเป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์พร้อมพัดลมดูดอากาศมาให้ 1 เครื่อง
พื้นที่และระยะการใช้สอยภายในห้องน้ำกำลังดีนะคะ ไม่อึดอัด
มาดูรายละเอียดของสุขภัณฑ์กันค่ะ เริ่มจากอ่างล้างมือเป็นอ่างฝังบนเคาน์เตอร์สำเร็จรูป ใต้อ่างมีพื้นที่สำหรับเก็บของอย่างผ้าเช็ดมือหรือกระดาษชำระได้ ส่วนด้านบนเคาน์เตอร์ติดกระจกเงาจะให้เต็มบาน
ตัวอ่างล้างมือเป็นทรงสี่เหลี่ยม มีขนาดใหญ่กำลังดี บริเวณขอบอ่างยังสามารถวางพวกขวดสบู่ล้างมือได้ ติดตั้งมาพร้อมกับก๊อกน้ำล้างมือแบบก้านโยกค่ะ
โถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้นระบบ Dual Flush ช่วยประหยัดน้ำ พร้อมอุปกรณ์ประกอบการใช้งานทั้งสายฉีดชำระ ที่แขวนกระดาษชำระ และมีราวแขวนผ้าเช็ดตัวติดเอาไว้ให้บนกำแพงด้วย
ถ้าเป็นการถ่ายเบาจะใช้น้ำ 3 ลิตร ส่วนการถ่ายหนักจะใช้น้ำ 4.5 ลิตรค่ะ ความกว้างของระยะนั่งตรงนี้อาจจะไม่กว้างมากแต่ก็ยังสามารถใช้งานได้ดี
ส่วนด้านข้างโถสุขภัณฑ์จะเป็นโซน Shower ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเป็นกระจก Tempered Glass มาให้เรียบร้อย บริเวณตัวบานเปิดติดมือจับขนาดใหญ่มาให้ โดยสามารถใช้เป็นราวแขวนผ้าเช็ดตัวได้ในตัว
พื้นที่ยืนอาบน้ำด้านในมีขนาดกว้างตามมาตรฐานพอดี สามารถยืนอาบน้ำได้สะดวก โดยรอบก่อธรณีขึ้นมาเพื่อกันน้ำไหลย้อนด้วย
ที่ผนังฝั่งซ้ายมีการเจาะผนังเข้าไปเพื่อทำเป็นชั้นวางสบู่ ส่วนฝั่งขวาติดตั้งชุด Hand Shower มาให้เรียบร้อยค่ะ
เราวัดขนาดหัวฝักบัวให้ดูกับมือ มีขนาดกำลังดี และยังสามารถปรับรูปแบบของสายน้ำได้
เรามาดูในส่วนของห้องนั่งเล่นกันต่อค่ะ ทางโครงการเน้นการออกแบบให้ภายในห้องนั้นดูสว่างและโปร่งโล่งมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จึงเลือกใช้ประตู – หน้าต่างกระจกที่มีความสูงตั้งแต่พื้นจรดฝ้าเพดาน เพื่อดึงแสงธรรมชาติเข้ามาภายในห้องให้ได้มากที่สุด
เฟอร์นิเจอร์ที่เราจะได้มากับห้องมาตรฐานจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ชุดนี้ดีไซน์แบบนี้ตามที่เห็นในห้องตัวอย่างเลยค่ะ ประกอบด้วย โซฟา Love Seat ขนาด 2 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกาแฟ 1 ตัว
โซฟาที่ทาง SB Furniture ออกแบบมาให้นั้นนั่งสบายมากค่ะ มีที่เท้าแขน และเบาะรองคอที่กำลังพอดี
โต๊ะกาแฟตัวนี้มีฟังก์ชั่นพิเศษตรงที่สามารถปรับ Top กระจกพ่นสีดำให้ตั้งขึ้นมาเพื่อใช้เป็นโต๊ะรับประทานอาหารได้ในตัว และที่ใต้ Top ก็สามารถใช้เก็บของกระจุกกระจิก หนังสืออ่านเล่น หรือพวกแจกันแต่งห้องได้
ส่วนที่ผนังฝั่งตรงข้ามเราก็จะได้ชั้นวางทีวี Built – in มาด้วย สามารถรองรับน้ำหนักได้ประมาณ 20 กก.ค่ะ ทางโครงการยังเหลือพื้นที่ผนังด้านหลังทีวีเอาไว้ให้ลูกบ้านสามารถสร้างสรรค์ไอเดียในการตกแต่งห้องได้บ้าง
ใต้ชั้นวางทีวีก็มีตู้และชั้นสำหรับเก็บของกระจุกกระจิก พวกแผ่นเสียงหรือ DVD ได้
ระยะดูทีวีของห้องนี้มีความกว้างถึง 3.75 เมตรเลยนะคะ เป็นระยะที่สามารถดูทีวีจอขนาดใหญ่ได้อย่างสบายตา
จากห้องนั่งเล่นจะกั้นส่วนจากห้องนอนด้วยประตูบานเลื่อนเฟรมอลูมิเนียมติดกระจกใสหนา 6 มม. แบบ 3 ตอน ทำให้สามารถเลื่อนเปิดได้กว้างมากขึ้น
ห้องนอนของห้อง Type นี้ถือว่ามีพื้นที่กว้างขวางเป็นพิเศษ เพราะแม้ขนาดพื้นที่ใช้สอยรวมของห้องจะเล็ก แต่ยังสามารถออกแบบให้รองรับระยะการใช้สอยหลังวางเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดได้จริง ห้องนี้จะเป็นส่วนที่ได้รับแสงธรรมชาติหลักๆ ค่ะ สังเกตที่หน้าต่างจะสูงตั้งแต่พื้นจรดฝ้าเพดานตามที่กล่าวไปแล้ว หน้าต่างใช้บานฟิกซ์และบานกระทุ้งกรอบอลูมิเนียมติดกระจกเขียวตัดแสงหนา 6 มม.
ภายในห้องนอนเราจะได้ฐานเตียงนอนขนาด 5 ฟุตมาค่ะ แต่ไม่ได้ฟูกมาด้วย ซึ่งสามารถจัดหาเองตามความชอบค่ะ
ที่ใต้ฐานเตียงก็มีลิ้นชักให้เราใช้เก็บพวกผ้าปูที่นอนได้
บริเวณด้านข้างหัวเตียงฝั่งขวามือ เราจะได้ Dressing Table/Writing Table พร้อมกระจกเงาและเก้าอี้นั่ง 1 ตัวมาด้วยค่ะ ใต้โต๊ะมีลิ้นชักเก็บของ 2 ช่อง ส่วนตู้ลอยก็ใช้วางของเพิ่มเติมได้ นอกจากจะใช้เป็นโต๊ะสำหรับการแต่งหน้าแต่งตัวแล้วก็ยังสามารถใช้เป็นโต๊ะทำงานได้ด้วยนะ
ลิ้นชักใต้โต๊ะอาจใช้เก็บพวกเครื่องเขียนหรือเครื่องสำอางก็ได้ค่ะ
เราดูพื้นที่ด้านข้างเตียงนอนยังเหลือพอสมควร สามารถตั้งม้านั่งข้างหน้าต่าง หรือ Bean Bag เอาไว้นั่งเล่นเพิ่มได้อีกด้วยนะ
เราหันหลังกลับไปมองที่ผนังฝั่งปลายเตียงกันบ้างค่ะ จะเป็นส่วนของตู้เสื้อผ้าและระเบียงซักล้าง
ทางโครงการทำตู้เสื้อผ้า Built – in มาให้สูงถึงฝ้าเพดานเพื่อที่จะได้ไม่มีที่เก็บฝุ่นค่ะ ตู้เป็นแบบบานเลื่อนเปิดได้ทั้ง 2 ฝั่ง ภายในแบ่งพื้นที่แยกแขวนชุดสั้นชุดยาวได้ อีกทั้งยังมีลิ้นชักสำหรับเก็บของพร้อมกุญแจ และมีชั้นเก็บของด้านบนที่สามารถเก็บกระเป๋าเดินทางขนาด 20 – 22 นิ้วได้ สังเกตที่ผนังด้านข้างตู้เสื้อผ้า เป็นจุดที่โครงการทำตัวอย่างให้ดูว่าเราสามารถติดตั้งราวแขวนของได้ไม่ว่าจะเป็น ผ้าเช็ดตัวหรือ Accessories ต่างๆ ที่ใช้แต่งตัว
สำหรับระเบียงห้องนั้นจะกั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจกฝ้าที่ช่วยกันฝุ่น – กันเสียงจาก Condensing Unit เราสามารถเลื่อนเปิดได้ทั้ง 2 ฝั่งเลยค่ะ
พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องลายวงปีไม้ผิวด้านกันลื่นน่ารักๆ ให้แบบนี้ และติดราวกันตกเป็นระแนงเหล็กให้ค่ะ พื้นที่ระเบียงของห้องนี้อาจมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็สามารถใช้ตั้งเครื่องซักผ้า ตากผ้า และวางอุปกรณ์ทำความสะอาดห้องได้พอดีนะ
ในส่วนของตัว Condensing Unit ทางโครงการจะติด Grill เพื่อให้ลมร้อนเป่าออกด้านนอกระเบียงแทนค่ะ นอกจากนี้ยังมีระแนงบังแดดให้กับ Condensing Unit และยังเพิ่มความสวยงามให้กับรูปด้านของอาคารอีกด้วย
ภาพบรรยากาศภายในห้องนอนอีกมุมนึง
::: 1 Bedroom Type G ขนาด 30.47 ตร.ม. :::
ห้อง Type G ขนาด 30.47 ตร.ม. เป็นห้องที่สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้จำนวน 1 – 2 คน พอเข้ามาในห้องจะเป็นโถงใหญ่ส่วนห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหาร กั้นส่วนจากห้องครัวด้วยประตูบานเลื่อนกระจกใส ซึ่งด้านในห้องครัวจะมีระเบียง Semi – outdoor แบบ Multi – function ให้สามารถใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นรับลมได้ในเวลาที่ไม่ได้ตากผ้า โดยพื้นที่ตั้งเครื่องซักผ้าและแขวน Condensing Unit จะถูกกั้นส่วนออกไปค่ะ และจากโถงใหญ่จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำและห้องนอนที่กั้นห้องด้วยผนังทึบเพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ดังที่กล่าวไปแล้วนะคะว่าเฟอร์นิเจอร์หลักๆ ที่เราได้นั้นจะเหมือนกับในแปลนห้องหรือในห้องตัวอย่างแทบจะทุกประการเลย (ยกเว้นพวกของประดับตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ จะไม่ได้มาด้วย) เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบโดย SB Furniture ให้เฉพาะโครงการ Living Nest อุดมสุข 30 เท่านั้น
เริ่มจากที่ประตูทางเข้าห้องจะติดตั้งอุปกรณ์ Digital Door Lock ของ Hafele ให้
เข้ามาภายในห้อง จะเจอโถงห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารก่อน ซึ่งจะเชื่อมต่อกับห้องครัวและห้องนอนฝั่งด้านหลัง และห้องน้ำฝั่งทางขวามือค่ะ พื้นภายในห้องปูด้วยสมาร์ทไวนิล ส่วนผนังเป็นผนังฉาบเรียบทาสี ฝ้าเพดานภายในห้องสูง 2.45 เมตร และส่วนที่ดรอปฝ้าลงมาสูง 2.4 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบ ติดดวงโคมดาวน์ไลท์หลอด LED ให้ทั้งหมด
เรามาดูการจัดพื้นที่ใช้สอยและเฟอร์นิเจอร์ที่เราจะได้มากับตัวห้องกันต่อเลย
เริ่มจากที่ห้องนั่งเล่นเราจะได้โซฟา Love Seat ขนาด 2 ที่นั่งมาเหมือนเดิม
เนื่องจากระยะของห้องนี้ไม่ได้กว้างเท่าห้องที่แล้ว ทางโครงการจึงเลือกใช้โต๊ะกาแฟที่มีขนาดเล็กลง สามารถย้ายมาตั้งด้านข้างเป็นโต๊ะวางของได้ หรือเวลานั่งทำงานชิวๆ ตรงโซฟา ก็สามารถดึงมาใช้เป็นโต๊ะวาง Notebook ได้ค่ะ โดยขาโต๊ะสามารถสอดเข้าไปใต้โซฟา และเราสามารถสอดขาเข้าไปที่ใต้โต้ะได้ด้วย
และทางโครงการก็ติดตั้งชั้นวางทีวีมาให้ที่ผนังฝั่งตรงข้ามเหมือนเดิม
เพิ่มเติมก็คือมีตู้สำหรับเก็บของเพิ่มมากขึ้น 2 ช่อง
และมีดีเทลเล็กๆ ที่เป็นจุดแขวนกุญแจสำหรับเวลากลับเข้าห้องหรือเดินออกจากห้อง สามารถใช้แขวนหมวกหรือผ้าพันคอได้ด้วยค่ะ สะดวกดี
จะเห็นว่าระยะดูทีวีของห้องนี้อาจไม่ได้กว้างเท่าห้องที่แล้วนะคะ แต่ก็ยังเป็นระยะที่นั่งดูทีวีได้สบายๆ จอไม่ใกล้ตาจนเกินไป
ถัดจากบริเวณนั่งเล่นมาจะเป็นส่วนรับประทานอาหารค่ะ เพิ่มเติมขึ้นมาจากห้องที่แล้ว
ทางโครงการให้ชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งพร้อมเก้าอี้ 2 ตัวมาแบบนี้เลย กำลังพอดีกับพื้นที่ห้องค่ะ แต่ถ้าใครชอบโต๊ะที่ใหญ่กว่านี้ก็ลองติดตั้งโต๊ะที่สามารถพับเก็บได้เพิ่มเติม จะได้ช่วยประหยัดพื้นที่
บริเวณด้านหลังส่วนรับประทานอาหารจะเป็นห้องครัวค่ะ ห้องนี้เราได้เป็นครัวปิดนะ กั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจกใสแบบ 3 ตอน
ภายในห้องครัวเราจะได้เคาน์เตอร์ครัวมาชุดเดิมแบบเดียวกับห้องที่แล้วเลยค่ะ แต่ข้อดีที่เพิ่มขึ้นมาก็คือ ครัวแบบปิดจะช่วยกันกลิ่นไม่ให้ฟุ้งกระจายไปยังส่วน Living Area ได้ ที่สำคัญครัวของห้องนี้ยังอยู่ติดกับระเบียง จึงสามารถเปิดช่วยระบายอากาศได้เป็นอย่างดี
เคาน์เตอร์ครัวและตู้ลอยที่ได้จะเป็นแบบเดียวกันเหมือนกันทุกประการค่ะ พวกเตาปรุงอาหาร อ่างล้างจาน และเครื่องดูดควันยังใช้ของ Hafele เหมือนเดิม
มาถึงจุดเด่นที่น่าสนใจของห้องกันแล้วค่ะ นั่นก็คือพื้นที่ระเบียงแบบ Multi – function ที่สามารถปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นพื้นที่ Indoor ได้เนื่องจากมีการติดตั้งประตูบานเลื่อนอีกชั้นนึง
ที่พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องลายวงปีไม้น่ารักเหมือนเดิม เพิ่มเติมขึ้นมาก็คือประตูบานเลื่อนติดกระจกเขียวตัดแสง สามารถเปิดเพื่อรับลมก็ได้ หรือปิดเพื่อกันฝุ่นหรือเปิดแอร์ก็ได้ เวลาตากผ้าก็สามารถปิดกันฝนเวลาฝนตกได้ ในวันสบายๆ เราสามารถใช้พื้นที่ส่วนนี้เป็นจุดนั่งเล่นอ่านหนังสือ ดื่มกาแฟ ออกกำลังกาย หรือทำสวนเล็กๆ ได้ดีเลย ทางห้องตัวอย่างได้จัดบรรยากาศ วางเก้าอี้นั่ง พรมสีเขียว และชั้นวางกระถางต้นไม้มาให้ดูเป็นไอเดียค่ะ บรรยากาศดีมากเลยทีเดียว
จุดสำคัญที่ทำให้พื้นที่ระเบียงสามารถใช้นั่งเล่นได้จริงนั้นก็คือ ทางโครงการได้ออกแบบกั้นส่วนพื้นที่วางเครื่องซักผ้า Condensing Unit รวมทั้งอุปกรณ์ทำความสะอาด ออกไปอย่างเป็นสัดส่วน และกั้นส่วนด้วยประตูกระจกฝ้าที่สามารถกันเสียงและกันฝุ่นจาก Condensing Unit ได้ อีกทั้งยังติด Grill ภายนอกเพื่อสร้างความเรียบร้อยให้กับรูปด้านของตัวอาคารค่ะ
มุมมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้องครัว
กลับเข้ามาภายในห้องเราจะเข้าไปดูในส่วนของห้องน้ำกันต่อค่ะ บริเวณด้านหน้าจะมีพื้นที่โถงเหลืออยู่ที่เราสามารถสร้างสรรค์และปรับฟังก์ชั่นได้ตามไลฟ์สไตล์ของเราเลย ทางห้องตัวอย่างออกแบบเป็นตู้สำหรับเก็บของให้ดูเป็นไอเดีย แต่เราสามารถดัดแปลงเป็นอย่างอื่นได้ เช่น พื้นที่สำหรับวางอุปกรณ์การออกกำลังกาย ถุงกอล์ฟ ชั้นวางหนังสือ ตู้เสื้อผ้าเพิ่มเติม หรือตู้สำหรับเก็บรองเท้าก็ได้ตามใจคุณ
ภายในห้องน้ำจะใช้วัสดุและสุขภัณฑ์เหมือนห้องที่แล้วทุกประการเลยค่ะ จุดที่แตกต่างกันก็คือผังของห้องน้ำจะเปลี่ยน ไล่จากส่วนแห้งเข้าไปยังส่วนเปียก ได้กระจกเงาบานใหญ่ยาวเต็มผนังห้องเลยด้วย และได้ฉากกั้นอาบน้ำ Tempered Glass แบบ Frameless
สุขภัณฑ์ได้ของ Mogen รุ่นเดิมทุกชิ้นค่ะ เริ่มจากอ่างล้างหน้า
ถัดเข้าไปเป็นโถสุขภัณฑ์
และโซน Shower ค่ะ ภายในมีพื้นที่ยืนอาบน้ำเท่าเดิมเลย
ที่ผนังภายในมีการเจาะผนังเข้าไปเพื่อทำเป็นชั้นวางสบู่ และติดตั้งชุด Hand Shower มาให้เรียบร้อยเหมือนเดิมค่ะ
สุดท้ายนี้เราจะเข้าไปดูภายในห้องนอนกันต่อ
ห้องนอนของห้อง Type นี้ก็จะมีขนาดพื้นที่ที่ใหญ่ ระยะการใช้สอยโดยรอบห้องถือว่าสะดวกค่ะ
ภายในห้องเราจะได้ฐานเตียงนอนขนาด 5 ฟุตมาเหมือนเดิม
พอวางเตียงนอนแล้วก็ยังเหลือระยะเดินปลายเตียง ถ้าใครที่ชอบดูทีวีตอนก่อนนอนก็สามารถติดตั้งทีวีแบบแขวนผนังเพิ่มเติมได้นะ
ส่วนพื้นที่ฝั่งริมหน้าต่างจะได้ชุด Dressing Table/Writing Table มาเหมือนเดิม ตำแหน่งจะอยู่ติดริมหน้าต่างเลยค่ะ เหมาะสำหรับการนั่งแต่งหน้าและการนั่งทำงานเพราะจะได้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาพอดี โดยห้องนี้จะได้หน้าต่างบานกระทุ้งมา 2 บานนะคะ สามารถเปิดระบายอากาศได้
ดูระยะนั่งก็ยังเหลือแบบสบายๆ ค่ะ เรายังสามารถตั้งชั้นวางของเล็กๆ เพิ่มได้อีก 1 ชั้นนะ
และที่ผนังฝั่งด้านขวามือของเตียงนอนจะเป็นตู้เสื้อผ้าบานเลื่อนแบบ Built -in เหมือนเดิม
โดยจะยังเหลือระยะให้สามารถยืนแต่งตัวข้างตู้เสื้อผ้าได้ค่ะ
นอกจากนี้ภายในห้องทุก Type ก็จะได้เครื่องปรับอากาศจาก Daikin Inverter มาด้วยค่ะ
:::: ราคา (กันยายน 2562) ::::
ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ 93,000 บาท/ตร.ม.
เงินจอง n/a บาท
เงินทำสัญญา n/a บาท
ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ ตร.ม./เดือน*
ค่ากองทุนส่วนกลาง 600 บาท /ตร.ม./ชำระครั้งเดียว*
คลิกเพื่อลงทะเบียน : http://humannest.co.th
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ Living Nest ตั้งอยู่ในซอยอุดมสุข 30 เข้ามาจากถนนอุดมสุขประมาณ 300 เมตร เป็นพื้นที่ชุมชนที่อยู่อาศัยที่มีบรรยากาศเงียบสงบและได้ความเป็นส่วนตัวสูง แต่ก็ยังมีความปลอดภัยเพราะมีผู้คนอาศัยอยู่ในซอยเยอะ และอยู่ใกล้กับ รร.สิริรัตนาธรค่ะ เนื่องจากเป็นทำเลที่ยังเกาะแนวรถไฟฟ้า ค่าเช่าค่ากินก็ถูกกว่าในตัวเมือง สามารถหารถสาธารณะได้ง่าย แถมมีสาธารณูปโภครองรับการอยู่อาศัยให้ความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารภายในซอย, ร้านสะดวกซื้ออย่าง 7 – Eleven, Makro อุดมสุข, One อุดมสุข และ Udomsuk Walk ที่อยู่ใกล้มากๆ ห้างใหญ่ๆ อย่างพวก Ikea&Mega บางนา, Central บางนา, Seacon Square และ Paradise Park ก็ยังสามารถเดินทางจากตัวโครงการไปได้สะดวกมาก นับว่าเป็นอีก 1 ทำเลทองของการอยู่อาศัยในราคาที่สบายกระเป๋าลงมาจากในเมืองเยอะเลยค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยอุดมสุข 30 ซึ่งห่างจากถนนอุดมสุขเพียง 300 เมตร ถ้าจะใช้เส้นทางสุขุมวิทสามารถเลือกใช้ได้ทั้งสองเส้นทางค่ะ นอกจากนี้ถนนอุดมสุขยังเป็นเส้นที่เชื่อมระหว่างสุขุมวิท ศรีนครินทร์ และเฉลิมพระเกียรติ ร.9 การเดินทางเข้าเมืองหลักๆ ก็ใช้เส้นสุขุมวิทวิ่งมุ่งหน้าเข้าเมืองอย่างเดียวไปเอกมัย ทองหล่อ พร้อมพงษ์ อโศก สยาม หรือเข้าถนนพระรามสี่ตรงแถวแยกพระโขนงช่วงเข้าลุมพินี วิทยุ สาทร สีลม สามย่านได้เลย หรือจะใช้ทางด่วนเฉลิมมหานครโดยขึ้นตรงสี่แยกบางนา ไปได้หลายที่ทั้ง พระรามเก้า ดาวคะนอง พระรามสอง แจ้งวัฒนะ ดินแดง วิภาวดี – รังสิต รามอินทรา ส่วนถ้าจะออกนอกเมืองเส้นบางนาตราดวิ่งไปออกฉะเชิงเทรา ชลบุรี พัทยา และที่สำคัญเส้นนี้มีทางด่วนบูรพาวิถีวิ่งไปจนถึงชลบุรีเลย ส่วนเส้นสุขุมวิทก็สามารถวิ่งไปโซนสำโรง สมุทรปราการ บางปู ได้อีกด้วย
การเดินทางโดยรถสาธารณะ ถือว่าสะดวกมากค่ะ เพราะในซอยอุดมสุข 30 จะมีวินมอเตอร์ไซด์ให้บริการอยู่ 2 จุดใหญ่ คือ ที่หน้า รร.สิริรัตนาธร และถัดจากโครงการเข้าไปในซอยอีกไม่ไกลบริเวณสี่แยก นอกจากนั้นยังมีรถสองแถวยาสูบที่ให้บริการไป – กลับจากซอยอุดมสุข 30 ไปถึงหน้าตลาดอุดมสุขโดยเฉพาะ โดยจะมีด้วยกันทั้งหมด 6 คัน ให้บริการตั้งแต่ช่วงเช้ามือจนถึง 3 – 4 ทุ่ม แท็กซี่ก็มีวิ่งผ่านเข้า – ออกอยู่ตลอดทั้งวัน ประกอบกับการใช้ Grab Taxi และ Line Taxi ก็จะทำให้สะดวกยิ่งขึ้นไปอีก และพอออกมาที่ถนนอุดมสุขก็จะมีรถเมล์วิ่งผ่านอยู่อีกหลายสายเลยค่ะ
อีกทั้งตัวโครงการยังอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีอุดมสุขเพียง 1.5 กม. อาจจะไม่ได้ใกล้ขนาดที่สามารถเดินไปได้ แต่สามารถนั่งรถสาธารณะไปถึงได้ในเวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงพัฒนาการ – สำโรง วิ่งขนานกับเส้นศรีนครินทร์ สถานีที่ใกล้ที่สุดก็คือสถานีศรีอุดมค่ะ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็น Low rise Codominium สูง 8 ชั้น บนพื้นที่โครงการขนาด 0 – 3 – 24 ไร่ เป็นส่วนตัวด้วยทำเลและห้องพักอาศัยเพียง 119 ยูนิต ตกแต่งห้องให้แบบ Fully Furnished มีให้เลือกแบบ 1 Bedroom, 1 Bedroom Loft และ 1 Bedroom Plus ขนาดเริ่มต้น 25.61 – 36.74 ตร.ม. ซึ่งทางโครงการใช้แนวคิด “Nest” ถ่ายทอดออกมาเป็นเส้นสายและ Pattern ที่สะท้อนถึงความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยซึ่งถือเป็น “Sense of Living” สำหรับทุกเพศทุกวัย
ออกมาเป็นคอนโดอารมณ์บ้านในสไตล์ Modern Scandinavian มีความเรียบง่ายแต่ลงตัว ซึ่งมีพื้นที่ส่วนกลางแบบจัดเต็มรองรับกิจกรรมและความต้องการการใช้งานทุกรูปแบบ ภายในห้องพักอาศัยก็มีการวางผังอย่างลงตัวมาก ห้องบาง Type อาจจะมีพื้นที่ใช้สอยที่เล็กก็จริงแต่ด้วยการวางผังที่ดีจึงทำให้พื้นที่ภายในห้องสามารถใช้สอยได้จริงและไม่รู้สึกว่าอึดอัดเลย
ภายในห้องตกแต่งให้แบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์หน้าตาสวยงามตามแบบห้องตัวอย่าง ซึ่งแต่ละห้องเฟอร์นิเจอร์บางส่วนอาจจะมีความแตกต่างกันไปบ้างตามลักษณะของพื้นที่ห้อง เพื่อให้ลูกบ้านสามารถใช้งานพื้นที่ได้สะดวกมากที่สุด วัสดุก็ได้มาตรฐาน มีความสวยงาม และสามารถใช้งานได้ดี ตามแนวคิดของโครงการ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งกายและใจของผู้อยู่อาศัย หรือ “Well Being of both Body and Soul” นั่นเองค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย นับว่าให้มาแบบเต็มที่จริงๆ เมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตพักอาศัยภายในโครงการแล้วถือว่าได้มาเยอะมากเลยนะคะ ในแต่ละจุดก็จะมีดีเทลการออกแบบเพื่อส่งเสริมแนวคิด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งกายและใจของผู้อยู่อาศัย เน้นการออกแบบที่เหมาะสมกับคนทุกเพศทุกวัย ประกอบด้วย High Ceiling Lobby, Waiting Area, Laundry Area, Co – working Space, Tropical Private Garden, Sky Gym, Jogging Track, Sky Swimming Pool, Imagine Pool, Jacuzzi, Sky Multi – purpose Area, Imagine Play Area, Rock Climbing Wall, Party Area & BBQ Terrace, Relaxing Space, Creative Conner, Goal Table, Tropical Sky Garden, ที่จอดรถ 43% พร้อม Auto Parking, ลิฟท์โดยสารจำนวน 2 ตัว, Key – card Access, Digital Door Lock, CCTV และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ถือว่าดีมากค่ะ
:::: คะแนน ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ
8.1
อยู่ในซอยอุดมสุข 30 ในทำเล Residential Area ที่มีสะดวกสบาย มีสาธารณูปโภครองรับครบครัน
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว
8.0
ใกล้ถนนสุขุมวิท เชื่อมออกได้หลายเส้นทาง และใกล้ทางด่วน
การเดินทางโดยรถสาธารณะ
8.2
เรียก Taxi สะดวก, หน้าโครงการมีวินมอเตอร์ไซค์ และมีรถสองแถววิ่งผ่านเป็นระยะ มีรถสาธารณะไปถึงห้างใหญ่ๆ ได้สะดวก และอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีอุดมสุข
ห้องและวัสดุ
8.4
โครงการวางผังห้องมาดี ตกแต่งสไตล์ Modern Scandinavian เฟอร์นิเจอร์ได้มาครบ วัสดุที่ใช้ก็ได้มาตรฐานสวยงามกว่าโครงการในระดับเดียวกัน
สิ่งอำนวยความสะดวก
8.7
สิ่งอำนวยความสะดวกมีให้หลากหลาย เทียบกับจำนวนยูนิตภายในโครงการและโครงการในระดับเดียวกันถือว่าดีมากค่ะ
ความคุ้มค่ากับราคา
8.0
โครงการเหมาะสำหรับครอบครัวขนาด 1 – 2 คน ทำงานอยู่ในตัวเมือง แต่ต้องการประหยัดงบในการเช่าห้องราคาแพง สามารถเดินทางได้สะดวกทั้งรถไฟฟ้าและรถยนต์ส่วนตัว
คะแนนรวมเฉลี่ย
8.23
ดีมาก
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
Tel : 095 021 8888
WEBSITE : http://humannest.co.th/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น