นอกจากนี้ยังเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำและจากุชชี่ในแบบ Infinity-Edge Pool ที่เปิดเวิ้งน้ำใสของสระ เชื่อมต่อสายตากับผืนน้ำเจ้าพระยา, ฟิตเนสที่มีอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน, สนามเทนนิส, ห้องตีสควอช, ซาวน่า, สปา, ห้องสมุด ตลอดจนห้องประชุมและห้องจัดเลี้ยงส่วนตัว รองรับทุกรูปแบบกิจกรรมของคนในโครงการ
พาชม VDO MY RESORT @ RIVER
ชื่อโครงการ
มาย รีสอร์ท แอท ริเวอร์ MY RESORT @ RIVER
เจ้าของโครงการ
อิควิตี เรสซิเดนเชียล
ลักษณะห้องและขนาดห้อง
3 Bedrooms 156.68 – 178.63 ตร.ม.
Penhouse 824.56 ตร.ม.
The Villa 819.79, 876.45 ตร.ม.
เนื้อที่ทั้งหมด
3 ไร่ 3 งาน 21.00 ตร.ว.
จำนวนตึก
1 อาคาร และ ทาวน์เฮ้าส์ วิลล่า
จำนวนชั้น
37 ชั้น
จำนวนห้อง
123 ยูนิต
ที่จอดรถทั้งหมด
200% ของจำนวนยูนิตโครงการ
โซน
เขตบางพลัด
ขนส่งสาธารณะ
รถไฟฟ้า MRT ส่วนต่อขยาย (รถไฟฟ้า สายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ) สถานีบางพลัด
รถโดยสารที่ผ่าน
n/a
ที่ตั้ง
ซอยจรัญสนิทวงศ์ 72 (ซอยวัดอาวุธ) ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร
กำหนดการ
n/a
ปีที่สร้างเสร็จ
สร้างเสร็จพร้อมอยู่ในปี 2554
ราคา
เริ่มต้น 16,000,000 บาท
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม
90,000 บ./ตร.ม.
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
Tesco Lotus จรัญสนิทวงศ์ 70 600 m.
PATA 3.9 km.
Tesco Lotus ปิ่นเกล้า 3.9 km.
Central ปิ่นเกล้า 4.2 km.
Community Mall The Sense 4.4 km.
Major ปิ่นเกล้า 5.9 km.
ตลาดบางขุนนนท์ 4.8 km.
Makro จรัญสนิทวงศ์ 7.4 km.
Foodland 5.6 km.
ร.พ.ศิริราช 5.7 km.
ร.พ. ตา หู คอ จมูก 4.2 m.
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ 6.2 km.
สิ่งอำนวยความสะดวก
สระว่ายน้ำและจากุชชี่ในแบบ Infinity-Edge Pool
ฟิตเนส
สนามเทนนิส และห้องตี Squash
ซาวน่า
สปา
ห้องสมุด
ห้องประชุมและห้องจัดเลี้ยงส่วนตัว
รปภ. 24 ชั่วโมง
จุดเด่นของโครงการ
“ให้ชีวิตริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นอิสระ และตอบสนองวิถีชีวิตอย่างสะดวกสบาย โครงข่ายการคมนาคมรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีแดง ตัดผ่าน อีกทั้งยังสะดวกต่อการคมนาคมทางน้ำเพราะมีท่าจอดเรือส่วนตัว ทั้งนี้ สามารถเห็นวิวสะพานพระราม 8 ในยามค่ำคืน ซึ่งถือเป็นมุมที่สวยงามมากจุดหนึ่งในกรุงเทพฯ”
คอนโด MRT บางพลัด / คอนโดติดรถไฟฟ้า MRT บางพลัด
คอนโด MRT บางพลัด
ที่ตั้งโครงการ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 72 (ซอยวัดอาวุธ) ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร
พิกัด google map: 13.789307, 100.505611
แผนที่จากทางโครงการค่ะ MY RESORT @ RIVER เป็นคอนโดมิเนียมที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 72 ใกล้ถนนใหญ่ จรัญสนิทวงศ์ จุดเด่นของโครงการนอกจากวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงาม คือจากโครงการสามารถเข้าถึงใจกลางกรุงเทพฯได้ในเพียงไม่กี่นาที เพราะใกล้ทั้งสะพานพระราม 7, สะพานกรุงธน (ซังฮี้), สะพานพระราม 8,ใกล้ท่าเรือโดยสาร และใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เรียกว่าเป็นทำเลที่มีความสะดวกสบายสูง เดินทางสะดวกทั้งคนใช้รถและไม่ใช้รถ
สำหรับคนไม่ใช้รถ จุดเด่นของทำเลโครงการ MY RESORT @ RIVER เป็นโครงการที่อยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 72 ใกล้ถนนใหญ่ จรัญสนิทวงศ์ และ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินบางซื่อ-ท่าพระ สถานี บางพลัด ห่างจากโครงการประมาณ 450 เมตร โดยตอนนี้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินยังอยู่ในช่วงก่อสร้าง จะเปิดใช้ได้ประมาณปี 2563 ถึงตอนนั้นคนไม่ใช้รถก็จะมีตัวเลือกในการเดินทางเข้า-ออกเมืองเพิ่มขึ้นอีกทางค่ะ คลิกที่นี่ เพื่อดูผังรถไฟฟ้าขนาดใหญ่ นอกจากนี้จะมีอีกสถานีที่อยู่ใกล้โครงการเช่นกันคือ รถไฟฟ้าสถานีสิรินธร ที่แยกบางพลัด ในอนาคตจะเป็นสถานี Interchange กับ MRT สายสีส้ม สามารถวิ่งไปเปลี่ยนสายไป BTS สายสีเขียวได้ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในอนาคตคนไม่ใช้รถจะมีความสะดวกสบายสูง เชื่อมต่อไปจุดสำคัญๆและตัวเมืองชั้นในได้ด้วยการนั่งรถไฟฟ้าไปไม่กี่สถานีเท่านั้น จากโครงการออกมาที่ถนนใหญ่จรัญสนิทวงศ์ห่างจากโครงการประมาณ 270 เมตร จะมีป้ายรถเมล์อยู่แถวปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 72 โดยจะมีรถเมล์สาย 108, 175, 23, 56, 103, 203, ปอ. 10, ปอ.พ.4 วิ่งผ่าน เราสามารถนั่งข้ามไปฝั่งพระนครเพื่อเข้าเมืองได้สะดวก ต่อมอเตอร์ไซค์มาแถวหน้าพาต้าปิ่นเกล้าจะมีป้ายรถเมล์ รถสองแถว วิ่งผ่านหลายสายเกือบทั้งคืน มีคิวรถตู้ออกนอกเมืองไปพุทธมณฑล ศาลายา วัดไร่ขิง ซึ่งทำให้คนที่ต้องออกนอกเมืองบ่อยๆมีทางเลือกที่สะดวกและประหยัดดีค่ะ
นอกจากนี้โครงการยังอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาและมีท่าเรือส่วนตัวแล้ว จะมีท่าเรือด่วนเจ้าพระยา พระยาจอดรับส่งผู้โดยสารทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ โดยจากโครงการสมมติเราอยากข้ามไปท่าพระจันทร์ ไปม.ธรรมศาสตร์ หรือไปเดินถนนพระอาทิตย์ ไปหาอะไรกินที่ข้าวสาร เราสามารถเดินไปรอเรือได้ที่ท่าเรือวัดอาวุธวิกสิตาราม สามารถข้ามไปท่าเรือพระอาทิตย์ เพื่อไปถนนข้าวสาร หรือไปท่าเรือมหาราชเพื่อไปม. ธรรมศาสตร์ ได้ใกล้ๆค่ะ ข้อดีของการนั่งเรือคือไม่ต้องไปเจอรถติดบนสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาและบนถนนนั่นเอง ตั๋วโดยสารสามารถซื้อได้บนเรือหรือที่จำหน่ายตั๋วบนท่าเรือค่ะ ราคาจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับระยะทาง โดยอยู่ระหว่าง 13 – 32 บาท ซึ่งสามารถนั่งไปได้ไกลถึงบางศรีเมือง นนทบุรี หรือไปสาทร ไปราษฎร์บูรณะได้เลยทีเดียว คลิกที่นี่เพื่อดูแผนที่ท่าเรือด่วนเจ้าพระยา และ คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดเรือด่วนสายต่างๆและเส้นทางการเดินเรือ
สำหรับคนใช้รถ ทำเลโครงการ MY RESORT @ RIVER ตั้งอยู่ในย่านฝั่งธนฯ ในเขตบางพลัด โดยตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ ฝั่งมุ่งหน้าไปแยกบางพลัด ถือว่าเป็นทำเลที่เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก มีเส้นทางลัดเลาะได้หมด จากโครงการสามารถเข้าถึงใจกลางกรุงเทพฯได้ในเพียงไม่กี่นาที เพราะใกล้ทั้งสะพานพระราม 7, สะพานกรุงธน (ซังฮี้), สะพานพระราม 8 ถ้าจะเข้าเมือง ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาจะเป็นฝั่งพระนครโซนในที่เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ สถานศึกษา โรงพยาบาล และสถานที่ราชการมากมายค่ะ ข้ามผ่านสะพานพระราม 8, สะพานซังฮี้ ข้ามไปสามเสน ราชวิถี เข้าอนุสาวรีย์ชัยฯ หรือมาเข้าศรีอยุธยาไปพญาไทยาวไปพระราม 9 หรือมาถนนพิษณุโลกจะไปเชื่อมกับถนนเพชรบุรีได้ หรือข้ามสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ไปถนนพระอาทิตย์ สนามหลวงก็ใกล้ๆไม่กี่นาทีถึงเช่นกัน ส่วนถ้าจะออกเมืองวิ่งเส้นบรมราชชนนี ไปโซนพุทธมณฑล ราชพฤกษ์ วงแหวนกาญจนาภิเษก หรือไปศาลายา ยาวออกต่างจังหวัดไปนครปฐม ราชบุรี ส่วนเส้นจรัญสนิทวงศ์จะไปเชื่อมกับถนนเพชรเกษมไปพระราม 3 บางแค หนองแขม อ้อมน้อย ก็สะดวกดี แต่ย่านนี้รถจะติดหนักในช่วงเวลาเร่งด่วน โดยเฉพาะเส้น บรมราชชนนี และจรัญสนิทวงศ์ซึ่งตอนนี้มีก่อสร้างรถไฟ้ฟ้าด้วยคงต้องเผื่อเวลากันหน่อย
แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง
สะพานกรุงธน (ซังฮี้) 2.2 กม.
สะพานพระราม 7 3.1 กม.
สะพานพระราม 8 4.8 กม.
สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า 5.6 กม.
แยกบางพลัด 1.5 กม.
แยกบรมราชชนนี 3.3 กม.
แยกอรุณอมรินทร์ 3.9 กม.
แยกบางขุนนนท์ 4.7 กม.
แยกบางขุนพรหม 5.4 กม.
ถนนจรัญสนิทวงศ์ 270 ม.
ถนนบรมราชชนนี 3.3 กม.
ถนนอรุณอมรินทร์ 3.9 กม.
ถนนสิรินธร 1.5 กม.
ถนนบางขุนนนท์ 4.7 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก รอบๆโครงการ MY RESORT @ RIVER จัดว่าเป็นโซนชุมชนที่มีความอุดมสมบูรณ์พอสมควร มีวัด มีร้านอาหาร มีแผงลอยขายอาหารบนทางเดินแถวรอบๆโครงการนี่ก็มีเยอะเลย ทั้งแผงขายผลไม้ ขนม ชากาแฟ หาของกินง่าย ห้างสรรพสินค้าในระยะใกล้เคียงโครงการที่อยู่ในระยะที่เดินไปได้ก็มีห้าง Tesco Lotus จรัญสนิทวงศ์ 71 ที่ช่วยอำนวยความสะดวกคนในโครงการได้เยอะทีเดียว ถัดไปหน่อยจะเป็น PATA ที่เป็นห้างเก่าแก่ ภายในมีร้านค้าและธนาคาร ที่รอบๆห้างเองก็มีร้านอาหารและร้านขายของรอบๆหลากหลาย นอกจากนี้บนเส้นบรมราชชนนีก็มีห้างอยู่เยอะค่ะไม่ว่าจะเป็น Tesco Lotus ปิ่นเกล้า, Central ปิ่นเกล้า, คอมมิวนิตี้ มอลล์ The Sense อยากดูหนังก็มี Major ปิ่นเกล้า อยู่ฝั่งตรงข้าม Central ปิ่นเกล้า อยู่ ขยับออกไปหน่อย จะมีตลาดสด 3 ตลาด ได้แก่ ตลาดบางขุนศรี ตลาดสหกรณ์ศาลาน้ำเย็น และตลาดบางขุนนนท์, Makro จรัญสนิทวงศ์, Foodland, โรงพยาบาลศิริราช 5.7 กม., โรงพยาบาลหู ตา คอ จมูก, สวนหลวงพระราม 8 และจากโครงการก็ห่างจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์แค่ประมาณ 6.4 กิโลเมตรเท่านั้น สถานที่สำคัญใกล้โครงการ
Tesco Lotus จรัญสนิทวงศ์ 71 600 m.
PATA 3.9 km.
Tesco Lotus ปิ่นเกล้า 3.9 km.
Central ปิ่นเกล้า 4.2 km.
Community Mall The Sense 4.4 km.
Major ปิ่นเกล้า 5.9 km.
ตลาดบางขุนนนท์ 4.8 km.
Makro จรัญสนิทวงศ์ 7.4 km.
Foodland 5.6 km.
ร.พ.ศิริราช 5.7 km.
ร.พ. ตา หู คอ จมูก 4.2 m.
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ 6.2 km.
สำหรับคนขับรถ วันนี้เรามีภาพการเดินทางจากรถมาให้ชมกันค่ะ เส้นทางการเดินทางตามลูกศรแดง โดยเริ่มเดินทางจากฝั่งรัชดาภิเษก → ข้ามสะพานพระราม 7 มาฝั่งธนบุรี → ตรงเข้าสู่ถนนจรัญสนิทวงศ์ → เลี้ยวซ้ายเข้าซอยจรัญสนิทวงศ์ 72 มาประมาณ 270 ม.จะ เจอ โครงการ MY RESORT @ RIVER อยู่ทางขวามือแล้วค่ะ
เริ่มเดินทางกันจากสะพานพระราม 7 ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามุ่งหน้าไปทางถนนจรัญสนิทวงศ์
ลอดผ่านใต้ทางด่วนศรีรัชไป
ตรงมาบนถนนใหญ่จรัญสนิทวงศ์ ซึ่งตอนนี้กำลังก่อสร้างรางรถไฟสายสีน้ำเงินกันอยู่ โดยเราจะอยู่ฝั่งมุ่งหน้าไปที่แยกบางพลัดนะคะ
ตรงมาสักพักจะเห็นป้ายสำนักงานเขต บางพลัด นี่ก็เริ่มใกล้ถึงโครงการแล้วค่ะ
ถัดมาเราจะเจอ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน MRT สถานีบางพลัด ที่เป็นสถานีที่อยู่ใกล้โครงการที่สุด ตอนนี้กำลังก่อสร้างอยู่ แต่ก็เริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่างแล้วค่ะ โดยมีระยะห่างจากโครงการ MY RESORT @ RIVER ประมาณ 450 เมตร ก็เป็นระยะที่จากโครงการเดินมาขึ้นรถไฟฟ้าได้สบายๆค่ะ
ตรงไปอีกจะเป็นสะพานข้ามคลองบางพลัด
ตรงไปอีกหน่อยก็จะเจอซอยจรัญสนิทวงศ์ 72 แล้วค่ะ เราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปได้เลยค่ะ
จากถนนใหญ่จรัญสนิทวงศ์ เลี้ยวซ้ายเข้าซอยจรัญสนิทวงศ์ 72 มาประมาณ 270 ม.จะเจอโครงการ MY RESORT @ RIVER อยู่ทางขวามือแล้วค่ะ
เราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยจรัญสนิทวงศ์ 72 หน้าปากซอยมีจุดสังเกตคือจะมีสะพานลอยข้ามไปฝั่งตรงข้ามได้ มีป้ายรถเมล์ที่ปากซอย และมีป้ายโครงการ MY RESORT @ RIVER อยู่ พร้อมป้ายบอกทางไปท่าเรืออาวุธด้านใน ใกล้โครงการ
จะมีป้ายโครงการ MY RESORT @ RIVER รอยู่หน้าปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 72 พร้อมป้ายวัดอาวุธวิกสิตาราม ซึ่งจัดเป็นพระอารามหลวงเก่าแก่ ตั้งอยู่ในซอยเดียวกันอยู่ด้วย
เข้าซอยซอยจรัญสนิทวงศ์ 72 มาก็จะเห็นอาคารคอนโด MY RESORT @ RIVER อยู่ทางฝั่งขวามือแล้วค่ะ จะมีเกาะกลางถนนแบ่งเลนเข้าออกและติดป้ายของโครงการไปเป็นแนว สองข้างทางเป็นอาคารที่อยู่อาศัยแนวราบ อย่างบ้าน 2 ชั้นเป็นส่วนใหญ่
ตรงเข้าไปอีกหน่อยก่อนถึงโครงการจะมีวัดอาวุธวิกสิตาราม วัดอารามหลวงเก่าแก่ที่อยู่ตรงข้ามที่ตั้งโครงการเลย
หน้าทางเข้าวัดอาวุธวิกสิตารามภายในซอยจรัญสนิทวงศ์ 72 ค่ะ เดิมวัดนี้มีชื่อเรียกว่า วัดคลองบางพลัด สนใจฟังประวัติวัดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
ภาพทางเข้าพระอุโบสถของวัดอาวุธวิกสิตาราม
ตรงมาอีกหน่อย ตรงข้ามอาคารศึกษาธรรมมะของวัด เกือบสุดซอยก็จะเจอทางเข้าคอนโด MY RESORT @ RIVER อยู่ทางขวามือแล้วค่ะ เลี้ยวขวาเข้าไปได้เลย ก่อนเข้าไปสำรวจภายในโครงการกัน เราขอพาไปดูรอบๆโครงการกันก่อนนะคะ
รอบโครงการ
รอบโครงการ MY RESORT @ RIVER จะเป็นอาคารแนวราบซะเป็นส่วนใหญ่ค่ะ ทำให้สามารถมองวิวออกไปได้ไกลแทบทุกด้าน ทางเข้าออกโครงการอยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 72 ทางฝั่งทิศเหนือ โดยฝั่งตรงข้ามที่ดินโครงการคือวัดอาวุธวิกสิตาราม โดยตึกตรงข้ามทางเข้าออกโครงการเลยจะเป็นตึกเรียกธรรมะ สูง 5 ชั้น ทิศตะวันออกติดแม่น้ำเจ้าพระยา ทิศใต้ติดที่ดินบุคคลอื่น ทิศตะวันตกติดอู่แท็กซี่
ภาพตึกคอนโด MY RESORT @ RIVER มองจากฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ จะเห็นว่ารอบๆโครงการเป็นอาคารแนวราบแทบทั้งหมด ทำให้จากอาคารสามารถมองวิวออกไปได้ไกล จากโครงการออกไปขึ้น MRT สถานีบางพลัด เดินไปประมาณ 450 เมตรเท่านั้น โดยจากโครงการเดินไปถนนใหญ่จรัญสนิทวงศ์เป็นระยะทางประมาณ 270 เมตร
เริ่มกันจากหน้าทางเข้าโครงการ MY RESORT @ RIVER รั้วโครงการเป็นรั้วบาน เลื่อนเหล็กดัดสีดำลายทอง มีรปภ.คุมทางเข้าออกอยู่ข้างประตู
โครงการหาง่ายมาก ส่วนนึงเพราะตึกโครงการสูงที่สุดในซอยจรัญสนิทวงศ์ 72 ที่ส่วนใหญ่เป็นชุมชนที่อยูอาศัยแนวราบ เข้าซอยมาจะเห็นตัวตึกโครงการแต่ไกล
ถัดมาจะเป็น สวนเฉลิมพระเกียรติ 48 พรรษา สมเด็จพระเทพฯ เป็นสวนสาธารณะขนาดเล็กริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ภายในปลูกต้นไม้ไว้ร่มรื่น และมีศาลาไว้ให้นั่งพักผ่อน ข้อดีคือคนในโครงการมาเดินรับลมได้สบายมากๆ เพราะอยู่ห่างจากโครงการเพียง 80 เมตรเท่านั้น เดินนาทีเดียวถึงเลย ส่วนภายในตัวโครงการจะเป็นอย่างไร เรากลับไปดูกันเลยค่ะ
ตัวโครงการ
โครงการ MY RESORT @ RIVER เป็นคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่แบบ High Rise 37 ชั้น ยูนิตรวมทั้งโครงการเพียง 123 ยูนิตเท่านั้น ความพิเศษของโครงการนี้คือเป็นโครงการที่อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนที่พักอาศัยเริ่มที่ชั้น 6 โดยชั้น 6 – 35 เป็น Typical Floor Plan หรือผังอาคารจะเหมือนๆกันค่ะ คือมีความหนาแน่นสูงสุดเพียงชั้นละ 4 ยูนิตเท่านั้น เป็นห้องใหญ่ เน้นกลุ่มผู้ซื้อตลาดบนอย่างชัดเจน ส่วนชั้น 36 – 37 เป็น Penthouse ขนาดใหญ่มากแบบ Duplex หรือแบบ 2 ชั้นของโครงการ
พื้นที่ส่วนกลางหรือ Facilities ของโครงการนี้ทำมาแนวโรงแรมและรีสอร์ทตามชื่อโครงการเลย
ชั้น 1 – 3 เป็นที่จอดรถ ที่จอดได้ถึง 200% ของยูนิตโครงกา
ชั้น 4 มีสระว่ายน้ำแบบ Infinity-Edge + จากุชชี่ วิวแม่น้ำเจ้าพระยา, ห้องซาวน่า, สนามเทนนิส, ห้องตี Squash, ห้องจัดเลี้ยง และ สำนักงานขายโครงการ
ชั้น 5 มีห้องฟิตเนส, สปา, ห้องประชุม, ห้องสมุด อาคารชั้นล่างจะมีล็อบบี้ ห้องจดหมาย และบันไดเวียนขึ้นไปสู่ส่วนกลางชั้น 4 ค่ะ มีลิฟท์โดยสารแบบ High Speed มาให้ 2 ตัว แบบล็อกชั้น และลิฟต์บริการ 1 ตัว
เราไปดูภาพอาคารชั้นล่างตั้งแต่ทางเข้ากันเลยค่ะ
ทางเข้าโครงการ MY RESORT @ RIVER รั้วโครงการเป็นรั้วบานเลื่อนเหล็กดัดสีดำลายทอง มีรปภ.คุมทางเข้าออกอยู่ข้างประตู และมีประตูทางเดินสำหรัยคนเดินเข้าออกอยู่ด้านข้างอีก 1 ชุด พื้นทางเข้าโครงการจะเป็นทางลาดขึ้นไป เนื่องจากพื้นโครงการถูกถมให้สูงกว่าระดับถนนประมาณ 1 เมตร
เข้ามาจะเป็นพื้นด้านนอกโครงการซึ่งปูกระเบื้องสีน้ำตาลอ่อนเอาไว้ มุมขวาของภาพจะเห็นว่าติดทางเข้าออกจะมีป้อมรปภ. อยู่ด้านในโครงการแบบนี้
เข้ามาขวามือจะเป็นทางเข้าสู่ตัวอาคารค่ะ ซ้ายมือเป็นรั้วรอบโครงการ สูง 3 เมตร ปลูกรั้วไม้พุ่มริมรั้วมาเป็นแนวดูร่มรื่นดี
ถ้าขับรถเข้ามาก็เลี้ยวลานจอดรถโครงการได้เลย โดยจะเป็นทางลาดขึ้นไปอีกที ส่วนบันไดตรงกลางเป็นจุด Drop off ของส่วน Lobby โครงการค่ะ
ลานจอดรถโครงการนี้อยู่ที่ชั้น 1 – 3 จอดได้ถึง 200% ของจำนวนยูนิตโครงการ ซึ่งถือว่าให้มาเหลือเฟือทีเดียว ที่จอดรถในโครงการไม่ได้มีรถจอดอยู่เยอะ และรถที่จอดอยู่เป็นซุปเปอร์คาร์หรือรถยนต์หรูซะเยอะ เนื่องจากราคาเริ่มต้นของโครงการตั้งเอาไว้ที่ 16 ล้านบาทขึ้นไปในปัจจุบัน ซึ่งทำให้จำกัดกลุ่มผู้ซื้อคอนโดในโครงการอยู่ในระดับบนซะเป็นส่วนใหญ่นั่นเอง
ลานจอดรถกว้างไม่แออัด พื้นลานจอดเป็นปูนซีเมนต์ฉาบเรียบ
จากลานจอดรถชั้น 1 จะมีทางเดินขึ้นไปสูล็อบบี้โครงการอยู่
ส่วนถ้าเดินเข้ามาจาก Drop off ด้านหน้าโครงการก็จะเจอทางเข้าล็อบบี้เป็นบันไดตรงกลางแบบนี้
ขึ้นมาหน้าประตูทางเข้าล็อบบี้เป็นกระจกใสบานสูงประมาณ 5 เมตร และจากโถงหน้าทางเข้าล็อบบี้ จะมีบันไดขึ้นไปลานจอดรถชั้นบนได้
ขึ้นมาก็จะมีส่วนชายคาพร้อมโดมขนาดใหญ่ยื่นออกมา ซึ่งจุดนี้เป็น Drop off เข้าสู่ตัวล็อบบี้ จากที่จอดรถชั้นบนของโครงการค่ะ
ที่จอดรถชั้นบนของโครงการ เป็นแบบในร่มซะเป็นส่วนใหญ่
จากลานจอดรถชั้นบน เราลงมาไปดูภายในล็อบบี้ของโครงการกันต่อค่ะ ประตูทางเข้าล็อบบี้เป็นประตูบานเปิดคู่กระจกเทมเปอร์
เข้ามาภายใน ล็อบบี้โครงการเป็นล็อบบี้เพดานสูง ตกแต่งมาในโทนคลาสสิค ให้บรรยากาศแบบรีสอร์ทพักตากอากาศ ผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาว ตกแต่งขอบบัวเชิงพื้น เชิงเพดาน ด้วยลายไม้ มีบันไดเวียนขนาดใหญ่ขึ้นไปพื้นที่ส่วนกลางชั้น 4 ได้
ติดประตูทางเข้าล็อบบี้จะมีเคาน์เตอร์พร้อมพี่รปภ. นั่งอยู่อีกคน โดยจะมีรปภ.ดูแล 24 ชม.
ภาพรวมล็อบบี้โครงการค่ะ มองไปทางบันไดเวียนจะเห็นว่ามีชุดโซฟาตั้งอยู่ แขกที่มาเยี่ยมสามารถนั่งรอที่ส่วนนี้ได้
อีกฝั่งของล็อบบี้ ซ้ายมือของภาพเป็นประตูกระจกส่วนห้องนิติบุคคล ตรงกลางเป็นยกพื้นขึ้นไปส่วน Mail Box และ Service Lift ด้านใน ส่วนขวามือของภาพเป็นลิฟต์โดยสารของโครงการค่ะ เดี๋ยวพาไล่ดูกันไปทีละอย่างนะคะ
ส่วน Mail Box หรือตู้จดหมายจะเป็นยกพื้นขึ้นไป 4 ขั้นบันได
ตู้จดหมายเป็นตู้ไม้ ฝาตู้จดหมายเป็นแบบใสมองเห็นจดหมายด้านใน และมีป้ายเลขห้องแต่ละห้องพร้อมกุญแจติดอยู่ด้านหน้า ด้านข้างตู้มีม้านั่งมาให้นั่งเปิดจดหมายดูได้ ถัดไปเป็นทางเดินไปส่วนตู้จดหมายอีกจุดและทางเข้า Service Lift ด้วยค่ะ
ตู้จดหมายอีกจุดจะอยู่ข้าง Service Lift แบบนี้
ถัดมาเป็นลิฟต์โดยสาร 2 ตัว สำหรับยูนิตในโครงการที่มีเพียง 123 ยูนิต อัตราส่วนลิฟต์ประมาณ 1:62 ถือว่าสบายๆเลยค่ะ ลิฟท์โดยสารเป็นแบบ High Speed และเป็นแบบล็อกชั้น เพิ่มความปลอดภัยให้คนในโครงการไปอีกระดับ
ถ่ายภายในลิฟต์ให้ดูค่ะ เดี๋ยวเราขึ้นไปดูพื้นที่ส่วนกลางชั้น 4 กันต่อนะคะ
ผังชั้น 4 ชั้นนี้จัดเป็นพื้นที่ส่วนกลางหลักของโครงการค่ะ มีสระว่ายน้ำแบบ Infinity-Edge + จากุชชี่ วิวแม่น้ำเจ้าพระยา, ห้องซาวน่าแยกชายหญิง, สนามเทนนิสด้านหลัง, ห้องจัดเลี้ยง,ห้องตี Squash และ สำนักงานขายโครงการ หน้าตาจะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยค่ะ
ออกมาจากโถงลิฟต์ชั้น 4 จะเจอทางเดินทรงโค้งแบบนี้ มีราวกันตกทรงโค้งติดกระจกเทมเปอร์มองลงไปส่วนล็อบบี้ชั้นล่างได้
มองออกไปจะเห็นเพดานสองระดับค่ะ ออกจากลิฟต์มาเป็นเพดานปกติ ส่วนเพดานด้านนอกที่ใกล้สระน้ำเป็นเพดานสูงแบบ Double ceiling การดีไซน์เป็นสไตล์รีสอร์ทที่ให้ความรู้สึกอลังการทีเดียวค่ะ เพราะเป็นพื้นที่แบบ Open Space ที่ใช้เส้นโค้ง เสากลมต้นใหญ่ที่มีการตกแต่งเสาด้วยผิวไม้และทองดูหรูหรา ลมก็ดีด้วยเพราะหันหน้าเปิดไปรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่ติดที่ดินโครงการเลย
สำนักงานขายของโครงการก็จะอยู่ที่ชั้น 4 นี้ด้วยค่ะ โดยอยู่ทางฝั่งขวามือของลิฟต์โดยสาร
เปิดเข้าไปด้านในสำนักงานขายโครงการ MY RESORT @ RIVER จะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายพร้อมให้บริการ และมีชุดเก้าอี้ไว้รับรองลูกค้าเรียบร้อยดี
เรามาดูส่วนกลางของชั้น 4 ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางหลักของโครงการกันต่อนะคะ เริ่มกันจากส่วนเด่นสุดของชั้น 4 กันก่อนเลย คือสระว่ายน้ำของโครงการค่ะ เป็นสระว่ายน้ำแบบ Infinity-Edge + จากุชชี่ ที่ตึกนี้ใช้แนวคิดน้ำต่อน้ำ โดยออกแบบให้ขอบของสระว่ายน้ำนั้นจรดไปที่แม่น้ำเจ้าพระยาพอดี เวลายืนมองอย่างนี้จะเห็นเป็นผืนน้ำต่อเนื่องกัน โดยมีสระเด็กอยู่ด้านในเว้าเข้ามาในตัวตึก ให้รู้สึกใกล้มือและปลอดภัยมากกว่า ส่วนสระผู้ใหญ่นั้นวางขนานไปกับแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ด้านหลัง
วิวสระว่ายน้ำมองต่อเนื่องไปที่วิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้แบบไม่มีอะไรบังเต็มความกว้างเลยแบบนี้ การออกแบบสระแบบ Infinity-Edge ก็จะทำให้มุมมองมีความต่อเนื่องกัน ลมก็ดีมากเลยค่ะ เป็นลมสบายๆริมแม่น้ำที่หาได้ยากในคอนโดทั่วไป เพราะคอนโดทั่วไปส่วนใหญ่ล้อมด้วยตึกสูง หรือบ้านพักอาศัย ซึ่งจะมีไอร้อนจากตึกสะท้อนกันไปมา ไม่ว่าจะจากแอร์คอมเพรสเซอร์หรือความร้อนจากผิวคอนกรีต นี่เป็นส่วนนึงที่ทำให้คอนโดริมแม่น้ำแบบนี้มีลักษณะลมที่แตกต่างออกไป เพราะเป็นลมเย็นสบายที่พัดมาจากแม่น้ำนั่นเอง
มี Deck ไม้สำหรับพักผ่อนริมสระ ปลูกต้นไม้เอาไว้เพิ่มร่มเงาให้กับที่นั่งริมสระ โดยวางเก้าอี้นอนริมสระมาให้ 4 ตัว
นอกจากนี้ในสระ จะมีโซนน้ำตื้นสูงแค่ประมาณเลยข้อเท้ามาหน่อย เดินลุยน้ำหรือเอาเท้าจุ่มน้ำเล่นไปมาได้ และมีที่นั่งเอนมาให้นอนเล่นได้อีก 4 ตัว เหมาะเดินมานั่งเล่นพูดคุยกันและนอนชมพระอาทิตย์ตกริมแม่น้ำเจ้าพระยาดีค่ะ
สระว่ายน้ำจัดมาสไตล์รีสอร์ท คือใช้หินเทียมทำเป็นชั้นน้ำตก ทำเป็นบ่อสระเด็ก และตกแต่งรอบๆให้ได้บรรยากาศแบบสวนน้ำ โดยได้เสียงของน้ำตกสร้างบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติและน้ำที่มีความเคลื่อนไหวอีกทาง สระเด็กถูกจัดไว้ริมทางเดินแบบนี้เพื่อให้ดูแลได้ง่าย
จุดล้างตัวข้างสระก็มาเป็นแท่นหินเลยแบบนี้ โดยจะมีฝักบัวแบบ Rain Shower มาให้ 2 จุด
โขดหินตกแต่งใกล้ๆสระน้ำที่ใช้เป็นทั้งกระถางต้นไม้และที่นั่งไปในตัว
วางชุดที่นั่งใกล้สระว่ายน้ำมาให้หลายชุดค่ะ มาเป็นเก้าอี้ 4 ตัว และโต๊ะกาแฟอีก 1 ตัว
เก้าอี้สำหรับเอนหลังในร่ม ใกล้ๆสระว่ายน้ำก็มีมาให้เช่นกัน
ถัดจากสระว่ายน้ำเข้ามาด้านในจะมีทางเข้าห้องน้ำชายหญิงอยู่ ด้านในจะมีห้องซาวน่ามาให้ด้วย
เราพาเข้าไปดูในห้องน้ำหญิงกันก่อนค่ะ
เข้ามาส่วนแรกจะเป็นเคาน์เตอร์ยาว พร้อมกระจกบานใหญ่เอาไว้เหมือนเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง
ฝั่งตรงข้ามจะมีห้องซาวน่ามาให้ ภายในมีที่นั่งเป็นชั้นแบบนี้ นั่งได้ประมาณ 3 – 4 คน
ถัดเข้ามาด้านในจะมีเคาน์เตอน์อ่างล้างหน้าหินแกรนิตสีดำยาว พร้อมกระจกเงาเต็มความกว้างมาให้ และมีอ่างมาให้ 3 อ่าง
ตรงข้ามอ่างล้างหน้าเป็นทางเดินแจกเข้าไปส่วนห้องโถสุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำค่ะ
โดยจะมีห้องอาบน้ำมาให้ 2 ห้อง ก่อธรณีขึ้นมากั้นส่วนเปียกส่วนแห้ง พร้อมประตูห้องอาบน้ำกระจกเทมเปอร์ฝ้า ด้านในฝักบัวเป็นแบบ Rain Shower
ห้องโถสุขภัณฑ์มี 2 ห้อง จะเห็นว่าผนังหลังโถสุขภัณฑ์เป็นแบบ Low Wall ใช้วางของได้
ถัดมาเป็นทางเดินตรงออกไปสระว่ายน้ำค่ะ ผนังตกแต่งด้วยอิฐบล็อกลายดอกไม้ เวลาแสงส่องผ่านเกิดเป็นเอฟเฟ็คที่สวยงาม
ถัดมาที่ชั้น 4 จะมีห้องจัดเลี้ยงอยู่ ผนังห้องเป็นกระจกใสเห็นด้านในว่าจัดที่นั่งไว้ให้หลายชุด
เข้ามาดูด้านในจะเห็นว่า ห้องจัดเลี้ยง จัดชุดโต๊ะเก้าอี้มาให้เหมือนในร้านอาหารหรือคาเฟ่เลยค่ะ เหมาะจะมานั่งเล่น กินขนม ดื่มกาแฟ คุยงาน หรือพักผ่อนเล่นมือถือไอแพดได้ดี มีทั้งเก้าอี้เดี่ยวพร้อมโต๊ะ และโซฟาคู่มาให้หลายชุด
อีกฝั่งของห้องจัดเลี้ยง มีเคาน์เตอร์พร้อมอ่างล้างจาน และไอส์แลนด์สำหรับประกอบหรือจัดเรียงอาหารมาให้ ยกตัวอย่างเช่น หลังเล่นน้ำเสร็จ รู้สึกหิวก็สั่งพิซซ่าขึ้นมากินในห้องนี้ได้ ไม่ต้องเอาขึ้นไปกินบนห้องของตัวเองทุกครั้ง เป็นต้น
ถัดจากห้องจัดเลี้ยงมาจะมีทางเดินไปส่วนสนามเทนนิสด้านหลังอยู่
สนามเทนนิสค่ะ มีตาข่ายขึงมาให้พร้อมไฟกลางคืนเรียบร้อย ใครชอบตีแบต ตีเทนนิส มีที่แบบนี้ก็สะดวกดีค่ะ จัดกิจกรรมชวนเพื่อนมาตีเทนนิสกันได้สบายๆ
และที่ชั้น 4 นี้จะมีห้องตี Squash อยู่ด้วยค่ะ
เดี๋ยวเราจะพาขึ้นไปดูห้องฟิตเนสและส่วนกลางอื่นๆที่ชั้น 5 กันต่อนะคะ โดยทางขึ้นห้องฟิตเนสจะอยู่ใกล้สระว่ายน้ำทางฝั่งสระเด็ก
ทางขึ้นไปห้องฟิตเนสเป็นบันไดเวียนขึ้นไปพร้อมสวนหย่อมตกแต่งแบบนี้ ชอบที่บันไดเวียนของโครงการนี้มีหน้าบันไดที่กว้าง เดินง่าย ไม่ใช่วงเล็กเดินยากแบบบันไดเวียนทั่วๆไป
เราขึ้นมาดูชั้น 5 กันต่อค่ะ ชั้นนี้เป็นชั้นลอย เนื่องจากพื้นที่ชั้น 4 จะเป็นพื้นที่เปิดโล่ง และเพดานสูงแบบ Double Ceiling นั่นเอง ชั้น 5 นี้จะมีห้องฟิตเนส, สปา, ห้องประชุม, ห้องสมุด หน้าตาจะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลย
ขึ้นบันไดเวียนมาด้านบนจะมีทางเดินเข้าส่วนชั้น 5 อยู่ค่ะ
พอเข้ามา ซ้ายมือจะเป็นทางเดินไปห้องฟิตเนส ตรงไปเป็นบันไดทางขึ้นไปพื้นที่ส่วนกลางชั้น 5 ส่วนอื่นๆ
เราพาไปดูส่วนห้องฟิตเนสกันก่อนนะคะ ประตูและผนังทางเข้าห้องเป็นกระจกใส ประตูเป็นแบบบานเปิดคู่ พื้นห้องฟิตเนสปูพรมสีเทา
ในห้องฟิตเนสจัดเครื่องเล่นมาให้หลากหลายค่ะ มีลู่วิ่งไฟฟ้า 2 ชุด, เครื่องเดิน 2 ชุด หันหน้าออกผนังกระจกฝั่งสระว่ายน้ำ รับวิวสระว่ายน้ำและแม่น้ำเจ้าพระยา
มีเครื่องปั่นจักรยาน 2 เครื่อง
มีเครื่องเพาะกาย 1 ชุด ผนังด้านหลังเป็นกระจกเงา ทำให้ห้องดูกว้างขึ้น
เครื่องซิทอัพ 2 ชุด พร้อมบาร์ดัมเบลและบอลพีลาทีสอีก 2 ลูก
ชั้น 5 นี้ส่วนทางเดินจะแจกไปยังห้องต่างๆของชั้น 5 ค่ะ นอกจากห้องฟิตเนสก็จะมี ห้องสปา, ห้องประชุม, ห้องสมุด หน้าตาจะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลย
ภายในห้องสปาวางเก้าอี้นอนและต้นไม้ตกแต่งมาให้ตรงกลางประมาณ 4 ที่นั่ง
ส่วนยกพื้นนี่สำหรับคนที่จ้างคนนวดมานวดให้ถึงในโครงการ ก็สามารถใช้พื้นที่ส่วนนี้ได้ ไม่ต้องขึ้นไปห้องของตัวเอง โดยมีราวม่านสามารถกั้นเป็นห้องนวดพร้อมๆกันได้สามห้อง
ถัดมาเป็นห้องเสริมสวย ที่ในอนาคตน่าจะมีช่างทำผมบริการเพิ่ม
ฝั่งขวามือของโถงลิฟต์ มีห้องสมุดอยู่ด้านบนของสำนักงานขายโครงการชั้น 4 นั่นเอง
ภายในห้องสมุดมีโซฟา พร้อมโต๊ะกาแฟ และชั้นหนังสือจัดมาให้
ชุดโซฟานั่งเล่นในห้องสมุด
ฝั่งซ้ายมือของโถงลิฟต์เป็นห้องประชุม ผนังห้องเป็นกระจกใส ช่วยนำแสงธรรมชาติเข้าสู่ตัวโครงการและตัวห้องได้ดี
ภายในห้องประชุมจะมีโซฟา 2 ที่นั่ง และโต๊ะประชุมพร้อมเก้าอี้ 7 โชว์
ผังชั้น 6 : ส่วนยูนิตที่พักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 6 – 37 ค่ะ โดยผังชั้น 6 – 35 การจัดผังจะเหมือนกันแทบทุกอย่าง แต่ชั้น 6 จะมียูนิตเพียง 3 ยูนิต โดยรวมยูนิต C และ D เข้าด้วยกันเป็นยูนิต CD ในขณะที่ชั้น 7 – 35 จะมีชั้น 4 ยูนิต และใช้ผังแบบเดียวกันทั้งหมด คือทุกห้องได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาจากส่วนโค้งของผังห้อง
ผังชั้น 7 – 35 : จะเป็น Typical Floor Plan ของโครงการ คือเป็นผังแบบเดียวกันทุกชั้นค่ะ โดยแต่ละชั้นจะมี 4 ห้อง ทุกห้องได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยา แต่อยู่ในองศาที่แตกต่างกันไป แต่จะได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยามุมกว้างทุกห้องค่ะ โถงลิฟต์มีชั้นละ 2 ตัว ก่อนถึงโถงทางแจกเข้าสู่ห้องทั้ง 4 ห้อง
เอาตัวอย่างโถงหน้าลิฟต์ของชั้น 20 มาให้ดูกัน ผนังลิฟต์แต่งผิวลายไม้ ดีไซน์โค้งของแท่นกดลิฟต์ค่ะ เป็นเหมือนฉากแบ่งฝั่งห้อง A, B และ C, D ให้ทางเดินสู่ห้องมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น จากภาพ จะเห็นว่าเราจะมองไม่เห็นลิฟต์อีกฝั่งที่อยู่ติดกันเพราะมีเสาโค้งบังอยู่
ข้างโถงลิฟต์จะมีบันไดหนีไฟเตรียมมาให้เรียบร้อย
ทางเข้ายูนิตจะตั้งฉากกันอยู่ ตามผังอาคารคือ ยูนิต A ตั้งฉาก B, ยูนิต C ตั้งฉาก D แบบนี้ เดี๋ยวเราเข้าไปดูภายในห้องตัวอย่างของโครงการกันต่อเลยค่ะ
แบบห้อง แบบห้องในโครงการจะเริ่มต้นที่ยูนิตขนาด 156.68 – 178.63 ตารางเมตร ไปจนถึงเพนท์เฮ้าส์ขนาด 824.56 ตารางเมตร โดยวันนี้เราจะพาไปสำรวจห้องตัวอย่างในโครงการ Type C และ D ห้อง ก่อนไปสำรวจห้องตัวอย่าง เรามาดูผังยูนิตแบบอื่นๆกันก่อนนะคะ
ผังห้อง Type A แบบ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 177.71 ตร.ม. ผังห้องจะกลับด้านกันกับห้อง Type D ที่เป็นห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันวันนี้ค่ะ
ผังห้อง Type B แบบ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 156.81 ตร.ม. เป็นขนาดห้องเริ่มต้นของโครงการ ผังห้องจะกลับด้านกันกับห้อง Type C ที่เป็นห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันวันนี้ค่ะ
ผังห้อง Type CD แบบ 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 328.80 ตร.ม. เป็นห้อง combine ที่รวมยูนิต Type C และ D เข้าด้วยกันนั่นเอง
ห้องตัวอย่าง
ห้องตัวอย่างห้องแรกเป็นห้อง Type D แบบ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม. ตัวห้องแบ่งส่วน Private และ Public มาชัดเจน ส่วนไพรเวทอย่างห้องนอนและห้องน้ำจัดอยู่ฝั่งนึง และส่วนพับลิคหน่อยอย่างห้องนั่งเล่นริมระเบียงและพื้นที่รับประทานอาหารอยู่อีกฝั่งนึง ห้องขายแบบ Fully Fitted พร้อมติดเครื่องปรับอากาศ, เครื่องทำน้ำอุ่น และชุดครัวมาให้เรียบร้อย จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยค่ะ
ประตูทางเข้าห้องเป็นประตู HDF ปิดผิวลายไม้ บานใหญ่และมีความสูงจรดเพดาน มีตาแมวไว้ส่องดูคนที่มาเคาะประตูเพื่อความปลอดภัย ผนังข้างประตูห้องจะมีแผ่นป้ายบอกเลขที่ห้องอยู่ ประตูห้องปกติเปิดเข้าออกฝั่งเดียว แต่อีกบานด้านข้างสามารถเปิดออกได้เช่นกัน ทำให้ประตูห้องกว้างขึ้น สามารถขนเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่เข้าห้องได้
มือจับเป็นแบบก้านโยกสแตนเลสสีเงิน ด้านนอกเป็นช่องเสียบกุญแจด้านล่าง ด้านในเป็นลูกบิดหมุนล็อก สังเกตว่าด้านบนมีก้านสำหรับคล้องโซ่ล็อกจากด้านในเพิ่มอีกชั้นด้วย
เปิดประตูเข้าไปจะเจอส่วนห้องรับประทานอาหารเชื่อมต่อไปที่ส่วนห้องนั่งเล่นที่เปิดออกไประเบียงได้ พื้นห้องเป็นพื้นไม้สักแท้สวยงามดี เพดานห้องสูง 2.4 เมตร ไฟดาวน์ไลท์ ผนังห้องของจริงฉาบเรียบทาสีขาวนะคะ ห้องตัวอย่างตกแต่งผนังห้องเพิ่มและติดโคมไฟมาให้ดูเป็นไอเดีย
มองกลับไปที่ประตูทางเข้าห้อง จะเป็นพื้นที่ส่วน Foyer ที่ปูด้วยกระเบื้อง ทำให้ทำความสะอาดได้ง่าย วางม้านั่งหรือทำชั้นวางรองเท้าเพิ่มได้ เพราะมีระยะพอค่ะ ซ้ายมือของภาพเป็นประตูเปิดไปห้องครัวและห้องแม่บ้าน ซึ่งเดี๋ยวเราจะพาไปสำรวจกันอีกทีนะคะ ขอพาไปดูส่วนอื่นๆกันก่อน
เริ่มกันจากส่วนห้องรับประทานอาหาร ห้องตัวอย่างวางชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งมาให้ดูระยะใช้งานที่กำลังสวย ระยะถอยเก้าอี้เข้าออกสบายๆ บ้านไหนแขกเยอะสามารถวางโต๊ะสำหรับ 10 ที่นั่งได้สบายๆค่ะ เพราะมีพื้นที่กว้างพอสมควร
ถัดจากส่วนห้องรับประทานอาหารมาเป็นส่วนห้องนั่งเล่นค่ะ ชอบที่แปลนห้องมีความต่อเนื่อง ทำให้การใช้งานยืดหยุ่นสามารถปรับใช้ได้หลากหลายตามไลฟ์สไตล์แต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน จะกั้นห้องเพิ่มก็ง่าย ระยะดูทีวีจากโซฟาประมาณ 3 เมตร วางทีวีขนาดใหญ่ 60 – 70 นิ้วได้สบายๆ
โซฟาวางโซฟา 3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกาแฟ มาให้ดูระยะใช้งาน สังเกตว่าเหลือที่ด้านข้างโซฟาพอทำชั้นวางของหรืออาร์มแชร์เพิ่มได้อยู่
มองไปทางชั้นวางทีวีวางชั้นวางทีวีมาให้ดูเป็นไอเดีย สามารถ Built in ทำชั้นลอยวางทีวีเพิ่มพื้นที่ใช้งานได้ ถัดชั้นวางทีวีไปจะมีพื้นที่อเนกประสงค์อีกจุดที่ใช้เป็นห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก หรือห้องทำงานเพิ่มเติมได้
ห้องนั่งเล่นจะอยู่ติดกับประตูเปิดออกไประเบียงวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้
จากห้องนั่งเล่นมองไปที่ประตูเปิดออกไประเบียง จะเห็นว่าฝั่งที่หันไปทางวิวแม่น้ำเจ้าพระยานั้นเป็นผนังกระจกเต็มความกว้างของห้อง ให้ความรู้สึกโปร่ง รับแสงธรรมชาติรับวิวได้เต็มที่ ก่อนออกไปดูระเบียงเราไปดูพื้นที่อเนกประสงค์ถัดจากห้องนั่งเล่นกันก่อนนะคะ
ห้องตัวอย่างจัดพื้นที่ส่วนนี้มาเป็นห้องรับแขก เหมาะใช้นั่งชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา หรือจะใช้เป็นห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก หรือห้องทำงานเพิ่มเติมได้
วางโซฟา 3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกาแฟ และอาร์มแชร์มาให้ดูระยะใช้งาน ด้านบนฝ้าเพดานติดแอร์ฝังฝ้ามาให้ ของจริงได้ตามนี้ค่ะ
มองไปที่ผนังฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นกระจกบานฟิกซ์บานใหญ้ กว้างรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้เต็มที่
วิวแม่น้ำเจ้าพระยาส่วนโค้งน้ำที่สวยงาม พร้อมสะพานซังฮี้และสะพานพระราม 8 เห็นเรือแล่นผ่านไปมา เป็นวิวแม่น้ำที่ทำให้รู้สึกสงบดีมากเลยค่ะ
ริมฝั่งห้องติดหน้าต่างในส่วนห้องอเนกประสงค์นี้ จะมีหน้าต่างบานสูงที่เปิดออกไประเบียงด้านข้าง และเปิดรับลมธรรมชาติเข้ามาในห้องได้
ระเบียงด้านข้างปูกระเบื้องเซรามิกพร้อมทำรางวางท่อระบายน้ำมาให้เรียบร้อย
ส่วนงานระบบ มีทำกริลกั้นที่วางแอร์คอมเพรสเซอร์มาให้เรียบร้อย
เปิดประตูออกไปดูส่วนระเบียงติดห้องนั่งเล่นกันต่อค่ะ โครงการใช้กระจกเขียวตัดแสง กรอบบานอลูมิเนียมสีขาว มือจับประตูเป็นแบบหูช้าง จับดึงเปิดปิดได้ง่ายและมีความแข็งแรงทนทาน
พื้นระเบียงลดระดับลงต่ำกว่าพื้นห้องประมาณ 5 ซม. ตัวพื้นระเบียงปูกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. เพดานติดไฟดาวน์ไลท์มาให้เรียบร้อย ราวกันตกเป็นกระจกเทมเปอร์ กรอบอลูมิเนียมดูหรูหรา
อีกฝั่งของระเบียงวางเก้าอี้มาให้ดูระยะใช้งาน ระเบียงกว้าง สามารถจัดสวน วาง Day Bed ไว้นอนเล่นได้สบายๆ
วิวแม่น้ำเจ้าพระยาจากระเบียงค่ะ ตอนกลางคืนคงสวยไปอีกแบบ ด้วยแสงไฟจากสะพานซังฮี้และสะพานพระราม 8 พอมายืนที่ระเบียงนี่ลมพัดสบายมากเลยค่ะ ก็เป็นข้อของคอนโดติดริมแม่น้ำแบบนี้นะคะ คือได้ลมเย็นสบาย ไม่ร้อนเหมือนคอนโดทั่วไปที่ถูกล้อมด้วยตึกทุกด้าน
เข้ามาดูส่วนห้องนอนกันต่อค่ะ ถัดจากห้องนั่งเล่น จะมีทางแยกไปห้องนอน 2 ห้องนอน ที่แต่ละห้องจะมีห้องน้ำในตัว
เข้าไปดูห้องซ้ายมือกันก่อนค่ะ
ส่วนห้องนอนสามารถวางเตียง 6 ฟุตพร้อมโต๊ะข้างได้ เพราะมีระยะพอนะคะ
ห้องตัวอย่างทำ Built in ชั้นวางทีวีปลายเตียงมาให้ดูระยะใช้งาน ซึ่งยังเหลือระยะเดินไปมาสบายๆ ผนังข้างเตียงเป็นหน้าต่างบานสูง ใช้เปิดรับลมให้อากาศถ่ายเทหรือเป็นประตูเปิดออกไประเบียงข้างห้องได้ มือจับเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐาน
พื้นระเบียงลดระดับลงต่ำกว่าพื้นห้องประมาณ 5 ซม. ตัวพื้นปูกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ทำรางระบายน้ำมาให้ และกั้นกริลเหล็กทาสีขาวในส่วนที่วางแอร์คอมเพรสเซอร์มาเรียบร้อย
ระยะข้างเตียงฝั่งติดประตูเปิดออกไประเบียง
ส่วนห้องนอนฝังแอร์ที่ฝ้าผนังมาให้เหนือประตูผ่าน Walk in closet ไปห้องน้ำ ของจริงได้ตามนี้
ส่วน Walk in closet ทำ Built in ตู้เสื้อผ้ามาให้ดูระยะใช้งาน
พื้นที่ทางเดินส่วน Walk in closet ไปส่วนห้องน้ำในห้องนอนค่ะ
ส่วนพื้นห้องน้ำจะลดระดับลงมาจากพื้นห้องนอนนิดหน่อย พื้นปูกระเบื้องผิวด้านขนาด 60 x 60 cm. ห้องน้ำทำขนาดมากว้างกำลังดีค่ะ ใช้วัสดุโทนสีขาวสบายตา แยกส่วนแห้งและส่วนเปียกติดฉากกั้นห้องน้ำกระจกเทมเปอร์มาให้ ระยะใช้งานกำลังสบายๆไม่อึดอัด
ผนังติดกระเบื้องมาให้จรดเพดานนะคะ เพดานติดไฟดาวน์ไลท์
อ่างล้างมือทำเคาน์เตอร์พร้อมชั้นวางของใต้อ่างพร้อมหน้าบานปิดสีขาวมาให้ และติดกระจกเงามาให้ได้ตามนี้ ใต้อ่างติดเครื่องทำน้ำร้อนมาให้เรียบร้อย และมีเต้าเสียบปลั๊กไฟที่ผนังด้านข้างมาให้เสียบไดร์เป่าผมได้
เทียบขนาดฝ่ามือกับอ่างล้างมือให้เห็นระยะใช้งานค่ะ ตัวอ่างเป็นทรงสี่เหลี่ยมของ Kohler รอบๆทำเคาน์เตอร์มาให้วางของได้
โถสุขภัณฑ์ของ Kohler แบบฝัง สายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษชำระเป็นสีขาวเข้าชุดกัน ด้านหลังโถสุขภัณฑ์มี Low Wall ให้วางของเพิ่มได้ด้วย
ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นห้องมาให้เป็นกระจกเทมเปอร์ มีก่อธรณีขึ้นมาประมาณ 5 ซม. เพื่อกั้นระหว่างพื้นส่วนเปียกส่วนแห้ง
เหนือหน้าต่างริมส่วนอาบน้ำมีช่องระบายอากาศอยู่
เทียบขนาดฝ่ามือกับฝักบัวมาให้ดูจะเห็นว่ามีขนาดใหญ่ดีค่ะ นอกจากนี้มีที่วางสบู่ติดมาให้ใกล้ชุดฝักบัวอีก 1 อัน
ชุดฝักบัวมี Rain Shower มาให้ด้านบนด้วย
ไปดูห้องนอนอีกห้องกันต่อค่ะ
ขนาดห้องนอนห้องนี้มีขนาดพอๆกันกับอีกห้องที่ไปสำรวจกันมาค่ะ แต่ห้องนี้จะมีขนาดเล็กกว่าหน่อย วางเตียงคู่มาให้ดูระยะใช้งาน ส่วนห้องนอนฝังแอร์ที่ฝ้าผนังมาให้ของจริงได้ตามนี้
ห้องตัวอย่างทำ Built in ตู้เสื้อผ้าและชั้นวางทีวีปลายเตียงมาให้ดูระยะใช้งาน ซึ่งยังเหลือระยะเดินไปมาสบายๆ
ข้างเตียงเป็นพื้นที่ปาดมุมที่กว้างทีเดียว วางโต๊ะข้างหรือชั้นวางของเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดี
เปิดตู้เสื้อผ้าปลายเตียงให้ดูระยะใช้งานค่ะ คนเดียวเก็บเสื้อผ้าได้สบายๆ แต่ถ้าสองคนจะแน่นๆนิดนึง น่าจะต้องทำตู้เสื้อผ้าเพิ่มค่ะ
ภายในห้องนอนห้องนี้ก็จะมีห้องน้ำส่วนตัวในห้องเช่นกัน เข้าไปดูกันเลยค่ะ
ส่วนพื้นห้องน้ำจะลดระดับลงมาจากพื้นห้องนอนนิดหน่อย พื้นปูกระเบื้องผิวด้านขนาด 60 x 60 cm. ห้องน้ำทำขนาดมากว้างกำลังดีค่ะ ใช้วัสดุโทนสีขาวสบายตา แยกส่วนแห้งและส่วนเปียกติดฉากกั้นห้องน้ำกระจกเทมเปอร์เข้ามุมมาให้ ระยะใช้งานกำลังสบายๆไม่อึดอัด
ผนังติดกระเบื้องมาให้จรดเพดานนะคะ เพดานติดไฟดาวน์ไลท์
อ่างล้างมือทำเคาน์เตอร์พร้อมชั้นวางของใต้อ่างพร้อมหน้าบานปิดสีขาวมาให้ และติดกระจกเงามาให้ได้ตามนี้ ใต้อ่างติดเครื่องทำน้ำร้อนมาให้เรียบร้อย และมีเต้าเสียบปลั๊กไฟที่ผนังด้านข้างมาให้เสียบไดร์เป่าผมได้
เทียบขนาดฝ่ามือกับอ่างล้างมือให้เห็นระยะใช้งานค่ะ ตัวอ่างเป็นทรงสี่เหลี่ยมของ Kohler รอบๆทำเคาน์เตอร์มาให้วางของได้
โถสุขภัณฑ์ของ Kohler แบบฝัง สายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษชำระเป็นสีขาวเข้าชุดกัน ด้านหลังโถสุขภัณฑ์มี Low Wall ให้วางของเพิ่มได้ด้วย ผนังด้านหลังมีหน้าต่างบานกระทุ้งบานสูงไว้เปิดระบายอากาศได้ ด้านข้างมีราวสแตนเลสสำหรับแขวนผ้าเช็ดตัวติดตั้งมาให้ ได้ตามนี้
ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นห้องมาให้เป็นกระจกเทมเปอร์ มีก่อธรณีขึ้นมาประมาณ 5 ซม. เพื่อกั้นระหว่างพื้นส่วนเปียกส่วนแห้ง ฝักบัวของ Kohler มาพร้อม Rain Shower แบบเดียวกันกับห้องน้ำในห้องนอนอีกห้องเลย
สุดท้ายเรากลับมาดูห้องครัวไทยกันต่อค่ะ ประตูครัวอยู่ฝั่งซ้ายมือของประตูทางเข้าห้องนั่นเอง
เข้ามาคือครัวจะติดตั้งเคาน์เตอร์พร้อมชั้นลอยมาให้ 2 ฝั่งเลย ของจริงได้ตามนี้ เราพาไล่ดูกันไปทีละฝั่งนะคะ พื้นห้องครัวเป็นกระเบื้องแกรนิโต้ดูแลรักษาปัดกวาดเช็ดถูได้ง่าย เหมาะกับการใช้งานภายในครัวค่ะ
ฝั่งซ้ายมือมือมีเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันพร้อมชั้นลอยเก็บของ ความกว้างพอเตรียมอาหารได้สบายๆเลย มีที่วางหม้อรามชามไหเหลือเฟือ เราเปิดตู้และชั้นลอยด้านบนให้ดูระยะใช้งานนะคะ จะเห็นว่ามีลิ้นชักตรงกลางสามชั้น และชั้นวางของก็ทำชั้นมาให้แบบสามารถเก็บของได้เยอะ
ครัวท้อปเป็นหินสังเคราะห์สีขาว ด้านหลังชุดครัวที่ผนังมี Back Splash กันผนังเปื้อนมาให้ ทำให้เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนเตามาเป็นเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควันพร้อมมีเต้าเสียบปลั๊กไฟติดผนังมาให้เรียบร้อย
ฝั่งขวามือมือมีอ่างล้างจานมาให้ ความกว้างพอเตรียมอาหารได้สบายๆ เราเปิดตู้และชั้นลอยด้านบนให้ดูระยะใช้งานนะคะ จะเห็นว่าเก็บของได้เยอะเลย ขวามือของภาพเว้นที่ไว้ให้วางตู้เย็นได้ ด้านบนมีทำชั้นวางของเพิ่มมาให้อีก 2 ชั้น
ครัวท้อปเป็นหินสังเคราะห์สีขาว ด้านหลังชุดครัวที่ผนังมี Back Splash กันผนังเปื้อนมาให้เช่นกัน ทำให้เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนอ่างล้างจานเป็นอ่างสแตนเลส 2 หลุมพร้อมที่พักจานด้านข้าง ก็อกหันไปหันมาได้ พร้อมมีเต้าเสียบปลั๊กไฟติดผนังมาให้เรียบร้อย
ฝั่งนี้จะมีมุมติดงานระบบไฟมาให้ค่ะ
ถัดจากครัวจะมีทางเข้าห้องน้ำทางฝั่งขวามือ และห้องแม่บ้านทางฝั่งซ้ายมือ พาเข้าไปดูในห้องน้ำกันก่อนนะคะ
ส่วนพื้นห้องน้ำจะลดระดับลงมาจากพื้นห้องครัวนิดหน่อย พื้นปูกระเบื้องผิวด้านขนาด 60 x 60 cm. ห้องน้ำทำขนาดมาพอดีๆค่ะ ใช้วัสดุโทนสีขาวสบายตา แยกส่วนแห้งและส่วนเปียกติดฉากกั้นห้องน้ำกระจกเทมเปอร์เข้ามุมมาให้
ผนังติดกระเบื้องมาให้จรดเพดานนะคะ เพดานติดไฟดาวน์ไลท์ พร้อมพัดลมดูดอากาศเหนือโถสุขภัณฑ์
อ่างล้างมือทำเคาน์เตอร์พร้อมชั้นวางของใต้อ่างพร้อมหน้าบานปิดสีขาวมาให้ และติดกระจกเงามาให้ได้ตามนี้ ใต้อ่างติดเครื่องทำน้ำร้อนมาให้เรียบร้อย
เทียบขนาดฝ่ามือกับอ่างล้างมือให้เห็นระยะใช้งานค่ะ ตัวอ่างเป็นทรงสี่เหลี่ยมของ Kohler รอบๆทำเคาน์เตอร์มาให้วางของได้เยอะทีเดียว
โถสุขภัณฑ์ของ Kohler ห้องนี้จะไม่ใช่แบบฝังและไม่มี Low Wall มาให้นะคะ สายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษชำระเป็นสีขาวเข้าชุดกัน
ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นห้องมาให้เป็นกระจกเทมเปอร์ มีก่อธรณีขึ้นมาประมาณ 5 ซม. เพื่อกั้นระหว่างพื้นส่วนเปียกส่วนแห้ง ฝักบัวของ Kohler มาพร้อม Rain Shower แบบเดียวกันกับห้องน้ำในห้องนอนเลย
ไปดูห้องนอนห้องสุดท้ายกันต่อค่ะ
จะเรียกว่าห้องแม่บ้านก็ไม่ถูกนัก เพราะบางบ้านอาจใช้เป็นห้องนอนแขก หรือห้องนอนของลูกๆก็ได้ค่ะ เหมือนมีครัวกะห้องน้ำเป็นของตัวเองเลย วางเตียงคู่ห้าฟุตได้ และมีประตูเปิดออกไประเบียงด้านหลังได้ด้วย มาเป็นห้องเปล่าค่ะ มี Built in โต๊ะเครื่องแป้งมาให้ดูระยะใช้งาน ในห้องได้หน้าต่างบานใหญ่ ทำให้ห้องมีแสงธรรมชาติเข้ามาไม่อับทึบ
มองไปทางประตูฝั่งเปิดไปห้องครัว จะมีแอร์แบบแขวนผนังติดมาให้เรียบร้อย
อย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่าห้องนี้มีประตูเปิดออกไประเบียงด้านหลังได้ค่ะ
พื้นระเบียงลดระดับลงต่ำกว่าพื้นห้องประมาณ 5 ซม. ตัวพื้นปูกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ทำรางระบายน้ำมาให้พร้อมก็อกน้ำ ใช้เป็นลานซักล้างและพื้นที่เอาไว้ตากผ้าได้ และกั้นกริลเหล็กทาสีขาวในส่วนราวกันตก วางแอร์คอมเพรสเซอร์แขวนมาเรียบร้อย
ห้องตัวอย่างห้องแรกเป็นห้อง Type C แบบ 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 165 ตร.ม. ตัวห้องแบ่งส่วน Private และ Public มาชัดเจน ส่วนไพรเวทอย่างห้องนอนและห้องน้ำจัดอยู่ฝั่งนึง และส่วนพับลิคหน่อยอย่างห้องนั่งเล่นริมระเบียงและพื้นที่รับประทานอาหารอยู่อีกฝั่งนึง ห้องขายแบบ Fully Fitted พร้อมติดเครื่องปรับอากาศ, เครื่องทำน้ำอุ่น และชุดครัวมาให้เรียบร้อย วัสดุอุปกรณ์ที่ได้ จะคล้ายๆกันกับห้องแรกที่พาไปดูแทบทุกอย่าง ต่างกันที่ผัจะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยค่ะ
เปิดประตูเข้าไปจะเจอส่วน Foyer เชื่อมต่อไปที่ส่วนห้องรับประทานอาหารและห้องนั่งเล่นที่เปิดออกไประเบียงได้ พื้นห้องเป็นพื้นแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 cm. เพดานห้องสูง 2.4 เมตร ไฟดาวน์ไลท์ ผนังห้องของจริงฉาบเรียบทาสีขาวนะคะ ห้องตัวอย่างตกแต่งผนังห้องเพิ่มมาให้ดูเป็นไอเดีย
ติดประตูทางเข้าห้อง ห้องตัวอย่างทำ Built in ม้านั่งสำหรับถอดรองเท้าพร้อมตู้รองเท้ามาให้ดูเป็นไอเดีย เปิดตู้ให้ดูระยะใช้งานค่ะ
มองไปผนังติดประตูอีกฝั่งทำช่องวางรองเท้ามาให้อีกจุด ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดี ด้านข้างมีประตูทางเข้าไปห้องแม่บ้านอยู่
ภายในห้องแม่บ้านมีระยะพอวางเตียงเดี่ยวกับตู้เสื้อผ้าได้นะคะ แต่บ้านไหนไม่ใช้แม่บ้าน ห้องนี้เอาไว้ทำเป็นห้องเก็บของหรือตู้เสื้อผ้าแบบ Walk in closet ไว้เก็บกระเป๋าหรือเสื้อผ้าก็เหมาะดีเหมือนกัน เรียกว่าเป็นห้องอเนกประสงค์ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละบ้านนะคะ
ถัดจาก Foyer เข้ามาด้าน พื้นห้องจะเป็นพื้นไม้สัก ของจริงจะเป็นพื้นที่โล่ง แต่ห้องตัวอย่างวาง Island พร้อมทำชุดเคาน์เตอร์ครัวมาให้ดูเป็นไอเดียและให้ดูระยะใช้งาน ซึ่งเพิ่มพื้นที่ในการเตรียมอาหารได้ดี และมีระยะใช้งานกำลังสวยเลยค่ะ
และมีประตูบานเปิดไปครัวปิด ซึ่งด้านในครัวปูกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาดนั่นเอง
ชุดครัวที่ได้เป็นชุดครัวรูปตัว L หน้าบานตู้เป็นบานสีขาว เปิดที่เก็บของในชุดครัวให้ดูค่ะ มีชั้นลอยมาให้เก็บจานชามหรือสิ่งของด้านบนเพิ่มได้ และที่เก็บของชั้นล่างใต้เคาน์เตอร์ ส่วนเตามาเป็นเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควันติดตั้งมาให้เรียบร้อย
มองไปทางฝั่งประตูทางเข้าห้องครัวค่ะ
ท้อปครัวเป็นหินแกรนิตสีดำ ด้านหลังชุดครัวที่ผนังมี Back Splash กันผนังเปื้อนมาให้ ทำให้เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย อ่างล้างจานเป็นอ่างสแตนเลสแบบ 2 หลุมพร้อมที่พักจานด้านข้าง
ออกมาดูส่วนห้องรับประทานอาหารกันต่อค่ะ ห้องตัวอย่างวางชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 8 ที่นั่งมาให้ดูระยะใช้งานที่กำลังสวย ถ้าไม่ทำ Island นี่วางชุดโต๊ะเก้าอี้แบบ 10 ที่นั่งได้สบายๆ
ระยะถอยเก้าอี้เข้าออกสบายๆ เพราะมีพื้นที่กว้างพอสมควร ใครชอบตกแต่งห้องด้วยภาพงานศิลปะหรือรูปภาพน่าจะชอบค่ะ มีผนังโล่งๆให้ติดภาพสวยๆได้หลายจุดเลย
ถัดจากส่วนห้องรับประทานอาหารมาเป็นส่วนห้องนั่งเล่นค่ะ ชอบที่แปลนห้องมีความต่อเนื่อง ทำให้การใช้งานยืดหยุ่นสามารถปรับใช้ได้หลากหลายตามไลฟ์สไตล์แต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน จะกั้นห้องเพิ่มก็ง่าย ระยะดูทีวีจากโซฟาประมาณ 3 เมตร วางทีวีขนาดใหญ่ 60 – 70 นิ้วได้สบายๆ
โซฟาวางโซฟา 3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกาแฟ มาให้ดูระยะใช้งาน สังเกตว่าเหลือที่ด้านข้างโซฟาพอทำชั้นวางของหรืออาร์มแชร์เพิ่มได้อยู่
มองไปทางชั้นวางทีวี ทำชั้นวางทีวีและ Built in ทำชั้นลอยวางของมาให้ดูเป็นไอเดีย ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้งานได้ดี
ห้องนั่งเล่นจะอยู่ติดกับประตูเปิดออกไประเบียงวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ โครงการใช้กระจกเขียวตัดแสง กรอบบานอลูมิเนียมสีขาว มือจับประตูเป็นแบบหูช้าง จับดึงเปิดปิดได้ง่ายและมีความแข็งแรงทนทาน
พื้นระเบียงลดระดับลงต่ำกว่าพื้นห้องประมาณ 5 ซม. ตัวพื้นระเบียงปูกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. เพดานติดไฟดาวน์ไลท์มาให้เรียบร้อย ราวกันตกเป็นกระจกเทมเปอร์ กรอบอลูมิเนียม ดูหรูหรา ระเบียงมีความกว้างมากพอวาง Day Bed ไว้นอนเล่นชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้
วิวแม่น้ำเจ้าพระยาจากระเบียงห้อง
กลับเข้ามาดูด้านในกันค่ะ เดี๋ยวเราพาไปดูห้องนอน 2 ห้องที่เหลือกันต่อนะคะ
ห้องนอนแรก ประตูอยู่ตรงข้ามกับห้องนั่งเล่น
ส่วนห้องนอนวางเตียงขนาด 6 ฟุตมาให้ ระยะเดินรอบเตียงสบายๆค่ะ
ส่วนห้องนอนฝังแอร์ที่ฝ้าผนังมาให้ของจริงได้ตามนี้ และมีมุมห้องไว้ให้วางโต๊ะทำงานหรือทำชั้นวางของเพิ่มใกล้หน้าต่างได้
ห้องตัวอย่างทำ Built in ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางทีวีปลายเตียงมาให้ดูระยะใช้งาน ซึ่งยังเหลือระยะเดินไปมาสบายๆ
มองไปอีกฝั่งของห้องนอนจะมีทางเข้าไปห้องน้ำในห้องนอนอยู่
ประตูทางเข้าเป็นกระจกแบบบานเลื่อนค่ะ เพื่อให้แสงธรรมชาติเข้าไปในห้องน้ำได้ และห้องนอนดูกว้างขึ้นนั่นเอง ใครรู้สึกว่าใสไป เอาฟิล์มฝ้ามาติดเพิ่มเองได้ไม่ยาก
อ่างล้างมือทำเคาน์เตอร์พร้อมชั้นวางของใต้อ่างพร้อมหน้าบานปิดสีขาวมาให้ และติดกระจกเงามาให้ได้ตามนี้ ใต้อ่างติดเครื่องทำน้ำร้อนมาให้เรียบร้อย
เทียบขนาดฝ่ามือกับอ่างล้างมือให้เห็นระยะใช้งานค่ะ ตัวอ่างเป็นทรงสี่เหลี่ยมของ Kohler รอบๆทำเคาน์เตอร์มาให้วางของได้เยอะทีเดียว
ผนังติดกระเบื้องมาให้จรดเพดานนะคะ เพดานติดไฟดาวน์ไลท์ พร้อมพัดลมดูดอากาศเหนือโถสุขภัณฑ์
โถสุขภัณฑ์ของ Kohler แบบฝัง สายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษชำระเป็นสีขาวเข้าชุดกัน ด้านหลังโถสุขภัณฑ์มี Low Wall ให้วางของเพิ่มได้ด้วย
ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นห้องมาให้เป็นกระจกเทมเปอร์ มีก่อธรณีขึ้นมาประมาณ 5 ซม. เพื่อกั้นระหว่างพื้นส่วนเปียกส่วนแห้ง
ฝักบัวของ Kohler มาพร้อม Rain Shower แบบเดียวกันกับห้องน้ำในห้องนอนอีกห้องเลย
ไปดูห้องนอนห้องถัดไปกันต่อค่ะ
เป็นห้องนอนใหญ่ ที่มีพื้นที่กว้างขวางอย่างที่เห็นค่ะ จะเห็นว่าปลายเตียงมีพื้นที่กว้างพอวางชุดโซฟาสำหรับดูทีวีในห้องนอนได้อีกชุดเลย
ห้องตัวอย่างวางเตียง 6 ฟุต พร้อมโต๊ะข้างเตียงมาให้ดูระยะใช้งานสบายๆ
ข้างเตียงเป็นหน้าต่างเข้ามุมขนาดใหญ่ เป็นกระจกบานฟิกซ์ แต่มีหน้าต่างบานกระทุ้งด้านข้างไว้ให้เปิดให้อากาศถ่ายเทนั่นเอง
วิวที่มองไปจากหน้าต่างค่ะ
มองไปอีกฝั่งของห้องนอน จะเห็นแอร์ฝังฝ้ามาให้ได้ตามนี้
ห้องตัวอย่างทำ Built in ตู้เสื้อผ้ามาให้ดูระยะใช้งานค่ะ
ภายในห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัวเช่นกันค่ะ โดยประตูห้องน้ำจะอยู่ใกล้ประตูทางเข้าห้องนอน
ผนังติดกระเบื้องมาให้จรดเพดานนะคะ เพดานติดไฟดาวน์ไลท์ พร้อมพัดลมดูดอากาศเหนือโถสุขภัณฑ์
อ่างล้างมือทำเคาน์เตอร์พร้อมชั้นวางของใต้อ่างพร้อมหน้าบานปิดสีขาวมาให้ และติดกระจกเงามาให้ได้ตามนี้ ใต้อ่างติดเครื่องทำน้ำร้อนมาให้เรียบร้อย แบบเดียวกันกับห้องน้ำในห้องอื่นๆ
ที่พิเศษกว่าห้องน้ำห้องอื่นๆคือ ห้องนี้จะมีอ่างอาบน้ำแบบจากุซซี่อยู่ด้วยค่ะ โดยวางเข้ามุมมาให้ พร้อมเจาะช่องผนังข้างอ่างเป็นที่วางของมาให้ด้วย เทียบฝ่ามือกับชุดฝักบัวในอ่างให้เห็นขนาดค่ะ
ถ่ายให้ดูที่นั่งในอ่างค่ะ
โถสุขภัณฑ์ของ Kohler แบบฝัง สายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษชำระเป็นสีขาวเข้าชุดกัน ด้านหลังโถสุขภัณฑ์มี Low Wall ให้วางของเพิ่มได้ด้วย
ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นห้องมาให้เป็นกระจกเทมเปอร์ มีก่อธรณีขึ้นมาประมาณ 5 ซม. เพื่อกั้นระหว่างพื้นส่วนเปียกส่วนแห้ง
เทียบขนาดฝ่ามือกับฝักบัวมาให้ดูจะเห็นว่ามีขนาดใหญ่ดีค่ะ นอกจากนี้มีที่วางสบู่ติดมาให้ใกล้ชุดฝักบัวอีก 1 อัน
ชุดฝักบัวมี Rain Shower มาให้ด้านบนด้วย
ออกมานอกห้องนอน ติดกับ Foyer หรือทางเดินเข้าห้อง จะมีห้องน้ำมาให้อีกห้อง ที่คนนอกหรือแขกสามารถเอาไว้ใช้เข้าได้ โดยไม่ต้องเข้าไปใช้ในห้องนอนนั่นเอง
พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงมาจากพื้นห้องนอนนิดหน่อย พื้นปูกระเบื้องผิวด้านขนาด 60 x 60 cm. ห้องน้ำทำขนาดมากำลังดีค่ะ แยกส่วนแห้งและส่วนเปียกมาให้ ระยะใช้งานกำลังสบายๆไม่อึดอัด สุขภัณฑ์เป็นของ Kohler วัสดุอุปกรณ์เป็นแบบเดียวกันกับห้องน้ำห้องอื่นๆเลย
ผนังติดกระเบื้องมาให้จรดเพดานนะคะ ที่เพดานเหนือโถสุขภัณฑ์จะมีพัดลมดูดอากาศติดมาให้ช่วยระบายอากาศ
โถสุขภัณฑ์ของ Kohler แบบฝัง สายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษชำระเป็นสีขาวเข้าชุดกัน ด้านหลังโถสุขภัณฑ์มี Low Wall ให้วางของเพิ่มได้ด้วย
ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นห้องมาให้เป็นกระจกเทมเปอร์ มีก่อธรณีขึ้นมาประมาณ 5 ซม. เพื่อกั้นระหว่างพื้นส่วนเปียกส่วนแห้ง ชุดฝักบัวของ Kohler มี Rain Shower มาให้ด้านบนเหมือนกันกับห้องน้ำในห้องนอน
ราคา (ธ.ค.59)
3 ห้องนอน ขนาด 175 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 16,000,000 บาท หรือ 91,429 บาท/ตร.ม.
โครงการขายแบบ Fully Fitted พร้อมชุดครัว เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องปรับอากาศ – เงินจอง 200,000 บาท – ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม. – ค่าส่วนกลาง 35 บาท/ตร.ม./เดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี) สอบถามราคาเพิ่มเติมกรุณาติดต่อสำนักงานขายเพื่อข้อมูลที่อัพเดตที่สุดค่ะ*
สรุป ทำเลที่ตั้งโครงการ – MY RESORT @ RIVER เป็นคอนโดมิเนียมที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 72 ใกล้ถนนใหญ่จรัญสนิทวงศ์ จุดเด่นของโครงการนอกจากวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงาม คือจากโครงการสามารถเข้าถึงใจกลางกรุงเทพฯได้ในเพียงไม่กี่นาที เพราะใกล้ทั้งสะพานพระราม 7, สะพานกรุงธน (ซังฮี้), สะพานพระราม 8,ใกล้ท่าเรือโดยสาร และใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เรียกว่าเป็นทำเลที่มีความสะดวกสบายสูง เดินทางสะดวกทั้งคนใช้รถและไม่ใช้รถ ความอุดมสมบูรณ์ – รอบๆโครงการจัดว่าเป็นโซนชุมชนที่มีความอุดมสมบูรณ์พอสมควร มีวัด มีร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้าในระยะใกล้เคียงโครงการที่อยู่ในระยะที่เดินไปได้ก็มีห้าง Tesco Lotus จรัญสนิทวงศ์ 70 ที่ช่วยอำนวยความสะดวกคนในโครงการได้เยอะทีเดียว ถัดไปหน่อยจะเป็น PATA ที่เป็นห้างเก่าแก่ ภายในมีร้านค้าและธนาคาร ที่รอบๆห้างเองก็มีร้านอาหารและร้านขายของรอบๆหลากหลาย นอกจากนี้บนเส้นบรมราชชนนีก็มีห้างอยู่เยอะค่ะไม่ว่าจะเป็น Tesco Lotus ปิ่นเกล้า, Central ปิ่นเกล้า, คอมมิวนิตี้ มอลล์ The Sense อยากดูหนังก็มี Major ปิ่นเกล้า อยู่ฝั่งตรงข้าม Central ปิ่นเกล้า อยู่
ขยับออกไปหน่อย จะมีตลาดสด 3 ตลาด ได้แก่ ตลาดบางขุนศรี ตลาดสหกรณ์ศาลาน้ำเย็น และตลาดบางขุนนนท์, Makro จรัญสนิทวงศ์, Foodland, โรงพยาบาลศิริราช 5.7 กม., โรงพยาบาลหู ตา คอ จมูก, สวนหลวงพระราม 8 และจากโครงการก็ห่างจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์แค่ประมาณ 6.4 กิโลเมตรเท่านั้น
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – สำหรับคนใช้รถ โครงการ ตั้งอยู่ย่านฝั่งธนฯ ในเขตบางพลัด ทางเข้าออกอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ ฝั่งมุ่งหน้าไปแยกบางพลัด ถือว่าเป็นทำเลที่เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก มีเส้นทางลัดเลาะได้หมด จากโครงการสามารถเข้าถึงใจกลางกรุงเทพฯได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที เพราะใกล้ทั้งสะพานพระราม 7, สะพานกรุงธน (ซังฮี้), สะพานพระราม 8
ถ้าจะเข้าเมือง ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาจะเป็นฝั่งพระนครโซนในที่เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ สถานศึกษา โรงพยาบาล และสถานที่ราชการมากมายค่ะ ข้ามผ่านสะพานพระราม 8, สะพานซังฮี้ ข้ามไปสามเสน ราชวิถี เข้าอนุสาวรีย์ชัยฯ หรือมาเข้าศรีอยุธยาไปพญาไทยาวไปพระราม 9 หรือมาถนนพิษณุโลกจะไปเชื่อมกับถนนเพชรบุรีได้ หรือข้ามสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ไปถนนพระอาทิตย์ สนามหลวงก็ใกล้ๆไม่กี่นาทีถึงเช่นกัน
ส่วนถ้าจะออกเมืองวิ่งเส้นบรมราชชนนี ไปโซนพุทธมณฑล ราชพฤกษ์ วงแหวนกาญจนาภิเษก หรือไปศาลายา ยาวออกต่างจังหวัดไปนครปฐม ราชบุรี ส่วนเส้นจรัญสนิทวงศ์จะไปเชื่อมกับถนนเพชรเกษมไปพระราม 3 บางแค หนองแขม อ้อมน้อย ก็สะดวกดี แต่ย่านนี้รถจะติดหนักในช่วงเวลาเร่งด่วน โดยเฉพาะเส้น บรมราชชนนี และจรัญสนิทวงศ์ซึ่งตอนนี้มีก่อสร้างรถไฟ้ฟ้าด้วยคงต้องเผื่อเวลากันหน่อย
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – สำหรับคนไม่ใช้รถ โครงการใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินบางซื่อ-ท่าพระ สถานี บางพลัด ห่างจากโครงการประมาณ 450 เมตร โดยตอนนี้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินยังอยู่ในช่วงก่อสร้าง จะเปิดใช้ได้ประมาณปี 2563 ถึงตอนนั้นคนไม่ใช้รถก็จะมีตัวเลือกในการเดินทางเข้า-ออกเมืองเพิ่มขึ้นอีกทาง
นอกจากนี้จะมีอีกสถานีที่อยู่ใกล้โครงการเช่นกันคือ รถไฟฟ้าสถานีสิรินธร ที่แยกบางพลัด ในอนาคตจะเป็นสถานี Interchange กับ MRT สายสีส้ม สามารถวิ่งไปเปลี่ยนสายไป BTS สายสีเขียวได้ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในอนาคตคนไม่ใช้รถจะมีความสะดวกสบายสูง เชื่อมต่อไปจุดสำคัญๆและตัวเมืองชั้นในได้ด้วยการนั่งรถไฟฟ้าไปไม่กี่สถานีเท่านั้น
จากโครงการออกมาที่ถนนใหญ่จรัญสนิทวงศ์ห่างจากโครงการประมาณ 270 เมตร จะมีป้ายรถเมล์อยู่แถวปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 72 โดยจะมีรถเมล์สาย 108, 175, 23, 56, 103, 203, ปอ. 10, ปอ.พ.4 วิ่งผ่าน เราสามารถนั่งข้ามไปฝั่งพระนครเพื่อเข้าเมืองได้สะดวก
นอกจากนี้โครงการยังอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาและมีท่าเรือส่วนตัวแล้ว จะมี ท่าเรือด่วนเจ้าพระยา พระยาจอดรับส่งผู้โดยสารทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ โดยจากโครงการสมมติเราอยากข้ามไปท่าพระจันทร์ ไปม.ธรรมศาสตร์ หรือไปเดินถนนพระอาทิตย์ ไปหาอะไรกินที่ข้าวสาร เราสามารถเดินไปรอเรือได้ที่ ท่าเรือวัดอาวุธวิกสิตาราม สามารถข้ามไปท่าเรือพระอาทิตย์ เพื่อไปถนนข้าวสาร หรือไปท่าเรือมหาราชเพื่อไปม. ธรรมศาสตร์ ได้ใกล้ๆค่ะ
การออกแบบโครงการและวัสดุ – โครงการ เป็นคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่แบบ High Rise 37 ชั้น ยูนิตรวมทั้งโครงการเพียง 123 ยูนิตเท่านั้น ความพิเศษของโครงการนี้คือเป็นโครงการที่อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งระเบียงทุกห้องเปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้หมด และเป็นวิวส่วนโค้งน้ำที่สวยของกรุงเทพฯด้วยค่ะ ส่วนที่พักอาศัยเริ่มที่ชั้น 6 โดยชั้น 6 – 35 เป็น Typical Floor Plan หรือผังอาคารจะเหมือนๆกันค่ะ คือมีความหนาแน่นสูงสุดเพียงชั้นละ 4 ยูนิตเท่านั้น เป็นห้องใหญ่ เน้นกลุ่มผู้ซื้อตลาดบนอย่างชัดเจน ส่วนชั้น 36 – 37 เป็น Penthouse ขนาดใหญ่มากแบบ Duplex หรือแบบ 2 ชั้นของโครงการ ตัวห้องขายแบบ Fully Fitted คือมีชุดครัวมาให้พร้อมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำน้ำร้อนมาให้ทุกห้อง ฝ้าเพดานสูง 2.4 ม. เพดานติดไฟดาวน์ไลท์ พื้นเป็นไม้สักแท้ และส่วนครัว ระเบียงและห้องน้ำเป็นแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม. สุขภัณฑ์ Kohler พร้อมฉากกั้นห้องน้ำ และชุดครัว Built in มาให้ ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดี แบบห้องมีการจัดวางระยะใช้สอยที่ใช้งานได้สบายและลงตัว ไม่อึดอัด
สิ่งอำนวยความสะดวก – พื้นที่ส่วนกลางหรือ Facilities ของโครงการนี้ทำมาแนวโรงแรมและรีสอร์ทตามชื่อโครงการเลย ชั้น 1 – 3 เป็นที่จอดรถ ที่จอดได้ถึง 200% ของยูนิตโครงการ, ชั้น 4 มีสระว่ายน้ำแบบ Infinity-Edge + จากุชชี่ วิวแม่น้ำเจ้าพระยา, ห้องซาวน่า, สนามเทนนิส, ห้องตีสควอช, ห้องจัดเลี้ยง และ สำนักงานขายโครงการ, ชั้น 5 มีห้องฟิตเนส, สปา, ห้องประชุม, ห้องสมุด
อาคารชั้นล่างจะมีล็อบบี้ ห้องจดหมาย และบันไดเวียนขึ้นไปสู่ส่วนกลางชั้น 4 ค่ะ มีลิฟท์โดยสารแบบ High Speed มาให้ 2 ตัว แบบล็อกชั้น และลิฟต์บริการ 1 ตัว ถือว่าเป็นอัตราส่วนที่สบายๆเลย เมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตโครงการที่มีเพียง 123 ยูนิตเท่านั้น
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ
8
โครงการติดแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้ถนนใหญ่จรัญสนิทวงศ์ อนาคตมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินตัดผ่าน
การเดินทาง ใช้รถ
8
มีเส้นทางลัดเลาะได้หมด จากโครงการสามารถเข้าถึงใจกลางกรุงเทพฯได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที เพราะใกล้ทั้งสะพานพระราม 7, สะพานกรุงธน (ซังฮี้), สะพานพระราม 8
การเดินทาง ไม่ใช้รถ
7.5
สะดวกเพราะในระยะเดินมีทั้งวินมอเตอร์ไซค์ รถเมล์ ตุ๊กๆ และแท็กซี่ผ่านไปมาตลอด มีท่าเรือส่วนตัวในโครงการ และใกล้ท่าเรือวัดอาวุธ เดิน 450 เมตรจากโครงการถึง รถไฟฟ้าสายอนาคนชตMRT บางพลัด
ห้องและวัสดุ
8
แปลนห้องแบ่งได้เป็นสัดส่วนลงตัว ขายแบบ Fully Fitted วัสดุที่ได้มีความใส่ใจรายละเอียดดี
สิ่งอำนวยความสะดวก
8
มีให้ครบครันและออกแบบได้น่าใช้งาน
ความคุ้มค่ากับราคา
8
ราคาเริ่มต้นตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 91,000 บาท/ตร.ม. ได้คอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ทำเลจรัญสนิทวงศ์ ใกล้รถไฟฟ้า MRT อนาคตสถานี บางพลัด ไปไหนมาไหนสะดวก ขายแบบ Fully Fitted พร้อมชุดครัว และเครื่องปรับอากาศ
คะแนนรวมเฉลี่ย
8
ดีมาก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel.: 02-461-2950
Website : http://www.myresort.co.th/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
มีรีวิวให้ดูแบบเต็มๆไหมครับ กำลังจะหาคอนโดในกรุงเทพอยู่ครับ
ที่นี่เราว่าราคาไม่แพงเกินไป สมเหตุสมผล
ใน1ชั้นมีแค่4ยูนิตเอง ที่ชอบมากคือวิวสวยมาก
บรรยากาศร่มรื่น ลมเย็นมากด้วย