ตั้งอยู่ในซอยกันตนา ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีม่วง และถนนกาญจนาภิเษก ความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้างเพียบพร้อม ราคาโปรโมชั่นพิเศษ เริ่ม 3.99 ล้านบาท* ฟรี! ค่าใช้จ่ายวันโอน + ปั๊มน้ำ และ ถังสำรองน้ำ
ชื่อโครงการ
เดอะ แพลนท์ รีสอร์ท พระราม 5-กาญจนาภิเษก The Plant Resort Rama 5-Kanchanapisek
เจ้าของโครงการ
พฤกษา เรียลเอสเตท – PRUKSA REAL ESTATE
ลักษณะโครงการ
บ้านเดี่ยว
พื้นที่โครงการ
31 ไร่
จำนวนบ้าน
176 หลัง
พื้นที่ใช้สอย
124-171 ตร.ม.
เนื้อที่บ้าน
เริ่มต้น 35 ตร.วา
จำนวนห้อง
3 ห้องนอน / 2-3 ห้องน้ำ
โซน
นนทบุรี , บางบัวทอง , บางใหญ่ , ปากเกร็ด
ขนส่งสาธารณะ
รถไฟฟ้า MRT ส่วนต่อขยาย (รถไฟฟ้าสายสีม่วง)
รถโดยสารที่ผ่าน
รถเมล์สาย 127
ที่ตั้ง
ซอยกันตนา ถนนกาญจนาภิเษก ตำบลบางม่วง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี
กำหนดการ
n/a
ปีที่สร้างเสร็จ
สร้างเสร็จพร้อมอยู่
ราคา
เริ่มต้น 3.99 ล้านบาท* (ธ.ค.60)
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
ตลาดกันตนา 1.8 กม.
ตลาดพระปิ่น 3 3.5 กม.
วัดคงคา 4.8 กม.
บางใหญ่ไนท์พลาซ่า 5.2 กม.
ตลาดกลางบางใหญ่ 5.5 กม.
Index 5.6 กม.
BigC Extra บางใหญ่ 6.6 กม.
ไปรษณีย์บางใหญ่ 8.8 กม.
Homepro 9.5 กม.
เซ็นทรัล เวสต์เกต 9.8 กม.
Lotus บางใหญ่ 11 กม.
รพ.บางใหญ่ 1.7 กม.
รพ.เกษมราษฎร์ 9.4 กม.
รร.เทพศิรินทร์ นนทบุรี 8.7 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก
คลับเฮ้าส์
สระว่ายน้ำระบบคลอรีน
สวนสาธารณะ
กล้องวงจรปิด
ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
จุดเด่นของโครงการ
บ้านเดี่ยวบรรยากาศรีสอร์ท สุนทรีกับความรู้สึกผ่อนคลาย ตั้งแต่ก้าวแรกจนถึงทุกมุมสวนสวยที่รายล้อมรอบโครงการ ร่มรื่นท่ามกลางธรรมชาติ และเต็มอิ่มกับความเขียวสดชื่นที่อยู่รอบตัวคุณ
ถนนบางใหญ่-บางคูลัด (ซ.กันตนา) นบ.1026
ที่ตั้งโครงการ ซอยกันตนา ถนนกาญจนาภิเษก ตำบลบางม่วง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี
พิกัด google map : 13.843950, 100.397912
โครงการ The Plant Resort พระราม 5 – กาญจนาภิเษก
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
แต่จะมีข้อเสียคือถนนกาญจนาภิเษกจะมีรถติดค่อนข้างมาก ทั้งแยกบางใหญ่ ช่วงเวลาเร่งด่วนรถจะมีปริมาณค่อนข้างเยอะ และถนนช่วงอื่นๆ เช่น ช่วงแยกฉิมพลี และมีปริมาณรถค่อนข้างมากตามปากซอยที่มีคนอยู่เยอะ เช่น ซอยศรีประวัติและซอยวัดส้มเกลี้ยง
สำหรับจุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุด จะเป็นจุดขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษกฝั่งมุ่งหน้าไปบางแค โดยจุดขึ้นทางด่วนจุดนี้จะมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 4.9 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 – 20 นาที
และจุดขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษกฝั่งมุ่งหน้าออกสุพรรณบุรี จะมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 5.3 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 – 20 นาทีค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์สาธารณะ
ความอุดมสมบูรณ์ของโครงการ
ภายในตลาดกันตนาก็มีร้านอาหารมากมายหลายร้านให้เลือกค่ะ
หน้าตลาดมีป้ายรถเมล์
การเดินทาง
การเดินทางในวันนี้
สรุปการเดินทาง ถนนรัตนาธิเบศร์ The Plant Resort พระราม 5 – กาญจนาภิเษก
เริ่มการเดินทางบนถนนรัตนาธิเบศร์ ฝั่งมุ่งหน้าถนนกาญจนาภิเษกให้เราตามป้ายตลิ่งชันไปค่ะ
เบี่ยงออกซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าถนนเลียบกาญจนาภิเษก
เราเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าไปทางปิ่นเกล้าและถนนพระราม 2
ตอนนี้เราอยู่บนถนนเลียบกาญจนาภิเษกฝั่งมุ่งหน้าบางแคค่ะ
ขับตรงมาเรื่อยๆ ขึ้นสะพานข้ามคลองบางใหญ่ ฝั่งซ้ายมือจะเป็นวัดคงคา
เมื่อลงจากสะพานแล้วเราจะเห็นป้ายกลับรถใต้สะพานอีก 300 เมตร ให้เตรียมตัวเบี่ยงออกเลนซ้ายได้ค่ะ
ระหว่างทางก็จะมีป้ายเตือนกลับรถทางขวามือ เมื่อเห็นป้ายสีเหลืองให้เราชิดเลนซ้ายค่ะ
ชิดซ้ายกลับรถใต้สะพาน จำกัดความสูงรถ 2 เมตรนะคะ
กลับรถมาแล้วขับตรงมาเรื่อยๆ จนเห็นป้ายบอกทางไปโรงพยาบาลบางใหญ่ แสดงว่าเราใกล้ถึงซอยกันตนาแล้วค่ะ ให้เริ่มเบี่ยงออกเลนซ้าย
ถึงซอยกันตนาเราเลี้ยวซ้าย จุดสังเกตคือจะเห็นป้ายโครงการอยู่หน้าปากซอย
เข้ามาในซอยจะเป็นถนน 2 เลน บรรยากาศในซอย รวมๆ จะเป็นที่พักอาศัยแนวราบ ทั้งอาคารพาณิชย์, บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม
ขับตรงมาเรื่อยๆจะเห็น 7 – 11 ทางซ้ายมือเป็นความอุดมสมบูรณ์ที่ใกล้โครงการที่สุดค่ะ
ภายในซอยเราจะเห็นป้ายบอกทางไปโครงการเป็นระยะๆ
ผ่านโรงถ่ายกันตนาทางซ้ายมือ
ซอยติดกับโรงถ่ายกันตนาจะเป็นซอยย่อยเข้าสู่โครงการ The Plant Resort พระราม 5 – กาญจนาภิเษกค่ะ
เข้ามาในซอย ขับตรงไปเรื่อยๆประมาณ 300 เมตร
เข้ามาประมาณ 300 เมตร เราจะเห็นป้ายชี้บอกทางเข้าซอยโครงการทางขวามือค่ะ
เราเลี้ยวขวาเข้าซอยเข้าไปยังพื้นที่โครงการเลยค่ะ
ถนนและแยกที่สำคัญรอบโครงการ
ถนนกาญจนาภิเษก 1.80 กม.
สามแยกบางใหญ่ 4.9 กม.
แยกต่างระดับบางคูเวียง 7.6 กม.
แยกพระราม 5 17.4 กม.
ถนนรัตนาธิเบศร์ 10.3 กม.
ถนนนครอินทร์ 8 กม.
ถนนราชพฤกษ์ 11.4 กม.
ถนนบางกรวย-ไทรน้อย 15 กม.
สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ
ตลาดกันตนา 1.8 กม.
ตลาดพระปิ่น 3 3.5 กม.
วัดคงคา 4.8 กม.
บางใหญ่ไนท์พลาซ่า 5.2 กม.
ตลาดกลางบางใหญ่ 5.5 กม.
Index 5.6 กม.
BigC Extra บางใหญ่ 6.6 กม.
ไปรษณีย์บางใหญ่ 8.8 กม.
Homepro 9.5 กม.
เซ็นทรัล เวสต์เกต 9.8 กม.
Lotus บางใหญ่ 11 กม.
รพ.บางใหญ่ 1.7 กม.
รพ.เกษมราษฎร์ 9.4 กม.
รร.เทพศิรินทร์ นนทบุรี 8.7 กม.
รอบๆโครงการ
พื้นที่รอบโครงการส่วนใหญ่ยังคงเป็นที่ดินเปล่า และที่อยู่อาศัยแนวราบ โดย
ทิศเหนือ ของโครงการติดกับที่ดินเปล่าและหมู่บ้านมณฑล 5ทิศใต้ ติดกับที่อยู่อาศัยแนวราบ สูง 1 – 2 ชั้น และซฮยบางโสน 1ทิศตะวันออก ติดกับที่อยู่อาศัยแนวราบของชาวบ้านทิศตะวันตก ติดกับซอยบางโสนและที่ดินเปล่า
ตัวโครงการ
โครงการ The Plant Resort พระราม 5 – กาญจนาภิเษก
เมื่อเข้ามาในโครงการจะเจอกับถนนกว้าง 15 เมตร ฝั่งซ้ายมือจะเป็นอาคารนิติบุคคล มีสระว่ายน้ำคลอรีน แยกสระเด็ก ขนาด 3 x 2.4 เมตร ลึก 0.60 เมตร และสระผู้ใหญ่ ขนาด 10 x 6 เมตร ลึก 1.2 เมตร ถัดมาสุดถนนใหญ่จะเป็นสวนสาธารณะ ขนาด 1 – 0 – 25.57 ไร่ และถนนหลักกว้าง 12 เมตร และจากถนนหลักจะแจกเข้าเป็นซอยย่อยซ้ายและขวา 6 ซอย ถนนซอยกว้าง 6 เมตร และตัวโครการมีคลองโสนผ่านในโครงการ โดยจะมีสะพานเล็กๆเพื่อข้ามคลองค่ะ รั้วรอบโครงการ สูง 3 เมตร รั้วระหว่างบ้านสูง 1.6 เมตร
เรามาดูบรรยากาศโครงการของจริงกันบ้างค่ะ เริ่มจากถนนที่เชื่อมเข้ามาจากซอยกันตนา เข้ามายังตัวโครงการเป็นถนนส่วนบุคคล ความลึกประมาณ 50 เมตร บรรยากาศร่มรื่นและเป็นส่วนตัว
ริมฟุตบาททั้งสองข้างจะมีฟุตบาทสำหรับให้เดินเข้ามายังตัวโครงการได้ค่ะ
ถัดมามาดูที่ตัวโครงการกันต่อ เริ่มต้นที่ด้านหน้าโครงการจะเป็นซุ้มทางเข้าและป้ายชื่อโครงการทางซ้ายมือ
ป้ายชื่อโครงการจะใช้พุ่มไม้และลงต้นไม้จัดสวนไว้ให้ให้เหมาะสมกับ Concept ของโครงการคือรีสอร์ท
สำหรับซุ้มทางเข้าหลักของโครงการ จะแยกทางเข้าและออก ตรงกลางซุ้มเป็นป้อมรปภ. การตกแต่งซุ้มออกมาในสไตล์รีสอร์ทโดยใช้หินตกแต่งทั้งตัวป้อมรปภ.และซุ้มด้านข้าง
จะมีกล้อง CCTV ฝั่งละ 1 ตัว
ระบบการคัดกรองลูกบ้านโดยปกติจะใช้สติ๊กเกอร์แปะหน้ารถ และมีรั้วกั้นไม้กระดกเป็นตัวกั้นก่อนเข้าไปในโครงการ ส่วน Visitors จะต้องแลกบัตรเพื่อเข้าไปในโครงการค่ะ
เข้ามาได้ในโครงการจะเจอถนนกว้าง 15 เมตร
ฝั่งซ้ายมือจะเริ่มเป็นยูนิตที่เปิดขายเลยค่ะ
ส่วนฝั่งซ้ายมือจะเป็นอาคาร Club House หลักของโครงการ
เราเข้าไปดูในตัว Club House กันค่ะ
ตัวอาคาร Club House ทำออกมาได้มีความ Modern ดูโปร่งและเรียบง่าย
เข้ามาด้านในจะมี 2 ส่วน ฝั่งซ้ายจะเป็นทางขึ้นไปยังสระว่ายน้ำ และฝั่งขวามือจะเป็นประตูเข้าไปยังโถงพักผ่อนด้านใน
เข้ามาด้านในอาคารค่ะ ที่ชั้น 1 จะเป็นพื้นที่โถงนั่งพักผ่อน ส่วนชั้นสองจะเป็นออฟฟิศของนิติบุคคลนะคะ
ออกมาจากโถงพักผ่อนจะเจอกับบันไดขึ้นไปยังส่วนสระว่ายน้ำ และทางขวามือจะเป็นห้องน้ำแยกชายหญิง
เรามาดูในส่วนของห้องน้ำหญิงกันก่อนค่ะ โดยเมื่อเข้ามาจะเจอกับ ล็อคเกอร์มีให้บริการทั้งหมด 12 ช่องพร้อมกุญแจ
เข้ามาด้านในมีอ่างล้างมือ 1 จุด
ห้องอาบน้ำกับห้องน้ำอย่างละ 1 ห้อง
ภายในห้องน้ำค่ะ
ภายในห้องอาบน้ำ
ถัดมามาดูในส่วนของห้องน้ำชายกันต่อ เข้ามาในห้องน้ำชายจะเจอล็อคเกอร์ 12 ช่องเช่นกัน มองตรงไปเป็นอ่างล้างมือ 1 จุด
มีโถสุขภัณฑ์ชาย 2 โถ
ห้องน้ำ 1 ห้องและห้องอาบน้ำ 1 ห้องค่ะ
ถัดมาเราไปดูในส่วนของสระว่ายน้ำกันต่อ
สำหรับสระว่ายน้ำจะได้เป็นสระบบคลอรีน แยกสระเด็กและสระผู้ใหญ่ โดยสระเด็กจะมีขนาดประมาณ 3 x 2.4 เมตร ความลึกประมาณ 0.60 เมตร และสระผู้ใหญ่ ขนาดสระประมาณ 10 x 6 เมตร ลึก 1.2 เมตร
มุมจากสระว่ายน้ำมองย้อนไปทางอาคาร Club House จะเห็นว่ามีจุดล้างตัวอยู่ 1 จุด
โดยพื้นที่สำหรับล้างตัว จะมีฝักบัวแบบเป็น Rain Shower 1 ชุด พื้นปูด้วยทรายล้างกันลื่น
พื้นที่ข้างสระอีกฝั่งจะมีที่นั่งเป็นม้านั่งยาว 3 ชุด
กลับมาที่ถนนหลักติดกับอาคาร Club House จะเป็นส่วนของ Sale Office ค่ะ
ส่วนฟุตบาทติดถนนหลักจะมีความกว้างประมาณ 1 คนเดิน สามารถเดินเข้าไปในโครงการได้โดยไม่ต้องลงมาเดินบนถนน
เดินมาจนสุดถนนใหญ่ จะเห็นตัวสวนสาธารณะตรงกลาง ส่วนซอยทางขวามือและซ้ายมือจะเป็นซอยย่อยแยกไปยังยูนิตพักอาศัย
โดยจะมีป้ายกำกับหน้าซอยเป็นป้ายสีดำแบบนี้ทุกซอยค่ะ
ให้ดูบรรยากาศโดยรวมในซอย 1 ที่เป็นยูนิตติดกับสวนสาธารณะ มีข้อดีตรงที่ตัวบ้านจะได้รับความโปร่งโล่งมากกว่าในซอยทั่วไปเพราะว่าหันหน้าเข้าหาสวนทำให้ได้วิวสีเขียวของต้นไม้ในสวนเยอะ
เข้ามาดูบรรยากาศในสวนกันหน่อย ภายในสวนจะลงต้นไม้ให้ค่อนข้างเยอะค่ะ มีวงเวียนต้นไม้ 1 จุด สามารถนั่งพักผ่อนได้ ต้นไม้ค่อนข้างโตให้ร่มเงา
อีกมุมของสวนค่ะ ภายในส่วนนี้ห้ามนำสัตว์เลี้ยงมาเดินนะคะ
ทางเดินรอบสวน พร้อมต้นไม้สูงให้ร่มเงาสามารถมาเดินพักผ่อนได้สบายๆ
อีกฝั่งของสวนจะมีศาลาสำหรับนั่งพักผ่อน
ตัวศาลาเป็นอาคารเปิดโล่งด้านในมีพื้นที่สำหรับนั่งเล่นและเก้าอี้ยาว 1 ชุด
เราไปดูบรรยากาศในซอยที่ 2 ซึ่งติดกับสวนสาธารณะกันต่อ บรรยากาศโดยรวมในซอยตัวบ้านหันหน้าเข้าหาสวนสาธารณะเหมือนซอยที่ 1 ค่ะ บรรยากาศโดยรวมในซอยที่มีคนเริ่มอยู่อาศัยกันเกือบหมดแล้วค่ะ ยังถือว่าดูเรียบร้อยมีการจัดการที่ดี
กลับมาที่ถนนหลักฝั่งซ้ายมือจะเป็นถนนหลักกว้าง 12 เมตร
เดินมาตามถนนหลักเรื่อยๆจะเห็นซอยย่อยซ้ายและขวา
บรรยากาศซอยทางซ้ายมือที่ยังมียูนิตที่กำลังก่อสร้างอยู่และยูนิตที่มีคนเข้าพักอาศัยแล้วค่ะ
บรรยากาศซอยโดยรวมทางขวามือ
บางซอยจะมีซอยย่อยซึ่งตัวซอยย่อยก็จะมีป้ายกำกับหน้าซอยแบบนี้ค่ะ
เดินต่อมาเรื่อยๆบนถนนหลักจะเจอกับสะพานข้ามคลองบางโสน
ตัวคลองมีต้นไม้ขึ้นแบบนี้ แต่ไม่มีกลิ่นและขยะรบกวนค่ะ
ข้ามสะพานมาแล้วก็จะเจอกับถนนหลักกว้าง 12 เมตร มีซอยย่อยทางฝั่งซ้ายและขวา
บรรยากาศในซอยทางขวา
และบรรยากาศในซอยทางซ้ายมือค่ะ
เดินมาจนสุดถนนหลัก จะเจอกับรั้วโครงการสูง 3 เมตร
และบรรยากาศในซอยสุดท้ายของโครงการค่ะ
แบบบ้าน
แบบบ้านในโครงการจะมีทั้งหมด 5 แบบ เป็นบ้านแฝด 2 แบบ และบ้านเดี่ยว 3 แบบ ดังนี้
iprivy
แปลนชั้นที่ 1
แปลนชั้นที่ 2
iplus
แปลนบ้าน ชั้น 1 และชั้น 2
iprema
แปลนชั้น 1
แปลนชั้น 2
ipround
แปลนบ้านชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2
iprestige
แปลนบ้านชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2
บ้านตัวอย่าง
สำหรับบ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้ เราจะพาไปชมกันทั้งหมด 2 แบบ คือ
บ้านแฝด iprema บ้านเดี่ยวแบบ iprestige
เรามาดูกันที่บ้านแบบแรกกันก่อนค่ะ บ้านแบบแรกที่เราจะมาดูกันคือบ้านแฝดแบบ iprema
มาดูกันที่แปลนของบ้านกันก่อน เริ่มที่แปลนชั้น 1
ขึ้นมาที่ชั้น 2
เรามาดูบ้านของจริงกันต่อ เริ่มจากประตูทางเข้าตัวบ้าน จะได้เป็นประตูเหล็กสีดำ แยกทางคนเดินและทางรถเข้า โดยประตูทางรถจะเป็นประตูเลื่อนและทางคนเดินจะเป็นบานเปิดปกติค่ะ
หน้าบ้านทุกหลังจะได้โคมไฟและกล่องไปรษณีย์พร้อมกริ่งหน้าบ้านมาให้แบบนี้ค่ะ
เข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับที่จอดรถขนาด 2 จอดพื้นปูด้วยคอนกรีตขัดเรียบลาดเป็นทางยาวตั้งแต่ประตูทางเข้าหน้าบ้านไปจนถึงที่จอดรถ
รั้วระหว่างบ้านจะได้เป็นรั้วทึบสูง 1.6 เมตร
เรามาเดินดูรอบๆบ้านกันก่อนนะคะ เริ่มจากฝั่งซ้ายมือเป็นพื้นที่สวนหน้าบ้าน หน้าประตูทางเข้าจะมีเฉลียงและสวนที่ปูหญ้ามาให้เรียบร้อย
หลังรั้วบ้านจะมีถังขยะสำเร็จรูปติดตั้งมาให้ ซึ่งตัวถังนี้จะมีประตูเชื่อมต่อออกไปยังรั้วหน้าบ้านช่วยอำนวยความสะดวกเวลามีรถมาเก็บขยะค่ะ
ถัดมาเป็นพื้นที่ข้างบ้านพื้นที่สวนในบ้านมาตรฐานก็จะได้ปูหญ้ามาให้ตามแบบนี้ค่ะ
มาถึงพื้นที่หลังบ้านจะติดตั้งแท้งค์น้ำมาให้ 1 แท้งค์
ส่วนพื้นที่ลานซักล้างหลังบ้านจะปูพื้นมาให้บางส่วน เป็นพื้นคอนกรีตขนาดไม่กว้างเท่าไหร่ พร้อมเครื่องปั๊มน้ำและไฟ 1 ดวง
มีเดินระบบไฟและท่อน้ำไว้ให้เผื่อการติดตั้งเครื่องซักผ้าในอนาคตค่ะ
พื้นที่ข้างบ้านอีกฝั่งจะเชื่อมต่อออกไปยังลานจอดรถหน้าบ้าน
กลับเข้ามาที่ส่วนโรงจอดรถ จะมีปลั๊กไฟมาให้ 1 จุด และได้ไฟดาวน์ไลท์ 4 ดวงไว้ให้แสงสว่างในเวลากลางคืน
มาที่ทางเข้าหลักของบ้านกันบ้าง ด้านหน้าจะได้โคมไฟติดผนัง 2 ดวง ด้านในจะได้ไฟดาวน์ไลท์มา 1 ดวง
มีเฉลียงก่อนถึงประตูทางเข้าบ้านยกระดับขึ้นมา 2 step แต่ละ step สูงประมาณ 10 ซม. วัสดุเป็นทรายล้างกันลื่น ความกว้างเฉลียงประมาณ 0.9 เมตร พอให้วางชั้นวางรองเท้าได้ค่ะ
สำหรับประตูทางเข้าจะได้เป็นชุดประตูบานเลื่อนผสมบานฟิก บานกรอบอลูมิเนียมสีขาว กระจกเขียวตัดแสง หนา 5 มม. ลักษณะบานเปิดสามารถเปิดได้ 2 ด้านแบบนี้ค่ะ
มือจับและตัวล็อค
เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอกับพื้นที่ส่วน Living Area เป็นส่วนแรก พื้นชั้น 1 จะยก step ขึ้นมาจากเฉลียงอีกประมาณ 10 เซนติเมตร วัสดุพื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. สีครีมความสูงฝ้าเพดาน 2.6 เมตร
สำหรับพื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นนี้ทางโครงการจัดวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งดูจากพื้นที่แล้วค่อนข้างเหมาะสมกับพื้นที่และระยะช่องแสงด้านหลังพอดี แต่ถ้าใครอยากได้โซฟาขนาดใหญ่ขึ้นก็สามารถเพิ่มขนาดโซฟาได้เป็น 4 – 5 ที่นั่งได้ค่ะ แต่จะไม่เหลือพื้นที่สำหรับวางโต๊ะข้างโซฟานะ
สำหรับช่องแสงด้านหลังโซฟาจะได้เป็นหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยว บานกรอบอลูมิเนียมสีขาว กระจกเขียวตัดแสง ลักษณะบานเป็นบานทรงสูงสามารถรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้ดี และสามารถเปิดระบายอากาศได้
ฝั่งตรงข้ามโซฟาจะเป็นพื้นที่สำหรับวางทีวี ในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นผนังเปล่า ติดตั้งช่องสัญญาณและเต้าเสียบไฟมาให้ ซึ่งเราสามารถที่จะเลือกได้ว่าจะ Built – in เป็นชั้นวางของหรือจะหาโต๊ะวางทีวีง่ายๆมาตั้งก็ได้ค่ะ
ระยะดูทีวีของห้องนั่งเล่นประมาณ 2.6 เมตร สามารถวางทีวีขนาด 60″ – 70″ จะได้ระยะดูทีวีที่สบายตา
จากห้องนั่งเล่นเรามาดูในส่วนของพื้นที่หลังบ้านกันต่อ โดยจากรูปเราจะเห็นได้ว่าตรงไปจะเป็นส่วนของห้องทานอาหารฝั่งขวามือจะเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 ห้องน้ำและส่วนห้องครัวค่ะ โดยพื้นที่ส่วนนี้ทั้งหมดจะได้เป็นไฟดาวน์ไลท์ทั้งหมด
มาดูส่วนห้องทานอาหารกันก่อน พื้นที่ห้องทานอาหารจะได้ช่องแสง 2 จุด เป็นประตูบานเลื่อนเชื่อมออกไปยังพื้นที่ฝั่งหลังบ้านและหน้าต่างบานเลื่อนฝั่งหลังบ้านค่ะ
โดยตัวหน้าต่างบานเลื่อนฝั่งหลังบ้านจะได้เป็นบานเปิดคู่ ผสมบานฟิกซ์ ลักษณะการเปิด 2 ด้านแบบนี้ค่ะ
ทางโครงการจัดวางโต๊ะทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งดูเหมาะสมกับพื้นที่ดีแล้วค่ะ แต่ถ้าใครมีแขกมาบ้านโดยบ่อยๆก็สามารถที่จะเพิ่มเป็น 7 – 8 ที่นั่งได้
จากห้องทานอาหารแล้วจะไปดูในส่วนของห้องครัวกันต่อ
สำหรับพื้นที่ห้องครัวนี้ทางโครงการจะแยกไว้ให้เป็นสัดส่วน จะไม่มีการกั้นห้องมาให้ซึ่งเวลาที่เข้าอยู่จริงแนะนำว่าให้กั้นห้องครัวเพิ่มเติม แยกเป็นสัดส่วน อาจจะใช้เป็นประตูบานเลื่อนกระจกก็ได้จะช่วยให้ไม่มีควันเข้ามารบกวนในส่วนอื่นของบ้านแต่ก็ยังได้ความโปร่ง ไม่ทำให้บ้านทึบค่ะ
เข้ามาในห้องครัว ในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นห้องเปล่า ไม่มีเคาน์เตอร์ Built – in มาให้นะคะ ภายในห้องครัวนี้จะมีช่องแสง 2 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนระดับการติดตั้งเหมาะสมกับการ Built – in ชุดเคาน์เตอร์ครัว
จากห้องครัวจะสามารถเชื่อมต่อออกไปยังลานซักล้างหลังบ้านได้ โดยประตูจะได้เป็นบาน HDF สีขาว
มือจับก้านโยกมาตรฐาน
ระยะการใช้งานหลัง Built – in เคาน์เตอร์ครัวจะเหลือประมาณ 1.9 เมตร ถือว่าค่อนข้างกว้างสามารถที่จะเข้ามาช่วยกันทำครัวได้สบาย เป็นกิจกรรมในครอบครัวได้เลยค่ะ
เรามาดูในส่วนของห้องน้ำที่ชั้น 1 กันต่อ โดยพื้นที่ห้องน้ำชั้น 1 นี้จะใช้พื้นที่ใต้บันไดเป็นหลัก ทำให้ต้องมีการลด step พื้นลงไป 1 ขั้น เพื่อช่วยให้ความสูงฝ้าเพดานในห้องน้ำสามารถใช้งานได้สะดวก
โดย Step จะลดระดับลงไปประมาณ 13 ซม. หรือประมาณ 1 ขั้นบันได 1 ค่ะ
ด้านหน้าห้องน้ำก็จะมีห้องเก็บของใต้บันได ตัวบานค่อนข้างสูง พื้นที่ด้านในเก็บของได้พอประมาณ มีหลอดไฟให้หนึ่งดวง
ประตูห้องน้ำจะได้เป็นบาน HDF สีขาว มีบานเกล็ดระบายอากาศ มือจับก้านโยก
พื้นห้องน้ำลดระดับลงไปจากพื้นด้านนอกประมาณ 4 เซนติเมตร เพื่อกันน้ำกระเซ็น เข้ามาด้านในตัวห้องน้ำ พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาอ่อน ผนังกรุกระเบื้องสีขาว ฟังก์ชั่นภายในห้องน้ำครบถ้วน ทั้งส่วนแห้งและส่วนเปียก
ภายในห้องน้ำจะมีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง 2 บาน อยู่ติดกับอ่างล้างมือค่ะ
ตัวอ่างล้างมือจะได้เป็นอ่างทรงกลมแบบลอยตัวพร้อมก๊อกน้ำเย็นยี่ห้อ Cotto ขนาดอ่างพอใช้งานได้สะดวก แต่เนื่องจากไม่มีเคาน์เตอร์เก็บของใต้อ่างจึงอาจจะต้องหาชั้นวางของมาติดตั้งเพิ่มเติมกันเอง ในกรณีที่มีอุปกรณ์อาบน้ำเยอะนะคะ
ติดกับอ่างล้างมือจะเป็นพื้นที่ส่วนเปียกหรือห้องอาบน้ำ โดยทางโครงการจะแยกพื้นที่ส่วนเปียกมาให้ด้วยการลดระดับพื้นลงไปประมาณ 3 เซนติเมตร แต่จะไม่มี Shower Box ติดตั้งมาให้ ซึ่งถ้าใครต้องการความเป็นสัดส่วนก็สามารถที่จะหาม่านอาบน้ำมาติดตั้งกันเองได้ไม่ยาก หรือจะติดตั้ง Shower Box เพิ่มเติมก็ได้ค่ะ ฝักบัวที่ได้จะได้เป็นฝักบัวยี่ห้อ Cotto ขนาดค่อนข้างเล็ก
ขนาดของห้องอาบน้ำประมาณ 0.8 x 1 เมตร พอให้ยืนอาบคนเดียวได้สะดวก
ติดกับพื้นที่อาบน้ำจะเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์โดยจะได้เป็นโถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Cotto แบบ Dual Flush พร้อมอุปกรณ์ครบชุด ทั้งสายชำระและที่วางกระดาษชำระ
สายชําระสีเงิน ขนาดพอดีมือ
กลับออกมาที่พื้นที่โถงด้านนอก ต่อมาเราจะขึ้นไปดูบนชั้นสองกันต่อ โดยบันไดจะได้เป็นบันไดสำเร็จรูป โครงสร้างบันไดเหล็ก ปิดหน้าด้วยไม้สำเร็จรูป ราวจับเหล็กสีขาว ปิดหน้าด้วยไม้สำเร็จรูปสีเดียวกับบันได
ชานพักบันไดแบบสามเหลี่ยม 1 ตอนและสี่เหลี่ยม 1 ตอน
ให้ดูภาพรวมของโถงบันไดเมื่อขึ้นมาถึงชั้น 2
โถงบันไดค่อนข้างสูงค่ะ และจะมีช่องแสงมาให้ 2 จุด ซึ่งพอที่จะให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาในเวลากลางวันแต่เวลากลางคืนแนะนำให้ติดตั้งโคมไฟเพิ่มเติมนะคะ
ขึ้นมาบนชั้น 2 พื้นปูด้วยลามิเนตลายไม้สีเข้ากับบันได มีตัวจบลามิเนตตั้งมาให้เรียบร้อย
พื้นที่บนชั้น 2 จะถูกแบ่งออกเป็นห้อง Master Bedroom และห้องนอนรอง 2 ห้อง โดยฝั่งซ้ายและขวาจะเป็นส่วนของห้องนอนรอง มองตรงไปประตูทางซ้ายจะเป็นประตูเข้าห้อง Master Bedroom ส่วนประตูทางขวาจะเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันในห้องนอนทั้ง 3 ห้องค่ะ
เรามาดูในส่วนของห้องนอนรองห้องแรกกันก่อน
โดยประตูห้องนอนทุกห้องจะได้เป็นบาน HDF สีขาว มือจับก้านโยก
พื้นห้องนอนทุกห้องจะปูด้วยลามิเนตต่อเนื่องไปจากโถงบันได ไม่มีตัวจบติดตั้งมาให้นะคะ
เข้ามาในห้องนอนรองห้องแรก ห้องนี้จะเป็นห้องนอนที่มีขนาดกลาง ภายในห้องได้ช่องแสงมาค่อนข้างเยอะ โดยจะได้หน้าต่างบานเลื่อน 1 บานหน้าต่างบานฟิกซ์ทรงยาว 1 บาน และประตูบานเลื่อนลูกฟักกระจก เชื่อมออกไปยังระเบียงข้างบ้าน 1 บาน
และอีกด้านของห้องก็จะสามารถ Built – in ตู้เก็บของขนาดใหญ่ได้ แต่สำหรับใครที่จะใช้ห้องนี้เป็นห้องนอนก็สามารถที่จะวางเตียงขนาดควีนไซส์ได้ค่ะ โดยที่ยังเหลือพื้นที่สำหรับ Built – in ตู้เสื้อผ้าได้อีก
ต่อมาเราไปดูในส่วนของระเบียงภายนอกกันต่อ โดยประตูที่เชื่อมระหว่างพื้นที่ในห้องและระเบียงภายนอก จะได้เป็นประตูบานเลื่อนคู่ บานเปิดสลับ บานกรอบอลูมิเนียมสีขาว กระจกเขียวตัดแสง
โดยระหว่างระเบียงและภายในห้องจะมีธรณียกสูงขึ้นมาประมาณ 10 เซนติเมตร
ออกมาที่ระเบียงภายนอกจะได้เป็นระเบียงขนาดค่อนข้างกว้างประมาณ 3.5 เมตร สามารถที่จะวางชุดโต๊ะทานกาแฟได้สบายมาก หรือจะต่อเติมออกมาเป็นห้องกระจกเพื่อจัดแต่งเป็นสวนก็เป็นไอเดียที่ไม่เลวนะคะ
สำหรับในบ้านจริงจะได้เป็นผนังทึบขนาดใหญ่ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวไม่ให้มองเห็นบ้านหลังที่อยู่ติดกันค่ะ
กลับมาที่โถงบันได เราไปดูในส่วนของห้อง Master Bedroom กันต่อ
เข้ามาภายในห้อง Master Bedroom เนื่องจากเป็นห้องขนาดใหญ่จึงสามารถที่จะแบ่งพื้นที่ห้องเป็น 2 ส่วน คือส่วนห้องนอนและส่วน Walk – in Closet แยกออกจากกันได้ค่ะ
ภายในห้องนี้วางเตียงขนาดคิงไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
ซึ่งเมื่อวางเตียงขนาดคิงไซส์ไปแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงสำหรับวางโต๊ะเล็กหัวเตียงได้ตามภาพเลยค่ะ
พื้นที่ปลายเตียงจัดเป็นเคาน์เตอร์วางทีวีและตู้เก็บของให้ดูเป็นตัวอย่าง
ซึ่งระยะการใช้งานก็ยังพอให้เดินผ่านได้สะดวกค่ะ
ถัดมาเราไปดูในส่วนระเบียงของห้อง Master Bedroom กันบ้าง
ระเบียงความกว้างประมาณ 0.8 เมตร พอให้ออกมายืนกินลมชมวิวและปลูกไม้กระถางเล็กๆได้ ตัวราวกันตกจะได้เป็นราวเหล็กทำสีดำ พื้นเป็นกระเบื้องและทรายล้างผสมกันค่ะ
กลับเข้ามาภายในห้องเราไปดูในส่วนของ Walk – in Closet กันต่อ โดยพื้นที่ Walk – in Closet นี้ ทางโครงการจะกั้นเป็นโครงประตูมาให้บางส่วน ซึ่งเราสามารถที่จะเปิดโล่งไว้แบบนี้และ Built – in เป็นชุดตู้เสื้อผ้าด้านในก็ได้ หรือจะกั้นให้เป็นสัดส่วนด้วยไม้ระแนงหรือประตูกระจกก็ได้ค่ะ เพื่อที่จะช่วยในเรื่องของการประหยัดแอร์
เข้ามาได้ในส่วน Walk – in Closet จะมีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อน พื้นที่ด้านใน Walk – in Closet สามารถที่จะ Built – in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้
อีกฝั่งของห้อง Walk – in Closet จะเชื่อมออกไปยังห้องน้ำในตัวค่ะ
เข้ามาในห้องน้ำเราจะเห็นว่าตัวห้องน้ำจะมีทางเข้าอีกทางที่เชื่อมต่อไปยังโถงบันไดด้านนอก พื้นห้องน้ำจะลดลงมาอีกประมาณ 3 เซนติเมตร
อ่างล้างมือที่ได้จะได้อ่างแบบฝังเคาน์เตอร์ทรงสี่เหลี่ยม มีพื้นที่เก็บของใต้อ่างนิดหน่อย พร้อมกระจกเงายี่ห้อ Cotto
ขนาดอ่างค่อนข้างกว้างใช้งานสะดวก
โถสุขภัณฑ์ที่ได้ก็จะได้แบบ Dual Flush ยี่ห้อ Cotto พร้อมอุปกรณ์ครบชุด
พื้นที่อาบน้ำจะถูกแยกไว้เป็นสัดส่วน มีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อน ภายในห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower และที่วางสบู่พร้อมเดินระบบไฟไว้เพื่อติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นค่ะ
ขนาดพื้นที่ห้องอาบน้ำประมาณ 1.5 x 0.9 เมตร สามารถยืนอาบได้สบายๆ
มุมจากห้องอาบน้ำมองย้อนไปทางทางเข้าทั้ง 2 ฝั่งซ้ายจะเป็นทางเข้าจากโถงบันไดและฝั่งขวาจะเป็นทางเข้าจากห้อง Master Bedroom ค่ะ
มุมมองของห้องน้ำมองเข้าจากตัวโถงบันได จะได้มุมมองประมาณนี้ค่ะ
ถัดมาดูในส่วนของห้องนอนรองห้องสุดท้ายกันต่อ
โดยห้องนอนรองห้องนี้จะเป็นห้องที่มีขนาดเล็กที่สุดในบ้าน เข้ามาในห้องแต่เจอกับช่องแสง 2 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยว บานกรอบอลูมิเนียมสีขาว กระจกเขียวตัดแสง
ห้องนี้จัดวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต แบบเข้ามุมมาให้ดูเป็นตัวอย่าง
พื้นที่ปลายเตียงจัดเป็นชั้นวางของ ให้ดูระยะการใช้งานยังเหลือพอให้เดินผ่านได้สะดวก
ส่วนพื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งจะติดตั้งเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง พร้อมโต๊ะหัวเตียงเล็กๆ
ระยะการใช้งานพอให้ใช้งานตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้สะดวก เพราะฉะนั้นถ้าหากใครอยากที่จะขยับขยายเตียงเพิ่มเป็นควีนไซส์ก็อาจจะมีพื้นที่สำหรับตู้เสื้อผ้าลดลง และค่อนข้างจะใช้งานลำบากค่ะ
บ้านตัวอย่างแบบที่ 2 เป็นบ้านแบบ iprestige
ก่อนจะเข้าไปดูในตัวบ้าน มาดูแปลนของบ้านกันก่อนค่ะ เริ่มจากพื้นที่ชั้น 1
และจากโซนห้องทานอาหารจะสามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ครัวปิดได้ค่ะ จากห้องครัวจะสามารถเชื่อมต่อออกไปยังลานซักล้างหลังบ้านได้ ส่วนห้องน้ำที่ชั้น 1 จะเป็นห้องน้ำที่อยู่ติดกับบันไดขึ้นชั้น 2 Function ภายในจะเป็นส่วนแห้งทั้งหมด คือจะมีอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ค่ะ
ขึ้นมายังชั้น 2
มาดูกันที่บ้านจริงกันต่อ พื้นที่หน้าบ้านจะได้รั้วเหล็กสีดำ แยกทางเข้าออกรถและคนเดินเหมือนบ้านแบบที่แล้ว พร้อมติดตั้งกล่องจดหมาย, กริ่งหน้าบ้าน, โคมไฟหน้าบ้านและถังขยะหน้าบ้านมาให้ครบชุด
เข้ามาภายในตัวบ้าน ส่วนแรกที่เราเจอจะเป็นส่วนของพื้นที่จอดรถขนาด 2 จอด เป็นที่จอดรถแบบ Indoor มีไฟดาวน์ไลท์มาให้ 4 ดวง มองตรงไปจะเป็นประตูทางเข้ารอง เชื่อมเข้าไปยังตัวบ้านและจะเห็นช่องแสง 1 จุด เป็นช่องแสงที่เชื่อมไปยังส่วโถงบันไดค่ะ
โดยตัวประตูที่สามารถเชื่อมเข้าไปในตัวบ้านได้จากที่จอดรถจะได้เป็นบาน HDF สีขาวมือจับก้านโยก มีตัว Stopper เพื่อกันประตูกระแทกผนัง ซึ่งทางเข้ารองแบบนี้จะมีข้อดีตรงที่เวลาที่เราซื้อของเข้าบ้านก็สามารถที่จะเข้าไปยังสวนครัวได้รวดเร็วโดยไม่ต้องเดินอ้อมไปเข้าประตูหลักหน้าบ้านค่ะ
เรามาเดินดูรอบๆตัวบ้านกันต่อ เริ่มที่พื้นที่ฝั่งหน้าบ้าน จะได้เป็นพื้นที่สวนปูหญ้ามาให้เรียบร้อย
พื้นที่ฝั่งข้างบ้านมีรั้วทึบระหว่างบ้าน สูง 1.6 เมตร พื้นที่ฝั่งข้างบ้านนี้จะสามารถเชื่อมต่อเข้าไปยังพื้นที่ในบ้านได้ด้วยประตูบานเลื่อนกระจกที่จะเชื่อมเข้าไปยังส่วนห้องทานอาหารได้ค่ะ
พื้นที่หลังบ้านจะเป็นส่วนของลานซักล้าง ซึ่งทางโครงการจะปูพื้นมาให้แค่บางส่วน พร้อมเดินระบบท่อและไฟมาให้เพื่อการติดตั้งเครื่องซักผ้า
พื้นที่ข้างบ้านอีกฝั่งค่ะ
กลับมาที่ทางเข้าหลักของตัวบ้านกันต่อ พื้นที่ทางเข้าหลักของตัวบ้านจะได้โคมไฟสีดำ พร้อมไฟดาวน์ไลท์ 1 ดวง มีเฉลียงก่อนถึงประตูทางเข้าหน้าบ้านยก 2 Steps ความกว้างเฉลียงประมาณ 1.2 เมตร สามารถวางที่วางรองเท้าได้สบายๆ
สำหรับส่วนประตูทางเข้าหลักของบ้านจะได้เป็นชุดประตูบานเลื่อนคู่ ผสมบานฟิกซ์ขนาดใหญ่ บานกรอบอลูมิเนียมสีขาว ลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง
เข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นเป็นส่วนแรก มองตรงไปจะเป็นส่วนของห้องทานอาหาร ไฟในบ้านมาตรฐานจะได้ทั้งแบบดาวน์ไลท์และโคมซาลาเปาทรงสี่เหลี่ยม
สำหรับพื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นนี้ทางโครงการจัดวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งดูเหมาะสมกับช่องแสงด้านหลังเป็นอย่างดี แต่ดูจากพื้นที่แล้วเราสามารถที่จะขยายโซฟาเป็นขนาดใหญ่ขึ้นได้ 5 – 6 ที่นั่งเพื่อให้สามารถนั่งเอนหลังได้ในวันหยุดค่ะ
ระยะดูทีวีประมาณ 2.8 เมตรสามารถวางทีวีขนาด 60″ – 70″ จะได้ระยะดูทีวีที่สบายตา
จากห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อไปยังห้องทานอาหารห้องครัวและบันไดขึ้นชั้น 2
มาดูพื้นที่ส่วนห้องทานอาหารกันก่อนค่ะ พื้นที่ส่วนห้องทานอาหารนี้จะได้ช่องแสง 2 จุด เป็นประตูบานเลื่อนเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ข้างบ้านและหน้าต่างบานเลื่อนฝั่งหลังบ้าน
ทางโครงการจัดโต๊ะทานอาหารขนาด 6 ที่นั่ง มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งจริงๆแล้วขนาดห้องทานอาหารค่อนข้างกว้างพอให้วางโต๊ะทานขนาด 7 – 8 ที่นั่งได้ค่ะ
จากห้องทานอาหารเราไปดูในส่วนของห้องครัวกันต่อ โดยพื้นที่ก่อนถึงห้องครัวจะยังเป็นพื้นที่ส่วนของห้องทานอาหาร ซึ่งมีขนาดกว้าง
พื้นที่ส่วนนี้เราสามารถที่จะทำเป็น Pantry นั่งทานอาหารหรือเตรียมอาหารเบาๆได้ หรือเรียกอีกอย่างว่าครัวฝรั่งนั่นเองค่ะ ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้จะมีประโยชน์เวลาที่เร่งรีบก็สามารถที่จะเตรียมอาหารเบาๆอย่าง ซีเรียลและนั่งทานแบบเร็วๆแล้วออกไปนอกบ้านได้เลยค่ะ
ติดกับส่วน Pantry จะเป็นส่วนของห้องครัว โดยพื้นที่ห้องครัวนี้ทางโครงการจะแบ่งห้องมาโดยกรอบบานประตู แต่ไม่ได้กั้นเป็นห้อง มาให้ ซึ่งเราสามารถที่จะติดตั้งเพิ่มเติมกันได้ไม่ลำบาก
เข้ามาในห้องครัวจะได้เป็นครัวขนาดใหญ่มาก สามารถที่จะ Built – in ชุดเคาน์เตอร์ครัวได้ครบชุดและจะยังสามารถใส่ island ตรงกลางเพิ่มได้อีกค่ะ ภายในห้องครัวจะมีช่องแสง 2 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อน ระยะการติดตั้งเหมาะสมกับความสูงเคาน์เตอร์ครัว
มุมจากในห้องครัวมองย้อนไปทาง Pantry ด้านนอกค่ะ
ถัดมาเรามาดูในส่วนของพื้นที่บริเวณโถงบันไดกันต่อ โดยพื้นที่บริเวณโถงบันไดชั้น 1 นี้เราจะเห็นว่าสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วน คือบันไดขึ้นชั้น 2 ห้องน้ำที่ชั้น 1 และประตูที่เชื่อมต่อไปยังที่จอดรถภายนอก
เรามาเริ่มจากตัวห้องน้ำกันก่อนค่ะ โดยห้องน้ำจะใช้พื้นที่ใต้บันไดทำให้ต้องลดระดับพื้นลงไปเพื่อให้ฝ้าเพดานภายในห้องน้ำสามารถใช้งานได้สะดวก
ด้านหน้าห้องน้ำจะมีห้องเก็บของใต้บันได เป็นประตูบานเปิดคู่
ประตูห้องน้ำได้เป็นบาน HDF สีขาว มีบานเกล็ดระบายอากาศ
เข้ามาภายในห้องน้ำที่ชั้น 1 จะเป็นลักษณะของห้องน้ำรับรอง คือจะมีแค่ส่วนแห้งเท่านั้น มีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง
อ่างล้างมือที่ได้จะได้เป็นอ่างทรงกลมแบบลอยตัวยี่ห้อ Cotto พร้อมก๊อกน้ำเย็น ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Cotto พร้อมอุปกรณ์ครบชุด
ระยะการใช้งานพอให้ใช้งานได้สะดวก แต่ไม่กว้างขวางนะคะ
ต่อมาเราจะขึ้นไปดูในส่วนของชั้น 2 กันต่อ
โดยบันไดที่ได้จะได้เป็นโครงสร้างเหล็ก ปิดหน้าไม้สำเร็จรูป ราวจับเหล็กสีขาว ตกแต่งด้วยไม้สีเข้ากันกับบันได
โถงบันไดค่อนข้างสูงแต่มีข้อดีตรงที่ได้ช่องแสงขนาดใหญ่มากมาด้วยค่ะ ทำให้ตัวของบันไดมีความโปร่งมากขึ้น และได้รับแสงธรรมชาติในเวลากลางวันทำให้เราสามารถประหยัดไฟตรงส่วนโถงบันไดไปได้ค่ะ
ตัวช่องแสงขนาดใหญ่บริเวณโถงบันไดจะได้เป็นบานฟิกซ์ทั้งหมดแต่จะมีความเก๋ตรงที่ตัวกรอบบานจะตกแต่งมาให้เข้ากับภาพรวมของบ้านโดยเฉพาะเวลามองจากภายนอกค่ะ
ชานพักบันไดเป็นสี่เหลี่ยมเต็มขั้น 2 ชุด สามารถเดินได้อย่างปลอดภัย
ขึ้นมาดูบนพื้นที่ชั้น 2 กันต่อ
พื้นบนชั้น 2 ปูด้วยลามิเนตลายไม้ มีตัวจบติดตั้งให้เรียบร้อย
ขึ้นมาบนชั้น 2 แล้วมองย้อนไปทางโถงบันไดดูภาพรวมค่ะ
จากโถงบันไดมองมาทางฝั่งซ้ายจะเป็นส่วนของห้องอเนกประสงค์ พื้นที่ส่วนนี้เราสามารถที่จะจัดเป็นพื้นที่พักผ่อนส่วนตัวของครอบครัว หรือจะทำเป็นห้องอ่านหนังสือก็จะได้มุมสงบไปอีกแบบค่ะ
โดยพื้นที่ส่วนนี้จะสามารถเชื่อมต่อไปยังระเบียงเล็กๆ ภายนอกได้ ซึ่งตัวระเบียงนี้ไม่เหมาะที่จะออกมายืนแต่สามารถที่จะปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวในบ้านได้
ให้ดูมุมการตกแต่งจากบ้านตัวอย่างที่ปรับเปลี่ยนพื้นที่อเนกประสงค์ตรงนี้ให้เป็นที่นั่งเล่นและห้องอ่านหนังสือค่ะ
เราไปดูในส่วนของห้องนอนรองห้องแรกกันก่อน โดยจะเป็นห้องที่อยู่ติดกับพื้นที่อเนกประสงค์
พื้นห้องนอนทุกห้องปูด้วยลามิเนตลายไม้ ไม่มีตัวจบคั่นระหว่างห้องนะคะ
เข้ามาภายในห้องนอนรองห้องแรก ห้องนี้จะมีช่องแสงมาให้เยอะมาก รวมทั้งหมด 4 บาน สามารถรับแสงธรรมชาติได้เยอะ และสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้ทุกบาน ไฟในห้องนอนจะได้เป็นโคมซาลาเปาทรงสี่เหลี่ยม
ช่องแสงภายในห้องนี้จะได้ทั้งแบบหน้าต่างบานเลื่อนและบานกระทุ้ง
โดยตัวบานกระทุ้งสามารถเปิดกว้างได้ขนาดนี้ระบายอากาศได้ดีค่ะ
สำหรับห้องนี้ทางโครงการวางเตียงขนาดควีนไซส์แบบเข้ามุมมาให้ดูเป็นตัวอย่าง
พื้นที่ปลายเตียงติดตั้งตู้วางของ และระยะการใช้งานพอให้เดินผ่านได้สะดวก
พื้นที่อีกฝั่งของห้องติดตั้งเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง
จะเห็นว่าระยะการใช้งานข้างเตียงฝั่งนี้เหลือค่อนข้างเยอะ พอที่จะใช้งานฟังก์ชั่นตู้เสื้อผ้าได้สะดวกและยังมีพื้นที่สำหรับวางโซฟาเล็กๆไว้นั่งพักผ่อนได้ด้วยค่ะ
กลับมาที่โถงบันไดภายนอก เราจะไปดูในส่วนของห้องนอนรอง ห้องน้ำและห้อง Master Bedroom กันต่อ
อีกมุมของโถงบันไดค่ะ
โดยเราจะเริ่มเข้าไปดูกันที่ห้องนอนรองห้องที่ 2
เข้ามาภายในห้องห้องนอนรองห้องนี้ จะเป็นห้องขนาดเล็กสุดในบ้าน มีช่องแสงมาให้ทั้งหมด 2 จุดเป็นหน้าต่างบานเลื่อนทั้งคู่ สามารถที่จะเปิดพร้อมกันเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
ห้องนี้วางเตียงขนาด 3.5 ฟุตมาให้ดูเป็นตัวอย่าง
พื้นที่ปลายติดตั้งตู้เก็บของมาให้ดู และจะเห็นว่าระยะการใช้งานเพียงยังพอให้เดินผ่านได้สะดวกไม่อึดอัดมากเท่าไหร่ค่ะ
พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งติดตั้งเป็นตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของ
ระยะการใช้งานฝั่งนี้สามารถใช้งานได้สะดวก
กลับมาที่โถงบันไดอีกครั้งเราจะไปดูในส่วนของห้อง Master Bedroom กันต่อ
หน้าห้อง Master Bedroom นี้จะมีตู้เก็บของแยกมาให้อีก 1 ตู้ ซึ่งเป็นตู้เก็บของที่สามารถใช้ร่วมกันได้ทั้งบ้าน ด้านในห้องเก็บของแบบเป็นห้องขนาดไม่ใหญ่มากค่ะ สามารถที่จะเก็บของกระจุกกระจิกได้ มีข้อดีตรงที่เป็นห้องเก็บของที่มีเพดานค่อนข้างสูงจึง สามารถเก็บของที่มีลักษณะยาวๆได้
ไปดูในห้อง Master Bedroom กันต่อ
ตัวห้อง Master Bedroom เป็นห้องขนาดใหญ่ สามารถที่จะแบ่งเป็นส่วนห้องนอนและ Walk – in Closet ได้
เรามาดูในส่วนของห้องนอนกันก่อนนะคะ พื้นที่ห้องนอนนี้เราจะได้ช่องแสงมาทั้งหมด 3 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อน 2 บาน ฝั่งหัวเตียงและประตูบานเลื่อนเชื่อมไปยังระเบียงภายนอก ฝั่งหน้าบ้าน
สำหรับบ้านตัวอย่างจัดวางเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
พื้นที่ข้างเตียงที่เหลือทั้ง 2 ด้านเหลือพอให้ติดตั้งตู้ปลายเตียงขนาดค่อนข้างกว้างได้สบายๆ
พื้นที่ปลายเตียงติดตั้งเป็นชั้นเก็บของและทีวีแบบลอยตัว
ระยะปลายเตียงเหลือค่อนข้างเยอะเลยค่ะ สามารถเดินผ่านได้สะดวก
เราไปดูในส่วนของระเบียงกันต่อ
พื้นระเบียงจะมีธรณีกั้นระหว่างห้องและระเบียงสูงขึ้นมาประมาณ 10 เซนติเมตร สำหรับระเบียงของห้อง Master Bedroom นี้มีขนาดค่อนข้างกว้างประมาณ 1.5 เมตร พอให้วางชุดโต๊ะทานกาแฟได้สบายๆเลยค่ะ หรือจะจัดเป็นม้านั่งยาวสำหรับออกมานั่งพักผ่อนก็ได้ ตัวราวกันตกจะได้เป็นราวเหล็ก 4 สีดำ
กลับเข้ามาภายในห้องเราจะไปดูในส่วนของ Walk – in Closet กันต่อ โดยพื้นที่ Walk – in Closet นี้ทางโครงการจะกั้นไว้ให้เป็นกรอบบานประตูเช่นกัน
เข้ามาภายในห้อง Walk – in Closet จะมีช่องแสงหนึ่งจุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อน ห้องนี้สามารถ Built – in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้ 1 ชุด พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งอีกหนึ่งตัว
อีกด้านของห้องจะสามารถเชื่อมต่อไปยังห้องน้ำในตัวได้ โดยบานประตูที่ได้จะได้เป็นบาน HDF มีบานเกล็ดระบายอากาศด้านล่าง มือจับก้านโยก
เข้ามาภายในห้องน้ำ ห้องนี้จะมีแยกส่วนแห้งส่วนเปียก พื้นลดระดับลงไปประมาณ 3 เซนติเมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิค
อ่างล้างมือจะได้เป็นอ่างพร้อมเคาน์เตอร์ใต้อ่างยี่ห้อ Cotto เคาน์เตอร์สามารถเก็บของได้ค่อนข้างเยอะมีบานเปิด 2 บาน
มือจับของเคาน์เตอร์ใต้อ่างค่ะ
ขนาดอ่างกว้างมาก สามารถใช้งานได้สะดวก มีพื้นที่เหลือสำหรับวางของข้างอ่างอีกนิดหน่อย
ติดกับอ่างล้างมือเป็นโถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Cotto พร้อมอุปกรณ์ครบชุด
พื้นที่ส่วนห้องอาบน้ำจะถูกแยกไว้เป็นสัดส่วน ติดตั้งกระจกนิรภัยมาให้ ภายในห้องอาบน้ำมีฝักบัวแบบ Hand Shower พร้อมก๊อกน้ำและที่วางสบู่และเดินระบบไฟมาให้เพื่อสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นค่ะ
ภายในห้องน้ำเราจะเห็นช่องแสง 1 บานเป็นกระจกฝ้าตรงนี้จะเชื่อมไปยังส่วน Terrace ของห้องน้ำภายนอกได้ค่ะ
ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 1.5 x 0.9 เมตร สามารถอาบได้สะดวกสบาย
กลับลงมาที่โถงบันไดอีกครั้ง เรามาดูในส่วนของห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันของห้องนอนรองทั้งสองห้องกันต่อ
เข้ามาด้านในห้องน้ำจะแยกส่วนแห้งส่วนเปียก มีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อน
ในบ้านมาตรฐานจะได้อ้างล้างมือแบบฝังเคาน์เตอร์ ตัวอ่างเป็นทรงกลมได้มาพร้อมก๊อกน้ำเย็น ยี่ห้อ Cotto ขนาดกระทัดรัด
พื้นที่ส่วนเปียกจะถูกแยกไว้เป็นสัดส่วน ติดตั้งห้องอาบน้ำกระจกนิรภัย ภายในห้องอาบน้ำมีฝักบัว ที่วางสบู่และก๊อกน้ำมาให้ครบชุด
ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 0.9 x 0.9 เมตร พอให้ยืนอาบคนเดียวได้สะดวก
ความพิเศษของห้องน้ำห้องนี้คือจะมี Terrace เล็กๆ ข้างบ้าน ซึ่งจะถูกกั้นพื้นที่ด้วยหน้าต่างบานเลื่อนทรงสูง
เปิดออกไปดูด้านนอกจะเห็นว่าเป็นพื้นที่ทรงสี่เหลี่ยมเล็กๆ พื้นที่ส่วนนี้เราสามารถที่จะปลูกต้นไม้เพื่อที่จะได้บรรยากาศรีสอร์ทภายในบ้านค่ะ
กลับออกมาที่โถงบันได มองย้อนกลับไปดูทางพื้นที่อเนกประสงค์จะได้มุมมองแบบนี้ค่ะ
ราคา (ธ.ค.)
ราคาโปรโมชั่น เริ่มต้น 3.99 ล้านบาท*
ฟรี! ค่าใช้จ่ายวันโอน
จอง 10,000 บาท
ทำสัญญา 10,000 บาท
ค่าส่วนกลาง : 20 บาท/ตร.วา/เดือน (เก็บล่วงหน้า 3 ปี)
สอบถามราคาเพิ่มเติมกรุณาติดต่อสำนักงานขายเพื่อข้อมูลที่อัพเดตที่สุดค่ะ*
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ The Plant Resort พระราม 5 – กาญจนาภิเษก ตั้งอยู่บนถนนบางใหญ่-บางคูลัดหรือซอยกันตนาภิเษก โดยตัวโครงการจะอยู่ถัดเข้ามาจากถนนกาญจนาภิเษกประมาณ 1.8 กม. สภาพแวดล้อมโดยรวมภายในซอยเป็นที่ดินเปล่า, บ้านพักอาศัยทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม หน้าปากซอยกันตนาจะมีตลาดกันตนาและโรงพยาบาลบางใหญ่ค่ะ ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์ในระใกล้โครงการไม่มากนัก ต้องอาศัยขับรถออกไปไกลหน่อยเพราะความอุดมสมบูรณ์ส่วนใหญ่ นั้นจะเกาะอยู่เส้นกาญจนาภิเษกทั้งสถานศึกษาต่างๆ ,วัดวาอาราม, ห้างสรรพสินค้าอย่างโลตัสบางใหญ่ มีตลาดพระปิ่น 3 เป็นตลาดใหญ่ที่ใกล้โครงการมากที่สุดค่ะ สามารถมาซื้ออาหารการกินตรงนี้ได้ หรือจะไปตรงสามแยกบางใหญ่ จะมี Central Westgate ซึ่งเป็นเซ็นทรัลที่ใหญ่ที่สุดในไทยตอนนี้ มีร้านค้า ร้านอาหารมากมายภายใน ไม่จำเป็นต้องเข้าเมืองไปห้างใหญ่ๆเลยค่ะเพราะที่นี่เรียกได้ว่ามีครบครัน หรือจะไปตลาดสดตรงตลาดกลางบางใหญ่ ไปเดินซื้อของตลาดนัด ตลาดไนท์พลาซ่า
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ
การออกแบบโครงการและวัสดุ
การออกแบบฟังก์ชั่นภายในโดยรวมดูครบถ้วน พอเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็กถึงขนาดกลาง จำนวนสมาชิกประมาณ 3-5 คน พื้นที่นั่งเล่นไม่อึดอัด มีที่วางโต๊ะทานอาหาร ครัวก็ขนาดให้ใช้งานได้จริงทั้งแบบบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว แต่ก็ยังคงต้องกั้นเป็นครัวปิดกันเองค่ะ ห้องน้ำมีแยกส่วนแห้งส่วนเปียกห้องนอนขนาดสามารถใช้ได้สะดวกทุกห้อง
วัสดุ
สิ่งอำนวยความสะดวก
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ
7. 75
ถนนบางใหญ่-บางคูลัดหรือในซอยกันตนา ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 1.8 กม. โดยรอบมีหมู่บ้าน โรงพยาบาล ที่ดินเปล่า พื้นที่เงียบสงบปากซอยติดถนนกาญจนาภิเษก มีตลาดนัด ตลาดสดใหญ่ๆ และห้างสรรพสินค้าอย่างเซ็นทรัลเวสต์เกต อีกทั้งถนนกาญจนาภิเษกยังไปได้หลายเส้นทาง เชื่อมต่อกับถนนหลายสาย
การเดินทาง ใช้รถ
7.75
เดินทางสะดวกเชื่อมต่อไปได้หลายเส้นทางแต่รถอาจจะติดมากหน่อยในช่วงเวลาเร่งด่วน จากสามแยกบางใหญ่ไปปทุมธานี ,อยุธยา วิ่งเส้นรัตนาธิเบศร์วิ่งเข้าตัวเมืองนนทบุรีได้ หรือจะไปถนนนครอินทร์ ,ราชพฤกษ์,พรานนก และพระราม 5 ได้
การเดินทาง ไม่ใช้รถ
7.0
ต้องเดินออกมาที่ซอยหลัก ระยะทางประมาณ 350 เมตร ถึงจะจเอวินมอเตอร์ไซค์และแท็กซี่ให้เรียกใช้บริการ ส่วนปากซอยติดกับถนนกาญจนาภิเษกจะมีรถตู้ รถสองแถวผ่าน และรถเมล์วิ่งผ่าน ตรงสามแยกบางใหญ่ก็มีสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง
ห้องและวัสดุ
8.0
โครงการออกแบบสไตล์รีสอร์ท ตัวบ้านมีฟังก์ชั่นครบ ห้องครัวขนาดพอให้ใช้งานครัวได้จริง สามารถกั้นเป็นครัวปิดได้ พื้นที่ส่วนต่างๆใช้งานได้สะดวก เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิก 4-5 คน วัสดุถือว่ามาตรฐานสำหรับราคานี้
สิ่งอำนวยความสะดวก
7.5
มีสวนสาธารณะและอาคาร Club House สระว่ายน้ำระบบคลอรีน ประตูทางเข้า-ออกติดตั้ง CCTV ฝั่งละ 1 ตัว ใช้ระบบ Sticker มีรั้วกั้นไม้กระดก มีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
ความคุ้มค่ากับราคา
8.0
เหมาะสำหรับคอรบครัวที่มีสมาชิก 3-5 คน ที่มองหาบ้านแฝดหรือบ้านเดี่ยวในเขตชานเมือง อาจจะทำงานย่านบางใหญ่หรือนนทบุรี ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก
คะแนนรวมเฉลี่ย 7.66
ดี
สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1739http://theplant.pruksa.com/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น