EP.2025 รีวิว Metris District Ladprao คอนโดใหม่เลี้ยงสัตว์ได้ บนทำเล 5 แยกลาดพร้าว ใกล้ MRT พหลโยธิน 230 เมตร เริ่ม 2.99 ล้านบาท*

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://bit.ly/35CPFFK

สำหรับรายละเอียดต่างๆของโครงการนี้จะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง ไปติดตามกันต่อด้านล่างได้เลยครับ

---

---

ที่ตั้งโครงการ

ถนนลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.

พิกัด Google โดยประมาณ : 13.811423, 100.563818

การเดินทางด้วยรถยนต์ เดินทางสะดวกอยู่ติดถนนใหญ่ลาดพร้าว ถ้าไปโซนในเมือง จากห้าแยกลาดพร้าว มาเข้าจตุจักร สะพานควาย ยาวไปอนุสาวรีย์ชัยฯได้เลย หรือจะตัดเข้าถนนวิภาวดีรังสิต วิ่งไปเข้าดินแดง และอนุสาวรีย์ชัยฯได้อีกทาง เส้นนี้มีทางด่วนโทลล์เวย์ให้ขึ้นอีกด้วยครับ

หรือจากแยกรัชดา-ลาดพร้าว ตัดเข้าถนนรัชดาภิเษก วิ่งตามแนวรถไฟฟ้า MRT ตรงไปสุทธิสาร ห้วยขวาง แยกพระรามเก้า ตรงข้ามไปเข้าอโศกดินแดง มีทางแยกไปเข้าจตุรทิศได้ หรือตรงไปแยกอโศก-เพชรบุรี

จากแยกอโศก-เพชรบุรี ตัดเข้าเพชรบุรีหรือตรงไปเข้าอโศกมนตรีได้เลย ผ่านแยกอโศกก็เป็นเส้นสุขุมวิทแล้วครับ จะไปฝั่งพร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัย หรือไปฝั่งนานา เพลินจิต ชิดลมสยามก็ได้ หรือถ้าข้ามแยกอโศกไป จะเชื่อมออกถนนพระรามสี่ ไปสาทร สีมได้ครับ

ถ้าออกนอกเมือง ใช้ถนนวิภาวดีรังสิตขาออกเมืองวิ่งไปผ่านบางเขน หลักสี่ ดอนเมือง ไปเชื่อมกับถนนพหลโยธิน ออกรังสิต อยุธยาได้ มีทางด่วนโทลล์เวย์ให้ขึ้น หรือใช้ถนนพหลโยธินจะวิ่งผ่านแยกรัชโยธิน เกษตร วงเวียนหลักสี่ สะพานใหม่ ออกรังสิตได้อีกทาง ส่วนถนนลาดพร้าววิ่งออกไปบางกะปิ เชื่อมต่อไปเลียบด่วนรามอินทรา รามคำแหง มีนบุรีได้ หรือจากถนนรัชดาภิเษกตรงไปฝั่งวงศ์สว่าง พระราม 7 จรัญสนิทวงศ์ ปิ่นเกล้าได้ครับ

ทางด่วน ที่อยู่ใกล้โครงการคือทางด่วนโทลล์เวย์ ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออกเมืองในระยะไม่เกิน 2 กม. โดยจุดขึ้นทางด่วนจะอยู่บริเวณห้าแยกลาดพร้าว

ทางด่วน ที่อยู่ใกล้โครงการคือทางด่วนศรีรัช ห่างจากโครงการประมาณ 3.7 กม. โดยจากโครงการมาเข้าถนนพหลโยธิน และมาเลี้ยวเข้าถนนกำแพงเพชรจากนั้นจะเจอป้ายบอกไปขึ้นทางด่วน

ทางด่วน ที่อยู่ใกล้โครงการคือทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ห่างจากโครงการประมาณ 5 กม. โดยจากโครงการมาใช้ถนนพหลโยธิน และเลี้ยวเข้าถนนกำแพงเพชร จากนั้นเลี้ยวเข้าถนนกำแพงเพชร 2 จะเจอป้ายบอกไปขึ้นทางด่วน

:: สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ ::

• ห้าแยกลาดพร้าว : 550 ม.
• แยกลาดพร้าว-รัชดา : 2.3 กม.
• แยกรัชโยธิน : 2.8 กม.
• แยกเกษตร : 4.4 กม.
• แยกวังหิน : 5.9 กม.
• ถนนลาดพร้าว : 0 ม.
• ถนนวิภาวดีรังสิต : 550 ม.
• ถนนรัชดาภิเษก : 2.3 กม.
• ถนนกำแพงเพชร : 2.6 กม.
• ถนนกำแพงเพชร 2 : 2.9 กม.
• ถนนงามวงศ์วาน : 4.4 กม.
• ถนนเกษตร-นวมินทร์ : 4.4 กม.
• ถนนประชาชื่น : 4.8 กม.
• ถนนโชคชัยสี่ : 4.8 กม.
• ถนนลาดพร้าววังหิน : 5.9 กม.

การเดินทางโดยสาธารณะ จุดเด่นของโครงการคืออยู่ใกล้รถไฟฟ้าหลายสาย ห่างจาก MRT พหลโยธิน(ทางออก1) เพียง 230 ม. ที่สำคัญคือเป็นสถานีเชื่อมต่อกับ BTS ห้าแยกลาดพร้าว เลือกใช้ได้ตามสะดวก นั่งต่อเดียวถึงสยาม อโศก สีลมได้เลย และโครงการยังใกล้ MRT ลาดพร้าว(ทางออก2) ประมาณ 900 ม. ซึ่งเป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงสำโรง-ลาดพร้าว ใช้เดินทางออกนอกเมืองได้ ตอนนี้อยู่ในช่วงก่อสร้าง

จาก MRT พหลโยธิน นั่งไปลง MRT ศูนย์วัฒนธรรมฯ เพียง 5 สถานี จะเป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม ถ้านั่งไปลง MRT บางซื่อเพียง 3 สถานี จะเป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีแดง และแดงอ่อน และถ้าไปลง MRT เตาปูน เพียง 4 สถานี จะเป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง

นอกจากนี้ตรงเส้นลาดพร้าว และเส้นพหลโยธิน ยังมี Taxi วินมอเตอร์ไซค์ รถตู้ รถเมล์ผ่านตลอดแทบจะ 24 ชั่วโมง ออกมาหน้าโครงการก็โบกเรียกได้เลยสะดวกมาก จะไปไหนก็ไว รถติดก็มีทางเลี่ยงเยอะแยะ และใช้ระยะทางไปไหนมาไหนค่อนข้างสั้น ถือเป็นทำเลใจกลางเมืองที่มีศักยภาพสูงของโซนลาดพร้าวต่างจากโครงการอื่นๆ

ความอุดมสมบูรณ์ รอบๆโครงการ Metris District Ladprao ถือว่ามีอุดมสมบูรณ์สูง หาของทานได้ง่ายทั้งวันในระยะเดิน ใกล้ Central ลาดพร้าว และ Union Mall ที่เป็นแหล่ง Shopping สำคัญของย่านนี้ ไม่ต้องขับรถไปวนหาที่จอดให้เสียเวลา และไม่ต้องเสียเงินค่าที่จอดรถ

ใกล้กับ Big C ลาดพร้าว 2 และ Lotus’s ลาดพร้าว เวลาซื้อของเข้าบ้านทำกับข้าวก็สะดวกมากๆ เรียกว่ามีห้างใหญ่ๆล้อมอยู่แบบเดินถึงสบายๆ และยังอยู่ใกล้ รร.หอวัง รร.เซนต์จอห์น ม.เซนต์จอห์น และ ม.เกษตรฯ รวมทั้งมีอาคารสำนักงานใหญ่ และองค์กรขนาดใหญ่อย่าง PTT และ SCB Park อยู่ใกล้ๆ

ทำให้โซนนี้มีตลาดนัดขายอาหาร ขายเสื้อผ้า ร้านอาหารเยอะตามสองฝั่งถนนลาดพร้าว และถนนพหลโยธิน เพื่อตอบรับกับปริมาณผู้บริโภคในโซนนี้ซึ่งเป็นพนักงานออฟฟิศ และนักเรียนนักศึกษาเป็นส่วนใหญ่นั่นเอง เรียกว่าจะซื้ออยู่เองก็สะดวกมาก จะปล่อยเช่าก็มีทั้งกลุ่มลูกค้าที่เป็นพนักงานออฟฟิศและนักเรียนนักศึกษาที่สามารถใช้เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก

แหล่ง Shopping จะอยู่บนถนนพหลโยธิน และถนนลาดพร้าว โดยเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหารมากมายเดินทางไปได้สะดวก ใกล้ๆโครงการในระยะเดินจะมี Central ลาดพร้าว , Union Mall , Big C ลาดพร้าว 2, Lotus’s ลาดพร้าว แค่ 4 ห้างนี้ก็เพียงพอกับการ Shopping ไม่ต้องไปไหนไกล ตั้งแต่เรื่องอาหารการกิน ของใช้ต่างๆ เสื้อผ้า โรงหนัง และที่สำคัญคือราคาย่อมเยาว์ครับ

ถ้านั่ง BTS มาลงสถานีรัชโยธิน เพียง 1 สถานี จะมี Major รัชโยธินอยู่ นอกจากฟังก์ชันหลักอย่างดูหนังโยนโบวลิ่งแล้ว ยังมีร้านอาหารเยอะมาก ด้านในมี Community Mall อยู่ด้วย ร้านอาหารเต็ม แถมยังมีตลาดนัดขนาดใหญ่ด้านข้างซึ่งขายเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายทั้งชายหญิง มาเดินเลือกซื้อกันได้

ตรงห้าแยกลาดพร้าวจะมีสวนสมเด็จย่า 84 หรือจะเดินไปสวนจตุจักร สวนรถไฟก็ได้ ถ้าเป็นคนชอบเดินนะภายในสวนร่มรื่น มีจักรยานให้เช่าปั่นเล่นได้ และมีหอสมุดพุทธาสด้วย ใครอยากชวนที่บ้านมาเดินเล่นพักผ่อนปฎิบัติธรรม ที่นี่ก็เป็นอีกที่ที่สวยสงบดีครับ และในช่วงวันเสาร์อาทิตย์ก็มาเดิน Shopping ตลาดนัดจตุจักรกันได้อีกครับ

จากโครงการเดินมา MRT ลาดพร้าว ประมาณ 900 ม. ในสถานีจะมี Gourmet Market เลือกซื้อของใช้ของกินได้ หรือจะเดินมาสวนลุมไน้ท์บาซาร์ รัชดาภิเษก ก็ได้ตรงแยกลาดพร้าว-รัชดาเลย

---

:: สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ::

ห้างสรรพสินค้า

• Union Mall : 240 ม.
• Big C ลาดพร้าว 2 : 450 ม.
• Central ลาดพร้าว : 800 ม.
• Lotus’s ลาดพร้าว : 1 กม.
• Gourmet Market : 1.3 กม.
• สวนลุมไน้ท์บาซาร์ รัชดาภิเษก : 1.3 กม.
• ตลาดนัดจตุจักร : 2.2 กม.
• Major รัชโยธิน : 2.9 กม.
• Avenue รัชโยธิน : 2.9 กม.
• ตลาดบางเขน : 3.9 กม.
• ตลาดอมรพันธ์ : 4.3 กม.
• ตลาดโชคชัยสี่ : 4.7 กม.

สถานศึกษา

• รร.เซนต์จอห์น : 350 ม.
• ม.เซนต์จอห์น : 350 ม.
• รร.หอวัง : 1 กม.
• สถาบันการบินพลเรือน : 2 กม.
• ม.ราชภัฏจันทรเกษม : 4 กม.
• ม.เกษตรศาสตร์ : 4.4 กม.
• ม.ศรีปทุม : 8 กม.

ศูนย์การแพทย์

• รพ.เปาโล พหลโยธิน : 3.1 กม.
• รพ.เปาโล เกษตร : 4.9 กม.
• รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น : 4.9 กม.
• รพ.วิภาวดี : 5.8 กม.
• รพ.ราชวิถี : 7.7 กม.

สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน

• SCB Park : 2.9 กม.
• ศาลอุทธรณ์ : 2.9 กม.
• ศาลแพ่ง : 3 กม.
• ศาลอาญา : 3.3 กม.

อื่นๆ

• สวนสมเด็จย่า 84 : 600 ม.
• สวนจตุจักร : 900 ม.
• สวนรถไฟ : 1.4 กม.

---

:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::

วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันครับ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก

ถนนรัชดาภิเษก > ถนนลาดพร้าว > Metris District Ladprao

เริ่มจากถนนรัชดาภิเษกตรงแยกพระราม 9 มุ่งหน้าไปทางแยกลาดพร้าว-รัชดา ซ้ายมือเป็น Fortune Town ขวามือเป็น Central พระราม 9

ถัดมาซ้ายมือเป็น Esplanade รัชดาภิเษก

ถัดมาซ้ายมือเป็น Big C รัชดาภิเษก

และจะเจอ The Street รัชดาภิเษก

จากนั้นจะผ่าน บุญถาวร รัชดา

และจะเจอสวนลุมไน้ท์บาซาร์ รัชดาภิเษก

จากนั้นจะเจอแยกลาดพร้าว-รัชดา ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนลาดพร้าว ตรงหน้าจะเห็นรถไฟฟ้าสายสีเหลืองสถานีรัชดา ซึ่งเป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT ลาดพร้าว

เลี้ยวซ้ายมาจะเป็นถนนลาดพร้าว ตรงหน้าเราจะมองเห็นโครงการ Maru ลาดพร้าว 15

ถัดมาจะผ่าน MRT ลาดพร้าว ทางออก 2 ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการ Metris District Ladpraoประมาณ 900 ม.

จากนั้นขวามือจะผ่าน Big C ลาดพร้าว 2

จากนั้นจะเห็นโครงการ Metris ลาดพร้าว เตรียมชิดซ้ายได้เลย โครงการจะอยู่ติดกันครับ

ผ่านป้ายรถเมล์หน้าโครงการ Metris ลาดพร้าว

และจะเจอพื้นที่โครงการ Metris District Ladprao อยู่ติดถนนลาดพร้าว Sale Gallery ก็ตั้งอยู่พื้นที่โครงการเลย สำหรับใครที่สนใจตอนนี้สามารถเข้ามาชมห้องตัวอย่างกันได้แล้วนะครับ

ภายใน Sale Gallery ตอนนี้เปิดให้ชมห้องตัวอย่าง และรายละเอียดข้อมูลต่างๆของโครงการแล้ว ใครที่สนใจหรือผ่านไปมาแถวนี้ก็แวะเข้ามาเยี่ยมชมกันได้ครับ บรรยากาศภายในจะจำลองส่วนของ Lobby โครงการมาให้ดูทั้ง Mood & Tone ในการตกแต่ง ทางโครงการยังได้นำร้านคาเฟ่มาตั้งไว้ใน Sale Gallery เพื่อให้เรารู้สึกชิลและอินไปกับโครงการ

PROPER SPACE เป็นร้านใหม่ภายใต้ CO-F AND CO-W ที่เป็นร้านคาเฟ่สุดชิคย่าน ม.ธรรมศาสตร์รังสิต ซึ่งมีเมนูหลากหลายให้บริการกับลูกค้าทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมโครงการ และมีเมนูพิเศษสำหรับ Metris District Ladprao อีกด้วย ลองแวะเข้ามาชิมกันได้ครับ

---

:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::

ทำเลโครงการ Metris District Ladprao ถือว่าตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านลาดพร้าวที่มีความโดดเด่น ต่างจากโครงการอื่นๆ เดินทางสะดวกติดถนนใหญ่ลาดพร้าว ใกล้ห้าแยกลาดพร้าว และแยกลาดพร้าว-รัชดา จุดเด่นคือใกล้ MRT พหลโยธินเพียง 230 ม. เป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS ห้าแยกลาดพร้าว เลือกใช้ได้สะดวกไปได้หลายโซน นั่งต่อเดียวถึงสยาม อโศก สีลมได้เลย

และยังใกล้ MRT ลาดพร้าวประมาณ 900 ม. ซึ่งเป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง ซึ่งตอนนี้กำลังก่อสร้างอยู่ ที่สำคัญคือรอบๆโครงการในระยะเดิน รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่รองรับการอยู่อาศัย ทั้งสถานศึกษา อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ร้านอาหารริมถนนลาดพร้าว และพหลโยธิน

ทำเลโครงการเหมาะทั้งสำหรับคนที่ซื้ออยู่เอง เดินทางสะดวกทั้งรถส่วนตัวและรถสาธารณะและหาของกินของใช้ได้ง่าย หรือจะซื้อไว้ลงทุนปล่อยเช่าก็มีกลุ่มลูกค้าในช่วงวัยทำงาน และนักเรียนนักศึกษา เป็นทำเลในเมืองที่เริ่มหาได้ยาก ในราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท* ทางโครงการทำราคาออกมาได้ดีเมื่อเทียบกับสเปควัสดุในห้องที่ได้ ใครที่สนใจก็ลองแวะเข้าไปที่ Sale Gallery ได้เลยครับ

ที่ดินโครงการ Metris District Ladprao โดยรอบส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย คอนโด หอพัก ร้านค้า และอาคารพาณิชย์ริมถนน

• ทิศเหนือ ด้านหน้าโครงการติดกับถนนลาดพร้าว และซอยลาดพร้าว 6
• ทิศใต้ ติดกับซอยลาดพร้าว 8 และบ้านพักอาศัย
• ทิศตะวันออก ติดกับโครงการ Metris ลาดพร้าว สูง 29 ชั้น
• ทิศตะวันตก ติดกับบ้านพักอาศัย และวิภาวดีสวีท สูง 20 ชั้น

• วิวทิศเหนือจะเป็นวิวบ้านพักอาศัย
• วิวทิศใต้เป็น City View
• วิวทิศตะวันออกเป็น City View และเห็นเพื่อนบ้าน Metris ลาดพร้าว
• วิวทิศตะวันตกมองไปทางสวนจตุจักร

วิวทิศเหนือชั้น 43 มองไปทางแยกรัชโยธิน

วิวทิศใต้ชั้น 43 มองไปในเมืองโซนพระราม 9

วิวทิศตะวันออกชั้น 43 มองไปทางโซนลาดพร้าว

วิวทิศตะวันตกชั้น 43 มองไปทางสวนจตุจักร

บริเวณด้านหน้าโครงการติดกับถนนลาดพร้าว Sale Gallery ตั้งอยู่ด้านหน้าเลย

ด้านซ้ายติดกับโครงการ Metris ลาดพร้าว สูง 29 ชั้น สำหรับห้องฝั่งทิศตะวันออกวิวจะไม่ได้บล็อคมากนะครับ ตัวตึกจะวางแนวเฉียงและมีระยะห่างระหว่างอาคารประมาณ 60 ม. ทางโครงการทำราคาฝั่งนี้ออกมาค่อนข้างดีด้วยครับ

ด้านขวาติดกับซอยลาดพร้าว 6 ระยะประชิดไม่มีอาคารสูง

ซอยลาดพร้าว 6 เป็นซอยที่เชื่อมไปออกถนนวิภาวดีรังสิตได้

มองไปฝั่งตรงข้ามด้านหน้าโครงการ

จากหน้าโครงการผมจะพาเดินไป MRT พหลโยธิน ซึ่งเป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS ห้าแยกลาดพร้าว ห่างจากโครงการประมาณ 230 ม. มีทางเท้าเดินไปถึงเลยสะดวกดี

จะผ่านร้านข้าวหมูทอด

ผ่าน 7-11 ฝั่งขวาจะเห็น Union Mall

มีร้านเสริมสวย ขายน้ำต่างๆ ร้านขายยา มีสะพานลอยเดินข้ามฝั่งได้สะดวก

จากบนสะพานลอยมองกลับไปพื้นที่โครงการจะเห็นแบบนี้

มองไปฝั่งห้าแยกลาดพร้าว ซ้ายมือจะเป็น MRT พหลโยธิน ทางออก 1 ขวามือเป็นทางออก 5 อยู่ติดกับ Union Mall

กลับลงมาที่ทางเท้าต่อครับ ถัดจากสะพานลอยมาจะมีร้านอาหารอีสาน และร้านโชห่วย

ติดกันมีร้านชาบู

ผ่านร้านเจียงฮาย

และจะผ่านซอยลาดพร้าว 4 มีวินมอเตอร์ไซค์หน้าปากซอย

ถัดมาจะเจอ MRT พหลโยธิน ทางออก 1 ห่างจากโครงการเพียง 230 ม. ขวามือมีที่จอดรถจักรยาน

เดินลงใต้ดินมาจะมี Metro Mall

ภายในมีร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ และที่นั่งพักผ่อน

จากนั้นเดินไปออกทางออก 4 เป็นทางออกที่เชื่อมต่อกับ BTS ห้าแยกลาดพร้าว

ขึ้นมาจากใต้ดินจะมีบันไดขึ้น Sky Walk เชื่อมต่อไปยัง BTS ครับ

Sky Walk มีทางเชื่อมเข้า Union Mall ได้

และมีทางเชื่อมไป MRT พหลโยธิน ทางออก 3 และสวนสมเด็จย่า 84 เดินจากโครงการมาออกกำลังกายที่นี่ก็ได้ครับ

Sky Walk จะเชื่อมมาถึง BTS ห้าแยกลาดพร้าว และ Central ลาดพร้าว

ทางเดินเชื่อมเข้า Central ลาดพร้าว และ BTS ห้าแยกลาดพร้าว สะดวกมากๆครับ ทำเลโครงการถือเป็นทำเลใจกลางเมืองย่านลาดพร้าว ใกล้ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา อาคารสำนักงาน เดินทางสะดวกท้ังรถส่วนตัว และรถสาธารณะ ใกล้รถไฟ้ฟ้าที่เป็นสถานีเชื่อมต่อ สายสีน้ำเงิน สีเขียว และสีเหลือง เป็นทำเลที่น่าจะครบในทุกๆด้านเลยก็ว่าได้

---

::: ตัวโครงการ :::

Metris District Ladprao ให้มากกว่าที่เคยเป็น ใช้ชีวิตได้มากกว่าที่เคยเป็น Maximalife ชีวิตไร้ขีดจำกัด บนทำเล “ที่สุดแห่งศักยภาพ 5 แยกลาดพร้าว” กับ “ที่สุดของการดีไซน์” แบบ Maximal ด้วยแนวคิด Mid Century Modern ผสานกลมกลืนกับแนวคิด Juxtaposition ที่จัดเรียงเรื่องราวความต่างอย่างลงตัว

มาพร้อมกับ “ที่สุดของพื้นที่ใช้สอยส่วนกลางที่มากกว่าที่เคยมี” แบบ Maximal Facilities ที่ใส่ใจในดีไซน์ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ กับวิถีใหม่ New normal ให้การใช้ชีวิตที่ลงตัว ทั้งพื้นที่ส่วนกลาง และห้องพักด้วยฟังก์ชัน Work From Home Feature ในทุกยูนิต

ตัวโครงการเป็นคอนโด High Rise 1 อาคาร สูง 45 ชั้น บนพื้นที่โครงการขนาด 3-2-14.3 ไร่ จำนวนยูนิตทั้งโครงการ 741 ยูนิต ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 8-42 ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้น 1, 8, 24, 26, 29, 33, 36, 39, 42, 43, 44, 45 จอดรถได้ที่ชั้น 1-7 ที่จอดรถทั้งหมด 339 คันหรือติดเป็น 46% รวมจอดซ้อนคัน

จุดเด่นของทุกโครงการในเครือ Major Development ที่แตกต่างจากโครงการทั่วไป คือ Pet-Friendly Residences หรือคอนโดมิเนียมที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ ซึ่งปัจจุบันได้ยกระดับไปสู่การเป็น Major Petscape หรือการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่เข้าใจทุกความต้องการของคนรักสัตว์

กว่า 20 ปี ที่ทาง Major Development เรียนรู้และเก็บประสบการณ์ ทำให้มีทีมงานที่มีความพร้อมในการบริหารจัดการโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อคนรักสัตว์ด้วยความเข้าใจในทุกองค์ประกอบ นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขาเพื่อทำให้มั่นใจว่า Major Development เป็นคำตอบเดียวสำหรับผู้ที่มองหาคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้

---

::: แปลนชั้น 1 :::

จากด้านหน้าทางเข้า-ออกโครงการจะติดกับถนนลาดพร้าว มีไม้กระดกและป้อม รปภ. ผ่านเข้าไปด้านใน จะผ่านจุด Drop Off มีที่จอดรถกลางแจ้ง และใต้อาคาร มีจุดจอด EV Charger ทางขึ้นที่จอดรถในอาคารจะอยู่มุมด้านหลัง ทั้งโครงการจอดได้ 339 คัน หรือคิดเป็น 46% รวมซ้อนคัน ด้านหน้าโครงการจะมีสวนพักผ่อน และ Multi Sport Carpark และมุมด้านหลังจะเป็น Pet Park

ภายในตัวอาคารโซนด้านหน้าจะมีร้านค้า 3 ยูนิต ถัดมาจะเป็น Lobby, Co-working Lounge, Mail Room ถัดไปอีกจะเป็นโถงลิฟต์ มีลิฟต์โดยสาร 4 ตัว มีลิฟต์ขนของ 1 ตัว

---

ภายในโครงการที่ชั้นล่างจะมี Multi Sport Carpark มีพื้นที่ประมาณ 400 ตร.ม. เป็นทั้งที่จอดรถและสนามสตรีทบาสเก็ตบอล ล้อมรอบด้วยสวนพักผ่อน ดูร่มรื่นเป็นส่วนตัว

Sensory Garden พื้นที่สวนพักผ่อนเชื่อมต่อกับ Multi Sport Carpark มีพื้นที่นั่งพักผ่อนใต้ต้นไม้ สวนจัดตกแต่งมาได้ร่มรื่นดีครับ

Pet Park ด้านหลังโครงการขนาดประมาณ 300 ตร.ม. ขนาดใหญ่ที่สุดในเครือ Major Development มีพื้นที่ให้สัตว์เลี้ยงได้ออกกำลังกาย เดินเล่น หรือทำธุระส่วนตัวได้ เป็นโครงการที่เหมาะกับคนรักสัตว์มากๆครับ

Double Volume Lobby พื้นที่เปิดโล่ง ฝ้าสูง 5.4 ม. แบ่งโซนนั่งพักผ่อน จัดชุดโซฟามาให้หลายชุด Mood & Tone ในการตกแต่งจะเหมือนกับ Sale Gallery เลยครับ

ติดกับ Lobby จะเป็นส่วน Co-Working Lounge

---

::: แปลนชั้น 8 :::

ชั้น 8 จะเริ่มเป็นชั้นพักอาศัย มีจำนวนห้องพักอาศัย 25 ยูนิต แบ่งเป็นห้อง Studio 3 ยูนิต, 1 Bed 11 ยูนิต, 1 Bed Plus 7 ยูนิต, 2 Bed 4 ยูนิต และชั้นนี้จะเป็นชั้นส่วนกลางมีสวนพักผ่อน

---

::: แปลนชั้น 9-23 :::

แปลนชั้น 9-23 จะเหมือนกัน เป็นชั้นพักอาศัย มีชั้นละ 25 ยูนิต แบ่งเป็นห้อง Studio 3 ยูนิต, 1 Bed 11 ยูนิต, 1 Bed Plus 7 ยูนิต, 2 Bed 4 ยูนิต ออกแบบให้ประตูห้องพักอาศัยทุกห้องไม่ตรงกันเพื่อความเป็นส่วนตัว

---

::: แปลนชั้น 24 :::

แปลนชั้น 24 เป็นชั้นพักอาศัย มีห้องพักทั้งหมด 24 ยูนิต แบ่งเป็นห้อง Studio 3 ยูนิต, 1 Bed 11 ยูนิต, 1 Bed Plus 7 ยูนิต, 2 Bed 3 ยูนิต มีสวนเล็กๆฝั่งมุมด้านหน้า สวนนี้ลูกบ้านสามารถใช้งานได้ทั้งหมดนะครับ โดยลูกบ้านชั้นอื่นๆจะ Access ได้จากบันไดหนีไฟ

---

::: แปลนชั้น 25 :::

แปลนชั้น 25 จะเหมือนชั้น 24 ครับ แต่สวนจะหายไป

---

::: แปลนชั้น 26 :::

แปลนชั้น 26 จะเป็นชั้นพักอาศัย มีห้องพักทั้งหมด 21 ยูนิต แบ่งเป็นห้อง Studio 1 ยูนิต, 1 Bed 10 ยูนิต, 1 Bed Plus 7 ยูนิต, 2 Bed 3 ยูนิต มีสวนเล็กๆฝั่งมุมด้านหน้า สวนนี้ลูกบ้านชั้นอื่นๆจะ Access ได้จากบันไดหนีไฟ

---

::: แปลนชั้น 27-28 :::

แปลนชั้น 27-28 จะเหมือนชั้น 26 แต่สวนจะหายไป

---

::: แปลนชั้น 29 :::

แปลนชั้น 29 เป็นชั้นพักอาศัย มีห้องพักทั้งหมด 20 ยูนิต แบ่งเป็นห้อง Studio 1 ยูนิต, 1 Bed 10 ยูนิต, 1 Bed Plus 7 ยูนิต, 2 Bed 2 ยูนิต มีสวนเล็กๆที่ชั้นนี้ สวนนี้ลูกบ้านชั้นอื่นๆจะ Access ได้จากบันไดหนีไฟ

---

::: แปลนชั้น 30-31 :::

แปลนชั้น 30-31 จะเหมือนชั้น 29 แต่สวนจะหายไปครับ

---

::: แปลนชั้น 32 :::

แปลนชั้น 32 จะเป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมด มีห้องพักทั้งหมด 19 ยูนิต แบ่งเป็นห้อง Studio 1 ยูนิต, 1 Bed 10 ยูนิต, 1 Bed Plus 6 ยูนิต, 2 Bed 2 ยูนิต

---

::: แปลนชั้น 33 :::

แปลนชั้น 33 เป็นชั้นพักอาศัย มีทั้งหมด 18 ยูนิต แบ่งเป็นห้อง Studio 1 ยูนิต, 1 Bed 9 ยูนิต, 1 Bed Plus 6 ยูนิต, 2 Bed 2 ยูนิต และมีสวนที่ชั้นนี้โดยลูกบ้านชั้นอื่นๆ Access ได้จากบันไดหนีไฟ

---

::: แปลนชั้น 34 :::

แปลนชั้น 34 เหมือนชั้น 33 แต่สวนจะหายไปครับ

---

::: แปลนชั้น 35 :::

แปลนชั้น 35 เป็นชั้นพักอาศัย มีทั้งหมด 17 ยูนิตแบ่งเป็น Studio 1 ยูนิต, 1 Bed 9 ยูนิต, 1 Bed Plus 5 ยูนิต, 2 Bed 2 ยูนิต

---

::: แปลนชั้น 36 :::

แปลนชั้น 36 เป็นชั้นพักอาศัย มีทั้งหมด 16 ยูนิตแบ่งเป็น Studio 1 ยูนิต, 1 Bed 8 ยูนิต, 1 Bed Plus 5 ยูนิต, 2 Bed 2 ยูนิต และมีสวนที่ชั้นนี้ ลูกบ้านชั้นอื่นๆ Access ได้จากบันไดหนีไฟ

---

::: แปลนชั้น 37 :::

แปลนชั้น 37 จะเหมือนชั้น 36 แต่สวนจะหายไป

---

::: แปลนชั้น 38 :::

แปลนชั้น 38 เป็นชั้นพักอาศัย มีทั้งหมด 15 ยูนิต แบ่งเป็น Studio 1 ยูนิต, 1 Bed 8 ยูนิต, 1 Bed Plus 4 ยูนิต, 2 Bed 2 ยูนิต

---

::: แปลนชั้น 39 :::

แปลนชั้น 39 เป็นชั้นพักอาศัย มีทั้งหมด 14 ยูนิต แบ่งเป็น Studio 1 ยูนิต, 1 Bed 7 ยูนิต, 1 Bed Plus 4 ยูนิต, 2 Bed 2 ยูนิต และมีสวนที่ชั้นนี้ ลูกบ้านชั้นอื่นๆ Access ได้จากบันไดหนีไฟ

---

::: แปลนชั้น 40 :::

แปลนชั้น 40 จะเหมือนชั้น 39 แต่สวนจะหายไป

---

::: แปลนชั้น 41 :::

แปลนชั้น 41 จะเป็นชั้นพักอาศัย มีทั้งหมด 13 ยูนิต แบ่งเป็น Studio 1 ยูนิต, 1 Bed 7 ยูนิต, 1 Bed Plus 3 ยูนิต, 2 Bed 2 ยูนิต

---

::: แปลนชั้น 42 :::

แปลนชั้น 42 จะเป็นชั้นพักอาศัย มีทั้งหมด 10 ยูนิต แบ่งเป็น Studio 1 ยูนิต, 1 Bed 6 ยูนิต, 1 Bed Plus 1 ยูนิต, 2 Bed 2 ยูนิต และมีสวนที่ชั้นนี้ ลูกบ้านชั้นอื่นๆ Access ได้จากบันไดหนีไฟ

---

::: แปลนชั้น 42m-43 :::

แปลนชั้น 43 จะมีสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส และห้องน้ำแยกชายหญิง จากชั้น 43 จะมีบันไดเดินลงไปที่ชั้น 42m เป็นห้อง Cat Haus และ Multi Pet Play room

ห้องฟิตเนสที่ชั้น 43 พร้อมเครื่องออกกำลังกายหลากหลายชนิด ผนังกระจกสูงถึงฝ้าเปิดรับวิวเมือง

สระว่ายน้ำที่ชั้น 43 แบบ Semi-Outdoor ระบบเกลือขนาด 26.5 x 5 ม. แบ่งสระเด็กขนาด 3.6 x 2.9 ม. และมีส่วนที่เป็น Jacuzzi ขนาด 3.6 x 6.8 ม. ไว้แช่ตัวพร้อมชมวิวรอบๆ

ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Cat Haus ที่ชั้น 42m สำหรับลูกบ้านที่เลี้ยงแมวสามารถนำน้องแมวมาเล่นกับเพื่อนๆที่ห้องนี้ได้ครับ

ภาพจำลอง Multi Pet Play room ห้องสำหรับสัตว์เลี้ยงขนาดเล็กเช่น กระต่าย เม่นแคระ หนูแฮมสเตอร์ ชูการ์ไกลเดอร์ นำน้องๆมาปล่อยเล่นในห้องนี้ได้ เรียกได้ว่าเป็นโครงการที่เหมาะกับคนรักสัตว์มากๆครับ

Sky Lounge ที่ชั้น 44 พื้นที่นั่งพักผ่อนพร้อมชมวิวรอบๆโครงการ

---

::: แปลนชั้น 45 :::

ที่ชั้น 45 เป็นชั้นบนสุดของอาคารจะมี Sky Urban Farm และ Party Deck

Sky Urban Farm และ Party Deck ที่ชั้น 45 ชั้นบนสุดของอาคาร พื้นที่พักผ่อนหรือไว้จัดปาร์ตี้เล็กๆ พร้อมชมวิวเมืองได้รอบๆ มีส่วนที่เป็นแปลงผักสวนครัว ลูกบ้านสามารถนำไปประกอบอาหารได้

ภายในโครงการได้นำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใช้ทั้ง Face Scan ในการเข้าออกอาคาร พร้อมประตูอัตโนมัติ, UV-C+Timer ในห้องเก็บพัสดุ, Wireless Charger, Touchless Lift, EV Charger, Home Automation ทุกยูนิต, Panasonic Nanoe-X นวัตกรรมกำจัดและยับยั้งเชื้อไวร้ส

---

:::: แบบห้อง ::::

โครงการมีแบบห้องให้เลือก 5 แบบดังนี้

• Studio ขนาด 23.7-24.8 ตร.ม.
• 1 Bedroom ขนาด 28-31.8 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus ขนาด 34.1-34.7 ตร.ม.
• 2 Bedrooms 1 Bathroom ขนาด 42-42.6 ตร.ม.
• 2 Bedrooms 2 Bathrooms ขนาด 49.6 ตร.ม.

จุดเด่นของโครงการนี้คือจะได้ Fully Furnished พร้อมระบบ Home Automation และฟังก์ชัน Work From Home ในทุกยูนิต รองรับกับไลฟ์สไตล์ในยุคปัจจุบัน

• Studio ขนาด 23.7-24.8 ตร.ม.

• 1 Bedroom ขนาด 28-31.8 ตร.ม.

• 1 Bedroom Plus ขนาด 34.1-34.7 ตร.ม.

• 2 Bedrooms 1 Bathroom ขนาด 42-42.6 ตร.ม.

• 2 Bedrooms 2 Bathrooms ขนาด 49.6 ตร.ม.

---

:::: ห้องตัวอย่าง ::::

วันนี้เรามีห้องตัวอย่างมาให้ชม 2 แบบ เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 30.7 ตร.ม. และ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.7 ตร.ม. โดยโครงการขายแบบ Fully Furnished จะได้ตู้วางทีวี, โซฟา, โต๊ะกลาง, โต๊ะรับประทานอาหาร, เตียงนอน, โต๊ะข้างเตียง, โต๊ะทำงาน, ตู้เสื้อผ้า, ชุดครัว, แอร์ติดผนัง, สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ, CCTV, Nanoe-X และระบบ Home Automation

โครงการนี้เป็น Pet-Friendly Residences หรือคอนโดมิเนียมที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ ทุกยูนิตสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ตามที่กำหนด โดยจะต้องลงทะเบียนกับทางนิติบุคคล ต้องปฏิบัติตามข้อตกลงทั้งหมด และจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนอกเหนือจากค่าส่วนกลางด้วยนะครับ

แบบแรก 1 Bed ขนาด 30.7 ตร.ม. จุดเด่นของห้องนี้ ภายในห้องแบ่งเป็นสัดส่วน ส่วนห้องนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหารมีพื้นที่มาให้เยอะ ห้องนอนมีพื้นที่มาให้พอสมควร มีพื้นที่วางเตียง โต๊ะทำงาน และตู้เสื้อผ้าได้ครบ ส่วนครัวได้เป็นครัวปิดและอยู่ติดระเบียงระบายอากาศได้สะดวกเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหาร ในครัวสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารเพิ่มได้ จะสลับตำแหน่งจากในห้องนั่งเล่นมาไว้ในห้องครัวก็ได้ ผนังของห้องฝั่งที่เชื่อมระหว่างห้อง จะก่อผนัง 2 ชั้น Double Wall + Air Gap 20 mm ช่วยกันเสียงได้ดี

เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหารใช้พื้นที่ร่วมกัน อีกฝั่งจะเป็นห้องน้ำ ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นห้องนอน ประตูห้องนอนจะเป็นกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ภายในห้องนอนมีพื้นที่มาให้พอสมควร วางเตียง 5 ฟุต ตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงานได้ ติดกันเป็นห้องครัวได้เป็นครัวปิดมีพื้นที่มาให้กำลังดี ครัวจะอยู่ติดกับระเบียงเวลาใช้งานกลิ่นจะระบายออกนอกระเบียงได้ง่าย

เร่ิมจากประตูห้องเป็นบานทึบลายไม้ บริเวณจุดสัมผัสติดตั้งฟิลม์ Z-Touch ช่วยฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ไม่ส่งต่อเชื้อให้คนถัดไป

ที่ประตูจะได้ Digital Door Lock ใช้งานได้ทั้งสแกนนิ้วมือ รหัสผ่าน คีย์การ์ด และกุญแจ ฝั่งด้านในจะติดตั้ง Door Sensor สามารถตรวจสอบเวลาการเข้าออกประตู สามารถตั้ง Welcome Scene เวลาเปิดประตูเข้ามาแล้วให้ไฟเปิด หรือให้แอร์เปิดได้ ควมคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชันในมือถือ

เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหารที่ใช้งานร่วมกัน ถัดไปด้านในจะเป็นห้องนอน และห้องครัว พื้นห้องจะเป็น SPC หนา 4 มม. กันน้ำ กันปลวก ทนต่อรอยขีดข่วนได้ดี ฝ้าเพดานสูง 2.6 ม. ผนังได้ฉาบเรียบทาสี ทุกห้องจะได้ระบบ Home Automation ควมคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชันในมือถือ

เดินเข้ามาแล้วมองกลับไปที่ประตูทางเข้าจะเห็นว่าพื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นมีพื้นที่มาให้เยอะดีครับ ขนาดพื้นที่ส่วนนี้ประมาณ 3.7 x 2.5 ม.

ตรงห้องนั่งเล่นจะติดตั้ง Panasonic Nanoe-X หรือเทียบเท่า* นวัตกรรมกำจัดและยับยั้งเชื้อไวร้ส ด้วยเทคโนโลยีที่ใช้ประโยชน์จากอนุมูลไฮดรอกซิล(OH) ช่วยกำจัดกลิ่น ยับยั้งแบคทีเรียและไวรัส เชื้อรา สารก่อภูมิแพ้ ละอองเกสรดอกไม้ ช่วยให้ผิวและเส้นผมชุ่มชื้น

ในห้องจะได้กล้อง CCTV 1 ตัว ควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชันในมือถือ สามารถพูดคุยผ่านกล้องได้ ถ้าห้องใครมีสัตว์เลี้ยงเวลาที่เราไม่อยู่ห้องต้องออกไปทำงาน ก็เอาไว้ส่องดูน้องๆ หรือจะพูดคุยกับน้องๆก็ได้ครับ สวิตช์ไฟในห้องเป็นแบบสัมผัส

ได้โซฟาขนาด 2 ที่นั่งสีตามนี้เลย พร้อมโต๊ะกลางแบบนี้เลยครับ ตรงห้องนั่งเล่นจะได้แอร์ติดผนัง 1 ตัว ของ Haier ระบบ Inverter

ด้านหลังโซฟาวางโต๊ะรับประทานอาหาร พร้อมเก้าอี้ 2 ตัว จะได้แบบนี้เลย

ระยะดูทีวีจากโซฟาประมาณ 2.5 ม. และจากโต๊ะรับประทานอาหารประมาณ 3 ม. ใช้งานทีวีร่วมกันได้เลยครับ ด้านหลังทีวีจะเป็นห้องน้ำ

ได้ตู้วางทีวีเป็นแบบบานเปิด 3 บาน ในห้องจะได้ Smart Plug แบบราง Plug เราสามารถนำเครื่องใช้ไฟฟ้าปกติมาเปลี่ยนเป็น Smart ได้ เพียงแค่มาเสียบกับ Smart Plug ครับ เราก็สามารถตั้งเวลาเปิด-ปิดได้ ผ่านแอปพลิเคชันในมือถือ

ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง

อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Cotto พร้อมตู้เก็บของใต้อ่าง

ติดกันวางโถสุขภัณฑ์ของ Cotto พร้อมสายชำระ

มุมด้านในเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเลื่อน 3 ตอนมาให้เรียบร้อย ด้านในติดตั้งฝักบัวพร้อมช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำ

ถัดไปด้านในขวามือจะเป็นห้องนอน ซ้ายมือจะเป็นห้องครัว ประตูห้องจะใช้เป็นกระจกบานเลื่อนทั้งหมด ข้อดีคือช่วยทำให้ห้องดูโปร่ง โล่ง ไม่อึดอัด และยังช่วยดึงแสงจากฝั่งด้านนอกเข้ามาในห้องได้เยอะ

ภายในห้องนอนมีพื้นที่มาให้ประมาณ 3.4 x 3.2 ม. ในห้องนอนจะได้เตียง 5 ฟุต พร้อมโต๊ะข้างเตียง

ใต้เตียงจะมีลิ้นชักไว้ให้เก็บของต่างๆได้อีก

ตรงหัวเตียงชุดปลั๊กไฟมีช่องเสียบสำหรับ USB มาให้ 2 ช่อง

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 3.2 ม. ติดทีวีจอใหญ่ได้เลยครับ ในห้องนอนจะได้แอร์ติดผนัง 1 ตัว

ปลายเตียงจะได้โต๊ะทำงานพร้อมเก้าอี้ 1 ตัว ของที่ได้จะเป็นฝั่งซ้ายลิ้นชัก 1 ช่องครับ ฝั่งขวาห้องตัวอย่างตกแต่งมาให้ดูครับ

ช่องแสงในห้องนอนขนาดใหญ่ เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน เปิดระบายอากาศได้ ในห้องนอนมีหน้าต่างที่โชว์ภาพวิวจริงให้เห็นด้วยนะครับ มีวิวจริงให้ชม 4 ทิศ ทั้งกลางวันกลางคืน ในระดับ Low Zone, Mid Zone, High Zone แจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายได้เลยครับว่าต้องการชมวิวฝั่งไหน

ฝั่งด้านในจะวางตู้เสื้อผ้าได้

ตู้เสื้อผ้าทางโครงการจะ Built-in มาให้เลย เป็นตู้บานเปิดภายในแบ่งช่องมาให้ตามนี้เลย

ถัดมาห้องครัวจะได้เป็นครัวปิดแยกเป็นสัดส่วน ภายในห้องครัวมีพื้นที่ประมาณ 2.4 x 1.9 ม. มีพื้นที่ให้วางโต๊ะรับประทานอาหารได้อีก เราจะนำโต๊ะรับประทานอาหารด้านนอกเข้ามาไว้ในห้องครัวก็ได้ครับ

ชุดเคาน์เตอร์ครัวที่ได้เป็นแบบบานเปิด 4 บาน และลิ้นชัก 2 ช่อง ท็อปเคาน์เตอร์จะได้เป็นหินสังเคราะห์

ได้เตาไฟฟ้าหน้าเซรามิกแบบ 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควันของ Hafele ส่วน Backsplash จะกรุกระเบื้องมาให้ทำความสะอาดได้ง่าย

ได้อ่างล้างจานแบบหลุมเดียวฝังท็อปเคาน์เตอร์มาให้เรียบร้อยของ Hafele พร้อมฝาปิดอ่างเพื่อเพิ่มพื้นที่การใช้งาน ก๊อกน้ำเปิดปิดด้วยระบบ Sensor เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน ตรงปลั๊กไฟที่ผนังส่วนนี้จะให้ Smart Plug เพิ่มมาอีกครับ

ถัดไปเป็นระเบียงมีประตูกระจกบานเลื่อนเปิดเชื่อมออกไปได้

ตรงระเบียงมีพื้นที่ประมาณ 2.34 x 0.80 ม. มีพื้นที่ให้วางเครื่องซักผ้าได้ เดินระบบน้ำไว้ให้ ด้านบนแขวนคอมเพลสเซอร์แอร์ 2 ตัวเป่าลมออกด้านนอก

---

แบบที่สอง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.7 ตร.ม. จุดเด่นของห้องนี้ ตำแหน่งห้องจะอยู่ฝั่งทิศตะวันตกซึ่งชั้นสูงๆก็จะได้วิวสวนจตุจักร และในห้องจะได้ห้องอเนกประสงค์เพิ่มมาอีกห้อง สามารถทำเป็นห้องทำงาน ห้องเก็บของ หรือเป็นห้องนอนอีกห้องก็ได้ ส่วนห้องนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหารมีพื้นที่มาให้เยอะ แต่จะใช้งานร่วมกับส่วนครัว พื้นที่เปิดโล่งเชื่อมต่อกัน ส่วนห้องนอนจะมีทางเข้าห้องน้ำจากในห้องนอนได้เลย

เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่น ส่วนรับประทานอาหาร และส่วนครัว พื้นที่จะเปิดโล่งเชื่อมต่อกัน ถัดไปจะเป็นห้องอเนกประสงค์อยู่ติดกับระเบียงหลังห้อง อีกฝั่งเป็นห้องนอน ภายในห้องนอนมีพื้นที่มาให้พอสมควร วางเตียง ตู้ โต๊ะได้ครบ ห้องน้ำมีทางเข้าออก 2 ทาง คือจากในห้องนอน และจากห้องนั่งเล่นใช้งานได้สะดวก

เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหาร ขวามือจะเป็นห้องน้ำ ด้านในจะเป็นห้องนอนและห้องอเนกประสงค์ พื้นห้องจะเป็น SPC หนา 4 มม. ฝ้าเพดานสูง 2.6 ม. ผนังได้ฉาบเรียบทาสี ทุกห้องจะได้ระบบ Home Automation

เดินเข้ามาแล้วมองกลับไปที่ประตูห้อง ขวามือจะเป็นส่วนครัว ได้เป็นครัวเปิดเชื่อมกับพื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่น พื้นที่ส่วนนี้ประมาณ 3.4 x 3.6 ม.

ชุดเคาน์เตอร์ครัวที่ได้เป็นตู้บานเปิด 4 บาน และลิ้นชัก 2 ช่อง มีช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าตรงกลาง

เตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันของ Hafele และอ่างล้างจานฝังท็อปพร้อมฝาปิดอ่างของ Hafele มีพื้นที่ส่วนเตรียมอาหารมาให้กำลังดี

ส่วนครัวจะเชื่อมกับส่วนห้องนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหาร

ได้โซฟา โต๊ะกลาง และโต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้ 2 ตัว โซฟาจะได้แบบห้องแรกครับ

ระยะดูทีวีจากโต๊ะรับประทานอาหารประมาณ 3.6 ม.

ได้ตู้วางทีวีเหมือนห้องแรกครับ ขวามือเราทำเป็นมุมสัตว์เลี้ยงได้

มองไปอีกฝั่งจะเป็นห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง ห้องน้ำมีทางเข้าออก 2 ทางคือ จากตรงห้องนั่งเล่นและจากในห้องนอน

อ่างล้างหน้า และโถสุขภัณฑ์ที่ได้ของ Cotto

มุมด้านในเป็นพื้นที่ส่วนเปียกติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเลื่อน 3 ตอน ด้านในติดตั้งฝักบัวพร้อมช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้

ถัดไปด้านในขวามือจะเป็นห้องนอน ซ้ายมือจะเป็นห้องอเนกประสงค์

ภายในห้องนอนมีพื้นที่ประมาณ 3.2 x 2.5 ม. ได้เตียงนอน 5 ฟุตพร้อมโต๊ะข้างเตียง

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.5 ม.

ในห้องนอนจะมีช่องแสงขนาดใหญ่ เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน เปิดระบายอากาศได้

ฝั่งด้านในมีประตูทางเข้าห้องน้ำจากในห้องนอนได้เลย หน้าทางเข้าห้องน้ำจะได้ตู้เสื้อผ้า

ตู้เสื้อผ้าที่ได้เป็นตู้บานเปิด ภายในแบ่งช่องเก็บของมาให้

ถัดมาเป็นห้องอเนกประสงค์ จะได้ประตูเป็นกระจกบานเลื่อน 3 ตอน

ภายในมีพื้นที่ประมาณ 2.4 x 2.4 ม. ห้องนี้จะทำเป็นห้องนอนอีกห้องก็ได้ หรือทำเป็นห้องทำงานเหมือนห้องตัวอย่างก็ได้ครับ

ถัดไปจะเป็นระเบียงมีประตูกระจกบานเลื่อนเปิดเชื่อมออกไปได้

ตรงระเบียงมีพื้นที่ประมาณ 2.48 x 0.80 ม.

---

:::: ราคา (มีนาคม 2565) ::::

• Studio ขนาด 23.7-24.8 ตร.ม.
• ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท*
  

  ---

• เงินจองและทำสัญญา 20,000 บาท
• ผ่อนดาวน์เริ่มต้น 2,999 บาท*
• ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://bit.ly/35CPFFK

***ข้อมูลราคา และโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

---

:::: สรุป ::::

ทำเลที่ตั้งโครงการ – Metris District Ladprao ตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านลาดพร้าว เป็นทำเลที่โดดเด่นเหมาะสำหรับการอยู่อาศัยเอง และปล่อยเช่าทั้งนักเรียนนักศึกษาหรือกลุ่มพนักงานจาก SCB , PTT , SCG และอาคารสำนักงานรอบ ๆ ที่มีอยู่เยอะมาก หรือคนที่ทำงานในแนวรถไฟฟ้าทั้งแนว BTS และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT เนื่องจากเป็นทำเลที่เดินทางสะดวก เชื่อมต่อได้หลากหลาย

ย่านนี้มีอุดมสมบูรณ์สูง มีห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารในระยะที่เดินถึงได้ อย่าง Central ลาดพร้าว, Union Mall, Big C ลาดพร้าว 2, Lotus’s ลาดพร้าว, Gourmet Market ไม่ต้องไปไหนไกลก็มีตัวเลือกให้เดิน Shopping ได้หลากหลาย ตั้งแต่เรื่องอาหารการกิน ของใช้ต่างๆ เสื้อผ้า โรงหนัง และที่สำคัญคือราคาย่อมเยาว์

ตรงห้าแยกลาดพร้าวจะมีสวนสมเด็จย่า 84 หรือจะเดินไปสวนจตุจักร สวนรถไฟก็ได้ ภายในสวนร่มรื่น มีจักรยานให้เช่าปั่นเล่นได้ และมีหอสมุดพุทธาสด้วย ใครอยากชวนที่บ้านมาเดินเล่นพักผ่อนปฎิบัติธรรม ที่นี่ก็เป็นอีกที่ที่สวยสงบดีครับ หรือจะมาออกกำลังกายก็ได้ และในช่วงวันเสาร์อาทิตย์ก็มาเดิน Shopping ตลาดนัดจตุจักรกันได้อีกครับ

---

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – เดินทางสะดวกติดถนนใหญ่ลาดพร้าว ใกล้ห้าแยกลาดพร้าว และแยกลาดพร้าว-รัชดา แต่ละแยกเป็นจุดตัดกับถนนเส้นสำคัญที่ใช้เดินทางเข้าออกเมืองได้สะดวก ทั้งถนนพหลโยธิน ถนนวิภาวดีรังสิต และถนนรัชดาภิเษก และยังใกล้ทางด่วนโทลล์เวย์ ทางด่วนศรีรัช และทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ที่ช่วยร่นระยะเวลาในการเดินทางเข้าออกเมืองได้มากขึ้นอีกด้วย

จากโครงการมาห้าแยกลาดพร้าว มาเข้าจตุจักร สะพานควาย ยาวไปอนุสาวรีย์ชัยฯได้เลย หรือจะตัดเข้าถนนวิภาวดีรังสิต วิ่งไปเข้าดินแดง และอนุสาวรีย์ชัยฯได้อีกทาง มีทางด่วนโทลล์เวย์ให้ขึ้น

จากโครงการมาแยกรัชดา-ลาดพร้าว ตัดเข้าถนนรัชดาภิเษก วิ่งไปสุทธิสาร ห้วยขวาง แยกพระรามเก้า ตรงข้ามไปเข้าอโศกดินแดง มีทางแยกไปเข้าจตุรทิศ หรือตรงไปแยกอโศก-เพชรบุรี ไปเข้าอโศกมนตรี ผ่านแยกอโศกก็เป็นเส้นสุขุมวิทแล้วครับ จะไปฝั่งพร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัย หรือไปฝั่งนานา เพลินจิต ชิดลมสยามก็ได้

ถ้าออกนอกเมือง ถนนวิภาวดีรังสิตขาออกเมืองวิ่งไปผ่านบางเขน หลักสี่ ดอนเมือง ไปเชื่อมกับถนนพหลโยธิน ออกรังสิต อยุธยาได้ มีทางด่วนโทลล์เวย์ให้ขึ้น หรือใช้ถนนพหลโยธินจะวิ่งผ่านแยกรัชโยธิน เกษตร วงเวียนหลักสี่ สะพานใหม่ ออกรังสิตได้อีกทาง ส่วนถนนลาดพร้าววิ่งออกไปบางกะปิ เชื่อมต่อไปเลียบด่วนรามอินทรา รามคำแหง มีนบุรีได้ หรือจากถนนรัชดาภิเษกตรงไปฝั่งวงศ์สว่าง พระราม 7 จรัญสนิทวงศ์ ปิ่นเกล้าได้ครับ

---

การเดินทางโดยรถสาธารณะ – จุดเด่นของโครงการ คือ อยู่ใกล้รถไฟฟ้าหลายสาย ห่างจาก MRT พหลโยธิน เพียง 230 ม. เป็นสถานีเชื่อมต่อกับ BTS ห้าแยกลาดพร้าว นั่งต่อเดียวถึงสยาม อโศก สีลมได้เลย และยังใกล้ MRT ลาดพร้าวประมาณ 900 ม. เป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ตอนนี้อยู่ในช่วงก่อสร้าง

จาก MRT พหลโยธิน นั่งไปลง MRT ศูนย์วัฒนธรรมฯ เพียง 5 สถานี จะเป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม ถ้านั่งไปลง MRT บางซื่อเพียง 3 สถานี จะเป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีแดง และแดงอ่อน และถ้าไปลง MRT เตาปูน เพียง 4 สถานี จะเป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง

นอกจากนี้ตรงเส้นลาดพร้าว และเส้นพหลโยธิน ยังมี Taxi วินมอเตอร์ไซค์ รถตู้ รถเมล์ผ่านตลอดแทบจะ 24 ชั่วโมง ออกมาหน้าโครงการก็โบกเรียกได้เลยสะดวกมาก จะไปไหนก็ไว รถติดก็มีทางเลี่ยงเยอะแยะ และใช้ระยะทางไปไหนมาไหนค่อนข้างสั้น ถือเป็นทำเลที่มีความสะดวกมากๆ ทั้งคนใช้รถส่วนตัวและใช้ระบบขนส่งสาธารณะ

---

การออกแบบโครงการ และวัสดุ ตัวโครงการออกแบบด้วยแนวคิด Mid Century modern ผสานกลมกลืนกับแนวคิด Juxtaposition ที่จัดเรียงเรื่องราวความต่างอย่างลงตัว สีภายนอกอาคารใช้โทนสีน้ำตาล อาคารสูง 45 ชั้น 1 อาคาร จอดรถได้ที่ชั้น 1-7 ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 8-42 ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้น 1, 8, 24, 26, 29, 33, 36, 39, 42, 43, 44, 45

การออกแบบในห้องพักอาศัยที่นี่มีให้เลือกแบบหลักๆคือ Studio ขนาด 23.7-24.8 ตร.ม., 1 Bedroom ขนาด 28-31.8 ตร.ม., 1 Bedroom Plus ขนาด 34.1-34.7 ตร.ม., 2 Bedrooms 1 Bathroom ขนาด 42-42.6 ตร.ม., 2 Bedrooms 2 Bathrooms ขนาด 49.6 ตร.ม.

ห้องออกแบบมาได้กว้าง แต่ละส่วนใช้งานได้จริง เวลาอยู่อาศัยรู้สึกไม่อึกอัด ฝ้าสูง 2.6 ม. แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน มีช่องแสงที่ส่องเข้าถึงภายในห้องได้เยอะ จุดเด่นของแปลนห้องโครงการนี้คือจะได้ฟังก์ชันสำหรับ Work From Home ในทุกยูนิต รองรับกับไลฟ์สไตล์ในยุคปัจจุบัน

---

ห้องตัวอย่างแบบ 1 Bed ขนาด 30.7 ตร.ม. จุดเด่นของห้องนี้ ภายในห้องแบ่งเป็นสัดส่วน ส่วนห้องนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหารมีพื้นที่มาให้เยอะ ห้องนอนมีพื้นที่มาให้พอสมควร มีพื้นที่วางเตียง โต๊ะทำงาน และตู้เสื้อผ้าได้ครบ ส่วนครัวได้เป็นครัวปิดและอยู่ติดระเบียงระบายอากาศได้สะดวกเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหาร

ห้องตัวอย่างแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.7 ตร.ม. จุดเด่นของห้องนี้ ตำแหน่งห้องจะอยู่ฝั่งทิศตะวันตกซึ่งชั้นสูงๆจะได้วิวสวนจตุจักร ภายในห้องจะได้ห้องอเนกประสงค์เพิ่มมาอีกห้อง สามารถทำเป็นห้องทำงาน ห้องเก็บของ หรือเป็นห้องนอนอีกห้องก็ได้ ส่วนห้องนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหารมีพื้นที่มาให้เยอะแต่จะใช้งานร่วมกับส่วนครัว พื้นที่เปิดโล่งเชื่อมต่อกัน ส่วนห้องนอนมีพื้นที่มาให้พอสมควร มีทางเข้าห้องน้ำจากในห้องนอนได้เลย

ส่วนวัสดุที่ทางโครงการใช้ ให้สเปคมาค่อนข้างดีพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ๆที่มาช่วยอำนวยความสะดวก และยังเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับผู้อาศัยอีกด้วย โครงการขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ครบชุด จะได้ตู้วางทีวี, โซฟา, โต๊ะกลาง, โต๊ะรับประทานอาหาร, เตียงนอน, โต๊ะข้างเตียง, โต๊ะทำงาน, ตู้เสื้อผ้า, ชุดครัว, แอร์ติดผนัง, สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ, CCTV, Nanoe-X และระบบ Home Automation

---

สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ส่วนกลางที่นี่ให้มาจัดเต็มแบบ Maximal Facilities ออกแบบมาได้สวยน่าใช้งานในทุกส่วน ฟังก์ชันหลากหลายรองรับกับทุกกิจกรรม และมีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับสัตว์เลี้ยงมาให้อีกด้วย โดยส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้น 1, 8, 24, 26, 29, 33, 36, 39, 42, 43, 44, 45

ที่ชั้น 1 ด้านหน้าอาคารจะมี Sensory Garden สวนพักผ่อนขนาดใหญ่ และ Multi Sport Carpark และมุมด้านหลังอาคารจะเป็น Pet Park พื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่กว่า 300 ตร.ม. ภายในตัวอาคาร Double Volume Lobby ฝ้าสูง 5.4 ม. มีส่วน Co-working Lounge และ Mail Room

ที่ชั้น 8 มีสวนพักผ่อนขนาดใหญ่ Therapy Garden เป็นมุมพักผ่อนหรือไว้เล่นโยคะได้

ที่ชั้น 24, 26, 29, 33, 36, 39, 42 เป็นชั้นที่มีสวนเล็กๆบริเวณมุมอาคาร ซึ่งถ้ามองจากภายนอกอาคารจะเป็นเหมือนสวนขั้นบันได ลูกบ้านชั้นอื่นๆสามารถใช้งานได้โดย Access จากบันไดหนีไฟ

ที่ชั้น 42m เป็นชั้นที่มีบันไดเดินลงมาได้จากชั้น 43 จะมี Cat Haus และ Multi Pet Play room เป็นห้องสำหรับสัตว์เลี้ยง

ที่ชั้น 43 จะเป็นชั้นส่วนกลางหลักของโครงการ มีสระว่ายน้ำขนาด 26.5 x 5 ม. แบ่งสระเด็ก และมีส่วน Jacuzzi ห้องฟิตเนสเปิดรับวิวสระและวิวนอกโครงการ และมีห้องน้ำแยกชายหญิง

ที่ชั้น 44 มี Observation Deck ทางเดินพร้อมชมวิวสระว่ายน้ำและวิวรอบโครงการ มี Sky Lounge เป็นพื้นที่นั่งพักผ่อน หรือไว้นั่งทำงานพร้อมชมวิวรอบๆโครงการ

ที่ชั้น 45 ชั้นบนสุดของอาคารเป็น Sky Urban Farm และ Party Deck พื้นที่สวนพักผ่อนหรือไว้จัดปาร์ตี้เล็กๆ พร้อมชมวิวเมืองได้รอบๆ และแปลงผักสวนครัวให้ลูกบ้านนำไปทำอาหารได้

ลิฟต์โดยสารมีให้ 4 ตัว ลิฟต์ขนของ 1 ตัว ตัวกดลิฟต์จะเป็นระบบ Sensor ลดการสัมผัส จอดรถได้ที่ชั้น 1-7 ที่จอดรถทั้งหมด 339 คันหรือติดเป็น 46% รวมจอดซ้อนคัน มีที่จอดสำหรับ EV Charger ระบบรักษาความปลอดภัยมีรปภ. มี CCTV ผ่านเข้าออกด้วยระบบสแกนใบหน้าและ Key Card Access

---

:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::

Call Center : 02-116-1111

Website : http://www.major.co.th

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ