เดินทางสะดวก ใกล้ถนนติวานนท์, ถนนสนามบินน้ำ, ถนนงามวงศ์วาน และ ถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี ใกล้รถไฟฟ้า MRT กระทรวงสาธารณสุข , ใกล้ Lotus’s รัตนาธิเบศร์, Big C Extra แจ้งวัฒนะ และ Central รัตนาธิเบศร์
คอนโด The Privacy ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
The Privacy เรวดี
The Privacy จตุจักร
The Privacy ประชาอุทิศ-สุขสวัสดิ์
The Privacy เตาปูน อินเตอร์เชนจ์
The Privacy ติวานนท์
The Privacy ลาดพร้าว-เสนา
The Privacy พาร์ค ลาดพร้าว
ชื่อโครงการ
เดอะ ไพรเวซี่ เรวดี / THE PRIVACY REWADEE
เจ้าของโครงการ
พฤกษา / Pruksa
ลักษณะห้องและขนาดห้อง
1 Bed / 28 – 33 ตร.ม.
2 Bed / 50 ตร.ม.
เนื้อที่ทั้งหมด
3-01-00 ไร่
จำนวนตึก
4 อาคาร
จำนวนชั้น
7 ชั้น
จำนวนห้อง
312 ยูนิต (อาคารละ 78 ยูนิต)
ที่จอดรถทั้งหมด
ประมาณ 40% รวมจอดซ้อนคัน (ยกเว้นอาคาร C ที่จอดรถประมาณ 50% รวมจอดซ้อนคัน)
โซน
นนทบุรี , บางบัวทอง , บางใหญ่ , ปากเกร็ด
ขนส่งสาธารณะ
รถไฟฟ้า MRT ส่วนต่อขยาย (สถานีกระทรวงสาธารณสุข)
รถโดยสารที่ผ่าน
–
ที่ตั้ง
ซอยเรวดี 16 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี
กำหนดการ
n/a
ปีที่สร้างเสร็จ
พ.ศ. 2557
ราคา
เริ่มต้น 1,490,000 บาท
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม
เริ่มต้น 52,00 บาท/ตร.ม.
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
1. กระทรวงวาธารณสุข
2. บิ๊กซี ติวานนท์
3. เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์
4. เอสพลานาดรัตนาธิเบศร์
สิ่งอำนวยความสะดวก
– Approach Garden : ความสุขใกล้ธรรมชาติกับสวนหย่อมต้อนรับหน้าบ้าน
– Privacy Library : ผ่อนคลายกับเรื่องราวดีๆ ในทุกหน้ากระดาษ ในมุมความสุขส่วนตัว
– Living Pavillion : ห้องรับรองอารมณ์สบาย กับวิวสระว่ายน้ำสีฟ้าเย็นตา พร้อมสวนเขียวขจีเย็นใจ
– Fitness Loft : ฟิตเนสหลังคาสูงโปร่งโล่งสบาย สุขภาพแข็งแรงทั้งใจและกาย
– Backyard : ชิลๆกับปาร์ตี้ได้ทุกช่วงเวลา พร้อมรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
– Pool : สุขสดชื่นกับสระว่ายน้ำ ท่ามกลางความร่มรื่นของพรรณไม้
จุดเด่นของโครงการ
ให้คุณได้พักผ่อน อย่างส่วนตัวในทุกช่วงเวลา ในทุกย่างก้าวเหมือนได้อยู่ “บ้าน” กับทำเลกลางใจเมือง ที่ที่ให้คุณได้มีชีวิตสมบูรณ์แบบทั้งความสุขส่วนตัว พร้อมตอบรับไลฟ์สไตล์ชีวิตอันทันสมัย
คอนโด MRT กระทรวงสาธารณสุข / คอนโดติดรถไฟฟ้า MRT กระทรวงสาธารณสุข
คอนโด MRT กระทรวงสาธารณสุข
คอนโด MRT สายสีม่วง
ที่ตั้งโครงการ
ซอยเรวดี 16 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง นนทบุรี
พิกัด : 13.853469, 100.512528
แผนที่จากทางโครงการ จะเห็นว่าตัวโครงการตั้งอยู่ระหว่างซอย เรวดี 16 และ 18 การเข้าถึงสามารถใช้ทั้ง ถนนติวานนท์, ถนนรัตนาธิเบศร์ และถนนนครอินทร์เพื่อเข้าโครงการได้ค่ะ
โครงการ The Privacy เรวดี เป็นกลุ่มคอนโด 4 อาคาร ตั้งอยู่ ระหว่างซอยเรวดี 16 และ 18 ซึ่งอยู่ในเขตนนท์บุรีแล้วค่ะ สภาพแวดล้อมโดยรวมบนถนนเรวดีจะเป็นอาคารพาณิชย์, ตึกแถว และช่วงต้นถนนจะ 7-11 และมีร้านค้าของชาวบ้านแถวนี้อยู่ค่อนข้างคึกคักเลยทีเดียว ส่วนในซอยย่อยๆจะเป็นที่อยู่อาศัยทั้งบ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม และจะ มีอพาร์ทเมนต์, คอนโด อยู่บ้างในบางซอย ซึ่งตัวคอนโดในละแวกนี้แนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต เนื่องจากการเข้ามาของรถไฟฟ้า และ โครงการมอเตอร์เวย์สาย 81 บางใหญ่ – กาญจนบุรี ที่จะช่วยให้การคมนาคมสะดวกสบายยิ่งขึ้นและมีผลต่อการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
ถึงแม้ว่าตัวโครงการจะอยู่ในเขตนนทบุรีแล้วแต่การเดินทางมาถึงตัวโครงการนั้นถือว่าสะดวกอยู่พอตัวเลยค่ะ เพราะสามารถเข้าถึงได้หลายเส้นทาง ทั้งทางหลักๆอย่างถนนติวานนท์มุ่งหน้าปากเกร็ด เข้าซอยติวานนท์ 3 หรือซอยเรวดีโดยตรง นอกจากนั้นยังสามารถใช้ทางถนนรัตนาธิเบศร์มุ่งหน้านนทบุรี และ ถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรีก็ได้เช่นกัน
ส่วนทางลัดต่างๆจากตัวโครงการก็มีหลายทางเลย ทั้งตัวถนนเรวดีเองที่เชื่อมต่อกับถนนเลี่ยงเมืองนนท์ที่สามารถลัดไปถนนรัตนาธิเบศร์และถนนนครอินทร์ได้ หรือจะใช้ ซอยเรวดี 11 ที่สามารถเป็นทางลัดไปออกถนนรัตนาธิเบศร์ได้เช่นกัน นอกจากนั้นยังมีซอยเรวดี 18 ที่เป็นซอยที่ตั้งของโครงการ สามารถใช้เป็นทางลัดเชื่อมไปยังซอยติวานนท์ 3 เพื่อเลี่ยงรถติดบนถนนเรวดี ออกไปยังถนนติวานนท์ได้อีกด้วยค่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัวก็ถือว่าสะดวกอยู่พอประมาณ สำหรับในซอยเรวดี 18 จะมีพี่วินเสื้อเขียวผ่านไปมาหน้าโครงการตลอด และจะมากันถี่มากช่วงเวลาเร่งด่วน เพราะซอยนี้เป็นซอยลัดออกไปซอยติวานนท์ 3 ด้วยนั่นเองค่ะ ส่วนอัตราค่าโดยสารในซอยก็จะอยู่ที่ประมาณ 10 -15 บาท เมื่อออกมาบนถนนติวานนท์จะมีป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียนติวานนท์ศึกษา ส่วนซอยเรวดี 16 จะเงียบเหงากว่าหน่อยเพราะเป็นซอยตัน แต่ก็สามารถเดินออกมาปากซอยเพื่อเรียกพี่วินที่วิ่งผ่านไปมาได้เช่นเดียวกันค่ะ นอกจากนั้นยังมีรถไฟฟ้าให้เลือกใช้กันถึง 2 สถานี คือ สถานีกระทรวงสาธารณสุขห่างจากโครงการประมาณ 700 เมตร และ สถานีศูนย์ราชการนนทบุรีบนถนนรัตนาธิเบศร์ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 850 เมตร
ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการในระยะเดินสบายมีน้อยแต่ก็ไม่ถึงกับแห้งแล้งนักค่ะ เพราะถ้าเราเดินออกมาจากซอยเลี้ยวซ้ายจะเจอร้านขายของชำและร้านอาหารบ้าง 2 – 3 ร้าน หรือจะนั่งพี่วินไปที่ซอย 46 ก็จะมี Tesco Lotus Express, 7 – 11 และติดกันเลยคือโซนของตลาดเปรมสุขที่ค่อนข้างใหญ่ ของกินเยอะเลยทีเดียวค่ะ เปิดประมาณ 10 โมงเช้าเป็นต้นไป ส่วน Hyper Market ใหญ่ๆก็จะต้องออกมาไกลหน่อย เช่น BigC บนเส้นติวานนท์และรัตนาธิเบศร์ และถ้าจะ Shopping ห้างใหญ่ๆ ก็จะมีบนเส้นรัตนาธิเบศร์คือ Central รัตนาธิเบศร์ ถ้าไปทางเส้นงามวงศ์วานก็จะมีทั้ง Esplanade, พันทิพย์ และ The Mall งามวงศ์วาน และถ้าไปเส้นกาญจนาภิเษกก็จะมีห้างเปิดใหม่อย่าง Central Westgate ด้วยค่ะ
การเดินทางวันนี้เราจะอาศัยถนนเส้นหลักคือ ถนนติวานนท์มุ่งหน้าปากเกร็ด โดยเริ่มจากแยกติวานนท์บริเวณ BigC ตรงไปเรื่อยๆ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเรวดีตรงไปประมาณ 650 เมตร และเลี้ยวซ้ายอีกครั้งเข้าซอยเรวดี 18 ตรงไปอีกประมาณ 200 เมตร ก็ถึงโครงการแล้วค่ะ
สรุปการเดินทาง แยกติวานนท์ > ถนนเรวดี > ซอยเรวดี 18
เริ่มจากแยกติวานนท์บริเวณ BigC ติวานนท์ที่อยู่ทางซ้ายมือของเราค่ะ
ตอนนี้เรากำลังขับตรงไปบนเส้นติวานนท์มุ่งหน้าปากเกร็ด ผ่านรถไฟฟ้าสถานีกระทรวงสาธารณะสุข ซึ่งสถานีนี้เราสามารถลัดออกมาทางซอยเรวดี 18 > ซอยติวานนท์ 3 เพื่อมาใช้บริการได้ค่ะ
ใกล้ถึงถนนเรวดีจะเจอป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียนติวานนท์ทางซ้ายมือ ถึงตรงนี้เตรียมเปลี่ยนเลนมาเลนซ้ายได้แล้วค่ะ
ถึงถนนเรวดีแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยค่าา
ระยะทางรวมจากถนนใหญ่ถึงโครงการประมาณ 850 เมตร สภาพแวดล้อมโดยรวมบนถนนเรวดีจะเป็นอาคารพาณิชย์และตึกแถว โดยตรงต้นๆของถนนจะมีมี 7 – 11 และร้านค้าร้านอาหารเปิดให้บริการอยู่ค่ะ
เข้าซอยมาแล้วเราจะเห็น 7 – 11 อยู่ทางซ้ายมือ นอกจากนั้นยังมีคิวพี่วิน หรือใครอยาก Slow Life ก็มีรถสามล้อคอยให้บริการอยู่ด้วยนะ
หน้าปากซอยมีร้านค้าของผลไม้และของกินเล็กๆน้อยๆ
เริ่มเห็นป้ายโครงการแล้วว
ตรงมาประมาณ 600 เมตร จะเห็นป้ายซอยเรวดี 16 ซึ่งซอยนี้จะเป็นอีกทางเข้านึง ซึ่งเดี๋ยวเราจะกลับมาดูกันทีหลังนะคะ ตอนนี้ตรงไปก่อน
ขับมาอีกไม่นานก็ถึงซอยเรวดี 18 เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปเลยย
ถึงโครงการแล้วค่าา
บริเวณโดยรอบโครงการ
ทิศเหนือ ของโครงการติดกับอพาร์ทเมนท์ ทิศใต้ ติดกับอพาร์ทเมนท์ข้างเคียง ทิศตะวันออก ติดกับซอยเรวดี 16 ที่พักอาศัยข้างเคียงและอพาร์ทเมนท์ข้างเคียง และทิศตะวันตก ติดกับซอยเรวดี 18 และที่พักอาศัยข้างเคียง
ก่อนจะเข้าไปดูในโครงการเดี๋ยวเราจะพาทุกคนเดินดูทำเลรอบๆกันสักหน่อย เริ่มที่ด้านหน้าโครงการเป็นบ้านพักอาศัย
ซ้ายมือเป็นซอยเรวดี 18 ที่ไปเชื่อมกับติวานนท์ 3 ได้ ส่วนใหญ่เป็นบ้านคน ค่อนข้างสงบยกเว้นช่วงเวลาเร่งด่วนจะมีรถผ่านไปมาเยอะเหมือนกัน
ขวามือจะเป็นปากซอยที่เราผ่านเข้ามาเมื่อสักครู่ เดี๋ยวเราจะเดินไปดูบริเวณปากซอยกันค่ะ
ออกมาถึงปากซอยก็จะเป็นถนนเรวดี
ขวามือเป็นทางออกไปถนนติวานนท์ ซึ่งความอุดมสมบูรณ์จะอยู่ช่วงต้นๆซอย ระหว่างทางก็จะมีร้านอาหารตามสั่งเล็กๆ และร้านรถเข็นบ้างนิดหน่อย
ส่วนความอุดมสมบูรณ์ที่พึ่งของคนส่วนใหญ่จะอยู่ทางซ้ายมือ เส้นเรวดีที่มุ่งหน้าไปเชื่อมกับถนนเลี่ยงเมืองนนนท์ค่ะ โดยจะมีตลาดใหญ่ๆอย่างตลาดเปรมสุข ระหว่างทางก็มีร้านขายของชำ ร้านอาหารเล็กๆอย่างต้มเลือดหมู, ตามสั่ง หรือแม้แต่ Cafe เล็กๆก็มีค่ะ
จุดหมายปลายทางของเราจะเป็นตลาดเปรมสุข และ Lotus Express ช่วงซอยเรวดี 46 นะ
เดินออกมาจากซอยเรวดี 18 เลี้ยวซ้ายร้านแรกที่เราเจอเป็นร้านขายของชำ
ติดกันเป็น De Loft Cafe’
และร้านส้มตำ
เดินมาอีกหน่อยจะเจอร้านซ่อมมอเตอร์ไซด์ และร้านต้มเลือดหมูฝั่งตรงข้าม
สำหรับใครที่ออกมายืนรอหน้าโครงการแล้วไม่มีพี่วินผ่านมาเลย จะเดินมาที่ซอย 20 ก็ได้นะคะ
จะมีชาววินเสื้อเขียวอัธยาศัยดีรอให้บริการอยู่ ^^
บางซอยบนถนนเรวดีก็จะมีโรงเรียนอนุบาลอยู่ สำหรับชาวบ้านแถวนี้ที่ไม่อยากส่งลูกเล็กๆไปไกลบ้าน
เราเดินมาถึงประมาณซอย 24 ก็จะเจอร้านข้าวมันไก่โกซัน
ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านจิ้มจุ่มร้านใหญ่ที่จะเปิดสายๆหน่อย ตอนที่ไปยังเช้าอยู่เลยอดเห็นบรรยากาศร้านเลย
ติดกับร้านจิ้มจุ่มจะเป็นตลาดนัดซอยเรวดี 19 เปิดทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ หยุดวันอังคาร
เดินมาอีกหน่อยมี 108 Shop
ถึงซอยเรวดี 30 เราจะเจอโรงเรียนอนุบาลเรวดีนนทบุรี
จากซอยเรวดี 30 ถึง ตลาดเปรมสุขสภาพแวดล้อมโดยรวมก็ยังคงเป็นทาวน์โฮม มีร้านค้าบ้างประปราย
ถึงซอยเรวดี 46/2 จะเป็นจุดเริ่มต้นของความอุดสมบูรณ์ที่แท้จริงแล้วค่ะ
แต๊นน~ แม่ค้าร้านตลาดเรียงรายตลาดริมฝั่งถนน เค้าจะมาเปิดร้านกันตั้งแต่เช้าๆเลยค่ะ อย่างตอนที่ไปถึงก็ประมาณ 8.30 น. ร้านรวงก็เริ่มมาเปิดกันเยอะแล้วนะคะ ไปเดินดูบรรยากาศกันอีกสักหน่อยดีกว่า..
เดินมาอีกหน่อยเจอ 7-11
ตัวพื้นที่ของตลาดจริงๆจะไม่ใหญ่นักค่ะแต่ด้วยมีแม่ค้ามาเปิดร้านอยู่ที่ริมถนน ประกอบกับร้านอาหารที่มาเปิดข้างๆตลาดทำให้ตลาดเปรมสุขกลายเป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์ของซอยเรวดีไปเลย ในตลาดจะมีร้านขายกับข้าว, ร้านขายเบเกอรี่, ผักสด และเนื้อสัตว์
ร้านขายผักและเนื้อสัตว์ร้านใหญ่
ตลาดจะสุดอยู่ที่ซอยเรวดี 48 ค่ะ
สรุปสถานที่สำคัญ
ตลาดเปรมสุข : 1 กิโลเมตร
BigC รัตนาธิเบศร์ : 1.2 กิโลเมตร
Central รัตนาธิเบศร์ : 2.1 กิโลเมตร
BigC ติวานนท์ : 2.7 กิโลเมตร.
The Mall งามวงศ์วาน : 4.1 กิโลเมตร
พันทิพย์ : 5.2 กิโลเมตร
ศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี และสวนสาธารณะ : 2.5 กิโลเมตร
Esplanade งามวงศ์วาน : 2.9 กิโลเมตร
กระทรวงสาธารณสุขนนทบุรี : 4.2 กิโลเมตร
เจาะลึกโครงการ
ก่อนจะไปชมอาคาร เรามาดูผังรวมๆของโครงการนี้กันก่อนนะคะ โครงการ The Privacy เรวดี จะมีความเหมือนกับโครงการในตระกูล Privacy อื่นๆคือเป็นคอนโด Low Rise 7 ชั้น ไม่เกิน 80 ยูนิตในแต่ละอาคาร เน้นที่ความสูงฝ้า 2.65 เมตรและระบบ Ventilation ของอาคาร สำหรับโครงการนี้มี 4 อาคาร แยกเป็นอาคาร A,B,C,D ทั้ง 4 อาคารจะแยกนิติบริหารแต่ละตึก รวมไปถึงทางเข้าและที่จอดรถของแต่ละอาคารก็แยกจากกันเป็นเอกเทศไปเลยเช่นกันค่ะ โดยอาคาร A และ D จะเข้ามาทางซอยเรวดี 16 ส่วนอาคาร C และ B จะใช้ซอยเรวดี 18 เป็นทางเข้า แต่ส่วนกลางยังใช้ร่วมกันอยู่โดยสามารถเข้าถึงส่วนกลางได้จาก Lobby ของแต่ละอาคารเท่านั้น
การวางผังของอาคาร A, B, C จะเหมือนกัน มีเฉพาะอาคาร D ที่มีลักษณะเป็นตัว L ป้อมๆ โดยทุกอาคารชั้น 1 จะเป็นพื้นที่จอดรถและ Lobby + นิติบุคคลของแต่ละอาคาร ส่วนชั้น 2 – 7 จะเป็นห้องพักอาศัยเหมือนกันทุกชั้น จากการวางตัวอาคารและลองวางทิศทางแดดลมฝนดู จะสามารถประมาณได้ว่าทั้งโครงการอาคารที่ร้อนในช่วงบ่ายถึงเย็นจะเป็นอาคาร B และ C โดยเฉพาะฝั่งที่หันหน้าเข้าหาซอยเรวดี 18 เพราะอาคารตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ส่วนอาคาร A และ D จะได้รับแดดในช่วงเช้าถึงเที่ยงเยอะ ทำให้ค่อนข้างร้อนกว่าในเวลากลางวันแต่ช่วงเย็นกลับมาห้องจะไม่ร้อนค่ะ
มาเริ่มกันที่อาคารที่มี Sales Office ตั้งอยู่กันก่อนนะ นั่นคืออาคาร C นั่นเองค่ะ โดยทางเข้าของอาคาร C และ B จะอยู่ในซอยเรวดี 18
ป้ายบอกชื่อแต่ละอาคารเป็นแผ่นเหล็กสีดำฉลุลายตัวอักษรจะอยู่ที่รั้วบริเวณทางเข้าทุกอาคาร
ทางเข้าอาคารเป็นไม้กระดกเข้าไปยังที่จอดรถใต้อาคารเลย ไม่มีซุ้ม
ทางเข้าเป็นรั้วไม้กระดกแบ่งเป็นทางเข้าและออก ใช้ระบบ Key Card Access มีกล้อง CCTV ฝั่งละ 1 ตัว และซุ้มรปภ. มีรปภ.ประจำ ตลอด 24 ชั่วโมง
เข้ามาในอาคารจะเจอ Sales Office และส่วนของนิติบุคคลอยู่ทางขวามือ
ที่จอดรถถนนเป็นคอนกรีตสแตมป์และเทปูน
ที่จอดรถแบ่งเป็นล็อคละ 2 คัน
ที่จอดรถด้านนอกอาคาร
สุดอาคารจะเป็นรั้วต้นไม้กั้นพื้นที่ส่วนกลางไว้ เพื่อจำกัดการเข้าออกพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้เฉพาะ Lobby เท่านั้น
ทุกอาคารจะมีห้องเครื่องและห้องเก็บของของพนักงาน
และห้องน้ำสำหรับแขก
เข้ามาในส่วน Lobby ทางขวาจะเป็น Sales Office ซึ่งเมื่อปิดการขายแล้วบริเวณนี้จะเปลี่ยนเป็นพื้นที่ส่วนกลางของอาคาร เหมือนอาคารอื่นๆค่ะ
หันมาทางซ้ายมือเป็นจเจอโถงลิฟต์โดยสารซึ่งมีอยู่เพียง 1 ตัว อัตราส่วนลิฟต์ต่ออาคาร 78 ห้องต่อลิฟต์ 1 ตัว และตู้จดหมาย ติดกับตู้จดหมายก็เป็นบันไดหลักของอาคารค่ะ
ออกจากอาคาร C เดินเข้าซอยมาอีกนิดก็จะเจออาคาร B
ทางเข้าเป็นไม้กระดกใช้ระบบ Key Card Access มี CCTV 2 ตัว แยกทางเข้าออกและรปภ. ด้านในอาคารตลอด 24 ชั่วโมง
เข้ามาใน Lobby หน้าตารวมๆจะเป็นแบบนี้ ซึ่งการตกแต่งของทั้ง 4 อาคารนั้นจะคล้ายๆกันนะคะ สำหรับอาคาร C เมื่อ Sales Office เปลี่ยนเป็น Lobby แล้วก็จะมีหน้าตาปประมาณนี้เหมือนกันค่ะ
โถงลิฟท์, ตู้จดหมาย, บันไดหลักและประตูออกไปยังส่วนกลางใช้ระบบ Key Card เฉพาะแต่ละอาคารเท่านั้น
ต่อมาเราจะมาดูอาคาร A และ D ที่อยู่ในซอยเรวดี 16 กันบ้าง
หน้าปากซอยมีร้านอาหารตามสั่งอยู่ คุณป้าคนขายอัธยาศัยดี น่ารัก
สภาพแวดล้อมโดยรวมของซอยเรวดี 16 นี้เป็นซอยตันและส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัย โดยมากเป็นทาวน์โฮม บรรยากาศเลยเงียบสงบกว่าซอยเรวดี 18
เข้ามาในซอยแล้วเราจะเจออาคาร A ก่อน
ทางเข้าออกอาคาร A และ D ที่ซอยเรวดี 16 นี้จะกว้างกว่าฝั่งอาคารซอย 18 เนื่องจากที่ดินที่วางอาคารได้หน้ากว้างติดถนนมากกว่าซอย 18
‘
ป้ายโครงการอาคาร A
ฝั่งตรงข้ามอาคาร A เป็นบ้านพักอาศัยที่ตั้งอยู่มาก่อนแล้ว
ขวามือเป็นอาคาร D และซอยตัน
ทางเข้าออกกั้นด้วยไม้กระดก ช้ระบบ Key Card Access มีกล้อง CCTV ฝั่งละ 1 ตัว และซุ้มรปภ. มีรปภ.ประจำ ตลอด 24 ชั่วโมง
Lobby อาคาร A
บรรยากาศด้านในส่วน Lobby
โถงลิฟท์, ตู้จดหมาย, บันไดหลัก และประตูออกไปยังส่วนกลาง
มาที่อาคาร D
ทางเข้าและระบบรักษาความปลอดภัยเหมือนอาคารอื่นๆ
Lobby และนิติของอาคาร D
Lobby ของอาคาร D จะมีความพิเศษกว่าอาคารอื่นนิดหน่อยตรงที่สามารถออกไปส่วนกลางจากตรง Lobby ได้เลยแถมยังได้วิวสวนส่วนกลางด้วย
ส่วนโถงลิฟท์ก็จะเหมือนอาคารอื่นๆ
กลับมาที่ส่วนกลางกันบ้าง ที่เราอยู๋กันตอนนี้คือบริเวณระหว่างอาคาร C และอาคาร B ฝั่งซอยเรวดี 18 นะคะ
ซ้ายมือเป็นส่วน Lobby ของอาคาร C
ขวามือเป็น Lobby ของอาคาร B
ส่วนนี้คือ ClubHouse มีห้องนั่งเล่น ฟิตเนสและสระว่ายน้ำอยู่ด้านหลัง ตั้งอยู่ในพื้นที่ส่วนกลางของทุกอาคาร
ด้านในเจอส่วน Living ก่อน เหมาะจะมานั่งอ่านหนังสือพักผ่อนในวันว่างๆ
จากส่วน Living เดินเข้ามาจะเป็นส่วนของฟิตเนสและสระว่ายน้ำ
ระหว่างทางเดินไปฟิตเนสและสระว่ายน้ำจะมีห้องน้ำทางขวามือแยกห้องน้ำชาย และหญิง
ให้ดูในห้องน้ำหญิง
ในห้องน้ำชาย .. เอ่อ อาจจะติดป้ายผิด น่าจะเป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำนะ
ถัดจากห้องน้ำมาเป็นฟิตเนส
บรรยากาศภายในห้องฟิตเนสมีบานกระจกขนาดใหญ่ช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น และได้วิวสระว่ายน้ำ
มีลู่วิ่ง 2 ลู่ , จักรยานไฟฟ้า 1 เครื่อง
และ อุปกรณ์ยกเวท 6 คู่
อุปกรณ์ฟิตเนสของ LifeSpan
ออกมาจากฟิตเนสมาต่อกันที่สระว่ายน้ำ โดยสระว่ายน้ำของโครงการนี้จะเป็นสระระบบเกลือ ขนาดกว้าง 5.60 เมตร ยาว 14.60 เมตร ลึกประมาณ 1.20 เมตร
มองตรงไปจากสระว่ายน้ำเห็นอาคาร A
สระว่ายน้ำจากอีกมุมนึง
ข้างสระว่ายน้ำทั้ง 2 ฝั่งจะมีทางเดิน
มีต้นไม้ลงไว้ตลอด 2 ข้างทางดูร่มรื่นดีค่ะ
เดินมาสุดทางเดินจะเจอป้ายบอกทางไป Lobby ของอาคารทั้ง 4
ซ้ายมือเป็นอาคาร A
ด้านขวามือคือสวนหย่อม มีทางเดินลัดเลาะไปได้ทุกอาคาร แต่จะเข้าไปแบบสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะ เพราะแต่ละอาคารจะมีคีย์การ์ดเฉพาะเพื่อความปลอดภัย
สุดทางเดินด้านขวามือคืออาคาร D
เฉลียงด้านหน้าของอาคาร D จะค่อนข้างกว้างถือว่าได้วิวสวนที่โปร่งสบายที่สุดเลยค่ะ
มุมมองจาก Lobby ของอาคาร D
สำหรับ Floor Plan ชั้น 2-7 จะเหมือนกัน มีห้องพัก 13 ห้องต่อชั้น และมีลิฟท์ 1 ตัวต่อ 78 ยูนิต
โดยห้องพักมีทั้งหมด 3 Types คือ
Type A1 พื้นที่ใช้สอย 28.00 ตารางเมตร (ผังสีเขียว)
Type B1 พื้นที่ใช้สอย 33.00 ตารางเมตร (ผังสีน้ำตาล)
Type C2 พื้นที่ใช้สอย 50.00 ตารางเมต (ผังสีเทา)
การวางผังแต่ละชั้นก็ดูง่ายๆคืออกมาจากโถงลิฟท์มายังโถงทางเดินแบ่งจ่ายห้องออกไปทางซ้ายและขวาเป็นทางตรง สุดโถงทางเดินแต่ละด้านก็จะมีหน้าต่างช่วยให้อากาศถ่ายเททำให้ตัวอาคารไม่ร้อน สำหรับอาคารที่เราจะพาไปดูกันวันนี้จะเป็นอาคารที่มี Sales Office ตั้งอยู่ นั่นก็คืออาคาร C ค่ะ
เริ่มจากโถงลิฟท์ลิฟท์ ทุกอาคารใช้ลิฟท์ยี่ห้อ Schindler รับผู้โดยสารได้ 800 กิโลกรัม
ปุ่มกดลิฟท์ และโทรศัพท์ฉุกเฉินที่โถงลิฟท์ชั้น 1
ด้านในลิฟท์มีราวจับและกระจกบานยาวไว้เช็คบุคลิคภาพ
แผงกดภายในตัวลิฟท์ จะไม่มีระบบล็อคชั้น
ขึ้นมาถึงชั้นบนประตูลิฟท์จะมีหน้าตาแบบนี้
โถงลิฟท์ชั้นบนแบ่งเป็นทางซ้ายและขวา
ขวามือเป็นโถงบันไดที่เป็นตัวช่วยระบายอากาศที่ดี
ซ้ายมือจะออกไปยังโถงทางเดิน
มีห้องเครื่องและห้องทิ้งขยะอยู่บริเวณโถงลิฟท์แยกไว้ให้เป็นสัดเป็นส่วนค่ะ
เดินมาสุดโถงลิฟท์หันมาทางขวาเป็นจะมีแค่ 2 ห้องเท่านั้น
ส่วนทางซ้ายจะเป็นห้องพักยาวไปจนสุดทางเดิน
เดินมาจนสุดโถงทางเดิน ขวามือจะมีทางแยกต่อไปอีกคือบันไดหนีไฟ มีป้ายสัญลักษณ์บอกอยู่บนเพดานค่ะ
บันไดหนีไฟเป็นคอนกรีตขัดพร้อมราวจับ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
Lobby
ระบบ CCTV / Access Card
สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 5.60 x 14.60 เมตร ลึก 1.2 เมตร
ฟิตเนส
Living Pavilion
Library
สวนหย่อมรอบโครงการ
อัตราส่วนลิฟท์ทุกอาคาร 78:1
ที่จอดรถประมาณ 116 คันคิดเป็น (แบ่งเป็น อาคาร A 27 คัน , อาคาร B 25 คัน อาคาร C 35 คัน อาคาร D 29 คัน) คิดเป็น 37% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 46%
ห้องตัวอย่าง
มาดูห้องตัวอย่างกันค่ะ เริ่มกันที่ห้อง Type A มีพื้นที่ใช้สอย 28 ตารางเมตร เป็นห้อง 1 ห้องนอนเปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ครัวเปิดวางชุดเคาน์เตอร์ครัวเล็กๆ 1 ชุด มีซิงค์ล้างจานมาให้พร้อมแต่ไม่มีเตานะคะ เหมาะกับการทำครัวเบาๆ ฝั่งตรงข้ามมีพื้นที่ว่างสามารถทำเป็นตู้เก็บของ Built-in หรือจะเอาไว้วางของ แขวนกุญแจก็ได้ค่ะ ถัดจากครัวเป็นพื้นที่ทานอาหาร พื้นที่พอจะวางชุดโต๊ะทานข้าวเล็กๆได้ 1 ชุด ถัดจากส่วนทานอาหารเป็นพื้นที่นั่งเล่นติดระเบียง ทางด้านขวาจะเป็นห้องนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ ในห้องนอนจะมีพื้นที่ Walk – in closet เล็กๆพอให้วางตู้เสื้อผ้าและเป็นทางเดินได้พอดีๆค่ะ ส่วนห้องน้ำจะสามารถเข้าได้จากห้องนอนเท่านั้น ภายในห้องน้ำแบ่งแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งอย่างชัดเจนด้วยกระจกกั้นอาบน้ำที่ทางโครงการติดตั้งมาให้เรียบร้อยแล้ว นอกจากนั้นยังมีช่องหน้าต่างเล็กๆระบายอากาศอยู่บริเวณห้องอาบน้ำด้วยค่ะ
มาดูของจริงกันเลยดีกว่าค่ะ ประตูห้องทุกห้องจะเป็นบาน MDF
พื้นห้องยกเป็นลามิเนตลายไม้สีอ่อนทั้งห้องยกเว้นห้องน้ำและระเบียง ตัวพื้นสูงขึ้นมาประมาณ 4 เซนติเมตร
มือจับแบบก้านโยกและตัวล็อคระบบ Digital Door Lock
เข้ามาในห้องจะเจอตู้เก็บของซึ่งของจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆให้ มองตรงไปเป็นห้องนั่งเล่น และหลังบานประตูเป็นเคาน์เตอร์ครัวเล็กๆ
ส่วนไฟจะได้เป็นไฟดาวน์ไลท์ในส่วนของห้องครัวและห้องนั่งเล่นจะได้รวมทั้งหมด 3 ดวง
เคาน์เตอร์ครัวสีอ่อนมาพร้อมซิงค์และช่องเก็บของ 4 ช่อง
ด้านบนเคาน์เตอร์เป็นตู้ลอยชุดเดียวกันมีช่องเก็บของ 1 ช่องและชั้นวางของ 2 ชั้น
ของจริงจะมีหน้าตาเหมือนของห้องตัวอย่างเป๊ะ วัสดุเป็นโครงไม้ปาติเกิ้ลปิดผิวด้วยเมลามีนลายไม้ ขนาดประมาณยาว 1.20 เมตร กว้าง 0.60 เมตร พื้นที่ด้านข้างที่เหลือสำหรับวางตู้เย็นนะ
ถัดมาจากเคาน์เตอร์ครัวเป็นพื้นที่ทานอาหาร
วางโต๊ะขนาด 2 ที่นั่งได้แบบแน่นๆหลังชนโซฟานิดนึง ชุดโต๊ะทานอาหารนี้ก็แถมมาให้ด้วยนะ
ถัดไปเป็นห้องนั่งเล่นติดกับระเบียง
มีช่องแสงรับแสงธรรมชาติ 1 จุดคือประตูออกไปยังระเบียง เป็นประตูบานเลื่อนกระจกคู่ บานกรอบอลูมิเนียมรมดำ
มือจับและตัวล็อคแบบเบสิค
ธรณีประตูจากห้องนั่งเล่นออกไปยังระเบียงสูงประมาณ 15 เซนติเมตร
ส่วนธรณีจากระเบียงสูงประมาณ 20 เซนติเมตร ป้องกันน้ำกระเซ็นเข้ามาในห้องค่ะ
พื้นระเบียงปูพื้นกระเบื้องเซรามิคผิวด้านสีครีมขนาด 30 x 30 เซนติเมตร มีก๊อกน้ำและท่อสำหรับวางเครื่องซักผ้า
บนฝ้ามีกริลล์สำหรับบังคอมเพรสเซอร์
กลับเข้ามาในห้องนั่งเล่น พื้นที่วางโซฟาจะสามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งได้แบบพอดีๆ กว้างกว่านี้คงไม่ไหวแล้วค่ะ เพราะจะติดกับโต๊ะทานอาหาร โซฟาชุดนี้ก็ได้แถมมาด้วยนะ
อีกด้านนึงเป็นพื้นที่สำหรับวางทีวีได้โต๊ะวางทีวีพร้อมช่องเก็บของ 2 ช่องมาด้วย ไม่ต้องลำบากไปหามาเพิ่มแล้ว ส่วนประตูที่เห็นคือห้องนอนนะ
ส่วนพื้นที่วางทีวีจะเหลือประมาณ 1.50 เมตร ขนาดทีวีที่เหมาะสมคือ 32″ – 42″ ค่ะ
หันหลับไปดูภาพรวมของห้องกันสักหน่อย
ต่อไปเราจะเข้าไปดูในห้องนอนกัน บานประตูห้องนอนจะเป็นบานประตู MDF ทำสีพ่น ลูกบิดสแตนเลส
ห้องนอนมีช่องแสงบานใหญ่ 1 บาน รับแสงได้เต็มที่ ตรงนี้แนะนำให้ติดม่านกัน UV นะคะ เพราะบานค่อนข้างใหญ่ การติดม่านจะช่วยให้ห้องไม่ร้อนได้เป็นอีกตัวช่วยนึงค่ะ
ช่องแสงบานใหญ่ของห้องนอนจะเป็นบานกระจกบานฟิก 2 บานและบานกระทุ้ง 1 บาน
เตียงจะวางได้ขนาดควีนไซส์มาให้ดูนะคะ ด้านข้างจะเหลือพื้นที่เล็กน้อยแต่สามารถเดินเข้าไปปูที่นอนหรือทำความสะอาดได้ค่ะ สำหรับเตียงจะได้ตามแบบห้องตัวอย่างเลย แต่ไม่ได้แถมฟูกให้นะ
พื้นที่ข้างเตียงที่เหลือสามารถจะวางโคมไฟยืนพื้นได้หรืออาจจะวางเป็นตู้เตี้ยๆ ไว้เก็บของกระจุกกระจิกก็ยังได้นะ
ส่วนปลายเตียงจะเป็นผนังโล่งๆเราจะทำเป็นตู้ลอยติดไว้วางของกระจุกกระจิกก็ได้นะคะ เพราะระยะความสูงฝ้าทำให้เราติดตู้แล้วห้องไม่อึดอัด
พื้นที่ปลายเตียงที่เหลือพอเดินได้อยู่ค่ะ
อีกด้านของห้องเป็นห้องน้ำและตู้เสื้อผ้า ส่วนข้างเตียงอีกด้านจะเป็นโต๊ะเขียนหนังสือสือ Built มาให้พร้อมเก้าอีกทรงลูกเต๋า
ระยะข้างเตียงก็เหลือให้นั่งได้สบายๆค่ะ
มาที่ส่วนห้องน้ำและตู้เสื้อผ้ากันบ้าง
ซ้ายมือเป็นตู้เสื้อผ้าใบใหญ่ ที่ทางโครงการแถมให้ค่ะ
มือจับของตู้เสื้อผ้าบานนี้อาจจะจับลำบากนิดนึงเพราะมีมือจับให้แค่ด้านเดียว อีกด้านนึงเป็นบานประตูตู้เรียบๆไม่มีมือจับ
สำหรับห้องนอนยาวไปจนถึงหน้าห้องน้ำส่วนตูเสื้อผ้าจะได้ไฟดาวน์ไลท์ทั้งหมด 3 ดวง
ห้องน้ำได้บานประตู MDF พ่นสีขาวลูกบิดสแตนเลส
ห้องน้ำลดระดับลงไปประมาณ 4 เซนติเมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาเข้มเกือบดำ ขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ส่วนผนังก็กรุกระเบื้องสีครีมๆ
บนฝ้าเพดานจะมีช่องระบายความชื้นป้องกันเชื้อรา และได้ไฟดาวน์ไลท์ 2 ดวง ตรงส่วนแห้ง 1 ดวง และบริเวณที่อาบน้ำอีก 1 ดวง
อ่างล้างมือของ American Standard ขนาดค่อนข้างใหญ่ มีที่วางของได้เล็กน้อย
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard ตำแหน่งติดตั้งถูกต้องเหมาะสม ระยะนั่งก็พอดีๆ
สายชำระขนาดพอดีๆ
มาที่ส่วนอาบน้ำจะมีกระจกกั้นอาบน้ำไว้ให้
ในห้องอาบน้ำมีช่องระบายอากาศ เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน
มือจับเป็นปุ่มยื่นออกมาจับง่ายค่ะ
พื้นห้องอาบน้ำมีก่อธรณีขึ้นมาประมาณ 4 เซนติเมตร กันน้ำล้นออกไปพื้นที่ส่วนแห้ง
ฝักบัวอาบน้ำของ Luzerna
ขนาดอ้วนป้อม ไม่เล็กไม่ใหญ่
พื้นที่อาบน้ำประมาณ 1.40 x 0.9 อาบได้สบายๆค่ะ
สวิทช์ไฟทั้งห้องของ Bticino
มาต่อกันที่ Type B กับห้องขนาด 33.00 ตารางเมตรค่ะ ห้องนี้จะมีฟังก์ชั่นการใช้งานเหมือนห้อง Type A เลย จะแตกต่างกันก็ตรงที่ได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นพื้นที่ในส่วนของครัว, ส่วนทานข้าวและส่วน Walk-in Closet ที่ได้พื้นที่เพิ่มขึ้น ส่วนห้องน้ำเข้าได้ 2 ทางทั้งจากห้องรับแขกและห้องนอน
เปิดเข้าห้องมา จะเจอส่วนครัว, ส่วนทานอาหาร, ห้องนั่งเล่น และห้องน้ำที่เข้าได้จากครัว พื้นยังคงปูเป็นลามิเนตต่อเนื่องจากหน้าห้องกันไปจนถึงห้องนอนเลยค่ะ
ไฟยังคงได้เป็นไฟดาวน์ไลท์ 3 ดวงในส่วนของห้องครัวและห้องนั่งเล่น
ห้อง Type B จะแถมตู้เก็บรองเท้ามาให้ด้วย
ชุดเคาน์เตอร์ครัวที่แถมมาจะใหญ่กว่าห้องที่แล้วนิดนึง โดยจะมีช่องเก็บของตรงกลางเพิ่มเข้ามาค่ะ ส่วนตู้ลอยด้านบนจะมีการจัดวางแตกต่างจากห้องที่แล้วนิดหน่อย แต่ฟังก์ชั่นการใช้งานยังเหมือนเดิม
หน้าตาตู้ของจริงที่จะได้ค่ะ
ถัดมาเป็นส่วนทานอาหาร จะเห็นว่าได้ระยะการวางเก้าอี้เพิ่มขึ้นนั่งได้สบายๆไม่อึดอัดเท่าห้องที่แล้ว
โต๊ะชุดนี้ทางโครงการแถมมาให้ด้วยค่ะ ดูจากระยะแล้วสามารถวางโต๊ะแบบพับได้นะ เผื่อมีสมาชิกมาร่วมวงเพิ่มในวันหยุด สัก 1 – 2 ที่นั่ง
ถัดมาเป็นส่วนห้องนั่งเล่น มีประตูกระจกเชื่อมต่อออกไปยังระเบียง
ประตูเชื่อมออกไประเบียงเป็นประตูบานเลื่อนคู่ คือเปิดได้ทั้ง 2 ด้าน บานกรอบอลูมิเนียมรมดำ
ระเบียงมีท่อน้ำทิ้ง ก๊อกน้ำ และ สวิทช์กันน้ำเช่นเดียวกับห้อง Type A
กริลล์เหล็กซ่อนคอมเพรสเซอร์
ราวระเบียงเหล็ก
ห้องรับแขกวางชุดโซฟา 2 ที่นั่งได้ 1 ชุด ไม่มีพื้นที่ให้วางโต๊ะข้าง
ส่วนพื้นที่วางทีวีจะเหลือประมาณ 1.50 เมตร ขนาดทีวีที่เหมาะสมคือ 32″ – 42″ ค่ะ
หันกลับไปดูประตูทางเข้าสักหน่อย
ด้านข้างทีวีจะเป็นประตูเข้าไปยังห้องนอน
พื้นห้องเป็นลามิเนตต่อเนื่องมาจากห้องนั่งเล่นเลย
ห้องนอนจะมีหน้าต่างบานใหญ่เหมือนห้อง Type A
ไฟที่ได้ในส่วนห้องนอนยาวไปจนถึงหน้าห้องน้ำ เป็นไฟดาวน์ไลท์ 3 ดวง
ห้องตัวอย่างวางเตียงขนาดควีนไซส์มาเทียบให้ดู
พื้นที่ข้างเตียงจะเหลือพอประมาณ ให้วางโต๊ะข้างเตียงพร้อมโคมไฟได้
ส่วนปลายเตียงเป็นผนังโล่งๆ สามารถติดตู้ลยเพิ่มก็ได้นะ
พื้นที่ปลายเตียงจะเหลือไม่มาก ถ้าจะติดทีวีคงต้องเลือกทีวีแบบติดผนังเท่านั้นค่ะ
อีกด้านนึงเป็นห้องน้ำและตู้ Built – in มาให้ 1 บาน พร้อมโต๊ะเขียนหนังสือข้างเตียง ผนังอีกด้านนึงสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งหรือจะทำตู้เพิ่มก็ได้นะคะ ในกรณีที่อยู่กันสองคนแล้วตู้เสื้อผ้าไม่เพียงพอ
พื้นที่ข้างเตียงมีเหลือพอให้นั่งเขียนหนังสือแบบสบายๆ
ตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการแถมมาให้จะเป็นตู้บานกระจกเงาแบบนี้ ด้านในทีราวแขวน , ชั้นวางของด้านบน และลิ้นชักอีก 3 ช่อง
มาที่ห้องน้ำกันต่อ
ห้องน้ำของ Type B จะได้พื้นที่เพิ่มขึ้น พร้อมห้องอาบน้ำที่กั้นเป็นสัดส่วน นอกจากนั้นยังสามารถเข้าได้ทั้งจากทางห้องนอนและห้องครัว ส่วนสุขภัณฑ์จะเหมือนกับห้องที่แล้วค่ะ
มีไฟดาวน์ไลท์มาให้ 2 ดวง พร้อมพัดลมดูดอากาศและช่องระบายอากาศ
อ่างล้างมือของ American Standard
ก๊อกน้ำของ Luzerna
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard ตำแหน่งติดตั้งมาตรฐาน ระยะนั่งสะดวก
ประตูส่วนอาบน้ำเป็นประตูกระจกนิรภัยเปิดได้ 2 ฝั่งแบบนี้
มือจับจับถนัดมือ
ฝักบัวของ American Standard
พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.90 x 0.90 เมตร ขนาดมาตรฐานไม่เล็กไม่ใหญ่
สามารถเข้า-ออกได้ 2 ทางคือเข้าจากทางห้องครัวด้วยค่ะ
ลักษณะการเปิดประตูของทางเข้าทั้ง 2 ด้าน
ราคา ( มกราคม 2559 )
** เงินจอง : 2,000 / ทำสัญญา : 10,000 บาท
Type A : 1 Bedroom ขนาด 28.00 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 1.479 ล้านบาท หรือเริ่มต้นที่ประมาณ 52,000 บาท/ ตร.ม
Type B : 1 Bedroom ขนาด 33.00 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 1.80 ล้านบาท หรือเริ่มต้นที่ประมาณ 54,000 บาท/ ตร.
Type C : 2 Bedroom ขนาด 50.00 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 2.85 ล้านบาท หรือเริ่มต้นที่ประมาณ 57,000บาท/ ตร.ม
ขายแบบ Fully Furnished พร้อมเครื่องปรับอากาศ : ชุดครัว Hob&Hood, ตู้เสื้อผ้า , ชุดสุขภัณฑ์พร้อมฉากกั้นห้อง
ค่าส่วนกลาง : 39 บาท/ตร.ม./เดือน (ชำระล่วงหน้า 12 เดือน)
โปรโมชั่นอื่นๆ โปรดสอบถามทางโครงการ*
สรุป
ทำเลโดยรอบ The Privacy เรวดี ตั้งอยู่ในซอยเรวดี 16 และซอยเรวดี 18 ซึ่งอยู่ช่วงกลางๆของถนนเรวดี ซึ่งมีทางลัดเลาะไปออกถนนติวานนท์, ถนนรัตนาธิเบศร์ และถนนเลี่ยงเมืองนนท์ได้หลายเส้นทาง สภาพแวดล้อมโดยรวมมีลักษณะเป็นชุมชน มีคนอยู่อาศัยดั้งเดิมค่อนข้างเยอะ อาคารส่วนใหญ่เป็นทาวน์เฮาส์และอาคารพาณิชย์ และในอนาคตมีแนวโน้มที่จะมีการลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น อาจจะเห็นคอนโดค่อยๆทยอยขึ้นตามกันมาเพราะโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง และโครงการมอเตอร์เวย์บางใหญ่ – กาญจนบุรี
เนื่องจากมีคนอาศัยอยู่เยอะตั้งแต่ดั้งเดิม ความอุดมสมบูรณ์จึงมีสูงขึ้นตามไปด้วยทั้งร้านริมถนนของชาวบ้านแถวนี้จะมีให้เห็นตลอดทาง และยังมีตลาดนัดกลางซอย, ตลาดเปรมสุข, Tesco Lotus Express รวมไปถึงร้านสะดวกซื้อก็ยังมีให้เห็นบ้างประปราย ส่วนห้างใหญ่ๆรอบๆบริเวณนี้ก็มี Central รัตนาธิเบศร์, Esplanade, พันทิพย์ และ The Mall งามวงศ์วาน นอกจากนั้นยังมีห้างเปิดใหม่อย่าง Central Westgate บนเส้นกาญจนภิเษกอีกด้วย
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ถึงแม้ว่าโครงการจะได้ชื่อว่าอยู่ไกลเมืองออกมาในเขตนนทบุรีแล้วแต่ความสะดวกสบายในการเข้าออกเมืองถือว่ามีความสะดวกค่อนข้างมากเลยค่ะ เพราะมีทางเข้าถึงโครงการหลายทาง ทั้งเส้นทางตรงๆอย่างถนนติวานนท์, รัตนาธิเบศร์ แล้วยังมีเส้นทางลัดเพื่อหลีกหนีรถติดอย่างถนนเลี่ยงเมืองนนท์ ส่วนในซอยเรวดีเองก็มีทางลัดอยู่หลายเส้นทาง อย่างซอยเรวดี 11 ที่สามารถเป็นทางลัดไปออกถนนรัตนาธิเบศร์, ซอยเรวดี 18 สามารถใช้เป็นทางลัดเชื่อมไปยังซอยติวานนท์ 3 เพื่อเลี่ยงรถติดบนถนนเรวดี ออกไปยังถนนติวานนท์ได้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียเลย เพราะด้วยความที่ซอยเรวดีเป็นทางลัดเลาะไปได้หลายเส้นทาง รวมถึงเป็นแหล่งชุมชน ถนนในซอยจึงมีคนเข้ามาใช้เป็นจำนวนมาก รถจึงค่อนข้างอืดๆในช่วงเวลาเร่งด่วนต้องเผื่อเวลากันไว้ด้วยสำหรับผู้ใช้รถส่วนตัวนะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ การเดินทางออกจากโครงการถือว่าค่อนข้างสะดวกพอตัวเพราะมีพี่วินและ Taxi ผ่านไป มาคอยให้บริการตลอด หรือจะเดินมาที่คิววินมอเตอร์ไซค์ก็อยู่ไม่ไกล ถัดมาจากซอยที่ตั้งโครงการแค่ 1-2 ซอยเท่านั้น นอกจากนั้นในอนาคตอันใกล้จะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้ใช้ สถานีที่ใกล้โครงการมีอยู่ 2 สถานีคือสถานีกระทรวงสาธารณสุขอยู่หน้าซอย ติวานนท์ซอย 3 ห่างจากโครงการ 700 เมตร และ สถานีศูนย์ราชการอยู่หน้าซอยรัตนาธิเบศร์ซอย 3 ห่างจากโครงการ 850เมตร ซึ่งรถไฟฟ้าสายนี้จะไปเชื่อมกับสายอื่นๆทำให้การเดินทางเข้าออกเมืองสะดวก และสามารถประมาณเวลากันได้ง่ายขึ้น
การออกแบบโครงการและวัสดุ ทำมาได้ดีในแง่ Function ที่ให้มาครบถ้วน และเพดานที่สูงถึง 2.65 เมตร ทำให้ห้องดูโปร่งสบายกว่าคอนโด Low Rise โดยทั่วๆไป วัสดุให้มาแบบจัดเต็มทั้ง เฟอร์นิเจอร์ครบชุด (เคาน์เตอร์ครัว, ชุดโต๊ะทานอาหาร, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมเก้าอี้, เตียง, โซฟา, โต๊ะวางทีวี และกระจกกั้นอาบน้ำ) พร้อมเครื่องปรับอากาศ 1 ตัว ผนังปิด Wallpaper ส่วนวัสดุพื้นฐานได้พื้นปูลามิเนตหน้า 8 มิลลิเมตรทั้งห้อง ยกเว้นห้องน้ำและระเบียงที่ได้เป็นกระเบื้องเซรามิคผิวด้านขนาด 30 x 30 บานประตูภายในห้องเป็นประตู MDF สีขาว, บานประตูหลักกรุลามิเนตพร้อมอุปกรณ์ Digital Door Lock, บานประตูระเบียงและหน้าต่างบานกระทุ้งในห้องเป็นบานเลื่อนกระจกเขียวตัดแสง บานกรอบอลูมิเนียม
สาธารณูปโภค ทั้ง 4 อาคารจะได้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน โดยทุกอาคารจะสามารถเข้าไปใช้ส่วนกลางได้จากทาง Lobby เท่านั้น ส่วนกลางประกอบด้วยสวนหย่อม สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และ Library ซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อยนะเมื่อเทียบกับจำนวน 312 ยูนิต ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยแต่ละอาคารจะมี Key card access ระยะใกล้ ระบบ CCTV ที่ประตูทางเข้าฝั่งละ 1 ตัว , ประตูทางเข้าออกใน Lobby ใช้ระบบ Key Card ส่วนที่จอดรถแต่ละอาคารจอดได้ประมาณ 40% ถือว่าน้อยไปหน่อยสำหรับโครงการทำเลที่น่าจะมีคนใช้รถเยอะแบบนี้
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ
8.5
เข้าออกเมืองสะดวก มีความอุดมสมบูรณ์สูง
การเดินทาง ใช้รถ
8
เดินทางสะดวกมีเส้นทางลัดเลาะหลายเส้นทาง
การเดินทาง ไม่ใช้รถ
8.5
ค่อนข้างสะดวกมีพี่วิน Taxi ผ่านไปมาให้ใช้บริการ แต่ระยะจากโครงการถึงปากซอยค่อนข้างไกล อาจจะลำบากถ้าวันไหนไม่มีรถผ่านไปมา หรือวันฝนตก
ห้องและวัสดุ
8.0
แปลนห้องแบ่งได้เป็นสัดส่วนลงตัว ขายแบบ Fully Furnished วัสดุและเฟอร์นิเจอร์ที่ได้จัดเต็ม
สิ่งอำนวยความสะดวก
7.5
มีให้ครบครันแต่อาจจะไม่เพียงพอกับจำนวนผู้ใช้
ความคุ้มค่ากับราคา
8.0
ราคาเริ่มต้นตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 52,000บาท/ ตร.ม. ได้ทำเลใกล้รถไฟฟ้าในอนาคต ใกล้ถนนใหญ่หลายสาย และมีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูง
คะแนนรวมเฉลี่ย
8.0
ดี
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Tel :1739
Website : คลิกที่นี่
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น