ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กทม. 300 เมตร จากแยกราชเทวี เดินทางสะดวก ใกล้สยาม, พญาไท ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนศรีรัชและเฉลิมมหานคร สะดวกสบายทุกการเดินทางใกล้รถไฟฟ้า BTS ราชเทวี เพียง 400 เมตร และติดรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีราชเทวี (อนาคต)
และใกล้อาคารสำนักงาน กับ Life Style Community ในอนาคต อาทิ Spring Tower, JRK Tower, BTS Phayathai Complex และแหล่งช้อปปิ้ง และไลฟ์สไตล์ เช่น Stadium One, The Market by Platinum, King Place Market, Smile Square เป็นต้น
มีห้องให้เลือกแบบ Loft มาตรฐานมี 2 แบบ คือ 1 Bedroom ขนาดประมาณ 34 ตร.ม., 1 Bedroom Plus ขนาด 34.8 – 38.6 ตร.ม.และ Penthouse 1 Bedroom Plus 70 – 72 ตร.ม. และ 3 Bedroom Plus 114.8 ตร.ม. คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการประมาณ กันยายน 2565
บรรยากาศรอบๆโครงการจะเป็นอย่างไร ติดตามอ่านต่อด้านล่างได้เลยค่ะ 🙂
ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://bit.ly/2PTjhTg
คอนโด Park Origin ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
Park Origin จุฬา-สามย่าน
Park Origin ราชเทวี
Park Origin พญาไท
Park Origin พร้อมพงษ์
Park Origin ทองหล่อ
ชื่อโครงการ
พาร์ค ออริจิ้น ราชเทวี Park Origin Ratchathewi
เจ้าของโครงการ
ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ / Origin Property
เนื้อที่ทั้งหมด
1 – 2 – 34.5 ไร่
จำนวนตึก
1 อาคาร
จำนวนชั้น
41 ชั้น
จำนวนห้อง
264 ยูนิต
ลักษณะห้องและขนาดห้อง
ห้อง Loft มาตรฐานมี 2 แบบ คือ
1 Bedroom ขนาดประมาณ 34 ตร.ม.
1 Bedroom Plus ขนาด 34.8 – 38.6 ตร.ม.
และ Penthouse
1 Bedroom Plus 70 – 72 ตร.ม.
3 Bedroom Plus 114.8 ตร.ม.
ที่จอดรถทั้งหมด
100% รวมจอดซ้อนคัน (Auto Parking)
จำนวนลิฟต์
ลิฟต์โดยสารล็อคชั้น 2 ตัว + เซอร์วิสลิฟต์ 1 ตัว
โซน
เขตราชเทวี
ขนส่งสาธารณะ
ถนนเพชรบุรี : 0 ม.
ถนนพญาไท : 300 ม.
ทางพิเศษศรีรัช : 2.2 กม.
BTS ราชเทวี : 400 ม.
ท่าเรือสะพานหัวช้าง : 800 ม.
Airport Rail Link พญาไท : 800 ม.
ท่าเรือประตูน้ำ : 1.5 กม.
ที่ตั้ง
ถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กทม. 10400
กำหนดการ
เปิดลงทะเบียน*/เริ่มก่อสร้าง ต.ค.2562
ปีที่สร้างเสร็จ
กันยายน 2565
ราคา
เริ่มต้น เฉลี่ย 190,000 บาท/ตร.ม.
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม
รอข้อมูลจากทางโครงการ
ค่าส่วนกลางและกองทุน
ค่าส่วนกลาง 95 บาท/ตร.ม.
กองทุน 750 บาท/ตร.ม.
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
ห้างสรรพสินค้า
พันทิพย์พลาซ่า : 1 กม.
Siam Center : 1.1 กม.
Siam Discovery : 1.1 กม.
เทสโก้ โลตัส พระราม 1 : 1.3 กม.
Siam Paragon : 1.3 กม.
ประตูน้ำเซ็นเตอร์ : 1.4 กม.
สยามสแควร์ : 1.5 กม.
แพลตตินั่ม : 1.5 กม.
The Palladium : 1.6 กม.
Big C ราชดำริ : 1.8 กม.
เซ็นทรัลชิดลม : 1.9 กม.
Central World : 1.9 กม.
Gaysorn Plaza : 1.9 กม.
มาบุญครอง : 2.4 กม.
Central Embassy : 2.6 กม.
อัมรินทร์พลาซ่า : 2.7 กม.
ส ถานศึกษา
รร.สันติราษฏร์ วิทยาลัย : 1 กม.
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย : 1.9 กม.
โรงพยาบาล
รพ.พญาไท 1 : 2.4 กม.
รพ.ตำรวจ : 2.7 กม.
สถานที่ราชการ วัด และอื่นๆ
Siam Kempinski Hotel Bangkok : 1.6 กม.
ตึกใบหยก : 1.6 กม.
วัดหัวลำโพง : 3.8 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก
Grand Lobby
Car Waiting Area
Smart Mail Box
Smart Locker
Business Cafe
Co – Creating Area
Business Lounge
Private Meeting Room
Starry Lounge
Private Dinning Lounge
Wine Bar
Spa Room
Sky Theatre Room
Game Room
Endless Sky Fitness
Lava Onsen
Endless Pool
Rooftop Forest Trail
Sky Communal
Walking Trail
Sunset View Point
Edge of The Sky
จุดเด่นของโครงการ
Park Origin ราชเทวี คอนโดฝ้าเพดานสูง 4.25 เมตรทั้งโครงการ ความเป็นส่วนตัวสูง ด้วยยูนิตพักอาศัยแค่ 264 ยูนิต ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ติดรถไฟฟ้าสายสีส้ม 400 เมตร จาก BTS ราชเทวี
คอนโด BTS ราชเทวี / คอนโดติดรถไฟฟา BTS ราชเทวี
คอนโดใกล้ BTS ราชเทวี
ที่ตั้งโครงการ
ถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กทม. 10400
พิกัด : 13.754449, 100.528970
โครงการ Park Origin ราชเทวี ตั้งอยู่ติดถนนเพชรบุรี ฝั่งมุ่งหน้าแยกราชเทวี ระหว่างซอยเพชรบุรี 5 และ 7 ใกล้ BTS ราชเทวีในระยะเดิน 400 เมตร และใกล้รถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีราชเทวีในระยะประมาณ 50 – 70 เมตร จัดเป็นโครงการทำเลกลางเมือง เดินทางสะดวกไม่ว่าจะรถยนต์ส่วนตัวหรือรถสาธารณะ
โดยที่ตั้งจะยังถือว่าอยู่ในโซนพักอาศัย มีคนอยู่เยอะ มีความคึกคัก และมีความอุดมสมบูรณ์สูง หาของกินได้ง่ายๆรอบโครงการเลยและยังใกล้ศูนย์กลางแฟชั่นและธุรกิจอย่างสยาม ซึ่งสามารถเดินทางได้สะดวก เพียงแค่ 1 สถานี จากราชเทวีก็ถึงแล้วค่ะ
ส่วนสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ จะมีความผสมผสานทั้งอาคารพาณิชย์ดั้งเดิม, โรงแรมใหญ่ๆ, หอพักและ คอนโดทั้งแบบ High Rise และ Low Rise ซึ่งจริงๆแล้วทำเลราชเทวียังเป็นที่ต้องการอยู่มากทั้งจากชาวไทยและ Expat อย่างชาวสิงคโปร์, มาเลเซีย, อินโดนีเซียและจีน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อในอนาคตจะมีโปรเจ็ค Office Building และ Life Style Community ใหม่ๆขึ้นในโซนนี้ อย่าง Spring Tower ออฟฟิศเกรด A (ที่มีกำหนดการเสร็จปลายปีนี้ 2562), JRK Tower รวมไปถึงโครงการ Mixed Used ทั้ง BTS Phayathai Complex และ Park Origin Complex Phayathai
และที่สำคัญคือการมาของรถไฟฟ้าสายสีส้มที่จะเชื่อมต่อพื้นที่ทางฝั่งตะวันออก – ตะวันตกของกทม. ทำให้พื้นที่โซนนี้มีระบบการคมนาคมที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นไปอีก
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว สะดวกแน่นอนแต่อาจจะรถติดหน่อย โดยตัวโครงการอยู่ติดถนนใหญ่เพชรบุรี ซึ่งถนนเส้นนี้จะเชื่อมต่อกับถนนสายหลักๆอีกหลายสาย ถ้ามุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกก็จะวิ่งไปสิ้นสุดที่แยกอุรุพงศ์จุดตัดถนนพระราม 6 ซึ่งตรงนี้ก็จะมีจุดขึ้นลงทางด่วนยมราช ซึ่งถ้าเราวิ่งตรงต่อไปก็สามารถไปถึงสามเสน, พระราม 8, ยมราชได้ ส่วนถนนเพชรบุรีฝั่งตะวันออกก็จะมีทางด่วนบางนา – ดาวคะนอง ถ้าตรงต่อไปเรื่อยๆก็จะพาเราไปอโศก, สุขุมวิท ยาวไปถึงพัฒนาการค่ะ
นอกจากนั้นยังใช้เส้นพญาไทสะดวกด้วย ออกจากโครงการเลี้ยวซ้ายไปทางแยกราชเทวีก็สามารถใช้ถนนพญาไท ที่เป็นถนนเส้นสำคัญเพราะนอกจากจะอยู่ใจกลางเมืองผ่านทั้งสยาม, มาบุญครอง, หอศิลป์แล้ว ยังเส้นที่เชื่อมต่อกับถนนเส้นสำคัญอื่นๆเช่น ถนนราชวิถี ที่เราสามารถใช้ไปแถวสะพานซังฮี้และวิภาวดี, ถนนศรีอยุธยาไปสามเสนและพระราม 9, ถนนพระราม 1 ไปบำรุงเมือง, เสาชิงช้าได้ และถนนพระราม 4 ไปสามย่าน, หัวลำโพง และคลองเตยได้ค่ะ
สำหรับจุดขึ้นทางด่วนใกล้ๆโครงการจะมี 2 เส้นคือทางด่วนเฉลิมมหานครและทางด่วนศรีรัช โดยจากโครงการไปยังจุดขึ้นทางด่วนศรีรัช ฝั่งมุ่งหน้าประชาชื่น, ปากเกร็ด ประมาณ 2.2 กม.ใช้เวลาประมาณ 5 – 10 นาที
จากโครงการไปยังจุดขึ้น ทางด่วนศรีรัช ฝั่งมุ่งหน้าเข้าสาทร ประมาณ 2.6 กม.ใช้เวลาประมาณ 7 – 15 นาทีค่ะ
จากโครงการไปยังจุดขึ้น ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ฝั่งมุ่งหน้าดอนเมือง ประมาณ 3.5 กม.ใช้เวลาประมาณ 10 – 20 นาที
จากโครงการไปยังจุดขึ้น ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ด่านเพชรบุรี ประมาณ 2.7 กม.ใช้เวลาประมาณ 5 – 15 นาที
ถนนและแยกที่สำคัญรอบโครงการ
แยกราชเทวี : 300 ม.
แยกพญาไท : 900 ม.
ถนนพญาไท : 300 ม.
แยกประตูน้ำ : 1.4 กม.
อนุสาวรีย์ชัยฯ : 3.2 กม.
ถนนราชปรารภ : 2.1กม.
ถนนชิดลม : 1.8 กม.
ถนนราชดำริ : 2 กม.
แยกราชประสงค์ : 2 กม.
แยกชิดลม : 2.4 กม.
แยกเพลินจิต : 5.4 กม.
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ จากโครงการจะใกล้ BTS ราชเทวี ในระยะเดินเท้า 400 เมตร จากโครงการเดินไปทางแยกราชเทวีแล้วข้ามแยกเข้าถนนพญาไทฝั่งมุ่งหน้าสยาม ใช้ Exit 3 จะใกล้ที่สุด ซึ่งเส้นนี้เดินได้ท้ังกลางวันและกลางคืนเพราะอยู่ติดถนนใหญ่ ไม่ค่อยเปลี่ยวค่ะ
และที่สำคัญคือในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีราชเทวี มาเสริมด้วย ซึ่งตำแหน่งเรียกได้ว่าแทบจะติดสถานีเลย ถ้าลองวัดจากตำแหน่งสถานีคร่าวๆก็จะอยู่ที่ประมาณ 50 – 70 เมตร จากตัวโครงการค่ะ ใกล้มากๆ (*เป็นตำแหน่งทางออกตัวสถานีโดยประมาณ) ซึ่งจะแล้วเสร็จประมาณปี 2566
โดยรถไฟฟ้าสายสีส้มนี้จะเชื่อมการเดินทางของกรุงเทพฝั่งตะวันตกและตะวันออกตั้งแต่ฝั่งธนฯ สถานีรถไฟชุมทางตลิ่งชัน เข้าสู่ย่านบางกอกน้อย ลอดแม่น้ำเจ้าพระยา เข้าเขตพระนคร และใจกลางเมือง แล้วสิ้นสุดที่เขตมีนบุรี โดยตัวสถานีราชเทวีจะเป็นสถานีใต้ดิน และ Interchange กับ MRT สายสีน้ำเงินที่สถานีศูนย์วัฒนธรรม
ส่วนตัวเลือกการเดินทางอื่นๆก็สะดวกสบายตามสไตล์คอนโดกลางเมืองค่ะ โดยตัวเลือกอย่าง Taxi หรือพี่วินก็มีผ่านหน้าโครงการตลอด หรือจะเดินไปที่คิวพี่วินก็ได้ จะอยู่ตรงหน้าปากซอยเพชรบุรี 5 เดินแค่ 50 เมตรค่ะ
ส่วนใครชิลล์ๆนั่งรถเมล์ ก็มีป้ายรถเมล์ เดินย้อนไปทางเพชรบุรีซอย 3 ห่างจากโครงการไปประมาณ 120 เมตร จะมีรถสาย 2, 11, 11ปอ, 16, 23, 23ปอ, 50, 59, 60, 79, 99, 183, 505, 511 วิ่งผ่านค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ โซนนี้ ไม่ต้องพูดอะไรมากหลายคนก็คงรู้กันอยู่ นอกจากโซนสยามที่สามารถเดินทางไปได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งเป็นแหล่งกระจุกตัวของความเจริญทั้งห้างใหญ่ๆอย่าง Siam Paragon, Siam Center, Siam Discovery, Central World หรือจะเป็นแหล่งรวมวัยรุ่นอย่าง Siam Square หรือถ้ามา BTS สนามกีฬา ก็มี MBK และหอศิลป์กรุงเทพสำหรับใครที่ชอบใช้เวลาว่างเสพอาหารสมอง ไกลไปอีกหน่อยบนถนนเพชรบุรีฝั่งตะวันออกก็มี ประตูน้ำและ The Platinum แหล่งขายเสื้อผ้าราคาส่งค่ะ
(credit : http://www.grandsukhumvithotel.com, http://www.siamdiscovery.co.th, http://www.siamcenter.co.th,https://www.cpn.co.th)
ส่วนความอุดมสมบูรณ์ใกล้ๆก็ยังมีอีกมากมายเลย ทางฝั่งโครงการเองจะมีร้านอาหารติดถนนมากมายหลายร้าน รวมไปถึงร้านสะดวกซื้อ 7-11 ด้วย โดยส่วนใหญ่ร้านอาหารทางฝั่งนี้จะเป็นร้านอาหารมุสลิมค่ะ รวมไปถึงในซอยเพชรบุรี 7 ด้วย ส่วนฝั่งเพชรบุรีซอยคู่ เช่น เพชรบุรีซอย 10 ก็จะมีตลาดกิ่งเพชร, ร้านอาหารราคาย่อมเยาให้เลือกมากมาย และร้านสะดวกซื้อก็มีค่ะ
หรือถ้าเป็นร้านติดถนนก็มีร้านส้มตำ จิ้มจุ่มเจ๊ก้อย คนเยอะทุกวัน หรือในซอยพญานาคที่มีร้านให้เลือกหลายร้าน ทั้งซูชิมาสะ, ร้านไก่ทอดเกาหลี และคาเฟ่ต่างๆ คึกคักมากในเวลาค่ำ ขยับออกมาหน่อย ติด BTS ก็เป็น Coco Walk แหล่งรวมร้านอาหาร, ขนมและร้านดนตรีกลางคืน
สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ
BTS ราชเทวี : 400 ม.
ท่าเรือสะพานหัวช้าง : 800 ม.
Airport Rail Link พญาไท : 800 ม.
ท่าเรือประตูน้ำ : 1.5 กม.
ห้างสรรพสินค้า
พันทิพย์พลาซ่า : 1 กม.
Siam Center : 1.1 กม.
Siam Discovery : 1.1 กม.
เทสโก้ โลตัส พระราม 1 : 1.3 กม.
Siam Paragon : 1.3 กม.
ประตูน้ำเซ็นเตอร์ : 1.4 กม.
สยามสแควร์ : 1.5 กม.
แพลตตินั่ม : 1.5 กม.
The Palladium : 1.6 กม.
Big C ราชดำริ : 1.8 กม.
เซ็นทรัลชิดลม : 1.9 กม.
Central World : 1.9 กม.
Gaysorn Plaza : 1.9 กม.
มาบุญครอง : 2.4 กม.
Central Embassy : 2.6 กม.
อัมรินทร์พลาซ่า : 2.7 กม.
ส ถานศึกษา
รร.สันติราษฏร์ วิทยาลัย : 1 กม.
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย : 1.9 กม.
โรงพยาบาล
รพ.พญาไท 1 : 2.4 กม.
รพ.ตำรวจ : 2.7 กม.
สถานที่ราชการ วัด และอื่นๆ
Siam Kempinski Hotel Bangkok : 1.6 กม.
ตึกใบหยก : 1.6 กม.
วัดหัวลำโพง : 3.8 กม.
การเดินทาง
การเดินทางในวันนี้ เราจะเริ่มต้นกันบนถนนพระราม 4 บริเวณแยกสามย่าน เลี้ยวขวาเข้าถนนพญาไท ขับตรงไปจนถึงโรงแรมปทุมวัน ปรินเซส แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยจุฬาลงกรณ์ 12 จากนั้นขับตรงต่อไปจนถึงถนนบรรทัดทอง เลี้ยวขวา แล้วขับตรงไปจนถึงถนนเพชรบุรี เลี้ยวขวาอีกครั้ง จากนั้นขับตรงไปประมาณ 200 เมตร จะเห็นที่ตั้งโครงการทางซ้ายมือค่ะ
สรุปการเดินทาง ถนนพระราม 4 > แยกสามย่าน > ถนนพญาไท > ซอยจุฬาลงกรณ์ 12 > ถนนบรรทัดทอง > แยกเพชรพระราม > ถนนเพชรบุรี > โครงการ Park Origin ราชเทวี
เริ่มการเดินทางบนถนนพระราม 4 บริเวณแยกสามย่าน เลี้ยวขวาเข้าถนนพญาไท
เข้าถนนพญาไทมาแล้วเราขับตรงมาเรื่อยๆ ระหว่างทางก็จะเป็นโซนของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทั้งซ้ายและขวา
ถึงซอยจุฬาลงกรณ์ 12 หรือซอยก่อนถึงโรงแรมปทุมวัน ปรินเซส เราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปเลยค่ะ
เข้ามาในซอยแล้วเราขับตรงไปเรื่อยๆ
ผ่านสวนหลวงสแควร์ทางซ้ายมือ มีร้านอาหารหลายร้านมากๆ พร้อมที่จอดรถให้บริการ
ขับมาจนถึงถนนบรรทัดทองแล้วเราเลี้ยวขวา
ขับมาบนถนนบรรทัดทองเรื่อยๆ ระหว่างทางจะผ่านร้านอาหารมากมายหลายร้าน รวมถึง Stadium One ทางขวามือ
ขับมาเรื่อยๆผ่านแยกเจริญผล และ Tesco Lotus พระราม 1 ทางขวามือ
ขับตรงมาจนถึงแยกเพชรพระราม แล้วเราเลี้ยวขวาเข้าถนนเพชรบุรีฝั่งมุ่งหน้าแยกราชเทวี
เข้ามาบนถนนเพชรบุรีแล้วเราขับตรงมาเรื่อยๆเลยค่ะ ช่วงใกล้ถึงโครงการจะผ่านมหาวิทยาลัยราชภัฎวไลยอลงกรณ์ ทางซ้ายมือ
พอขับผ่านซอยเพชรบุรี 5 ให้เตรียมชิดซ้าย
ตรงมาอีกหน่อยก็จะถึงที่ตั้งโครงการ Park Origin ราชเทวี ทางซ้ายมือแล้วค่า
การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า
สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าวันนี้เราใช้ BTS ลงสถานีราชเทวี ทางออก 3 แล้วเดินดูบรรยากาศไปกันจนถึงโครงการนะคะ โดยระยะทางจาก BTS ถึงตัวโครงการจะมีระยะทางประมาณ 400 เมตรค่ะ
ออกมาจากด้านในสถานีแล้วมองหาป้ายทางออก 3
ลงมาเจอฟุตบาทกว้างๆเดินสะดวก
มีคิวพี่วินทางซ้ายมือ
มีอัตราค่าบริการบอกชัดเจน
หันย้อนมาดูด้านหลังจะมี ธ.กรุงไทย ถัดไปอีกนิดเป็นร้านวังไข่มุก และ 7-11
กลับมาเส้นทางหลักที่เราจะเดินไปยังโครงการกันต่อ
เดินมาถึงตรงแยกราชเทวีแล้วเราข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามค่ะ
ตรงนี้จะมีทางม้าลายให้เดินข้ามกันปลอดภัยขึ้นมาหน่อย
เดินข้ามมาอีกฝั่งเราจะเจออาคารสำนักงาน Spring Tower กันก่อนเลย ตอนนี้สร้างเร็วมาก กำหนดการน่าจะเสร็จปลายปีนี้แล้วค่ะ
เราเดินต่อไปทางซ้ายมือ
เดินมาเรื่อยๆ ติดกับที่ของ Spring Tower ก็จะเป็นตึกแถวดั้งเดิมแล้วค่ะ โดยตึกแถวเหล่านี้ก็จะเปิดเป็นร้านต่างๆ ทั้งร้านอาหาร, ร้านขายที่นอน (แถวนี้ร้านขายที่นอนหลายร้านมาก) และอื่นๆ
สำหรับร้านอาหารใกล้ๆโครงการทางฝั่งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารมุสลิมนะคะ เพราะมีชุมชนมุสลิมอยู่ที่ซอยเพชรบุรี 7 นั่นเองค่ะ
ถัดมาก็มี Hostel
มีบางตึกที่มีการปรับปรุงอยู่บ้าง
และเนื่องจากเป็นโซนที่มีหอพักเยอะเหมือนกัน นักศึกษาเยอะ เลยมีร้านถ่ายเอกสาร/เข้าเล่ม มาเปิดให้บริการอยู่ด้วยค่ะ
เดินกันมาเพลินจะผ่านซอยเพชรบุรี 7 ซอยนี้มีหอพักเยอะ และร้านอาหารมุสลิมราคาเบาๆเยอะมาก ทีเด็ดคือร้านโรตีชาชัก
ถัดจากซอยเพชรบุรี 7 ก็เป็นร้านขายที่นอนอีกร้าน
ติดกันเป็นบ้านพักส่วนบุคคล
ถัดไปเป็นอพาร์ทเมนท์ สูง 8 ชั้น
ติดกันเป็น a.c.t. ศูนย์บำรุงรักษารยนต์ครบวงจร
ถัดมาเป็นร้าน Lotus Sleeping Studio ขายเครื่องนอน
ถัดกันก็เป็นที่ดินของ โครงการ Park Origin ราชเทวี แล้วค่า
รอบๆโครงการ
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ติดกับที่อยู่อาศัยแนวราบข้างเคียง ประเภทตึกแถว สูง 3 – 4 ชั้น และอพาร์ทเมนท์/หอพัก สูงไม่เกิน 8 ชั้น
ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ติดกับที่อยู่อาศัยแนวราบข้างเคียง เป็นตึกแถวและอพาร์ทเมนท์เช่นกัน ส่วนช่วงหน้าโครงการจะติดกับโชว์รูมร้านขายเครื่องนอน Lotus
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ติดกับที่อยู่อาศัยแนวราบข้างเคียง ประเภทตึกแถว สูง 3 – 4 ชั้น และอพาร์ทเมนท์/หอพัก, Hostel สูงไม่เกิน 8 ชั้น
ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ติดกับถนนเพชรบุรี ฝั่งตรงข้ามเป็นกลุ่มโรงแรม สูง 8 ชั้น, 20 ชั้น และอาคารสำนักงาน Gcap สูง 10 ชั้น
ที่ตั้งของตัวโครงการตอนนี้ล้อมรั้ว ด้านในกำลังทำสำนักงานขายอยู่ค่ะ ใครจะลองมาเดินดูสภาพแวดล้อมรอบๆก็สังเกตง่ายเลย หัวใจสีแดงเด่นมาก
บรรยากาศทางฝั่งซ้ายมือของโครงการจะเป็นเส้นทางที่เราได้เดินมาจาก BTS ราชเทวีนะคะ
ติดกับโครงการเป็นโชว์รูม Lotus ขายชุดเครื่องนอน
ติดกันเป็นศูย์ดูแลซ่อมรถยนต์ครบวงจร ส่วนบรรยากาศรอบๆโครงการทางฝั่งนี้เราได้พาชมไปแล้วในเส้นทางที่เดินมาจาก BTS ราชเทวีนะคะ เพราะฉะนั้นเดี๋ยวจะขอพาไปดูบรรยากาศส่วนอื่นๆกันต่อเลย
หน้าโครงการติดกับถนนเพชรบุรี ฝั่งตรงข้ามเป็นโรงแรม สูง 8 ชั้น และ 20 ชั้น
ถัดไปทางขวามือจะเป็นอาคาร Gcap สูง 10 ชั้น และโรงแรมข้างๆ สูง 8 ชั้น
เราลองมาเดินดูบรรยากาศทางฝั่งขวามือกันก่อนค่ะ ฟุตบาทหน้าโครงการกว้างขวาง สะอาดสะอ้าน
ติดกับโครงการเลย จะเป็นอพาร์ทเมนท์ สูง 8 ชั้น
ถัดมาเป็น Hostel สูง 8 ชั้น เช่นกัน
ขยับมาอีกหน่อยจะเป็นตึกแถวแล้วค่ะ ชั้นล่างมีเปิดเป็น สถาบัน Wyne Berg สถาบันสอนบริหารธุรกิจสากล นอกจากนั้นก็จะมีร้านขายของพวกอุปกรณ์ก่อสร้าง และโรงรับจำนำ
เดินมาหน่อยจะผ่านซอยเพชรบุรี 5
มีคิวพี่วินหน้าปากซอย เรียกใช้บริการได้สะดวกเลย
มีอัตราค่าบริการติดไว้ให้ชัดเจน
ในซอยก็จะเป็นตึกแถว และอพาร์ทเมนท์ค่ะ
บรรยากาศหน้าปากซอย มองไปฝั่งตรงข้ามจะเห็นว่าเป็นตึกแถวเหมือนกัน มีสะพานลอยด้วย สามารถเดินข้ามไปหาของทานฝั่งตรงข้ามได้ จะมี 7-11 และร้านอาหารทานง่ายๆหลายร้านเหมือนกันค่ะ
ขยับจากซอยเพชรบุรี 5 มาอีกหน่อย มีร้านขายอุปกรณ์มือถือ, ร้านปริ้นท์งาน
ขยับมาอีกหน่อยเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฎวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ โรงเรียน Siam Singapore International ที่ด้านหน้ามีร้านกาแฟต้นคูนด้วย
เดินต่อมาอีกหน่อยจะถึงป้ายรถเมล์จุดที่ใกล้โครงการที่สุดค่ะ ร้านบริเวณนี้ก็มีร้านถ่ายเอกสารรองรับเด็กๆนักเรียน นักศึกษา
ติดกันเป็น 7-11 สาขานี้ก็เดินจากโครงการมาได้สะดวกค่ะ ใกล้ๆเลย
ตัวโครงการ
โครงการ Park Origin ราชเทวี เป็นโครงการคอนโด High Rise สูง 41 ชั้น หรือประมาณ 160 เมตร จำนวนยูนิตทั้งโครงการ 264 ยูนิต บนที่ดิน 1 – 2 – 34.5 ไร่ ออกแบบมาโดยใช้ Concept Private Living Oasis เน้นความเป็นส่วนตัวในเรื่องของการอยู่อาศัยและพยายามแทรกความเป็นธรรมชาติเข้าไปในส่วนกลางให้ได้มากที่สุดค่ะ
มาดูภาพรวมของตัวอาคารกันก่อนค่ะ เริ่มจากด้านหน้าของตัวอาคาร ตัวอาคารจะดูโปร่งๆ ผอมๆ เราทำภาพมาให้ดูคร่าวๆ โดยส่วนกลางหลักๆจะอยู่ที่ชั้น 1-2 และ 39 – 41 ส่วนที่ชั้น 3 – 18 จะเป็นที่จอดรถระบบ Auto Parking 100% และชั้นพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 19 – 38 และจะมีชั้น Penthouse ที่ชั้น 41
ภาพรวมอาคารทางฝั่งทิศตะวันตก
ภาพรวมตัวอาคารทางฝั่งทิศเหนือ หรือด้านหลังโครงการ
ภาพรวมอาคารทางฝั่งทิศตะวันออก
แปลนชั้น 1 มีทางเข้าออกติดกับถนนเพชรบุรี แยกทางเข้ารถและทางเข้าคนเดิน โดยทางเข้ารถจะมีรั้วกั้นไม้กระดกและป้อม รปภ. ใช้ Access Card* พอเข้ามาในโครงการจะผ่านสวนหย่อมเล็กๆทางขวามือ และรอบๆชั้น 1 จะทำเป็นสวนหย่อมเล็กๆ เพื่อมเพิ่มพื้นที่สีเขียวในโครงการ สำหรับรถโดยสารก็สามารถจอดดรอปผู้โดยสารตรงหน้า Lobby ได้เลย แล้ววนออก ส่วนลูกบ้านก็ขับเข้ามาด้านข้างอาคารเพื่อเข้า Auto Parking มี 3 Slots
นอกจากนั้นก็ยังมีจุด EV Charger ไว้ให้ด้านหลัง 2 ช่องจอด และใช้เป็นที่จอดรองรับของ Visitor ด้วย และก็มีที่จอดรถจักรยานไว้รองรับคนที่มีไลฟ์สไตล์แอคทีฟ ซึ่งอาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นนักปั่นจริงจังแบบพวกเสือภูเขาก็ได้ พวกจักรยานแม่บ้านไว้ปั่นไปซื้อของก็จอดตรงนี้ได้เป็นสัดส่วน
ด้านในตัวอาคารจะเป็น Grand Lobby ขนาดใหญ่ ฝ้าเพดานสูง Double Volume ถัดเข้ามาด้านหลัง Lobby จะเป็น Smart Locker และ Smart Mail Box ติดกันเป็นโถงลิฟต์ ที่ต้องใช้คีย์การ์ดแตะที่ทางเข้าโถงก่อน ด้านในมีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว เซอร์วิสลิฟต์ 1 ตัว ลิฟต์โดยสารเป็นลิฟต์ล็อคชั้น
ทางเข้าออกจากถนนเพชรบุรี แยกทางเข้ารถ และคนเดิน โดยทางเข้ารถจะมีรั้วกั้นไม้กระดก และป้อมรปภ.ด้านหน้า ส่วนทางเข้าคนเดินจะเป็นซุ้มมีหลังคาคลุม ช่วยบังแดดได้บางส่วน
เส้นทางเดินรถสำหรับลูกบ้านในโครงการเป็นแบบ One way วนขวา โดยจะมีทางเข้าที่จอดรถอยู่ด้านข้างตัวอาคาร ทั้งหมด 3 ช่อง
ทางออกจาก Slot ที่จอดรถจะอยู่อีกฝั่งค่ะ รับรถแล้วขับออกจากโครงการได้เลย
ทางเข้าด้านหน้าโครงการแยกทางเข้ารถยนต์ และทางคนเดิน มีน้ำพุตกแต่งด้านหน้าทำให้ได้บรรยากาศธรรมชาติ ส่วนตัวซุ้มทางเข้าคนเดินจะเป็นทางเดินพร้อมหลังคาคลุม เหมือนเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัว
สวนหย่อมรอบๆโครงการ ทำให้โครงการใจกลางเมืองมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น
การออกแบบด้านหน้าอาคาร ตรงทางเข้า Lobby ใช้เส้นสายที่โค้งเล่นระดับ ตัดกับเส้นตรงอย่างลงตัว
ภาพจำลองบรรยากาศหน้าโครงการที่อยู่ติดกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีราชเทวี
บรรยากาศภายใน Grand Lobby ฝัาเพดานสูง Double Volume ตกแต่งสวยหรู ใช้โทนสีสว่าง
แปลน ชั้น 2 จากชั้น 1 ตรง Lobby จะมีบันไดเชื่อม ขึ้นมาบนชั้น 2 ซึ่งจะเป็นโซนพื้นที่นั่งทำงาน อ่านหนังสือ โดยจะมีพื้นที่ Co – Creating Area และมีห้องสำหรับคุยงานเป็น Business Lounge จัดชุดโต๊ะเก้าอี้หลายชุด คุยงานแบบสบายๆ และถ้าคุยงานจริงจังขึ้นมาหน่อยก็มีห้องประชุม Private Meeting ให้ใช้งาน นอกจากนั้นก็จะมีห้องนิติฯ
บรรยากาศภายใน Business Lounge จัดชุดเก้าอี้นั่งมาให้หลายชุด
แปลนชั้น 3 – 18 เป็นชั้นจอดรถ
แปลนชั้น 19 – 38 เป็นชั้นพักอาศัยทั้งชั้น โดยห้องของโครงการนี้ทั้งหมดจะเป็นแบบ Loft ฝ้าเพดานสูง 4.25 เมตร เพราะฉะนั้นเลยทำให้จำนวนยูนิตทั้งโครงการเนี่ยถือว่ามีไม่เยอะ รวม 264 ยูนิต ยูนิตต่อชั้น 11 ยูนิตเท่านั้น มีความเป็นส่วนตัวพอสมควรเลยทีเดียวค่ะ
แปลนชั้น 39 เป็นชั้นเริ่มต้นของส่วนกลางที่เชื่อมกัน 3 ชั้น โดยชั้นนี้จะเป็นโซนพักผ่อน และ Entertainment แบบ indoor ซึ่งจะมีทั้ง Private Dining Lounge, Wine Bar, Starry Lounge ขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นโถง Double Volume ขึ้นไปถึงชั้น 40 ส่วนห้อง Entertainment ก็จะมีทั้ง Game Room และ Theater Room นอกจากนั้นก็ยังมีห้องสปา ที่เราสามารถนัดช่างประจำมาใช้งานได้ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปสปาเองค่ะ ส่วนห้องน้ำเค้าก็มีให้ใช้งานแยกชาย – หญิง
ถ้าเราจะพาเพื่อนๆขึ้นมานั่งชิวหลายคนหน่อยก็มีชุดโซฟาใหญ่ๆรองรับ หรือถ้าอยากมานั่งดูวิวเงียบๆ คนสองคนก็มีชุดเก้าอี้คู่ให้ใช้งานค่ะ ได้วิวทางฝั่งถนนศรีอยุธยา พญาไท และพระราม 6
แปลนชั้น 40 จะเป็นโซนออกกำลังกายค่ะ โดยจะมีห้องฟิตเนสขนาดใหญ่ พื้นรวมถึง 170 ตร.ม. มองเห็นวิวเมืองได้รอบด้านเช่นกัน ภายในห้องฟิตเนสมีแยกเป็นห้องปั่นจักรยาน และห้องโยคะ และห้องน้ำที่ชั้นนี้จะพิเศษหน่อย คือจะมี Lava Onsen แยกชาย – หญิงไว้ให้ใช้งานด้วย ซึ่งผนังตรงโซนออนเซนจะเป็นกระจกสามารถมองวิวเมืองเห็นด้านนอกได้ช่วยให้เราไม่เบื่อเวลาต้องนั่งอยู่เฉยๆ
ส่วนพื้นที่ Outdoor เค้าทำเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ แบบ Infinity Edge Pool ขนาดสระ 5 x 20 เมตร แยกสระเด็ก และ Jacuzzi และพื้นที่วาง Sunbed เป็นพื้นน้ำตื้นๆในสระเลย แล้วติดกับสระก็จะมี Sunset Amphitheatre ตรงนี้จะเชื่อมกับสระว่ายน้ำด้วย ไว้ให้มายืนมองวิวพักผ่อนสายตาเงียบๆ
แปลนชั้น 41 แบ่งเป็นส่วนพักอาศัย Penthouse มีทั้งหมด 4 ยูนิต
แปลนชั้น Roof Top ชั้นนี้ก็จะเป็นสวนทั้ง Floor เค้าทำเป็น Roof top Trail คือเดินเชื่อมขึ้นไปชั้นบนได้อีก 2 ชั้น โดยใช้บันไดก็จะได้ออกกำลังกายไปด้วยในตัว ภายในสวนมี Walking Trail เป็นทางเดินเล่นระดับนิดหน่อย สุดทางเดินมี Sunset View Point และ Sky Communal เป็นพื้นที่นั่งพักผ่อน
แปลนชั้น Top Floor มีทางเดินเป็นสะพานเชื่อมไปตรงจุดชมวิว The Cliff ที่สูงมากๆนะคะ มองเห็นวิวได้ไกลสุดๆแบบไม่มีอาคารบังเลย
ส่วนกลางชั้นบน 39 – 41 ตัว Outdoor คือสระว่ายน้ำจะเห็นว่าเปิดโล่งมาก มองเห็นวิวทั้ง 3 ฝั่งของอาคารเลย ด้านบนจะเห็นบันไดที่เชื่อมขึ้นไปถึงชั้น Roof Top forest trail และ Rooftop ที่จัดเป็นสวนหย่อมและตำแหน่ง The cliff ที่ยื่นออกมาจากตัวอาคาร
ภาพบรรยากาศจำลองชั้น Top Floor ทั้ง 3 ชั้น เหมือนเป็นมงกุฎของตัวอาคาร ที่สูงถึง 160 เมตร พร้อมส่วนกลางหลากหลายที่สามารถมองเห็นวิวเมืองโดยรอบได้ทุกด้าน
บรรยากาศจำลอง Starry Lounge เป็นโถง Double Volume มองเห็นวิวเมืองเต็มตา น่าใช้งาน
บรรยากาศภายใน Private Dining Lounge ที่สามารถพาเพื่อนและครอบครัวมานั่งพักผ่อน จองห้องเพื่อทานอาหารในบรรยากาศสบายๆ
บรรยากาศในห้อง Game Room ที่มีครบทั้งคอมพิวเตอร์และชุดโต๊ะสำหรับทำกิจกรรมอื่นๆ อย่างบอร์ดเกมส์ก็สามารถเอามาเล่นในห้องนี้ได้
บรรยากาศภายใน Theatre Room ดูหนังในบรรยากาศเป็นส่วนตัว
ภายในห้องสปา จัดเตียงมาให้เพื่อรองรับการรับบริการอย่างเป็นส่วนตัว
วิวจากห้องฟิตเนส
บรรยากาศภายในห้อง Lava Onsen ที่สามารถนั่งแช่น้ำไปพร้อมๆชมวิวเมือง ผ่อนคลายไปด้วยในตัว
สระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool และพื้นที่วาง Sunbed ในสระ ติดกันเป็น Sunset Amphitheater
ทางลงสระว่ายน้ำจะไม่เปิดโล่งเหมือนโครงการอื่นๆ ซึ่งตรงนี้จะเล่นกับ Space ที่แคบเปิดออกไปโล่งและกว้าง เหมือนได้เปิดออกไปสู่พื้นที่พักผ่อนสายตาที่กว้างไกล
บรรยากาศสวนบนชั้น Roof Top
มี Walking Trail ให้เดินเล่นพักผ่อน
และ Sky Communal เป็นเหมือนศาลานั่งพักในสวน
ทางเดินเชื่อมไปยัง The Cliff ที่ชั้น Top Floor
แบบห้อง
สำหรับห้อง Loft มาตรฐาน มี 2 แบบ คือ
1 Bedroom ขนาดประมาณ 34 ตร.ม.
1 Bedroom Plus ขนาด 34.8 – 38.6 ตร.ม .
และ Penthouse
1 Bedroom Plus 70 – 72 ตร.ม.
3 Bedroom Plus 114.8 ตร.ม.
ห้องตัวอย่าง
สำหรับห้องจะได้เป็นแบบ Fully Fitted แต่ว่าจริงๆเค้าให้ของมาค่อนข้างเยอะเลย ซึ่งถ้ามาดูในห้องตัวอย่างก็ให้สังเกตสติ้กเกอร์ที่เค้าติดไว้ ห้องจริงเราจะได้ตามนั้นหมดเลยค่ะ และสำหรับวันนี้เราจะพาชมห้องตัวอย่าง 2 แบบ คือ
1 Bedroom ขนาด 34.90 ตร.ม.
1 Bedroom Plus ขนาด 46.00 ตร.ม.
ห้องแรกเราจะพามาชมห้อง 1 Bedroom ขนาด 34.90 ตร.ม . แปลนห้องส่วนแรกจะเป็นโซน Living Area รวมพื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องทานอาหาร จากห้องนั่งเล่นฝั่งซ้ายมือจะเชื่อมกับห้องน้ำ, ห้องครัวปิด และบันไดขึ้นชั้นลอย ส่วนด้านในสุดของห้องนี้จะเป็นฟังก์ชั่นห้องนอนขนาดใหญ่ แบ่งพื้นที่เป็นมุมนั่งเล่นได้ และอยู่ติดกับระเบียงภายนอกด้วยค่ะ
ส่วนชั้นลอยของห้อง Type นี้จะมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 7.8 ตร.ม. ซึ่งจะเป็นพื้นที่ที่ไม่ได้รวมไปในโฉนดนะคะ
สำหรับห้องมาตรฐานจะมี Digital Door Lock ยี่ห้อ Samsung หน้าตาแบบนี้มาให้ เป็นรุ่นที่ใช้กุญแจปกติ, คีย์การ์ด, พาสเวิร์ด, ลายนิ้วมือ และ Application ได้
พอเราเข้าห้องมาก็จะเห็นฟังก์ชั่นโดยรวมของทั้งห้อง การจัดฟังก์ชั่นโดยรวมในห้องจะแบ่งสัดส่วนที่ให้ความสำคัญกับทุกฟังก์ชั่นเท่าๆกัน แต่จะเน้นห้องนอนมากกว่าหน่อยเพราะจัดมาให้ทั้งที่ชั้นล่างแล้วก็ชั้นลอย ห้องนี้อยู่กันได้ประมาณ 1 – 2 คน กำลังดี หรือจะ 3 คนก็ได้เพราะมีห้องนอน 2 ห้อง
ส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ Living Area พื้นจะใช้เป็น Engineering Wood ที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอน สำหรับการจัดฟังก์ชั่นในห้องนี้เค้าจะเน้นเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นและมีมุมทานข้าวเล็กๆค่ะ
ทางโครงการวางโซฟาขนาดประมาณ 3 ที่นั่ง มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
จะเห็นว่ามีพื้นที่เหลือข้างๆทั้ง 2 ฝั่ง แต่ไม่กว้างมาก สามารถวางโต๊ะเล็กหรือโต๊ะทานอาหาร 1 ที่นั่งได้ แต่จริงๆแล้วถ้าใครทานข้าวที่ห้องเป็นหลักก็สามารถปรับไซส์โซฟาให้เล็กลงซักนิดนึง ก็จะมีพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารเพิ่มขึ้นค่ะ
ส่วนพื้นที่ติดตั้งทีวีเนื่องจากระยะตรงนี้ไม่กว้างมากก็จะเหมาะกับการติดทีวีแบบแขวนผนังประมาณนี้กำลังดีแล้วค่ะ ถ้าวางชั้นวางทีวีใหญ่ๆด้วยอาจจะทำให้ห้องดูแน่นๆไปหน่อย
ติดกับห้องนั่งเล่น เรามาดูที่ห้องครัวกันก่อน เค้าทำมาให้เป็นครัวปิด มีประตูบานสไลด์กั้น กันกลิ่นและควันอาหารลอยไปติดเฟอร์นิเจอร์ในห้องอื่นๆ ข้างๆเจาะเป็นช่องกระจก ทำให้พื้นที่ห้องครัวและตรงโถงบันไดขึ้นชั้นบนดูโปร่งขึ้น
ภายในห้องครัว ความสูงฝ้าเพดาน 2.1 ม. พื้นปูกระเบื้องเซรามิก ทำความสะอาดง่าย ส่วนเคาน์เตอร์ครัวก็จะได้ตามนี้เลยนะ ยกเว้นตู้เย็นกับเครื่องซักผ้า
Top ครัวใช้หินสังเคราะห์ มีพื้นที่พักจานหรือเตรียมอาหารพอประมาณ ให้มาพร้อม เตาไฟฟ้า, เครื่องดูดควัน, ซิ้งค์ล้างจาน + ก๊อกน้ำ และ Built – in Microwave ใช้ของ MEX
ขนาอ่างล้างจานมาตรฐาน ส่วนเตาไฟฟ้าได้แบบ 2 หัว
ส่วนพื้นที่เก็บของจะมีตู้และลิ้นชักด้านล่าง พร้อมถังขยะ หน้าบานเปิดตู้ด้านล่างเป็น Hi Gloss ทั้งหมด
ชั้นบนหน้าบานเป็นกระจกเงาสีชา บานเปิด Soft Closed ทั้งตู้ชั้นบนและล่างหมด
นอกจากชุดครัวหลักแล้วอีกด้านเค้าก็ทำเป็นช่องเก็บของเล็กๆมาให้โดยใช้พื้นที่ใต้บันได ไว้ใช้เก็บพวกกระเป๋าเดินทางหรืออุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆช่วยให้ห้องดูเรียบร้อยขึ้น
ด้านในตู้ค่ะ สามารถเก็บประเป๋าเดินทางได้ประมาณ 2 ใบ
ระยะยืนทำครัวสามารถเข้ามาเตรียมอาหารคนเดียวได้สบายๆ
กลับออกมาที่ห้องนั่งเล่น เราไปดูห้องน้ำกันต่อ
ธรณีประตูห้องน้ำใช้หินแกรนิต ในอนาคตจะไม่มีปัญหาเรื่องการบวมน้ำ
ห้องน้ำจะมีทางเข้าออก 2 ฝั่ง คือจากห้องนั่งเล่นและห้องนอน
ในห้องน้ำเค้าจะใช้วัสดุเป็นกระเบื้อง Porclein ทั้งห้อง ดูสะอาดตา สุขภัณฑ์ใช้ของ Kasch ทั้งหมด แยกส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้เรียบร้อย
ตัวอ่างล้างมือเป็นแบบฝังเคาน์เตอร์ พื้นที่บนอ่างใช้วางของได้นิดหน่อย พร้อมเต้าเสียบปลั๊กไฟและฝาปิดกันน้ำก็มีมาให้ เผื่อใครชอบพกมือถือมาเล่นในห้องน้ำก็สามารถชาร์จไปด้วยได้
ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ได้แบบ Wall Hung มีข้อดีที่เราจะสามารถทำความสะอาดพื้นได้สะดวก
สายชำระหน้าตาโมเดิร์น ขนาดพอดีมือ
และที่พิเศษคือตัวกระจกเงาที่มี Smart Mirror ติดตั้งมาให้ด้วย เราสามารถเช็คเมลล์ เล่นยูทูป ระหว่างล้างหน้าแปรงฟันได้ นอกจากนั้นก็จะมีไฟ LED ด้านล่างกระจกติดตั้งมาให้ด้วยค่ะ
ส่วนห้องอาบน้ำจะมี Shower Box ติดตั้งมาให้ ประตูเป็นบานเปิดแบบผลักเข้าด้านใน
มือจับเป็นก้านยาว สามารถวางผ้าขนหนูพาดได้ ส่วนด้านในเป็นมือจับปุ่มยื่นออกมา พร้อมยาง Stopper กันกระแทกผนัง
ด้านในก็จะมีฝักบัวมาให้ 2 แบบ คือ Hand Shower และ Rain Shower ข้างๆทำเป็นชั้นมาให้วางพวกอุปกรณ์อาบน้ำได้เยอะพอสมควร ส่วนด้านบนชั้นวางเป็นพัดลมดูดอากาศค่ะ
ขนาดห้องอาบน้ำพอยืนอาบได้สบายๆเลย
สำหรับห้องนอนหลักจะอยู่ติดกับห้องนั่งเล่น ใช้ประตูบานสไลด์บานสูง สามตอน เปิดได้กว้าง และด้วยความที่เป็นบานสูงมากก็ช่วยให้ห้องดูโปร่งขึ้นด้วยค่ะ แต่ถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็สามารถหาม่านมาติดเพิ่มได้
ภายในห้องนอนจะมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างเลย จุดเด่นคือช่องแสงขนาดใหญ่ที่ให้มาแทบจะเต็มผนังเลยค่ะ ทั้งประตูระเบียงและหน้าต่างบานใหญ่ ช่วยรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะ และยังช่วยให้ภาพรวมของห้องดูโปร่งขึ้นมากๆ
พื้นที่ส่วนแรก ทางโครงการแบ่งเป็นโซนนั่งเล่นพักผ่อน วางชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ไว้ดูทีวีก่อนนอนได้
ฝั่งตรงข้ามได้ชั้นวางทีวี Built – in แบบนี้มาด้วย โดยเราจะวางทีวีบนชั้นวางก็ได้ หรือจะติดตั้งแบบแขวนเหมือนในห้องตัวอย่างก็ได้ จะช่วยเพิ่มพื้นที่วางของบนชั้นได้อีกนิดหน่อยค่ะ
ตัวชั้นวางแบ่งเป็นช่องเก็บของ 3 ช่อง บานเปิดกระจกเงาสีตามนี้เลย ด้านล่างชั้นวางจะโล่งๆ สามารถวางของเพิ่มได้
ระยะระหว่างโซฟาและชั้นวางทีวีสามารถใช้งานได้สบายๆ
ติดกันเป็นระเบียงภายนอก ประตูระเบียงเป็นบานสไลด์ 3 ตอน
พื้นที่ระเบียงจะไม่กว้างเท่าไหร่ แต่ก็พอวางราวตากผ้าขนาดเล็กๆได้ และมีไฟติดมาให้ 1 ดวง ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์ของจริงจะติดแบบลอยตัวไว้ด้านบน ซึ่งจะมีกริลบังสายตาไว้ด้วย ให้ภาพรวมของอาคารดูเรียบร้อยค่ะ
พื้นที่ส่วนห้องนอนจะมีตู้เสื้อผ้า Built – in มาให้ ตามแบบนี้เลย มีชั้นวางของเพิ่มด้านข้างด้วย
ส่วนพื้นที่วางเตียงห้องนี้จะเหมาะกับเตียงขนาดควีนไซส์ค่ะ
จะเหลือพื้นที่ข้างเตียงให้วางโต๊ะหัวเตียงและพอใช้งานตู้เสื้อผ้าได้สะดวก แต่จริงๆถ้าใครนอนคนเดียวก็สามารถเลื่อนเตียงมาชิดฝั่งหน้าต่างได้นะคะ จะได้มีที่ยืนแต่งตัวเยอะหน่อย
ตู้เสื้อผ้าได้เป็นตู้สูงๆ ด้านในแบ่งเป็นราวแขวน ชั้นวางของและลิ้นชัก
ลิ้นชักด้านในแบ่งเป็น 4 ชั้น โดย 2 ชั้นบนแบ่งเป็นช่องไว้เก็บพวกเข็มขัด, ผ้าพันคอ หรือพวกเครื่องประดับได้
กลับออกมาตรงโซน Living Area เราขึ้นไปดูบนชั้นลอยกันต่อค่ะ สำหรับพื้นที่ชั้นลอยจะกั้นห้องมาให้เป็นห้องปิดเลยนะ ซึ่งข้อดีของมันก็คือ ช่วยให้เราประหยัดค่าไฟแอร์นั่นเอง เราอาจจะเคยเห็นหลายๆโครงการทำชั้นลอยเป็นพื้นที่เปิดโล่งซึ่งจะเพิ่มวอลลุ่มของห้อง ทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น ส่วนห้องนี้สามารถเปิดแอร์แยกส่วนได้เลยค่ะ และผนังใช้กระจกหมดทุกด้านเลย ทำให้ห้องดูไม่อึดอัด แต่ก็จะลดในเรื่องความเป็นส่วนตัวลงไปซึ่งเราก็สามารถติดมู่ลี่ หรือติดม่านเพิ่มได้ค่ะ
บันไดขึ้นชั้นลอยมีความกว้างให้พอเดินขึ้นลงได้สะดวก
สำหรับชั้นบนในห้องมาตรฐานจะมีประตูกั้นมาให้ด้วยค่ะ
พื้นที่ชั้นนี้จะมีขนาดประมาณ 7.8 ตร.ม. เหมาะที่จะวางเตียง 3.5 ฟุต กำลังดี
ทางโครงการติดตั้งตู้ Built – in ให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่ไม่ได้แถมมาให้ ซึ่งก็ใช้เก็บของได้เยอะเลยทีเดียว แต่ข้อเสียนิดนึงคือจะไม่มีพื้นที่สำหรับตู้เสื้อผ้า เพราะฉะนั้นห้องนี้เลยเหมาะทำเป็นห้องนอนไว้รับแขก หรือให้คนที่ไม่ได้อยู่ประจำใช้ อย่างเวลาญาติๆมาเยี่ยมหรือพ่อแม่มาหาลูกวันเสาร์อาทิตย์ หรือไม่ก็เปลี่ยนเป็นห้องทำงานไปเลยก็ได้ค่ะ
ผนังรอบห้องเป็นกระจกในบานเต็ม ช่วยให้ห้องดูโปร่ง บรรยากาศสบายๆ และมีหน้าต่างบานกระทุ้งไว้สำหรับเปิดให้อากาศถ่ายเทมากขึ้นด้วยค่ะ
ห้องตัวอย่างแบบที่ 2 ที่เราพามาชมเป็นห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 46.00 ตร.ม. ห้องนี้จะเน้นพื้นที่โซน Living Area ขนาดใหญ่ ซึ่งจะรวมทั้งพื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องทานอาหาร และไม่มีระเบียง พื้นที่ติดกับ Living Area จะเป็นห้องครัวปิดและห้องน้ำรับรอง ซึ่งจะแยกส่วนแห้งส่วนเปียก เพื่อรองรับฟังก์ชั่นห้องนอนที่ชั้นลอย
ส่วนห้องนอน Master Bedroom ก็จะเป็นห้องที่มีพื้นที่กว้างขวางและมีห้องน้ำในตัว แยกส่วนแห้งส่วนเปียก ส่วนพื้นที่บนชั้นลอยจะแบ่งเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนและห้องนอนรองค่ะ
ทางเข้าห้องจะเป็นโถงทางเข้าสั้นๆ
มองตรงไปเป็นโซน Living Area และห้องกระจกทางซ้ายมือเป็นห้องครัว
เข้ามาภายใน Living Area จะเจอพื้นที่โถงกว้าง มีช่องแสงขนาดใหญ่เต็มผนัง ให้ความรู้สึกโอ่โถงเหมือนอยู่บ้านเลยค่ะ
ภาพรวมหลังจากเราเข้าห้องมาแล้วมองย้อนกลับไปทางประตูทางเข้าห้อง
ห้องนี้สามารถวางโซฟาขนาด 3 – 4 ที่นั่งได้สบายๆ
ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่วางทีวี
มีชุดตู้ชั้นวางทีวีติดตั้งมาให้ ได้เป็นชุดใหญ่ตามขนาดห้องเลย สามารถเก็บของได้เยอะทีเดียว
ระยะดูทีวีค่อนข้างกว้าง สามารถวางทีวีไซส์ใหญ่หน่อยได้เลย
ติดกับโซฟาจะเป็นพื้นที่ทานอาหาร และด้านหลังที่เราเห็นจะเป็นบันไดขึ้นชั้นลอย
สามารถวางโต๊ะทานอาหาร 4 – 5 ที่นั่งได้ มีระยะให้ใช้งานพอดีๆ
ติดกับพื้นที่ทานอาหารด้านหลังเป็นบันไดขึ้นชั้นลอย ซึ่งเค้าทำเป็นช่องเก็บของมาให้ด้วย วางพวกของตกแต่งบ้านก็สวยดี หรือจะใช้เป็นชั้นวางหนังสือก็มีประโยชน์ค่ะ
จากมุมทานอาหาร เราไปดูห้องครัวกันต่อ
ครัวจะได้เป็นครัวปิด ประตูบานสไลด์ 3 ตอน
ในครัวจะได้อุปกรณ์มาตรฐานเป็นชุดเคาน์เตอร์ครัวครบชุดตามนี้ มีที่เก็บของเยอะเลยค่ะ ติดตั้งมาให้พร้อมเตาไฟฟ้า, ซิ้งค์ล้างจาน, เครื่องดูดควัน และไมโครเวฟ Built – in
บนเคาน์เตอร์ครัวมีพื้นที่เตรียมอาหารพอสมควรเลย
ระยะสำหรับยืนทำครัวพอให้ใช้งานได้สบายๆ
ขยับจากห้องครัวมาทางขวามือจะเป็นห้องน้ำและห้อง Master Bedroom
เรามาดูภายในห้องน้ำกันก่อน รวมๆงานตกแต่งและสเปคจะเหมือนห้องที่แล้วเลยค่ะ โดยจะมีแยกส่วนแห้งส่วนเปียก สุขภัณฑ์ทั้งหมดใช้ของ Kasch
ระยะการใช้งานอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ใช้งานสะดวก
ห้องอาบน้ำติดตั้ง Shower Box มาให้
ภายในห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัว Hand Shower และ Rain Shower พร้อมชั้นวางของด้านข้าง
ขนาดห้องอาบน้ำกว้างพอให้ยืนอาบได้สบายๆ
ด้านหน้าห้องน้ำจะมีห้องเล็กๆ เป็นพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า พร้อมชั้นวางของเผื่อเก็บอุปกรณ์ซักผ้าหรือผ้าที่ซักแล้ว ช่วยให้ห้องเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น
เข้ามาดูภายใน Master Bedroom กันต่อ ห้องนี้มีห้องน้ำในตัวฝั่งซ้ายมือ และฝั่งขวามือคือโซนห้องนอน
ภายในพื้นที่ห้องนอนมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง ใช้งานได้สบายๆเลย และจุดเด่นคือช่องแสงขนาดใหญ่แบบเข้ามุม มองเห็นวิวได้กว้างมากขึ้น พร้อมบานกระทุ้งที่เปิดระบายอากาศได้
สำหรับห้องนี้วางเตียงควีนไซส์หรือคิงส์ไซส์ก็ได้ สบายๆค่ะ
อย่างในห้องตัวอย่างวางเตียงควีนไซส์มาให้ดู จะเหลือพื้นที่ข้างเตียงทั้งสองฝั่งพอให้เดินขึ้นลงเตียงได้สะดวก
พื้นที่ตรงปลายเตียงจะมีชั้นวางทีวีแบบวางพื้นมาให้ สามารถใช้วางทีวีไว้ดูก่อนอนได้ หรือถ้าไม่ชอบดูทีวีก็เป็นตู้เก็บของภายในห้องก็ได้ค่ะ
ส่วนตู้เสื้อผ้าที่ได้ในห้องนี้จะเหมือนห้องที่แล้วเป๊ะเลยค่ะ
หน้าตาตู้เสื้อผ้าเต็มๆ ได้แบบนี้เลย หน้าบานกระจกสีดำ พร้อมชั้นวางของด้านนอก
ติดกับตู้เสื้อผ้าจะเป็นห้องน้ำในตัว Master Bedroom
ภายในห้องน้ำตกแต่งและใช้ชุดสุุขภัณฑ์แบบเดียวกันกับที่ห้องที่แล้ว
จะมีพิเศษกว่าห้องน้ำห้องอื่นๆคือเชื่อมต่อกับระเบียงเล็กๆด้านนอก โดยบานประตูจะเป็นกระจกฝ้า เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องกังวลในเรื่องความเป็นส่วนตัว
พื้นที่ระเบียงในห้องน้ำ สามารถวางราวตากผ้าเล็กๆได้
ขนาดห้องอาบน้ำกว้างพอให้ยืนอาบได้สบายๆ
กลับออกมาที่ Living Area เราขึ้นไปดูบนชั้นลอยกันต่อ
บันไดของห้อง Type นี้ ค่อนข้างกว้าง มีราวกันตก เดินขึ้นลงได้สะดวก ปลอดภัย
ขึ้นมาชั้นลอยจะเป็นห้องอเนกประสงค์ที่สามารถทำเป็นห้องนอนที่มี Walk – in Closet ได้
ในห้องตัวอย่าง ทางโครงการทำเป็นห้องพักผ่อน/ห้องอ่านหนังสือ แต่ถ้าจะทำเป็นห้องนอนก็สามารถวางเตียง 3.5 ฟุตได้ กำลังดี
ฝั่งปลายเตียงเป็นผนังกระจกช่วยให้ห้องดูโปร่งสบาย
พื้นที่ด้านข้างสามารถวางโต๊ะทำงานได้ โดยตรงนี้ทางโครงการจะมีชั้นวางของ Built – in มาให้ด้วย
ติดกันเป็น Walk – in Closet
ภายในห้องมีตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง Built – in มาให้ชุดใหญ่เลย
โต๊ะเครื่องแป้งมีลิ้นชัก 2 ช่อง
จากชั้นบนมองลงมาด้านล่างจะเห็นส่วน Living Area ทั้งหมด
ราคา(ก.ค.2562)
ราคาเริ่มต้น 190,000 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง 95 บาท/ตร.ม.
กองทุน 750 บาท/ตร.ม.
สรุป
ทำเลที่ตั้ง : โครงการ Park Origin ราชเทวี ตั้งอยู่ติดถนนเพชรบุรี ฝั่งมุ่งหน้าแยกราชเทวี จุดเด่นคืออยู่ใจกลางเมือง ใกล้สยาม, จุฬาฯ ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบสูงทั้งในระยะเดินและในวงกว้าง ส่วนสภาพแวดล้อ มใกล้ๆโครงการส่วนใหญ่เป็น ตึกแถว, Hostel, โรงแรม และใกล้อาคารสำนักงาน ซึ่งทุกวันนี้บรรยากาศรอบๆก็คึกคักทั้งวันอยู่แล้ว ยิ่งในอนาคตจะมีอาคารสำนักงานเกรด A และโครงการ Mixed-Use Building อื่นๆมาเสริมก็จะยิ่งทำให้แถวนี้คึกคักยิ่งขึ้นอีกค่ะ
ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆก็ครบทุกอย่างเลย ทั้งใกล้สยามที่เป็นโซนไลฟ์สไตล์ ใกล้สถานศึกษาอย่างจุฬาฯ เตรียมอุดม และใกล้โรงพยาบาลสำคัญหลายแห่ง และในอนาคตก็มีอีกหลายโปรเจ็กที่รอขึ้นมาในโซนราชเทวีและใกล้เคียงด้วย
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : ส่วนคนขับรถเนื่องจากเป็นทำเลใจกลางเมืองติดถนนใหญ่เพชรบุรี ใกล้แยกราชเทวี เชื่อมต่อกับถนนสายหลักๆอีกหลายเส้นทาง ใช้เส้นพญาไทสะดวก ออกจากโครงการเลี้ยวซ้ายไปทางแยกราชเทวีก็สามารถใช้ถนนพญาไท ผ่านทั้งสยาม, มาบุญครอง, หอศิลป์ และเชื่อมต่อกับถนนเส้นสำคัญอื่นๆเช่น ถนนราชวิถี ได้ และยังใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน 2 เส้น ทั้งทางด่วนศรีรัชและเฉลิมมหานคร จะขับไปไหนมาไหนก็สะดวก แต่รถก็จะติดหน่อยค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : จากตัวโครงการสามารถเดินทางได้สะดวก ทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถสาธารณะ จากโครงการเดินไป BTS ราชเทวีได้สบายๆ 400 เมตร และในอนาคตยังแทบติดรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีราชเทวี อีกด้วย จะเรียก Taxi หรือพี่วินก็มีผ่านหน้าโครงการตลอด หรือจะเดินไปที่คิวพี่วินก็ได้ จะอยู่ตรงหน้าปากซอยเพชรบุรี 5 เดินแค่ 50 เมตรค่ะ
ส่วนรถเมล์ ก็มีป้ายรถเมล์ เดินย้อนไปทางเพชรบุรีซอย 3 ห่างจากโครงการไปประมาณ 120 เมตร จะมีรถสาย 2, 11, 11ปอ, 16, 23, 23ปอ, 50, 59, 60, 79, 99, 183, 505, 511 วิ่งผ่านค่ะ
การออกแบบโครงการและที่ดิน : เป็นโครงการคอนโด High Rise สูง 41 ชั้น จำนวน 1 อาคาร บนที่ดิน 1 – 2 – 34.5 ไร่ จำนวนห้องพักอาศัยรวม 264 ยูนิต
ตัวโครงการมีจุดเด่นที่ความเป็นส่วนตัวเพราะมียูนิตพักอาศัยแค่ 264 ยูนิตเท่านั้น และการออกแบบโครงการเค้าเน้นเป็นห้อง Loft ฝ้าเพดานสูง 4.25 ม. ทั้งโครงการ ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นและบรรยากาศในการอยู่อาศัยดีขึ้น แต่เนื่องจากปริมาตรของห้องเพิ่มขึ้นจึงอาจจะต้องคิดถึงค่าไฟที่เพิ่มขึ้นจากห้องปกติทั่วๆไปด้วย
ส่วนขนาดห้องมีให้เลือกค่อนข้างครอบคลุมตั้งแต่คนท่ีอยู่คนเดียวไปถึงครอบครัว 5 – 6 คน ตัวห้องขายแบบ Fully Fitted ที่ให้ของมาค่อนข้างเยอะกว่า Fully Fitted ทั่วๆไป โดยจะมี Digital Door Lock ยี่ห้อ Samsung, Built – in ตู้เสื้อผ้า, ชั้นวางทีวี และตู้เก็บของ + ชั้นวางของอื่นๆ ตามขนาดห้อง , ชุดเคาน์เตอร์ครัวครบชุด พร้อมเตาไฟฟ้า+เครื่องดูดควัน, ซิ้งค์ล้างจาน, Built – in Microwave ยี่ห้อ MEX, สุขภัณฑ์ใช้ของ Kasch ได้โถสุขภัณฑ์แบบ Wall Hung ห้องน้ำมีฉากกั้น พร้อม Smart Mirror
พื้นที่ส่วนกลาง :ส่วนกลางก็ทำมาสวย ครบ ฟิตเนสใหญ่ แยกพื้นที่ทำงานและพักผ่อนเป็นโซนอย่างชัดเจน และมีฟังก์ชั่นพิเศษอื่นๆอย่าง Lava Onsen และสวนบนชั้น Rooftop ที่สามารถของเห็นวิวเมืองได้รอบด้าน รวมๆแล้วก็สามารถใช้งานได้เหลือๆเลยค่ะ เมื่อเทียบกับจำนวนยูนิต พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตั้งแต่หน้าโครงการ ใช้ Access Card ที่รั้วกั้นไม้กระดก, โถงลิฟต์ และลิฟต์แบบล็อคชั้น 2 ตัว + เซอร์วิสลิฟต์ 2 ตัว และที่จอดรถได้ถึง 100% เป็น Auto Parking
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ
8.75
เป็นทำเลในเมือง เดินทางสะดวกทั้งรถสาธารณะและรถยนต์ส่วนตัว ใกล้ร้านค้า, ร้านอาหาร, ร้านสะดวกซื้อ, ห้างสรรพสินค้า, สถานศึกษา และโรงพยาบาลชั้นนำครบครัน
การเดินทาง ใช้รถ
8.0
ติดถนนใหญ่เพชรบุรี ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน 2 เส้น ทั้งทางด่วนศรีรัชและเฉลิมมหานคร จะขับไปไหนมาไหนก็สะดวก แต่รถก็จะติดหน่อยค่ะ
การเดินทาง ไม่ใช้รถ
8.0
เดินไป BTS ราชเทวีได้สบายๆ 400 เมตร ใกล้ป้ายรถเมล์ และในอนาคตยังแทบติดรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีราชเทวีอีกด้วย
ห้องและวัสดุ
8.0
เป็นห้องแบบ Loft ทั้งโครงการ โปร่งสบาย มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น แบ่งการใช้งานเป็นสัดส่วน ขายแบบ Fully Fitted ที่ให้ตู้เก็บของมาค่อนข้างเยอะตามขนาดห้อง วัสดุมาตรฐานเหมาะสมกับราคา
สิ่งอำนวยความสะดวก
8.25
สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สวย ใช้งานได้เหลือๆ มีฟังก์ชั่นพิเศษที่น่าสนใจ
ความคุ้มค่ากับราคา
8.0
เป็นโครงการทำเลใจกลางเมือง รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ยูนิตพักอาศัยน้อย มีความเป็นส่วนตัวสูง ส่วนกลางดี ห้องแบบ Loft เหมาะสำหรับซื้ออยู่อาศัยเองเป็นหลัก โดยเฉพาะคนที่มีลูกหลานเรียนในโซนนี้ หรือทำงานในโซนใกล้เคียง
คะแนนรวมเฉลี่ย
8.16
ดีมาก
ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://bit.ly/2PTjhTg
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 063-213-9444
Website : https://www.parkorigin.co.th/Chula-Ratchathewi/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น