EP.708 รีวิว บ้านเดี่ยว ภัสสร เพรสทีจ จตุโชติ – วัชรพล Passorn Prestige Chatuchot – Watcharapol
สวัสดีค่าท่านผู้อ่านชาว Homenayoo ที่น่ารักทุกคน วันนี้เรามีโครงการทาวน์โฮมมาฝากนั่นก็คือโครงการ ภัสสร เพรสทีจ จตุโชติ – วัชรพล จาก พฤกษา เรียลเอสเตท นั่นเอง โครงการเป็นบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น สไตล์ Art Nouveau ความหรูหราอ่อนช้อยแบบคลาสสิกที่ผสมผสานเข้ากับความทันสมัยและความเรียบง่ายแบบสมัยใหม่
ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนสายไหมจตุโชติ สามารถเดินทางได้สะดวกเชื่อมต่อถนนสายหลักได้อย่างง่ายดาย อยู่ใกล้ทั้งทางด่วนโทลล์เวย์และทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ อีกทั้งยังอยู่ในระยะการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีเขียวซึ่งจะเปิดใช้งานในอนาคตอันใกล้นี้ สิ่งอำนวยความสะดวกรองรับการอยู่อาศัยในราคาเริ่มต้นที่ 3.99 ล้านบาท (ม.ค.61)
รายละเอียดในเชิงลึกของทางโครงการจะเป็นอย่างไรนั้น เชิญเลื่อนลงไปตามอ่านได้เลยค่า
ชื่อโครงการ | ภัสสร เพรสทีจ จตุโชติ-วัชรพล Passorn Prestige ChatuChot-Watcharapol |
เจ้าของโครงการ | บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) Pruksa |
ลักษณะโครงการ | บ้านเดี่ยว 2 ชั้น |
พื้นที่โครงการ | 36 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 165 หลัง |
พื้นที่ใช้สอย | เริ่มต้น 121-167 ตร.ม. |
เนื้อที่บ้าน | เริ่มต้น 50 ตร.วา. ขึ้นไป |
จำนวนห้อง | 3 ห้องนอน, 2-3 ห้องน้ำ |
ที่จอดรถทั้งหมด | 2 คัน |
โซน | ซอยจตุโชติ 6 |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ซอยจตุโชติ 6 แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม. |
กำหนดการ | เปิดจอง 24-25 ก.ย. 2559 |
ปีที่สร้างเสร็จ | กลางปี 2563 |
ราคา | เริ่มต้น 3.99 ล้านบาท (ม.ค.61) |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | 30 บาท/ ตร.วา/เดือน (จ่ายแรกเข้า 3 ปี) |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | “ภัสสร เพรสทีจ จตุโชติ-วัชรพล” บ้านเดี่ยวหลังใหญ่ 50 ตร.ว. Art Nouveau Style ผสมผสาน “ความเรียบง่ายแบบสมัยใหม่” และ “ความหรูหราแบบคลาสสิก” จัดสรรอย่างลงตัวในทุกพื้นที่ใช้สอย บรรยากาศภายโครงการรายล้อมด้วยธรรมชาติ |
พาชม Virtual Tour 360 ภัสสร เพรสทีจ จตุโชติ – วัชรพล
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ซอยจตุโชติ 6 แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม.
พิกัด : 13.897984, 100.667637
แผนที่จากทางโครงการ
ทำเลที่ตั้ง โครงการ ภัสสร เพรสทีจ จตุโชติ – วัชรพล ตั้งอยู่ในย่านที่พักอาศัยไกลออกมาจากตัวเมืองกรุงเทพฯฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือในซอยจตุโชติ 6 ใกล้ถนนจตุโชติในระยะ 550 เมตร โดยถนนจตุโชติจะเป็นถนนกว้าง 4 เลนที่ค่อนข้างเงียบสงบ มีตึกแถวและร้านค้าอยู่เป็นช่วงๆ มีโครงการบ้านจัดสรรบ้างแต่ยังไม่ค่อยหนาแน่นมาก ส่วนมากก็ยังเป็นที่ดินเปล่า ยังไม่เจริญและคึกคักเท่าถนนใหญ่อย่างถนนพหลโยธินและถนนลำลูกกาที่มีทั้งอาคารพาณิชย์, สำนักงาน, อพาร์ทเม้นท์ และคอนโดมิเนียมอยู่ตลอดแนว รวมถึงถนนสายไหมที่มีโครงการบ้านจัดสรรอยู่ตลอดทั้งเส้น
การเดินทางด้วยรถยนต์ สำหรับเส้นทางการเข้า – ออกจากตัวโครงการจะอยู่ในซอยจตุโชติ 6 บนถนนจตุโชติ โดยถนนจตุโชติเป็นถนนรองที่วิ่งไปเชื่อมกับถนนสุขาภิบาล 5 ซึ่งสามารถวิ่งไปเข้าถนนเพิ่มสินเพื่อออกเส้นพหลโยธิน เป็นถนนสายหลักที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่วิ่งไปตัดถนนใหญ่อีกหลายเส้นทั้ง รามอินทรา – แจ้งวัฒนะ, งามวงศ์วาน – เกษตรนวมินทร์, รัชดาภิเษก, ลาดพร้าว และตัดยาวลงไปสุดที่อนุสาวรีย์ จากถนนสุขาภิบาล 5 จะสามารถวิ่งไปเชื่อมกับถนนสายไหมและถนนจันทรุเบกษาวิ่งออกเส้นวิภาวดี – รังสิตเข้าสู่ตัวเมืองและวิ่งไปทางรังสิตยาวไปถึงบางปะอินได้ บนเส้นวิภาวดี – รังสิตเองก็จะมีดอนเมืองโทลล์เวย์เป็น 1 ตัวช่วยหนีการจราจรที่ติดขัด และจากถนนสุขาภิบาล 5 ยังสามารถวิ่งจากถนนสุขาภิบาล 5 ไปเข้าเส้นรามอินทราวิ่งออกเส้นเลียบทางด่วนรามอินทรา หรือจะวิ่งไปทางปากเกร็ด – มีนบุรีก็ได้เช่นกัน ตรงเส้นสุขาภิบาล 5 เองก็จะมีจุดขึ้น – ลงทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์เป็นตัวช่วยในการเดินทางทั้งขาเข้าและขาออกตัวเมืองให้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ไม่ไกลกันนั้นยังมีถนนลำลูกกาซึ่งมีจุดขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษกโดยวิ่งจากถนนสุขาภิบาล 5 ไปเข้าถนนสายไหมที่วิ่งขนานกับถนนลำลูกกาโดยมีคลอง 6 วากั้นอยู่ ซอยที่มีสะพานข้ามคลองที่สามารถวิ่งเชื่อมจากถนนสายไหมไปถนนลำลูกกาได้ก็จะมีซอยเฉลิมพงษ์ โดยถนนลำลูกกาเองก็จะเป็นถนนที่มีความอุดมสมบูรณ์เพราะสามารถใช้วิ่งไปขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษกได้นั่นเอง
ในปัจจุบันที่ถนนพหลโยธินกำลังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวซึ่งทำให้การจราจรบนถนนพหลโยธินติดขัดมาก ส่งผลให้รถหนีไปวิ่งบนถนนวิภาวดี – รังสิตด้วย ทำให้การจราจรบนถนนวิภาวดี – รังสิตและถนนรามอินทรามีความติดขัดสาหัสสากรรจ์ตามมา หากต้องการที่จะเข้าเมืองจะแนะนำให้ขึ้นทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์เลยค่ะ หรือหากใครที่ต้องผ่านถนนทั้ง 3 เส้นนี้ก็ให้เผื่อเวลากันให้ดีๆนะคะ อาจจะต้องทนกันไปอีกประมาณ 4 – 5 ปีจะเป็นกำหนดการที่คาดว่ารถไฟฟ้าสายนี้จะสร้างเสร็จ
ทางด่วน ตัวโครงการอยู่ใกล้กับทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ สามารถใช้วิ่งเข้าสู่ตัวเมืองและไปทางพระราม 9 หรือบางนาได้สะดวก โดยจากถนนจตุโชติวิ่งมาเข้าถนนสุขาภิบาล 5 ในระยะ 3.3 กม.เท่านั้น
และตัวโครงการยังอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้น – ลงดอนเมืองโทลล์เวย์ในระยะ 17.4 กม. โดยวิ่งจากถนนสุขาภิบาล 5 ไปเข้าถนนสายไหมต่อด้วยจันทรุเบกษาไปเชื่อมกับถนนพหลโยธินเข้าถนนวิภาวดี – รังสิตบริเวณตลาดสี่มุมเมืองและฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต เลี้ยวซ้ายแล้วตรงขึ้นดอนเมืองโทลล์เวย์ได้เลย
ความอุดมสมบูรณ์ บนถนนจตุโชติเองยังเป็นถนนที่ค่อนข้างมีความเงียบสงบ สองข้างทางยังมีพื้นที่ว่างสลับกับตึกแถวเรียงรายกันไป หมู่บ้านจัดสรรยังมีขึ้นไม่เยอะมากนัก ถึงจะมีความอุดมสมบูรณ์ไม่สู้บริเวณบนถนนพหลโยธิน, ถนนลำลูกกา และถนนรามอินทราซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารพาณิชย์, ตึกแถว, คอนโดมิเนียมแบบ Low rise และห้างสรรพสินค้าอย่างห้าง Big C, Tesco Lotus, เซ็นทรัลรามอินทรา,แฟชั่นไอส์แลนด์ และคอมมูนิตี้มอลล์ แต่เนื่องจากถนนสายนี้เป็นแหล่งของที่พักอาศัย จึงสามารถหาซื้อของใช้และอาหารการกินได้ไม่ยาก จะมีร้านอาหารร้านเล็กๆตั้งอยู่ทั่วๆไป ส่วนร้านสะดวกซื้อก็จะมีเซเว่นอยู่ที่หน้าปากซอยจตุโชติ 10 ในระยะเดินจากหน้าปากซอยจตุโชติ 6 เพียง 300 เมตร
ส่วนบริบทในวงกว้าง โดยรอบโครงการนั้นมีถนนสายสำคัญอย่างถนนพหลโยธิน ซึ่งเป็นถนนเส้นที่มีความอุดมสมบูรณ์เส้นนึง มีทั้งร้านค้า, ธนาคาร, สำนักงาน, โรงพยาบาลเซ็นทรัลเย็นเนอรัล, ห้าง Big C และ Tesco Lotus ในบริเวณที่ใกล้เคียงกัน ออกไปทางรังสิตก็จะมีตลาดสี่มุมเมือง, Big C, Makro, Tesco Lotus, เซียร์รังสิต, ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต และอื่นๆอีกมากมาย
มาทางเส้นรามอินทราก็จะมี เซ็นทรัลรามอินทรา, Big C, ฟู้ดแลนด์, Ease park คอมมูนิตี้มอลล์ที่เพิ่มเปิดตัวใหม่, พรอมานาด และแฟชั่นไอส์แลนด์ นอกจากนี้ถ้าวิ่งเลียบทางด่วนรามอินทราไปก็ยังมี The Crystal, The walk และเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ ส่วนใครที่ชอบเดินตลาดนัดตอนกลางคืนก็จะมีตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทราและตลาดหัวมุม มีสินค้าและอาหารมากมายให้เลือกชม ชิม ช้อปอีกเพียบ
อีกทั้งบนถนนสุขาภิบาล 5 และถนนวัชรพลเองก็ค่อนข้างมีความคึกคักอยู่เหมือนกัน นอกจากจะมีร้านอาหารและอาคารพาณิชย์แล้วก็จะมีตลาดวงศกร, ตลาดออเงิน, Venis Di Iris คอมมูนิตี้มอลล์สุดเก๋สไตล์อิตาลี, Plearnary mall และตลาดถนอมมิตร
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ โครงการ ภัสสร เพรสทีจ จตุโชติ – วัชรพล ตั้งอยู่ในซอยจตุโชติ 6 บนถนนจตุโชติจะไม่มีรถสาธารณะวิ่งผ่าน การเดินทางด้วยรถสาธารณะยังถือว่าไม่สะดวกนัก จะต้องเพิ่งรถแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซค์ไปต่อรถที่ถนนเส้นอื่นๆ นอกจากนี้ในปี 2665 รถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงเคหะสมุทรปราการ – บางปู ก็คาดว่าจะสร้างเสร็จได้เปิดใช้งานพอดีโดยสถานีที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็น สถานีสะพานใหม่ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวโครงการออกไปเป็นระยะ 8.1 กม. ถึงจะไม่อยู่ใกล้พอที่จะสามารถเดินไปได้สะดวกแต่ก็สามารถเรียกพี่วินนั่งไปได้ในเวลาไม่เกิน 15 นาที
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการ ภัสสร เพรสทีจ จตุโชติ – วัชรพล โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนรามอินทรา > ถนนวัชรพล > 5 แยกวัชรพล > ถนนสุขาภิบาล 5 > ถนนจตุโชติ > ซอยจตุโชติ 6 > โครงการ ภัสสร เพรสทีจ จตุโชติ – วัชรพล
เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากถนนรามอินทราช่วงกม.4 เลยแยกมัยลาภมาเล็กน้อย จะมีจุดสังเกตเป็นปั๊ม Esso ทางซ้าย ให้เตรียมชิดซ้ายเอาไว้เดี๋ยวเราจะเลี้ยวเข้าถนนวัชรพลกันข้างหน้าค่ะ
เลี้ยวซ้ายเข้าถนนวัชรพล
เลี้ยวซ้ายตามถนนวัชรพลมาเรื่อยๆ
เมื่อเข้าสู่ทางตรงของถนนวัชรพล ทางซ้ายมือจะมีจุดสังเกตเป็น The Platinum Place ทางขวามือจะเป็นอาคารพาณิชย์และตึกแถวสูง 4 ชั้นครึ่ง
วิ่งตรงไปจนถึง 3 แยกให้เลี้ยวขวา
เมื่อเลี้ยวขวามาแล้วทางซ้ายมือจะมีจุดสังเกตเป็นปั๊มบางจาก เราจะวิ่งลอดใต้ทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ข้างหน้าค่ะ
เมื่อวิ่งลอดใต้ทางด่วนมาแล้วให้สังเกตป้ายถนนวัชรพลและถนนสุขาภิบาล 5 เอาไว้ ข้างหน้าจะเป็น 5 แยกวัชรพลค่ะ
มาถึงไฟแดงตรง 5 แยกวัชรพลให้อยู่เลนขวาเอาไว้นะ เราจะเลี้ยวขวาเข้าถนนสุขาภิบาล 5
เมื่อเลี้ยวเข้ามาในถนนสุขาภิบาล 5 แล้วให้สังเกตป้ายสายไหม วิ่งตรงตามทางไปเลย
สังเกตป้ายสายไหมแล้ววิ่งขึ้นสะพานไปได้เลยค่ะ
วิ่งตรงตามถนนสุขาภิบาล 5 ไปเรื่อยๆจะมีจุดสังเกตเป็น Mini big C ทางซ้ายมือ
จากนั้นให้สังเกตป้ายถนนจตุโชติแล้วชิดขวาเตรียมเลี้ยวเข้าถนนจตุโชติที่แยกไฟแดงข้างหน้า
มาถึงแยกไฟแดงแล้วรอสัญญาณไฟ เลี้ยวขวาเข้าถนนจตุโชติไปได้เลย
เมื่อเข้ามาในถนนจตุโชติแล้วให้วิ่งตรงต่อไปประมาณ 650 เมตร ทางเข้าซอยจตุโชติ 6 จะอยู่ทางขวามือ ภายในซอยจะค่อนข้างเงียบสงบ มีพื้นที่ว่างสลับๆกับอาคารบ้านเรือน
จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยจตุโชติ 6
เมื่อเข้ามาภายในซอยจตุโชติ 6 แล้วให้วิ่งตรงเข้าไปประมาณ 550 เมตร ก็จะถึงซุ้มทางเข้าโครงการ ภายในซอยด้านซ้ายและขวาก็จะเป็นบ้านพักอาศัยของคนในละแวกนั้น ตรงหน้าจะเป็นทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ให้วิ่งลอดไปเลยค่ะ
เรามาถึงตัวโครงการ ภัสสร เพรสทีจ จตุโชติ – วัชรพลกันแล้วค่า
สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
บริเวณโดยรอบโครงการบนถนนจตุโชติจะเป็นโซนของที่อยู่อาศัยในแนวราบ มีโครงการบ้านจัดสรรทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม, บ้านพักอาศัยส่วนตัวดั้งเดิม, ตึกแถวสูงไม่เกิน 4 ชั้น, อาคารพาณิชย์, ร้านอาหาร, ร้านขายของชำ, โกดังเก็บของ และที่ดินเปล่า
เดี๋ยวเราจะเดินสำรวจบริเวณใกล้เคียงกับตัวโครงการกันนะคะจะได้รู้ว่ามีอะไรอยู่แถวนี้บ้าง เริ่มต้นจากฝั่งตรงข้ามกับซอยจตุโชติ 6 จะเป็นที่ดินเปล่าผืนใหญ่ ตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าพื้นที่ตรงนี้จะถูกพัฒนาเป็นอะไรนะ
มองไปทางซ้ายมือมุ่งหน้าไปถนนสุขาภิบาล 5 เดี๋ยวเราจะเดินสำรวจไปทางนี้กันก่อนค่ะ
ข้างๆกับทาเข้าซอยจตุโชติ 6 จะเป็นที่ดินเปล่าให้เช่า
ติดๆกันเลยจะเป็นร้านดูแลน้องหมาแบบครบวงจร ทั้งอาบน้ำ – ตัดขน, ให้น้องหมาออกกำลังกายในสระว่ายน้ำ, สนามสำหรับให้วิ่งเล่น และห้องพัก ในกรณีที่เจ้าของจะเดินทางไปไหนไกลๆข้ามคืน ไม่มีคนดูแลก็นำมาฝากไว้ที่นี่ได้
ถัดไปก็จะเป็นบ้านพักอาศัยส่วนตัว
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นที่ดินเปล่า
เดินถัดไปจากซอย 4 ก็จะเป็นที่ดินเปล่าอีกเช่นกัน
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นร้านขายวัสดุก่อสร้าง, ร้านขายผ้า และร้านอาหาร
มุ่งตรงไปข้างหน้าจะไปเข้าถนนสุขาภิบาล 5 ค่ะ
กลับมาที่หน้าปากซอยจตุโชติ 6 เดี๋ยวเราจะเดินไปสำรวจเส้นทางทางขวากันต่อ
ติดกับปากซอยจตุโชติ 6 เลยจะเป็นเขตก่อสร้าง กำลังสร้างโรงเรียนสอนแบตมินตัน
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นที่ดินเปล่า ไกลๆไปตรงนั้นก็มีการก่อสร้างอาคารอยู่ แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นอาคารประเภทไหนนะคะ
ถัดไปจะเป็นที่ดินเปล่า ไกลๆจะเห็นบ้านพักอาศัยส่วนตัวและอพาร์ทเม้นท์
เดินเลยจากปากซอยจตุโชติ 6 ไปไม่ไกลก็จะเริ่มเจอร้านอาหารแล้วค่ะ ตรงนี้จะเป็นร้านขายอาหารอีสาน
ข้างๆกันเลยจะเป็นร้านขายของชำ
ร้านขายอาหารตามสั่ง, อาหารป่า และอาหารอีสาน
ร้านขายเตาและแก๊สหุงต้ม
ฝั่งตรงข้ามจะมีร้านนวดแผนไทย, ร้านการช่าง และร้านเสริมสวย
ถัดไปอีกก็จะมีร้านขายข้าวแกงและร้านลูกชิ้นทอด
ร้าน Coffee shop สามารถมานั่งชิลล์ดื่มกาแฟเย็นๆและนั่งทำงานไปด้วย
ถัดไปจะมีร้านขายข้าวแกงอีกร้าน ฝั่งนี้นี่ดูมีความอุดมสมบูรณ์ทีเดียวเลยค่ะ
ฝั่งตรงข้ามเองก็จะมีร้านขายข้าวต้มและร้านขายของชำ
ถ้าใครชอบตกแต่งสวน ใกล้ๆนี้ก็มีร้านขายไม้ดอก – ไม้ประดับอยู่ด้วย
ฝั่งตรงข้ามจะมีร้านขายบะหมี่เกี๋ยวหมูแดงอยู่อีก 1 เจ้า
ถัดไปไม่ไกลจะมีร้านขายผ้าม่านและร้านรับออกแบบตกแต่งภายใน
มุ่งตรงไปข้างหน้าถนนจตุโชติจะตัดไปวิ่งเข้าทางคู่ขนานวงแหวนกาญจนาภิเษก
:::: ตัวโครงการ ::::
โครงการ ภัสสร เพรสทีจ จตุโชติ – สายไหม เป็นโครงการบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น จำนวน 165 ยูนิต บนที่ดิน 36 ไร่ ที่มีแนวคิดมาจากศิลปะสไตล์ Art Nouveau ที่มีความหรูหราอ่อนช้อยแบบคลาสสิกที่ผสมผสานเข้ากับความทันสมัยและความเรียบง่ายแบบสมัยใหม่ ก่อนที่จะพาเข้าไปดูภาพภายในโครงการจะขออธิบายผังโครงการคร่าวๆเพื่อความเข้าใจกันก่อนนะคะ
ทางเข้า – ออกของโครงการหลักจะมีเพียงทางเดียวคือจากซุ้มทางเข้าโครงการในซอยจตุโชติ 6 โดยจะต้องผ่านรปภ.ซึ่งจะประกอบด้วย ป้อมยาม, เครื่องสแกน Auto access card, กล้อง CCTV, รั้วไม้กระดก และประตูรั้วเลื่อน เมื่อผ่านเข้ามาภายในตัวโครงการแล้วจะเจอถนนเมนกว้าง 15 เมตรผ่ายาวต่อเนื่องเข้าไปจนถึงท้ายโครงการ แจกเข้าสู่ตัวบ้านแต่ละหลังด้วยถนนกว้าง 9 เมตรโดยใช้ช่วงต้นๆซอยจะไม่ลึกมากนักตามรูปร่างของไซท์โครงการ
ส่วนกลางของโครงการมีขนาดรวมกันประมาณ 2 ไร่กว่าๆ จะมีคลับเฮ้าส์, สระว่ายน้ำ และห้องนิติบุคคลอยู่ข้างๆซุ้มทางเข้าโครงการฝั่งซ้ายมือ สำนักงานขายและบ้านตัวอย่างจะอยู่ทางขวามือในซอยแรก ส่วนสวนพักผ่อนจะอยู่ถัดเข้าไปตรงกลางไซท์ช่วงใกล้วงเวียนรถ วัดระยะทางจากซุ้มทางเข้าโครงการเข้าไปถึงท้ายโครงการจะมีระยะประมาณ 385 เมตร ลูกบ้านหลังท้ายๆสามารถเดินออกมาใช้ส่วนกลางได้ไม่ไกลเกินระยะเดินค่ะ
แต่ตัวโครงการจะอยู่ลึกเข้ามาในซอยจตุโชติ 6 ประมาณ 550 เมตร ถ้ารวมระยะทางจากท้ายโครงการไปถึงหน้าปากซอยก็ค่อนข้างไกลอยู่ ทางที่สะดวกก็คือลูกบ้านอาจจะปั่นจักรยานมาจอดไว้ที่หน้าโครงการหรือที่หน้าปากซอยก็จะช่วยให้ประหยัดเวลาได้มากขึ้นค่ะ
:::: บริเวณภายในโครงการ ::::
::: ทางเข้าโครงการ :::
เราได้ชมรายละเอียดกันไปแล้ว ตอนนี้เราจะพาท่านผู้อ่านเดินชมภาพบรรยากาศจริงของโครงการกันบ้าง
เริ่มจากที่ซุ้มทางเข้าโครงการ ตัวซุ้มมีดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความหรูหราจากโทนสีที่ใช้
มุมมองจากฝั่งขาออก
ซุ้มทางเข้าโครงการจะเป็น Double Gate คือมีประตูรั้ว 2 ส่วน ส่วนแรกจะเป็นรั้วไม้กระดก ตรงนี้ลูกบ้านจะมี Access card สามารถสแกนบัตรและขับรถผ่านเข้าไปได้เลย ส่วนที่ 2 จะเป็นประตูรั้วเลื่อนซึ่งลูกบ้านสามารถใช้รีโมทในการเปิดประตูเองได้ค่ะ
บริเวณรั้วไม้กระดกจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ช่อง ช่องทางซ้ายจะเป็นของลูกบ้านที่ถือ Access card ส่วนช่องทางขวาจะเป็นของ Visitor
ที่ช่องซ้ายลูกบ้านที่ถือ Access card จะสามารถสแกนบัตรและขับรถผ่านเข้าไปในโครงการได้เลย
เครื่องสแกน Access card เป็นระบบ Automation และกล้องวงจรปิด
ส่วนช่องขวา Visitor จะต้องผ่านการแลกบัตรและตรวจเช็คที่ป้อมยามก่อน
ตรงนี้จะมี CCTV อยู่ 1 ตัวค่ะ
ข้างๆกับถนนทางเข้าจะทำเป็นทางเท้ายกระดับขึ้นมาจากถนนปูด้วยหญ้าให้ลูกบ้านเดินเข้าได้อย่างปลอดภัย แต่ก็ต้องแลกบัตรผ่านด้วยนะ
มุมมองไปที่ด้านข้างของป้อมยาม ดีไซน์เรียบง่ายๆ
ป้ายแจ้งระเบียบการเข้า – ออกโครงการ
ภาพมุมมองจากในโครงการไปยังด้านหลังของป้อมยาม
::: บริเวณภายในโครงการ :::
เมื่อเข้ามาภายในโครงการแล้วจะเจอกับถนนเมนกว้าง 15 เมตร ส่วนข้างหน้าจะเข้าเขตก่อสร้างแล้วค่ะ ทางโครงการเพิ่งเริ่มก่อสร้างไปเมื่อกลางปี 59 คาดว่าจะแล้วเสร็จที่กลางปี 63
ที่ฝั่งซ้ายมือต่อไปในอนาคตจะเป็นคลับเฮ้าส์ ภายในมีฟิตเนสและสระว่ายน้ำ และห้องนิติบุคคล
ฝั่งขวามือจะเป็นซอยบ้านซอยแรก ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานขายและบ้านตัวอย่าง
มุมมองเข้าไปภายในซอย ฝั่งซ้ายมือจะเป็นลานจอดรถ ตรงกลางถูกจัดเป็นสวนหย่อมสวยงาม
ฝั่งขวามือหลังแรกจะเป็นสำนักงานขาย ใช้แบบบ้าน Privato เป็นหลังที่ใหญ่ที่สุด
ถัดเข้าไปจะเป็นบ้านตัวอย่างแบบ Primo, Paradiz และ Prezzo ตามลำดับจากหลังใหญ่ไปหลังเล็ก
มุมมองเข้าไปภายในสวนหย่อม
ส่วนพื้นที่โล่งข้างๆ ก็จะเป็นพื้นที่ขายในอนาคตค่ะ
มุมมองย้อนกลับจากภายในสวน ภายในสวนจะมีทางเดินสามารถเดินลัดเลาะได้โดยรอบเลย
:::: แบบบ้านของโครงการ และ บ้านตัวอย่าง ::::
::: แบบบ้านของโครงการ :::
แบบบ้านของโครงการได้แรงบันดาลใจมาจากสไตล์ Art Nouveau ผสมผสานเข้ากับความทันสมัยและความเรียบง่ายแบบสมัยใหม่ ตอบสนองการใช้ชีวิตของคนเมือง ทั้งโดดเด่น เรียบหรู และอ่อนช้อย สะท้อนความสำเร็จและแนวคิดการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์ ด้วยแบบบ้านทั้งหมด 3 แบบด้วยกัน
แบบบ้าน Prezzo
แบบบ้าน Paradiz
แบบบ้าน Primo
:: แบบบ้าน Prezzo ขนาด 120 ตรม. ::
แปลนบ้านชั้นที่ 1 ประกอบด้วย
แปลนชั้นที่ 2 ประกอบด้วย
:: แบบบ้าน Paradiz ขนาด 142 ตรม. ::
แปลนบ้านชั้นที่ 1 ประกอบด้วย
แปลนชั้นที่ 2 ประกอบด้วย
:: แบบบ้าน Primo ขนาด 167 ตรม. ::
แปลนบ้านชั้นที่ 1 ประกอบด้วย
แปลนชั้นที่ 2 ประกอบด้วย
::: บ้านตัวอย่าง :::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo จะพาท่านผู้อ่านของเราไปชมบ้านตัวอย่าง 2 หลังด้วยกัน ลำดับเป็นแบบบ้าน Paradiz ขนาด 142 ตรม.และตามด้วยแบบบ้าน Primo ขนาด 167 ตรม. ไปชมกันเลยค่า 😉
:: แบบบ้าน Paradiz ::
เริ่มต้นจากแบบบ้าน Paradiz ขนาด 142 ตรม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำกันค่ะ ตัวบ้านใช้โทนสีเอิร์ทโทนสว่างๆสีเทา, สีครีม และสีน้ำตาลอ่อน ทำให้บ้านแลดูอบอุ่น
มาดูในส่วนของโรงจอดรถกันก่อน ภายในโรงจอดรถจะสามารถจอดรถได้ 2 คัน พื้นเป็นคอนกรีตขัดเรียบ
ที่ฝ้าเพดานเป็นฝ้าแผ่นเรียบไฟเบอร์ซีเมนต์ ดวงโคมดาวน์ไลท์
ภายในจะปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบกันน้ำมาให้ เผื่อจะใช้เสียบเครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดรถ และอื่นๆ
ฝั่งขวามือของโรงจอดรถจะทำเป็นทางเดินเชื่อมไปสู่เฉลียงหน้าบ้าน เวลาฝนตกก็พอจะช่วยกันฝนได้บ้าง ไม่ต้องเดินเปียกซกเข้าบ้านไป
มาดูในส่วนของเฉลียงทางเข้าบ้านกันต่อ
บริเวณเฉลียงทางเข้าบ้านจะติดไฟกิ่งให้ทั้ง 2 ข้างสไตล์ชดช้อยแบบคลาสสิกๆ
พร้อมดวงโคมดาวน์ไลท์ตรงกลางชายคาบ้านเพื่อให้ได้แสงสว่างอย่างเพียงพอ
พื้นเฉลียงทางเข้าบ้านจะทำยกระดับขึ้นมาจากระดับพื้นดินประมาณ 30 ซม. พื้นเฉลียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม. สลับด้วยพื้นกรวดล้าง เวลาฝนตกพื้นเปียกก็จะไม่ลื่นเลย ในหลายๆโครงการก็จะทำพื้นทางเดินข้างสระน้ำเป็นพื้นกรวดล้างด้วยนะ
ประตูทางเข้าบ้านจะเป็นประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมสีธรรมชาติลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง สามารถเลื่อนเปิดได้ตามภาพ
มือจับและตัวล็อคประตูเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐาน ตรงนี้ถ้าใครที่ต้องการความปลอดภัยมากขึ้นก็สามารถหาระบบล็อคแบบอื่นๆมาติดเพิ่มเติมได้
ตัวล็อคท้ายบาน
เมื่อเข้ามาในตัวบ้านแล้วจะเจอห้องนั่งเล่นก่อน ถัดเข้าไปคือห้องรับประทานอาหาร พื้นบ้านจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. จะปูยาวเข้าไปถึงในห้องครัว ผนังจะเป็นผนังติดวอลเปเปอร์เก็บขอบด้วยบัวผนังเรียบร้อยยกเว้นภายในห้องครัว, ห้องน้ำ และห้องเก็บของ แปลนบ้านจะเป็นแบบ Open plan เชื่อมพื้นที่แต่ละฟังก์ชั่นเข้าด้วยกันทั้งหมดทำให้ภายในบ้านดูโปร่งโล่งดี
ที่ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบทั้งหลัง ไม่ได้เล่นระดับแบบบ้านตัวอย่างนะ ส่วนดวงโคมที่ใช้จะเป็นดวงโคมดาวน์ไลท์ทั้งหลัง
มุมมองไปทางชุดโซฟารับแขก
ทางบ้านตัวอย่างได้จัดวาง Arm Chair ขนาด 3 ที่นั่งเอาไว้ให้ แต่จริงๆแล้วจะวางเป็นโซฟารูปตัว L ก็มีที่เหลือพอ ข้างๆยังมีที่สำหรับวางโต๊ะตัวเล็กๆได้ทั้ง 2 ข้างเลย
ที่ผนังฝั่งชุดโซฟาจะมีหน้าต่างบานเลื่อนมาให้ทั้ง 2 ข้าง เว้นตรงกลางเอาไว้ให้เป็นผนังทึบ มีข้อดีตรงที่จะไม่ทำให้แสงแดดจากภายนอกสะท้อนเข้ามากระทบกับหน้าจอทีวีค่ะ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นแล้วจะดูทีวีไม่รู้เรื่องเลย ข้อดีอีกอย่างก็คือจะทำให้จุดที่นั่งตรงโซฟาไม่ร้อนมาก ลองคิดสภาพแสงแดดส่องเข้ามาโดนหลังสิคะ จะติดแอร์ยังไงก็คงร้อนเอาไม่อยู่ กลายเป็นต้องติดม่านกันยูวีไปเฉยเลย
ฝั่งชั้นวางทีวีผนังจะเว้าเข้ามาเพราะด้านนอกเป็นที่จอดรถ ผนังมีความกว้างพอสมควรเลย ทำให้เราได้ที่วาง Built – in ตู้วางทีวีพร้อมช่องเก็บของได้สบายๆ ใครอยากให้บ้านดูกว้างขวางขึ้นลองใช้กระจกมาติดที่ผนังบางส่วนดู ก็จะทำให้บ้านของท่านดูกว้างขวางขึ้นในทันที โน้ตไว้เป็นไอเดียตกแต่งบ้านได้เลยค่ะ
ระยะจากโซฟาถึงผนังอีกฝั่งเหลือ 2 เมตร เป็นระยะที่เหมาะสำหรับการนั่งดูทีวีขนาด 50 – 55 นิ้วค่ะ
มุมมองจากห้องนั่งเล่นไปที่ห้องรับประทานอาหาร, โถงบันได และห้องครัว
มาดูในส่วนของห้องรับประทานอาหารกันต่อ เนื่องจากหน้าบ้านค่อนข้างจะกว้างจึงทำให้ห้องรับประทานอาหารมีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างใหญ่ โดยรอบของห้องจะติดหน้าต่างบานเลื่อนบานใหญ่หลายบานทำให้ห้องยิ่งดูโปร่งโล่งมากขึ้น
สำหรับโต๊ะอาหารในบ้านตัวอย่างได้จัดวางเอาไว้สำหรับ 6 ที่นั่งซึ่งจริงๆแล้วพื้นที่ในห้องนี้สามารถจัดได้ถึง 8 ที่นั่งเลยทีเดียว
ที่ข้างห้องรับประทานอาหารจะมีประตูบานเลื่อนสามารถเปิดออกสู่สวนข้างบ้านได้
เมื่อเปิดออกไปแล้วจริงๆจะเป็นพื้นหญ้าเลยนะคะ ไม่มีพื้น Terrace ไม้เทียมมาให้แบบนี้
ระดับพื้นภายในบ้านกับนอกบ้านจะต่างกันค่อนข้างเยอะหน่อยนะ ตรงนี้ต้องก้าวระวังๆด้วย
มุมมองออกไปที่สวนข้างบ้าน บ้านแต่ละหลังจะถูกกั้นด้วยรั้วเป็นผนังทึบสูง 1.6 เมตร
มุมมองย้อนกลับเข้ามาภายในตัวบ้าน
ที่ฝั่งซ้ายจะเป็นโถงบันได, ห้องน้ำ และห้องเก็บของ ส่วนฝั่งขวาจะเป็นห้องครัว
เดี๋ยวเราจะเข้าไปดูในส่วนของห้องครัวกันก่อน ที่ห้องครัวจะสามารถทำประตูบานเลื่อนกระจกมาติดกั้นส่วนกับห้องโถงใหญ่ของบ้านได้เพื่อกันกลิ่นจากการปรุงอาหาร
ภายในห้องครัวมีขนาดที่กว้างขวางมาก เหลือพื้นที่ตรงกลางประมาณ 1.9 x 2.55 เมตรเลย พื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม.ปูต่อเนื่องเข้ามาจากห้องรับประทานอาหาร ส่วนผนังจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสี
เคาน์เตอร์ครัวมีพื้นที่เยอะมากจนสามารถวางอุปกรณ์เครื่องครัวได้อย่างครบครันและยังเหลือพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารอีกเยอะ
ที่เคาน์เตอร์ฝั่งซ้ายจะใช้วางเตาปรุงอาหาร หลังเคาน์เตอร์ครัวแนะนำให้กรุกระเบื้องที่ผนังเพิ่มเติมขึ้นมา จะสามารถเช็ดคราบเขม่าควันออกได้ง่าย
ส่วนอีกฝั่งติดบริเวณหน้าต่างจะวางอ่างล้างจาน นับว่าเป็นตำแหน่งที่ดี เพราะจะช่วยระบายอากาศและแสงแดดจะช่วยฆ่าเชื้อโรคที่เกิดจากความอับชื้นได้ค่ะ
ก่อนจะทำเคาน์เตอร์ในห้องครัวอย่าลืมหา Dimensions ของตู้เย็นที่จะเอามาวางไว้ก่อนนะจะได้เตรียมพื้นไว้ได้พอดี ระยะมาตรฐานก็ราวๆ 60 ซม.ได้ค่ะ จะเป็นตู้เย็นขนาดมาตรฐาน แต่ถ้าเป็นตู้เย็นแบบ 2 ประตูก็จะต้องเผื่อที่มากกว่านี้นะ
ฝั่งตรงข้ามกับจุดวางตู้เย็นยังเหลือพื้นที่มุมห้องอยู่ สามารถวางโต๊ะสำหรับตั้งจานอาหารเตรียมไปเสิร์ฟได้
จากภายในห้องครัวจะสามารถออกสู่ลานซักล้างได้ ประตูซักล้างจะเป็นบาน UPVC
อุปกรณ์มือจับเป็นลูกบิดสแตนเลสแบบมาตรฐานของ Colt
ลานซักล้างที่ได้จะทำเป็นพื้นซีเมนต์ปาดเรียบกว้าง 2 เมตรพื้นลาดเอียงเล็กน้อย
และจะลดระดับลงจากพื้นห้องครัวอยู่ 20 ซม. โดยทำเป็นขั้นบันไดโรยขอบด้วยกรวดหินแม่น้ำ
พื้นที่บริเวณลานซักล้างกว้างขวางดีค่ะ ถ้าจะทำพื้นต่อเติมเพิ่มก็ยังได้อยู่ จะมีปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบกันน้ำสำหรับเครื่องซักผ้าและไฟกิ่งติดไว้ให้เหนือประตูทางออก
ไฟกิ่งบริเวณเหนือประตูทางออก
มาดูในส่วนของโถงบันไดกันต่อค่ะ
เริ่มต้นจากโถงทางเดินเข้าห้องน้ำและห้องเก็บของใต้บันได
ที่พื้นโถงนี้จะลดระดับลงไปประมาณ 10 ซม.
พื้นที่ใต้บันไดข้างห้องน้ำจะเป็นห้องเก็บของ
มือจับบานประตู
พื้นห้องเก็บของจะใช้เป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม.
มุมมองเข้าไปภายในห้องเก็บของ จะมีขนาดกระทัดรัด พอเก็บของใช้ภายในบ้านได้บ้าง
ภายในห้องจะติดไฟกิ่งมาให้ด้วย 1 ดวง
พร้อมปลั๊กไฟ 2 หัว
ในส่วนของห้องน้ำ ประตูจะเป็นบานสำเร็จรูป UPVC มีเกล็ดระบายอากาศ อุปกรณ์มือจับลูกบิดสแตนเลส
พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงจากพื้นโถงอีกประมาณ 5 ซม.
ห้องน้ำ 3 จะเป็นห้องน้ำแขก ไม่มีโซนอาบน้ำให้ พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคชนิดผิวด้านขนาด 30 x 30 ซม. ผนังกรุด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม.และขนาด 20 x 30 ซม.ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสค
ฝ้าเพดานภายในห้องน้ำจะเป็นฝ้าฉาบเรียบกันชื้นติดดวงโคมดาวน์ไลท์
อ่างล้างมือทรงสี่เหลี่ยมแบบแขวนผนัง มีขอบมนขนาดกระทัดรัดของ Kohler
ส่วนท่อดักกลิ่นจะครอบด้วยอุปกรณ์อ่างเซรามิกให้เรียบร้อย
ส่วนก๊อกน้ำจะใช้ของ Englefield
ถัดจากอ่างล้างมือจะเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์ใช้ของ Kohler แบบแยกชิ้นระบบ Dual flush พร้อมสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษชำระ
พื้นที่นั่งบริเวณโถกว้างขวางดีค่ะ ตรงนี้ถึงจะเป็นคนไซส์ยุโรปก็นั่งได้สบายๆเลย
สายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษชำระของ Kohler
เหนือบริเวณโถสุขภัณฑ์จะมีหน้าต่างบานเลื่อนกระจกฝ้ามาให้เป็นทั้งช่องแสงและช่องระบายอากาศ
ราวแขวนผ้าเช็ดตัวติดไว้ที่ผนังฝั่งตรงข้ามกับโถสุขภัณฑ์ของ Kohler
ออกมาจากห้องน้ำแล้วมาดูในส่วนของโถงบันไดกันต่อค่ะ
พื้นบันไดทั้งลูกตั้งและลูกนอนจะเป็นไม้สำเร็จรูป เก็บงานจมูกบันไดให้เรียบร้อยสวยงาม
ราวบันไดจะเป็นโครงเหล็กยึดกับพื้นบันได มือจับราวบันไดก็จะใช้ไม้สำเร็จรูปเช่นกัน
มุมมองจากชานพักบันไดขึ้นไปที่ชั้น 2
ที่ผนังโถงบันไดจะติดไฟกิ่งรูปดอกไม้น่ารักมาให้ 1 ดวง
ในส่วนของบันไดช่วงสุดท้ายจะทำเป็นบันไดโปร่ง รูตรงนี้นี่มองทะลุลงไปเห็นที่ชั้นล่างได้
มุมมองย้อนกลับลงไปที่ชานพักบันได
มุมมองจากชานพักบันไดตอนบนขึ้นไปยังโถงบันไดชั้น 2 ฝั่งซ้ายจะเป็นประตูห้องนอน 3 และห้องน้ำ 2, ตรงกลางคือ Master bedroom และฝั่งขวาจะเป็นห้องนอน 2 ตามลำดับ พื้นชั้น 2 จะปูด้วยพื้นไม้ลามิเนต ผนังติดวอลเปเปอร์ทั้งหมด
มุมมองย้อนกลับไปที่โถงบันได
มาเริ่มต้นที่ห้องนอน Master bedroom กันก่อนเลย ประตูห้องนอนทุกห้องจะเป็นประตูบานสำเร็จรูป HDF มือจับลูกบิดสแตนเลส
มุมมองเข้าไปภายในห้องนอน Master bedroom มีพื้นที่ๆกว้างขวางมากสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้ บริเวณลายผนังของห้องนอนทุกห้องจะเดินปลั๊กไฟและสายอากาศเอาไว้ให้ด้วยสำหรับการติดตั้งทีวี
พื้นที่ข้างเตียงฝั่งซ้ายเหลือถึง 1.6 เมตร สามารถวางโต๊ะทำงานไว้ข้างๆเตียงนอนได้เลย
ระยะจากชั้นวางทีวีถึงปลายเตียงเหลือ 1 เมตร เดินผ่านและทำเตียงได้สบายๆ
ฝั่งขวาของเตียงติดระเบียงเหลือ 0.6 เมตร ยังสามารถเป็นทางเดินออกไปที่ระเบียงได้โดยไม่รู้สึกอึดอัด
ทางห้องตัวอย่างได้จัดวางเตียงขนาด 6 ฟุตเอาไว้ อย่างที่เห็นว่ายังเหลือพื้นที่รอบๆเตียงอีกเยอะ
มุมมองไปที่ฝั่งชั้นวางทีวี สามารถทำชั้นเก็บของหรือวางของตกแต่งตามแบบบ้านตัวอย่างได้เลยนะคะ เก็บของได้เยอะดีและยังสวยด้วย
ประตูระเบียงเป็นบานเลื่อนอลูมิเนียมกระจกเขียวตัดแสง
พื้นระเบียงเป็นพื้นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม.สลับด้วยพื้นกรวดล้าง ตัวระเบียงเป็นระแนงเหล็กทาสีน้ำมัน พื้นระเบียงกว้างประมาณ 0.8 เมตร สามารถเดินออกมายืนรับลมชมวิวได้
พื้นระเบียงจะลดระดับจากพื้นห้องนอนประมาณ 5 ซม. แต่มีธรณีประตูสูงขึ้นมาอีก 10 ซม.
มุมมองไปทางซ้ายและขวาของระเบียง ตรงนี้สามารถใช้วางตัว Compressor แอร์ได้
มุมมองจากระเบียงห้องออกไปทางซุ้มทางเข้าโครงการเห็นบริเวณสวนหน้าบ้านตัวอย่าง ทำบรรยากาศได้สวยงามดีนะคะ
บริเวณชายคาบ้านจะยาวออกไปค่อนข้างเยอะช่วยสร้าง Shade ให้กับตัวบ้าน ทำให้ห้องนอนอยู่สบาย ที่ฝ้าจะติดดวงโคมดาวน์ไลท์มาให้ด้วย 1 ดวง
มุมมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง
ฝ้าเพดานภายในห้องนอนก็จะเป็นฝ้าฉาบเรียบและดวงโคมดาวน์ไลท์เช่นเดิม
เราจะไปดูในส่วนของ Walk – in closet กันต่อค่ะ
มุมมองเข้าไปภายใน Walk – in closet จะทำเป็นตู้เสื้อผ้าทั้งฝั่งซ้ายและขวา
ระยะห่างระหว่างตู้กว้างประมาณ 1.6 เมตร ถือว่ากว้างขวางเหลือเฟือแล้วค่ะ
ภายในโซน Walk – in closet จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำ 1 ประตูห้องน้ำก็จะเป็นแบบเดียวกับประตูห้องน้ำชั้นล่าง
พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงไปจากพื้นห้องนอนประมาณ 5 ซม.
มุมมองเข้าไปภายในห้องน้ำ ทั้งวัสดุและสุขภัณฑ์ก็จะใช้เหมือนกับห้องน้ำชั้นล่าง ตรงกลางจะเป็นอ่างล้างมือ ฝั่งซ้ายจะเป็นตำแหน่งวางโถสุขภัณฑ์ ส่วนของโซนแห้ง
ส่วนฝั่งขวาจะเป็นโซน Shower
ฝ้าเพดานภายในห้องพร้อมดวงโคมดาวน์ไลท์ 2 จุด
แต่อ่างล้างมือจะเป็นของ Kohler แบบฝังเคาน์เตอร์สำเร็จรูปทรงสี่เหลี่ยมมีพื้นที่สำหรับวางของกระจุกกระจิกได้เยอะ ส่วนก๊อกน้ำจะเป็นของ Englefield แบบเดียวกับห้องน้ำชั้นล่าง
บริเวณใต้เคาน์เตอร์จะสามารถพอเก็บของใช้ในห้องน้ำได้บ้าง
บริเวณโถสุขภัณฑ์มีพื้นที่เหลือเยอะเลยค่ะ ที่ฝั่งขวาจะหาชั้นวางของมาวางเพิ่มอีกก็ได้นะ บริเวณหลังโถสุขภัณฑ์ทำเป็นผนังก่อขึ้นมา สามารถวางของตกแต่งหรือวางหนังสืออ่านเล่นสำหรับคนที่ชอบนั่งในห้องน้ำนานๆก็ได้
ตำแหน่งของราวแขวนผ้าเช็ดตัวจะอยู่ที่ผนังข้างซ้ายของโถสุขภัณฑ์
มาดูในส่วนของโซน Shower กันต่อ จะติดฉากกั้นอาบน้ำกระจกให้แบบนี้ ประตูเป็นบานเปิดเข้า
มือจับประตูขนาดใหญ่ สามารถใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ด้วย
บริเวณพื้นที่อาบน้ำในโซน Shower มีขนาดค่อนข้างกว้างขวางประมาณ 0.9 x 1.5 เมตรเลย
ที่พื้นจะก่อธรณีสูงขึ้นมาประมาณ 5 ซม.กันน้ำไหลย้อน
ภายในโซน Shower จะมีชุดฝักบัวสายอ่อนแบบไม่มีราวปรับระดับและชั้นวางสบู่มาให้
หัวฝักบัวมีขนาดใหญ่ดีค่ะ อาบได้สะใจเลย ขนาดก็พอดีมือถือได้สะดวก ชุดฝักบัวอาบน้ำชุดนี้จะเป็นของ Englefield
ชั้นวางสบู่ของ Kohler ถ้าใครมีพวกอุปกรณ์ในการอาบน้ำเยอะก็ให้ซื้อชั้นวางสบู่แบบแขวนผนังหรือตั้งพื้นมาวางเพิ่มเติมนะ
ภายในโซน Shower จะมีหน้าต่างบานเลื่อนกระจกฝ้ามาให้เป็นทั้งช่องแสงและช่องระบายอากาศ
มุมมองจากโซน Walk – in closet ออกมาที่โซนที่นอน
มาดูที่ห้องฝั่งทางซ้ายของโถงบันไดกันต่อ ลำดับเป็นห้องน้ำ 2 และห้องนอน 3
ที่พื้นห้องน้ำ 2 จะลดระดับลงไปจากพื้นชั้น 2 ประมาณ 5 ซม.เช่นกัน
มุมมองเข้าไปภายในห้องน้ำ 2 ทั้งวัสดุและสุขภัณฑ์ก็จะเป็นแบบเดียวกันกับห้องน้ำที่ผ่านๆมา
อ่างล้างมือของ Kohler และก๊อกน้ำของ Englefield
โถสุขภัณฑ์พร้อมพร้อมสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษชำระของ Kohler
โซน Shower พร้อมฉากกั้นอาบน้ำและประตูกระจก
พื้นที่ในโซนอาบน้ำก็กว้างขวางพอๆกับห้องน้ำ 1 เลย
ชุดฝักบัวและชั้นวางสบู่แบบเดียวกัน
รวมถึงหน้าต่างระบายอากาศภายในโซน Shower
มุมมองเข้าไปภายในห้องนอน 3 เป็นห้องนอนที่มีขนาดเล็กที่สุด ภายในห้องจะสามารถวางเตียงนอนขนาด 3 ฟุตได้
พื้นที่ปลายเตียงจะอยู่ตรงกับประตูพอดีเหลือระยะประมาณ 1.05 เมตร ถ้าใครที่ไม่ชอบให้ปลายเตียงชนกับประตูจะสลับฝั่งวางเฟอร์นิเจอร์ก็ได้นะ
ที่ฝั่งซ้ายของห้องจะวางโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า แต่ถ้าสลับเตียงมาวางไว้ฟากนี้แทน พื้นที่วางของจะเหลือน้อยลงนะเพราะจะต้องเว้นที่ว่างสำหรับวงการเปิดประตู
จะเห็นว่าพื้นที่ตรงกลางยังเหลืออยู่พอสำหรับวางโต๊ะทำงานได้อีกตัว จะทำเป็นโต๊ะยาวจากผนังฝั่งซ้ายมาชนกับตู้เสื้อผ้าเลยก็ดีเหมือนกันนะ ดูเรียบๆคลีนๆไปเลย ซอกมุมระหว่างโต๊ะจะได้ไม่เยอะให้เป็นที่เก็บฝุ่น
ตู้เสื้อผ้าที่วางได้มีขนาดกลางๆค่ะ ถ้าใหญ่กว่านี้ก็จะไปบังหน้าต่างแล้ว
พื้นที่ระหว่างตู้เสื้อผ้าถึงเตียงนอนเหลืออยู่ 0.75 ซม. คงจะวางเตียงขนาดใหญ่กว่านี้ไม่ได้แล้วแหละ
มุมมองย้อนกลับไปที่ประตูทางเข้าห้อง
มาดูห้องฝั่งขวามือของโถงบันไดกันต่อ เป็นห้องนอน 2 ห้องสุดท้ายแล้วค่า
ภายในห้องนอน 2 ก็ถือว่ามีพื้นที่ที่ค่อนข้างกว้างขวางทีเดียวนะ ภายในห้องตัวอย่างได้จัดวางเตียงนอนขนาด 3 ฟุตเอาไว้
พื้นที่ข้างเตียงฝั่งซ้ายเหลือ 1.1 เมตร เป็นระยะที่สามารถนั่งทำงานได้สบายๆ เพราะจริงๆแค่ 0.9 เมตรก็เป็นระยะที่เพียงพอแล้ว
ถ้าจะวางกระจกไว้ข้างๆประตูคงจะไม่ดีเท่าไหร่นะ เดี๋ยวเปิดกระแทกแตกเอาได้
พื้นที่ฝั่งขวายังเหลืออีก 0.6 เมตร
ภายในห้องตัวอย่างได้จัดเตียงเอาไว้ขนาด 3 ฟุต ซึ่งจะวางเป็นเตียงขนาด 3 ฟุตครึ่ง – 4 ฟุตก็ยังได้
มุมมองไปที่ผนังฝั่งปลายเตียง แนะนำให้ทำเป็นตู้เสื้อผ้าแบบปิดจะดีกว่านะ ตามที่บ้านตัวอย่างจัดมาไว้ก็ทำได้สวยโปร่งดี แต่ถ้าใช้งานจริงๆอาจจะไม่ได้เพราะฝุ่นคงจะเกาะเต็มไปหมด แบบนี้เหมาะสำหรับแขวนกระเป๋าและ Accessories มากกว่า
ระยะระหว่างปลายเตียงถึงตู้เสื้อผ้าเหลืออยู่ 30 ซม. อาจจะดูแคบไปนิดนึงแต่ก็ยังพอเดินผ่านได้อยู่นะ
อีกฝั่งของห้องนอนจะมีประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมกระจกเขียวตัดแสง เปิดออกไปสู่ระเบียงภายนอกได้
พื้นที่ระเบียงของห้องนอน 2 จะค่อนข้างกว้างทีเดียว ประมาณ 1.5 เมตรได้
มุมมองไปที่ฝั่งซ้ายและฝั่งขวา ที่ระเบียงบางส่วนจะทำเป็นผนังทึบเอาเพราะจะติดกับบ้านข้างๆ แลดูเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ดวงโคมดาวน์ไลท์สำหรับพื้นที่ระเบียงห้องนอน 2
มุมมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง
:: แบบบ้าน Primo ::
บ้านอีกแบบที่เราจะเข้าไปชมกันก็คือแบบบ้าน Primo ขนาด 167 ตรม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ หน้าตาบ้านก็ไม่ต่างจากแบบบ้าน Paradiz เท่าไหร่นัก
ภายในโรงจอดรถจะสามารถจอดรถได้ 2 คัน พื้นเป็นคอนกรีตขัดเรียบ ส่วนฝ้าเพดานเป็นฝ้าแผ่นเรียบไฟเบอร์ซีเมนต์ ดวงโคมดาวน์ไลท์
ที่ลานจอดรถจะมีประตูทางเข้าบ้านอีกบาน เป็นบาน UPVC มือจับประตูเป็นลูกบิดสแตนเลสแบบมาตรฐาน ตรงนี้จะมีข้อดีที่สามารถยกของจากรถเข้าบ้านได้เลยโดยไม่ต้องผ่านห้องนั่งเล่น ถ้าเป็นของสดก็สามารถยกเข้าสู่ห้องครัวได้ง่ายๆ รวมถึงเวลาฝนตกก็ไม่ต้องเดินย้อนไปเข้าทางประตูหน้าบ้านให้เปียกฝนเล่นด้วย
ที่พื้นทำเป็นขั้นบันไดยกสเต็ปเข้าสู่ตัวบ้านผิวกรวดล้าง
มาดูในส่วนของเฉลียงทางเข้าบ้านกันต่อ บริเวณเฉลียงทางเข้าบ้านจะติดไฟกิ่งให้ทั้ง 2 ข้าง พื้นเฉลียงทางเข้าบ้านจะทำยกระดับขึ้นมาจากระดับพื้นดินประมาณ 30 ซม. ใช้วัสดุเดียวกับบ้านหลังที่แล้ว
ส่วนประตูจะเปลี่ยนเป็นประตูเลื่อนแบบ 4 ตอน
มือจับบานประตูทั้งภายในและภายนอก
เมื่อเข้ามาในตัวบ้านแล้วจะเจอห้องนั่งเล่นก่อน ถัดเข้าไปคือห้องรับประทานอาหาร ที่เพิ่มขึ้นมาจากบ้านหลังที่แล้วจะเป็นแพนทรี่ที่ฝั่งขวาบริเวณหน้าห้องครัว พื้นบ้านจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. จะปูยาวเข้าไปถึงในห้องครัว ผนังจะเป็นผนังติดวอลเปเปอร์เก็บขอบด้วยบัวผนังเรียบร้อย
ที่ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบทั้งหลังพร้อมดวงโคมดาวน์ไลท์
มุมมองไปทางชุดโซฟารับแขก
ทางโครงการจัดวางชุดโซฟาและ Arm Chair ขนาด 3 ที่นั่งเอาไว้ให้ และยังสามารถวางโซฟาขนาดใหญ่รูปตัว L ได้เลยเพราะพื้นที่ใช้สอยในบ้านนี้ถือว่ากว้างขวางมาก ข้างๆโซฟายังสามารถวางโต๊ะตัวเล็กๆ และเก้าอี้นั่งล้อมวงได้อีกหลายตัว
ฝั่งชั้นวางทีวีจะตกแต่งตามแบบบ้านตัวอย่างเลยก็ได้นะคะเรียบง่ายสะอาดตาดี แต่ยังสามารถจัดแต่งเล่นลูกเล่นได้อีกเยอะ
จากโซฟาไปถึงชั้นวางทีวีเหลือพื้นที่กว้าง 2.3 เมตร ดูทีวีขนาดจอประมาณ 55 – 60 นิ้วกำลังดีเลยค่ะ
มุมมองจากห้องนั่งเล่นไปที่ห้องรับประทานอาหาร, แพนทรี่ และห้องครัว
ถัดจากห้องนั่งเล่นไปก็จะเป็นห้องรับประทานอาหารค่ะ
ทางบ้านตัวอย่างได้จัดโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 6 ที่นั่งแบบโต๊ะกลมเอาไว้ หรือจะเปลี่ยนเป็นแบบโต๊ะสี่เหลี่ยมผืนผ้าเหมือนหลังที่ผ่านมาก็ได้เช่นกัน
ที่ห้องรับประทานอาหารจะมีหน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่เป็นช่องแสงให้อยู่ 1 บาน ข้างๆกันจะมีประตูบานเลื่อนสามารถใช้ออกไปที่สวนข้างบ้านได้เหมือนบ้านหลังที่แล้ว
เดี๋ยวเราจะไปดูในส่วนของแพนทรี่และห้องครัวกันต่อ ในส่วนของแพนทรี่ตรงนี้ทางโครงการจะไม่ได้ทำเคานเตอร์มาให้นะคะ อันนี้ให้ดูเป็นไอเดียในการตกแต่งบ้านกับขนาดที่ลงตัว บริเวณแพนทรี่ส่วนนอกจะสามารถใช้เป็นที่นั่งทานอาหารเช้าหรืออาหารจานด่วนแบบง่ายๆได้ประมาณ 3 ที่นั่ง
ส่วนภายในจะเป็นส่วนเตรียมอาหารเบาๆและเครื่องดื่ม ถ้าพื้นที่เตรียมอาหารในครัวไม่พอก็ออกมาใช้ในส่วนของแพนทรี่ด้วยก็ได้
ระยะจากผนังถึงเคาน์เตอร์เหลือประมาณ 1.2 เมตร ถือว่าพอดีเลยค่ะ
มุมข้างในจะวางเป็นเครื่องทำกาแฟหรือเครื่องปิ้งขนมปังก็เหมาะนะ
ข้างหลังแพนทรี่จะเป็นส่วนของห้องครัว
มุมมองเข้าไปภายในห้องครัว ห้องครัวของบ้านนี้มีพื้นที่ที่กว้างขวางมาก สามารถทำเคาน์เตอร์เป็นรูปตัว U แล้วยังเหลือพื้นที่ตรงกลางกว้าง 1.7 เมตร สามารถเข้ามาช่วยกันทำครัวได้ทีละหลายคนเลย
ที่ฝั่งซ้ายและขวาบริเวณประตูทางเข้าทำเป็นตู้เก็บของขนาดใหญ่ จะซ่อนพวกตู้เย็นหรือเตาอบเอาไว้ภายในก็ได้ หรือจะเอาไว้เก็บของแห้งอย่างข้าวสาร, เส้นสปาเก็ตตี้ หรือพวกขวดเครื่องปรุงก็เหมาะ
ที่ฝั่งขวาจะจัดวางเป็นเตาปรุงอาหาร
ส่วนที่ฝั่งซ้ายจะเป็นพืนที่เตรียมอาหาร ล้างผัก และล้างจาน
มุมมองภายในห้องครัวอีก 1 มุม
จากห้องครัวจะสามารถเดินออกไปยังลานซักล้างได้ ประตูลานซักล้างจะเป็นประตูบานสำเร็จมือจับแบบก้านโยกสแตนเลสเหมือนกับแบบบ้านหลังที่แล้ว
ที่ลานซักล้างจะทำเป็นพื้นซีเมนต์ปาดเรียบกว้าง 2 เมตร
ที่ลานซักล้างจะมีปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบกันน้ำสำหรับเครื่องซักผ้าและไฟกิ่งติดไว้ให้เหนือประตูทางออกเหมือนเดิม
มุมมองจากแพนทรี่นย้อนกลับไปที่ห้องนั่งเล่น
ออกจากห้องครัวมาแล้ว มาดูที่โถงบันไดกันต่อ
ตอนนี้เรามาต่อที่บริเวณโถงหน้าห้องน้ำค่ะ
ซึ่งพื้นจะลดสเต็ปลงไปอยู่ 30 ซม.
พื้นที่ใต้บันไดข้างห้องน้ำจะเป็นห้องเก็บของ ประตูและมือจับเหมือนกับแบบบ้านหลังที่แล้ว
พื้นห้องเก็บของจะใช้เป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม.เช่นกัน ขนาดภายในห้องเก็บของก็ไม่แตกต่างกันเลย
ถัดจากห้องเก็บของมาที่ห้องน้ำ 3 ประตูห้องน้ำจะเป็นประตูบานสำเร็จ UPVC ติดเกล็ดระบายอากาศเหมือนกับแบบบ้านหลังที่แล้ว
มุมมองเข้าไปภายในห้องน้ำ ทั้งวัสดุและสุขภัณฑ์ก็จะใช้แบบเดียวกันกับบ้านหลังที่แล้วทุกประการ
ส่วนวัสดุของบันไดก็จะเป็นแบบเดียวกับบ้านหลังที่แล้วอีกเช่นกัน
ที่ข้างโถงฝั่งลานจอดรถจะมีหน้าต่างบาน Fix มาเป็นช่องแสงให้อีก 1 บาน
มุมมองขึ้นไปยังโถงชานพักบันได
ในส่วนของบันไดช่วงสุดท้ายจะทำเป็นบันไดโปร่งอีกเช่นกัน
มุมมองจากชานพักบันไดตอนบนขึ้นไปยังโถงบันไดชั้น 2 ฝั่งซ้ายจะเป็นห้องนอน Master bedroom, ตรงกลางเป็นห้องนอน 2 และฝั่งขวาจะเป็นจะเป็นประตูห้องนอน 3 และห้องน้ำ 2 พื้นชั้น 2 ปูด้วยไม้ลามิเนต ผนังเป็นผนังเรียบติดวอลเปเปอร์ให้
มุมมองย้อนกลับไปที่โถงบันได
มาเริ่มต้นที่ห้องนอน Master bedroom ประตูห้องนอนทุกห้องจะใช้แบบเดียวกันกับบ้านหลังที่แล้ว
มุมมองเข้าไปภายในห้องนอน Master bedroom ที่โซนฝั่งขวาจะเป็นโซนที่นอนซึ่งจะสามารถวางที่นอนขนาด 6 ฟุตได้
พื้นที่ฝั่งซ้ายของเตียงจะเป็นประตูทางออกไปยังระเบียงด้วย กว้างถึง 3 เมตรเลยนะ จะเอาเก้าอี้นั่งพักผ่อนมาวางไว้ตรงกลางก็ยังโล่งเลย
ภายในห้องตัวอย่างได้จัดวางเตียงขนาด 6 ฟุตเอาไว้ ยังเหลือพื้นที่ข้างๆเตียงอีกเยอะ
พื้นที่ฝั่งซ้ายส่วนที่เป็นผนังทึบจะเหลือประมาณ 1 เมตร วางโต๊ะข้างหัวเตียงได้อีก 1 ตัว ส่วนฝั่งขวาจะเหลือ 0.65 เมตร ก็ไม่แคบแล้ว
ส่วนระยะปลายเตียงจะเหลืออยู่ที่ 0.75 ซม. ก็เดินผ่านได้สบายๆชิวๆเลย
มุมมองไปที่ฝั่งชั้นวางทีวี สามารถทำชั้นเก็บของหรือวางของตกแต่งได้อีกเยอะ
มุมมองย้อนกลับไปที่โซน Walk – in closet
ข้างหัวเตียงฝั่งซ้ายจะเป็นประตูบานเลื่อน 2 ตอนสามารถเปิดออกไปยังระเบียงได้
พื้นที่ระเบียงตรงนี้จะกว้างประมาณ 0.95 เมตร หาเก้าอี้แบบตัวเล็กๆมานั่งเล่นข้างนอกก็ได้นะ
มุมมองไปที่ฝั่งซ้ายและฝั่งขวา ระเบียงจะทำยาวตลอดหน้าห้องนอนเลย
มุมมองไปยังสวนหน้าบ้านตัวอย่าง บ้านฝั่งตรงข้ามคือแบบบ้าน Privato ค่ะ
ดวงโคมดาวน์ไลท์สำหรับระเบียงห้อง
กลับเข้ามาภายในห้องไปดู Walk – in closet กันต่อ
ภายในห้องจะสามารถจัดทำตู้เสื้อผ้าแบบ Built – in วางไว้ฝั่งขวามือได้ ส่วนผนังด้านในจะวางเป็นโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้ค่ะ ถ้าอยากได้กระจกบานใหญ่ๆติดผนังก็จะต้องเสียหน้าต่างไป แต่ถ้าใครไม่ซีเรียสจะวางเป็นกระจกแบบตั้งโต๊ะบานใหญ่ๆแบบมี 2 ด้านแล้วใช้แสงธรรมชาติในการแต่งหน้าก็ทำให้เห็นรายละเอียดที่ชัดเจนดี
ระยะระหว่างผนัง – ตู้เสื้อผ้าจะเหลืออยู่ 1.15 เมตร กำลังพอดีเลยค่ะ
ภายใน Walk – in closet จะเชื่อมกับห้องน้ำ 1 ซึ่งเป็นห้องน้ำส่วนตัวของห้องนอน Master bedroom
มุมมองเข้าไปภายในห้องน้ำ ทั้งสุขภัณฑ์และวัสดุก็จะใช้เหมือนกับแบบบ้านหลังที่แล้ว เข้าห้องน้ำมาตรงกลางจะเป็นอ่างล้างมือ
ฝั่งซ้ายจะเป็นพื้นที่โถสุขภัณฑ์
ฝั่งขวาจะเป็นโซน Shower ภายในมีรายละเอียดเหมือนกันทุกประการ
ยกเว้นขนาดของชั้นวางสบู่ที่ใหญ่ขึ้น
และได้ก๊อกสนามเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ตัว
มุมมองจาก Walk – in closet ออกมาที่โซนที่นอน
มาดูที่ห้องนอน 2 กันต่อ
มุมมองเข้าไปภายในห้องนอน 2 พื้นที่ภายในห้องนอน 2 นี่ก็พูดได้ว่ามีขนาดใหญ่ไม่แพ้ห้องนอน Master bedroom ของโครงการอื่นๆเลย
ทางห้องตัวอย่างได้จัดวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตเอาไว้ ซึ่งจะเห็นได้ว่ายังเหลือพื้นที่ข้างเตียงนอนอีกเยอะ จะวางเป็นเตียงขนาด 6 ฟุตก็ไม่ทำให้ห้องอึดอัด
ฝั่งซ้ายของเตียงจะเหลือพื้นที่กว้างถึง 1.9 เมตร จะวางเป็นโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งตัวใหญ่ๆได้เลย แต่ไม่แนะนำให้วางโต๊ะข้างเตียงบริเวณกลางห้องนะคะ ถ้าตื่นมางัวเงียได้มีเดินเตะแน่นอน
พื้นที่ปลายเตียงเหลืออยู่ 0.6 เมตร
พื้นที่ฝั่งขวาของเตียงเหลือ 0.5 เมตร สามารถทำเตียงได้สบายๆ
ส่วนผนังฝั่งปลายเตียงจะถูกจัดให้เป็นตู้เสื้อผ้า ซึ่งก็ยังขอแนะนำว่าให้ทำเป็นตู้เสื้อผ้าแบบปิดจะเหมาะสมกว่า
มุมมองย้อนกลับไปยังประตูทางเข้าห้อง
มาดูในส่วนของห้องฝั่งขวามือของโถงบันไดกันบ้าง เริ่มจากห้องน้ำ 2 ตามด้วย ห้องนอน 3
มุมมองเข้าไปภายในห้องน้ำ 2 ทั้งวัสดุและสุขภัณฑ์ก็จะใช้แบบเดียวกันกับบ้านหลังที่แล้วทุกประการ
ยกเว้นอ่างล้างมือจะเป็นอ่างฝังเคาน์เตอร์ทรงสี่เหลี่ยม
ภายในเคาน์เตอร์สามารถเก็บของใช้ภายในห้องน้ำได้นิดหน่อย
มาดูห้องนอน 3 เป็นห้องสุดท้ายของวันนี้กันแล้ว
ภายในห้องนอน 3 ทางโครงการได้จัดวางเตียงขนาด 3 ฟุตครึ่งเอาไว้
พื้นที่ปลายเตียงจะเหลืออยู่ที่ 0.8 เมตร จะวางชั้นวางของชั้นเล็กๆอีกสัก 1 ชั้นก็ได้
ส่วนพื้นที่ข้างเตียงจะเหลือประมาณ 1 เมตรเมื่อวางตู้เสื้อผ้าแล้ว สามารถยืนแต่งตัวได้สบายๆ
ที่ผนังฝั่งนี้จะสามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดกลางและโต๊ะเครื่องแป้งได้อีก 1 ตัว
มุมมองย้อนกลับไปที่ประตูทางเข้าห้อง
นอกจากนี้บ้านทั้ง 2 หลังก็จะใช้สวิตช์,ปลั๊กไฟ และแผงควบคุมไฟฟ้าพร้อมเซอร์กิตเบรคเกอร์ของ Bticino
:::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (มกราคม 2560) ::::
วัสดุโดยรวม
ห้องน้ำ และสุขาภิบาล
งานไฟฟ้า
***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ
:::: ราคา (มกราคม 2561) ::::
โปรโมชั่น ! ราคาพิเศษ เริ่ม 3.99 ล้านบาท
ส่วนลดเงินสด 50,000 บาท
ฟรี ! แอร์ทั้งหลัง
ฟรี ! วอลเปเปอร์ทั้งหลัง
ฟรี ! ปั๊มน้ำ – ถังสำรองน้ำ
ฟรี ! ตกแต่งสวนมาตรฐา
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ ภัสสร เพรสทีจ จตุโชติ – วัชรพล ตั้งอยู่ในย่านที่พักอาศัยไกลออกมาจากตัวเมืองกรุงเทพฯฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือในซอยจตุโชติ 6 ใกล้ถนนจตุโชติในระยะ 550 เมตร เป็นที่ถนนที่ค่อนข้างเงียบสงบ มีตึกแถวและร้านค้าอยู่เป็นช่วงๆ มีโครงการบ้านจัดสรรบ้างแต่ยังไม่ค่อยหนาแน่นมาก ส่วนมากก็ยังเป็นที่ดินเปล่า ยังไม่เจริญและคึกคักเมื่อเทียบกับถนนสายหลักเส้นอื่นๆ
ถึงจะมีความอุดมสมบูรณ์ไม่สู้บริเวณบนถนนพหลโยธิน, ถนนลำลูกกา และถนนรามอินทรา แต่เนื่องจากถนนสายนี้เป็นแหล่งของที่พักอาศัย จึงสามารถหาซื้อของใช้และอาหารการกินได้ไม่ยากเพราะจะมีร้านอาหารร้านเล็กๆตั้งอยู่ทั่วๆไป ส่วนร้านสะดวกซื้อก็จะมีเซเว่นอยู่ที่หน้าปากซอยจตุโชติ 10 ในระยะเดินจากหน้าปากซอยจตุโชติ 6 เพียง 300 เมตร
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวถือว่าค่อนข้างสะดวกเพราะถนนจตุโชติเป็นถนนที่วิ่งไปเชื่อมกับถนนสุขาภิบาล 5 ซึ่งสามารถวิ่งไปเชื่อมกับถนนเพิ่มสินเพื่อออกเส้นพหลโยธิน เป็นถนนสายหลักที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่วิ่งไปตัดถนนใหญ่อีกหลายเส้นทั้ง รามอินทรา – แจ้งวัฒนะ, งามวงศ์วาน – เกษตรนวมินทร์, รัชดาภิเษก, ลาดพร้าว และตัดยาวลงไปสุดที่อนุสาวรีย์ จากถนนสุขาภิบาล 5 จะสามารถวิ่งไปเชื่อมกับถนนสายไหมและถนนจันทรุเบกษาวิ่งออกเส้นวิภาวดี – รังสิตเข้าสู่ตัวเมืองและวิ่งไปทางรังสิตยาวไปถึงบางปะอินได้
บนเส้นวิภาวดี – รังสิตเองก็จะมีดอนเมืองโทลล์เวย์เป็น 1 ตัวช่วยหนีการจราจรที่ติดขัด และจากถนนสุขาภิบาล 5 ยังสามารถวิ่งจากถนนสุขาภิบาล 5 ไปเข้าเส้นรามอินทราวิ่งออกเส้นเลียบทางด่วนรามอินทรา หรือจะวิ่งไปทาง ปากเกร็ด – มีนบุรีก็ได้เช่นกัน ตรงเส้นสุขาภิบาล 5 เองก็จะมีจุดขึ้น – ลงทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์เป็นตัวช่วยในการเดินทางทั้งขาเข้าและขาออกตัวเมืองให้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ไม่ไกลกันนั้นยังมีถนนลำลูกกาซึ่งมีจุดขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษกโดยวิ่งจากถนนสุขาภิบาล 5 ไปเข้าถนนสายไหมที่วิ่งขนานกับถนนลำลูกกาโดยมีคลอง 6 วากั้นอยู่ ซอยที่มีสะพานข้ามคลองที่สามารถวิ่งเชื่อมจากถนนสายไหมไปถนนลำลูกกาได้ก็จะมีซอยเฉลิมพงษ์ โดยถนนลำลูกกาเองก็จะเป็นถนนที่มีความอุดมสมบูรณ์เพราะสามารถใช้วิ่งไปขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษกได้นั่นเอง
การเดินทางโดยรถสาธารณะ โครงการนี้จะเหมาะสมกับผู้ที่มีรถยนต์ส่วนตัวมากกว่าเพราะบนถนนจตุโชติจะไม่มีรถสาธารณะวิ่งผ่านเลย จะต้องเพิ่งรถแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซค์ไปต่อรถที่ถนนเส้นอื่นๆ แต่ในปี 2665 รถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงเคหะสมุทรปราการ – บางปู ก็คาดว่าจะสร้างเสร็จได้เปิดใช้งานพอดีโดยสถานีที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็น สถานีสะพานใหม่ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวโครงการออกไปเป็นระยะ 8.1 กม. ถึงจะไม่อยู่ใกล้พอที่จะสามารถเดินไปได้สะดวกแต่ก็สามารถเรียกพี่วินนั่งไปได้ในเวลาไม่เกิน 15 นาทีเท่านั้น
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็นบ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์นผสมผสานศิลปะแบบ Art Nouveau สูง 2 ชั้น มีจำนวนทั้งหมด 165 ยูนิตบนพื้นที่ 36 ไร่เศษถือว่าไม่แออัด บ้านถูกออกแบบมาให้มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางและเป็นพื้นที่ๆมีประสิทธิภาพในการใช้งาน ขนาดบ้านพื้นที่ใช้สอยน้อยที่สุดก็ยังสามารถทำออกมาได้ดูกว้างขวางและโปร่งโล่ง ภายในบ้านมีหน้าต่างบานใหญ่อยู่โดยรอบทำให้ตัวบ้านสว่างด้วยแสงจากธรรมชาติ อากาศภายในบ้านสามารถถ่ายเทได้ดี ทำให้ตัวบ้านเย็นสบายและไม่อับ ส่วนวัสดุและสุขภัณฑ์ที่ใช้ภายในบ้านถือว่าได้มาตรฐานค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ภายในโครงการจะมีคลับเฮ้าส์, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ และสวนพักผ่อนรวมกันเป็นพื้นที่ขนาด 2 ไร่กว่าๆ ถือว่าให้มาค่อนข้างครบถ้วนแต่ในปัจจุบันส่วนกลางของโครงการยังไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเลย จึงยังไม่เห็นภาพว่าจะมีหน้าตาออกมาสวยงามและมีประสิทธิภาพในการใช้งานหรือไม่ ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยก็ได้มาตรฐาน มีรปภ.ตลอด 24 ชม., ระบบ Access Key Card และกล้องวงจรปิด
:::: คะแนน ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 7.2 | อยู่ในซอยจตุโชติ 6 ห่างจากถนนจตุโชติ 550 เมตร มีความเงียบสงบ ยังไม่ค่อยเจริญเท่าที่ควร แต่สาธารณูปโภคก็พอมีรองรับพื้นที่อยู่อาศัย |
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว | 7.9 | เดินทางได้สะดวกสบายเพราะสามารถวิ่งเชื่อมสู่ถนนสายหลักได้หลายเส้น งยังอยู่ใกล้ดอนเมืองโทลล์เวย์, ทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ และวงแหวนรอบนอกกาญจนาภิเษก เสียอย่างเดียวที่รถค่อนข้างจะติด |
การเดินทางโดยรถสาธารณะ | 6.8 | ไม่มีรถสาธารณะวิ่งผ่านแต่อยู่ในระยะการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ในปี 2563 และ ปี 2565) |
บ้านและวัสดุ | 7.9 | บ้านสไตล์โมเดิร์น ออกแบบและจัดการกับพื้นที่ใช้สอยได้มีประสิทธิภาพ วัสดุและสุขภัณฑ์ที่ให้มาได้มาตรฐาน |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 7.5 | สิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการให้มาอย่างครบครัน ขนาดรวมกันถือว่าพอสมควรเลย แต่ในปัจจุบันยังไม่เห็นหน้าตาว่าจะออกมาเป็นอย่างไร |
ความคุ้มค่ากับราคา | 7.5 | โครงการเหมาะสำหรับครอบครัวขนาด 3 – 4 คน เดิมอาศัย หรือทำงานอยู่ใกล้เคียงกับบริเวณโครงการ |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.46 | ดี |
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
CALL CENTER : 1739
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
แสดงความคิดเห็น