EP.380 รีวิว ทาวน์โฮม พฤกษาวิลล์ 66/2 บางนา – หนามแดง ใกล้ถนนบางนา และทางด่วน ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
สวัสดีชาว Homenayoo ทุกคนค่ะ วันนี้เรามีโครงการ พฤกษาวิลล์ 66/2 บางนา – หนามแดง โครงการทาวน์โฮมจากพฤกษา เรียลเอสเตท ที่อยู่ใน Pruksa Avenue (ศรีนครินทร์ – หนามแดง) โดยตัวโครงการเป็นทาน์โฮม 2 ชั้น มีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ ภายใต้แนวคิดสไตล์ชีวิต คิดรอบด้าน กับราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท ไม่รอช้า ไปชมรายละเอียดด้านล่างกันต่อได้เลยค่า
ชื่อโครงการ | พฤกษาวิลล์ 66/2 บางนา – หนามแดง Pruksa Ville 66 Bangna-Nhamdaeng |
เจ้าของโครงการ | พฤกษา เรียลเอสเตท – Pruksa Real Estate |
ลักษณะโครงการ | ทาวน์โฮม |
พื้นที่โครงการ | 1-1-73 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 493 ยูนิต |
พื้นที่ใช้สอย | ตั้งแต่ 95.0 – 110.0 ตร.ม. |
เนื้อที่บ้าน | ตั้งแต่ 17 – 18 ตร.ว. |
โซน | สมุทรปราการ, บางพลี, บางบ่อ, พระประแดง |
ขนส่งสาธารณะ | n/a |
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ถนนบัวนครินทร์ ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540 |
กำหนดการ | n/a |
ปีที่สร้างเสร็จ | พ.ศ. 2561 |
ราคา | เริ่มต้น 1.69 ล้านบาท |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก | – สวนสาธารณะ – รปภ., CCTV, อื่นๆ (Auto Access Card) |
จุดเด่นของโครงการ | ทาวน์เฮาส์ในสังคมคุณภาพใกล้เมือง ให้คุณเดินทางสะดวกสบายด้วยทางยกระดับ สายบางนา-ชลบุรีและวงแหวนรอบนอก ดีไซน์บ้านแบบใหม่ในสไตล์ Modern Us กับฟังก์ชั่นการออกแบบอย่างลงตัว ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่สามารถให้คุณจัดสรรเวลาได้อย่างลงตัวที่สุด |
โครงการโดยรอบ
ที่ตั้งโครงการ
ถนนบัวนครินทร์ ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540
พิกัด : 13.626558, 100.658564
แผนที่จากทางโครงการแสดงเส้นทางและความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการแต่สเกลอาจจะดูงงๆ เดี๋ยวเราไปดูแผนที่ที่เราทำมาให้ดูกันดีกว่านะคะ
โครงการพฤกษาวิลล์ 66/2 บางนา – หนามแดง ตั้งอยู่ในพฤกษา อเวนิว (Pruksa Avenue) อีกแห่งของพฤกษา ที่ตั้งอยู่ในโซนศรีนครินทร์ – หนามแดง ซึ่งตัวพฤกษาอเวนิวนี้ จะเป็นที่ดินขนาดใหญ่ ประมาณ 313 ไร่ ที่รวมโครงการบ้าน และทาวน์โฮมของแบรนด์พฤกษาไว้ประมาณ 7 โครงการ ปัจจุบันนี้ก็โครงการในพฤกษา อเวนิว (ศรีนครินทร์ – หนามแดง) ก็มีอยู่ประมาณ 6 โครงการแล้วค่ะ
โดยตัวพฤกษา อเวนิวนี้ จะมีที่ตั้งอยู่บนทำเลศรีนครินทร์ – หนามแดง ที่สามารถเข้าถึงได้จาก 2 เส้นทาง คือทางเข้าหลักบนถนนหนามแดง – บางพลี และอีกเส้นทางคือถนนบัวนครินทร์ ส่วนตัวโครงการ พฤกษาวิลล์ 66/2 บางนา – หนามแดง จะเป็นโครงการที่อยู่ลึกที่สุดในอเวนิว โดยมีระยะจากทางเข้าอเวนิว บนถนนหนามแดง ถึงตัวโครงการประมาณ 1.2 กิโลเมตรค่ะ
สภาพแวดล้อมในวงกว้างเรียกว่าอยู่ในละเเวกอุตสาหกรรม ที่มีทั้งโรงงานและโกดังเก็บของ ส่วนสภาพแวดล้อมบนถนนหนามแดงส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะชุมชน มีทั้งวัดและโรงเรียนวัดหนามแดง, โครงการแนวราบทั้งทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยว มีร้านอาหารบ้างประปราย ส่วนสภาพแวดล้อมโดยรวมรอบๆในอเวนิวจะเงียบสงบตามสไตล์พฤกษา อเวนิวค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ของโครงการในระยะเดินไม่มี ส่วนความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้างออกมาก็พอมีให้พึ่งพาได้บ้าง โดยมีร้านอาหารบนถนนหนามแดง โดยเฉพาะช่วงต้นถนน ฝั่งถนนศรีนครินทร์ จะมีเยอะกว่าช่วงท้ายๆ นอกจากนั้นก็จะมี Mini Big C กับ 7-11 อย่างละ 1 จุด ส่วนในวงกว้างออกมาอีกจะมี Lotus Plus Mall, Makro และ BigC บนถนนศรีนครินทร์
ถ้าใครอยากจะเดินตลาดใหญ่ๆหน่อยก็ต้องขึ้นไปตลาด Number One Plaza ที่มีทั้งตลาดสด และตลาดนัดเลยค่ะ ส่วนแหล่ง Shopping จะต้องไปช่วงถนนบางนาเลยค่ะ ซึ่งจะมี Mega Bangna, Ikea และ Central บางนาหรือจะขึ้นไปทางโซนศรีครินทร์ ซึ่งก็จะมี Paradise Park และ Seacon Square ที่นับเป็นแหล่งช้อปปิ้งหลักของย่านศรีนครินทร์ค่ะ
สำหรับการการเดินทาง สามารถไปได้หลายทางค่อนข้างสะดวกแต่รถติด เพราะอยู่ในละแวกอุตสาหกรรม ส่วนเข้าถึงโครงการสามารถใช้ถนนเส้นหลักๆ 2 เส้น คือถนนหนามแดง – บางพลี และถนนบัวศรีนครินทร์ ซึ่งทั้ง 2 เส้นนี้ สามารถเชื่อมกับเส้นทางหลักๆ อย่างถนนศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่สามารถเชื่อมไปในเมืองอย่าง ถนนรามคำแหง, พัฒนาการ, อ่อนนุชได้ และถนนเทพารักษ์ ที่เชื่อมเข้าสู่ถนนสายหลักอย่างสุขุมวิท ที่สามารถพาเราเข้าและออกเมืองได้สะดวก
สำหรับทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุด จะเป็นวงแหวนรอบนอก ที่จุดขึ้นลงทางด่วนเทพารักษ์ ซึ่งจุดนี้สามารถใช้ได้ทั้งขาเข้า และขาออกเลยค่ะ ระยะทางจากโครงการมาที่จุดขึ้นทางด่วนนี้ ก็จะอยู่ที่ประมาณ 5.7 กม. ใช้เวลาประมาณ 11 นาทีค่ะ
ส่วนทางด่วนบูรพาวิถี (บางนา-บางปะกง) มีจุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้ที่สุด คือด่านเก็บเงินบางพลี ทางด่วนเส้นนี้จะเป็นขาเข้าเมืองนะคะ ระยะทางจากโครงการถึงที่จุดขึ้นทางด่วนประมาณ 8.9 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาทีค่ะ ซึ่งเวลาต่างๆที่บอกไว้ข้างต้น จะเป็นเวลาในการเดินทางเพียงคร่าวๆ ในวันที่การจราจรโล่งเป็นส่วนใหญ่เท่านั้น ถ้าหากช่วงไหนรถติดก็ต้องวางแผนการเดินทางกันใหม่อีกครั้งนะคะ
สำหรับการเดินทางโดยรถสาธารณะค่อนข้างลำบาก เพราะตัวโครงการเข้าซอยมาค่อนข้างลึก แถมยังอยู่ท้ายสุดของตัวพฤกษา อเวนิวเลยด้วย จะเดินเข้ามาก็เกินระยะเดินสบายแล้ว เพราะฉะนั้นการเดินทางเข้าโครงการจึงต้องใช้บริการ Taxi เท่านั้นค่ะ และถ้าจะออกจากโครงการไปข้างนอกก็จะต้องอาศัยโทรเรียก Taxi เข้ามารับเท่านั้น
แต่ถ้าเรามาจากในเมืองก็ยังพอมีทางเลือกให้ใช้รถไฟฟ้า BTS โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็น BTS แบริ่ง แต่ก็ยังถือว่าไกลจากตัวโครงการอยู่ค่ะ ยังไงก็ต้องเรียกพี่ Taxi เข้ามาส่งในโครงการอยู่ดีนะคะ
นอกจากนั้นในอนาคต ก็จะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อจากลาดพร้าวมาถึงสำโรง โดยรถไฟฟ้าสายสีเหลืองนี้ จะสามารถเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน, รถไฟฟ้าสายสีเทา, รถไฟฟ้าสายสีส้มและ Airport Rail Link โดยวิ่งมาตามเส้นลาดพร้าว, ถนนศรีนครินทร์ และสิ้นสุดที่สถานีสำโรง รวมทั้งสิ้น 23 สถานี และจะมีสถานีศรีด่าน ที่อยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุด ทำให้การเดินทางสะดวกสบายมากขึ้นค่ะ (กำหนดการเสร็จปี 2562)
สำหรับการเดินทางในวันนี้ เราจะเริ่มต้นที่ Big C บางนา กลับรถที่แยกศรีนครินทร์ เพื่อเข้าสู่ถนนศรีนครินทร์ ตรงไปบนถนนศรีนครินทร์เรื่อยๆ จนถึงบริเวณแยกวัดด่านสำโรง เลี้ยวซ้ายเข้าถนนหนามแดง – บางพลี ตรงไปบนถนนเรื่อยๆประมาณ 3.5 กิโลเมตร จะถึง Pruksa Avenue เลี้ยวซ้ายเข้าโครงการ แล้วขับตรงไปเรื่อยๆ ถึงแยกแล้วเลี้ยวซ้าย ระยะทางจากทางเข้าจนถึงโครงการประมาณ 1.2 กิโลเมตรค่ะ
สรุปการเดินทาง BigC บางนา > ถนนศรีนครินทร์ > แยกวัดด่านสำโรง > ถนนหนามแดง – บางพลี > Pruksa Avenue > พฤกษาวิลล์ 66/2 บางนา – หนามแดง
เริ่มต้นการเดินทางจาก Big C บางนา ซึ่งจะอยู่ถัดมาจาก Central บางนาค่ะ
ขับตรงมาเรื่อยๆ ผ่านโรงพยาบาลไทยนครินทร์
ขับตรงไปเรื่อยๆ มุ่งหน้าถนนเทพารักษ์ ใครอยากแวะหาไอเดียตกแต่งบ้าน ก็สามารถแวะ SB Design Square ระหว่างทางได้นะ
เห็นป้ายไปเทพารักษ์ เราตรงผ่านไปแล้วเตรียมชิดซ้ายไว้ค่ะ
เลี้ยวซ้ายเพื่อกลับรถไปถนนศรีนครินทร์ สะพานสูงๆขวามือที่เราเห็นคือทางพิเศษบูรพาวิถีค่ะ
ตอนนี้เราอยู่บนถนนศรีนครินทร์ มุ่งหน้าสมุทรปราการแล้วค่ะ
ขับตรงไปเรื่อยๆ ขึ้นสะพานข้ามแยกศิครินทร์
ลงจากสะพานข้ามแยกมาสักพักจะเจอ แม็คโคร และ Big C ทางซ้ายมือ
ผ่าน Teso Lotus Express
ขับมาอีกสักพักจะเจอ FoodLand ใครหิวแวะทานอาหารก่อนได้นะ
ตรงมาเรื่อยๆ จะเริ่มเห็นป้ายบอกทางไปโครงการ และป้ายบอกทางไปบางพลี ก็เตรียมชิดซ้ายไว้เลยค่ะ
ชิดเลนซ้ายมาเรื่อยๆ เราจะตรงเข้าแยกวัดด่านสำโรง ส่วนสะพานทางขวา คือสะพานข้ามแยกวัดด่านสำโรง ซึ่งถ้าจะมาโครงการแล้วเผลอชิดขวาขึ้นสะพานไป นี่ต้องกลับรถไกลเลยนะคะ สังเกตุกันให้ดีๆ
ตรงมาอีกนิดจะเห็นป้ายบอกทางเข้าถนนหนามแดงแล้ว
เลี้ยวซ้ายเข้าถนนหนามแดง – บางพลีค่ะ
เข้ามาบนถนนบางพลีจะเป็นถนน 2 เลน ที่รถค่อนข้างติด เป็นผลมาจากโรงเรียนสารสาสน์วิเทศ ซึ่งได้ยินข่าวมาว่าจะมีการขยายถนนให้กว้างขึ้น แต่ยังไม่แน่นอนนะคะ ถ้ามีความคืบหน้าจะมาอัพเดตข้อมูลเพิ่มเติมให้ค่ะ
เข้าเขต อบต.บางแก้วค่ะ
สภาพแวดล้อมบนถนนหนามแดง – บางพลี ส่วนใหญ่จะเป็นทาวน์โฮม มีร้านอาหารหลายร้าน ช่วงต้นๆซอย แต่ปลายซอยจะเงียบหน่อยค่ะ
ผ่าน Mini BigC ซึ่งเป็น Hyper Market ที่ใกล้โครงการที่สุดค่ะ
และ 7-11 ที่ใกล้โครงการที่สุดอีก 1 จุด
ผ่านโรงเรียนวัดหนามแดง ที่ช่วงเช้า และช่วงเลิกเรียน รถจะติดหน่อยนะคะ
ตรงมาอีกสักพักก็จะเห็นโครงการ Pruksa Avenue แล้วค่ะ รวมระยะจากปากซอยจนถึงโครงการราวๆ 3.5 กิโลเมตร
ภายใน อเวนิว จะมีถนนเส้นหลัก 1 เส้น ที่เชื่อมทุกโครงการถึงกัน เมื่อเราเข้าอเวนิวแล้วก็ตรงไปยาวๆ พอถึงทางแยกสุดถนนเลี้ยวซ้าย แล้วตรงไปอีกประมาณ 380 เมตร ก็จะถึงโครงการ พฤกษา 66/2 บางนา – หนามแดง แล้วค่ะ รวมระยะจากปากทางเข้าจนถึงโครงการประมาณ 1.2 กม. ค่ะ
เข้ามาใน พฤกษา อเวนิว จะเจอกับป้อม รปภ. ก่อนเป็นสิ่งแรก ตรงจุดนี้จะมีรปภ. ตลอด 24 ชั่วโมค่ะ
ถนนในอเวนิวเป็นถนนภาระจำยอม 2 เลน
ผ่านโครงการ The Plant ศรีนครินทร์ – หนามแดง เป็นโครงการแรก
ถัดมาเป็นโครงการพฤกษา ไพร์ม
และ Passorn Pride
ตรงมาจนสุดถนนเจอทางแยกแล้วเราเลี้ยวซ้าย ส่วนทางขวาจะเป็นทางเข้าจากบัวนครินทร์ค่ะ
เลี้ยวซ้ายมาแล้วผ่านโครงการบ้านพฤกษา ไพร์ม บางพลี – หนามแดง ข้ามสะพานไปค่ะ
ลงสะพานมาจะผ่านโครงการข้างเคียง คือบ้านพฤกษา ศรีนครินทร์ – บางนา
ตรงมาอีกนิดก็จะถึงโครงการพฤกษาวิลล์ 66/2 บางนา – หนามแดง แล้วค่า
ก่อนที่เราจะไปดูรายละเอียดอื่นๆของโครงการ เดี๋ยวจะขอเล่ารายละเอียดของตัวพฤกษา อเวนิวให้อ่านกันก่อนนะคะ ตัวพฤกษา อเวนิว (Pruksa Avenue) ศรีนครินทร์ – หนามแดง เป็นกลุ่มโครงการแนวราบของพฤกษาทั้งหมด 7 โครงการ บนผืนที่ดินขนาดใหญ่
โดยมีการวางผังให้ทุกโครงการมีถนนเชื่อมถึงกันหมด ซึ่งทางเข้าหลักของอเวนิว จะอยู่บนถนนหนามแดง และทางเข้าอีกทาง คือจากถนนบัวนครินทร์ สภาพแวดล้อมโดยรอบตัวอเวนิวส่วนใหญ่จะเป็นโครงการแนวราบ และยังเป็นพื้นที่สีเชียว หรือที่ดินเปล่าอยู่เป็นบริเวณกว้างค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
รอบๆโครงการ
หน้าโครงการเป็นถนนวงเวียนของโครงการ
ซ้ายมือเป็นรั้วโครงการสูงประมาณ 2 เมตร
หลังรั้วเป็นบึงขนาดใหญ่
ขวามือเป็นโครงการบ้านพฤกษา ศรีนครินทร์ – บางนา ที่กำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ
ตัวโครงการ
ก่อนพาเข้าไปดูตัวโครงการของจริง จะขออธิบายผังโครงการคร่าวๆ เพื่อความเข้าใจง่ายก่อนนะคะ โครงการ พฤกษาวิลล์ 66/2 บางนา – หนามแดง เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร 493 ยูนิต โดยแบบบ้านจะมีทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่ ทาวน์โฮม Glory พื้นที่ใช้สอย 96 ตร.ม. และแบบ Shine พื้นที่ใช้สอย 110 ตร.ม
จากผังจะเห็นว่าโครงการจะมีทางเข้าออกทางเดียว คือทางเข้าหลักจากถนนพฤกษา อเวนิว โดยต้องผ่านป้อมรปภ. ซึ่งมีระบบรักษาความปลอดภัยเป็น Double Security Gate คือประตูรั้วไม้กระดก และประตูบานใหญ่อีกชั้นหนึ่ง ที่คัดกรองลูกบ้านด้วยระบบ Access Key Card ระยะใกล้ เข้ามาในโครงการจะเจอถนน Main ของโครงการกว้าง 16 เมตร และมีถนนรองกว้าง 12.70 เมตร และ 12 เมตร
ส่วนถนนในซอยย่อยที่แจกเข้าบ้านแต่ละหลัง กว้าง 8 เมตร ส่วนกลางมี 1 จุด จะอยู่ที่ช่วงต้นโครงการซึ่งจะมี Sale Office และสวนหย่อมขนาดประมาณ 1 – 1 – 73 ไร่ พร้อมศาลา 1 หลัง และทางเดินรอบสวน
ซุ้มทางเข้าหลักโครงการสไตล์โมเดิร์น ประกบข้างด้วยป้ายโครงการสีดำ ตัวซุ้มแยกทางเข้า – ออก 2 ทาง เน้นโทนสีเทาและโครงเหล็กสีดำ ตัวซุ้มโครงเหล็กนั้น ไม่สามารถกันฝนได้แขนอาจจะเปียกนิดหน่อยเวลายื่นมือไปสแกนบัตรเข้า – ออก โครงการ แต่ยังพอกันแดดได้บ้างนะคะ
ระบบความปลอดภัยของที่นี่จะมี Access Card ระยะใกล้ รั้วกั้นไม้กระดกกั้น และประตูเลื่อนไฟฟ้า ส่วนถ้าเป็นผู้มาติดต่อจะต้องแลกบัตรกับพี่ รปภ.ก่อน ซึ่งจะประจำอยู่ที่ซุ้มตลอด 24 ชม.
กล้องวงจรปิด 2 ตัวส่องบน-ล่าง เห็นทั้งหน้าคนขับทั้งป้ายทะเบียนเลยค่ะ
และทางเดินเท้าเข้าโครงการซึ่งจริงๆ คงจะไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่นะ
เข้ามาในโครงการเจอกับถนน Main กว้าง 16 เมตร
ขวามือเป็นบ้านตัวอย่างทั้งบ้านจริง และบ้านเปล่า
ซ้ายมือเป็น Sale Office
ติดกับ Sale Office เป็นถนนเข้าซอยย่อยแรก
ถนนภายในซอยย่อยด้านหลัง Sale Office กว้าง 8 เมตร
ติดกันเป็นสวนหย่อมขนาด 1-1-73 ไร่ เป็นส่วนกลางจุดเดียวของโครงการ ซึ่งเดี๋ยวเราจะไปดูสภาพรวมๆ ของโครงการก่อนแล้ว เราจะกลับมาดูรายละเอียดส่วนกลางกันตอนท้ายนะคะ
ริมถนนจะมีทางเท้าขนาดประมาณ 1 คน เดินสะดวกค่ะ
ภายในซอยย่อยเป็นถนนกว้าง 8 เมตร จะเป็นถือว่ากว้างมาตรฐาน พอให้รถวิ่งได้สะดวกพอสมควรค่ะ ถ้าในอนาคตมีรถมาจอดเรียงรายหน้าบ้านกันทั้ง 2 ฝั่งถนน ก็ยังพอวิ่งสวนกันได้แต่ต้องหลบๆกันสักหน่อยนะ
ระหว่างบล็อคบ้านแต่ละชุดจะมีจุดกลับรถให้ พร้อมลงต้นไม้ให้ 1 ต้น
หน้าบ้านทุกหลังจะทำเป็นถนนลาดเอียงแบบนี้ จะได้ถอยรถเข้าออกบ้านได้สะดวก
กลับมาที่สวนส่วนกลางของโครงการกันค่ะ
ทางเดินรอบสวนตกแต่งด้วยกรวดสีน้ำตาล
ที่นั่งพักผ่อนตามทางเดิน เป็นที่นั่งใต้ต้นไม้ที่อาจจะร้อนหน่อยในวันแดดแรง ต้องรอให้ต้นไม้โตอีกหน่อยน่าจะร่มรื่นขึ้นอีกนะคะ
มีศาลาสไตล์โมเดิร์นให้นั่งพักผ่อน 1 จุด รอบๆศาลาก็มีพื้นคอนกรีตให้นั่งเล่นทำกิจกรรมกันได้ด้วยค่ะ
สวนขนาดประมาณ 1 ไร่ ลงหญ้าและต้นไม้ไว้รอวันโตจะร่มรื่นขึ้นกว่านี้อีกค่ะ
มุมมองจากสวนไปที่ถนนหลักของโครงการ
Sale Office ของโครงการก็มาในสไตล์โมเดิร์น กระจกรอบด้าน ซึ่ง Sale Office นี้จะเปลี่ยนเป็นนิติบุคคลในอนาคตค่ะ
มีจุดนั่งเล่นข้าง Sale Office ด้านหลังเป็นห้องน้ำรับรองแขกค่ะ
เข้ามาด้านใน Sale Office จะเจอเคาน์เตอร์ต้อนรับ พร้อมเซลล์ของโครงการที่พร้อมจะให้ข้อมูลโครงการค่ะ
ซ้ายมือเป็นที่นั่งรับรองและประตูออกไปห้องน้ำแขก
ทางขวามือก็เป็นที่นั่งรับรองอีกชุดนึงค่ะ
บ้านตัวอย่าง
โครงการนี้มีบ้านให้เลือก 2 แบบ คือ
ส่วนบ้านตัวอย่างที่เราจะพาทุกคนไปดูวันนี้ จะเป็นบ้านแบบ Glory ซึ่งจะพาไปดูอย่างละเอียดแค่แบบเดียวเท่านั้นนะคะ เพราะทั้ง 2 แบบ แทบจะเหมือนกันเลยคือ มีหน้ากว้าง 5.7 เมตร, การจัดวางแปลนและวางฟังก์ชั่นภายในบ้านก็เหมือนกัน ที่แตกต่างกันจะมีแค่ความลึกของตัวบ้าน ซึ่งแบบ Glory จะลึก 7.0 เมตร และแบบ Shine ลึก 7.8 เมตรค่ะ
เริ่มกันที่แบบแปลนของบ้านกันก่อน บ้านแบบ Glory จะมีหน้ากว้าง 5.7 เมตร พื้นที่ใช้สอยประมาณ 96 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องทานอาหาร 1 ครัวเปิดและ 1 ที่จอดรถ บนที่ดินเริ่มต้น 18.3 ตร. วา
โดยเมื่อเข้ามาในบริเวณบ้านจะเจอกับพื้นที่จอดรถขนาด 1 คัน ที่จอดรถจะมีห้องเก็บของเล็กๆอยู่ด้วย เผื่อเก็บอุปกรณ์สวนหรือเครื่องมือซ่อมรถ ข้างพื้นที่จอดรถ จะมีพื้นที่สวนหน้าบ้านเหลือนิดหน่อย สามารถจะจัดเป็นสวนหย่อมเล็กๆ, ลงต้นไม้ เพื่อบังสายตาจากเพื่อนบ้าน หรือจะวางโต๊ะเก้าอี้เล็กๆ ไว้นั่งพักผ่อนก็ได้ค่ะ
ส่วนทางเข้าบ้านจะมีทางเดียว คือประตูทางเข้าหลักหน้าบ้าน เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอกับห้องรับแขกก่อน จากห้องรับแขกจะมีพื้นที่ต่อเนื่องไปยังห้องทานอาหาร ที่มีประตูเปิดออกไปยังลานซักล้าง ติดกับห้องทานอาหารเป็นห้องครัว โดยที่ห้องครัวจะให้มาเป็นครัวเปิด ซึ่งเราสามารถทำประตูกั้นเป็นครัวปิดได้ เพื่อป้องกันกลิ่นอาหารไปติดตามเฟอร์นิเจอร์อื่นๆในบ้าน ส่วนห้องน้ำที่ชั้น 1 นี้จะอยู่ติดกับบันได ซึ่งสามารถเข้าถึงได้จากห้องครัวเท่านั้น โดยห้องน้ำที่ชั้น 1 นี้จะมีส่วนอาบน้ำมาให้ด้วย แต่ไม่ได้แยกส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้ค่ะ
ขึ้นมาชั้น 2 จะมีห้องนอน 3 ห้อง เป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องทางฝั่งหลังบ้านและ Master Bedroom จะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน และจะได้พื้นที่เต็มหน้ากว้างบ้าน ทำให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับจะเป็น Walk – in Closet ได้ ซึ่งทั้ง 3 ห้องนี้จะใช้ห้องน้ำที่โถงบันไดร่วมกัน โดยห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันนี้จะมีทางเข้าออก 2 ทาง คือจากโถงบันไดและ Master Bedroom ในช่วงเวลาเร่งด่วนที่ต้องใช้ห้องน้ำพร้อมๆกันทุกคนก็อาจจะไม่เพียงพอคงจะต้องลงไปใช้ห้องน้ำที่ชั้นล่างค่ะ
มาดูของจริงกันเลยค่ะ ตัวบ้านออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น เน้นโทนสีเทาเข้มและเทาอ่อน มีระแนงสีขาวตกแต่งเพื่อบังคอมเพรสเซอร์แอร์
บ้านจริงจะได้รั้วซี่เหล็กสีดำ เป็นบานพับ 6 ตอนสูงประมาณ 1.5 เมตร
หน้าบ้านแต่ละหลังจะมีกริ่ง, ป้ายเลขที่บ้าน และดวงไฟมาให้ 1 ดวง แต่ไม่มีกล่องจดหมายมาให้ คงต้องซื้อมาติดตั้งเองนะคะ
รั้วกั้นบ้านหลังที่ติดกันจะเป็นรั้วทึบสูง 1.5 เมตร แบบนี้
ส่วนบ้านแปลงมุม จะได้รั้วบ้านฝั่งที่ไม่ใช้ผนังร่วมกับเพื่อนบ้าน เป็นรั้วโปร่งเหล็กซี่สีดำแบบนี้ ความสูง 1.5 เมตร
พื้นหน้าบ้านจะเทซีเมนต์ขัดหยาบเต็มหน้ากว้างบ้าน พื้นจะทำเป็น Slope เพื่อให้นำรถเข้ามาจอดได้สะดวกๆ ส่วนพื้นที่เหลือข้างบ้านจะได้เป็นทรายปรับระดับนะคะ
ส่วนหน้าบ้านจะถูกแบ่งเป็นที่จอดรถและประตูหลักสำหรับเข้าบ้าน
พื้นที่จอดรถสามารถจอดรถได้ 1 คัน ขวาบนจะเห็นช่องแสงบาน Fix 1 บาน เป็นช่องแสงของโถงบันได ล่างซ้ายก็มีช่องเก็บของเล็กๆอีก 1 จุดค่ะ บนฝ้าเพดานมีโคมไฟซาลาเปามาให้ 1 ดวง ถ้าอยากให้ที่จอดรถมีแสงสว่างมากกว่านี้เผื่อเวลาถอยจอดตอนกลางคืนแนะนำให้ติดดวงไฟเพิ่มนะคะ
ฝั่งประตูทางเข้าหลักของบ้านมีไฟส่องสว่างมาให้ 1 จุด
เฉลียงทางเข้ากว้างประมาณ 60 ซม. ยกพื้นสูงขึ้นมาประมาณ 8 ซม.
ประตูเป็นประตูบานเลื่อนเดี่ยวบานกรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ บานกระจกสีเขียวตัดแสง ประตูเข้าบ้านหลักที่เป็นกระจกเต็มบานแบบนี้กำลังเป็นที่นิยม แต่อาจจะมีความปลอดภัยน้อยกว่ากระจกบานทึบแนะนำให้ติดประตูเหล็กดัดเพิ่มด้านในนะคะ
พื้นบ้านยกพื้นสูงขึ้นมาประมาณ 8 ซม.ปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ขนาด 30 x 30 ซม. ตัวรางของประตูทางเข้าหลัก ติดตั้งบนพื้นที่ลดระดับไว้แล้ว เวลาเดินจะสะดวกมากขึ้นเพราะไม่มีตัวรางมาเกะกะค่ะ
มือจับและตัวล็อค
เข้ามาในตัวบ้านส่วนแรกคือห้องรับแขก จากตรงนี้เราก็จะเห็นห้องทานอาหาร และประตูออกไปหลังบ้าน ซ้ายมือมีบันไดขึ้นชั้น 2 พื้นชั้น 1 ปูกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม. ความสูงฝ้าเพดาน 2.60 เมตร ผนังของจริงจะได้เป็นฉาบเรียบทาสีพร้อมบัวผนังสีขาวทั้งหมด
ส่วนห้องรับแขกนี้จะได้ดวงไฟซาลาเปาสี Daylight มา 1 ดวงค่ะ
ห้องรับแขกจะมีช่องแสง 2 จุด คือจากประตูทางเข้าหลักและหน้าต่างบานเลื่อนข้างบ้าน ซึ่งถ้าเป็นแปลงมาตรฐานก็จะไม่มีบานข้างบ้านนะคะ จะได้แสงธรรมชาติจากประตูหลักเข้าบ้านทางเดียวเท่านั้น ตรงนี้ถ้าใครกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวแนะนำให้ติดม่านบังสายตาไว้ เพราะบานประตูค่อนข้างใหญ่ ใครผ่านไปมามองเข้ามาเห็นแน่นอนเลย
หน้าต่างเกือบทุกบานในบ้านหลังนี้ จะเป็นหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยว บานกรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ กระจกเขียวตัดแสงแบบนี้ค่ะ
มือจับของบานหน้าต่างจะเป็นแผ่นอลูมิเนียมยื่นออกมาให้จับแบบนี้ และตัวล็อคก้นหอยค่ะ
ทางขวามือเป็นที่วางโซฟา บ้านตัวอย่างจัดมาให้ดูเป็นโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง ซึ่งก็ดูเหมาะสมกับพื้นที่ดี แต่ถ้าใครมีแขกมาเยี่ยมเยียนบ่อยๆ จะเพิ่มขนาดเป็น 3 ที่นั่งก็ยังไหวอยู่นะคะ เพราะยังมีพื้นที่เหลืออีก
อีกมุมฝั่งชั้นวางทีวี ผนังตรงนี้จะเว้าเข้ามาเพราะด้านนอกเป็นที่จอดรถ ทำให้เราได้ที่วางทีวีพอดี พื้นที่วางทีวีตรงนี้ค่อนข้างกว้าง ประมาณ 2.7 เมตร เราสามารถจะ Built – in ตู้วางทีวีพร้อมช่องเก็บของได้สบายๆ และจะสังเกตุว่าทางโครงการจัดมาให้ดูเป็นผนังกระจกตรงนี้จะช่วยให้บ้านดูโปร่งโล่งขึ้น สามารถเก็บไว้เป็นไอเดียตกแต่งบ้านได้นะคะ
ระยะนั่งดูทีวีหลังหักระยะโซฟา และตู้วางทีวีแล้วจะเหลือประมาณ 1.45 เมตร ขนาดทีวีที่เหมาะสมคือ 26″ – 32″ แต่ถ้าเราอยากได้ระยะดูทีวีเพิ่มขึ้นก็สามารถใช้วิธีเอาทีวีติดผนังได้ จะได้ระยะดูทีวีเพิ่มมาเป็น 1.80 เมตร ซึ่งจะทำให้สามารถวางทีวีขนาด 47″ ได้เลยค่ะ
พื้นที่ที่ยังเหลือระหว่างโซฟาและห้องทางอาหาร สามารถจะขยายขนาดโซฟา จะหาเก้าอี้เสริม หรือเก้าอี้นวดมาตั้งเพื่อนั่งผ่อนคลายด้วยก็ยังได้ค่ะ
ถัดจากห้องรับแขกไปจะเป็นส่วนของห้องทานอาหาร ที่มีการดรอปฝ้าลงมาประมาณ 20 ซม. ซึ่งตรงนี้จะเป็นส่วนของงานระบบท่อภายในห้องน้ำ และมีผลพลอยได้คือทำให้เหมือนเป็นการแบ่งโซนพื้นที่ให้แบบกลายๆด้วยค่ะ
ห้องทานอาหารจะมีช่องแสงมาให้ 2 จุด คือหน้าต่างบานหลังบ้านและข้างบ้าน ซึ่งบ้านมาตรฐานจะได้แค่หน้าต่างบานหลังบ้านนะคะ
ทางโครงการจัดโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งขนาดนี้ก็เหมาะสมกับพื้นที่ดีแล้ว แต่ถ้าใครมีแขกเยอะๆ ก็สามารถวางเก้าอี้ที่หัวโต๊ะได้ จะได้เพิ่มเป็น 6 ที่นั่ง แต่ก็จะเบียดๆกันหน่อยนะ
จากห้องทานอาหารสามารถออกไปยังลานซักล้างหลังบ้านได้ ประตูเชื่อมห้องทานอาหารและลานซักล้างหลังบ้านจะได้เป็นบานประตูสำเร็จรูป
ออกมาดูลานซักล้างหลังบ้านสักหน่อย พื้นลานซักล้างจะได้เป็นพื้นซีเมนต์ขัดหยาบฉาบเรียบ บนชั้น 2 ไม่มีพื้นที่สำหรับวางคอมเพรสเซอร์แอร์ แต่สามารถติดคอมเพรสเซอร์แบบลอยตัวได้นะ
ทางโครงการติดตั้งปลั๊กแบบมีฝาครอบกันน้ำมาให้ 1 จุด พร้อมเดินท่อมาให้สำหรับวางเครื่องซักผ้า
มีหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์มาให้ 1 ดวง ถ้าคิดว่าไม่เพียงพอแนะนำให้ติดเพิ่มเติมนะคะ
กลับเข้ามาในบ้านไปดูส่วนครัวกันต่อ
อ้อ สำหรับไฟส่องสว่างส่วนของห้องทานอาหาร และห้องครัวจะได้มาจุดละ 1 ดวง เป็นโคมซาลาเปานะคะ
บ้านตัวอย่างกั้นพื้นที่ห้องครัวมาให้ดูเป็นฉากกั้นแบบนี้ เหมาะสำหรับบ้านไหนที่ไม่ชอบทำครัว หรือคิดว่าคงไม่มีการทำอาหารกันอยู่แล้ว แต่ถ้าบ้านไหนมีคุณแม่บ้านชอบเข้าครัวทำอาหารบ่อยๆ ขอบอกว่ากั้นแค่นี้ไม่พอนะคะ เพราะกลิ่นจะฟุ้งกระจายไปทั่วบ้าน ควรกั้นห้องให้เป็นสัดเป็นส่วนไปเลย ด้วยประตูกระจกใส หรือกระจกเงา จะช่วยให้ห้องไม่ทึบเกินไปนะคะ
สำหรับพื้นที่ครัวจะมีช่องแสงมาให้ 1 จุด เป็นหน้าต่างบานหลังบ้าน ครัวที่ได้จะเป็นครัวเปล่าๆแบบรูปล่าง แต่เค้าเดินระบบท่ออะไรมาให้เรียบร้อยแล้ว เพื่อรองรับการติดตั้งเคาน์เตอร์และอ่างล้างจานค่ะ
ตำแหน่งติดตั้งอ่างล้างจาน ใกล้ๆกับหน้าต่างแบบนี้ ถือว่าเป็นตำแหน่งที่ดี เพราะตรงนี้ได้รับแสงธรรมชาติและระบายอากาศได้ดี ช่วยฆ่าเชื้อโรคที่เกิดจากความอับชื้นได้ค่ะ
ที่ผนังอีกด้านก็ Built เป็นเคาน์เตอร์มาจนเต็มพื้นที่ เรียกได้ว่าคุ้มค่าทุกตารางเซนเลยที่เดียว ซึ่งเราก็สามารถที่จะทำแบบนี้ได้ โดยวางแผนกะขนาดตู้เย็นให้เรียบร้อย แล้วให้ช่างจัดการ Built เคาน์เตอร์ให้เลยค่ะ อ้อ อย่าลืมเผื่อระยะให้ตู้เย็นได้ระบายความร้อนด้วยนะคะ
ถัดมาเป็นห้องน้ำของชั้น 1 ที่สามารถเข้าได้จากห้องครัวเท่านั้น
ซึ่งบานประตูห้องน้ำที่ได้ของจริงจะเป็นบาน UPVC สีขาว
พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องซรามิคสีน้ำตาลเข้ม พื้นลดระดับลงไปประมาณ 5 ซม.
ผนังกรุกระเบื้องเซรามิค ขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ชุดสุขภัณฑ์ครบชุด มีฝักบัวให้เรียบร้อย เวลาเร่งด่วนสามารถลงมาใช้บริการห้องน้ำด้านล่างได้เลยค่ะ
ได้ไฟดาวน์ไลท์มา 1 ดวง ฝ้าเพดานเป็นยิปซั่มชนิดกันชื้น ฉาบเรียบทาสี แต่ไม่มีมีพัดลมดูดอากาศและความชื้นมาให้ อาจจะทำให้เกิดเชื้อราได้ง่ายถ้าไม่เปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้
อ่างล้างมือ Victor ขนาดพอประมาณ ไม่มีบ่าวางของ, ชั้นใต้อ่าง หรือเคาน์เตอร์มาให้ และดูจากพื้นที่ที่ได้แล้วก็ไม่น่าจะ Build-in อะไรได้มากเท่าไหร่ ถ้าของเยอะอาจจะต้องหาชั้นวางหรือตู้เก็บของมาใส่ไว้กันเองนะคะ
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard และที่วางกระดาษชำระของ Coral ตำแหน่งติดตั้งอยู่ระยะที่ใช้สะดวก แต่จะชุ่มฉ่ำหน่อยเวลาที่ต้องอาบน้ำ เพราะไม่มีการกั้นส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้นะคะ
สายชำระขนาดพอดีๆ
ฝักบัวอาบน้ำ ของ Kudos
พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 1.3 x 0.8 เมตร
ขึ้นไปดูชั้น 2 กันต่อ ตัวบันไดอยู่ระหว่างผนังชั้นวางทีวีหน้าบ้านและห้องครัว เป็นบันไดโครงสร้างเหล็ก ลูกนอนกว้างประมาณ 90 ซม. ทางขึ้นช่วงแรกๆจะไม่มีราวจับมาให้ ก็ต้องเดินด้วยความระวังสักนิดค่ะ
ทางเดินขึ้นบันไดช่วงแรกมีช่องแสงมา 1 จุด ช่วยให้มีแสงสว่างส่องมายังโถงบันไดช่วยได้ในเวลากลางวัน ส่วนกลางคืนแนะนำให้ติดดวงไฟเพิ่มเติมนะคะ จะได้มีแสงสว่างเพียงพอ
ตัวพื้นบันไดปิดหน้าด้วยไม้สำเร็จรูปโทนสีอ่อน
โถงบันไดมีดวงไฟเป็นโคมซาลาเปามาให้ 1 จุด
ชานพักบันไดแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกจะเป็นชานพักแบบสามเหลี่ยม ซึ่งอาจจะเดินลำบากนิดนึงเพราะจะเหยียบได้ไม่เต็มเท้า ต้องระมัดระวังกันนิดนึงนะคะ ส่วนชานพักบันไดช่วงที่ 2 จะเป็นชานพักแบบสี่เหลี่ยม เหยียบได้เต็มๆเท้าจะปลอดภัยกว่าแบบสามเหลี่ยมค่ะ
พื้นชั้น 2 ปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. ทั้งชั้น สีเข้ากับบันได มีตัวจบเก็บงานเรียบร้อย
ขึ้นมาที่ชั้น 2 ประตูทางขวามือคือ Master Bedroom มองตรงไปตรงกลางเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกัน และห้องนอนรองอีก 2 ห้องทางซ้ายมือซึ่งจะเป็นห้องนอนฝั่งหลังบ้านค่ะ
หันกลับไปดูภาพรวมโถงบันไดกันอีกครั้ง ของจริงๆจะโล่งๆ ถ้าหาโคมไฟเก๋ๆมาติดก็จะเพิ่มความน่าสนใจขึ้นมาได้อีกค่ะ
ประตูห้องนอนจะได้เป็นบานประตู HDF สีขาวแบบนี้
เดี๋ยวเราจะเข้าไปดูใน Master Bedroom กันก่อนแล้วตามด้วยห้องน้ำนะคะ
ห้อง Master Bedroom นี้จะได้ความกว้างของหน้าบ้านไปทั้งหมด ทำให้มีพื้นที่มากพอจะแบ่งเป็น Walk – in Closet ได้ค่ะ
มา ดูที่ส่วนห้องนอนกันก่อน ห้องนี้จัดมาในโทนสีที่ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น มีช่องแสง 1 บานเป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ บานกรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ กระจกเขียวตัดแสง
ลักษณะการเปิดจะเป็นบานเลื่อนจากตรงกลาง เลื่อนออกไปด้านข้าง ซ้ายและขวาแบบนี้ค่ะ
มือ จับเป็นแผ่นอลูมิเนียมยกขอบขึ้นมาแบบนี้ ใครมืออวบๆอาจจะจับไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่นะ ส่วนตัวล็อคเป็นระบบก้นหอยเหมือนหน้าต่างบานอื่นๆในบ้าน
ส่วนห้องนอนจะได้ดวงไฟโคมซาลาเปามา 1 ดวง
เตียง ที่วางได้จะวางได้ทั้ง ควีนไซส์และคิงส์ไซส์เลยค่ะ เพราะมีพื้นที่เหลือพอสมควร ถ้าใครนอนคนเดียวจะวางเป็นเตียงควีนไซส์ก็ได้ จะได้มีพื้นที่ข้างเตียงเหลือสำหรับวางโต๊ะข้างเตียงเพิ่ม หรือถ้านอน 2 คนก็วางคิงส์ไซส์ไปเลยค่ะ จะได้นอนกันสบายๆ
พื้นที่ข้างเตียงที่เหลือพอให้วางโต๊ะเล็กๆได้แบบนี้
ข้างเตียงอีกฝั่ง
อีกด้านของห้องถูกแบ่งพื้นที่เป็น Walk – in Closet กั้นพื้นที่ด้วยฉากไม้ผสมกระจกช่วยให้ห้องยังดูเชื่อมต่อกัน ไม่ดูทึบเกินไปค่ะ
ส่วน Walk – in Closet มีช่องแสงเป็นหน้าต่างบาน Fix 1 บาน ซึ่งตำแหน่งใกล้หน้าต่างเป็นจุดที่เหมาะกับการวางโต๊ะเครื่องแป้งที่สุดค่ะ เพราะเวลาแต่งหน้าจะได้เห็นสีได้ชัดเจน ไม่เข้มไปหรืออ่อนเกินไป
ส่วน Walk – in Closet นี้จะมีไฟซาลาเปามาให้ 1 ดวง
พื้นที่ในการใช้งานแบบพอดีๆ
อีกฝั่งของส่วน Walk – in Closet จะเป็นห้องน้ำ
บานประตูที่ได้จะเป็น UPVC สีขาว
ห้องน้ำที่ชั้น 2 นี้สามารถเข้าได้จาก 2 ทาง คือจากทาง Master Bedroom และจากโถงบันไดค่ะ
พื้นห้องน้ำลดระดับลงไปประมาณ 4 ซม. พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีน้ำตาลเข้ม ขนาด 30 x 30 ซม.
ผนัง ห้องน้ำกรุผนังเซรามิค ไล่โทนสีน้ำตาลและครีม ห้องน้ำไม่แยกส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้นะคะ ส่วนที่เห็นช่องแสงระบายอากาศนี่ จะมีเฉพาะแปลงมุมเท่านั้นนะ
ซึ่งบานหน้าต่างที่ได้จะเป็นบานเกล็ด 2 ชั้นแบบนี้
ระหว่างบานเกล็ดจะมีช่องว่างแบบนี้อยู่ จึงอาจจะมีแมลงบุกเข้ามาได้ ถ้าใครกังวลเรื่องแมลงรบกวนก็ติดมุ้งลวดนะคะ
มีไฟดาวน์ไลท์มาให้ 1 ดวง
อ่างล้างหน้าแบบลอยตัวของ Victor พร้อมกระจกเงาตามแบบในรูปเลยค่ะ
ขนาดอ่างพอดีๆค่ะ
โถ สุขภัณฑ์ American Standard ตำแหน่งติดตั้งมีระยะการใช้งานได้แบบสบายๆ แต่เนื่องจากทางโครงการไม่ได้แยกส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้ ในส่วนนี้สามารถติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมเองได้ค่ะ
พื้นที่อาบน้ำมีฝักบัวพร้อมที่วางสบู่มาให้แบบนี้
พื้นที่สำหรับอาบน้ำขนาดประมาณ 1.5 x 1.2 เมตร ถือว่ามีขนาดกว้างพอให้ติดม่านกั้นอาบน้ำได้ จะได้ไม่เลอะเทอะไปส่วนอื่นๆมากนักนะคะ
ให้ดูตำแหน่งการวางประตูจากทางเข้าออกทั้ง 2 ทาง
ของจริงเป็นประตูบานเปิด ถ้าเปิดพร้อมๆกัน ก็จะชนกันได้แบบนี้ เวลาเปิดจึงต้องระวังกันนิดนึงนะคะ
ถ้าเข้าห้องน้ำมาจากฝั่งโถงบันไดก็จะเห็นมุมประมาณนี้ค่ะ
ไปต่อกันที่ห้องนอนฝั่งด้านหลัง โดยเริ่มจากห้องแรกที่อยู่ติดบันได
พื้นห้องนอนจะเป็นลามิเนตปูต่อเนื่องไปจากโถงบันได ไม่มีตัวจบใดๆที่พื้น และจะเป็นแบบนี้ในห้องนอนทุกห้องนะคะ
เข้ามาห้องนอนห้องแรกตกแต่งมาแบบเรียบง่าย ห้องนี้เป็นห้องนอนที่มีขนาดเล็กที่สุด แต่ก็จัดฟังก์ชั่นมาได้ครบถ้วน
มีช่องแสงแค่จุดเดียวคือหน้าต่างบานเลื่อนคู่ฝั่งหลังบ้าน
วางเตียงขนาด 3.5 ฟุต แบบเข้ามุมมาให้ดูเป็นตัวอย่าง การวางเตียงแบบนี้จะช่วยประหยัดพื้นที่ได้ แต่ก็จะเปลี่ยนผ้าปูที่นอนลำบากหน่อยนะคะ
ฝั่งปลายเตียงเป็นผนังโล่งๆ ติดชั้นวางของแบบลอยตัวมาให้ดูเป็นตัวอย่าง
ซึ่งดูจากระยะปลายเตียงที่เหลือแล้ว การชั้นวางของแบบลอยตัวก็ดูจะเป็นไอเดียที่ดีนะ เพราะปลายเตียงไม่เหลือระยะจะให้วางอะไรแล้วค่ะ
อีกด้านจัดเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเขียนหนังสือ + โต๊ะเครื่องแป้งในตัว
ระยะที่เหลือก็กระทัดรัดหน่อย พอแค่ขยับตัวลองเสื้อผ้าได้ แต่ระยะการใช้งานโต๊ะเขียนหนังสือก็ดูพอดีๆไม่แน่นไปนะคะ
มาดูห้องนอนห้องต่อไปห้องนี้เป็นห้องนอนรองเหมือนกัน แต่จะมีพื้นที่ใช้สอยเยอะกว่าห้องที่แล้วหน่อยนึง
ห้องนี้ตกแต่งด้วยโทนสีฟ้า มีช่องแสง 1 จุด สำหรับแปลงมาตรฐาน ส่วนถ้าเป็นบ้านแปลงมุมจะมีช่องแสง 2 จุด ตามบ้านตัวอย่างซึ่งจะช่วยในเรื่องการระบายอากาศได้ดีกว่าช่องแสงจุดเดียว เพราะสามารถเปิดพร้อมๆกันเพื่อให้อากาศหมุนเวียนได้ดีกว่า
ห้องนี้ได้โคมซาลาเปามา 1 ดวง
วางเตียงขนาด 3.5 ฟุต แบบเข้ามุมประหยัดพื้นที่มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งการวางเตียงขนาดนี้ก็เหมาะสมกับพื้นที่ดีแล้วค่ะ ถ้าใหญ่กว่านี้ห้องจะอึดอัดอัดเกินไปและไม่สามารถใส่ฟังก์ชั่นอื่นๆลงไปด้วยได้
ฝั่งปลายเตียงติดชั้นวางของแบบลอยตัว
ให้ดูพื้นที่ปลายเตียงจะเหลือน้อยกว่าห้องเมื่อกี้อีก เพราะฉะนั้นถ้าอยากติดตู้อะไร ก็ติดแบบลอยตัวเป็นทางเลือกที่เหมาะสมแล้วค่ะ
อีกด้านของห้องเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง
พื้นที่เหลือข้างเตียงฝั่งนี้เหลือพอให้แต่งตัวสบายๆ สามารถวางตู้เสื้อผ้าแบบบานเปิดได้ และระยะการใช้งานโต๊ะเครื่องแป้งก็สะดวกดีค่ะ
ลองมองออกไปดูด้านนอก เนื่องจากบ้านตัวอย่างนี้จะตั้งอยู่ฝั่งทิศเหนือของโครงการซึ่งจะติดกับบึงน้ำขนาดใหญ่ วิวที่ได้เลยจะเป็นแบบนี้ บึงน้ำนี้ไม่มีกลิ่นไม่มีขยะนะคะสบายใจได้เลย
ลองหันไปดูบ้านข้างเคียง
บ้านอีกแบบคือ แบบ Shine อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ตอนต้นแล้วว่าบ้านทั้ง 2 แบบจะมีหน้ากว้าง 5.7 เมตร เท่ากันและการวางผังที่แทบจะเหมือนกันเลย เพราะฉะนั้นบ้านแบบที่ 2 นี้เราจะพาไปดูหน้าตาโดยรวมภายนอกของบ้าน และไอเดียการตกแต่งในบ้านเพิ่มเติมเป็นบางจุดนะคะ
หน้าตาภายนอกเป็นสไตล์โมเดิร์น หน้าตาเหมือนบ้านแบบ Glory ทุกอย่าง ต่างแค่สีที่จะมีการเจอสีน้ำตาลเทาลงไป ส่วนระแนงก็เป็นสีเข้มขึ้นค่ะ
แบบ้านจริงหน้าตาแบบนี้ค่ะ
เริ่มที่ห้องแรกเป็นห้องรับแขก ที่เชื่อมพื้นที่อยู่กับห้องทานอาหาร
เนื่องจากบ้านแบบ Shine นี้จะมีความลึกมากกว่าบ้านแบบที่แล้ว จึงสามารถกั้นพื้นที่ระหว่างห้องรับแขกกับห้องทานอาหารด้วยฉากกั้นเพิ่มได้
ระยะที่เหลือประมาณนี้ หรือถ้าจะไม่กั้นห้องก็สามารถขยายขนาดโซฟา และเพิ่มเก้าอี้เดี๋ยวอีกชุดก็ยังได้ค่ะ
ห้องครัววางโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งได้แบบพอดี
พื้นที่ด้านหลังสามารถวางตู้เก็บของได้แบบนี้ แต่ถ้าจะติดตั้งตู้แนะนำให้ใช้แบบบานเลื่อนนะคะ เพราะถ้าเป็นบานเปิดปกติอาจจะเกะกะพื้นที่ทานอาหารได้ค่ะ
ตัวอย่างการกั้นห้องครัวอีกแบบโดยใช้ประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ บานประตูเป็นไม้ และกระจกเงาช่วยให้ห้องครัวโปร่ง และยังช่วยกันกลิ่นรบกวนจากในครัวได้ด้วยค่ะ
ส่วนรายละเอียดอื่นๆที่ชั้น 2 จะเหมือนกับบ้านหลังที่แล้ว จะมีที่แตกต่างกันนิดหน่อย คือขนาดห้องนอนที่จะมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นนิดหน่อยค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง เป็นรุ่นอื่นหรือเทียบเท่าต้องสอบถามโครงการอีกครั้งนะคะ
ราคา (มีนาคม 2559)
ทำเลที่ตั้งโครงการ : โครงการ พฤกษาวิลล์ 66/2 บางนา – หนามแดง ตั้งอยู่ในพฤกษา อเวนิว (Pruksa Avenue) ในโซนศรีนครินทร์ – หนามแดง ตัวโครงการจะเป็นโครงการที่อยู่ลึกที่สุดในอเวนิว ทำให้บรรยากาศรอบๆโครงการค่อนข้างสงบ และมีความเป็นส่วนตัวสูง ส่วนสภาพแวดล้อมในวงกว้างถืออยู่ในละเเวกอุตสาหกรรม ทำให้มีรถใหญ่วิ่งผ่านไปมาบนถนนหลักค่อนข้างเยอะ ผลพวงที่ตามมาคือการจราจรที่ติดขัดค่ะ ส่วนสภาพแวดล้อมบนถนนหนามแดง ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะชุมชน มีทั้งวัดและโรงเรียนวัดหนามแดง, โครงการแนวราบทั้งทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยว มีร้านอาหารบ้างประปราย
ความอุดมสมบูรณ์ของโครงการโดยรวมถือว่าอยู่ในระดับที่ดี ถึงแม้ว่าความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินไม่มีเลย แต่ความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้างจะมี ร้านอาหารบนถนนหนามแดง โดยเฉพาะช่วงต้นถนนฝั่งถนนศรีนครินทร์ ส่วน Hyper Market ที่อยู่ในรัศมีที่พึ่งพาได้จะมี Mini Big C กับ 7-11 อย่างละ 1 จุด บนถนนหนามแดง – บางพลี, Lotus Plus Mall, แม็คโคร และ Big C บนถนนศรีนครินทร์ สำหรับตลาดใหญ่หน่อยในละแวกนี้จะมี Number One Plaza ที่มีทั้งตลาดสด และตลาดนัดเลยค่ะ ส่วนห้างใหญ่ๆ จะอยู่ช่วงถนนบางนา ซึ่งจะมี Mega Bangna, Ikea และ Central บางนา ส่วนทางโซนศรีครินทร์ ก็จะมี Paradise Park และ Seacon Square ค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : การเดินทางด้วยรถยนต์ ดูจะเป็นวิธีที่สะดวกที่สุดสำหรับโครงการนี้ เพราะสามารถใช้ถนนเส้นหลักๆ เพื่อเข้าถึงโครงการได้ 2 เส้น คือถนนหนามแดง – บางพลี และถนนบัวศรีนครินทร์ ซึ่งถนนทั้งสองเส้นนี้ สามารถเชื่อมต่อกับบถนนเส้นหลักๆ คือถนนศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่สามารถเชื่อมไปในเมืองอย่างถนนรามคำแหง, พัฒนาการ, อ่อนนุชได้ และถนนเทพารักษ์ ที่เชื่อมเข้าสู่ถนนสายหลักอย่างสุขุมวิท ที่สามารถพาเราเข้าและออกเมืองได้สะดวก นอกจากนั้นยังมีจุดขึ้นทางด่วนให้เลือกทั้งทางด่วนวงแหวนรอบนอก และทางด่วนบูรพาวิถี แต่รถจะติดหน่อยค่ะ เพราะอยู่ในละแวกอุตสาหกรรม
การเดินทางโดยรถสาธารณะ : ค่อนข้างลำบากหน่อยเพราะตัวโครงการอยู่ท้ายสุดของโครงการ ซึ่งมีระยะทางค่อนข้างลึกไม่อยู่ในระยะที่จะเดินไหว และไม่มีรถสาธารณะใดๆ วิ่งผ่านเข้ามาในโครงการเลย การเดินทางวิธีเดียวคือใช้บริการ Taxi ทั้งขาเข้า และขาออกจากโครงการค่ะ แต่ในอนาคตก็จะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อจากลาดพร้าวมาถึงสำโรงและจะมี สถานีศรีด่าน ที่ใกล้กับโครงการที่สุด ซึ่งในอนาคตอาจจะมีคิวพี่วินที่ใกล้กับรถไฟฟ้าแต่ ณ ตอนนี้ก็ยังต้องใช้บริการ Taxi จากสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุด คือสถานี BTS แบริ่งค่ะ
บ้านและวัสดุ : มีการออกแบบโดยรวมในสไตล์โมเดิร์นเน้นสีเทาเป็นหลัก บวกกันใช้โครงเหล็กตีเป็นระแนงทำให้มีความโมเดิร์นมากขึ้น ส่วนการจัดวางฟังก์ชั่นโดยรวมถือว่าลงตัว สามารถใส่ฟังก์ชั่นการใช้งานครบเหมาะสมกับพื้นที่ใช้สอยที่ได้มา และค่อนข้างยืดหยุ่นกับการปรับการใช้งานตามแต่ผู้อยู่อาศัย ตัวครัวก็แยกมาให้ชัดเจน สามารถกั้นห้องเป็นครัวปิดได้ง่ายๆ ไม่มีมุมไหนของบ้านที่ให้ความรู้สึกติดขัดใช้งานลำบาก จะเสียก็ตรงไม่มีราวจับช่วงบันไดขั้นแรกๆ และไม่มีระบบระบายความชื้นในห้องน้ำชั้นล่างค่ะ
วัสดุได้มาแบบมาตรฐาน โดยบ้านที่ทางโครงการขายจะเป็นบ้านมาตรฐาน (บ้านเปล่า) ลานจอดรถเป็นพื้นซีเมนท์ขัดหยาบฉาบเรียบ, พื้นชั้น 1 และพื้นห้องน้ำ เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม., พื้นชั้นบนปูด้วยลามิเนตทั้งชั้น ส่วนเฉลียงหน้าบ้าน ได้เป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม., ผนังบ้านฉาบเรียบทาสี ติดบัวเชิงผนังมาให้ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ฝ้าเพดานเป็นชั้นล่างคอนกรีตแต่งผิวเรียบทาสี, ฝ้าเพดานสูง 2.60 เมตร ตัวฝ้าเพดานชั้นบนเป็นยิปซั่มบอร์ดฉาบเรียบทาสี ส่วนห้องน้ำฝ้าเพดานยิปซั่มบอร์ดกันชื้น ฉาบเรียบทาสีขาว, ไฟโคมซาลาเปาในห้องทั่วไป และดาวน์ไลท์ในห้องน้ำทั้ง 2 ชั้นค่ะ
สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ เริ่มที่อ่างล้างมือจะใช้ของ Victor ก๊อกน้ำ และฝักบัวอาบน้ำ Kudos, โถสุขภัณฑ์ American Standard และไม่มีการแบ่งส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้
ประตูทางเข้าเป็นบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ กระจกเขียวตัดแสง, บานประตูภายในบ้านเป็นบาน HDF วงกบ UPVC ส่วนประตูห้องน้ำเป็น UPVC สีขาว, อุปกรณ์ปลั๊กและสวิทช์ไฟของ Schnider
สิ่งอำนวยความสะดวก : มี อาคารนิติบุคคล และสวนสาธารณะขนาด 1 – 1 – 73 ไร่ พร้อมศาลานั่งพัก และทางเดินรอบสวน ไม่มีฟิตเนสหรือสระว่ายน้ำ ซึ่งถือว่าน้อยไปสำหรับโครงการขนาด 400 กว่ายูนิต แต่ก็มีข้อดีตรงที่ค่าส่วนกลางก็ลดลงไปด้วย เหมาะสำหรับใครที่คิดว่าไม่ค่อยได้ใช้ส่วนกลางเท่าไหร่ มีไว้เพื่อพักผ่อนหย่อนใจเป็นครั้งคราว ส่วนถนนหลักกว้าง 16 เมตร ถนนรอง 12 เมตร ถนนในซอยย่อย 9 เมตร ถือว่าขับไปมาได้สะดวกค่ะ
ระบบรักษาความปลอดภัย : มีซุ้มทางเข้าที่มีระบบรักษาความปลอดภัยด้วย Double Security Gate คือมีรั้วไม้กระดก และรั้วเลื่อนไฟฟ้า พร้อมกล้อง CCTV จับภาพป้ายทะเบียน และคนขับฝั่งละ 2 ตัว เข้า-ออกโครงการด้วย Key Card Access ระยะใกล้ ส่วน Visitor ต้องแลกบัตรกับทางโครงการ รั้วรอบโครงการสูง 2 เมตร รั้วระหว่างบ้านแต่ละหลังสูง 1.5 เมตร และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 7.75 | อยู่ท้ายสุดในพฤกษา อเวนิว มีความเป็นส่วนตัวสูง เหมาะกับการเป็นที่อยู่อาศัย มีความอุดมสมบูรณ์แต่อยู่ค่อนข้างไกล |
การเดินทาง ใช้รถ | 8.0 | เดินทางค่อนข้างสะดวก สามารถเชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักอย่างถนนศรีนครินทร์ ได้ |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 7.0 | ค่อนข้างลำบาก ต้องอาศัย Taxi เข้ามาในโครงการ ไม่มีรถสาธารณะใดๆ วิ่งผ่าน แต่ในอนาคตเมื่อรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเสร็จแล้ว การเดินทางจะสะดวกขึ้น |
บ้านและวัสดุ | 7.75 | แบบบ้านสไตล์โมเดิร์น ภายในบ้านฟังก์ชั่นครบครัน ออกแบบพื้นที่มาลงตัวดี วัสดุมาตรฐานสำหรับบ้านราคานี้ |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 7.0 | มีแค่อาคารนิติบุคคล และสวนหย่อมเท่านั้น แต่ระบบรักษาความปลอดภัยดีเป็นระบบ Double Security Gate และมี 24 ชม. |
ความคุ้มค่ากับราคา | 7.5 | เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง 3-5 คน ที่มองหาทาวน์โฮมย่านหนามแดง เทพารักษ์ เน้นการใช้งานรถยนต์เป็นหลัก |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.5 | ดี |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 085-2534246, 085-4805056, 085-2535441 หรือ 1739
Website : คลิกที่นี่
หากท่านเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
แบบ Glory ที่ดินเริ่มต้น 18.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 96 ตร.ม. ราคาเริ่ม 1.69 ล้านบาท โครงการยังมีเหลือมั้ยครับ สนใจโครงการนี้มากครับ ฐานเงินเดือน 20,000 บาท กู้ได้มั้ยครับ ขอรายละเอียดหน่อย