EP.1402 รีวิว ทาวน์โฮม และบ้านแฝด วิลลาจจิโอ เพชรเกษม – สาย 4 Villaggio Phetkasem – Sai 4
Written by : Nin Yanin Phueksoongnoen
สวัสดีค่ะผู้อ่านชาว Homenayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพามาชมโครงการทาวน์โฮม และ บ้านแฝด Villaggio เพชรเกษม – สาย 4 จาก Land & Houses กันค่ะ ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนสวนหลวง ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร สิ่งอำนวยความสะดวกรองรับการอยู่อาศัย สามารถเดินทางได้สะดวกเชื่อมต่อถนนสายหลักได้อย่างง่ายดาย อยู่ใกล้ทั้งวงแหวนกาญจนาภิเษก และใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าหลักสองในระยะ 14 กม. ซึ่งจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนกันยายน 2562 นี้แล้ว
วิลลาจจิโอ เพชรเกษม – สาย 4 เป็นโครงการทาวน์โฮม และบ้านแฝดสูง 2 ชั้น บนพื้นที่โครงการ 46.8 ไร่ มีจำนวน 397 ยูนิต เนื้อที่ดินเริ่มต้น 18 ตร.วา. มีพื้นที่ใช้สอย 89 – 133 ตร.ม. พร้อมฟังก์ชั่นขนาด 2 – 3 ห้องนอน 2 – 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 1 – 2 คัน กับบ้านสไตล์ Urban Cottage ท่ามกลางบรรยากาศของสวนสวยและสถาปัตยกรรมคลาสสิก ที่ได้แรงบันดาลใจจากเมืองโพรวองซ์ของฝรั่งเศส เป็นบ้านสร้างเสร็จพร้อมอยู่ คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จภายในปี 2563 นี้แล้วค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการมีมาให้อย่างครบครัน ด้วยแรงบันดาลใจจากเมืองโพรวองซ์ กับคลับเฮ้าส์หรู, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, พื้นที่นั่งพักผ่อน, สวนสวยกลิ่นอายฝรั่งเศส ที่พร้อมทำให้ทุกวันของคุณสวยและแตกต่าง พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ทั้งยามรักษาความปลอดภัยหน้าประตู, CCTV และ Key Card Access รวมถึงระบบป้องกันขโมย Magnetic Sensor ในบ้านทุกหลัง ในราคาเริ่มต้น 2.46 ล้านบาท*
อย่ามัวรอช้า เชิญติดตามรายละเอียดของโครงการที่ด้านล่างนี้ได้เลยค่า
บ้าน Villaggio ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
Villaggio ศรีนครินทร์
Villaggio ศรีนครินทร์-บางนา
Villaggio บางนา
Villaggio บางนา-เทพารักษ์
Villaggio ปิ่นเกล้า-ศาลายา
Villaggio ประชาอุทิศ 90
Villaggio สุขสวัสดิ์-ประชาอุทิศ
Villaggio เพชรเกษม-สาย 4
Villaggio รังสิต คลอง 2
ชื่อโครงการ | วิลลาจจิโอ เพชรเกษม-สาย 4 Villaggio Phetkasem-Sai 4 |
เจ้าของโครงการ | แลนด์แอนด์เฮ้าส์ / Land & Houses |
ลักษณะโครงการ |
|
พื้นที่โครงการ | 46.8 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 397 ยูนิต |
เนื้อที่บ้าน | เริ่มต้น 18 ตร.วา. ขึ้นไป |
พื้นที่ใช้สอย | เริ่มต้น 89 – 133 ตร.ม. |
จำนวนห้อง | 2 – 3 ห้องนอน, 2 – 3 ห้องน้ำ |
ที่จอดรถทั้งหมด | 1 – 2 คัน |
โซน | เพชรเกษม – สาย 4 |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ถนนสวนหลวง ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร |
กำหนดการ | เปิดลงทะเบียน (ก.ย.61) |
ปีที่สร้างเสร็จ | บ้านพร้อมอยู่บางส่วน 2561 |
ราคา | เริ่มต้น 2.46 ล้านบาท* (2562) |
ค่าส่วนกลาง | เดือนละ 42 บาท/ตร.วา |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อื่นๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | 1. โครงการคุณภาพที่มีดีไซน์สไตล์ Urban Cottage แห่งเดียวบนทำเล เพชรเกษม พุทธสาคร และพุทธมณฑลสาย 4
2. ครั้งแรกกับโครงการคุณภาพในระดับราคาประมาณ 2.5-4 ล้านบาทกับบ้าน 2 สไตล์ทั้ง Town Home และ Duo Home ผ่อนสบายพร้อมสังคมที่เข้าอยู่ได้ทันที 3. เน้นความเป็นส่วนตัวในแต่ละซอย ด้วยการออกแบบเป็น Cluster 4. สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการที่เตรียมพร้อมตามมาตรฐาน LH สวนส่วนกลางพร้อม |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ถนนสวนหลวง ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
พิกัด : 13.677201, 100.318234
แผนที่จากทางโครงการ ทาวน์โฮม และ บ้านแฝด Villaggio เพชรเกษม – สาย 4 จาก Land & Houses บนถนนสวนหลวง ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร สิ่งอำนวยความสะดวกรองรับการอยู่อาศัย สามารถเดินทางได้สะดวกเชื่อมต่อถนนสายหลักได้อย่างง่ายดาย อยู่ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก และใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าหลักสองในระยะ 14 กม.
ทำเลที่ตั้ง โครงการ Villaggio เพชรเกษม – สาย 4 ตั้งอยู่บนถนนสวนหลวงใกล้ถนนพุทธสาคร และถนนเพชรเกษม ซึ่งเป็นถนนสายหลักของคนฝั่งธนฯ เริ่มต้นจากวงเวียนใหญ่วิ่งผ่านไปยังทิศตะวันตกผ่านอีกหลายจังหวัด ทำเลในย่านนี้ส่วนมากจะเป็นที่อยู่อาศัยในแนวราบ ทั้งริม 2 ฝั่งของถนน 2 เส้นนี้ จะเป็นตึกแถว, อาคารพาณิชย์และโรงงานทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จนถึงนครปฐมและแถบมหาชัยเลย ปัจจุบันก็มีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเข้ามาช่วงหัวลำโพง – บางแค ซึ่งกำลังจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน 2562 นี้ รวมถึงโครงการรถไฟฟ้าสีน้ำเงิน (ในอนาคต) ช่วง บางแค – สายสี่ ซึ่งเป็นตัวผลักดันให้อนาคตของย่านนี้มีความคึกคักและเจริญเติบโตมากขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเส้นทางหลักเลยก็ต้องเป็นถนนพุทธสาครและถนนเพชรเกษมแน่นอน จากถนนเพชรเกษม ถ้าวิ่งไปฝั่งทิศตะวันออกมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองก็จะสามารถไปถึงวงเวียนใหญ่ได้เลย หรือจะวิ่งเข้าถนนราชพฤกษ์ข้ามสะพานตากสินไปฝั่งกรุงเทพฯ วิ่งเข้าสู่ตัวเมืองได้สะดวก หากวิ่งไปทางตะวันตกถนนเพชรเกษมจะวิ่งยาวผ่านหลายจังหวัดทั้งนครปฐม, ราชบุรี, เพชรบุรี ลงไปทางใต้ ปัจจุบันเส้นเพชรเกษมฝั่งขาเข้าตัวเมืองการจราจรจะค่อนข้างหนาแน่นหน่อยเพราะกำลังก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินกันอยู่ ในช่วง Rush Hour เช้ากับเย็นถ้าใครจะต้องวิ่งผ่านช่วงนั้นก็ขอให้ทำใจและเผื่อเวลากันดีๆ นะคะ
จากถนนพทุธสาครเองก็จะมีทางเชื่อมไปออกถนนบรมราชชนนีและพระราม 2 ที่วิ่งขนานกันอยู่ เส้นที่ใช้วิ่งไปออกถนนบรมราชชนนีคือพุทธมณฑล 4 ซึ่งเป็นเส้นที่เชื่อมต่อกับถนนพุทธสาครอยู่แล้ว นอกจากนี้จากถนนพุทธสาครก็สามารถวิ่งเชื่อมกับถนนเศรษฐกิจ 1 ตรงเข้าสู่ถนนพระราม 2 แถวย่านมหาชัยได้สะดวก หรือจะวิ่งเข้าถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือเพื่อเชื่อมกับถนนบางบอน 5 และออกถนนเอกชัยกับถนนพระราม 2 ก็ทำได้เช่นกันค่ะ
นอกจากนี้ ตัวโครงการยังอยู่ใกล้กับโครงการถนนเส้นพระเทพตัดใหม่ (พรานนก – พุทธมณฑลสาย 4) อีกหนึ่งโครงข่ายสำคัญเพื่อรองรับการเดินทางที่สะดวกสบายในอนาคต ซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกคือ โครงการก่อสร้างถนนบริเวณสามแยกไฟฉายหรือ จรัญสนิทวงศ์ (พรานนก) – วงแหวนกาญจนาภิเษก ขนาด 6 ช่องจราจร ระยะทาง 8.4 กม. และช่วงที่ 2 จากถนนกาญจนาภิเษก – พุทธมณฑลสาย 4 ระยะทาง 8 กม.
สำหรับโครงการช่วง 1 (จรัญสนิทวงศ์ – กาญจนาภิเษก ) ได้เปิดให้บริการแล้ว จะช่วยระบายการจราจรออกสู่ถนนกาญจนาภิเษกเพื่อไปยังจังหวัดใกล้เคียงได้รวดเร็วขึ้นโดยไม่ต้องกระจุกตัวบริเวณถนนจรัญสนิทวงศ์, ถนนปิ่นเกล้า และ ถนนบรมราชชนนี และโครงการช่วงที่ 2 (กาญจนาภิเษก – พุทธมลฑลสาย 4) จะช่วยให้การเดินทางออกนอกเมืองสะดวกรวดเร็วขึ้นโดยไม่มีปัญหาจราจรติดขัดเลยค่ะ (ปัจจุบันโครงการช่วงที่ 2 ยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินงานค่ะ)
ทางด่วน จากตัวโครงการจะอยู่ไม่ไกลจากวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ สะดวกสำหรับคนที่ต้องเดินทางไปยังบางบัวทองหรือทางบางพลีเป็นกิจวัตร จากเส้นเพชรเกษมวิ่งไปเรื่อยๆ จนถึงจุดตัดกับวงแหวนกาญจนาภิเษก ให้ออกซ้ายวนขึ้นวงแหวนไปได้เลย รวมระยะทางแล้วได้ประมาณ 14.2 กม. ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีค่ะ
และจากวงแหวนกาญจนาภิเษก จะสามารถใช้เชื่อมต่อไปยังจุดขึ้นทางด่วนศรีรัช – วงแหวนรอบนอกได้ โดยทางนี้สามารถใช้ไปยังแจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด หรือเข้ารามอินทราก็สะดวก
นอกจากวิ่งเส้นเพชรเกษมตรงๆ เพื่อเข้าเมืองแล้ว เรายังสามารถเลือกขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานครเพื่อออกไปทางนางนา – ชลบุรีได้ด้วย
:: สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ ::
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะนั้นก็ไม่ถือว่ายากนะคะ เพราะบริเวณหน้าโครงการจะมีเมลล์สาย 189 วิ่งผ่านจาก กระทุ่มแบนไปถึงบางแคเลย และที่หน้าโครงการเองก็จะมีวินมอเตอร์ไซค์ ที่เส้นเพชรเกษมจะมีทั้งรถ 2 แถว, รถตู้, และรถเมล์วิ่งผ่านกันอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้เรายังสามารถใช้บริการเรียกรถผ่าน Application Line Taxi และ Grab Taxi ได้อีกด้วย อีกทั้งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง – บางแค ก็จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนปี 2562 นี้แล้วด้วย โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีหลักสอง จะห่างจากตัวโครงการออกไปประมาณ 14 กม. และก็ยังมีโครงการรถไฟฟ้าสีน้ำเงิน (ในอนาคต) ช่วง บางแค – สายสี่ อีกโครงการ ซึ่งสถานีสายสี่จะอยู่บริเวณแยกพุทธมณฑลสาย 4 พอดี นั่งรถจากโครงการไปเพียง 3.7 กม.เท่านั้นค่ะ แต่โครงการนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566 นะคะ
ความอุดมสมบูรณ์ ถึงแม้ตัวโครงการจะอยู่ในชานเมืองแต่ก็มีความอุดมสมบูรณ์รองรับการอยู่อาศัยใกล้แหล่งช้อปปิ้งทั้งห้างสรรพสินค้า, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, ร้านค้า, ตลาด, โรงพยาบาล, สถานศึกษา และโรงงาน ห้างสรรพสินค้าหลักๆ เลยก็จะมีเดอะมอลล์และซีคอนบางแค ใกล้เข้าไปตัวโครงการก็ส่วนมากจะเป็นพวกไฮเปอร์มาร์เก็ตทั้งแม็คโครและบิ๊กซี นอกจากนั้นก็จะเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ทั้ง Victoria Garden ภายในมี Foodland, Tulip Square ภายในจะมีทั้งโซน Shopping mall, อาคารพาณิชย์ และคอนโดมิเนียม Low rise, ตลาดพันล้าน, ตลาดสดสมบูรณ์ และศึกษาภัณฑ์
บนถนนพุทธสาครเองก็จะมีทั้งโรงเรียน, โรงงาน, บ้านพักอาศัย, ปั๊มน้ำมัน และอาคารพาณิชย์ ซึ่งมีร้านอาหารและตลาดเล็กๆ อยู่เป็นช่วงๆ ตรงนี้จะยังไม่ค่อยคึกคักและมีความอุดมสมบูรณ์เท่าเส้นเพชรเกษมนะคะ
:: สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ::
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อื่นๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนเพชรเกษม > ถนนพุทธสาคร > ถนนสวนหลวง > Villaggio เพชรเกษม – สาย 4
เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากถนนเพชรเกษม ช่วงพุทธมณฑลสาย 1 เลยจากสถานีรถไฟฟ้าบาหว้ามาประมาณ 3 กม. ทางซ้ายมือจะมีจุดสังเกตเป็นซีคอนบางแค
ถัดมาไม่ไกลจะเห็นเทสโก้โลตัสบางแคอยู่ทางขวามือ
และเดอะมอลล์บางแคทางขวามือ ตอนนี้เส้นเพชรเกษมจะติดหน่อยนะเพราะว่ากำลังสร้างสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง – บางแคกันอยู่
จากนั้นให้สังเกตป้ายนครปฐม วิ่งตรงตามเส้นเพชรเกษมต่อไปค่ะ ถ้าออกซ้ายจะไปทางบางบัวทอง
วิ่งตามเส้นเพชรเกษมต่อไปเรื่อยๆ ผ่านพุทธมณฑลสาย 2 ไปจะเห็นบิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ และแม็คโคร เพชรเกษม
ไม่ไกลกันจะเห็น Victoria Gardens ทางฝั่งซ้ายมือ เป็นคอมมูนิตี้มอลล์แห่งแรกบนเส้นเพชรเกษม ครบเครื่องเรื่องกิน – ช็อป – เที่ยว รวมเอาไว้ที่นี่ ภายในจะมี Foodland ด้วยนะ
ถัดไปอีกจะเป็นบิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า เพชรเกษม 2 ฝั่งขวามือ เราจะขับผ่าน รพ.วิชัยเวช, สถานีวิทยุช่อง 3 – ช่อง 9 และ ม.เอเชียอาคเนย์ ซึ่งอยู่ทางฝั่งขวามือทั้งหมด
จากนั้นให้สังเกตป้ายถนนพุทธสาครไปทางสมุทรสาคร ชิดซ้ายเอาไว้เลย
และให้เราเลี้ยวซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าถนนพุทธสาครค่ะ
จากนั้นให้เราขับตรงไปตามถนนพุทธสาครเรื่อยๆ
พอเราขับผ่านซอยเพชรเกษม 91 มาแล้ว ให้เราเตรียมชิดซ้ายเพื่อกลับรถใต้สะพานค่ะ
กลับรถใต้สะพานเพื่อมุ่งหน้ากลับไปทางถนนพุทธมณฑลสาย 4
พอเรากลับเรามาแล้วให้เรารีบชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าถนนสวนหลวง ใกล้ๆ เราจะเห็น PTT Station อยู่ข้างหน้าค่ะ
พอเราเลี้ยวเข้าถนนสวนหลวงมาแล้ว เราจะเห็นทางเข้าโครงการอยู่ทางฝั่งขวามือเลยค่ะ
ภายในถนนสวนหลวงจะมีป้ายบอกอยู่ทางฝั่งซ้ายมือนะ แค่เลี้ยวเข้าถนนสวนหลวงมาก็จะเห็นทางเข้าโครงการอยู่ทางฝั่งขวามือแล้ว
ภาพทางเข้าโครงการแบบชัดๆ ค่ะ
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
บริเวณโดยรอบโครงการบนถนนสวนหลวง จะเป็นโซนของที่อยู่อาศัยในแนวราบ มีทั้งโครงการบ้านจัดสรร, บ้านพักอาศัยส่วนตัวดั้งเดิม, ตึกแถว, ห้องเช่า, อาคารพาณิชย์, ร้านอาหาร, ร้านขายของชำ, ที่ดินเปล่า, ที่ดินทำเกษตรกรรม และโรงงานอุตสาหกรรม บรรยากาศจะมีความเงียบสงบกว่าไม่คึกคักเท่าบนเส้นพุทธสาครเพราะเป็นถนนเส้นเล็กๆ เพียง 2 เลน รถพอสวนกันได้
เดี๋ยวเราจะมาเดินดูบรรยากาศโดยรอบโครงการภายในถนนสวนหลวงกันค่ะ ด้านหน้าทางเข้าโครงการจะอยู่ติดกับถนนสวนหลวงส่วนโค้งพอดี
เราเดินไปทางฝั่งซ้ายมือมุ่งหน้าออกถนนพุทธสาคร
ติดกับทางเข้าโครงการเป็นร้านรับทำงานโครงสร้าง
ถัดมาจะมีร้านขายของชำร้านเล็กๆ อยู่ 1 ร้าน
จากหน้าทางเข้าโครงการออกไปเพียง 85 เมตรก็จะเข้าสู่ถนนพุทธสาครแล้วค่ะ
ส่วนทางฝั่งขวามือติดกับทางเข้าโครงการเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น
ถัดไปมีบริษัทและโรงงาน
ตรงเข้าไปภายในถนนสวนหลวงจะเป็นบรรยากาศของที่พักอาศัยในแนวราบ มีทั้งโครงการบ้านจัดสรร, บ้านพักอาศัยส่วนตัวดั้งเดิม, ตึกแถว, ห้องเช่า, อาคารพาณิชย์, ร้านอาหาร, ร้านขายของชำ, ที่ดินเปล่า, ที่ดินทำเกษตรกรรม และโรงงานอุตสาหกรรมค่ะ
:::: ตัวโครงการ ::::
Villaggio เพชรเกษม – สาย 4 เป็นโครงการทาวน์โฮมและบ้านแฝดสูง 2 ชั้น บนพื้นที่โครงการ 46.8 ไร่ มีจำนวน 397 ยูนิต สไตล์ Urban Cottage ท่ามกลางบรรยากาศของสวนสวยและสถาปัตยกรรมคลาสสิก ที่ได้แรงบันดาลใจจากเมืองโพรวองซ์ของฝรั่งเศส ก่อนที่เราจะเดินเข้าไปสำรวจบริเวณภายในโครงการจะขออธิบายผังคร่าวๆ เพื่อความเข้าใจกันก่อนนะคะ
จากถนนสวนหลวงจะมีถนนทางเข้าโครงการยาว 150 เมตรเข้ามาถึงซุ้มทางเข้าโครงการ ผ่านระบบรักษาความปลอดภัย ประกอบด้วย ป้อมยาม., ระบบ Key Card Access, กล้อง CCTV และ รั้วไม้กระดก เจอถนนหลักกว้าง 16 เมตร เชื่อมด้วยถนนซอยกว้าง 8 เมตร เข้าสู่หน้าบ้านทุกหลัง โดยรวมแล้วโครงการมีขนาดค่อนข้างใหญ่ มีบ้านจำนวนหลายยูนิต แต่สามารถจัดผังได้ดีทำให้ไม่รู้สึกว่าแออัดเพราะทำถนนซอยไม่ลึกมาก และมีการหันหน้าบ้าน – หลังบ้านตามแนวทิศเหนือ – ใต้ ช่วยทำให้บ้านเย็นเพราะสามารถรับลมได้ตลอดทั้งปี
สวนสาธารณะจะถูกจัดเอาไว้อยู่บริเวณด้านหน้าโครงการทางฝั่งซ้ายมือ เพื่อให้มุมทางเข้าโครงการดูสบายตามากขึ้น และยังมีสวนสาธารณะอยู่บริเวณท้ายโครงการอีก 1 จุด เพื่อสร้างบรรยากาศให้ลูกบ้านทางฝั่งด้านหลังโครงการด้วย ส่วนคลับเฮ้าส์จะอยู่บริเวณท้ายสวนสาธารณะใกล้กับวงเวียน ซึ่งตำแหน่งอาจจะไกลจากลูกบ้านหลังท้ายโครงการ แต่ถ้าเปลี่ยนบรรยากาศจากการเดินมาเป็นการปั่นจักรยานแทนก็จะรู้สึกว่าไม่ได้ไกลอย่างที่คิดค่ะ
:::: แบบบ้านของโครงการ ::::
บ้านภายในโครงการมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 2 แบบ คือแบบบ้าน Gemini เป็นทาวน์โฮมสูง 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 89 ตร.ม. กับฟังก์ชั่นขนาด 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 1 คัน และแบบบ้าน Shuttery เป็นบ้านแฝดสูง 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม. กับฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน เป็นบ้านสไตล์ Urban Cottage แบบตะวันตก ที่ดูน่ารักและอบอุ่น ได้บรรยากาศเหมาะสมกับการพักผ่อน
ทาวน์โฮม Gemini ขนาด 89 ตร.ม.
แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2
บ้านแฝด Shuttery ขนาด 133 ตร.ม.
แปลนบ้านชั้น 1
แปลนบ้านชั้น 2
:::: บริเวณภายในโครงการ ::::
::: ทางเข้าโครงการ :::
เรากลับมาที่หน้าทางเข้าโครงการ เดี๋ยวเราจะเดินเข้าไปดูบรรยากาศของโครงการพร้อมๆ กันเลยค่ะ
บริเวณหน้าทางเข้าโครงการมีป้ายด้านหน้าอย่างชัดเจน ออกแบบให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของโครงการที่เป็นสไตล์ Urban Cottage
จากป้ายด้านหน้าโครงการต้องเข้าไปอีกประมาณ 150 เมตรก็จะถึงซุ้มทางเข้าโครงการค่ะ 2 ข้างทางของถนนปลูกต้นไม้เอาไว้อย่างร่มรื่น เป็นทางปรับอารมณ์จากความเหนื่อยล้า หรือการทำงาน เข้าสู่โหมดของการพักอาศัย
จากถนนทางเข้าโครงการจะนำมาสู่ซุ้มทางเข้าโครงการค่ะ
บรรยากาศหน้าซุ้มทางเข้าโครงการถูกจัดออกมาจำลองพื้นที่ชนบทในโซนตะวันตก ได้บรรยากาศแบบ Urban Cottage
บรรยากาศบริเวณหน้าซุ้มทางเข้าโครงการ
และป้ายโครงการ
การเข้า – ออกโครงการจะต้องผ่านซุ้มรปภ.ซึ่งประกอบด้วย ป้อมยาม, กล้อง CCTV, รั้วไม้กระดก และระบบ Key Card Access
ลูกบ้านที่ถือ Key Card จะสามารถใช้บัตรแตะเพื่อเปิดรั้วไม้กระดกทางฝั่งซ้ายและผ่านเข้าไปด้านในโครงการได้เลย ในกรณีที่เป็น Visitor จะต้องทำการแลกบัตรกับพี่ยามทางฝั่งขวาก่อนนะคะ
ซึ่งบริเวณป้อมยามได้ติดกล้อง CCTV เอาไว้เพื่อบันทึกภาพหน้าคนขับรวมถึงเลขทะเบียนรถด้วยค่ะ
ภาพมองย้อนกลับไปที่ซุ้มทางเข้าโครงการ
::: บริเวณภายในโครงการ :::
บริเวณซุ้มทางเข้าโครงการนอกจากจะเป็น Security Gate แล้วยังเป็นสำนักงานขายและนิติบุคคลด้วยค่ะ
สำหรับลูกค้าที่เข้ามาติดต่อขอเยี่ยมชมโครงการก็สามารถเดินเข้ามาตรงนี้ได้เลยค่ะ
บรรยากาศบริเวณประตูทางเข้าส่วนสำนักงานขายและนิติบุคคล
พอเปิดประตูเข้ามาด้านในจะเป็นส่วนของ Foyer ฝั่งซ้ายมือมีห้องน้ำและ Office ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย ส่วนฝั่งขวามือเป็นพื้นที่รับรองค่ะ
บรรยากาศบริเวณพื้นที่รับรอง ตกแต่งมาอย่างสบายตาด้วยโทนสีขาว – ฟ้า จัดเฟอร์นิเจอร์เอาไว้หลายชุดสำหรับนั่งพักคอย ในส่วนนี้ลูกบ้านสามารถมานั่งพักผ่อนหรือนั่งอ่านหนังสือในวันหยุดได้ด้วยนะ
มุมสบายๆ ภายในพื้นที่รับรองอีกมุมหนึ่ง
จากส่วนรับรองออกไปภายนอกมี Terrace ให้เราสามารถออกไปนั่งพักผ่อนรับลมได้ด้วย ส่วนนี้เป็นบริเวณถนนทางเข้าด้านหน้าทางเข้าโครงการที่เราผ่านมาเมื่อสักครู่นี้เองค่ะ
จากบริเวณซุ้มทางเข้าโครงการเชื่อมต่อกับถนนกว้าง 16 เมตรนำเข้าไปสู่พื้นที่ส่วนต่างๆ ด้านในโครงการ
ตลอด 2 ข้างทางมีจัด Landscape เอาไว้อย่างเรียบร้อยสวยงาม ลงทั้งต้นไม้ใหญ่เพื่อสร้างความร่มรื่น รวมถึงไม้พุ่มและหญ้าคลุมดิน ในอนาคตพอต้นไม้โตเต็มที่แล้วบริเวณถนนส่วนนี้ก็จะกลายเป็นซุ้มต้นไม้แบบสวยๆ ให้ร่มเงาได้เป็นอย่างดี
ทั้ง 2 ฝั่งของถนนมีทางเดินเท้าให้ลูกบ้านสามารถเดินเข้าโครงการได้อย่างปลอดภัย
จากถนนหลักกว้าง 16 เมตรจะเชื่อมกับถนนซอยกว้าง 8 เมตรตัดผ่านหน้าบ้านทุกหลัง
ภายในถนนซอยกว้าง 8 เมตร เป็นระยะที่รถสามารถขับสวนกันได้สะดวก หรือเวลาที่มีแขกมาต้องจอดรถหน้าบ้าน ก็ยังสามารถขับสวนไปได้
จากถนนหลักเราตรงเข้าไปภายในโครงการ ทางฝั่งซ้ายมือของเราคือสวนสาธารณะค่ะ
เราเดินตรงไปเรื่อยๆ จนถึงบริเวณวงเวียน ทางฝั่งซ้ายมือเป็นส่วนของคลับเฮ้าส์
ภาพจากบริเวณวงเวียนมองย้อนกลับไปที่ถนนหลัก บรรยากาศโดยรวมของโครงการทำออกมาได้ดี ดูสะอาดสะอ้านและร่มรื่นด้วยต้นไม้ตลอดทาง
และมีทางเท้าสำหรับลูกบ้านตั้งแต่บริเวณถนนด้านหน้าเชื่อมมาถึงด้านในเลาะข้างสวนสาธารณะได้บรรยากาศดี
เราเข้ามาเดินเล่นดูบรรยากาศภายในสวนของโครงการกันค่ะ แนวคิดการออกแบบสวนก็มาจากเมืองโพรวองซ์ของฝรั่งเศสอีกเช่นกัน ให้ได้บรรยากาศเหมือนเดินเล่นในทุ่งลาเวนเดอร์
ภายในสวนมีโซนสนามเด็กเล่นสำหรับเด็กๆ ตกแต่งพื้นด้วยสีสันและลายที่ดูน่ารัก พร้อมเครื่องเล่นหลากหลายชนิดสำหรับเด็กเล็ก
มีโซนปราสาทม้าลื่น ที่พื้นปูด้วยแผ่นยางกันกระแทกและกันถลอกเพื่อความปลอดภัยของเด็กวัยซน
ส่วนนี้มีทั้งชิงช้า, ม้าลื่น และเชือกสำหรับปีนป่าย ช่วยสร้างพื้นฐานความแข็งแรงของกล้ามเนื้อได้ดี
ด้านข้างมีพื้นที่นั่งพักคอยสำหรับบรรดาแม่ๆ ผู้ปกครองค่ะ
พื้นที่สวนมีขนาดใหญ่มากเลยค่ะ พื้นสวนปลูกหญ้าคลุมดินเอาไว้ทั้งหมด มีพื้นที่สำหรับการนั่งพักผ่อน เดิน วิ่งเล่น และกิจกรรมสันทนาการของครอบครัว
ภาพบรรยากาศภายในสวน มุมนี้เหมือนเรากำลังเดินอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์เลยค่ะ
บริเวณด้านหลังสวนสาธารณะเป็นส่วนของคลับเฮ้าส์
เราเข้าไปดูด้านในด้วยกันเลยค่ะ
ส่วนแรกเป็นพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจ รับลมธรรมชาติสบายๆ ในวันหยุด
พื้นที่นั่งพักผ่อนจะเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ของโครงการ ที่นี่เขาใช้สระระบบเกลือนะคะ
สระเป็นระบบน้ำล้นไหลลงตะแกรงรอบๆ ที่โรยด้วยหินกรวดแม่น้ำทับปิดเอาไว้ให้ดูเรียบร้อยสวยงาม ดูจากขนาดสระแล้วเป็นสระที่สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้จริง
พื้นที่โดยรอบสระมีชุด Day Bed ให้สามารถนอนพักผ่อนและอาบแดดได้
ด้านในร่มใต้คลับเฮ้าส์เป็นส่วนของสระเด็ก น้ำลึกเพียง 0.6 เมตรเท่านั้นค่ะ
ภาพจากสระว่ายน้ำมองออกไปที่สวนสาธารณะ ได้บรรยากาศที่ดีมากๆ
พื้นที่ด้านบนคลับเฮ้าส์เป็นส่วนของฟิตเนส
พื้นที่ด้านบนมีเฉลียงเล็กๆ เป็นมุมสำหรับนั่งพักผ่อนและรับลมได้อีก 1 มุม
จากมุมนี้มองลงไปข้างล่างก็จะได้ทั้งวิวสระว่ายน้ำและวิวสวยด้วยค่ะ
ฟิตเนสถูกแบ่งส่วนเป็นโซน Indoor เข้าไปดูด้านในด้วยกันเลย
พื้นที่ภายในฟิตเนสมีขนาดใหญ่กำลังดี สามารถใช้งานได้จริง ทางโครงการจัดเครื่องออกกำลังกายแบบต่างๆ เอาไว้ให้ทั้งแบบ Cardio และ Weight Training
ฝั่งที่ติดกับริมหน้าต่างเป็นส่วน Cardio มีลู่วิ่งไฟฟ้า, จักรยานไฟฟ้า และเครื่องเดินวงรี
ส่วนฝั่งริมผนังทึบมีเครื่องออกกำลังกล้ามเนื้อแบบหลายส่วน พร้อมชุดยกน้ำหนักและม้านั่งราบค่ะ
นอกจากนี้บริเวณข้างๆ สระว่ายน้ำก็มีโซน Shower สำหรับล้างตัวก่อนลงสระ
และมีห้องน้ำกับห้องอาบน้ำค่ะ
ภายในห้องน้ำแยกโซนชาย – หญิงให้ออกจากกัน
เราเข้ามาดูภายในห้องน้ำหญิงกันค่ะ ด้านในถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งซ้ายคือโซนอ่างล้างมือ ส่วนฝั่งขวาคือโซนห้องน้ำและห้องอาบน้ำ
ทางโครงการเตรียมอ่างล้างมือมาให้ 2 อ่าง ด้านข้างมีตู้ล็อคเกอร์สำหรับเก็บของให้
ภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำค่ะ
:::: บ้านตัวอย่าง ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo จะพาท่านผู้อ่านทุกคนไปชมรายละเอียดของบ้านตัวอย่างแบบเจาะลึกเหมือนเช่นเคย ในโครงการมีบ้านตัวอย่างอยู่ทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน นั่นก็คือ แบบบ้าน Gemini เป็นทาวน์โฮมสูง 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 89 ตร.ม. กับฟังก์ชั่นขนาด 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 1 คัน และ แบบบ้าน Shuttery เป็นบ้านแฝดสูง 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม. กับฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน ไปชมกันเลยค่า
::: แบบบ้าน Gemini ขนาด 89 ตร.ม. :::
แบบบ้าน Gimini เป็นทาวน์โฮมสูง 2 ชั้นขนาด 89 ตร.ม. ฟังก์ชั่น 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 1 คัน หน้าบ้านกว้าง 5 เมตร ออกแบบมาในสไตล์ Urban Cottage ใช้เอกลักษณ์ของหลังคาทรง Gable ผนังลายอิฐและลายไม้ บวกกันสีสันโทนพาสเทล ใช้สีฟ้าเป็นหลักตัดกับวงกบสีขาว ดูน่ารักและอบอุ่น
แปลนชั้น 1 เริ่มจากหน้าบ้านเป็นพื้นที่จอดรถ สามารถจอดรถได้ 1 คัน ก่อนเข้าบ้านมีพื้นเฉลียงยกระดับขึ้นมา ภายในบ้านจะเป็นพื้นที่โถง Common Area ขนาดใหญ่ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่น, ส่วนรับประทานอาหาร, พื้นที่อเนกประสงค์, ห้องน้ำ และห้องครัว ซึ่งบริเวณหลังห้องครัวมีประตูสามารถเปิดเชื่อมกับลานซักล้างหลังบ้านได้ค่ะ
แปลนชั้น 2 เป็น Private Zone ของเจ้าของบ้านทั้งชั้น ประกอบด้วยห้องนอน 2 ห้อง ฝั่งหน้าบ้านเป็นส่วนของ Master Bedroom ส่วนฝั่งหลังบ้านเป็นส่วนของห้องนอนเล็กอีก 1 ห้อง ซึ่งความพิเศษของบ้านหลังนี้ก็คือเหมือนได้ Master Bedroom มาถึง 2 ห้องเลย แถมภายในก็มีห้องน้ำในตัวให้เรียบร้อยเป็นสัดเป็นส่วน
มาดูรายละเอียดของบ้านด้วยกันเลยค่ะ บ้านมาตรฐานจะได้ประตูทางเข้าบ้านแบบบานเฟี้ยมระแนงเหล็กสีน้ำตาล 4 ตอนสามารถพับเปิดได้จนสุด
ที่รั้วบ้านติดตั้ง Mailbox พร้อมกริ่งให้เรียบร้อย
และยังมีช่องสำหรับเก็บขยะให้ สะดวกสำหรับลูกบ้านสามารถทิ้งขยะจากถังฝั่งด้านในบ้านได้เลย และยังทำให้ภาพรวมของโครงการดูสะอาด
เข้ามาในพื้นที่บ้านจะเป็นพื้นที่จอดรถ สามารถจอดรถได้ 1 คันแบบสบายๆ เหลือระยะเปิดประตูรถแบบไม่บีบอัด ที่พื้นใช้คอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหมดโดยจะแยกโครงสร้างกับตัวบ้าน
สังเกตพื้นที่ที่เหลือ ทางโครงการทำการจัดสวนให้ตามมาตรฐานค่ะ โดยเลือกใช้ต้นไม้หลากหลายพันธุ์ ยกตัวอย่างเช่น เหลืองปรีดียาธร, ต้อยติ่งฟ้าประทาน, ใบนาคชมพู, เฟิร์นฮาวาย เป็นต้น
จากพื้นที่จอดรถจะมีพื้นเฉลียงยกระดับขึ้นมา 15 ซม. ปูด้วยกระเบื้องขนาด 60 x 60 ซม. เป็นจุดที่เราสามารถวางตู้รองเท้าและนั่งเปลี่ยนรองเท้าได้ ที่ฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสีพร้อมติดดวงโคมฟลูออเรสเซ้นต์มาให้ ส่วนประตูทางเข้าบ้านใช้ประตูบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมสีขาวติดกระจกเขียวตัดแสง ช่วยป้องกันรังสี UV ได้ดี บานประตูสามารถเลื่อนเปิดได้ทั้ง 2 ฝั่งเลยนะ
มือจับประตูแบบเซาะร่องและตัวล็อคประตูค่ะ
เมื่อเข้ามาด้านในตัวบ้านแล้วจะเจอโถง Common Area ขนาดใหญ่ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่น, ส่วนรับประทานอาหาร, พื้นที่อเนกประสงค์, ห้องน้ำ และห้องครัว พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ส่วนผนังบ้านเป็นผนัง Precast ฉาบปูนทาสีขาว ทำการติดตั้งอย่างดี รอยต่อน้ำไม่รั่วซึม
สังเกตที่ผนังข้างบ้านจะได้หน้าต่างบานเลื่อนมาด้วยเพราะเป็นบ้านแปลงมุม แต่ถ้าเป็นแปลงมาตรฐานจะเป็นผนังทึบนะคะ โดยประตูภายนอกและหน้าต่างทั้งหมดของบ้านจะใช้บานกรอบอลูมิเนียม ติดกระจกเขียวตัดแสงทั้งหมดเลยนะ ฝ้าเพดานภายในบ้านก็สูงโปร่งถึง 2.6 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบทาสีขาวพร้อมติดดวงโคมซาลาเปามาให้ทั้งหลัง
เรามาดูไอเดียการจัดตกแต่งบ้านด้วยกันต่อเลยค่ะ เริ่มจากห้องนั่งเล่นกันก่อน
ทางบ้านตัวอย่างได้จัดวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งเอาไว้ให้ แต่จริงๆ แล้วจะวางเป็นโซฟารูปตัว L หรือโซฟาเบดก็มีที่ข้างๆ เหลือพอค่ะ
ที่ฝั่งหน้าบ้านมี Bay Window เล็กๆ ให้สามารถวางพวกของตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ ช่วยสร้างบรรยกาศให้กับบ้าน อย่างกระถางต้นไม้หรือกรอบรูป
ระยะการดูทีวีจากโซฟาถึง 3 เมตร สามารถดูทีวีจอใหญ่ๆ ขนาด 60 – 70 นิ้วได้เลยนะ ซึ่งบริเวณผนังฝั่งนี้เราสามารถวางชั้นวางทีวีหรือทำชั้น Built – in สำหรับเก็บของเพิ่มเติมได้
ภาพอีกมุมนึงในบริเวณห้องนั่งเล่น
จากห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับห้องรับประทานอาหาร, พื้นที่อเนกประสงค์ และห้องครัว
บ้านตัวอย่างตกแต่งส่วนรับประทานอาหารให้ต่อเนื่องกับพื้นที่อเนกประสงค์เลยค่ะ ให้กลายเป็นโต๊ะขนาดใหญ่ที่สามารถนั่งทานอาหารกันได้หลายคนในวันที่มีแขกมา สามารถรองรับได้ถึง 6 – 7 คนเลยนะ นอกเวลามื้ออาหารก็สามารถใช้เป็นโต๊ะทำงานหรืองานอดิเรกได้
ซึ่งพื้นที่อเนกประสงค์จะอยู่ใกล้ๆ กับห้องเก็บของใต้บันได ถ้าบ้านใครของไม่เยอะมากนักก็สามารถทำพื้นที่ให้เชื่อมต่อกันได้เลยค่ะ จัดดีๆ ก็กลายเป็นมุมนั่งเล่นของเด็กๆ ได้
ส่วนพื้นที่ฝั่งตรงข้ามเป็นส่วนครัวค่ะ
เราสามารถทำเคาน์เตอร์ I Shape ได้แบบนี้ก็จะมีพื้นที่มากพอสำหรับเตาปรุงอาหาร, อ่างล้างจาน และพื้นที่สำหรับเตรียมอาหาร ซึ่งในบ้านมาตรฐานมีการเตรียมงานระบบเจาะท่อระบบน้ำประปาเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
ส่วนบ้านตัวอย่างจัดส่วนนี้เอาไว้เป็น Pantry อย่างเดียว สำหรับคนที่ไม่ชอบปรุงอาหารภายในพื้นที่พักผ่อนเราสามารถต่อเติมครัวไทยที่ลานซักล้างเพิ่มเติมได้
ระยะระหว่างเคาน์เตอร์ครัวและโต๊ะรับประทานอาหารก็ยังเหลืออยู่อีกเยอะนะคะ สามารถยืนปรุงอาหารและเดินผ่านได้สะดวก
ห้องน้ำชั้นล่างอยู่ด้านหลังส่วนรับประทานอาหาร ซึ่งเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room ไม่มีโซน Shower มาให้เพราะใช้เฉพาะการรองรับแขก
ภายในห้องน้ำวางอ่างล้างมือไว้ส่วนแรก ถัดเข้าไปเป็นโถสุขภัณฑ์ ให้สุขภัณฑ์จาก American Standard ทั้งหมดค่ะ ส่วนพื้นและผนังก็กรุด้วยกระเบื้องเซรามิก สีสัน, ขนาด และลวดลายอาจจะแตกต่างไปจากบ้านตัวอย่างเล็กน้อยนะ
ดูขนาดพื้นที่ภายในห้องน้ำมีระยะการใช้งานที่ไม่อึดอัด ส่วนพื้นลดระดับลงจากพื้นชั้น 1 เล็กน้อยเผื่อการล้างทำความสะอาดและกันน้ำไหลย้อน
อ่างล้างมือเป็นแบบแขวนผนังทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ใช้งานได้สะดวก พร้อมก๊อกน้ำแบบก้านโยกมาตรฐาน
โถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้นระบบ Dual Flush ช่วยประหยัดน้ำได้ ติดตั้งมาพร้อมกับอุปกรณ์ประกอบการใช้งานทั้งสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษชำระสีโครเมี่ยมค่ะ
ภายในห้องน้ำจะได้หน้าต่างระบายอากาศมาด้วย เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งติดกระจกฝ้ามาให้จะได้ไม่โป๊
เราไปดูพื้นที่ลานซักล้างหลังบ้านกันต่อค่ะ ประตูด้านหลังเป็นบานเลื่อนกระจกแบบนี้
พื้นที่ลานซักล้างหลังบ้านมีขนาดค่อนข้างใหญ่ทีเดียวนะ เป็นจุดที่เราสามารถทำการต่อเติมครัวไทยและห้องซักล้างเพิ่มเติมเองได้
กลับเข้ามาภายในบ้านเราจะขึ้นไปดูที่ชั้น 2 ด้วยกันต่อเลย บันไดเป็นแบบลูกตั้งลูกนอนตีปิดทึบ ใช้ลูกนอนไม้ยางพาราประสานสีอ่อนเข้ากับโทนพาสเทล
ที่ผนังส่วนโถงบันไดมีช่องแสงเป็นกระจกบาน Fixed มาให้ ทำให้พื้นที่ภายในโถงไม่มืด เดินได้อย่างปลอดภัยแม้ไม่ได้เปิดไฟ ส่วนที่ผนังฝั่งขวามือติดตั้งราวมือจับไม้สีเดียวกันกับลูกนอนมาให้
ภาพมองย้อนลงไปที่บันได เวลาเดินขึ้นให้เดินชิดขวาเอาไว้ จะได้จับราวจับได้ เพราะมีบันไดบางส่วนเป็นขั้นสามเหลี่ยมด้วย
ภาพมองย้อนกลับไปที่ส่วนโถงบันได จะเห็นว่าตัวโถงค่อนข้างสว่างทีเดียว เพราะได้ช่องแสงจากชั้นล่าง และช่องแสงจากผนังชั้นบน (เป็นส่วนของห้องนอน Master Bedroom ค่ะ)
ขึ้นมาถึงชั้น 2 เราจะเจอกับโถงบันไดซึ่งเป็นตัวเชื่อมสู่ห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ฝั่งซ้ายเป็นฝั่งหน้าบ้านคือห้องนอน Master Bedroom และฝั่งขวาคือห้องนอนเล็ก ซึ่งภายในห้องนอนแต่ละห้องจะมีห้องน้ำในตัวให้ด้วยเลยค่ะ ที่พื้นบนชั้น 2 ปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. ผนังฉาบเรียบทาสีขาว ส่วนฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบติดตั้งดวงโคมซาลาเปาให้เหมือนเดิม
เริ่มจากห้องนอน Master Bedroom กันก่อนเลย
เข้าไปในส่วนแรกเป็นโถงสำหรับแต่งตัว เราสามารถทำชั้น Built – in ที่ฝั่งซ้ายเป็นชั้นสำหรับวางครีมและอุปกรณ์ประทินผิวต่างๆ ได้ ส่วนฝั่งขวาคือประตูห้องน้ำค่ะ
ภายในห้องน้ำใช้วัสดุและสุขภัณฑ์ไม่ต่างจากห้องน้ำชั้นล่างเลยค่ะ แต่ที่เพิ่มขึ้นมาก็คือโซน Shower
ดูระยะพื้นที่ใช้สอยภายในห้องน้ำก็กว้างขวางดีไม่อึดอัด
อ่างล้างมือทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่พร้อมก๊อกน้ำแบบก้านโยกมาตรฐาน
โถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้นระบบ Dual Flush พร้อมอุปกรณ์ประกอบการใช้งาน
ด้านหลังอ่างมีการก่อ Lower Wall ให้สามารถวางพวกของเครื่องใช้ต่างๆ ภายในห้องน้ำได้ เช่น กล่องกระดาษเช็ดหน้า, ขวดสบู่ล้างมือ หรือแปรงสีฟัน เป็นต้น
ด้านในสุดคือโซน Shower ซึ่งทางโครงการทำการก่อธรณีเอาไว้ให้เรียบร้อย เราสามารถติดตั้งฉากกระจกหรือผ้าม่านกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมได้เลยค่ะ
ที่ผนังติดตั้ง Hand Shower พร้อมจานวางสบู่ และเตรียมจุดสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยแล้ว
เราเทียบขนาดหัวฝักบัวให้ดูกับมือค่ะ เป็นขนาดมาตรฐานกำลังดี ใช้งานได้สะดวก แถมยังสามารถปรับรูปแบบของสายน้ำได้ด้วย
ถัดเข้ามาด้านในห้องเป็นส่วนของโถงพักผ่อนขนาดใหญ่ จะเห็นว่าภายในห้องเราได้ช่องแสงมาเยอะพอสมควร สัดส่วนเหมาะสมกับพื้นที่ใช้สอยภายในห้องทำให้ห้องได้รับแสงธรรมชาติอย่างพอดี
พื้นที่ใช้สอยของห้องมีขนาดใหญ่ทำให้เราสามารถวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้อย่างสบายๆ และที่ปลายเตียงยังสามารถวางสตูลหรือโซฟาได้อีก 1 ตัว
พอวางเตียงนอนแล้วก็ยังเหลือพื้นที่รอบเตียงทั้ง 2 ฝั่งสามารถเดินผ่านได้สะดวก และยังสามารถวางโต๊ะข้างได้ทั้ง 2 ฝั่งอีกด้วย ส่วนที่ฝั่งด้านขวามือก็สามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้อีก 1 ตู้เลย ซึ่งจะขอแนะนำให้ใช้ตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อนนะคะ เพราะช่วยประหยัดพื้นที่ได้ดีกว่า
ส่วนฝั่งปลายเตียงเราสามารถวางชั้นวางทีวีและใช้เป็นโต๊ะทำงานได้แบบนี้เลยค่ะ เป็นไอเดียที่ดีทีเดียว
เราเข้าไปดูภายในห้องนอนเล็กกันต่อ
แม้จะบอกว่าเป็นห้องนอนเล็กของบ้าน แต่จริงๆ แล้วก็ได้พื้นที่ใช้สอยค่อนข้างใหญ่เหมือนกันนะคะเพราะมีความยาวเท่ากับหน้าบ้านเหมือนกัน
ภายในสามารถจัดวางเตียงนอนขนาด 3.5 ฟุตได้ รวมถึงโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่แบบนี้เลย
นับว่าน้อยมากเลยที่จะเห็นห้องนอนเล็กในทาวน์โฮมที่สามารถรองรับตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้แบบนี้
พื้นที่ฝั่งปลายเตียงเราสามารถวางชั้นวางทีวี, โต๊ะทำงาน หรือจะทำเป็นชั้นเก็บของก็ได้เช่นกัน เพราะมีระยะเหลือมากพอค่ะ
ภายในห้องนอนเล็กก็มีห้องน้ำในตัวให้เหมือนกันนะ ทั้งวัสดุและสุขภัณฑ์จะใช้เหมือนกับห้องนอนใหญ่ทุกประการ เพียงแต่ประตูทางเข้าห้องน้ำจะอยู่ตรงกลาง เลยจัด Lay Out ต่างกันเล็กน้อยโดยให้อ่างล้างมืออยู่ตรงกลาง โถสุขภัณฑ์อยู่ฝั่งขวา และโซน Shower อยู่ฝั่งซ้ายค่ะ
::: แบบบ้าน Shuttery ขนาด 133 ตร.ม. :::
แบบบ้าน Shuttery เป็นบ้านแฝดสูง 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม. กับฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน ออกแบบมาในสไตล์ Urban Cottage เช่นกัน ใช้เอกลักษณ์ของผนังลายอิฐ บวกกันสีสันโทนพาสเทล ใช้สีฟ้าและสีเทาเป็นหลักตัดกับวงกบสีขาว ดูน่ารักและอบอุ่น
แปลนชั้น 1 เริ่มจากหน้าบ้านเป็นพื้นที่จอดรถ สามารถจอดรถได้ 2 คัน ก่อนเข้าบ้านมีพื้นเฉลียงยกระดับขึ้นมา ภายในบ้านจะเป็นพื้นที่โถง Common Area ขนาดใหญ่ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่น, ส่วนรับประทานอาหาร, ห้องน้ำ และห้องครัวแบบปิด ซึ่งบริเวณหลังห้องครัวมีประตูสามารถเปิดเชื่อมกับลานซักล้างหลังบ้านได้ค่ะ
แปลนชั้น 2 เป็น Private Zone ของเจ้าของบ้านทั้งชั้น ประกอบด้วยห้องนอน 3 ห้อง ฝั่งหน้าบ้านเป็นส่วนของ Master Bedroom ส่วนฝั่งหลังบ้านเป็นส่วนของห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง ซึ่งห้องนอนบนชั้น 2 จะใช้ห้องน้ำแชร์กันทั้งหมด แต่ห้อง Master Bedroom จะมีอภิสิทธิ์ที่ได้ประตูทางเชื่อมกับห้องน้ำโดยตรงด้วยค่ะ ไม่ต้องเดินออกมาที่โถงบันไดเพื่อเข้าห้องน้ำ
มาดูรายละเอียดของบ้านด้วยกันเลยค่ะ บ้านมาตรฐานจะได้ประตูทางเข้าบ้านแบบบานเฟี้ยมระแนงเหล็กสีขาว 4 ตอนสามารถพับเปิดได้จนสุด
ที่รั้วบ้านติดตั้ง Mailbox พร้อมกริ่งและมีช่องสำหรับเก็บขยะให้
เข้ามาในพื้นที่บ้านจะเป็นพื้นที่จอดรถ สามารถจอดรถได้ 2 คัน ที่พื้นใช้คอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหมดโดยแยกโครงสร้างกับตัวบ้าน
เนื่องจากบ้านตัวอย่างเป็นบ้านแฝดที่อยู่แปลงมุมพอดีเลยได้พื้นที่สวนข้างบ้านมาค่อนข้างเยอะเลยค่ะ
ทางโครงการจะตกแต่งสวนตามมาตรฐานมาให้เราเรียบร้อยเช่นเดียวกันกับทาวน์โฮมค่ะ
จากพื้นที่จอดรถจะมีพื้นเฉลียงยกระดับขึ้นมา 15 ซม. ปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม. เป็นจุดที่เราสามารถวางตู้รองเท้าและนั่งเปลี่ยนรองเท้าได้ ที่ฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสีพร้อมติดดวงโคมฟลูออเรสเซ้นต์มาให้ ส่วนประตูทางเข้าบ้านใช้ประตูบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมสีขาวติดกระจกเขียวตัดแสง ช่วยป้องกันรังสี UV ได้ดี บานประตูสามารถเลื่อนเปิดได้ทั้ง 2 ฝั่งเลยนะ
เมื่อเข้ามาด้านในตัวบ้านแล้วจะเจอโถง Common Area ขนาดใหญ่ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่น, ส่วนรับประทานอาหาร, ห้องน้ำ และห้องครัว พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ส่วนผนังบ้านเป็นผนัง Precast ฉาบปูนทาสีขาว ทำการติดตั้งอย่างดี รอยต่อน้ำไม่รั่วซึม
สังเกตที่ผนังข้างบ้านจะได้หน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่มาด้วย ทำให้ภายในตัวบ้านสว่างโดยไม่ต้องเปิดไฟในเวลากลางวันก็ได้ โดยประตูภายนอกและหน้าต่างทั้งหมดของบ้านจะใช้บานกรอบอลูมิเนียม ติดกระจกเขียวตัดแสงทั้งหมดเลยนะ ฝ้าเพดานภายในบ้านก็สูงโปร่งถึง 2.6 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบทาสีขาวพร้อมติดดวงโคมซาลาเปามาให้ทั้งหลัง
เรามาดูไอเดียการจัดตกแต่งบ้านด้วยกันต่อเลยค่ะ เริ่มจากห้องนั่งเล่นกันก่อน ทางบ้านตัวอย่างได้จัดวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งเอาไว้ให้ แต่จริงๆ แล้วจะวางเป็นโซฟารูปตัว L หรือโซฟาเบดก็มีที่ข้างๆ เหลือพอค่ะ
ระยะการดูทีวีจากโซฟาถึง 3 เมตร สามารถดูทีวีจอใหญ่ๆ ขนาด 60 – 70 นิ้วได้เลยนะ ซึ่งบริเวณผนังฝั่งนี้เราสามารถวางชั้นวางทีวีหรือทำชั้น Built – in สำหรับเก็บของเพิ่มเติมได้
ภาพอีกมุมนึงในบริเวณห้องนั่งเล่น
จากห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับห้องรับประทานอาหาร และห้องครัว
บ้านตัวอย่างจัดวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งมาให้ดูเป็นไอเดีย และด้านหลังก็ยังทำตู้โชว์เก็บของเพิ่มเติมได้ทั้ง 2 ฝั่งระหว่างหน้าต่างรวมถึง Window Seat ที่สามารถใช้เป็นที่นั่งสำหรับนั่งรับประทานอาหารได้เลยในตัว
ซึ่งจริงๆ แล้วพื้นที่ในส่วนนี้สามารถรองรับโต๊ะขนาด 6 ที่นั่งได้อย่างสบายๆ เลยนะ
จากห้องรับประทานอาหารจะมีประตูบานเลื่อนสามารถเปิดเชื่อมกับสวนข้างบ้านได้เลยค่ะ
ห้องครัวของบ้านหลังนี้จะได้เป็นครัวปิด กั้นส่วนจาก Common Area ด้วยประตูบานเลื่อนกระจกค่ะ
จริงๆ แล้วพื้นในห้องครัวก็ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้เหมือนกันนะ
ภายในห้องครัวมีขนาดกำลังดีกับพื้นที่ใช้สอยของบ้าน สามารถวางเคาน์เตอร์รูป L Shape ได้อย่างลงตัว และเหลือพื้นที่ให้สามารถยืนปรุงอาหารได้ประมาณ 2 – 3 คนเลย
ขนาดของเคาน์เตอร์ที่วางได้ก็มีขนาดใหญ่นะ ใหญ่พอสำหรับเตาปรุงอาหาร, อ่างล้างจาน และยังเหลือพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารได้ ข้างๆ อย่าลืมเว้นที่เอาไว้สำหรับวางตู้เย็นด้วยนะ
และยังเหลือพื้นที่ให้สามารถวางเครื่องซักผ้าได้อีกด้วย หากใครชอบจัดส่วนซักล้างเอาไว้ภายนอกบ้านก็สามารถใช้พื้นที่ส่วนนี้วางโต๊ะสำหรับเตรียมอาหารเพิ่มได้อีก 1 มุม
จากห้องครัวมีประตูบานเปิดสามารถเปิดออกสู่ส่วนซักล้างได้ค่ะ
พื้นที่ลานซักล้างหลังบ้านก็มีขนาดใหญ่ทีเดียวนะ เพียงพอสำหรับซักผ้าและตากผ้าเลย
ภาพมองย้อนกลับเข้ามาภายในส่วน Common Area
เดี๋ยวเราจะพาเดินขึ้นไปชมบนชั้น 2 กันต่อนะคะ แต่ก่อนหน้านั้นเราจะไปดูห้องน้ำที่อยู่ข้างๆ โถงบันไดกันก่อน
ซึ่งพื้นส่วนโถงหน้าห้องน้ำจะทำลดระดับลงไปก่อนด้วยหน่อยนึง
ภายในห้องน้ำชั้นล่างจะประกอบไปด้วยส่วนเปียกและส่วนแห้ง ใช้สุขภัณฑ์จาก American Standard เหมือนเดิม ส่วนที่พื้นและผนังปิดผิวด้วยกระเบื้อง หน้าตาและสีสันอาจจะต่างจากบ้านตัวอย่างเล็กน้อยนะคะ
ส่วนแรกคืออ่างล้างมือแบบแขวนผนังพร้อมก๊อกน้ำแบบก้านโยก ด้านหลังก่อ Lower Wall ให้ สามารถวางของได้มากขึ้น
อีกฝั่งนึงของห้องน้ำวางโถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อีกครึ่งนึงแบ่งเป็นโซน Shower โดยทำพื้นลดระดับลงไปเล็กน้อย เราสามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมได้นะคะ แนะนำให้ใช้แบบบานเลื่อนเข้ามุมจะเหมาะสมกับพื้นที่
ที่ผนังติดตั้ง Hand Shower พร้อมราวปรับระดับ และก๊อกสนามมาให้ สะดวกเวลาต้องมีการซักล้างต่างๆ รวมถึงเตรียมจุดสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ พื้นที่ใต้บันไดก็ทำเป็นห้องเก็บของให้ด้วยค่ะ
เราขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กันต่อเลยค่ะ บันไดเป็นแบบลูกตั้งลูกนอนตีปิดทึบ ใช้ลูกนอนไม้ยางพาราประสานสีอ่อนเข้ากับโทนพาสเทล ส่วนที่ฝั่งซ้ายมือก่อผนังทึบและติดตั้งราวมือจับไม้สีเดียวกันกับลูกนอนมาให้
ภาพมองย้อนลงไปที่บันได
ภาพมองย้อนกลับไปที่ส่วนโถงบันได
ขึ้นมาถึงชั้น 2 เราจะเจอกับโถงบันไดซึ่งเป็นตัวเชื่อมสู่ห้องนอนทั้ง 3 ห้อง ฝั่งขวาเป็นฝั่งหน้าบ้านคือห้องนอน Master Bedroom และฝั่งซ้ายคือห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง ซึ่งห้องนอนชั้นบนจะแชร์ห้องน้ำที่อยู่กลางโถงด้วยกันทั้งหมดเลย
ที่พื้นบนชั้น 2 ปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. ผนังฉาบเรียบทาสีขาว ส่วนฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบติดตั้งดวงโคมซาลาเปาให้เหมือนเดิมค่ะ
เริ่มจากห้องนอน Master Bedroom กันก่อนเลย
ภายใน Master Bedroom มีขนาดใหญ่และกว้างขวางเท่ากับหน้าบ้านเลยค่ะ เพราะฉะนั้นจึงสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ง่ายและลงตัวมาก แถมยังได้ช่องแสงมาค่อนข้างเยอะจึงทำให้ห้องดูสว่างและโปร่งโล่งทีเดียว
ทางฝั่งขวามือของห้องเราสามารถทำตู้เสื้อผ้า Built – in ขนาดใหญ่แบบนี้ได้เลยค่ะ
พื้นที่ภายในห้องที่เหลือสามารถวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้อย่างสบายๆ
ยังเหลือพื้นที่โดยรอบทั้ง 2 ฝั่งสามารถวางโต๊ะข้างเพิ่มเติมได้
และยังเหลือพื้นที่สำหรับวางเก้าอี้นั่งพักผ่อนได้อีกด้วย
พื้นที่ปลายเตียงนอนก็สามารถวางชั้นวางทีวีได้ค่ะ วางแล้วก็ยังเหลือพื้นที่เป็นทางเดินสามารถเดินผ่านได้สะดวก
สังเกตที่ฝั่งขวามือจะมีประตูทางเชื่อมกับห้องน้ำชั้นบนได้ด้วยค่ะ
ส่วนนี้เป็นอภิสิทธ์ของห้อง Master Bedroom ที่สามารถเข้าห้องน้ำจากในห้องตัวเองได้เลยโดยไม่ต้องเดินออกมาที่โถงทางเดิน วัสดุและสุขภัณฑ์ของห้องน้ำชั้นบนจะเหมือนกับห้องน้ำชั้นล่างทุกประการค่ะ แต่จะมีความพิเศษตรงที่ได้โถสุขภัณฑ์แบบ Washlet มาด้วย รวมถึงที่นั่งอาบน้ำมาเพิ่มเติมตรงโซน Shower
ภาพรวมของห้องน้ำชั้นบนมองจากประตูทางเข้าฝั่งโถงบันได
ประตูทางเข้าห้องน้ำจากฝั่งโถงบันไดและจากฝั่งห้องนอนใหญ่ค่ะ
เรามาดูห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องกันต่อ เริ่มจากห้องนอนรองฝั่งขวาค่ะ
พื้นที่ของห้องนอนรองก็ถือว่ามีขนาดที่ใหญ่พอสมควรเลยนะคะ จริงๆ แล้วพื้นที่ของห้องสามารถรองรับเตียงนอนขนาด 5 ฟุต รวมถึงเฟอร์นิเจอร์หลักอื่นๆ ได้อย่างลงตัว
บ้านตัวอย่างตกแต่งห้องออกมาได้น่ารักทีเดียวค่ะ โดยยกระดับพื้นและสร้างกรอบสำหรับเป็นเตียงนอนขนาด 3.5 ฟุต
พื้นที่ปลายเตียงนอนก็ไม่เหลือทิ้งนะคะ ทำเป็นชั้นวางของและตู้เก็บของได้
และด้านข้างเตียงทำเป็นโต๊ะเขียนหนังสือกับวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้แบบนี้เลย
ปิดท้ายด้วยห้องนอนเล็กค่ะ จะมีขนาดเล็กกว่าห้องนอนรองเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็ยังสามารถจัดเป็นห้องนอนและวางเฟอร์นิเจอร์ได้ครบทุกอย่าง หากบ้านไหนที่มีลูกคนเดียวก็สามารถจัดห้องนี้ให้เป็นห้องอเนกประสงค์ได้
บ้านตัวอย่างตกแต่งห้องให้กลายเป็นห้องทำงานและห้องนั่งเล่นพักผ่อน 2 ฟังก์ชั่นรวมกันได้พอดี จริงๆ แล้วผนังฝั่งตรงข้ามกับโซฟายังสามารถติดตั้งทีวีเพิ่มอีกสักเครื่องได้ด้วยนะ
ส่วนสวิตช์และปลั๊กไฟภายในบ้านใช้ของ Siemens ทั้งหมด
นอกจากนี้ภายในบ้านทุกหลังยังติดตั้งระบบป้องกันขโมยแบบ Magnetic Sensor จาก DSC มาให้อีกด้วยค่ะ
:::: ราคา (เมษายน 2562) ::::
แบบบ้านทาวน์โฮม Gemini ขนาด 89 ตร.ม.
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ Villaggio เพชรเกษม – สาย 4 ตั้งอยู่บนถนนสวนหลวงใกล้ถนนพุทธสาคร ทำเลในย่านนี้ส่วนมากจะเป็นที่อยู่อาศัยในแนวราบ มีอาคารพาณิชย์และโรงงานบ้านเป็นระยะๆ และยังมีที่ดินเหลือให้พัฒนาอีกเยอะ ปัจจุบันก็มีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเข้ามาช่วงหัวลำโพง – บางแค ซึ่งกำลังจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน 2562 นี้ รวมถึงโครงการรถไฟฟ้าสีน้ำเงิน (ในอนาคต) ช่วง บางแค – สายสี่ ซึ่งเป็นตัวผลักดันให้อนาคตของย่านนี้มีความคึกคักและเจริญเติบโตมากขึ้น สาธารณูปโภคทั้ง ห้างสรรพสินค้า, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, ร้านค้า, ตลาด, โรงพยาบาล และสถานศึกษา ส่วนใหญ่จะอยู่ที่เส้นเพชรเกษมค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว การเดินทางจะใช้ถนนพุทธสาครและถนนเพชรเกษมเป็นเส้นหลักในการเดินทางเข้า – ออกเมือง เพราะเป็นเส้นที่เชื่อมกับถนนหลักสายอื่น และเป็นถนนเส้นหลักในการใช้ออกต่างจังหวัดอยู่แล้ว โดยจะมีตัวช่วยเป็นวงแหวนกาญจาภิเษกที่อยู่ไม่ไกลนัก รวมถึงทางพิเศษเฉลิมมหานครที่สามารถใช้เดินทางข้ามไปยังฝั่งบางนาและชลบุรีได้
การเดินทางโดยรถสาธารณะ เป็นทำเลที่เหมาะกับการใช้รถยนต์ส่วนตัวมากกว่าเพราะไม่ได้มีรถสาธารณะวิ่งผ่านหน้าโครงการเยอะมาก ตอนนี้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง – บางแค ก็ใกล้จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนปี 2562 นี้แล้ว โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีหลักสอง จะห่างจากตัวโครงการออกไปประมาณ 14 กม. แต่ที่ใกล้กว่าก็คือโครงการรถไฟฟ้าสีน้ำเงิน (ในอนาคต) ช่วง บางแค – สายสี่ ซึ่งสถานีสายสี่จะอยู่บริเวณแยกพุทธมณฑลสาย 4 พอดี นั่งรถจากโครงการไปเพียง 3.7 กม.เท่านั้นค่ะ แต่โครงการนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566 ต้องรอกันไปอีกหน่อย
การออกแบบโครงการ และวัสดุ ทาวน์โฮมและบ้านแฝดออกแบบมาโดยได้แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมในยุโรปแถบชนบท หรือ Urban Cottage ที่ผสานความทันสมัยเข้ากับกลิ่นอายของศิลปะร่วมสมัยอย่างกลมกลืน เน้นโทนสีแนว Pastel ให้ความรู้สึกอบอุ่น อ่อนหวาน และน่าอยู่
ฟังก์ชั่นในบ้านเน้นการใช้ประโยชน์อย่างเต็มพื้นที่ แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน ลงตัวทุกการใช้งาน วัสดุที่ให้มาก็อยู่ในระดับดีสมราคา พื้นที่ใช้งานแต่ละส่วนมีความลงตัวดี มีระยะใช้งานสบายๆ ไม่อึดอัด บ้านทุกหลังมีเพดานสูง 2.6 เมตร และหน้าต่างบานใหญ่ช่วยนำแสงธรรมชาติเข้าสู่ตัวบ้านได้มาก และช่วยให้บ้านโปร่ง อากาศถ่ายเทดี
ส่วนวัสดุที่เราได้มากับบ้านมาตรฐานนั้นก็คือ ผนังบ้านฉาบปูนเรียบทาสีขาว ฝ้าเพดานยิปซั่มฉาบเรียบทาสีขาว, ลานจอดรถเป็นซีเมนต์ฉาบเรียบแยกโครงสร้างกับตัวบ้าน, พื้นบ้านชั้นล่างปูกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 ซม. ชั้นบนเป็นพื้นลามิเนตหนา 8 มม. สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ American Standard ประตูและหน้าต่างภายในบ้านบานใหญ่ กรอบเป็นอลูมิเนียมสีขาว กระจกเขียวตัดแสง
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการทำมาได้ดีทีเดียวเลยนะคะ ช่วยสร้างบรรยากาศของโครงการได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่สวนสาธารณะแบบโพรวองซ์ ดีไซน์เหมือนเดินอยู่ท่ามกลสงทุ่งลาเวนเดอร์ มีเส้นทางเดินพักผ่อนให้โดยรอบ มีสนามเด็กเล่นให้แบบจัดเต็ม ส่วนคลับเฮ้าส์ก็อิงสถาปัตยกรรมสไตล์ Urban Cottage ภายในมีสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่สามารถว่ายออกกำลังกายได้จริง แยกสระเด็กสระผู้ใหญ่ออกจากกัน มีฟิตเนสพร้อมเครื่องออกกำลังกายแบบครบชุด และมีพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนมองเห็นวิวสวนและสระว่ายน้ำ ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยก็ได้มาตรฐานไม่น้อยหน้าโครงการอื่น รวมถึงมีระบบป้องกันขโมยติดตั้งมาให้ภายในบ้านทุกๆ หลังอีกด้วย
:::: คะแนน ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 7.5 | ตั้งอยู่บนถนนสวนหลวงใกล้ถนนพุทธสาคร มีความเงียบสงบและเป็นส่วนตัว |
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว | 7.9 | ใกล้ถนนพุทธสาครและถนนเพชรเกษม และอยู่ไม่ไกลจากวงแหวนกาญจนาฯ |
การเดินทางโดยรถสาธารณะ | 7.5 | ไม่สะดวกเท่าที่ควรเพราะมีรถสาธารณะวิ่งผ่านหน้าโครงการน้อย แต่อยู่ในละแวกการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินค่ะ |
บ้านและวัสดุ | 7.8 | บ้านสไตล์ Urban Cottage ฟังก์ชั่นขนาดใหญ่กำลังดี จัดวางเฟอร์ได้ง่าย ใช้สอยสะดวก วัสดุได้มาตรฐาน |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.4 | สิ่งอำนวยความสะดวกมีให้อย่างเหมาะสมกับขนาดของโครงการ สัมผัสได้ว่าดีไซน์ออกมาด้วยความใส่ใจ ดูสวยงามและน่าใช้งานมากๆ |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.0 | โครงการเหมาะสำหรับครอบครัวขนาด 3 – 4 คน เดิมอาศัย หรือทำงานอยู่ใกล้เคียงกับบริเวณโครงการ ใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางเป็นหลัก |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.85 | ดี |
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
CALL CENTER : 1198
WEBSITE : https://www.lh.co.th/th/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
แสดงความคิดเห็น