โดยรายละเอียดที่เราจะพาท่านไปชมก็จะมีทำเลที่ตั้งโครงการ, สภาพแวดล้อม, ข้อมูลโครงการ และห้องตัวอย่างแบบเจาะลึก เชิญติดตามอ่านที่ด้านล่างนี้ได้เลยค่า
คอนโด NICHE MONO ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
NICHE MONO สุขุมวิท 50
NICHE MONO สุขุมวิท-แบริ่ง
NICHE MONO สุขุมวิท-ปู่เจ้า
NICHE MONO บางนา
NICHE MONO บางนา เฟส 2
NICHE MONO เมกะ สเปซ บางนา
NICHE MONO PEAK BANGNA
NICHE MONO รามคำแหง
ชื่อโครงการ |
นิช โมโน เมกะ สเปซ บางนา Niche MONO Mega Space Bangna |
เจ้าของโครงการ |
เสนา เอชเอชพี 4 |
เนื้อที่ทั้งหมด |
3 – 3 – 46.6 ไร่ |
จำนวนตึก |
1 อาคาร |
จำนวนชั้น |
40 ชั้น + ชั้น Rooftop |
จำนวนห้อง |
795 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
- 1 Bedroom : 30.00 ตร.ม. (360 ยูนิต)
- 1 Bedroom Plus : 34.90 ตร.ม. (301 ยูนิต)
- 2 Bedrooms : 50.00 ตร.ม. (134 ยูนิต)
|
ที่จอดรถทั้งหมด |
คิดเป็น 70% (รวมซ้อนคันและ Lady Parking 6 คัน) |
จำนวนลิฟต์ |
- Passenger Lift 4
- Service Lift 1
|
โซน |
บางนา |
ขนส่งสาธารณะ |
- ทางพิเศษบูรพาวิถี
- ทางพิเศษกาญจนาภิเษก
- ถนนบางนา-ตราด
- ถนนศรีนครินทร์
|
รถโดยสารที่ผ่าน |
n/a |
ที่ตั้ง |
ทางคู่ขนาน ถนนบางนา – ตราด ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ |
กำหนดการ |
Pre – sale วันที่ 17 พฤศจิกายน 2561 |
ปีที่สร้างเสร็จ |
คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งโครงการ ไตรมาสที่ 1 ปี 2564 |
ราคา |
- เริ่มต้น 2.2 ล้านบาท* (ราคา Pre – sale)
- เงินจอง 1 Bedroom : 10,000 บาท
- เงินจอง 2 Bedroom : 20,000 บาท
- เงินทำสัญญา 1 Bedroom : 20,000 บาท
- เงินทำสัญญา 2 Bedroom : 30,000 บาท
|
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม |
เริ่มต้น ประมาณ 83,000 บาท/ตร.ม.* (ราคา Pre – sale) |
ค่าส่วนกลาง |
- ค่าส่วนกลาง : ปีแรก 50 บาท/ ตร.ม./เดือน (จัดเก็บล่วงหน้า 1 ปี)
- เงินกองทุน : 500 บาท/ตร.ม.
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
ห้างสรรพสินค้า
- MEGA บางนา : 3.0 กม.
- Makro ศรีนครินทร์ : 3.6 กม.
- Big C ศรีนครินทร์ : 3.8 กม.
- Index บางนา : 5.0 กม.
- ราม 2 ไนท์บาร์ซาร์ : 5.2 กม.
- เซ็นทรัลบางนา : 5.3 กม.
- Foodland ศรีนครินทร์ : 5.3 กม.
- Jas Urban : 5.5 กม.
- พาราไดซ์พาร์ค : 5.8 กม.
- HomePro & Tesco Lotus บางพลี (Market Village) : 6.4 กม.
- Makro บางพลี : 7.4 กม.
- ซีคอนสแควร์ : 9.1 กม.
- Lotus Plus Mall ศรีนครินทร์ : 10.3 กม.
- Big C บางพลี : 11.2 กม.
- ตลาดกุนธร : 10.8 กม.
สถานศึกษา
- รร.ราชวินิตบางแก้ว : 2.3 กม.
- รร.นานาชาติคอนคอร์เดียน : 3.4 กม.
- รร.ลาซาล : 4.1 กม.
- รร.นานาชาติบางกอกพัฒนา : 5.2 กม.
- ม.รามคำแหง 2 : 5.4 กม.
- รร.เซนโยเซฟ บางนา : 6.6 กม.
- รร.นานาชาติเบิร์คลีย์ : 6.7 กม.
- รร.เซนต์แอนดรูว์ : 11.2 กม.
- ม.หัวเฉียว : 12.8 กม.
ศูนย์การแพทย์
- รพ.ปิยมินทร์ : 800 ม.
- รพ.บางนาเยนเนอรัล : 2.6 กม.
- รพ.บางนา 1 : 2.9 กม.
- รพ.ศิครินทร์ : 3.3 กม.
- รพ.ไทยนครินทร์ : 5.9 กม.
- รพ.บางพลี : 10.2 กม.
- รพ.เปาโล : 10.4 กม.
- รพ.บางนา 5 : 11.6 กม.
- รพ.จุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ท : 11.7 กม.
- รพ.จุฬารัตน์ 3 อินเตอร์เนชั่นแนล : 14.8 กม.
ศาสนสถานและอื่นๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
- สนามบินสุวรรณภูมิ : 20.5 กม.
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
- Lobby
- Garden Lobby
- Green Park Co – Working Space
- Co – Meeting Space
- Chill – Out Terrace
- Washing Machine Area
- Convenience Store
- Bike Lane
- Sky Infinity Edge Pool
- Sky Fitness
- Sliding Hill
- Kid Adventure
- Sunrise & Sunset Court
- Moon Terrace
- Reading Lounge
- Sky Lounge
- Cinema Space
- Co – Party & Co – Kitchen
- CCTV
- 24 Hour Security
|
จุดเด่นของโครงการ |
Niche MONO Mega Space Bangna | 1 ใน MEGA PROJECT จาก เสนา ฮันคิว คอนโด High Rise ที่มาพร้อมพื้นที่ห้องที่กว้างกว่า ด้วยห้องขนาด 30 ตร.ม. / พื้นที่จอดรถ 70% / พื้นที่ส่วนกลางมากถึง 3 ชั้น |
โครงการใกล้เคียง
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ทางคู่ขนาน ถนนบางนา-ตราด ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
พิกัด Google Maps : 13.660787, 100.660846
ทำเลที่ตั้ง โครงการ Niche MONO เมกะ สเปซ บางนา ตั้งอยู่บนถนนบางนา – ตราดฝั่งขาเข้าเมืองในช่วง กม.6 ค่ะ จุดเด่นในย่านนี้คือเป็นทำเลฝั่งตะวันออกซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์สูงและถือเป็น New Central Business District ส่วนต่อขยายของตัวเมืองกรุงเทพฯอีกแห่งหนึ่ง อยู่ใกล้ทางพิเศษบูรพาวิถี, ทางพิเศษเฉลิมมหานคร และวงแหวงกาญจนาฯ ซึ่งสามารถเดินทางเข้า – ออกตัวเมืองกรุงเทพฯได้สะดวก
ข้อดีของทำเลที่ตั้งโครงการคือมีซอยทางลัดอยู่ใกล้ๆ ไปยังถนนเส้นหลักใกล้เคียงได้ จึงถือเป็นทำเลที่ดีสำหรับคนที่หาที่อยู่ในย่านบางนา พื้นที่ส่วนใหญ่โดยรอบจะเป็นโครงการที่อยู่อาศัยในแนวราบที่กำลังพัฒนา ซึ่งมีแนวโน้มว่าในอนาคตความคึกคักในย่านนี้จะมากขึ้นตามไปด้วย
กราฟฟิกแสดงให้เห็นซอยทางลัดที่อยู่ใกล้กับตัวโครงการค่ะ จากตัวโครงการจะมีซอยลัดเข้า MEGA&IKEA บางนา จากซอยวัดคลองปลัดเปรียงเชื่อมสู่ถนนบัวนครินทร์และซอยเมืองแก้ว จากนั้นให้วิ่งตามเส้นสีเลือดหมูไปค่ะ ไม่ต้องไปกลับรถบนเส้นบางนา – ตราด ถ้าเลี้ยวซ้ายตามเส้นสีทองจะสามารถขึ้นทางด่วนบูรพาวิถีเพื่อเข้าเมืองได้ แต่ถ้าเลี้ยวขวาไปตามเส้นสีฟ้าไปกลับรถใต้ถนนกาญจนาภิเษก จะสามารถขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษกเพื่อมุ่งหน้าไปพระราม 2 ได้ ในกรณีที่การจราจรบนเส้นบางนา – ตราดกำลังติดขัดค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ เส้นการเดินทางหลักๆ เลยก็จะเป็นถนนบางนา – ตราด ถือว่าเป็นเส้นที่เดินทางได้สะดวกเพราะเป็นถนนใหญ่ขนาด 8 – 14 ช่องจราจร เป็นเส้นที่เชื่อมไปยังถนนกิ่งแก้วและถนนตำหรุ – บางพลีซึ่งเป็นถนนเส้นอุตสาหกรรมเหมือนกัน จึงมีโรงงานและอาคารของบริษัทเอกชนอยู่เป็นระยะๆ ดังนั้นบนถนนเส้นนี้จะมีรถบรรทุกและรถใหญ่วิ่งกันค่อนข้างเยอะ
โดยถนนบางนา – ตราดจะเป็นถนนเส้นที่ขนานกับแกนตะวันออก – ตะวันตก จะวิ่งไปตัดกับถนนสายสำคัญอีกหลายสายอย่างถนนกาญจนาภิเษกช่วงฝั่งใต้ เป็นเส้นที่มีความคล่องตัวสูง สามารถเดินทางไปยังพระราม 2 – บางปะอินได้สะดวก, ถนนศรีนครินทร์ที่วิ่งไปตัดกับเส้นเทพารักษ์และอุดมสุข สามารถขึ้นไปถึงเส้นอ่อนนุช, รามคำแหง และลาดพร้าวได้ ถัดจากศรีนครินทร์ไปก็จะไปเชื่อมกับถนนสุขุมวิทวิ่งขึ้นไปยังแถบปทุมวันจนถึงอโศกได้เลย ส่วนอีกด้านหนึ่งทางทิศตะวันออก ถนนบางนา – ตราดจะวิ่งไปผ่านฉะเชิงเทราไปถึงชลบุรีเลยค่ะ ตรงนั้นจะไปบรรจบกับถนนสุขุมวิทที่ทางแยกต่างระดับหนองไม้แดงเรียกได้ว่าที่ตั้งโครงการนั้นสามารถเดินทางได้หลายเส้นทาง แต่จะต้องรู้ช่วงเวลาด้วยว่าช่วงไหนรถติดตรงไหน เพื่อที่จะได้หลบหลีกเส้นทางเอาค่ะ
ทางด่วน ตัวโครงการอยู่ใกล้จุดขึ้นทางด่วนหลายจุดค่ะ ทั้งทางพิเศษเฉลิมมหานครอยู่ห่างออกไปเพียง 6.5 กม. วิ่งบนถนนบางนา – ตราดตรงไปได้สะดวก เป็นฝั่งขาเข้าเมืองใช้เข้าเมืองไปลงพระราม 4 เข้าสาทร, เพชรบุรี – พัฒนาการ หรือยาวไปโซนรามอินทราได้เลย
ส่วนขาออกเมืองวิ่งออกไปทางชลบุรี จุดขึ้นทางด่วนจะอยู่ห่างออกไป 8.5 กม. ต้องกลับรถไปอีกฝั่งก่อนนะ
นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับจุดขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษกด้วยค่ะ ทั้งฝั่งขาไปรามคำแหง
และฝั่งขาลงไปยังโซนบางขุนเทียน – พระราม 2
ความอุดมสมบูรณ์ บนเส้นบางนา – ตราดนั้นถือว่าอุดมสมบูรณ์ทีเดียวค่ะ มีทั้งเซ็นทรัลบางนา และ Index Living Mall ในอนาคตจะมี Bangkok Mall มาเปิดตรงแยกบางนาอีกด้วย มี Hypermarket อย่าง Makro และ Tesco Lotus ใกล้ๆ โครงการในระยะเดินไม่ถึง 100 เมตรก็มี Att Park ภายในมี Starbuck ให้ไปนั่งจิบกาแฟทานอาหารว่างระหว่างทำงาน และร้านอาหารญี่ปุ่นราคาย่อมเยาให้ไปฝากท้องในช่วงเที่ยงวันได้
ส่วนที่น่าสนใจที่สุดในย่านนี้เลยก็จะเป็นแอเรียบริเวณ Mega บางนา ที่เรียกได้ว่าเป็นศูนย์การค้าแนวราบที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนแล้ว และตอนนี้ยังมีประกาศเดินหน้าโครงการ Mega City ซึ่งเป็นโปรเจคอสังหาฯแบบมิกซ์ยูส ครอบคลุมตั้งแต่พื้นที่สำหรับอยู่อาศัย, ออฟฟิศสำนักงาน, แหล่งช้อปปิ้ง, ร้านอาหารชื่อดัง และสถานที่ให้ได้ใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์อันหลากหลายอย่างครบวงจร
ถ้าออกไปทางถนนศรีนครินทร์ มีทั้ง Lotus, Jas Urban เป็นศูนย์การค้า, Foodland, Big C, Makro ผ่านแยกบางนา – ศรีนครินทร์ขึ้นไปก็มี Paradise Park, Seacon Square และตลาดนัดรถไฟ ขายของสไตล์วินเทจ ส่วนบนเส้นสุขุมวิทก็จะมีทั้งตลาดสด, Big C สำโรง และอิมพีเรียลสำโรง นอกจากนี้ตัวโครงการยังอยู่ใกล้กับสถานศึกษาทั้ง รร.ไทย และ รร.นานาชาติ รวมถึงโรงพยาบาลอีกหลายแห่ง ป่วยไข้สบายใจเพราะขับรถไปเพียงไม่กี่กิโลก็ถึงค่ะ
โครงการระดับ Flagship จากเดอะมอลล์กรุ๊ป ตรงจุดตัดถนนบางนา – ตราดและถนนสุขุมวิท (ตรงข้ามกับ BITEC บางนาพอดี) เชื่อมกับรถไฟฟ้า BTS ที่สถานีอุดมสุขและสถานีบางนา บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ นั่นก็คือ Bangkok Mall มีพื้นที่โครงการมากกว่า 650,000 ตร.ม. เป็นอาณาจักรแห่งศูนย์การค้า, ที่อยู่อาศัย และออฟฟิศแบบครบวงจร ที่ทันสมัยและสมบูรณ์แบบมากที่สุดในเอเชีย
ภายใต้คอนเซ็ปต์ City within the City หรือเมืองในเมืองที่สมบูรณ์แบบ ออกแบบอาคารโดยใช้สถาปัตยกรรม The Ultra Modern & Spectacular Architecture ที่ล้ำสมัย มีกำหนดเปิดให้บริการภายในปี พ.ศ.2566 จะเป็นโครงการศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงยังเป็นหนึ่งในศูนย์การค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วยค่ะ
โครงการ Mega City เป็นอาณาจักรในรูปแบบ “Mixed – use Development” ที่จะถูกผลักดันให้เป็น “เมืองแห่งกรุงเทพตะวันออก” บนที่ดินกว่า 400 ไร่ ครอบคลุมทั้งศูนย์การค้าเมกาบางนา สถาบันการศึกษา คอนโดมิเนียม โรงแรม ศูนย์รวมความบันเทิงและความรู้ รวมถึงสวนสาธารณะ ตามรูปแบบการพัฒนาแบบยั่งยืนในระดับเมือง ที่สามารถรองรับผู้ใช้บริการได้มากกว่า 250,000 คนต่อวัน
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ บริเวณหน้าโครงการมีรถสาธารณะวิ่งผ่านตลอดไม่ว่าจะเป็น รถแท็กซี่, วินมอเตอร์ไซค์ รวมถึงรถเมล์ประจำทาง โดยจะมีป้ายรถเมล์อยู่ที่หน้าโครงการพอดีเลย ถือว่าสามารถเดินทางด้วยรถสาธารณะได้ไม่ยาก
ในอนาคตบนเส้นบางนา – ตราดจะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียววิ่งผ่าน ช่วง บางนา – สุวรรณภูมิ สถานีที่ใกล้ที่สุดก็คือ สถานีบางนา กม.6 หรือ สถานีปลัดเปรียง ซึ่งตัวสถานีจะอยู่ตรงหน้าโครงการพอดีเลยค่ะ และที่เส้นศรีนครินทร์ก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองวิ่งผ่าน ช่วง พัฒนาการ – สำโรง เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่สถานีสำโรง แต่ในปัจจุบันรถไฟฟ้าที่อยู่ใกล้โครงการมากที่สุดก็คือรถไฟฟ้า BTS สถานีบางนาค่ะ
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนกาญจนาภิเษก > ถนนบางนา – ตราด > โครงการ Niche MONO เมกะ สเปซ บางนา
เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากวงแหวนกาญจนาภิเษก ใช้เวลาไปถึงโครงการไม่เกิน 15 นาทีค่ะ ให้เราสังเกตป้ายชลบุรี – บางนาเอาไว้นะ
วิ่งตามป้าย ชลบุรี – บางนา ชิดซ้ายเอาไว้ เพื่อออกซ้ายตรงทางแยก
เมื่อออกซ้ายมาแล้วให้เราชิดขวาวิ่งตามป้ายบางนาไปค่ะ
ชิดขวาขึ้นสะพานยกระดับไปนะคะ จะไปลงถนนบางนา – ตราดฝั่งขาเข้าตัวเมือง ถ้าออกฝั่งซ้ายจะเป็นขาออกนอกตัวเมืองนะ
จากสะพานยกระดับจะมาลงที่ทางคู่ขนานบางนา – ตราด ฝั่งซ้ายมือเราจะเห็น MEGA บางนาค่ะ
เรายังวิ่งบนทางคู่ขนานไปเรื่อยๆ นะ ให้เราสังเกตป้าย เทพารักษ์ – บางกะปิ – บางนา เอาไว้
ขับตรงไปเรื่อยๆ จะเห็นอาคารบางนาทาวเวอร์ให้เราชิดซ้ายเลยค่ะ
เลยจากบางนาทาวเวอร์ไปหน่อยเราจะผ่าน Att U PARK เราเห็นสะพานลอยข้างหน้า ถัดไปคือทางเข้าโครงการค่ะ
ทางเข้าโครงการจะอยู่ถัดจากสะพานลอยเลยค่ะ ส่วนสำนักงานขายก็อยู่ข้างๆ กันเลย
สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
- ถนนบางนา – ตราด : 350 ม.
- ถนนศรีนครินทร์ : 2.4 กม.
- ถนนกาญจนาภิเษก : 4.3 กม.
- ถนนเทพารักษ์ : 6.6 กม.
- ถนนตำหรุ-บางพลี : 8.4 กม.
- ถนนสาย 3256 : 9.3 กม.
- ถนนกิ่งแก้ว : 12.9 กม.
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
- MEGA บางนา : 3.0 กม.
- Makro ศรีนครินทร์ : 3.6 กม.
- Big C ศรีนครินทร์ : 3.8 กม.
- Index บางนา : 5.0 กม.
- ราม 2 ไนท์บาร์ซาร์ : 5.2 กม.
- เซ็นทรัลบางนา : 5.3 กม.
- Foodland ศรีนครินทร์ : 5.3 กม.
- Jas Urban : 5.5 กม.
- พาราไดซ์พาร์ค : 5.8 กม.
- HomePro & Tesco Lotus บางพลี (Market Village) : 6.4 กม.
- Makro บางพลี : 7.4 กม.
- ซีคอนสแควร์ : 9.1 กม.
- Lotus Plus Mall ศรีนครินทร์ : 10.3 กม.
- Big C บางพลี : 11.2 กม.
- ตลาดกุนธร : 10.8 กม.
สถานศึกษา
- รร.ราชวินิตบางแก้ว : 2.3 กม.
- รร.นานาชาติคอนคอร์เดียน : 3.4 กม.
- รร.ลาซาล : 4.1 กม.
- รร.นานาชาติบางกอกพัฒนา : 5.2 กม.
- ม.รามคำแหง 2 : 5.4 กม.
- รร.เซนโยเซฟ บางนา : 6.6 กม.
- รร.นานาชาติเบิร์คลีย์ : 6.7 กม.
- รร.เซนต์แอนดรูว์ : 11.2 กม.
- ม.หัวเฉียว : 12.8 กม.
ศูนย์การแพทย์
- รพ.ปิยมินทร์ : 800 ม.
- รพ.บางนาเยนเนอรัล : 2.6 กม.
- รพ.บางนา 1 : 2.9 กม.
- รพ.ศิครินทร์ : 3.3 กม.
- รพ.ไทยนครินทร์ : 5.9 กม.
- รพ.บางพลี : 10.2 กม.
- รพ.เปาโล : 10.4 กม.
- รพ.บางนา 5 : 11.6 กม.
- รพ.จุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ท : 11.7 กม.
- รพ.จุฬารัตน์ 3 อินเตอร์เนชั่นแนล : 14.8 กม.
ศาสนสถานและอื่นๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
- สนามบินสุวรรณภูมิ : 20.5 กม.
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
ตัวโครงการจะเซ็ทเข้ามาจากถนนบางนา – ตราดประมาณ 350 เมตรค่ะ สภาพแวดล้อมโครงการล้อมรอบด้วยที่ดินเปล่าผืนใหญ่, หมู่บ้าน, บ้านพักอาศัย 1 – 2 ชั้น และอาคารพาณิชย์
- ทิศเหนือ ติดกับ ซอยวัดคลองปลัดเปรียง
- ทิศใต้ ติดกับ อาคารพาณิชย์ สูง 4 ชั้น
- ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ดินพัฒนาโครงการในอนาคต
- ทิศตะวันตก ติดกับ บ้านพักอาศัย สูง 1 – 2 ชั้น
ตอนนี้เราอยู่ที่บริเวณหน้าที่ตั้งโครงการกันแล้วนะคะ ส่วนสำนักงานขายจะตั้งอยู่ข้างๆ ทางเข้าโครงการที่สร้างเสร็จและได้เปิดให้ชมห้องตัวอย่างกันแล้วค่ะ
เดี๋ยวเรามาเดินสำรวจทำเลโดยรอบโครงการกันเลยค่ะ จะได้เห็นว่ามีอะไรอยู่แถวนี้บ้าง ข้ามไปยังอีกฝั่งของถนนบางนา – ตราดเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 5 ชั้น
หันไปทางฝั่งขวามือ ทางเข้าโครงการจะอยู่ติดกับสะพานลอยเลยค่ะ สามารถเดินข้ามฟากไปยังฝั่งตรงข้ามได้
ถัดจากสะพานลอยก็คือโชว์รูมของ TOYOTA
ข้างๆ กับโชว์รูมคือ Att U PARK ค่ะ ภายในร้าน Starbuck และร้านอาหารญี่ปุ่นราคาย่อมเยาให้มาฝากท้องกันในช่วงเที่ยงได้
เดินตรงต่อไปเรื่อยๆ จนถึงบางนาทาวเวอร์ ในนั้นจะมี 7 – Eleven อยู่ 1 สาขา สามารถเดินไปได้สะดวก พื้นที่ติดถนนใหญ่บางส่วนยังคงเป็นที่ดินเปล่าอยู่ค่ะ
หันไปทางซ้ายมือมุ่งหน้าไปทางบางนาเราจะเดินไปสำรวจบริเวณทางฝั่งนี้กันต่อ
ที่หน้าโครงการเลยจะมีป้ายรถเมล์อยู่พอดีค่ะ สายที่ผ่านจะมีระบุไว้ให้ที่ป้ายแล้วมีอยู่หลายสายเหมือนกัน มองไปที่ด้านหลังป้ายรถเมล์ก็คือสำนักงานขายของโครงการนั่นเอง
แต่ถ้าเราเดินเลยไปแล้วเลี้ยวซ้ายจะเข้าสู่ซอยวัดคลองปลัดเปรียง จากซอยนี้เราสามารถใช้เป็นทางลัดไปทะลุยังถนนใหญ่สายหลักเส้นอื่นๆ ได้อีกด้วย
คราวนี้เรากลับมาที่สำนักงานขายค่ะ เราจะเข้าไปดูด้านในด้วยกันเลย
บรรยากาศภายในสำนักงานขายค่ะ ภายในสำนักงานขายแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายประจำอยู่และคอยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวโครงการ เราสามารถขอเข้าชมห้องตัวอย่างที่อยู่ทางด้านหลังได้เลย
บริเวณเคาน์เตอร์ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย เราสามารถเดินเข้ามาติดต่อขอชมโครงการบริเวณนี้ได้เลย
โมเดลของโครงการให้เห็นภาพรวมก่อนที่โครงการจะสร้างเสร็จ
พื้นที่นั่งพักผ่อนภายในสำนักงานขาย ออกแบบและตกแต่งแนว Urban Courtyard
:::: ตัวโครงการ ::::
โครงการ Niche MONO เมกะ สเปซ บางนา เป็นคอนโด High Rise บนพื้นที่โครงการ 3 – 3 – 46.6 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียมสูง 40 ชั้น 1 อาคาร และอาคารจอดรถสูง 8 ชั้น 1 อาคาร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกบนชั้นดาดฟ้าทั้ง 2 อาคาร มีจำนวน 795 ยูนิตและร้านค้า 2 ยูนิต ที่ออกแบบมาให้ความกลมกลืนของธรรมชาติ สอดคล้องกับการใช้ชีวิตในทุกๆ วัน ด้วยการออกแบบให้ทุกดีเทลเป็นมากกว่าพื้นที่พักอาศัย ขยายพื้นที่การใช้ชีวิตจากแนวคิด “DOUBLE Space, TRIPLE Facilities” ไม่เพียงแค่พื้นที่ภายในห้องชุด แต่ยังรวมถึงทุกพื้นที่ส่วนกลางคือพื้นที่สำหรับคุณ มีห้อง 1 Bedroom และ 2 Bedroom ให้เลือกถึง 3 แบบด้วยกัน ขนาดเริ่มต้นที่ 30.0 – 50.0 ตร.ม. ภายใต้แนวคิด “Made from Her” ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดของการอยู่อาศัย มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้อย่างครบครันถึง 3 ชั้น โดยผสมผสานพื้นที่ Social Community + Activity เข้าด้วยกัน ทั้ง Garden Lobby, Lady Drop, Co – working Space, Green Park Co – Meeting Space, Garden Lobby, Urban Courtyard, Lap Pool, Playground, Sliding Hill, Fitness, Semi – outdoor/Multi – purpose Area, Co – party/Co – kitchen, Cinema Area, Reading Lounge, Sunset Deck, Moon Terrace, Lady Parking และที่จอดรถรวมถึง 70% ที่ตอบโจทย์ Pain Point ของคนในย่านบางนา พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
ผังโครงการ(ชั้น 1 และชั้น 2): ตัวโครงการจะสามารถเข้า – ออกได้ทางเดียวจากทางถนนบางนา – ตราดโดยตรงเข้ามาบนถนนภาระจำยอม 350 เมตรก็จะถึงทางเข้าโครงการ ผ่านซุ้มโครงการและระบบรักษาความปลอดภัย ทั้งป้อมรปภ., Key Card Access ระบบ Bluetooth, รั้วไม้กระดก และกล้อง CCTV สามารถวนไปที่จุด Drop – off เพื่อส่งลูกบ้านเข้าสู่ตัวอาคารหรือขับวนเข้าสู่อาคารจอดรถด้านหลัง อาคารจอดรถจะเป็นอาคารสูง 8 ชั้น มีที่จอดรถทั้งหมดคิดเป็น 70% รวมการจอดแบบซ้อนคัน เป็นจุดเด่นหลักอย่างนึงของตัวโครงการเลยนะคะที่ให้ที่จอดรถมาเยอะขนาดนี้เพื่อตอบโจทย์เรื่องที่จอดรถไม่พอในย่านบางนา เพราะปัจจุบันคนในย่านนี้จะยังใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีที่จอดรถ Lady Parking ให้อีก 6 คันสำหรับลูกบ้านผู้หญิงที่ต้องกลับบ้านดึก เป็นจุดจอดรถที่ไม่เปลี่ยวสามารถเดินเข้าตัวอาคารได้ง่ายโดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่ช่วง 4 ทุ่มเป็นต้นไปค่ะ
จาก Drop – off ชั้น 1 จะมีบันไดเพื่อเดินขึ้นสู่ชั้น 2 ไปยัง Garden Lobby ซึ่งจะเชื่อมต่อกับโถงลิฟท์ต้องใช้ Key Card ในการผ่านเข้า – ออก, ห้องนิติบุคคล, ร้านค้า 2 ยูนิต และพื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบและตกแต่งด้วยแนวคิด Urban Courtyard ใช้ผนังกระจกขนาดใหญ่สามารถ Take View สวนได้ทั้งหมดและออกแบบให้มีฝ้าสูงถึง 6.6 เมตร ทั้งบริเวณ Co-working Space, Green Park Co – Meeting Space, Garden Lobby หรือ Chill out Terrace เป็นพื้นที่สำหรับนั่งเล่นพักคอยเวลาที่ลูกบ้านรอซักผ้าที่สามารถเปิดเชื่อมกับสวนได้
ถ้าจะเข้าสู่ Residential Zone จะต้องใช้ Key Card ในการเปิดประตูโถงลิฟท์ ภายในโถงลิฟท์มีลิฟท์ให้ทั้งหมด 5 ตัวแบ่งเป็นลิฟท์โดยสาร 4 ตัวและลิฟท์บริการอีก 1 ตัว เป็นลิฟท์ระบบล็อคชั้นเพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านแต่ละชั้น คิดเป็นจำนวนยูนิตพักอาศัยต่อลิฟท์อยู่ที่ 199 : 1 ค่ะ
ชั้นที่ 7 – 8 : Residential Zone จะเริ่มต้นที่ชั้น 7 นะคะ แต่เราจะสังเกตเห็นว่าอาคารฝั่งที่ติดกับอาคารจอดรถทางโครงการจะยังไม่วางห้องพักจนเลยชั้นที่ 8 ขึ้นไปแล้ว เพื่อให้ลูกบ้านทุกยูนิตได้รับวิวที่ดีที่สุด ในชั้นนี้จะมีจำนวนยูนิตทั้งหมด 14 ยูนิตด้วยกัน ส่วนภายในอาคารจอดรถจะมีลิฟท์โดยสารให้ด้วย 2 ตัว พอจอดรถแล้วก็สามารถกดลิฟท์ขึ้นไปที่ชั้น 8 และเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นดาดฟ้าเพื่อใช้สะพานทางเชื่อมจากอาคารจอดรถเข้าสู่อาคารหลัก
ชั้นที่ 9 : เป็นชั้นที่อยู่เลยอาคารจอดรถขึ้นมาแล้วทางโครงการจึงได้จัดห้องพักอาศัยเอาไว้เต็มชั้นดังที่เห็นตามแปลนค่ะ ในชั้นนี้จะมีจำนวน 23 ยูนิต พื้นที่อีก 1 ยูนิตที่หายไปถูกใช้ทำเป็นทางเชื่อมกับอาคารจอดรถชั้นดาดฟ้าซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางแบบ Active Facilities ประกอบด้วย สระว่ายน้ำแบบ Sky Infinity Edge Lap Pool ขนาดใหญ่ ภายในแบ่งเป็นสระเด็กให้เรียบร้อย, Playground หรือ Kid Adventure, Fitness พร้อม Changing Room แยกโซนชาย – หญิง และ Sliding Hill เป็นสนามทางลาดที่สามารถใช้ Step เป็นจุดนั่งเล่นพักผ่อน หรือปีนขึ้นไปบนจุดสูงสุดเพื่อ Take View ได้มากขึ้น
ชั้นที่ 10 – 40 : ตั้งแต่ชั้นที่ 10 ขึ้นไปจะเป็น Typical Floor Plan ขึ้นไปถึงชั้น 40 เลย ที่ชั้นนี้จะมีจำนวนยูนิตสูงสุด 24 ยูนิต/ชั้น เนื่องจากอาคารถูกวางเหมือนแยกเป็น 2 Tower ที่เชื่อมด้วยโถงลิฟท์ตรงกลาง รูปทรงอาคารเหมือนสายฟ้า จากโถงลิฟท์จะเชื่อมไปยัง Corridor ทั้งโซนฝั่งซ้ายและขวา รูปแบบการวางอาคารแบบนี้ทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวมากขึ้น จากความรู้สึกจะเหมือนกับว่ามีจำนวนยูนิตต่อชั้นเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น อีกทั้งยังมีการ Twist ตัวอาคารให้ผนังเฉียงเพื่อหลบองศาของแดด ห้องพักอาศัยภายในตัวอาคารจึงเย็นสบายมากกว่าไม่โดนแดดแบบจังๆ ค่ะ
ชั้น Rooftop : ชั้นดาดฟ้าของตัวโครงการจะเป็นส่วนกลางอีกจุดนึงค่ะ ประกอบด้วย Semi – outdoor Multi – Purpose Space, Co – party/Co – kitchen, Cinema Area, Reading Lounge, Sunset Deck และ Outdoor Area หรือ Moon Terrace ที่เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดของโครงการ นอกจากนี้บนชั้นดาดฟ้ายังวางแผง Solar Cell เพื่อเก็บพลังงานไฟฟ้าสำหรับแจกจ่ายไปยังพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดอีกด้วย
คราวนี้เรามาดูโมเดลของโครงการกันบ้าง ตัวอาคารใช้สีเรียบๆ โทนขาว – เทา มีลูกเล่นที่ลวดลายของตัวอาคารแบบโมเดิร์น ภาพฝั่งซ้ายคือตัวโครงการมองจากฝั่งถนนบางนา – ตราดหรือทางฝั่งทิศเหนือ ภาพฝั่งขวาคือตัวโครงการจากทิศตะวันตก จะเห็นว่าตัวโครงการถูกวางแบบ Twist ผนังอาคารเฉียงหลบทางแดด
ภาพฝั่งซ้าย ตัวโครงการจากทิศใต้ ห้องพักอาศัยที่อยู่ติดผนังฝั่งนี้จะไม่มีช่องเปิดทางด้านทิศใต้เลยค่ะ และภาพฝั่งขวา ตัวโครงการจากทิศจะวันออก ผนังของห้องพักฝั่งนี้จะเฉียงรับเฉพาะแดดในช่วงเช้าเท่านั้น
จากถนนบางนา – ตราดขับเข้ามา 350 เมตรก็จะถึงทางเข้าหลักของโครงการ สามารถวนขวาเข้าสู่จุด Drop – off เพื่อส่งลูกบ้านเข้าสู่ตัวอาคารได้
หรือจากทางเข้าวิ่งตรงไปยังอาคารจอดรถอีกฝั่งโดยจะต้องผ่านรั้วไม้กระดกที่สามารถเปิดผ่านได้ด้วย Key Card ระบบ Bluetooth บริเวณนี้จะมี Lady Parking ให้ทั้งหมด 6 คันสำหรับผู้หญิงที่ต้องกลับบ้านดึก
ขับรถอ้อมมายังด้านหลังโครงการเพื่อเข้าสู่อาคารจอดรถ
ขึ้นมายังชั้นดาดฟ้าของอาคารจอดรถจะเป็น Active Facilities Zone ค่ะซึ่งจะมีสะพานเชื่อมต่อกับอาคารหลักที่ชั้น 9
และชั้น Rooftop ของอาคารหลักที่เป็น Facilities บนจุดสูงสุดของโครงการ
คราวนี้เรามาดูภาพจำลองบรรยากาศตัวอาคาร Niche MONO เมกะ สเปซ บางนากันบ้าง บริเวณโดยรอบโครงการจะยังไม่ค่อยมีอาคารสูงขึ้น จึงนับว่าแต่ละยูนิตได้วิวที่ดีทีเดียว
ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Garden Lobby ช่วงกลางคืน ฝ้าเพดานสูงถึง 6.6 เมตร ตกแต่งด้วยแนวคิด Urban Courtyard ด้วยผนังกระจกขนาดใหญ่ดึงพื้นที่สีเขียวเข้ามาภายในตัวอาคาร รวมถึงมีการตกแต่งภายในด้วยต้นไม้กระถางแบบแขวนลงมาจากฝ้าช่วยสร้างบรรยากาศได้ดีทีเดียว
ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Garden Lobby ส่วน Co – working Space ภายในจัดชุดโต๊ะ – เก้าอี้ทำงานหลากหลายรูปแบบทั้งการนั่งเป็นกลุ่มและนั่งเดี่ยว มองออกไปผ่านกระจกบานใหญ่ได้วิวสวน Urban Courtyard
ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Garden Lobby ส่วน Co – working Space
ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Garden Lobby ส่วน Co – working Space มองจากสวนภายนอกเข้าไปยังภายใน
ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Urban Courtyard (ตัดอาคารจอดรถออก)
ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Co – Meeting เป็นห้องที่สามารถใช้นั่งประชุมหรือคุยงานได้อีกห้อง
ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Co – Meeting ภายในจัดแบ่งเป็นหลายโซน สามารถใช้งานร่วมกันได้หลายกลุ่ม
ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Garden Lobby หรือ Chill Out Terrace เป็นพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนหรือนั่งพักคอยเวลาซักผ้าได้ พื้นที่ตรงนี้จะสามารถเปิดหน้าต่างเพื่อเชื่อมกับสวน Urban Courtyard ได้ด้วย
ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Co – Party & Co-Kitchen สามารถรองรับกลุ่มเพื่อนให้ขึ้นมานั่งทานอาหารหรือจัดปาร์ตี้ได้ โดยจะมีชุดโต๊ะ – เก้าอี้และเคาน์เตอร์ครัวเตรียมเอาไว้รองรับการใช้งาน
ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Co – Party & Co-Kitchen ช่วงกลางคืน
ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Cinema Space
ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Reading Lounge ออกแบบให้เป็นมุมอ่านหนังสือที่เป็นส่วนตัว
ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Sky Infinity Edge Pool ได้วิวเมืองจากความสูงที่ชั้น 9 แบบ 270 องศาเลยค่ะ
:::: แบบห้องของโครงการ ::::
ห้องของโครงการจะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom และ 2 Bedroom ทั้งหมดค่ะ มีอยู่ด้วยกัน 3 แบบหลักๆ คือ
- 1 Bedroom : 30.00 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus : 34.90 ตร.ม.
- 2 Bedrooms : 50.00 ตร.ม.
ห้องออกแบบมาด้วยแนวคิด Made From Her การออกแบบใช้ความละเอียดอ่อนของผู้หญิงเป็นที่ตั้งทำให้ได้รายละเอียดของฟังก์ชั่นการอยู่อาศัยที่สามารถตอบรับความต้องการของลูกบ้านได้ทุกเพศ โดยโครงการขายห้องแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์มาครบ พร้อมเครื่องปรับอากาศ แบบ Wall Type เราไปดูผังห้องด้วยกันเลยค่ะ
1 Bedroom Type A1 และ A1M : 30.00 ตร.ม.
1 Bedroom Type B1 : 34.90 ตร.ม.
2 Bedroom Type C2 : 50.00 ตร.ม.
:::: ห้องตัวอย่าง ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo จะพาไปชมห้องตัวอย่าง 1 Bedroom Type A1M ขนาด 30.00 ตร.ม. และ 2 Bedroom Type C2 ขนาด 50.00 ตร.ม. กันค่ะ จากแนวคิด Made From Her กับห้องแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์มาครบ พร้อมเครื่องปรับอากาศ แบบ Wall Type เราไปดูรายละเอียดของห้องตัวอย่างด้วยกันเลยค่ะ
::: แบบ 1 Bedroom Type A1M ขนาด 30.00 ตร.ม. :::
ขนาดของห้องนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 1 – 2 คน มีพื้นที่ห้องขนาดใหญ่สำหรับห้องแบบ 1 Bedroom ค่ะ ภาพรวมภายในห้องสามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้ดี มีการแบ่งโซนภายในห้องอย่างเป็นสัดส่วนระหว่าง Common Area, ห้องนอน และห้องครัว พอเข้ามาในห้องจะเจอ Common Area ก่อน, ถัดเข้าไปคือห้องนอน ส่วนฝั่งขวามือของห้องคือโซนห้องน้ำและห้องครัวซึ่งจะได้เป็นครัวแบบปิด กั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ข้อดีก็คือช่วยให้กลิ่นจากการปรุงอาหารไม่คละคลุ้งไปทั่วห้อง อีกทั้งยังอยู่ติดกับระเบียงจึงสามารถระบายอากาศได้ดีกว่า
ในห้องนี้เราจะได้ พื้นลามิเนตหนา 8 มม., ห้องครัวปูพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้, ชุดเคาน์เตอร์ครัว, ชุดโฟา – ชั้นวางทีวี+ตู้เก็บของ, ชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง, ตู้เสื้อผ้า+ช่องใส่ตะกร้าผ้า, โต๊ะเครื่องแป้ง, ฐานเตียงนอนขนาด 6 ฟุต, ตู้เสื้อผ้า, ห้องน้ำพร้อมสุขภัณฑ์ และเครื่องปรับอากาศจาก Panasonic 2 เครื่อง
มาถึงหน้าห้องตัวอย่างกันแล้วค่ะ ประตูห้องจะเป็นประตูบานสำเร็จรูปปิดผิวด้วยลามิเนต พร้อมอุปกรณ์ Digital Door Lock มือจับแบบก้านโยก
เข้าไปดูภายในห้องตัวอย่างกันเลยค่ะ
พื้นห้องปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. เพื่อให้ผิวสัมผัสเหมาะแก่การอยู่อาศัย
เข้าไปภายในห้องจะเจอส่วน Common Area ก่อนและด้านในที่กั้นประตูบานเลื่อนกระจกเอาไว้คือห้องนอน ห้องทางฝั่งขวาคือห้องครัวและห้องน้ำ ผนังภายในห้องฉาบเรียบทาสีค่ะ
ฝ้าเพดานในห้องสูงถึง 2.7 เมตร ถือว่าสูงทีเดียวนะสำหรับห้องในคอนโดมิเนียม เป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์หลอด LED พร้อม Heat Detector, Smoke Detector และ Sprinkle ส่วนเครื่องปรับอากาศจะมีให้ 2 เครื่อง ติดเอาไว้ภายใน Common Area 1 ตัวและภายในห้องนอนอีก 1 ตัว
เราเข้ามาดูรายละเอียดและเฟอร์นิเจอร์ที่เราจะได้กันในส่วนของห้องนั่งเล่นกันต่อค่ะ
ในห้องนั่งเล่นเราจะได้โซฟาขนาด 2 ที่นั่งซึ่งกำลังพอดีกับพื้นที่ห้องค่ะ
ตรงพนักวางแขนของโซฟาสามารถเปิด – ปิดได้ ใส่พวกของจุกจิกอย่างพวกกล่องกระดาษทิชชู่ได้ สามารถหยิบใช้งานได้สะดวกแถมยังดูเรียบร้อยอีกด้วย
ที่ฝั่งตรงข้ามเราจะได้ทั้งตู้เก็บของและชั้นวางทีวีมาทั้ง 2 ตัวเลยค่ะ
หน้าบานตู้เก็บรองเท้าส่วนนึงปิดผิวด้วยเมลามีนลายไม้ อีกส่วนปิดด้วยกระจกเงาสีชา ภายในมีทั้งชั้นวางรองเท้า, ช่องเก็บของอย่างพวกเครื่องดูดฝุ่นหรืออุปกรณ์ทำความสะอาด และชั้นวางของจุกจิก
บานที่ติดกระจกเงาสีชาเก็บขอบสวยงามแบบนี้
ส่วนฝั่งที่ปิดผิดด้วยเมลามีนลายไม้จะเฉือนปลาย 45 องศาสามารถจับเปิดบานได้สะดวก บานเปิดทุกบานของเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มาทั้งหมดจะเป็นแบบ Soft Closed ด้วยนะคะ
ชั้นวางทีวีค่ะ หน้าบานปิดผิวด้วยเมลามีนเช่นกัน มีช่องเก็บของและลิ้นชักให้แบบนี้ ถ้าเราเลือกใช้ทีวีแบบแขวนผนังก็จะทำให้เราได้พื้นที่วางของบนชั้นเพิ่มด้วย
ดูระยะดูทีวีค่ะ ช่วงประมาณนี้จะเหมาะสำหรับทีวีจอขนาด 30 – 42 นิ้วนะคะ
ถัดจากพื้นที่นั่งเล่นเข้าไปก็คือส่วนรับประทานอาหารค่ะ
เราจะได้โต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งพร้อมกับเก้าอี้อีก 2 ตัว สามารถวางเข้ามุมได้พอดีแบบนี้เลย
ภาพรวมพื้นที่ใช้สอยภายในส่วน Common Area ค่ะ
เราเข้าไปดูภายในห้องนอนกันต่อซึ่งจะกั้นส่วนออกไปด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 2 ตอน ใช้กรอบอลูมิเนียมติดกระจกเขียวตัดแสง สามารถเลื่อนเปิดได้ทั้ง 2 ข้างเลยค่ะ
และติดมือจับบานประตูแบบเซาะร่องมาตรฐาน
เข้ามาภายในห้องนอนมีพื้นที่กำลังพอดีๆ ขนาดอยู่สบายไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ภายในห้องนอนเราจะได้ตู้เสื้อผ้าและเตียงนอนขนาด 6 ฟุตมาด้วยตามภาพเลยค่ะ
เราจะเห็นว่าภายในห้องนอนจะสว่างมากๆ เพราะได้ช่องแสงขนาดใหญ่มาทั้งผนังเลย มีหน้าต่างบานฟิกซ์แบบกระจกเข้ามุมและหน้าต่างบานกระทุ้งสามารถเปิดระบายอากาศได้ เราจะเห็นที่รอบๆ หน้าต่างมีกรอบกันแสงรอบม่านให้อีก 1 ชั้นด้วย เผื่อใครที่ทำงานอยู่ดึกแล้วตื่นสายหน่อยแสงแดดภายนอกจะได้ไม่เข้ามารบกวนการพักผ่อนค่ะ
มาดูรายละเอียดเฟอร์นิเจอร์ในห้องกันต่อ ตู้เสื้อผ้าที่ได้เป็นตู้ขนาดมาตรฐาน บานเปิดฝั่งนึงเป็นบานทึบส่วนอีกบานเป็นกระจกสีชา ภายในมีทั้งราวแขวนเสื้อผ้า, ชั้นเก็บของ และลิ้นชักเก็บพวก Accessories ค่ะ
มือจับบานทำเป็นครีบแบบนี้ เป็นดีไซน์ที่ทำให้เฟอร์นิเจอร์ดูเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังมีราวแขวนอเนกประสงค์ระดับล่างสามารถเลื่อนเข้า – ออกได้ด้วยนะ ใช้แขวนพวกกางเกงขาสั้นได้
และที่บานเปิดฝั่งบานทึบจะติดกระเงาบานใหญ่สามารถส่องเช็คความเรียบร้อยได้ทั้งตัว
ส่วนเตียงนอนที่เราจะได้เป็นเตียงขนาด 6 ฟุตเลยค่ะ ทางโครงการจะให้มาเฉพาะฐานเตียงส่วนฟูกและเครื่องนอนเราจะต้องเป็นคนซื้อเข้ามาเองนะ
สังเกตที่บนหัวเตียงทางโครงการจะติดตั้งไฟ Dim มาให้ 1 ดวง สามารถปรับบรรยากาศภายในห้องให้เข้าสู่โหมดของการพักผ่อน
สวิตช์สำหรับ Dim ไฟค่ะ จะติดอยู่บริเวณข้างๆ หัวเตียงเป็นตำแหน่งที่ใช้งานได้สะดวกพอดี
พอวางเตียงแล้วก็จะยังเหลือพื้นที่ข้างๆ เตียงอีกพอสมควรค่ะ สามารถวางโต๊ะทำงานหรือ Day Bed เพิ่มได้อีก 1 ตัวเลย
พื้นที่ปลายเตียงก็ยังเหลือพอสามารถเดินผ่านได้ ถ้าอยากจะดูทีวีในห้องนอนด้วยแนะนำให้ติดทีวีแบบแขวนผนังเอานะ
ภาพบรรยากาศภายในห้องจากฝั่งริมหน้าต่างค่ะ
จากส่วน Common Area จะเชื่อมต่อกับโซนห้องน้ำและห้องนอนที่อยู่โซนปีกขวาของห้อง
เริ่มจากห้องน้ำกันก่อน
ระหว่างพื้นภายนอกและพื้นห้องน้ำจะมีธรณีกั้นเอาไว้เพื่อกันน้ำไหลย้อน
ภายในห้องน้ำจะจัดโซนส่วนแห้งไล่เข้าไปยังส่วนเปียกโดยใช้สุขภัณฑ์ของ Kohler และ Englefield ทั้งหมด ส่วนพื้นในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวด้านกันลื่นและผนังห้องน้ำกรุด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนอย่างสวยงาม
ฝ้าเพดานภายในเป็นฝ้าฉาบเรียบกันชื้นติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้พร้อมพัดลมดูดอากาศ
มาดูรายละเอียดของสุขภัณฑ์กันต่อค่ะ อ่างล้างมือเป็นอ่างแบบแขวนผนังมีขนาดกำลังดี ขอบอ่างสามารถวางพวกขวดสบู่และแปรงสีฟันได้บ้าง ด้านหลังอ่างก่อ Lower Wall ให้ยาวไปถึงโถสุขภัณฑ์สามารถวางของใช้ได้เพิ่มเติมอีกค่ะ
และติดก๊อกน้ำขนาดกำลังถนัดมือมาให้
ส่วนโถสุขภัณฑ์เป็นแบบแยกชิ้น ระบบ Dual Flush ช่วยประหยัดน้ำได้ดี ติดตั้งมาพร้อมกับสายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษชำระ
ด้านในสุดเป็นโซนอาบน้ำ ทางโครงการก่อธรณีและติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจก Tempered แบบบานเปิดเข้ามาให้เรียบร้อย ข้างๆ ติดราวแขวนผ้าเช็ดตัวมาให้ อยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานได้สะดวกค่ะ
มือจับของบานเปิดก็สามารถใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ค่ะ
ภายในโซนอาบน้ำมีพื้นที่กว้างขวางกำลังดีได้มาตรฐาน
ที่ผนังด้านในติดตั้งชุด Rain Shower พร้อมฝักบัวสายอ่อนมาให้แบบนี้เลยค่ะ
ขนาดหัวฝักบัวก็มีขนาดใหญ่แล้วนะคะ สามารถอาบน้ำได้เร็วทั่วถึงทันใจ
ที่ผนังด้านข้างเจาะเป็นช่องให้วางพวกขวดสบู่แชมพู เราสามารถติดตั้งชั้นวางเพิ่มเติมขึ้นไปตามยาวได้เลยค่ะ
ออกมาจากห้องน้ำจะเป็นพื้นที่โถงทางเดินสำหรับแต่งตัวก่อนเข้าสู่ห้องครัว
บริเวณโถงนี้ทางโครงการก็ให้เฟอร์นิเจอร์มาอีก 2 ชิ้นด้วยกัน
เป็นตู้เสื้อผ้าอีก 1 ตู้พร้อมติดกระจกเงาไว้ที่หน้าบานสำหรับเช็คความเรียบร้อย
ลิ้นชักใต้ตู้ทางโครงการก็ออกแบบมาให้เป็นพิเศษเป็นตะกร้าใส่ผ้าด้วยค่ะ
เฟอร์นิเจอร์อีกชิ้นนึงก็คือโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ มีช่องสำหรับเก็บพวกอุปกรณ์การดูแลผิวพรรณ – เครื่องสำอางอยู่พอสมควร
ตรงบานกระจกก็สามารถพับปิดลงมาได้นะคะ สามารถใช้แทนโต๊ะทำงานได้เลย
เราเข้าไปดูห้องครัวกันต่อค่ะ ห้องครัวจะกั้นส่วนออกไปด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอนกรอบอลูมิเนียมติดกระจกเขียวตัดแสงแบบนี้
พื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ จุดนี้เป็นข้อดีเพราะสามารถเช็คทำความสะอาดพวกละอองน้ำมันและคราบอาหารได้ง่ายกว่า
ภายในห้องครัวสามารถวางเคาน์เตอร์ได้ฝั่งนึง จะเหลือพื้นที่ยืนปรุงอาหารประมาณ 80 ซม. ค่ะ
และนี่ก็คือหน้าตาเคาน์เตอร์ครัวที่เราจะได้มากับห้องค่ะ ได้มาทั้งอ่างล้างจานทั้ง Hob+Hood
เคาน์เตอร์ครัวใช้ท็อปหินสังเคราะห์สีดำหน้าบานปิดผิวด้วยเมลามีน ใต้เคาน์เตอร์มีช่องสำหรับเก็บของและช่องสำหรับวางเตาไมโครเวฟได้
ที่บานเปิดด้านในติดชั้นตะแกรงให้เก็บวางพวกสก๊อตไบรท์, ฝอยขัดหม้อ หรือน้ำยาล้างจานได้ด้วย
อ่างล้างจานแบบ 1 หลุมขนาดใช้งานสะดวกของ Franke จะเห็นว่าผนังด้านหลังติดแผ่น Splash Board พร้อมราวแขวนอุปกรณ์การทำครัวมาให้เรียบร้อยแล้ว
เตาเซรามิคขนาด 2 หัวของ Franke เช่นกันค่ะ
ในตำแหน่งเดียวกันนั้นเองก็ติดตั้งเครื่องดูดควันแบบมีฟิลเตอร์มาให้
ชั้นลอยข้างบนก็มีชั้นสำหรับเก็บของรวมถึงช่องสำหรับคว่ำจาน – ชาม – แก้วน้ำหลังล้างเสร็จให้ด้วย
ช่องเก็บของอีกฝั่งนึงค่ะ
โดยที่ปลายบานเปิดจะติดมุมเฉียง 45 องศาเพื่อให้สามารถจับเปิดได้ง่าย
จากห้องครัวจะอยู่ติดกับส่วนระเบียงค่ะ กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอนเหมือนกัน
พื้นระเบียงจะลดระดับลงจากพื้นห้องเล็กน้อยปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ติดตั้งระแนงเหล็กให้เป็นราวกันตก
พื้นที่ระเบียงมีหน้ายาวพอสมควรค่ะ สามารถใช้ประโยชน์ได้ในการวางเครื่องซักผ้า, ตากผ้า และแขวนคอมเพรสเซอร์ได้
ภาพจากระเบียงมองย้อนกลับเข้าไปภายในห้องครัว
นอกจากนี้สวิตช์และปลั๊กไฟภายในห้องจะใช้ของ Schneider Electric ทั้งหมด
::: 2 Bedroom Type C2 ขนาด 50.00 ตร.ม. :::
ขนาดของห้องนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 3 – 4 คนเลยค่ะ ภาพรวมภายในห้องสามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้ดี มีการแบ่งโซนภายในห้องอย่างเป็นสัดส่วนระหว่าง Common Area, ห้องนอน และห้องครัว พอเข้ามาในห้องจะเป็นโถงทางเดิน เชื่อมสู่ Common Area ก่อน, ฝั่งซ้ายมือหน้าทางเข้าห้องคือห้องครัว ถัดเข้าไปภายใน Common Area ทั้งฝั่งซ้ายและขวาคือห้องนอนอีก 2 ห้องและห้องน้ำค่ะ
ในห้องนี้เราจะได้ พื้นลามิเนตหนา 8 มม., ห้องครัวปูพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้, ชุดเคาน์เตอร์ครัว, ชุดโฟา – ชั้นวางทีวี, ตู้เก็บของ+ช่องใส่ตะกร้าผ้า, ชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง, ฐานเตียงนอนขนาด 5 ฟุต+ตู้เสื้อผ้า, ฐานเตียงนอนขนาด 6 ฟุต+โต๊ะเครื่องแป้ง+Walk – in Closet, ห้องน้ำพร้อมสุขภัณฑ์ และเครื่องปรับอากาศจาก Panasonic 3 เครื่อง
มาถึงหน้าห้องตัวอย่างกันแล้วค่ะ ประตูห้องจะเป็นประตูบานสำเร็จรูปปิดผิวด้วยลามิเนต พร้อมอุปกรณ์ Digital Door Lock มือจับแบบก้านโยก
เข้ามาภายในห้องจะเป็นโถงทางเดินเชื่อมสู่ห้องครัวและ Common Area พื้นห้องปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. ผนังฉาบเรียบทาสี ฝ้าเพดานในห้องสูง 2.7 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์หลอด LED พร้อม Heat Detector, Smoke Detector และ Sprinkle ส่วนเครื่องปรับอากาศจะมีให้ 3 เครื่อง ติดเอาไว้ภายใน Common Area 1 ตัวและภายในห้องนอนอีกห้องละ 1 ตัว
ภาพมองย้อนกลับไปที่โถงทางเดินหน้าห้อง
ด้านข้างโถงทางเดินทางโครงการทำตู้เก็บของ Built – in ให้ มีทั้งชั้นวางรองเท้า, ช่องเก็บของ และที่วางเครื่องซักผ้า
ซึ่งที่พื้นบริเวณนี้จะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ให้แทนเพื่อกันน้ำซึมออกมา พื้นลามิเนตจะได้ไม่บวมค่ะ
อีกฝั่งนึงก็มีตู้สำหรับเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดและช่องตะกร้าผ้า
อีกฝั่งนึงของโถงทางเดินเป็นห้องครัวแบบปิดค่ะ กั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน
ภายในห้องครัวปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้เหมือนเดิม เนื่องจากห้องครัวไม่ได้อยู่ติดกับพื้นที่ระเบียงทางโครงการจึงติดพัดลมดูดอากาศเพิ่มให้ด้วย 1 ตัวค่ะ
เคาน์เตอร์มีขนาดใหญ่ขึ้นมากๆ ค่ะ แถมยังเป็นเคาน์เตอร์แบบ L – shape ทำให้การทำครัวสะดวกและสนุกมากยิ่งขึ้น
เคาน์เตอร์ครัวใช้ท็อปหินสังเคราะห์สีดำหน้าบานปิดผิวด้วยเมลามีน ใต้เคาน์เตอร์มีช่องสำหรับเก็บของและช่องสำหรับวางเตาไมโครเวฟได้
ผนังด้านหลังติดแผ่น Splash Board พร้อมราวแขวนอุปกรณ์การทำครัวมาให้เรียบร้อยแล้ว เราได้ Sink, Hob+Hood มาเหมือนเดิม
ชั้นลอยข้างบนก็มีชั้นสำหรับเก็บของรวมถึงช่องสำหรับคว่ำจาน – ชาม – แก้วน้ำหลังล้างเสร็จให้
พื้นที่เคาน์เตอร์อีกส่วนจะลดระดับลงมาเล็กน้อยค่ะ สะดวกในการเตรียมอาหารมากๆ
ออกมาจากห้องครัว มาดูที่ส่วน Common Area กันต่อ
เริ่มจากส่วนรับประทานอาหารเราจะได้ชุดโต๊ะ – เก้าอี้มาแบบ 4 ที่นั่งเลย
ขนาดของโต๊ะกำลังดีกับพื้นที่ห้องเลย จะสังเกตเห็นว่าที่ขอบโต๊ะจะมีตัวขอเหล็กสามารถใช้แขวนพวกกระเป๋าหรือผ้าเช็ดมือได้ค่ะ
ส่วนห้องนั่งเล่นจะอยู่ติดกับระเบียงพอดี
ซึ่งในห้องนี้เราจะได้โซฟาเบดขนาดใหญ่มาแบบนี้เลยค่ะ ขนาดกำลังพอดีกับพื้นที่ห้อง
พร้อมชั้นวางทีวีแบบเดิม
เราออกไปที่ระเบียงห้องกันต่อค่ะ กั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 2 ตอน
พื้นที่ระเบียงของห้องนี้จะมีขนาดไม่ต่างจากห้องที่แล้วมากนัก สามารถตากผ้าได้สะดวกทีเดียว
ภาพจากระเบียงมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง
ที่ฝั่งซ้ายของโถง Common Area จะเป็นห้องนอนเล็กค่ะ เราเข้าไปดูภายในด้วยกันเลย
ภายในห้องนอนเล็กจะมีขนาดไม่ต่างจากห้องที่แล้วมากนัก และจะได้ช่องแสงขนาดใหญ่มาเต็มผนังเหมือนเดิม
เฟอร์นิเจอร์ที่ได้ก็จะมีตู้เสื้อผ้าแบบเดิมค่ะ
แต่เตียงนอนจะได้ขนาด 5 ฟุตแทน ยังเหลือพื้นที่ให้สามารถวางโต๊ะข้างที่ฝั่งขวามือได้
หัวเตียงก็ติดไฟ Dim มาให้เหมือนเดิม
ส่วนพื้นที่ปลายเตียงนี่จะเหลือน้อยหน่อย แต่ก็ยังพอใช้เดินผ่านและเปลี่ยนผ้าปูเตียงได้อยู่ค่ะ
และที่ฝั่งขวาของโถง Common Area จะเป็นห้องน้ำ (ฝั่งขวา) และห้องนอนใหญ่ (ฝั่งซ้าย)
เราเข้าไปดูภายในห้องน้ำกันก่อนแล้วจะปิดด้วยห้องนอนใหญ่ค่ะ
ห้องน้ำของห้อง 2 Bedroom จะเป็นแบบ Multi – Function Bathroom แบ่งสัดส่วนของพื้นที่อ่างล้างหน้า, ห้องน้ำ และโซนอาบน้ำออกจากกัน อย่างคู่สามี – ภรรยาก็สามารถใช้งานห้องน้ำพร้อมกันได้ค่ะ ส่วนวัสดุและสุขภัณฑ์จะใช้เหมือนกับห้องที่แล้วทุกประการ
ประตูห้องน้ำจะเจาะเข้ากลางห้องเข้าไปในส่วนอ่างล้างหน้าก่อน
ด้านหลังอ่างก่อ Lower Wall ให้ สามารถวางพวกของเครื่องใช้และพวกขวดน้ำหอมในห้องน้ำได้
ที่ฝั่งขวามือของห้องเป็นโซนห้องน้ำสำหรับธุระหนัก – เบาค่ะ มีประตูกระจกปิดให้เรียบร้อย
ภายในก็ติดตั้งชุดสุขภัณฑ์และ Accessories ประกอบการใช้งานมาให้เหมือนเดิม ดูระยะการติดตั้งของสุขภัณฑ์ถือว่าไม่แคบจนเกินไปนั่งได้สบายสำหรับคนไซส์เอเชีย
ส่วนฝั่งขวามือของห้องเป็นโซนอาบน้ำค่ะ ภายในติดตั้งชุด Rain Shower ชุดเดิมมาให้ ที่เพิ่มเติมขึ้นมาก็คือทางโครงการจะก่อม้านั่งสำหรับนั่งอาบน้ำและวางของมาให้ด้วยเลย
ส่วนพื้นที่ยืนอาบน้ำก็มีขนาดกว้างได้มาตรฐานดี
ออกมาจากห้องน้ำเข้าไปดูภายในห้องนอนใหญ่กันต่อเป็นห้องสุดท้ายแล้วค่ะ
ขนาดของห้องนอนใหญ่จะไม่ต่างจากห้องนอนเล็กเท่าไหร่นะคะ แต่จะกว้างขวางกว่าเพราะว่าพื้นที่ภายในห้องไม่ต้องวางตู้เสื้อผ้าแล้ว เพราะห้องใหญ่จะได้ Walk – in Closet มาแทน
เตียงนอนที่ได้มากับห้องจะเป็นเตียงขนาด 6 ฟุตค่ะ เหลือพื้นที่สามารถวางโต๊ะข้างได้ทั้ง 2 ฝั่ง
พื้นที่ปลายเตียงก็ยังเหลือสามารถเดินผ่านหรือเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้สะดวก ผนังฝั่งปลายเตียงที่เซ็ทเข้าไปสามารถวางชั้นวางทีวีเพิ่มเติมได้ด้วยนะ
ภาพบรรยากาศภายในห้องนอนใหญ่จากฝั่งริมหน้าต่าง
ในห้องนอนใหญ่เราจะได้โต๊ะเครื่องแป้งแบบเดิมมาเพิ่มด้วย 1 ตัว
ซึ่งสามารถจัดวางได้บริเวณข้างๆ Walk – in Closet เป็นประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอนค่ะ
ภายใน Walk – in Closet ที่ทางโครงการทำ Built – in มาให้ มีราวสำหรับแขวนเสื้อผ้าและชั้นเก็บของมากมาย
พื้นที่ยืนแต่งตัวด้านในขนาดประมาณ 0.9 x 0.9 เมตรค่ะ เป็นพื้นที่ขนาดกำลังพอเหมาะไม่แคบจนเกินไป
ลงทะเบียนรับส่วนลดพิเศษถึง 100,000 บาท* คลิก : https://www.sena.co.th/
:::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (ตุลาคม 2561) ::::
วัสดุโดยรวม
- พื้นห้องนอน : ลามิเนตหนา 8 มม.
- พื้นห้องครัว : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม.
- พื้นห้องน้ำ : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม.
- พื้นระเบียง : กระเบื้องเซรามิก ขนาด 30 x 30 ซม.
- ผนังภายใน : ผนังฉาบเรียบทาสี
- ผนังห้องน้ำ : กระเบื้องลายหินอ่อน ขนาด 60 x 60 ซม.
- ประตูทางเข้าห้อง : ประตูบานเปิดสำเร็จรูป พร้อม Digital Door Lock มือจับก้านโยกสแตนเลส
- ประตูภายใน : ประตูบานเปิดสำเร็จรูป, ประตูบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียม ติดกระจกเขียวตัดแสง
- ประตูระเบียง : ประตูบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียม ติดกระจกเขียวตัดแสง
- หน้าต่างภายนอก : หน้าต่างบานกระทุ้ง และ บานฟิกซ์ กรอบอลูมิเนียม ติดกระจกเขียวตัดแสง
ห้องน้ำ และสุขาภิบาล
- สุขภัณฑ์ และ Accessories : Kohler และ Englefield
งานไฟฟ้า
- สวิตช์ไฟและปลั๊กไฟ : Schneider Electric
- ดวงโคมทั่วไป : ดวงโคมดาวน์ไลท์ หลอด LED
- ดวงโคมในห้องน้ำ : ดวงโคมดาวน์ไลท์ หลอด LED พร้อมพัดลมดูดอากาศ
เฟอร์นิเจอร์
- ชุดเคาน์เตอร์ครัว ประกอบด้วย เคาน์เตอร์ครัว และชั้นลอย Built-in พร้อม อ่างล้างจาน 1 หลุม, เตาเซรามิกขนาด 2 หัว และเครื่องดูดควัน ของ Franke
- ชุดโต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้นั่ง ขนาด 2 – 4 ที่นั่ง
- ชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง/ชุดโซฟาเบด
- ชั้นวางทีวี
- ตู้เก็บของ+ชั้นวางรองเท้า
- ตู้เสื้อผ้า 2 ตู้, โต๊ะเครื่องแป้ง+กระจกเงา และ ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต (1 Bedroom)
- ตู้เสื้อผ้า ฺBuilt-in, โต๊ะเครื่องแป้ง+กระจกเงา และ ฐานเตียงขนาด 6 ฟุต/ตู้เสื้อผ้า และ ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต (2 Bedroom)
- เครื่องปรับอากาศชนิดแยกส่วนแบบแขวนผนัง
***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ
:::: ราคา (ตุลาคม 2561) ::::
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม.
- เริ่ม 2.2 ล้านบาท
- เงินจอง : 10,000 บาท
- เงินทำสัญญา : 20,000 บาท
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 34.90 ตร.ม.
- เริ่ม 2.4 ล้านบาท
- เงินจอง : 10,000 บาท
- เงินทำสัญญา : 20,000 บาท
ห้อง 2 Bedroom ขนาด 50 ตร.ม.
- เริ่ม 3.5 ล้านบาท
- เงินจอง : 20,000 บาท
- เงินทำสัญญา : 30,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง : ปีแรก 50 บาท/ตร.ม./เดือน (จัดเก็บล่วงหน้า 1 ปี) ปีที่ 2 54 บาท/ตร.ม./เดือน
- เงินกองทุน : 500 บาท/ตร.ม.
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนบางนา – ตราดจุดเด่นในย่านนี้คือเป็นทำเลฝั่งตะวันออกซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์สูงและถือเป็น New Central Business District ส่วนต่อขยายของตัวเมืองกรุงเทพฯ อีกแห่งหนึ่ง อยู่ใกล้ทางพิเศษบูรพาวิถี, ทางพิเศษเฉลิมมหานคร และวงแหวงกาญจนาฯ ซึ่งสามารถเดินทางเข้า – ออก ตัวเมืองกรุงเทพฯได้สะดวก จึงถือเป็นทำเลที่ดีสำหรับคนที่หาที่อยู่ในย่านบางนา ซึ่งในอนาคตจะเจาะทางเชื่อมจากถนนบัวนครินทร์ไปถึงแยกลาซาล และมีรถไฟฟ้า Light Rail สถานีบางนา กม.6 อยู่ที่หน้าโครงการด้วย
อีกทั้งยังเป็นเส้นที่ถือว่าอุดมสมบูรณ์ทีเดียวค่ะ มีทั้งเซ็นทรัลบางนา และ Index Living Mall ในอนาคตจะมี Bangkok Mall มาเปิดตรงแยกบางนา มี Hypermarket อย่าง Makro และ Tesco Lotus ใกล้ๆ โครงการในระยะเดินไม่ถึง 100 เมตรก็มี Att Park ภายในมี Starbuck และร้านอาหารญี่ปุ่นราคาย่อมเยา ที่น่าสนใจที่สุดก็จะเป็นแอเรียบริเวณ Mega บางนา ซึ่งในอนาคตจะมีโครงการ Mega City ซึ่งเป็นโปรเจคอสังหาฯ แบบมิกซ์ยูส ครอบคลุมตั้งแต่พื้นที่สำหรับอยู่อาศัย, ออฟฟิศสำนักงาน, แหล่งช้อปปิ้ง, ร้านอาหารชื่อดัง และสถานที่ให้ได้ใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์อันหลากหลายอย่างครบวงจร
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ถือว่าสะดวกสบายเพราะตัวโครงการอยู่ติดกับถนนบางนา – ตราด เป็นเส้นที่เชื่อมไปยังถนนกิ่งแก้วและถนนตำหรุบางพลี ขนานกับแกนตะวันออก – ตะวันตก จะวิ่งไปตัดกับถนนสายสำคัญอีกหลายสายอย่างถนนศรีนครินทร์ที่วิ่งไปตัดกับเส้นเทพารักษ์และอุดมสุข สามารถขึ้นไปถึงเส้นอ่อนนุช, รามคำแหง และลาดพร้าวได้
ถัดจากศรีนครินทร์ไปก็จะไปเชื่อมกับถนนสุขุมวิทวิ่งขึ้นไปยังแถบปทุมวันจนถึงอโศกได้เลย ส่วนอีกด้านหนึ่งทางทิศตะวันออก ถนนบางนา – ตราดจะวิ่งไปผ่านฉะเชิงเทราไปถึงชลบุรีเลยค่ะ ตรงนั้นจะไปบรรจบกับถนนสุขุมวิทที่ทางแยกต่างระดับหนองไม้แดง สามารถเดินทางได้หลายเส้นทางทีเดียว นอกจากนั้นยังอยู่ใกล้กับทางพิเศษบูรพาวิถี, ทางพิเศษเฉลิมมหานคร และวงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญในการหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดได้
การเดินทางโดยรถสาธารณะ ถือว่าสะดวกสบายค่ะเพราะบริเวณหน้าโครงการมีรถสาธารณะวิ่งผ่านตลอดไม่ว่าจะเป็น รถแท็กซี่, วินมอเตอร์ไซค์ รวมถึงรถเมล์ประจำทาง โดยจะมีป้ายรถเมล์อยู่ที่หน้าโครงการพอดีเลย อีกทั้งในอนาคตบนเส้นบางนา – ตราดจะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียววิ่งผ่าน ช่วง บางนา – สุวรรณภูมิ สถานีที่ใกล้ที่สุดก็คือ สถานีบางนา กม.6 หรือ สถานีปลัดเปรียง ซึ่งตัวสถานีจะอยู่ตรงหน้าโครงการพอดีเลยค่ะ และที่เส้นศรีนครินทร์ก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองวิ่งผ่าน ช่วง พัฒนาการ – สำโรง เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่สถานีสำโรง แต่ในปัจจุบันรถไฟฟ้าที่อยู่ใกล้โครงการมากที่สุดก็คือรถไฟฟ้า BTS สถานีบางนาค่ะ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการ Niche MONO เมกะ สเปซ บางนา เป็นคอนโด High Rise บนพื้นที่โครงการ 3 – 3 – 46.6 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียมสูง 40 ชั้น 1 อาคาร และอาคารจอดรถสูง 8 ชั้น 1 อาคาร มีจำนวน 795 ยูนิตและร้านค้า 2 ยูนิต ที่ออกแบบมาให้ความกลมกลืนของธรรมชาติ ขยายพื้นที่การใช้ชีวิตจากแนวคิด “DOUBLE Space, TRIPLE Facilities” มีห้อง 1 Bedroom และ 2 Bedroom ให้เลือกถึง 3 แบบด้วยกัน ขนาดเริ่มต้นที่ 30.0 – 50.0 ตร.ม. ภายใต้แนวคิด “Made from Her” ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดของการอยู่อาศัย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้อย่างครบครันถึง 3 ชั้น
มีการออกแบบอาคารให้เหมือนถูกวางแยกเป็น 2 Tower ที่เชื่อมด้วยโถงลิฟท์ตรงกลาง รูปทรงอาคารเหมือนสายฟ้า จากโถงลิฟท์จะเชื่อมไปยัง Corridor ทั้งโซนฝั่งซ้ายและขวา รูปแบบการวางอาคารแบบนี้ทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวมากขึ้น จากความรู้สึกจะเหมือนกับว่ามีจำนวนยูนิตต่อชั้นเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น อีกทั้งยังมีการ Twist ตัวอาคารให้ผนังเฉียงเพื่อหลบองศาของแดด ห้องพักอาศัยภายในตัวอาคารจึงเย็นสบายมากกว่าไม่โดนแดดแบบจังๆ แต่อัตราส่วนของจำนวนยูนิตพักอาศัยต่อลิฟท์นั้นสูงไปหน่อยอยู่ที่ 199 : 1 ในช่วง Rush Hour อาจต้องรอลิฟท์หน่อยค่ะ
อิงจากห้องที่ได้ทำการเข้าไปรีวิว ห้องแต่ละ Type ก็ถูกออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นที่ลงตัวใส่ใจในรายละเอียดตามแนวคิด Made From Her ฝ้าเพดานก็สูงถึง 2.7 เมตรทำให้ห้องโปร่งโล่ง แปลนห้องจะแบ่งส่วนห้องครัว, Common Area และห้องนอนออกจากกันเป็นโซน จึงได้ในเรื่องของการกำจัดกลิ่นที่ดีและความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ห้องครัวของ 1 Bedroom จะอยู่ติดกับระเบียงจึงสามารถช่วงระบายอากาศได้ดี ถึงแม้ว่าห้องครัวของ 2 Bedroom จะไม่ได้อยู่ติดกับระเบียงแต่ทางโครงการก็ติดพัดลมดูดอากาศเพิ่มเติมมาให้ ขนาดห้อง 1 Bedroom ของโครงการเริ่มต้นที่ 30 ตร.ม. ถือว่ากว้างทีเดียวเทียบกับคอนโดอื่นๆ ในย่านนี้จะเริ่มต้นที่ 26.0 ตร.ม.เท่านั้นค่ะ
วัสดุ, สุขภัณฑ์ และเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มากับตัวห้องก็ได้มาอย่างครบครัน มีการออกแบบที่ละเอียดรองรับครบทุกการใช้งาน หน้าตาสวยงามได้มาตรฐาน โดยโครงการขายทั้งแบบ Fully Furnished ตกแต่งมาครบพร้อมเข้าอยู่ รวมถึงเครื่องปรับอากาศของ Panasonic ด้วยค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวกให้อย่างครบครันถึง 3 ชั้น โดยผสมผสานพื้นที่ Social Community + Activity เข้าด้วยกัน ทั้ง Garden Lobby, Lady Drop, Co – working Space, Green Park Co – Meeting Space, Garden Lobby, Urban Courtyard, Lap Pool, Playground, Sliding Hill, Fitness, Semi – outdoor/Multi – purpose Area, Co – party&Co – kitchen, Cinema Area, Reading Lounge, Sunset Deck, Moon Terrace, Lady Parking และที่จอดรถรวมถึง 70% ที่ตอบโจทย์ Pain Point ของคนในย่านบางนาที่มีที่จอดรถไม่เพียงพอ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ถือว่าดีทีเดียวค่ะ
:::: คะแนน ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ |
8.1 |
อยู่บนถนนบางนา – ตราดช่วง กม.6 อยู่ใกล้ทางพิเศษบูรพาวิถี, ทางพิเศษเฉลิมมหานคร และวงแหวงกาญจนาฯ และมีรถไฟฟ้า Light Rail สถานีบางนา กม.6 อยู่ที่หน้าโครงการ |
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว |
8.1 |
อยู่ติดถนนใหญ่สายหลัก ข้างๆ โครงการมีซอยสามารถลัดเลาะไปยังถนนใหญ่เส้นอื่นได้เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจร เข้า – ออกเมืองก็สะดวกเพราะอยู่ใกล้ทางด่วนหลายสาย |
การเดินทางโดยรถสาธารณะ |
8.3 |
มีรถสาธารณะวิ่งผ่านหน้าโครงการ มีป้ายรถเมล์อยู่ที่หน้าโครงการ และในอนาคตจะมี รถไฟฟ้าสายสีเขียววิ่งผ่าน ช่วง บางนา – สุวรรณภูมิ โดยมีสถานีบางนา กม.6 อยู่ที่หน้าโครงการเลย |
บ้านและวัสดุ |
7.9 |
ห้องสไตล์โมเดิร์น ออกแบบรายละเอียดห้องมาได้ดี ได้ห้องมาแบบ Fully Furnished ได้ของมาค่อนข้างเยอะ วัสดุสวยงามและได้มาตรฐานค่ะ |
สิ่งอำนวยความสะดวก |
7.7 |
สิ่งอำนวยความสะดวกมีมาให้หลายอย่าง โดยเฉพาะที่จอดรถให้มาถึง 70% สำหรับห้องราคานี้ถือว่าเยอะแล้วค่ะ |
ความคุ้มค่ากับราคา |
8.0 |
โครงการเหมาะสำหรับครอบครัวขนาด 1 – 4 คน ต้องการหาที่อยู่ในย่านบางนา เดินทางสะดวกทั้งระบบขนส่งสาธารณะและรถยนต์ส่วนตัว |
คะแนนรวมเฉลี่ย |
8.02 |
ดีมาก |
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
CALL CENTER : 1775#65
WEBSITE : https://www.sena.co.th/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น