EP.818 รีวิว บ้านเดี่ยว เดอะ ปาล์ม กะทู้-ป่าตอง The Palm Kathu-Patong
สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน HOMENAYOO ที่น่ารักทุกคนค่ะ วันนี้เราจะขอพาไปชมโครงการ เดอะ ปาล์ม กะทู้-ป่าตอง จาก พฤกษา เรียลเอสเตท เป็นบ้านเดี่ยวสไตล์ Modern Luxury บนทำเลใกล้หาดป่าตอง ตั้งอยู่บน ซ.บางทอง ถ.วิชิตสงคราม ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ใกล้ทั้งหาดป่าตองที่เป็นหาดขึ้นชื่อของจ.ภูเก็ต และไม่ไกลจากตัวเมืองภูเก็ตที่มี Central Festival ภูเก็ต, Big C, HomePro, Tesco Lotus, SB Furniture, Index Living Mall, Makro และ Premium Outlet
เดอะ ปาล์ม กะทู้-ป่าตอง บ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 120 ยูนิต บนที่ดิน 42-3- 8.19 ไร่ มีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ 3 ห้องนอน และ 3-4 ห้องน้ำ มีขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 179 ตร.ม. ด้วยฟังก์ชั่นที่เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ ที่ต้องการขยายครอบครัวหรือหาบ้านพักตากอากาศวิวภูเขา และไม่ไกลจากตังเมืองกะทู้ค่ะ และสร้างเสร็จพร้อมอยู่ค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ อาทิ คลับเฮ้าส์, สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ พร้อมเตียงอาบแดด, ฟิตเนส, สวนพักผ่อน, ทะเลสาบ, ประตูคีย์การ์ด, CCTV และรปภ. 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาท*
โปรโมชั่นพิเศษ ส่วนลดเงินสด 300,000 บาท*, ฟรี ! สัญญาณกันขโมย, ฟรี ! ปั๊มน้ำ-ถังสำรองน้ำ, ฟรี ! วอลเปเปอร์ทั้งหลัง, ฟรี ! จัดสวนมาตรฐาน* (ม.ค.2561)
ลงทะเบียนรับอภิสิทธิ์เพื่อครอบครอง คลิก : https://goo.gl/jmMxd5
ส่วนรายละเอียดอื่นๆ จะเป็นอย่างไร อ่านต่อด้านล่างได้เลยค่ะ 😉
ชื่อโครงการ | เดอะ ปาล์ม กะทู้-ป่าตอง The Palm Kathu-Patong |
เจ้าของโครงการ | พฤกษา Pruksa |
ลักษณะโครงการ | บ้านเดี่ยว 3 ชั้น |
พื้นที่โครงการ | 42-3- 8.19 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 120 ยูนิต |
พื้นที่ใช้สอย | เริ่มต้น 179-292 ตร.ม. |
เนื้อที่บ้าน | เริ่มต้น 75 ตร.วา |
จำนวนห้อง | 3 ห้องนอน, 3-4 ห้องน้ำ |
ที่จอดรถทั้งหมด | 2 คัน |
โซน | ภูเก็ต |
ขนส่งสาธารณะ | n/a |
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ใกล้หาดป่าตอง ซอยบางทอง ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต 83120 |
กำหนดการ | เริ่มก่อสร้าง พ.ศ. 2558 |
ปีที่สร้างเสร็จ | สร้างเสร็จพร้อมอยู่ |
ราคา | เริ่มต้น 7.9 ล้านบาท |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | n/a |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก | – สวนส่วนกลางขนาดใหญ่ – Club House กลางทะเลสาบ – สระว่ายน้ำ – ฟิตเนส – CCTV – รปภ. 24 ชม. |
จุดเด่นของโครงการ | “เดอะ ปาล์ม กะทู้-ป่าตอง The Palm Kathu-Patong สัมผัสบ้านเดี่ยวสไตล์ Modern Luxury หรูหราสง่างามในทุกตารางนิ้ว โอบล้อมด้วยธรรมชาติแห่งขุนเขา ท่ามกลางสังคมคุณภาพ เอกสิทธิ์สำหรับ 120 ครอบครัวเท่านั้น” |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ซ.บางทอง ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต 83120
พิกัด GOOGLE MAP : 7.903092, 98.335040
โครงการ The Palm กะทู้-ป่าตอง เป็นโครงการภายใน Pruksa Avenue กะทู้ ภูเก็ต ซึ่งตั้งอยู่บน ซอยบางทอง ซึ่งเป็นถนนเส้นรองจาก ถนน ภก.4020(วิชิตสงคราม) ค่ะ ตัวโครงการอยู่ในย่านที่อยู่อาศัยที่ไม่ไกลจากตัวเมือง อ.กะทู้ และสามารถเดินทางไปยังโซนตัวเมือง Central Festival ภูเก็ต , หาดป่าตอง หรือตัวเมืองเก่าภูเก็ตได้ในระยะประมาณ 5 กม. เท่าๆกัน โดย Pruksa Avenue แห่งนี้ ประกอบด้วยโครงการในเครือพฤกษา อยู่ทั้งหมด 5 โครงการด้วยกันค่ะ นั่นก็คือ
โดยโครงการของเรา เป็นโครงการที่ราคาสูงที่สุด บน Concept มนต์เสน่ห์แห่งขุนเขา รังสรรค์ชีวิตเหนือระดับ ด้วยเพราะนอกจากดีไซน์ของตัวบ้านแบรนด์ The Palm ที่เป็นอีกแบรนด์บ้าน Luxury ของพฤกษาแล้ว ทำเลที่ตั้งของโครงการยังอยู่ในแนวที่สามารถมองเห็นวิวของภูเขา โซนด้านหลังสุดของ Pruksa Avenue นั่นเอง
การเดินทางด้วยรถยนต์ การเดินทางโดยรถยนต์หลักๆจะใช้ถนนเส้น ภก.4020 (หรือถนนวิชิตสงคราม) ค่ะ โดยเป็นถนนที่เชื่อมต่อกับ ถนนพระบารมี, ถนนพระภูเก็ตแก้ว และ ถนนภก.3030 การเดินทางในตัวโครงการถือว่าสะดวกสบายเนื่องจาก อ.กะทู้ เป็นอำเภอที่อยู่ระหว่างตัวเมืองหาดป่าตอง-อ.เมืองภูเก็ต โดยใช้ถนนพระบารมี และถ.พระภูเก็ตแก้ว และสามารถวิ่งไปโซนเกาะแก้วได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้ถนน เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ส่วนจากโครงการ หากต้องการวิ่งเข้าตัวเมืองภูเก็ต ก็สามารถใช้ ถนนวิชิตสงคราม วิ่งออกสู่ บริเวณแยก Central Festival ภูเก็ต และต่อออก ถ.พระเจ้าฟ้าตะวันตก หรือถนนสตูลได้เลย หรือ จะใช้ถนนพระภูเก็ตแก้ว วิ่งออก ถ.เยาวราช ก็สะดวกค่ะ
จากโครงการสามารถวิ่งออกสู่โซนเกาะแก้วได้อีกเส้นทางหนึ่งคือ ถ.ภภ.3030 ซึ่งเป็นถนนที่คดเคี้ยวไปมาสักนิดหนึ่งแต่รถไม่ติดเลยค่ะ จะวิ่งไปโผล่ที่บริเวณ รร.นานาชาติบริทิช ภูเก็ต และช่วยย่นระยะทาง จากโครงการออกสู่ถนนเทพกระษัตรีหากต้องการวิ่งไปสนามบินภูเก็ตอีกด้วย
ในอนาคต การเดินทางระหว่างโครงการ และหาดป่าตอง จะสะดวกสบายขึ้นอีกค่ะ เนื่องด้วยมีจะมี ทางพิเศษ กะทู้-ป่าตอง ทางหลักในอนาคตที่จะใช้สัญจรแทนถนนพระบารมีที่เป็นทางคดเคี้ยวขึ้นลงภูเขาตามลักษณะภูมิประเทศของภูเก็ต โดยทางพิเศษสายใหม่นี้จะเริ่มจาก ถ.ผังเมืองรวมสาย ก. ความกว้าง 6 ช่องจราจร โครงสร้างทางยกระดับ ข้ามถนนพิสิษฐ์กรณีย์ เข้าสู่โครงสร้างปากอุโมงค์ ลอดใต้ภูเขา ออกที่ปากอุโมงค์ ต.กะทู้ เชื่อมต่อกับทางยกระดับ ด่านเก็บค่าผ่านทาง ที่สามารถผ่านได้ทั้งรถจักรยานต์ยนต์ รถยนต์ และรถ 10 ล้อ และเชื่อมต่อกับ ถ.พระบารมี ที่ประมาณกม.ที่ 0+850 เพื่อมุ่งหน้าสู่ อ.เมือง ต่อไปค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจาก ซ.บางทอง ไม่ใช่ถนนเส้นหลักค่ะ เป็นถนนเส้นรองที่เชื่อมต่อกับ ถ.ภก.4020 หรือถ.วิชิตสงคราม ถึงแม้จะไม่ใช่ถนนทางตัน แต่เป็นทางที่วิ่งข้ามเขาค่ะ หากดูจากแผนที่ด้านบนจะเห็นว่าลักษณะภูมิประเทศของภูเก็ตตัวเมืองจะอยู่ที่เชิงเขาทั้งหมด ตัวเมืองกะทู้ที่มีสาธารณูปโภคที่หนาแน่น ก็จะอยู่ที่ ถ.วิชิตสงคราม และถ.พระภูเก็ตแก้ว ที่เป็นถนนเชื่อมตัวเมืองค่ะ โซนพื้นที่ตั้งโครงการส่วนใหญ่จะเป็นโซนที่อยู่อาศัย ที่เงียบสงบ
โครงการอยู่ไม่ไกลจากแยกกะทู้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ รร.กะทู้วิทยา , ที่ว่าการ อ.กะทู้, ตลาดสดกะทู้ และร้านค้าอาคารพาณิชย์มากมายหลายแห่งค่ะ ทั้งร้านขายยา ร้านช่าง ร้านอาหารต่างๆ จากโครงการหากวิ่งถนน 4020 ไปทางทิศตะวันออก ก็จะเจอกับสนามกอล์ฟภูเก็ตคันทรีคลับ อยู่ตรงข้ามกัน และสามารถวิ่งเข้าไปยังอ่างเก็บน้ำบางวาดได้ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามอีกแห่ง ของ จ.ภูเก็ตค่ะ
เนื่องจากโครงการอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองภูเก็ตซึ่งสามารถเดินทางไปได้ในเวลา 10 นาที และยังถือเป็นทำเลที่กำลังมีการขยายตัวสูง ในอนาคตจะมีโครงการ Central ภูเก็ต ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ที่กำลังก่อสร้างอยู่ในปัจจุบัน เนื้อที่กว่า 300,000 ตร.ม. อยู่ตรงข้ามกับ Central Festival Phuket เดิมที่เปิดให้บริการในปัจจุบันค่ะ เรียกได้ว่าเป็นอาณาจักรค้าปลีกเซ็นทรัลที่ใหญ่มากที่สุด ของจังหวัดเลยทีเดียว คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในอีก1-2 ปีที่จะถึงนี้
ภาพจำลองโครงการ Central ภูเก็ตแห่งใหม่
เป็นห้างที่ขนาดใหญ่และพื้นที่กว้างขวางจริงๆคะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะของโครงการนี้อาจลำบากสักนิดนึงค่ะเนื่องจาก พื้นที่ตั้งของโครงการอยู่ลึกในสุดของ Pruksa Avenue เลย ต้องเดินออกไปที่ซอยบางทองประมาณ 680 เมตร และเดินต่อไปอีก 100 เมตร จะถึง ถ.4020(วิชิตสงคราม) ที่จะมีรถสองแถววิ่งในช่วงกลางวันประมาณ 7.30-17.00 เท่านั้น หากต้องการเดินทางในเวลากลางคืนคงจะเหมาะกับการใช้รถยนต์ส่วนตัว, รถจักรยานยนต์เสียมากกว่านะคะ
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวมาให้ชมกันค่ะ เส้นทางการเดินทางตาม ลูกศรแดง โดยเริ่มเดินทาง
จากถนนเฉลิมพระเกียรติ ร. 9 > ถ.พระภูเก็ตแก้ว (ภก.4029) > เลี้ยวซ้ายเข้าถนน ภก.4020 > ซอยบางทอง > ถนนส่วนบุคคลของ Pruksa Avenue กะทู้-ภูเก็ต > The Palm กะทู้-ป่าตอง
เริ่มต้นกันบนถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 บริเวณ Premium Outlet Phuket มุ่งหน้าไปทางแยกกะทู้นะคะ
ไปตามทางป้ายสีเขียวภูเก็ต – กะทู้ จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระบารมี (ภก.4029)
วิ่งเข้าสู่ถนนพระภูเก็ตแก้ว (ภก.ภจ4029) วิ่งตรงไปตามทาง
เข้าสู่ถนนภก.4020 ผ่านโรงเรียนกะทู้วิทยา
จากนั้นเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่ซอยบางทอง
ตรงไปตามทางเรื่อยๆ จะเห็น Pruksa Avenue กะทู้-ภูเก็ตอยู่ฝั่งซ้ายมือค่ะ
จากนั้นเราจะเข้าสู่ถนน Pruksa Avenue กะทู้-ภูเก็ต ซึ่งเป็นถนนส่วนบุคคลเฉพาะโครงการพฤกษาเท่านั้น โดยเราจะตรงเข้าไปในสุดเลยค่ะ
และก็จะเห็นซุ้มทางเข้าโครงการ เดอะ ปาล์ม กะทู้-ป่าตอง แล้วค่ะ
สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
สรุปสถานที่สำคัญรอบๆโครงการ
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
สภาพแวดล้อมรอบโครงการก็อย่างที่เราขับรถพามากันตลอดทางเลยค่ะ คือเป็นหมู่บ้านในเครือ Pruksa Avenue กะทู้ ภูเก็ต ทั้งหมด
กลับหลังหัน ก็จะเจอกับภาพนี้ค่ะ คือวงเวียนที่เราผ่านมาเมื่อสักครู่
ด้านข้างนี้เป็นส่วน Club House ซึ่งเป็น Club House ที่ใช้ร่วมกันในทุกโครงการของพฤกษาที่อยู่ในทำเลนี้ เดี๋ยวเราพาไปดูอีกทีนะคะ
ฝั่งขวาของวงเวียนนี้เป็นโครงการ The Plant กะทู้-ป่าตอง ซึ่งเป็นโครงการราคาถูกลงมาหน่อยเมื่อเทียบกับโครงการเรานะคะ ด้วย Product ตัวบ้านจะค่อนข้างกะทัดรัดกว่า
และหมู่บ้านภัสสรด้านซ้ายมือค่ะ ส่วนโครงการเรานั้นจะตรงเลยวงเวียนนี้เข้าไปอีกหน่อย สำหรับทำเลเดียวกันนั้นโครงการ The Palm เป็นโครงการที่แพงที่สุด ซึ่งเน้นที่บรรยากาศโครงการและขนาดบ้านรวมที่ดินที่ใหญ่กว่าโครงการอื่นๆ เหมาะกับครอบครัวใหญ่
สภาพแวดล้อมโครงการฝั่งด้านหลังนั้นจะเป็นทิวเขาไกลๆ และที่ติดกับโครงการเลยเป็นภูเขาเตี้ยลงมาหน่อยซึ่งยังเป็นเขาที่มีต้นไม้ปกคลุมอยู่ตามธรรมชาติ ทำให้หลังบ้านนั้นได้วิวพื้นที่สีเขียวไปเต็มๆ และสัมผัสกับธรรมชาติแท้จริง
วิวภายในโครงการเมื่อมองมาจากบ้านตัวอย่าง จะเห็นภูเขาหลังโครงการชัดเจนมาก
:::: ตัวโครงการ ::::
โครงการ The Palm กะทู้-ป่าตอง เป็นโครงการบ้านเดี่ยว สไตล์ Modern Luxury จำนวน 120 ยูนิต บนพื้นที่ขนาด 42-3- 8.19 ไร่ค่ะ ซึ่งเป็นโครงการที่ลักษณะ ตั้งอยู่บนเชิงเขา ทำให้บ้านทุกหลังจะได้วิวจากธรรมชาติค่ะ แบบบ้านจะมีทั้งหมด 5 แบบด้วยกัน โดยแต่ละแบบจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ตั้งของที่ดิน ว่าจะไปตั้งบนส่วนไหนของทางลาดเชิงเขาบ้าง บางหลังก็จะเป็นบ้าน 2 ชั้น ส่วนบางหลังก็ 3 ชั้นค่ะ โดยทุกหลัง จะมีที่จอดรถ 2 คัน ภายในโครงการ มีพื้นที่ส่วนกลางคือสวนสาธารณะ พร้อมสนามเด็กเล่น ส่วน Club House ประกอบด้วยสระว่ายน้ำริมทะเลสาบที่ให้ความรู้สึก เหมือนว่ายน้ำสระใหญ่ๆ และฟิตเนสที่มีเครื่องเล่นครบครันค่ะ แต่จะเป็นคลับเฮ้าส์ส่วนกลาง ภายใน Pruksa Avenue แห่งนี้นะคะ
:::: House Type ::::
แบบบ้านทั้ง 5 แบบ ประกอบด้วยแบบที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้ว 3 แบบ และแบบใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว อีก 2 แบบค่ะ นั่นก็คือ
1. แบบบ้าน : DYPSIS
พื้นที่ใช้สอย 230 ตร.ม.
ขนาดห้อง : 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องพักผ่อน
และ Skydeck ส่วนรับประทานอาหาร พื้นที่เตรียมอาหาร ห้องครัว ที่จอดรถ 2 คัน
แปลนบ้าน
แปลนบ้าน : ชั้น 1 / ชั้น 2 / Skydeck
2. แบบบ้าน : LICUALA
พื้นที่ใช้สอย 292 ตร.ม.
ขนาดห้อง : 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องพักผ่อน
1 ส่วนอเนกประสงค์ และ Skydeck
ส่วนรับประทานอาหาร พื้นที่เตรียมอาหาร ห้องครัว
ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน
แปลนบ้าน : ชั้น 1 / ชั้น 2 / Skydeck
3. แบบบ้าน : BISMARCKIA
พื้นที่ใช้สอย 292 ตร.ม.
ขนาดห้อง : 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พร้อมอ่างอาบน้ำห้องนอนใหญ่
Foyer โถงต้อนรับ และ Skydeck 1 ห้องรับแขก 1 ห้องพักผ่อน
ส่วนรับประทานอาหาร พื้นที่เตรียมอาหาร ห้องครัว
ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน
แปลนบ้าน : Foyer / ชั้น 1 / ชั้น 2
แบบบ้าน : BUTIA (New)
พื้นที่ใช้สอย 179 ตร.ม.
ขนาดห้อง : 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 ห้องรับแขก, 1 ห้องพักผ่อน
ส่วนรับประทานอาหาร พื้นที่เตรียมอาหาร ห้องครัว
ที่จอดรถ 2 คัน
แปลนบ้าน : ชั้น 1 / ชั้น 2
แบบบ้าน : ROYSTONEA (New)
พื้นที่ใช้สอย 222 ตร.ม.
ขนาดห้อง : 3 ห้องนอน, 4 ห้องน้ำ, 1 ห้องรับแขก, 1 ห้องพักผ่อน
ส่วนรับประทานอาหาร พื้นที่เตรียมอาหาร ห้องครัว
ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน
แปลนบ้าน : ชั้น 1 / ชั้น 2
::: Club House : สระว่ายน้ำ และฟิตเนส ส่วนกลาง Pruksa Avenue :::
เรามาพูดถึงส่วน Club House กันนะคะ หน้าตาของ Club House นี้ทำออกมาได้สวยในสไตล์ Modern ชัดเจน ดูเรียบง่ายแต่มีความโอ่โถงพอสมควรเลยค่ะ
ด้านข้างติดป้าย Club House ไว้
เข้ามาภายในชั้นแรกจะเป็นพื้นที่ Semi-Outdoor เปิดโล่งทำให้พื้นที่ส่วนนี้ได้รับลมพัดผ่านได้ดี เย็นสบายทีเดียว ด้านข้างมีชุดโซฟาแบบ Outdoor ให้นั่งเล่นตากลมเพลินๆ ได้ค่ะ
ด้านข้างเป็นสำนักงานส่วน Club House
ออกมาด้านนอกเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่พอสมควร ที่เชื่อมกับทะเลสาบด้านหลังและเห็นทิวภูเขาสีเขียว เสมือนสระว่ายน้ำอยู่ท่ามกลางภูเขาห้อมล้อม บรรยากาศดีมากๆ ค่ะ
ด้านข้างวาง Day Bed ขนาดใหญ่ให้นอนอาบแดด ชมธรรมชาติกันชิลๆ
บรรยากาศทะเลสาบที่ติดกับสระว่ายน้ำ ของจริงสวยทีเดียวค่ะ
จากสระว่ายน้ำหันกลับมาส่วน ClubHouse
อีกฝั่งของระเบียงด้านข้างสระก็มีวาง Day Bed ให้อีกจุด ประมาณ 6 ที่นั่ง
สระว่ายน้ำใน Club House นี้ออกแบบให้เป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้ง ระบบคลอรีน ใครกลัวแดดหน่อยก็มาว่ายช่วงเช้าหรือเย็นๆ ก็ได้นะ บรรยากาศและอากาศก็ดีเลยค่ะ
ความลึกสระของผู้ใหญ่ค่อนข้างลึกกว่ามาตรฐานอยู่เหมือนกันนะ ปกติส่วนใหญ่จะลึก 1.2 ม. กัน แต่ที่นี่สระผู้ใหญ่ลึก 1.35 ม. ส่วนสระเด็กลึกที่ 75 ซม. ค่ะ ด้านล่างมีบอกค่าระดับของคลอรีนและกรด-ด่างในสระว่ายน้ำ
ด้านข้างสระมีจุดล้างตัวให้ก่อนเข้าไปยังห้องน้ำด้านใน
จุดล้างตัวมีฝักบัวให้ 2 จุดค่ะ
ด้านในแบ่งเป็นห้องน้ำหญิงและห้องน้ำชายแยกกัน
บรรยากาศภายในห้องน้ำตกแต่งเรียบง่ายค่ะ มีอ่างล้างมือให้ 3 จุดและแบ่งห้องน้ำให้ 3 ห้อง
ภายในห้องน้ำ
ด้านข้างมีตู้ Locker ให้เรียบร้อย สำหรับลูกบ้านเก็บข้าวของได้ ก่อนลงไปไว้ว่ายน้ำ
ขึ้นไปดูชั้น 2 กันต่อนะคะ บันไดทางขึ้นเป็นบันไดโปร่งแบบนี้ดูสวยดีค่ะ แต่คุณผู้หญิงคนไหนใส่กระโปรงก็ต้องระวังนิดนึงนะคะ ด้วยความที่เป็นบันไดโปร่งก็อาจจะดูโป๊ได้
บนชั้น 2 ด้านข้างทำเป็นพื้นที่สีเขียวเล็กๆ โดยปูหญ้าเทียมให้ ส่วนสุดทางจะเป็นห้อง Fitness ค่ะ
ภายในห้อง Fitness ค่อนข้างกว้างขวางพอสมควรเลยค่ะ รวมทั้งไว้วิวรอบทิศทางด้วย
มีชุดเครื่องเล่นให้ครบครันทีเดียวทั้งชุดสำหรับเวทเทรนนิ่ง
เครื่องออกกำลังกาย
มีชุดเวท ยกน้ำหนักให้
ลู่วิ่ง 2 เครื่องพร้อมเครื่องปั่นจักรยาน
วิวบรรยากาศจากส่วนห้อง Fitness ด้วยความที่อยู่ชั้น 2 เลยสามารถ Take View ได้ไกลทีเดียวค่ะ
:::: ภายในโครงการ ::::
บริเวณหน้าทางเข้าโครงการ The Palm กะทู้-ป่าตอง จะเห็นว่าทางซุ้มโครงการตกแต่งออกมาในสไตล์ Modern ชัดเจน และเน้นความโอ่โถงให้ดูหรูหรามากยิ่งขึ้น
ป้ายโครงการชัดเจนอยู่ด้านข้างซุ้มทางเข้าโครงการเลยค่ะ
ซุ้มทางเข้าโครงการแบ่งทางเข้า-ออกเป็น 2 ฝั่งและวางป้อมยามอยู่ตรงกลางเพื่อที่จะสามารถดูแลรถทั้งฝั่งเข้าและฝั่งออกได้ทั้ง 2 ฝั่งเลย
ระบบการเข้า-ออกโครงการที่นี่ใช้เป็นระบบ Key Card Access ระยะใกล้ และเปิด-ปิดด้วยไม้กระดกอัตโนมัติ
อีกมุมของส่วนป้อมยาม
เครื่องสแกนบัตรแบบระยะใกล้ และมีกล้อง CCTV บริเวณหน้าทางเข้าโครงการ 2 ตำแหน่ง ส่องทะเบียนรถและหน้าคนขับ
หันกลับมาดูอีกมุมของส่วนทางเข้ารถยนต์
ด้านหลังซุ้มโครงการมีปลูกไม้พุ่มแบบนี้ให้ด้วย ดูสดใสดีนะคะ
เข้ามาภายในโครงการกันแล้วค่ะ ด้านข้างมีทำทางเดินเท้าให้เดินได้ง่าย ไม่เดินลงถนน
เข้ามาจะเป็นวงเวียนขนาดใหญ่ ตรงกลางมีต้นปาล์ม 3 ต้น เป็นจุดเด่นและเอกลักษณ์ตามชื่อโครงการ The Palm เลย
ฝั่งขวาเลยวงเวียนมาหน่อยนั้นจะเป็นพื้นที่สวนสาธารณะ ซึ่งจัดไว้ให้ค่อนข้างเยอะพอสมควรเลยค่ะ ดูร่มรื่นมากทีเดียว
ภายในทำทางเดินสะอาดเรียบร้อย น่าเดินเล่นดีค่ะ
ตลอดทางมีทั้งต้นไม้ใหญ่และต้นไม้พุ่ม รวมทั้งทำทางเดินให้เดินได้ง่ายตลอดภายในสวน เพื่อลูกบ้านมาเดินเล่น วิ่งออกกำลังกาย หรือพาเด็กๆ มาวิ่งเล่นในสวนได้
หันกลับไปเป็นพื้นที่สวนร่มรื่นมากๆ
เดินต่อไปอีกหน่อยจะเห็น Details การจัด Landscape มีที่ให้นั่งเล่น นั่งพักกันได้ในสวน
ถัดมาอีกหน่อยเป็นสนามเด็กเล่นค่ะ มีชิงช้าและน้องไดโนเสาร์ให้เล่นในบ่อทราย เด็กๆ หกล้มก็ไม่บาดเจ็บมากนักเท่ากับทางเดินที่เป็นคอนกรีตอีกด้วย
ดูสวนเสร็จแล้ว เดี๋ยวเราพาไปดูส่วนถนนภายในโครงการกันต่อนะคะ
ความกว้างของถนนภายในโครงการประมาณ 9 ม.
การจัดผังของที่นี่ค่อนข้างดีสำหรับการวางแนวหน้าบ้านนะคะ เพราะบริเวณหน้าบ้านนั้นหันหน้าเข้าหาพื้นที่สวนทั้งหมด ซึ่งสำหรับถนนเส้นนี้จะไม่มีบ้านไหนที่หันหน้าเข้าหาบ้านฝั่งตรงข้ามเลย ทำให้บ้านบนถนนเส้นนี้มีความเป็นส่วนตัวสูงทีเดียวค่ะ
ตรงมาเรื่อยๆ ตำแหน่งบ้านก็ยังหันเข้าหาสวน และไม่มีบ้านฝั่งตรงข้ามเลย
ลักษณะการจัดผังตัวบ้านเค้าจะยกบ้านขึ้นสูงเพื่อให้สามารถมองวิวได้ไกลมากขึ้น
อีกฝั่งของบ้านมีจัดพื้นที่สำหรับจอดรถให้เพิ่มเติมเล็กน้อย สำหรับลูกบ้านหลังไหนที่มีรถเยอะจะได้ไม่ต้องไปจอดหน้าบ้านให้ดูเกะกะถนน สัญจรไม่สะดวกด้วยค่ะ
ตรงมาเรื่อยๆ บริเวณนี้จะยังไม่ได้มีการก่อสร้างนะคะ ตามป้ายของพฤกษาบอกว่าเป็นพื้นที่ในอนาคตอยู่
ถัดมาจะเป็นบ้านอีกแบบนึงในโครงการ ซึ่งการวางผังก็ยังตาม Concept เดิมคือด้านหน้าบ้านเป็นสวนสีเขียวดูสบายตาและเป็นส่วนตัวค่ะ
ซึ่งถนนหลักนี้จะเป็นถนนทอดยาวไปสุดที่ปลายไซต์โครงการเลยค่ะ ก็จะมีบ้านเกาะอยู่หน้าถนนหลักโครงการเลย ไม่ได้แยกเข้าซอยย่อยไปอีก
:::: บ้านตัวอย่าง ::::
วันนี้เอาบ้านตัวอย่างมาให้ชมทั้งหมด 3 แบบ
แบบบ้าน DYPSIS : 230 ตร.ม.
บ้าน Dypsis หลังเล็กสุดของโครงการนะคะ นับว่าเป็นบ้านขนาดกลางๆ นะ เพราะด้วยพื้นที่ใช้สอยภายในก็ประมาณ 230 ตร.ม.แล้วมี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำและ 2 ที่จอดรถ เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีจำนวนสมาชิกบ้านประมาณ 3-4 คนได้สบายๆ ค่ะ ลักษณะการออกแบบบ้านของที่นี่เน้นความโมเดิร์น ใช้โทนและรูปลักษณ์ตัวบ้านเรียบง่าย จุดเด่นของบ้านหลังนี้คือด้านบนสุดเลย จะเห็น Sky Deck อยู่ด้วยนะคะ ซึ่งสามารถใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่น Outdoor พักผ่อนชิลๆ หรือเวลามีปาร์ตี้ก็สามารถจัดปาร์ตี้ด้านบน ปิ้งย่างบาร์บีคิวกันได้
ป้ายบอกขนาดพื้นที่ใช้สอยของบ้าน Dypsis อยู่ที่ 230 ตร.ม. ภายในได้ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 พื้นที่อเนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ และ Sky Deck
บ้าน DYPSIS : ชั้น 1
พื้นโรงจอดรถสามารถจอดได้สองคัน ด้านบนติดโคมไฟดาวน์ไลท์ 4 ดวง มีปลั๊กไฟบริเวณด้านหลังให้ และมีพื้นที่สามารถเดินเข้า-ออกสวน รวมทั้งประตูทางเข้าบ้านได้จากที่จอดรถ
ประตูทางเข้าบ้านจากโรงจอดรถ ไม้ HDF ปิดผิวลามิเนตสีขาว มือจับแบบก้านโยกสแตนเลส
หน้าทางเข้าหลักของบ้านจะอยู่ด้านข้างที่จอดรถนะคะ ด้านหน้ามีเฉลียงเล็กน้อยพร้อมกันสาดยื่นออกมากันแดดกันฝนได้ระดับนึง ตัวบ้านถูกยกระดับจากพื้นที่จอดรถพอสมควร เพื่อกันน้ำไหลย้อนเข้าตัวบ้านได้
ประตูทางเข้าโครงการใช้เป็นประตูกระจกสีเขียวตัดแสง กรอบบานอลูมิเนียมแบบ Power Coat ลักษณะการเปิดเป็นแบบเปิดออกทั้ง 2 ด้านทำให้มีความกว้างของทางเข้าบ้านพอสมควรเลยค่ะ
ตัวล็อกและมือจับมาตรฐาน
เข้ามาด้านในจะเป็นส่วนนั่งเล่นที่เชื่อมกับพื้นที่รับประทานอาหารด้านหลัง บริเวณที่ค่อนข้างโปร่งโล่งด้วยหน้าต่างบานใหญ่ที่ให้มาค่อนข้างเยอะทีเดียว
บริเวณที่นั่งส่วนโซฟาได้พื้นที่ค่อนข้างใหญ่สามารถวางชุดโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะด้านข้างได้
ส่วนหน้าต่างนั้นเป็นบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะ มือจับมาตรฐานพร้อมตัวล็อกแบบ 2 ตอนคือส่วนบริเวณมือจับและตัวล็อกก้นหอยตรงกลาง
หันมาทางส่วนฝั่งตรงข้ามโซฟา จะได้เป็นผนังโล่งๆ นะคะสำหรับบ้านมาตรฐาน ไว้สำหรับเป็นพื้นที่แขวนทีวีหรือวางชั้นโชว์ของต่างๆ ได้
ถัดมาคือส่วนพื้นที่รับประทานอาหาร มีขนาดที่สามารถรองรับที่นั่งได้ประมาณ 4-6 ที่นั่ง สบายๆ
ทั้ง 2 ฝั่งได้หน้าต่างและประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ ช่วยให้อากาศบริเวณนี้ถ่ายเทได้ดี รวมทั้งได้แสงสว่างภายนอกเข้ามาในตัวบ้านได้ดีในช่วงกลางวัน เรียกได้ว่าไม่ต้องเปิดไฟกันได้เลย
ลักษณะบานเลื่อนจะเป็นบานเปิด 2 ตอน ได้พื้นที่เปิดค่อนข้างกว้าง
ถัดจากพื้นที่รับประทานอาหาร ติดๆกันเลยเค้าออกแบบให้เป็นส่วนเตรียมอาหาร ซึ่งจะทำเป็น Pantry ไว้ให้ค่ะ และถัดเข้าไปด้านในก็จะเป็นส่วนครัวปิด หรือครัวไทยในบ้าน
การทำพื้นที่เตรียมอาหารเล็กๆ นี้ไว้นั้นถือว่าค่อนข้างดีนะคะ เป็นสัดส่วน ใครอยากจะเตรียมอาหารหรือเครื่องดื่มง่ายๆ ก็ทำได้ภายในบ้านเลยไม่ต้องเข้าไปในส่วนครัวไทย ที่เป็นพื้นที่ทำอาหารหนักๆ
ระหว่างครัวไทยและ Pantry เตรียมอาหารกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก สามารถมองเห็นกันได้ทำให้ดูโปร่งโล่งดีค่ะ แต่ในเชิงของการใช้งานที่แยกเป็นสัดส่วนและช่วยให้กลิ่นอาหารหนักไม่เข้ามาภายในตัวบ้านก็ยังคงอยู่
ครัวไทยจัดพื้นที่มาให้พอสมควรนะคะ สามารถจัดวางฟังก์ชันได้ดีและแยกส่วนกันชัดเจนระหว่าง ตู้เย็น อ่างล้างจาน และ Hob&Hood
สำหรับส่วน Pantry นั้นจัดให้เป็นไอเดียให้ดูนะคะ ซึ่งดูจากบ้านตัวอย่างแล้วมีการจัดวางฟังก์ชันได้ดีทีเดียวเลยค่ะ
ส่วนอ่างล้างจานนั้นติดกับหน้าต่างบานเลื่อน จัดเป็นตำแหน่งดีทีเดียวค่ะ เพราะสามารถช่วยระบายความชื้นได้ดี
ด้านข้างเป็นส่วนงานระบบต่างๆ ซึ่งจะปิดด้วยประตูขนาดเล็กให้ดูเรียบร้อยค่ะ
ฝั่งที่ติดกับประตูบานเลื่อนนั้นเป็นตำแหน่งวางตู้เย็นขนาดกลางๆ กำลังพอดีค่ะ ติดกับตู้เย็นเป็นประตู HDF ออกไปยังส่วนซักล้างด้านหลังบ้าน
มือจับสแตนเลสแบบก้านโยกพร้อมตัวล็อก
ลานซักล้างได้เป็นพื้นคอนกรีต ซึ่งจะได้เป็นมาตรฐานนะคะ
ถัดจากส่วนซักล้างนั้นจะเป็นสวนหลังบ้าน
ด้านบนบริเวณลานซักล้างติดดวงโคมให้ค่ะ
มีก็อกสนามไว้ให้ต่อสายยางซักล้างต่างๆ ได้ หรือจะต่อสายยางไปรดน้ำต้นไม้รอบบ้านก็ได้เช่นกัน
ติดกับส่วนครัวจะเป็นห้องน้ำในชั้นล่างค่ะ เดี๋ยวเราไปดูกัน
บริเวณทางเข้าส่วนห้องน้ำจะลดระดับพื้นลงไปเล็กน้อย เนื่องจากห้องน้ำอยู่ใต้โถงบันได หากไม่ลดระดับก็จะทำให้ฝ้าเพดานห้องน้ำต่ำลงไปนะคะ ดังนั้นการลดระดับก็จะช่วยให้ฝ้าเพดานภายในห้องน้ำสูงขึ้น ใช้งานได้ถนัดขึ้น แต่ในขณะเดียวกันการขึ้น-ลงบันไดแม้จะขั้นไม่มาก ก็อาจจะไม่สะดวกนักสำหรับบ้านไหนที่มีสมาชิกในบ้านเป็นผู้สูงอายุ
ประตูห้องน้ำขนาดมาตรฐาน มือจับเป็นก้านโยกค่ะ
ภายในห้องน้ำชั้นล่างนี้จะทำเป็นแบบ Power Room นะคะ คือไม่มีพื้นที่อาบน้ำในชั้นล่างจะมีแค่ส่วนโถสุขภัณฑ์ และอ่างล้างมือ
พื้นภายในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิกแบบด้าน
พื้นภายในห้องน้ำมีการลดระดับลงมาเล็กน้อยกันน้ำไหลย้อนได้ดี
อ่างล้างมือให้มาขนาดกะทัดรัดแต่มีพื้นที่ด้านข้างไว้ให้พอสมควรเลย สามารถวางข้าวของต่างๆ ได้พอสมควรค่ะ
ก็อกน้ำแบบเปิดขึ้น จาก American Standard
ด้านล่าง Built-in ช่องเก็บของไว้ให้เล็กน้อย โดยใช้บานเปิดได้ข้างนึงค่ะ
โถสุขภัณฑ์จาก American Standard เช่นเดียวกับอ่างล้างมือ ด้านข้างมีพื้นที่ข้างโถพอสมควร นั่งได้สบายๆ ไม่อึดอัด
ลักษณะปุ่มกดของโถสุขภัณฑ์จะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ให้ขึ้นอยู่กับการใช้งานค่ะ จะได้ไม่เปลืองน้ำมากนัก
อุปกรณ์ห้องน้ำอื่นๆ ใช้ยี่ห้อ American Standard เช่นเดียวกัน ดูสวยงามและแข็งแรงดี
ได้ราวแขวนเสื้อหรือผ้าขนหนูจาก American Standard เช่นเดิม
สำหรับห้องน้ำนั้นเค้าจะติดบานกระทุ้งมาให้ด้วยนะคะ อยู่ด้านบน ซึ่งช่วยระบายความชื้นและอากาศภายในห้องน้ำได้ดีค่ะ และไม่จำเป็นต้องใช้พัดลมดูดอากาศให้เปลืองไฟด้วยนะ
ติดกับห้องน้ำ และอยู่ด้านใต้บันไดนั้นจะมีการ Built-in ชั้นเก็บของใต้บันไดให้ เพื่อสามารถใช้พื้นที่ใช้สอยได้สูงสุดค่ะ ภายในพื้นที่เก็บของนี้สามารถเก็บของได้ระดับนึงนะคะ ไม่ได้เล็กนะ จริงๆสามารถใส่กล่องเก็บของใหญ่ๆ ได้เหมือนกันค่ะ
ผนังด้านในห้องเก็บของติดดวงไฟให้
ลักษณะบันไดนั้นจะเป็นบันไดโครงเหล็กแบบนี้ค่ะ
ถัดจากส่วนห้องน้ำมาแล้วเราขึ้นไปดูชั้น 2 กันต่อเลยนะคะ ในส่วนของบันไดนั้นใช้ราวจับเป็นไม้และเหล็กพ่นสีดำ ส่วนลูกตั้งและลูกนอนก็ได้เป็นไม้ยางเช่นเดียวกัน ดูสวยงามดีค่ะ ด้านข้างของบันไดมีเจาะช่องเปิดเป็นกระจกบาน Fixed ให้ด้วย เพื่อให้แสงธรรมชาติเข้ามายังโถงบันไดได้ดีขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเปลืองไฟเป็นดวงโคมในช่วงกลางวันด้วย
หน้าตาสวิตช์ไฟภายในบ้าน จาก Siemens ค่ะ
บริเวณโถงกลางของบันไดได้ช่องเปิดขนาดใหญ่ ซึ่งให้มาเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งด้วยนะคะ ช่วยให้บริเวณโถงบันไดสามารถระบายอากาศได้ดี รวมทั้งช่วยให้ลดพัดผ่านเข้ามาในตัวบ้านได้ดีเช่นกัน
ลักษณะบันไดนั้นจะเป็นบันไดแบบพับผ้า หรือตัว U สลับขึ้นไปเรื่อยๆ ถึงชั้นบนสุดเลย ข้อดีของการทำบันไดแบบพับผ้านี้คือไม่เปลืองพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านดีค่ะ
ชานพักบันไดแบ่งให้เป็น 2 ขั้นแบบนี้ เดินได้ง่ายขึ้นกว่าบันไดที่ให้ขั้นมาเป็นแบบสามเหลี่ยม
บ้าน DYPSIS : ชั้น 2
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับส่วนพื้นที่อเนกประสงค์ก่อน ค่อยแยกออกเป็นห้องนอนอีก 3 ห้องนะคะ
สำหรับพื้นที่อเนกประสงค์นั้นชั้น 2 นี้จะไม่ได้กั้นเป็นห้องชัดเจนนะ เค้าทำพื้นที่นี้ขึ้นมาเพื่อให้ลูกบ้านสามารถนำมาปรับฟังก์ชันเป็นพื้นที่ที่ตัวเองต้องการใช้งาน เช่นทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นแบบส่วนตัวมากขึ้น เผื่อบ้านไหนรับแขกบ่อยๆ จะได้ให้พื้นที่นั่งเล่นด้านล่างเป็นพื้นที่รับแขกไป สมาชิกในบ้านก็ยังสามารถมาใช้งานพื้นที่นั่งเล่นด้านบนได้ หรือทำเป็นพื้นที่ทำงานส่วนตัวไปเลยก็ได้เช่นกันค่ะ
อย่างบ้านตัวอย่างนั้นจะจัดให้เป็นพื้นที่นั่งเล่นในชั้นบนนะคะ ก็สามารถวางชุดโซฟาและทีวีขนาดใหญ่ได้นะ ใครชอบดูหนังมากๆ จะกั้นห้องนี้เป็นห้อง Home Theater ก็สามารถทำได้สบายๆ เลยค่ะ
ถัดมาเป็นเราจะพาไปดูห้องนอนเล็กกันนะคะ
ภายในห้องนอนเล็กเหมาะกับการวางเตียงขนาด 3.5 – 5 ฟุต มีพื้นที่ด้านข้างเตียงเหลือพอสมควรให้วางชุดโต๊ะทำงานเล็กๆ ได้ ด้านข้างให้หน้าต่างบานใหญ่ทำให้แสงสว่างเข้ามาได้ดีทีเดียวค่ะ ดูห้องโปร่งโล่งดี
อีกฝั่งด้านข้างเตียงเค้าจัดให้เป็นส่วนตู้เสื้อผ้านะคะ
และปลายเตียงเป็นชั้นวางของ หรือวางทีวีก็ได้นะ
มาที่ห้องน้ำรวมที่ใช้ร่วมกันบนชั้น 2 กันต่อนะคะ สำหรับภายในห้องน้ำนั้นแยกส่วนเปียกและให้ไว้ชัดเจนดีทีเดียวค่ะ คือบริเวณพื้นที่อาบน้ำมีการกั้นกระจกไว้ให้พร้อมยกธรณีสูงขึ้นมาเล็กน้อยกันน้ำไหลย้อนเรียบร้อย
พื้นภายในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิกเช่นเดียวกับห้องน้ำชั้นล่าง
พื้นห้องน้ำลดระดับลงมาเล็กน้อย พร้อมจบขอบด้วยไม้สำเร็จรูป
ส่วนอ่างล้างมือให้มาทั้งหมดแบบนี้เลยค่ะ พร้อมกระจกเงาด้วยนะ
อ่างล้างมือขนาดใหญ่ขึ้นจากชั้นล่างนะคะ แต่ไม่มีพื้นที่วางของมากนัก เค้าเลยแก้เป็นการ Built-in ตู้ด้านล่างมาให้อย่างดีทีเดียวค่ะ
ขนาดกำลังดีเลยไม่เล็กไป ใช้งานได้ดี
โถสุขภัณฑ์ยี่ห้อเดิมกับห้องน้ำห้องที่แล้วนะคะ แต่เสียดายพื้นที่ด้านข้างโถที่ค่อนข้างน้อยเหมือนกัน
ลักษณะของโถโค้งมน สวยงามดีค่ะ
ส่วน Shower Box จะได้เป็นประตูกระจกเปิดเข้าแบบนี้ค่ะ ใช้งานสะดวกและเป็นสัดส่วนดี
พื้นที่อาบน้ำค่อนข้างกะทัดรัดพอสมควรนะ
ส่วนฝักบัวนั้นจะได้เป็นฝักบัวสายอ่อน ขนาดหัวฝักบัวค่อนข้างใหญ่ทีเดียว และบริเวณมือจับก็แข็งแรงดีทีเดียวค่ะ ด้านข้างผนังส่วนพื้นที่อาบน้ำนั้นได้หน้าต่างบานกระทุ้งด้านบนด้วย ช่วยระบายความชื้นได้ดีค่ะ
ด้านล่างให้ก็อกสนามมาด้วย เผื่อไว้ซักล้างหรือทำความสะอาดห้องน้ำได้
หันกลับไปฝั่งประตูทางเข้าห้องน้ำ จะเห็นที่แขวนเสื้อผ้าอยู่ด้านข้างค่ะ เดี๋ยวเราไปดูห้องนอนภายในชั้นนี้กันต่อเลย
เดี๋ยวเราดูห้องนอนเล็กกันก่อนนะ ค่อยไปดูห้อง Master Bedroom กันต่อ
ภายในห้องนอนเล็กอีกห้อง มีขนาดใกล้เคียงกับห้องนอนเล็กห้องที่แล้วนะคะ เหมาะกับการวางเตียง 3.5 – 5 ฟุต จะกำลังดีเลย ส่วนหน้าต่างห้องนี้ดูจะได้เยอะทีเดียวทำให้ตัวห้องดูโปร่งโล่งมากๆ เลยค่ะ
แม้จะวางเตียงขนาด 5 ฟุตแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ด้านข้างเตียงพอสมควรนะคะ
ปลายเตียงก็เหลือนะ สามารถวางชั้นวางทีวีได้เลยค่ะ
ปลายเตียงสามารถวางทีวีได้เลย
ส่วนด้านข้างเตียงทำเป็นพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าค่ะ
เข้ามายังห้อง Master Bedroom กันต่อนะคะ ขนาดห้องนอนนี้ค่อนข้างใหญ่เลยค่ะ สามารถแบ่งออกเป็น 2 โซนใหญ่ๆ ได้เลยคือ โซนเตียงนอนและพื้นที่นั่งเล่น
ซึ่งสามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่วางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้และมีที่สำหรับ Built-in ชั้นวางทีวีพร้อมวางทีวีขนาดใหญ่ได้
ส่วนพื้นที่เตียงนอนสามารถวางเตียง King Size ได้สบายๆ พร้อมเหลือพื้นที่ทางเดินด้านข้าง ด้านหลังเตียงมีหน้าต่างให้ทั้ง 2 ข้างเลย รวมกับประตูบานเลื่อนกระจกฝั่งหน้าบ้านอีกทำให้ห้องดูสว่าง และโปร่งโล่งดีมากๆ
ส่วนข้างเตียงเป็นประตูบานเลื่อนที่เปิดออกทั้ง 2 ด้านตามรูปเลยค่ะ ทำให้ได้ทางเข้า-ออกขนาดใหญ่ทีเดียว ใครชอบเปิดประตูสูดอากาศได้จากภายในห้องนอนกันได้เลยค่ะ เปิดประตูออกมาก็เจอกับภูเขาที่เต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ สดชื่นไปอีกก
บริเวณระเบียงนั้นพื้นจะเป็นทรายล้างแบบนี้ค่ะ
จากพื้นห้องนอนมีลดระดับลงมาเล็กน้อย
ระเบียงใช้เป็นกระจกทำให้สามารถมองวิวภายนอกได้ดี และดู Modern ด้วยค่ะ
อีกฝั่งก็เป็นเหมือนกันค่ะ ในส่วนของขนาดความกว้างระเบียงนั้นสามารถนำเก้าอี้ขนาดกะทัดรัดมานั่งเล่นชมวิวระยะไกลได้เลยนะ เพราะขนาดความกว้างระเบียงไม่ได้สั้นมาก
เข้ามาภายในห้องนอนกันต่อนะคะ ด้านในสุดจะมีส่วน Walk in Closet ซึ่งจะเชื่อมกับห้องน้ำภายในห้องนอนด้วย
กั้นประตูกระจกแบบนี้ให้ดูเป็นสัดส่วนดีค่ะ
บริเวณพื้นที่ Walk in Closet แม้ไม่ได้ขนาดใหญ่มากแต่ก็สามารถวางตู้เสื้อผ้าแบบ 2 ประตูได้นะคะ รวมทั้งโต๊ะเครื่องแป้งด้วย
ถัดจาก Walk in Closet จะเป็นห้องน้ำภายในห้องนอนนี้ค่ะ
ผังการจัดวางทั้งสุขภัณฑ์และขนาดจะใกล้เคียงกับห้องน้ำด้านนอกในชั้น 2 เลย
สุขภัณฑ์ก็เหมือนกัน คือยี่ห้อ American Standard
อีกมุมของโถสุขภัณฑ์ ด้านข้างมีพื้นที่เหลือเล็กน้อย
ปุ่มกดน้ำแบ่งออกเป็น 2 ปุ่มเช่นเดียวกับห้องน้ำรวมในชั้น 2 เลย
ส่วนพื้นที่ภายในห้องน้ำและฝักบัวก็เหมือนกับห้องน้ำรวมชั้น 2 อีกเช่นเดียวกันค่ะ
ส่วนอ่างล้างมือจะแตกต่างกันนิดหน่อยคือขนาดของตู้ Built-in ด้านล่างที่ได้ขนาดใหญ่ขึ้นมาเล็กน้อย
และก็อกน้ำจาก Cotto ขนาดใหญ่ สวยงามดีค่ะ
ขึ้นไปชั้น 3 กันต่อเลยนะคะ
ช่องเปิดในชั้น 3 จะเล็กลงมาจากบริเวณชานพักชั้น 2 ชัดเจนมากเลย เนื่องจากเป็นชั้นที่ไม่ได้มักจะขึ้นบ่อยๆ อยู่แล้วเป็นปกตินะคะ
ภายในชั้น 3 นี้จะมีฟังก์ชันเดียวค่ะ ซึ่งจะอยู่ภายนอก เดี๋ยวเราไปดูพร้อมกัน
บ้าน DYPSIS : ชั้น 3
ก่อนเปิดประตูออกเค้าก็ทำทางให้เดินได้นะคะ เป็นกึ่งชานพักไม่ใช่ขึ้นบันไดแล้วก็ถึงหน้าประตูเลยจะค่อนข้างอันตรายไป สามารถพลัดตกได้
หน้าตาสวิตช์ไฟจาก Siemens เช่นเดียวกับชั้น 1 เลย
ธรณีประตูค่อนข้างสูงทีเดียวค่ะ
ออกมาจะมีขั้นบันไดออกไปยังส่วนพื้นที่สวนแบบ Outdoor บนชั้นดาดฟ้า
หลังคานี้ได้เป็นแบบระแนงไม้สำเร็จรูปนะคะ สามารถกันแดดได้บางส่วนแต่ไม่สามารถกันฝนได้นะคะ
บ้านตัวอย่างจัด Day Bed มาให้ดูเป็นไอเดียในการตกแต่ง เพราะบนชั้นนี้ได้วิวภูเขาสวยงามมากและบรรยากาศดีทีเดียวค่ะ
มองกลับไปจะเห็นว่าพื้นที่ชั้นดาดฟ้ามีขนาดพอสมควรนะคะ สามารถจัดชุดที่นั่งได้พอสมควรเลย ฟังก์ชันสวนดาดฟ้านี้ไม่ใช่แค่มานั่งเล่นชมวิวอย่างเดียวนะ ลูกบ้านสามารถจัดปาร์ตี้ปิ้งย่างบาร์บีคิวกันได้ด้วยนะ ได้อารมณ์บ้านพักตากอากาศดีเลยทีเดียวค่ะ
ราวกันตกใช้กระจกสลับกับราวเหล็กพ่นสีดำ มือจับเป็นไม้สำเร็จรูป
วิวภายนอกที่เห็นเป็นแบบนี้เลยค่ะ
มีอีกส่วนเป็นช่องทางเดินเล็กๆ แบบนี้ค่ะ
แบบบ้าน BISMARCKIA : 292 ตร.ม.
มาดูบ้านตัวอย่างหลังที่ 2 กันต่อนะคะ สำหรับบ้าน Type Bismarckia เป็นบ้านที่มีการออกแบบภายในค่อนข้างน่าสนใจทีเดียวค่ะ แม้จะมีพื้นที่ใช้สอยเท่ากับบ้านตัวอย่างที่แล้วแต่การจัดวางถือว่าต่างกันไปเลยเป็นคนละแนว แต่ยังคงไว้คือสไตล์และวัสดุต่างๆ จะมีความเป็นหนึ่งเดียวกันค่ะ
ลองถ่ายรูปจากด้านข้างของตัวบ้านให้ดูเพิ่มเติม แล้วเดี๋ยวเราไปดูส่วนที่จอดรถกันค่ะ
ในส่วนที่จอดรถนั้นสามารถจอดได้ 2 คันกำลังดี
ภายในใช้เป็นพื้นคอนกรีตปูด้วยทรายล้าง ฝ้าเพดานติดด้วยดวงโคมดาวน์ไลท์
ทางเข้าบ้านถูกยกระดับขึ้นมาเล็กน้อย ตรงกลางทำเป็นพื้นที่เก็บของซึ่งจะอยู่ใต้บันไดของตัวบ้าน และประตูด้านขวานั้นจะเป็นประตูทางเข้าตัวบ้านค่ะ เพื่อเวลาจอดรถเข้าบ้านแล้วไม่ต้องเดินอ้อมไปยังหน้าบ้านเพื่อเข้าบ้านค่ะ เข้าทางนี้สะดวกกว่า
มาที่ทางเข้าหลักของบ้านกันต่อนะคะ สำหรับตัวบ้านนี้จะมีการยกระดับจากพื้นดินปกติค่อนข้างสูงพอสมควรเลย ดูจากขั้นบันไดหลายขั้นทีเดียว ข้อดีคือเรื่องของน้ำท่วมก็ช่วยให้น้ำไม่ไหลย้อนเข้าบ้านได้ค่ะ
บ้าน BISMARCKIA : ชั้น 1
บริเวณหน้าบ้านมีเฉลียงและม้านั่งเล็กๆ ให้ ไว้สำหรับมานั่งใส่ร้องเท้าได้ ด้านบนทำกันสาดให้ช่วยกันแดดกันฝนได้ระดับนึงค่ะ ส่วนประตูทางเข้าบ้านนั้นเป็นประตูบานเลื่อนกระจกสีเขียวตัดแสงกรอบบานเป็นอลูมิเนียม ด้านข้างประตูได้กระจกบาน Fixed เพิ่มมาให้ด้วย เพื่อช่วยให้แสงสว่างจากภายนอกเข้าสู่ภายในตัวบ้านได้ดียิ่งขึ้น
มือจับและตัวล็อกประตูได้แบบมาตรฐาน
ภายในชั้น Foyer นี้จะมีแค่ส่วนของพื้นที่รับแขกนะคะ โดยสามารถจัดวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้อยู่ และทำที่วางรองเท้าได้ พื้นที่นี้เหมาะกับครอบครัวที่มักจะต้องต้อนรับแขกที่บ้านอยู่บ่อยๆ นะคะ และการแยกพื้นที่บริเวณนี้ชัดเจนเลย โดยการยกฟังก์ชันอื่นๆ ทั้งหมดขึ้นไปที่ชั้น 1 ทำให้สมาชิกในบ้านคนอื่นๆ มีความส่วนตัวมากยิ่งขึ้น
ด้านข้างเป็นประตูที่ออกไปยังส่วนที่จอดรถค่ะ ซึ่งบริเวณนี้ก็มีการลดระดับพื้นลงไปประมาณ 2 ขั้น หากมีเด็กหรือผู้สูงอายุในบ้าน ก็ควรจะกั้นราวกันตกบริเวณขอบเพิ่มขึ้นมาหน่อยนะคะ จะได้ไม่สะดุดล้ม
ขึ้นมาที่ชั้น 1 กันต่อนะคะ จะเห็นว่าบริเวณโถงหน้าบ้านนั้นได้ช่องเปิดเยอะมาก และฝ้าเพดานด้านบนก็สามารถติดโคมระย้าได้ด้วย ด้วยความที่เค้าออกแบบให้พื้นที่ส่วนนี้เป็นแบบ Double Volumn
พอมองไปที่พื้นที่ห้องรับแขกด้านล่างนั้นจะเห็นว่าพื้นที่ห้องรับแขกนั้นไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่เมื่อออกแบบให้เป็น Double Volumn ให้ก็ทำให้พื้นที่นี้ดูโปร่งโล่งและไม่เล็กอย่างทีคิดนะคะ
ขึ้นมาที่ชั้น 1 เราจะเจอส่วนพื้นที่รับแขกก่อนเลยค่ะ ซึ่งจัดว่าได้ขนาดค่อนข้างใหญ่ทีเดียวนะคะ สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้ถึง 2 ชุดเลย
ด้านหลังชุดโซฟานั้นเป็นประตู-หน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ ทำให้พื้นที่ค่อนข้างโปร่งโล่ง รวมทั้งเป็นพื้นที่ที่ลดพัดผ่านได้ดีทีเดียวค่ะ แค่ติดมุ้งลวดเพิ่มเติมนะ ก็ไม่ต้องกลัวแมลงเข้า เปิดประตู-หน้าต่างได้สบายใจเลย แทบจะไม่ต้องเปิดแอร์ให้เปลืองค่าไฟ
เดี๋ยวเราไปดูระเบียงที่ติดกับพื้นที่นั่งเล่นกันต่อนะคะ
ขนาดพื้นที่ระเบียงไม่เล็กไม่ใหญ่นะ สามารถวางโต๊ะเก้าอี้แบบ Outdoor มานั่งชมวิวกันได้อยู่ค่ะ
บริเวณระเบียงนี้มีหลังคายื่นออกมาคลุมพื้นที่ส่วนนี้ทั้งหมด ไม่โดนแดดและฝน ราวกันตกได้เป็นกระจกพร้อมมือจับแบบไม้ ส่วนพื้นที่ได้เป็นพื้นทรายล้างล้อมรอบกระเบื้องด้านใน บริเวณทรายล้างนี้ช่วยในเรื่องกันลื่นได้ดีเลยค่ะ
กลับเข้ามาส่วนพื้นที่นั่งเล่นกันต่อนะคะ
จากพื้นที่นั่งเล่น จะมีขั้นบันไดขึ้นไปยังส่วนพื้นที่รับประทานอาหารนะคะ เพราะจะอยู่ติดกับครัวหลักในชั้น 1 นี้เลย สังเกตว่าบ้านหลังนี้มีขั้นบันไดหรือการเล่นระดับบ้านค่อนข้างมากกว่าบ้านแบบแรกพอสมควรนะคะ การเล่นระดับบ้านนี้ช่วยให้สามารถแบ่งพื้นที่ภายในบ้านได้เป็นสัดส่วนและชัดเจนากขึ้นได้ โดยไม่ต้องใช้ผนังมากั้นเพื่อแยกพื้นที่การใช้งานออกจากกันนะคะ แต่ก็เหมาะกับครอบครัวที่ไม่ได้มีผู้สูงอายุที่เดินลำบากแล้วนะคะ
ขึ้นมาแล้ว บริเวณนี้ทั้งหมดเลยไปถึงด้านหลังด้วยเค้าออกแบบให้เป็นพื้นที่รับประทานอาหารทั้งหมด ซึ่งสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 8-10 ที่นั่งได้เลยนะ แต่หากครอบครัวไหนมีจำนวนสมาชิกไม่มาก ก็สามารถกั้นพื้นที่รับประทานอาหารออกมาเหมือนบ้านตัวอย่างได้นะ เช่นทำพื้นที่ส่วนนี้เป็นพื้นที่นั่งเล่นอีกจุด หรือเป็นพื้นที่อเนกประสงค์อื่นๆ ก็ได้ตามไลฟ์สไตล์ลูกบ้านเลยค่ะ
ฝั่งด้านในติดกับพื้นที่รับประทานอาหารจะเป็นส่วน Pantrt เตรียมอาหารนะคะ
ซึ่งส่วนนี้สามารถทำเป็น Pantry ล้างจาน เตรียมอาหารเบาๆ และทำเคาน์เตอร์นั่งกินข้าวเบาๆ ได้ หรือเรียกว่าเป็น Breakfast Counter
ถัดมาเป็นส่วนครัวไทยนะคะ ซึ่งจะลดระดับพื้นลงมาเล็กน้อยและมีประตูบานเลื่อนปิดให้ เพื่อที่จะสามารถทำอาหารหนักได้
มีหน้าต่างให้ 2 จุดเพื่อระบายความชื้นและอากาศภายในครัว
บริเวณ Sink ล้างจานติดหน้าต่างแบบบานเกร็ดให้เพื่อช่วยระบายความชื้นได้ดีมากขึ้น
ออกมาจะเป็นส่วนพื้นที่ซักล้างและห้องแม่บ้านนะคะ
ลานซักล้างให้เป็นพื้นคอนกรีตปกติ
ภายนอกติดกับสวนหลังบ้านค่ะ ในชั้นล่างก็ติดคอมเพรสเซอร์ตรงหลังบ้านแบบนี้เลย
อีกฝั่งมีก็อกสนามให้และตำแหน่งปั๊มน้ำจะอยู่บริเวณนี้ค่ะ
ซ้ายมือจะเป็นประตูห้องครัวที่เราออกมาเมื่อสักครู่นี้ ส่วนประตูตรงกลางเป็นห้องนอนแม่บ้าน และขวามือเป็นห้องน้ำของแม่บ้านค่ะ
ภายในห้องนอนแม่บ้าน มีหน้าต่างบานเลื่อนให้สำหรับระบายอากาศได้
ประตูห้องได้เป็นมือจับแบบโยก
ภายในห้องน้ำทำออกมาได้ดีนะคะ แม้ไม่ได้กั้นส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้
ส่วนอ่างล้างมือพร้อมกระจกเงา
ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์และพื้นที่อาบน้ำที่จะอยู่ติดกันเลย
ฝักบัวแบบสายอ่อนพร้อมกับที่วางสบู่ด้านข้าง
พื้นที่โถสุขภัณฑ์ขนาดกระทัดรัดแต่ไม่ถึงกับอึดอัดนะ
กลับมาที่ส่วนรับประทานอาหารกันอีกรอบนะคะ
พื้นที่รับประทานอาหารส่วนด้านในนั้นแม้จะถูกกั้นพื้นที่ไปแล้วก็ยังสามารถจัดชุดที่นั่งได้ถึง 6 ที่นั่งเลยทีเดียวค่ะ
มุมนี้ได้ประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ถึง 2 ฝั่งทำให้พื้นที่ดูโปร่งโล่งและลมพัดผ่านได้ดีเลย
ด้านหน้าบ้านได้ส่วนระเบียงด้วย
ขนาดระเบียงกะทัดรัด เหมาะกับออกไปชมวิวมากกว่าจะนั่งเล่นได้นะคะ
กลับเข้ามาบริเวณพื้นที่รับประทานอาหารอีกรอบ
ติดกับพื้นที่รับประทานอาหารนั้นจะเป็นส่วนห้องน้ำชั้น 1 และโถงบันไดขึ้นไปยังชั้น 2 ค่ะ
ภายในห้องน้ำชั้น 1 นี้จะได้พื้นที่อาบน้ำด้วยนะคะ ซึ่งเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกับชั้น Foyer ด้านล่างด้วย
พร้อมฉากกั้นกระจกแยกส่วนเปียกและแห้งมาเรียบร้อยเลย
โถสุขภัณฑ์ใช้ American Standard เช่นเดียวกับทุกห้อง ส่วนพื้นที่โดยรอบโถสุขภัณฑ์นั้นมีความกว้างกำลังดี ทำให้เวลานั่งไม่อึดอัดมากนัก
บนฝาโถสุขภัณฑ์มีปุ่มกดน้ำแบบแยก 2 ปุ่มให้
มาที่โถงบันไดกันต่อนะคะ ด้านล่างโถงบันไดมีห้องเก็บของใต้บันไดให้เพื่อที่จะได้ใช้พื้นที่ใช้สอยภายในได้คุ้มค่ามากที่สุด
บริเวณโถงบันได ได้กระจกและหน้าต่างบานกระทุ้งขนาดใหญ่ทีเดียวสามารถระบายอากาศภายในบ้านได้ รวมทั้งยังไม่ต้องเปิดไฟบริเวณโถงในช่วงกลางวันด้วยนะ เพราะแสงสว่างภายนอกส่องเข้ามาได้ดีมากเลย ส่วนชานพักบันไดในชั้นนี้จะไม่ได้ชานพักแบบเต็มพื้นที่นะ มีแบ่งเป็นขั้นบันไดสามเหลี่ยมอยู่ด้วย เนื่องจากฝ้าเพดานในแต่ละชั้นที่ให้มาค่อนข้างสูง ทำให้ต้องทำขั้นบันไดเพิ่มขึ้นมา
บ้าน BISMARCKIA : ชั้น 2
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็นชั้นที่มีห้องนอน 3 ห้อง และพื้นที่นั่งเล่นแบบ Out door นะคะ เดี๋ยวเราไปดูกันค่ะ
เมื่อขึ้นมาแล้วจะมีทางเดินหรือ Corridor แจกไปยังห้องต่างๆ ซึ่งการทำทางเดินของเค้าก็ไม่ได้ดูเหมือนบ้านปกติทั่วไปนะ เค้ามีการเปิดพื้นที่ด้านนึงให้โล่ง และทำเป็นเหมือนทางเดินลอยค่ะ
บริเวณนี้จะเปิดเป็น Double Volumn ดูโปร่งโล่งดีทีเดียวค่ะ พร้อมกับให้กระจกบานใหญ่ทำให้แสงสว่างส่องเข้ามาได้ดี
มองลงไปด้านล่างเราจะเห็นพื้นที่รับประทานอาหาร, พื้นที่นั่งเล่นของชั้น 1 และทางเข้าบ้าน
เข้ามาดูห้อง Master Bedroom ก่อนนะคะ เป็นห้องที่อยู่ตำแหน่งหน้าบ้าน และได้ห้องขนาดใหญ่ทีเดียว ว่าเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบาย
อีกมุมบริเวณเตียงนอนซึ่งติดกับระเบียงหน้าบ้าน ได้ประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่
อีกมุมนึงของบริเวณเตียงนอน
ด้านข้างมีพื้นที่กว้างพอสมควรเลยทำให้สามารถวางชุดโซฟาหรือโต๊ะทำงานด้านข้างได้
ประตูบานเลื่อนเป็นแบบ 4 ตอน เปิดออกตรงกลางทั้ง 2 ด้าน
ได้ระเบียงค่อนข้างยาวทีเดียวค่ะ และเข้ามุมด้วยทำให้ได้วิวในมุมกว้าง
อีกฝั่งเชื่อมกับพื้นที่นั่งเล่น Outdoor ที่อยู่ตรงกลางบ้าน
บริเวณพื้นที่นั่งเล่น Outdoor นี้ได้ขนาดพื้นที่มากพอสมควรเลยนะคะ สามารถวางชุดที่นั่งแบบ Outdoor ขนาดใหญ่ได้เลย จัดเป็นพื้นที่ Hangout ของครอบครัวอีกจุดนึง ให้มาปาร์ตี้ ปิ้งย่างบาร์บีคิวช่วงเย็น-ดึก เพลินๆ ได้เลย หรือครอบครัวไหนชอบตื่นเช้าชมวิวภูเขาก็มาจิบกาแฟที่มุมนี้ก็ได้บรรยากาศดีไปอีกแบบเช่นกันนะ
วิวที่ได้จากพื้นที่ Outdoor
บริเวณพื้นที่ Outdoor นี้จะมีทางเชื่อมเข้ากับห้องนอนกลางด้วยนะคะ
ด้านข้างของส่วนพื้นที่ Outdoor นี้จะมีมุมที่เซตผนังเข้าไปเล็กน้อย สามารถทำส่วน Pantry เตรียมอาหารและเครื่องดื่มได้นะ
กลับเข้ามาส่วนภายในห้อง Master Bedroom กันอีกรอบนะคะ ที่ถัดจากโซนเตียงนอนแล้วจะเป็นส่วน Walk in Closet
ภายในส่วน Walk in Closet สามารถวางหรือ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้ 2 ตู้พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง 1 ตัวตรงกลาง
ติดกับ Walk in Closet เป็นห้องน้ำในห้อง Master Bedroom ค่ะ
ภายในห้องน้ำแบ่งออกเป็น 3 โซน ชัดเจน ด้านขวาเป็นพื้นที่อาบน้ำแบบ Shower ตรงกลางจัดให้เป็นอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ ส่วนฝั่งซ้ายนั้นมีอ่างอาบน้ำให้ค่ะ
บริเวณพื้นที่อาบน้ำได้ฉากกั้นกระจกกันน้ำกระเด็นออกมาส่วนแห้งได้ดี
ติดกับพื้นที่อาบน้ำนั้นจะมี Pocket Garden เล็กๆ ให้ซึ่งสามารถตกแต่งโดยการวางต้นไม้ให้ดูสีเขียวร่มรื่นได้เหมือนบ้านตัวอย่างเลยค่ะ แนะนำว่าไม่ควรเลือกต้นไม้ที่ชอบแดดมากนักนะคะ เพราะตำแหน่งนี้ไม่ค่อยโดนแดดเสียเท่าไหร่ เนื่องจากเค้าทำระแนงบังสายตาส่วนนี้อยู่ เพื่อให้ไม่ให้ภายนอกสามารถมองเห็นเข้ามาภายในห้องน้ำได้นั่นเอง
ขนาดพื้นที่ Pocket Garden นี้ไม่ใหญ่มากค่ะ วางต้นไม้ได้ประมาณ 1-2 กระถาง สำหรับต้นไม้ไซส์กลาง
ถัดมาเป็นส่วนอ่างอาบน้ำนะคะ บริเวณนี้จะติดกับพื้นที่ภายในห้องนอนนะ เค้าทำให้เป็น Sexy Bathroom คือมีกระจกใสมองเห็นได้จากภายในห้องนอน ซึ่งเหมาะกับใช้งานแบบคู่รัก หากใครที่ชอบความเป็นส่วนตัวก็สามารถติดฟิล์มฝ้าได้นะคะ
สำหรับอ่างให้มาขนาดกำลังดี ไม่เล็กเกินไป นอนแช่ได้สบายๆ ค่ะ
มีฝักบัวสายอ่อนให้เรียบร้อย อ่างนี้จากยี่ห้อ American Standard
ด้านข้างได้หน้าต่างบานกระทุ้งสำหรับระบายอากาศและให้แสงสว่างเข้ามาได้ดี
ถัดมาดูห้องนอนเล็กกันบ้างนะคะ ค่อยไปดูห้องนอนกลางที่อยู่มุมในสุด
ภายในห้องนอนเล็กมีขนาดกะทัด สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้กำลังดีค่ะ และจะเหลือพื้นที่ข้างเตียงพอสมควรให้สามารถวางโต๊ะทำงานได้ แต่หากใครไม่ได้ต้องการโต๊ะทำงานในห้องนอนก็สามารถขยายเตียงเป็น 5 ฟุตได้นะคะ
บริเวณห้องเตียงได้หน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่พอสมควร
ปลายเตียงมีพื้นที่ไม่มากเท่าไหร่
บริเวณนี้เป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า
สุดทางจะแบ่งเป็นห้องนอนกลางและห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันระหว่างห้องนอนเล็กและห้องนอนกลาง
ภายในห้องนอนกลางค่อนข้างใหญ่กว่าห้องนอนเล็กพอสมควรเลยค่ะ และได้ประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่มองวิวได้ดีเลย
โซนเตียงนอนสามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้สบาย
ได้หน้าต่างเยอะทีเดียวค่ะ
ประตูบานเลื่อนนี้จะเชื่อมกับระเบียงห้องและพื้นที่นั่งเล่น Outdoor ตรงกลางที่เชื่อมกับห้อง Master Bedroom ด้วย
ทางเชื่อมกับส่วนพื้นที่นั่งเล่น Outdoor
ส่วนห้องน้ำชั้น 2 นี้มีตำแหน่งและการจัดวางผัง รวมไปถึงสเป็คของสุขภัณฑ์เหมือนกับห้องน้ำชั้น 1 เลยค่ะ
:::: ราคา (ม.ค.61) ::::
**ข้อมูลราคาและ โปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และข้อมูลที่อัปเดตที่สุดค่ะ
:::: สรุป ::::
• ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ The Palm กะทู้-ป่าตอง เป็นโครงการภายใน Pruksa Avenue กะทู้ ภูเก็ต ซึ่งตั้งอยู่บนบน ซอยบางทอง ซึ่งเป็นถนนเส้นรองจาก ถนน ภก.4020(วิชิตสงคราม) ค่ะ โดย Pruksa Avenue แห่งนี้ ประกอบด้วยโครงการในเครือพฤกษา อยู่ทั้งหมด 5 โครงการด้วยกันค่ะ โดยโครงการของเรา เป็นโครงการที่ราคาสูงที่สุด ด้วยดีไซน์และทำเลที่ได้วิวธรรมชาติ ภูเขาด้านหลังโครงการมากที่สุด
ตัวโครงการตั้งอยู่บน ซ.บางทอง ซึ่งนับว่าเป็นย่านอยู่ในย่านที่อยู่อาศัยที่ไม่ไกลจากตัวเมือง อ.กะทู้ และสามารถเดินทางไปยังโซนตัวเมือง Central Festival ภูเก็ต , หาดป่าตอง หรือตัวเมืองเก่าภูเก็ตได้ในระยะประมาณ 5 กม. เท่าๆกัน และ ซ.บางทอง นั้นเองเป็นถนนเส้นรองจาก ถ.ภก.4020 หรือ ถ.วิชิตสงคราม และไม่ไกลจากแยกกะทู้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ รร.กะทู้วิทยา , ที่ว่าการ อ.กะทู้, ตลาดสดกะทู้ และแยกเก็ตโฮ่ จากโครงการหากวิ่งถนน 4020 ไปทางทิศตะวันออก ก็จะเจอกับสนามกอล์ฟภูเก็ตคันทรีคลับ อยู่ตรงข้ามกัน และสามารถวิ่งเข้าไปยังอ่างเก็บน้ำบางวาดได้ อีกทั้งยังสามารถเดินทางเข้าอ.เมืองภูเก็ตได้ภายใน 10 นาที ซึ่งในอนาคตจะมีโครงการ Central ภูเก็ต เนื้อที่กว่า 300,000 ตร.ม. มาเปิดอีก 1-2 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ที่สุดในภูเก็ต ช่วยชูศักยภาพทำเลในละแวกใกล้เคียงได้เป็นอย่างดี
• การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว หลักๆจะใช้ถนนเส้น ภก.4020 (หรือถนนวิชิตสงคราม) ซึ่งถือว่าสะดวกสบายค่ะ เนื้องจาก อ.กะทู้ มีถนนเส้นหลัก ที่เชื่อมต่อกับถ.4020 คือ ถนนพระบารมี, ถนนพระภูเก็ตแก้ว สามารถเดินทางระหว่างตัวเมืองหาดป่าตอง-อ.เมืองภูเก็ต ได้ และใช้ถนน เฉลิมพระเกียรติ ร.9 หรือ ถ.ภก.3030 วิ่งไปโซนอ.เกาะแก้วได้อย่างรวดเร็วค่ะ ส่วนจากโครงการ หากต้องการวิ่งเข้าตัวเมืองภูเก็ต ก็สามารถใช้ ถนนวิชิตสงคราม วิ่งออกสู่ บริเวณแยก Central Festival ภูเก็ต และต่อออก ถ.พระเจ้าฟ้าตะวันตก หรือถนนสตูลได้เลย หรือ จะใช้ถนนพระภูเก็ตแก้ว วิ่งออก ถ.เยาวราช ก็สะดวกค่ะ ในอนาคตจะมีทางพิเศษกะทู้-ป่าตอง เป็นทางด่วนเก็บค่าผ่านทาง แต่จะทำให้การเดินทางสะดวกสบายและรวดเร็วยิ่งขึ้นค่ะ
• การเดินทางโดยรถสาธารณะ การเดินทางด้วยรถสาธารณะของโครงการนี้อาจลำบากสักนิดนึงค่ะเนื่องจาก พื้นที่ตั้งของโครงการอยู่ลึกในสุดของ Pruksa Avenue เลย ต้องเดินออกไปที่ซอยบางทองประมาณ 680 เมตร และเดินต่อไปอีก 100 เมตร จะถึง ถ.4020(วิชิตสงคราม) ที่จะมีรถสองแถววิ่งในช่วงกลางวันประมาณ 7.30-17.00 เท่านั้น หากต้องการเดินทางในเวลากลางคืนคงจะเหมาะกับการใช้รถยนต์ส่วนตัว, รถจักรยานยนต์เสียมากกว่านะคะ
• การออกแบบโครงการและวัสดุ โครงการ The Palm กะทู้-ป่าตอง เป็นโครงการบ้านเดี่ยว สไตล์ Modern Luxury จำนวน 120 ยูนิต บนพื้นที่ขนาดประมาณ 39 ไร่ค่ะ ซึ่งเป็นโครงการที่การวางผังจะเรียงตามแนวของเชิงเขา ทำให้บ้านทุกหลังจะได้วิวธรรมชาติของภูเขาค่ะ โดยแบบบ้านทั้งหมดจะมีทั้งหมด 5 แบบด้วยกัน โดยแต่ละแบบจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ตั้งของที่ดิน ว่าจะไปตั้งบนส่วนไหนของทางลาดเชิงเขาบ้าง ประกอบด้วยแบบที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้ว 3 แบบ และแบบใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว อีก 2 แบบค่ะ โดยหลังเล็กที่สุด จะเป็นแบบใหม่ที่ยังไม่มีบ้านตัวอย่าง ก็คือบ้าน BUTIA(179 ตร.ม.) รองลงมาก็จะเป็นบ้าน ROYSTEONIA (222 ตร.ม.) ซึ่งสูง 2 ชั้น ส่วนอีกสามแบบ DYPSIS พื้นทีใช้สอย 230 ตร.ม. ส่วน LICUALA, และ BISMARCKIA นั้น พื้นที่ใช้สอยเท่ากันที่ 292 ตร.ม. แต่จะเป็นบ้านสูง 2 ชั้นพร้อม Sky Deck ที่สามารถนั่งพักผ่อนชมวิวบริเวณดาดฟ้าของบ้านได้ บ้านทุกหลังจะแตกต่างกันที่ Function พื้นที่ใช้สอยค่ะ ซึ่งก็แล้วแต่ลูกค้าว่าชอบฟังก์ชั่นแบบไหน แต่ที่เหมือนกันคือเน้นความโปร่งโล่งและเปิดมุมมองให้เห็นวิวธรรมชาติที่ล้อมรอบโครงการด้วยหน้าต่างกระจกบานใหญ่ วัสดุที่ได้อยู่ในระดับมาตรฐาน-ดีมาก
• สิ่งอำนวยความสะดวกและระบบรักษาความปลอดภัย สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ จะเป็นสวนสาธารณะสวยงามทอดยาวจากป้อมยามจนถึงกลางโครงการค่ะ มีการจัด Landscape ที่สวยงามพร้อม Jogging Track ศาลาพักผ่อนในร่มขนาดใหญ่ และสนามเด็กเล่น ที่ลงต้นไม้สวยงามให้ร่มเงา ส่วนอาคารคลับเฮ้าส์ จะเป็นอาคารส่วนกลางที่ใช้ร่วมกับโครงการทั้งหมดภายใน Pruksa Avenue กะทู้ ภูเก็ตจำนวน 5 โครงการด้วยกันค่ะ ประกอบด้วยสระว่ายน้ำริมบ่อน้ำที่ให้ความรู้สึก เหมือนว่ายน้ำสระใหญ่ๆ และฟิตเนสที่มีเครื่องเล่นครบครันค่ะ แต่ข้อดีคือ ตำแหน่งที่ตั้งของคลับเฮ้าส์ นั้นอยู่ด้านหน้าโครงการเราพอดีเลย เดินออกไป 30 เมตรก็ถึงแล้วค่ะ
:::: คะแนน ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 7.8 | โครงการตั้งอยู่ในโซนที่อยู่อาศัย อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ที่อยู่ห่างจากแยกกะทู้ 1.7 กม. ที่มีสาธารณูปโภคครบครัน |
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว | 7.5 | เดินทางสะดวกเข้า-ออกตัวเมืองหาดป่าตอง, อ.เมืองภูเก็ต ด้วยถนนพระบารมี-ถนนภูเก็ตแก้ว มีเส้นทางลัดวิ่งสู่อ.เกาะแก้ว และเพียง 10 นาทีก็สามารถวิ่งสู่ Central Festival ภูเก็ตได้ |
การเดินทางโดยรถสาธารณะ | 6.8 | มีรถสาธารณะวิ่งที่ถนนหลักเท่านั้น คือรถสองแถว ที่วิ่งเฉพาะตอนกลางวัน อีกทั้งโครงการอยู่ลึกจากปากซอยพฤกษา อเวนิวถึง 680 เมตร จึงเหมาะกับผู้มีรถยนต์ส่วนตัว หรือมอเตอร์ไซค์มากกว่าค่ะ |
บ้านและวัสดุ | 9 | เป็นแบรนด์บ้านดีไซน์ Modern Luxury ของพฤกษา ที่มีฟังก์ชั่นให้เลือกมาก สไตล์บ้านพักตากอากาศที่มี Sky Deck และหน้าต่างบานใหญ่เปิดมุมมองธรรมชาติ วัสดุที่ได้ เป็นวัสดุมาตรฐาน-ดีมากปนๆกันไป จะได้ในเรื่องของดีไซน์ ฟังก์ชั่น และหน้าตาที่สวยงามของบ้านค่ะ |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 7.8 | สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สวนสาธารณะขนาดใหญ่ คลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่ ฟิตเนสเครื่องเล่นครบครันบรรยากาศดี แต่ข้อเสียคือเป็นคลับเฮ้าส์รวมของ Pruksa Avenue เรื่องความเป็นส่วนตัวคงจะลดลงหน่อยค่ะ |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8 | โครงการเหมาะกับผู้ที่ต้องการหาบ้านพักตากอากาศวิวภูเขา หรือต้องการขยายครอบครัว อยู่ได้ 5-8 คนขึ้นไป บรรยากาศดีและเงียบสงบ ไม่ไกลจากอ.เมืองกะทู้ เดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวก |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.81 | ดีมาก |
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
TEL : 1739
SALES OFFICE : 076-319-496 (9.00-18.00 น.)
WEBSITE : http://thepalm.pruksa.com
หากท่านเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
แสดงความคิดเห็น