EP.781 รีวิว บ้านเดี่ยว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า THE GRAND PINKLAO
สวัสดีพี่น้องชาว HOMENAYOO ทุกท่านครับ วันนี้ผมจะพาทุกท่านไปชมโครงการบ้านเดี่ยวสุดหรูติดถนนใหญ่บรมราชชนนีกับโครงการ The Grand ปิ่นเกล้า จาก Goldenland
โดยได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบมาจาก Alpine Valley ใน Switzerland ภายใต้คอนเซปต์ “Refine Style of Elegant Living” ที่เน้นความสวยงามเรียบหรูจากรายละเอียดและวัสดุตกแต่ง พร้อมมุมมองที่เปิดกว้างเพื่อรับวิวสวนได้รอบด้าน
เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า ตั้งอยู่บนพื้นที่ 187 ไร่ 2 งาน 79.60 ตร.ว. มีทั้งหมด 360 หลัง เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดเริ่มต้นที่ 100 ตร.ว. มี 3-5 ห้องนอน, 3-5 ห้องน้ำ และ ที่จอดรถ 2-3 คัน
ด้วยความใส่ใจในการออกแบบจนเป็นที่มาของรางวัล BCI Asia Top 10 Developer Awards 2014 ซึ่งเป็นการคัดเลือกจากประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงอาคาร The Grand Alpine Clubhouse ยังได้รับรางวัล CITATION AWARD รางวัลสถาปัตยกรรมที่สมควรเผยแพร่ จากสมาคมสถาปนิกสยามอีกด้วย
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน ทั้งคลับเฮ้าส์สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ห้องออกกำลังกายพร้อมเครื่องออกกำลังกายที่ทันสมัย มีระบบการรักษาความปลอดภัยถึง 4 ระดับพร้อมเข้าออกด้วยระบบ Easy Pass ในราคาเริ่มต้นที่ 11.9 ล้านบาท
ชื่อโครงการ | เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า / THE GRAND PINKLAO |
เจ้าของโครงการ | โกลเด้นแลนด์ / Goldenland |
ลักษณะโครงการ | บ้านเดี่ยว 2 ชั้น |
พื้นที่โครงการ | 187 ไร่ 2 งาน 79.60 ตร.ว. |
จำนวนบ้าน | ทั้งหมด 360 หลัง – Alpina : 147 หลัง – Depine : 213 หลัง |
พื้นที่ใช้สอย | – Lugano : 237 ตร.ม. – Walensee : 308 ตร.ม. – Riviera : 395 ตร.ม. |
เนื้อที่บ้าน | เริ่มต้น 100 ตร.ว. |
จำนวนห้อง | 3-5 ห้องนอน / 3-5 ห้องน้ำ |
ที่จอดรถทั้งหมด | 2-3 คัน |
โซน | ปิ่นเกล้า, บางแค, พุทธมณฑล, ทวีวัฒนา |
ขนส่งสาธารณะ | รถไฟฟ้า BTS สายสีแดง (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) – สถานีศาลาธรรมสพน์ |
รถโดยสารที่ผ่าน | รถประจำทางสาย 125, 170, 515, 539, 556 |
ที่ตั้ง | ถนนบรมราชชนนี เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ |
กำหนดการ | n/a |
ปีที่สร้างเสร็จ | สร้างเสร็จพร้อมอยู่บางส่วน |
ราคา | เริ่มต้น 11.9 ล้านบาท (เม.ย. 60) |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก | – อาคารคลับเฮ้าส์ The Grand Alpine Clubhouse – สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 7 x 25 เมตร – ฟิตเนส – สวน Modern Green – ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. – เข้าออกแบบ Easy Pass |
จุดเด่นของโครงการ | คฤหาสน์หรูแบบ Modern Oriental Boutique เน้นความเรียบหรูจากรายละเอียดและวัสดุตกแต่งรวมถึงรูปแบบสวน ที่เปิดกว้างต่อมุมมองจากรูปแบบบ้านที่มีเอกลักษณ์แบบ Simplified Luxury พร้อมระบบสายไฟใต้ดินทั่วทั้งโครงการพร้อมเคเบิ้ลใยแก้วนำแสงสำหรับ Hi Speed Internet |
โครงการโดยรอบ
::: ที่ตั้งโครงการ :::
ถ.ปิ่นเกล้า-บรมราชชนนี เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ
พิกัด : 13.788856, 100.357299
แผนที่จากทางโครงการ
The Grand ปิ่นเกล้า ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่เส้นบรมราชชนนี ช่วงระหว่างพุทธมณฑลสาย 3 และพุทธมณฑลสาย 4 โดยตั้งอยู่ทางฝั่งขาเข้าเมืองที่จะมุ่งหน้าไปยังปิ่นเกล้า ใกล้ย่านศาลายาที่มีแลนด์มาร์คหลักๆคือมหาวิทยาลัยมหิดลและสวนพุทธมณฑล
ในเรื่องของการเดินทาง จุดเริ่มต้นคือถนนบรมราชชนนี ที่ใช้เป็นเส้นทางหลักในการเข้าเมืองไปเชื่อมต่อกับถนนเส้นสำคัญอื่นๆ โดยผมขอยกตัวอย่างคือถนนกาญจนาภิเษก ที่หากวิ่งขึ้นเหนือจะเข้าสู่โซนบางใหญ่-บางบัวทอง หรือถ้าลงทางใต้ใช้งานไปยังเพชรเกษม-พระราม 2 ถนนอีกเส้นที่สำคัญคือถนนราชพฤกษ์ที่ใช้สำหรับเข้าเมืองไปทางฝั่งธนบุรี ข้ามสะพานตากสินสู่สาทร หรือจะวิ่งตรงยาวไปตามถนนบรมราชชนีออกสู่ปิ่นเกล้าที่มีสะพานปิ่นเกล้า, สะพานพระราม 8 และสะพานซังฮี้ ข้ามฝั่งไปยังโซนพระบรมมหาราชวัง ส่วนถนนพุทธมณฑลตั้งแต่สาย 1-5 ทำหน้าที่เหมือนกันคือเชื่อมระหว่างถนนบรมราชชนนีกับถนนเพชรเกษม
เรื่องความอุดมสมบูรณ์ ถือว่าทำเลศาลายามีสถานที่อำนวยความสะดวกรองรับการใช้งานหลายรูปแบบได้ดีทีเดียว โดยหากมองหาตลาดสดที่สามารถหาซื้อวัตถุดิบหรือเสบียงในการประกอบอาหารมีตลาดขนาดใหญ่คือตลาดศาลายาอยู่ที่บริเวณใกล้ทางเข้ามหาวิทยาลัยมหิดล การเข้าถึงทำได้ค่อนข้างสะดวกเพราะสามารถใช้เส้นทางผ่านถนนศาลาธรรมสพน์ ไม่จำเป็นต้องไปหาจุดกลับรถบนถนนบรมราชชนนีให้ยุ่งยาก หรือถ้ามองหาเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ มีให้เลือกทั้ง The Salaya และ The Brio ส่วนห้างไฮเปอร์มาร์เก็ตมีทั้ง Makro และ Tesco Lotus บริเวณเส้นพุทธมณฑลสาย 5 และสุดท้ายห้างที่ครบครันที่สุดถือเป็นระดับแม่เหล็กของทำเลคือ Central Plaza ศาลายา ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาส่งผลทำให้ภาพรวมของความอุดมสมบูรณ์สอบผ่านหายห่วง
การกลับรถ ถนนบรมราชชนนีเป็นถนนใหญ่ที่มีเกาะกลางถนน ทำให้เราต้องมาดูกันว่าการกลับรถเพื่อเข้าโครงการมีความสะดวกมากน้อยแค่ไหน โดยตัวโครงการตั้งอยู่ทางฝั่งขาออก ทำให้หากเราเดินทางมาจากในเมืองการจะเข้าโครงการต้องเลยไปกลับรถ โดยจุดกลับรถอยู่ที่บริเวณแยกทางเข้าพุทธมณฑลสาย 4 เป็นรูปแบบการกลับรถที่ใช้สะพานกลับรถซึ่งสะดวกกว่าแบบที่เป็นสี่แยกไฟแดง ระยะทางจากจุดกลับรถถึงโครงการอยู่ที่ 3 กิโลเมตร หากรวมไปกลับก็ 6 กิโลเมตร
เรื่องทางด่วน เป็นอีกหนึ่งจุดที่จะช่วยเสริมเรื่องการเดินทางโดยใช้รถส่วนตัวให้มีความสะดวกมากขึ้น โดยทางด่วนดังกล่าวคือทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก จุดขึ้นลงอยู่บริเวณถนนกาญจนาภิเษกไม่ห่างจากแยกฉิมพลี ระยะทางจากโครงการถึงจุดขึ้นลงอยู่ที่ 7.9 กม. ในส่วนของการใช้งานทางด่วนดังกล่าวจะไปทางฝั่งจตุจักรที่สามารถเชื่อมต่อไปทางด่วนหลักอย่าง พระราม 9 – ดินแดง – บางนา – ดาวคะนอง ได้ทั้งหมด
ในอนาคตทำเลศาลายาจะมีความสตรองเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งปัจจัยคือการคมนาคมด้วยระบบราง โดยมีแผนงานของรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ซึ่งขณะนี้ (ปี 2560) ยังคงอยู่ในช่วงของการตรวจสอบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและออกแบบโครงการก่อสร้าง คาดว่าต้องรออีก 3-4 ปีข้างหน้าเป็นอย่างน้อยจึงจะได้ใช้งาน โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีศาลาธรรมสพน์ ระยะทางจากโครงการประมาณ 3 กิโลเมตร
ภาพมุมสูงบริเวณโครงการ The Grand ปิ่นเกล้า ทางโครงการแบ่งโซนบ้านพักอาศัยออกเป็น 2 โซนคือโซน Alpina และ โซน Depine โดยในส่วนของทีมงานในวันนี้จะพาเข้าไปชมในโซนของ De Pine ที่กำลังเปิดขายอยู่ในปัจจุบัน พื้นที่ทางด้านทิศตะวันออกเป็นที่ดินเปล่า ส่วนทางทิศตกจะเป็นหมู่บ้านจัดสรรและบ้านพักอาศัยดั้งเดิม ส่วนทางเข้าออกโครงการอยู่ทางทิศใต้ฝั่งถนนบรมราชชนนี
::: การเดินทาง :::
เส้นทางที่ผมใช้เดินทางไปยังโครงการ The Grand ปิ่นเกล้า ในวันนี้ ผมมาจากทางถนนราชพฤกษ์วิ่งมาทางฝั่งขาออกจนถึงถนนบรมราชชนนีจึงเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่ถนนบรมชนนีฝั่งมุ่งหน้าขาออกไปยังนครปฐม จากนั้นยิงตรงยาวไปตามเส้นบรมฯจนถึงช่วงระหว่างถนนพุทธมณฑลสาย 3 และ สาย 4 จะเห็นตัวโครงการอยู่ทางฝั่งขวามือ ให้เราไปกลับรถที่บริเวณถนนพุทธมณฑลสาย 4 เพื่อเข้าโครงการ โดยมีภาพประกอบการเดินทางดังนี้ครับ
สรุปการเดินทาง : ถนนราชพฤกษ์ > แยกราชพฤกษ์-บรมราชชนนี > ถนนบรมราชชนนี > กลับรถที่แยกพุทธมณฑลสาย 4 > ถนนบรมราชชนนี (ทางคู่ขนาน) > The Grand ปิ่นเกล้า
เริ่มภาพการเดินทางจากถนนราชพฤกษ์ฝั่งขาออกไปบรมราชชนนี บริเวณหน้า The Circle ราชพฤกษ์
สังเกตเห็นป้ายทางออกสู่ถนนบรมราชชนนีให้ชิดซ้าย
ออกซ้ายวิ่งทางเลียบสะพานด้านข้าง
เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนบรมราชชนนี
มุ่งหน้าไปตามถนนบรมราชชนนี ผ่านแยกต่างระดับฉิมพลี (ถนนกาญจนาภิเษก)
วิ่งไปจนสุดทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี ยังคงตรงต่อไป
มุ่งหน้ามาจนถึงบริเวณทางแยกเข้าพุทธมณฑลสาย 4 จะเป็นจุดกลับรถ ให้เราชิดซ้ายเตรียมออกทางด้านนอก
ที่ทางคู่ขนานด้านนอก ช่องทางขึ้นสะพานกลับรถจะอยู่ทางขวาสุด
หลังจากกลับรถมาแล้วเรายังคงอยู่ที่ถนนบรมราชชนนี แต่จะเปลี่ยนมาอยู่ทางฝั่งขาเข้าแทน
จากนั้นให้เราวิ่งชิดซ้ายไปไม่ไกลนัก ก็จะถึงจุดหมายของเราในวันนี้คือโครงการ The Grand ปิ่นเกล้า
::: บริเวณโครงการ :::
สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ
แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง
ก่อนที่เราจะเข้าไปชมด้านในโครงการ ผมขอพาไปชมบรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการกันก่อนครับ
ทางเข้าออกโครงการอยู่ติดถนนใหญ่บรมราชชนนี
ด้านหน้าโครงการมีสะพานลอยสำหรับข้ามฝั่งในกรณีที่ใช้รถสาธารณะ
อาคารที่อยู่ด้านหน้าโครงการติดถนนใหญ่นั้นคืออาคารคลับเฮ้าส์
รั้วและสวนด้านหน้าโครงการตกแต่งเป็นระเบียบสวยงามและดูแกรนด์สมกับชื่อโครงการ The Grand ปิ่นเกล้า
ถนนบรมราชชนนีเป็นถนนเส้นหลักขนาดใหญ่ โดยมีขนาดความกว้างฝั่งละ 4 เลน และทางคู่ขนานด้านนอก 2 เลน
ซุ้มทางเข้าโครงการ
ทางเข้าและทางออกแยกจากกันคนละช่องทาง
ทางเดินเท้าเข้าโครงการ
หน่วยรักษาความปลอดภัยมีเจ้าหน้าที่ประจำการตลอด 24 ชม.
รั้วประตูโครงการใช้แบบรั้วเหล็ก ไม่มีไม้กระดก โดยการเปิดประตูจะเป็นระบบ long range scan คือไม่ต้องหยับบัตรขึ้นมาแตะ เพียงขับมาตรงบริเวณซุ้มทางเข้าประตูรั้วจะเลื่อนเปิดเองโดยอัตโนมัติ
มุมมองย้อนกลับไปทางฝั่งถนนบรมราชชนนี
ผ่านซุ้มประตูเข้ามาด้านในช่วงแรกจะเป็นช่องทางเดินรถ ตกแต่งสองข้างทางด้วยต้มปาล์มบรรยากาศสวนแบบ Tropical
ภายในโครงการจะแบ่งเขตบ้านพักอาศัยออกเป็น 2 โซนคือโซน Alpina และ Depine
โซนแรกคือโซน Alpina ทางเข้าออกแต่ละโซนจะมีประตูรั้วอีกหนึ่งชั้น
เลยเข้าไปด้านในจะเป็นโซน Depine
เข้าไปชมในส่วนของสำนักงานขายและอาคารคลับเฮ้าส์กันครับ
ลานจอดรถสำหรับลูกบ้านที่มาใช้บริการคลับเฮ้าส์หรือลูกค้าที่มาติดต่อสำนักงานขาย
อาคารคลับเฮ้าส์ “The Grand Alpine Clubhouse”
ด้่านข้างลานจอดรถเป็นช่องทางเดินที่จะมีมุมนั่งเล่นโซน outdoor
โซนนั่งเล่น outdoor มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา
สวนสาธารณะบริเวณด้านหน้าอาคาร ปูทางเดินและก่อแนวม้านั่งบรรยากาศร่มรื่น
ย้อนกลับไปที่ตัวอาคารกันอีกครั้ง
ตัวอาคารยกสูงขึ้นจากพื้นประมาณ 5 สเตป
ด้านล่างเปิดโล่งเป็นลานกว้างๆ มีโซฟาสำหรับนั่งพักผ่อน 1 ชุด
ห้องด้านล่างเป็นห้องออฟฟิศของนิติบุคคลและฝ่ายช่าง
ขึ้นไปชมสระว่ายน้ำและฟิตเนสด้านบนกันครับ
สระว่ายน้ำท่ามกลางบรรบากาศต้มไม้ล้อมรอบ
สระว่ายน้ำขนาด 25 x 7.5 เมตร ระบบเกลือถนอมผิว
ด้านข้างแยกเป็นสระเด็ก และที่ล้างตัวก่อนใช้งานสระ
สระเด็กลึก 50 ซม.
ช่วงปลายของสระว่ายน้ำเป็นรูปแบบของกระจกใส
มองย้อนกลับไปทางฝั่งอาคาร
รูปแบบอาคารค่อนข้างเปิดโล่งโปร่งสบาย ใช้ผนังเป็นกระจกขนาดเต็มผนัง
เข้าไปชมด้านในกันต่อครับ
ห้องฟิตเนส
อุปกรณ์มีค่อนข้างครบครัน
อุปกรณ์ตัวแรกคือแมชชีนแบบ 3 in 1 เล่นได้ครบส่วนร่างกาย
ดัมเบลพร้อมเตียงยก
ลู่วิ่ง 2 ตัว
เครื่องเดินวงรี จักรยานนั่งปั่นและเอนปั่นอย่างละตัว
ห้องน้ำภายในอาคารคลับเฮ้าส์
ผมเข้ามาชมในส่วนของห้องน้ำชายนะครับ วัสดุต่างๆดูพรีเมี่ยมหรูหรา
เว้นช่องแสงตรงกลาง ทำให้ภายในห้องน้ำไม่ทึบและยังช่วยในเรื่องของการถ่ายเทอากาศได้เป็นอย่างดี
ตู้ล็อคเกอร์
ส่วนทางด้านในจะเป็นส่วนของ Sales Gallery ซึ่งในวันที่ผมไปเก็บภาพนั้นมีการมีทติ้งของฝ่ายขาย จึงไม่สะดวกเก็บภาพด้านในมาฝากครับ
ผมขอสิ้นสุดการพาชมคลับเฮ้าส์กันไปด้วยภาพนี้ จากนั้นเดี๋ยวเราจะไปชมบ้านตัวอย่างกันต่อครับ
::: แบบบ้าน :::
แบบบ้าน Lugano
– พื้นที่ใช้สอย 237 ตร.ม.
– 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ
– ห้องรับประทานอาหาร, ห้องอเนกประสงค์, ห้องพักผ่อน 2 ห้อง
– ที่จอดรถ 2 คัน
แบบบ้าน Walensee
– พื้นที่ใช้สอย 308 ตร.ม.
– 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ
– ห้องรับประทานอาหาร, ห้องอเนกประสงค์, ห้องพักผ่อน 2 ห้อง, ห้องแม่บ้าน
– ที่จอดรถ 3 คัน
แบบบ้าน Riviera
– พื้นที่ใช้สอย 395 ตร.ม.
– 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ
– ห้องรับประทานอาหาร, ห้องอเนกประสงค์, ห้องพักผ่อน 2 ห้อง, ห้องแม่บ้าน
– ที่จอดรถ 3 คัน
::: บ้านตัวอย่าง :::
แบบบ้านที่โครงการเปิดขายในปัจจุบันมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 แบบได้แก่ Lugano, Walensee และ Reviera โดยทางโครงการมีบ้านตัวอย่างให้ชมครบทุกแบบ แต่ผมจะขออนุญาตนำเสนอเพียง 2 แบบด้วยกันคือ Lugano และ Walensee
เริ่มกันจากแบบบ้านขนาดเริ่มต้นที่มีพื้นที่ใช้สอยน้อยที่สุด 237 ตร.ม. บนที่ดินเริ่ม 100 ตร.ว. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำและที่จอดรถ 2 คัน โดยแบบบ้านนี้ราคาเริ่มจะอยู่ที่ 11.9 ล้านบาท (เม.ย. 60)
การออกแบบเป็นไปในสไตล์โมเดิร์นที่ดูเรียบหรู โดยจะเน้นไปในเรื่องของรายละเอียดและวัสดุตกแต่งที่มีคุณภาพสูง
ลานจอดรถหน้าบ้านสำหรับ 2 คัน
ลานจอดรถเทเป็นพื้นทรายล้าง เล่นลวดลายของสีที่ตัดกัน ไฟส่องสว่างดาวน์ไลท์ 4 ดวง
ช่วงระหว่างทางเดินเชื่อมจากลานจอดรถไปยังประตูหน้าบ้าน ผนังตกแต่งด้วยหินชั้นสร้างความโดดเด่นสะดุดตา
สามารถเข้าออกตัวบ้านจากลานจอดรถโดยตรงก็ได้
เดินผ่านประตูทางเข้า มาชมสวนด้านข้างบ้านทางฝั่งขวากันก่อน โดยต้องบอกก่อนว่าสวนดังกล่าวทางโครงการตกแต่งเป็นเพียงแนวทางให้ชมเท่านั้น ของจริงจะมีเพียงการลงต้นไม้และพุ่มไม้ให้บางส่วน
ด้วยขนาดที่ดินเริ่มต้นค่อนข้างกว้างทำให้มีพื้นที่ในการจัดสวนได้อย่างอิสระ
ชุดหน้าต่างทางด้านนี้ตรงกับห้องนั่งเล่นด้านใน ที่จะเห็นได้ชัดเจนว่าการออกแบบเน้นให้คนภายในบ้านสามารถสัมผัสบรรยากาศสวนได้อย่างใกล้ชิด ด้วยหน้าต่างสไตล์ bay window ที่มีขนาดกว้างและสูงเต็มผนัง
สวนด้านข้างจัดเป็นสวนน้ำตกและน้ำพุเล่นระดับ
ด้านข้างบ้านมีประตูทางเข้าออกเชื่อมกับมุมพักผ่อนได้โดยตรง
เฉลียงข้างบ้านยกสูงเสริมด้วยระแนงไม้แดงช่วยให้ร่มเงา ใช้งานเป็นมุมพักผ่อนหรือนั่งทำงานได้ตลอดทั้งวัน โดยเสียงของน้ำตกที่กระทบผิวน้ำช่วยสร้างความผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี
ทางเดินหลังบ้านยังคงมีพื้นที่มากพอที่จัดเป็นสวนตามแนวกำแพงได้อีกจุด
ลานซักล้างยกสูงปูพื้นกระเบื้องให้เรียบร้อยพร้อมใช้งาน
ทางเข้าออกลานซักล้างตรงกับห้องครัวด้านใน
กลับมาที่บริเวณหน้าบ้านเพื่อที่จะเข้าไปชมด้านในกันต่อครับผม
เฉลียงหน้าบ้านยกสูง 2 สเตป ประตูบ้านกรอบอลูมิเนียม กระจกสีเขียวตัดแสง เพิ่มช่องกระจกด้านบน
บริเวณลานเฉลียงหน้าบ้านเว้นช่องลมให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
เข้ามาภายในบ้านส่วนแรกเป็นพื้นที่ของห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่น พื้นบ้านปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 ดวงไฟให้เป็นแบบดาวน์ไลท์ทั้งหลัง
ห้องนั่งเล่นจัดชุดเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ได้สบาย โดยจะใช้เป็นรูปแบบโซฟาทรงตัว U ก็เข้ามุมได้พอดิบพอดี
ด้านหลังเป็นหน้าต่างแบบ Bay window หรือกระจกเข้ามุมที่เปิดรับวิวด้านนอกได้กว้างกว่าหน้าต่างแบบทั่วไป
มองไปฝั่งตรงข้ามระยะจากโซฟาถึงผนังชั้นวางทีวีค่อนข้างห่างพอสมควรตามขนาดพื้นที่ใช้สอยของบ้าน
ส่งผลให้การเลื่อกใช้ขนาดทีวี ต้องให้ความสำคัญมากหน่อยเพราะหากทีวีเล็กเกินไปอาจจะทำให้มองไม่เห็น อย่างเช่นในบ้านตัวอย่างทีวีขนาด 40 นิ้วผมว่าเล็กเกินไปไม่ค่อยเหมาะสมกับการใช้งานจริง
ห้องนั่งเล่นอีกมุมหนึ่ง โดยรวมจะเห็นว่าโซนนี้ค่อนข้างปลอดโปร่ง โล่งสบาย เพราะได้แสงทั้งจากหน้าต่างบานใหญ่ และประตูหน้าบ้านที่เพิ่มช่องกระจกด้านบนเข้าไปอีก
ขยับเข้าไปยังโซนด้านในเป็นพื้นที่เปิดโล่ง หากจัดวางเฟอร์นิเจอร์ตามบ้านตัวอย่างจะแบ่งการใช้งานได้อีก 2 ส่วนคือ ส่วนทานอาหารและส่วนพักผ่อน
มุมมองนี้จะเห็นภาพชัดหน่อยว่ามุมนั่งเล่นพักผ่อน แบ่งได้เป็น 2 จุดคือมุมนั่งเล่นใกล้ประตูหน้าบ้าน และมุมนั่งเล่นใกล้กับทางออกสวนข้างบ้าน
หากการวางโซฟานั่งเล่น 2 จุดดูจะเป็นการใช้งานที่ซ้ำซ้อน อาจจะเปลี่ยนมุมนี้เป็นมุมนั่งทำงานก็น่าสนใจเพราะยังคงได้ความโปร่งสบายทั้งจากหน้าต่างและประตูทั้ง 2 ด้าน
ประตูข้างบ้านเป็นแบบบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกสีเขียวตัดแสง และขอแจ้งเพิ่มเติมว่าวัสดุหน้าต่างประตูทั้งหลังจะใช้วัสดุแบบเดียวกันนี้
ขยับเข้าไปยังโซนรับประทานอาหาร
สำหรับบ้านที่มีถึง 4 ห้องนอน การจัดโต๊ะทานข้าวเพียง 6 ที่นั่งอาจจะรองรับการใช้งานได้น้อยไปหน่อย แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะหากเป็นบ้านที่มีครอบครัวใหญ่ ก็สามารถปรับเปลี่ยนขนาดได้ตามความประสงค์ เพราะมีพื้นที่ให้จัดวางได้อย่างเหลือเฟือ
ทางด้านในสุดมีพื้นที่ใช้งานอีก 3 ส่วนด้วยกันคือ ห้องนอนชั้นล่าง ห้องน้ำ และห้องครัว
ประตูด้านซ้ายสุดเป็นทางเข้าออกจากลานจอดรถ
ห้องนอนชั้นล่าง แต่ทางโครงการตกแต่งเป็นห้องนั่งทำงานเอนกประสงค์
ห้องน้ำชั้นล่าง แบบใช้งานได้ทั้งส่วนเปียกและส่วนแห้ง โดยส่วนเปียกอาบน้ำมีไว้เพื่อรองรับในกรณีที่ใช้งานห้องชั้นล่างทำเป็นห้องนอน พื้นห้องน้ำปูด้วยแกรนิตโต้ ผนังปูกระเบื้องผิวมัน ขอบพื้นและบัวพื้นตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนสีเข้มเน้นให้มีมิติ
อ่างล้างหน้า Victor
โถสุขภัณฑ์ Victor
ส่วนเปียกอาบน้ำลดระดับพื้นเล็กน้อยกันน้ำไหล มีช่องแสงตรงจุดนี้ช่วยให้แสงสว่างรวมถึงเปิดระบายอากาศได้
ฝักบัวบนราวแขวนที่สามารถปรับระดับได้ ด้านข้างเจาะช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำได้ 2 ชั้น
ห้องครัวของจริงไม่ได้ติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวและอุปกรณ์ให้
ขนาดห้องครัวกว้างพอประมาณ ติดตั้งเคาน์เตอร์เป็นรูปตัว L
บนเคาน์เตอร์ครัวด้านนึงใช้งานเป็นเตาไฟฟ้า อีกด้านติดตั้งซิงค์ล้างจาน
ทางออกด้านหลังครัวไปยังลานซักล้าง
ขึ้นไปชมด้านบนกันต่อครับ สำหรับบันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก เดินเงียบแข็งแรงและทนทาน
ใต้บันไดมีช่องเก็บของติดตั้งหลอดไฟให้แสงสว่าง
โถงบันไดสว่างด้วยแสงธรรมชาติจากหน้าต่าง และเสริมด้วยโคมไฟ 2 ดวงซ้ายขวาในยามกลางคืน
มองขึ้นไปยังห้องโถงชั้นบน
บริเวณห้องโถงนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวจ่ายไปยังห้องนอนต่างๆ แต่ยังมีพื้นที่กว้างพอสำหรับทำเป็นห้องนั่งเล่นได้เลย
วางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งกำลังเหมาะ ระยะสายตาจากโซฟาถึงทีวีประมาณ 3 เมตร และมีหน้าต่างรับแสง
มองย้อนกลับไปยังทางลงบันได จากมุมนี้ผมจะเข้าไปดูห้องนอนที่อยู่ด้านขวา ซึ่งเป็นห้องนอนรอง 2 ห้องก่อนครับ
เข้าไปห้องนอนรองห้องแรกกันครับ
ห้องนอนห้องนี้ตำแหน่งอยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน
วางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตเป็นตัวอย่าง แต่จากช่องว่างที่เหลือจะอัพเป็น 6 ฟุตก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
ด้านข้างเตียงฝั่งหน้าต่างเหลือทางเดินเปิดปิดหน้าต่างจัดเตียงได้สะดวก ส่วนหน้าต่างยังคงใช้เป็นหน้าต่างเข้ามุมที่ให้วิวได้กว้าง
ด้านปลายเตียงเหลือพื้นที่สำหรับวางเป็นโต๊ะเขียนหนังสือได้อีกตัว
กระจกตรงนี้ก็เป็นกระจกเข้ามุมเช่นกัน แต่จะไม่ได้เพิ่มช่องแสงด้านล่างเหมือนกับบานที่อยู่ตรงเตียง
ห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำในตัว
แบ่งโซนเปียกโซนแห้งชัดเจน พื้นโซนเปียกจะใช้เป็นกระเบื้องเซรามิคกันลื่นลดระดับลงเล็กน้อยกันน้ำไหล
การจัดวางรูปแบบไม่ซับซ้อน ดูเรียบแต่หรูหราจากวัสดุที่ใช้
อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ของ Victor ด้านหลังมีแนวบ่าใช้วางของได้เล็กน้อยพร้อมซ่อนรางไฟสวยงาม
ภายในห้องน้ำได้รับแสงจากช่องกระจกฝ้า มีฝักบัวปรับระดับได้และช่องวางอุปกรณ์เพิ่มเติม
มุมมองย้อนกลับไปยังทางออกสู่โถง
ต่อไปยังคงเป็นห้องนอนรองอีกห้องที่อยู่ติดกัน
ห้องนอนนี้ตกตแ่งในสไตล์ Great Britain หรือสีของธงชาติสหราชอาณาจักร อันประกอบด้วยขาวแดงและน้ำเงิน
บิลท์อินฐานเตียงสำหรับฟูกขนาด 5 ฟุต พร้อมมีตู้โชว์อยู่บริเวณหัวเตียง
ปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้าที่เป็นชุดเดียวกันจากเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินของฐานเตียง
มีห้องน้ำในตัว
รูปแบบห้องน้ำแทบไม่มีความแตกต่างจากห้องเมื่อสักครู่ แบ่งโซนเปียกแห้งชัดเขน
สุขภัณฑ์ของ Victor
โซนเปียกอาบน้ำ
กลับมาที่ห้องโถงชั้นบนเพื่อข้ามฝั่งไปยังห้องนอนหลักที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
Master Bedroom
ห้องนอนหลักวางเตียงขนาด 6 ฟุต ยังเหลือพื้นที่กว้างขวางทั้ง 2 ด้าน
ด้านนี้วางเป็นโต๊ะทำงานอเนกประสงค์
ภาพนี้ให้ดูว่าช่องทางเดินปลายเตียงยังคงเหลือให้เดินผ่านได้อย่างสะดวก
มุมหน้าต่างทางฝั่งหน้าบ้านนี้ ทำเป็นมุมนั่งเล่นกระจกรอบด้านที่เห็นวิวได้เกือบจะ 360 องศา และเป็นหน้าต่างที่เพิ่มช่องกระด้านล่างให้เห็นวิวสวนได้ชัดเจนขึ้น
มองย้อนกลับเข้าไปด้านในห้อง
อีกด้านเป็น walk-in closet
บิลท์อินตู้เสื้อผ้าทั้ง 2 ด้านให้ดูเป็นตัวอย่าง
ห้องน้ำในตัวของ Master Bedroom
แบ่งพื้นที่โซนแห้งเปียก ความแตกต่างจากห้องน้ำก่อนหน้านี้มีด้วยกัน 2 จุดที่เห็นได้ชัดคือ อ่างล้างหน้าและบริเวณห้องอาบน้ำ
อ่างล้างหน้าติดตั้งเคาน์เตอร์ท๊อปหินแกรนิตดำหรูหรา พร้อมตู้เก็บของด้านล่าง และอ่างล้างหน้าใช้เป็นของ American Standard
โถสุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard เช่นกัน จากที่ห้องน้ำก่อนหน้านี้ใช้งของ Victor
โซนเปียกอาบน้ำ ไม่จำเป็นต้องติดตั้งฉากอาบน้ำเพราะมีพื้นที่พอสมควรและอยู่ห่างจากโซนแห้งในระยะที่น้ำไม่น่าจะกระเด็นถึง
ภายในห้องอาบน้ำเพิ่มม้านั่งหินอ่อนสีน้ำตาล เพื่อให้สามารถนั่งขัดตัวได้สะดวกขึ้น
มีช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำที่กว้างขึ้น
บ้านตัวอย่างหลังต่อไปที่เราจะไปชมกันคือแบบ Walensee ซึ่งเป็นบ้านไซส์กลางจากทั้งหมด 3 แบบ ที่ดินเริ่มต้น 110 ตร.ว. มีพื้นที่ใช้สอย 308 ตร.ม. 4 นอน 4 น้ำ และจอดรถได้ 3 คัน
ลานจอดรถสามารถจอดได้ถึง 3 คัน
บริเวณหน้าบ้าน ซึ่งผมจะขอเดินผ่านไปชมสวนด้านข้างก่อนแล้วกัน
สวนข้างบ้านตัวอย่างหลังนี้ ทางโครงการตกแต่งด้วยการจำลองน้ำตกขนาดเล็กมาไว้ที่สวนแห่งนี้
น้ำตกไหลผ่านลงมาตามชั้นหิน
ธารน้ำตกยาวไหลมาลงบ่อทางด้านล่าง
ขนาดของบ่อนั้นกว้างพอเหมาะที่จะทำเป็นบ่อเลี้ยงปลาคาร์ฟได้เลย
ต่อเติมเฉลียงนั่งเล่นด้วยระแนงไม้สีแดง มีทางเข้าออกได้จากสวนด้านข้างนี้
ทางเดินหลังบ้าน
กลับมาที่หน้าบ้านกันอีกครั้งครับ จะเห็นว่าเฉลียงบ้านยกสูงเล็กน้อยประมาณ 2 สเตป ผนังทางด้านนี้ตกแต่งด้วยหินชั้นทั้งหมด
ทางเดินระหว่างลานจอดรถไปยังหน้าบ้าน
ประตูบ้านใช้วัสดุบานเลื่อนอลูมิเนียม ตัวบานประตูเองเพิ่มช่องแสงทางด้านบน นอกจากนั้นยังเพิ่มช่องแสงอีกบานทรงสูงทางด้านขวาช่วยเพิ่มความสว่างในบ้านได้มากพอสมควร
เดินเข้ามาด้านในเจอกับโถงห้องรับแขกขนาดใหญ่ พื้นบ้านปูแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม. เพดานสูง 2.7 เมตร
จัดชุดโซฟารับแขกได้รองรับ 6-8 คนสบายๆ
มุมมองย้อนกลับไปทางฝั่งประตูหน้าบ้าน
ระยะดูทีวีราวๆ 5-6 เมตร แนะนำว่าต้องเลือกใช้ทีวีไซส์ใหญ่หน่อย อย่างน้อยควรจะ 50 นิ้วขึ้นไป
นอกจากประตูบ้านและหน้าต่างบานใหญ่ที่อยู่ด้านหลังโซฟาแล้ว ช่องกระจกบานฟิกซ์ทางด้านซ้ายช่วยเพิ่มความโปร่งและความสว่างภายในบ้านได้มากจริงๆ
ขยับเข้าไปด้านในเป็นโซนรับประทานอาหาร
ทางโครงการจัดวางโต๊ะทานข้างขนาด 6 ที่นั่งให้ดูเป็นตัวอย่าง
บริเวณทางออกไปยังสวนข้างบ้าน สามารถใช้งานเป็นมุมพักผ่อนเพิ่มเติมได้อีกจุด
ทางเดินกลางบ้านไปยังส่วนอื่นๆ
ห้องแรกทางด้านซ้ายมือตามแปลนนับว่าเป็นห้องนอนชั้นล่าง
แต่ทางโครงการตกแต่งห้องนี้เป็นห้องชมภาพยนตร์
หากจะใช้งานเป็นห้องนอนคาดคะเนจากสายตาแล้ว พื้นที่เพียงพอสำหรับการวางเตียงไซส์ 3.5 ฟุตเท่านั้น
ขยับเข้าไปชมห้องน้ำและห้องครัวกันต่อ
ห้องน้ำชั้นล่างแบ่งส่วนแห้งและส่วนเปียก โดยมีฝักบัวสำหรับอาบน้ำเพื่อรองรับในกรณีที่ใช้งานห้องชั้นล่างที่อยู่ติดกันเป็นห้องนอน
อ่างล้างหน้าของ Victor
ด้านหลังแนวสุขภัณฑ์เจาะช่องเป็นบ่าสำหรับวางของได้
ส่วนเปียกอาบน้ำรูปแบบจะคล้ายๆกับห้องน้ำในบ้านหลังก่อนหน้านี้ที่ได้ชมกันไปคือมีราวฝักบัวปรับระดับได้ และเจาะช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำ 2 ช่อง
ถัดมาเป็นห้องครัวซึ่งเป็นห้องครัวแบบปิด ด้านหลังเป็นทางออกไปยังลานซักล้าง
ทางโครงการบิลท์เคาน์เตอร์แนวยาวให้ดูเป็นตัวอย่าง
มุมมองย้อนกลับมุมนี้ หากกลัวว่าพื้นที่บนเคาน์เตอร์ไม่เพียงพอต่อการเตรียมอาหาร จะเพิ่มพื้นที่ใช้งานเป็นเคาน์เตอร์รูปตัว L ก็สามารถทำได้
บ้านทุกหลังในโครงการได้รับการติดตั้งสัญญาณกันขโมยให้เรียบร้อย พร้อมกับสามารถเรียกขอความช่วยเหลือจากรปภ.ได้ในกรณีมีเหตุฉุกเฉิน
ทางขึ้นบันไดซึ่งเราจะขึ้นไปชมด้านบนกันต่อเลยครับ
ห้องเก็บของใต้บันได
โถงบันไดสว่างด้วยหน้าต่างรับแสงธรรมชาติ
จากบริเวณชั้นพักบันไดมองขึ้นไปยังด้านบนห้องโถงชั้น 2
โถงชั้นบนมีพื้นที่สำหรับทำเป็นมุมนั่งเล่น มุมอ่านหนังสือ หรือจะเป็นมุมทำงานก็มีแสงสว่างเพียงพอจากหน้าต่างบานใหญ่
เดินย้อนผ่านบันไดไปชมห้องนอนรองที่อยู่ด้านนู้นกันก่อนครับ
ห้องนอนรอง 2 ห้องที่อยู่สุดทางเดินผมจะเลือกไปชมห้องนอนที่อยู่ทางขวาก่อนครับ
ห้องนี้เป็นห้องนอนรองก็จริง แต่หากเป็นบ้านโครงการทั่วไป ดูจากขนาดถือว่าห้องนี้เป็นห้องนอนใหญ่ได้สบายๆ เพราะวางเตียง 5 ฟุต หรือจะเพิ่มเป็น 6 ฟุตก็ยังเหลือพื้นที่ให้ใช้งานได้อย่างสะดวก
ด้านข้างหัวเตียงทางซ้ายวางตู้เสื้อผ้า
แนวกำแพงฝั่งหน้าต่างวางโต๊ะเขียนหนังสือและโซฟาตัวเล็กๆ
มองย้อนกลับไปยังฝั่งทางเข้าห้อง เห็นทางเข้าห้องน้ำอยู่ใกล้ๆ
ภายในห้องน้ำเนื่องจากวัสดุและรูปแบบไม่แตกต่างกัน สุขภัณฑ์ของ Victor
ห้องนอนรองอีกห้องที่อยู่ตรงข้ามกัน
ห้องนอนห้องนี้ตกแต่งในธีมการ์ตูนอนิเมะชื่อดังอย่างวันพีช
ห้องนอนรองแต่วางเตียง 5-6 ฟุตได้สบายเช่นกัน
บริเวณทางเข้าห้องน้ำ ใช้งานเป็นมุมแต่งตัววางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง
ภายในห้องน้ำรูปแบบเหมือนกันแต่พื้นที่ใช้งานดูจะกว้างกว่าปกติ
สุขภัณฑ์ของ Victor
เดินย้อนกลับมาที่ห้องโถงผ่านห้องนั่งเล่นไปยังห้องนอนใหญ่ Master Bedroom ที่อยู่สุดทางเดิน
เข้าไปชมด้านในกันครับ
ห้องนอนใหญ่ห้องนี้แบ่งโซนพื้นที่การใช้งานได้ครบฟังก์ชั่นถึง 4 ส่วนด้วยกันคือ ห้องนอน, ห้องนั่งเล่น, walk-in closet และห้องน้ำในตัว
อันที่จริงแล้วห้องนอนกับห้องนั่งเล่นนั้นจะเปิดโล่งเชื่อมต่อถึงกัน ไม่ได้มีการตกแต่งด้วยแนวกระจกตามบ้านตัวอย่างให้ ฉากดังกล่าวช่วยทำให้การใช้งานแบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจนมากขึ้น
ห้องนอนตกแต่งในสไตล์ Contemporary ดูคลาสสิคหรูหราในขณะที่ไม่ได้ดูล้าสมัย
ห้องนอนวางเตียงคิงไซส์ให้ดูเป็นตัวอย่าง เหลือพื้นที่ใช้งานรอบด้านได้แบบสบายๆ
ด้านปลายเตียงทำเป็นแนวชั้นวางทีวี
ไปดูด้านใน walk-in closet กันต่อครับ
ด้วยขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ หมดกังวลสำหรับคนที่มีเสื้อผ้าเยอะโดยเฉพาะคุณผู้หญิง หากเลือกบิลท์อินตู้เสื้อผ้าเป็นรูปแบบตัว U ตามตัวอย่างจะได้เป็นห้องเสื้อผ้าขนาดย่อมเลยทีเดียว
สุดท้ายเป็นห้องน้ำในตัว
ห้องน้ำของห้องนอนหลักจะมีความพิเศษตรงที่อ่างล้างหน้าจะใช้เป็นแบบฝังในเคาน์เตอร์และห้องอาบน้ำมีม้านั่งลายหินอ่อน
พื้นที่ใช้งานกว้างขวาง
สุขภัณฑ์จะเปลี่ยนจาก Victor มาใช้ American Standard แทน
ส่วนเปียกอาบน้ำลดระดับพื้นลงเล็กน้อย มีฝักบัวพร้อมช่องวางอุปกรณ์และม้านั่งหินอ่อนด้านข้าง
::: ราคา ::: (เม.ย. 60)
แบบบ้าน Lugano : ราคาเริ่มต้น 11,900,000 บาท
ที่ดินเริ่ม 101.8 ตร.ว. / พื้นที่ใช้สอย 237 ตร.ม. / 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
แบบบ้าน Walensee : ราคาเริ่มต้น 13,900,000 บาท
ที่ดินเริ่ม 110 ตร.ว. / พื้นที่ใช้สอย 308 ตร.ม. / 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
แบบบ้าน Reviera : ราคาเริ่มต้น 18,900,000 บาท
ที่ดินเริ่ม 131.7 ตร.ว. / พื้นที่ใช้สอย 395 ตร.ม. / 5 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
**ราคาและโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามเบอร์ติดต่อด้านล่าง**
::: บทสรุปโครงการ :::
– ทำเลที่ตั้งโครงการ : The Grand ปิ่นเกล้า ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่บรมราชชนนีฝั่งขาเข้า ช่วงระหว่างพุทธมณฑลสาย 3 และสาย 4 ทำเลดังกล่าวเป็นทำเลชานเมืองช่วงก่อนที่จะออกสู่จังหวัดนครปฐม องค์ประกอบส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยโดยเฉพาะในรูปแบบของหมู่บ้านจัดสรรตลอดสองฝั่งถนน เส้นบรมราชชนนีเป็นถนนที่มีเส้นคู่ขนานเกือบตลอดทั้งเส้น ทำให้เรื่องของการสัญจรที่เส้นหลักทำความเร็วได้ค่อนข้างสูง เดินทางสะดวก แต่ก็มีบางช่วงเวลาเหมือนกันที่จะมีการจราจรหนาแน่น รวมถึงมีรถใหญ่รถบรรทุกวิ่งตลอดทั้งวัน
ในส่วนของความอุดมสมบูรณ์ ถ้าเป็นระยะที่เดินเท้าได้เห็นจะมีเพียง Big C mini ที่อยู่ตรงข้ามโครงการด้านในปั๊มบางจาก แต่เอาเข้าจริงคงไม่ได้ใช้งานแน่ๆเพราะแค่ระยะจากตัวบ้านถึงหน้าโครงการก็เล่นเอาหอบแล้ว ยังไม่รวมกับการขึ้นสะพานลอยข้ามฝั่งอีก เพราะฉะนั้นจึงต้องใช้รถในการมองหาความอุดมสมบูรณ์เป็นหลัก โดยส่วนมากจะไปรวมตัวกันอยู่ที่ช่วงพุทธมณฑลสาย 4 ถึงสาย 5 มีให้เลือกหลากหลายทั้ง ตลาดศาลายา, Makro, Tesco Lotus, Homepro และ Central Plaza ศาลายา ส่วนการเข้าถึงหากใช้ถนนบรมราชชนนีโดยตรงการเข้าถึงจำเป็นต้องมีการกลับรถที่ระยะค่อนข้างไกล แนะนำให้ใช้ทางลัดอย่างถนนศาลาธรรมสพน์จะช่วยให้เข้าถึงได้สะดวกขึ้นเยอะ
– การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : ถนนบรมราชชนนีเป็นถนนเส้นสำคัญที่ใช้ในการเดินทางของย่านพุทธมณฑล ฝั่งขาออกใช้เดินทางไปยังนครปฐมสู่อำเภอนครชัยศรี ส่วนขาเข้าจะมุ่งหน้าไปทางปิ่นเกล้าระหว่างที่มีจุดตัดสำคัญคือถนนกาญจนาภิเษก และถนนราชพฤกษ์ โดยในส่วนของถนนราชพฤกษ์เองคนนิยมใช้เป็นทางหลักในการเข้าเมืองเพราะสามารถเข้าไปยังย่านสาทรได้สะดวกที่สุด แต่จุดที่ต้องพิจารณาคือเรื่องของการกลับรถ โดยหากเป็นฝั่งขากลับบ้านในกรณีที่มาจากตัวเมืองต้องผ่านหน้าโครงการเลยไปประมาณ 3 กม. จะมีจุดกลับรถที่บริเวณแยกพุทธมณฑลสาย 4 เป็นรูปแบบของสะพานกลับรถ รวมไปกลับระยะทาง 6 กม. ซึ่งถือว่าเป็นระยะที่ไม่ใกล้ไม่ไกลใช้เวลาราว 5-10 นาที
– การเดินทางโดยรถสาธารณะ : การเดินทางด้วยตัวเลือกนี้อาจจะไม่ใช่คำตอบที่เหมาะสมสำหรับลูกบ้านที่มีกำลังซื้อโครงการในระดับ 10 ล้าน แต่อย่างไรก็ตามคงต้องพูดถึงกันหน่อยเนื่องจากว่ามีความสะดวกอยู่พอสมควรเผื่อใช้ในยามจำเป็น มีทั้งรถประจำทาง, รถแท๊กซี่ และรถตู้ผ่านหน้าโครงการ โดยเฉพาะในอนาคตที่มีแผนงานของรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน โดยจะเป็นช่วงต่อขยายมาจากตลิ่งชันคือช่วง ตลิ่งชัน-ศาลายา ตัวสถานีใกล้ที่สุดคือสถานีศาลาธรรมสพน์ที่มีระยะทางจากโครงการประมาณ 3 กม. โดยคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จภายใน 3-4 ปีข้างหน้าเป็นอย่างน้อย
– บ้านและวัสดุ : ภายในโครงการมีแบบบ้านอยู่หลากหลายแบบด้วยกัน แต่ผมจะขอพูดถึงแบบบ้านซีรียส์ใหม่ที่กำลังเปิดขายมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ คือ
การออกแบบตัวบ้านในแง่ของฟังก์ชั่นการใช้งานคงไม่ต้องพูดถึงเพราะมีครบครันอยู่แล้วเนื่องจากขนาดบ้านที่ใหญ่ แบบบ้านเรื่มต้นก็ปาเข้าไป 237 ตร.ม. แล้ว แต่สิ่งที่พิเศษคือรายละเอียดต่างๆที่ทางโครงการทำออกมาตั้งแต่หน้าบ้านที่เน้นเรื่องของความโปร่งสบาย และความสว่างด้วยการเน้นใช้ประตูหน้าต่างบานใหญ่และเพิ่มช่องแสงเข้าไปให้ในทุกจุดของตัวบ้านไม่มีมุมทึบหรือมุมอับ แม้กระทั้งในห้องน้ำยังมีช่องระบายอากาศให้ทุกห้อง เพดานบ้านสูง 2.7 เมตร เพิ่มเรื่องของความใกล้ชิดธรรมชาติด้วยการทำหน้าต่างให้เป็นรูปแบบของ Bay Window ที่สามารถเทควิวได้กว้าง
ส่วนเรื่องของวัสดุที่ทางโครงการเลือกใช้ล้วนแล้วแต่อยู่ในเกรดพรีเมี่ยมทั้งสิ้น เริ่มจากลานจอดรถพื้นทรายล้าง พื้นบ้านชั้นล่างปูแกรนิตโต้ พื้นชั้นบนปูด้วยไม้ปาร์เก้ โครงสร้างบันไดคอนกรีตเสริมเหล็กลูกนอนไม้มะค่า ไฟดาวน์ไลท์ทั้งหลัง บานเลื่อนประตูหน้าต่างอลูมิเนียมสีดำ กระจกสีเขียวตัดแสง ในห้องน้ำใช้สุขภัณฑ์ของ Victor และ American Standard โดยยังมีหลายๆจุดที่เพิ่มรายละเอียดการตกแต่งที่ให้ความสวยงามสะดุดตาอย่างเช่นหน้าบ้านแนวกำแพงบางส่วนปูด้วยหินชั้น ในห้องน้ำเล่นลายหินอ่อนสีเข้มตัดกับพื้นสีอ่อนดูโดดเด่น และบ้านทุกหลังติดตั้งสัญญาณกันขโมยให้ด้วย
– สิ่งอำนวยความสะดวก : The Grand Alpine Clubhouse คลับเฮาส์ดีไซน์หรูหรา ภายในประกอบด้วยสระว่ายน้ำ ระบบน้ำเกลือไม่ทำร้ายผิว ขนาด 7.5 x 25 เมตร ฟิตเนสเครื่องออกกำลังกายทันสมัย มีระบบการรักษาความปลอดภัยถึง 4 ระดับ Gate Entrance แบบ Double Gate ที่ซุ้มประตูทางเข้าหลัก และที่ซุ้มประตูทางเข้าแต่ละโซน พร้อมระบบประตูโครงการอัตโนมัติสแกนแบบ Easy Pass พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง CCTV System ระบบกล้องวงจรปิด ที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ในโครงการ รั้วรอบโครงการสูง 3.4 เมตร พื้นที่ส่วนกลางเกือบ 50% สวนสาธารณะ สวนพักผ่อนแนว Modern Green ตลอดทั่วโครงการ ที่ดินโครงการถมสูงกว่าระดับถนนบรมราชชนนีกว่า 1 เมตร
::: คะแนน :::
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.5 | ติดถนนใหญ่เส้นบรมราชชนนี มีความอุดมสมบูรณ์ในระยะที่เข้าถึงง่ายและหลากหลาย |
การเดินทางใช้รถ | 8.0 | ใกล้ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก และมีทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกให้ใช้งาน |
การเดินทางไม่ใช้รถ | 7.5 | มีทั้งรถประจำทาง, รถแท๊กซี่ และรถตู้ รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อนในอนาคต |
บ้านและวัสดุ | 8.0 | แบบบ้านดูเรียบหรูทันสมัย ฟังก์ชั่นการใช้งานครบครัน และวัสดุที่เลือกใช้จัดว่าอยู่ในเกรดพรีเมี่ยมทั้งสิ้น |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.5 | อาคารคลับเฮ้าส์หรู สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส และสวนสีเขียวรอบโครงการรวมกว่า 50% ระบบรักษาความปลอดภัยจัดว่าอยู่ในระดับสูงสุด เข้าออกด้วยระบบ Easy Pass |
ความคุ้มค่ากับราคา | – | เนื่องจากเป็นโครงการระดับ 10 ล้านขึ้นไป ซึ่งมีการใช้ Emotiom ในการตัดสินใจจึงขออนุญาตเว้นคะแนนส่วนนี้ไว้ |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.1 | ดีมาก |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่
TEL : 02-408-7888
WEBSITE : http://www.goldenland.co.th/House/เดอะ-แกรนด์-ปิ่นเกล้า
หากท่านเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ
หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
ก่อนอื่นขออนุญาตแจ้งว่าผมขอยืมล็อคอินเพื่อนมาตั้งกระทู้ในวันนี้นะครับ
ผมเป็นคนหนึ่งที่เป็นลูกค้าของ เดอะแกรนด์ ปิ่นเกล้า บอกเลยครับ แปลงที่ 592/170 ขอชมว่าเป็นโครงการที่ดีนะครับ เห็นแล้วชอบ พื้นที่สีเขียวเยอะดี บรรยากาศร่มรื่นน่าอยู่ คุ้มค่าแก่การซื้อเมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆ
แต่ที่อยากพูดอยากบอกให้แก้ไขคือ คลับเฮ้าส์ ค่อนข้างไม่เวิร์กเมื่อเทียบกับโครงการอื่นในคุณภาพเดียวกัน แต่ลูกบ้านบางท่านอาจจะชอบก็ได้ ต้องแวะไปชมด้วยตนเองดีกว่าครับ แต่ที่อยากบ่นจริงๆ เลย
ประเด็นอยู่ตรงนี้!!! บริการหลังการขายแย่มากถึงกับห่วยก็ว่าได้ ตั้งแต่ซื้อเมื่อ 14/12/60…ด้วยเงินสดนะครับ เกือบปีจนถึงวันนี้ 12/12/61 กว่าจะได้รับการแก้ไขปรับปรุงตามที่ลูกบ้านบอกกล่าว
ตัวอย่าง เช่น แค่หลอดไฟ ไม่ครบ บางหลอด ติดๆ ดับๆ กว่าจะแก้ไข ใช้เวลาร่วม 2-3 เดือน ปั๊มน้ำ ติดๆ ดับๆ กว่าจะแก้ไข ใช้เวลาเกือบครึ่งปี!!!
ซึ่งคุณภาพการแก้ไขก็ถือว่าสอบตก ไม่ผ่าน แต่นี่ก็ยอมรับทำใจไปแบบเสียไม่ได้ เพราะเราซื้อไปแล้วนี่ ทั้งๆ ที่ก่อนซื้อ สารพัดคำพูดสารพัดเหตุผลที่อยากขาย โอนก่อนเลยนะคะ เดี๋ยวซื้อเสร็จโครงการจัดการให้ ดูแลเป็นอย่างดี
ที่ไหนได้ ซื้อเสร็จโอนเสร็จ ส่วนหลังการขายเปรียบเทียบเหมือนอึแล้วแทบไม่ล้างก้น ปัดก้นลุกหนีแทบไม่รับผิดชอบตามที่พนักงานขายบอกแต่อย่างใด
ผมซื้อมาเปลี่ยนผู้จัดการก็แล้ว เปลี่ยนพนักงานส่วนหลังการขาย เปลี่ยนหัวหน้าคนคุมงานก่อสร้าง มาหลายคน ก็บริการแย่ๆ เหมือนเดิม เหมือนมาขออยู่ฟรีซะงั้น ถ้าจะให้ดีต้องให้เขาจัดการให้เรียบร้อยตามที่เราต้องการก่อน แล้วค่อยโอน อย่าใจดีรีบช่วยพนักงานขายทำยอดขายหรือโง่ใจง่ายด่วนโอนนั่นเอง
ปัจจุบันการดูแลส่วนกลางถือว่าดี ทำความสะอาด กวาดถนน สะอาดสะอ้านดีมาก แต่ก็อีกหล่ะครับ ไม่รู้ว่าเมื่อขายหมด โครงการจะตัดหางปล่อยวัด เหมือนการดูแลหลังการขายหรือเปล่า… แบบนี้ต้องลุ้นครับ
สรุปแล้ว พนักงานขายดี …ส่วนบริการหลังการขายแย่มาก!!!… มันบ่งบอกถึงความรับผิดชอบของผู้จัดการผู้รับผิดชอบโครงการด้วยหรือเปล่า ไม่งั้นผมว่าป่านนี้โครงการน่าจะขายหมดไปนานแล้ว เมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆ ติเพื่อก่อนะครับ