EP.1391 รีวิว ทาวน์โฮม นอร์ด ลาดพร้าว 110 Nord Ladprao 110
Written by : Nin Yanin Phueksoongnoen
สวัสดีค่ะผู้อ่านชาว Homenayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพามาชมโครงการทาวน์โฮมคุณภาพ Nord ลาดพร้าว 110 จาก Assetta Development กันค่ะ ตัวโครงการตั้งอยู่ใน ซอยลาดพร้าว 110 แยก 4 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10312 ตอบสนองการพักอาศัยท่ามกลางธรรมชาติ ใกล้ย่านทาวน์อินทาวน์ที่เราคุ้นเคยกันดี สามารถเดินทางเข้าถึงตัวเมืองได้ง่าย ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าถึง 4 สาย และอยู่ใกล้แหล่งช็อปปิ้งชั้นนำทั้ง The Crystal, CDC, Central พระราม 9 และ Central Eastville
นอร์ด ลาดพร้าว 110 เป็นทาวน์โฮมสูง 3.5 ชั้น บนพื้นที่โครงการ 1 – 0 – 29 ไร่ เป็นส่วนตัวด้วยจำนวนเพียง 9 ยูนิต เนื้อที่ดินเริ่มต้น 28.0 – 42.0 ตร.วา ได้หน้าบ้านที่กว้างกว่าถึง 6.2 เมตร พร้อมฟังก์ชั่นขนาด 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน จากแนวคิด Where Your Past Roots and Future Grows เปิดมุมมองใหม่ในการ เป็นอยู่ นึกคิด ที่ถูกถ่ายทอดออกมาในสไตล์ Nordic ความเรียบง่ายที่ลงตัว สามารถใช้ประโยชน์ได้จริงในทุกตารางเมตร คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3 ปี 2562 นี้แล้วค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก ภายในโครงการมีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ทั้งสัญญาณกันขโมย, ยามรักษาความปลอดภัยหน้าประตู, CCTV และ Remote Control สำหรับเปิด – ปิดประตูรั้วโครงการ ในราคาเริ่มต้น 11.9 ล้านบาท*
อย่ามัวรอช้า เชิญติดตามรายละเอียดของโครงการที่ด้านล่างนี้ได้เลยค่า
ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ คลิก : http://www.assetta.co.th/
ชื่อโครงการ | NORD Ladprao 110 |
เจ้าของโครงการ | Assetta Development |
ลักษณะโครงการ | ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 6.2 เมตร |
พื้นที่โครงการ | 1 – 0 -29 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 9 ยูนิต |
เนื้อที่บ้าน | เริ่มต้น 28 – 42 ตร.ว. |
พื้นที่ใช้สอย | ประมาณ 285 ตร.ม. |
จำนวนห้อง | 3 ห้องนอน, 4 ห้องน้ำ |
ที่จอดรถทั้งหมด | 2 ที่จอดรถ |
โซน | ลาดพร้าว |
ขนส่งสาธารณะ |
|
ที่ตั้ง | 87 ซอย สนธิวัฒนา ซอย ลาดพร้าว 110 แยก 4 แขวง พลับพลา เขต วังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10312 |
กำหนดการ | เริ่มก่อสร้าง ไตรมาส 3/2561 |
ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ไตรมาส 3/2562 |
ราคา | เริ่มต้น 11.9 ล้านบาท* (เม.ย.62) |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | n/a |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถานและอื่นๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | NORD Ladprao 110 ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 6.2 เมตร เป็นส่วนตัวเพียง 9 ยูนิต บนทำเลใจกลางเมือง ใกล้ทางด่วน และ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
พิกัด : 13.776386, 100.617135
87 ซอย สนธิวัฒนา ซอย ลาดพร้าว 110 แยก 4 แขวง พลับพลา เขต วังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10312
แผนที่จากทางโครงการ Nord ลาดพร้าว 110 ตั้งอยู่ใน ซอยลาดพร้าว 110 แยก 4 ใกล้ย่านทาวน์อินทาวน์ ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าถึง 4 สาย และอยู่ใกล้แหล่งช็อปปิ้งชั้นนำทั้ง The Crystal, CDC, Central พระราม 9 และ Central Eastville
ทำเลที่ตั้ง โครงการ Nord ลาดพร้าว 110 ตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 110 ใกล้ย่านทาวน์อินทาวน์ เป็นทำเลที่มาแรงของโครงการที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูง เนื่องจากเป็นโซนที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้ในย่านนี้รายล้อมด้วยสาธารณูปโภคต่างๆ อย่างครบครัน ทั้งห้างสรรพสินค้า, คอมมูนิตี้มอลล์, โรงพยาบาล, โรงเรียน และร้านค้ารายย่อยๆ พบว่าราคาที่ดินของย่านนี้ถูกปรับตัวสูงขึ้นตามความเจริญของพื้นที่ และในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าคาดว่าราคาที่ดินจะก้าวกระโดดได้แน่เมื่อเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง แต่เนื่องจากทำเลของตัวโครงการนั้นตั้งอยู่ภายในซอย (ประมาณ 700 เมตรจากถนนลาดพร้าว) จึงค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวสูงเพราะล้อมรอบด้วยบ้านพักอาศัยดั้งเดิมของคนในละแวกนั้นค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ หลักๆ เลยถนนลาดพร้าวจะเป็นถนนเส้นหลักที่ใช้ในการเดินทางค่ะ เพราะเป็นถนนเส้นที่สามารถเชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักได้อีกหลายสาย ฝั่งขาเข้าหากวิ่งตรงไปทางห้าแยกลาดพร้าวก็จะเชื่อมกับ ถนนประดิษฐ์มนูธรรมที่สามารถใช้ตรงเข้าเอกมัย – ทองหล่อได้, ถนนรัชดาภิเษกที่สามารถใช้วิ่งลงไปทางโซนพระราม 9 และถนนพหลโยธินเชื่อมต่อไปทางจตุจักร ส่วนฝั่งขาออกก็สามารถใช้วิ่งไปทางบางกะปิได้ค่ะ
จากแผนที่เราจะเห็นว่าตัวโครงการนั้นยังสามารถเข้า – ออกผ่านทางถนน 4 เส้นคือ ถนนลาดพร้าว, ถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วน), ถนนรามคำแหง และถนนประชาอุทิศ ซึ่งนับว่าเป็นข้อได้เปรียบของทำเลนี้เลย โดย ถนนลาดพร้าว ใช้ซอยลาดพร้าว 110 และซอยลาดพร้าว 112 ถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วน) ใช้ถนนอินทราภรณ์ ถนนรามคำแหง ใช้ซอยรามคำแหง 34/1 และซอยรามคำแหง 53 และ ถนนประชาอุทิศ ใช้ถนนศรีวาค่ะ ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นทางหนีทีไล่ในการหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนได้ดี อย่างตอนนี้บนถนนลาดพร้าวเองก็มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองอยู่จึงทำให้ช่องจราจรบางส่วนเหลืออยู่ 2 เลน การที่ตัวโครงการสามารถเข้า – ออกได้หลายเส้นทางจึงถือเป็นตัวช่วยในการเดินทางที่ดีเลยค่ะ
ทางด่วน นอกจากนี้ตัวโครงการยังอยู่ใกล้ทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์อีกด้วย โดยฝั่งขาเข้าเมืองไปทางเอกมัยจะอยู่ห่างออกไปประมาณ 4.2 กม.ค่ะ
ส่วนฝั่งออกเมืองทางไปวัชรพล – ลำลูกกา จะอยู่ห่างออกไปประมาณ 5.1 กม. ก็ไม่ไกลเช่นกัน
:: สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ ::
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ เนื่องจากทำเลในย่านนี้ค่อนข้างพลุกพล่าน มีจำนวนผู้คนอยู่อาศัยและผ่านไป – มาค่อนข้างมาก จึงทำให้มีรถสาธารณะวิ่งผ่านอยู่ตลอดเวลา ทั้งวินมอเตอร์ไซค์, รถสองแถว และรถแท็กซี่ สามารถหาเรียกได้ง่าย ออกไปที่ถนนใหญ่แต่ละเส้นก็มีรถเมล์หลายสายวิ่งผ่าน เดินทางได้สะดวก นอกจากนี้เรายังสามารถใช้ Application Grab Taxi และ Line Taxi เพื่อความสะดวกสูงสุดค่ะ
สำหรับรถไฟฟ้าในปัจจุบันก็มี รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล สถานีที่ใกล้ที่สุดก็คือ สถานีลาดพร้าว ค่ะ และจะสะดวกมากขึ้นไปอีกเพราะจะมีสถานีรถไฟฟ้าอีกถึง 3 สายวิ่งผ่านรอบโครงการเลย ทั้งรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีที่ใกล้ที่สุดก็คือสถานนีฉลองรัช (หรือสถานีลาดพร้าว 83) บริเวณซอยลาดพร้าว 83 หรือห้างบิ๊กซี ลาดพร้าว รถไฟฟ้าสายสีส้ม ใกล้ที่สุดคือสถานีรามคำแหง ตรงซอยรามคำแหง 34/1 และรถไฟฟ้าสายสีเทา สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีศรีวา ตรงถนนอินทราภรณ์พอดีค่ะ นอกจากนี้ยังมีเรือด่วนแสนแสบให้เลือกใช้เดินทางอีก 1 ตัวเลือก ใช้ตอนหลีกหนีการจราจรบนท้องถนนนี่ทันใจกว่าเยอะค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากบริเวณโครงการเป็นย่านที่อยู่อาศัยทำเลทอง อยู่ใกล้กับย่านทาวน์อินทาวน์ ที่มีการพัฒนาของพื้นที่มากขึ้น จึงไม่แปลกเลยที่จะมีความอุดมสมบูรณ์ผุดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทั้ง Community Mall อย่าง The Scene มี Mc Donald Max Valu และ Starbucks ที่เปิดตลอด 24 ชม., ต้นซุง อเวนิว ภายในซอยแถวนี้ก็มีพวกร้านค้าและร้านอาหารดังๆ เยอะมาก ถ้าออกมาที่ถนนใหญ่เส้นลาดพร้าวใกล้ๆ เลยก็มี Big C ลาดพร้าว, Foodland, Happy Center, ตลาดบางกะปิ, ตะวันนา, The Mall บางกะปิ และ Tesco Lotus บางกะปิ บนเส้นเลียบด่วนรามอินทรามีห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง Central Festival Eastville, The Crystal และ CDC ส่วนที่เส้นรามคำแหงก็ไม่แพ้กันนะคะ มี Major Cineplex, Big C รามคำแหง และ The Mall รามคำแหง แต่จริงๆ แล้วแค่บริเวณหน้าปากซอย 110 ก็มีร้านอาหารให้ฝากท้องกันได้เหมือนกัน อย่างร้านก๋วยเตี๋ยวแม่ศรีเรือนก็อยู่ใกล้มาก สะดวกดีค่ะ
นอกจากนี้ยังตัวโครงการยังอยู่ไม่ไกลจาก Central พระราม 9, โรงพยาบาลลาดพร้าว, สถานศึกษาชั้นนำทั้ง รร.บดินทร์เดชา, รร.อุดมศึกษา, รร.นานาชาติ KIS, รร.นานาชาติ เดอะรีเจ้นท์, รร.นานาชาติ SISB, รร.นานาชาติ Lycee Francais, ม.รามคำแหง และ ม.อัสสัมชัญ (ABAC) ใกล้ธนาคารซึ่งสะดวกต่อการทำธุรกรรมทางการเงิน ถือว่าขาดไม่ได้เลยค่ะ โดยรวมแล้วคือมีสาธารณูปโภคคอยรองรับอย่างครบครันที่เอื้อต่อการอยู่อาศัย แม้จะเป็นทำเลที่มีความเป็นส่วนตัวแต่ก็สะดวกสบายต่อการใช้ชีวิต
:: สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ::
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถานและอื่นๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนประดิษฐ์มนูธรรม > ถนนลาดพร้าว > ซอยลาดพร้าว 110 > ซอยสนธิวัฒนาแยก 3 > ซอยลาดพร้าว 110/2 > NORD ลาดพร้าว 110
วันนี้เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากถนนประดิษฐ์มนูธรรมหรือที่คุ้นหูกว่าก็คือเลียบด่วนรามอินทรานั่นเองค่ะ บริเวณที่เราอยู่ตอนนี้ก็คือช่วง CDC จากตรงนี้จะใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 10 นาทีถึงโครงการ
วิ่งผ่าน CDC มาแล้วก็ให้เราวิ่งตรงไปเรื่อยๆ สังเกตป้ายบางกะปิ – นวมินทร์ให้ชิดไปทางเลนซ้ายค่ะ
จากนั้นให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าถนนลาดพร้าวได้เลย
พอเราเลี้ยวเข้าถนนลาดพร้าวมาแล้วตรงไปเล็กน้อยจะเห็น Big C ลาดพร้าวอยู่ทางฝั่งซ้ายมือตรงช่วงซอยลาดพร้าว 83 จากตรงนี้ให้เราชิดขวาเอาไว้เพราะเดี๋ยวเราจะกลับรถตรงช่วงแยกซอยลาดพร้าว 112 กัน
บริเวณนั้นจะมีไฟแดงเป็นจุดสังเกตด้วยนะคะ ให้ชิดขวาแล้วกลับรถเลย
พอกลับรถแล้วให้เรารีบชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าซอยลาดพร้าว 110 ค่ะ
จากถนนลาดพร้าวเข้ามาภายในซอยลาดพร้าว 110 เราสามารถเลือกเลี้ยวเข้าซอยสนธิวัฒนาได้ทั้งแยก 1 ถึงแยก 4 เลยค่ะ เพราะมีระยะทางไปถึงตัวโครงการพอๆ กัน
เข้ามาภายในซอยลาดพร้าว 110 แล้วเราจะสังเกตเห็นป้ายโครงการติดบอกทางอยู่ให้เราขับตรงตามป้ายไปได้เลย
เราสามารถเลี้ยวเข้าซอยสนธิวัฒนาได้ทั้งแยก 1 – 4 เลยนะ แต่ในวันนี้ผู้เขียนเลือกที่จะใช้แยก 3 ค่ะ
จากซอยสนธิวัฒนาแยก 3 ให้เราเลี้ยวขวาเข้าซอยลาดพร้าว 110/2
พอเลี้ยวขวาเข้ามาแล้วเราก็จะเห็นตัวโครงการอยู่ทางด้านซ้ายมือแล้วค่า
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
จากภาพสภาพแวดล้อมโดยรอบของโครงการในมุมสูงจะเห็นว่า ตัวโครงการนั้นตั้งอยู่ภายในชุมชนที่พักอาศัยอย่างแท้จริง ซึ่งบ้านพักอาศัยในบริเวณนี้ส่วนมากก็จะสูงไม่เกิน 2 ชั้น มากที่สุดก็ 3 ชั้นค่ะ นอกจากนี้ก็มีอะพาร์ตเมนต์ขึ้นอยู่บ้างเล็กน้อยที่สูงเพียง 4 – 5 ชั้น ยังไม่มีพวกคอนโดมิเนียมมาขึ้นเลยนะ เพราะฉะนั้นค่อนข้างมั่นใจได้ว่าจุดที่โครงการตั้งอยู่นั้นจะมีความเป็นส่วนตัวสูงทีเดียว เหมาะสำหรับการพักอาศัยจริงๆ
ตอนนี้เรามาอยู่ที่บริเวณด้านหน้าโครงการกันแล้วนะคะ เดี๋ยวเราจะมาเดินสำรวจบริเวณโดยรอบโครงการชมบรรยากาศเพื่อนบ้านข้างเคียงของเรากันสักหน่อย
เริ่มจากฝั่งตรงข้ามกับตัวโครงการเป็นบ้านพักอาศัยสูง 1 – 2 ชั้น
มองไปทางฝั่งซ้ายมือของเราทะลุกับซอยสนธิวัฒนาแยก 4
ติดกับที่ดินโครงการก็คืออะพาร์ตเมนต์สูง 5 ชั้นค่ะ
เห็นบรรยากาศภายในซอยสนธิวัฒนาแยก 4 ดูเป็นส่วนตัวและร่มรื่นมาก เพราะในซอยนี้ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยดั้งเดิมแบบมีที่ดินรอบบ้าน เขาก็ปลูกต้นไม้กันมาแต่เดิมแล้ว ทำให้เราได้ประโยชน์จากร่มไม้ไปในตัวค่ะ
มองออกไปทางฝั่งขวามือทางฝั่งซอยสนธิวัฒนาแยก 1 – 3
ติดกับที่ดินโครงการเป็นบ้านพักอาศัยสูง 1 ชั้น
บรรยากาศภายในซอยก็จะเป็นบ้านพักอาศัยดั้งเดิมทั้งหมดค่ะ มีทาวน์เฮ้าส์ด้วยสูง 2 – 3 ชั้น ซึ่งในซอยนี้จะไม่มีรถผ่านเยอะนะ รถที่เข้ามาส่วนใหญ่ก็จะเป็นรถของคนที่พักอาศัยในซอยเท่านั้นเอง
:::: ตัวโครงการ ::::
โครงการ NORD ลาดพร้าว 110 เป็นทาวน์โฮมสูง 3.5 ชั้น บนพื้นที่โครงการ 1 – 0 – 29 ไร่ มีจำนวนเพียง 9 ยูนิตเท่านั้น เนื้อที่ดินเริ่มต้น 28.0 – 42.0 ตร.วา นับเป็นโครงการเล็กๆ ที่มีความเป็นส่วนตัวสูงมาก คนที่จะเข้า – ออกโครงการก็จะมีเพียงแค่คนของ 9 ครอบครัวนี้เท่านั้น ซึ่งลูกบ้านทุกครอบครัวจะได้ Remote Control สำหรับเปิด – ปิดประตูทางเข้าโครงการมาด้วย พอจะเข้าโครงการก็กดเปิดประตูและกดปิดหลังจากนั้นได้เลย และยังมียามรักษาความปลอดภัยหน้าประตูด้วยอีก 1 จุด รวมถึงกล้อง CCTV ภายในโครงการ จึงมั่นใจได้เลยว่าจะไม่มีคนนอกเข้ามาได้อย่างแน่นอน
จากทางเข้าโครงการเข้ามาแล้วจะเจอถนนภายในกว้าง 8 เมตรค่ะ เป็นความกว้างที่รถสามารถวิ่งสวนกันได้ และเป็นความกว้างที่เผื่อสำหรับกรณีมีเพื่อนมาหาต้องจอดรถที่หน้าบ้านเอาไว้ ลูกบ้านคนอื่นๆ ก็ยังสามารถขับรถผ่านเข้า – ออกได้อยู่ จะเห็นว่าทางโครงการมีการวางหน้าบ้านตามแกนเหนือ – ใต้ เพื่อให้ได้รับประโยชน์ทั้งในเรื่องของลมสามารถพัดผ่านเข้าในตัวบ้านได้ตลอดทั้งปี และประโยชน์ในเรื่องของความเชื่อตามศาสตร์ฮวงจุ้ยไม่ว่าจะจีนหรือไทย นอกจากนี้ทางโครงการยังเลือกเดินสายไฟทั้งหมดลงดินเพื่อทัศนียภาพที่สวยงามอีกด้วย
จะสังเกตเห็นว่าภายในโครงการนี้ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกนะคะ ดังนั้นลูกบ้านจึงไม่ต้องเสียค่าบริการส่วนกลาง ด้วยรูปแบบเป็นโครงการไม่จัดสรรจึงไม่ต้องมีนิติดูแล ลูกบ้านสามารถดูแลและบริหารงานภายในกันเองได้เลย ทั้งนี้ทั้งนั้นทางเจ้าของโครงการจะดูแลค่าส่วนกลางให้ทั้งหมดเป็นเวลา 1 ปี หลังจากนั้นลูกบ้านจะเป็นคนตกลงกันเองว่าจะเลือกบริหารโครงการอย่างไร ส่วนถนนภายในโครงการจะยกให้ลูกบ้านทั้ง 9 ยูนิตเป็นเจ้าของร่วมกันค่ะ
:::: แบบบ้านของโครงการ ::::
แบบบ้านของโครงการเป็นทาวน์โฮมสูง 3.5 ชั้น บนที่ดินขนาด 28.0 – 42.0 ตร.วาตามแปลง พื้นที่ใช้สอย 285 ตร.ม. กับฟังก์ชั่นขนาด 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน ได้หน้าบ้านที่กว้างกว่าถึง 6.2 เมตร จากแนวคิด Where Your Past Roots and Future Grows เปิดมุมมองใหม่ในการ เป็นอยู่ นึกคิด ที่ถูกถ่ายทอดออกมาในสไตล์ Nordic เป็นสไตล์มินิมอลที่ผสมผสานวัฒนธรรมจากสแกนดิเนเวียและญี่ปุ่นทั้งฟังก์ชั่นและดีไซน์เข้าด้วยกัน ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงวิถีชีวิต การมองโลกที่ฝักใฝ่ความใกล้ชิดกับธรรมชาติ และความเรียบง่าย เราไปดูแปลนบ้านด้วยกันเลยค่ะ
แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้นลอย
แปลนบ้านชั้น 2 | แปลนบ้านชั้น 3
นอกจากการออกแบบที่พิถีพิถันแล้ว ทางเจ้าของโครงการก็พิถีพิถันกับเรื่องการก่อสร้างมากๆ ด้วยความตั้งใจที่อยากจะให้ลูกบ้านสามารถอยู่อาศัยได้โดยไม่ต้องมีการซ่อมแซมไปอีกหลาย 10 ปี จึงเลือกโครงสร้างอาคารเป็นแบบก่ออิฐฉาบปูน ผนังก่ออิฐมวลเบาแบบ Double Wall เป็นผนังซ้อนกัน 2 ชั้นและมี Gap ตรงกลาง ทำให้สามารถกันความร้อนจากภายนอกหรือแสงแดดได้ดีมากยิ่งขึ้น และช่วยป้องกันเรื่องเสียงรบกวนจากภายนอกหรือเพื่อนบ้านได้อย่างดีเยี่ยม
ส่วนหลังคาใช้ Metal Sheet ที่ปรับองศาให้มีความลาดเอียงเล็กน้อย เพื่อให้มีพื้นที่ใต้หลังคาในการระบายความร้อนที่ลอยขึ้นมาสะสมอยู่บนฝ้าให้ลอยตัวออกไปภายนอกได้ และมีการติดฉนวนกันความร้อนอีกชั้นหนึ่ง เพื่อลดอุณหภูมิภายในบ้านให้เย็นมากยิ่งขึ้น
ดีเทลอื่นๆ ก็ยังมีอีกเยอะนะคะ ไม่ว่าจะเป็นการก่อ Concrete ขอบรอบพื้นทั่วบ้านเพื่อกันน้ำรั่วซึม การก่อเสาเอ็นและทับหลังรอบบ้านเพื่อความแข็งแรง ใช้เหล็กหนวดกุ้งระหว่างทุกแถวของอิฐกันเสาทำให้ผนังไม่แยกตัวจากเสาซึ่งดีกว่าโครงการทั่วๆ ไปที่ใช้ Metal Strap หรือตะปูสั้นๆ ยึด รวมถึงการใช้ Wedge ในการก่อเสาซึ่งแน่นกว่าการใช้ตะปู ทำให้บ้านภายในโครงการนี้มีคุณภาพสามารถอยู่ในนานโดยไม่มีปัญหามารบกวนใจ
:::: บ้านตัวอย่าง ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo จะพาท่านผู้อ่านทุกคนไปชมรายละเอียดภายในบ้านตัวอย่างของโครงการด้วยกันเหมือนเช่นเคยค่ะ ตามมาดูด้วยกันเลย
แบบบ้านของโครงการเป็นทาวน์โฮมสูง 3.5 ชั้น บนที่ดินขนาด 28.0 – 42.0 ตร.วาตามแปลง พื้นที่ใช้สอย 285 ตร.ม. กับฟังก์ชั่นขนาด 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน ได้หน้าบ้านที่กว้างกว่าถึง 6.2 เมตร สไตล์ Nordic ดีไซน์ที่ผสมผสานระหว่าง Scandinavian และ Japanese เข้าด้วยกัน อีกทั้งยังผนวก Tropical Design เพื่อให้เป็นบ้านที่เหมาะกับสภาพอากาศที่ร้อนชื้นของประเทศไทย
ภาพรวมของบ้านจึงดู Modern ทันสมัยแบบ Minimal ใช้สีขาวและเทาเป็นหลัก แต่ก็ยังได้ความอบอุ่นจากสีสันของระแนงไม้ ซึ่งระแนงไม้ส่วนนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ส่วนตกแต่งเท่านั้นนะคะ แต่ยังเป็นส่วนที่ช่วยกันแดดทำให้บ้านเย็นขึ้น และช่วยบังสายตาจากเพื่อนบ้านทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วย
มาดูแปลนชั้น 1 กัน บ้านที่เราจะเข้าไปชมกันจะเป็นบ้านแปลงมุมนะคะ เริ่มจากหน้าบ้านเป็นพื้นที่จอดรถ สามารถจอดรถได้ 2 คัน แต่ด้วยความกว้างของหน้าบ้านที่กว้างถึง 6.2 เมตร ทำให้สามารถจอดรถครอบครัวขนาดใหญ่ๆ ได้สบายๆ ถึง 2 คัน แม้ว่าจะจอดเต็ม 2 คันแล้วก็ยังสามารถเปิดประตูลงจากรถได้ง่ายด้วย ก่อนเข้าบ้านมีพื้นเฉลียงยกระดับขึ้นมา ภายในบ้านจะเป็นพื้นที่โถง Common Area ขนาดใหญ่ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่น ส่วนรับประทานอาหาร และห้องครัว ซึ่งมีฝ้าเพดานที่สูงถึง 6 เมตรเชื่อมต่อกับพื้นที่ชั้นลอย จากบริเวณห้องครัวจะมีประตูสามารถเชื่อมกับพื้นที่ Terrace หลังบ้านได้ ส่วนบริเวณใต้บันไดทางขึ้นจะมีห้องเก็บของและห้องน้ำแบบ Powder Room สำหรับแขกแยกส่วนกับเจ้าของบ้านค่ะ
มาดูรายละเอียดของบ้านด้วยกันเลยค่ะ บ้านมาตรฐานจะได้ประตูทางเข้าบ้านแบบบานเฟี้ยมระแนงเหล็กสีดำ 6 ตอนสามารถพับเปิดได้จนสุด
บริเวณด้านหน้าบ้านจะได้ตู้จดหมายและกริ่งออดตามนี้เลยค่ะ
เข้ามาในพื้นที่บ้านจะเป็นพื้นที่จอดรถมีขนาด 6.20 x 5.50 เมตร สามารถจอดรถครอบครัวได้ 2 คันสบายๆ และยังเหลือระยะเปิดประตูลงจากรถได้ง่ายไม่ต้องเบียดออก พื้นของโรงรถเป็น Slap on Pile เป็นเข็มสั้น 4 เมตร เราจึงไม่ต้องห่วงว่าพื้นจะทรุดเลยค่ะ ส่วนพื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีเทาผิวหน้า Non Slip เวลาฝนตกพื้นเปียกน้ำก็มั่นใจได้เลยว่าไม่ลื่นอย่างแน่นอน
สำหรับบ้านแปลงมุมก็จะได้พื้นที่สวนด้านข้างมาด้วยนะ ซึ่งบ้านมาตรฐานทางโครงการจะปูหญ้ามาให้เรียบร้อยให้เรามาจัดสวนได้เองตามใจชอบ
จากพื้นที่จอดรถจะมีพื้นเฉลียงยกระดับขึ้นมา 15 ซม. ทำดีเทลเซาะร่องระหว่างพื้นที่จอดรถกับพื้นเฉลียงทำให้งานดูคมขึ้น พื้นเฉลียงส่วนนี้จะกว้างราวๆ 1 เมตร ปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนผิวหน้า Non Slip เป็นจุดที่เราสามารถวางตู้รองเท้าและนั่งเปลี่ยนรองเท้าได้สบายๆ ค่ะ มองไปที่ฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสีขาวพร้อมติดดวงโคม Downlight หลอด LED มาให้ 2 ดวง สังเกตที่มุมผนังฝั่งซ้ายบนทางโครงการได้เตรียมปลั๊กไฟมาให้เผื่อการติดกล้อง CCTV เพิ่มเติมเองในอนาคตได้
โครงการนี้เขาเลือกใช้ประตู – หน้าต่างจาก Tostem ทั้งหมดนะ ซึ่งแบรนด์นี้เป็นแบรนด์คุณภาพนำเข้าจากญี่ปุ่น ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานของวัสดุ ที่หน้าบ้านมีประตูและประตูบานเลื่อนอลูมิเนียม สูง 2.5 เมตร พร้อมติดกระจกเขียวตัดแสง ที่สามารถช่วยป้องกันความร้อนและรังสี UV ได้ดี
ประตูหน้าบ้านเป็นแบบระบบล็อค 2 ชั้น ที่ต้องใช้กุญแจเฉพาะของประตู พร้อมมือจับยาวแบบดึงที่ใช้งานง่าย ด้านหลัง มี Door Guard เพิ่มมาให้ 1 จุดเพื่อความปลอดภัยโดยเฉพาะเด็กเล็กๆ จะไม่สามารถเปิดประตูเองได้ ส่วนด้านบนมี Door Close เป็นอุปกรณ์เสริมที่จะช่วยลดการกระแทกของการปิดประตูไม่ให้เสียงดัง
นอกจากนี้โครงการยังมีระบบ Magnetic Sensor เป็นระบบกันขโมยมาให้ ซึ่งจะติดตั้งให้ที่ประตู – หน้าต่างของชั้น 1 และชั้นลอยทั้งหมด เมื่อมีคนเปิดประตูหน้าต่างโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีเสียงเตือนดังรอบบ้านค่ะ
เมื่อเข้ามาด้านในตัวบ้านแล้ว จะเจอโถง Common Area ขนาดใหญ่ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่น ส่วนรับประทานอาหาร ห้องครัว เชื่อมไปจนถึงสวนหลังบ้าน พื้นปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนขนาด 60 x 60 ซม. ผิวหน้า Non Slip ส่วนผนังบ้านเป็นผนังก่ออิฐฉาบปูนทาสีขาว โดยใช้ปูนฉาบเฉพาะของอิฐมวลเบา รวมถึงตีตาข่ายทั้งบ้านป้องกันไม่ให้ผนังร้าว และทาสีรองพื้นก่อนทาสีจริงเพื่อให้ได้สีที่ตรงตามต้องการ
ส่วนโถงใหญ่นี้มีฝ้าเพดานที่สูงถึง 6 เมตร เชื่อมต่อพื้นที่ชั้น 1 กับพื้นที่ชั้นลอยให้ Flow ถึงกัน ได้ความโปร่งโล่งและความเชื่อมต่อของพื้นที่ทั้งแนวนอนและแนวตั้งที่แตกต่างจากทาวน์โฮมทั่วไป สามารถรับแสงจากธรรมชาติได้มากพอโดยที่เวลากลางวันไม่จำเป็นต้องเปิดไฟเลยก็ได้
ที่ฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสี ติดดวงโคมดาวน์ไลท์หลอด LED จาก Philips มาให้ รอบๆ มีการซ่อนไฟเอาไว้สร้างความสวยงาม สังเกตที่ระดับความสูงของฝ้าชั้น 1 ทางโครงการติดโคมไฟ Spotlight ให้เพิ่มเติม เพราะด้วยความสูงฝ้าถึง 6 เมตร ในเวลากลางคืนที่ต้องการแสงสว่าง แสงไฟจากฝ้าเพดานอาจไม่เพียงพอค่ะ นอกจากนี้ทางโครงการยังติดตั้งแอร์แบบ Duct Type ซ่อนใต้ฝ้า ยี่ห้อ Daikin มาให้ ทั้งหมดนี้ทำให้งานโดยรวมของบ้านดูเรียบร้อยมาก
บ้านทุกหลังภายในโครงการถูกวางตามแนวแกนเหนือ – ใต้ ทำให้ลมสามารถพัดผ่านเข้ามาได้ดี ในวันที่ไม่ต้องการเปิดแอร์ ก็สามารถเปิดหน้าต่างที่ฝั่งหน้าบ้านและหลังบ้านพร้อมกันเพื่อรับลมแทน
เรามาดูไอเดียการจัดตกแต่งพื้นที่ภายในบ้านของทางโครงการด้วยกันเลย เริ่มต้นจากห้องนั่งเล่นกันค่ะ
บริเวณห้องนั่งเล่นมีขนาดที่กว้างขวางมาก สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ แล้วยังเหลือพื้นที่เป็นทางเดินโดยรอบอีกด้วย ซึ่งส่วนนี้เราสามารถวางโซฟารูปตัว L หรือโซฟาเบดก็มีที่เหลือพอนะ ระยะการดูทีวีจากโซฟาอยู่ที่ 2.5 เมตร เหมาะสำหรับทีวีขนาด 60 นิ้วค่ะ
ฝั่งตรงข้ามโซฟามีผนังที่สูงขึ้นไปถึง 6 เมตร ซึ่งทางโครงการได้ทำชุด Built – in โทนสีน้ำตาลและผิวไม้ตกแต่งมาให้ดูเป็นไอเดีย เป็นการคุมโทนสีของบ้านให้ดูเรียบแต่อบอุ่น สำหรับบ้านแปลงมุมจะมีหน้าต่างเพิ่มมาให้ ทำให้ได้รับแสงจากภายนอกอย่างเต็มที่ค่ะ
ภาพบริเวณห้องนั่งเล่นอีก 1 มุม จากชั้น 1 ก็จะเห็นสวนสีเขียวที่ระเบียงตรงชั้นลอยด้วย
จากบริเวณห้องนั่งเล่นหันกลับไปด้านหลังจะมีโถงบันไดทางขึ้นชั้นบน พื้นที่ส่วนใต้บันไดจะมีห้องเก็บของและห้องน้ำสำหรับแขกค่ะ
ห้องน้ำชั้นล่างเป็นแบบ Powder Room มีเฉพาะส่วนแห้งไม่มีส่วนอาบน้ำ ประตูทางเข้าห้องน้ำเป็นบานเลื่อน HDF ปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้ (ประตูห้องนอนก็จะได้วัสดุแบบนี้เลยนะคะ) โดยบานเลื่อนเป็นรางแขวนบน ทำให้ทางเข้าห้องน้ำเรียบเสมอกันพื้นด้านนอก จุดนี้ดีสำหรับคนชราและคนที่ซุ่มซ่ามหน่อยๆ ด้วยนะคะ เพราะจะไม่สะดุดหกล้มแน่นอน
พื้นและผนังใช้กระเบื้องพอร์ซเลนสีเทาเข้ม ผิวหน้าหยาบแบบ Non Slip แม้พื้นเปียกน้ำก็ไม่ลื่นนะ มีความทนต่อการขัดถูและทนต่อกรด – ด่างได้ดี
ภายในห้องน้ำจะมีเฉพาะส่วนแห้ง ประกอบด้วยอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ค่ะ
ชุดอ่างล้างมือ ด้านบนได้เป็นกระจกเงาบานใหญ่ พร้อมซ่อนไฟที่กระจกด้านล่าง เพื่อการใช้งานที่สะดวกและเพื่อความสวยงาม
อ่างล้างมือที่ได้เป็นอ่างแบบวางบนเคาน์เตอร์ทรงกลมจาก American Standard วางบนเคาน์เตอร์หินควอทซ์ ที่มีความทนทานและทำความสะอาดง่ายกว่ากระเบื้อง รวมถึงเวลาใช้ไปนานๆ จะไม่เป็นคราบด้วยนะคะ
โถสุขภัณฑ์ใช้ของ TOTO แบบ Washlet เป็นฝารองนั่งอัจฉริยะ มีรีโมทควบคุมติดให้อยู่ด้านข้าง นอกจากนี้ก็ยังติดตั้งสายฉีดชำระเป็นตัวเลือกในการใช้งานเพิ่มเติม และติดที่ใส่กระดาษชำระมาให้เรียบร้อย
รีโมทควบคุมการใช้งานของโถสุขภัณฑ์
จากห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหารและห้องครัวค่ะ
พื้นที่ส่วนนี้เราสามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาด 6 – 8 ที่นั่งได้เลยนะ พอวางโต๊ะแล้วก็ยังเหลือพื้นที่โดยรอบอีกเยอะ จะเห็นว่าฟังก์ชั่นการใช้งานมีขนาดใหญ่จริงๆ สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้หลากหลายรูปแบบตามต้องการ
พื้นที่รับประทานอาหารมีหน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่มากให้ 2 จุด เชื่อม Terrace หลังบ้าน และพื้นที่สวนข้างบ้าน แต่ถ้าเป็นบ้านแปลงมาตรฐานจะมีเฉพาะประตูบานเลื่อนที่เชื่อมกับ Terrace หลังบ้านเท่านั้น
ถัดจากส่วนรับประทานอาหารจะเป็นส่วนครัวค่ะ ซึ่งครัวที่เราได้มาจะเป็นครัวแบบเปิด โดยทางโครงการได้เตรียมชุดเคาน์เตอร์ Built – in ชุดนี้มาให้เราพร้อมติดตั้งอุปกรณ์ประกอบการใช้งาน ถ้าเราจัดการพื้นที่ระหว่างห้องครัวและส่วนรับประทานอาหารดีๆ เรายังสามารถตั้งเคาน์เตอร์แบบ Island ไว้ตรงกลางได้อีกด้วยนะ
เคาน์เตอร์ครัวมีขนาดกำลังดี เป็นพื้นที่ที่สามารถยืนเตรียมอาหารได้พร้อมๆ กันประมาณ 2 คน ถ้าเพิ่มส่วนเคาน์เตอร์ Island แล้วก็สามารถยืนช่วยกันได้ถึง 4 คนเลยค่ะ ด้านข้างเคาน์เตอร์ฝั่งซ้ายจะมีพื้นที่เหลือกว้างประมาณ 82 ซม. สามารถวางตู้เย็นแบบ 2 ประตูขนาด 16.1 คิวบิกได้เลย
มาดูรายละเอียดในส่วนของเคาน์เตอร์ครัวที่เราได้กันค่ะ หน้าบานเปิดทั้งหมดของเคาน์เตอร์ใช้ Particle Board เคลือบผิวด้วยเมลามีนที่ทนทั้งความร้อนและความชื้นดีกว่าลามิเนต เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ส่วน Top เคาน์เตอร์ใช้หินสังเคราะห์ รวมถึงยังได้ Tile Back Splash เป็นกระเบื้องคล้ายลายเกร็ดปลาสวยงาม รวมถึงด้านล่างตู้ชั้นลอยได้ซ่อนไฟมาให้เรียบร้อย สะดวกเวลาปรุงและเตรียมอาหารค่ะ
เราได้อ่างล้างมือแบบ 2 หลุมใช้งานได้สะดวกกว่า พร้อมก๊อกน้ำล้างจานโครเมียมทรงสูง สามารถหมุนซ้าย – ขวาได้ จาก MEX
เราได้เตาเซรามิกปรุงอาหารขนาด 4 หัวจาก MEX
มาพร้อมกับ Hood สำหรับดูดควันจาก MEX เช่นกัน
ด้านข้างส่วนครัวมีประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมติดกระจกสีเขียวตัดแสงพร้อมตัวล็อคตรงกลางบาน ประตูบานนี้สามารถเปิดเชื่อมกับ Terrace หลังบ้านได้ค่ะ
พื้น Terrace จะลดระดับลงนิดหน่อย เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลย้อนเข้ามาในบ้าน
ถ้าเป็นบ้านมาตรฐาน ทางโครงการจะปูพื้นกระเบื้องพอร์ซเลนมาให้ครึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลือจะปูพื้นหญ้ามาให้แทน ทางโครงการได้จัด Terrace หลังบ้านให้มาดูเป็นไอเดีย นอกจากนี้ทางโครงการมีการเตรียมงานระบบมาให้เรียบร้อย สามารถต่อเติมพื้นที่ส่วนนี้ให้เป็นครัวไทยได้เพิ่มเติม
ภาพมองย้อนกลับเข้ามาภายในบ้านอีก 1 มุมค่ะ เดี๋ยวเราจะขึ้นไปชมชั้นลอยกันต่อเลย
ชั้นลอย พื้นที่ของชั้นนี้มีขนาดไม่ใหญ่มากเพราะถูกแบ่งไปเป็นส่วนเปิดโล่งแล้วครึ่งนึง ส่วนพื้นที่ที่เหลือจะทำหน้าที่เหมือนเป็นตัวขั้นระหว่าง Semi – public Space กับ Private Space หรือระหว่างพื้นที่สำหรับการต้อนรับแขกกับพื้นที่ส่วนตัวของเจ้าของบ้าน หลักๆ เลยพื้นที่ของชั้นนี้จะเป็นส่วน Laundry ฝั่งหลังบ้านและ Terrace ฝั่งหน้าบ้านค่ะ
กลับมาที่หน้าบ้านจะมีบันไดขึ้นไปชั้นบน โครงสร้างของบันไดใช้คอนกรีตเสริมเหล็กซึ่งมีความแข็งแรงและมั่นคง เดินแล้วไม่มีเสียงเอี๊ยดอ๊าดแน่นอน ปิดผิวด้วยไม้ประสานทั้งลูกตั้งและลูกนอนเป็นเนื้อเดียวกันตั้งแต่ชั้นล่างถึงชั้นบน
โถงบันไดมีความกว้าง 1.00 เมตร พร้อมลูกตั้งสูง 17 ซม. และลูกนอนลึก 25 ซม. เป็นระยะที่สามารถเดินได้สบาย ก้าวสะดวก และสามารถวางเท้าได้เต็มฝ่าเท้า
ราวบันไดใช้ราวสแตนเลส ส่วนมือจับใช้ไม้ประสานเหมือนพื้นบันได รวมแล้วสูง 80 ซม. เป็นระยะที่วางมือแล้วกำลังสบายค่ะ
ภาพมองย้อนกลับลงไปที่บันได สังเกตที่พื้นชั้นลอยเป็นกระเบื้องยางสมาร์ทไวนิลลายไม้ เป็น PVC 100% ข้อดีคือมีลวดลายและสีมากกว่าทำให้คล้ายคลึงกับไม้จริง อีกทั้งถ้าพื้นเปียกก็จะไม่บวม เนื่องจากมีความทนทานต่อน้ำได้ดีกว่าลามิเนต แถมยังรักษาสภาพได้ง่ายกว่างานไม้จริงค่ะ
ขึ้นมาถึงชั้นลอย ตรงหน้าของเราเลยก็คือห้อง Laundry ซึ่งจริงๆ แล้วส่วนนี้จะเป็นเหมือนพื้นที่อเนกประสงค์ จะไม่มีประตูกระจกกั้นห้องมาให้ เผื่อใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นฟังก์ชั่นอื่น เช่น มุมนั่งเล่นพักผ่อน มุมทำงาน หรือจะทำเป็นห้องเล่นโยคะ – ออกกำลังกายก็ทำได้ เพราะเดี๋ยวนี้ไลฟ์สไตล์ของคนแต่ละครอบครัวก็ไม่เหมือนกัน บางครอบครัวอาจจะซักผ้ารีดผ้าเอง บางครอบครัวก็ส่งร้านซักรีดทั้งหมดเลย แต่ทางโครงการก็ได้เตรียมงานระบบสำหรับห้องนี้มาให้เผื่อเลือกแล้วค่ะ ส่วนฝ้าเพดานตรงชั้นลอยจะสูงประมาณ 2.4 เมตรนะ
ภายในห้อง ทางโครงการได้วางตู้ Built – in และเครื่องซักผ้ามาให้ดูเป็นไอเดีย ข้อดีของห้องนี้ก็คือ มีพื้นที่ติดกับระเบียงกั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อน ซึ่งสามารถใช้เป็นพื้นที่ตากผ้าได้เลย
ผนังฝั่งตรงข้ามติดตั้งหน้าต่างบานวิทโก้มา 3 บานและหน้าต่างบาน Fix ที่ส่วนล่าง
พื้นที่ภายในห้อง Laundry ขนาดเท่านี้ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว สามารถกางโต๊ะและยืนรีดผ้าได้
พื้นระเบียงภายนอกมีขนาด 3.25 x 1.40 เมตร สามารถวางราวตากผ้าขนาดกลางได้สบายๆ เลย ส่วนพื้นปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนสีเทาอ่อน และติดระเบียงกระจกขอบเรียบสูง 1 เมตร
พื้นที่ด้านข้างของระเบียงได้ออกแบบให้มีระแนงไม้มาปิดและแขวน Condensing Unit ทำให้รูปด้านของโครงการดูเรียบร้อย นอกจากนี้พื้นที่ด้านล่างที่เหลือเราสามารถใช้วางพวกอุปกรณ์ทำความสะอาดหรือใช้ซ่อนสิ่งที่ดูไม่เรียบร้อยได้ด้วย
หันกลับมาเป็นส่วนทางเดิน สุดทางเดินเป็นประตูออกไป Terrace หน้าบ้าน พื้นที่ส่วนนี้เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ชั้น 1 และพื้นที่ระเบียงชั้น 2 ด้วย จะเห็นความ Flow ของ Space ภายในบ้านหลังนี้จริงๆ ออกแบบมาได้น่าสนใจทีเดียว
จากบริเวณทางเดินชั้นลอยสามารถมองลงมาเห็นพื้นที่โถงชั้น 1 ได้ทั้งหมดเลยค่ะ แถมยังใช้ราวกันตกใช้กระจกใสเต็มบาน ไม่มีตัวกั้นความ Flow ของ Space
เราออกไปดูในส่วนของ Terrace ชั้นลอยกันต่อเลยค่ะ ประตูบานนี้ก็ยังติดระบบ Magnetic Sensor เอาไว้ให้เพื่อกันขโมยปีนขึ้นมาด้วย
พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนเหมือนเดิมค่ะ พื้นที่มีขนาดกว้างขวาง สามารถจัดแต่งสวน ตั้งชุดโต๊ะน้ำชาหรือวาง Day Bed ได้เลย
พื้นที่ Terrace หน้าบ้าน จะอยู่เหนือส่วนจอดรถพอดี ด้านข้างมีพื้นที่เปิดโล่งเชื่อม Space ส่วนโถงทางเข้าบ้าน และกั้นด้วยราวกันตกกระจกใส
ความพิเศษของ Terrace ก็คือสามารถทำเป็นพื้นที่ Private หรือ Public ได้ตามต้องการ โดยเราสามารถเลื่อนบานเฟี้ยมระแนงให้เปิด – ปิดได้ นอกจากจะช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวและความน่าสนใจในรูปด้านแล้ว ยังช่วยกันแสงแดดแบบจังๆ ได้อีกด้วย
ชั้นที่ 2 หลักๆ แล้วพื้นที่ชั้น 2 ทั้งหมดจะเป็นส่วนของ Master Bedroom ค่ะ ทางโครงการให้พื้นที่ห้องนอนใหญ่มาแบบจัดเต็มเหมือนเป็นห้องแบบ Penthouse ส่วนตัว ด้วยฟังก์ชั่นที่มีขนาดใหญ่จึงสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ง่ายและลงตัว แบ่งโซนนอนพักผ่อนและโซนแต่งตัวออกจากกัน พร้อมทั้งห้องน้ำในตัวขนาดใหญ่ ตำแหน่งอยู่ริมอาคารทำให้ได้ช่องแสงและช่องระบายอากาศมาพอสมควร นอกจากนี้ยังได้ Private Terrace ขนาดใหญ่ สามารถออกไปนั่งพักผ่อนใช้งานได้จริงๆ
บันไดทางขึ้นชั้น 2 ฝั่งซ้ายมือติดผนังของตัวบ้าน ใช้วัสดุปิดผิวและราวจับแบบเดียวกับด้านล่างค่ะ
ตรงโถงบันไดตรงนี้เป็นมุมโปรดของผู้เขียนเลยนะคะเพราะเราจะสามารถเห็นสวนและต้นไม้สีเขียวบริเวณระเบียงจากตรงชั้นลอยและชั้น 2 ได้พร้อมๆ กัน เป็นมุมที่สามารถมานั่งแอบอ่านหนังสืออ่านเล่น หรือนั่งมองต้นไม้เงียบๆ ได้
ขึ้นมาถึงโถงบันไดชั้น 2 จะเจอกับห้อง Master Bedroom ค่ะ
บานประตูทางเข้าห้องเป็นบานเปิด HDF ปิดผิวด้วยลามิเนตเหมือนชั้นล่าง แต่จริงๆ แล้วที่บ้านมาตรฐานเราจะได้ประตูที่สูงถึง 2.4 เมตรเลยนะ
บริเวณด้านหน้าห้องมีกล่องควบคุมระบบ Magnetic Sensor ในกรณีที่มีเสียงดังรอบบ้าน ต้องมากดรหัสผ่านที่เครื่องนี้ค่ะ
ชั้นนี้จะเป็นพื้นที่ของห้อง Master Bedroom ทั้งชั้นเลย ภายในถูกแบ่งพื้นที่ออกเป็นโซนพักผ่อนฝั่งหน้าบ้าน และโซนแต่งตัวฝั่งหลังบ้าน ห้องนี้มีฝ้าเพดานสูงโปร่งถึง 3.10 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้องยางสมาร์ทไวนิลลายไม้ โดยปูพื้นเป็นลายกางปลา ทำให้ห้องดูมีลูกเล่นขึ้นมาเลย ผนังก็จะได้ผนังฉาบเรียบทาสีขาวเหมือนเดิม ส่วนแอร์ได้เป็นแบบ Duct Type บริเวณโซนพักผ่อน ส่วนโซนแต่งตัวจะเป็น Wall Type ติดตั้งให้บริเวณหน้าห้องน้ำ
หันไปทางฝั่งหน้าบ้าน เรามาดูในส่วนพักผ่อนกันก่อน
พื้นที่ของห้องนี้สามารถวางเตียงนอนขนาด King Size ได้สบายๆ สามารถวางโต๊ะข้างได้ทั้ง 2 ฝั่ง และยังเหลือพื้นที่เป็นทางเดินโดยรอบเตียง ที่ฝั่งขวามือยังเหลือพื้นที่สามารถวาง Day Bed หรือโซฟาเป็นมุมนั่งเล่นนอนอ่านหนังสือได้อีกมุม ส่วนที่ฝั่งซ้ายสามารถวางโต๊ะทำงานขนาดมาตรฐานได้อีก 1 ตัว
พื้นที่ปลายเตียงหลังจากวางเฟอร์นิเจอร์แล้ว ก็ยังเหลือพื้นที่เป็นทางเดินกว้างถึง 95 ซม. สามารถเดินผ่าน ทำความสะอาด หรือเปลี่ยนผ้าปูเตียงได้สบายๆ
ส่วนที่ผนังฝั่งปลายเตียงสามารถวางชั้นวางทีวีได้หรือจะทำเป็นชั้น Built – in ก็ได้ค่ะ ซึ่งทางโครงการได้ติดตั้งจุดเชื่อมสัญญานมาให้เรียบร้อยแล้ว
บริเวณริมหน้าต่าง มีพื้นที่เหลือสามารถทำ Window Seat หรือวาง Day Bed เชื่อมต่อเห็นวิวและได้ร่มไม้จากส่วนของ Terrace พอดี ส่วนฝั่งขวามือเป็นประตูบานเลื่อนสามารถเปิดเชื่อมออกไป Private Terrace หน้าบ้านได้ ซึ่งทางโครงการทำที่ซ่อนรางม่านมาให้เรียบร้อยแล้ว
ออกมาที่ Private Terrace พื้นปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนและใช้ราวกันตกกระจกเหมือนเดิม
พื้นที่ Private Terrace นี่กว้างขวางทีเดียวนะคะ สามารถจัดสวนและสามารถวาง Day Bed ได้พอ
ซึ่งตรงนี้ทางโครงการได้ให้ต้นไม้หลิวขนาดใหญ่มาให้อีก 1 จุด ฝ้าบริเวณที่วางต้นหลิวจะเปิดโล่งขึ้นไปถึงฝ้าชั้น 3 มีพื้นที่ให้ต้นไม้สามารถโตได้
ภาพจากส่วน Private Terrace มองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง
เราไปดูโซนแต่งตัวฝั่งหลังบ้านกันต่อเลยค่ะ ส่วนนี้เราสามารถทำฉากกั้นส่วนเพิ่มเติมได้ จะเห็นว่าพื้นที่ส่วนนี้ก็มีขนาดที่กว้างขวางไม่แพ้กับส่วนพักผ่อนเลยนะ เราสามารถทำตู้เสื้อผ้า Built – in ได้ทั้ง 2 ฝั่ง แถมยังสามารถวาง Island ไว้ตรงกลางได้อีกด้วย
ทางโครงการวางชุด Built – in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่มาให้ดูเป็นไอเดีย บ้านแปลงมุมจะมีหน้าต่างด้านข้างมาให้ ส่วนบ้านมาตรฐานจะไม่มีหน้าต่างนะคะ เราสามารถทำตู้ยาวจนถึงเตียงได้เลยหากไม่ต้องการวางโต๊ะทำงาน
อีกฝั่งก็สามารถทำตู้เสื้อผ้า Built – in ได้เช่นกันหรือจะวางโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้ค่ะ บริเวณนี้จะเป็นส่วนที่ติดกับหน้าต่างพอดี ได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาแบบเต็มๆ นอกจากจะได้ประโยชน์ในแง่ของความสว่างโปร่งโล่งภายในห้องแล้ว ยังได้ประโยชน์ในแง่ของการแต่งตัวและแต่งหน้าอีกด้วย
ส่วนแต่งตัวก็จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัวค่ะ
ห้องน้ำที่ทางโครงการออกแบบมาให้มีขนาดที่ใหญ่และโปร่งโล่ง มีการแบ่งโซนเปียก – แห้งให้ใช้งานได้สะดวก เพราะห้องน้ำก็เป็นอีกฟังก์ชั่นหนึ่งที่ทั้งคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงใช้เวลาอยู่ในนี้นานๆ วัสดุภายในห้องน้ำส่วนพื้นและผนังใช้กระเบื้องพอร์ซเลนผิวหน้าหยาบแบบ Non Slip ไม่ลื่น ทนทานต่อการใช้งานและการทำความสะอาด
ตรงกลางห้องเป็นส่วนของอ่างล้างมือแบบ His & Her สามารถใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้ พร้อมตู้กระจกซ่อนไฟ ส่วนด้านบนตู้กระจกก็มีไฟติดผนังมาให้อีก 2 ดวงด้วย
Top เคาน์เตอร์ใช้หินควอทซ์เช่นเดียวกับชั้นล่าง แต่ใต้เคาน์เตอร์จะไม่ได้ทำ Built – in มาให้นะ
พร้อมติดตั้งปลั๊กไฟสำหรับเครื่องโกนหนวดค่ะ
ฝั่งอ่างอาบน้ำมีขอบยกขึ้นมาประมาณ 50 ซม. ฝั่งทางขวามือมีหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ เป็นช่องแสงและเป็นช่องระบายอากาศ
อ่างอาบน้ำเป็นอ่างแบบฝังใช้ของ Kohler ขนาดประมาณ 1.70 เมตร เป็นระยะที่นอนเอนเหยียดตัวได้สบายๆ รอบๆ อ่างก็สามารถวางอุปกรณ์ที่ใช้ในการอาบน้ำได้
ขนาดของ Hand Shower ตรงอ่างอาบน้ำค่ะ มีขนาดใหญ่ใช้งานได้สะดวก
ส่วนฝั่งซ้ายมือทางโครงการได้ติดฉากกั้นกระจก Tempered Glass มาให้เรียบร้อย พื้นห้องน้ำทั้งหมดจะเรียบเสมอกัน จึงไม่ต้องกลัวว่าจะสะดุดหกล้มค่ะ
ด้านหน้าบานเปิดติดราวมือจับที่สามารถใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ด้วยในตัว
โถสุขภัณฑ์ของ TOTO แบบ Washlet เช่นเดียวกันกับห้องน้ำชั้นล่าง 1 พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ประกอบการใช้งานทั้งสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษชำระ
ส่วนอาบน้ำมีให้ทั้งแบบ Hand Shower และ Rain Shower ของ American Standard สำหรับห้อง Master Bedroom ทางโครงการจะมีเครื่องทำน้ำร้อนของ STIEBEL ELTRON มาให้ด้วยนะคะ
พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.65 x 1.25 เมตร มีขนาดกว้างทีเดียว สามารถยืนอาบน้ำได้สบายๆ เลย และมีการทำพื้นให้เป็น Slope ให้ลงไปที่ท่อระบายน้ำ
ฝักบัวแบบ Hand Shower ของ American Standard ขนาดใหญ่อาบได้สะใจทีเดียว สามารถปรับรูปแบบการไหลของน้ำได้หลากหลายค่ะ
ชั้น 3 จะเป็นส่วนของห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องแบ่งกันคนละครึ่งระหว่างฝั่งหน้าบ้านและฝั่งหลังบ้าน โดยทั้ง 2 ห้องก็จะมีห้องน้ำในตัวให้เรียบร้อยค่ะ
บริเวณโถงบันไดมีหน้าต่างรับแสงธรรมชาติเข้ามาบริเวณบันไดทำให้ไม่มืด ซึ่งจะได้เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง ทำให้ระบายอากาศภายในโถงบันไดได้อีกด้วย
ส่วนวัสดุผิวบันไดรวมถึงราวจับก็จะเป็นแบบเดียวกันกับชั้นที่แล้วทุกประการ
บริเวณโถงบันไดชั้นที่ 3 มีพื้นที่เหลืออยู่พอสมควร เราสามารถวางตู้เก็บของหรือหิ้งพระเพิ่มเติมได้ หรือใครจะทำเป็นมุมนั่งเล่นที่แชร์กันระหว่างห้องนอน 2 ห้องก็ได้นะ
ห้องนอนจะถูกแยกออกเป็น 2 ฝั่งค่ะคือฝั่งหน้าบ้านและฝั่งหลังบ้าน
เริ่มจากห้องทางฝั่งขวามือของโถงกันก่อนหรือห้องฝั่งหลังบ้านนั่นเองค่ะ วัสดุประตูใช้เหมือนกับห้องชั้นล่างแต่จะสูง 2.2 เมตรนะ
ห้องทางฝั่งหลังบ้านก็คือห้องนอน 2 แม้จะเป็นห้องนอนเล็กแต่พื้นที่ของห้องก็เรียกได้ว่ากว้างเท่ากับ Master Bedroom ของโครงการอื่นๆ เลยนะคะ วัสดุพื้นและผนังจะเหมือนกับห้อง Master Bedroom ทุกประการ เพียงแต่ว่าฝ้าของห้องนี้จะต่ำกว่าอยู่ที่ 2.55 เมตร และได้แอร์แบบ Cassette Type มาแทนซึ่งเป็นแอร์แบบฝังฝ้า มีการกระจายลมแบบ 4 ทิศทาง ถือว่าดีเหมือนกัน ห้องนี้ก็จะได้หน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่มาเป็นช่องแสงและทางระบายอากาศ
ถ้าเราเปิดหน้าต่างห้องมองออกไปจะมีระแนงไม้สำหรับกันแดดให้ด้วยอีกชั้น ช่วยลดความร้อนที่จะเข้าสู่ตัวห้องได้ดีเลย
ด้วยขนาดของห้องที่ใหญ่จึงสามารถวางเตียง King Size ได้พร้อมโต๊ะข้างอีกทั้ง 2 ฝั่ง แล้วเหลือพื้นที่รอบเตียงอย่างกว้างขวาง
ด้านข้างเตียงมีพื้นที่สามารถทำเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้ ซึ่งทางโครงการได้ทำชุด Built – in ที่สูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้ามาให้ดูเป็นไอเดีย
หลังจากวางเฟอร์นิเจอร์แล้ว มีพื้นที่เหลือประมาณ 1.4 เมตร เป็นระยะที่สามารถยื่นแต่งตัวได้สะดวก ถ้าเราต้องการเก็บกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ไว้ในตู้ด้วย เราสามารถทำตู้ที่ลึกกว่านี้ได้อีกนะ จะเห็นว่าความลึกของกำแพงยังเหลืออีกประมาณ 30 ซม.เลยค่ะ
ส่วนพื้นที่ฝั่งปลายเตียงนอน เราสามารถวางชั้นวางทีวีและโต๊ะทำงานขนาดมาตรฐานได้เพิ่มเติม
หลังจากวางเฟอร์แล้วมีพื้นที่ปลายเตียงสามารถวางสตูลได้อีก 1 ตัวเลย
ส่วนฝั่งซ้ายมือสุดจะเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำในตัวค่ะ
แม้จะเป็นห้องนอนเล็ก แต่ก็ยังได้ห้องน้ำที่มีขนาดใหญ่ใช้งานได้สะดวก สังเกตว่าห้องนี้จะได้ช่องแสงมาด้วยแบบบานใหญ่เต็มผนังเลยค่ะ ส่วนพื้นและผนังเป็นกระเบื้องพอร์ซเลนผิวหน้า Non Slip ภายในแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้งออกจากกันชัดเจน ได้อ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงา และให้สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องน้ำครบพร้อมใช้งาน แต่เคาน์เตอร์ Built – in ใต้อ่างล่างหน้าจะไม่ได้ทำมาให้ด้วยนะคะ
บริเวณเคาน์เตอร์กว้าง สามารถวางอุปกรณ์อาบน้ำได้เต็มที่ มาพร้อมอ่างล้างมือขนาดใหญ่ของ TOTO ฝังบน Top เคาน์เตอร์เป็นหินควอทซ์
ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ TOTO พร้อมสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษชำระ
บริเวณพื้นที่อาบน้ำติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจก Tempered Glass มาให้เรียบร้อย พร้อมติดราวจับที่สามารถแขวนผ้าเช็ดตัวได้ด้วย
พื้นที่อาบน้ำมีขนาดกว้างทีเดียว สามารถยืนอาบน้ำได้สบายๆ เลย
ภายในส่วนอาบน้ำเราได้ทั้งชุด Rain Shower และ Hand Shower มาแบบนี้เลยนะคะ
คราวนี้เรามาดูห้องนอน 3 หรือห้อง Hobby Room กันต่อ
ตำแหน่งของห้องจะอยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน ซึ่งห้องนี้โครงการได้ตกแต่งมาเป็นห้องทำงานขนาดใหญ่ สามารถใช้เป็น Co – working Space ได้เลยค่ะ จริงๆ แล้วขนาดของห้องนี้จะกว้างกว่าห้องนอน 2 อีกนะ ถ้าจะจัดห้องนี้ให้เป็นห้องนอนก็สามารถทำได้สบายๆ เลย
ภายในห้องมีกระจกบานใหญ่แบบ Bay Window ที่สามารถเห็นต้นไม้ที่ชั้น 2 ได้เต็มที่ รวมถึงยังได้กระจกบานเลื่อน สามารถระบายอากาศภายในห้องได้อีกด้วย
ส่วนฝั่งขวามือข้างประตูทางเข้าห้อง จะมีพื้นที่เว้าเข้าไปด้านในสามารถทำเป็นตู้เก็บของหรือตู้เสื้อผ้าได้เหมือนกับห้องนอน 2 ค่ะ
เราเข้าไปดูในส่วนของห้องน้ำในตัวกันต่อ
ภายในห้องน้ำขนาดใหญ่กำลังดี มีระยะการใช้งานที่สะดวก ทั้งวัสดุและสุขภัณฑ์จะได้เหมือนกับห้องนอน 2 ทุกประการ
แต่โถสุขภัณฑ์จะวางเอาไว้ที่ฝั่งตรงข้ามกับอ่างล้างมือนะ
ส่วนอาบติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย พร้อมชุด Rain Shower และ Hand Shower เหมือนห้องนอน 2 ทุกประการค่ะ
นอกจากนี้ สวิตช์และปลั๊กไฟที่ได้จะเป็นของ Art DNA ดีไซน์โมเดิร์นค่ะ
:::: ราคา (เมษายน 2561) ::::
ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 285 ตร.ม. ฟังก์ชั่นขนาด 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ มีหน้ากว้าง 6.2 เมตร
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 110 ซึ่งเป็นลาดพร้าวฝั่งขาเข้า ระยะ 700 เมตรจากถนนลาดพร้าว ซึ่งถึอว่าเป็นทำเลที่มีที่เเหล่งที่อยู่อาศัยหนาแน่น จึงมีสาธารณูปโภครองรับอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า โรงเรียน หรือโรงพยาบาล แถมยังอยู่ในระยะการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ที่จะช่วยดันให้ทำเลนี้เจริญงอกงามมากขึ้น
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว หลักๆ เลยการเดินทางตอนนี้จะใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก เพราะโครงการอยู่เข้ามาในซอยประมาณ 700 จากถนนลาดพร้าว ซึ่งจะเป็นถนนเส้นหลักที่ใช้ในการเดินทาง เพราะเป็นถนนเส้นที่สามารถเชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักได้อีกหลายสาย และโครงการยังสามารถเข้า – ออกผ่านถนนใหญ่ได้อีกหลายเส้น ถือว่าพอมีทางหลบหลีกรถติดได้บ้าง อีกทั้งยังอยู่ใกล้ทางขึ้นทางด่วนด้วย ช่วยให้สบายตัวมากขึ้นจริงๆ ค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ เนื่องจากโครงการอยู่ในซอยลาดพร้าว 110 จึงไม่มีรถสาธารณะผ่านในซอยของโครงการ แต่เราสามารถพึ่งมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และเรียกรถผ่าน Application ก็ได้ พอออกมาที่ถนนลาดพร้าวมีรถแท็กซี่ผ่านไปมาเยอะเรียกใช้บริการได้ง่าย รวมถึงมีรถเมล์ รถสาธารณะ และรถตู้โดยสารประจำทางสายต่างๆ
ส่วนรถไฟฟ้าในปัจจุบันก็มี รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล สถานีที่ใกล้ที่สุดก็คือ สถานีลาดพร้าว ค่ะ และจะสะดวกมากขึ้นไปอีกเพราะจะมีสถานีรถไฟฟ้าอีกถึง 3 สายวิ่งผ่านรอบโครงการเลย ทั้งรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีที่ใกล้ที่สุดก็คือสถานนีฉลองรัช (หรือสถานีลาดพร้าว 83) บริเวณซอยลาดพร้าว 83 หรือห้างบิ๊กซี ลาดพร้าว รถไฟฟ้าสายสีส้ม ใกล้ที่สุดคือสถานีรามคำแหง ตรงซอยรามคำแหง 34/1 และรถไฟฟ้าสายสีเทา สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีศรีวา ตรงถนนอินทราภรณ์พอดีค่ะ นอกจากนี้ยังมีเรือด่วนแสนแสบให้เลือกใช้เดินทางอีก 1 ตัวเลือก ใช้ตอนหลีกหนีการจราจรบนท้องถนนนี่ทันใจกว่าเยอะค่ะ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ NORD ลาดพร้าว 110 เป็นโครงการทาวน์โฮมที่มีจำนวนเพียง 9 ยูนิต บนพื้นที่โครงการ 1 – 0 – 29 ไร่ คนที่จะเข้า – ออกโครงการก็จะมีเพียงแค่คนของ 9 ครอบครัวนี้ ซึ่งโครงการออกแบบมาให้เป็นโครงการแบบปิดเข้า – ออกทางเดียว ลูกบ้านทุกครอบครัวจะได้ Remote Control สำหรับเปิด – ปิดประตูทางเข้าโครงการมาด้วย และมียามรักษาความปลอดภัยหน้าประตูด้วยอีก 1 จุด รวมถึงกล้อง CCTV ภายในโครงการ จึงถือว่าเป็นโครงการที่มีความเป็นส่วนตัวแบบจริงๆ
แบบบ้านของโครงการเป็นทาวน์โฮมสูง 3.5 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 285 ตร.ม. กับฟังก์ชั่นขนาด 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน ได้หน้าบ้านที่กว้างกว่าถึง 6.2 เมตร สไตล์ Nordic เป็นสไตล์ Minimal ที่ผสมผสานวัฒนธรรมจากสแกนดิเนเวียและญี่ปุ่นทั้งฟังก์ชั่นและดีไซน์เข้าด้วยกัน ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงวิถีชีวิตที่เรียบง่าย อบอุ่น และใกล้ชิดกับธรรมชาติ รวมถึงผสานเข้ากับ Tropical Design เพื่อให้เข้ากับอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย
ตั้งแต่การวางตัวบ้านให้หันตามแกนเหนือ – ใต้ ทำให้สามารถรับลมได้ตลอดทั้งปี การออกแบบช่องแสงและหน้าต่างระบายอากาศรอบบ้าน ที่เพิ่มระแนงไม้รวมถึงพื้นที่สีเขียวเข้าไปเพื่อช่วยลดทอนแสงอีกชั้น ดีไซน์ที่น่าประทับใจของบ้านส่วนหลักก็คือโถง Common Area ที่สูงถึง 6 เมตร เป็นส่วนที่เชื่อมต่อ Space ภายในบ้านระหว่างชั้น 1, ชั้นลอย จนไปถึง Private Terrace ที่ชั้น 2 เป็น Space ที่มีความน่าสนใจทีเดียว นอกจากฟังก์ชั่นของบ้านในแต่ละส่วนที่ถูกออกแบบมาให้มีขนาดใหญ่ สามารถจัดการตกแต่งและวางเฟอร์นิเจอร์ได้ง่ายแล้ว ก็ยังก่อสร้างด้วยความใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ เพื่อให้บ้านนั้นสามารถอยู่ได้นานหลาย 10 ปีโดยไม่มีปัญหาต้องมานั่งซ่อมแซมให้ลำบากใจจนกว่าจะหมดอายุการใช้งานจริงๆ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการก่อ Concrete ขอบรอบพื้นทั่วบ้านเพื่อกันน้ำรั่วซึม การก่อเสาเอ็นและทับหลังรอบบ้านเพื่อความแข็งแรง ใช้เหล็กหนวดกุ้งระหว่างทุกแถวของอิฐกันเสาทำให้ผนังไม่แยกตัวจากเสาซึ่งดีกว่าโครงการทั่วๆ ไปที่ใช้ Metal Strap หรือตะปูสั้นๆ ยึด การใช้ Wedge ในการก่อเสาซึ่งแน่นกว่าการใช้ตะปู รวมถึงผนังของบ้านก็ใช้แบบ Double Wall ช่วยลดความร้อนและเสียงจากภายในที่เข้าสู่ตัวบ้านได้ดี ทั้งยังใช้ปูนฉาบเฉพาะของอิฐมวลเบา รวมถึงตีตาข่ายทั้งบ้านป้องกันไม่ให้ผนังร้าว และทาสีรองพื้นก่อนทาสีจริงเพื่อให้ได้สีที่ตรงตามต้องการ บันไดก็ใช้บันไดคอนกรีตเสริมเหล็กที่แข็งแรงทนทาน
วัสดุที่ได้ก็มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ส่วนพื้นที่จอดรถ, กระเบื้องพอร์ซเลนผิวหน้า Non Slip ในส่วนต่างๆ ของบ้านและภายในห้องน้ำ, พื้นชั้นลอย ชั้น 2 และชั้น 3 ใช้กระเบื้องยางสมาร์ทไวนิลลายไม้ที่สามารถดูแลรักษาได้ง่าย, ประตูและหน้าต่างจากแบรนด์ Tostem ทั้งหมด พร้อมติดกระจกเขียวตัดแสง, ประตูในบ้านเป็นบาน HDF ปิดผิวลามิเนตลายไม้, ชุดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวจาก MEX, อุปกรณ์ภายในห้องน้ำเป็นของ American Standard และ TOTO ทั้งหมด ส่วนโถสุขภัณฑ์ชั้น 1 และ ชั้น 2 จะได้ TOTO Washlet ส่วนชั้น 3 เป็น TOTO รุ่นธรรมดา ส่วนที่ชอบอีก 1 จุดเลยก็คือการเตรียมและการซ่อนงานระบบทั้งหมดให้ไม่ไปทำลายดีไซน์ของตัวบ้าน เทียบแล้วนับว่าตัว Product ของโครงการนี้โดดเด่นและน่าสนใจกว่าโครงการในระดับเดียวกันเลย
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการทาวน์โฮมขนาดเล็กเพียง 9 ยูนิต จึงไม่มีส่วนกลางที่ต้องแชร์กันระหว่างลูกบ้านค่ะ
:::: คะแนน ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 7.9 | ตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 110 ระยะ 700 เมตรจากถนนใหญ่ มีความเงียบสงบ สาธารณูปโภครองรับพื้นที่อยู่อาศัย |
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว | 7.9 | สามารถเข้า – ออกได้หลายเส้นทาง ล้อมรอบด้วยถนนใหญ่หลายเส้นและใกล้ทางด่วน |
การเดินทางโดยรถสาธารณะ | 8.0 | มีรถสาธารณะวิ่งผ่านหน้าโครงการ อยู่ในละแวกการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง อีกทั้งยังล้อมรอบด้วยรถไฟฟ้าอีก 3 สาย |
บ้านและวัสดุ | 8.9 | บ้านสไตล์โมเดิร์น ฟังก์ชั่นขนาดใหญ่ วัสดุได้มาตรฐานที่ดีมาก ออกแบบได้ดีคำนึงถึงผู้อยู่อาศัย |
สิ่งอำนวยความสะดวก | n/a | โครงการไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพราะเป็นโครงการขนาดเล็ก จึงจะไม่นำคะแนนส่วนนี้มาคิดรวมนะคะ |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.5 | โครงการเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ ต้องการความเป็นส่วนตัว เดิมอาศัยหรือทำงานอยู่ใกล้เคียงกับบริเวณโครงการ หรือทำงานอยู่ในตัวเมือง |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.24 | ดีมาก |
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
TEL : 081-565-3663
WEBSITE : http://www.assetta.co.th/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
แสดงความคิดเห็น