ตั้งอยู่บนถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. ใกล้รถไฟฟ้า MRT สุทธิสาร, เซ็นทรัล พระราม 9, ฟอร์จูน พระราม 9, บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า, The Street รัชดา, เอสพลานาด รัชดา และ รพ.พระราม 9
ชื่อโครงการ
เดอะ ไพรเวซี่ รัชดา – สุทธิสาร THE PRIVACY RATCHADA – SUTTHISAN
เจ้าของโครงการ
พฤกษา เรียลเอสเตท – Pruksa Real Estate
ลักษณะห้องและขนาดห้อง
– 1 Bedroom / 28.00 – 42.00 ตร.ม.
– 2 Bedroom / 50.00 ตร.ม.
เนื้อที่ทั้งหมด
– อาคาร A ที่ดิน 1-3-83 ไร่
– อาคาร B ที่ดิน 0-2-34 ไร่
– อาคาร C ที่ดิน 0-2-29 ไร่
จำนวนตึก
3 อาคาร
จำนวนชั้น
7 ชั้น
จำนวนห้อง
อาคาร A 75 ยูนิต, B 62 ยูนิต, C 62 ยูนิต รวม 199 ยูนิต
ที่จอดรถทั้งหมด
40% ( รวมจอดซ้อนคัน )
โซน
ห้วยขวาง
ขนส่งสาธารณะ
รถไฟฟ้า MRT สุทธิสาร
รถโดยสารที่ผ่าน
n/a
ที่ตั้ง
ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
กำหนดการ
n/a
ปีที่สร้างเสร็จ
ตุลาคม พ.ศ. 2557
ราคา
เริ่มต้น 2.65 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม
90,000 บาท / ตร.ม
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
Tesco Lotus Express 1.4 กม.
MRT สุทธิสาร 1.7 กม.
Mansion 7 2.6 กม.
ห้วยขวาง Night Market 2.8 กม.
ตลาดโชคชัย 4 2.1 กม.
Central พระราม 9 5.3 กม.
Esplanade รัชดาภิเษก 2.3 กม.
Fortune Town 5.8 กม.
ตลาดก้ามปู 3.4 กม.
โรงเรียนนานาชาติ The Regent 3.2 กม.
โรงเรียนบางกอกทวิวิทย์ 2.5 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก
– ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม., CCTV
– สวนล้อมโครงการ
– สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ซาวน่า
– คลับเฮ้าส์
จุดเด่นของโครงการ
เปิดซีรีย์ของชีวิตในมุมมองใหม่ ใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติกับ เดอะไพรเวซี่ รัชดา-สุทธิสาร คอนโดมิเนียม ที่เน้นคอนเซ็ปต์ความเป็นส่วนตัว และความสะดวกสบายเปรียบเสมือนได้อยู่บ้าน เพิ่มดีไซน์ให้โดดเด่น ภายใต้แนวคิดการออกแบบ Urban Living Design ให้ตอบรับวิถีชีวิตคนเมืองได้ทุกรูปแบบ
คอนโด MRT สุทธิสาร / คอนโดติดรถไฟฟ้า MRT สุทธิสาร
คอนโดโดยรอบ MRT สุทธิสาร
คอนโด MRT พหลโยธิน
คอนโด MRT ลาดพร้าว
คอนโด MRT รัชดาภิเษก
คอนโด MRT สุทธิสาร
คอนโด MRT ห้วยขวาง
คอนโด MRT ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
คอนโด MRT พระราม 9
คอนโด MRT เพชรบุรี
ที่ตั้งโครงการ
ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
พิกัด : 13.789175, 100.589555
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการ The Privacy รัชดา – สุทธิสาร เป็นกลุ่มคอนโด 3 อาคาร ตั้งอยู่บนถนนสุทธิสารวินิจฉัย ฝั่งมุ่งหน้าถนนลาดพร้าว ถนนสุทธิสารวินิจฉัย หรือถนนสุทธิสาร เป็นถนนที่เชื่อมจากถนนพหลโยธินและถนนประดิพัทธ์ ไปถึงถนนวิภาวดีรังสิตและถนนรัชดาภิเษก ดูเผินๆจากในแผนที่ถนนเส้นนี้จะมีหน้าตาเหมือนถนนใหญ่เลยค่ะ แต่จริงๆแล้วตัวถนนสุทธิสารนั้นจะเป็นถนนสองเลนเล็กๆ บรรยากาศจะสงบๆเหมือนเข้าซอยมากกว่า ส่วนสภาพแวดล้อมตั้งแต่เข้าแยกสุทธิสารมาจะเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบเกือบทั้งหมด โดยส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์สูงประมาณ 2 – 5 ชั้นตลอดสองข้างทาง เข้ามาเรื่อยๆจะเริ่มมีอพาร์ทแมนท์แบบ Low Rise แซมๆอยู่บ้างแต่ไม่เยอะเท่าไหร่ ลึกเข้ามาอีกบริเวณรอบๆโครงการจะเป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ถือว่าสะดวกทีเดียว สามารถเข้าถึงโครงการได้จากถนนเส้นหลักๆ 2 เส้นคือถนนสุทธิสารและถนนลาดพร้าวเข้าซอยลาดพร้าว 64 และซอยลาดพร้าว 80 และด้วยความที่ตัวโครงการตั้งอยู่ติดกับถนนสุทธิสารเลย จึงสามารถเชื่อมกับถนนเส้นหลักใหญ่ๆได้หลายเส้น ทั้งถนนลาดพร้าว, ถนนรัชดาภิเษก, ถนนวิภาวดีรังสิต, ถนนพหลโยธินยาวไปถึงถนนประดิพัทธ์ นอกจากนั้นยังมีทางลัดอีกเส้นทางคือซอย 20 มิถุนาที่สามารถลัดไปถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญที่เชื่อมกับถนนรัชดาภิเษกและถนนประชาสงเคราะห์ได้ นอกจากนั้นซอย 20 มิถุนา ยังเชื่อมกับถนนประชาอุทิศที่แยกเหม่งจ๋าย ซึ่งเราสามารถใช้ถนนเส้นนี้ไปถนนเทียมร่วมมิตรและถนนประดิษฐ์มนูญธรรมได้อีกด้วยค่ะ
สำหรับทางด่วนที่ใกล้ที่สุดของโครงการนี้คือจุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา – อาจนณรงค์ ฝั่งขาออกเมือง ซึ่งมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 3.8 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 8 – 10 นาที
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ของโครงการนี้ค่อนข้างสะดวกค่ะ โดยขนส่งสาธารณะที่สะดวกที่สุของโครงการนี้จะเป็น รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สุทธิสาร ซึ่งจะมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 1.6 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าไกลเกินจะเดินในชีวิตประจำวันไปหน่อย แต่ที่ยังถือว่าสะดวกอยู่ก็เพราะว่าทางโครงการจะมีรถ Bus รับส่งจากโครงการถึงตัวสถานีค่ะ หรือถ้าวันไหนบัสไม่พอก็แค่ออกมาหน้าโครงการก็สามารถเรียกพี่วินไปส่งที่แยกสุทธิสารหรือบริเวณ MRT สุทธิสารแทนการเดินได้ค่ะ หรือถ้าใครต้องการใช้เส้นลาดพร้าวก็สามารถให้พี่วินไปส่งที่ปากซอยฝั่งลาดพร้าวได้ โดยจะมีป้ายรถเมล์อยู่ไม่ไกลจากบริเวณปากซอย เป็นรถเมล์สาย 8, 8Air, 27ร, 44ร, 73ก, 92ร, 96, 122ร, 126, 137, 145, 172ร ส่วน Taxi ก็จะมีวิ่งผ่านหน้าโครงการอยู่เรื่อยๆ สามารถเรียกได้ตลอดค่ะ
ในส่วนของความอุดมสมบูรณ์ของโครงการนี้เรียกได้ว่าเฟื่องฟูพอตัวค่ะ แต่จะไม่อยู่ในระยะเดินถึง ต้องอาศัยนั่งรถออกมาบริเวณแยกสุทธิสาร จะเจอความอุดมสมบูรณ์บนถนนรัชดาภิเษกที่ได้อานิสงค์มาจากอาคารสำนักงานต่างๆมากมายตลอดเส้นรัชดา ทำให้มีหนุ่มสาวออฟฟิศเยอะ ร้านอาหารเลยเยอะตามไปด้วย แต่จะมาในแบบของร้านอาหารรายย่อย ร้านเล็กๆไปจนถึงร้านใหญ่, หาบเร่แผงลอยและตลาดนัดค่ะ ส่วนห้างใหญ่ๆในบริเวณใกล้ๆไม่มีเลย แต่ก็สามารถไปได้ไม่ยากค่ะ โดยห้างที่สามารถเดินทางไปได้สะดวกที่สุดและใกล้ที่สุดจะเป็นห้าง Central พระราม 9 ที่เราสามารถนั่ง MRT ไปลงที่สถานีพระราม 9 ได้ ใช้เวลาไม่นานก็ได้ Shopping แล้วค่ะ
การเดินทาง
การเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มกันบนถนนรัชดาภิเษกบริเวณแยกเทียมร่วมมิตรวิ่งตรงยาวลอดใต้อุโมงค์แยกตลาดห้วยขวาง จากนั้นวิ่งบนถนนหลักจนถึงแยกสุทธิสารแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนสุทธิสารวินิจฉัย ขับตรงต่อไปอีกประมาณ 1.5 กม. ก็จะถึงโครงการค่ะ
สรุปการเดินทาง แยกเทียมร่วมมิตร > แยกตลาดห้วยขวาง > แยกรัชดา – สุทธิสาร > ถนนสุทธิสารวินิจฉัย > The Privacy รัชดา – สุทธิสาร
เราเริ่มเดินทางกันบนถนนรัชดาภิเษกบริเวณแยกเทียมร่วมมิตร มุ่งหน้าตรงไปลาดพร้าว ลอดอุโมงค์แยกตลาดห้วยขวาง สังเกตแยกนี้จะมีตึก Cyber World ขวามือค่ะ
ตรงไปเรื่อยๆ ผ่านโครงการเยอะแยะเลยค่ะ เราจะลอดอุโมงค์แยกตลาดห้วยขวาง จากนั้นเราต้องเลี้ยวขวาที่แยกรัชดา – สุทธิสาร เข้าสู่ ถนนสุทธิสารวินิจฉัย ค่ะ
ขึ้นมาจากอุโมงค์แยกตลาดห้วยขวางแล้วให้ขับชิดเลนซ้าย ช่อง 2 ไว้นะคะ เพราะเราจะมุ่งหน้าไปลาดพร้าว 64
ตรงมาเรื่อยๆผ่าน MRT ห้วยขวาง
ผ่าน MRT ห้วยขวางมาสักพักจะเห็นสะพานลอยสีขาว แสดงว่าราใกล้ถึงแยกสุทธิสารแล้วค่ะ
ถึงแยกสุทธิสารให้เราเลี้ยวขวาค่ะ ส่วนถ้าเราเลี้ยวซ้ายจะไปออกถนนวิภาวดีรังสิต
ตอนนี้เราเข้าสู่ ถนนสุทธิสารวินิจฉัยแล้วค่ะ จากตรงนี้เราจะต้องขับตรงต่อไปอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร ถึงจะถึงโครงการ The Privacy รัชดา – สุทธิสาร
ผ่าน Lotus Express ทางขวามือซึ่งจะเป็น Hyper Market ที่ใกล้โครงการที่สุดค่ะ
เข้าซอยมาสักพักเราจะเห็นซอย 20 มิถุนา ซึ่งซอยนี้จเชื่อมกับถนนประชาราษฎร์บำเพ็บญ เราสามารถใช้ไปออกถนนรัชดาภิเษกหรือไปแยกเหม่งจ๋ายก็ได้ค่ะ
ขับมาเรื่อยๆเห็นปั๊มปตท. ทางขวามือแสดงว่าเราใกล้ถึงโครงการแล้วค่ะ จากตรงนี้ขับต่อไปอีกประมาณ 200 เมตรนะคะ
ตรงมาอีกไม่นานก็ถึงโครงการ The Privacy รัชดา – สุทธิสารแล้วค่าา
ถนนและแยกที่สำคัญบริเวณโครงการ เช่น
แยกสุทธิสาร 1.6 กม.
แยกเกตุนุช 1.4 กม.
แยกตลาดห้วยขวาง 2.8 กม.
แยกประชาราษฎร์บำเพ็ญ 2.1 กม.
แยกเทียมร่วมมิตร 3.8 กม.
แยกประชาอุทิศ 3.3 กม.
ถนนลาดพร้าว 1.4 กม.
ถนนรัชดาภิเษก 1.6 กม.
ซอย 20 มิถุนา 600 กม.
ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ 2.1 กม.
ถนนประชาอุทิศ 2.1 กม.
ถนนเทียมร่วมมิตร 3.3 กม.
สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ เช่น
Tesco Lotus Express 1.4 กม.
MRT สุทธิสาร 1.7 กม.
Mansion 7 2.6 กม.
ห้วยขวาง Night Market 2.8 กม.
ตลาดโชคชัย 4 2.1 กม.
Central พระราม 9 5.3 กม.
Esplanade รัชดาภิเษก 2.3 กม.
Fortune Town 5.8 กม.
ตลาดก้ามปู 3.4 กม.
โรงเรียนนานาชาติ The Regent 3.2 กม.
โรงเรียนบางกอกทวิวิทย์ 2.5 กม.
รอบๆ โครงการ
รอบๆโครงการทิศเหนือ ติดคอนโด A Space Play สูง 8 ชั้น ทิศใต้ ติดถนนสุทธิสารวินิจฉัยและที่อยู่อาศัยแนวราบสูง 1 – 3 ชั้น ทิศตะวันออก ติดที่อยู่อาศัยสูง 1 – 2 ชั้น และคลองลาดพร้าวถัดไปเป็นโครงการหมู่บ้านขนาดใหญ่ และทิศตะวันตก ติดกับโครงการทาวน์โฮมและอาคารสูง 6 ชั้น
สำหรับโครงการนี้เป็นโครงการ Low Rise สูงแค่ 8 ชั้นที่ตั้งอยู่ท่ามกลางที่อยู่อาศัยแนวราบซะส่วนใหญ่ทำให้วิวที่ได้โดยรอบจะเป็นมุมมองที่ค่อนข้างกว้างยกเว้นด้านหลังโครงการที่ติดกับคอนโดสูง 8 ชั้น ที่จะโดนบล็อควิวไปเต็มๆค่ะ วันนี้เลยเก็บวิวในระดับความสูงประมาณชั้นดาดฟ้ามาให้ดูกัน
มาดูของจริงกันบ้างค่ะ ออกมาบริเวณหน้าโครงการเยื้องไปทางขวามือติดกับถนนสุทธิสารวินิจฉัยฝั่งมุ่งหน้าไปถนนรัชดาภิเษก ฝั่งตรงข้ามเป็นที่พักอาศัยแนวราบประเภทบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น
หน้าโครงการฝั่งซ้ายมือเป็นถนนสุทธิสารฝั่งมุ่งหน้าไปเชื่อมกับถนนลาดพร้าวฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านเดี่ยวเช่นกันค่ะ
เดี๋ยวเราจะเดินไปดูบริเวณคลองลาดพร้าวกันสักหน่อยว่าสภาพคลองเป็นยังไงบ้างค่ะ
เดินมาถึงบริเวณต้นๆสะพานจะมีคิวพี่วินคอยให้บริการอยู่ แต่โดยปกติแล้วไม่ต้องเดินมาถึงตรงนี้ก็ได้ค่ะ แค่ยืนเรียกหน้าโครงการพี่วินเค้าก็จะมารับเราแล้วค่ะ
อัตราค่าโดยสารค่ะ
เดินมาถึงบนสะพานข้ามคลองลาดพร้าว
สภาพน้ำคลองจะมีสีค่อนข้างเข้ม มีขยะนิดหน่อย ไม่มีกลิ่น มีที่อยู่อาศัยเป็นชุมชนร่วมใจพิบูลย์ 2 ตลอดแนวริมคลองค่ะ
ส่วนการเดินทางด้วยรถโดยสารที่สะดวกที่สุดจะเป็นการใช้บริการรถไฟฟ้า MRT มาลงที่สถานีสุทธิสาร แล้วนั่ง Taxi หรือพี่วินเข้าไปยังตัวโครงการค่ะ
ด้านหลังสถานี MRT สุทธิสารจะมีตลาดนัดขนาดค่อนข้างใหญ่ ด้านในมีทั้งร้านขายเสื้อผ้าและร้านขายอาหารมากมาย สามารถแวะซื้อของก่อนเข้าโครงการได้ค่ะ
ตัวโครงการ
โครงการ “ The Privacy รัชดา – สุทธิสาร ” เป็นกลุ่มคอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร แบ่งเป็น Project A 75 ยูนิต, Project B 62 ยูนิตและ Project C 62 ยูนิต รวมจำนวนยูนิตพักอาศัยทั้งสิ้น 199 บนพื้นที่โครงการรวมประมาณ 3 – 0 – 46 ไร่ ค่ะ โดยการแบ่งพื้นที่ของโครงการนี้จะแบ่งคร่าวๆออกเป็น 2 ส่วนตามทางเข้าจากถนนสุทธิสารนะคะ ทางเข้าแรกคือทางเข้า Project C และทางเข้าที่สองคือทางเข้า Project A และ B ซึ่งทั้ง 2 พื้นที่จะเชื่อมกันด้วยทางเดินเล็กๆบริเวณที่จอดรถ เพื่อให้อาคาร C สามารถมาใช้ส่วน Facility กลางได้ด้วยค่ะ
เมื่อเข้ามาในโครงการแล้วแต่ละอาคารจะแยกที่จอดรถเป็นของตัวเองอย่างชัดเจนด้วยรั้วกั้นไม้กระดกกั้นทางเข้าที่จอดรถในทุกอาคาร โดยที่จอดรถของทุกอาคารจะเป็นที่จอดรถใต้อาคารและในพื้นที่รอบๆเท่านั้น ซึ่งจะสามารถจอดได้รวมแล้วประมาณ 40% ( รวมจอดซ้อนคัน ) ส่วน Facility หลักจะมีอยู่เพียงจุดเดียวเท่านั้นคือส่วนฟิตเนสและสระว่ายน้ำที่ตั้งอยู่ติดกับทางเข้าหลักของ Project A, B ค่ะ ซึ่งพื้นที่ตรงส่วน Facility นี้จะเป็นจุดที่เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นในการออกแบบของโครงการเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะพื้นที่ดินตรงนี้จะมีต้นจามจุรีขนาดใหญ่เดิมอยู่แล้ว ทางโครงการเลยออกแบบให้เข้ารับกับต้นจามจุรีเดิมด้วยค่ะ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือความร่มรื่น และร่มเงาจากต้นจามจุรีซึ่งเห็นได้ตั้งแต่หน้าโครงการเลยค่ะ
ในส่วนของอาคาร จะมีลักษณะที่คล้ายๆกัน คือเป็นตึกรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทุกอาคารจะแยกส่วน Lobby และนิติออกจากกัน มีลิฟท์ให้อาคารละ 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์โดยสารต่อจำนวนยูนิตจะอยู่ที่ Project A 1 : 75, Project B 1 : 62, Project C 1 : 62 ซึ่งถ้าดูจากอัตราส่วนแล้วก็ถือว่าสามารถขึ้นลงอาคารกันได้สบายๆ ไม่ต้องรอลิฟท์กันนานเท่าไหร่ แต่เนื่องจากมีลิฟท์แค่เพียงตัวเดียว ถ้าวันไหนลิฟท์เสียขึ้นมาอาจจะต้องลำบากกันหน่อยค่ะ
มาดูตัวโครงการของจริงกันบ้างค่ะ เริ่มจากทางเข้าหลักทั้ง 2 ทาง โดยถ้าเรามาจากแยกสุทธิสาร จะถึงทางเข้าของ Project C ก่อน ถัดไปจึงเป็นทางเข้าของ Project A, B ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันค่ะ
ตัวอาคารของ Project C จะอยู่ติดกับถนนสุทธิสารเลยค่ะ
ส่วน Project A, B จะมีระยะระหว่างอาคารกับถนนสุทธิสารอยู่หน่อยค่ะ
ป้ายหลักของโครงการแบบชัดๆ
เริ่มเข้าไปด้านในโครงการจากทางเข้า Project C กันก่อนค่ะ โดยเมื่อเลี้ยวเข้าโครงการจะเจอกับรั้วกั้นไม้กระดก ใช้ระบบ Key Card Access ระยะใกล้
แยกทางเข้าและออกค่ะ
ออกมาข้างอาคาร Project C ( ฝั่งที่ติดกับ Project A, B ) จะเป็นพื้นที่จอดรถภายนอกอาคาร
และที่ส่วนหย่อมสำหรับนั่งพักผ่อนเล็กๆ
กลับมาที่ทางเข้าหลัก Project A, B จากตรงนี้จะเห็นต้นจามจุรีที่มีอยู่เดิมและเป็นจุดเด่นของโครงการนี้ค่ะ
พ้นรั้วหลักของโครงการเข้ามาปุ๊ปจะเจอถนนหลักที่ใช้ร่วมกันระหว่าง Project A และ B
ตรงเข้ามาเรื่อยๆจะถึงรั้วกั้นไม้กระดกของ Project B
ส่วนทางซ้ายจะเป็นถนนเชื่อมไปตัว Project A
เข้ามาดูด้านในพื้นที่ของ Project B กันก่อนนะคะ หันมาทางฝั่งซ้ายจะเป็นที่จอดรถภายนอกอาคาร
ส่วน Laudry ของโครงการนี้จะจัดไว้ให้ภายนอกอาคาร ในบริเวณของที่จอดรถ Project B ค่ะ ซึ่งจะประกอบไปด้วยเครื่องซักผ้า 3 เครื่อง, ตู้อบผ้า 1 เครื่อง และเครื่องกรองน้ำ 1 เครื่อง
ทางเข้าที่จอดรถใต้อาคารของ Project B
แยกถนนสองฝั่งเป็นทางเข้าและทางออก
ภายในที่จอดรถ Project B
แต่ละช่องจอดจะจอดรถได้ 2 คัน
ทางเข้าส่วนพักอาศัย Lobby และสำนักงานนิติจะอยู่ภายในที่จอดรถค่ะ
เข้ามาด้านในจะเจอส่วน Lobby และห้องนิติบุคคลทางขวา ส่วนทางซ้ายจะแยกไปเป็นส่วนของโถงลิฟท์, Mail Box และบันไดหลัก(+ บันไดหนีไฟ)
ภายใน Lobby จะมีชุดโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง 1 ชุด
ฝั่งโถงลิท์จะประกอบไปด้วยโถงลิฟท์, Mail Box และบันไดหลักค่ะ
ติดกับบันไดหลักเป็นประตูทางเข้าอีกด้าน ซึ่งเชื่อมกับถนนหลักที่ใช้ร่วมกันระหว่าง Project A และ B สามารถใช้ออกไปยังส่วน Facility หลักของโครงการได้ค่ะ
ภายในโถงลิฟท์จะเป็นโถงขนาดกระทัดรัด มีลิฟท์โดยสาร 1 ตัว
กลับมาที่ถนนหลักที่ใช้ร่วมกันระหว่าง Project A และ B อีกครั้ง เราจะไปดูในอาคารของ Project A กันต่อค่ะ
มาถึงตัวอาคารจะมีรั้วกั้นไม้กระดก
ภายในที่จอดรถใต้อาคารของ Project A ค่ะ
ในส่วน Lobby แยกเป็นส่วนรับรองทางซ้ายและส่วนโถงลิฟท์ทางขวา
ซึ่งด้านใน Lobby ของ Project A จะเป็นที่ตั้งของ Sale Office ในปัจจุบันด้วยค่ะ
อีกด้านเป็นโถงลิฟท์, Mail Box และบันได
ประตูทางเข้าอีกด้าน จะเชื่อมกับพื้นที่ว่างติดกับพื้นที่ของ Project B ค่ะ
ภายในโถงลิฟท์
หน้าตาลิฟท์แบบมาตรฐาน มีโทรศัพท์เผื่อแจ้งเหตุขัดข้องด้านข้าง
ภานในตัวลิฟท์มีกระจกให้ส่องเช็คความเรียบร้อย 1 บาน พร้อมราวจับ
ลิฟท์ใช้ของ ThyssenKrupp บรรทุกได้ 800 กิโลกรัมหรือประมาณ 10 คน ตัวแป้นกดเลือกชั้น 1 – 8 เป็นแบบปุ่มกดธรรมดาๆค่ะ
หน้าตาลิฟท์ในชั้นปกติค่ะ
เราลองมาดูบรรยากาศบนชั้นพักอาศัยกันบ้างค่ะ โดยเราจะมาดูในอาคารของ Project A ที่ชั้น 2 เริ่มจากโถงลิฟท์ในชั้นบนก่อน ออกมาจากลิฟท์ปุ๊ปเราจะเห็นป้ายบอกชั้นก่อน
จากโถงลิฟท์จะเชื่อมไปยังตัวบันไดหลัก
อีกด้านเชื่อมไปยังโถงทางเดิน
มีห้องเครื่องไฟฟ้าและห้องขยะแยกไว้ให้เป็นสัดเป็นส่วน
โถงทางเดินมีห้องพักวางขนาบทั้ง 2 ด้าน
สุดโถงทางเดินจะมีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานการทุ้ง ช่วยระบายอากาศและรับแสงแดดเข้ามาในอาคารค่ะ
ดูส่วนของตัวอาคารกันไปแล้ว เรามาดูส่วน Facility หลักของโครงการกันต่อค่ะ หน้าตาของตัว Clubhouse จะเป็นกล่องๆ ใช้ผิวปูนเปลือยดูโมเดิร์น ตัวสระว่ายน้ำยกตัวขึ้นมาสูงจากพื้นพอสมควร
( เนื่องจากวันที่ไปเก็บข้อมูลส่วนของสระว่ายน้ำ มีฝนตกหนัก ตัวสระเลยไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ เลยขอใช้ภาพจากทางโครงการมาประกอบการรีวิวนะคะ ) โดยตัว Clubhouse นี้จะมี 2 ชั้น ที่ชั้นแรกจะเป็นพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อน และสระว่ายน้ำกลางแจ้ง
ขึ้นมาที่ชั้นสองก็จะมีพื้นที่พักผ่อนเปิดโล่ง ได้วิวสระว่ายน้ำและร่มเงาของต้นจามจุรี
พื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนอีกด้านจะอยู่บริเวณหน้าห้องฟิตเนสค่ะ
ด้านในฟิตเนสจะประกอบไปด้วยลู่วิ่ง 2 เครื่อง, เครื่อง Abdomonizer 2 เครื่อง
วิวที่ได้ตอนวิ่งชิลล์ๆจะเป็นวิวด้านหน้าโครงการ ฝั่งติดถนนสุทธิสารวินิจฉัยค่ะ
อีกด้านวางจักรยานไฟฟ้า 2 เครื่อง, เครื่องบริหารกล้ามเนื้อรวม 1 เครื่อง, เสื่อโยคะ 1 ผืน และดัมเบลคละน้ำหนัก 14 ชิ้น
แบบห้องในโครงการ
สำหรับโครงการ The Privacy รัชดา – สุทธิสาร จะมีห้องแบบ 1 Bedroom และ 2 Bedroom เท่านั้นค่ะ
โดยแบบ 1 Bedroom จะมีห้องห้องให้เลือกทั้งหมด 3 ขนาด ตามวิวห้องที่ได้คือ Urban View , Rain Tree View และ Pano Terrace
ส่วนห้องแบบ 2 Bedroom (The Privacy Signature : Corner Unit) จะเป็นยูนิตที่เป็นห้องมุม ละจะมีแปลนเพียงแบบเดียวเท่านั้นค่ะ
แบบ 1 Bedroom ( Urban View ) 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 28.0 ตร.ม.
แบบ 1 Bedroom ( Rain Tree View ) 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 33.0 ตร.ม.
แบบ 1 Bedroom ( Pano Terrace ) 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 42.0 ตร.ม.
แบบ 2 Bedroom ( The Privacy Signature : Corner Unit ) 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 50.0 ตร.ม.
ห้องตัวอย่าง
สำหรับห้องตัวอย่างที่เราจะพาทุกคนมาดูกันในวันนี้ จะมีเพียงห้องเดียวนะคะ โดยจะเป็นห้องแบบ 2 Bedroom ( The Privacy Signature : Corner Unit ) ขนาด 50 ตร.ม และจะพาไปดูห้องจริงของแบบ 1 Bedroom 33 ตร.ม ( Rain Tree View ) และ 1 Bedroom 42 ตร.ม ( Pano Terrace ) ค่ะ
เริ่มจากห้องตัวอย่างแรก กันค่ะ เป็นห้องแบบ 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 50 ตารางเมตร ( The Privacy Signature : Corner Unit ) 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอกับพื้นที่รับประทานอาหารด้านหน้า สามารถนั่งรับประทานอาหารได้ถึง 6 ที่นั่ง ฝั่งขวามือเป็นประตูเข้าห้องครัว ซึ่งส่วนห้องครัวนี้จะถูกกั้นแยกเอาไว้อย่างเป็นสัดส่วนเป็นครัวแบบปิด และยังมีหน้าต่างสำหรับระบายอากาศ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นเวลาปรุงอาหาร โดยสามารถเข้าห้องน้ำได้จากภายในห้องครัวนี้ค่ะ ส่วนฝั่งซ้ายมือจะมีผนังห้องที่เซ็ตเข้าไปส่วนหนึ่ง พื้นที่ตรงนี้สามารถวางโต๊ะ ทำชั้น Built-in สำหรับวางสิ่งของได้ค่ะ
ถัดจากพื้นที่รับประทานอาหาร จะเป็นส่วนพื้นที่นั่งเล่นติดกับระเบียง ฝั่งขวามือจะเป็นห้องนอน Master bedroom สามารถวางที่นอนขนาด 5 ฟุตและเครื่องแป้ง หรือโต๊ะทำงานได้อีก 1 ตัว มีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าได้ทั้ง 2 ฝั่ง ขนาดตู้สามารถเก็บเสื้อผ้าได้พอสมควร มีห้องน้ำในตัว โดยจะกั้นแยกส่วนแห่งกับส่วนเปียกออกจากกัน ส่วนฝั่งซ้ายมือจะเป็น Bedroom ขนาดเล็ก สามารถวางที่นอนขนาด 3 ฟุตได้ มีพื้นที่สำหรับโต๊ะทำงานบริเวณริมหน้าต่างและมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าขนาดกระทัดรัดได้ 1 ตัวค่ะ
มาดูตัวอย่างห้องของจริงกันเลยค่ะ ประตูหน้าห้องจะใช้เป็นบานประตูกรุด้วยลามิเนตสีโอ๊ค
มือจับแบบก้านโยก และตัวล็อคระบบ Digital Door Lock ของ Kocom
พื้นห้องใช้เป็นพื้นลามิเนตลายไม้สีโอ๊คทั้งห้อง ยกเว้นบริเวณ ห้องน้ำ ห้องครัว และระเบียง เก็บขอบพื้นระหว่างพื้นลามิเนตและกระเบื้องโถงทางเดินเรียบร้อย
เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอพื้นที่ส่วนรับประทานอาหารก่อน ถัดไปจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นติดระเบียง ซึ่งห้องจริงจะเป็นพื้นที่ห้องโล่งๆให้เราสามารถจัดการได้เองค่ะ ทางด้านซ้ายมือจะเป็นประตูเข้าห้องครัว ส่วนขวามือจะเป็นเวิ้งกำแพงที่เซ็ตเข้าไปเล็กน้อย ส่วนผนังภายในห้องทั้งหมดจะติดวอลเปเปอร์สีโทนน้ำตาล-ครีมอ่อนๆให้ยกเว้นผนังห้องน้ำค่ะ
หันมาดูบริเวณกำแพงที่เซ็ตเข้าไปทางขวามือ พื้นที่ตรงนี้สามารถวางโต๊ะ, วางอุปกรณ์สำหรับแขวน-จัดเก็บสิ่งของหรือทำชั้น built-in สำหรับวางของ เก็บรองเท้าก็ได้ค่ะ สวิตช์ไฟ และปลั๊กไฟจะเป็นของ ฺBticino ค่ะ
ไฟที่ใช้ภายในห้องจะเป็นดวงโคมแบบ Down-light ในส่วนรับประทานอาหาร และส่วนนั่งเล่น รวมกันได้ 3 ดวง ส่วนฝ้าเพเดานเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสีขาว
ทางซ้ายมือจะเป็นส่วนของห้องครัว ประตูกระจกด้านหน้าเป็นประตูห้องครัว สามารถมองเห็นทะลุไปยังประตูห้องน้ำได้ ส่วนบานถัดไปจะเป็นประตูห้องนอนเล็กค่ะ
เราไปดูในส่วนห้องครัวกันก่อนค่ะ ประตูห้องครัวจะใช้เป็นบานประตูกระจก เฟรมอะลูมิเนียมสีธรรมชาติ ใช้ชุดมือจับสำหรับดึงทั้ง 2 ด้านพร้อมตัวล็อค
พื้นห้องครัวใช้เป็นกระเบื้องเซรามิคสีครีมขนาด 30 x 30 เซ็นติเมตร เก็บขอบพื้นระหว่างพื้นกระเบื้อง และวงกบประตูอะลูมิเนียมเรียบร้อย
เข้ามาในส่วครัว โดยครัวที่ได้จะเป็นครัวแบบปิดสามารถเป็นได้ทั้งครัวไทยสำหรับทำอาหารหนัก หรือ Pantry สำหรับเตรียมอาหารเบาๆก็ได้ค่ะ บริเวณข้างเคาน์เตอร์ซิงค์ล้างจานจะมีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นขนาดใหญ่ได้อีก 1 เครื่อง ภายในห้องครัวจะได้ไฟมา 1 ดวง เป็นดวงโคมชนิด down-light และยังมีหน้าต่าง 1 บานที่ช่วยทำให้ห้องครัวสว่างขึ้นและช่วยระบายกลิ่นเวลาปรุงอาหารออกไปด้วยค่ะ
โดยช่องแสงที่ได้จะได้เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง เฟรมอะลูมิเนียมสีธรรมชาติ กระจกที่ใช้จะเป็นกระจกเขียวตัดแสง
มือจับกระจกอะลูมิเนียมแบบก้านโยกของ Lixil
เคาน์เตอร์ห้องครัวจะได้เคาน์เตอร์ Top สีขาว และตัวเคาน์เตอร์ลายไม้สีอ่อน ขนาด 0.60 x 1.50 เมตร มีช่องสำหรับเก็บของ 4 ช่อง และชั้นวางของอีก 1 ชั้น
ชุดเคาน์เตอร์มีอ่างล้างจานมาให้ 1 อ่าง พื้นที่สำหรับเตรียมอาหาร วางเครื่องปรุงขนาดกระทัดรัด และเตาเพลทไฟฟ้า 2 เตา หนังตรงส่วนนี้จะกรุเป็นกระเบื้องมาให้ ทำให้ทำความสะอาดง่ายขึ้นค่ะ
อ่างล้างจานแสตนเลสขนาดพอดีๆ ใช้ของ Hafele
เตาเพลทไฟฟ้าแสตนเลส หัวบิดควบคุมของ Hafele
ส่วนด้านบนของเคาน์เตอร์จะเป็นตู้ลอย เปิดออกมาจะเห็นช่องเก็บของ 2 ช่อง และชั้นวางของอีก 2 ชั้น
บริเวณข้างเคาน์เตอร์ด้านขวามือ จะมีชั้นวางของเล็กๆให้อีกชั้นนึงด้วยค่ะ
บริเวณข้างเคาน์เตอร์ด้านขวามือยังมีพื้นที่เหลืออยู่ประมาณ 30 เซ็นติเมตร สามารถทำเป็นชั้นวางของเล็กๆ สำหรับวางเครื่องปรุง และชั้นแขวนของใช้ภายในห้องครัวก็ได้ค่ะ
มุมมองจากห้องครัวที่มองออกไปจะเห็นส่วนรับประทานอาหารพอดี
ประตูบานซ้ายมือเป็นประตูห้องน้ำทำสีสำเร็จสีขาว มือจับประตูแบบก้านโยกของ Hafele ค่ะ
พื้นห้องน้ำจะใช้เป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30×30 เซ็นติเมตร สีเทา พื้นห้องน้ำจะลดระดับจากระดับพื้นห้องครัวประมาณ 3 เซ็นติเมตร เพื่อกันน้ำไหลออกมาจากห้อง
ผนังห้องน้ำกรุด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 เซ็นติเมตร สีครีม
ภายในห้องน้ำจะให้ไฟมา 2 ดวง เป็นดวงโคมชนิด Down-light บริเวณส่วนอาบน้ำ 1 ดวง และส่วนแห้ง 1 ดวง นอกจากนั้นยังได้พัดลมดูดอากาศ 1 ตัวช่วยระบายอากาศ และป้องกันการเกิดเชื้อรา ส่วนฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบ ทาสีขาวชนิดกันความชื้น
อ่างล้างหน้าเป็นอ่างแบบแขวนผนังมาพร้อมกับตู้ใต้เคาน์เตอร์ของ Mogen มีช่องเก็บของ 1 ช่อง และช่องวางของอีก 1 ช่อง
ตัวบานพับแบบ Soft Closed ป้องกันบานเปิดเสียหายเวลาที่เราเผลอปิดแรงๆนะคะ
ตัวอ่างล้างมือมีขนาดค่อนข้างกว้างดีค่ะ บริเวณขอบอ่างสามารถวางของกระจุกกระจิกได้เล็กน้อย
ก๊อกน้ำเย็นทรงเหลี่ยมขนาดกระทัดรัดของ American Standard
ส่วนโถสุขภัณฑ์เป็นของ Mogen ตำแหน่งติดตั้งมีระยะจากศูนย์กลางของโถสุขภัณฑ์ประมาณ 45 เซ็นติเมตร เป็นระยะมาตรฐานที่เหมาะสม ทำให้เวลานั่งไม่รู้สึกถูกบีบอัดจนเกินไป พร้อมที่แขวนกระดาษทิชชู่และสายฉีดชำระของ American Standard
สายฉีดชำระขนาดกระทัดรัดพอดีมือ
ส่วนบริเวณอาบน้ำจะเป็นส่วนที่มีฉากกระจกกั้นแยกเอาไว้อย่างเป็นสัดส่วน มีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานเล็กๆให้แสงสว่างสามารถผ่านเข้ามาได้
หน้าต่างเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งเฟรมอลูมิเนียมสีธรรมชาติ กระจกฝ้า
ประตู และฉากกั้นห้องน้ำใช้เป็นกระจก Temper ประตูกระจกเป็นแบบผลักเข้า ทำให้หยดน้ำที่กระเซ็นที่ติดกับประตูหลังจากอาบน้ำ จะหยดไหลอยู่แค่บริเวณส่วนเปียกเท่านั้นค่ะ
พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 90 x 90 เซ็นติเมตร ขนาดกำลังพอดี สามารถยืนอาบน้ำได้สบายๆเลยค่ะ
ฝักบัวอาบน้ำพร้อมชุดราวปรับระดับและถาดวางสบู่ของ American Standard ขนาดฝักบัวขนาดกลาง ฉีดพ่นน้ำออกมาได้ทั่วถึง ตัววาล์วเปิด-เปิดน้ำของฝักบัวเป็นแบบก้านโยก ใช้งานได้สะดวกค่ะ
ระหว่างพื้นห้องน้ำส่วนแห้ง และส่วนเปียก จะทำเป็นธรณีประตูกันน้ำจากส่วนเปียกไม่ให้ไหลออกไปยังส่วนแห้งค่ะ โดยระดับธรณีประตูจะยกตัวขึ้นมาประมาณ 3 เซ็นติเมตร
กลับมายังพื้นที่รับประทานอาหาร และห้องนั่งเล่นกันค่ะ
พื้นที่รับประทานอาหาร สามารถจัดให้เป็น 4 ที่นั่ง หรือจะขยายเป็น 6 ที่นั่งก็พอจะได้อยู่ค่ะ แต่แนะให้ใช้เป็นโต๊ะประเภทพับเก็บได้ ในเวลาปกติจะได้มีพื้นที่หลือ ไม่อึดอัดมากค่ะ
ถัดไปเป็นห้องนั่งเล่นติดกับประตูบานเลื่อนกระจกบานใหญ่ๆ 1 บาน ที่สามารถเปิดออกไปสู่ระเบียงได้ หน้าต่างใช้เฟรมอะลูมิเนียมสีธรรมชาติ และกระจกเขียวตัดแสง ตรงนี้เป็นจุดรับแสงที่ใหญ่ที่สุดของห้องนี้เลยค่ะ
พื้นที่ส่วนนั่งเล่นจะสามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งได้แบบพอดีๆ
ส่วนฝั่งตรงข้ามจะสามารถวางชั้นวางทีวี ความยาวจะได้สั้นกว่าฝั่งโซฟาเล็กน้อยค่ะ ฝั่งขวามือข้างประตูทางเข้า Master bedroom จะมี Video door phone ติดอยู่ ซึ่งเค้าจะให้แถมมาในทุกห้องค่ะ
Video door phone ได้เป็นของ Kocom นะคะ
ภาพรวมของส่วนนั่งเล่น จะเหลือพื้นที่เป็นทางเดินระหว่างโซฟา และทีวีระยะประมาณ XX เซ็นติเมตร สามารถวางทีวีขนาดประมาณXX จะได้ระยะดูทีสีที่พอดีๆกับสายตาค่ะ
จากส่วนห้องนั่งเล่นจะสามารถเชื่อมออกไปยังส่วนระเบียงด้านนอกได้ โดยประตูบานเลื่อนที่เชื่อมระหว่างสองพื้นที่จะได้เป็นบานเลื่อนคู่ เฟรมอลูมิเนียมสีธรรมชาติ
มือจับ และตัวล็อคแบบมาตรฐานของ Lixil
ธรณีประตูจากห้องนั่งเล่นออกไปยังระเบียงจากด้านในห้องสูงประมาณ 12 เซ็นติเมตร และจากส่วนระเบียงสูงประมาณ15 เซ็นติเมตร
พื้นที่ริมระเบียงนี้จะใช้เป็นพื้นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ด้วย
อีกฝั่งจะมีก๊อกน้ำและท่อสำหรับวางเครื่องซักผ้าติดตั้งไวให้เรียบร้อย
ราวระเบียงเหล็กทาสีฟ้าอมเทา
พื้นระเบียงปูพื้นกระเบื้องเซรามิคสีครีม ขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ขนาดระเบียงกว้างประมาณ 80 ซม. สามารถตากผ้าหรือถ้าใครอยากปลูกต้นไม้ก็สามารถหาไม้กระถางขนาดไม่ใหญ่มาวางก็ยังพอได้อยู่นะคะ
กลับเข้ามาในห้อง ลองมองย้อนกลับไปทางประตู้เข้าห้องค่ะ
เราจะมาต่อกันที่ห้องนอนเล็กกันค่ะ ประตูห้องนอนเล็กจะใช้เป็นบานประตูทำสีสำเร็จ สีขาว
ใช้อุปกรณ์มือจับก้านโยกของ Hafele
ภาพรวมภายในห้องนอน ได้รับแสงสว่างจากภายนอกได้ดีทีเดียวค่ะ เพราะมีหน้าต่างทั้ง 2 ด้าน และแนะนำให้ติดม่านกัน UV ด้วยนะคะ จะช่วยทำให้ห้องอยู่สบายมากขึ้น และช่วยประหยัดค่าแอร์ได้ด้วยค่ะ
ภายในห้องนอน จะได้ไฟมา 2 ดวง เป็นดวงโคมชนิด Down-light และฝ้าฉาบเรียบทาสีขาว
บริเวณริมหน้าต่างสามารถจัดเป็นโต๊ะนั่งทำงานได้อย่างเหมาะสม เพราะได้รับแสงสว่างพอดี
หน้าต่างริมระเบียงเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน และบานฟิกซ์อีก 2 บาน ใช้เฟรมอลูมิเนียมสีธรรมชาติ กระจกเขียวตัดแสง
หน้าต่างอีกด้าน เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง ใช้เฟรมอลูมิเนียมสีธรรมชาติ และบานกระจกเขียวตัดแสงอีกเช่นกัน
ขนาดห้องนี้สามารถวางที่นอนขนาด 3.5 ฟุตได้เท่านั้นค่ะ ซึ่งพอวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตลงไปแล้วจะเหลือพื้นที่สำหรับวางโต๊ะข้างหัวเตียงอีกหน่อย สามารถใช้วางรูปภาพ กระจุกกระจิก หรือนาฬิกาปลุกได้ค่ะ
พื้นที่โต๊ะทำงาน เราสามารถวางโต๊ะทำงานตัวใหญ่ขนาดประมาณ 1.80 เมตร แล้วจะยังเหลือพื้นที่สำหรับตั้งโคมไฟหรือชั้นหนังสือเล็กๆอีกค่ะ
พื้นที่ที่เหลืออยู่ภายในห้องอีกด้านสามารถวางตู้เสื้อผ้าสำหรับ 1 คนได้พอดีๆเลยค่ะ ในห้องนี้โครงการแถมแอร์มาให้ 1 ตัวค่ะ
ขนาดตู้ประมาณนี้ ถ้าจัดเก็บดีๆก็สามารถใส่เสื้อผ้าได้พอสมควรเลย
พื้นที่ทางเดินระหว่างตู้เสื้อผ้า ที่นอน และโต๊ะทำงาน ยังพอเดินได้อยู่ค่ะ
คราวนี้มาดูห้องนอนใหญ่กันบ้างค่ะ ประตูห้องนอนใหญ่จะใช้บานประตูทำสีสำเร็จสีขาว
ใช้อุปกรณ์มือจับก้านโยกของ Hafele
ปูพื้นลามิเนตลายไม้ต่อเนื่องจากห้องนั่งเล่นเข้าไปในห้องเลยค่ะ
ภาพรวมภายในห้องนอน ได้รับแสงสว่างจากภายนอกได้ดีทีเดียวค่ะ มีช่องแสงขนาดใหญ่ 1 บาน แนะนำให้ติดม่านกัน UV และกันความร้อนด้วยนะคะ
หน้าต่างภายในห้องจะเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน และบานติดตาย 2 บาน ใช้เฟรมอลูมิเนียมสีธรรมชาติและบานกระจกเขียวตัดแสง
บานกระทุ้งสามารถเปิดได้สุดค่อนข้างกว้าง เผื่อวันไหนอยากให้อากาศหมุนเวียนในห้องหน่อย ก็สามารถเปิดทิ้งไว้ได้ค่ะ แต่ถ้าจะเปิดทิ้งไว้นานๆแนะนำให้ติดมุ้งลวดด้วยก็ดีนะคะ เพื่อป้องกันแมลงเข้ามาในห้อง
ภายในห้อง ส่วนที่เป็นที่นอน จะได้ไฟมา 2 ดวง เป็นดวงโคมชนิด Down-light และฝ้าฉาบเรียบทาสีขาวค่ะ
พื้นที่ข้างที่นอนเหลือพอประมาณ สามารถเดินเข้ามาเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้ไม่ยาก และยังสามารถตั้งโคมไฟ หรือโต๊ะตัวเล็กๆได้อีกค่ะ
ห้องนี้สามารถวางที่นอนได้ถึงขนาดคิงส์ไซส์เลยค่ะ เพราะด้านยาวของห้องยังเหลือที่อีกพอสมควร
พื้นที่ปลายเตียงเหลือพอให้เดินผ่านได้
ภาพรวมของห้อง มุมมองจากทางด้านหน้าต่าง มองย้อนเข้ามาในตัวห้อง การติดกระจกไว้ในห้องก็เป็นเคล็ดลัดที่ช่วยทำให้ห้องดูกว้างขวางขึ้นได้ ทางโครงการได้แถมแอร์อีกหนึ่งตัวไว้ในห้องนี้ค่ะ
อีกด้านของห้องจะเป็นส่วนของ Walk – in Closet เล็กๆ และห้องน้ำในตัวของห้อง Master Bedroom นี้ค่ะ โดยที่ทางโครงการจะแถมตู้เสื้อผ้ามาให้ 2 ตัว พื้นที่ระหว่างตู้ทั้งสองบานเหลือพอให้ใช้งานได้สะดวกดีค่ะ
พื้นที่ระหว่างที่นอน และตู้เสื้อผ้า สามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งเพิ่มเติม หรือโต๊ะทำงานก็ได้นะคะ
ตู้เสื้อผ้าบานเปิดคู่ ติดกระจกเงาไว้ให้ที่บานเปิดด้วย
ภายในตู้เสื้อผ้าด้านซ้ายมือจะมีลิ้นชักมาให้ 3 ช่อง ส่วนด้านขวาที่ว่างสามารถหาลิ้นชักเตี้ยๆมาวางเพื่อจัดเก็บของเพิ่มเติมก็ได้ค่ะ
มือจับของตู้เสื้อผ้าบานนี้จะมีมือจับให้แค่ด้านเดียว อีกด้านนึงเป็นบานประตูตู้เรียบๆไม่มีมือจับ
ตู้เสื้อผ้าอีกฝั่งก็จะเป็นแบบเดียวกันค่ะ
บริเวณพื้นที่ Walk – in Closet จะได้ไฟมาอีก 1 ดวง เป็นดวงโคมชนิด Down light เหมือนกันค่ะ
ประตูห้องน้ำเป็นบานประตูทำสีสำเร็จสีขาว มือจับแบบก้านโยกของ Hafele ค่ะ
พื้นห้องน้ำจะใช้เป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30×30 เซ็นติเมตร สีเทา มีการจบรอยต่องานพื้นไม้ลามิเนตเรียบร้อย พื้นห้องน้ำจะลดระดับจากระดับพื้นห้องนอนประมาณ 3 เซ็นติเมตร เพื่อกันน้ำไหลย้อนออกมาจากห้อง
อ่างล้างหน้าเป็นอ่างแบบแขวนผนังมาพร้อมกับตู้ใต้เคาน์เตอร์ของ Mogen บริเวณขอบอ่างสามารถวางของกระจุกกระจิกได้เล็กน้อยค่ะ ส่วนก๊อกน้ำเย็นเป็นของ American Standard ค่ะ
ตู้ใต้เคาน์เตอร์จะมีช่องสำหรับเก็บของได้ 1 ช่อง
ผนังห้องน้ำทั้งหมดกรุด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 เซ็นติเมตร สีครีม
โถสุขภัณฑ์เป็นของ Mogen ตำแหน่งติดตั้งมีระยะการติดตั้งมาตรฐานที่กำลังพอดีค่ะ ใช้ที่แขวนกระดาษทิชชู่และสายฉีดชำระของ American Standard
ส่วนบริเวณอาบน้ำจะเป็นส่วนที่มีฉากกระจกกั้นแยกเอาไว้อย่างเป็นสัดส่วน ระหว่างพื้นห้องน้ำส่วนแห้ง และส่วนเปียก จะทำธรณีประตูกันน้ำจากส่วนเปียกไม่ให้ไหลออกไปยังส่วนแห้ง สูงขึ้นมาประมาณ 3 เซ็นติเมตร
พื้นที่ในส่วนอาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.40 x 0.90 เมตร ขนาดกำลังพอดี สามารถยืนอาบน้ำได้สบายๆค่ะ
ภายในส่วนอาบน้ำจะมีหน้าต่างบานเล็กๆสำหรับระบายอากาศ เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งกระจกฝ้า
ภายในห้องน้ำจะให้ไฟมาอยู่ 2 ดวง เป็นดวงโคมชนิด Down – light อยู่บริเวณส่วนอาบน้ำ 1 ดวง และส่วนอีกแห้ง 1 ดวง พัดลมดูดอากาศ 1 ตัวช่วยระบายอากาศ และป้องกันการเกิดเชื้อรา ส่วนฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบ ทาสีขาว ชนิดกันความชื้น
มาต่อกันที่ห้องขนาด 33 ตร.ม ( Rain Tree View ) กันค่ะ ห้องนี้จะแตกต่างจากห้องขนาด 50 ตารางเมตรตรงที่ เป็นห้องแบบ 1 Bedroom มี 1 ห้องน้ำ พื้นที่รับประทานอาหารเล็กลงเล็กน้อย และพื้นที่ครัวจะถูกจัดรวมอยู่ในพื้นที่ส่วนรับประทานอาหาร และส่วนนั่งเล่นค่ะ ส่วนห้องน้ำก็จะมีเพียง 1 ห้องสามารถเข้าได้จากทั้งในห้องนอน และห้องรับแขกค่ะ
ตัวอย่างห้องจริง ประตูหน้าห้องเป็นบานประตูกรุด้วยลามิเนต มือจับแบบก้านโยก และตัวล็อคระบบ Digital Door Lock ของ Kocom
เปิดเข้าห้องมา จะเจอส่วนครัว ส่วนทานอาหาร และส่วนนั่งเล่น ห้องน้ำจะสามารถเข้าจากห้องโถงนี้ด้วย พื้นทั้งหมดปูด้วยลามิเนตลายไม้สีโอ๊ค ต่อเนื่องจากหน้าห้องจนถึงภายในห้องนอน
ส่วนผนังภายในห้องทั้งหมดจะติดวอลเปเปอร์สีโทนน้ำตาล-ครีมอ่อนๆ ยกเว้นผนังห้องน้ำนะคะ และไฟภายในห้องนี้จะได้มาทั้งหมด 3 ดวง เป็นดวงโคมชนิด Down light ส่วนฝ้าเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสีขาว
ชุดเคาน์เตอร์ที่ทางโครงการแถมมาให้จะเป็นแบบเดียวกันกับห้องขนาด 50 ตารางเมตรเลยค่ะ
ประตูห้องน้ำ และประตูห้องนอนเป็นบานประตูทำสีสำเร็จ มือจับแบบก้านโยกของ Hafele ค่ะ
ห้องน้ำของห้องขนาด 33 ตารางเมตรนี้ จะปูพื้นและกรุผนังด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 เซ็นติเมตร สีเทา และสีครีม และผนังตกแต่งกรุด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 60 x 60 เซ็นติเมตร สีเทา ภายในห้องน้ำจะได้ไฟมาทั้งหมด 2 ดวง พัดลมดูดอากาศ 1 ตัว และมีช่องระบายอากาศบริเวณโถสุขภัณฑ์ด้วย 1 จุด ส่วนสุขภัณฑ์จะใช้แบบเดียวกันกับห้องขนาด 50 ตารางเมตรเลยค่ะ
บริเวณส่วนอาบน้ำจะใช้กระจก Temper กั้นอย่างเป็นสัดส่วน ขนาด 90 x 90 เซ็นติเมตร
ห้องน้ำจะสามารถเข้าได้จากทั้ง 2 ทาง ประตูบานซ้ายมือคือประตูจากห้องนอน ส่วนประตูขวามือเป็นประตูจากห้องโถงค่ะ
ห้องโถงกลางสามารถจัดโต๊ะรับประทานอาหารได้ 4 ที่นั่ง และชุดโซฟาอีก 2ที่นั่งติดประตูบานเลื่อนกระจก ที่สามารถออกสู่ระเบียงได้
ในส่วนของพื้นระเบียงจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีครีม ขนาด 30 x 30 เซ็นติเมตร พื้นที่นี้จะสามารถวางคอมเพรสเซอร์แอร์ได้ อีกฝั่งจะมีก๊อกน้ำและท่อสำหรับวางเครื่องซักผ้าด้วยค่ะ
ห้องนี้จะอยู่ให้สบาย และประหยัดค่าแอร์ ก็ควรติดม่านกัน UV เพิ่มเข้าไปด้วยนะคะ
มาต่อกันที่ห้องนอนกันค่ะ
ภาพรวมภายในห้องนอน จะได้หน้าต่างบานใหญ่แบบห้องขนาด 50 ตารางเมตรเลยค่ะ ภายในห้องสามารถวางที่นอนขนาด 5 ฟุตได้ รวมถึงโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานได้อีก 1 ตัวค่ะ
ตู้เสื้อผ้าจะเป็นแบบเดียวกันกับห้องขนาด 50 ตารางเมตรเช่นเดียวกันค่ะ แต่ห้องนี้จะมีมาให้แค่ตู้เดียวเท่านั้น อีกฝั่งหนึ่งเราสามารถวางตู้เสื้อผ้าเพิ่มอีกหนึ่งตู้ หรือจะทำชั้นวางของ Built – in ก็ได้เช่นกันค่ะ
มุมมองจากในห้องออกไปสู่ภายนอก ห้อง 33 ตารางเมตรนี้จะมีแอร์มาให้ 1 ตัวค่ะ
มุมมองจากริมหน้าต่างเข้าไปสู่ภายในห้องส่วน Walk – in Closet และเชื่อมไปยังห้องน้ำค่ะ
ถัดไปเป็นห้องขนาด 42 ตร.ม ( Pano Terrace ) ห้องนี้เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ แต่การจัดห้องจะแตกต่างจากห้องขนาด 33 ตารางเมตรตรงที่ ตัวห้องจะมีการจัดพื้นที่ในเชิงหน้ากว้าง ทำให้ส่วนนั่งเล่น และส่วนรับประทานอาหารมีพื้นที่กว้างขวางมากขึ้น จุดเด่นของห้องนี้คือช่องแสงบานใหญ่เต็มหน้ากว้างทำให้สามารถมองเห็นวิวภายนอก และรับแสงแดดได้ดีมากขึ้น ห้องครัวจะอยู่กลางห้องถูกแยกออกเป็นสัดส่วนด้วยผนังกระจกนิรภัย ส่วนห้องน้ำจะสามารถเข้าได้จากทางห้องนอนเท่านั้น
เริ่มที่ประตูหลักของห้องจะไม่เหมือนห้องอื่นๆค่ะโดยจะได้เป็นบานเปิดที่มีบานตกแต่งติดมาด้วย ทำให้ดูใหญ่ ดูหรูขึ้นอีกหน่อย ส่วนวัสดุบานประตูกรุด้วยลามิเนต
เปิดเข้ามาในห้อง จะเจอส่วนโถงทางเข้า ส่วนครัวทางขวามือ ส่วนทานอาหาร และส่วนนั่งเล่น พื้นปูด้วยลามิเนตลายไม้ต่อเนื่องจากหน้าห้องไปถึงภายในห้องนอน ส่วนผนังภายในห้องทั้งหมดจะติดวอลเปเปอร์สีโทนน้ำตาล-ครีมอ่อนๆ ยกเว้นผนังห้องน้ำ
จะสามารถเห็นได้ว่าห้องโถงนี้มีหน้ากว้างเป็น 2 เท่าของห้องขนาดอื่นๆเลยค่ะ ทำให้ห้องนี้มีแสงสว่างเข้าได้อย่างทั่วถึง ห้องนี้สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างอิสระมากกว่าห้องขนาดอื่นๆตามแต่ที่ผู้ใช้สอยต้องการค่ะ
ในส่วนของห้องครัวจะถูกกั้นออกไปจากพื้นที่รับประทานอาหาร และพื้นที่นั่งเล่นด้วยผนังกระจกนิรภัย ภายในห้องครัวจะได้ไฟมาอีก 1 ดวง ส่วนพื้นของห้องครัวจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีครีม ขนาด 30 x 30 เซ็นติเมตร
ประตูห้องครัวนี้จะเป็นประตูบานเลื่อน เฟรมอลูมิเนียม ทั้งหมดเป็นบานกระจกใส
ชุดเคาน์เตอร์ที่ทางโครงการแถมมาให้จะเป็นแบบเดียวกันกับห้องขนาดอื่นๆค่ะ
มุมมองจากห้องครัวออกไปยังพื้นที่รับประทานอาหาร และพื้นที่นั่งเล่น จะเห็นว่าค่อนข้างโปร่งซึ่งถือว่าเป็นข้อดีค่ะ
ห้องนี้จะมีประตูบานเลื่อน 2 บานสำหรับออกไปยังระเบียง เป็นแบบเดียวกันกับห้องขนาดอื่นๆเลยค่ะ สิ่งที่ควรจะระวังตามมาคือ ความร้อนจากแสงแดดที่จะเข้าสู่ตัวห้อง ตรงนี้จะขอแนะนำให้ติดม่านกัน UV ที่บริเวณประตูบานเลื่อนทั้ง 2 บานเลยนะคะ
มาในส่วนของระเบียง จะแตกต่างจากระเบียงห้องอื่นๆ คือพื้นจะปูด้วยไม้เทียมหน้ากว้าง 4″ พื้นที่ระเบียงมีขนาดที่กว้างขวาง
ฟากหนึ่งของระเบียงมีการใช้ระแนงไม้ทำเป็น Facade ในแนวตั้ง เป็นตัวช่วยบังแดดในส่วนของพื้นที่นั่งเล่นพอดีเลยค่ะ
บริเวณระเบียงนี้จะใช้เป็นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ด้วยค่ะ มีการติดกริลล์บังตัวคอมเพรสเซอร์ไว้เพื่อความสวยงามของอาคาร
มุมมองจากระเบียงออกไปยังภายนอกห้อง
อีกฟากหนึ่งของระเบียงจะมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าได้ 1 เครื่อง และก๊อกน้ำ 1 ตัวค่ะ
ถัดมเราจะไปดูในส่วนของห้องนอนกันต่อค่ะ
ภายในห้องนอนของห้องขนาด 42 ตารางเมตรนี้จะสามารถจัดวางที่นอนขนาด 5 ฟุต และโต๊ะเครื่องแป้ง หรือโต๊ะทำงานได้อีก 1 ตัว ได้เหมือนกับห้องขนาดอื่นๆค่ะ
ตู้เสื้อผ้าจะเป็นแบบ Walk-in Closet โดยจะมีประตูบานเลื่อนกระจกฝ้ากั้นออกจากห้องนอนอย่างเป็นสัดส่วนโดยสามารถเลื่อนเปิดได้หลายรูปแบบค่ะ
ทั้ง 2 ฟากของ Walk-in Closet จะมีชั้นวางของเหนือหัว 1 ชั้น ราวแขวนเสื้อผ้า และช่องวางของ 4 ช่อง ลิ้นชักเก็บของ 4 ช่อง
ส่วนห้องน้ำจะสามารถเข้าได้จากส่วน Walk – in Closet
ภายในห้องน้ำจะปูพื้นและกรุผนังด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 เซ็นติเมตร สีเทา และสีครีมและผนังตกแต่งกรุด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 60×60 เซ็นติเมตร สีเทา ภายในห้องน้ำจะได้ไฟมาทั้งหมด 2 ดวง พัดลมดูดอากาศ 1 ตัว และมีช่องระบายอากาศด้วย 1 จุด ส่วนสุขภัณฑ์จะใช้แบบเดียวกันกับห้องขนาดอื่นๆเลยค่ะ
ตำแหน่งติดตั้งโถสุขภัณฑ์มีระยะการติดตั้งมาตรฐานที่กำลังพอดีค่ะ
ทั้งสวิตช์ไฟ และปลั๊กไฟจะใช้ของ Bticino นะคะ
VDO จากทางโครงการค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=ODZM_6uP2rw
ราคา
แบบ 1 ห้องนอน Unit No. A203 พื้นที่ใช้สอย 33.32 ตร.ม ราคา 2.656 ล้านบาท
แบบ 1 ห้องนอน Unit No. A404 พื้นที่ใช้สอย 33.32 ตร.ม ราคา 2.7 ล้านบาท
แบบ 1 ห้องนอน Unit No. B806 พื้นที่ใช้สอย 44.24 ตร.ม ราคา 3.897 ล้านบาท
แบบ 2 ห้องนอน Unit No. A301 พื้นที่ใช้สอย 50.18 ตร.ม ราคา 3.694ล้านบาท
เงินจอง 5,000 บาท
ค่าส่วนกลาง 42 บาท / ตร.ม ( ชำระล่วงหน้า 1 ปี )
ค่ากองทุนแรกเข้า 500 บาท / ตร.ม
บทสรุปโครงการ
ที่ตั้งโครงการ : โครงการ The Privacy รัชดา – สุทธิสาร ตัวโครงการจะอยู่ติดถนนสุทธิสารวินิจฉัยที่มีทางเข้าหลักๆ 2 ทางคือจากถนนลาดพร้าวและจากถนนสุทธิสารตัดถนนรัชดา มีระยะห่างจาก MRT สุทธิสาร ประมาณ 1.7 กิโลเมตร บรรยากาศรอบๆโครงการเงียบสงบ เพราะสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮมและอาคารพาณิชย์ เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ความสงบ ไม่วุ่นวายแต่ยังเดินทางได้สะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัวและระบบขนส่งสาธารณะ ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินไม่มีแต่ความอุดมสมบูรณ์ที่ไกลออกมาหน่อยบนถนนรัชดาภิเษกจะมีร้านอาหารเล็กใหญ่มากมาย รวมไปถึงร้านค้าแผงลอย ที่มีมาเพื่อรองรับหนุ่มสาวออฟฟิศในย่านรัชดาภิเษกนั่นเองค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : การเดินทางด้วยรถยนต์ค่อนข้างสะดวก สามารถใช้ถนนเส้นหลักๆเข้าถึงโครงการได้ทั้งถนนลาดพร้าว, ถนนรัชดาภิเษก และถนนสุทธิสาร ส่วนการเดินทางจากโครงการออกไปยังที่อื่นๆก็สะดวกเหมือนกันค่ะ เพราะถนนสุทธิสารจะเป็นถนนเส้นหลักที่วิ่งไปเชื่อมกับถนนเส้นหลักอื่นๆอีกหลายเส้นทั้งถนนลาดพร้าว, ถนนรัชดาภิเษก, ถนนวิภาวดีรังสิต, ถนนพหลโยธินยาวไปถึงถนนประดิพัทธ์ นอกจากนั้นยังสามารถใช้ซอย 20 มิถุนาลัดไปออกถนนรัชดาภิเษก, ถนนประชาอุทิศ, ถนนเทียมร่วมมิตร และถนนประดิษฐ์มนูญธรรมได้ด้วยค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ : สำหรับคนที่ต้องการหลีกเลี่ยงรถติด การเดินทางโดยรถสาธารณะเป็นทางเลือกที่เรียกได้ว่าสะดวกอยู่พอสมควรนะคะ ออกมาหน้าโครงการก็มีพี่วิน อยู่ใกล้ๆ บางครั้งไม่ต้องเดินไปถึงคิวพี่วินเค้าก็จะรู้งาน วิ่งมารับเราที่หน้าโครงการเองเลยค่ะ ส่วนรถไฟฟ้าที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสุทธิสาร สามารถให้พี่วินมาส่งที่สถานีได้ค่ะ นอกจากนั้นถ้าใครอยากใช้บริการ Taxi ก็จะมีวิ่งผ่านไปมาหน้าโครงการตลอดค่ะ
การออกแบบโครงการและที่ดิน : โครงการ The Privacy รัชดา – สุทธิสาร เป็นกลุ่มคอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร บนที่ดินขนาดประมาณ 3 ไร่ ยูนิตพักอาศัยรวมทั้งสิน 199 ยูนิต แยกเป็น อาคาร A 75 ยูนิต, B 62 ยูนิต, C 62 ยูนิต ส่วนลิฟท์โดยสารจะมีให้อาคารละ 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์โดยสารต่อยูนิตพักอาศัยจะอยู่ที่อาคาร A 1 : 75 , B,B 1 : 62 ซึ่งถ้าดูกันแค่อัตราส่วนถือว่าไม่หนาแน่นเท่าไหร่ ยังใช้งานกันได้สบายๆ แต่ถ้าวันไหนลิฟท์เสียคนที่อยู่ชั้น 4 ขึ้นไปนี่คงต้องปาดเหงื่อกันหน่อยนะคะ
ในส่วนของห้องพักตอนนี้จะมีให้เลือก 3 แบบ โดยจะมีห้องขนาดตั้งแต่แบบ 1 ห้องนอนเล็ก ไม่ได้กั้นห้อง (Studio) ขนาดเริ่มต้นประมาณ 22 ตร.ม. แบบ 1 Bedroom ขนาดเริ่มต้นประมาณ 25 ตร.ม. และแบบ 2 Bedroom ประมาณ 38-52 ตร.ม. โดยแต่ละชั้นจะมีห้องแบบ Studio แค่ 2 ห้อง และแบบ 2 Bedroom แค่ชั้นละ 3 ห้องค่ะ
วัสดุ : วัสดุของโครงการนี้ใช้ของตาม Standard พื้นห้องทั่วไปปูด้วยลามิเนต, ห้องน้ำปูกระเบื้องเซรามิค, พื้นระเบียงปูไม้เทียม 1″ x 4″, ผนังห้องนั่งเล่นและห้องนอนปิด Wallpaper มาให้ ส่วนผนังห้องน้ำกรุด้วยกระเบื้องเซรามิค 30 x 30 ซม., ฝ้าเพดานยิบซั่มบอร์ดฉาบเรียบทาสีขาว ภายในห้องน้ำได้เป็นยิบซั่มบอร์ดชนิดกันชื้น, ประตูและกระจกบานเลื่อนจะได้เป็นกรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ, ประตูภายในทำสีสำเร็จ อุปกรณ์ลูกบิดของ Hafele, อ่างล้างหน้าพร้อมตู้ใต้เคาน์เตอร์ของ Mogen, ราวแขวนผ้าและที่ใส่กระดาษชำระของ Luzern, ก๊อก สายชำระและฝักบัวของ American Standard, ฉากกั้นอาบน้ำกระจก Temper หนา 10 mm., ไฟภายในห้องได้เป็นไฟดาวน์ไลท์ทั้งหมด, ของแถมจะมีชุดเคาน์เตอร์ครัวพร้อมอ่างล้างจานและตู้เก็บของแขวนผนัง + กระจกกันเปื้อน พร้อมเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันของ MEX, เครื่องปรับอากาศ 9,000 BTU 1 เครื่อง ของ Panasonic (ห้อง 50 ตร.ม ได้แอร์ 2 เครื่องค่ะ), Video Door Phone ของ Kocom และตู้เสื้อผ้าบานเปิดค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้น Spec โดยละเอียดของวัสดุ ของแถมต่างๆที่ได้ต้องลองสอบถามอัพเดทกับทางโครงการอีกครั้งนะคะ เผื่อในอนาคตอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง
สิ่งอำนวยความสะดวก : สิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการนี้จะมีที่จอดรถที่ชั้น 1 รวมจำนวนที่จอดทั้งโครงการประมาณ 40% ซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อยไปหน่อยค่ะ สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆจะมี Lobby แยกแต่ละอาคารที่ชั้น 1 , Mail Box ส่วนกลางหลักของโครงการจะอยู่บริเวณหน้าอาคาร A, B มีสระว่ายน้ำ และ Fitness ค่ะ
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ
8.0
ตั้งอยู่บนถนนสุทธิสารวินิจฉัย บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะกับการอยู่อาศัยรายล้อมด้วยที่อยู่อาศัยแนวราบทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม แต่จะมีคอนโด Low Rise 8 ชั้น อยู่ด้านหลังโครงการจึงอาจจะบังวิวในด้านนั้นไป ส่วนความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูงแต่ค่อนข้างไกลจากโครงการหน่อย ต้องอาศัยขับรถมาบนถนนรัชดาภิเษก
การเดินทาง ใช้รถ
8.0
ค่อนข้างสะดวกสามารถใช้ถนนเส้นสุทธิสารวินิจฉัยเชื่อมไปถนนเส้นหลกอื่นๆได้หลายเส้นทางค่ะ
การเดินทาง ไม่ใช้รถ
8.0
ที่สะดวกที่สุดจะป็น MRT สุทธิสาร ซึ่งจะไกลจากระยะเดินสบายไปค่อนข้างเยอะ แต่ยังดีที่มี Bus รับส่งให้ หรือจะอาศัยพี่วินหน้าโครงการ หรือ Taxi ก็ได้ค่ะ
ห้องและวัสดุ
7.5
ห้องของโครงการขายแบบ Fully Furnished วัสดุในห้องมาตรฐานได้แอร์, VDO Call Phone, และตู้เสื้อผ้าในห้อง Master Bedroom ถือว่าได้มาตรฐานตามราคาค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก
6.5
Facilities ครบแต่ค่อนข้างน้อยไปหน่อย โดยจะมีสระว่ายน้ำ, ฟิตเนส ที่จอดรถ 40% ส่วน Laudry น่าจะจัดไว้ในอาคารให้เรียบร้อยกว่านี้
ความคุ้มค่ากับราคา
8.0
เป็นคอนโดในกลางเมืองที่ได้ความสงบและเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวได้สะดวก มีรถไฟฟ้าให้ใช้แต่ไกลไปหน่อยต้องอาศัยพี่วินหรือ Taxi รับส่ง ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ เหมาะสำหรับอยู่อาศัยสำหรับคนที่ทำงานย่านรัชดาแต่อยากได้ที่อยู่อาศัยสงบๆ ไม่วุ่นวายค่ะ
คะแนนรวมเฉลี่ย
7.66
พอใช้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 061-6565923
Website : คลิกที่นี่
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น