EP.302 รีวิว ทาวน์โฮม โมดิ วิลล่า เพชรเกษม 69 Modi Villa Phetkasem 69
สวัสดีค่ะ ชาว Homenayoo ที่น่ารักทุกท่าน วันนี้เราจะพาไปชมโครงการในโซนฝั่งธนฯกันบ้าง กับทาวน์โฮมสไตล์ญี่ปุ่น “Modi Villa เพชรเกษม 69“ มาพร้อมแนวคิด “CHANGE TO THE SMART LIFE ทาวน์โฮม สำหรับคนฉลาดเลือก” จาก Property Perfect ตัวโครงการเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.65 เมตร ในราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท (พ.ย.59) สำหรับรายละเอียดแบบเจาะลึกจะเป็นอย่างไรนั้น ติดตามกันต่อด้านล่างได้เลยค่า
ชื่อโครงการ | โมดิ วิลล่า เพชรเกษม 69 Modi Villa Phetkasem 69 |
เจ้าของโครงการ | พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค Property Perfect |
ลักษณะโครงการ | ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.65 เมตร |
พื้นที่โครงการ | ประมาณ 29 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 315 ยูนิต |
พื้นที่ใช้สอย | เริ่มต้น 110-117 ตร.ม. |
เนื้อที่บ้าน | 18 – 27.3 ตารางวา |
จำนวนห้อง | 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ |
ที่จอดรถทั้งหมด | 1-2 คัน |
โซน | หนองแขม |
ขนส่งสาธารณะ | – |
รถโดยสารที่ผ่าน | – |
ที่ตั้ง | ถ.เลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ เขตหนองแขม กทม. 10160 |
กำหนดการ | Pre-Sale 15 มี.ค. 58 |
ปีที่สร้างเสร็จ | 2558 |
ราคา | เริ่มต้น 2.39 ล้านบาท |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | 5,000 บาท / ปี |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | 1. บิ๊กซี เพชรเกษม 2. บิ๊กซี หนองแขม 3. โรงเรียนกรพิทักษ์ศึกษา 4. โรงเรียนสารสาสน์วิเทศบางบอน 5. โรงเรียนสารสาสน์วิเทศหนองแขม 6. วิคตอเรีย การ์เด้น 7. โรงพยาบาลวิชัยเวชหนองแขม 8. โรงพยาบาลเกษมราษฎร์บางแค |
สิ่งอำนวยความสะดวก | – Jogging Track – สวนสาธารณะ – ลานออกกำลังกาย – CCTV – Easy Card Pass Card – รปภ. 24 ชม. |
จุดเด่นของโครงการ | “โมดิ วิลล่า เพชรเกษม 69 CHANGE TO THE SMART LIFE ทาวน์โฮม สำหรับคนฉลาดเลือก เริ่มต้น 1.89 ล้านบาท” |
โครงการใกล้เคียง
ที่ตั้งโครงการ
ถ.เลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ เขตหนองแขม กทม. 10160
พิกัด : 13.685863, 100.351394
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการ Modi Villa เพชรเกษม 69 ตั้งอยู่ในซอย 20/2 เข้าซอยมาประมาณเกือบ 300 เมตร บนถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือซึ่งเป็นถนนเส้นรองลงมามาจากถนนเพชรเกษม 69 และเพชรเกษม 81 ค่ะ โดยอาศัยถนนเส้นหลักที่จะเข้าถึงตัวโครงนี้ได้คือถนนเพชรเกษมที่ถือเป็นถนนเส้นที่อยู่ในเขตศักยภาพทั้งจากรถยนต์ส่วนบุคคลและการขนส่งสาธารณะ นอกจากนั้นยังมีถนนสายสำคัญๆอย่าง ถนนกาญจนาภิเษก ถนนราชพฤกษ์ และถนนพุทธมณฑล ตัดผ่านอีกด้วย
จากแผนที่ข้างต้นจะเห็นได้ว่าการเข้าถึงโครงการสามารถเข้า – ออก ได้ทั้งจากเส้นเพชรเกษมมุ่งหน้านครปฐมโดยเข้าซอยเพชรเกษม 69 หรือ ซอยเพชรเกษม 81 เพื่อเข้าสู่ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ ส่วนถ้ามาจากถนนพระราม 2 ก็สามารถเข้าสู่ถนนเอกชัยฝั่งมุ่งหน้าจอมทองเพื่อเข้าถนนบางบอน 3 และ 5 ตรงทะลุมาออกถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือได้เช่นกันค่ะ ส่วนการจราจรแถวนี้จะติดเป็นบางช่วงเวลาโดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วนบนเส้นเพชรเกษม และพระราม 2 รถค่อนข้างวิ่งเยอะเนื่องจากเป็นเส้นท่ีเชื่อมออกไปยังเส้นต่างๆนั่นเองค่ะ
สำหรับการเดินทางด้วยรถสาธารณะจากตัวโครงการเลยค่อนข้างลำบากพอตัว เนื่องจากในซอยจะไม่มีรถสาธารณะใดๆวิ่งผ่าน แม้กระทั่งคิวพี่วินก็ไม่มีนะคะ ต้องเดินออกมาหน้าปากซอย ถึงจะมี Taxi และ รถสองแถวที่มาจาก วัดหนองแขม – BigC เพชรเกษม วิ่งผ่านไปมาอยู่สามารถขึ้นรถสองแถวไป เพชรเกษม 69, 81 เพื่อต่อรถเมล์ได้ค่ะ ถ้าออกมาทางเพชรเกษม 81 จะมีรถเมล์สาย ปอ 80 วิ่งเส้นถนนเพชรเกษม ผ่าน The mall บางแค ไปถึงสถานีรถไฟฟ้า BTSกรุงธน และในอนาคตสามารถใช้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีหลักสอง (ตรง The Mall บางแค) ได้ค่ะ …ส่วนระยะทางจากโครงการเดินออกมาปากซอยก็ประมาณ 300 เมตร ใครชอบออกกำลังกายอยู่แล้วก็คงพอเดินได้ไม่ลำบากอะไรแต่ๆ ถ้าวันไหนแดดแรงล่ะก็ ท้อแท้…(Grab Taxi คือคำตอบค่ะ ;P)
ในเรื่องความอุดมสมบูรณ์นั้นถือว่าแห้งแล้งมากในระยะเดินสบาย เพราะในซอยส่วนใหญ่จะเป็นบ้านและโรงงานขนาดเล็กไม่มีร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อใดๆ แต่ถ้าออกมาบนเพชรเกษม 69 แล้วล่ะก็ ความอุดมสมบูรณ์มาเต็ม ทั้งตลาดคลองขวาง, Lotus express, BigC mini และ 7-11 ก็มีเป็นระยะไม่ขาดเลยค่ะ หรือแม้แต่ Community mall อย่าง Victoria Garden ก็อยู๋ไม่ไกล แค่ตรงปากทางเข้าเพชรเกษม 69 เท่านั้น ส่วนขา Shop ห้างใหญ่ๆก็ต้องออกมาไกลนิดนึงอย่าง The Mall บางแค, Seacon บางแค หรือจะไปไกลอีกหน่อยลงมาทางเส้นพระราม 2 ก็มี Cental พระราม 2 ค่ะ
สำหรับการเดินทางในวันนี้ง่ายๆค่ะ เราจะเริ่มจากบริเวณแยกบางแค บนถนนเพชรเกษมมุ่งหน้านครปฐม เข้าซอยเพชรเกษม 69 ตรงไปประมาณ 1.8 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือตรงไปประมาณ 3.3 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าซอย 20/2 ตรงต่อไปอีกประมาณ 300 เมตร ก็ถึงโครงการแล้วค่ะ
สรุปการเดินทาง แยกบางแค > ซอยเพชรเกษม 69 > ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ > ซอยเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ 20/2 > โมดิ วิลล่า เพชรเกษม 69
มาเริ่มกันที่ก่อนแยกบางแคนิดหน่อย ฝั่งตรงข้ามขวามือที่เราเห็นคือ The Mall บางแค
บริเวณแยกบางแคจะมีเส้นทางเบี่ยงไปถนนกาญจนา
และเส้นทางขึ้นทางด่วนกาญจนา
เลยแยกมาไม่นานจะเห็นโรงพยาบาลเกษมราษฏร์ บางแค อยู่ทางขวามือค่ะ
ผ่านปั๊ม Esso ที่มี Tesco Lotus express อยู่ด้วย
เริ่มเห็นป้ายโครงการแล้วค่าา
ตรงมาเรื่อยๆเจอ BigC จะแวะซื้อของก่อนเข้าบ้านก็ได้นะคะ
เมื่อใกล้จะถึงซอยเพชรเกษม 69 จะเห็น Victoria Garden ซึ่งเป็น Community Mall ที่มีทั้งร้านอาหารและร้านค้าต่างๆสำหรับคนย่านนี้ที่อยากพักผ่อนวันสบายๆแบบไม่ต้องไปห้างไกลๆค่ะ ถึงตรงนี้ก็เตรียมเปลี่ยนเลนเป็นเลนซ้ายได้แล้วนะคะ
เลี้ยวเข้าซอยเพชรบุรี 69 ไปเลยย
ระยะทางจากต้นซอยเพชรเกษม 69 ถึงตัวโครงการจะมีระยะทางประมาณ 5.3 กิโลเมตร สำหรับซอยเพชรบุรี 69 นี้สภาพแวดล้อมโดยรวมจะเป็นชุมชุนที่มีหมู่บ้านอยู่หลายหมู่บ้านมาก มีโรงงานปะปนอยู่บ้านประปราย นอกจากนั้นยังมีโรงเรียนและวัดซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจอยู่ด้วย จึงไม่แปลกที่ด้านในซอยจะมีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูง ทั้งตลาด และ Hyper market อย่าง BigC mini, Tesco Lotus express เรียงราย
เข้าซอยมานิดหน่อยจะเจอทางเข้าออก Victoria Garden อีกทางหนึ่ง คนในซอยก็สามารถเข้าออกทางนี้ได้ไม่ต้องออกไปเส้นเพชรเกษมแล้วกลับรถมาค่ะ
Tesco Lotus จุดแรก
ตรงเข้ามาไม่นานก็เจอวัดราษฏร์บำรุงค่ะ
Tesco Lotus express จุดที่ 2
ไม่ไกลกันนักก็มีตลาดคลองบางขวาง เห็นตลาดคลองบางขวางแสดงว่าใกล้ถึงถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือแล้วค่ะ เตรียมเลี้ยวขวานะคะ
เจอทางแยกทางซ้ายจะเป็นทางลัดไปซอยเพชรเกษม 63 ส่วนเราเลี้ยวขวาข้ามสะพานไปเลยค่ะ
เริ่มมีป้ายบอกทางแล้ว ไม่หลงแน่นอนค่า
บนนถนนเส้นนี้ก็มีโรงเรียนอีกเช่นกัน คือ โรงเรียนประชาบำรุง
และโรงเรียนพิชญ์ชนก หนองแขม โรงเรียนเยอะขนาดนี้ช่วงเวลาที่ผู้ปกครองต้องมารับ – ส่ง ลูกหลานนี่รถคงติดเป็นแน่แท้
อย่างที่บอกค่ะว่าแถวนี้มี Hyper Market ถี่จริงๆ เจอ Tesco Lotus express อีกที่นึงแล้วค่ะ
และ Mini BigC กับ 7-11
สังเกตทางขวามือไว้ดีๆนะคะ จะมีป้ายโครงการขนาดใหญ่ติดอยู่ เห็นแล้วก็เตรียมชะลอเพื่อเลี้ยวขวาเข้าซอยได้เลยค่ะ
เข้ามาในซอย 20/2 แล้วในซอยนี้ค่อนข้างเป็นส่วนตัว ผู้คนจะไม่พลุกพล่านค่ะ เนื่องจากส่วนใหญ่จะเป็นบ้านคนที่อยู่เดิม จะมีโรงงานขนาดเล็กปนมา 1 โรงงานค่ะ
เข้าซอยมาประมาณ 300 เมตรเห็นน้องถุงลมโบกมือเรียกเราอยู่ แสดงว่าเราถึงโครงการกันแล้วค่าา
สภาพแวดล้อมตัวโครงการโดยรวมมีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูงค่ะ เพราะบริเวณโดยรอบ ทิศใต้จะเป็นที่พักอาศัยของคนในละแวกนี้ ทิศเหนือโครงการติดที่ดินเปล่า ทิศตะวันออกติดบึงน้ำขนาดค่อนข้างใหญ่ ส่วนทิศตะวันตกก็ติดกับที่ดินเปล่าเช่นเดียวกัน
ก่อนจะเข้าไปในตัวโครงการเราจะพาเดินดูด้านหน้าโครงการกันสักหน่อยเพื่อให้เห็นภาพนะคะ
เริ่มจากทางขวามือเป็นซอยที่เราเข้ามาจากถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือนั่นเองค่ะ
ติดกับตัวโครงการเลยคือบ้านของคนในละแวกนี้ค่ะ
ทางซ้ายมือเป็นถนนเข้าพื้นที่ส่วนบุคคล
ถนนเส้นนี้ยาวเข้าไปประมาณ 200 เมตรจากปากทางเข้าโครงการค่ะ
ด้านข้างเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ ไม่มีกลิ่น ไม่สกปรก
สรุปสถานที่สำคัญใกล้เคียง
1. The Mall บางแค 7.5 กิโลเมตร
2. Central พระราม 2 16 กิโลเมตร
3. โรงเรียนกรพิทักษ์ศึกษา 5.2 กิโลเมตร
4. โรงเรียนสารสาสน์วิเทศบางบอน 7.4 กิโลเมตร
5. โรงเรียนสารสาสน์วิเทศหนองแขม 2.2 กิโลเมตร
6. วิคตอเรีย การ์เด้น 5.3 กิโลเมตร
7. โรงพยาบาลวิชัยเวชหนองแขม 6.8 กิโลเมตร
8. โรงพยาบาลเกษมราษฎร์บางแค 8.1 กิโลเมตร
เจาะลึกโครงการ
โครงการนี้มีขนาดประมาณ 29 ไร่ จำนวนบ้านทั้งโครงการ 315 ยูนิต ตอนนี้สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้วประมาณ 100 ยูนิต ส่วนที่เหลือยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างค่ะ จาก Master Plan จะเห็นว่าตัวโครงการต้องเข้าซอยมาประมาณ 300 เมตร เมื่อถึงหน้าโครงการจะมีซุ้มทางเข้าโครงการ ส่วนลักษณะการวางผังในโครงการจะเป็นการวางบ้านเป็นบล็อคๆ บล็อคละ 7 หลังเรียงกันไปตามซอย โดยถนนทางเข้าหลักของโครงการกว้าง 16 เมตร แล้วจะแจกไปยังถนนรองกว้าง 12 เมตร เพื่อแจกเข้าซอยย่อยแต่ละซอยที่ถนนกว้าง 9 เมตรค่ะ
ทางเข้าออกโครงการจะมีทางเดียวคือจากด้านหน้าโครงการ เมื่อเข้ามาจะเจอ Sales Office สวนสาธารณะและฟิตเนสอยู่ทางขวามือ ตรงไปสุดถนนหลักก็จะเจอทางแยก ทางซ้ายจะแยกเข้าซอยย่อยเลย ส่วนทางขวาเป็นถนนรองยาวไปจนสุดโครงการ ซึ่งระหว่างทางก็จะมีถนนแจกเข้าซอยย่อยของบ้านแต่ละบล็อคๆไปค่ะ สำหรับตัวโครงการตอนนี้มีลูกบ้านเข้าอยู่อาศัยกันบ้างแล้วค่ะ
กลับมาที่ซุ้มทางเข้าโครงการเป็นแบบเรียบง่ายสไตล์ญี่ปุ่นเบาๆ หลังคาซุ้มยาวคลุมทั้ง 2 ด้านแต่เป็นตะแกรงโปร่งๆ เลยไม่ช่วยเรื่องกันแดด กันฝนเท่าไหร่นะ
ด้านข้างมีน้ำพุเล็กๆสร้างบรรยากาศให้สดชื่นขึ้นในวันแดดร้อน
ระบบการรักษาความปลอดภัยของที่นี่จะใช้ระบบ Key Card และมีกล้อง CCTV 2 ตัว ส่องด้านหน้ารถและป้ายทะเบียน ส่วนรั้วรอบโครงการเป็นกำแพงทึบ สูง 2.50 เมตร ค่ะ
ถนนหลักในโครงการกว้าง 16 เมตร รถเข้าออกสวนกันได้สบายๆ
ซ้ายมือเป็นที่จอดรถคนที่เข้ามาชมบ้านตัวอย่าง และรถกอล์ฟของโครงการค่ะ
ทางขวามือจะเป็นสำนักงานขาย ส่วนด้านหน้าสำนักงานขายจะเป็นสวนสาธารณะขนาดค่อนข้างใหญ่ของโครงการ เดี๋ยวเราไปเดินดูด้านในโครงการกันก่อนแล้วค่อยกลับมาชมรายละเอียดตรงส่วนกลางกันนะคะ
เดินเข้ามาอีกนิด ซ้ายมือจะเป็นซอยของบ้านตัวอย่างทั้ง 2 แบบค่ะ
ตรงไปจะเห็นทางเยกซ้ายและขวา
ขยับเข้ามาอีกนิดจะเห็นทางแยกชัดเจนขึ้น ทางแยกทั้ง 2 ทางนี้จะแบ่งออกไปเป็นถนนย่อยขนาด 12.00 เมตร และ 9.00 เมตร
มาดูทางซ้ายมือกันก่อนแบบบ้านที่เห็นอยู่นี้จะเป็นกลุ่มของแบบบ้าน แบบ Zen 2 ถนนเส้นนี้จะมีขนาด 9 เมตร และมีซอยย่อยแบ่งออกไปทาขวามืออีกด้วย
หันมาทางขวามือจากจุดที่เรายืนเมื่อกี้ เจอซอยอีก 1 ซอย
ซอยนี้ตรงไปจะเป็นซอยตัน และมีซอยย่อยทางซ้ายมืออีก 1 ซอย
ซึ่งด้านในเป็นกลุ่มแบบบ้าน Zen 2 และถนนกว้าง 9 เมตร เช่นกันค่ะ
กลับออกมาที่ทางแยกถนนเส้นหลักกว้าง 16 เมตรกันอีกครั้ง ทีนี้เราไปดูทางขวามือกันบ้างค่ะ
ถนนรองเส้นนี้มีขนาดกว้าง 12 เมตร ยังถือว่ากว้างอยู่ขับรถสวนกันได้สบายๆ
เดินตรงไปนิดหน่อยก็จะเจอซอยย่อยแจกเข้าแต่ละบล็อค ซ้ายมือที่เราเห็นยังคงเป็นแบบบ้าน Zen 2 ทั้งบล็อคเลยค่ะ
หันมาทางขวาบ้างจะเป็นบ้านแบบ Zen 1 ที่ได้รับวิวสวนไปเต็มๆ แต่ก็ต้องแลกกับความ Privacy สักหน่อยนะ
ถ้าเราตรงเข้าไปอีกจะมีซอยย่อยซ้ายขวาอีก 2 ซอย ทางซ้ายเป็นแบบบ้าน Zen 2 ส่วนทางขวาเป็นแบบบ้าน Zen 1 ส่วนที่เห็นกำลังก่อสร้างอยู่นั้นก็คือแก็งค์บ้านที่ยังไม่เสร็จนั่นเอง
ฟุตบาทกว้างประมาณ 1 คนเดิน แอบต้องเดินหลบต้นไม้นิดหน่อย
ส่วนหน้าบ้านจะเป็นฟุตบาททางลาดสำหรับโรงจอดรถนะคะ
เดินเข้ามาหน่อยนึง ทางซ้ายมือจะเป็นบ้านตัวอย่างทั้ง 2 แบบ
กลับมาที่ Sales Office และส่วนกลางกันค่ะ
ติดกับส่วน Sales Office เป็น Smart Club หรือฟิตเนสนั่นเองค่ะ
การออกแบบเป็นอาคาร 2 ชั้น แนวโมเดิร์น ชั้นบนเป็นฟิตเนส ชั้นล่างเป็นห้องน้ำส่วนกลางค่ะ
ไปดูชั้นล่างกันก่อนนะ
ลงบันไดไปเลี้ยวซ้ายจะเจอห้องน้ำแยก ชาย หญิง
ห้องน้ำหญิงมีห้องน้ำ 2 ห้อง อ่างล้างมือ 1 อ่าง
ส่วนห้องน้ำชายจะเหลือห้องน้ำ 1 ห้องและโถปัสสาวะ 2 ค่ะ
ไปต่อกันที่ชั้นบน
บันไดส่วน Out door จะเป็นทรายล้างทั้งหมด ลดโอกาสการลื่นล้มค่ะ
ประตูเข้าฟิตเนสเป็นกระจกบานใหญ่
ในฟิตเนสใช้กระจกรอบด้านทำให้ได้แสงธรรมชาติและให้ความรู้สึกโปร่งมากขึ้น อุปกรณ์มี ลู่วิ่ง 1, จักรยานไฟฟ้า 1, Elliptical 1
Strength Training Machine 1, เบาะซิทอัพ 1, เครื่องชั่งน้ำหนัก 1 และดัมเบล 12 ชิ้น
อุปกรณ์ทุกชิ้นเป็นยี่ห้อ Life Fitness ค่ะ
มุมมองด้านหน้า
ออกมาจากฟิตเนสเราก็ไปเดินเล่นชมสวนกันต่อ สวนส่วนกลางจัดสวยค่ะ ดูใส่ใจรายละเอียด ลักษณะสวนเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า พื้นที่ 0.86 ไร่ค่ะ
มีชานยื่นให้นั่งชิลล์ๆฟังเสียงน้ำพุ
ทางเดินคอนกรีตมีที่นั่งให้ระหว่างทางเรื่อยๆ
ลานกลางสวน
ห้ามเอาน้องหมามาถ่ายที่สวนนะ !
สุดปลายสวนอีกด้านเป็นศาลาโมเดิร์นผสมญี่ปุ่นเบาๆ พร้อมลานน้ำพุด้านหน้า
ด้านในศาลามีที่นั่งกินลม ชมวิวด้วยนะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
บ้านตัวอย่าง
โครงการนี้เป็นบ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.65 เมตร ต่างกันที่พื้นที่ใช้สอยและความลึกของตัวบ้าน มีให้เลือก 2 แบบ คือ
ซึ่งบ้านตัวอย่างมีพร้อมให้ดูทั้ง 2 แบบเลยค่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยค่า
ทาวน์โฮม Zen 1 มีพื้นที่ใช้สอย 100 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ ที่ดินแปลงมาตรฐานอยู่ที่ 18 ตร.ว. หน้ากว้าง 5.65 เมตร กว่าครึ่งของหน้ากว้างจะเสียพื้นที่มาเป็นห้องรับแขก จึงจอดรถได้แค่ 1 คัน ทางเข้าจะมี 2 ทางเข้า คือจากทางหน้าบ้าน และประตูรองเข้าได้จากที่จอดรถค่ะ ซึ่งตรงนี้จะสะดวกเวลาเราซื้อของเข้าบ้านแล้วถอยรถเข้าจอดก็สามารถเข้าทางที่จอดรถได้เลย ไม่ต้องเดินอ้อมไปเข้าหน้าบ้านผ่านห้องรับแขกเพื่อเข้าไปในครัวอีกค่ะ เมื่อเข้าในบ้านแล้วส่วนแรกที่เจอจะเป็นห้องรับแขก เชื่อมต่อกับห้องน้ำชั้น 1 และพื้นที่ทานอาหาร จากห้องทานอาหารออกไปยังครัวหลังบ้านและลานซักล้างหลังบ้านได้ค่ะ แต่ครัวของจริงทางโครงการจะไม่ได้กั้นเป็นห้องปิดไว้ให้นะคะ ลักษณะจะเหมือนชานในร่มหลังบ้านก่อนออกไปลานซักล้างมากกว่า แต่ก็ไม่เป็นปัญหาค่ะ เราสามารถต่อเติมเป็นครัวปิดสวยได้ หรือจะทำเป็นครัวเปิดไว้ก็ได้แต่ต้องนึกถึงเรื่องแมลงรบกวนด้วยนะคะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอโถงบันได้ขนาดกระทัดรัด แจกไปยังห้องนอนทั้ง 2 ห้องโดยห้องนอน 1 และ 3 จะเป็นห้องนอนเล็กอยู่ฝั่งหน้าบ้านและหลังบ้าน ส่วนห้องนอน 2 ที่อยู่ฝั่งหน้าบ้านจะถือเป็น Master Bedroom ก็ว่าได้เพราะว่าได้พื้นที่ระเบียงเพิ่มขึ้นมาพิเศษกว่าห้องนอนอีก 2 ห้องค่ะ ห้องนอนทั้งสามห้องนี้ต้องมาใช้ห้องน้ำร่วมกันอยู่ติดกับโถงบันไดและห้องนอน 3 ถ้ามีสมาชิกในบ้านเยอะช่วงรีบๆก็ไปใช้ห้องน้ำที่ชั้นล่างได้นะคะ
มาดูบ้านจริงกันค่ะ หน้าตาโดยรวมของบ้านเรียบง่าย ใช้โทนสีอ่อนอย่างสีขาวและเหลืองอ่อน แล้วแซมนิดหน่อยด้วยสีเทาและสีเทาเข้มของรั้วและหลังคา ทำให้โดยรวมไม่ดูโล้นจนเกินไปค่ะ สำหรับประตูรั้วบ้านที่ได้จะเป็นบานเปิดคู่ มีโคมไฟติดรั้วให้ 1 จุด และจุดทิ้งขยะหน้าบ้าน 1 จุดค่ะ
เดี๋ญวเราจะเดินดูรอบๆตัวบ้านกันก่อนนะคะ เริ่มจากที่จอดรถจะเห็นว่ามีประตูบานเปิดให้ 1 จุด เป็นทางเข้ารอง ส่วนพื้นที่จอดรถก็เทคอนกรีตสโลปมาทางถนนหน้าบ้านค่ะ
ประตูด้านที่จอดรถเป็นบานประตูไม้สังเคราะห์
มือจับก้านโยก และตัวล็อคสแตนเลส
บ้านทุกหลังโครงการจะปูหญ้าและลงไม้ยืนต้นมาให้ 1 ต้นค่ะ ส่วนรั้วรอบบ้านสูง 1.50 เมตร
บ้านตัวอย่างจะไม่มีพื้นที่ข้างบ้านนะคะ แต่เราไปเก็บภาพบ้านหลังที่มีพื้นที่ข้างบ้านมาให้ดูว่าเราจะได้รั้วทึบสูง 1.50 เมตร
พื้นที่ซักล้างหลังบ้านจะปูเป็นหญ้ามาให้
เงยหน้าขึ้นไปดูด้านบนกันหน่อย จะมีที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์มาให้แค่ 1 จุดเท่านั้นคือของห้องนอนหลังบ้านค่ะ
กลับมาที่ประตูทางเข้าหลักของบ้านเป็นประตูบานเลื่อนเดี่ยวกระจก บานกรอบอลูมิเนียมรมดำ ประตูเข้าบ้านหลักที่เป็นกระจกเต็มบานแบบนี้อาจจะมีความปลอดภัยน้อยกว่ากระจกบานทึบแนะนำให้ติดประตูเหล็กดัดเพิ่มด้านใน อาจจะทำให้ความสวยงามดูลดลงหน่อย แต่ปลอดภัยมากขึ้นนะคะ
ทางเข้ายกพื้นขึ้นมาประมาณ 24 เซนติเมตร ค่อนข้างสูงเลยทีเดียวต้องเดินด้วยความระมัดระวังนะคะ
มือจับด้านนอกอาจจะเล็กไปหน่อยสำหรับคนมืออวบๆ แต่มือจับด้านในจับสะดวกดีมากค่ะ
ตัวรางประตูติดแบบฝังลงในพื้น เวลาเดินจะไม่เกะกะค่ะ
เข้าบ้านมาจะเจอกับห้องรับแขก พื้นชั้น 1 ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ผนังฉาบเรียบทาสีขาว ความสูงฝ้าเพดาน 2.70 เมตร จากตรงนี้เราก็จะเห็นห้องทางอาหาร และประตูออกไปหลังบ้านค่ะ ส่วนบ้านแปลงมุมก็จะได้ช่องแสงและประตูข้างบ้านเพิ่มมา 2 จุดค่ะ
ชั้นล่างจะได้โคมซาลาเปา 2 จุด ตรงห้องรับแขก 1 และบริเวณห้องทานอาหารอีก 1 จุด
ห้องรับแขกจะมีช่องแสง 2 จุด คือหน้าต่างบานฟิกที่เราเห็นจากโรงจอดรถ และบานประตูกระจกหน้าบ้าน
สำหรับพื้นที่ของห้องรับแขกด้านที่เราจะใช้วางโซฟา จะเห็นว่าเหมาะสำหรับการวางโซฟาขนาดประมาณ 2 คนนั่งหรือถ้าจะขยายขนาดเป็น 3 ที่นั่งก็ยังได้อยู่นะ แต่อาจจะต้องลดจำนวนตู้เล็กๆข้างโซฟาเหลือแค่ 1 ตัวนะ
มองจากฝั่งคนนั่งโซฟาออกไปก็จะเป็นทีวีและบันไดขึ้นไปชั้น 2 ค่ะ ด้วยฝ้าที่สูง 2.7 เมตร เราสามารถติดตู้ลอยไว้ด้านบนแล้วดูไม่รก
ระยะห่างจากระหว่างผนัง 2 ด้านก็จะอยู่ที่ประมาณ 2.6 เมตร ถ้าหักระยะนั่งโซฟาออกไป ระยะห่างการนั่งดูทีวีของเราก็จะอยู่ที่ประมาณ 1.5 – 1.8 เมตร ขนาดจอทีวีที่เหมาะสมก็ไม่ควรเกินประมาณ 42″ – 47″ ค่ะ
มาส่วนทานอาหารที่กลางบ้านกันค่ะ ส่วนครัวบ้านมาตรฐานจะมีช่องแสง 1 จุดคือหน้าต่างบานเลื่อเดี่ยวที่หลังบ้าน
ตรงนี้จะวางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 คนนั่งไว้ และจะเห็นว่ามีพื้นที่วางเก้าอี้เอนหลังไว้อยู่ ตรงนี้ถ้าเราจะเปลี่ยนเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหารอย่างเดียวก็จะสามารถวางโต๊ะขนาดใหญ่ขึ้นได้ถึงประมาณ 6 – 8 ที่นั่งเลยค่ะ
จากห้องทานอาหารเราจะเห็นทางเชื่อมออกไปยังครัวหลังบ้าน
สำหรับบ้านตัวอย่างจะใช้พื้นที่หลังห้องทานอาหารติดตั้งตู้ลอยสำหรับเก็บของไว้ ซึ่งตรงนี้เราสามารถเปลี่ยนเป็นเคาน์เตอร์ครัวสำหรับเตรียมอาหารเบาๆได้ แต่จะไม่มีท่อน้ำเดินไว้ให้นะ ต้องออกไปล้างที่ครัวไทยด้านนอกค่ะ
จะเห็นว่าเมื่อวางโต๊ะและติดตั้งตู้แล้วยังพอมีพื้นที่เหลือเกือบๆเมตร มีระยะเปิดตู้และระยะเดินได้สบายๆค่ะ
ทางเชื่อมออกไปยังครัวไทยหลังบ้าน
บานประตู WPC สีขาว
มือจับเป็นลูกบิดสแตนเลสพร้อมตัวล็อคธรรมดา
พื้นครัวไทยลดระดับลงไปประมาณ 4.5 เซนติเมตร และปูด้วยกระเบื้องแกรนิต 30 x 30 เซนติเมตร
พื้นที่ครัวไทยขนาดประมาณ 1.80 x 1.60 เมตร
ได้โคมไฟซาลาเปา 1 จุด
มีช่องเก็บของให้ด้วย แต่แอบเปิดยากนิดนึงนะคะเพราะบานประตูไม่มีมือจับค่ะ
จากครัวออกไปยงลานซักล้างหลังบ้าน พื้นลดระดับลงไปประมาณ 15 เซนติเมตร ตรงนี้เราสามารถกั้นเป็นครัวปิดได้.. และน่าจะดีกว่าปล่อยโล่งไว้นะคะ
ออกมาดูภาพรวมๆของครัวไทยที่ด้านนอก ส่วนพื้นที่ลานซักล้างจะได้หลอดไฟฟลูออเรสเซนท์พร้อมฝาครอบกันแดดฝน 1 ดวง
กลับมาตรงโถงบันได ประตูทางซ้ายมือจะเป็นประตูที่เปิดออกไปที่จอดรถ ส่วนประตูบานที่ติดกับบันไดคือห้องน้ำค่ะ
จากในตัวบ้านออกไปลานจอดรถพื้นลดระดับลงไปประมาณ 24 เซนติเมตร ถือว่าค่อนข้างสูงสำหรับการก้าวขาขึ้นบ้าน เราอาจจะเพิ่มขั้นบันไดเข้าไปซักขั้นนึง เพื่อเวลาเดินจะได้สะดวกขึ้นนะคะ
ห้องน้ำได้บานประตู WPC สีขาว
พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ลดระดับลงไปประมาณ 4 เซนติเมตร ป้องกันน้ำกระเซ็นออกมาด้านนอก
ผนังห้องน้ำกรุด้วยกระเบื้องเซรามิคสีขาวทั้งห้อง ส่วนฝ้าที่เราเห็นตัดเฉียงลงมานั้นเพราะว่าห้องน้ำใช้พื้นที่ใต้บันไดด้วยนั่นเองค่ะ
กระจกเงาได้บานยาวเต็มผนัง พร้อมบ่าวางของยาว
อ่างล้างหน้าแบบลอยตัวของ Prema ขนาดค่อนข้างเล็ก
โถสุขภัณฑ์ของ Cotto ตำแหน่งการติดตั้งพอดีๆ ระยะได้มาตรฐาน แต่ที่วางกระดาษชำระอาจจะอยู่ใกล้พื้นที่อาบน้ำไปหน่อยนึง เวลาเราอาบน้ำจะกระเซ็นมาโดนทิชชู่จะเปียกชื้นได้
สายชำระพลาสติกธรรมดาๆ
ฝักบัวอาบน้ำ Prema
ขนาดพอดีๆไม่เล็กไม่ใหญ่
พื้นที่อาบน้ำประมาณ 0.8 x 1 เมตร เป็นระยะอาบได้พอดีๆ แต่พื้นที่ข้างเคียงอย่างโถสุขภัณฑ์อาจจะเปียกชุ่มไปด้วย เพราะไม่ได้กั้นห้องไว้เป็นสัดเป็นส่วนค่ะ
กำลังจะขึ้นไปชั้น 2 กันแล้วนะคะ ตัวบันไดบันไดเป็นบันไดสำเร็จรูปโครงสร้างคอนกรีต
ลูกตั้งสูง 18 เซนติเมตร และลูกนอนไม้สำเร็จรูปกว้าง 25 เซนติเมตร
ราวบันไดไม้กลมสำเร็จรูปแบ่งเป็นท่อนๆ ไม่เชื่อมต่อกัน
โถงบันไดค่อนข้างสูงและทึบเนื่องจากไม่มีช่องแสงธรรมชาติ และมีดวงไฟมาให้เพียงดวงเดียวคือที่โถงบันไดชั้น 2 แนะนำให้ติดดวงไฟตามทางเพิ่ม หรือจำติดเป็นโคมไฟเก๋ๆ ก็ได้นะคะ
ชานพักบันได้สามเหลี่ยมสองตอน
พื้นชั้น 2 ปูด้วยลามิเนตลายไม้สีน้ำตาล หนา 8 มม. ทั้งชั้น เข้ากันกับตัวบันไดค่ะ
ที่ชั้นสองจะมีความสูงฝ้าเพดานเป็น 2.85 เมตรโถงบันไดแจกไปห้องน้ำที่ใช้ร่วมกัน และห้องนอนทั้ง 3 ห้อง ขวามือจะเป็นห้องนอนฝั่งหน้าบ้าน ส่วนซ้ายมือเป็นห้องนอนและห้องน้ำฝั่งหลังบ้านค่ะ
พื้นที่โถงบันไดขนาดกระทัดรัด พอดีเดินสบาย ไม่ควรเอาตู้หรืออะไรมาวางหน้าห้องแล้วนะ
หันกลับมาดูราวกันตกก่อทึบ ราวจับเป็นไม้สำเร็จรูปสีเดียวกับบันได
โถงบันไดจะได้โคมซาลาเปามา 1 ดวง
เราจะเริ่มเดินดูกันจากห้องฝั่งหน้าบ้านกันก่อนะคะ มาเริ่มที่ห้องนอนห้องแรก จะอยู่ทางขวามือเมื่อขึ้นมาจากบันได
บานประตูของชั้น 2 ทุกห้องยกเว้นห้องน้ำจะได้บานประตูไม้สำเร็จรูปสีขาว เรียบๆแบบนี้ค่ะ
พื้นปูด้วยลามิเนตต่อเนื่องมาจากโถงบันได
ห้องนอนห้องแรกตกแต่งมาแบบเรียบๆ แอบขรึมหน่อยๆด้วยโทนสีน้ำเงิน เทา และดำ
มีช่องแสง 1 จุดเป็นหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยวกระจกเขียวตัดแสงช่วยลดปริมาณแสงที่จะเข้าสู่ตัวอาคารได้ บานกรอบอลูมิเนียมรมดำ
มือจับและตัวล็อค จะได้ล็อคสองตอนคือตัวบานกรอบและอีกจุดคือตัวล็อคก้นหอยค่ะ
เตียงที่วางในห้องตัวอย่างจะเป็นเตียงขนาด 3.5 ฟุต
วางแล้วจะเหลือพื้นที่ข้างเตียงให้เดินได้และยังวางวางโต๊ะเล็กกับโคมไฟได้ด้วย
ส่วนพื้นที่ปลายเตียงก็จะเหลือประมาณให้เดินได้ค่ะ
อีกด้านของห้องจัดวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะข้างเตียงไว้
ระยะขางเตียงที่เหลือค่อนข้างกว้างค่ะ ซึ่งตรงนี้ถ้าเราอยากวางเตียงขนาดใหญ่ขึ้นก็ยังได้ แต่อาจจะต้องวางเตียงเข้ามุม และเลื่อนตู้เสื้อผ้ามาชิดผนังฝั่งประตูทางเข้าค่ะ
มาต่อที่ห้องนอน 2 ซึ่งเป็น Master Bedroom กันค่ะ
ห้องนี้แต่งมาแบบญี่ปุ่นเรียบง่าย สไตล์แบบนี้ได้ทั้งผู้หญิง และผู้ชายเลยค่ะ จากห้องตัวอย่างที่เราเห็น(ภาพด้านบน) จะเป็นบ้านหลังกลางที่ได้ช่องแสงเพียง 1 จุดคือ ประตูออกไปยังระเบียงค่ะ แต่ถ้าเป็นแปลงมุมจะได้หน้าต่างมาอีก 1 จุดตามภาพ
บานประตูออกไปยังระเบียงเป็นประตูบานลื่อนเดี่ยวกระจกเขียวตัดแสง บานกรอบอลูมิเนียมรมดำ ตรงนี้แนะนำให้ติดม่านเพื่อความเป็นส่วนตัวและช่วยบังแสงแดดอีกชั้นนึงนะคะ เพราะถึงจะเป็นกระจกเขียวตัดแสงช่วยลดปริมาณแสงที่จะเข้ามาในห้องก็จะช่วยได้เพียงบางส่วนเท่านั้นค่ะ
มือจับและตัวล็อค จะได้ล็อคสองตอนคือตัวบานกรอบและอีกจุดคือตัวล็อคก้นหอยค่ะ
ระเบียงลดระดับลงไปประมาณ 8 เซนติเมตร ป้องกันน้ำกระเซ็นเข้าห้องเวลาฝนตก ส่วนพื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 เซนติเมตร
ตัวรางประตูติดแบบฝังลงในพื้น เวลาเดินจะไม่เกะกะค่ะ
รั้วระเบียงเหล็กสีดำ
มีกริลล์บังสายตามาให้สำหรับวางคอมเพรสเซอร์แอร์สีและวัสดุเดียวกับรั้วระเบียง
มีดวงไฟติดผนังมาให้ 1 จุด
เตียงที่ใช้ในห้องนี้เป็นเตียงขนาดควีนไซส์
วางแล้วจะเหลือพื้นที่ข้างเตียงฝั่งติดระเบียงให้พอวางโต๊ะวางโคมไฟเล็กๆได้
พื้นที่ปลายเตียงวางโต๊ะสำหรับวางทีวีไว้ ซึ่งถ้าเราอยากประหยัดเนื้อที่ก็ใช้จอแบบติดผนังก็ได้เช่นกันค่ะ
พื้นที่ปลายเตียงที่เหลือหลังวางโต๊ะวางทีวีแล้ว ก็ยังพอให้เดินไปมาได้
อีกด้านนึงของห้องจะวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะเขียนหนังสือไว้
ตัวตู้เสื้อผ้าแนะนำให้ใช้เป็นบานเลื่อนเพื่อประหยัดพื้นที่นะคะ ส่วนพื้นที่ ที่เหลือหลังวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเขียนหนังสือจะค่อนข้างฟิตพอดีกับฟังก์ชั่นที่วางลงไปค่ะ
มาที่ห้องนอนฝั่งหลังบ้านกันบ้างค่ะ
ห้องนี้ก็ยังคงแต่งมาแบบเรียบง่ายสไตล์ญี่ปุ่นตาม Concept รวมของบ้าน
มีช่องแสงมาให้ 1 จุดเป็นหน้าต่างบานเลื่อนเดียวกระจกเขียวตัดแสง บานกรอบอลูมิเนียมรมดำ ตัวล็อค 2 จุด เหมือนหน้าต่างบานอื่นๆค่ะ
เตียงที่ใช้วางในห้องนี้เป็นเตียง 3.5 ฟุต
พื้นที่ข้างเตียงเหลือก็วางโต๊ะเล็กและโคมไฟข้างเตียงได้ แต่จริงๆถ้าเป็นห้องนอนคนเดียวอยู่แล้วล่ะก็ สามารถวางเตียงเข้ามุมชิดผนังไปเลยก็ได้นะคะ จะได้ประหยัดพื้นที่ทำให้พื้นที่เหลือโดยรวมของห้องดูกว้างขึ้น
พื้นที่ปลายเตียงวางโต๊ะสำหรับวางทีวีไว้ และเนื่องจากฝ้าเพดานชั้น 2 สูงถึง 2.85 เมตร เราจึงมีพื้นที่ติดตู้ลอยไว้เก็บของเพิ่ม ติดตู้แล้วยังดูไม่อึดอัด ตามตัวอย่างเลยค่ะ
พื้นที่ปลายเตียงที่เหลือ ถ้าอยากให้มีพื้นที่เหลือมากกว่านี้ก็เอาทีวีติดผนังซะ เท่านี้ก็จะได้พื้นที่ปลายเตียงเพิ่มขึ้นอีกหน่อยแล้วค่ะ
อีกด้านของห้องวางโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าขนาดกระทัดรัดไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างค่ะ ซึ่งตัวตู้เสื้อผ้าเราจะใช้ขนาดใหญ่กว่านี้อีกนิดก็ยังได้เพราะยังมีพื้นที่เหลืออยู่นะคะ
มาที่ห้องน้ำที่จะเป็นห้องที่ใช้ร่วมกันทั้ง 3 ห้องนอน
รอยต่อของพื้นโถงบันไดกับพื้นห้องน้ำจบด้วยวัสดุ 2 ชนิดคือตัวจบไม้ลามิเนต และในห้องน้ำจะใช้เป็นแกรนิตป้องกันการบวมชื้นของไม้ลามิเนตนั่นเองค่ะ
พื้นห้องน้ำลดระดับลงมาประมาณ 2.5 เซนติเมตร
สุขภัณฑ์ของห้องน้ำที่ชั้น 2 จะใช้แบบเดียวกันกับที่ชั้น 1 ที่เพิ่มมาก็จะเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน เหนือโถสุขภัณฑ์ และยังได้พื้นที่อาบน้ำแยกมาแบบเป็นสัดเป็นส่วน แต่กระจกกั้นอาบน้ำที่เห็นนั้นไม่ได้มาด้วยนะ เราต้องมาติดตั้งเองภายหลังค่ะ
หน้าตาของห้องอาบน้ำที่เราจะได้จริงๆเป็นแบบนี้ค่ะ
พื้นที่อาบน้ำประมาณ 1.5 x 0.8 เมตร ค่อนข้างกว้าง อาบได้สบายๆ
ทาวน์โฮม Zen 2 มีพื้นที่ใช้สอย 117 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่ดินแปลงมาตรฐานอยู่ที่ 20 ตร.ว. หน้ากว้าง 5.65 เมตร เท่ากับแบบ Zen 1 แต่พื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มมาขึ้นนั้นได้มาจากความลึกของตัวบ้านที่มากขึ้น ทำให้มีการจัดสรรพื้นที่ให้เราได้ที่จอดรถเป็น 2 คันค่ะ ส่วนฟังก์ชั่นโดยรวมของตัวบ้านยังคงเหมือนเดิม แต่อาจจะเปลี่ยนตำแหน่งการจัดวางนิดหน่อย ดูจากแปลนเมื่อเราเข้าไปในตัวบ้านจะเจอห้องทานอาหารก่อนส่วนห้องรับแขกจะอยู่ทางซ้ายมือ เราจะได้พื้นที่ส่วนห้องทางอาหารมากขึ้นให้จัดวางเป็น Pantry ได้ หรืออาจจะทำเป็นครัวปิดเลยก็ยังได้ค่ะ ส่วนของห้องน้ำ, บันได, ครัวไทยและลานซักล้างยังคงอยู่ตำแหน่งเดิม
สำหรับชั้นสองการจัดวางฟังก์ชั่นเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคือขนาดห้องนอนทั้ง 3 ห้องค่ะ
มาดูของจริงกันค่ะ แบบบ้านโดยรวมเรียบง่ายสมชื่อ Zen โดยใช้โทนสีอ่อนอย่างสีขาว , เหลืองอ่อน และตัดไม่ให้จืดชืดเกินไปด้วย เทาและดำ
พื้นที่จอดรถ 2 คัน หน้าบ้านเป็นคอนกรีตสำเร็จรูปและเทคอนกรีตลาดเอียงเป็นทางเข้าบ้านไว้ให้ด้วย
รั้วกั้นระหว่างหลังจะเป็นแบบทึบผสมโปร่งสูงประมาณ 1.50 เมตร ลงต้นไม้และปูหญ้าให้ที่แนวรั้วแบบนี้ค่ะ
สำหรับแบบบ้านนี้จะมีทางเข้าทางเดียวคือทางเข้าหลักหน้าบ้าน
ประตูทางเข้าเป็นประตูกระจกเขียวตัดแสงบานเลื่อนเดี่ยวบานกรอบอลูมิเนียมสีดำ มีโคมไฟติดหน้าบ้านมาให้ 2 ดวง
มือจับด้านนอกอาจจะเล็กไปหน่อยสำหรับคนมืออวบๆ แต่มือจับด้านในจับได้เต็มไม้เต็มมือดี
พื้นในตัวบ้านที่ชั้นจะปูกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ทั้งชั้น ยกเว้นในห้องน้ำกับส่วนครัวไทยและลานซักล้างหลังบ้านค่ะ
เข้ามาในบ้านตัวอย่างจะเจอกับห้องรับแขกก่อนเป็นอันดับแรก สำหรับบ้านตัวอย่างที่พาไปดูนี้จะเป็นบ้านแปลงมุมจึงทำให้ได้ช่องแสงด้านข้างเพิ่ม ส่วนบ้านหลังมาตรฐานจะมีช่องแสงเพียงจุดเดียวคือหลังบ้านนะคะ
สำหรับไฟส่องสว่างจะได้เป็นโคมซาลาเปา 1 จุดที่ห้องนั่งเล่น และ 1 จุดที่ส่วนทานอาหาร
ขนาดโซฟาที่ทางโครงการจัดมาให้ดูจะเป็นโซฟารูปตัว L ขนาด 3-4 ที่นั่ง เหมาะสมกับพื้นที่ดีค่ะ
ส่วนระยะห่างของการดูทีวีประมาณ 1.5 เมตร ขนาดทีวีที่เหมาะสมจะประมาณ 42″
มองจากฝั่งคนนั่งโซฟาออกไปก็จะเป็นทีวีและบันไดขึ้นไปชั้น 2 สำหรับบ้านตัวอย่างทางโครงการเค้าจะกั้นห้องไว้เป็นห้องอเนกประสงค์ ส่วนบ้านจริงเราจะได้เป็นพื้นที่โล่งๆแบบนี้ โดยเราจะกั้นห้องตามแบบตัวอย่างก็ได้ หรือไหนๆเราก็ได้ห้องกว้างขึ้นแล้ว จะกั้นเป็นแค่ระแนงบังสายตาก็ดี เพราะจะยังได้ความโปร่ง ไม่ทึบเกินไปค่ะ
ถัดไปเป็นส่วนของห้องทานอาหาร ที่ไม่มีพื้นที่ของเคาน์เตอร์ครัวด้านหลังเลย ซึ่งถ้าเราปรับห้องนั่งเล่นไปไว้ที่ห้องอเนกประสงค์แล้วเราจะยังมีพื้นที่ห้องทานอาหารเหลือค่อนข้างเยอะ สามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาด 5 – 6 ที่นั่งแล้วยังสามารถจะทำเป็นครัวด้านหลังห้องทานอาหารอีกก็ยังได้ค่ะ
ถัดจากส่วนทานอาหารไปจะเป็นทางออกไปยังครัวไทยและลานซักล้างหลังบ้าน
บานประตูที่ไดจะเป็นบานไม้สำเร็จรูปเหมือนเดิม
พื้นครัวไทยลดระดับลงไปประมาณ 4 เซนติเมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 เซนติเมตร
ออกจากครัวไทยไปก็จะเป็นลานซักล้างพื้นคอนกรีต
กลับมาที่โถงบันได ห้องซ้ายมือคือห้องอเนกประสงค์ที่ทางโครงการกั้นไว้ของจริงๆก็จะเป็นห้องโล่งๆเหมือนที่บอกไปด้านบนแล้วนะ
เปรียบเทียบให้ดูบ้านตัวอย่างกับบ้านจริงที่ไม่ได้กั้นห้อง
สำหรับบ้านตัวอย่างทางโครงการจัดเป็นห้องนอนรับแขกที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนั่งเล่นดูทีวีได้
สำหรับพื้นที่ห้องอเนกประสงค์ก็จะได้โคมซาลาเปามา 1 ดวง
เทียบบ้านตัวอย่างกับบ้านจริงที่ไม่ได้กั้นห้องอีกสักมุม
สำหรับห้องน้ำที่ชั้น 1 จะเหมือนบ้านแบบแรกค่ะ บานประตูได้ WPC สีขาว พื้นและผนังปูกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 เซนติเมตร
ได้กระจกและบ่าวางของเต็มผนัง อ่างล้างหน้าและฝักบัวอาบน้ำ ของ Prema ส่วนโถสุขภัณฑ์ของ Cotto
บันไดสำเร็จรูปโครงสร้าง คสล.
พื้นบันไดชั้น 2 ปูด้วยลามิเนตลายไม้หนา 8 มม. ทั้งชั้น
ชานพักบันไดสามเหลี่ยม 2 ตอน
สำหรับบ้านจริงที่ได้จะเป็น 3 ห้องนอน แต่บ้านตัวอย่างทางโครงการทำมาให้ดูแบบรวมห้องนอน 2 ห้อง ฝั่งหน้าบ้านเข้าไว้ด้วยกัน เป็น Master Bedroom ห้องใหญ่ มี Walk-in Closet ค่ะ
หันกลับไปดูโถงบันไดกันสักหน่อย มีโคมซาลาเปามาให้ 1 จุด
ห้องนอนแรกที่เราจะเข้าไปดูคือห้อง Master Bedroom ที่ยุบรวมห้องนอน 2 ห้องเข้าไว้ด้วยกันนะคะ
สำหรับบ้านตัวอย่างเป็นบ้านแปลงมุม จะได้หน้าต่างเพิ่มมา 1 บาน ส่วนแปลงมาตรฐานจะได้มาแค่ประตูบานเลื่อนออกไประเบียงเท่านั้นนะ
ออกมาดูที่ระเบียงมีกริลล์บังสายตาให้สำหรับวางคอมเพรสเซอร์แอร์ ส่วนพื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 60 เซนติเมตร ก็พอออกมายืนกินลมชมวิวได้ แต่ถ้าจะลงต้นไม้หรืออะไรก้คงจะแน่นเกินไปนะ
ราวกันตกเหล็กสีดำ
มีโคมไฟมาให้ 1 ดวง
เตียงนอนใช้เตียงควีนไซส์ จะขยับไปเป็นคิงส์ไซส์ก็ยังได้ค่ะ แต่จะมีพื้นที่ข้างเตียงลดลงนะ
พื้นที่ข้างเตียงที่เหลือหลังจากวางเตียงควีนไซส์ สามารถวางโต๊ะเล็กสำหรับวางโคมไฟได้
อีกด้านหนึ่งจัดวางไว้เป็นโต๊ะเขียนหนังสือ
พื้นที่ข้างเตียงฝั่งนี้ก็เหลือพอจะนั่งทำงานได้สบายๆไม่อึดอัด
สำหรับพื้นที่ Walk-in Closet ของห้องนี้ จะได้มาจากการยุบห้องนอนอีกห้องไว้ด้วยกันนะคะ ซึ่งตรงนี้เราสามารถเก็บไว้เป็นไอเดียได้สำหรับบ้านไหนที่มีสมาชิกในบ้านแค่ 2-3 คน แล้วอยากจะได้ห้องนอน Master แบบใหญ่ๆ แต่ถ้ามีสมาชิกมากกว่านี้ก็คงห้องตามแปลนเดิมไว้ได้ค่ะ
โดย Walk-in Closet จะอยู่ถัดไปทางฝั่งปลายเตียงแบบนี้
ตัวอย่างการจัด Walk-in Closet ของห้องนี้คือการกั้นส่วนนอนกับห้องแต่งตัวด้วยผนังลอยเป็นระแนงครึ่งผนัง ทำให้ห้องดูกว้างและโปร่งขึ้น ด้านในห้องแต่งตัวก็จะจัดวางโต๊ะเครื่องแป้งตู้เสื้อผ้าเกาะไปกับผนัง ทำให้เหลือพื้นที่ตรงกลางไว้ลองเสื้อ หมุนตัวเช็คความเรียบร้อยได้ค่ะ
ทางเดินจากห้องนอนไป Walk-in Closet
ถัดไปมาดูห้องนอนฝั่งหลังบ้านกันบ้าง
ห้องนี้ตกแต่งมาแบบเรียบร้อยน่ารัก เหมาะกับเด็กผู้หญิงใสๆ
ห้องนี้วางเตียงขนาด 3.5 ฟุตแล้วมีพื้นที่เหลือรอบเตียงสบายย
พื้นที่เหลือข้างเตียงด้านที่ติดกับผนัง
ปลายเตียงสามารถวางโต๊ะวางทีวี หรือจะติดตู้วางของแบบลอยตัวเพิ่มก็ได้
พื้นที่ปลายเตียงหลังวางโต๊ะวางทีวีแล้วจะเหลือพื้นที่ให้เดินได้ประมาณนี้
อีกด้านนึงวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเขียนหนังสือเล็กๆ
พื้นที่ข้างเตียงฝั่งนี้ยังเหลือเดินได้สบายๆเลย
มาที่ห้องน้ำ ห้องน้ำชั้น 2 ของบ้านเป็นห้องที่ใช้ร่วมกันทั้ง 3 ห้องนอน ถ้าเวลาเร่งด่วนคงไม่เพียงพอ ต้องผลัดกันลงไปใช้ห้องน้ำข้างล่างด้วยนะ
ห้องน้ำแยกพื้นที่ส่วนแห้งและส่วนเปียกชัดเจน แต่สำหรับห้องอาบน้ำบ้านจริงเราจะไม่ได้กระจกกั้นมานะคะ ทางโครงการจะก่อธรณีขึ้นมาสูงประมาณ 6 เซนติเมตร เพื่อแบ่งส่วนอาบน้ำให้เท่านั้น ซึ่งเราสามารถติดตั้งห้องอาบน้ำเพิ่มกันเองได้ทีหลังค่ะ ส่วนสุขภัณฑ์ในห้องน้ำจะเหมือนชั้นล่างเลยค่ะ อ่างล้างหน้าและฝักบัวอาบน้ำ Prema ส่วนโถสุขภัณฑ์ Cotto
ตำแหน่งติดตั้งโถสุขภัณฑ์ถูกต้องตามมาตรฐาน
พื้นที่อาบน้ำประมาณ 1.50 x 0.8 เมตร
ที่ห้องอาบน้ำมีร่องระบายน้ำจากส่วนแห้งมาหใ้ด้วย น้ำจะได้ไม่ขังอยู่ภายนอกนะ
สำหรับห้องภายในบ้านทุกห้องจะได้ประตูไม้สังเคราะห์สีขาว
ด้านหลังบานประตูจะมีตัว Stopper กันประตูกรแทกกับผนังให้ด้วยค่ะ
สุดท้ายสวิทช์ไฟทั้งหลังใช้ของ Bticino
ราคา (มกราคม 2559)
** เงินจอง : 10,000 / ทำสัญญา : 30,000 (ภายใน 7 วันหลังการจอง)
**ค่าสาธารณูปโภคในโครงการ : 420 บาท/เดือน หรือ ปีละ 5,000 บาท
**ที่ดินเพิ่ม-ลด : คิดราคาแต่ละแปลงเป็นราคาสุทธิ
โปรโมชั่นอื่นๆ โปรดสอบถามทางโครงการ*
บทสรุปโครงการ
ทำเลโดยรอบ โครงการ Modi Villa เพชรเกษม 69 เป็นโครงการทาวน์โฮมตั้งอยู่ในทำเลที่มีความเป็นส่วนตัวอยู่มาก ด้วยตัวโครงการที่อยู่เกือบสุดซอยตันจึงไม่มีผู้คนเข้ามาพลุกพล่านบริเวณโครงการ โดยรวมแล้วตัวโครงการถือว่าตั้งอยู่ในเขตชุมชน รอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยมีทั้งหมู่บ้านจัดสรร มีโรงงานแซมอยู่บ้างประปราย
ความสมบูรณ์ในระยะเดินไม่มีเพราะในซอย 20/2 เองไม่มีร้านค้าหรือร้านอาหารใดๆ แต่ถ้าขับรถออกมาหน่อยบนเพชรเกษม 69 ล่ะก็ ความอุดมสมบูรณ์มาเต็มค่ะ ทั้งตลาดสด, Community Mall อย่าง Victoria Garden, ร้านค้ารายย่อยต่างๆ รวมไปถึง Hyper Market อย่าง BigC mini, Tesco Lotus express และร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 ที่มีอยู่ค่อนข้างถี่เลยค่ะ หรือถ้าออกมาตรงถนนเพชรเกษมมีห้างสรรพสินค้าอย่าง Big C โลตัส The mall หรือถ้าไปฝั่งพระราม 2 มี Big C และเซ็นทรัลพระราม 2
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ ระหว่างซอยเพชรเกษม 69 และ 81 ซึ่งทั้ง 2 ซอยนี้เป็นซอยที่เชื่อมออกได้หลายเส้นทาง ทั้งเส้นทางหลักๆอย่างเพชรเกษมที่สามารถวิ่งยาวตั้งแต่ในเมืองออกต่างจังหวัดได้ นอกจากนั้นยังมีถนนเส้นสำคัญๆตัดผ่านเส้นเพชรเกษมอีกเพียบจึงทำให้สามารถแยกย่อยไปที่ต่างๆได้อีก นอกจากนั้นทั้งเพชรเกษม 69 และ 81 ยังสามารถเชื่อมออกมายังถนนเอกชัยและพระราม 2 ซึ่งสามารถใช้เข้า – ออกเมือง และต่างจังหวัดได้เช่นเดียวกัน โดยที่เส้นพระราม 2 จะจุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครให้ใช้กันด้วยค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ ค่อนข้างลำบากเพราะไม่มีรถสาธารณะใดๆเข้ามาถึงหน้าโครงการ ต้องเดินออกจากซอยไปประมาณ 300 เมตร เพื่อไปขึ้นรถบนถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ ซึ่งจะมี Taxi และพี่วินผ่านไปมาบ้าง นอกจากนั้นจะมีรถสองแถวที่วิ่งจาก วัดหนองแขม – BigC เพชรเกษม เราสามารถนั่งรถสองแถวเพื่อไปต่อรถเมล์ที่ซอยเพชรเกษม 69 และ 81 ได้ โดยที่ซอยเพชรเกษม 81 นั้นจะมีรถสาย 80 ที่วิ่งตลอด 24 ชม. และสาย 80ก วิ่งเส้นถนนเพชรเกษม ผ่าน The mall บางแค ไปถึงสถานีรถไฟฟ้า BTSกรุงธน และในอนาคตอันใกล้นี้ก็จะสามารถใช้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานีหลักสองได้ การเดินทางจะสะดวกมากขึ้นค่ะ
แบบบ้าน การออกแบบโดยรวมดูเรียบง่ายไม่หวือหวา แต่ฟังก์ชั่นครบถ้วน เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยเป็นครอบครัวเล็กๆ 3 – 4 คน บ้านทั้ง 2 แบบมีครัวไทยทำแยกออกมาให้แต่ยังดูไม่ค่อยลงตัวนักต้องไปต่อเติมเพิ่มเพื่อให้เป็นสัดเป็นส่วนกันมากขึ้น ส่วนพื้นที่ใช้สอยในห้องนอนแต่ละห้องจัดมาได้พอดีๆ สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นๆได้ครบไม่อึดอัดจนเกินไป
วัสดุ รายการวัสดุปานกลางมาตรฐาน ที่จอดรถหน้าบ้านเป็นพื้นคอนกรีตสำเร็จ พื้นภายในบ้านชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม.ยกเว้นส่วนครัวไทยและห้องน้ำที่ได้พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ส่วนลานซักล้างด้านหลังเป็นพื้นคอนกรีต ชั้น 2 ได้เป็นพื้นลามิเนตหนา 8 มม. บันไดเป็นบันไดสำเร็จรูปโครงสร้างคอนกรีตสำเร็จรูป โคมไฟซาลาเปาทุกห้อง สุขภัณฑ์ COTTO และ PREMA ห้องน้ำชั้น 2 จะเป็นธรณีก่อแบ่งพื้นที่อาบน้ำไว้ให้แต่ไม่มีกระจกกั้นอาบน้ำ
สาธารณูปโภค ระบบรักษาความปลอดภัยมี Key card access ระยะใกล้ ระบบ CCTV ที่ซุ้มด้านหน้าฝั่งละ 2 ตัว ที่ทางเข้าและทางออก ถนนหลักในโครงการกว้าง 16 เมตร ถนนรองกว้าง 12 เมตร และถนนซอยกว้าง 9 เมตร มีระยะที่สามารถขับรถสวนกันได้สบายๆค่ะ สำหรับส่วนกลางมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่อยู่กลางโครงการ มีการจัดสวนไว้ค่อนข้างดี มีบ่อน้ำพุ ศาลา และมีทางเดินล้อมรอบสวน ต้นไม้เยอะ น่าเสียดายที่ไม่มีสระว่ายน้ำ ส่วนฟิตเนสมีเครื่องเล่นหลากหลายชนิดแต่ออกจะน้อยชิ้นไปหน่อยสำหรับโครงการจำนวน 315 ยูนิต
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.0 | มีข้อดีตรงที่มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง ความอุดมสมบูรณ์รอบนอกหนาแน่น แต่ในระยะเดินหาของกินยากไปหน่อย |
การเดินทาง ใช้รถ | 8.0 | เข้า – ออกเมืองได้สะดวกโดยถนนเส้นเพชรเกษมและพระราม 2 |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 7.0 | ค่อนข้างลำบาก ไม่มีรถสาธารณะผ่านเข้ามาหน้าโครงการ ต้องเดินออกไปหน้าปากซอยถึงจะพอมีรถโดยสารบ้าง |
บ้านและวัสดุ | 8.0 | รูปแบบทางสถาปัตยกรรมสอดคล้องกับ Concept ของโครงการ ฟังก์ชั่นครบ วัสดุมาตรฐาน |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 7.5 | ระบบรักษาความปลอดภัย Key card ถนนภายในโครงการกว้าง มีสวนสาธารณะขนาดค่อนข้างใหญ่ใหญ่และฟิตเนส แต่ไม่มีสระว่ายน้ำ |
ความคุ้มค่ากับราคา | 7.5 | ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท ถือว่ามาตรฐานกับวัสดุที่ได้ ฟังก์ชั่นครบ Facilities พอใช้ เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.66 | ดี |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
TEL : 1375
WEBSITE : คลิกที่นี่
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
อยู่มา2 ปี ครบปีแรกห้องน้ำด้านบนซึม แก้แล้ว ครบปีที่2เป็นอีก เบื่อมาก ไม่รู้ต้องซ่อมทุกปีหรือเปล่า นี่ก็บอกหมดประกันต้องจ่ายตังค์อีก เบื่อมาก
อยู่ได้ไม่เกินเดือน ร้าว รอย ยุบ
อยู่ไปสักพัก อะไรๆที่เคยช่วยซัพพอท หาย เปลี่ยนกฎเอง ไม่แจ้งลูกบ้าน
พอมีปัญหา จะโทรหาคนขาย ได้ค่าคอมไปแล้ว ตัดสายทิ้ง
นี่ละโลก
งานไม่เรียบร้อยแก้บ่อยมากๆๆๆๆๆไๆๆปัจจุบันก็แก้ไม่เสร็จ มีรอยร้าวเยอะมากอุปกรณ์ประปาไฟฟ้าก็ชำรุดง่าย