EP.723 รีวิว เดอะ แพลนท์ รังสิต – คลอง 2 THE PLANT RANGSIT – KLONG 2 บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ติดถนนคลอง 2
สวัสดีผู้อ่านชาว HOMENAYOO ทุกคนค่ะ วันนี้ทีมงานเราจะขอพาชมโครงการ The Plant รังสิต – คลอง 2 จาก พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) โครงการมีให้เลือกทั้งบ้านเดี่ยว และบ้านแฝด บนถนนคลอง 2 หรือซอยรังสิต – นครนายก 31 ใกล้ถนนรังสิต – นครนายก สามารถเชื่อมต่อสู่ถนนพหลโยธิน, ถนนกาญจนาภิเษกได้
ภายในโครงการ บรรยากาศสงบร่มรื่น พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน (คลับเฮ้าส์, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, สวนสาธารณะ และสนามเด็กเล่น) ในราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท
สำหรับรายละเอียดโครงการจะเป็นอย่างไรนั้น ติดตามอ่านกันต่อด้านล่างได้เลยค่ะ 🙂
ชื่อโครงการ | เดอะ แพลนท์ รังสิต-คลอง 2 The Plant Rangsit-Klong 2 |
เจ้าของโครงการ | บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) Pruksa |
ลักษณะโครงการ | บ้านเดี่ยว 2 ชั้น บ้านแฝด 2 ชั้น |
พื้นที่โครงการ | 31 – 3 – 38.4 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 222 ยูนิต |
พื้นที่ใช้สอย | เริ่มต้น 125-135 ตร.ม. |
เนื้อที่บ้าน | เริ่มต้น 25 ตร.วา. ขึ้นไป |
จำนวนห้อง | 3 ห้องนอน, 1 ห้องอเนกประสงค์, 2 ห้องน้ำ |
ที่จอดรถทั้งหมด | 2 คัน |
โซน | ปทุมธานี |
ขนส่งสาธารณะ | – ใกล้ทางยกระดับโทลล์เวย์ – ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง |
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ถนนคลอง 2 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี |
กำหนดการ | เปิดจอง 10-11 ก.ย. 2559 |
ปีที่สร้างเสร็จ | รอข้อมูลจากโครงการ |
ราคา | เริ่ม 2.39 ล้านบาท |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | ค่าส่วนกลาง 31 บาท/ตร.วา |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | The Plant รังสิต-คลอง 2 อิสระ..ใหม่ของการอยู่อาศัยที่เหนือกว่า ใช้ชีวิตกับพื้นที่สร้างสรรค์และการออกแบบที่ผู้อยู่อาศัยได้รับประโยชน์ เป็นพลังในการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่…พื้นที่จำกัดแต่ไม่จำกัดคุณภาพชีวิตที่ดี เริ่ม 2.39 ลบ. |
โครงการใกล้เคียง
ที่ตั้งโครงการ
ถนนคลอง 2 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
คลิกที่รูป เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่
ถ้าเรามองทำเลในวงกว้าง ตัวโครงการจะถือว่าอยู่ในโซน รังสิต ที่ถือว่าเป็นทำเลชานเมือง อยู่ในเขตปริมณฑลแล้วค่ะ แต่ทำเลแถบนี้ยังมีความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้างค่อนข้างสูง ทั้งใกล้แหล่งสถานศึกษาหลายแห่ง เช่น ม.ธรรมศาสตร์, ม.รังสิต มีแหล่งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ และยังเป็นพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม จึงทำให้มีประชากรอยู่โซนนี้เยอะมาก ทั้งนักเรียน นักศึกษาและพนักงาน และเหมาะมากสำหรับใครที่มีความจำเป็นต้องเข้าและออกเมืองบ่อยๆ เพราะเป็นเส้นทางที่สามารถออกสู่ทางภาคเหนือและภาคอีสานได้
สำหรับในด้านการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ก็มีความน่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะพื้นที่ที่เกาะถนนรังสิต – นครนายก ตั้งแต่คลองหนึ่งจนถึงคลองเจ็ด โดยพื้นที่เริ่มตั้งแต่บริเวณตลาดรังสิต ยาวไปจนถึงคลองเจ็ด จะมีการพัฒนาในด้านที่อยู่อาศัยมาอย่างต่อเนื่องในระยะหลายปีที่ผ่านมา เห็นได้จากจำนวนโครงการหมู่บ้านจัดสรรในแถบนี้ที่จะมีมากมายหลายโครงการ โดยถ้าเทียบจำนวนโครงการที่ติดถนนรังสิต – นครนายก ฝั่งเหนือกับฝั่งใต้ จะเห็นได้ชัดว่าทางฝั่งใต้จะมีจำนวนโครงการหมู่บ้านจัดสรรขึ้นเยอะกว่าทางฝั่งเหนือ เนื่องจากที่ดินทางฝั่งใต้จะมีราคาต่ำกว่านั่นเองค่ะ โดยตัวโครงการ The Plant รังสิต – คลอง 2 ที่เราจะไปดูกันในวันนี้จะอยู่บนพื้นที่ทางฝั่งเหนือค่ะ
การเดินทางที่สะดวกที่สุด สำหรับโครงการในตอนนี้ จะเป็นการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว เนื่องจากโครงการอยู่ในซอยที่ไม่มีรถประจำทางหรือสองแถววิ่งผ่านค่ะ โดยการเข้าถึงตัวโครงการถ้ามาจากในเมืองจะต้องวิ่งเข้าถนนรังสิต – นครนายกก่อน แล้วจึงเลี้ยวเข้าถนนคลองสอง โดยตัวถนนรังสิต – นครนายก จะสามารถเข้าได้จากทั้งถนนวิภาวดี, ถนนพหลโยธิน, ทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ และทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษก นอกจากนั้นบนถนนเส้นนี้ยังมีซอยเล็กซอยน้อยให้ลัดเลาะหนีรถติดได้หลายเส้นทาง เช่น ถนนลำลูกกา 11 ที่สามารถใช้ลัดไปถนนลำลูกกา สายไหมได้
เพราะฉะนั้นการใช้ถนนเส้นหลักของโครงการก็จะขออิงเส้นรังสิต – นครนายกค่ะ โดยถนนเส้นนี้จะสามารถเชื่อมไปยังถนนเส้นหลักเส้นอื่นๆ สะดวกทั้งเข้าและออกเมือง แต่เนื่องจากย่านนี้มีความอุดมสมบูรณ์สูง มหาลัยเยอะ ใกล้ห้างใหญ่ ใกล้นิคม การจราจรจึงค่อนข้างหนาแน่น จนอาจจะถึงหนาแน่นมากในช่วงเวลาเร่งด่วน โดยถนนเส้นหลักๆที่สามารถวิ่งไปเชื่อมต่อได้จะมีดังนี้
ส่วนใครที่ต้องออกนอกเมืองบ่อยๆก็ค่อนข้างสะดวก สามารถขับขึ้นไปทางเหนือจะไปเชื่อมกับถนนคลองหลวง อยุธยา ขับไปทางตะวันออกไปนครนายก, ฉะเชิงเทราได้
การเดินทางด้วยรถสาธารณะในปัจจุบันยังไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ เพราะตัวโครงการอยู่ลึกเข้าไปในซอยประมาณ 2.3 กม. และไม่มีรถสาธารณะเช่นรถเมล์, สองแถว หรือวินมอเตอร์ไซค์ ที่พอจะมีวิ่งผ่านมาบ้างก็จะเป็น Taxi ค่ะ แต่ก็มาไม่ค่อยถี่นัก เมื่อออกมาถึงถนนใหญ่แล้วก็จะมีป้ายรถเมล์ ที่อยู่ห่างจากปากซอยประมาณ 270 เมตร พอจะเดินได้ หรือให้พี่ Taxi เค้าขับมาส่งใกล้ๆป้ายเลยก็ได้ โดยจะมีรถเมล์สาย 187, 188, 523, 538 ค่ะ
สำหรับการเดินทาง ทางเลือกอีกทางคือจะมีท่ารถตู้ในฟิวเจอร์พาร์ครังสิต เป็นคิวขนาดใหญ่ มีวิ่งไปปลายทางหลายที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สะดวกพอสมควร
ส่วนในอนาคต การเดินทางด้วยรถสาธารณะจะสะดวกสบายขึ้น โดยจะมี รถไฟฟ้าสายสีแดง (ช่วงบางซื่อ-รังสิต) ซึ่งกำลังก่อสร้างอยู่ปัจจุบัน โดยใช้บางส่วนของตอม่อโฮปเวลเดิม สถานีใกล้ที่สุดคือ สถานีรังสิต ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2561 ซึ่งจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า สายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน
และในอนาคต หากรถไฟฟ้า Airport Link สร้างมาถึงสนามบินดอนเมืองก็สามารถเปลี่ยนรถ ที่ดอนเมือง ไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้ และสถานี Interchage ในอนาคตอีกสถานีนึงนั่นก็คือ สถานีหลักสี่ ค่ะ ซึ่งสามารถเปลี่ยนไป รถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วงแคราย-มีนบุรี) และ Airport Link ในอนาคต ชื่อสถานีหลักสี่เหมือนกัน คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2563-2564
ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบ ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินของโครงการไม่มี ทำเลนี้เน้นขับรถเป็นส่วนใหญ่เลย โดยถ้าออกมาหน้าปากซอยจะมีตลาดนัดพระรูป เป็นตลาดขนาดใหญ่ มีทั้งของสด ของใช้ขาย, 7 – 11, ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ หลายร้าน รวมไปถึง Tesco Lotus Express, Mini Big C ถือว่าอุดมสมบูรณ์สำหรับการใช้ชีวิตประจำวันมากๆ
ขยับมาดูบนเส้นติดถนนรังสิต – นครนายก ฝั่งมุ่งหน้านครนายกกันบ้าง ทางนี้ก็จะมีของกินเยอะเหมือนกันค่ะ โดยที่เด่นๆ ใครขับผ่านก็ต้องเห็น จะเป็นซุ้มร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ที่ทำร้านออกเป็นรูปทรงเรือ ลอยบนน้ำกันแบบจริงๆ มีหลายร้านให้เลือกแวะทาน แต่จะอยู่ทางติดถนนฝั่งใต้ ซึ่งถ้าเราออกมาจากโครงการก็ต้องกลับรถก่อนค่ะ และเส้นทางนี้ยังเป็นที่ตั้งของสวนสนุกชื่อดังมานานอย่าง Dream World นอกจากนั้นจะมีสถานศึกษาค่อ ม.นอร์ทกรุงเทพ, รร.โชคชัยรังสิต ส่วน Hyper Market จะมี Tesco Lotus Express สถานพยาบาลก็จะมี รพ.เอกปทุมค่ะ
ส่วนความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้างที่เด่นที่สุดของย่านนี้เลยจะเป็นห้างใหญ่ Future Park รังสิต ซึ่งภายในพื้นที่ใหญ่จะมีรวมทั้งโรบินสัน และมีห้างใหม่คือ Zpell ในเครือ Future Park พ่วงมาด้วย โดยการเดินทางไปห้างจากโครงการจะต้องอาศัยขับรถไปค่ะ จากโครงการถึงห้างมีระยะทางประมาณ 7.6 กม. ส่วนความอุดมสมบูรณ์อื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียงกับห้าง Future Park รังสิต ก็จะมีตลาดรังสิต, Tesco Lotus, Major Cineplex รังสิต, รพ.ปทุมเวช, และสถานศึกษาคือ ม.เทคโนโลยีราชมงคลศูนย์รังสิต
และถ้าใช้เส้นพหลฯลงมาก็จะเจอเซียร์รังสิต, ตลาดสี่มุมเมือง และที่เด่นเลยจะเป็นสนามบินดอนเมือง ถ้าวิ่งเส้นนี้ยาวเข้าเมืองก็จะไปถึงลาดพร้าว จตุจักร ที่มีทั้งห้างและตลาดนัดจตุจักรให้เลือกเดินเยอะแยะ
การเดินทาง
การเดินทางวันนี้เราจะเริ่มต้นกันบนถนนวิภาวดีรังสิต ใต้ทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์วิ่งขึ้นเหนือต่อไปยังถนนพหลโยธิน ขับตามทางไปเรื่อยๆ ออกซ้ายที่แยกทางด่วนต่างระดับรังสิตเพื่อกลับรถเข้าถนนรังสิต – นครนายก พอพ้นแยกทางต่างระดับรังสิต ขับตรงมาเรื่อยๆ สังเกตศูนย์รถยนต์นิสสันทางซ้ายมือ ลงจากสะพานข้ามคลองสองให้ชิดซ้าย เลี้ยวซ้ายเข้าถนนรองที่ทางเข้าแรก แล้วเลี้ยวซ้ายอีกครั้ง ขับตามทางเลี้ยวขวาเข้าซอยรังสิต – นครนายก 31 หรือถนนคลอง 2 ตรงไปประมาณ 2.1 กม. จะเห็นโครงการ โครงการ The Plant รังสิต – คลอง 2 อยู่ทางขวามือค่ะ
สรุปการเดินทาง ถนนวิภาวดีรังสิต (ใต้ด่วนดอนเมืองโทลเวย์) > ถนนพหลโยธิน > แยกทางต่างระดับรังสิต > ถนนรังสิต – นครนายก > สะพานข้ามคลองหนึ่ง > ถนนคลอง 2 > โครงการ The Plant รังสิต – คลอง 2
เริ่มต้นการเดินทางบนถนนวิภาวดีรังสิต ใต้ทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ ตลอกทางจะมีป้ายบอกเส้นทางให้วิ่งตรงไปดอนเมือง เราก็วิ่งตรงตาป้ายมาเรื่อยๆ ยาวๆ สักระยะหนึ่งก็จะเริ่มมีป้ายบอกเส้นทางไปรังสิต เราก็ขับตามป้ายไปเลยค่ะ
ผ่านสรามบินดอนเมืองทางขวา และสถานีรถไฟดอนเมืองทางซ้าย
ผ่านสนามบินดอนเมืองมาก็จะเจอป้ายบอกทางไปรังสิต ขับตรงตามทางไปค่ะ
ผ่านทางเบี่ยง จากจุดนี้เราสามารถออกซ้ายเพื่อไปสะพานใหม่ และลำลูกกาได้ แต่เรายังคงตรงตามป้ายรังสิตต่อไปค่ะ
ผ่านเซียร์รังสิตทางขวา และ BigC ทางซ้ายมือ ตอนนี้เราเข้าสู่ถนนพหลโยธินแล้วค่ะ
เรายังคงขับตามทางใต้ทางด่วนมาเรื่อยๆ จนเจอป้ายบอกทาง ไปนครนายก เห็นป้ายนี้เราก็ชิดซ้ายได้เลยค่ะ
ตรงมาอีกหน่อยจะเจอทางออก เบี่ยงซ้ายออกไปถนนนอกค่ะ
ออกมาถนนนอกแล้วเราชิดเลนขวาไว้ เพราะเราจะต้องวิ่งขึ้นสะพานข้ามคลองรังสิต และถนนเลียบคลองรังสิตไปค่ะ
ลวจากสะพานปุ๊ปเราก็จะเห็นป้ายบอกทางนครนายกต่อ เราตรงตามป้ายไปค่ะ
มาถึงแยกทางต่างระดับรังสิต เจอทางเบี่ยงซ้ายแรกให้เราขับผ่านไปก่อน เพราะเส้นนี้จะใช้วิ่งไปถนนรังสิต – ปทุมธานี
ตรงมาเราจะเจอทางเบี่ยงออกซ้ายถัดไป ให้เราเลี้ยวซ้ายขึ้นไปเลยค่ะ เส้นทางนี้จะพาเราวนไปออกเส้นรังสิต – นครนายก
ช่วงก่อนลงจากสะพานเราจะเห็นห้าง Future Park รังสิต ทางซ้ายมือ
ลงมาแล้วเราจะเห็น Major Cineplex ทางขวามือ
เราตรงตามทางมาเรื่อยๆ จากตรงนี้เราสามารถแวะเข้าไป Shopping ใน Future Park ได้ จะมีทางเข้าทางซ้ายมือค่ะ
ตรงมาเรื่อยๆ ผ่านโรงพยาบาลเปาโล รังสิต ทางซ้ายมือ เราขับตรงผ่านไปขึ้นสะพานข้ามคลองหนึ่ง
ขับตรงต่อมาเรื่อยๆผ่านปั๊มปตท.
และผ่านศูนย์ Nissan
จากตรงนี้เราก็จะเริ่มเห็นป้ายโฆษณาของโครงการแล้วค่ะ
เราขับตรงมาเรื่อยๆ ข้ามสะพานข้ามคลองสอง ให้ชิดซ้าย
เราจะเห็นป้ายบอกทางไปโครงการทางซ้ายมือ
เลี้ยวเข้าถนนรองเพื่อเข้าซอยรังสิต – นครนายก 31
เลี้ยวเข้ามาแล้วเราเลี้ยวซ้าย ขับตามทางมาเรื่อยๆ ผ่านตลาดและ 7-11 ทางขวามือ
ขับมาจนสุดทางเลี้ยวขวาเพื่อเข้าถนนคลอง 2
ขับเข้ามาในถนนคลอง 2 สะพานที่เราเห็นฝั่งซ้ายมือเป็นสะพานที่เชื่อมไปจนถึงซอยรังสิต – นครนายก 25 ได้
ชับเข้ามาในซอยสักพักเราจะผ่านเขตโรงเรียนอุดมวิทยา ตรงนี้ให้ชะลอความเร็วเพื่อระวังเด็กๆข้ามถนนด้วยค่ะ
ขับเข้ามาในซอยอีกเรื่อยๆ ผ่านโรงเรียนวัดแสงสรรค์
และวัดแสงสรรค์
เข้ามาเรื่อยๆเราจะเห็นป้ายบอกทางมาโครงการทางซ้ายมือ
ให้สังเกตหมู่บ้านพฤกษาวิลเลจ 12 ทางขวามือ เห็นแล้วให้เตรียมเลี้ยวขวาเข้าโครงการได้เลยค่ะ
ติดกับหมู่บ้านพฤกษาวิลเลจ 12 จะเป็นโครงการ The Plant รังสิต – คลอง 2 ค่าา
ถนนและแยกที่สำคัญรอบโครงการ
สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ
รอบๆโครงการ
สำหรับพื้นที่รอบรอบโครงการสภาพแวดล้อมโดยรวมจะมีความสงบค่อนข้างสูงถึงแม้ว่าช่วงต้นซอยจะมีความเป็นชุมชน มีทั้งวัดและโรงเรียน แต่เมื่อเข้ามาลึกในซอยจะมีเฉพาะที่อยู่อาศัยแนวราบและที่ดินเปล่าซะส่วนใหญ่ และเนื่องจากตัวถนนคลองสองจะเป็นถนนที่อยู่เลียบกับคลองซอย 2 ทำให้พื้นที่ที่สามารถใช้ก่อสร้างเป็นที่อยู่อาศัยจะมีเพียงด้านเดียวเท่านั้น โดยพื้นที่รอบรอบโครงการ
มาดูบรรยากาศรอบๆโครงการกันหน่อย ออกมาหน้าโครงการจะติดกับถนนคลอง 2 หรือซอยรังสิต – นครนายก 31
เราไปดูทางฝั่งขวามือกันก่อน
พื้นที่ทางฝั่งขวามือจะติดกับที่ดินเปล่า
มาดูพื้นที่ทางซ้ายมือกันบ้าง
ติดกับโครงการเลยจะเป็นหมู่บ้านพฤกษาวิลเลจ 12 คลอง 2 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว สูง 2 ชั้น
ตัวโครงการ
ลักษณะผังของโครงการจะเป็นแนวลึก หน้ากว้างแคบ มีทางเข้าออกเพียงทางเดียวคือทางเข้าหลักที่ติดกับถนนคลอง 2
เมื่อเข้ามาในโครงการจะต้องผ่านซุ้มทางเข้าหลัก มีป้อมรปภ. ตรงกลาง เมื่อเข้ามาด้านในโครงการจะเจอกับถนนหลักช่วงแรกกว้างประมาณ 14 – 16 เมตร และถนนที่เหลือในโครงการจะกว้าง 10 เมตร โดยบ้านส่วนใหญ่จะเป็นยูนิตที่ติดกับถนนหลักของโครงการ และจะมีเพียงยูนิตช่วงท้ายๆของโครงการเท่านั้นที่จะแยกเป็นซอยย่อยสั้นๆ ซึ่งแต่ละซอยจะมีความกว้างถนนประมาณ 9.1 เมตร ค่ะ
สำหรับส่วนกลางของโครงการจะมีสระว่ายน้ำระบบเกลือ, Fitness ตั้งอยู่เยื้องกับ Sale Office และสวนสาธารณะ ขนาด 1 ไร่ บริเวณกลางโครงการ สามารถให้ลูกบ้านทางฝั่งด้านหน้าและด้านหลังมาใช้งานกันได้สะดวกค่ะ ส่วนตัว Sale Office และบ้านตัวอย่างจะอยู่ฝั่งซ้ายมือ ช่วงต้นของโครงการ
สำหรับตอนนี้ตัวโครงการสร้างเสร็จไปแล้วบางส่วนโดยในวันที่เข้าไปเก็บข้อมูลจะมีเพียงบ้านตัวอย่างและ Sale Office เท่านั้นที่เสร็จเรียบร้อยพร้อมให้เข้าชม
เรามาดูของจริงกันบ้างค่ะเริ่มจากทางเข้าโครงการเป็นทางเข้าขนาดค่อนข้างใหญ่
ด้านหน้าจะมีสวนหย่อมและป้ายโครงการจัดไว้ให้แบบนี้ดูสวยค่ะ
สำหรับซุ้มทางเข้าหลักของโครงการจะแยกทางเข้าออกเป็น 2 ฝั่ง แต่ละฝั่งก็จะแยกเป็นทางเข้าของส่วน Residence และ Visitors ตรงกลางเป็นซุ้มรปภ. ที่จะคอยรักษาความปลอดภัยให้ตลอด 24 ชม.
โดยระบบรักษาความปลอดภัยของทางเข้าโครงการนี้จะใช้เป็นรั้วกั้นไม้กระดก คัดกรองลูกบ้านโดย Key Card Access ระยะใกล้
มีกล้องวงจรปิดฝั่งละ 1 ตัว
เมื่อเข้ามาในโครงการจะเจอถนนช่วงแรกกว้าง 16 เมตร
ฝั่งซ้ายมือจะเป็นตัวอาคาร Sale Office
ติดกันเป็นพื้นที่สวนหย่อม
ให้ดูหน้าตาโดยรวมของตัวอาคาร Sale Office ค่ะ
ด้านข้างอาคาร Sale Office สำหรับตัว Sale Office นี้ ในอนาคตจะขายเช่นกันค่ะ
เข้ามาดูด้านในบรรยากาศภายใน Sale Office จะมีจัดที่นั่งรองรับผู้เข้าชมโครงการไว้ให้หลายชุด
ด้านในก็จะเป็นเคาน์เตอร์ของเจ้าหน้าที่คอยให้ข้อมูล ทางซ้ายมือจะมีห้องน้ำให้บริการ
และฝั่งขวามือจะมีห้องรองรับรองแยกอีก 1 ห้อง
ภายในห้องรับรองจะมีชุดรับรองอีกหลายชุดค่ะ
กลับออกมาที่ถนนหลัก ช่วงถนนจะแคบลงเหลือ 14 เมตร
ฝั่งซ้ายมือจะเป็นบ้านตัวอย่างและบ้านมาตรฐานที่เอาไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างค่ะ
แบบบ้าน
แบบบ้านในโครงการมีแบบทาวน์โฮมและบ้านแฝด ซึ่งฟังก์ชั่นภายในตัวบ้านจะเหมือนกันทุกแบบ แตกต่างกันที่หน้าตาภายนอกและลักษณะการวางตัวบ้านเท่านั้นค่ะ
Duplex Vector บ้านแฝด หน้ากว้าง 7.5 เมตร 125 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 1 พื้นที่เอนกประสงค์ ลักษณะการวางตัวบ้านจะแยกออกจากกัน มีพื้นที่รอบบ้านเหลือให้จัดสวนได้ บ้านแบบนี้จะมีความเป็นส่วนตัวมากที่สุดในทั้ง 3 แบบค่ะ
Trend Modar พื้นที่ใช้สอย 125 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 1 พื้นที่เอนกประสงค์ ลักษณะการวางบ้านใช้ผนังร่วมกันเป็นคู่ๆ และมีพื้นที่ข้างบ้านเหลือหลังละด้าน
Trend Vector หน้ากว้าง 7.5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 125 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 1 พื้นที่เอนกประสงค์ ลักษณะการวางบ้านแยกแต่ละหลังออกจากกัน โดยจะมีส่วนเฉลียงที่ติดกับผนังของบ้านข้างเคียงค่ะ
บ้านตัวอย่าง
สำหรับวันที่ทีมงานไปเก็บข้อมูล ทางโครงการมีบ้านตัวอย่างที่เสร็จสมบูรณ์แล้วเพียงแบบเดียวคือบ้านแบบ Trend Vector ขนาด 125 ตารางเมตรฟังก์ชั่นภายใน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถและ 1 พื้นที่อเนกประสงค์
หน้าตาโดยรวมภายนอกสไตล์โมเดิร์น เรียบง่าย พื้นที่บนชั้น 2 จะตกแต่งด้วยระแนงแนวตั้งและเส้นเฉียง ส่วนระเบียงจะใช้เป็นราวเหล็กสีดำและกระจกนิรภัยสีเขียว สีโดยรวมของบ้านจะใช้เป็นสีขาวและสีน้ำตาลของไม้ดูกลมกลืนกันดีค่ะ
เราเข้ามาดูพื้นที่ของตัวบ้านของจริงกันต่อ โดยเริ่มจากรอบๆตัวบ้านนะคะ
พื้นที่หน้าบ้าน จะเป็นพื้นที่จอดรถขนาด 2 จอด
พื้นที่ข้างบ้านฝั่งซ้ายจะเห็นว่ามีช่องระบายอากาศบริเวณที่จอดรถ ลักษณะช่องมีตะแกรงเหล็กติดตั้งไว้ให้เพื่อความปลอดภัยระหว่างบ้าน
พื้นที่หลังบ้านจะเป็นส่วนของลานซักล้าง ของจริงจะได้รั้วกั้นระหว่างบ้าน สูง 2.6 เมตร
พื้นที่ข้างบ้านอีกฝั่งสำหรับบ้านแปลงมุมจะมีพื้นที่สวนข้างบ้านที่จะได้เฉลียงเป็นมาตรฐานทุกหลัง
โดยตัวเฉลียงที่ได้จะปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิค ขนาดเฉลียงกว้างประมาณ 1.8 x 30 เมตร
พื้นที่ลานซักล้างหลังบ้าน ของจริงจะได้เป็นพื้นซีเมนต์ จากพื้นตัวลานซักล้างจะเห็นว่ามีทางเข้าออกจากภายในตัวบ้าน 2 ทาง คือ ทางประตูบานเลื่อนที่ติดกับห้องทานอาหารและประตูบานมาตรฐานจากห้องครัว เหนือบานประตูจะได้ไฟมา 2 ดวง เป็นโคมติดผนังและหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์
ให้ดูพื้นที่บนชั้น 2 จะเห็นว่าไม่มีระเบียงสำหรับติดตั้งแอร์คอมเพรสเซอร์จึงต้องติดตั้งแบบลอยตัวอย่างในบ้านตัวอย่างค่ะ
กลับมาที่พื้นที่หน้าบ้าน จะเป็นประตูทางเข้าหลักของบ้านและช่องแสงของห้องนั่งเล่น
สำหรับประตูทางเข้าหลักที่เข้าไปในตัวบ้านมาตรฐาน จะได้เป็นบานสำเร็จ ไม่มีระบบ Automatic นะคะ
เมื่อเข้ามาด้านในตัวบ้านมุมมองที่เห็นจะแบ่งเป็นพื้นที่โถงบันไดทางซ้ายและห้องรับแขกทางขวา
พื้นชั้น 1 จะยกสูงขึ้นมาประมาณ 10 ซม. ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีครีมขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ความสูงฝ้าเพดาน 2.6 เมตร
เรามาดูส่วนห้องรับแขกกันก่อนค่ะ สำหรับพื้นที่ห้องรับแขกนี้จะยาวต่อเนื่องไปยังพื้นที่ทานอาหารในบ้านจริงจะได้เป็นบ้านเปล่าๆ และได้ช่องแสงตามแบบนี้เลยค่ะ
สำหรับพื้นที่ห้องรับแขกจะมีช่องแสงหลักทั้งหมด 3 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่เดี่ยว 2 ชุด ฝั่งหน้าบ้านและข้างบ้าน และตัวประตูทางเข้าหลักของบ้านค่ะ
สำหรับบานหน้าต่างที่ได้ในบ้านหลังนี้จะได้เป็นบานหน้าต่างอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง ตัวบานเป็นบานเลื่อนเดี่ยว
มือจับแบบเซาะร่องพร้อมตัวล็อคมาตรฐานและตัวล็อคแบบก้นหอยเพื่อเพิ่มความปลอดภัยค่ะ
และหน้าบานหน้าต่างฝั่งข้างบ้านก็จะได้เป็นบานเลื่อนเดี่ยวเช่นกัน บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง
พื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นจัดมาให้ดูเป็นโซฟาแบบเข้ามุมทำให้ได้จำนวนที่นั่งเพิ่มขึ้นมาจากการวางโซฟาแบบปกติได้ถึงประมาณ 5 – 6 ที่นั่งหรือถ้าใครไม่ชอบลักษณะโซฟาแบบเข้ามุมก็สามารถที่จะหาโซฟาตัวมาตรฐานมาวางได้ แต่จำนวนที่นั่งก็จะลดลง อาจจะได้ถึงประมาณ 3 – 4 ที่นั่งค่ะ
ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่สำหรับวางทีวี โดยในบ้านจริงจะเป็นผนังเปล่าด้านหลังเป็นพื้นที่โถงบันได ซึ่งสำหรับส่วนนี้เราสามารถเลือกได้ว่าจะ Built – in เป็นชั้นวางของสวยๆ แบบเต็มผนังหรือจะจัดบ้านแบบง่ายๆด้วยการวางโต๊ะวางทีวีและชั้นเก็บของใต้โต๊ะก็ได้ค่ะ
จากห้องรับแขกเรามาดูในส่วนของห้องทานอาหารกันต่อ โดยพื้นที่ส่วนห้องทานอาหารนี้ นอกจากช่องแสงธรรมชาติที่ได้รับมาจากบานหน้าต่างหน้าบ้านแล้ว ก็ยังมีประตูบานเลื่อนอีก 2 ชุด ฝั่งข้างบ้านและฝั่งหลังบ้าน โดยตัวบานมีลักษณะใหญ่ทำให้รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะ นอกจากนั้นยังสามารถที่จะเปิดเชื่อมออกไปยังเฉลียงข้างบ้านและพื้นที่ลานซักล้างหลังบ้านได้ ทำให้มีการใช้งานที่เชื่อมต่อกันสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศหรือสามารถเปิดเพื่อเชื่อมพื้นที่ในวันไหนที่มีปาร์ตี้เล็กๆข้างบ้านค่ะ
สำหรับพื้นที่ทานอาหารนี้ ทางโครงการจัดมาให้ดูเป็นตัวอย่าง โดยใช้โต๊ะกลมขนาด 4 ที่นั่ง ซึ่งจากภาพจะเห็นได้ว่ามีพื้นที่เหลือด้านข้างเยอะพอสมควร ฉะนั้นเราจึงสามารถที่จะเปลี่ยนโต๊ะทานอาหารเป็น ขนาด 5-6 ที่นั่ง ได้สบายๆค่ะ
จากห้องทานอาหารจะเชื่อมต่อไปยังส่วนของห้องครัว
พื้นที่ห้องครัวจะถูกแยกออกไว้เป็นสัดส่วนแต่ไม่ได้กันเป็นครัวปิดมาให้นะคะ ซึ่งในความเป็นจริงบ้านไหนที่ทำกับข้าวบ่อยๆก็แนะนำให้กั้นเป็นครัวปิด จะได้ลดกลิ่นอาหารที่จะฟุ้งเข้ามาติดผ้าม่านหรือโซฟาและส่วนอื่นของบ้านได้ค่ะ
สำหรับการจัดสรรพื้นที่ในครัวในบ้านจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆ แต่จะมีเดินท่อและระบบน้ำมาให้เรียบร้อยแล้ว
ถ้าเราจัดเคาน์เตอร์ครัวแบบในบ้านตัวอย่างจะเหลือพื้นที่สำหรับยืนทำอาหารประมาณ 90 ซม. พอให้ยืนได้สบายๆ
ในห้องครัวแต่มีหน้าต่างบานเลื่อนสำหรับระบายอากาศ 1 บาน เป็นหน้าต่างที่อยู่เหนือซิงค์ล้างจาน ตำแหน่งนี้เป็นจุดที่ช่วยรับแสงธรรมชาติเข้ามาในครัวเพื่อลดความชื้นและฆ่าเชื้อโรคบริเวณอ่างล้างจานได้ดีค่ะ
ภายในห้องครัวจะมีประตูเชื่อมออกไปยังลานซักล้างหลังบ้าน โดยบานประตูจะได้เป็นบานทึบ
มือจับก้านโยกพร้อมตัวล็อค
ออกมาพื้นที่ลานซักล้างหลังบ้านจะลดระดับลงไปประมาณ 10 ซม. พื้นที่ร้านซักล้างหลังบ้านเราสามารถที่จะตกแต่งเป็นพื้นที่สวนยอมเล็กๆมีโต๊ะทานกาแฟไว้สำหรับนั่งพักผ่อนในวันหยุดหรือใครที่ต้องการครัวขนาดใหญ่ก็สามารถที่จะต่อเติมเป็นครัวปิดหลังบ้านได้ค่ะ
กลับเข้ามาภายในบ้าน อีกฝั่งของห้องครัวจะเป็นส่วนของห้องน้ำรับรองที่ชั้นหนึ่ง
เข้ามาในห้องน้ำ ภายในห้องตกแต่งด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีตามแบบ พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีดำ และพื้นลดระดับลงไปประมาณ 3 เซนติเมตร เพื่อป้องกันน้ำไหลซึมออกมาส่วนห้องครัวด้านนอกค่ะ
สำหรับตัวอ่างล้างมือที่ได้จะได้เป็นอ่างทรงกลมลักษณะอ่าง เป็นอ่างแบบลอยตัวขนาดกะทัดรัด ยี่ห้อ cotto
พร้อมก๊อกน้ำเย็น ยี่ห้อ Prema
ติดกับอ่างล้างมือจะเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์ โดยจะติดตั้งแบบเข้ามุมไว้ให้ มาพร้อมชุดสายชำระและที่วางกระดาษชำระ โดยทั้งหมดจะได้ของยี่ห้อ cotto ค่ะ
ตัวสายชำระสีเงินขนาดพอดีมือถัดมาจะเป็นพื้นที่ส่วนเปียก
เนื่องจากห้องบ้านหลังนี้จะมีห้องน้ำแค่ 2 ห้อง ที่ชั้น หนึ่ง 1 ห้องและที่ชั้นสอง อีก 1 ห้อง จึงมีความสมควรที่จะใส่ส่วนของห้องอาบน้ำมาไว้ที่ชั้น 1 ด้วย เผื่อเวลาเร่งด่วนสมาชิกในบ้านก็อาจจะต้องผลัดกันมาอาบน้ำที่ชั้นล่างค่ะ
โดยพื้นที่ส่วนห้องอาบน้ำของบ้านหลังนี้จะได้เป็นพื้นที่ส่วนเปียกแยกไว้เป็นสัดส่วนด้วยธรณีก่อขึ้นมา สูงประมาณ 4 ซม. แต่ไม่มี Shower Box ติดตั้งมาให้ ซึ่งตรงนี้ถ้าใครต้องการความเป็นสัดส่วน กว่านี้ก็สามารถที่จะติดตั้งเพิ่มเติมได้ ส่วนฝักบัวที่ได้ จะได้ของ Prema พร้อมที่วางสบู่ ขนาดฝักบัวพอดีมือค่ะ
สำหรับพื้นที่ห้องอาบน้ำขนาดประมาณ 0.9 x 1.2 เมตร กว้างrvให้ยืนอาบได้สบายๆค่ะ
กลับมาที่พื้นที่ส่วนหน้าบ้าน เราจะไปดูบนชั้น 2 ของตัวบ้านกันต่อ
โดยก่อนจะขึ้นไปดูบนชั้น 2 ของตัวบ้านเรามาดูพื้นที่เก็บของหลักของบ้านกันก่อน พื้นที่เก็บของนี้จะเป็นพื้นที่เก็บของใต้บันได โดยทางเข้าไปยังพื้นที่เก็บของจะมีพื้นที่ด้านหน้าห้องเก็บของนิดหน่อยกว้างประมาณ 0.75 x 0.9 เมตร พอให้แทรกตัวเข้าไปด้านในได้ค่ะ
ส่วนตัวห้องเก็บของจะได้พื้นเป็นพื้นแกรนิตโต้ต่อเนื่องไปจากห้องรับแขก ด้านในให้ไฟส่องสว่างมา 1 ดวง
ต่อมาเราขึ้นไปดูบนพื้นที่ชั้น 2 กันต่อ โดยบันไดที่ได้จะได้เป็นโครงสร้างสำเร็จรูป ปิดหน้าด้วยไม้สีน้ำตาลเข้มราวจับเหล็กสีดำ มือจับไม้สีน้ำตาล ตัวราวจับบันไดจะมีติดตั้งให้ตลอดช่วงบันได ทำให้มีความปลอดภัยในการเดินขึ้นบันไดค่ะ
ให้ดูโถงบันไดจะเห็นว่าตัวโถงค่อนข้างสูง แนะนำให้ติดโคมไฟระย้าหรือดวงไฟติดตามผนังไล่ขึ้นไปจนถึงชั้น 2 จะช่วยให้มองเห็นในเวลากลางคืนดีขึ้นค่ะ
ขึ้นมายังพื้นที่บนชั้น 2 จะแบ่งฟังก์ชั่นออกเป็นห้องนอน 3 ห้อง และห้องน้ำ 1 ห้อง โดยห้องนอนจะแบ่งเป็นห้องฝั่งหน้าบ้านคือห้อง Master Bedroom และห้องนอนรองฝั่งหลังบ้านอีก 2 ห้อง
สำหรับห้องน้ำที่ชั้น 2 จะมีห้องเดียว ที่ใช้ร่วมกันทั้ง 3 ห้องนอน มีทางเข้า 2 ทางคือจากห้อง Master Bedroom และ โถงบันไดค่ะ
พื้นบ้านชั้น 2 ปูด้วยลามิเนตทั้งชั้น มีตัวจบสีเข้ากับบันไดติดตั้งไว้ให้เรียบร้อย
ให้ดูตัวบันไดจะมีชานพักทั้งหมด 2 ช่วง เป็นชานพักสามเหลี่ยมทั้งหมด
เรามาดูห้องนอนฝั่งหลังบ้านกันก่อนค่ะ โดยจะเริ่มจากห้องนอนรองห้องแรก ที่ติดกับทางขึ้นบันได
พื้นห้องนอนปูด้วยลามิเนตต่อเนื่องไปจากโถงบันได ไม่มีตัวจบติดตั้งไว้ให้ค่ะ
เข้ามานั่งในห้องนอนจะมีช่องแสง 1 บาน เป็นหน้าต่างบานเลื่อนฝั่งหลังบ้าน
ตัวบานหน้าต่างจะได้เป็นบานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง ลักษณะเป็นบานเลื่อนเดี่ยวมาตรฐาน
สำหรับห้องนี้จัดมาเป็นเตียงขนาดประมาณ 3.5 ฟุต วางแบบเข้ามุม ให้ดูระยะการใช้งานซึ่งจะขนาดของห้องเราสามารถที่จะปรับเปลี่ยนเพิ่มเป็นเตียงขนาดควีนไซส์ได้ แต่อาจจะทำให้ห้องดูแคบลงและไม่เหลือพื้นที่สำหรับใช้งานฟังก์ชันอื่นๆนะคะ
พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งจัดมาให้ดู เป็นโต๊ะเขียนหนังสือและตู้เสื้อผ้า
ระยะการใช้งานพอดีๆ ไม่อึดอัดค่ะ
ถัดมาเรามาดูห้องนอนรองห้องที่ 2 กันต่อ
เข้ามาภายในห้องนอนรอง ห้องนี้จะมีช่องแสง 2 บาน เป็นช่องแสงฝั่งหลังบ้าน และช่องแสงฝั่งข้างบ้าน
ห้องนี้จัดเตียงขนาด 3.5 ฟุต แบบเข้ามุมมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งดูจากการจัดห้องแล้วเตียงขนาดนี้ดูจะเหมาะสมกับพื้นที่ของห้องค่ะ ถ้าหากว่าเพิ่มเป็นควีนไซส์ก็จะทำให้ห้องดูอึดอัดมากไปนิด
ให้ดูพื้นที่ปลายเตียงจัดมาเป็นตู้แบบ Built in สำหรับเก็บของ ระยะการใช้งานพอให้ใช้งานได้สะดวก ไม่ชิดกับเตียงจนเกินไป
พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งจัดเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเขียนหนังสือ
ระยะการใช้งานพอให้ใช้งานได้สะดวก
กลับออกมาที่โถงบันไดเราจะไปดูส่วนของห้อง Master Bedroom และห้องน้ำกันต่อ
โดยเราจะเริ่มที่ห้อง Master Bedroom นะคะ
ภายในห้อง Master Bedroom เป็นห้องที่มีขนาดกว้างที่สุด เพราะว่าตัวห้อง Master Bedroom นี้จะได้พื้นที่หน้ากว้างของบ้านไปทั้งหมด สามารถที่จะแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนห้องนอนและ Walk – in Closet ได้สบายๆ
เรามาดูในส่วนของห้องนอนกันก่อน
สำหรับพื้นที่ห้องนอนในบ้านตัวอย่าง จัดมาเป็นเตียงขนาดควีนไซส์
พื้นที่ข้างเตียงที่เหลือทั้งสองฝั่งพอให้วางโต๊ะหัวเตียงได้ 1 ด้าน ส่วนอีกด้านจะเหลือพื้นที่พอให้เดินแทรกตัวเข้าไปเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้ ซึ่งดูจากพื้นที่แล้วใครที่อยากจะเพิ่มเตียงเป็นขนาดคิงไซส์ก็สามารถทำได้ค่ะ แต่อาจจะต้องวางเข้ามุม 1 ด้านเพื่อที่จะให้เหลือพื้นที่เพราะวางโต๊ะหัวเตียงเล็กๆได้อีก 1 ตัว
สำหรับห้อง Master Bedroom นี้จะมีช่องแสงหลัก 1 บาน เป็น ประตูบานเลื่อนที่เชื่อมออกไปยังระเบียงภายนอก
พื้นที่ระเบียงภายนอกจะมีความกว้างประมาณ 45 เซนติเมตร เท่านั้น จึงพอให้ออกมายืนกินลมชมวิวได้หรือจะจัดไม้กระถางเล็กๆไว้เป็นบรรยากาศได้นิดหน่อยค่ะ
ส่วนตัวราวกันตกระเบียง ได้เป็นราวเหล็กสีดำ ติดกระจกนิรภัยสีเขียว
ตัวระเบียงยาวเต็มหน้ากว้างของบ้าน
กลับเข้ามาภายในห้อง พื้นที่ส่วนปลายเตียงถูกจัดเป็นส่วน Walk – in Closet มีช่องแสง 1 บาน เป็นหน้าต่างบานเลื่อนฝั่งหลังบ้าน การที่มีบานหน้าต่างในห้องแต่งตัวจะมีข้อดีสำหรับสาวๆ ที่แต่งหน้าบ่อยๆ จะช่วยให้เราเห็นสีเครื่องสำอางจริงชัดเจน
สำหรับส่วน Walk – in Closet ถ้าใครอยากได้ห้องแต่งตัวที่แยกเป็นสัดส่วนก็สามารถที่จะกั้นห้องเพิ่มได้ แต่แนะนำให้กันด้วยระแนงหรือผนังแค่บางส่วน เพราะจะช่วยให้ห้องดูไม่ทึบค่ะ
ระยะการใช้งานปลายเตียงถึงส่วน Walk – in Closet ค่อนข้างกว้าง ดูได้จากในห้องตัวอย่างสามารถที่จะวางชุดโต๊ะทานกาแฟเล็กๆได้ 1 ชุด
ต่อมารับไปดูในส่วนของห้องน้ำกันต่อ
โดยห้องน้ำห้องนี้จะสามารถเข้าได้จาก 2 ทาง คือห้อง Master Bedroom ทางซ้าย และส่วนโถงบันไดทางขวาภายในห้องน้ำจะมีฟังก์ชั่นครบ มีช่องแสง 1 บาน เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง
ห้องน้ำบนชั้น 2 มีฟังก์ชั่นครบ แยกส่วนแห้งส่วนเปียก พื้นปูกระเบื้องเซรามิค นังกรุกระเบื้องเซรามิค
ตัวอ่างล้างมือที่ได้จะได้เป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยมแบบฝังเคาน์เตอร์ มีพื้นที่เก็บของใต้อ่าง สามารถใช้เก็บของได้พอประมาณ ตัวตู้เป็นลามิเนตซึ่งไม่แนะนำให้เก็บของที่มีความชื้นสูงหรือต้องระวังไม่ให้ของเหลวหกด้านในตู้ค่ะ เพราะจะทำให้ตู้เสื่อมสภาพได้เร็ว
ขนาดอ่างค่อนข้างกว้างมีพื้นที่วางของบนอ่างนิดหน่อย
ส่วนโถสุขภัณฑ์จะได้ของ cotto ด้านหลังโถสุขภัณฑ์จะมีบ่าวางของ สามารถใช้วางของเล็กๆน้อยๆได้
สำหรับพื้นที่อาบน้ำบนชั้น 2 จะมีขนาดเล็กกว่าพื้นที่อาบน้ำที่ชั้น 1 เล็กน้อยค่ะ โดยในพื้นที่ห้องอาบน้ำจะติดตั้งฝักบัว พร้อมที่วางสบู่ ยี่ห้อ Prema มาให้และมีการเดินสายไฟสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นไว้เรียบร้อย
พื้นที่ห้องอาบน้ำขนาดประมาณ 0.8 x 0.9 เมตร พอให้ยืนอาบน้ำได้สบายๆ
ขึ้นมาบนชั้นสองมองย้อนไปทางโถงบันไดให้ดูภาพรวมค่ะ
บ้านตัวอย่างแบบที่ 2 Trend Modar จะมีความแตกต่างที่หน้าตาภายนอก ตรงระแนงและราวกันตก เท่านั้น ส่วนพื้นที่การใช้สอยภายในจะเหมือนกับบ้านแบบที่แล้วเลยค่ะ ซึ่งเดี๋ยวเราจะพาชมบรรยากาศภายในบ้านเพื่อเป็นไอเดียในการตกแต่งบ้านกันนะคะ
เริ่มจากห้องรับแขก จะเป็นพื้นที่โถงยาว เชื่อมต่อไปยังห้องทานอาหาร
การตกแต่งภายในห้องรับแขก จะใช้โทนสีสว่าง Built – in โซฟาแบบเกาะไปตามผนังเพื่อเพิ่มพื่นที่การใช้งานได้มากขึ้น ฝั่งตรงข้ามติดตั้งชั้น TV แบบ Bilt – in หน้ากระจกสีฟ้าพร้อมตู้เก็บของด้านล่าง
พื้นที่ทานอาหาร ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อน พร้อมโคมไฟและผ้าม่านสีเข้ากันให้บรรยากาศอบอุ่น
ติดกับห้องทานอาหารเป็นห้องครัว จัดเป็นครัวแบบเปิด
ภายในห้องครัวตกแต่งด้วยเคาน์เตอร์ครบชุด ปิดผิวลายไม้ เข้ากับส่วนทานอาหาร
มุมจากห้องทานอาหารมองย้อนไปทางห้องรับแขก
ต่อมาเราจะขึ้นไปดูบนชั้น 2 กันต่อ
พื้นที่บนชั้น 2 แบ่งออกเป็นห้อง Master Bedroom , ห้องนอนรอง 2 ห้อง และห้องน้ำ 1 ห้อง
เราไปดูการตกแต่งภายในห้องนอนรอง ทั้ง 2 ห้องกันก่อน
ภายในห้องนอนรองห้องแรก ตกแต่งด้วยโทนสีชมพู เป็นห้องที่มีขนาดเล็กสุดในบ้าน เหมาะที่จะใช้เป็นห้องนอนของลูกสาวหรือลูกชายที่ยังเด็กค่ะ
ภายในห้องนอนรองห้องที่ 2 ตกแต่งด้วยโทนสีน้ำเทา ดำ ดูขรึมและ Modern ขึ้นมาอีกหน่อย เป็นห้องที่เหมาะกับเด็กผู้ชาย
ภายในห้องสามารถวางฟังก์ชั่นพื้นฐานได้ครบ ทั้งเตียง, ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเขียนหนังสือ
ต่อมาเราไปดูในส่วนของห้อง Master Bedroom และห้องน้ำกันต่อ
ภายในห้อง Master Bedroom แบ่งเป็นส่วน ห้องนอนและ Walk – in Closet โดยฝั่งห้องนอนจัดเป็นเตียงคู่ขนาดคิงส์หรือควีนไซส์ได้ พร้อมโต๊ะหัวเตียง
อีกฝั่งเป็นส่วน Walk – in Closet สามารถเชื่อมไปยังห้องน้ำได้
ห้องน้ำบนชั้น 2 สามารถเช้าออกได้ 2 ทางคือจากโถงบันไดและห้อง Master Bedroom ภายในตกแต่งด้วยโทนสีดำ-ขาว ซึ่งจะได้เป็นมาตรฐานค่ะ
ราคา (ก.พ.2560)
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ : The Plant รังสิต – คลอง 2 ตั้งอยู่ในซอยรังสิต – นครนายก 31 หรือถนนคลอง 2 ลึกประมาณ 2.3 กม. จากถนนใหญ่ ถนนรังสิต – นครนายก สภาพแวดล้อมโดยรอบมีความสงบ เหมาะกับการอยู่อาศัย ตัวทำเลโดยรวมถือว่าเป็นทำเลที่ออกมาชานเมือง แต่ยังมีความคึกคักมาก ความอุดมสมบูรณ์ที่ใกล้โครงการที่สุดอยู่ในระยะ 2.3 กม. หรือหน้าปากซอยนั่นเอง โดยจะมีความอุดมสมบูรณ์ครบสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันเลย คือมีทั้งตลาดนัด ตลาดสด และ Hyper Market และมีความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้างสูง ใกล้แหล่งสถานศึกษาหลายแห่ง มีแหล่งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่คือห้าง Future Park รังสิต เป็นห้างขนาดใหญ่ที่ถือเป็นห้างใหญ่สุดในย่านนี้ และยังเป็นพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม จึงทำให้มีประชากรอยู่โซนนี้เยอะ ทั้งนักเรียน นักศึกษาและพนักงาน และเหมาะมากสำหรับใครที่มีความจำเป็นต้องเข้าและออกเมืองบ่อยๆ เพราะเป็นเส้นทางที่สามารถออกสู่ทางภาคเหนือและภาคอีสานได้สะดวก
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : สะดวกที่สุดสำหรับโครงการนี้ โดยการเข้าถึงตัวโครงการหลักๆจะต้องเข้ามาจากถนนเส้นหลักคือถนนรังสิต – นครนายก นอกจากนั้นถ้ามาจากทางนอกเมืองก็จะสามารถใช้เส้นถนนคลองหลวงได้ด้วย และเส้นรังสิต – นครนายก จะสามารถเชื่อมไปยังถนนเส้นหลักเส้นอื่นๆ ทั้งถนนพหลโยธิน, ถนนรังสิต – ปทุมธานี, ทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์, ทางพิเศษอุดรรัถยา, ถนนกาญจนาภิเษก, ถนนบางบัวทอง – บางพูน, ถนนบางบัวทอง – บางคูวัด สะดวกทั้งเข้าและออกเมือง แต่เนื่องจากย่านนี้มีความอุดมสมบูรณ์สูง มหาลัยเยอะ ใกล้ห้างใหญ่ ใกล้นิคม การจราจรจึงหนาแน่นมากในช่วงเวลาเร่งด่วน นอกจากนั้น ยังมีถนนลำลูกกา 11 ที่สามารถใช้วิ่งลัดไปเข้าถนนลำลูกกาเพื่อใช้วิ่งไปฉะเชิงเทราหรือใช้เลี่ยงรถติดช่วงสั้นๆ ไปโผล่ตรงถนนพหลโยธินได้ค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ :การเดินทางด้วยรถสาธารณะยังไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ เพราะตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยที่ไม่มีรถโดยสารขับผ่าน และลึกถึง 2.3 กม. ไกลเกินระยะจะเดินแล้ว ต้องอาศัยเรียก Taxi ที่ผ่านไปมาหน้าโครงการ เมื่อออกมาบนนถนนใหญ่ได้แล้วก็จะมีป้ายรถเมล์ โดยจะมีรถเมล์สาย 187, 188, 523, 538 ผ่านค่ะ
แต่ในอนาคตการเดินทางด้วยรถสาธารณะจะสะดวกสบายขึ้น โดยจะมี รถไฟฟ้าสายสีแดง (ช่วงบางซื่อ-รังสิต) ซึ่งกำลังก่อสร้างอยู่ปัจจุบัน สถานีใกล้ที่สุดคือ สถานีรังสิต ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2561 ซึ่งจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า สายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน
และในอนาคต หากรถไฟฟ้า Airport Link สร้างมาถึงสนามบินดอนเมืองก็สามารถเปลี่ยนรถ ที่ดอนเมือง ไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้ และสถานี Interchage ในอนาคตอีกสถานีนึงนั่นก็คือ สถานีหลักสี่ ค่ะ ซึ่งสามารถเปลี่ยนไป รถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วงแคราย-มีนบุรี) และ Airport Link ในอนาคต ชื่อสถานีหลักสี่เหมือนกัน คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2563-2564
การออกแบบโครงการและวัสดุ : โครงการ The Plant รังสิต – คลอง 2 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่มีทั้งหมด 222 ยูนิต พื้นที่ทั้งหมดกว่า 31 – 3 – 38.4 ไร่
ส่วนวัสดุที่ได้ถือว่ากลางๆ เหมาะสมกับราคาเริ่มต้น ผนังฉาบปูนเรียบ ทาสี, พื้นลานจอดรถคอนกรีตขัดเรียบ, พื้นในบ้านชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ 60x 60 ซม., พื้นชั้น 2 ปูด้วยลามิเนต, ส่วนพื้นระเบียง เฉลียง ห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิค , หน้าต่างได้บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง, ประตูภายในได้บานสำเร็จ สีขาว, บันไดโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก, สุขภัณฑ์ของ Cotto และ Prema
สิ่งอำนวยความสะดวก :โครงการทำส่วนกลางมาให้ครบครันดี มีทั้งส่วนสวนสาธารณะ, สนามเด็กเล่น, Fitness และสระว่ายน้ำระบบเกลือ
ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยจะมีใช้ Key Card Access ระยะใกล้ที่ประตูทางเข้าโครงการหลัก มีรปภ. 24 ชม. ถนนหลักกว้าง 12 – 16 เมตร ถนนในซอยย่อยกว้าง 9 เมตร รั้วโครงการสูง 3 เมตร ต่อรั้วโปร่ง 1.5 เมตร รั้วบ้านสูง 1.75 เมตร
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.0 | อยู่ในซอยมีความสงบมีความเป็นส่วนตัวสูง เหมาะกับการอยู่อาศัย ความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้างสูง |
การเดินทางใช้รถ | 8.0 | เดินทางเข้าออกเมืองสะดวก เชื่อมกับถนนหลายเส้น แต่รถอาจจะติดมากหน่อย |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 6.5 | คนไม่มีรถค่อนข้างลำบาก เพราะอยู่ในซอยค่อนข้างลึก มีตัวเลือกแค่พี่ Taxi ที่ผ่านหน้าโครงการ แต่ถ้าออกมาบนถนนใหญ่แล้วก็จะมี รถเมล์ ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสถานีรังสิต แต่ก็ต้องนั่ง Taxi หรือพี่วินไปที่สถานีก่อนอยู่ดี |
บ้านและวัสดุ | 8.0 | ได้บ้านเปล่า พื้นที่ส่วนครัวแยก แต่ไม่ได้กั้นห้องมาให้ มีห้องน้ำและพื้นที่อาบน้ำทุกชั้น การจัดพื้นที่ในบ้านมาเหมาะสมลงตัวดี วัสดุกลางๆเหมาะสมกับราคาทำเลแถบนี้ |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 7.75 | ส่วนกลางของโครงการนี้ให้มาครบถ้วน พอใช้ |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.0 | เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็กถึงครอบครัวขนาดกลาง ผู้ที่ต้องการความสงบเป็นส่วนตัว เน้นการใช้งานรถยนต์เป็นหลัก |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.77 | ดี |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
TEL : 1739
Website :http://theplant.pruksa.com
หากท่านเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
แสดงความคิดเห็น