EP.673 รีวิว ทาวน์โฮม ทรีโอ ร่มเกล้า Trio Romklao โครงการพร้อมอยู่ ติดถนนใหญ่ ใกล้สุวรรณภูมิ เริ่ม 3.29 ลบ.*
สวัสดีผู้อ่าน Homenayoo ทุกคนค่ะ วันนี้ทีมงานเราจะขอพาชมโครงการ Trio ร่มเกล้า จาก ธารารมณ์ เอสเตท โครงการทาวน์โฮม, โฮมออฟฟิศ, Business Home ตัวอาคาร Style Modern Natural เน้นความโปร่งโล่งภายในตัวอาคาร โครงการติดถนนใหญ่ร่มเกล้าฯ ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิฯ ใกล้ทางด่วนมอเตอร์เวย์ ในราคาเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท (อัพเดทราคา ณ วันที่ 26 ก.ย. 60) สำหรับรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ติดตามอ่านต่อด้านล่างได้เลยค่าา 😉
ชื่อโครงการ | ทรีโอ ร่มเกล้า Trio Romklao |
เจ้าของโครงการ | ธารารมณ์ เอสเตท Tararom Estate |
ลักษณะโครงการ |
|
พื้นที่โครงการ | 15-1-58.2ไร่ |
จำนวนบ้าน | 160 ยูนิต |
พื้นที่ใช้สอย | เริ่มต้น 197-243 ตร.ม. |
เนื้อที่บ้าน | เริ่มต้น 22.20 ตร.วา |
จำนวนห้อง | 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ |
ที่จอดรถทั้งหมด | 2 คัน |
โซน | เขตมีนบุรี |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | สาย 515ร, สาย 143 |
ที่ตั้ง | ถนนร่มเกล้า แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม. |
กำหนดการ | n/a |
ปีที่สร้างเสร็จ | สร้างเสร็จพร้อมอยู่ |
ราคา | เริ่ม 3.29 ลบ.* อัพเดทราคา ณ วันที่ 26 ก.ย. 60 |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | 30 บาท/ตร.วา/เดือน |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | ทรีโอ ร่มเกล้า บินสุวรรณภูมิ ทาวน์โฮม 3 ชั้น และ โฮมออฟฟิศ 3 ชั้น ทุกพื้นที่ใช้สอยออกแบบฟังก์ชั่นเพื่อตอบรับการใช้งานอย่างลงตัว เหมาะสำหรับการประกอบธุรกิจ และอยู่อาศัย |
พาชม Virtual Tour 360 TRIO ร่มเกล้า
คอนโด ถนนร่มเกล้า
บ้านและทาวน์โฮม ถนนร่มเกล้า
ที่ตั้งโครงการ
ถนนร่มเกล้า แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม.
พิกัด : 13.790028, 100.745945
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
นอกจากนั้นยังมีรถสองแถวสายร่มเกล้า-รามคำแหงผ่านไปมา หรืออีกตัวเลือกที่สะดวกเช่นกันคือ Airport Link โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีลาดกระบังมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 15.5 กม. ถ้านั่งรถ Taxi มาก็จะใช้เวลาประมาณ 20 นาทีค่ะ
และในอนาคตจะมีเส้นทางการเดินทางด้วยรถสาธารณะเพิ่มมาอีก คือ รถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชัน – มีนบุรี)ซึ่งสถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีสุวินทร์วงศ์ บนถนนรามคำแหง และรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย – มีนบุรี) โดยสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นสถานี มีนบุรีบริเวณแยกร่มเกล้า – รามคำแหงค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวจะสะดวกสำหรับโครงการนี้ที่สุดค่ะ แต่อย่างที่บอกว่าย่านนี้มีทั้งออฟฟิศ Logistic และโรงงานต่างๆอยู่เยอะ ทำให้การจราจรค่อนข้างหนาแน่น ตัวถนนร่มเกล้าจะมีรถวิ่งเยอะทั้งรถธรรมดาและรถบรรทุกจึงทำให้บนถนนมีฝุ่นเยอะและรถค่อนข้างติดโดยเฉพาะในเวลาเร่งด่วนค่ะ
ตัวถนนร่มเกล้าเชื่อมต่อกับถนนหลายสายโดยเส้นทางด้านเหนือของถนนร่มเกล้าเป็นย่านมีนบุรีมีจุดตัดกับถนนรามคำแหง, รามอินทราและสุวินทวงศ์ โดยรามคำแหงนั้นใช้เดินทางไปยังบางกะปิ ถนนรามอินทราวิ่งไปทางวิภาวดีรังสิต-หลักสี่ และสุวินทวงศ์ใช้ไปยังฉะเชิงเทรา
ส่วนทางทิศใต้นั้นใช้เดินทางไปยังมอเตอร์เวย์และลาดกระบัง สำหรับมอเตอร์เวย์นั้นใช้เดินทางเข้าตัวเมืองไปยังพระราม 9 และทางด่วนศรีรัช ส่วนขาออกของมอเตอร์เวย์ใช้ไปยังชลบุรีจนสุดทางที่พัทยา ส่วนลาดกระบังใช้เดินทางต่อไปยังอ่อนนุช, ศรีนครินทร์ได้ค่ะ
นอกจากนั้นยังมีสามารถเชื่อมกับทางด่วนกาญจนาภิเษกและเส้นคู่ขนานกาญจนาภิเษกที่สามารถวิ่งเข้าถนนรามคำแหง ไปเชื่อมเส้นลาดพร้าว เสรี หรือออกมีนบุรี หนองจอก และถนนรามอินทราได้ ส่วนเส้นกาญจนาภิเษกเองวิ่งไปออกปทุมธานี รังสิต ถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่วนถ้าเราวิ่งลงฝั่งใต้ก็จะมาเชื่อมกับถนนลาดกระบัง บางนา-ตราด ศรีนครินทร์ เทพารักษ์ สมุทรปราการค่ะ
จุดขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษกฝั่งวิ่งขึ้นไปทางเหนือ จะมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 11 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 17 – 30 นาทีค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ของโครงการนี้ในระยะเดินจะมีเวิ้งร้านสะดวกของโรงงานแถวนั้นอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 120 เมตร ภายในจะมีร้าน Lawson 108 และร้าน Tsuruha 2 ร้าน นอกจากนี้แล้วก็จะต้องอาศัยขับรถออกมาไกลหน่อย โดยความอุดมสมบูรณ์ในละแวกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นพวกตลาด ทั้งตลาดสด ตลาดนัด ที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นตลาดนัดทวีทรัพย์พลาซ่า ห่างจากหน้าโครงการไปประมาณ 350 เมตร (ซึ่งจริงๆใครจะเดินก็ได้ แต่ระหว่างทางจะเป็นฟุตบาทโล่งๆ เดินตอนกลางวันค่อนข้างร้อน ตอนกลางคืนก็อาจจะค่อนข้างเปลี่ยวไปหน่อยสำหรับสาวๆค่ะ) นอกจากนั้นจะมีความอุดมสมบูรณ์ในซอยเคหะร่มเกล้าซึ่งเป็นชุมชนดั้งเดิม ภายในซอยจึงมีตลาดอยู่เยอะ ทั้งตลาดบวรร่มเกล้า, ตลาดกลางนครร่มเกล้า, ตลาดกรชัย, ตลาดเกรียงไกร, ตลาดกรชัย และ Hyper Market คือ Big C หรือจะมาทางฝั่งถนนเจ้าคุณทหารและฉลองกรุงก็จะมีตลาดจตุจักรร่มเกล้า และ Community Mall หลายแห่ง เช่น iPlace, Paseo เป็นต้น นอกจากนั้นก็จะมีความอุดมสมบูรณ์ทางฝั่งถนนลาดกระบังเพราะเป็นแหล่งสถานศึกษาคือ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังค่ะ โดยรอบๆจะมีทั้งโรงพยาบาลลาดกระบัง, โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 7, ร้านอาหารเล็กใหญ่ และตลาดนัดขนาดใหญ่คือตลาดนัดสุวรรณภูมิ และห้างใหญ่ที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็น The Mall บางกะปิ, Paradise และ Seacon ศรีนครินทร์ และ The Mall รามคำแหง ค่ะ
การเดินทาง
การเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มต้นจากบริเวณแยกทางต่างระดับทับช้าง บนทางมอเตอร์เวย์มุ่งหน้าชลบุรี แล้วเบี่ยงออกซ้ายบริเวณก่อนถึงแยกทางต่างระดับร่มเกล้าเพื่อออกไปบนถนนร่มเกล้า ขับตรงไปบนถนนร่มเกล้าฝั่งมุ่งหน้าแยกรามคำแหง – ร่มเกล้า ผ่านแยกเคหะร่มเกล้า ผ่านซอยร่มเกล้า 36 มาอีกหน่อยก็จะเห็นโครงการทางซ้ายมือ
สรุปการเดินทาง แยกทางต่างระดับทับช้าง > เบี่ยงซ้ายก่อนถึงแยกทางต่างระดับร่มเกล้า > ถนนร่มเกล้า > แยกเคหะร่มเกล้า > Trio ร่มเกล้า
เริ่มต้นการเดินทางบนทางด่วนมอเตอร์เวย์ ฝั่งมุ่งหน้าชลบุรี บริเวณก่อนถึงแยกทางต่างระดับทับช้างนิดหน่อย จากตรงนี้เราสามารถเบี่ยงซ้ายเพื่อเข้าถนนกาญจนาภิเษก ไปบางปะอิน และบางนาได้
เลยแยกมาหน่อยจะเห็นป้ายบอกทางไปถนนร่มเกล้า เราก็ขับตรงตามทางไปเรื่อยๆค่ะ
เมื่อขับมาจนเกือบๆถึงแยกทางต่างระดับร่มเกล้าจะเห็นทางแยก มีป้ายเบี่ยงซ้ายเพื่อออกไปถนนร่มเกล้า
เราก็ชิดซ้ายออกตามป้ายไปเลยค่ะ
เบี่ยงซ้ายออกมาจะเจอทางแยก ให้เราออกซ้ายอีกทีค่ะ ส่วนทางขวาจะมุ่งหน้าไปคลังสินค้าของสนามบินสุวรรณภูมิ
ออกซ้ายมาแล้วจะเจอไฟแดงให้เราเลี้ยวขวา
ออกขวามาแล้วเราตรงมาเรื่อยๆ โดยขับชิดเลนซ้ายไว้ค่ะ เพราะเราต้องเบี่ยงซ้ายอีกทีเพื่อออกไปบนถนนร่มเกล้า
ตอนนี้เราอยู่บนถนนร่มเกล้าแล้วค่าา
ตรงตามทางมาเรื่อยๆจะถึงแยกไม่มีชื่อ จากตรงนี้ถ้าเราเลี้ยวซ้ายจะเข้าถนนพัฒนาชนบท 3 สามารถใช้ไปศรีนครินทร์ได้ และในอนาคตจะมีทำทางเชื่อมต่อไปถึงถนนกรุงเทพกรีฑาค่ะ ส่วนถ้าออกทางขวาจะเข้าถนนเจ้าคุณทหาร สามารถใช้ไปถนนฉลองกรุงได้ค่ะ
เราขับตรงตามทางมาเรื่อยๆจนเห็นปั๊ม Caltex ทางซ้ายมือ ก็แสดงว่าเราถึงซอยร่มเกล้า 8 ใกล้จะถึงโครงการแล้วค่ะ
สังเกตุบริษัทไทยออสนอวร์ทางซ้ายมือ
ผ่านโรงงานไทยออสนอวร์มาก็จะถึงโครงการ Trio ร่มเกล้า แล้วค่าาา
ถนนและแยกที่สำคัญรอบโครงการ
สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ
รอบๆโครงการ
สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการทั้งหมดเป็นสิ่งก่อสร้างแนวราบ โดยส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินเปล่าและโรงงานขนาดกลางถึงใหญ่ และที่ดินโดยรอบโครงการ
มาเดินดูรอบๆโครงการของจริงกันบ้างค่ะ เริ่มจากหน้าโครงการมีป้ายโครงการพร้อมสวนตกแต่งเล็กๆ
ติดกับหน้าโครงการเป็นถนนร่มเกล้า
ขวามือเป็นถนนร่มเกล้าฝั่งมอเตอร์เวย์ พื้นที่ติดกับโครงการฝั่งนี้เป็นบริษัทไทยออสนอวร์
ฝั่งหน้าโครงการทางซ้ายมือ
หน้าโครงการจะมีฟุตบาทกว้างมาตรฐานให้เดินได้สะดวก แต่ค่อนข้างร้อนเพราะไม่มีหลังคาอะไรมาช่วยบัง
เดินมาจนสุดที่ดินโครงการจะเป็นสำนักงานขาย
มีทางเข้าตัวสำนักงานขายจากฝั่งนี้ด้วย ถ้าใครที่ขับเลยทางเข้าหลักของโครงการมาก็สามารถเข้ามาเยี่ยมชมโครงการโดยเข้าสำนักงานทางฝั่งนี้ได้ค่ะ
ด้านหน้าสำนักงานขายมีที่จอดรถรองรับ
หน้าตาอาคารสำนักงานขาย
ภายในสำนักงานขายมีที่นั่งรับรองหลายชุด พร้อมเคาน์เตอร์เจ้าหน้าที่คอยให้บริการ
ด้านหน้าสำนักงานขายอีกฝั่ง
ตัวโครงการ
โครงการ Trio ร่มเกล้า เป็นโครงการที่รวมทาวน์โฮม, โฮมออฟฟิศ และอาคารพาณิชย์ ไว้ในที่เดียวกัน โดยตัวโครงการจะแบ่งโซนอาคารแต่ละแบบค่อนข้างชัดเจน เราสามารถดูจากแปลนโดยจะเห็นว่าทางเข้าของโครงการติดกับถนนร่มเกล้า
พื้นที่หน้าโครงการก่อนผ่านป้อมรปภเข้าไปจะเป็นส่วนของอาคารพาณิชย์(ซึ่งตอนนี้ขายไปหมดเกลี้ยงแล้ว) และสำนักงานขาย เข้ามาด้านในผ่านป้อมรปภ. เข้าไปแล้วจะเจอกับถนนซอยกว้าง 12 เมตร ซึ่งถนนหลักแบ่งเป็น 2 เส้น เส้นที่ตรงเข้ามาจากทางเข้าจะเป็นส่วนของโฮมออฟฟิศ และซอยทางขวามือจะเป็นส่วนของทาวน์โฮมกว้าง 9 เมตรค่ะ ลักษณะการวางอาคารจะวางหันหน้าเข้าหากัน ส่วนกลางของโครงการนี้จะมีเพียงแค่สวนสาธารณะที่เดียวอยู่บริเวณหน้าโครงการ โดยขนาดสวนสาธารณะจะมีพื้นที่ประมาณ 272.1 ตารางวาค่ะ
มาดูของจริงกันบ้างค่ะ เริ่มจากทางเข้าโครงการมีป้ายบอกทางเข้าอยู่หน้าโครงการ
เข้ามาในโครงการมองตรงไปจะเป็นส่วนของป้อมรปภ. ซ้ายมือจะเป็นอาคารนิติบุคคลและขวามือจะเป็นส่วนของอาคารพาณิชย์
ในปัจจุบันส่วนของอาคารพาณิชย์ได้ขายไปหมดร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วค่ะ โดยลูกบ้านของส่วนอาคารพาณิชย์นี้จะเปิดเป็นร้านต่างๆ เช่นร้านขายอุปกรณ์ฟิตเนส, ร้านเวดดิ้งสตูดิโอ, ร้านอาหารร้าน, ร้านเสริมสวย, คลินิกรักษาสัตว์ เป็นต้นค่ะ
พื้นที่บริเวณหน้าอาคารพาณิชย์สามารถจอดรถได้ประมาณ 30 คัน
กลับมาที่ป้อมรปภ. เดี๋ยวเราจะเข้าไปดูด้านในโครงการกันต่อนะคะ
สำหรับตัวป้อมรปภ. มีหลังคาคลุมทั้งทางเข้าออก ผ่านเข้าโครงการด้วยระบบ Key Card Access ระยะใกล้มีรปภ. คอยรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกล้อง CCTV ฝั่งละ 2 ตัวค่ะ สำหรับส่องป้ายทะเบียนและหน้าคนขับ
เมื่อเข้ามาในโครงการจะเจอถนนหลักกว้าง 12 เมตร ซอยแรกมองตรงไปจะเป็นส่วนของอาคารโฮมออฟฟิศ ปัจจุบันขายไปแล้วบางส่วนค่ะ ซึ่งลูกบ้านก็จะใช้เป็นทั้งบ้านและเปิดกิจการต่างๆเช่น ร้านนวด, เปิดบริษัท เป็นต้นค่ะ
ภาพรวมส่วนอาคารโฮมออฟฟิศ
ส่วนทางขวามือที่เราเห็นจะมีถนนเชื่อมไปยังฝั่งของทาวน์โฮมและพื้นที่สวนสาธารณะ
ถนนเชื่อมไปยังส่วนของทาวน์โฮม ส่วนสวนทางขวามือที่เห็นจะเป็นสวนธารณะ ซึ่งเป็นส่วนกลางหลักจุดเดียวของโครงการ
ภายในสวนสาธารณะปูหญ้าพร้อมลงต้นไม้มาให้เรียบร้อย
ภายในสวนมีม้านั่งยาวให้ 2 – 3 ชุด
ตัวศาลาสไตล์โมเดิร์นเข้ากับภาพรวมของโครงการ
ด้านในศาลาส่วนใหญ่จะปล่อยให้เป็นที่โล่ง และมีเก้าอี้กลมให้นั่ง 5 ตัวค่ะ
ส่วนของสนามเด็กเล่นจะมีเครื่องเล่นมาให้แบบนี้ พื้นปูอิฐยางกันลื่นมาให้
มุมจากสนามเด็กเล่นมองย้อนไปทางถนนในโครงการ
ซอยถัดมาเป็นส่วนของ Town Home
ในซอยของแบบบ้าน Town Home
แบบบ้าน
แบบบ้าน Home Office 3 ชั้นครึ่ง หน้ากว้าง 5.5 และ 6 เมตร พื้นที่ใช้สอย 219 ตารางเมตร ที่จอดรถ 2 คัน 3 ห้องน้ำ
แบบบ้าน Town Home 3 ชั้น 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ หน้ากว้าง 5.5 และ 6 เมตร พื้นที่ใช้สอย 197 ตารางเมตร
บ้านตัวอย่าง
มาเริ่มที่บ้านตัวอย่างแบบแรก เราจะพาไปดูในแบบบ้านทาวน์โฮมกันก่อนนะคะ เริ่มจากแปลนบ้าน เมื่อเข้ามาในพื้นที่ของบ้านจะเจอกับที่จอดรถขนาด 2 จอด หน้าประตูบ้านจะมีเฉลียงทางเข้า เมื่อเข้าไปในตัวบ้านจะเจอกับส่วนพื้นที่รับแขกก่อนยาวต่อเนื่องไปเป็นส่วนรับประทานอาหารและห้องครัว โดยครัวที่ได้จะเป็นครัวแบบเปิด จากห้องครัวจะสามารถออกมาลานซักล้างและพื้นที่สวนหลังบ้านได้ ส่วนห้องน้ำที่ชั้น 1 จะอยู่ติดกับบันไดขึ้นชั้น 2 ค่ะ
เมื่อขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับห้องน้ำตรงกลางโดยพื้นที่ทางฝั่งหลังบ้านเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ลักษณะเป็นโถง ไม่มีการกั้นห้องปิด พื้นที่ห้องอเนกประสงค์นี้จะมีทางเชื่อมต่อออกไปยังระเบียงภายนอกด้วยค่ะ ส่วนพื้นที่ฝั่งหน้าบ้านจะเป็นห้องนอนรอง ซึ่งห้องนี้จะมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างสามารถแบ่งเป็นพื้นที่สำหรับห้องนอนและแบ่งพื้นที่เป็น Walk – in Closet ได้
ขึ้นมาที่ชั้น 3 จะเป็นชั้นของ Master Bedroom เราสามารถใช้พื้นที่ทั้งชั้นเพื่อทำเป็นห้อง Master Bedroom ได้หรือถ้าใครมีสมาชิกในบ้านหลายคนก็สามารถที่จะต่อเติมแบบให้เป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องก็ยังพอไหวอยู่ค่ะ ในห้องนี้จะมีห้องน้ำขนาดใหญ่แบ่งแยกส่วนเปียกและส่วนแห้ง พร้อมทั้งอ่างอาบน้ำมาให้ด้วย มีเฉลียงระเบียงภายนอกทางฝั่งหน้าบ้าน
มาดูของจริงกันบ้างค่ะ รูปร่างภายนอกของแบบบ้านทาวน์โฮมจะมีความ Modern เล่นเส้นสายตรงๆ ทรงสี่เหลี่ยมใช้สีขาวเทาและส้มเป็นสีหลัก
รั้วหน้าโครงการจะได้เป็นบานพับ 3 ตอนสีดำ พร้อมกริ่งหน้าบ้านทุกหลังค่ะ
เข้ามาภายในตัวบ้านจะเจอกับที่จอดรถขนาด 2 จอด พื้นเป็นคอนกรีต
รั้วระหว่างบ้านจะเป็นรั้วทึบต่อโปร่งสูงประมาณ 1.5 เมตร
พื้นที่หน้าบ้านจะมีเฉลียงสูงประมาณ 12 เซนติเมตร ตัวเฉลียงกว้างประมาณ 60 เซนติเมตร สามารถที่จะวางชั้นวางรองเท้าได้หรือจะวางพวกกล่องเก็บอุปกรณ์อื่นๆเพิ่มก็ได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะเปียกค่ะ
สำหรับประตูทางเข้าหลักของบ้านจะได้เป็นประตูบานเลื่อนคู่ผสมบาน fix บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง
ตัวล็อคและมือจับแบบเซาะร่องมาตรฐาน
เข้ามาภายในตัวบ้านจะเจอกับส่วนห้องรับแขกยาวต่อเนื่องไปจะเป็นส่วนทานอาหารและประตูเชื่อมออกไปยังลานซักล้าง ซึ่งในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นโถงโล่งๆ พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ผนังฉาบเรียบทาสีขาวพร้อมบัวเชิงผนังสีขาว ไฟได้ไฟดาวน์ไลท์ทั้งหลัง ความสูงฝ้าเพดาน 2.75 เมตร
เรามาดูในส่วนของห้องนั่งเล่นกันก่อน สำหรับพื้นที่ห้องนั่งเล่นทางโครงการจัดโซฟาทรง L Shape ขนาดประมาณ 6 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่างซึ่งถือว่าได้ที่นั่งเยอะเหมาะกับพื้นที่ดีค่ะ
ระยะวางทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.5 เมตร สามารถวางทีวีขนาด 55″ – 60″ จะได้ระยะดูทีวีที่เหมาะสม
ถัดจากส่วนห้องนั่งเล่นเข้ามาจะเป็นพื้นที่ของห้องทานอาหารซ้ายมือเป็นห้องน้ำและห้องครัวค่ะ
โดยพื้นที่ห้องทานอาหารนี้ ทางโครงการจัดมาเป็นโต๊ะร้านอาหารขนาดประมาณ 6-7 ที่นั่ง
โดยมีการบิวอินเป็นเก้าอี้ยาวไว้ติดผนังแบบนี้ถือว่าเป็นไอเดียที่ดีค่ะ ช่วยให้เพิ่มพื้นที่การใช้งานและสามารถเพิ่มความยาวโต๊ะได้อีกอาจจะถึง 10 ที่นั่งได้เลยค่ะ
อีกฝั่งของห้องจะเป็นห้องน้ำและสวนห้องครัว
มาดูในส่วนห้องน้ำกันก่อนค่ะ โดยประตูห้องน้ำที่ได้จะได้เป็นประตูไม้จริงมือจับก้านโยก
เข้ามาภายในห้องน้ำห้องน้ำที่ชั้น 1 นี้จะเป็นห้องน้ำรับรอง คือจะมีแค่ส่วนแห้งเท่านั้น ประกอบด้วยอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงไปประมาณ 10 เซนติเมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา
ในห้องน้ำด้วยไฟดาวน์ไลท์และเครื่องดูดความชื้น
อ่างล้างมือแบบฝังเคาน์เตอร์ทรงรี พร้อมก๊อกน้ำเย็นยี่ห้อ Nahm ตัวเค้าเตอร์จะเป็นแบบ Built in top หินแกรนิตมีพื้นที่วางของพอสมควรค่ะ
ติดกับอ่างล้างมือจะเป็นโถสุขภัณฑ์มีบ่าวางของเชื่อมมาจากเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ สามารถวางของด้านหลังได้นิดหน่อย ตัวโถสุขภัณฑ์จะได้มาพร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระยี่ห้อ Karat ระยะการใช้งานแบบพอดีๆ
ตัวสายชำระพลาสติด ขนาดกระทัดรัด
กลับออกมาด้านนอก เรามาดูในส่วนของห้องครัวกันต่อค่ะ สำหรับพื้นที่ห้องครัวที่ได้นี้จะได้เป็นครัวแบบเปิดพร้อมเดินท่อไว้ให้พร้อมสำหรับการติดตั้ง Counter ครัว ซึ่งสำหรับผู้ที่จะเข้าอยู่จริงและทำอาหารบ่อยๆเราสามารถที่จะกั้นห้องครัวเป็นครัวปิด เพื่อป้องกันกลิ่นและควันฟุ้งไปยังส่วนอื่นของบ้านค่ะ
ในส่วนห้องครัวนี้จะมีช่องแสง 1 จุด หน้าต่างบานเกร็ด บานค่อนข้างใหญ่ กรอบสีดำสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้และรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้ดีค่ะ
บ้านตัวอย่างทางโครงการ Built in เคาน์เตอร์ครัวมาให้ดูระยะการใช้งานจะอยู่ที่ประมาณ 1.2 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นระยะที่สามารถยืนเตรียมอาหารได้สบายๆค่ะ
ถัดมาเราจะไปดูลานซักล้างหลังบ้านกันต่อ โดยประตูที่เชื่อมระหว่างพื้นที่จะเป็นประตูบานเลื่อนเดี่ยว บานกรอบอลูมิเนียมสีดำกระจกเขียวตัดแสง
ลานซักล้างหลังบ้านจะมีแทงค์น้ำติดตั้งมาให้ในทุกหลัง
สำหรับในบ้านมาตรฐานจะได้พื้นปูกระเบื้อเซรามิคสีเทา เต็มพื้นที่
พื้นลานซักล้างจะลดระดับลงไปประมาณ 4.5 ซม.
มีเต้าเสียบและก๊อกน้ำติดตั้งไว้ให้เผื่อสำหรับเครื่องซักผ้า
ถัดมาเราจะไปดูบนชั้น 2 กันต่อค่ะ โดยบริเวณใต้บันไดจะมีห้องเก็บของมาให้ 1 ห้อง
ประตูห้องเก็บของเป็นประตูบานไม้ มีลักษณะเป็นบานเกร็ดเพื่อระบายอากาศไม่ให้ด้านในห้องเก็บของชื้น พื้นที่ภายในห้องเก็บของเก็บของได้พอประมาณ
บันไดจะได้เป็นโครงสร้างคสล.
ราวจับเล็กสีขาว มือจับไม้พอดีมือ
มองเครื่องไปตามโถงบันไดเราจะเห็นช่องแสง 1 จุด เป็นช่องแสงที่เชื่อมไปยังระเบียงภายนอกมีประโยชน์ตรงที่ช่วยให้โถงบันไดสว่างขึ้นในเวลากลางวัน แต่ในเวลากลางคืนอาจจะมีแสงสว่างไม่เพียงพอแนะนำให้ติดโคมไฟตามทางเดินไปด้วยค่ะเพื่อความปลอดภัย
ชานพักบันได 2 ตอนเป็นแบบสี่เหลี่ยมสามารถเดินได้อย่างปลอดภัย
พื้นชั้น 2 ปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม.มีตัวจบให้เรียบร้อย
ถึงบนชั้น 2 เราจะเห็นพื้นที่โถงทางซ้ายมือ ห้องน้ำและห้องนอนทางขวา
เรามาดูในส่วนโถงอเนกประสงค์กันก่อนนะคะ ในบ้านตัวอย่างจะมีการกั้นพื้นที่ด้วยระแนงทำให้มีการแบ่งพื้นที่โดยไม่ต้องรู้สึกอึดอัดเท่ากั้นห้องด้วยผนังทึบค่ะ
ในส่วนของโถงอเนกประสงค์จะมีช่องแสงทั้งหมด 2 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสงและประตูบานเลื่อนเชื่อมออกไปยังระเบียงค่ะ
สำหรับของอเนกประสงค์นี้ทางโครงการจัดมาเป็นห้องนั่งเล่นและห้องทำงานแบบนี้ค่ะ
เราไปดูในส่วนของระเบียงด้านนอกกันบ้าง
พื้นระเบียงด้านนอกปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ลดระดับลงไปประมาณ 8 เซนติเมตร
สำหรับพื้นที่ระเบียงด้านนอกนี้สามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อน วางชุดโต๊ะกาแฟได้เนื่องจากมีขนาดค่อนข้างกว้าง พร้อมจัดสวนตามห้องตัวอย่างก็ดูเหมาะสมดีค่ะ
ราวกันตกได้เป็นราวเหล็กสีดำ
ออกมาดูด้านนอกจะเห็นพื้นที่สำหรับวางคอมเพรสเซอร์แอร์
อีกด้านหนึ่งจะเห็นช่องแสงที่เราเห็นจากโถงบันไดเมื่อสักครู่ค่ะ
ถัดมาเราจะไปดูกันต่อที่ห้องน้ำและห้องนอนรองโดยทางเดินเชื่อมโถงอเนกประสงค์ไปจนถึงห้องนอนรองจะเป็นโถงทางเดินความกว้างประมาณ 1.15 เมตร
เราเดินมาตรงโถงจะเห็นห้องน้ำทางซ้ายมือก่อนแล้วมองตรงไปจะเป็นส่วนของห้องนอนรองค่ะ
เราไปดูด้านในห้องน้ำกันก่อน
ภายในห้องน้ำของชั้นนี้จะแยกส่วนแห้งส่วนเปียก มีสุขภัณฑ์ครบชุด แยกพื้นที่อาบน้ำไว้ให้ด้วยธรณีก่อและผนังกั้นบางส่วน
ส่วนไฟในห้องน้ำจะได้เป็นแบบดาวไลท์พร้อมเครื่องดูดความชื้น
อ่างล้างมือแบบทรงกลมขนาดกะทัดรัด พร้อมก๊อกน้ำเย็นไม่มีเคาน์เตอร์ใต้อ่าง แต่มีบ่าวางของด้านหลังสามารถวางของได้นิดหน่อยค่ะ
ติดกับอ่างล้างมือจะเป็นโถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Karat ระยะการใช้งานพอดีๆ
สำหรับพื้นที่ส่วนอาบน้ำเราสามารถที่จะติดตั้ง Shower Box เพิ่มได้ถ้าต้องการ หรือจะหาม่านน่ารักๆมาติดก็ได้ค่ะ โดยธรณีห้องอาบน้ำจะยกสูงขึ้นมาประมาณ 6 เซนติเมตร เพื่อกันน้ำไหลออกไปยังพื้นที่ส่วนแห้ง
มาดูด้านในห้องอาบน้ำจะติดตั้งฝักบัวแบบ Hand shower ปรับระดับไม่ได้ ขนาดค่อนข้างกระทัดรัด ยี่ห้อ Karat เช่นกัน
ขนาดพื้นที่ของห้องอาบน้ำประมาณ 1.25 * 0.9 เมตรถือว่ามีขนาดพอดียืนอาบได้สบายๆค่ะ
ถัดมาเราจะมาดูในส่วนของห้องนอนรองกันต่อ
พื้นห้องนอนรองจะปูด้วยลามิเนต มีตัวจบติดตั้งให้เรียบร้อย
เข้ามาในห้องนอนรองถือว่ามีขนาดค่อนข้างกว้างเลยค่ะ ในบ้านตัวอย่างจะจัดเป็นพื้นที่สำหรับทำงาน มองตรงไปจะเห็นว่ามีประตูออกไปยังระเบียงด้านนอก
โดยประตูที่เชื่อมระหว่างพื้นที่ในห้องและระเบียงด้านนอกจะเป็นประตูบานเลื่อนเดี่ยว บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง
พื้นด้านนอกลดระดับลงไปประมาณ 7 ซม. ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา ขนาดระเบียงประมาณ 3.6 x 0.95 เมตร สามารถใช้วางชุดโต๊ะกาแฟเล็กๆได้ หรือจะหาไม้กระถามขนาดไม่ใหญ่มาปลูกเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้านก็ยังได้ค่ะ
ลักษณะการติดคอมเพรสเซอร์แอร์ของห้องจะติดตั้งไว้กับผนังแบบนี้ค่ะ
กลับเข้ามาในห้อง จากส่วนห้องทำงานเราจะไปดูในพื้นที่ห้องนอนกันต่อ จากมุมนี้เราจะเห็นว่าภายในห้องนี้จะได้ช่องแสงมา 2 จุด เป็นช่องแสงขนาดใหญ่ทั้งคู่ ทำให้ห้องสว่างได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาค่อนข้างเยอะและสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้สะดวกค่ะ
สำหรับพื้นที่ในส่วนของห้องนอนนี้ ทางโครงการจัดวางมาทั้งเตียงและตู้เสื้อผ้ารวมอยู่ในพื้นที่เดียวกัน
เตียงที่จัดมาให้เป็นเตียงขนาดควีนไซส์
เมื่อวางเตียงลงไปแล้วจะเหลือพื้นที่ข้างเตียงประมาณ 95 ซม. สามารถที่จะวางเคาน์เตอร์เหนือหัวเตียงได้ค่ะ
ส่วนพื้นที่ปลายเตียงจะจัดเป็นตู้เสื้อผ้า
ระยะการใช้งานปลายเตียงประมาณ 1.35 เมตร ถือว่าพอให้ใช้งานได้สบายๆ
ถ้าใครที่มีเสื้อผ้าเยอะๆ และไม่ต้องใช้ห้องทำงานก็สามารถที่จะเปลี่ยนพื้นที่ห้องทำงานให้เป็นส่วน walk in closet จะได้เป็นห้องแต่งตัวที่ขนาดค่อนข้างกว้างเลยค่ะ
ถัดมาเราจะไปดูบนชั้น 3 กันต่อ
โถงบันไดชั้น 3 จะเป็นโถงสูง ไม่มีไฟติดตั้งมาให้แนะนำว่าควรหาโคมไฟติดมาติดตั้งเพิ่มนะคะ เพื่อความปลอดภัยเวลาเดินขึ้นเดินลงตอนกลางคืน
ชานพักระหว่างชั้น 2 ขึ้นชั้น 3 จะแบ่งเป็น 2 ตอนเป็นชานพักแบบสี่เหลี่ยมและชานพักแบบสามเหลี่ยม
ขึ้นมาที่ชั้น 3 จะมีโถงเล็กๆหน้าห้อง ชั้นนี้จะเป็นส่วนของ Master Bedroom ทั้งชั้นค่ะ
เข้าไปดูด้านในกันต่อ
เข้ามาด้านในห้องแล้วส่วนแรกที่เจอจะเป็นส่วนของ Walk – in Closet มีช่องแสง 1 จุด
เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งเปิดได้ค่อนข้างกว้าง สามารถระบายอากาศได้ดี
ติดกับพื้นที่ Walk – in Closet จะเป็นห้องน้ำค่ะ
ภายในห้องน้ำบนชั้นนี้จะได้เป็นห้องน้ำขนาดใหญ่สุดในบ้าน แยกส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้
โดยจะได้อ่างล้างมือสองชุด เป็นอ่างล้างมือทรงสี่เหลี่ยมแบบฝังเคาน์เตอร์พร้อมก๊อกน้ำเย็น พื้นที่บนเคาน์เตอร์สามารถวางของได้นิดๆหน่อยๆ ถ้าใครมีของเยอะก็แนะนำให้หาตู้มาวางใต้อ่างเคาน์เตอร์ค่ะ
ติดกับอ่างล้างมือเป็นโถสุขภัณฑ์ ด้านหลังจะมีการเจาะผนังลงไปทำให้มีพื้นที่สำหรับวางของเพิ่มขึ้น
ฝั่งตรงข้ามโถสุขภัณฑ์จะเป็นส่วนของห้องอาบน้ำ ตัวห้องอาบน้ำมีกั้นผนังแยกจากพื้นที่ส่วนแห้งและอ่างอาบน้ำ ด้านในห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัวมาให้เรียบร้อย
ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 90 x 90 ซม. ถือว่าเป็นขนาดกะทัดรัดพอให้ยืนอาบได้
ติดกับห้องอาบน้ำจะเป็นส่วนของอ่างอาบน้ำจากตรงนี้เราจะเห็นช่องแสงหนึ่งจุด เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ
อ่างอาบน้ำที่ได้จะได้เป็นอ่างแบบฝัง ยี่ห้อ American Standard พร้อมฝักบัวแบบ Hnad Shower และแบบก๊อก
กลับออกมาที่ด้านนอก ถัดไปเราจะไปดูในส่วนของห้องนอนกันต่อ โดยในบ้านตัวอย่างเราจะเห็นว่าทางโครงการกั้นห้องบางส่วนเพื่อแยกส่วน Walk – in Closet ออกจากพื้นที่ห้องนอน แต่ในบ้านมาตรฐานจะเป็นโถงโล่งยาวเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ห้องนอน ซึ่งตรงนี้ถ้าใครที่ชอบความเป็นสัดส่วนก็สามารถที่จะกั้นห้องแยกหรือหาฉากมาวางระหว่างห้องแต่งตัวและห้องนอนได้ค่ะ
เข้ามาในห้องนอนเราก็จะเห็นว่ามีพื้นที่เหลือเฟือสามารถจัดเป็นพื้นที่พักผ่อนได้ และยังมีพื้นที่ห้องทำงานเล็กๆอีกหนึ่งมุม
มุมจากส่วนปลายเตียงมองย้อนไปยังห้อง Walk – in Closet ลักษณะการวางเตียงในบ้านตัวอย่างที่จัดมาให้ดูนั้น จะวางเตียงชิดกับผนังฝั่งโถงบันได โดยผนังฝั่งที่ติดกับผมบันใดจะมีจุดเด่นตรงที่ทางโครงการติดกระจกบาน fix มาให้ ซึ่งในบ้านตัวอย่างเราจะเห็นว่าเป็นกระจกแบบเข้ามุมทำให้ได้มุมมองที่กว้างกว่า แต่ในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นบบานฟิกซ์ขนาดแคบกว่าแต่ก็ยังมีขนาดค่อนข้างกว้าง ทำให้มีความรู้สึกโปร่งกว่าผนังทึบ ซึ่งถ้าใครที่อยากได้ตามแบบห้องตัวอย่างก็สามารถที่จะทำเพิ่มเติมได้ค่ะ
สำหรับเตียงที่ว่างมาในโครงการนี้จะวางเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูระยะการใช้งาน ซึ่งเมื่อจัดวางเตียงลงไปแล้วก็จะพอดีกับผนังด้านหลัง เหลือพื้นที่ข้างเตียงนิดหน่อยพอให้เดินเข้าไปเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้
เรามาดูพื้นที่เหลือของห้องกันบ้างค่ะ โดยพื้นที่ส่วนปลายเตียงจะถูกจัดเป็นห้องนั่งเล่นพักผ่อน ดูทีวีและขวามือจัดเป็นพื้นที่ทำงานเล็กๆพร้อมชั้นวางหนังสือ
มาดูพื้นที่นั่งเล่นกันก่อน พื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนนี้ทางโครงการวางโซฟาขนาดประมาณ 2 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง พร้อมโต๊ะกลางและทีวีซึ่งระยะการใช้งานก็ดูเหมาะสมดีค่ะไม่อึดอัด
ด้านหลังจะช่องแสง เป็นหน้าต่างบานเลื่อนผสมบานฟิกซ์ บานค่อนข้างใหญ่ช่วยให้แสงเข้ามาในตัวบ้านได้เยอะ
ติดกับพื้นที่ส่วนนั่งเล่นพักผ่อนจะเป็นโต๊ะทำงาน โดยทางโครงการจัดเป็นมุมทำงานแบบสบายๆ Built – in เป็นโต๊ะพร้อมชั้นวางหนังสือให้ดูเป็นไอเดียค่ะ
เราจะมาดูระเบียงด้านนอกกันต่อ
ออกมาในเป็นด้านนอกจะใช้เป็นพื้นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์เหมือนชั้น 2
ขนาดระเบียงของชั้นนี้จะอยู่ที่ประมาณ 3.6 x 1 เมตร มีขนาดค่อนข้างกว้างสามารถปลูกต้นไม้หรือวางชุดโต๊ะทานกาแฟได้
มุมจากระเบียงมองย้อนไปทางห้องนอนค่ะ
มาที่บ้านตัวอย่างแบบที่ 2 เราจะพาไปดูในส่วนของโฮมออฟฟิศกันต่อ โดยทั่วไปแล้วลักษณะของโฮมออฟฟิศ จะทำมาให้เป็นพื้นที่โล่งๆ เผื่อไว้สำหรับกั้นห้องเพิ่มเติม เพื่อตกแต่งให้เป็นออฟฟิศตามแบบของผู้อยู่อาศัย โดยในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นบ้านเปล่าพื้นปูกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 cm ผนังฉาบเรียบทาสีทั้งหลัง และพื้นที่ส่วน Pivate หรือห้องนอนจะเป็นพื้นปูลามิเนต
สำหรับแปลนบ้านโฮมออฟฟิศจะมีทั้งหมด 3 ชั้นครึ่ง คือจะเป็นพื้นที่เต็มชั้น 3 ชั้น และมีชั้นลอยระหว่างชั้น 1 กับชั้น 2 พื้นที่ด้านหน้าระหว่างชั้น 1 กับชั้นลอยจะทำเป็นโถงโล่งทำให้พื้นที่ออฟฟิตส่วนหน้าได้ Double Volume Space เพิ่มช่วยให้ตัวออฟฟิศดูมีความโปร่งและดูมีความโอ่อ่ามากขึ้น
ตัวบ้านชั้น 1 เมื่อเข้ามาด้านในจะเจอที่จอดรถขนาด 2 จอดและเฉลียงก่อนทางเข้าบ้าน เมื่อเข้าไปในบ้านจะเจอกับส่วนที่เป็นโฮมออฟฟิศ พื้นที่ตรงนี้เราสามารถที่จะจัดเฟอร์นิเจอร์เองได้ทั้งเป็นส่วน Reception, เปิดเป็นหน้าร้านหรือจะจัดเป็นส่วนทำงานก็ได้ค่ะ ถัดไปด้านหลังจะเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 และห้องน้ำรับรองของชั้น 1 โดยห้องน้ำรับรองนี้จะเป็นห้องน้ำที่ไม่มีพื้นที่อาบน้ำแต่จะรองรับทั้งชายและหญิงโดยจะมีทั้งโถสุขภัณฑ์มาตรฐานและโถปัสสาวะชายเพิ่มเข้ามาด้วย ออกไปทางด้านหลังอีกจะเป็นส่วนของลานซักล้าง สามารถจัดสวนหรือทำเป็นมุมผ่อนคลายสำหรับพนักงานได้ค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้นลอยจะเป็นโถงโล่ง สามารถมองเชื่อมโยงไปยังพื้นที่ออฟฟิศด้านล่างได้ สำหรับการใช้สอยพื้นที่บนชั้นลอยนี้ทางโครงการทำแนวทางมาให้ดูเป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อนของพนักงาน อาจจะมีครัวเล็กๆ และโต๊ะสำหรับนั่งทานอาหารซัก 3 – 4 ที่นั่งกำลังดี แต่ถ้ามีพนักงานเยอะก็ควรเพิ่มจำนวนที่นั่งไปอีกค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะไปโถงโล่งเช่นกัน โดยชั้นนี้จะมีความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นมาอีกระดับ จึงเหมาะที่จะทำเป็นที่นั่งทำงานของพนักงานหรือจะทำเป็นห้องประชุมก็ได้ เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วจะใช้รองรับผู้ที่อยู่ประจำหรือลูกค้าคนสำคัญสำๆที่สามารถขึ้นมาจนถึงชั้น 2 ได้ นอกจากนั้นชั้นนี้ก็จะมีห้องน้ำที่มีทั้งสวนแห้งส่วนเปียกคือมีห้องอาบน้ำรวมอยู่ด้วย สามารถให้พนักงานใช้อาบน้ำได้ถ้าเกิดว่าต้องอยู่ค้างคืนที่บริษัท
ขึ้นมาที่ชั้น 3 ชั้นนี้จะเป็นส่วนที่เรียกว่ามีความเป็นส่วนตัวมากที่สุด ส่วนใหญ่ถ้าเจ้าของบ้านใช้บ้านหลังนี้เป็นทั้งที่ทำงานและที่อยู่อาศัยก็จะใช้ฉันสามนี่แหละค่ะ ทำเป็นห้องนอนและพื้นที่ส่วนตัวโดยพื้นที่ของชั้นนี้จะปูด้วยลามิเนตทั้งหมดเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอน พื้นที่การใช้งานของชั้น 3 จะสามารถแบ่งเป็นห้องนอนได้ 2 ห้อง คือห้องนอนส่วนหน้าบ้านและห้องนอนส่วนหลังบ้าน ขนาดของห้องทั้งสองห้องเมื่อถูกแบ่งแล้วก็ถือว่ามีขนาดที่พอใช้งานได้พอดีไม่อึดอัดจนเกินไป ซึ่งห้องนอนฝั่งหน้าบ้านจะได้พื้นที่เยอะกว่าหน่อยแล้วก็ได้ระเบียงหน้าบ้าน ส่วนห้องน้ำจะมีห้องเดียวที่ใช้ร่วมกันตั้งอยู่ตรงกลางของชั้น เป็นห้องน้ำที่เข้าได้ทั้งจากห้อง Master Bedroom และจากโถงบันได ภายในห้องน้ำแยกส่วนแห้งส่วนเปียกเรียบร้อยเพื่อรองรับการใช้งานทั้งสองห้องค่ะ
มาดูของจริง หน้าตาอาคารภายนอกสไตล์ Modern เน้นสีเทา, ขาว, ส้มเ หมือนบ้านทาวน์โฮมค่ะ ภายนอกจะเห็นว่าตัวอาคารสูง 3 ชั้น มีช่องเปิดระหว่างชั้น 1 กับชั้น 2 ตรงส่วนนั้นจะเป็นช่องแสงของ Double Volume ช่วยให้แสงส่องเข้าไปถึงส่วนชั้นลอยด้วยค่ะ
หน้าบ้านประตูบ้านจะได้เป็นรั้วเหล็กทาสีดำบานพับสามตอน เข้ามาด้านในเจอพื้นที่จอดรถขนาด 2 จอด พื้นเป็นคอนกรีตขัดเรียบ
ก่อนทางเข้าบ้านจะมีเฉลียงกว้างประมาณ 90 cm สามารถวางตู้วางรองเท้าได้
ประตูทางเข้าหลักของบ้านจะได้เป็นชุดประตูบานเลื่อนคู่ ผสมบานฟิกซ์ บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสงค่ะ
เข้ามาด้านในตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่โถงสูง ฝ้าเพดานสูงชั้นครึ่งเป็น Double Volume จากตรงนี้มองขึ้นไปด้านบนเราจะเห็นว่าเราสามารถมองเห็นพื้นที่ส่วนชั้นลอยได้ค่อนข้างชัดเจน
สำหรับในบ้านตัวอย่างทางโครงการจัดพื้นที่ชั้น 1 ให้เป็นส่วนรับรองสำหรับลูกค้าที่เข้ามาติดต่อกับบริษัท
ด้านจะเป็นห้องประชุมหรือห้องคุยงาน กั้นไว้เป็นผนังกระจกสูง ส่วนของจริงจะได้เป็นโถงโล่ง
ให้ดูการจัดพื้นที่ของส่วนห้องประชุมนะคะว่าสามารถที่จะวางม้านั่งยาวติดตามผนังได้หลายที่นั่ง พร้อมวางโต๊ะยาวตรงกลางและเก้าอี้เสริมอีก 3 – 4 ที่นั่งค่ะ
มองขึ้นไปด้านบนจะเห็นช่องแสงที่บนชั้นลอยที่เราเห็นจากทางหน้าบ้านเมื่อกี้ค่ะ
เข้ามาที่ส่วนด้านในสามารถจัดเป็นพื้นที่ทำงานออฟฟิศได้ อาจจะใช้เป็นที่ทำงานของส่วนแอดมินเช่น เลขา, บัญชีและส่วนต้อนรับค่ะ
ให้ดูการบิวอินโต๊ะติดผนังอย่างนี้จะช่วยให้ได้พื้นที่ในการทำงานเพิ่มขึ้นโดยไม่เกะกะขวางทางเดินจาก
ส่วนอีกด้านของห้องจะมีห้องน้ำ และด้านหลังของบ้านนี้จะสามารถเชื่อมต่อไปยังเหลือซักล้างหลังบ้านได้
โดยประตูที่เชื่อมต่อพื้นที่ในบ้านและลานซักล้างหลังบ้านจะได้เป็นประตูบานเลื่อนคู่ บานกรบอลูมิเนียมสีดำ
พื้นที่ลานซักล้างด้านนอกสามารถที่จะจัดเป็นสวนพักผ่อนให้พนักงานได้ โดยขนาดลานซักล้างที่ได้ค่อนข้างกว้างสามารถที่จะวางม้านั่งได้หรือจะวางเป็นชุดโต๊ะทานกาแฟขนาดมาตรฐานก็ได้ค่ะ นอกจากนั้นเราสามารถที่จะจัด Vertical Garden ตามกำแพงซึ่งช่วยให้บรรยากาศร่มรื่นมากขึ้นและไม่เสียพื้นที่ใช้สอยค่ะ
แต่สำหรับในบ้านจริงเราจะได้เป็นพื้นปูกระเบื้องเซรามิคสีเทา พร้อมแทงค์น้ำติดตั้งมาให้เรียบร้อยแบบนี้ กลับเข้ามาได้ในตัวบ้านแล้วจะไปดูชั้นบนกันต่อค่ะ โดยราจะเห็นว่าโถงบันไดจะเปิดโล่ง สามารถมองเห็นได้ง่าย ถ้าใครที่ซีเรียสไม่อยากให้ลูกค้าเข้ามาแล้วจะต้องเห็นส่วนบันไดก็สามารถที่จะก่อผนังปิดหรือหามู่ลี่ยาวๆสวยๆติดตั้งปิดไว้ก็จะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว แยกสัดส่วนความ Privacy ที่ชัดเจนมากขึ้นค่ะ
สำหรับห้องน้ำที่ชั้น 1 จะได้เป็นบานประตูไม้ทำสีขาวมือจับก้านโยก
เข้ามาด้านในเป็นห้องน้ำรับรองคือมีเฉพาะส่วนที่เป็นห้องน้ำเท่านั้น มีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง ได้สุขภัณฑ์มาครบชุด มีอ่างล้างมือ, โถสุขภัณฑ์มาตรฐานและโถปัสสาวะชายค่ะ
ตัวบันไดมีเราจะเป็นเหล็กทำสีขาว มือจับไม้ขนาดพอดีมือ
ชานพักบันไดจะแบ่งเป็น 4 ตอน เป็นชานพักแบบสามเหลี่ยมทั้งหมด ขึ้นมาที่ชั้นลอย จะเห็นว่าผนังด้านที่ติดกับส่วน Double Volume จะเป็นเพียงราวกันตกเท่านั้นซึ่งตรงนี้จะมีข้อดีตรงที่ทำให้ส่วนชั้นลอยและออฟฟิศชั้นล่างมีความโปร่งเชื่อมถึงกัน แต่ตรงนี้ถ้าใครคิดว่าจะทำให้เป็นพื้นที่พักผ่อนและไม่อยากให้ส่วนออฟฟิศมองขึ้นมาเห็น ก็สามารถที่จะปิดเป็นผนังทึบได้ แต่ก็จะทำให้เสียความโปร่งที่เป็นเอกลักษณ์ของชั้นลอยไปค่ะ
พื้นที่บนชั้นลอยจะได้ช่องแสงมาถึงจุดเปลี่ยนหน้าต่างบานเลื่อนคู่บานกอบอลูมิเนียมสีดำไฟห้องได้เป็นดาวไลท์ทั้งหมด
สำหรับห้องนี้ทางโครงการทำมาให้เป็นส่วน Pantry พักผ่อนของพนักงานมีการ Built – in ชุดเคาน์เตอร์ครัวพร้อมตู้เย็นและชั้นวางของด้านบนไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ตรงกลางห้องวางโต๊ะทานอาหารขนาดประมาณ 6 ที่นั่งไว้ ซึ่งดูแล้วก็เหมาะสมกับพื้นที่ดีค่ะ แต่ถ้าหากว่าใครมีจำนวนพนักงานเยอะๆและมีเวลาพักที่พร้อมกัน ก็สามารถที่จะเปลี่ยนเป็นโต๊ะกลม หรือเพิ่มความยาวโต๊ะ จะได้ที่นั่งเพิ่มขึ้น รองรับจำนวนพนักงานที่มากขึ้นได้ค่ะ
ให้ดูมุมจากภายในส่วน Pantry มองย้อนออกไปทาง Double Volume จะเห็นว่าในบ้านมาตรฐานจะได้พื้นที่โล่งและมองลงไปยังด้านล่างได้กว้างค่ะ
มองลงไปชั้นล่างก็จะได้มุมมองแบบนี้
ต่อมาเราจะขึ้นไปดูบนชั้น 2 กันต่อ
โดยพื้นที่โถงบันไดจะได้ช่องแสงมา 1 จุด เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง ช่วยให้แสงธรรมชาติส่อง มายังโถงบันไดได้ในตอนกลางวัน
ขึ้นมาที่ชั้น 2 ในบ้านตัวอย่างนี้จะจัดเป็นพื้นที่ทำงานของพนักงานแบบเต็มพื้นที่ โดยมีการกั้นโซนแยกด้วยผนังลอยเป็นกระจกใสที่จะช่วยให้โดยรวมของห้องดูไม่อึดอัดและสามารถให้ผู้บริหารตรวจสอบการทำงานของพนักงานได้ตลอดเวลาค่ะ
สำหรับในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นห้องโล่งๆ มีช่องแสงขนาดใหญ่ 2 ชุด เต็มพื้นที่ฝั่งหน้าบ้านเลยค่ะ ช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้าบ้านได้เยอะ แต่ในเวลากลางวันอาจจะร้อนบ้างแนะนำให้หาม่านกันยูวีหรือมู่ลี่มาติดตั้งเพิ่มเติมเพื่อลดความร้อนที่จะเข้ามาในบ้าน จะได้ช่วยให้ประหยัดค่าไฟลงไปได้นิดหน่อยค่ะ
ให้ดูการจัดแบ่งโซน ฝั่งซ้ายมือจะเป็นส่วนของพนักงานนั่งทำงานหันหน้าเข้าหาผนังทั้งหมดและฝั่งขวามือจะเป็นส่วนห้องของผู้บริหารทั้งสองฝั่งแยกจากกันโดยผนังกระจกกั้น
ในห้องของผู้บริหารสามารถวางโต๊ะและเก้าอี้คุยงานได้ 2 – 3 ชุดแบบนี้ค่ะ
ให้ดูภายในห้องทำงานของพนักงาน สามารถวางโต๊ะทำงานได้ประมาณ 4 ชุด หรือถ้าใครที่มีจำนวนพนักงานเยอะก็สามารถที่จะวางโต๊ะกันหน้าชนกันตรงกลางและวางเก้าอี้ขนาบทั้งสองข้างก็จะได้พื้นที่ทำงานเพิ่มขึ้น แต่ห้องผู้บริหารอาจจะต้องลดขนาดลงนิดนึงตามความเหมาะสมค่ะ
มองย้อนกลับไปดูทางฝั่งบันไดจะเห็นว่ามีช่องแสงอีก 1 จุดและทางขวามือก็จะเป็นห้องน้ำค่ะ
ส่วนของห้องน้ำก็จะได้เป็นประตูบานไม้สีขาวเหมือนชั้นล่าง มือจับก้านโยก
เข้ามาด้านในห้องน้ำ พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ได้ชุดสุขภัณฑ์ครบชุดแยกส่วนแห้งส่วนเปียกโดยจะมีห้องอาบน้ำด้วยค่ะ เวลาพนักงานต้องค้างคืนก็สามารถที่จะมาอาบน้ำที่ห้องนี้ได้ โดยชุดสุขภัณฑ์ที่ได้จะได้เป็นของ Nahm และ Karat พร้อมกระจกเงา
ส่วนห้องอาบน้ำขนาดประมาณ 0.90 x 1.4 เมตร ได้ฝักบัวและราวแขวนผ้าเช็ดตัวพร้อม
เราจะขึ้นไปดูบนชั้น 3 ต่อ โถงบันไดที่เชื่อมระหว่างชั้น 2 และชั้น 3 ก็จะได้ช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งบานกรอบสีดำ
ตัวโถงบันไดด้านบนชั้น 3 คนข้างทึบแนะนำให้ติดตั้งโคมไฟตามทางเดินด้วยค่ะ
พื้นจะปูไม้ลามิเนตทั้งชั้นค่ะ
ขึ้นมาจะเจอโถงแบ่งแยกห้องเป็น 3 ห้อง
ไปดูห้องทางฝั่งซ้ายมือกันก่อน
ห้องทางฝั่งซ้ายมือนี้จะได้เป็นห้องนอนรองมีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ
ทางโครงการจัดมาให้ดูเป็นห้องเด็กอ่อนวางเตียงขนาดเล็กมาให้ดูเป็นตัวอย่างรอบด้านติดตั้งตู้เสื้อผ้าแบบ Built – in ระยะการใช้งานโดยรวมดูกว้าง ไม่อึดอัด
อีกด้านของห้อง
กลับมาที่โถงบันไดด้านนอกแล้วจะไปดูในห้องน้ำกันต่อ ห้องน้ำชั้นนี้จะเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันระหว่างห้องนอนทั้งสองห้อง โดยตัวห้องน้ำจะตั้งอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 ห้องนอนค่ะ
เข้ามาภายในห้องน้ำจะได้ชุดสุขภัณฑ์ครบชุด แยกส่วนแห้ง ส่วนเปียกโดยส่วนเปียกที่แยกออกไปนั้นจะแยกด้วยการก่อธรณีขึ้นมาแต่ไม่มี Shower Box มาให้แต่เราสามารถติดตั้งได้เองถ้าใครต้องการความเป็นสัดส่วนที่มากขึ้นค่ะ ขนาดห้องอาบน้ำอยู่ที่ประมาณ 0.80 x 1.2 เมตร ถือว่ากว้างพอให้ยืนอาบได้สบายๆ
ห้องน้ำห้องนี้จะสามารถเข้าออกได้ 2 ทาง คือจากโถงบันไดด้านนอกและจากห้อง Master Bedroom ทางซ้ายมือค่ะ ตัวประตูจะมีติดตั้ง Stopper กันประตูกระแทกกันเอง
กลับมาที่โถงบันได เราจะไปดูในส่วนของห้อง Master Bedroom กันต่อ
เข้ามาในห้อง Master Bedroom ห้องนี้จะเป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบ้าน เป็นห้องทางฝั่งหน้าบ้าน ได้ระเบียงภายนอกและมีทางเข้าห้องน้ำจากในห้องนอนเลยค่ะ
ห้องนี้จะมีช่องแสง 2 จุด เป็นประตูบานเลื่อนเชื่อมต่อไปยังระเบียงและอีกจุดจะเป็นชุดหน้าต่างบานฟิกซ์และบานเลื่อนคู่บานกรอบอลูมิเนียมสีดำกระจกเขียวตัดแสงทั้งคู่
มาดูในส่วนของห้องนอนกันก่อน พื้นที่ห้องนอนทางโครงการวางเตียงขนาดคิงไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
พื้นที่ข้างเตียงทั้งสองฝั่งเหลือประมาณ1 เมตร และ 80 ซม. ถือว่าเหลือค่อนข้างเยอะ สามารถที่จะวางตู้หัวเตียงได้สบายๆ หรือถ้าใครอยากจะวางโต๊ะวางของด้านข้างเตียงก็สามารถเพิ่มได้ค่ะ พื้นที่ปลายเตียงจะสามารถจัดเป็นส่วน Walk – in Closet ได้ โดยทางโครงการได้จัดเป็นตู้เสื้อผ้าพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ดูมีพื้นที่การใช้งานเหลือค่อนข้างเยอะพอสมควร
อีกด้านของห้องจะเป็นประตูเชื่อมออกไปยังระเบียงด้านนอก
พื้นที่ระเบียงด้านนอกก็ยังคงใช้เป็นที่สำหรับติดตั้งคอมพิวเตอร์เช่นกัน ขนาดระเบียงอยู่ที่ประมาณ 3.6 x 1 เมตร ถือว่ากว้างพอให้วางชุดโต๊ะกาแฟ หรือจะใช้เป็นที่วางราวตากผ้าก็ได้ค่ะ
ติดกับพื้นที่เตียงอีกฝั่งจะเห็นประตู 2 บาน บานฝั่งซ้ายคือประตูออกไปยังโถงบันได และฝั่งขวาคือประตูเข้าห้องน้ำค่ะ
ราคา
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ : โครงการ Trio ร่มเกล้า ตั้งอยู่บนถนนร่มเกล้าฝั่งมุ่งหน้าแยกร่มเกล้า – รามคำแหงระหว่างซอยร่มเกล้า 6 และ ซอยร่มเกล้า 8 ถือว่าเป็นทำเลที่ออกมาชานเมืองแล้วค่ะ ทำเลนี้จะใกล้นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง, สถานีรถไฟฟ้า Airport Link ลาดกระบัง, ทางด่วนมอเตอร์เวย์ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นโรงงาน และบริษัทพวก Logistic มีรถใหญ่วิ่งผ่านไปมาเยอะ และเนื่องจากเป็นพื้นที่ชานเมือง อยู่ใกล้นิคม และยังพอมีที่ดินเหลือให้พัฒนา พื้นที่แถบนี้จึงดูมีอนาคตที่จะมีการพัฒนาเป็นพื้นที่รองรับการขยายตัวของเมืองและความอุดมสมบูรณ์จะมีเพิ่มขึ้นได้อีกในอนาคตค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินจะมีเวิ้งร้านสะดวกของโรงงานแถวนั้นอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 120 เมตร ภายในจะมีร้าน Lawson 108 และร้าน Tsuruha 2 ร้าน นอกจากเวิ้งตรงนี้ก็ต้องอาศัยขับรถออกมาไกลหน่อย โดยความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้างส่วนใหญ่เป็นพวกตลาด ที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นตลาดนัดสุวรรณภูมิค่ะ ส่วนห้างใหญ่ที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็น The Mall บางกะปิ, Paradise และ Seacon ศรีนครินทร์ และ The Mall รามคำแหง ค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : สะดวกที่สุดในเวลานี้ โดยถนนร่มเกล้านั้นหลักๆเข้าได้จากสองทางคือถ้ามาจากพระราม 9 ก็เข้าจากถนนลาดกระบังหรือทางด่วนมอเตอร์เวย์โดยโครงการจะอยู่ใกล้ทางฝั่งถนนรามคำแหง อีกด้านมาจากโซนมีนบุรีคือมาจากถนนรามคำแหง-สุวินทวงศ์ นอกจากนั้นยังใกล้ทางด่วนนอกจากมอเตอร์เวย์จะมีทางด่วนถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกที่จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการเดินทางที่สามารถวิ่งเข้าถนนรามคำแหง ไปเชื่อมเส้นลาดพร้าว เสรีไทย หรือออกมีนบุรี หนองจอก และถนนรามอินทราได้
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : การเดินทางด้วยรถสาธารณะที่สะดวกสำหรับตอนนี้จะเป็น Taxi ที่ผ่านหน้าโครงการตลอดค่ะ นอกจากนั้นก็จะมีรถประจำทางหลายสายและรถสองแถวสายร่มเกล้า-รามคำแหงผ่านไปมา หรืออีกตัวเลือกที่สะดวกเช่นกันคือ Airport Link โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีลาดกระบัง
การออกแบบโครงการและวัสดุ : โครงการ Trio ร่มเกล้า เป็นโครงการ ทาวน์โฮม, โฮมออฟฟิศ และอาคารพาณิชย์ สไตล์โมเดิร์น ทั้งหมด 160 ยูนิต ในพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 15 ไร่ ลักษณะโครงการออกแบบมาเน้นทั้งผู้อยู่อาศัยทั้งแบบพาณิชย์และรองลงมาคืออยู่อาศัยทั่วไป ตัวโครงการไม่เน้นส่วนกลางเท่าไหร่ วัสดุที่ได้ถือว่ากลางๆ เหมาะสมกับราคาค่ะ โครงสร้างบ้านคอนกรีตเสริมเหล็ก พื้นสำเร็จรูป, ผนังก่ออิฐมอญ ฉาบปูนเรียบ ทาสี
ส่วนในห้องน้ำผนังจะกรุกระเบื้องเซรามิค, พื้นลานจอดรถโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ปูด้วยคอนกรีตสแตมป์, พื้นในบ้านชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ 60x 60 ซม., ลานซักล้างคอนกรีตฉาบเรียบ, พื้นครัวปูด้วยกระเบื้องเซรามิค
พื้นชั้น 2 ปูด้วยกระเบื้องยาง 4 มม. ส่วนระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค, ประตูภายนอกและหน้าต่างได้บานกรอบอลูมิเนียมสีขาว กระจกใส, ประตูภายในได้บาน HDF ทำสีขาว มือจับก้านโยก, บันไดโครงสร้างคสล. , ห้องน้ำแยกส่วนแห้งส่วนเปียก ได้สุขภัณฑ์ครบชุดของ Nahm และ American Standard
สิ่งอำนวยความสะดวก : ส่วนกลางของโครงการนี้มีแค่สวนสาธาณะขนาด 272.1 ตร.วา เท่านั้น โดยภายในสวนจะมีศาลาพักผ่อนและสนามเด็กเล่น ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยจะใช้ Key Card Access ที่ประตูทางเข้าหลัก มีรปภ. 24 ชม. พร้อมกล้อง CCTV ทั้ง 2 ฝั่ง ถนนซอย 1 กว้าง 12 เมตร และถนนซอย 2 กว้าง 9 เมตร
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 7.5 | อยู่ติดถนนใหญ่ร่มเกล้า ใกล้ถนนรามคำแหง Airport Link ลาดกระบัง สภาพแวดล้อมโดยรอบเป็นโรงงานและที่อยู่อาศัยแนวราบ ความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้างถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี |
การเดินทางใช้รถ | 8.0 | เดินทางค่อนข้างสะดวก ทั้งขึ้นไปทั้งเส้นรามคำแหงและลงมาเส้นลาดกระบัง ใกล้ถนนกาญจนาภิเษกและมอเตอร์เวย์ แต่รถจะติดหน่อย |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 7.5 | มีให้เลือก Taxi รถสองแถวและรถเมล์หลายสาย ส่วนรถไฟฟ้าจะมี Airport Link ลาดกระบัง แต่ต้องนั่งรถอื่นๆเพื่อไปถึงยังสถานีก่อนอยู่ดีค่ะ |
บ้านและวัสดุ | 8.0 | ตัวบ้านสไตล์โมเดิร์นมาตรฐาน ตัวโฮมออฟฟิศทำมาน่าสนใจ มี Double Volume ตรงส่วนโถงหน้าบ้าน วัสดุกลางๆเหมาะสมกับราคาทำเลแถบนี้ |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 6.75 | ตัวโครงการไม่เน้นส่วนกลาง มีแค่สวนสาธารณะและสนามเด็กเล่นเท่านั้น |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.0 | เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปิดสำนักงานหรือบริษัทในย่านร่มเกล้า หรือครอบครัวขนาดเล็ก – กลาง ที่ต้องกาทาวน์โฮมใกล้ถนนใหญ่ เน้นการใช้งานรถยนต์เป็นหลัก |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.62 | ดี |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 02-543-8875
Website : http://www.tararomestate.com/project/trio-romklao/
หากท่านเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
แสดงความคิดเห็น