ชื่อโครงการ
ริทึ่ม เอกมัย RHYTHM EKKAMAI
เจ้าของโครงการ
เอพี ไทยแลนด์ AP Thailand
เนื้อที่ทั้งหมด
1-3-44.3 ไร่
จำนวนตึก
1 อาคาร
จำนวนชั้น
32 ชั้น
จำนวนห้อง
326 ยูนิต
ลักษณะห้องและขนาดห้อง
Studio 30 – 31 ตร.ม.
1 Bedroom 35 – 38 ตร.ม.
2 Bedroom 70 – 80 ตร.ม.
ที่จอดรถทั้งหมด
ที่จอดรถชั้น 2-6 จำนวน 177 คัน หรือประมาณ 54%
โซน
เอกมัย-สุขุมวิท
ขนส่งสาธารณะ
รถไฟฟ้า BTS เอกมัย 350 เมตร
รถโดยสารที่ผ่าน
23, 72, 545ร
ที่ตั้ง
ซอยสุขุมวิท 63 (เอกมัย) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10250
กำหนดการ
เริ่มก่อสร้าง กันยายน 2559
ปีที่สร้างเสร็จ
สร้างเสร็จพร้อมอยู่
ราคา
เริ่มต้น 5.72 ล้านบาท*
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม
190,000 – 200,000 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลางและกองทุน
ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม.(จ่ายล่วงหน้า 1 ปี)
ค่ากองทุน 450 บาท/ตร.ม.
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
BTS เอกมัย 350 เมตร
APRL รามคำแหง 4.2 กม.
ตลาดสดเอกมัย 3.2 ม.
ซอยเอกมัย 21 (ซอยแจ่มจันทร์) ม.
Major เอกมัย 500 ม.
Park Lane 850 ม.
Gateway เอกมัย 1.5 กม.
Foodland 1.6 กม.
Tops 1.9 กม.
Fifty Fifth Avenue 2.2 กม.
J Avenue 2.3 กม.
Emporium 2.5 กม
EmQuatier 3.4 กม.
รพ.สุขุมวิท 550 ม.
รพ.คามิลเลียน 2.3 กม.
รพ.สมิติเวช 2.4 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก
Onyx atrium
Infinity edge pool
Steam room
Sauna room
Panoramic fitness
Yoga court
Rhythm social club
Rhythm panoramic lounge
Rhythm observatorium
Roof top garden
Access Card Control
CCTV
รปภ. 24 ชม.
จุดเด่นของโครงการ
“ริทึ่ม เอกมัย | RHYTHM Ekkamai “ Live Your Best Perspective คอนโดใหม่ ติดถนนเอกมัย (ซอยสุขุมวิท 63) ใกล้รถไฟฟ้า BTS เอกมัย เร็ว ๆ นี้
คอนโด BTS เอกมัย / คอนโดติดรถไฟฟ้า BTS เอกมัย
คอนโดใกล้ BTS เอกมัย
คอนโดใกล้ BTS เอกมัย ฝั่งสุขุมวิทเลขคู่
ที่ตั้งโครงการ
ซอยสุขุมวิท 63 (เอกมัย) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10250
พิกัด : 13.722473, 100.584550
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการ Rhythm เอกมัย ตั้งอยู่บนทำเลช่วงต้นถนนเอกมัย ฝั่งมุ่งหน้าถนนเพชรบุรี อย่างที่รู้จักกันดีว่าทำเลสุขุมวิทเป็นทำเลที่ฮอตมาแต่ไหนแต่ไร โดยเฉพาะสุขุมวิทตอนกลางที่เรียกว่าเป็น Prime สุขุมวิท คือช่วงตั้งแต่แยกอโศกจนถึงเอกมัย โดยโซนเอกมัยนี้ถือเป็นโซนที่รองรับการขยายตัวมาจากทางทองหล่อและพร้อมพงษ์ โดยเอกมัยจะมีความสะดวกต่างๆพอกันแต่จะมีความสงบที่มากกว่า สำหรับสภาพแวดล้อมโดยรวมของซอยเอกมัย คึกคัก อุดมไปด้วย คอนโดหรูๆ อาคาร Residential, Community Mall และร้านอาหารที่คึกคักทั้งกลางวันและกลางคืน, มีปั๊มน้ำมัน, อู่ซ่อมรถ มีพร้อมสรรพทุกสิ่งอย่างในตัวซอยเลยทีเดียว
สำหรับการเดินทางของโครงการนี้สะดวกทั้งการเดินทางด้วยรถยนต์และรถสาธารณะค่ะ โดยคนไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัว จะสามารถใช้ BTS เอกมัย เดินทางได้สะดวก โดยจากตัวโครงการจนถึงทางขึ้น BTS เอกมัยจะมีระยะทางประมาณ 350 เมตร เป็นระยะทางที่พอจะเดินไปกลับได้และตลอดระยะทางก็มีฟุตบาทมาตรฐานตลอดทางบวกกับมีคนเดินผ่านไปมาตลอด ไม่เปลี่ยวทำให้มีความสะดวกในการเดินทางพอสมควรถึง BTS เอกมัยก็สบายละ เพราะอยู่ใจกลางเมืองในแหล่งห้างสรรพสินค้าอยู่แล้ว อยากไปช็อปปิ้ง สามารถขึ้นรถไฟฟ้าไปได้ทั้ง Emporium, Emquatier, Terminal 21 ก็ไม่ไกล นั่งไป 2 – 3 สถานีก็ถึง สะดวกค่ะ หรือถ้าใครไม่อยากเดินก็สามารถเรียกใช้บริการพี่วินและ Taxi ที่วิ่งผ่านไปมาหน้าโครงการได้
นอกจากนั้นจะมีป้ายรถเมล์ห่างจากโครงการไปประมาณ 100 เมตร และจะมีรถเมล์สาย 23, 72, 545ร วิ่งผ่านค่ะ
สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ก็สะดวกไม่แพ้กัน แต่รถอาจจะติดมากหน่อย โดยการเข้าถึงตัวโครงการสามารถใช้ได้หลากหลายเส้นทางเลยค่ะ เนื่องจากตัวซอยเอกมัยนี้จะเชื่อมต่ออยู่กับถนนหลักคือถนนสุขุมวิทและถนนเพชรบุรี นอกจากนั้นยังมีทางลัดเป็นซอยย่อยเชื่อมไปทองหล่อและซอยปรีดีพนมยงค์ได้ โดยความเหมือนกันของซอยเอกมัย ทองหล่อ และซอยปรีดีพนมยงค์ คือเป็นซอยที่เชื่อมถนนสุขุมวิท เเละ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่เข้าด้วยกัน ทางลัดต่างๆจึงสามารถใช้หลบเลี่ยงรถติดในบางจุดของถนนหลักได้ค่ะ และนอกจากนั้นยังใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์และทางด่วนศรีรัชทั้งขาเข้าและออกเมืองอีกด้วย
พอมองให้กว้างออกมาอีกหน่อย จะเห็นว่าถัดจากสุขุมวิทก็จสามารถเชื่อมต่อกับถนนพระราม 4 และจากเพชรบุรีก็จะสามารถเชื่อมต่อกับถนนพระราม 9 ได้ ซึ่งตรงนี้มีทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ด้วย ถนนที่ล้อมรอบเอกมัยพวกนี้รถติดทั้งนั้นค่ะ แต่ถ้ารู้จักใช้ทางลัดต่างๆที่อยู่รอบๆ เราจะพบว่าตรงนี้เดินทางด้วยรถยนต์ได้สะดวกทีเดียว
สำหรับจุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นจุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครฝั่งมุ่งหน้าชลบุรี โดยจะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 4.9 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 – 15 นาที
จุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครฝั่งวิ่งเข้าเมืองจะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 3.9 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 – 15 นาทีค่ะ
จุดขึ้นทางด่วนฉลองรัชฝั่งวิ่งขึ้นเหนือมีระยะทางจากโครงการประมาณ 3.1 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 -15 นาที
ความอุดมสมบูรณ์ ของโครงการนี้เรียกได้ว่าสูงเลยทีเดียวค่ะ โดยภายในซอยเอกมัยจะมีร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อมากมายกระจายไปทั่วบริเวณ มีทั้งร้านติดถนนใหญ่และในซอยย่อยๆ ความอุดมสมบูรณ์ที่ใหล้โครงการที่สุดจะเป็น Park Lane ด้านในมี True Coffee, ร้านอาหารญี่ปุ่น, Max Value ถัดไปจะมีซอยดังๆ อย่างซอยแจ่มจันทร์ และซอยทองหล่อ 10 ภายในซอยมีร้านอาหารชิคๆเพียบ และยังมีซอยทองหล่อที่มีความอุดมสมบูรณ์เหลือเฟือ ทั้งอาหารไทยและต่างชาติ ของความของหวาน ร้านกลางวันหรือร้านแฮงก์เอาต์กลางคืนมีหมด ที่สำคัญคือมีทางลัดเชื่อมจากตัวซอยเอกมัยออกไปได้สะดวกอีกด้วยค่ะ ส่วนตลาดที่ใกล้โครงการจะอยู่ช่วงท้ายๆซอยฝั่งถนนเพชรบุรี คือตลาดสดเอกมัย ที่จะมีผัก, ผลไม้, อาหารสด, ดอกไม้และข้าวของเครื่องใช้, อาหารพร้อมทานทั้งกับข้าวและร้านก๋วยเตี๋ยว และห้างใหญ่ที่ใกล้โครงการในระยะที่เดินมาได้เลยจะมี Major เอกมัย และ Gateway เอกมัยค่ะ
ยกตัวอย่างร้านอาหารและร้านนั่ง บริเวณทองหล่อซอย 10
นอกจากซอยแจ่มจันทร์ที่เราสามารถเดินจากโครงการมาได้แล้วก็ยังมีทองหล่อซอย 10 ที่ขึ้นชื่อเรื่องร้านน่านั่งอีกซอย โดยภายในซอยจะมีร้านน่านั่งทั้งแบบกลางวันและกลางคืน เช่น
ร้านนั่งเล่น เป็นร้านแบบ Pub & Restaurant ภายในตกแต่งสไตล์อินดี้
Myst ทองหล่อ ด้านในมีร้านอาหารหลายร้าน เช่น Roof Hideaway อยู่บนชั้น 3 ของ MUSE
Arena 10 ด้านในจะมีสนามบอลหญ้าเทียมและยังร้านอาหารมากมาย เช่น Ramen Champion, Izakaya Stadium, Izakaya Stadium, Zabb อีลี่, ร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านบึง และ Melt Me
Funky Villa และ Demo Pub สองร้านชื่อดังที่ไม่มีใครไม่รู้จัก
7th Street Bar & Bistro เป็นร้านสไตล์ Bar & Restaurant มีทั้งโซน Outdoor และ Indoor เน้นเบียร์สดและกับแกล้มนำเข้าจากต่างประเทศ
Patisserie Rosie ร้านขนมฝรั่งเศส สไตล์วิจเทจน่ารักๆ
Wine Republic Bar & Bistro ร้านอาหารสำหรับคนรักไวน์ นอกจากอาหารรสชาติดีแล้วในร้านจะมีไวน์ให้เลือกกว่า 200 ชนิดค่ะ
ส่วนห้างใหญ่หน่อย หรือห้างจำพวก Hyper Market ก็มีครบคือภายในซอยเอกมัยจะมี Big C และหน้าปากซอยจะมี Gateway เอกมัย, Major เอกมัย ให้เลือก Shop แบบเบาๆ หรือถ้าอยากจะเดิน Shop ห้างใหญ่ แบรนด์เนมหน่อยก็สามารถนั่ง BTS มา 2 สถานีก็ถึงพร้อมพงษ์ ที่มีทั้ง EmQuatier, Emporium ให้เลือกค่ะ
ยกตัวอย่างร้านเด็ดน่านั่งในซอยแจ่มจันทร์
ร้าน Tuba Design Furnitue & Restaurant ร้านอาหารประเภท Pub & Restaurant มีทั้งอาหารอิตาเลียน เยอรมัน และไทย ด้านในตกแต่งด้วยของเก่าทั้งร้าน และยังสามารถเลือกซื้อของแต่งบ้านจากในร้านติดไม้ติดมือกลับไปได้อีกด้วยค่ะ
ร้าน Moose ร้านอาหารไทยกึ่งบาร์บรรยากาศเท่ๆ ภายในประดับด้วยงานศิลปะและของตกแต่ง รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ที่แปลกตา เน้นโชว์ความดิบของ texture ไม้ กระจกและเหล็ก สไตล์ Industrial มีทั้งส่วน Out Door และ In Door ให้เลือกนั่ง และในคืนวันพุธ – ศุกร์ – เสาร์ จะมีวงดนตรีมาเล่นสดให้ฟังอีกด้วยค่ะ
Cheesecake House & Restaurant ร้านชีสเค้กที่อยู่มาแต่ดั้งเดิมในซอยเอกมัย เป็นร้านชีสเค้กร้านแรกๆของประเทศไทย ส่วนเมนูในร้านนอกจากชีสเค้กขึ้นชื่อแล้วก็จะมีทั้งอาหารคาว ไทย จีน ซีฟู้ดให้เลือกทานค่ะ
WWA Chooseless Cafe ร้านคาเฟ่เก๋ๆ ที่มีทั้งร้านอาหารและร้านขายเสื้อผ้าและเครื่องประดับรวมอยู่ในร้านเดียว โดยอาหารในร้านจะมีทั้งอาหารไทยที่เมนูจะวนเวียนไปในแต่ละวัน และอาหารยอดนิยมอย่างพวกสปาเก็ตตี้ สลัดต่างๆก็มีให้เลือกทานค่ะ
การเดินทาง
การเดินทางวันนี้ เริ่มจากถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าพระโขนง บริเวณแยกอโศก ขับตามแนว BTS มาจนถึงซอยสุขุมวิท 63 หรือซอยเอกมัย แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอย ขับตรงไปจนสุดถนนเอกมัย แล้วเบี่ยงซ้ายตรงไปออกถนนเพชรบุรีแล้วเลี้ยวขวา ตรงไปอีกหน่อยแล้วเลี้ยวขวาอีกครั้งเพื่อกลับเข้าถนนเอกมัย เมื่อเข้ามาถึงตัวถนนหลักตรงมาอีกหน่อยก็จะเห็นโครงการทางซ้ายมือค่ะ
สรุปการเดินทาง แยกอโศก > ถนนสุขุมวิท > ซอยสุขุมวิท 63 (เอกมัย) > ถนนเพชรบุรี > ซอยสุขุมวิท 63 (เอกมัย) > Rhythm เอกมัย
เริ่มจากแยกอโศก บนถนนสุขุมวิทฝั่งมุ่งหน้าพระโขนง จากตรงนี้ถ้าเราเลี้ยวซ้ายจะสามารถตรงไปออกถนนเพชรบุรีได้ ซึ่งเราสามารถใช้เส้นเพชรบุรีเดินทางไปโครงการได้เช่นกัน แต่การเดินทางวันนี้เราจะยึดเส้นสุขุมวิทจึงต้องขับตรงผ่านแยกไปค่ะ
ผ่านห้าง Jasmin City ทางซ้ายมือ
และผ่าน Villa Market
ถัดมาจะถึงสถานี BTS พร้อมพงษ์ ซ้ายมือเป็น Emquartier ขวามือเป็น Emporium
ขับตรงมาเรื่อยๆ ผ่าน Miracle Mall
ถัดมาผ่าน Rain Hill เป็น Community Mall รวมร้านอาหารและร้าน Shopping เสื้อผ้าหลากหลายร้าน
ตรงมาอีกหน่อยถึง BTS ทองหล่อ
เลย BTS มาหน่อยจะเห็นซอยสุขุมวิท 55 หรือซอยทองหล่อทางซ้ายมือ ซึ่งซอยนี้จะเป็นแหล่งรวมร้านอาหารนานาชาติ ศูนย์การค้าและ Community Mall มากมาย และเป็นซอยที่เชื่อมต่อกับซอยเอกมัยที่ตัวโครงการตั้งอยู่อีกด้วยค่ะ
ผ่านซอยทองหล่อมาเราจะเห็นซอยเศรษฐบุตรทางซ้ายมือ หน้าซอยมี Major เอกมัย
ตรงมาอีกหน่อยจะเห็น BTS เอกมัย และซอยสุขุมวิท 63 หรือซอยเอกมัยทางซ้าย เราก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปเลยค่ะ
เข้ามาในซอยเอกมัยลักษณะซอยจะเป็นถนน 2 เลน ขนาดมาตรฐาน หน้าปากซอยมีคิวพี่วินขนาดใหญ่คอยให้บริการสำหรับใครที่เดินทางมาด้วยรถไฟฟ้า BTS เอกมัย ก็สามารถมาใช้บริการพี่วินเพื่อไปยังตัวโครงการได้ค่ะ
ภายในซอยเอกมัยก็จะเต็มไปด้วยร้านอาหารและอาคาร Residence มากมาย น้องๆซอยทองหล่อเลยค่ะ
ขับตรงต่อมาอีกหน่อยก็ถึงโครงการทางซ้ายมือแล้วค่า
การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า
ออกมาจากตัวสถานีลงทางออก 1 ค่ะ
มองจากตัวสถานีลงไปจะเห็นปากซอยเอกมัย
หรือถ้ามองฝั่งตรงข้ามจะเป็น Gateway เอกมัย ถ้าเราจะแวะก็ต้องเดินไปออกที่ทางออก 4 สามารถแวะซื้อของกันก่อนเข้าบ้านได้
เราลงมาจากสถานีที่ประตูทางออก 1 แล้วค่ะ
ลงมาเจอฟุตบาทกว้าง ขวามือเป็นร้านอาหาร + ลานเบียร์
เดินมาถึงหน้าปากซอยเอกมัยจะเห็นทางม้าลายให้เราข้ามถนนไปอีกฝั่ง
ข้ามมาฝั่งตรงข้ามแล้วจะเจอกับ Major เอกมัย ที่เราจะเห็นว่ามีสะพานเชื่อมมาจากตัว BTS เลย ถ้าเราจะแวะเข้าไปหาซื้อของก็สามารถที่จะเดินเข้าห้างได้เลย สะดวกดีค่ะ
ด้านหลังอาคารมีส่วนสหกรณ์ ด้านในมีร้านอาหารราคาไม่แพง
คิวพี่วินที่อยู่ปากซอยจะอยู่ข้างๆ Major เอกมัย เป็นคิวค่อนข้างใหญ่ มีพี่วินคอยให้บริการหลายคันเลยค่ะ
อัตราค่าโดยสารของพี่วินเค้าค่ะ
เดินต่อมาเราจะเห็นว่ามีคอนโดและโรงแรมอยู่เรื่อยไปอีกด้านของถนน
เดินต่อมาเจอป้ายรถเมล์มีสาย 23, 72, 545ร วิ่งผ่าน
เดินต่อมาเจอร้านอาหารญี่ปุ่น Kuroda เป็นร้านบุฟเฟต์มีปลาดิบให้ทานไม่อั้น คุ้มอยู่ค่ะ
ฝั่งตรงข้ามเป็นโครงการ Noble Reveal
เดินต่อมาอีกหน่อยเจอเวิ้งร้านอาหารจุดแรก ด้านในมี MK Reastaurant และร้านอาหารญี่ปุ่น Miyazaki
เดินต่อมาผ่านซอยธนา อาเคด
ด้านในเป็นอาคารพาณิชย์ทั้งซอย
เดินถัดมาอีกหน่อยก็จะถึงที่ตั้งโครงการ Rhythm เอกมัยแล้วค่าา
ถนนและแยกที่สำคัญรอบๆโครงการ
ถนนสุขุมวิท 260 เมตร
ถนนเพชรบุรี 2.8 กม.
ซอยทองหล่อ2.2 กม.
ซอยสุขุมวิท 71 (ปรีดีพนมยงค์) 1.6 กม.
แยกพระโขนง 1.4 กม.
แยกคลองตัน 2.7 กม.
ถนนพระราม 4 5.9 กม.
แยกอโศก 3.4 กม.
สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ
BTS เอกมัย 350 เมตร
APRL รามคำแหง 4.2 กม.
ตลาดสดเอกมัย 3.2 ม.
ซอยเอกมัย 21 (ซอยแจ่มจันทร์) ม.
Major เอกมัย 500 ม.
Park Lane 850 ม.
Gateway เอกมัย 1.5 กม.
Foodland 1.6 กม.
Tops 1.9 กม.
Fifty Fifth Avenue 2.2 กม.
J Avenue 2.3 กม.
Emporium 2.5 กม
EmQuatier 3.4 กม.
รพ.สุขุมวิท 550 ม.
รพ.คามิลเลียน 2.3 กม.
รพ.สมิติเวช 2.4 กม.
รอบๆโครงการ
รอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นอาคารสำนักงานและอาคารพาณิชย์ 4-6 ชั้น สลับกับคอนโดตึกสูงและร้านอาหาร นอกจากนั้นก็จะมีที่ดินเปล่า เป้นที่ดินส่วนบุคคลแทรกอยู่บ้างประปรายค่ะ
ทิศเหนือ ติดกับ Park Lane เอกมัย สูง 5 ชั้น
ทิศตะวันออก ติดกับ ถนนเอกมัย ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 4-5 ชั้น
ทิศใต้ ติดกับ ซอยที่มีอาคารพาณิชย์สูง 5 – 6 ชั้น
ทิศตะวันตก ติดกับ อาคารส่วนบุคคล สูง 1-2 ชั้น
มาลองดูบรรยากาศรอบๆโครงการของจริงกันบ้างค่ะ เริ่มจากหน้าโครงการ ติดกับถนนเอกมัย ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 – 5 ชั้น ด้านล่างเปิดเป็นร้านรวงต่างๆ
ติดกับโครงการซ้ายมือเป็น Park Lane
ด้านหน้า Park Lane มี True Coffee และร้านชาบู Kobune
ถัดมาเป็นธนาคารกรุงเทพ
และปั๊ม Shell
และติดกับปั๊ม Shell เป็นอาคาร Bangkok Business Center สูง 33 ชั้น ด้านล่างมีร้านสะดวกซื้อ 1 i้านค่ะ
ฝั่งตรงข้ามจะมีเซเว่นอีเลฟเว่นเป็นสาขาที่ใกล้โครงการมากที่สุดค่ะ
กลับมาที่หน้าโครงการฝั่งขวามือจะเป็นทางเดินไปทางต้นซอยเอกมัย มีป้ายรถเมล์ที่ฝั่งตรงข้าม มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 53 เมตรค่ะ
ตัวโครงการ
โครงการ Rhythm เอกมัย เป็นโครงการคอนโด High Rise สูง 32 ชั้นจำนวน 326 ยูนิต มาใน Concept “LIVE YOUR BEST PERSPECTIVE”การออกแบบอาคารโดยรวมก็จะเป็นสไตล์โมเดิร์น จุดเด่นของโครงการนอกจากทำเลที่ตั้งแล้ว ตัวส่วนกลาง (Facilities) ก็ยังเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เช่นกัน โดยส่วนกลางส่วนใหญ่จะถูกยกขึ้นไปไว้บนชั้นสูงๆ ทำให้ตัวอาคารดูสวย และดูเด่น มีจุดเด่นตรงที่ใช้หิน Onyx ในการตกแต่งส่วนกลางของโครงการ
มาดูผังโครงการการต่อค่ะ เริ่มจากมาสเตอร์แปลนจะเห็นว่ามีทางเข้าออกจากทางถนนเอกมัยทางเดียว เข้ามาในโครงการจะต้องผ่าน Security ใช้ระบบ Key Card Access ถนนในโครงการเป็นเลนรถวิ่งสวนกันมาถึงบริเวณหน้าทางเข้าจะวงเวียนและพื้นที่ Drop Off สำหรับใครที่มีรถเข้ามาส่ง ก็สามารถกลับรถตรงวงเวียนนี้แล้วกลับออกไปนอกโครงการได้ค่ะ หรือถ้าใครจะนำรถเข้ามาจอดด้านในก็สามารถขับต่อเข้าไปยังที่จอดรถภายในอาคารโดยที่จอดรถจะอยู่ตั้งแต่ชั้น 2 – 6 จำนวนที่จอดรถทั้งหมด 177 คัน หรือประมาณ 54%
สำหรับในตัวอาคาร ด้านหน้าจะมีส่วนที่เป็น shop 1 ยูนิต สำหรับให้ส่วนพาณิชย์เข้ามาเปิดร้าน ซึ่งอาจจะเป็นร้านสะดวกซื้อหรือร้านอาหารยังต้องรอการสรุปในอนาคตค่ะ และเมื่อเข้ามาในส่วน Residential จะเจอกับส่วน Foyer หรือพื้นที่โถงรับรองขนาดเล็ก เป็นพื้นที่โถงรับรองย่อยรับรองบุคคลภายนอก เช่น คนส่งของ คนส่งพิซซ่าก่อนจะเข้าไปในส่วน Lobby หลัก โดยตัว Lobby หลักจะต้องใช้ Key Card แตะก่อน ภายในส่วน Lobby จะเป็นล็อบบี้กว้าง ฝ้าเพดานสูง สามารถเห็นวิวของสระน้ำด้านนอกและสวนหย่อมได้ จากส่วนล็อบบี้จะสามารถเข้าไปเช็คจดหมายได้ในห้อง Mail Room และเชื่อมไปยังโถงลิฟท์ โดยลิฟท์ในโครงการจะมีทั้งหมด 4 ตัว อัตราส่วนเฉลี่ย ต่อห้องยูนิตอาศัยจะอยู่ที่ 1 : 81 ถือว่าไม่หนาแน่นค่ะ
เรามาชมตึกเสร็จกันต่อเลยค่ะ เริ่มจากรั้วด้านหน้าโครงการทำเป็นโทนสีเทาเข้ม แบ่งเป็นส่วนรั้วทึบต่อโปร่ง ด้านหน้าลงไม้พุ่มทำให้บรรยากาศหน้าโครงการดูร่มรื่น
ส่วนทางเข้าจะแยกทางคนเดินและทางรถเข้า โดยฝั่งซ้ายมือจะเป็นซุ้มป้อมรปภ.และประตูทาเงข้าสำหรับคนเดินเท้า
บริเวณซุ้มมีป้ายชื่อโครงการติดด้านหน้า ประตูทางขวามือเป็นห้องของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นประตูสำหรับคนเดินเข้าโครงการ
ส่วนทางเข้าออกรถจะอยู่บนถนนทางเข้าโครงการ ใช้ระบบรักษาความปลอดภัยรั้วกั้นไม้กระดก แยกฝั่งทางเข้า – ออก
ติดกับรั้วกั้นไม้กระดกเป็นป้อมรปภ.ประจำการตลอด 24 ชม.
สำหรับลูกบ้านสามารถเข้าโครงการได้โดยระบบ Access Card มีกล้อง CCTV ติดตั้งไว้ฝั่งละ 1 ตัว
เข้ามาภายในโครงการจะเจอถนนหลักวิ่งรอบโครงการ สำหรับรถโดยสารสามารถวิ่งเข้าไปส่งลูกบ้านตรงจุด Drop Off หน้า Lobby แล้ววนออกได้เลย ส่วนถ้าจะเข้าที่จอดรถสามารถวิ่งรถได้ทั้งซ้ายและขวาค่ะ เพราะถนนในโครงการจะเป็นแบบรถวิ่งสวนกันได้
ติดกับทางเข้าฝั่งซ้ายมือจะมีศาลพระภูมิของโครงการ
ส่วนทางขวาจะเป็นสวนหย่อม ลงต้นไม้ทรงสูงไว้แน่นๆ เพิ่มสีเขียวและช่วยให้บรรยากาศในโครงการร่มรื่น หลีกหนีจากความวุ่นวายภายนอก
เข้ามาในโครงการ เราจะเดินมาทางฝั่งซ้ายมือกันก่อน
ติดกับทางเข้าจะมีสวนหย่อมหน้าโครงการอีก 1 จุด ตรงนี้เป็นพื้นที่สวนที่ลูกบ้านสามารถเข้าไปใช้งานได้ และจะมีทางเดินเชื่อมต่อมาจากทางเดินเข้าโครงการที่อยู่ติดกับซุ้มทางเข้านั่นเองค่ะ
ตรงกลางสวนมีต้นไม้ประธานต้นใหญ่ ในอนาคตจะโตสูงใหญ่ ให้ร่มเงา
ภายในสวนมีศาลานั่งพักผ่อน มีหลังคาคลุมบังแดดฝน
ด้านในจัดที่นั่งเป็นโซฟา 3 ชุด ประมาณ 6 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง บรรยากาศโปร่งโล่ง ลมโกรกดีเลยค่ะ
วิวจากในศาลานั่งพักผ่อน มองออกมาเห็นบรรยากาศในสวนเล็กๆ ขวามือลงต้นไม้ไว้อย่างแน่นเพื่อบังสายตาจากภายนอกโครงการ
จากในสวนมองออกมาทางถนนภายในโครงการจะเห็นส่วน Lobby บางส่วน
ส่วนตกแต่งติดกับถนนหลักจะมีธารน้ำไหลเล็กๆ ปล่องลงมาบนหินกรวดใหญ่ สร้างบรรยากาศสบายๆ เย็นๆ จากวิวใน Lobby
เดินเข้ามาตามถนนหลักเรื่อยๆ มาทางฝั่งข้างอาคาร
จะเห็นว่ารอบๆ Lobby ที่ทำเป็นผนังกระจกจะพยายามจัดสวนเล็กๆ ทั้งลงไม้พุ่มและไม้เตี้ยๆไว้เพื่อบังสายตาให้ความเป็นส่วนตัวภายใน Lobby ด้วยค่ะ
เข้ามาสู่บริเวณที่จอดรถ ส่วนแรกเลยเราจะเจอ Charging Pod เป็นที่รองรับ EV Charger ทั้งหมด 4 ช่องจอด
ติดกันเป็นทางเข้าที่จอดรถภายในอาคาร ความสูงรถห้ามเกิน 2.10 เมตรนะคะ
ที่จอดรถจะอยู่ที่ชั้น 2 – 6 โดยจะเป็นที่จอดรถมาตรฐาน ผนังเปิดโล่งช่วยระบายอากาศ
การแบ่งช่องจอดก็จะแบ่งตามช่วงเสาตามปกติ พร้อมติดตั้งกล้อง CCTV ในบริเวณที่จอดรถมาให้เพื่อความปลอดภัย
บันไดภายในที่จอดรถ
ส่วนโถงลิฟต์ภายในที่จอดรถจะอยู่ติดกับบันไดหนีไฟ
ใช้ระบบ Access Card เพื่อความปลอดภัย
ภายในโถงลิฟต์จากที่จอดรถทำออกมาเรียบๆแต่ก็ไม่เรียบเกินไป ยังมีดีเทลด้วยการเลือกใช้กระเบื้องลายหิน
บรรยากาศถนนด้านหลังโครงการ ติดกับรั้วโครงการเป็นรั้วตีเหล็กเป็นแนวเฉียงๆ ช่วยบังสายตาแต่ก็ยังช่วยให้ลม Flow ภายในโครงการได้ดี
กลับมาที่หน้าโครงการ ตอนนี้เราอยู่กันที่จุด Drop Off มองตรงไปที่เป็นห้องกระจกจริงๆจะเป็นยูนิตร้านค้านะคะ แต่ตอนนี้ยังใช้เป็นสำนักงานของโครงการอยู่
ส่วนฝั่งซ้ายมือจะเป็นทางเข้า Foyer
ด้านหน้ามี Smart Pod สำหรับรับพัสดุจากตัวแทนขนส่งต่างๆ โดยไม่ต้องเข้าไปด้านในอาคาร แล้วลูกบ้านก็สามารถมาเปิดรับของเองได้ภายหลัง
เข้ามาภายในส่วน Foyer จะเจอเคาน์เตอร์พนักงานต้อนรับทางขวามือ
ส่วนทางซ้ายมือเป็นพื้นที่นั่งคอย
ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่บางส่วนทำมาจากหิน Onyx ซึ่งเป็นหินโปร่งแสงเมื่อโดนไฟจะส่งให้เห็นลวดลายด้านในหินที่เป็นจุดเด่นของโครงการนี้ด้วย
ถัดเข้ามาจาก Foyer จะเป็น Lobby แล้วค่ะ โดยทางเข้าส่วน Lobby จะต้องแตะคีย์การ์ดก่อนถึงจะเข้ามาด้านในได้นะคะ
เข้ามาปุ๊ปก็จะถูกต้อนรับด้วยหิน Onyx เต็มๆ จัดมาให้เยอะหลายจุดเลยค่ะ สมกับที่ยกให้เป็นจุดเด่นของโครงการ
ลักษณะตัวโถง Lobby จะเป็นแนวลึกนะคะ
บรรยากาศภายใน Lobby ทำออกมาสวยเลยค่ะ
จัดแบ่งมุมนั่งรับรองมาให้เป็น 3 จุดใหญ่ๆ
แต่ละจุดก้จะลงเฟอร์นิเจอร์มาให้เป็นโซฟารับรองหลายที่นั่ง และที่เป็นจุดเด่นคือโต๊ะกลางเค้าก็ใช้หิน Onyx ด้วยนะ
บรรยากาศจากภายใน Lobby มองออกไปภายนอกก็จะมองไม่เห็นถนนรอบโครงการเท่าไหร่ค่ะ เนื่องจากเค้าตั้งใจจัดมาให้มีความเป็นส่วนตัวอย่างที่บอกไปเมื่อตอนต้นแล้วนั่นเอง
ภายในโถง Lobby จะมีประตูเข้าไปยังห้องนิติฯและ Mail Room
ภายใน Mail Room จัดเป็นมุมแบบกระทัดรัด แบ่งกล่องจดหมายของแต่ละห้องไว้เป็นระเบียบ
ถัดมาจากห้อง Mail Room และห้องนิติฯ ก็จะเป็นโถงลิฟต์ค่ะ ซึ่งก็จะอยู่ติดกับโถง Lobby นั่นเอง
โถง Lobby จะต้องใช้คีย์การ์ดแตะเข้า – ออก เพื่อความปลอดภัยของลูกบ้าน
ภายในโถงลิฟต์ใช้กระเบื้องหินอ่อนโทนสีดำ ขรึมๆ ฝ้าเพดานสูง
มุมจากในโถงลิฟต์มองย้อนไปทางประตูติดทางเข้าจาก Lobby
ภายในลิฟต์โดยสารใช้ผนังสีโทนไม้ๆ พื้นกระเบื้องหินอ่อนสีดำ ติดกระจกเงามาให้เพื่อเช็คความเรียบร้อยก่อนออกไปข้างนอก พร้อมกล้อง CCTV รักษาความปลอดภัย
ใช้ลิฟต์ของ OTIS เป็นลิฟต์ล็อคชั้น ต้องแตะคีย์การ์ดก่อนกดเลือกชั้น จุคนได้ประมาณ 13 คนหรือรองรับ 1,000 กิโลกรัมค่ะ
ภายในลิฟต์จะมีจอทีวีเล็กให้ดูเพลินๆด้วย
กลับออกมาที่ส่วน Lobby เมื่อเราเดินเข้ามาจนถึงด้านในสุดจะมีทางเดินเชื่อมเข้าไปยังส่วนห้องน้ำรับรอง
มีผนังหิน Onyx อยู่ด้านหน้า
เข้ามาด้านในแบ่งเป็นห้องน้ำชาย – หญิง
ภายในห้องน้ำทำออกมาสวย ใช้รับรองแขกได้ดีเลย โดยส่วนแรกจะเป็นอ่างล้างมือพร้อมกระจกเงา
ด้านในมีประตูกั้นแยกเป็นห้องส้วม ติดตั้งสุขภัณฑ์แบบ Washlet มาให้พร้อมกระดาษชำระ
ปุ่มควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆของโถสุขภัณฑ์
ภายในห้องน้ำชายตกแต่งออกมาสวยเหมือนกันค่ะ
ฟังก์ชั่นต่างๆก็เหมือนกัน แค่เพิ่มส่วนโถปัสสาวะมาให้ 1 โถ
ด้านในก็เป็นห้องกั้นแยกเป็นห้องส้วม ติดตั้งสุขภัณฑ์ Washlet
ออกมาจากบริเวณห้องน้ำรับรอง มองย้อนภาพรวมใน Lobby ให้ชมอีกซักรูป
ผังโครงการชั้น 7 ออกมาจากโถงลิฟท์จะเจอประตูทางเข้าสวนหย่อมด้านนอก ซึ่งจะจัดพื้นที่นั่งพักผ่อนไว้ให้ลูกบ้านใช้งานด้วย ส่วนห้องพักอาศัยจะต้องแตะคีย์การ์ดอีกชั้นเพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านที่ชั้นนี้ค่ะ ตัวโถงทางเดินจะเป็นรูปตัว L มีโถงลิฟท์อยู่ตรงกลางทำให้แต่ละฝั่งสามารถเดินถึงกันได้ในระยะที่ไม่ไกลมาก
ออกมาจากลิฟต์เจอโถงลิฟต์สว่างๆ เพราะมีช่องแสงขนาดใหญ่ติดกับสวนด้านนอก
หน้าตาโถงลิฟต์แต่ละชั้นพักอาศัยจะเป็นมาตรฐานแบบนี้เหมือนกันหมดนะคะ ยกเว้นที่ชั้น 31 ซึ่งเป็นส่วนกลางหลักค่ะ
ปุ่มกดหน้าลิฟต์หน้าตามาตรฐาน แสดงผลบนหน้าจอดิจิตัลแบบนี้
อีกฝั่งของโถงลิฟต์มีประตูกั้นแยกส่วนพักอาศัย ต้องแตะคีย์การ์ดก่อนถึงจะเข้าไปได้นะ
จากโถงทางเดินจะเข้าโถงลิฟต์ก็ต้องแตะคีย์การ์ดเหมือนกัน
ออกมาดูสวนด้านนอกหน่อย สวนที่ชั้น 7 จะเน้นให้ใช้งานได้จริงนะ ลงต้นไม้มาให้พอร่มรื่น และได้ความเป็นส่วนตัว
ภายในสวนจักที่นั่งพักผ่อนมาให้หลายจุดเลย ทั้งมานั่งยาว(หรือจะนอนก็ได้)
มีศาลาหลังคาระแนงโปร่ง บังแดดได้พอประมาณ แต่วันไหนฝนตกก็พกร่มมาด้วยนะ
ด้านในศาลาพักผ่อน มีโต๊ะด้วย วันไหนเบื่อๆเอาหนังสือมานั่งอ่านหรือการบ้านมานั่งทำได้เลย สบายมาก แอบเป็นส่วนตัวด้วยเพราะชั้นบนมองลงมาก็ไม่เห็นเรา
จากสวนมองขึ้นไปชั้นบนๆหน่อย
บรรยากาศภายในโถงทางเดินสะอาดเรียบร้อย มีช่องแสงที่สุดโถงทางเดินแต่ละฝั่งเพื่อช่วยระบายอากาศให้โถงทางเดินไม่อับค่ะ
ขึ้นมาที่ผังอาคารชั้น 7 – 17 และชั้น 22 – 23 จะเป็นยูนิตพักอาศัยทั้งชั้นค่ะ
ผังอาคารชั้น 18 – 21 และชั้น 24 – 25 ก็จะเป็นส่วนของยูนิตพักอาศัยทั้งหมดเช่นกัน ลักษณะการวางผังของทั้งสองชั้นนี้จะเหมือนกันเลยค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 26 ก็จะเป็นชั้นของที่พักอาศัยเกือบทั้งหมดแต่จะมีสวนหย่อมเพิ่มขึ้นมาในด้านทิศตะวันออกของตัวอาคารแต่สวนหย่อมจุดนี้จะไม่สามารถออกมาใช้งานได้ค่ะ
ผังอาคารชั้น 27 และชั้น 29 จะเป็น ยูนิตพักอาศัยทั้งชั้น
ผังอาคารชั้น 28 เป็นส่วนยูนิตพักอาศัยค่ะ
ผังอาคารชั้นที่ 30 จะเป็นชั้นที่เรียกว่า Relaxing Area เป็นชั้นมีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นส่วนห้องเครื่อง แต่จะมีห้องน้ำที่เชื่อมขึ้นไปยังชั้น 31 ด้วยค่ะ
ขึ้นมาที่ผังอาคารชั้น 31 ชั้นนี้จะเป็นศูนย์รวมของส่วนกลางหลักๆ โดยจะมีสระว่ายน้ำ Infinity Edge Pool เป็นสระกึ่ง Outdoor กว้างประมาณ 26 เมตร เป็นสระระบบเกลือแยกสระเด็กสระผู้ใหญ่ เหนือสระมีตกแต่งด้วยไปเหมือนอยู่ในทางช้างเผือก ที่หันหน้าไปทางทิศใต้และจะมีส่วนหย่อม 2 จุดเป็น Pocket Garden A และ Pocket Garden B รวมไปถึง Panoramic Fitness เห็นวิวทางฝั่งทืศเหนือ ทิศตะวันออก ค่ะ
ผังโครงการชั้น 32 จะมี Rhythm Panoramic Theater Lounge ซึ่งจะเป็นห้องสำหรับดูหนังเป็น พื้นที่ส่วนตัวที่ลูกบ้านสามารถจองเพื่อมาใช้งานเป็นครอบครัวได้ อีกห้องจะเป็น Rhythm Social Club จะเป็นห้องอเนกประสงค์ให้ลูกบ้านสามารถขึ้นมานั่งทำงานหรือนั่งพักผ่อนได้
และไฮไลท์ของโครงการนี้อีกจุดหนึ่งก็คือ Rhythm Observation เป็นพื้นที่โถง พื้นเป็นกระจกใสยื่นออกมาจากโถงด้านใน ออกมายืนแล้วจะสามารถมองเห็นสระว่ายน้ำด้านล่างและวิวเมืองฝั่งถนนสุขุมวิทค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 31 ออกมาจะเจอโถงลิฟต์ฝ้าเพดานสูง ตกแต่งออกมาแตกต่างจากชั้นอื่นๆ โดยชั้นนี้จะใช้สีโทนสว่าง ผนังกระเบื้องหินอ่อนแผ่นใหญ่ เสริมด้วยช่องแสงขนาดใหญ่ทำให้พื้นที่โถงลิฟต์ดูสว่างด้วยแสงธรรมชาติ
จากโถงลิฟต์จะเป็นโถงทางเดินเชื่อมออกไปยังส่วนกลางต่างๆ
ออกมาจากโถงลิฟต์ก็จะเจอห้องฟิตเนสเป็นจุดแรก
ฟิตเนสโครงการนี้ขนาดห้องไม่กว้างมากแต่จัดอุปกรณ์มาให้ค่อนข้างครบครันเลยทีเดียว เดี๋ยวเราไปดูกันทีละส่วน
ฝั่งซ้ายมือจะแบ่งโซนด้วยฉากกั้น ฝั่งนึงเป็นดัมเบลและเบาะปรับระดับ สำหรับเวทเทรนนิ่ง และอีกฝั่งเป็นโซนคาดิโอและ Multi Station
ให้ดูวิวทางฝั่งซ้ายจะเป็นสวนหย่อมด้านนอกห้อง
ทางขวามือก็แบ่งฝั่งมาเป็นโซนเวทเทรนนิ่งและคาดิโอเช่นกัน
วิวฝั่งขวาจะเป็นวิวเมืองค่ะ
เข้ามาดูด้านในโซนเวทเทรนนิ่ง พื้นที่ใช้สอยอาจจะแคบไปหน่อยแต่เวลาใช้งานจริงก็สามารถขยับเลื่อนอุปกรณ์กันได้อยู่แล้วค่ะ
มีดัมเบลคละน้ำหนัก 20 ชิ้น ทั้งหมด 2 ชุด
กับเบาะปรับระดับได้ 2 เบาะ
ขยับเข้ามาดูด้านในส่วนคาดิโอ ตรงกลางจะมีเก้าอี้ยาวสำหรับนั่งพัก
ในส่วนคาดิโอจะจัดลู่วิ่ง Treadmill มาให้ 2 เครื่อง สามารถต่อ Wifi เล่น Facebook หรือดู Youtube ได้เพลินๆระหว่างวิ่ง
Eliptical 2 เครื่อง
จักรยานไฟฟ้า 2 เครื่อง
และไฮไลท์คือเครื่อง Multi Station ชุดนี้ คือสามารถออกกำลังกายได้เกือบครบในเครื่องเดียวเลย
มุมจากฝั่งคาดิโอมองย้อนไปทางเข้าห้องฟิตเนสค่ะ
ออกมาจากห้องฟิตเนสจะเจอบันไปฝั่งซ้ายมือ เชื่อมขึ้นไปที่ชั้น 32
ฝั่งขวามือเป็นสวนหย่อม มีที่นั่งเล่น/นอนอาบแดดมาให้ด้วย
จากสวนหย่อม มองไปอีกฝั่งจะเป็นทางเชื่อมไปยังสระว่ายน้ำ
บริเวณทางเชื่อมตรงนี้จะเป็น Pool Terrace มี Sunbed นั่งพักผ่อน 2 ตัว ติดกันบริเวณห้องกระจกทางฝั่งซ้ายมือที่เราเห็นจะเป็นทางเชื่อมลงไปยังห้องน้ำชั้น 29
บนฝ้าเพดานตีฝ้าเป็นเส้นสีโทนน้ำตาลเชื่อมยาวไปจนถึงบริเวณเหนือสระว่ายน้ำเลย
ออกมาที่สระว่ายน้ำ เป็นสระแบบ Infinity Edge Pool ซึ่งเป็นสระ Outdoor ที่มีบางส่วนได้ร่มเงาให้สามารถนั่งแช่น้ำสบายๆได้
มีจุดที่เป็นจากุซซี่พร้อมที่นั่งภายในสระ ให้ได้นั่งนวดหลังสบายๆ
มีแยกสระเด็กให้เรียบร้อย
ตัวสระว่ายน้ำมีความกว้างเต็มหน้ากว้างอาคารเลย ประมาณ 26 เมตร ว่ายออกกำลังกายพร้อมชมวิวเมืองเก๋ๆ ถ่ายรูปสวยด้วยนะ
ติดกับสระว่ายน้ำเป็น Pool Terrace ยาวไปตลอดริมสระ
จุดล้างตัวก่อนลงสระจะแยกไว้เป็นสัดส่วน
ด้านในติดตั้งเป็น Rain Shower และ Hand Shower พร้อมก๊อกน้ำ
ที่นั่งพักผ่อนริมสระก็ทำออกมาเก๋ดีค่ะ
ภาพรวมสระจากอีกมุมค่ะ
ติดกับ Pool Terrace จะมีมุมนั่งพักผ่อน ลงต้นไม้ให้ความร่มรื่น นั่งชมวิวเมืองชิลล์ๆ
กลับมาดูส่วนห้องน้ำที่ชั้นส่วนกลางกันต่อ
ลงมาที่ชั้น 29 จะเจอโถงเล็กๆ มีประตูกกั้นแยกเข้าไปในส่วนห้องน้ำ
ห้องน้ำแยกชาย หญิง
เข้าไปดูในห้องน้ำหญิงกันก่อน
ภายในห้องน้ำกว้างขวาง ตกแต่งมาด้วยโทนสีครีมทอง
ส่วนแรกเป็นอ่างล้างมือ 1 อ่าง พร้อมกระจกเงา
พร้อมล็อคเกอร์ 12 ช่อง และกุญแจให้ใช้งานได้
อีกฝั่งของห้องน้ำจะเป็ยห้องน้ำ, ห้องอาบน้ำ, ห้องสตีมและซาวน่า
มีห้องน้ำ 2 ห้องและห้องอาบน้ำ 2 ห้อง
ภายในห้องน้ำติดตั้งโถสุขภัณฑ์พร้อมถังขยะ และในห้องอาบน้ำใช้เป็นฝักบัว Rain Shower และ Hand Shower
ถัดเข้ามาในสุดจะมีเก้าอี้นั่งพัก หรือยืนแต่งตัวเล็กๆน้อยๆ มีช่องแสงขนาดใหญ่ช่วยระบายอากาศในห้องน้ำ
อีกฝั่งจะเป็นห้องซาวน่าทางซ้ายมือ และห้องสตีมทางขวามือ
ภายในห้องสตีมและห้องซาวน่า
เข้ามาดูภายในห้องน้ำชายต่อ งานตกแต่งจะมาในโทนเดียวกับห้องน้ำหญิง
มีอ่างล้างมือพร้อมกระจกเงาและล็อคเกอร์ 12 ช่อง
มีแยกมุมโถปัสสาวะชายและห้องน้ำ 2 ห้องกับห้องอาบน้ำ 2 ห้อง
โถปัสสาวะติดตั้งมาให้ 2 โถ
เข้ามาด้านในสุดก็จะมีจัดเก้าอี้ยาวติดกับช่องแสงขนาดใหญ่
ฝั่งซ้ายมือเป็นห้องสตีมและซาวน่า
ภายในห้องสตีมและซาวน่า
กลับออกมาที่ชั้น 30 เราจะขึ้นไปดูส่วนกลางที่ชั้น 31 กันต่อเลยค่ะ
ขึ้นมาปุ๊ปจะเจอส่วนไฮไลท์ก่อนเลย คือ Rhythm Observatorium ส่วนฝั่งขวามือเป็น Social Club และซ้ายมือเป็นห้อง Rhythm Panoramic Theater Lounge
Rhythm Observatorium พื้นเป็นกระจกใสยื่นออกมาจากโถงด้านใน และราวกันตกกระจกใสกิ๊ง ออกไปยืนชมวิวรอบด้านได้
มองลงไปด้านล่างจะเห็นสระว่ายน้ำที่ชั้น 30
เราเข้ามาดูภายในห้อง Rhythm Panoramic Theater Lounge กันต่อ ห้องนี้จะปรับได้ 2 โหมด เวลาปกติก็สามารถเปิดม่านชมวิวเมืองรอบห้อง พาเพื่อนมานั่งเล่นสังสรรค์ได้ และอีกโหมดเป็นโรงหนังที่สามารถเลื่อนม่านปิดลงมารอบห้อง ให้ได้บรรยากาศมืดๆ
มีจอโปรเจ็คเตอร์ให้บริการด้วย แต่ถ้าจะดูหนังต้องเอามาเสียบกับเครื่องเปิดเองนะ
มีหน้าจอควบคุมที่ติดตั้งมาให้สามารถใช้ปิดเปิดม่าน และไฟในห้อง รวมไปถึงหน้าจอโปรเจ็คเตอร์ค่ะ
ภายในห้องนี้จะจัดชุดโซฟา เก้าอี้มาให้เยอะมากๆ ทั้งโซฟาคู่แยกนั่งชมวิวเมือง และด้านในมีชุดโต๊ะเก้าอี้แยกเป็น 4 ชุด
เก็บภาพมาให้ดูอีกมุมค่ะ
กลับออกมาที่โถงด้านนอก เราไปดูภายใน Social Club กันต่อ
ห้องนี้จะเป็นห้องที่เหมาะสำหรับเข้ามานั่งทำงานหรือนั่งประชุมค่ะ เข้ามาปุ๊ปจะเจอห้องฝ้าเพดานสูง ผนังเป็นกระจกใสรอบห้องความสูงจรดฝ้า
ฝั่งซ้ายมือเป็นโต๊ะนั่งทำงานหันหน้าออกนอกอาคาร ทำงานไปชมวิวเมืองไปชิลล์ๆ
อีกฝั่งของห้องเป็นโต๊ะยาว
ผนังด้านข้าง Built – in เป็นชั้นวางยาวๆ
วิวจากโต๊ะยาวก็สามารถมองเห็นวิวเมืองได้เช่นกัน แต่ถ้าอยากได้บรรยากาศเงียบๆก็สามารถเลื่อนม่านปิดลงมาได้
อีกมุมเป็นมุมนั่งแบบเป็นส่วนตัวแบ่งเป็นชุดโซฟาเข้ามุม 2 ชุด พร้อมโต๊ะกลาง
ภาพรวมอีกมุมภายใน Social Club
แบบห้อง
แบบห้องในโครงการจะขายแบบ Fully Fitted ให้เฉพาะเคาน์เตอร์ครัวครบชุดและสุขภัณฑ์เท่านั้น ส่วนอื่นๆจะเป็นห้องเปล่าค่ะ โดยแบบห้องในโครงการหลักๆจะมีทั้งหมด 3 ขนาด คือ
แบบ Studio ขนาดห้อง 30 – 31 ตร.ม.
แบบ 1 Bedroom ขนาดห้อง 35 – 38 ตร.ม.
แบบ 2 Bedroom ขนาดห้อง 70 – 80 ตร.ม.
โดยแต่ละแบบก็จะมีแปลนห้องที่แตกต่างกันไปตามตำแหน่งการวางห้องซึ่งแต่ละแบบจะมีผนังส่วนที่เฉียงออกไปจากตัวห้องทำให้สามารถเปิดรับมุมมองภายนอกได้มากขึ้น Bay Window และระเบียงขึ้นอยู่กับตำแหน่งก็จะแตกต่างกันไป แต่ละชั้นจะฟิกซ์ตำแหน่งไว้ค่อนข้างชัดเจนสามารถดูได้ใน Floor Plan ด้านบนค่ะ
ทุกห้องจะไม่มีการ Block วิวกันเองเลย ทุกห้องจะมีมุมมองของตัวเอง ทุกยูนิตจะได้มุมมองที่ดีที่สุด แม้แต่ในห้อง Studio ก็จะได้เป็นห้องมุม
แบบ Studio ขนาดห้อง 30 – 31 ตร.ม.
แบบ 1 Bedroom ขนาดห้อง 35 – 38 ตร.ม.
แบบ 2 Bedroom ขนาดห้อง 70 – 80 ตร.ม.
ห้องตัวอย่าง
สำหรับห้องตัวอย่างที่เราจะพาชมกันวันนี้เป็นห้องแบบ Studio ขนาด 30 ตร.ม. (ส่วนห้องตัวอย่างแบบ 2 Bedroom สามารถเข้าไปอ่างรีวิวได้ที่นี่)
แปลนห้อง Studio ส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ครัว ได้เป็นครัวแบบเปิดเหมาะสำหรับการเตรียมอาหารเล็กๆน้อยๆ ซึ่งเราสามารถกั้นห้องเพิ่มเติมเองได้ถ้าหากว่าเราทำอาหารอย่างจริงจัง จะได้ช่วยกันควันและกลิ่นอาหารเข้าไปยังส่วนห้องนอนค่ะ
จากห้องครัวจะเชื่อมต่อเนื่องไปยังห้องนั่งเล่นและห้องนอน โดยในพื้นที่ส่วนนี้จะได้เป็นห้องโล่งๆ ขนาดห้องสามารถที่จะจัดเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นพักผ่อนเล็กๆและห้องนอนได้ และจากพื้นที่ห้องนอนก็จะเชื่อมต่อไปยังระเบียงภายนอกค่ะ
มาดูห้องตัวอย่างของจริงกันเลย เริ่มจากประตูทางเข้าหน้าห้องได้เป็นบานทึบ ปิดผิวลามิเนต มีป้ายเลขห้องด้านหน้าพร้อมติดตั้งตาแมวและ Digital Door Lock มาให้เรียบร้อย
Digital Door Lock ยี่ห้อ Alpha
เริ่มเข้าไปดูภายในตัวห้องกันต่อ เริ่มจากพื้นห้องส่วนแรก เป็นพื้นห้องครัวได้เป็นพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อนสีขาว
เข้ามาในห้องจะเห็นเป็นพื้นที่ครัว ความสูงฝ้าเพดาน 2.6 เมตร
พื้นที่ห้องครัวโดยรวม โดยห้องครัวที่ได้จะได้เป็นครัวปิด ซึ่งครัวแบบนี้จะกั้นห้องครัวแยกเป็นสัดส่วนให้เรียบร้อยค่ะ เพื่อป้องกันกลิ่นที่จะมารบกวนส่วนอื่นๆของห้อง
บนฝ้าเพดานติดไฟดาวน์ไลท์ พร้อมติดตั้งสปริงเกอร์
มาดูพื้นที่ตรงส่วนครัวกันก่อน จะได้ชุดเคาน์เตอร์ครัวครบชุด Built – in เคาน์เตอร์ครัวชิ้นล่างและชิ้นบนมาให้ตามแบบ พร้อมพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นไว้ด้านข้างค่ะ
พื้นที่บนเคาน์เตอร์จะมีเตาไฟฟ้า 5 หัวและซิงค์ล้างจานพร้อมก๊อกน้ำ Top ครัวหินสังเคราะห์สีขาว ด้านหลังติด Backsplash มาให้ จะได้ทำความสะอาดคราบอาหารได้ง่าย
บนเคาน์เตอร์ครัวติดตั้งซิ้งค์ล้างจานเป็นทรงสี่เหลี่ยมค่อนข้างลึก พร้อมเตาไฟฟ้า 2 หัว ได้ของ FRANKE
เคาน์เตอร์ครัวชิ้นล่างจะได้ เตาไมโครเวฟ, ซิ้งค์ล้างจานและด้านล่างก็จะมีลิ้นชักเก็บของพร้อมเก๊ะแบ่งเก็บช้อนส้อม ใต้อ่างล้างจานจะมีตู้เปิดออกมามีถังขยะด้านในติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน
สำหรับเคาน์เตอร์ด้านบนจะเป็นตู้เก็บของทั้งหมด 3 ตู้ ด้านในแบ่งเป็นชั้น 2 ชั้น พร้อมเครื่องดูดควันติดตั้งมาให้เรียบร้อย
ติดกับบริเวณห้องครัวเป็นส่นห้องน้ำ
ประตูห้องน้ำได้เป็นบานทึบ มือจับก้านโยกพร้อมตัวล็อค
พื้นห้องน้ำจะมีธรณียกสูงขึ้นมาประมาณ 7 ซม.
เข้ามาในห้องน้ำทำออกมาดูดีเลยค่ะ โดยพื้นและผนังใช้กระเบื้องโทนสีขาวทั้งหมด ฟังก์ชั่นแยกส่วนแห้งและส่วนเปียกแยกจากกัน พร้อมสุขภัณฑ์ครบชุด ยี่ห้อ Kohler บนฝ้าติดไฟดาวน์ไลท์พร้อมเครื่องดูดความชื้นค่ะ
ด้านหลังบานประตูทางเข้าห้องน้ำจะมีตัว Stopper ติดไว้ด้านบน กันประตูกระแทกผนังค่ะ
อ่างล้างมือจะได้อ่างล้างมือทรงสี่เหลี่ยมขนาดอ่างค่อนข้างกว้างแต่อาจจะตื้นไปหน่อย เวลาใช้งานน้ำอาจจะกระเซ็นออกด้านข้างได้บ้างค่ะ ตัวอ่างยี่ห้อ Kohler พื้นที่ข้างอ่างจะมีเต้าเสียบมาให้ 1 จุด
พร้อมเคาน์เตอร์ใต้อ่าง เปิดออกมาเป็นลิ้นชักเก็บของ สามารถเก็บของกระจุกกระจิกได้พอประมาณ
ติดกับอ่างล้างมือจะเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์ แบบ Dual Flush ระยะการใช้งานเหมาะสม ตัวโถสุขภัณฑ์จะได้มาครบชุดพร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระยี่ห้อ Kohler
สายชำระหน้าตามมาตรฐาน ขนาดกะทัดรัด
อีกฝั่งของห้องน้ำจะเป็นพื้นที่ส่วนเปียก โดยจะมี Shower Box ติดตั้งมาให้ บานประตูแบบผลักเข้าไปในห้องอาบน้ำ
มือจับเป็นก้านยาว สามารถวางผ้าเช็ดตัวได้
ด้านในห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัวอาบน้ำแบบ Rain Shower และ Hand Shower มาให้โดยจะได้ของยี่ห้อ Grohe พร้อมเจาะช่องที่ผนังด้านหลังเพื่อวางอุปกรณ์อาบน้ำ
ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 0.8 x 0.9 เมตร พอดียืนอาบน้ำได้สบายๆค่ะ
กลับมาที่ส่วนห้องครัว เราจะไปดูภายในห้องนอนกันต่อ
พื้นในห้องนอนจะปูด้วยลามิเนตสีอ่อน มีตัวจบลามิเนตกั้นไว้ให้ตรงทางเข้าค่ะ
ห้องนอนเป็นห้องแนวลึก ขนาดค่อนข้างกว้าง จึงสามารถแบ่งพื้นที่เป็นทั้งส่วนห้องนอนและห้องนั่งเล่นได้ในตัว และมีช่องแสงบานใหญ่ ทำให้บรรยากาศในห้องดูโปร่งสบายค่ะ
ลักษณะการแบ่งพื้นที่ภายในห้องเราสามารถจัดได้ตามใจเราเลย เพราะห้องจริงจะได้เป็นห้องเปล่า ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ติดตั้งมาให้ เราอาจจะจัดห้องนั่งเล่นไว้ก่อนแบบในห้องตัวอย่าง หรือจะเอาห้องนั่งเล่นไปติดช่องแสงด้านในก็ได้ เวลานั่งพักผ่อนจะได้วิวภายนอกด้วย เหมาะสำหรับคนที่ใช้เวลาดูทีวีหรือนั่งเล่นเยอะกว่านอนบนเตียงค่ะ
มาดูการจัดในห้องนี้กัน พื้นที่ส่วนแรกติดกับครัวจัดเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนเหมือนห้องนั่งเล่นเล็กๆ
วางโซฟา 2 ที่นั่งกำลังดี
ระยะเหลือด้านหน้าสามารถวางโต๊ะกลางได้ มีระยะให้เดินผ่านได้สบายๆ
ฝั่งตรงข้ามในห้องตัวอย่างติดตั้งตู้เสื้อผ้ามาให้ดูเป็นไอเดีย มีระยะการใช้งานให้สามารถยืนแต่งตัวได้สบายๆ
ติดกับพื้นที่นั่งเล่นก็จะวางมาให้ดูเป็นเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งมีขนาดที่พอดีๆกับพื้นที่ใช้สอยในห้องนี้ค่ะ แต่ถ้าอยากวางเตียงคิงส์ไซส์ก็ยังสามารถวางได้อยู่แต่อาจจะเสียพื้นที่นั่งพักผ่อนข้างเตียงไปอีกหน่อย
พื้นที่ฝั่งปลายเตียง Built – in ชั้นวางทีวีและชั้นวางของมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ระยะการใช้งานหลังจาก Built – in ตู้แล้วก็เหลือพอให้เดินผ่านได้สบายๆไม่อึดอัดค่ะ
พื้นที่ข้างหน้าต่างทางโครงการจัดมาให้ดูเป็นโต๊ะทำงานตัวยาว ซึ่งตรงนี้ถ้าใครไม่ได้ใช้โต๊ะทำงานเป็นปกติก็สามารถที่จะเปลี่ยนเป็น Day Bed หรือหาโซฟามาตั้งข้างหน้าต่าง ก็จะได้ที่นั่งไว้สำหรับนั่งชมวิวเมืองในเวลากลางวันและกลางคืนค่ะ
ให้ดูระยะการใช้งานที่เหลือระหว่างเตียงจนถึงโต๊ะทำงาน จะเห็นว่ามีที่ว่างค่อนข้างเยอะสามารถใช้งานฟังก์ชั่นโต๊ะเขียนหนังสือได้อย่างไม่อึดอัด
เปิดม่านให้ดูช่องแสงภายในห้องแบบเต็มๆจะเห็นว่าตัวบานประตูและหน้าต่างมีความสูงเกือบจรดฝ้าเลย
ช่องแสงในห้องนี้จะได้เป็นชุดหน้าต่างบาน fix และหน้าต่างบานกระทุ้งตรงกลาง บางกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสงความสูงเกือบถึงฝ้าเพดาน
หน้าต่างบานกระทุ้งสามารถเปิดได้พอประมาณ ถ้าอยากเปิดระบายอากาศในห้องแบบจริงจังก็แนะนำให้เปิดประตูประเบียงร่วมด้วยค่ะ
เราไปดูในส่วนของระเบียงกันต่อ โดยประตูจะได้เป็นบานสไลด์เดี่ยว ผสมบานฟิกซ์ กรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง
มือจับแบบเซาะร่องพร้อมตัวล็อคมาตรฐาน
พื้นที่ระเบียงมีราวกันตกเหล็กซี่สีดำ และกริลล์บังสายตาสีขาว ช่วยบังตัวคอมเพรสเซอร์แอร์ทำให้ภาพรวมของอาคารดูเรียบร้อย
ออกมายังระเบียงภายนอกมีธรณีกันระหว่างพื้นที่ห้องนั่งเล่นและระเบียง สูงขึ้นมาประมาณ 4 เซนติเมตร เพื่อป้องกันน้ำจากภายนอกกระเซ็นเข้ามาภายในห้องค่ะ พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคตัวรั้วเป็นเหล็กซี่สีดำ ขนาดระเบียงพอให้วางราวตากผ้าเล็กๆและเครื่องซักผ้าได้
นอกจากนั้นยังมีติดตั้งก๊อกน้ำและเต้าเสียบพร้อมฝาปิดกันน้ำมาให้เรียบร้อย
กลับเข้ามาในห้องมองย้อนไปทางห้องนอน พื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องครัวจะเห็นมุมมองประมาณนี้
ราคา (ธ.ค.2561)
Studio ขนาด 30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.72 ล้านบาท
1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.81 ล้านบาท
2 Bedroom ขนาด 70 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 13.54 ล้านบาท
2 Bedroom ขนาด 80 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 14.72 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ 190,000 – 200,000 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม.(จ่ายล่วงหน้า 1 ปี)
ค่ากองทุน 450 บาท/ตร.ม.
บทสรุปโครงการ
ทำเลที่ตั้งโครงการ : Rhythm Ekkamai ตั้งอยู่ติดถนนเอกมัย ฝั่งมุ่งหน้าถนนพชรบุรี บริเวณต้นซอยเอกมัย ใกล้ BTS เอกมัย ในระยะทางประมาณ 350 เมตร ราคาที่ดินย่านนี้เป็นที่รู้กันดีว่าราคาค่อนข้างสูง สภาพแวดล้อมโดยรวมของซอยเอกมัย ค่อนข้างคึกคัก อุดมไปด้วย คอนโดหรูๆ อาคาร Residential, Community Mall และร้านอาหารที่คึกคักทั้งกลางวันและกลางคืน
มีความอุดมสมบูรณ์โดยรอบค่อนข้างเยอะ ใกล้ๆโครงการมีร้านอาหารและร้านกาแฟ 2 – 3 ร้าน รวมถึงร้านสะดวกซื้อ 7-11 ก็เดินถึงได้สบายๆ ส่วนห้างใหญ่ๆอย่าง major เอกมัย และ Gateway เอกมัย ก็อยู่ไม่ไกลจากโครงการ ถ้าอยากจะเดินก็สามารถเดินไปถึงได้ไม่ลำบาก การเดินทางของโครงการนี้สะดวกทั้งการเดินทางด้วยรถยนต์และรถสาธารณะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : สามารถเดินทางได้สะดวก แต่รถค่อนข้างติด ต้องศึกษาเส้นทางดีๆ การเข้าถึงตัวโครงการสามารถใช้ได้หลากหลายเส้นทางโดยทางหลักๆคือถนนสุขุมวิทและถนนเพชรบุรี ที่ซอยเอกมัยเชื่อมถนนทั้ง 2 เส้นไว้ นอกจากนั้นยังมีทางลัดเป็นซอยย่อยเชื่อมไปทองหล่อและซอยปรีดีพนมยงค์ได้ จึงมีทางลัดต่างๆจึงสามารถใช้หลบเลี่ยงรถติดในบางจุดของถนนหลักได้ค่ะ นอกจากนั้นยังใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์และทางด่วนศรีรัชทั้งขาเข้าและออกเมืองด้วยค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ : เดินทางได้สะดวก สามารถเดินไปยังตัวสถานี BTS เอกมัยได้ในระยะทาง 280 เมตรสามารถใช้ BTS ไปไหนมาไหนได้สะดวกเพราะอยู่ใจกลางเมืองใกล้แหล่งห้างสรรพสินค้าอยู่แล้ว สามารถขึ้นรถไฟฟ้าไปได้ทั้ง Emporium, Emquatier, Terminal 21 ก็ไม่ไกล นั่งไป 2 – 3 สถานีก็ถึงแล้ว สะดวกค่ะ หรือถ้าขี้เกียจเดินก็สามารถเรียกจากหน้าโครงการสามารถใช้บริการพี่วินหรือ Taxi ที่ผ่านไปมาได้
การออกแบบโครงการและตัวที่ดิน : โครงการออกแบบสไตล์โมเดิร์น เป็นอาคาร High Rise สูง 32 ชั้น จำนวน 326 ยูนิต ถือว่าไม่หนาแน่นมาก วิวรอบโครงการในชั้นสูงๆจะได้เป็นวิวเมืองอาจจะมีตึกสูงในระยะใกล้ๆบ้างทางทิศเหนือและทิศวันออกแต่ไม่อยู่ในระยะที่บังวิวโดยรวมเท่าไหร่ค่ะ
สำหรับเรื่องห้องพักอาศัยขายแบบ Fully Fitted ให้มาเฉพาะเคาน์เตอร์ครัวและสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ ขนาดห้องมีให้เลือกหลักๆ 3 แบบ คือแบบ Studio, 1 Bedroom, 2 Bedroom ความสูงฝ้าเพดานในห้องปกติ 2.6 เมตรซึ่งถือว่าอยู่ในระดับมาตรฐาน ส่วนการจัดฟังก์ชั่นในห้องตัวอย่างที่ได้ดูมา ถือว่าทำมาได้ดีสามารถใส่ฟังก์ชั่นมาได้ครบ ห้องนอนทั้ง 2 ห้องค่อนข้างกว้าง มีช่องแสงขนาดใหญ่ใส่มาให้ทุกห้อง พื้นที่ใช้งานโดยรวมไม่อึดอัดค่ะ
วัสดุ : สำหรับโครงการนี้ขายให้แบบ Fully Fitted มี Built – in ให้มาเฉพาะเคาน์เตอร์ครัวและสุขภัณฑ์ในห้องน้ำมาให้ พื้นห้องปูด้วยลามิเนตลายไม้ หนา 12 มม., พื้นห้องครัวปูกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อน, ห้องน้ำ, ระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค หน้าต่างบานเลื่อนในห้องเป็นบานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียว, ไฟดาวน์ไลท์ทั้งห้อง
เคาน์เตอร์ครัวติดตั้งเตาไฟฟ้า, ไมโครเวฟ, ซิงค์ล้างจานพร้อมก๊อก, เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน ยี่ห้อ Franke ห้องน้ำได้สุขภัณฑ์ของ Kohler และ Grohe พร้อม Shower Box
สาธารณูปโภค : เป็นจุดเด่นของโครงการนี้ ให้มาแบบครบครันและทำออกมาสวยน่าใช้งาน ที่จอดรถ 54% , ส่วนกลางภายในอาคารมี Foyer, Security Lobby, สวนหย่อมที่ชั้น 7 , สระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool, Panoranic Fitness, Theatre Lounge และ Rhythm Observatorium เป็นเฉลียงบนชั้น 32 สำหรับออกมายืนพักผ่อนชมวิวเมือง
ลิฟท์โดยสารให้มา 4 ตัว อัตราส่วนเฉลี่ย 1 : 81 ถือว่าสบายๆ ไม่หนาแน่น ระบบรักษาความปลอดภัยมีรปภ.ดูแลรักษาความปลอดภัยพร้อมกล้อง CCTV ตลอด 24 ชม. เข้าโครงการใช้ Key Card Access และใช้คีย์การ์ดเข้าส่วน Lobby
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ
9.0
ทำเลใจกลางเมือง ติดถนนเอกมัย ใกล้ BTS เอกมัย เดินทางสะดวก ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบหนาแน่น
การเดินทาง ใช้รถ
8.0
เดินทางสะดวกใช้เส้นสุขุมวิทและเพชรบุรี รวมไปถึงทางลัดต่างๆได้ แต่รถอาจจะติดบางช่วง
การเดินทาง ไม่ใช้รถ
8.75
เดินทางสะดวกเดินไป BTS เอกมัย ได้ ในระยะทางประมาณ 350 เมตร
ห้องพักและวัสดุ
8.5
ขายแบบ Fully Fitted ได้แค่ชุดครัวและห้องน้ำ แต่วัสดุมีคุณภาพดี
สิ่งอำนวยความสะดวก
8.5
Facilities ของจริงทำมาสวย อาจจะมีระยะต่างจากใน Perspective นิดหน่อย แต่ยังสวยน่าใช้งานและให้มาครบครัน รปภ.24ชม.
ความคุ้มค่ากับราคา
8.0
เป็นคอนโด Fully Fitted ทำเลต้นถนนเอกมัยเลย เดินไป BTS สะดวก ทำเลกลางเมืองติดถนนใหญ่เดินทางได้สะดวก ทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถสาธารณะ ความอุดมสมบูรณ์สูง
คะแนนรวมเฉลี่ย
8.45
ดีมาก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1623 / 0-2261-2518
Website : http://www.apthai.com
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น