EP.828 รีวิว คอนโด พอส สุขุมวิท 115 Pause Sukhumvit 115
สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน วันนี้ Homenayoo ขอพาไปชมโครงการคอนโด Pause สุขุมวิท 115 จาก ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้
คอนโดย่านสำโรงเหนือในซอยสุขุมวิท 115 หรือซอยอภิชาติ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีปู่เจ้าสมิงพรายเพียง 270 เมตร ใกล้ถนนกาญจนาภิเษกวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯฝั่งใต้และทางด่วนบูรพาวิถี
พอส สุขุมวิท 115 เป็นคอนโด Low-Rise 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร บนพื้นที่ 1-1-83 ไร่ ห้องพักอาศัยทั้งหมด 310 ยูนิต ทุกยูนิตเป็นแบบ 1 ห้องนอนทั้งหมด มีพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 20.94 ตร.ม. เป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่
สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ ได้แก่ Lobby & Library และสวนหย่อมรอบโครงการที่ชั้นล่าง ที่จอดรถ 93 คัน คิดเป็น 30% รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 35% ลิฟท์โดยสารอาคารละ 2 ตัว มีระบบรักษาความปลอดภัยด้วย CCTV, Key Card และรปภ. และที่ชั้นบนสุดของแต่ละอาคารคือ สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 4 x 15 เมตร ลึก 1.5 เมตร, ห้องออกกำลังกายขนาด 35 ตร.ม. และสวนที่แบ่งเป็น BBQ Zone และ Roof Top Garden ราคาเริ่มต้นที่ 1.47 ล้านบาท
คอนโด PAUSE ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
Pause สุขุมวิท 103
Pause สุขุมวิท 107
Pause ID สุขุมวิท 107
Pause สุขุมวิท 115
| ชื่อโครงการ | พอส สุขุมวิท 115 / Pause Sukhumvit 115 |
| เจ้าของโครงการ | ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ Origin Property |
| ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
| เนื้อที่ทั้งหมด | 1-1-83 ไร่ |
| จำนวนตึก | 2 อาคาร |
| จำนวนชั้น | 8 ชั้น |
| จำนวนห้อง | 310 ยูนิต |
| ที่จอดรถทั้งหมด | ที่จอดรถ 93 คัน คิดเป็น 30% ไม่รวมจอดซ้อนคัน |
| โซน | สุขุมวิท – สมุทรปราการ |
| ขนส่งสาธารณะ |
|
| รถโดยสารที่ผ่าน |
|
| ที่ตั้ง | ถ.สุขุมวิท 115 ติดซอยอภิชาติ 3 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองจ.สมุทรปราการ |
| กำหนดการ | พร้อมเข้าอยู่ |
| ปีที่สร้างเสร็จ | พ.ศ. 2559 |
| ราคา | เริ่มต้น 1.47 ล้านบาท (พ.ค. 2560) |
| ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | ประมาณ 69,500 บาท/ ตร.ม. |
| ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
| สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
| สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
| จุดเด่นของโครงการ | พอส คอนโด สุขุมวิท 115 : คอนโดใกล้รถไฟฟ้า BTS ปู่เจ้าสมิงพราย เพียง 270 เมตร |
คอนโด BTS ปู่เจ้า
:::ที่ตั้งโครงการ:::
ถ.สุขุมวิท 115 ติดซอยอภิชาติ 3 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
พิกัด : 13.636520, 100.594567
จากแผนที่ของทางโครงการ จะเห็นได้ว่าทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่ในย่านสำโรงเหนือบนถนนสุขุมวิท 115 (ซอยอภิชาติ) เป็นทำเลที่อยู่อาศัยที่ได้ทั้งความสงบและการเดินทางที่สะดวกสบาย ที่ตั้งโครงการสามารถเดินเท้าออกมายังถนนสุขุมวิทได้ภายใน 4 นาที ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายสถานีปู่เจ้าสมิงพรายเพียง 300 เมตร และ Big C Jumbo สำโรงเพียง 350 เมตร ใกล้ตลาดปู่เจ้าและตลาดสำโรงที่เป็นที่ตั้งของแหล่งความเจริญย่านสำโรง ได้แก่ Imperial World สำโรงที่ล้อมรอบด้วยตลาดธรรมโรจน์พินิจ, ตลาดเอี่ยมเจริญ และสถานีรถไฟฟ้าสำโรง
ถัดไปที่เส้นบางนา-ตราดจากโครงการประมาณ 5 กม. ก็อุดมไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นน้ำ เช่น Central Bangna, Mega Bangna และ Bangkok Mall (โครงการในอนาคต) รวมถึงศูนย์จัดแสดงสินค้า BITEC บางนาบริเวณสี่แยกบางนาด้วย
ด้านการเดินทางถนนสุขุมวิท 115 ก็ยังสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนเส้นสำคัญอื่นๆย่านบางนา-สมุทรปราการได้ ทั้งจากเส้นสุขุมวิทที่เชื่อมกับบางนา-ตราด หรือทางเทพารักษ์ที่เชื่อมกับศรีนครินทร์ อีกทั้งยังมีจุดขึ้นทางด่วนในระยะ 2-5 กม. ได้แก่ ทางด่วนบางพลี-สุขสวัสดิ์ (วงแหวนกาญจนาภิเษกฝังใต้) ที่เชื่อมต่อระหว่างพระราม 2 กับบางนา-ชลบุรี และทางด่วนเฉลิมมหานครที่แยกบางนาที่มุ่งหน้าไปยังกรุ่งเทพชั้นในฝั่งพระรราม 3-สาทร เช่นเดียวกับถนนรางรถไฟเก่า หรือจะออกต่างจังหวัดด้วยทางด่วนบูรพาวิถีมุ่งหน้าไปทางภาคตะวันออกก็ใช้เวลาไม่นาน
นับว่าเป็นทำเลที่เหมาะกับวัยทำงานหรือผู้ที่เดินทางโดยรถไฟฟ้าเป็นประจำ แต่ต้องการความสงบเงียบไม่วุ่นวาย และหากเป็นคนใช้รถส่วนตัวก็สะดวกต่อการออกต่างจังหวัดไปทานอาหารทะเลทั้งทางภาคตะวันออกและฝั่งสมุทรปาการที่ใช้เวลาเดินทางไม่นาน หรือจะขับเข้าเมืองไปทำงานย่านสาทรก็สามารถทำได้ อีกทั้งยังมีสภาพแวดล้อมที่เรียบง่ายและอุดมไปด้วยแหล่งกินเที่ยวหลักย่านบางนา-สำโรง
:::การเดินทางโดยรถยนต์:::
โครงการ Pause สุขุมวิท 115 ตั้งอยู่ในซอยอภิชาติหรือสุขุมวิท 115 เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างถนนสุขุมวิทและถนนเทพารักษ์ สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนเส้นอื่นๆที่สำคัญในย่านบางนาสมุทรปราการ ดังนี้
– ถนนสุขุมวิท เป็นถนนเส้นหลักของโครงการที่เชื่อมเข้าสู่ซอยสุขุมวิท 115 ที่ตั้งของโครงการ ถนนสุขุมวิทเป็นทางหลวงขนาด 6-8 เลน เชื่อมต่อตัวเมืองกรุงเทพจากย่านนานาไปยังภาคตะวันออกผ่านทางสมุทรปาการ
– ถนนปู่เจ้าสมิงพราย เป็นทางหลวงสายสำโรง-สะพานภูมิพล เชื่อมต่อย่านสำโรงจากถนนสุขุมวิทข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปยังฝั่งพระประแดงทางสะพานภูมิพล เป็นถนนขนาด 6 เลน
– ถนนรางรถไฟเก่า เป็นถนนขนาดเล็กมีเส้นทางการจราจร 2 เลน โดยจะเปิดให้วิ่งสวนกันหรือวิ่งทางเดียวเป็นช่วงๆตามสภาพการจราจร โดยมีเส้นทางเชื่อมต่อสมุทรปราการ-พระราม 4 ลอดใต้ทางด่วนเฉลิมมหานคร แล้วตัดกับกล้วยน้ำไทย เป็นเส้นทางลัดเข้าสู่สาทรอีกเส้นทางหนึ่ง แต่ควรศึกษาเส้นทางก่อนใช้งาน
– ถนนเทพารักษ์ เป็นถนนในเขตสมุทรปราการเชื่อมต่อเส้นสุขุมวิทไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ผ่านศรีนครินทร์ที่แยกศรีเทพามุ่งหน้าไปยังบางบ่อ เป็นถนนที่สามารถออกจากสุขุมวิท 115 ได้ทางซอยอภิชาติ 9 ไปออกทางเทพารักษ์ 8
– ถนนศรีนครินทร์ เป็นถนนเส้นใหญ่อีกเส้นที่สำคัญในย่านบางนา-สมุทรปราการ มีช่องทางการจราจร 4-8 เลน เชื่อมสมุทรปราการ-บางกระปิ ผ่านถนนที่สำคัญฝั่งกรุงเทพฯตะวันออกอีกหลายสาย เช่น บางนา-ตราด, อ่อนนุช-ลาดกระบัง, พระราม 9 และรามคำแหง
– ถนนบางนา-ตราด เป็นถนนเส้นใหญ่กว้าง 8-14 เลน เป็นถนนที่มีความเร็วค่อนข้างสูงเนื่องจากเป็นเส้นหลักที่ใช้ในการออกนอกเมืองไปทางฝังตะวันออก เป็นเส้นคู่ขนานกับทางด่วนบูรพาวิถี มีห้างสรรพสินค้าและโกดังสินค้าขนาดใหญ่หลายแห่ง สามารถตัดเข้าไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้
– ทางด่วนเฉลิมมหานคร เป็นทางด่วนที่เริ่มจากบริเวณแยกบางนามุ่งหน้าไปยังสาทรที่เส้นพระราม 3 มีการใช้งานคล้ายๆกับเส้นรางรถไฟสายเก่า แต่วิ่งสบายกว่า
– ทางด่วนบูรพาวิถี เป็นทางด่วนมุ่งหน้าไปยังภาคตะวันออกตามชื่อ วิ่งคู่ขนานไปกับถนนบางนา-ตราด ผ่านสมุทรปราการทางบางพลีแล้วสิ้นสุดเส้นทางที่ด่านชลบุรี จ.ชลบุรี
– ทางด่วนบางพลี-สุขสวัสดิ์ มีชื่อปัจจุบันว่าทางด่วนกาญจนาภิเษกวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฝั่งใต้ เชื่อมต่อระหว่างสุขสวัสดิ์ไปทางประราม 2 กับบางพลีที่วนขึ้นไปตัดกับเส้นบางนา-ตราดที่แยกต่างระดับวัดสลุด ที่เขตประเวศ-สะพานสูง
แยกและถนนที่สำคัญ
การเข้าสู่โครงการเส้นทางที่ 1 ทางสุขุมวิท 115 ระยะทางประมาณ 290 เมตรจากถนนสุขุมวิทใช้เวลาประมาณ 1 นาที เป็นเส้นทางที่ใกล้และสะดวกที่สุด
เส้นทางที่ 2 ทางสุขุมวิท 117 มีระยะทางประมาณ 600 เมตร ใช้เวลาประมาณ 2 นาที เป็นเส้นทางที่เราใช้ในการเดินทางกันในวันนี้ เนื่องจากถนนสุขุมวิท 115 กำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุง รถยนต์จึงไม่สามารถผ่านเข้าออกได้
เส้นทางที่ 3 ทางซอยเทพารักษ์ 8 ระยะทางประมาณ 1.4 กม. ใช้เวลาประมาณ 4 นาที นอกจากเส้นสุขุมวิทแล้วโครงการ Pause สุขุมวิท 115 ก็ยังเชื่อมต่อจากถนนเทพารักษ์ทางซอยเทพารักษ์ 8 เชื่อมต่อกับซอยอภิชาติ 9 บนถนนสุขุมวิท 115 ห่างจากโครงการ ประมาณ 250 เมตร
จุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้ที่สุด คือทางด่วนบางพลี-สุขสวัสดิ์ฝั่งตะวันออก (มุ่งหน้าไปทางสุขสวัสดิ์) มีระยะทางประมาณ 1.8 กม. จากโครงการใช้เวลาประมาณ 3 นาที ปัจจุบันมีชื่อว่าถนนกาญจนาภิเษกวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯฝั่งใต้
จุดขึ้นทางด่วนบางพลีสุขสวัสดิ์ฝั่งตะวันตก (ไปทางพระราม 2) มีระยะทางจากโครงการประมาณ 2.2 กม. ใช้เวลาประมาณ 4 นาที โดยทางด่วนทั้งสองฝั่งมีจุดตัดที่แยกยกระดับสุขุมวิทห่างจากโครงการประมาณ 1.1 กม. ใช้เวลาประมาณ 2 นาที
ทางด่วนเส้นต่อไปคือ ทางด่วนเฉลิมมหานครมีจุดตัดที่แยกบางนา จุดขึ้นทางด่วนห่างจากโครงการประมาณ 5.6 กม. เวลาประมาณ 10 นาทีผ่านทางถนนสุขุมวิท 115 แล้วไปกลับรถบนถนนสุขุมวิท ใกล้กับปากซอยสุขุมวิท 117
จุดขึ้นทางด่วนจุดสุดท้ายคือ ทางด่วนบูรพาวิถีห่างจากโครงการประมาณ 8.5 กม. ใช้เวลาประมาณ 13 นาที โดยออกจากโครงการทางสุขุมวิท 115 แล้วไปกลับรถบนถนนสุขุมวิทบริเวณปากซอยสุขุมวิท 117 มุ่งหน้าขึ้นเหนือไปยังแยกบางนา แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนบางนา-ตราด เพื่อขึ้นทางด่วนบูรพาวิถีต่อไป
รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีปู่เจ้า บนเส้นสุขุมวิทห่างจากโครงการประมาณ 300 เมตรสามารถเดินเท้าออกจากซอยสุขุมวิท 115 ใช้เวลาเดินประมาณ 4 นาที นับว่าสะดวกมากสำหรับคนที่เดินทางโดยรถไฟฟ้าเป็นหลัก
:::ความอุดมสมบูรณ์::: ขอแบ่งออกเป็น 4 ย่าน ดังนี้
สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ
:::การเดินทาง:::
การเดินทางในวันนี้ เราจะมาเริ่มต้นเดินทางกันที่ถนนบางนา-ตราด บริเวณหน้าไบเทคบางนามุ่งหน้าไปยังเส้นสุขุมวิท แล้วเลี้ยวซ้ายที่แยกบางนามุ่งหน้าไปทางปากน้ำสมุทรปราการ ผ่านรถไฟฟ้าสถานีปู่เจ้า จากนั้นจึงเลี้ยวซ้ายเข้าสุขุมวิท 115 ก็จะถึงตัวโครงการที่อยู่ด้านในซอยประมาณ 290 เมตร
สรุปการเดินทาง : ถนนบางนา-ตราด > แยกบางนา ถนนสุขุมวิท > ถนนสุขุมวิท 115 > Pause สุขุมวิท 115
วันนี้เราจะเริ่มต้นการเดินทางกันที่ถนนบางนาตราดบริเวณหน้าศูนย์แสดงสินค้าไบเทคบางนามุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกเพื่อเข้าสู่ถนนสุขุมวิทเล้วเลี้ยวซ้ายไปทางสมุทรปราการ
เมื่อมาถึงสี่แยกบางนา จุดตัดระหว่างเส้นบางนาตราดกับถนนสุขุมวิท ให้เลี้ยวซ้ายเพื่อมุ่งหน้าไปทางปากน้ำสมุทรปราการ
เมื่อเข้าสู่เส้นสุขุมวิทก็มุ่งหน้าตรงไปทางปากน้ำสมุทรปราการผ่านไปเทคบางนาอีกครั้งที่ทางเข้าฝั่งสุขุมวิทและ BTS บางนา
เมื่อถึงตลาดสำโรงทางซ้ายมือให้มุ่งหน้าตรงไป ขึ้นสะพานข้ามคลองสำโรงไปได้เลยค่ะ
ลงสะพานข้ามคลองผ่าน BTS สำโรงมาก็จะเจอกับ Big C Jumbo สำโรงทางด้านซ้ายมือ แสดงว่าใกล้จะถึงสุขุมวิท 115 แล้ว
ถัดจาก Big C Jumbo สำโรงก็จะเจอกับสถานีรถไฟฟ้าปู่เจ้า ให้เตรียมตัวเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 115 ได้เลย
บริเวณปากซอยสุขุมวิท 115 จะมีป้ายโครงการแบบชั่วคราวติดตั้งไว้เห็นเด่นชัด และมีทางขึ้น-ลงสถานีรถไฟฟ้าอยู่ใกล้ๆกัน โดยปกติจะสามารถเลี้ยวเข้าซอยได้เลยแต่ในวันนี้มีการทำถนนอยู่เราจึงจะเลยไปเข้าทางสุขุมวิท 117 แทน
เมื่อผ่านซอยสุขุมวิท 115 มาแล้วให้ขับมุ่งหน้าตรงไปแต่ชิดซ้ายไว้ก็ดีค่ะ เพราะซอย 117 อยู่ถัดไปอีกนิดเดียว
ที่หน้าปากซอยสุขุมวิท 117 จะมีป้ายบอกทางไปโครงการขนาดสูงเท่าคนติดตั้งไว้ สามารถเห็นได้ชัดเจน และปากซอยฝั่งขวามือจะมี 7ELEVEn เป็นจุดสังเกตอีกอย่างหนึ่ง
เข้าซอยสุขุมวิท 117 มาประมาณ 230 เมตรให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยภานุวงศ์หนึ่งตามป้ายบอกทางของโครงการ
เมื่อเข้ามาในซอยภานุวงศ์ 1 ก็จะเจอทางบังคับเลี้ยวขวา สามารถมองเห็นตัวโครงการได้ในระยะไกล
เมื่อเลี้ยวขวาตามถนนบังคับเลี้ยวมาประมาณ 50 เมตรให้เลี้ยวซ้าย เข้าซอยอภิชาติ 2 ตามป้ายบอกทางของโครงการ
เข้าซอยอภิชาติ 2 มาประมาณ 40 เมตรก็จะถึงถนนสุขุมวิท 115 จะเห็นตัวโครงการอยู่ด้านหน้าพอดี ให้เลี้ยวซ้ายไปทางสุขุมวิทเพื่อเข้าสู่โครงการ
เลี้ยวซ้ายออกจากซอยอภิชาติ 2 เข้าสู่ถนนสุขุมวิท 115 ก็มาถึงโครงการ Pause สุขุมวิท 115 ทางขวามือของเราแล้วค่ะ
:::บริเวณโครงการ:::
ภาพมุมสูงบริเวณโครงการ ทิศเหนือของโครงการติดกับที่ดินว่างเปล่า ทางทิศตะวันออกติดกับซอยอภิชาติ 3 เป็นซอยตันมีโครงการเพื่อนบ้านคอนโด B Loft อยู่ด้านใน หัวมุมซอยอภิชาติ 3 ตรงข้ามกับโครงการเป็นที่ดินว่างเปล่า ทิศตะวันตกของโครงการติดกับหมู่บ้านสินวงศ์ (หมู่บ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น) ถัดจากหมู่บ้านไปเป็นคอนโด Ideo S115 และ Big C Jumbo สำโรง สุดท้ายทิศใต้ฝั่งตรงข้ามกับทางเข้าของโครงการคือบ้านเดี่ยว 2 ชั้น 1 หลัง มีพื้นที่ขนานไปตลอดความยาวของโครงการ ที่ดินอื่นๆส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย, Home office และหอพัก
ก่อนจะเข้าไปชมตัวโครงการเรามาชมพื้นที่รอบๆโครงการกันก่อนเลยค่ะ
เริ่มกันที่สถานีรถไฟฟ้าปู่เจ้า ซึ่งยังอยู่ในระหว่างก่อสร้างยังไม่เปิดให้ใช้บริการ แต่วันนี้เราได้ขออนุญาตขึ้นไปเก็บภาพโครงการเมื่อมองจากด้านบนของสถานนีเพื่อผู้อ่านโดยเฉพาะ
ภาพจากบนสถานีรถไฟฟ้าปูเจ้า จะเห็นว่าเราสามารถมองเห็นตัวโครงการได้จากบนสถานีเลย และอาคารส่วนใหญ่ในย่านนี้ยังไม่ค่อยมีอาคารสูง ดังนั้นเรื่องวิวจากห้องพักชั้นบนๆไม่ต้องเป็นห่วง
ลงจากสถานีมาเดินย้อนกลับมาอีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงหน้าซอยสุขุมวิท 115 โดยทางขึ้น-ลงสถานีที่ใกล้กับปากซอยที่สุด คือทางออกสุดปลายสถานีทางฝั่งพิพิธภัณฑ์เอราวัณ
อีกด้านของปากทางเข้าสุขุมวิท 115 มีป้ายรอรถประจำทาง มีที่นั่งและหลังคากันแดดสภาพสะอาดน่าใช้งาน
ก่อนจะเดินเข้าซอยกันไปดูโครงการเราก็มาดู สภาพแวดล้อมรอบๆสถานีรถไฟฟ้ากันก่อน จากเดินย้อนกลับไปทางแบริ่ง
เมื่อเดินย้อนมาทางแบริ่งเราก็จะเจอโครงการเพื่อนบ้าน โครงการคอนโด Ideo S115 ห่างจากปากซอยสุขุมวิท 115 ประมาณ 70 เมตร
ถัดมาจากคอนโดเพื่อนบ้านก็คือ Big C Jumbo สำโรง แหล่งความอุดมสมบูรณ์ที่ใกล้ที่สุดของโครงการ ห่างจากปากซอยสุขุมวิท 115 ประมาณ 100 เมตร
มองย้อนกลับไปอีกฝั่งของถนนตรงข้ามกับซอยสุขุมวิท 115 คือสถานีบริการแก๊ส NGV
ภายในปั๊มมี 7ELEVEn และร้านกาแฟ Cafe’ Amazon สามารถเดินเท้าข้ามไปใช้บริการโดยผ่านสถานีรถไฟฟ้า
ชมสิ่งที่น่าสนใจบริเวณรอบๆสถานีรถไฟฟ้ากันไปแล้วก็กลับมาที่ถนนสุขุมวิท 115 กันค่ะ จุดเด่นคือ ด้านซ้ายของปากซอยจะมีป้ายบริษัทชัยนิยมการช่างซึ่งเป็นป้ายขนาดใหญ่ที่โดดเด่นและสามารถมองเห็นได้ชัดเจน
ทางด้านขวามือของปากซอยเป็นที่ตั้งของวินมอเตอร์ไซด์จ้างประจำซอยอภิชาติ (สุขุมวิท 115) โดยวินนี้มีความพิเศษตรงที่ที่ตั้งวินเป็นซุ้มโครงสร้างเหล็กแบบถาวรสามารถกันแดดกันฝนได้เป็นอย่างดี
มีอัตราค่าบริการบอกไว้อย่างชัดเจน เริ่มต้นที่ 10 บาทไปจนถึง 150 บาท ซึ่งอัตราค่าบริการสำหรับการเดินทางไปยังโครงการที่อยู่ห่างออกไปเพียง 290 เมตรน่าจะอยู่ที่ 10 บาทค่ะ
ถัดเข้ามาในซอยอีกนิดก็จะเป็นซุ้มจอดจักรยานที่เป็นโครงสร้างเหล็กแบบถาวรเช่นเดียวกับซุ้มของวินมอเตอร์ไซค์
ทางเท้าภายในซอยสุขุมวิท 115 เป็นทางเดินฝั่งเดียวมีความกว้างประมาณ 2 เมตร เป็นทางเท้าที่ค่อนข้างกว้างใช้งานได้สะดวก ถ้าไม่ติดว่ากำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างน่าจะเป็นทางเท้าที่สะอาดเรียบร้อยน่าใช้งานทีเดียว
เข้าซอยมาจากถนนสุขุมวิทประมาณ 220 เมตรก็จะเจอกับซอยอภิชาติ 1 เป็นซอยย่อยซอยแรกบนถนนสุขุมวิท 115
ซอยอภิชาติ 1 เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านสินวงศ์ ทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น หมู่บ้านลึกเข้าไปด้านในซอยประมาณ 350 เมตร ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยแต่ก็มีบางหลังที่เป็นร้านขายของชำหรือร้านอาหารตามสั่งด้วย
จากหมู่บ้านมา 4 คูหาหรือประมาณ 25 เมตรก็จะถึงโครงการคอนโด Pause สุขุมวิท 115 ที่เราจะมาชมกันในวันนี้
ด้านหน้าโครงการคือถนนสุขุมวิท 115 หรือซอยอภิชาติ มีความกว้าง 2 เลนหรือประมาณ 8 เมตร นอกจากเป็นถนนที่เชื่อมต่อกับเส้นสุขุมวิทเป็นหลักแล้ว ยังสามารถใช้เป็นเส้นทางลัดไปยังถนนเทพารักษ์ที่ซอยเทพารักษ์ 8 จากซอยอภิชาติ 9 ได้
ด้านหน้าโครงการมีทางเท้าคอนกรีตบล็อกกว้างประมาณ 1.5 เมตร ยาวตลอดความยาวของโครงการ
ตรงข้ามของโครงการเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ตัวบ้านไม่ใหญ่นักแต่มีขนาดที่ดินที่กว้างเข้ากับความกว้างของโครงการ และมีต้นไม้ปลูกไว้ค่อนข้างเยอะ มองแล้วก็สบายตาดี
ด้านทิศตะวันตกของโครงการเป็นตึกแถวหน้าหมู่บ้านสินวงศ์มีขนาด 4 คูหาหรือประมาณ 24 เมตร มีความสูง 3 ชั้นครึ่ง แบ่งเป็นร้านขายของชำและร้านขายอะไหล่
ด้านทิศตะวันออกของโครงการติดกับซอยอภิชาติ 3 ฝั่งตรงข้ามคือซอยอภิชาติ 2 หากตรงเข้าไปก็จะเจอกับหมู่บ้านรินทร์ทองและซอยอภิชาติ 9 ที่เป็นทางออกไปสู่ถนนเทพารักษ์
ภาพถ่ายซอยอภิชาติ 2 ที่เชื่อมกับซอยภานุวงศ์ 1 ไปยังถนนสุขุมวิท 117
กลับมาที่ซอยอภิชาติ 3 ที่ติดกับฝั่งตะวันออกของโครงการ บริเวณหน้าปากซอยมีป้ายชื่อซอยและป้ายชื่อบริษัทต่างๆภายในซอยติดตั้งไว้อย่างชัดเจน
ซอยอภิชาติ 3 เป็นซอยตันมีความลึกประมาณ 290 เมตร โดยด้านในสุดของซอยเป็นที่ตั้งของโครงการเพื่อนบ้านคอนโด B Loft
ลองมองภาพรวมโครงการจากมุมมองด้านนอกทางฝั่งตะวันออกมองย้อนไปทางปากซอยดูบ้าง จะเห็นว่าจุดเด่นของโครงการคือเป็นตึกแฝดวางคู่กันที่หัวมุมซอยอภิชาติ 3
ชมบริเวณโดยรอบโครงการกันไปเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาเดินย้อนกลับเข้ามาที่ด้านหน้าโครงการ
จากนี้เราจะเริ่มต้นเข้าไปชมด้านในตัวโครงการกันแล้ว
:::ผังโครงการ:::
เริ่มจากมาทำความเข้าใจผังโครงการโดยคร่าวๆกันก่อน จากผังแม่บทของโครงการพื้นที่ชั้น 1 ของโครงการ คือลานจอดรถ, สวนส่วนกลาง, Lobby และ Library
ช่องทางเข้า-ออกของโครงการเป็นถนนสวนกัน 2 เลนกว้าง 6 เมตร และมีทางเข้า-ออกทางเดียว
ด้านหลังกำแพงหินอ่อนหน้าโครงการฝั่งซ้ายมือคือศาลพระภูมิสีขาวสะอาดตา
ฝั่งตรงข้ามคือป้อมยามที่สร้างเป็นชิ้นเดียวกันกับกำแพงหินอ่อน เป็นห้องแบบปิดที่มีหน้าต่างบานเลื่อนให้สามารถติดต่อกับภายนอกได้
ผ่านป้อมยามเข้ามาด้านใน นอกจากกล้องวงจรปิดแบบโดมที่ติดตั้งบนเพดานบริเวณป้อมยาม ก็จะมีระบบรักษาความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่งทั้งทางเข้าและทางออก ได้แก่
ไม้กระดกที่ควบคุมด้วยระบบคีย์การ์ดหรือ access card
ผ่านไม้กระดกเข้ามาก็จะเป็นบริเวณของที่จอดรถ มีการเดินรถแบบช่องทางเดียว (one way) วนรอบโครงการ และที่จอดรถเป็นแบบ 90 องศาขนาบทั้งสองข้างของถนน
ด้านหลังของโครงการ มีช่องจอดรถกลางแจ้ง 2 คัน เป็นพื้นที่ระหว่างตึกแฝด เมื่อมองไปทางด้านหน้าโครงการจะเห็นผนังระแนงไม้ของสวนส่วนกลางที่เชื่อมทั้งสองตึกเข้าด้วยกัน
วนกลับมาด้านข้างของโครงการฝั่งตะวันออก นอกจากที่จอดรถก็จะมีทางขึ้นของตึก B
ทางเข้าของตึก B ใช้ระบบคีย์การ์ดในการเข้า-ออก ด้านในเป็นตู้จดหมายและลิฟท์โดยสาร 2 ตัว
เมื่อวนกลับมาถึงด้านหน้าของโครงการ ก่อนจะถึงทางออกก็จะเป็นที่จอดรถจักรยานยนต์อยู่ด้านหลังรั้วโครงการ
เมื่อหันหลังมองย้อนกลับไปทางด้านในของโครงการก็จะเห็นสวนส่วนกลางที่เป็นพื้นที่เชื่อมระหว่างตึกแฝด มีหลังคาระแนงเหล็กแบบโปร่งแสงเป็นทางเดินเชื่อมกันระหว่างอาคาร A และอาคาร B
ด้านหน้าของสวน บริเวณทางเดินที่เชื่อมกันระหว่าง 2 อาคารเป็นทางเข้าอีกทางของ Lobby โครงการ
เมื่อเดินผ่านทางเชื่อมเข้ามา ก็จะเจอกับสนามหญ้ารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าลึกเข้าไปตามความยาวของอาคารมีการจัดสวนให้เป็นทางเดินโดยรอบและเป็น Court ตรงกลาง มีโมกพวงเป็นรั้ว ให้ความรู้สึกเขียวชอุ่มสบายตา
มองย้อนกลับไปทางด้านหน้าโครงการจากด้านในสวนอีกสักภาพ จากมุมนี้จะเห็นว่าระยะห่างระหว่างตึกมีความกว้างประมาณ 6 เมตร
เดินออกมาจากสวนก็จะพบกับจุดทิ้งขยะของโครงการ ที่จัดเอาไว้ให้อย่างเป็นระเบียบสะอาดเรียบร้อยอยู่ฝั่งตรงข้าม สามารถจอดรถกลางแจ้งได้ 2 คัน
เมื่อวนมาคบรอบก็จะเป็นทางออกที่มีระบบคีย์การ์ดควบคุมไม้กระดกเหมือนกันกับทางเข้า
วนรอบนอกอาคารกันเสร็จแล้วก็ไปดูด้านในอาคารกันเริ่มจากบริเวณ Lobby ของโครงการที่อาคาร A กันเลย
ตัว Lobby สามารถเข้าออกได้โดยไม่ต้องใช้คีย์การ์ด เมื่อเข้ามาด้านนายก็จะมีชุดโซฟาเอาไว้รับรองแขก 1 ชุด และชุดโต๊ะ 4 ที่นั่งอีก 1 ชุด
ที่บริเวณของโต๊ะ 4 ที่นั่ง เป็นโซนที่จัดเอาไว้ให้เป็นส่วนของพื้นที่อ่านหนังสือ (Library zone) มีตู้หนังสือแบบ Built-in เต็มผนังขนาดใหญ่ 1 ตู้
ด้านข้างประตูทางเข้าทางโครงการจัดไว้ให้เป็นมุมพักผ่อนอ่านหนังสือชิลๆสไตล์คาเฟ่ เป็นเคาน์เตอร์ Built-in และเก้าอี้สตูบรรยากาศแบบน่ารักๆของร้านกาแฟด้วยวัสดุสีขาวและไม้
ด้านหลังตู้หนังสือเป็นประตูทางเข้าของอาคาร A ที่ต้องใช้คีย์การ์ดในการเข้า-ออก
ทางเข้าอาคาร A จากที่จอดรถอยู่ด้านในถัดจากทางเข้า Lobby โดยประตูทางเข้าส่วนพักอาศัยจะเป็นระบบ Access Card
เข้ามาด้านในโถงทางเข้าของอาคาร A ก็จะมีตู้จดหมายและลิฟท์โดยสาร 2 ตัว จากนี้ขอพาไปชมส่วนกลางที่เหลือกันต่อ
ส่วนกลางที่เหลือของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 8 และชั้นดาาดฟ้า
เริ่มจากผังอาคารชั้น 8 กันก่อน จากผังอาคารจะเห็นว่าพื้นที่อาคารที่ชั้น 8 เกินครึ่งหนึ่งเป็นที่พักอาศัยและอีกครึ่งหนึ่งคือพื้นที่ของส่วนกลางเหมือนกันทั้ง 2 อาคาร
ทางโครงการติดตั้งประตูสำหรับเข้า-ออกส่วนกลางและส่วนที่อยู่อาศัยแยกกัน โดยทางเข้าของส่วนที่อยู่อาศัยจะเป็นระบบ Access Card เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านในชั้นนี้
เมื่อเปิดประตูออกไปยังส่วนกลางที่ชั้น 8 จะเจอกับเคาน์เตอร์เอาท์ดอร์และบันไดทางขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้า
ด้านข้างบันไดมีช่องทางเดินกว้างประมาณ 1.2 เมตร เป็นพื้นทรายล้าง
ฝั่งขวามือของทางเดินเป็นเคาน์เตอร์บาร์ที่หันหน้าเข้าสู่ผนังน้ำตกที่เป็นระบบน้ำล้นมาจากสระว่ายน้ำ
ฝั่งซ้ายมือของทางเดินบริเวณใต้บันไดทางขึ้นดาดฟ้ามีห้องน้ำอยู่ 1 ห้อง
ภายในมีเฉพาะส่วนแห้งคือโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือ
ที่สุดปลายทางเดินคือห้องออกกำลังกายหรือฟิตเนส ทางเข้าเป็นบานเลื่อนกระจกสามารถมองเห็นภายในห้องได้จากด้านนอก
ห้องฟิตเนสของโครงการ เป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ผนังเป็นกระจกใสโดยรอบทำให้บรรยากาศภายในห้องมีความโล่งโปร่งไม่อึดอัด
เครื่องเล่นที่ทางโครงการมีให้มีทั้งเครื่อง Elliptical, Stationary bike,
ลู่วิ่งของยี่ห้อ Johnson
และที่ด้านในสุดคือชุดดัมเบลเวทพร้อมม้านั่ง 1 ตัว นอกจากเครื่องออกกำลังกายแล้วในห้องฟิตเนสก็ยังมีทีวีไว้ให้บริการด้วย
ชมส่วนกลางบริเวณชั้น 8 กันเสร็จแล้วเราก็ขึ้นบันไดไปที่ชั้นดาดฟ้ากันต่อเลย
จากผังอาคารชั้นดาดฟ้า ส่วนกลางที่ชั้นนี้ประกอบด้วยสวนสาธารณะ, BBQ zone และสระว่ายน้ำ
เริ่มจากด้านหลังของบันไดคือสวนสาธารณะลอยฟ้าที่จัดภูมิทัศน์ด้วยโครงสร้างคอนกรีตสลับกับการปูหญ้า, ไม้พุ่มและไม้ยืนต้น
ส่วนบริเวณนี้เป็นสนามหญ้าสลับกับพื้นคอนกรีตทรายล้าง ไล่ระดับไปที่ไม้พุ่ม, ไม้ยืนต้น และโมกพวง ที่เป็นรั้วสีเขียวฉันในอีกชั้นให้กับดาดฟ้า
เดินมาจนสุดทางเดินฝั่งขวามือเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่ปูเป็นพื้นไม้เทียม มีชุดโต๊ะเก้าอี้หวายเทียม 2 ชุด 4 ที่นั่ง
ฝั่งซ้ายมือเป็นล็อกเกอร์และห้องเปลี่ยนชุดเป็นห้องเปล่าๆ ไม่มีห้องอาบน้ำ ส่วนห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมเพียงห้องเดียวที่ชั้น 8
ชมบริเวณด้านหน้าโครงการกันไปเสร็จแล้วก็เดินไปที่ด้านหลังโครงการกันบ้าง ซึ่งทางซ้ายมือของเราก็ยังคงเป็นสวนยาวไปจนสุดอาคาร
บริเวณหน้าบันไดนอกจากฝั่งซ้ายมือที่เป็นสวนแล้วก็ยังมีซุ้มเตียงนอนอาบแดดริมสระว่ายน้ำที่ฝั่งขวามือ
เดินมาจนสุดทางเดินด้านหลังของอาคารสวนทางฝั่งซ้ายมือก็จะเป็นลานสนามหญ้าโล่งๆ
ทางขวามือคือ BBQ zone ในบรรยากาศของสวนหลังบ้าน
BBQ zone ทางโครงการจัดไว้ให้เป็นเฉลียงพื้นไม้เทียมที่รอมรอบด้วยสนามหญ้า มีเคาน์เตอร์คอนกรีตที่เชื่อมเป็นโครงสร้างเดียวกันกับพื้นและกระถางคอนกรีตหล่อในที่
มองย้อนกลับไปที่ลานสนามหญ้าทางฝั่งซ้ายมือจาก BBQ zone ก็จะเห็นท้องฟ้ากว้างๆ และคอนโดเพื่อนบ้าน Ideo S115 น่าจะเป็นอาคารที่สูงที่สุดในระแวกนี้
เดินย้อนกลับไปบริเวณหน้าบันไดกันอีกครั้งเพื่อชมในส่วนของสระว่ายน้ำและพื้นที่เตียงนอนอาบแดด
เมื่อขึ้นบันไดมาอย่างดาดฟ้าก็จะเจอกับซุ้มเตียงนอนอาบแดดที่ด้านหน้าของบันไดและสระว่ายน้ำทางขวามือ
ซุ้มเตียงนอนอาบแดดริมสระว่ายน้ำเป็นโครงสร้างเหล็กที่มีหลังคาเป็นระแนงยอมให้แสงผ่านเข้ามาได้ และไม่กันฝน
ภายในซุ้มมีเตียงนอนอาบแดดให้ 2 เตียงหันหน้าเข้าสู่สระว่ายน้ำพร้อมชุดโต๊ะข้างเตียงสำหรับวางของหรือเครื่องดื่ม
ก่อนจะไปลงสระกันก็แวะชมพื้นที่ด้านข้างของทางลงสระว่ายน้ำกันสักหน่อย
แม้ว่าทางโครงการจะไม่ได้ทำห้องอาบน้ำไว้ให้แต่ก็มีที่อาบน้ำกลางแจ้งอยู่บริเวณด้านข้างของทางลงสระว่ายน้ำ
โดยจุดเด่นของที่อาบน้ำกลางแจ้งของที่นี่คือฝักบัวอาบน้ำ ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษโดยทำเป็นเสาไม้ที่มีน้ำล้นมาจากทางด้านบน คล้ายน้ำตก ให้บรรยากาศที่เป็นธรรมชาติและผ่อนคลายสไตล์รีสอร์ท
พื้นทางลงสระว่ายน้ำเป็นพื้นทรายล้างสีดำหล่อเป็นบันไดยื่นลงไปในสระ ที่รั้วทางด้านซ้ายของทางลงมือมีห่วงยางชูชีพไว้เผื่อสถานการณ์ฉุกเฉินด้วย
ตัวสระว่ายน้ำมีขนาด 4 × 15 เมตร เป็นขนาดที่ไม่กว้างแต่มีความยาวที่สามารถว่ายไปกลับได้กำลังดีไม่สั้นจนเกินไป
ระบบสระว่ายน้ำของโครงการเลือกใช้เป็นระบบเกลือ ที่ให้ทั้งความสะอาดและดีต่อผิวมากกว่าระบบคลอรีน
ด้านความสวยงามสระว่ายน้ำของโครงการเป็นแบบสระน้ำล้นหรือ Infinity Edge Pool
โดยฝั่งที่เป็นน้ำล้น ทางโครงการออกแบบให้ใช้ประโยชน์เป็นผนังน้ำตกที่เห็นจากเคาน์เตอร์บาร์ที่ชั้น 8
ปิดท้ายการชมส่วนกลางของโครงการด้วยภาพรวมบริเวณส่วนกลางบนดาดฟ้าของอาคาร B
จากส่วนกลางบนดาดฟ้าที่ชั้น 8 เราก็งลงมาที่ชั้นสองซึ่งเป็นโซนของห้องพัก เพื่อไปชมห้องตัวอย่างกันต่อ
จากโถงลิฟท์จะมีทางแยกไปยังห้องพัก ทั้งซ้ายและขวาแบบตัว T
การวางผังอาคารส่วนห้องพักเป็นแบบ Double Corridor คือมีห้องพักขนานทั้งสองฝั่งของทางเดิน
:::แบบห้อง:::
Pause สุขุมวิท 115 มีแบบห้องพักอาศัยให้เลือกด้วยกัน 6 แบบ ดังนี้
โดยห้องทุกแบบจะกระจายตัวกันอยู่ในแต่ละชั้นเหมือนกันทุกชั้น
ผังอาคารชั้น 2-7 จะเป็นห้องพักทั้งหมดอาคารละ 23 ยูนิต
และชั้น 8 เป็นห้องพักอาคารละ 17 ยูนิต และส่วนกลางที่เป็นฟิตเนส, สระว่ายน้ำ และ Sky lounge & BBQ zone
โดยผังอาคารจะเหมือนกันทั้งสองอาคารต่างกันที่ห้องพักริมด้านนอกฝั่งด้านหน้าโครงการเพียงห้องเดียวที่อาคาร A จะเป็น Type B3 และอาคาร B จะเป็น Type B4 ซึ่งเป็นจุดเด่นที่แตกต่างกันของแต่ละอาคาร
แปลนห้อง Type Bs
แปลนห้อง Type Bs2
แปลนห้อง Type B
แปลนห้อง Type B2
แปลนห้อง Type B3
แปลนห้อง Type B4
:::ห้องตัวอย่าง ห้องที่ 1:::
เริ่มชมห้องตัวอย่างห้องแรกกันที่ Type Bs2 ห้อง 1 Bedroom ขนาด 20.94-21.87 ตร.ม.
แปลนห้อง Type Bs2
เปิดประตูเข้ามาเป็นห้องครัวและห้องน้ำ ถัดไปเป็นห้องนั่งเล่นและห้องนอนที่สามารถเปิดออกสู่ระเบียงทางปลายสุดของห้องได้ตามลำดับ
ประตูทางเข้าเป็นประตูไม้ HDF ผิวลามิเนต ขนาด 0.9 × 2 เมตร
มือจับและกลอนประตูเป็น Digital Door Lock ของ Samsung ที่เปิดได้ด้วยคีย์การ์ด
เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับทางเดินที่ยาวไปจนถึงด้านในสุดของตัวห้อง พื้นห้องเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. เพดานห้องสูง 2.4 เมตร
ด้านหลังประตูมีตัวหยุดประตูติดตั้งไว้ให้เพื่อความสะดวกในการใช้งาน และเพิ่มอายุการใช้งานให้กับประตูและเฟอร์นิเจอร์ด้านหลังประตู
มองย้อนกลับไปที่ด้านหลังของประตูก็จะเป็นห้องน้ำที่อยู่ตรงข้ามกับห้องครัว
ชุดครัวที่โครงการ Built-in ให้เป็นไม้ MDF ผิว PVC ประกอบด้วยเคาน์เตอร์ครัว, ตู้สูง 2 เมตร, และตู้เก็บของติดผนังเหนือเคาน์เตอร์
เริ่มกันที่เฟอร์นิเจอร์ตัวแรกจากประตูทางเข้าคือชุดตู้และโต๊ะทำงานความสูง 2 เมตร กว้างประมาณ 1.5 เมตร ลึกประมาณ 35 ซม.
จากโต๊ะทำงานเป็นช่องวางตู้เย็นกว้างประมาณ 60 ซม. เวลาไปเลือกซื้อตู้เย็นก็อย่าลืมเช็คเรื่องขนาดกันให้ดี มิเช่นนั้นจะมีปัญหาเรื่องพื้นที่วางกว้างไม่พอได้ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากๆสำหรับการเลือกซื้อของเข้าคอนโดที่มีลักษณะพื้นที่แบบจำกัดแตกต่างจากบ้านเดี่ยว ในปัจจุบันเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในคอนโดโดยเฉพาะก็มีให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย
ถัดมาเป็นเคาน์เตอร์ครัวขนาดประมา 0.6 × 1 เมตร มีลิ้นชักตื้นๆสำหรับใส่ช้อนส้อมหรืออุปกรณ์ขนาดเล็ก, ตู้บานปิดใต้ซิงค์ที่สามารถเก็อุปกรณ์ครัวได้ และชั้นวางเตาไมโครเวฟ
ซิงค์ล้างจานที่ให้เป็นแบบ 1 ช่องพร้อมพื้นที่คว่ำจาน ยี่ห้อ Teka
เตาไฟฟ้าที่ให้เป็นแบบ 2 หัวของ Teka มีข้อสังเกตอีกนิดว่าที่บริเวณผนังเหนือเคาน์เตอร์ครัว เป็นผนังปูนทาสีภายในเปล่าๆเลย แนะนำว่าให้ปูกระเบื้องหรือติดตั้งวัสดุกันเปื้อนไว้จะดีกว่า
ด้านบนของเตาไฟฟ้ามีเครื่องดูดควันติดตั้งไว้ให้เป็นแบบหมุนเวียนอากาศ (Recirculation Type) ของ Teka อีกเช่นกัน
ต่อไปเป็นห้องน้ำที่อยู่ตรงข้ามกับครัว ประตูห้องน้ำเป็นบานเลื่อนสลับกระจกฝ้ากรอบอะลูมิเนียมสีดำ ช่องเปิดกว้างประมาณ 60 ซม.
มีธรณีประตูก่อเป็นเขิบขึ้นมาสูงจากพื้นประมาณ 15 ซม.
ที่ภายในห้องน้ำเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดประมาณ 2.4 × 1 เมตร พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องเซรามิกสีเทาขนาด 40 × 40 ซม. แบ่งพื้นที่ส่วนเปียก-ส่วนแห้งอย่างชัดเจน
ลำดับการวางสุขภัณฑ์เริ่มจากโถสุขภัณฑ์ทางด้านขวามือตรงข้ามเป็นห้องอาบน้ำและอ่างล้างหน้าอยู่ตรงกลาง ผนังปูกระเบื้องเซรามิกสีขาวขนาด 20 × 40 ซม. เต็มความสูงผนัง
อ่างล้างหน้าเป็นแบบลอยตัวฝังผนังพร้อมก๊อกน้ำแบบก้านโยกของ American Standard
สุขภัณฑ์เป็นแบบ flush tank แยกชิ้นของ American Standard เช่นเดียวกับสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษทิชชูทางขวามือของโถสุขภัณฑ์
ที่ใส่กระดาษชำระเป็นสแตนเลสฝังผนังแบบไม่มีฝาปิด
ตรงข้ามกับโถสุขภัณฑ์คือห้องอาบน้ำที่มีประตูห้องอาบน้ำแบบบานเลื่อน 3 ตอนติดตั้งบนเขินสูงจากพื้นห้องน้ำประมาณ 10 ซม.
พื้นที่ส่วนอาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.8 × 1 เมตร
ฝักบัวอาบน้ำที่ทางโครงการให้มาเป็นฝักบัวสายอ่อน ของ American Standard ก๊อกฝักบัวแบบก้านโยก
ฝากบัวเป็นแบบปรับระดับน้ำได้และมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่กว่าปกติ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 15 ซม.
ฝ้าเพดานภายในห้องน้ำเป็นยิปซั่มบอร์ดกันชื้น มีช่องระบายอากาศและไฟแสงสว่างแบบโคมดาวน์ไลท์
ต่อมาเป็นพื้นที่ในส่วนของห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อมาจากห้องครัว ทางซ้ายมือเป็นโซฟาและขวามือเป็นชั้นวางทีวี มีระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.5 เมตร สามารถวางทีวีขนาด 52″ ได้ในระยะที่สบายตา
ในฝั่งของโซฟาเป็นทั้งพื้นที่นั่งดูทีวีและพื้นที่รับประทานอาหารไปพร้อมๆกัน
โซฟาที่ทางโครงการให้มาเป็นโซฟาขาเหล็กบุผ้าสีขาวครีม ขนาด 2 ที่นั่งกว้างประมาณ 1.6 เมตร
ทางด้านของชั้นวางทีวีทางโครงการ Built-in มาให้เป็นชั้นติดผนังหน้าลึกประมาณ 20-25 ซม.
ชั้นวางทีวีมีลูกเล่นเล็กน้อยตรงที่มีบานพับที่สามารถเปิดขึ้นมาเป็นโต๊ะเพื่อพื้นที่ใช้งานแบบชั่วคราวให้กับเคาน์เตอร์ครัวได้
ธรณีประตูเป็นวงกบอะลูมิเนียมสูงขึ้นมาจากพื้นไม่เกิน 2 ซม.
ถัดจากห้องนั่งเล่นเป็นพื้นที่ในส่วนของห้องนอนที่แบ่งด้วยประตูกระจกบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียม 3 ตอนสูงถึงเพดาน ช่องเปิดกว้างประมาณ 70 ซม. ต่อหนึ่งบาน
เมื่อวางเฟอร์นิเจอร์แล้วจะมีช่องทางเดินเหลือประมาณ 80 ซม. จากห้องนั่งเล่นไปยังห้องนอน และมีพื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 40-50 ซม.
เมื่อเข้ามาภายในห้องนอนจะเจอกับเตียงนอนเป็นอย่างแรก ถัดไปเป็นตู้เสื้อผ้าแล้วจึงเป็นประตูทางออกไปสู่ระเบียงที่ปลายสุดของตัวห้อง
พื้นที่ภายในห้องนอนมีขนาดค่อนข้างจำกัด สามารถวางเตียงควีนไซส์ขนาด 1.5 × 1.8 เมตร แบบเข้ามุมได้ โดยฐานเตียงที่ทางโครงการให้มามีขนาด 1.4 เมตรและมีช่องเก็บของใต้เตียง
เมื่อมองไปยังหัวเตียงจะเห็นคู้เสื้อผ้าอยู่ทางขวามือ และหัวเตียงมีความลึกประมาณ 10 ซม. สามารถวางของเล็กๆน้อยๆได้
ตู้เสื้อผ้ามีขนาดกว้างเต็มช่องทางเดิน คือประมาณ 80 ซม. ประตูตู้เป็นบานเปิดคู่ และเนื่องจากเป็นทางเดินยาวเข้าไปหาตัวตู้การเลือกใช้เป็นประตูบานเปิดจึงเป็นผลดีต่อการใช้งาน เพราะมีพื้นที่หน้าตู้เพียงพอทำให้ได้ระยะการใช้งานที่กว้างขึ้น ใช้งานได้สะดวกกว่าประตูบานเลื่อน
จากหัวเตียงเราก็มาดูทางปลายเตียงกันต่อ ที่ปลายเตียงนอกจากจะเป็นพื้นทางของทางเดินแล้วก็ยังสามารถใช้เป็นพื้นที่เก็บของชิ้นเล็กๆได้
เนื่องจากทางโครงการได้ทำ Built-in ให้เป็นชั้นติดผนังลึกประมาณ 15 ซม. สามารถวางของเล็กๆน้อยๆ เช่น หนังสือ หรือกรอบรูปได้ หรือถ้าใครรักเสียงเพลงจะเอาลำโพงเล็กๆอย่าง Beat Pill มาวางเปิดเพลงกล่อมเวลานอนก็ชิคและชิลไม่เบา เพราะที่บริเวณนี้ก็มีเต้ารับเตรียมไว้ให้เรียบร้อย
จากห้องนอนสามารถออกไปยังระเบียงด้านในสุดของตัวห้องได้ทางประตูบานเลื่อนสลับที่เป็นช่องเปิดสู่ภายนอกเพียงช่องเดียวของห้อง โดยตัวประตูติดตั้งบนเขิบสูงจากพื้น 10 ซม.
ระเบียงเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความยาวเท่ากับตัวห้องคือ 2.8 เมตร และกว้าง 80 ซม. พื้นระเบียงปูกระเบื้องเซรามิกสีเทาขนาด 40 × 40 ซม. แบบเดียวกับพื้นห้องน้ำ ราวระเบียงเป็นเหล็กกล่องทำสีดำมีระแนงตามตั้งเว้นระยะ 10 ซม. ติดตั้งลงบนเขิบปูนขนาด 10 × 10 ซม.
ฝั่งปลายเตียงของระเบียงเป็นที่ติดตั้งคอมฯแอร์ที่ผนังเหนือประตู มีระแนงเหล็กกล่องตีตามนอนบังสายตาที่ด้านนอกของระเบียงในระดับเดียวกัน
อีกฝังของระเบียงเป็นบริเวณพื้นที่ซักล้างมีท่อน้ำฝน, ก๊อกสนาม, และท่อน้ำทิ้งสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้า เต้ารับที่ระเบียงเป็นแบบมีฝาปิดกันน้ำ
ลองมองไปยังระเบียงของตึก B ฝังตรงข้ามเพื่อดูมุมมองจากภายนอกดูบ้าง จะเห็นว่าระแนงบังสายตาไม่ได้ถี่จนมองไม่เห็นตัวคอมฯแอร์ แต่ก็ช่วยให้ภาพที่เห็นจากด้านนอกอาคารดูเรียบร้อยมากขึ้น และหากเป็นระแนงที่ทึบจนเกินไปยังอาจเป็นผลเสียต่อการระบายความร้อนของคอมฯแอร์ได้
ก่อนออกจากห้องตัวอย่างห้องแรกกันไป เราก็มาเช็คระบบไฟฟ้ากันเสียหน่อย โครมที่ให้เป็นดวงโครมดาวน์ไลท์ทั้งหมด และมีเครื่องตรวจจับควันติดตั้งให้ที่ฝ้าเพดานด้วย
สวิตช์และเต้ารับต่างๆที่ทางโครงการเลือกใช้เป็นของ SIEMENS แบบหน้าการรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสสีขาว เพิ่มดีไซน์ที่แตดต่างให้กับห้อง
:::ห้องตัวอย่าง ห้องที่ 2:::
ห้องตัวอย่างห้องที่ 2 เป็นห้อง Type B แบบ 1 Bedroom ขนาด 28.51-28.77 ตร.ม.
แปลนห้อง Type B
ประตูเข้ามานั่งขวามือจะเป็นห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อไปยังห้องรับประทานอาหารออกไปเป็นครัวและระเบียงส่วนทางฝั่งซ้ายมือจากพื้นที่รับประทานอาหารสามารถแยกไปยังห้องน้ำและห้องนอนได้
เรามาเริ่มการชมห้องตัวอย่างห้องที่ 2 กันจากประตูทางเข้าเลยค่ะ ขนาดและอุปกรณ์ประตูทุกอย่างของห้องนี้จะเหมือนกับในห้องตัวอย่างห้องแรกทุกประการและจะเหมือนกันทุกๆ Type
เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหารที่สามารถมองทะลุไปได้ถึงห้องนอนและห้องครัว
เมื่อมองย้อนกลับไปยังประตูทางเข้าฝั่งขวามือจะเป็นโซฟาและซ้ายมือคือตู้วางทีวี มีระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.2 เมตรเป็นระยะที่วางทีวีขนาด 52″ ได้
โซฟาที่โครงการให้เป็นขาเหล็กบุผ้ากำมะหยี่สีน้ำตาลเข้มขนาด 2 ที่นั่งกว้างประมาณ 1.6 เมตร มีขนาดและหน้าตาแบบเดียวกันกับโซฟาที่ให้ในห้องตัวอย่าง Type Bs2 ที่ได้ชมไป
ฝั่งตรงข้ามกับโซฟาเป็นตู้วางทีวีติดผนัง ด้านขวามือของตู้วางทีวีติดกับประตูเป็นตู้ขนาด 30 ซม. สูงถึงเพดาน
ตัวตู้วางทีวีที่โครงการให้มา เป็นตู้แบบ 3 ตอน มีบานปิด 2 บานที่ด้านข้างและตรงกลางเป็นชั้นวางของไม่มีบานปิด
ด้านข้างของตู้วางทีวีเป็นตู้ที่มีความสูงถึงฝ้าเพดาน เป็นประตูบานเปิดเดี่ยวแบ่งเป็น 2 ตอน เมื่อเปิดดูจะเห็นว่าชั้นวางด้านล่าง 3 ชั้นเป็นชั้นสำหรับวางรองเท้า ส่วนด้านบนที่เหลืออีก 4 ชั้นเป็นชั้นเก็บของที่มีขนาดเท่ากัน
ถัดจากห้องนั่งเล่นด้านข้างของโซฟาเป็นพื้นที่รับประทานอาหารมีโต๊ะทานข้าวขนาด 75 × 75 ซม. นั่งได้ 2 ที่นั่ง วางอยู่ด้านหน้าประตูทางเข้าห้องครัว
ประตูทางเข้าห้องครัวเป็นประตูบานเลื่อนกระจก มีช่องเปิดกว้างประมาณ 60 ซม.
พื้นห้องครัวเป็นพื้นกระเบื้องเซรามิกสีเทาขนาด 40 × 40 ซม. พื้นที่รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าลึกเข้าไปด้านใน ขนาดประมาณ 1.2 × 2.5 เมตร
ด้านข้างของประตูทางเข้าห้องครัวเป็นที่วางตู้เย็นมีพื้นที่กว้างประมาณ 80 ซม.
เคาน์เตอร์ครัวที่ห้องนี้เป็นแบบ 3 ตอนมีขนาดประมาณ 1.8 เมตร ด้านในสุดของห้องครัวเป็นตู้ซิงค์ล้างจาน ถัดมาเป็นช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าและที่ปลายสุดของเคาน์เตอร์เป็นลิ้นชักและชั้นวางเตาไมโครเวฟ
ตู้ลิ้นชักที่ให้มากับเคาน์เตอร์เป็นแบบเดียวกันกับห้องตัวอย่างห้องที่ 1 คือเป็นลิ้นชักที่ไม่ลึกโดยชั้นบนเป็นที่ใส่ช้อน-ส้อมและชั้นล่างเป็นชั้นเปล่าไว้ใส่ของเล็กๆน้อยๆ
ซิงค์ล้างจานที่ห้องมีให้มาก็เป็นแบบหนึ่งช่องพร้อมที่คว่ำจานด้านข้างของ Teka เหมือนกับในห้องแรก
Hop ที่ให้มาก็เป็นเตาไฟฟ้า 2 หัวยี่ห้อ Teka อีกเช่นกัน
ตู้ติดผนังเหนือเคาน์เตอร์เป็ตูบานเปิด 3 ตอนและมี Hood ซ่อนอยู่ที่ตู้เหนือเตาเช่นเดียวกับในห้องตัวอย่าง Type Bs2 ที่ได้ชมไปแล้ว
จากห้องครัวสามารถออกไปยังระเบียงได้ผ่านทางประตูบานเลื่อนสลับ ช่องเปิดกว้างประมาณ 60 ซม. เหมือนกับประตูทางเข้าห้องครัว
ทางออกไปยังระเบียงมีธรณีประตูสูงประมาณ 10 ซม.
พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 1 × 1.5 เมตร พื้นระเบียงเป็นพื้นกระเบื้องเซรามิกสีเทาขนาด 40 × 40 ซม. เช่นเดียวกับพื้นห้องครัว
ผนังระเบียงฝั่งเคาน์เตอร์เป็นที่วางคอมฯแอร์แบบติดผนังทั้งด้านบน และมีก๊อกสนามสำหรับการซักล้างที่ด้านล่าง
กลับเข้ามาในห้องที่ทางเดินฝั่งตรงข้ามกับโต๊ะกินข้าว จะเป็นทางเดินที่แจกไปสู่ห้องนอนทางด้านซ้ายมือ
ทางเข้าห้องนอนเป็นประตูบานเลื่อนสลับ ธรณีประตูเป็นบานกรอบฝังในพื้นสูงจากพื้นไม่เกิน 2 ซม. มีช่องเปิดกว้างประมาณ 80 ซม.
เข้ามาในห้องก็จะเจอกับพื้นที่บริเวณหน้าตู้เสื้อผ้าถัดไปเป็นเตียงนอนและหน้าต่างที่ด้านในสุดของตัวห้อง
เตียงนอนที่ทางโครงการให้มาเป็นขนาดควีนไซส์ 1.5 × 1.8 เมตร ฐานเตียงมีลิ้นชักสำหรับเก็บของขนาดประมาณ 1.2 เมตร และสูงประมาณ 20 ซม.
หัวเตียงเป็นผนังโล่งมีตู้เสื้อผ้าอยู่ทางฝั่งขวามือและโต๊ะหัวเตียงทางซ้ายมือติดกับหน้าต่าง
ตู้เสื้อผ้าบานเปิดคู่กว้างประมาณ 1.2 เมตร พื้นที่หน้าตู้เสื้อผ้าเป็นทางเดินยาวตรงเข้าสู่ตู้ทำให้ใช้งานได้สะดวก
ที่ปลายเตียงเหลือเป็นทางเดินประมาณ 50 ซม.
ด้านในสุดของห้องนอนมีพื้นที่ทางเดินข้างเตียงเหลือประมาณ 50 ซม. พอดีกับขนาดของโต๊ะหัวเตียง
หน้าต่างภายในห้องนอนเป็นหน้าต่างกระจกวงกบอลูมิเนียมสีดำบานใหญ่แบ่งออกเป็น 3 ตอน มีด้านข้างทั้ง 2 ฝั่งเป็นบานกระทุ้งส่วนตรงกลางเป็นบานกระจกติดตาย
หน้าต่างบานกระทุ้งทั้ง 2 ฝั่ง มีความกว้างประมาณ 60 ซม. โดยช่องเปิดสูงจากพื้นประมาณ 1 เมตร
มาที่ทางเดินบริเวณหน้าห้องนอนที่สุดปลายทางเดินเป็นชุดตู้และโต๊ะทำงานแบบเดียวกันกับที่ให้มาในห้อง Type Bs2 และทางขวามือของทางเดินตรงข้ามกับห้องนอนคือห้องน้ำ
พื้นที่ห้องน้ำมีขนาดประมาณ 1.6 × 2.4 เมตร พื้นห้องน้ำเป็นพื้นกระเบื้องเซรามิกสีน้ำตาลเทาขนาด 40 × 40 ซม. เช่นเดียวกับพื้นห้องครัวและระเบียง
ธรณีประตูของห้องน้ำสูงจากพื้นห้องประมาณ 5 ซม. ประตูห้องน้ำเป็นประตูไม้ HDF บานเปิดเดี่ยวมือจับลูกบิดพร้อมบานเกร็ด
ฝ้าเพดานมีช่องระบายอากาศและไฟดาวน์ไลท์
สุขภัณฑ์ภายในห้องเริ่มจากอ่างล้างหน้า, โถสุขภัณฑ์ และห้องอาบน้ำที่แบ่งส่วนเปียกด้วยผนังบานเลื่อนสำเร็จรูป
อ่างล้างหน้าที่ให้เป็นทรงสี่เหลี่ยมแบบลอยตัวติดผนังของ American Standard ติดตั้งค่อนข้างชิดกับผนังฝั่งซ้ายมือ
ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์ห่างจากอ่างล้างหน้าประมาณ 15 ซม. เป็นโถสุขภัณฑ์แบบ flush tank แยกชิ้นของ American Standard สายชำระทางด้านขวามือก็เช่นกัน
ที่ด้านซ้ายมือของโถสุขภัณฑ์มีที่ใส่กระดาษชำระสแตนเลสของ American Standard ติดตั้งแบบตั้งขึ้น
พื้นที่ส่วนสุดท้ายของห้องน้ำคือพื้นที่ส่วนอาบน้ำ มีขนาดประมาณ 0.8 × 1.2 เมตร ประตูบานเลื่อนติดตั้งลงบนพื้นห้องน้ำโดยตรงมีความสูงเฉพาะตัววงกบ 5 ซม. และในพื้นที่ส่วนเปียกลดระดับลงไปอีก 5 ซม. จากระดับพื้นห้องน้ำ
ฝักบัวที่ให้มาเป็นฝักบัวสายอ่อนของ American Standard พร้อมชุดถาดตะแกรงสแตนเลสสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำติดตั้งไว้ที่ผนัง
ก่อนออกจากห้องน้ำมองย้อนกลับไปทางประตูห้องน้ำก็จะเห็นราวตากผ้าเช็ดตัวแสตนเลสติดตั้งไว้ที่ผนังด้านหลังประตู
และที่มุมด้านบนของบานประตูก็มีตะขอแสตนเลสติดตั้งไว้สำหรับแขนผ้าเช็กมือหรืออื่นๆ และเป็นตัวหยุดประตูด้วย
::: สรุปรายการวัสดุมาตรฐาน (พ.ค. 60) :::
วัสดุโดยรวม
ห้องน้ำ
งานไฟฟ้า
เฟอร์นิเจอร์
***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า***
:::ราคา::: (พฤษภาคม 2560)
:::บทสรุปโครงการ:::
ทำเลที่ตั้งโครงการ : คอนโด Pause สุขุมวิท 115 ตั้งอยู่ในซอยอภิชาติ (สุขุมวิท 115) ในอ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ ติดถนนสุขุมวิทและรถไฟฟ้าสายสีเขียว ใกล้ถนนสายสำคัญย่านบางนา-สมุทรปราการ มีเส้นทางเชื่อมต่อกับถนนหลายสาย และทางด่วนทั้งขาเข้าเมืองและขาออก
สภาพแวดล้อมโดยรอบของโครงการค่อนข้างเงียบสงบ เนื่องจากภายในซอยเป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ มีโรงเรียนทั้งเอกชน, รัฐบาล และนานาชาติอยู่ในรัสมี 5 กม. ใกล้ห้างใหญ่ย่านบางนาในรัสมี 10 กม. เป็นทำเลที่เหมาะแก่การใช้ชีวิตที่เน้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า มีความสงบ และราคาเริ่มต้นไม่สูง
ความอุดมสมบูรณ์ : มี Big C Jumbo สำโรงห่างจากโครงการเพียง 350 เมตร สามารถเดินเท้าไปได้ มี 7ELEVEn ที่ใกล้ที่สุดห่างออกไป 270 เมตรด้านในซอยอภิชาติ มีตลาดปู่เจ้า, ตลาดสำโรงและอิมพีเรียลเวิล์ดสำโรงห่างออกไป 2 กม. สามารถเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์รับจ้าง, สองแถว และรถไฟฟ้า
จากเส้นสุขขุมวิทไปทางบางนา-ศรีนครินทร์ มีโรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรู, ATP แบริ่ง มอลล์, The Coast Village,โรงเรียนนานาชาติเบิร์คลีย์. Bangkok mall (โครงการในอนาคต), Central บางนา, Big C บางนา, Bizzo บางนา, Foodland และ Jas Urban ในรัสมี 5 กม. ถัดไปเป็น Mega Bangna และ Ikea บางนาในรัสมี 10 กม.
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : ถือว่าสามารถเดินทางได้สะดวกและหลากหลายเส้นทาง จากที่ตั้งโครงการสามารถใช้เส้นทางสุขุมวิทเข้าไปทางพระโขนงหรือออกไปยังปากน้ำสมุทรปราการ หรือตัดเข้าเส้นเทพารักษ์เพื่อไปยังถนนศรีนครินทร์ที่เขื่อมต่อไปทางฝั่งดินแดง-พระราม 9 และยังสามารถใช้เส้นรางรถไฟเก่าหรือทางด่วนเฉลิมมหานครมุ่งหน้าไปทางฝั่งสาทรได้ นอกจากนี้ก็ยังมีทางด่วนบางพลี-สุขสวัสดิ์ห่างจากโครงการประมาณ 2 กม. และบางนา-ตราดห่างจากโครงการประมาณ 8 กม.
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : การเดินทางที่สะดวกที่สุดคือทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายสถานีปู่เจ้าสมิงพรายที่ห่างจากโครงการเพียง 300 เมตร สามารถเดินเท้าจากโครงการมายังสถานีได้ในเวลา 4 นาที นอกจากรถไฟฟ้าก็ยังมีรถสองแถวประจำทางให้บริการในบริเวณย่านสำโรง และมีป้ายรถเมล์ที่หน้าปากซอยสุขุมวิท 115
การออกแบบโครงการและวัสดุ : โครงการ Pause สุขุมวิท 115 มีพื้นที่โครงการ1-1-83 ไร่ จำนวน 310 ยูนิต แบ่งออกเป็น 2 อาคาร 8 ชั้น มีแบบห้องให้เลือกด้วยกัน 6 Type ดังนี้
การออกแบบเป็นสไตล์โมเดิร์นเรียบง่าย เน้นฟังก์ชั่นการใช้งานในพื้นที่จำกัด มีการเชื่อมต่อฟังก์ชั่นต่างๆที่ลงตัว อาคารเป็นแบบ Low-rise 8 ชั้น แยกเป็น 2 อาคาร จึงมีการใช้งานที่ค่อนข้างสงบไม่วุ่นวายสอดคล้องกับทำเลที่ตั้งของโครงการที่เป็นย่านปริมณฑล ส่วนกลางมีความร่มรื่นสวยงามน่าใช้งาน แม้จะมีขนาดไม่ใหญ่แต่มีการกระจายการใช้งานแบ่งออกทั้ง 2 อาคารเพื่อลดความแออัดในการใช้งานช่วง Prime time
วัสดุที่ทางโครงการให้มาเป็นวัสดุที่เป็นมาตรฐาน พื้นห้องเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ผนังภายในทาสีภายในสีขาว ห้องน้ำปูกระเบื้องเซรามิก ขนาด 40 x 40 ซม. สีโทนเข้มตัดกับผนังสีขาวที่ปูกระเบื้องเซรามิก ขนาด 20 x 40 ซม. เต็มผนัง สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆเป็นของ American Standard ทั้งหมด และมีการแบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งด้วยบานเลื่อนกระจกสำเร็จรูป
เฟอร์นิเจอร์ที่ให้เป็นเฟอร์นิเจอร์ Built-in ทำจากไม้ MDF ปิดผิว PVC สีขาว และเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวของ Index ถือว่ามีคุณภาพตามมาตรฐานทั่วไปแต่เน้นเรื่องความสวยงามและฟังก์ชั่นเป็นหลัก ในส่วนของประตูทางเข้าเป็นบานไม้ HDF ปิดผิวลามิเนตใช้มือจับแบบ Digital ที่ใช้คีย์การ์ดในการปลดล็อค ประตูภายในและหน้าต่างทั่วไปเป็นบานเลื่อนสลับหรือหน้าต่างบานเปิดวงกบอลูมีเนียมสีดำ ประตูห้องน้ำบาง Type เป็นไม้ HDF ทั้งบานประตูและวงกบ
สิ่งอำนวยความสะดวก : ในโครงการประกอบด้วยสวนหย่อม, Lobby และ Library ที่ชั้น 1 และที่ชั้น 8 แยกแต่ละอาคารเป็นฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, Sky Lounge และ BBQ โซน ต่อเนื่องไปถึงชั้นดาดฟ้า นับว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ค่อนข้างครบครัน แม้จะไม่ใช่ส่วนกลางที่ใหญ่ก็ตาม
ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นการรักษาความปลอดภัย 24 ชม. ประกอบด้วย 4 ระบบ ได้แก่ กล้องวงจรปิด CCTV, คีย์การ์ดหรือ Access Card System ที่เป็นแบบล็อคชั้น (ใช้กับประตูทางเข้าอาคาร, ลิฟท์และประตูห้อง) , ไม้กระดก และพนักงานรักษาความปลอดภัยค่ะ
:::คะแนน:::
| ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.0 | อยู่ในเขตปริมณฑลชั้นใน ใกล้ถนนใหญ่ ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าเพียง 300 เมตร สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการค่อนข้างเงียบ |
| การเดินทาง ใช้รถ | 8.5 | ตั้งอยู่บนเส้นสุขุมวิท ใกล้ถนนเส้นใหญ่หลายสาย ใกล้ทางด่วนทั้งขาเข้ากรุงเทพฯ และขาออก |
| การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 8.5 | ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวเพียง 300 เมตรถึงสถานีปูเจ้า มีมอเตอร์ไซค์รับจ้างผ่านหน้าโครงการ สามารถเดินมาขึ้นรถสองแถวที่ถนนใหญ่ได้ |
| ห้องและวัสดุ | 8.0 | จัดสรรพื้นที่ได้ค่อนข้างลงตัว วัสดุที่ใช้ส่วนใหญ่มีคุณภาพโดยเฉพาะสุขภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์ Built-in เน้นการออกแบบที่คำนึงถึงการใช้งานเป็นหลัก และเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพปานกลาง |
| สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.0 | มีส่วนกลางที่หลากหลายและสวยงามน่าใช้ ทั้งสวน, สระว่ายน้ำ และฟิตเนส แต่มีขนาดค่อนข้างเล็กเพราะแบ่งออกเป็น 2 อาคาร |
| ความคุ้มค่ากับราคา | 8.5 | แบบห้องมีแค่ 1 ห้องนอน เหมาะสำหรับอยู่คนเดียว หรือเป็นที่พักชั่วคราว เหมาะกับคนที่ต้องการเดินทางโดยรถไฟฟ้า |
| คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.25 | ดีมาก |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 092-716-4400
หากท่านเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
ขายดาวน์ คือจองและทำสัญญามา 30,000บาท ติดต่อ 085-6791254
🙂 คอนโด พอส สุขุมวิท 115 ของออริจิน ใกล้ BTS ราคาคอนโด 1.39 ล้านบาท
มีรายการแถมคือ Build in Pantry, Hob, Hood, Air condition 9,000btu 2unit, TV Carbinet, Wardobe, Bed 5ft., Shower Screen, Digital Door Lock, Sofa, Shelf Master Bed room, Multiple Table
🙂 อันนี้ต่อรองเพิ่มตอนจะจอง คือ แุถมเพิ่ม เครื่องซักผ้า1เครื่อง และมีเพิ่ม Cash Back 30,000บาท จากโครงการ
🙂 ไม่มีผ่อนดาวน์ รอยื่นกู้ปลายปี 2016
🙂 ไม่มีค่าเปลี่ยนสัญญา
สนใจติดต่อ นุช 085-6791254
ขายดาวน์ Pause Condo 115
ราคา presale 1,390,000฿
Sale : 130,000฿
ค่าจอง&ทำสัญญา+ผ่อนดาวน์ 15 งวด = 113,850฿
เหลือผ่อนดาวน์อีก 3 งวด = 35,150฿
กันยายน นี้สามารถเข้าตรวจเช็คห้องได้แล้วคะ
สนใจสอบถามได้นะค่ะ : 088-1611299
Line ID : rabbititez
รายละเอียด :
http://www.thaihometown.com/condo/334016