EP.406 รีวิว บ้านเดี่ยว เสนาพาร์ค วิลล์ รามอินทรา – วงแหวน Sena Park Ville Ramindra – Wongwaen
สวัสดีชาว Homenayoo ทุกคนค่ะ วันนี้เรามีโครงการ Sena Park Ville รามอินทรา – วงแหวน จากค่าย เสนาดีเวลลอปเม้นท์
ตัวโครงการเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ โดยทุกหลังมีแนวความคิด“Solar Smart Village” โดยนำพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นพลังงานสะอาด และเป็นโครงการแรกที่นำพลังงานจากแสงอาทิตย์มาใช้ที่ส่วนกลางของโครงการ ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายและลดร้อนไปพร้อมๆกัน ในราคาเริ่มต้น 6-8 ล้านบาท (พ.ค.61)
โครงการนี้จะมีความน่าสนใจอย่างไร เชิญอ่านต่อด้านล่างได้เลยค่า
บ้านเสนา ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
เสนา แกรนด์โฮม รังสิต – ติวานนท์
เสนา วิลล์ บรมราชชนนี – สาย 5
เสนา วิลล์ ลำลูกกา – คลอง 6
เสนา พาร์ค วิลล์ รามอินทรา – วงแหวน
เสนา พาร์ค แกรนด์ – รามอินทรา
ชื่อโครงการ | เสนาพาร์ค วิลล์ รามอินทรา-วงแหวน Sena Park Ville Ramintra-Wongwaen |
เจ้าของโครงการ | บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) SENA |
ลักษณะโครงการ | – บ้านเดี่ยว 2 ชั้น – บ้านแนวคิดใหม่ 2 ชั้น |
พื้นที่โครงการ | เนื้อที่ดินประมาณ 28-2-92.5 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 218 หลัง |
พื้นที่ใช้สอย | – บ้านเดี่ยว เริ่มต้น 135 – 157 ตร.ม. |
เนื้อที่บ้าน | – บ้านเดี่ยว เริ่มต้น 39.9 ตร.วา |
จำนวนห้อง | 3-4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ |
ที่จอดรถทั้งหมด | 2 คัน |
โซน | เขตคันนายาว |
ขนส่งสาธารณะ | – ถนนวงแหวนตะวันออก (บางนา-บางปะอิน) – รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานี 24 รามอินทรา 83 – ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ |
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก (เชื่อมตรงจากถนนรามอินทรา กม.9) แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กทม. |
กำหนดการ | – เริ่มก่อสร้าง มิ.ย. 2558 |
ปีที่สร้างเสร็จ | พ.ศ.2562 |
ราคา | เริ่มต้น 6-8 ล้านบาท (พ.ค.61) |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | 28 บาท/ตร.วา/เดือน |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก | – สระว่ายน้ำ – Fitness 1 ห้อง – สวนส่วนกลาง – ส่วนกลางใช้ Solar Cell ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายกว่า 20% – รถ Shuttle Car ไปส่งที่สถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู – Free WiFi ที่บริเวณ Club House – Triple Security System – สัญญาณเตือนภัยระบบ Sleepless Security ในบ้านทุกหลัง – เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรวจตราตลอด 24 ชั่วโมง |
จุดเด่นของโครงการ | Sena Park Ville รามอินทรา-วงแหวน พบบ้านเดี่ยว และบ้านแนวคิดใหม่ ออกแบบภายใต้ Concept “Solar Smart Village” หมู่บ้านแห่งแรกในไทย ที่ช่วยลดค่าไฟด้วยโซล่าร์ และโอบล้อมด้วยสวนพักผ่อนกว่า 1 ไร่ |
โครงการใกล้เคียง
ที่ตั้งโครงการ
ถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก (เชื่อมตรงจากถนนรามอินทรา กม.9) แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กทม.
พิกัด : 13.842188, 100.682685
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการ Sena Park Ville รามอินทรา – วงแหวน เป็นโครงการที่ตั้งในอยู่บนถนนเลียบกาญจนาภิเษก ช่วงถนนรามอินทราตอนปลาย ความพิเศษของที่ดินโครงการนี้คือเป็นทำเลบนถนนเลียบวงแหวนรามอินทราที่สามารถทะลุออกถนนใหญ่รามอินทราได้ ส่วนสภาพแวดล้อมโดยรวม รอบๆโครงการก็ไม่มีอะไรมากค่ะ เนื่องจากเป็นถนนเส้นเลียบทางด่วนส่วนใหญ่ก็จะเป็นโครงการบ้านเดี่ยวและที่พักอาศัยของคนในละแวกนั้น
การเดินทางเข้าถึงโครงการค่อนข้างสะดวกสามารถใช้ถนนรามอินทราทั้งฝั่งมุ่งหน้ามีนบุรีโดยใช้ Private Road เข้าทาง Sena Park Avenue ลัดเข้าโครงการ และถนนรามอินทราฝั่งมุ่งหน้าไปพหลโยธินเข้าถนนเลียบกาญจนาภิเษก หรือถ้ามาจากนอกเมืองก็สามารถใช้ถนนเลียบกาญจนาภิเษกเข้ามาโครงการได้เช่นกันค่ะ
และเนื่องจากถนนรามอินทราเองก็เชื่อมอยู่กับถนนสายสำคัญๆอยู่หลายสาย อย่างถนนแจ้งวัฒนะ, ถนนนวมินทร์, ถนนเกษตรนวมินทร์, ถนนเสรีไทย หรือจากฝั่งนอกเมืองก็สามารถมาได้ทั้งจากถนนหทัยราษฏร์, ถนนพระยาสุเรนทร์, ถนนคู้บอน และถนนพหลโยธินทำให้การเดินทางเข้าถึงโครงการสะดวกยิ่งขึ้นค่ะ
ส่วนทางด่วนที่เราสามารถใช้เดินทางเข้าเมืองที่ใกล้โครงการมากที่สุดจะมี 2 จุด คือ
1.จุดขึ้น-ลงทางด่วนกาญจนาภิเษก โดยออกจากโครงการมุ่งหน้ามาถนนรามอินทราเลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานกลับรถเข้าถนนกาญจนาภิเษก และจุดขึ้นทางด่วนจะอยู่ไม่ไกล รวมระยะทางจากโครงการถึงจุดขึ้นทางด่วนแรกประมาณ 4.1 กม. ใช้เวลาประมาณ 6 นาที
2. จุดขึ้น-ลงทางด่วนรามอินทรา – อาจนรงค์โดยออกจากโครงการเลี้ยวซ้ายวิ่งไปตามถนนเลียบกาญจนาภิเษกแล้วลัดเข้าถนนคู้บอน จะไปโผล่ตรงสี่แยกคู้บอน รามอินทรากม. 8 วิ่งออกรามอินทรามุ่งหน้าพหลโยธิน เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบด่วนรามอินทราตรงไปอีกหน่อยก็จะถึงจุดขึ้น-ลงทางด่วน รวมระยะทางจากโครงการถึงจุดขึ้นทางด่วนที่ 2 ประมาณ 8.4 กม. ใช้เวลาประมาณ 13 นาที
3.นอกจากนั้นเรายังสามารถใช้ถนนเส้นเลียบกาญจนาภิเษกออกนอกเมืองไปบางปะอิน อยุธยาได้ด้วยค่ะ
จากโครงการเข้าเมืองก็ทำได้ไม่ยากโดยสามารถใช้ทางลัดคือถนนคู้บอน หรือวื่งมาตรงๆออกถนนรามอินทราขึ้นสะพานกลับรถก็สามารถเข้าถนนเกษตรนวมินทร์ได้ค่ะ
สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์สาธารณะนั้นเรียกได้ว่าลำบากเลยค่ะ เพราะแถวโครงการไม่มีรถโดยสารใดๆผ่าน อาจจะมีพี่แท็กซี่หรือพี่วินผ่านบ้างนานนานนนครั้ง
ส่วนในอนาคต(อันไกล) ก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย – มีนบุรี ที่จะช่วยให้การเดินทางในละแวกนี้สะดวกขึ้น โดยแนวเส้นทางจะเริ่มต้นบนถนนรัตนาธิเบศร์บริเวณระหว่าง ศูนย์ราชการนนทบุรีและแยกแคราย ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่ – บางซื่อ) บริเวณสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี แ
ละนอกจากนั้นยังเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม(ตลิ่งชัน – มีนบุรี) ตรงสถานี Interchange ที่สถานีมีนบุรี บนถนนรามคำแหงซึ่งเราสามารถใช้เส้นนี้เพื่อเข้าเมืองไปเชื่อมต่อกับรถไฟใต้ดิน MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรมได้อีกด้วยโดยสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นสถานีรามอินทรา 83 และสถานีวงแหวนตะวันออก และเมื่อสถานีรถไฟฟ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วทางโครงการจะมี Shuttle Bus คอยรับส่งจากโครงการถึงตัว Park Avenue เพื่อเดินทางไปสถานีรถไฟฟ้าสะดวกขึ้นค่ะ
ในส่วนของความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินนั้นน … ก็เป็นสไตล์เลียบทางด่วนคือแห้งแล้ง แต่ๆๆ เนื่องจากพื้นที่บริเวณถนนรามอินทราช่วงปลายๆเนี่ยเป็นที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ทำให้ความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้างค่อนข้างสูงตามไปด้วย ก็เลยจะมีทั้งตลาดสายเนตร กม.8, BigC คู้บอน ไกลไปอีกหน่อยก็มีตลาดมีนบุรี, BigC, Tesco Lotus ซึ่งอยู่บนบนถนนรามอินทรา ลงมาบนถนนนวมินทร์จะมีตลาดนวลจันทร์ และ BigC สุขาภิบาล
สำหรับ Community Mall ก็จะมี Amorini ตรงแยกสวนสยามและ The Promenade ส่วนพวกห้างสรรพสินค้าในละแวกนี้จะมี Fashion Island อยู่บริเวณวงแหวนรามอินทรา ส่วนโรงพยาบาลใกล้ๆ จะมีโรงพยาบาลนวมินทร์ และโรงพยาบาลสินแพทย์ ไกลไปอีกก็จะมีโรงพยาบาลนพรัตนราชธานีตรงแยกตัดกับถนนสวนสยาม
การเดินทางวันนี้เราจะใช้ถนนเส้นหลักคือถนนรามอินทราฝั่งมุ่งหน้าไปมีนบุรี เริ่มต้นกันที่บริเวณหน้าห้าง Central รามอินทรา ตรงมายาวยาววว แล้วลัดเข้าทาง Sena Park Avenue ออกไปยังเส้นคู่ขนานถนนกาญจนาภิเษก ลอดใต้ทางพิเศษอีกนิดก็ถึงโครงการ เสนาพาร์ค วิลล์ รามอินทรา – วงแหวน แล้วค่า
สรุปการเดินทาง Central รามอินทรา > ถนนรามอินทรามุ่งหน้ามีนบุรี >Sena Park Avenue > Sena Park Ville รามอินทรา – วงแหวน
เริ่มต้นจากหน้าห้าง Central รามอินทรา มุ่งตรงไปบนถนนรามอินทราฝั่งมุ่งหน้ามีนบุรี
ตรงมาไม่นานจะเห็นสนามมวยลุมพินี
ผ่านแยกลาดปลาเค้า ถ้าใครจะไปเกษตร – นวมินทร์ สามารถเลี้ยวขวาใช้เส้นนี้ลัดไปได้
เลยแยกลาดปลาเค้ามาหน่อยก็จะเห็น BigC Extra รามอินทรา อยู่ฝั่งตรงข้าม
ตรงมาจะผ่าน FoodLand ใครหิวๆก็แวะเข้าไปหาอะไรทานได้ เค้าเปิด 24 ชม.
ขับตรงไปเรื่อยๆมุ่งหน้ามีนบุรี
ด้านบนคือทางด่วนรามอินทรา – อาจนรงค์
เห็นป้ายแล้วเราอยู่เลนขวาไว้นะคะ เพราะเดี๋ยวเราจะขึ้นสะพานข้ามแยก อย่าเผลอชิดซ้ายนะเดี๋ยวหลุดไปบางกะปิแล้วจะเสียเวลามิใช่น้อย
ขึ้นสะพานมาจะเห็นตึกสูงๆทางขวามือ คือคอนโดลุมพินีนั่นเองค่ะ
ลงจากสะพานมาเจอศูนย์ Isuzu ทางซ้ายมือ เราตรงต่อไป
ตรงมาเรื่อยๆ เจอตลาดรามอินทรา 83 ถึงตรงนี้ก็เตรียมตัวชิดซ้ายได้แล้วค่ะ
ขับมาอีกไม่นานจะเห็นซุ้มทางเข้าสีเขียวใหญ่ยักษ์
ซึ่งก็คือทางเข้าเสนาพาร์ค อเวนิวนั่นเองค่ะ เราก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปโลด
ผ่านซุ้มมาจะเจอป้อมรปภ.ก่อน
ผ่านสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่
มีที่จอดรถตลอดทางซ้ายมือค่ะ
ออกมาสุดอเวนิวจะเจอถนนเลียบกาญจนา ถ้าเราไปขวามือจะไปออกถนนใหญ่รามอินทรา แต่เดี๋ยวเราจะไปโครงการกันก็เลี้ยวซ้ายไปทางบางปะอินค่ะ
ตรงมาอีกนิดเดียวก็จะเห็นทางลัดเข้าโครงการแล้วค่ะ
ลอดใต้ทางด่วนไป
ออกจากใต้อุโมงค์มาก็เจอโครงการแล้วค่ะ แต่ตอนนี้ทางเข้ารองนี้กำลังปรับปรุงอยู่เพราะฉะนั้นเดี๋ยวจะพาไปดูทางเข้าหลักกันก่อนนะคะ
ที่ทางเข้าหลักมีป้ายโครงการ และครอบครัวกวางสัญลักษณ์ของโครงการอยู่ด้านหน้าค่ะ
เข้ามาที่ทางเข้าหลักจะเป็นถนนกว้าง 20 เมตร
ด้านข้างฝั่งขวาจัดเป็นสวนไม้พุ่มสลับสี สวยๆ
ส่วนฝั่งซ้ายตอนนี้เป็นที่ดินเปิดโล่งขนาดใหญ่ ซึ่งที่ดินตรงนี้ก็เป็นของเสนาที่จะพัฒนาเป็นโครงการในอนาคตค่ะ
ซุ้มทางเข้าหลักแบ่งทางเข้าออก 2 ฝั่ง ฝั่งละ 2 เลนและมีทางคนเดินขนาบข้างซ้าย – ขวา
ระบบความปลอดภัยเป็นไม้กระดกฝั่งละ 2 ชุด และมีรปภ. 24 ชั่วโมง
ถนนกว้าง 20 เมตร และมีฟุตบาทขนาดประมาณ 1 คนเดิน มีลงต้นไม้, ไม้พุ่มตลอดทางร่มรื่นดีค่ะ
เข้ามาตามทางเรื่อยๆ ผ่านสะพานข้ามคลองคอตัน
ถึงวงเวียนนี้ก็แสดงว่าเราใกล้ถึงโครงการแล้วค่ะ
เข้ามาจากทางเข้าหลักประมาณ 1.10 กิโลเมตร ก็จะเห็นซุ้มทางเข้าโครงการ เสนาพาร์ค วิลล์ ที่เราจะพามาดูกันวันนี้ค่าา
ถนนและแยกสำคัญต่างๆใกล้โครงการ เช่น
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ
รอบโครงการ
อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าทางเข้าใหญ่ของโครงการจะมี 2 ทาง บนถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก แต่ตัวโครงการอยู่ลึกเข้ามาใน Sena Park เรียกว่าเป็นโครงการท้ายสุดของที่ดินแปลงใหญ่ของเสนาเลยก็ว่าได้ค่ะ โดยวัดระยะทางจากทางเข้าโครงการได้ 1.10 กิโลเมตร ถ้าดูจากแผนที่จะเห็นว่าที่ดินแปลงใหญ่ของเสนาทั้งหมดจะถูกประกบด้วยโครงการหมู่บ้านข้างเคียง จะมีแค่ที่ดินแปลงท้ายสุดเท่านั้นที่จะติดกับที่ดินเปล่า ซึ่งนั่นก็คือแปลงที่ใช้สำหรับโครงการ Sena Park Ville นั่นเองค่ะ เพราะฉะนั้นจะสรุปได้ว่า พื้นที่รอบๆโครงการ Sena Park Ville เกือบทั้งหมดจะเป็นที่ดินเปล่า จะมีเฉพาะทางทิศตะวันตกเท่านั้นเป็นพื้นที่เชื่อมมาจากโครงการรุ่นพี่ด้านหน้าค่ะ เพราะฉะนั้นบรรยากาศโดยรอบโครงการจึงค่อนข้างร่มรื่น และสงบเงียบให้ความเป็นส่วนตัวได้ระดับนึงค่ะ
หน้าโครงการเป็นถนนเลียบกาญจนาภิเษกและหลังรั้วที่เห็นคือทางด่วนกาญจนาภิเษกค่ะ
ซ้ายมือเป็นถนนวิ่งยาวไปรามอินทรา
ขวามือวิ่งไปบางปะอิน
ติดกับโครงการเราเป็นโครงการ The Plant ของค่ายพฤกษา
ภายในโครงการ
โครงการ Sena Park Ville รามอินทรา – วงแหวน เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 218 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการประมาณ 28 – 2 – 92.5 ไร่ ซึ่งตอนนี้เสร็จพร้อมขายแค่ประมาณ 35 หลังเท่านั้น คือเฟสในซอยแรกถัดจากทางเข้าโครงการค่ะ หน้าตาที่ดินของโครงการดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน การจัดวางถนนและส่วนกลางก็ดูเข้าใจง่ายๆค่ะ คือเมื่อเราเข้าโครงการมาจะเจอป้อมพี่ยามก่อนเป็นด่านแรก โดยระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่จะใช้ระบบคีย์การ์ดระยะใกล้ ถัดจากป้อมยามมาเราจะเจอซอยของบ้านเฟสแรกทางขวามือและสวนหย่อมเล็กๆทางขวามือซึ่งในสวนนี้จะมี Solar Station เป็นอาคารจอดรถเล็กๆจอดได้ประมาณ 3 – 4 คัน อาคารนี้จะมีหลังคาเป็น Solar Cell ใช้สำหรับผลิตไฟฟ้าไปใช้ในส่วนกลาง ด้านหลังสวนหย่อมจะเป็นส่วนของสำนักงานขายและบ้านตัวอย่างทั้ง 2 แบบ ถัดมาช่วงกลางๆโครงการจะมีส่วนกลางหลักของโครงการ จะมีสวนสาธารณะขนาดประมาณ 1 ไร่ และสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 16 x 6 เมตร นอกจากนั้นยังมีความพิเศษคือถนนรอบส่วนกลางทางโครงการจะจัดให้เป็น Bike Lane สำหรับปั่นจักรยาน แต่ก็จะได้เป็นการปั่นแบบชิลล์ๆช้าๆนะ เพราะพื้นที่รอบสวนไม่ใหญ่มากและถ้าปั่นเร็วๆก็อาจจะเป็นอันตรายกับลูกบ้านคนอื่นๆได้ค่ะ
ส่วนการวางผังการสัญจรในโครงการก็วางแบบมาตรฐานค่ะ คือมีถนนหลักกว้าง 12 เมตร จากทางเข้าโครงการ จากถนนหลักก็จะแจกเข้าถนนในซอยย่อยซึ่งจะมีความกว้าง 9 – 10 เมตร ต่างๆกันในแต่ละซอยค่ะ
การวางตัวบ้านของแต่ละยูนิตจะส่วนใหญ่จะอยู่ในซอยย่อยทั้งหมด ซึ่งจะมีข้อดีคือมีความเป็นส่วนตัว ยิ่งเป็นซอยท้ายๆ หรือท้ายๆซอยย่อยก็จะยิ่งมีความเป็นส่วนตัว เพราะไม่ต้องมีใครผ่านไปมาหน้าบ้านบ่อยๆ แต่ก็แลกมาด้วยระยะทางที่ไกลขึ้นอีกหน่อยค่ะ
แบบบ้านในโครงการมี 2 แบบ ทั้ง 2 แบบจะมีติดตั้งแผง Solar Cell มาให้บนหลังคาและกันสาดเพื่อใช้ทดแทนพลังงานไฟฟ้าในตอนกลางวัน โดยแบบบ้านทั้ง 2 แบบคือ
ดูผังโครงการกันไปแล้วเรามาดูของจริงกันบ้างค่ะ เริ่มจากซุ้มทางเข้าโครงการสไตล์เรียบง่ายสีน้ำตาล
ฝั่งซ้ายมือจะมีป้ายโครงการสีเขียวสดใส
มีแท่น Solar Cell แปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อใช้กับส่วนซุ้มทางเข้าโครงการ
ตัวซุ้มทางเข้าแยกทางเข้าออก พร้อมแยกทางคนเดินให้ทั้ง 2 ฝั่ง ด้านบนมีหลังคาคลุม เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่าเวลาต้องแตะ Key Card Access แล้วจะเปียกในวันฝนตก และมีรปภ. 24 ชม.
คัดกรองลูกบ้านด้วยไม้กระดก โดยต้องแตะ Key Card Access ระยะใกล้ เพื่อเข้าโครงการ
เข้ามาในโครงการเจอถนนหลักกว้าง 12 เมตร
ซอยแรกทางขวามือถนนกว้าง 10 เมตร เป็นซอยที่มีการก่อสร้างเกือบเสร็จแล้ว ประมาณ 35 หลัง และกำลังเปิดขายอยู่ในตอนนี้ค่ะ
มองมาทางซ้ายจากถนนหลักจะเห็นอาคารจอดรถเล็กๆส่วนบ้านตัวอย่างและ Sale Gallery จะอยู่ด้านหลัง
ที่จอดรถเล็กๆนี้จะใช้จอดรถได้ประมาณ 3 – 4 คัน ซึ่งจริงๆแล้วจุดประสงค์ของที่จอดรถนี้คือติดตั้งแผง Solar Cell บนหลังคาเพื่อที่จะใช้ผลิตไฟสำหรับใช้ในส่วนกลางของโครงการค่ะ
สำหรับตัว Sale Gallery จะใช้บ้านแบบ Origin เป็นที่ประจำการ เข้ามาด้านในจะมีที่นั่งรองรับหลายชุดพร้อม Sale คอยให้ข้อมูลค่ะ
บ้านตัวอย่าง
สำหรับบ้านตัวอย่างตอนนี้ทางโครงการเค้ามีให้ดูครบทั้ง 2 แบบแล้วค่ะ โดยแบบ Ozone จะมีบ้านตัวอย่างแบบตกแต่งแแล้วและแบบบ้านมาตรฐาน(บ้านเปล่า) มาให้ดูเปรียบเทียบ ส่วนบ้านแบบ Origin จะมีเพียงบ้านตัวอย่างแบบตกแต่งแล้วมาให้ดูเท่านั้น และวันนี้เราจะพาไปชมกันทั้ง 2 แบบเลยค่ะ
แบบแรก Origin 157 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ขนาดที่ดินเริ่มต้น 39.9 ตร.วา หน้ากว้าง 12 เมตร จากแปลนจะเห็นว่าพื้นที่กว่าครึ่งของหน้ากว้างจะเสียพื้นที่มาเป็นห้องรับแขก อีกครึ่งจึงเป็นที่จอดรถ 2 คัน ทางเข้าจะมี 2 ทางเข้า คือประตูหลักจากทางหน้าบ้าน และประตูรองเข้าได้จากที่จอดรถค่ะ ซึ่งตรงนี้จะสะดวกเวลาเราซื้อของเข้าบ้านแล้วถอยรถเข้าจอดก็สามารถเข้าทางที่จอดรถได้เลย ไม่ต้องเดินอ้อมไปเข้าหน้าบ้านผ่านห้องรับแขกเพื่อเข้าไปในครัวอีกค่ะ เมื่อเข้าในบ้าน(ทางประตูหลัก)แล้วส่วนแรกที่เจอจะเป็นห้องรับแขก เชื่อมต่อกับห้องน้ำชั้น 1 โดยห้องน้ำที่ชั้นนี้จะมีครบทั้งส่วนห้องน้ำและส่วนอาบน้ำค่ะ ถัดไปเป็นพื้นที่ทานอาหาร จากห้องทานอาหารจะอยู่ติดกับครัวซึ่งทางโครงการเค้าทำมาให้เป็นครัวปิดอยู่แล้ว จึงถือว่าสะดวกในการเข้าอยู่ ไม่ต้องต่อเติมผนังมากั้นเพิ่ม จากครัวสามารถออกไปยังลานซักล้างหลังบ้านได้ค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอโถงบันไดเป็นส่วนแรกขนาดกระทัดรัด แจกไปยังห้องนอนทั้ง 3 ห้องโดยห้องนอนรอง 1 และ 2 จะอยู่ฝั่งหลังบ้าน ส่วน Master Bedroom จะอยู่ฝั่งหน้าบ้านซึ่ง Master Bedroom นี้จะได้พื้นที่ใช้สอยค่อนข้างเยอะ สามารถทำเป็น Walk – in Closet ได้ นอกจากนั้นก็ยังมีระเบียงและห้องน้ำในตัวด้วยค่ะ ส่วนห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องจะต้องมาใช้ห้องน้ำร่วมกันที่โถงบันได ถ้าช่วงไหนรีบๆก็ต้องผลัดกันไปใช้ห้องน้ำที่ชั้นล่างนะคะ
ดูแปลนบ้านกันไปแล้ว เรามาดูของจริงกันบ้างค่ะ การออกแบบหน้าตาโดยรวมดูเรียบง่าย เรียบร้อยๆ ใช้โทนสีขาวและเทาออกฟ้าๆดูสะอาดตา
ตำแหน่งการติดตั้งแผง Solar Cell จะอยู่บนหลังคาบ้าน ตามภาพเลยค่ะ
ตรงพื้นที่จอดรถจะมีเครื่องแปลงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อนำมาใช้ภายในตัวบ้าน นอกจากนั้นยังมีทางเข้ารอง สามารถเข้าบ้านได้จากที่จอดรถเลย จะช่วยให้สะดวกในเวลาที่เราซื้อของใช้จากนอกบ้านมาก็สามารถขนของเข้าทาง ที่จอดรถได้เลย ไม่ต้องเดินอ้อมไปหน้าบ้านค่ะ ส่วนวัสดุที่ได้พื้นเป็น Concrete Stamp และได้ไฟดาวน์ไลท์ 2 ดวง บริเวณที่จอดรถค่ะ
หน้าตาเครื่องแปลงพลังงานแสงอาทิตย์แบบใกล้ๆ ส่วนช่องแสงที่เห็นเป็นช่องแสงจากห้องน้ำชั้น 1 ค่ะ
ประตูทางเข้ารองจากที่จอดรถเป็นประตูบานทึบ ลูกบิดกลมธรรมดาๆ
มี Step ก่อเข้าบ้านยกสูงขึ้นมาประมาณบันไดหนึ่งขั้น หรือประมาณ 18 ซม. และพื้นชั้น 1 ยกสูงขึ้นมาอีกประมาณ 15 ซม.
จากที่จอดรถสามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นที่เหลือข้างบ้าน และหลังบ้านได้
พื้นที่ข้างบ้านนี้ของจริงจะมีรั้วทึบสูงประมาณ 1.60 เมตร
มาที่พื้นที่หลังบ้านจะมีลานซักล้างเป็นซีเมนต์เทมาให้เป็นบริเวณไม่กว้างมาก แค่พอสำหรับวางเครื่องซักผ้าและอื่นๆนิดหน่อย ถ้าใครคิดว่าพื้นที่ขนาดนี้ไม่พอก็สามารถที่จะเทปูนเพิ่มเองได้หรือต่อเติมออกมาเป็นห้องซักรีดต่างหากเลยก็ได้ค่ะ
นอกจากนั้นจะเห็นว่าไม่มีพื้นที่สำหรับวางคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ให้ ก็จะต้องติดแบบลอยตัว เวลาช่างมาล้างแอร์ก็อาจจะต้องปีนจากชั้น 1 แต่ถ้ามีการต่อเติมหลังคาจนเต็มพื้นที่แล้วก็ต้องปีนออกจากห้องนอนชั้น 2 นะคะ
จากลานซักล้างสามารถเชื่อมต่อกับห้องครัวด้วย
โดยจากลานซักล้างเข้าสู่ตัวบ้านจะถูกยก Step ขึ้นสูงประมาณ 18 ซม. และพื้นบ้านยกสูงขึ้นจากตัว Step อีกประมาณ 15 ซม. ค่ะ
จากพื้นที่หลังบ้านมาที่พื้นที่ข้างบ้านอีกฝั่ง จะเห็นว่ามีประตูเชื่อมออกมาจากตัวบ้าน โดยห้องที่เชื่อมต่อกับพื้นที่นี้คือส่วนทานอาหารค่ะ
กลับมาที่ทางเข้าหลักหน้าบ้าน จะได้ไฟติดผนังและไฟดาวน์ไลท์มาอย่างละ 1 ดวง
ประตูทางเข้าหลักของบ้านจะเป็นประตูบานเปิดเดี่ยว ประกบด้วยช่องแสงแนวยาวข้างบานประตูอีก 2 บาน โดยชุดประตูนี้จะได้เป็นบานกรอบ UPVC สีขาว กระจกเขียวตัดแสงที่จะช่วยกรองความสว่างที่จะเข้าบ้านให้ลดลงได้บ้าง แต่ไม่ช่วยในเรื่องความร้อน ซึ่งถ้าเรากังวลเรื่องความร้อนที่จะเข้าบ้านก็สามารถติดฟิล์มกรองแสงหรือติดม่านกัน UV เพิ่มเติมได้ ส่วนด้านข้างบานประตูเป็นหน้าต่างบานฟิกซ์ไว้เพิ่มช่องแสงให้กับตัวบ้าน ประตูที่เป็นกระจกเต็มบานแบบนี้อาจจะมีความปลอดภัยน้อยกว่ากระจกบานทึบแนะนำให้ติดประตูเหล็กดัดเพิ่มด้านในนะคะ
เฉลียงทางเข้าบ้านยกระดับขึ้นมา 2 Steps ความสูงประมาณ 9 ซม. และ 20 ซม. ขนาดค่อนข้างกว้างประมาณ 1 x 3.9 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม. ถึงแม้พื้นที่เฉลียงจะค่อนข้างกว้าง แต่ก็ไม่เหมาะที่จะวางชั้นวางรองเท้าหรืออะไรก็ตามที่จะเสียหายจากการเปียกฝนนะคะ แต่ถ้าใครติดกันสาดเพิ่ม ก็อาจจะวางชั้นวางรองเท้าหรือที่เก็บของเล็กๆน้อยๆได้ แต่ระวังอย่าให้ใหญ่เกินไปนะคะ เดี๋ยวจะเกะกะทางเดิน
พื้นชั้น 1 ยกสูงจากเฉลียงอีกประมาณ 9 ซม. ตัวรางประตูติดแบบฝังลงในพื้น เวลาเดินจะไม่เกะกะค่ะ
มือจับและตัวล็อค จับได้ถนัดมือดีค่ะ
เข้าบ้านมาจะเจอกับห้องรับแขก พื้นชั้น 1 ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ผนังฉาบเรียบทาสีขาว ความสูงฝ้าเพดาน 2.70 เมตร จากตรงนี้เราก็จะเห็นห้องทางอาหารและประตูเชื่อมกับห้องครัวค่ะ
ห้องรับแขกจะได้แสงธรรมชาติมาจากชุดหน้าต่างด้านข้างและประตูทางเข้าหลักของบ้าน
ชุดหน้าต่างบานข้างบ้านจะเป็นแบบผสมหน้าต่างบานเปิดคู่กับหน้าต่างบานฟิกซ์อย่างละ 2 บาน บานกรอบ UPVC สีขาว กระจกเขียวตัดแสง ซึ่งการติดตั้งบานหน้าต่างแบบเต็มความกว้างผนังตรงนี้ทำให้ห้องรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่แต่บ้านอาจจะได้รับความร้อนมามากหน่อย ตรงนี้สามารถแก้ไขได้โดยติดฟิล์มกัน UV หรือม่านกรองแสง UV ก็ได้ค่ะ ซึ่งนอกจากจากจะได้ลดความร้อนที่จะเข้าตัวบ้านแล้วยังได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มมาอีกด้วย
มือจับแบบเซาะร่อง ส่วนตัวล็อคจะมีทั้งหมด 3 ชุดคือตัวล็อคตรงกลางของตัวบานเปิด 1 จุด และตัวล็อคที่ตัวบานฟิกซ์อีกฝั่งละ 1 จุดค่ะ
สำหรับพื้นที่ของห้องรับแขกจะเห็นว่าเหมาะสำหรับการวางโซฟาขนาดประมาณ 2 – 3 คนนั่งก็จะเหลือพื้นที่ข้างโซฟาฝั่งละนิดหน่อยหรือถ้าเราจะขยายขนาดเป็น 3 ที่นั่งก็ยังได้อยู่นะ แต่อาจจะไม่เหลือพื้นที่ข้างโซฟ้าสำหรับวางตู้เล็กๆหรือโคมไฟค่ะ
มองจากฝั่งคนนั่งโซฟาออกไปก็จะเป็นทีวีและบันไดขึ้นไปชั้น 2 ค่ะ ด้วยฝ้าที่สูง 2.7 เมตร เราสามารถติดตู้ลอยไว้ด้านบนแล้วดูไม่รก
หักระยะนั่งโซฟาออกไป ระยะห่างการนั่งดูทีวีของเราก็จะอยู่ที่ประมาณ 2 เมตร ขนาดจอทีวีที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 55″ ค่ะ
ถัดจากห้องับแขกมาจะเป็นส่วนทานอาหาร
มีพื้นที่เหลือระหว่างห้องรับแขกกับส่วนทานอาหาร สามารถวางเป็นโต๊ะทำงานหรือจะเอาผนังมากั้นเป็นฉากเพื่อแยกส่วนทานอาหารออกจากห้องนั่งเล่นให้เป็นสัดเป็นส่วนก็ได้ค่ะ
ส่วนฝั่งซ้ายระหว่างห้องรับแขกและห้องทานอาหารจะเป็นโถงบันได, ห้องน้ำและประตูที่เชื่อมออกไปยังที่จอดรถค่ะ
กลับมาดูที่ส่วนทานอาหารกันต่อ สำหรับส่วนทานอาหารนี้จะได้ช่องแสงมา 2 จุด คือหน้าต่างบานหลังบ้านและประตูบานเลื่อนสำหรับออกไปยังพื้นที่สวนข้างบ้านค่ะ
ทางโครงการวางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง อาจจะดูหลวมๆไปหน่อยเพราะพื้นที่ส่วนรับประทานอาหารตรงนี้ยังเหลืออีกค่อนข้างเยอะ สาารถวางโต๊ะทานอาหารขนาดประมาณ 5 – 6 ที่นั่งได้เลยค่ะ
หน้าต่างฝั่งหลังบ้านจะได้เป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ บานกรอบ UPVC สีขาว ตัวล็อคซ้าย ขวา และรตงกลางค่ะ
ประตูบานข้างบ้านนอกจากจะใช้เปิดเพื่อให้อากาศถ่ายเทแล้ว ยังสามารถใช้เชื่อมพื้นที่ส่วนทานอาหารกับนอกบ้านได้เผื่อวันไหนมีเพื่อนมาแล้วจัดปาร์ตี้ BBQ นอกบ้านค่ะ
ติดกับส่วนทานอาหารจะเป็นส่วนของห้องครัว
ของจริงจะเป็นครัวที่แยกพื้นที่ออกจากส่วนทานอาหารให้แบบนี้เลยค่ะ เพียงแต่ช่องประตูที่เราเห็น ทางโครงการจะไม่ได้ติดตั้งประตูไว้ให้ คือจะปล่อยให้เป็นช่องว่างๆแบบนี้เลย ซึ่งเราสามารถที่จะนำประตูบานธรรมดามาใส่เองก็ได้ หรือจะทำเป็นประตูบานเลื่อน กระจกฝ้าๆแบบบ้านตัวอย่างนี้ก็ดูเป็นไอเดียที่น่าสนใจค่ะ เพราะนอกจากจะสามารถป้องกันกลิ่นอาหารออกมาจากครัวได้แล้ว การใช้กระจกฝ้ายังทำให้ห้องดูไม่ทึบเกินไปอีกด้วย
พื้นส่วนห้องครัวจะมีระดับเดียวกับส่วนทานอาหาร และใช้กระเบื้องแกรนิตโต้เหมือนกันค่ะ
ทางโครงการตกแต่งครัวมาให้ดูเป็นตัวอย่าง บ้านจริงที่ได้จะเป็นบ้านเปล่าๆไม่มีเคาน์เตอร์อะไรให้นะคะ แต่จะได้ห้องเก็บของเล็กๆ และเดินระบบท่อมาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ
ห้องเก็บของเล็กๆตรงนี้จะใช้พื้นที่ใต้บันไดนั่นเองค่ะ พื้นที่เก็บของด้านในขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ใช้เก็บของได้พอประมาณ แต่ไม่เหมาะที่จะเก็บพวกของชิ้นยาวๆ สูงๆค่ะ เพราะบานประตูเค้าค่อนข้างเล็กและเตี้ย
อีกด้านของห้องครัวจะเห็นประตูเชื่อมออกไปยังลานซักล้าง และห้องครัวนี้จะมีช่องแสง 1 จุด
ช่องแสงในห้องครัวจะได้เป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ บานกรอบ UPVC กระจกเขียวตัดแสง และตัวล็อค 2 ชั้นเหมือนหน้าต่างบานอื่นๆในบ้านค่ะ
กลับมาดูส่วนโถงบันไดกันบ้าง ยริเวณนี้จะประกอบด้วยบันไดขึ้นชั้นบน ห้องน้ำของชั้นนี้และประตูทางซ้ายมือที่เห็นคือประตูออกไปยังที่จอดรถหน้าบ้านค่ะ
โครงการนี้จะติดตั้งสัญญาณกันขโมยมาให้ทุกหลังค่ะ
เข้ามาดูภายในห้องน้ำกันบ้าง สำหรับห้องน้ำที่ชั้นนี้จะมีฟังก์ชั่นครบค่ะ ทั้งส่วนห้องน้ำสำหรับรับแขกและส่วนอาบน้ำ มีช่องแสง 1 จุดสำหรับระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติ
ช่องแสงที่ได้เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง บานกรอบ UPVC กระจกฝ้าขุ่นบังสายตาจากภายนอกได้ดี บานกระทุ้งเปิดได้กว้างค่ะ
พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม. และลดระดับลงไปประมาณ 5 ซม. กันน้ำกระเด็นออกมานอกห้องน้ำค่ะ
อ่างล้างมือแบบลอยตัวทรงกลมและก๊อกน้ำ Cotto ไม่มีเคาน์เตอร์ใต้อ่างมาให้ ถ้ามีของใช้เยอะก็ต้องหาชั้นวางของมาติดตั้งเพิ่มเติมเอาเอง ขนาดอ่างพอดีๆค่ะ
โถสุขภัณฑ์ Cotto ระยะการใช้งานพอดีๆ
สายชำระขนาดพอดีมือ
พื้นที่อาบน้ำจะถูกแยกออกมาเป็นสัดเป็นส่วนด้วยการลดระดับพื้นลงไปประมาณ 4 ซม. ไม่มี Shower Box ติดตั้งมาให้ แต่ดูจากระยะแล้วน้ำก็ไม่น่าจะกระเซ็นมาที่ส่วนโถสุขภัณฑ์เท่าไหร่ สามารถใช้ม่านกั้นก็น่าจะเอาอยู่แล้วค่ะ ส่วนฝักบัวและที่วางสบู่จะใช้ของ Cotto
ขนาดฝักบัวค่อนข้างเล็กไปหน่อย หน้าร้อนอาจจะอาบได้ไม่สะใจเท่าไหร่นะ
พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 1 x 1.20 เมตร สามารถอาบได้สบายๆค่ะ
เราขึ้นไปดูชั้นบนกันต่อ ตัวบันไดโครงสร้างคสล. ปิดหน้าด้วยไม้สีน้ำตาลเข้ม
ราวจับเหล็กทาสีเทา มือจับเป็นไม้สีเข้มเข้ากับตัวบันได
โถงบันไดมีช่องแสง 1 จุดและโคมไฟ 1 ดวง
ช่องแสงที่โถงบันได้เป็นชุดหน้าต่าง ผสมบานกระทุ้งและบานฟิกซ์
ขึ้นมาที่ชั้น 2 ปูพื้นด้วยลามิเนตลายไม้สีอ่อนทั้งชั้น
สำหรับพื้นที่บนชั้น 2 นี้จะแบ่งเป็นห้องนอนรอง 2 ห้องทางซ้ายมือ และ Master Bedroom ทางขวามือ และห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันของห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 มองกลับไปที่โถงบันได
ห้องนอนห้องแรกที่เราจะไปดูกันเป็นห้องที่ติดกันบันได คือ Master Bedroom ค่ะ
บานประตูของห้องนอนทุกห้องจะได้เป็นบาน HDF สีขาว ลูกบิดกลมมตรฐาน
พื้นห้องนอนทุกห้องปูด้วยลามิเนตต่อเนื่องมาจากโถงบันได มีตัวจบกั้นเก็บงานเรียบร้อย
เข้ามาในห้องตกแต่งแบบเรียบง่าย สไตล์ผู้ใหญ่ๆหน่อย สำหรับพื้นที่ในห้องนอนนี้จะถูกแบ่งเป็นส่วนห้องนอนและส่วน Walk – in Closet ส่วนห้องนอนจะได้ช่องแสง 3 จุด เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง 2 บานที่หัวเตียง และประตูเชื่อมห้องนอนกับระเบียงหน้าบ้านค่ะ
เราจะออกไปดุตรงระเบียงกันก่อนนะคะ เริ่มจากประตูเชื่อมห้องนอนและระเบียงเป็นประตูบานเลื่อนคู่ บานกรอบ UPVC สีขาว กระจกเขียวตัดแสง มีช่องแสงเป็นบานฟิกซ์ติดอยู่ด้านข้างด้วยอีก 1 บาน
มือจับและตัวล็อค 2 ชั้น
พื้นระเบียงลดระดับลงมาประมาณ 6 ซม. ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม. ตัวรางประตูติดตั้งมาแบบลดระดับให้เสมอกับพื้นห้องนอนเรียบร้อยค่ะ
ระเบียงกว้างประมาณ 90 ซม. สามารถวางชุดโต๊ะทานกาแฟเล็กๆได้ หรือจะวางไม้กระถางสร้างบรรยากาศร่มรื่นให้กับตัวบ้านก็ยังได้ค่ะ แต่อย่าลืมเผื่อพื้นที่ไว้วางคอมเพรสเซอร์แอร์ด้วยล่ะ
ราวกันตกเป็นเหล็กทาสีเทา
กลับเข้ามาในห้องนอน ทางโครงการวางเตียงขนาดคิงส์ไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งจะเห็นว่ายังมีพื้นที่เหลือข้างเตียงค่อนข้างเยอะ เพราะฉะนั้นห้องนี้จึงสามารถวางเตียงคิงส์ไซส์ได้ และยังเหลือที่ข้างเตียงให้วางโต๊ะเล็กๆหรือโคมไฟได้อีกค่ะ
ช่องแสงเหนือเตียงทั้ง 2 บาน เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง บายกรอบ UPVC สีขาว เปิดออกไปได้ค่อนข้างกว้างเลยค่ะ
พื้นที่ข้างเตียงฝั่งระเบียงเหลือประมาณ 1 เมตร
ข้างเตียงอีกฝั่งทางโครงการทำตู้เสื้อผ้าแบบ Built – in มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งของจริงตรงนี้จะเป็นผนังเปล่าๆ เว้าลึกเข้าไปประมาณ 60 ซม. สามารถวางตู้เสื้อผ้าหรือ Built – in แบบบ้านตัวอย่างนี้ก็ได้ หรือจะวางเป็นโต๊ะเขียนหนังสือทำเป็นมุมทำงานน่ารักๆก็ยังได้ค่ะ
พื้นที่ข้างเตียงฝั่งตู้เสื้อผ้าเหลือประมาณ 70 ซม.
อีกด้านของห้องจัดเป็น Walk – in Closet
พื้นที่ปลายเตียงเหลือเฟือค่ะ
ส่วน Walk – in Closet นี้จะได้ช่องแสงมา 1 จุด
ช่องแสงที่ได้มาเป็นชุดหน้าต่างบานเลื่อนคู่ และบานฟิกซ์ บานกรอบ UPVC กระจกเขียวตัดแสง
อีกด้านเป็นห้องน้ำในตัวของ Master Bedroom
ประตูห้องน้ำได้เป็นบาน HDF สีขาว
พื้นห้องน้ำลดระดับลงไปประมาณ 5 ซม.ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาๆฟ้าๆ
ด้านในห้องน้ำผนังกรุกระเบื้องเซรามิค และกระเบื้องตกแต่งตามภาพ ส่วนพื้นที่การใช้งานก็จะแยกส่วนแห้งส่วนเปียกไว้ให้เรียบร้อย
อ่างล้างมือทางกลม Cotto ไม่มีเคาน์เตอร์ใต้อ่าง แต่มีบ่าวางของอยู่ด้านหลังยาวไปถึงส่วนของโถสุขภัณฑ์ ทำให้มีพื้นที่วางของได้ประมาณนึง แต่ถ้ามีข้าวขางในห้องน้ำเยอะก็คงต้องหาซื้อชั้นวางของเล็กๆมาใส่ไว้เองนะ
โถสุขภัณฑ์และสายชำระ Cotto
พื้นที่ส่วนเปียกจะแยกมาให้เป็นสัดเป็นส่วนด้วยการลดระดับพื้น แต่ของจริงจะไม่ได้ Shower Box นะคะ
พื้นที่อาบน้ำลดระดับลงมาประมาณ 2 ซม.
ฝักบัวอาบน้ำและที่วางสบู่ Cotto
พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 0.9 x 1.5 เมตร ค่อนข้างกว้าง อาบได้สบายๆเลยค่ะ
กลับออกมาที่โถงบันได เราจะไปดูที่ห้องนอนรองฝั่งหลังบ้านกันบ้าง เริ่มจากห้องฝั่งซ้ายมือก่อนนะคะ
เข้ามาในห้องก็รู้เลยว่าตกแต่งมาให้สำหรับเด็กเล็กๆ มีช่องแสง 2 จุด สามารถเปิดพร้อมๆกันเพื่อให้อากาศหมุนเวียนภายในห้องได้ ในวันอากาศดีๆ สามารถนอนแบบไม่เปิดแอร์ได้เลยค่ะ แต่อย่าลืมติดมุ้งลวดกันแมลงด้วยนะ
หน้าต่างที่ได้เป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ บานกรอบ UPVC สีขาว กระจกเขียวตัดแสง
เตียงที่ทางโครงการจัดมาให้ดูเป็นเตียงขนาด 3.5 ฟุต วางบนเตียงแบบ Built – in มีลิ้นชักเก็บของซ่อนอยู่ใต้เตียงและข้างเตียงแบบนี้สามารถเก็บเป็นไอเดียท่ีดีได้เลยค่ะ ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่ามากๆ
อีกด้านของห้องวางตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของติดผนังมาให้ดูเป็นตัวอย่าง
ซึ่งพื้นที่ข้างเตียงก็มีเหลือเฟือ สามารถใช้ยืนแต่งตัวได้สบายๆ
มาดูที่ห้องนอนรองอีกห้องกันค่ะ
ห้องนี้ตกแต่งแบบเด็กโตขึ้นมาหน่อย มีช่องแสง 2 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่
เตียงที่วางมาให้ดูเป็นตัวอย่างเป็นเตียงขนาดคิงส์ไซส์
วางเตียงเกือบชิดผนังค่ะ
ปลายเตียงติดตั้งชั้นวางของเล็กๆน้อยๆ
พื้นที่ปลายเตียงเหลือพอให้เดินผ่านได้สบายๆ ถ้าใครอยากวางตู้เล็กๆปลายเตียงก็พอจะวางได้อยู่นะคะ
อีกด้านของห้องจะเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง / โต๊ะอ่านหนังสือ ซึ่งพื้นที่การใช้งานของฝั่งนี้ก็พอดีๆ ไม่อึดอัดค่ะ ส่วนประตูบานที่เห็นทางขวามือเป็นประตูออกไปยังโถงบันไดค่ะ
มาที่โถงบันได เราจะมาดูห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันระหว่างห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องกันค่ะ บานประตูห้องน้ำของจริงที่ได้จะเป็นบาน PVC สีขาว มีบานเกล็ดระบายอากาศด้านล่าง
พื้นห้องน้ำลดระดับลงไปประมาณ 5 ซม. พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา
ผนังด้านในกรุด้วยกระเบื้องเซรามิคและกระเบื้องตกแต่งตามภาพ มีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง
อ่างล้างมือ, ก๊อกน้ำ, โถสุขภัณฑ์ ของ Cotto มีบ่าวางของข้างหลัง
พื้นที่อาบน้ำแยกเป็นส่วนเปียกให้ด้วยการลดระดับพื้นลงมาประมาณ 2 ซม. แต่จะไม่มี Shower Box ติดตั้งมาให้นะคะ ถ้าใครกังวลว่าพื้นส่วนห้องน้ำจะเปียกก็สามารถติดตั้ง Shower Box หรือม่านอาบน้ำก็ได้ค่ะ
พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 1.5 x 0.9 เมตร สามารถอาบได้สบายๆค่ะ
ฝักบัว Cotto
บ้านตัวอย่างหลังที่ 2 จะเป็นบ้านแบบ Ozone 135 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ขนาดที่ดินเริ่มต้น 39.9 ตร.วา หน้ากว้าง 12 เมตร แบบบ้านหลังนี้จะมีการวางผังคล้ายๆกับบ้านแบบแรกค่ะ จะแตกต่างกันตรงพื้นที่ใช้สอยที่น้อยกว่า และเปลี่ยนตำแหน่งของที่จอดรถมาไว้หน้าบ้านแทนทำให้ไม่มีประตูทางเข้าจากที่จอดรถ ส่วนห้องรับแขก ส่วนทานอาหาร และห้องน้ำยังอยู่ที่ตำแหน่งเดิม ห้องครัวก็ยังได้เป็นครัวแบบปิดที่สามารถเชื่อมต่อออกไปยังลานซักล้างได้
ชั้น 2 จะมีห้อง Master Bedroom ทางฝั่งหน้าบ้านและห้องนอนรองที่มี 2 ขนาด ส่วนห้องน้ำก็ยังคงมี 2 ห้อง คือห้องที่โถงทางเดินใช้ร่วมกันระหว่างห้องนอนรองและห้องนอนเล็ก ส่วนห้องน้ำอีกห้องคือห้องน้ำส่วนตัวที่อยู่ในห้อง Master Bedroom ค่ะ
มาดูบ้านตัวอย่างกันต่อค่ะ รูปลักษณ์การออกแบบโดยรวมก็เป็นไปในแนวทางเดียวกันกับบ้านแบบแรกค่ะ คือเรียบๆ ใช้สีโทนขาว และเทาฟ้า
สำหรับบ้านแบบนี้จะได้แผง Solar Cell ติดตั้งไว้บนหลังคาและใช้เป็นกันสาดด้วยค่ะ
พื้นที่บริเวณหน้าบ้านจะเป็นที่จอดรถ พื้นเทซีเมนต์ปาดเรียบ มีโคมไฟติดผนังให้ 2 ดวงและไฟดาวน์ไลท์ 1 ดวง
เราลองเดินดูรอบๆบ้านกันก่อนค่ะ เริ่มจากทางซ้ายมือจะเห็นว่ามีช่องก็บของเล็กๆอยู่
ช่องเก็บของเล็กข้างบ้านสำหรับเก็บอุปกรณ์ทำสวนเล็กๆน้อยๆ บานเปิดคู่ มีกลอนสำหรับล็อคให้ และพื้นที่ด้านในกว้างพอประมาณค่ะ
หลังบ้านจะมีลานซักล้างเทซีเมนต์ไว้ให้และได้ไฟฟลูออเรสเซนท์มา 2 ดวงค่ะ
บริเวณลานซักล้างหลังบ้านมีประตูเชื่อมไปยังส่วนครัวได้
มี Step ก่อนเข้าตัวบ้านยกสูงขึ้นมาประมาณ 15 ซม. และพื้นชั้น 1 ยกสูงขึ้นมาอีกประมาณ 10 ซม.
พื้นที่ข้างบ้านอีกฝั่งจะมีประตูบานเลื่อนเชื่อมกับส่วนทานอาหารภายในบ้าน
กลับมาที่ทางเข้าหลักหน้าบ้านกันค่ะ จากภาพเราจะเห็นช่องแสงทางซ้ายมือคือช่องแสงสำหรับโถงบันไดนั่นเองค่ะ
ประตูทางเข้าหลักของบ้านจะเป็นประตูบานเปิดเดี่ยว ประกบด้วยช่องแสงแนวยาวข้างบานประตูอีก 2 บาน โดยชุดประตูนี้จะได้เป็นบานกรอบ UPVC สีขาว กระจกเขียวตัดแสง
เฉลียงทางเข้าบ้านยกระดับขึ้นมาความสูงประมาณ 15 ซม. ขนาดค่อนข้างกว้างประมาณ 1 x 3 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม. สามารถวางชั้นวางรองเท้าเล็กๆได้ค่ะ เพราะตรงนี้จะมีกันสาดมาให้แล้ว ทำให้ป้องกันฝนสาดมาได้ระดับนึง
พื้นชั้น 1 ยกสูงจากเฉลียงอีกประมาณ 12 ซม. ตัวรางประตูติดแบบฝังลงในพื้น
มือจับและตัวล็อคค่ะ
เข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับห้องรับแขก เป็นพื้นที่กว้างๆเชื่อมต่อไปยังส่วนทานอาหาร พื้นที่รับแขกของบ้านแบบที่สองนี้จะให้ความรู้สึกกว้างขวางกว่าบ้านแบบแรกเยอะเลยค่ะ
ด้านขวาจะเป็นพื้นที่สำหรับวางโซฟา
ส่วนด้านซ้ายจะเป็นบันไดขึ้นไปชั้น 2 และเป็นพื้นที่สำหรับวางทีวีค่ะ
สำหรับช่องแสงในส่วนของห้องนั่งเล่น จะได้ช่องแสงมา 2 จุด คือชุดหน้าต่างบานข้างบ้าน และประตูทางเข้าหลัก
ทางโครงการจัดโซฟาขนาด 3 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งจะเห็นว่ายังเหลือที่ว่างด้านข้างให้วางโต๊ะเล็กๆได้ เพราะฉะนั้นถ้าใครอยากวางโซฟาตัวใหญ่ๆหน่อยก็สามารถวางโซฟาขนาด 4 ที่นั่งก็ยังได้อยู่
ผนังฝั่งตรงข้ามโซฟาจัดเป็นชั้นวางทีวี และชั้นวางของ
ระยะดูทีวีเหลือประมาณ 3 เมตร ขนาดทีวีที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 60″ – 70″ เลยค่ะ
จากห้องรับแขกไปดที่ส่วนทานาหารกันต่อ
ส่วนทานอาหารจะมีช่องแสง 2 จุด เป็นหน้าต่างบานหลังบ้านและประตูเชื่อมพื้นที่ข้างบ้าน
ประตูบานเชื่อมพื้นที่ข้างบ้านเป็นประตูบานเลื่อนคู่ บานกรอบ UPVC สีขาว กระจกเขียวตัดแสง
มือจับและตัวล็อคค่ะ
อีกด้านของห้องทานอาหารจะเป็นห้องน้ำทางซ้ายและห้องครัวทางขวามือค่ะ
มีตัวอย่างการตกแต่งผนังฝั่งห้องครัวกับห้องน้ำมาให้ดู ด้วยการติดประตูเลื่อนบานกระจกเงาปิดประตูทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งนอกจากจะดูสวยแล้วยังทำให้ส่วนทานอาหารดูกว้างขึ้นอีกด้วยค่ะ
เรามาดูภายในครัวกันต่อ สำหรับครัวของบ้านแบบนี้จะเล็กกว่าบ้านแบบแรกหน่อยนึง สามารถทำเคาน์เตอร์ตามแบบบ้านตัวอย่างได้ หรืจะทำเป็ยเคาน์เตอร์รูปตัว L ก็ได้ค่ะถ้าหากว่าพื้นที่เตรียมอาหารไม่พอ แต่พื้นที่สำหรับยืนทำอาหารอาจะลดลงจาก1.2 เมตร เป็น 60 เซนติเมตรค่ะ สำหรับห้องนี้จะมีช่องแสง 2 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ บานกรอบ UPVC กระจกเขียวตัดแสง
พื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ลดระดับลงไปประมาณ 12 ซม.
อีกด้านของห้องมีประตูเชื่อมห้องครัวกับลานซักล้างหลังบ้าน
ถัดมาเป็นห้องน้ำที่ชั้น 1 บานประตูที่ได้เป็น PVC สีขาว ลูกบิดกลมมาตรฐาน
พื้นห้องน้ำลดระดับลงไปประมาณ 4.5 ซม. ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา
ผนังห้องน้ำกรุด้วยกระเบื้องเซรามิคและกระเบื้องตกแต่งตามภาพ มีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง
อ่างล้างมือแบบลอยตัวทรงกลมและก๊อกน้ำ Cotto
ข้างอ่างล้างมือเป็นโถสุขภัณฑ์ Cotto พร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระ ระยะการใช้งานค่อนกระกระชั้นกับส่วนอายน้ำไปหน่อย อาจจะเปียกได้ถ้าเราไม่ได้ติดม่านหรือกั้น Shower Box
พื้นที่สำหรับอาบน้ำจะถูกแยกออกจากส่วนแห้งด้วยการลดระดับพื้นลงไปประมาณ 3 ซม. ติดตั้งฝักบัว และก๊อกน้ำยี่ห้อ Cotto มาให้เรียบร้อย
พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 0.9 x 1.2 เมตร
ขึ้นไปดูบนชั้น 2 กันต่อค่ะ บันไดโครงสร้าง คสล. ปิดหน้าด้วยไม้สีเข้ม มีช่องแสงบริเวณบันได 1 จุด เป็นชุดหน้าต่างบานฟิกซ์และหน้าต่างบานกระทุ้ง สามารถรับแสงธรรมชาติมาช่วยบริเวณโถงบันไดได้นิดหน่อย
โถงบันไดด้านบนจะมีช่องแสงอีก 1 จุด และโคมไฟ 1 ดวง
ชานพักบันแบบผสม เป็นชานพักสี่เหลี่ยมและชานพักสามเหลี่ยม
พื้นชั้น 2 ปูด้วยลามิเนตลายไม้สีอ่อนทั้งชั้น
ขึ้นมาบนชั้น 2 แล้วหันกลับไปดูโถงบันไดโดยรวมซะหน่อย จะเห็นว่าพื้นที่โถงบันไดชั้น 2 จะได้แสงสว่างจากช่องแสงและโคมไฟมาพอสมควร เพียงพอในช่วงกลางวัน แต่กลางคืนอาจจะมืดๆหน่อยค่ะ
พื้นที่ชั้น 2 จะถูกแบ่งเป็นห้องนอนเล็กและห้องนอนรองทางฝั่งซ้าย และ Master Bedroom ทางฝั่งขวา ส่วนตรงกลางเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันระหว่างห้องนอนเล็กและห้องนอนรองค่ะ
ห้องนอนแรกที่เราจะมาดูกันเป็นห้องนอนเล็ก ที่อยู่ติดกับบันไดนะคะ
พื้นห้องนอนปูด้วยลามิเนต มีตัวจบลามิเนตเก็บงานเรียบร้อย
ในห้องตกแต่งมาให้ดูเป็นห้องสำหรับเด็กเล็ก มีช่องแสง 2 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ บานกรอบ UPVC สีขาว กระจกเขียวตัดแสง
ได้ไฟดาวน์ไลท์ 2 ดวง
วางเตียงขนาดเล็กกว่า 3.5 ฟุต ทำให้ห้องดูมีพื้นที่เหลือค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าวางเตียงขนาดมาตรฐานลงไปแล้ว ห้องก็อาจจะดูแคบลงกว่านี้อีกนิดหน่อย ห้องนี้ไม่เหมาะที่จะวางเตียงใหญ่ๆนะคะ เพราะจะทำให้การใช้งานในฟังก์ชั่นอื่นๆอย่างตู้เส้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง ไม่สะดวกเท่าไหร่
อีกด้านของห้องวางตู้เสื้อผ้าเล็กๆ
พื้นที่เหลือระหว่างเตียงค่อนข้างเยอะ ถ้าวางตู้และเตียงไซส์ปกติ ระยะที่เหลือก็อจจะน้อยลงนิดนึงค่ะ
ถัดไปเราจะมาดูห้องนอนรองกันต่อ
ห้องนอนรองขนาดใหญ่กว่าห้องนอนเล็กพอสมควรเลยค่ะ มีพื้นที่สำหรับเป็นส่วนห้องนอน และสามารถจัดเป็นส่วน Walk – in Closet เล็กๆได้ด้วย ห้องนี้มีช่องแสง 2 จุดเป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ บานกรอบ UPVC สีขาว กระจกเขียวตัดแสง
วางเตียงขนาดควีนไซส์แบบเข้ามุมมาให้ดูเป็นตัวอย่าง
ปลายเตียงติดตั้งชั้นวางของแบบง่ายๆ
อีกด้านของห้องวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเขียนหนังสือ
พื้นที่ใข้งานเหบือเฟือค่ะ
ห้องนอนห้องนี้มีความพิเศษตรงที่สามารถเชื่อมกับห้องน้ำที่โถงบันไดได้ด้วยค่ะ โดยประตูบานที่ใข้เขื่อมกับห้องน้ำจะเป็นประตูบานซ้ายมือค่ะ
พื้นห้องน้ำลดระกับลงไปประมาณ 4 ซม. พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา
ภายในห้องน้ำผนังกรุด้วยกระเบื้องเซรามิคสีขาวและกระเบื้องลายตกแต่งตามภาพ
อ่างล้างมือแบบลอยตัวทรงกลมพร้อมก๊อกน้ำยี่ห้อ Cotto และโถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระยี่ห้อ Cotto มีบ่าวางของด้านหลัง
พื้นที่อาบน้ำจะถูกแยกจากส่วนแห้งด้วยการลดระดับพื้นลงไปประมาณ 3 ซม.
พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 1.70 x 0.80 เมตร
ให้ดูทางเข้าออกทั้งสองทาง ฝั่งซ้ายออกไปยังโถงบันได และฝั่งขวาออกไปห้องนอนรองค่ะ
มุมมองห้องน้ำที่เข้ามาจากโถงบันได
ต่อไปเราจะมาดู Master Bedroom กันต่อค่ะ
เปิดเข้ามาในห้องตกแต่งแบบเรียบร้อยสะอาดตา สำหรับห้อง Master Bedroom นี้จะถูกแบ่งออกเป็นส่วนห้องนอนและส่วน Walk – in Closet ส่วนห้องนอนนี้จะมีช่องแสง 2 จุด เป็นชุดหน้าต่างบานเลื่อนคู่และบานฟิกซ์ 1 บาน และหน้าต่างบานเลื่อนคู่อีก 1 บาน
ส่วนห้องนอนจะได้ไฟดาวน์ไลท์ 4 ดวง
ทางโครงการวางเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งดูจากพื้นที่แล้วจะวางขนาดคิงส์ไซส์กก็ยังได้สบายๆค่ะ
พื้นที่ข้างเตียงเหลือพอให้วางโต๊ะเล็กๆได้
อีกฝั่งก็ทำเป็นชั้นวางของที่เป็นโต๊ะเขียนหนังสือได้ในตัว
พื้นที่เหลือสำหรับใช้งานโต๊ธเขียนหนังสือก็พอดีๆ ไม่อึดอัดค่ะ
อีกด้านของห้องทำเป็น Walk – in Closet โดยใช้ฉากกั้นและชั้นวางทีวี
พื้นที่ปลายเตียงที่เหลือเยอะพอประมาณ
ด้านในส่วน Walk – in Closet สามารถวางตู้เสื้อผ้าได้หลายตู้ค่ะ อย่างในบ้านตัวอย่างนี้ทางโครงการก็วางตู้เสื้อผ้าประกบได้ 2 ตู้และยังวางโต๊ะเครื่องแป้งได้อีกค่ะ
ในส่วน Walk – in Closet จะมีช่องแสง 1 จุด เป็นชุดหน้าต่างบานเลื่อนและบานฟิกซ์
ได้ไฟดาวน์ไลท์ 2 ดวง
ต่อไปมาดูห้องน้ำในห้อง Master Bedroom กันต่อค่ะ
พื้นห้องน้ำลดระดับลงไปประมาณ 4 ซม. ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา
ด้านในห้องน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้เรียบร้อย
อ่างล้างมือพร้อมก๊อกน้ำ Cotto และโถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระ Cotto มีบ่าวางของด้านหลัง
พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 1.70 x 0.8 เมตร เป็นพื้นลดระดับลงไปประมาณ 3 ซม. ของจริงจะได้ Shower Box ตามแบบเลยค่ะ
ฝักบัวอาบน้ำ Cotto พร้อมที่วางสบู่
สวิทช์และปลั๊กไฟใช้ของ Bticino
ราคา (พ.ค.61)
ราคาเริ่มต้น 6-8 ล้านบาท (พ.ค.61)
** โปรดติดต่อสอบถามราคาและโปรโมชั่นอัปเดตที่สำนักงานขายอีกครั้งค่ะ **
โปรโมชั่นอื่นๆ โปรดสอบถามทางโครงการ**
บทสรุปโครงการ
ทำเลโดยรอบ โครงการ Sena Park Ville รามอินทรา – วงแหวน เป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนถนนเลียบกาญจนาภิเษก ช่วงถนนรามอินทราตอนปลาย ตัวทำเลมีความเศษความพิเศษคือ สามารถเข้าออกได้ 2 ทางคือจากถนนเลียบกาญจนาภิเษกและถนนรามอินทราโดยวิ่งผ่าน Sena Park Avenue ที่เป็นที่ดินของเสนาซึ่งตอนนี้เป็นสวนขนาดใหญ่กว่า 10 ไร่ สภาพแวดล้อมโดยรวมรอบๆโครงการเป็นโครงการบ้านเดียวข้างเคียงและที่ดินเปล่าที่รอการพัฒนา
ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินถึงถือว่าแห้งแล้ง แต่ความอุดมสมบูรณ์โดยรวมค่อนข้างคึกคักมีตลาดและ Hyper Market ให้เลือกหลายจุดแต่ต้องขับรถออกมานะ นอกจากนั้นยังอยู่ใกล้กับศูนย์การค้าใหญ่อย่าง Fashion Island และ Community Mall อย่าง The Promanade
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวค่อนข้างสะดวกโดยใช้ถนนรามอินทราเป็นเส้นหลัก เพื่อเข้าไปใน Sena Park Avenue และเชื่อมกับถนนเลียบกาญจนา ซึ่งตัวถนนรามอินทราเอง เป็นถนนเส้นที่มีถนนเส้นอื่นๆมาเชื่อมอยู่ด้วยกันหลายสายอย่างถนนนวมินทร์, ถนนเกษตรนวมินทร์, ถนนเสรีไทย หรือถนนที่มาจากฝั่งนอกเมืองก็สามารถมาได้ทั้งจากถนนหทัยราษฏร์, ถนนพระยาสุเรนทร์, ถนนคู้บอน และถนนพหลโยธิน นอกจากนั้นโครงการยังอยู่ใกล้กับทางด่วนวงแหวนรอบนอกและทางด่วนรามอินทรา – อาจนรงค์ ซึ่งสะดวกสำหรับขาเข้าเมือง ส่วนขาออกนอกเมืองก็สามารถออกจากโครงการแล้วใช้เส้นเลียบกาญจนาตรงขึ้นไปได้ถึงบางปะอิน อยุธยาเลยค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ ถือว่าลำบากเลยค่ะ เนื่องระยะทางจากหน้าโครงการเข้ามาถึงโครงการค่อนข้างไกล ประมาณ 1.10 กิโลเมตร ซึ่งเกินระยะเดินสบายไปไกลแล้วค่ะ เมื่อออกมาหน้าโครงการได้แล้วเนื่องจากว่าตัวโครงการอยู่บนเส้นเลียบทางด่วนจึงไม่ค่อยมีรถโดยสารสาธารณะผ่าน จะมีก็รถสองแถวจาก Fashion Island – ตลาดออเงิน นอกจากนั้นก็คงต้องพึ่งรถแท็กซี่และพี่วินที่นานๆจะผ่านมาหน้าโครงการ
ส่วนในอนาคตเมื่อมีรถไฟฟ้าเข้ามาถึง ทางโครงการจะมี Shuttle Bus คอยรับส่งที่ Park Avenue เพื่อที่จะไปต่อรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย – มีนบุรี ที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม(ตลิ่งชัน – มีนบุรี) และรถไฟฟ้าสายสีม่วง(บางใหญ่ – บางซื่อ) ที่จะช่วยให้การเดินทางในละแวกนี้สะดวกและประมาณเวลาในการเดินทางได้ดีขึ้น ซึ่งสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นสถานีรามอินทรา 83 และสถานีวงแหวนตะวันออก แต่เนื่องจากตัวโครงการไม่ได้อยู่เกาะแนวเส้นรถไฟฟ้าจึงต้องพึ่งรถโดยสารเพื่อไปถึงตัวสถานีก่อนค่ะ
แบบบ้าน การออกแบบมาในสไตล์ Eco Modern มีจุดเด่นตรงการออกแบบที่เน้นให้บ้านเย็น และประหยัดการใช้พลังงานของตัวบ้าน ทั้งระบบระบายความร้อนบนหลังคา และการใช้ Shading ของ Facade เพื่อกันความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน นอกจากนั้นยังให้ช่องแสงมาค่อนข้างเยอะรับแสงธรรมชาติเข้ามาในตัวบ้านได้มากทำให้บ้านมีความโปร่งมากขึ้น ส่วนการฟังก์ชั่นการใช้งานก็ครบถ้วน มีครัวไทยแยกมาให้เป็นสัดเป็นส่วน พื้นที่ใช้สอยโดยรวมจัดมาให้ใช้ได้อย่างลงตัวไม่รู้สึกติดขัดอะไร ในห้องนอนแต่ละห้องจัดพื้นที่มาให้เหลือๆ สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นๆได้ครบและยังมีพื้นที่เหลือ
วัสดุ ที่จอดรถหน้าบ้าน Origin เป็นพื้นคอนกรีตสแตมป์ ส่วนบ้านแบบ Ozone เป็นพื้นคอนกรีตปาดเรียบ เฉลียงหน้าบ้านลานซักล้างเป็นซีเมนต์ปาดเรียบ พื้นภายในบ้านชั้นล่าง รวม Pantry และ ห้องครัวเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. ชั้น 2 ได้เป็นพื้นลามิเนตหนา 8 มม. บานประตูภายในบ้านเป็นบานประตูสำเร็จรูป HDF, บานประตูห้องน้ำและประตูซักล้างเป็น UPVC สีขาว ชนิดกันน้ำ ส่วนประตูและหน้าต่างบานเลื่อนและบานกระทุ้งทั้งหมดเป็นบานกรอบ UPVC สีขาว กระจกเขียวตัดแสง สวิทช์ไฟทั้งหลังของ Bticino ไฟทั้งบ้านผสมระหว่างดาวน์ไลท์และโคมซาลาเปาทั้งหลัง โถสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าของ Cotto, ก๊อกอ่างล้างหน้า ฝักบัวและก๊อกใต้ฝักบัว Cotto, ที่ใส่กระดาษชำระ ที่วางสบู่และราวแขวนผ้าของ Cotto
สาธารณูปโภค ระบบรักษาความปลอดภัยมีป้อมรักษาความปลอดภัย 2 คือจุดป้อมหลักใหญ่ของเสนาใช้ไม้กระดกมีรปภ. 24 ชม. จุดที่สองคือซุ้มทางเข้าของโครงการใช้ Key Access Card ระยะใกล้ ส่วน Visitor จะใช้การแลกบัตรเข้าออก รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร และรั้วของบ้านและละหลังสูง 1.60 เมตร ถนนหลักกว้าง 12 เมตรและถนนรองในโครงการกว้าง 10 เมตร และ 9 เมตร ถนนกว้างขับได้สบายๆ สำหรับส่วนกลางมีสวนสาธารณะที่จัดมาอย่างเรียบร้อยเป็นระเบียบขนาดประมาณ 1 ไร่ พร้อม Bike Lane สำหรับปั่นจักรยานสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 16 x 6 เมตร
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.5 | มีข้อดีตรงที่มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง ความอุดมสมบูรณ์ในระบะเดินมีพอประมาณและความอุดมสมบูรณ์รอบนอกคึกคัก |
การเดินทาง ใช้รถ | 8.5 | เข้า – ออกเมืองได้สะดวกโดยใช้ถนนรามอินทราและทางด่วนที่ใกล้จะเป็นทางด่วนรามอินทรา – อาจนรงค์และวงแหวนตะวันออก |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 7.75 | ค่อนข้างลำบาก จากโครงการออกมาถนนใหญ่ค่อนข้างไกล และไม่มีรถโดยสาธารณะผ่านนอกจากรถสองแถว Fashion Island – ตลาดออเงิน แต่ยังดีที่จะมี Shuttle Bus ให้บริการหลังจากที่มีรถไฟฟ้าแล้ว |
บ้านและวัสดุ | 8.0 | รูปลักษณ์ภายนอกออกแบบมาเรียบร้อยๆ ธรรมดา แต่มีจุดเด่นตรงที่ติดตั้ง Solar Cell มาให้ด้วย ทำให้ประหยัดค่าไฟไปได้เยอะสำหรับคนที่อยู่บ้านในเวลากลางวัน ฟังก์ชั่นอื่นๆครบ วัสดุมาตรฐาน |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.5 | ระบบรักษาความปลอดภัย Key card access ระยะใกล้ 2 จุด จากป้อมหลักและป้อมของโครงการในอนาคต ถนนภายในกว้าง 10 เมตร และ 10 เมตร ขับได้สบายๆเลย มีสวนสาธารณะและสระว่ายน้ำระบบเกลือ |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.0 | ราคาเริ่มต้น 5.23 ล้านบาท ถือว่ามาตรฐานกับวัสดุที่ได้ รวมถึงฟังก์ชั่น Solar Cell ฟังก์ชั่นครบ Facilities ดี เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง – ขนาดใหญ่ |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.20 | ดี |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
TEL : 1775 กด 18
WEBSITE : คลิกที่นี่
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
รอยต่อของหมู่บ้านเสนาพาร์คแกรนด์และเสนาพาร์ควิวล์ มีช่องเปิดให้รถและคนของหมู่บ้านอื่น และคนภายนอกอื่นๆ นอกโครงการเสนาเข้ามาได้ โดยส่วนตัวคิดว่าคุมความปลอดภัยยากขึ้นถ้ามาอยู่กันเยอะๆครบทุกเฟส
นี่เป็นลูกบ้านเสนาพาร์คแกรนด์ หมู่บ้านใหญ่โตราคาแพง โดนขโมยขึ้นบ้านเรียบร้อยแล้ว ไม่รู้คนใน คนนอก คนงาน คนไหน