EP.2073 รีวิว ทาวน์โฮม นาราทาวน์ รัตนาธิเบศร์-เวสต์เกต ใกล้ MRT สถานีคลองบางไผ่ และ Central Westgate & Ikea บางใหญ่ เพียง 2-3 กม.* เริ่ม 2.49 ล้านบาท

---

ชื่อโครงการ	นาราทาวน์ รัตนาธิเบศร์-เวสต์เกต Nara Town Rattanathibet-Westgate
เจ้าของโครงการ	บริษัท นารายณ์พร็อพเพอตี้ จำกัด / Narai Property
ลักษณะโครงการ	พรีเมียมทาวน์โฮม 2 ชั้น
พื้นที่โครงการ	31-2-30.6 ไร่
จำนวนบ้าน	349 ยูนิต
เนื้อที่บ้าน	เริ่มต้น 16.2-38.5 ตร.ว.
พื้นที่ใช้สอย	96-131 ตร.ม.
จำนวนห้อง	2-3 ห้องนอน, 2-3 ห้องน้ำ, 1 ห้องอเนกประสงค์
ที่จอดรถทั้งหมด	1-2 คัน
โซน	รัตนาธิเบศร์-เวสต์เกต
เส้นทางคมนาคม	ถนนจันทร์ทองเอี่ยม ถนนกาญจนาภิเษก ถนนรัตนาธิเบศร์ รถไฟฟ้า MRT สถานีคลองบางไผ่ รถไฟฟ้า MRT สถานีบางพลู ทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก มอเตอร์เวย์โครงการใหม่ บางใหญ่-กาญจนบุรี (เปิดให้บริการประมาณปี 2566)
ที่ตั้ง	ถ.จันทร์ทองเอี่ยม ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
กำหนดการ	เริ่มก่อสร้าง มกราคม 2564
ปีที่สร้างเสร็จ	คาดว่าแล้วเสร็จ กรกฎาคม 2570
ราคา	เริ่ม 2.49 ล้านบาท* (มิ.ย. 65)
ค่าส่วนกลาง	50 บาท/ตร.ว./เดือน
สถานที่สำคัญใกล้เคียง	ห้างสรรพสินค้า The Square บางใหญ่ : 2.4 กม. Home Pro รัตนาธิเบศร์ : 2.4 กม. Central Westgate : 3.0 กม. IKEA บางใหญ่ : 3.1 กม. บางใหญ่ ไนท์พลาซ่า : 6.2 กม. Index Living Mall บางบัวทอง : 6.2 กม. ตลาดบางใหญ่ : 6.6 กม. Big C Extra บางใหญ่ : 6.9 กม. Central รัตนาธิเบศร์ : 10.0 กม. Robinson รัตนาธิเบศร์ : 10.1 กม. Index Living Mall รัตนาธิเบศร์ : 10.2 กม. The Walk ราชพฤกษ์ : 11.4 กม. Esplanade รัตนาธิเบศร์ : 12.4 กม. Lotus’s บางใหญ่ : 12.7 กม. Crystal Park ราชพฤกษ์ : 15.2 กม. The Mall งามวงศ์วาน : 15.4 กม. สถานศึกษา รร.กสินธรเซนต์ปีเตอร์ : 3.5 กม. รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ นนทบุรี : 11.1 กม. รร.นานาชาติเด่นหล้า DBS : 9.4 กม. รร.สารสาสน์วิเทศบางบัวทอง : 11.7 กม. รร.สวนกุหลาบ นนทบุรี : 14.9 กม. ศูนย์การแพทย์ รพ.เกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล รัตนาธิเบศร์ : 2.6 กม. รพ.บางบัวทอง : 4.4 กม. รพ.บางใหญ่ : 7.9 กม. รพ.กระทรวงสาธารณะสุข : 14.8 กม. รพ.นนทเวช : 15.3 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก	คลับเฮาส์ ห้องนั่งเล่น ห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำระบบเกลือ แยกสระเด็ก-ผู้ใหญ่ สวนสาธารณะ ศาลาพักผ่อน สนามเด็กเล่น เข้า-ออกโครงการด้วยระบบกล้องอ่านป้ายทะเบียน และ Application ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
Tel	1393 กด 115
Website	https://www.naraiproperty.com/

---

---

:::: ที่ตั้งโครงการ ::::

ถ.จันทร์ทองเอี่ยม ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

พิกัด : 13.890160, 100.424251

ทำเลที่ตั้ง โครงการ Nara Town รัตนาธิเบศร์-เวสต์เกต ตั้งอยู่บนถนนจันทร์ทองเอี่ยม ในโซนนนทบุรี (West Zone ของกรุงเทพฯ) ซึ่งเป็นทำเลศักยภาพที่โดดเด่นด้วยเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะตรงจุดตัดถนนกาญจนาภิเษกที่แยกบางใหญ่ ซึ่งห่างจากโครงการไปเพียง 3 กม. มีครบทั้งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่, สถานศึกษา, โรงพยาบาล รวมไปถึงรถไฟฟ้าสายสีม่วง ที่สถานีคลองบางไผ่

เรียกได้ว่านอกจากจะเดินทางเชื่อมต่อเข้าสู่ตัวเมืองได้อย่างรวดเร็วด้วยถนนใหญ่แล้ว ก็ยังมีรถไฟฟ้ามาเป็นอีก 1 ตัวเลือก จึงเป็นทำเลที่เหมาะสำหรับคนใช้รถยนต์ส่วนตัวและคนใช้รถสาธารณะ

ส่วนพื้นที่โดยรอบโครงการเองก็เป็นโซนที่อยู่อาศัย มีทั้งบ้านพักอาศัยดั้งเดิมและบ้านจัดสรรทั้งเก่าและใหม่ ยังได้บรรยากาศของการอยู่อาศัยแบบชุมชน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวเหมาะสำหรับการพักผ่อนอยู่อาศัยค่ะ

การเดินทางด้วยรถยนต์ สามารถเดินทางได้สะดวกสบาย เพราะตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนจันทร์ทองเอี่ยม ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับถนนกาญจนาภิเษก ได้โดยตรงเพียง 1.7 กม. และใช้ถนนบางกรวย-ไทยน้อย เชื่อมต่อไปยังถนนรัตนาธิเบศร์ได้ในเพียง 3 กม.

โดยถนนกาญจนาภิเษกจะเป็นถนนเส้นใหญ่ที่การจราจรค่อนข้างจะคล่องตัว (ปกติจะรถติดแถว ๆ ด่านเก็บเงินเท่านั้นเองค่ะ) วิ่งยาวเป็นวงแหวนรอบตัวเมืองกรุงเทพฯ สามารถเชื่อมกับถนนสายหลักได้หลายสาย และใช้วิ่งลงไปเชื่อมต่อกับจุดขึ้น-ลงทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกเพื่อเข้าเมืองไปโซนพระราม 9 หรือไปสุวรรณภูมิได้ไม่ยาก

ส่วนถนนรัตนาธิเบศร์ก็เป็นถนนเส้นที่สามารถใช้วิ่งเข้าเมืองได้เช่นกัน โดยจะวิ่งไปตัดกับถนนราชพฤกษ์ และเชื่อมต่อกับถนนงามวงศ์วานผ่าน ม.เกษตร์ศาสตร์ เข้าสู่ถนนพหลโยธินได้

นอกจากนี้ก็ยังสามารถใช้ถนนบางกรวย-ไทรน้อยในการเชื่อมต่อไปยังถนนชัยพฤกษ์ เพื่อเข้าสู่ถนนแจ้งวัฒนะไปทางรามอินทรา-มีนบุรี หรือใช้ลงไปถึงโซนปิ่นเกล้า-จรัญสนิทวงศ์ได้ โดยจะตัดผ่านถนนหลายเส้น รวมไปถึงถนนราชพฤกษ์ ซึ่งก็เป็นถนนอีกเส้นที่สามารถใช้เข้าเมืองไปถึงโซน CBD อย่างโซนสาทรได้ค่ะ

ทางด่วน จากถนนกาญจนาภิเษกวิ่งลงมาขึ้นทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกได้ไม่ยากตามกราฟิกเลยค่ะ ช่วงรถโล่ง ๆ ก็วิ่งสบาย ๆ ประมาณ 14-15 นาทีได้

นอกจากนี้ก็ยังมีโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี โดยจะเริ่มต้นโครงการที่จุดตัดทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ด้านตะวันตกกับถนนรัตนาธิเบศร์ บริเวณทางแยกต่างระดับบางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี และไปบรรจบกับทางหลวงหมายเลข 324 (ถนนกาญจนบุรี-อ.พนมทวน) อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดโครงการ ใครที่มีธุระต้องเดินทางออกไปแถบกาญจนบุรีบ่อย ๆ ก็จะได้รับความสะดวกสบายในการเดินทางเพิ่มมากขึ้น

:: สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ ::

• ถนนกาญจนาภิเษก : 1.7 กม.
• ถนนรัตนาธิเบศร์ : 3.0 กม.
• ถนนชัยพฤกษ์ : 4.5 กม.
• ถนนราชพฤกษ์ : 5.0 กม.
• ถนนนครอินทร์ : 9.1 กม.
• แยกต่างระดับบางใหญ่ : 3.3 กม.
• แยกต่างระดับบางคูเวียง : 9.1 กม.

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ บนถนนจันทร์คลองเอี่ยมอาจจะไม่มีรถประจำทางวิ่งผ่าน แต่การเดินทางด้วยรถสาธารณะก็ยังง่าย เดินออกมาด้านหน้าโครงการก็เรียกแท็กซี่ได้แล้ว เพราะมีผ่านไปมาอยู่ตลอดทั้งวัน

และที่สำคัญเลยก็คือ โครงการยังอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วง เตาปูน-คลองบางไผ่ สถานีที่อยู่ใกล้ที่สุดจะเป็น สถานีคลองบางไผ่ ห่างจากตัวโครงการออกไปประมาณ 2 กม. เท่านั้น เรียกรถแท็กซี่วิ่งไปถึงแค่ 5 นาที ต่อเข้าเมืองเปลี่ยนสายได้ที่สถานีเตาปูนแบบสบาย ๆ ซึ่งถ้าเราจะนั่งเข้าเมือง จริง ๆ แนะนำให้ขึ้นที่สถานีตลาดบางพลูนะคะ อาจจะเพิ่มระยะทางจากโครงการไปตัวสถานีรวมเป็น 3 กม. แต่ Route โดยรวมจะใกล้กว่าค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์ บอกเลยว่าทำเลของโครงการเป็นจุดที่มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดในโซนตะวันตกแล้วค่ะ เพราตรงแยกต่างระดับบางใหญ่ จะมีทั้ง Central Westgate, Ikea, HomePro, Big C บางใหญ่, Big C Extra บางใหญ่, บางใหญ่ซิตี้, Index Living Mall, The Square และ รพ.เกษมราษฎร์ ซึ่งก็อยู่ใกล้โครงการในระยะ 3 กม. เท่านั้นเอง เดินทางไปสะดวกจริง ๆ

สำหรับตลาดสดและตลาดนัดก็มี ตลาดกลางบางใหญ่ และบางใหญ่ไนท์พลาซ่า ถ้าลงไปบริเวณแยกต่างระดับบางคูเวียง (จุดตัดถนนกาญจนาฯ-ถนนนครอินทร์) ก็ยังมี Lotus’s บางใหญ่ อีกค่ะ

(ที่มาภาพ : https://twitter.com, www.dplusguide.com, https://www.wongnai.com, http://www.ทําเลขายของ.com)

อีกที่ก็ตรงเส้นรัตนาธิเบศร์ มีห้างเยอะเหมือนกันค่ะ อยู่ติด ๆ กันเป็นอาณาจักรเลย มีทั้ง Central รัตนาธิเบศร์, Robinson, Index Living Mall, Big C และ Esplanade รัตนาธิเบศร์ และที่เส้นราชพฤกษ์ลงมาจากแยกพระราม 5 ก็จะมี The Walk, Crystal Park, Home Pro และ Homework อยากเลือกไปโซนไหนก็ได้ตามความชอบ

และถ้ามองหาความสบายใจเวลาเจ็บไข้ได้ป่วย หรือมองหาโรงเรียนสำหรับเด็ก ๆ นอกจาก รพ.เกษมราษฎร์ ที่ใกล้แล้ว ก็ยังมี รพ.บางบัวทอง, รพ.บางใหญ่, รร.กสินธรเซนต์ปีเตอร์, รร.สารสาสน์วิเทศบางบัวทอง, รร.เตรียมอุดมน้อมเกล้า นนทบุรี และ รร.นานาชาติเด่นหล้า DBS เป็นต้นค่ะ

:: สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ::

ห้างสรรพสินค้า

• The Square บางใหญ่ : 2.4 กม.
• Home Pro รัตนาธิเบศร์ : 2.4 กม.
• Central Westgate : 3.0 กม.
• IKEA บางใหญ่ : 3.1 กม.
• บางใหญ่ ไนท์พลาซ่า : 6.2 กม.
• Index Living Mall บางบัวทอง : 6.2 กม.
• ตลาดบางใหญ่ : 6.6 กม.
• Big C Extra บางใหญ่ : 6.9 กม.
• Central รัตนาธิเบศร์ : 10.0 กม.
• Robinson รัตนาธิเบศร์ : 10.1 กม.
• Index Living Mall รัตนาธิเบศร์ : 10.2 กม.
• The Walk ราชพฤกษ์ : 11.4 กม.
• Esplanade รัตนาธิเบศร์ : 12.4 กม.
• Lotus’s บางใหญ่ : 12.7 กม.
• Crystal Park ราชพฤกษ์ : 15.2 กม.
• The Mall งามวงศ์วาน : 15.4 กม.

สถานศึกษา

• รร.กสินธรเซนต์ปีเตอร์ : 3.5 กม.
• รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ นนทบุรี : 11.1 กม.
• รร.นานาชาติเด่นหล้า DBS : 9.4 กม.
• รร.สารสาสน์วิเทศบางบัวทอง : 11.7 กม.
• รร.สวนกุหลาบ นนทบุรี : 14.9 กม.

ศูนย์การแพทย์

• รพ.เกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล รัตนาธิเบศร์ : 2.6 กม.
• รพ.บางบัวทอง : 4.4 กม.
• รพ.บางใหญ่ : 7.9 กม.
• รพ.กระทรวงสาธารณะสุข : 14.8 กม.
• รพ.นนทเวช : 15.3 กม.

**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**

---

:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::

วันนี้เราเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวไปโครงการให้ชมเหมือนเช่นเคยค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก

ถนนรัตนาธิเบศร์ > ถนนบางกรวย-ไทรน้อย > ถนนจันทร์ทองเอี่ยม > Nara Town รัตนาธิเบศร์-เวสต์เกต

เราเริ่มต้นการเดินทางจากบนถนนรัตนาธิเบศร์ บริเวณหน้าห้าง Central, Index Living Mall และ Robinson รัตนาธิเบศร์ ซึ่งจะอยู่ห่างจากโครงการออกมาประมาณ 10 กม.

ให้เราขับตรงไปบนเส้นรัตนาธิเบศร์ยาว ๆ มุ่งหน้าบางบัวทอง-กาญจนาภิเษกค่ะ

ระหว่างทางเราจะขับผ่านรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงหลายสถานีเลย เพราะสายนี้จะตัดบนเส้นรัตนาธิเบศร์จนไปถึงถนนกาญจนาภิเษก

พอเราขับถึงป้าย อ.บางบัวทอง ให้เราชิดซ้ายออกทางคู่ขนาน

แล้วให้เราอยู่เลนกลางหรือเลนขวา เพื่อเลี้ยวเข้าถนนบางกรวย-ไทรน้อยที่แยกบางพลู ตรงจุดนี้เองก็จะเป็นที่ตั้งของ MRT สถานีบางพลู ค่ะ

ตรงเข้ามาบนถนนบางกรวย-ไทรน้อย ทางฝั่งซ้ายมือเราจะเห็นวัดบางไผ่อารามหลวง

เราจะผ่านปั๊มน้ำมันอยู่หลายสถานีเลยค่ะ ฝั่งซ้ายมือนี้คือปั๊ม PT

อีกฝั่งก็มีปั๊ม ปตท.

พอเราเห็นปั๊มเชลล์แล้วให้เราชิดซ้ายเลยค่ะ

ถัดจากปั๊มเชลล์มาก็ถึงทางเข้าถนนจันทร์ทองเอี่ยมแล้ว

ภายในถนนจันทร์ทองเอี่ยมจะเป็นลักษณะของชุมชนที่อยู่อาศัยที่ไม่หนาแน่น ยังมีความเป็นส่วนตัวสูง มีพวกร้านสะดวกซื้อ รวมไปถึงร้านค้าและร้านอาหารอยู่เป็นระยะ ๆ บริเวณฝั่งตรงข้ามใกล้ ๆ กับโครงการก็มี 7-11 อยู่ 1 สาขาค่ะ

เลยจาก 7-11 มา โครงการ Nara Town รัตนาธิเบศร์-เวสต์เกต ก็จะอยู่ฝั่งขวามือของเราแล้วค่า

ภาพทางเข้าโครงการ Nara Town รัตนาธิเบศร์-เวสต์เกต

มีป้ายชื่อโครงการที่สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน

---

:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::

อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่า ภายในถนนจันทร์ทองเอี่ยมจะเป็นลักษณะของชุมชนที่อยู่อาศัย พื้นที่โดยรอบโครงการส่วนใหญ่เลยจะเป็นพวกหมู่บ้านจัดสรร รวมไปถึงบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล ส่วนที่ดินที่ติดถับถนนก็มักจะถูกสร้างเป็นร้านค้าต่าง ๆ แล้วก็ยังมีร้านสะดวกซื้อรวมไปถึงร้านอาหารให้ฝากท้องได้

• ทิศเหนือ ติดกับ หมู่บ้านจัดสรร
• ทิศใต้ ติดกับ ถนนจันทร์ทองเอี่ยม
• ทิศตะวันออก ติดกับ หมู่บ้านจัดสรร
• ทิศตะวันตก ติดกับ ซอยเทศบาล 11/4

เรามาเดินดูบรรยากาศโดยรอบโครงการกันค่ะ เริ่มจากที่ฝั่งตรงข้ามกับโครงการจะเป็นผืนที่ดินเปล่า

จากหน้าโครงการหันไปทางซ้ายมือ มุ่งหน้าออกถนนบางกรวย-ไทรน้อย

เดินจากหน้าโครงการมาแค่ 60 เมตร ก็มี 7-11 และซุ้มขายอาหารเปิดให้บริการ สะดวกมาก ๆ

เดินเลยมาอีกนิดนึงจะเห็นอาคารเก่าขนาดใหญ่พอสมควร ตรงนี้คือร้านบุญเจริญพาณิชย์ เป็นขายของชำนะคะ ชาวบ้านแถวนี้บอกว่า ที่นี่ขายยันสากกระเบือยันเรือรบ มีครบทุกอย่างจริง ๆ ทั้งของสด ของแห้ง ขนมขบเคี้ยว อุปกรณ์เครื่องครัว อุปกรณ์ช่าง วัสดุก่อสร้าง ที่จอดรถก็มีให้บริการ ถ้าหาซื้อของจาก 7-11 ไม่ได้ ก็มาร้านนี้ได้เลยค่ะ

ฝั่งตรงข้ามก็มีห้องแถวเปิดเป็นร้านค้าต่าง ๆ

นอกจากพวกร้านค้าแล้วก็จะเป็นพวกหมู่บ้านจัดสรรตามที่บอกไป

คราวนี้จากหน้าโครงการ เราหันขวาตรงไปทางถนนกาญจนาภิเษกกันบ้าง

ติดกับพื้นที่โครงการก็คือซอยเทศบาล 11/4 เป็นทางเข้าหมู่บ้านจัดสรรข้างเคียง

ใกล้ ๆ กับหน้าโครงการเป็นร้านขายเฟอร์นิเจอร์ไม้

มีร้านรับถ่ายภาพและตัดต่อวีดีโอ

นอกจากนี้ก็มีอาคารพาณิชย์เปิดเป็นร้านค้าต่าง ๆ จะเห็นว่าบรรยากาศของถนนเส้นนี้จะไม่เงียบเหงา แต่ก็ไม่จอแจจนเกินไปค่ะ

---

:::: ตัวโครงการ ::::

สำหรับ Nara Town รัตนาธิเบศร์-เวสต์เกต นั้นเป็นโครงการพรีเมียมทาวน์โฮมจำนวน 349 หลัง บนที่ดินโครงการขนาดประมาณ 31 ไร่กว่า ๆ จุดเด่นของโครงการนี้ก็คือสไตล์ที่ใช้ออกแบบตัวงานสถาปัตยกรรม โดยเลือกใช้เป็นสไตล์ฝรั่งเศส ซึ่งบนทำเลนี้ มีแค่โครงการนี้โครงการเดียวเท่านั้นนะคะที่เป็นโครงการในสไตล์ยุโรป

สำหรับการเล่นกับตัวงานสถาปัตยกรรม ทางโครงการจะดึงเอกลักษณ์อย่างพวกซุ้มประตูโค้งและพวกการเล่นบัวเชิงผนังมาใช้ในการตกแต่ง จะเห็นได้ตั้งแต่ที่ Main Gate ของโครงการเลยค่ะ ส่วนสีที่เลือกใช้ก็จะเป็นสีขาวครีมดูคลีน ๆ ให้ลุคที่ดูทันสมัย หรูหรา ราคาแพง

Main Gate ของโครงการแบ่งเป็นช่องการจราจรฝั่งขาเข้า-ออก ออกจากกันอย่างชัดเจน ขั้นด้วยป้อม รปภ. ตรงกลาง

สำหรับฝั่งขาเข้ายังแบ่งออกเป็น 2 ช่อง ฝั่งซ้ายเป็นของ Resident และฝั่งขวาเป็นของ Visitor ลูกบ้านของโครงการจะสามารถผ่านรั้วไม้กระดก ได้ด้วยกล้องอ่านป้ายทะเบียนเพื่อเข้าโครงการได้อย่างรวดเร็ว และเรายังสามารถลงทะเบียนป้ายทะเบียนรถของ Guest ผ่าน Applicaiton ที่จะเข้ามาหาลูกบ้านล่วงหน้าได้เลยค่ะ

นอกจากนี้ยังมีกล้อง CCTV ติดเอาไว้ที่ Main Gate และตามจุดต่าง ๆ ของโครงการ และมีการตรวจตราความปลอดภัยให้ตลอด 24 ชม. เพื่อความปลอดภัยและความอุ่นใจในการอยู่อาศัย

ภาพบริเวณ Main Gate จากภายในโครงการ

ภายในโครงการมีการวางผังด้วยถนนหลักกว้าง 16 เมตร เชื่อมต่อด้วยถนนรองกว้าง 12 เมตร และถนนซอยกว้าง 9 เมตร บรรยากาศช่วงหน้าโครงการดูเปิดโล่ง เปิดมุมมองดี

บรรยากาศบริเวณถนนซอยภายในโครงการ ตัดผ่านหน้าบ้านทุกหลัง ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยดีนะคะ

พวกพื้นที่ส่วนกลางของโครงการจะถูกวางเอาไว้ติดกับ Main Gate เลยค่ะ ทั้งในส่วนของอาคารคลับเฮาส์และสวนสาธารณะ เป็นเสมือนกับจุดต้อนรับเวลากลับเข้ามาภายในโครงการด้วย

สวนสาธารณะถูกออกแบบมาให้เป็นลานสนามหญ้าขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วยต้นไม้ยืนต้น เหมาะสำหรับกิจกรรมนันทนาการของครอบครัว อย่างพวกการตีแบตมินตัน นั่งพักผ่อน เล่นโยคะ รวมถึงเป็นพื้นที่สำหรับเด็ก ๆ ให้วิ่งเล่นกันได้อย่างอิสระ

โดยรอบสวนออกแบบเป็นทางเดินสำหรับเดินเล่นพักผ่อน จะใช้เป็นลู่วิ่งออกกำลังกายก็ได้ มีม้านั่งจัดเอาไว้ให้เป็นมุม ๆ อยู่ใต้ร่มไม้

ท้ายสวนยังมีสนามเด็กเล่นและศาลาพักผ่อนจัดเอาไว้ให้ด้วยนะคะ

สำหรับการออกแบบสนามเด็กเล่น ทางโครงการเลือกปูพื้นด้วยแผ่นยางเพื่อความปลอดภัยของเด็ก ๆ มีพวกเครื่องเล่นต่าง ๆ จัดเอาไว้แบบนี้

ข้าง ๆ กันเป็นศาลาสำหรับนั่งพักผ่อน ให้ผู้ปกครองมานั่งเฝ้าเด็ก ๆ ได้

วิวของสวนและคลับเฮาส์จากศาลาพักผ่อน

สำหรับไฮไลต์ของโครงการนี้ก็คือ อาคารคลับเฮาส์ที่ถูกออกแบบมาอย่างสวยงามอลังการ ถ้าเทียบกับโครงการใน Segment ใกล้ ๆ กัน จะไม่ค่อยเห็นโครงการไหนให้พื้นที่สวนกลางมาสวยและมีขนาดใหญ่เท่านี้

ตัวอาคารถูกออกแบบมาในสไตล์ฝรั่งเศส ใช้ลูกเล่นของซุ้มประตูโค้ง บัวเชิง และหลังคา Mansard หรือ French Roof มาลดทอนให้ดูทันสมัย

ด้านหน้าของอาคารออกแบบเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 9 x 15 เมตร และลึก 1.2 เมตร ใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายได้สบายค่ะ

ภายในสระเองมีการกั้นส่วนแบ่งเป็นสระเด็กให้ด้วย มีความลึกอยู่ที่ 0.6 เมตร เด็กเล็กลงเล่นได้

สระออกแบบให้ได้วิวสวน ด้านข้างมีศาลาสำหรับนั่งพักผ่อนแยกกันเป็น 3 ส่วนเพื่อความเป็นส่วนตัว และมีโซน Shower จัดเอาไว้ให้ล้างตัวก่อนลงสระ

จากโซน Shower จะมีทางเดินเข้าสู่ตัวอาคารไปถึงโซนห้องน้ำได้

ห้องน้ำจัดแยกโซนชาย-หญิงให้เรียบร้อยนะคะ ภายในจะมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำเตรียมไว้ให้ การตกแต่งภายในทำออกมาได้สวยน่าใช้งาน

เรากลับมาที่ด้านหน้าคลับเฮาส์กัน ซุ้มประตูโค้งตรงกลางจะเป็นทางเข้าหลักของอาคารค่ะ

ผ่านประตูเข้ามาด้านในจะเป็นส่วนของ Foyer แยกฟังก์ชันออกเป็นฝั่งซ้ายและขวา

มาดูที่ฝั่งขวากันก่อนนะคะ

ที่ห้องแรกเป็นส่วนของสำนักงานขาย ภายในตกแต่งอย่างสวยงามเลย

ภายหลังการขาย ห้องนี้ก็จะถูกใช้เป็นห้องนั่งเล่นของลูกบ้าน จะใช้นั่งเล่นพักผ่อนตากแอร์สบาย ๆ หรือใช้เป็น Co-Working Space สำหรับนั่งทำงานก็ได้ และสำหรับคนที่ไม่สะดวกรองรับแขกในบ้าน ก็ยังสามารถใช้พื้นที่ส่วนนี้รองรับแขกที่มาจากภายนอกโครงการได้ ด้านหน้าคลับเฮาส์มีที่จอดรถเตรียมเอาไว้ให้แล้วค่ะ

ด้านข้างก็ยังมีห้องรับรองอีกห้อง สามารถเปิดเชื่อมต่อกันได้นะ

จาก Foyer เราเดินไปฝั่งซ้ายกันต่อ

ในส่วนของโถงนี้จะมีห้องนิติบุคคล มีทางเดินเชื่อมต่อไปห้องน้ำ และมีบันไดขึ้นไปที่ 2

สำหรับพื้นที่บนชั้น 2 ทั้งหมดจะเป็นห้องฟิตเนสค่ะ

เห็นพื้นที่ส่วนกลางที่นี่แล้วค่อนข้างประทับใจเลย อย่างฟังก์ชันห้องฟิตเนสก็มีขนาดใหญ่ มีอุปกรณ์ออกกำลังกายจัดเอาไว้ให้เยอะและครบ แล้วก็ยังดูน่าใช้งานด้วย

ในฝั่ง Cardio Machine ก็มี ลู่วิ่งไฟฟ้า, เครื่องเดินวงรี และจักรยานไฟฟ้า จัดเอาไว้ให้อย่างละ 2-3 เครื่อง

ในฝั่ง Free Weight จะมีกระจกเงาขนาดใหญ่ติดตั้งไว้ที่ผนัง พร้อมกับพวกชุดดัมเบลแบบคละน้ำหนัก และม้านั่งราบอีก 4 ตัว ที่พื้นนี่ก็ปูแผ่นยางให้กันกระแทก

และฝั่ง Weight Training Machine ก็มีเครื่องออกกำลังกายจัดเอาไว้ให้อีก 3 ชิ้น ใช้เล่นขา เล่นหลัง เล่นไหล่ เล่นอก ได้หมด มีไม่กี่โครงการนะคะที่ให้ Smith Machine มาด้วย น่าจะถูกใจสายออกกำลังกายกันน่าดู นอกจากนี้ยังมีม้านั่งตรงกลางห้องให้นั่งพักผ่อนได้อีกด้วย

---

:::: แบบบ้านของโครงการ ::::

ภายในโครงการ Nara Town รัตนาธิเบศร์-เวสต์เกต จะมีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ซึ่งทุกแบบจะเป็นพรีเมียมทาวน์โฮม 2 ชั้น ดังนี้ค่ะ

• Sylvie พื้นที่ใช้สอย 96 ตร.ม. ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ที่จอดรถ
• Mathis พื้นที่ใช้สอย 114 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ
• Lucie พื้นที่ใช้สอย 131 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ

• Sylvie | ทาวน์โฮม 2 ชั้น
• พื้นที่ใช้สอย 96 ตร.ม.
• ที่ดินเริ่มต้น 16.2 ตร.ว.
• ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ที่จอดรถ

แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2

• Mathis | ทาวน์โฮม 2 ชั้น
• พื้นที่ใช้สอย 114 ตร.ม.
• ที่ดินเริ่มต้น 17.8 ตร.ว.
• ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ

แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2

• Lucie | ทาวน์โฮม 2 ชั้น
• พื้นที่ใช้สอย 131 ตร.ม.
• ที่ดินเริ่มต้น 19.9 ตร.ว.
• ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ

แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2

---

:::: บ้านตัวอย่าง ::::

วันนี้ทีมงาน Homenayoo มาแบบพิเศษกว่ารีวิวครั้งไหน ๆ เราจะพาเข้าชมบ้านตัวอย่างทั้ง 3 แบบเลยค่ะ

::: Sylvie พื้นที่ใช้สอย 96 ตร.ม. :::

เริ่มต้นจากแบบบ้านขนาดเล็กสุดกันค่ะ ชื่อแบบบ้าน Sylvie ขนาด 96 ตร.ม. บนที่ดินเริ่มต้นขนาด 16.2 ตร.ว.

แปลนบ้านชั้น 1 หน้าบ้านออกแบบให้เป็นพื้นที่จอดรถครึ่งหนึ่ง สามารถจอดได้ 1 คัน อีกส่วนจะเป็นพื้นที่สวนหน้าบ้าน ถัดเข้าไปภายในบ้านส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่น เชื่อมต่อกับห้องรับประทานอาหารและพื้นที่ครัวแบบเปิดโล่ง โดยจะมีประตูเปิดออกสู่ลานซักล้างหลังบ้านได้ ส่วนห้องน้ำจะอยู่ฝั่งหลังบ้าน และห้องอเนกประสงค์จะอยู่ฝั่งหน้าบ้านติดกับสวนค่ะ

แปลนบ้านชั้น 2 เป็นส่วนของห้องนอน 2 ห้องและห้องน้ำชั้นบนอีก 1 ห้อง ห้องนอนใหญ่จะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน ใช้พื้นที่เต็มหน้าบ้าน ห้องนอน 2 และห้องน้ำจะอยู่ฝั่งหลังบ้าน ห้องนอน 2 มีขนาดเล็กลงมา แต่ก็ยังสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ลงตัว

หน้าตาบ้านภายในโครงการมีการหยิบดีเทลของงานสถาปัตยกรรมของฝรั่งเศสมาใช้เป็นลูกเล่นเช่นกัน อย่างเช่นการใช้ซุ้มประตูโค้งและขอบบัวมาตกแต่งบริเวณหน้าต่างชั้น 2 ใช้สีทาบ้านเป็นโทนขาว-เทา ภาพรวมคือหน้าตาบ้านดูน่ารักดี

สำหรับบ้านมาตรฐานที่ใช้ส่งมอบจะมีรั้วบ้านติดตั้งมาให้แบบนี้ ถ้าได้บ้านแปลงมุมก็จะมีพื้นที่สวนข้างบ้านมาเพิ่มค่ะ

รั้วบ้านมีส่วนที่เป็นผนังทึบและรั้วระแนงเหล็กโปร่ง ๆ ประตูรั้วใช้เป็นประตูบานเปิดคู่ มีกริ่งออดติดเอาไว้ให้ที่หน้าบ้าน

บ้านหลังนี้สามารถจอดรถได้ 1 คัน โครงสร้างพื้นเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กผิวปาดเรียบ ลงเสาเข็มแบบสั้นมาให้กันทรุด บนฝ้าเพดานติดดวงโคมซาลาเปาให้ 1 ดวง

บริเวณทางเข้าบ้านจะมีสเต็ปยกระดับขึ้นมา ปูด้วยกระเบื้องเซรามิก ส่วนประตูทางเข้าบ้านจะเป็นประตูบานเลื่อน เปิดได้ฝั่งเดียว ใช้บานกรอบอะลูมิเนียมสีขาวติดกระจกเขียวตัดแสง

พอเข้ามาด้านในบ้านแล้ว จะเห็นว่าพื้นที่ภายในบ้านมีความโปร่งเลยค่ะ เพราะมีการออกแบบฟังก์ชันให้เชื่อมต่อกันในตอนลึกแบบเปิดโล่ง และมีช่องแสงให้ทั้งฝั่งหน้าบ้านและฝั่งหลังบ้าน

บ้านตัวอย่างจัดเฟอร์นิเจอร์และ Finishing มาให้เราดูเป็นไอเดียนะคะ ส่วนบ้านมาตรฐานที่ใช้ส่งมอบจะเป็นบ้านเปล่า วัสดุที่ได้มากับบ้านจะเป็นพื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิโต ผนัง Precast ฉาบเรียบทาสี ทำให้บ้านแข็งแรง ส่วนฝ้าเพดานบ้านจะสูงโปร่ง อยู่ที่ 2.6 เมตร และติดดวงโคมดาวน์ไลต์ LED มาให้

เรามาดูไอเดียการตกแต่งบ้านกันค่ะ ในส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น จะเป็นจุดที่มีพื้นที่กว้างที่สุดในบ้าน เราวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง พร้อมอาร์มแชร์, สตูล และโต๊ะกลางได้พอดี

ที่ผนังฝั่งตรงข้ามเราจะวางเป็นชั้นวางทีวีแบบลอยตัว หรือจะทำ Built-in เป็นชั้นเก็บของสวย ๆ สูงถึงฝ้าก็ทำได้

ประตูด้านข้างที่เห็นอยู่นี้คือประตูห้องเก็บของนะคะ เป็นพื้นที่ใต้บันได ข้างในปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม.

ถัดมาด้านข้างคือห้องรับประทานอาหาร วางโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งได้พอดี จะใช้เป็นโต๊ะกลมหรือโต๊ะสี่เหลี่ยมก็ลงตัว ผนังด้านข้างยังวางพวกชั้นวางของ เก็บหนังสืออ่านเล่น ตั้งของโชว์ หรือเก็บพวกจานชามและอุปกรณ์สำหรับใช้บนโต๊ะรับประทานอาหารได้

ภาพรวมการจัดบ้านทั้งห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหาร

มองไปที่ฝั่งหลังบ้านจะมีประตูเปิดออกไปยังลานซักล้างหลังบ้าน และด้านข้างฝั่งขวาเป็นประตูห้องน้ำชั้นล่าง สำหรับบ้านตัวอย่างจะมีการต่อเติมลานซักล้างให้กลายเป็นห้องครัวให้ดูเป็นไอเดีย แต่จริง ๆ แล้วทางโครงการก็มีการเดินระบบท่อน้ำต่าง ๆ เอาไว้ให้ภายในบ้านที่ลายผนังฝั่งซ้ายตรงกับหน้าต่างบานเลื่อน สามารถติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวและอ่างล้างจานได้เลยค่ะ

สำหรับห้องน้ำชั้นล่างมีการวางแปลนมาเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ตกแต่งพื้นและผนังด้วยกระเบื้องเซรามิกโทนสีเทา ลายดูสวยงาม รองรับการใช้งานระหว่างวันได้ แล้วยังมีโซน Shower เตรียมเอาไว้ให้ด้วย

สำหรับสุขภัณฑ์ที่ใช้ทั้งหมดจะเป็นของแบรนด์ American Standard นะคะ อ่างล้างมือใช้อ่างแบบแขวนผนัง ก๊อกน้ำแบบก้านโยก มี Low Wall ก่อมาให้ด้านหลังใช้วางของได้ กระจกเงาก็ติดตั้งมาให้ตามที่เห็นเลย

มีโถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้นระบบ Dual Flush พร้อมอุปกรณ์ประกอบการใช้งาน ทั้งสายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษชำระ ด้านข้างเป็นพื้นที่โซน Shower ถ้าต้องการเพิ่มความเป็นสัดส่วนในการใช้งานมากขึ้น จะติดม่านกั้นอาบน้ำเพิ่มก็ได้ค่ะ

มี Hand Shower ติดตั้งให้บนผนัง หัว Shower สามารถปรับรูปแบบของสายน้ำได้

ข้อดีของการวางห้องน้ำติดพื้นที่หลังบ้านก็คือ ทำให้เราได้หน้าต่างระบายอากาศมาด้วยนั่นเอง เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งติดกระจกฝ้าค่ะ

สำหรับพื้นที่ลานซักล้างหลังบ้าน โครงสร้างจะเป็นพื้นคอนกรีตปาดเรียบลงเสาเข็มให้เท่ากับตัวบ้าน ทำให้เราสามารถต่อเติมบ้านได้ง่าย ซึ่งขนาดของพื้นลานซักล้างจะขึ้นอยู่กับแปลงที่ดินแต่ละแปลง บางแปลงจะมีความกว้าง 2 เมตร และบางแปลงก็มีความกว้างถึง 3.5 เมตรเลย

บ้านตัวอย่างต่อเติมออกมาเป็นครัวรูป L Shape ทำได้ขนาดใหญ่

อีกฝั่งทำเป็น Station ในการซักผ้าและวางตู้เย็น ได้พื้นที่การใช้งานแบบสบาย ๆ

แล้วมันก็จะยังเหลือพื้นที่ที่เป็นดินสำหรับจัดสวน ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้าน จะเห็นเลยว่าบรรยากาศภายในบ้านดีขึ้นมาก ๆ เพียงแค่เราทำสวนกระถางย่อม ๆ หลังบ้าน

เรากลับเข้ามาภายในบ้านแล้วมองไปที่ฝั่งหน้าบ้าน ด้านข้างประตูทางเข้าบ้านก็คือห้องอเนกประสงค์ค่ะ

แม้จะเป็นบ้านขนาดเล็กแต่ทางโครงการก็ยังสามารถออกแบบให้มีห้องอเนกประสงค์ที่ชั้นล่าง เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ได้ดีมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Culture ของการ Work From Home หรือการมี Second Job ห้องนี้ก็เป็นฟังก์ชันที่ช่วยตอบโจทย์และเติมเต็มความต้องการเหล่านี้ได้

หรือแม้กระทั่งครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ ก็ปรับเปลี่ยนห้องนี้ให้เป็นห้องนอนชั้นล่างได้อีกเช่นกัน เพราะห้องน้ำชั้นล่างก็มีโซน Shower เตรียมเอาไว้ให้แล้วตามที่พาเข้าไปชมค่ะ

พื้นที่โดยรวมของห้องไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก แต่ก็วางเตียงนอนขนาด 3 ฟุต, ตู้เสื้อผ้าขนาดย่อม ๆ ได้นะ 

ถ้าจัดการพื้นที่ดี ๆ มุมนี้ทำ Built-in รูป L Shape เป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งในตัวได้เลย

คราวนี้เราขึ้นไปดูฟังก์ชันบนชั้น 2 กันต่อค่ะ ที่นี่เขาใช้โครงสร้างบันได Precast เดินแล้วรู้สึกแน่นดี มีความคงทนแข็งแรง ปิดผิวลูกนอนด้วยไม้สำเร็จรูป ส่วนลูกตั้งเป็นผิวฉาบเรียบ

ราวบันไดใช้โครงเหล็กฝังผนัง ติดมือจับไม้สำเร็จรูปสีเดียวกับลูกนอนบันได

มองย้อนลงไปที่โถงบันได

บนชั้น 2 จะเป็นส่วนของห้องนอน 2 ห้องและห้องน้ำชั้นบนอีก 1 ห้องค่ะ โดยห้องนอนใหญ่จะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน (ประตูซ้าย) ถัดมาเป็นห้องนอนรอง และห้องน้ำอยู่ฝั่งหลังบ้าน (ประตูกลางและประตูขวา) สเป็กบ้านบนชั้น 2 พื้นปูด้วยกระเบื้องยาง SPC ลายไม้ ผนังฉาบเรียบทาสี ส่วนฝ้าเพดานติดดวงโคมดาวน์ไลต์ มีความสูงฝ้าอยู่ที่ 2.7 เมตร

เราไปดูห้องนอนใหญ่หรือ Master Bedroom กันก่อนค่ะ

ห้องนี้มีขนาดที่ใหญ่พอสมควร เพราะว่ามีความยาวห้องเท่ากับหน้ากว้างของบ้าน และมีช่องแสงขนาดใหญ่ให้หลายบานที่ฝั่งหน้าบ้านด้วย ในห้องจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซน คือโซนพักผ่อนและโซนแต่งตัว

สำหรับโซนพักผ่อน ตรงนี้เราวางเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุต พร้อมโต๊ะข้างได้ รอบ ๆ ยังเหลือพื้นที่ในการเดินผ่าน หยิบของ และทำความสะอาดได้สะดวก

ส่วนปลายเตียงยังวางชั้นวางทีวีหรือพวกตู้เก็บของตัวยาว ๆ ได้อีก 1 ตัว

ถัดมาที่โซนแต่งตัว เราทำ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าได้เต็มแนวผนังแบบนี้เลย ข้าง ๆ กับประตูระเบียงยังจัดเก้าอี้นั่งตัวโปรดเป็นมุมพักผ่อนอ่านหนังสือได้

พื้นที่ระเบียงหน้าบ้านมีขนาดไม่ใหญ่มาก พอใช้วาง Compressor และออกไปยืนรับลมได้ ที่พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิก และติดราวกันตกระแนงเหล็กให้

มาดูฝั่งหลังบ้านกันต่อ เรียงจากห้องนอนรองไปห้องน้ำ

พื้นที่ของห้องนอนรองจะมีขนาดเล็กลงมาจากห้องนอนใหญ่พอสมควรค่ะ แต่ถ้าดูดี ๆ แล้วคือขนาดห้องนี้ไม่เล็กเลยนะ

เพราะพื้นที่ห้องยังรองรับเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้สบาย และวางโต๊ะข้างได้อีก 1 ตัว

อีกฝั่งยังวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่และโต๊ะเขียนหนังสือได้แบบนี้ เรียกว่าเพียงพอแล้ว

สำหรับแปลนห้องน้ำชั้นบนจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า การจัดวางฟังก์ชันเลยวางไปตามแนวยาว โดยห้องน้ำจะมีขนาดใหญ่มากขึ้น เลยแบ่งสัดส่วนได้ดีกว่าห้องน้ำชั้นล่าง ประตูห้องน้ำจะถูกเจาะเอาไว้ที่กลางห้อง เลยวางอ่างล้างมือไว้ตรงกลางค่ะ

อ่างใช้ขนาดใหญ่มากขึ้น ด้านหลังยังมี Low Wall ก่อมาให้

ฝั่งซ้ายเป็นโถสุขภัณฑ์

และฝั่งขวาเป็นโซน Shower จะเห็นว่าพื้นที่ยืนอาบน้ำด้านในค่อนข้างกว้างไม่อึดอัด แนะนำให้ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำ Tempered Glass เพิ่มตามที่บ้านตัวอย่างตกแต่งไว้ การใช้งานจะเป็นสัดส่วนมากขึ้น

ด้านในมี Hand Shower, ราวปรับระดับ และจานวางสบู่ติดตั้งมาให้ พวกระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นก็เดินไว้เรียบร้อยแล้ว

ส่วนสวิตช์และปลั๊กไฟที่ใช้ภายในบ้านจะเป็นของแบรนด์ Haco ค่ะ

---

::: Mathis พื้นที่ใช้สอย 114 ตร.ม. :::

หลังถัดมาคือบ้านขนาดกลาง ชื่อแบบบ้าน Mathis ขนาด 114 ตร.ม. บนที่ดินเริ่มต้นขนาด 17.8 ตร.ว.

แปลนบ้านชั้น 1 หน้าบ้านออกแบบให้เป็นพื้นที่จอดรถเต็มพื้นที่ สามารถจอดได้ 2 คัน ถัดเข้าไปภายในบ้านส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่น เชื่อมต่อกับห้องรับประทานอาหารและพื้นที่ครัวแบบเปิดโล่ง มีประตูเปิดออกสู่ลานซักล้างหลังบ้านได้ ห้องน้ำจะอยู่บริเวณพื้นที่ใต้บันได และห้องอเนกประสงค์จะอยู่ฝั่งหลังบ้านค่ะ

แปลนบ้านชั้น 2 เป็นส่วนของห้องนอน 3 ห้องและห้องน้ำชั้นบนอีก 1 ห้อง ห้องนอนใหญ่จะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน ใช้พื้นที่เต็มหน้าบ้าน ห้องนอน 2 และห้องนอน 3 จะอยู่ฝั่งหลังบ้าน มีขนาดเล็กลงมาประมาณครึ่งหนึ่ง ส่วนห้องน้ำจะอยู่ตรงกลางโถงบันได

หน้าตาของแบบบ้าน Mathis ออกแบบมาใกล้เคียงกันกับแบบบ้าน Sylvie เลยค่ะ ที่เห็นต่างกันอย่างชัดเจนก็คือ พื้นที่หน้าบ้านทั้งหมดจะถูกออกแบบเป็นพื้นที่จอดรถ เลยดูโปร่งกว่า

สำหรับรั้วบ้านมาตรฐานก็จะถูกออกแบบมาในลักษณะเดียวกัน แต่ทำเป็นแบบบานเฟี้ยม 4 ตอน เพื่อให้เปิดได้กว้างมากขึ้น

ในส่วนของโครงสร้างพื้นจะทำมาเหมือนกัน เพียงแต่ว่าหลังนี้จะจอดรถได้ถึง 2 คัน และประตูห้องเก็บของจะถูกเจาะที่ผนังฝั่งหน้าบ้าน เพื่อให้เราสามารถจัดพื้นที่ภายในบ้านได้ง่ายมากขึ้น

บริเวณทางเข้าบ้านจะมีสเต็ปยกระดับขึ้นมา ปูด้วยกระเบื้องเซรามิก ประตูทางเข้าบ้านจะเป็นประตูบานเลื่อน เปิดได้ฝั่งเดียว ใช้บานกรอบอะลูมิเนียมสีขาวติดกระจกเขียวตัดแสงเช่นกัน

การวางแปลนของตัวโถงบ้านจะออกแบบมาใกล้เคียงกัน หลัก ๆ คือเป็นแปลนแบบเปิดโล่ง ฟังก์ชันการใช้งานมีความเชื่อมต่อกัน ทำให้บ้านดูโปร่งและกว้าง

บ้านมาตรฐานที่ใช้ส่งมอบจะเป็นบ้านเปล่า วัสดุที่ได้มากับบ้านก็จะเป็นพื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิโต ผนัง Precast ฉาบเรียบทาสี ฝ้าเพดานบ้านสูง 2.6 เมตร และติดดวงโคมดาวน์ไลต์ LED มาให้

สำหรับพื้นที่ห้องนั่งเล่น เราวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง พร้อมสตูล และโต๊ะกลางได้พอดี

ผนังฝั่งตรงข้ามระหว่างโถงบันไดและห้องน้ำ จะเป็นจุดสำหรับวางชั้นวางทีวี

บริเวณหน้าห้องน้ำจะมีพื้นที่โถงเล็ก ๆ และมีจุดที่ผนังเซ็ตเข้าไป บ้านตัวอย่างเลยทำ Built-in เป็นตู้เก็บรองเท้า นับว่าเป็นไอเดียที่ดีเลย

สำหรับแปลนห้องน้ำชั้นล่างนั้นจะถูกออกแบบมาเหมือนกับแบบบ้าน Sylvie เลยค่ะ ที่ต่างกันก็คือตำแหน่งของห้องน้ำจะอยู่บริเวณกลางบ้าน เลยมีพัดลมดูดอากาศติดตั้งมาให้บนฝ้าอีก 1 ตัว

ถัดมาด้านข้างเป็นพื้นที่ห้องรับประทานอาหาร จัดวางโต๊ะทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 4 ที่นั่งมาให้ดูเป็นไอเดีย มีความลงตัวกับพื้นที่

ภาพรวมการจัดบ้านทั้งห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหาร

มองไปที่ฝั่งหลังบ้านจะมีประตูเปิดออกไปยังลานซักล้างหลังบ้าน และด้านข้างฝั่งซ้ายก็คือห้องอเนกประสงค์ค่ะ

ผนังของห้องอเนกประสงค์ส่วนหนึ่งถูกออกแบบให้เป็นหน้าต่างกระจกแบบเข้ามุม ช่วยทำให้บ้านดูโปร่งมากขึ้น และยังช่วยทำให้พื้นที่ของห้องยังดูเชื่อมต่อถึงกันด้วย

จะเห็นได้ค่อนข้างชัดว่าห้องอเนกประสงค์ของแบบบ้าน Mathis จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ทำให้การจัดวางเฟอร์นิเจอร์นั้นทำได้อิสระมากกว่า ถ้าจัดเป็นห้องนอนก็วางได้ทั้งเตียงนอนขนาด 3 ฟุต, ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง เลือกแบบที่มีขนาดใหญ่ขึ้นได้

เราออกมาที่ลานซักล้างหลังบ้าน หลังนี้ก็มีการต่อเติมให้เป็นห้องครัวและห้องซักรีดเช่นกัน แต่จะเห็นเลยว่าขนาดที่ดินนั้นใหญ่ขึ้น จะเป็นหลังที่ทำพื้นและลงเสาเข็มให้กว้างถึง 3.5 เมตรนั่นเองค่ะ

พื้นที่ดินที่เหลือก็จัดเป็นสวนหย่อมสำหรับพักผ่อน กั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจก เป็นอีก 1 มุมที่น่ารักมาก จัดเป็นมุมนั่งทานอาหารเช้า หรือทานขนมจิบชาได้แบบสวย ๆ

เราขึ้นไปดูฟังก์ชันบนชั้น 2 กันต่อค่ะ

โถงบันไดของบ้านจะเป็นทางเดินยาวเชื่อมต่อกับห้องนอน 3 ห้องและห้องน้ำอีก 1 ห้อง โดยที่ชั้นนี้จะมีฝ้าเพดานสูงขึ้นเป็น 2.7 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องยาง SPC เหมือนเดิม

ห้องนอนใหญ่วางตำแหน่งหน้าบ้าน ใช้พื้นที่เต็มหน้าบ้านเลยค่ะ ส่วนแรกจัดเป็นโซนพักผ่อน

วางเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุต และโต๊ะข้างได้ทั้ง 2 ฝั่ง

แล้วยังจัดโต๊ะเครื่องแป้งไว้ที่มุมปลายเตียงได้อีก 1 ตัว

อีกฝั่งเป็นโซนแต่งตัว สามารถทำเป็น Walk-in Closet ได้เลยนะ

โดยที่ฝั่งนี้จะมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไปที่ระเบียงฝั่งหน้าบ้านได้

ห้องน้ำชั้นบนจะอยู่กลางโถงบันไดระหว่างห้องนอนใหญ่และห้องนอน 3 ค่ะ พื้นที่ห้องจัดเป็นโซนแห้งไล่เข้าไปหาโซนเปียก สามารถแบ่งสัดส่วนการใช้งานได้เป็นอย่างดี

ดูพวกระยะการวางสุขภัณฑ์ก็ไม่อึดอัดติดกันจนเกินไป ใช้งานได้สะดวก

โซน Shower มีพื้นที่กว้างมากพอให้ยืนอาบน้ำได้สบาย

ห้องนอน 2 จะมีขนาดเล็กลงมา แต่ก็ยังใหญ่กว่าครึ่งหนึ่งของพื้นที่ห้องนอนใหญ่

พื้นที่ห้องจะเหมาะสำหรับเตียงนอนขนาด 3-3.5 ฟุต วางโต๊ะข้างได้อีก 1 ตัว

รวมไปถึงโต๊ะเครื่องแป้งขนาดมาตรฐาน

และตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่ฝั่งปลายเตียงได้

ส่วนห้องนอน 3 จะมีขนาดเล็กที่สุด แต่โดยตัวพื้นที่ก็ยังจัดเป็นห้องนอนได้อยู่ วางเตียงนอนขนาด 3 ฟุตและเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ได้ครบนะคะ

ที่เห็นอยู่ก็คือเตียงนอนขนาด 3 ฟุตและโต๊ะข้างอีก 1 ตัว

อีกฝั่งวางได้ทั้งตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง ลงตัวกับพื้นที่ห้องค่ะ

---

::: Lucie พื้นที่ใช้สอย 131 ตร.ม. :::

บ้านหลังสุดท้ายมีขนาดใหญ่ที่สุด ชื่อแบบบ้าน Lucie ขนาด 131 ตร.ม. บนที่ดินเริ่มต้นขนาด 19.9 ตร.ว.

แปลนบ้านชั้น 1 หน้าบ้านออกแบบให้เป็นพื้นที่จอดรถเต็มพื้นที่ สามารถจอดได้ 2 คัน ถัดเข้าไปภายในบ้านส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่น เชื่อมต่อกับห้องรับประทานอาหารและพื้นที่ครัวแบบเปิดโล่ง มีประตูเปิดออกสู่ลานซักล้างหลังบ้านได้ ห้องน้ำจะอยู่บริเวณพื้นที่ใต้บันได และห้องอเนกประสงค์จะอยู่ฝั่งหลังบ้าน

แปลนบ้านชั้น 2 เป็นส่วนของห้องนอน 3 ห้องและห้องน้ำชั้นบนอีก 2 ห้อง ห้องนอนใหญ่จะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน ใช้พื้นที่เต็มหน้าบ้าน มีห้องน้ำให้ส่วนตัว ห้องนอน 2 และห้องนอน 3 จะอยู่ฝั่งหลังบ้าน มีขนาดเล็กลงมาประมาณครึ่งหนึ่ง ส่วนห้องน้ำอีกห้องจะอยู่ตรงกลางโถงบันได

ดู ๆ แล้วแปลนของบ้านหลังนี้เป็นการผนวกจุดเด่นของแบบบ้าน Sylvie และแบบบ้าน Mathis เข้าด้วยกันนั่นเองค่ะ

และนี่ก็คือหน้าตาของแบบบ้าน Lucie ค่ะ ที่ทางโครงการออกแบบหน้าตาบ้านให้ใกล้เคียงกัน นั่นก็เพื่อทำให้ภาพรวมของโครงการดูเรียบร้อยและสวยงาม

รั้วบ้านมาตรฐานออกแบบมาเป็นแบบบานเฟี้ยม 4 ตอน สามารถเปิดได้กว้าง และจอดรถได้ 2 คัน

บริเวณทางเข้าบ้านจะมีสเต็ปยกระดับขึ้นมา ประตูทางเข้าบ้านจะเป็นประตูบานเลื่อน เปิดได้ฝั่งเดียว ใช้บานกรอบอะลูมิเนียมสีขาวติดกระจกเขียวตัดแสง

จะเห็นว่าห้องโถงของบ้านหลังนี้จะมีขนาดที่กว้างขวางมากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะในส่วนของห้องนั่งเล่น

ฝ้าเพดานชั้นล่างก็ทำสูงขึ้ อยู่ที่ 2.7 เมตร เพื่อให้ลงตัวกับพื้นที่บ้านที่กว้างมากขึ้น

การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ก็เลยทำได้สบายกว่า เพิ่มขนาดของเฟอร์นิเจอร์ได้เยอะเลยค่ะ จะใช้โซฟารูป L Shape แทนก็วางได้

ผนังฝั่งชั้นวางทีวีจะถูกเซ็ตเข้าไปลึกกว่าเดิม ดูทีวีจอใหญ่ ๆ ได้เลยนะคะ แต่อย่าให้ความยาวเกิน 1.4 เมตรเป็นพอ

ด้านข้างชั้นวางทีวีคือห้องน้ำค่ะ อยู่บริเวณพื้นที่ใต้บันได ภายในก็จัดโซน Shower มาให้พร้อมใช้งาน รองรับการปรับเปลี่ยนฟังก์ชันห้องอเนกประสงค์ให้เป็นห้องนอนชั้นล่างได้

ถัดมาเป็นห้องรับประทานอาหาร พอวางโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งแล้วจะเห็นว่า พื้นที่โดยรอบยังเหลือแบบสบาย ๆ

ด้านข้างห้องรับประทานอาหารเป็นห้องอเนกประสงค์

พื้นที่ห้องมีขนาดพอ ๆ กับแบบบ้าน Mathis เลยค่ะ ปรับฟังก์ชันได้ตามใจชอบเลย

พื้นที่ลานซักล้างของบ้านหลังนี้ก็มีขนาดใหญ่ค่ะ ลงเข็มให้กว้าง 3.5 เมตร เลยต่อเติมเป็นครัวพร้อม Island ได้แบบนี้

ตามคอนเซปต์เหมือนบ้านหลังอื่น ๆ ที่จัดมุมสวนหย่อมเอาไว้ เพื่อให้บรรยากาศในบ้านดูน่าอยู่มากยิ่งขึ้น

สำหรับโถงบันไดของบ้านหลังนี้จะมีหน้าต่างติดเพิ่มมาให้ เพื่อให้โถงดูโปร่งมากขึ้น

ฟังก์ชันบนชั้น 2 ประกอบด้วยห้องนอน 3 ห้องและห้องน้ำอีก 2 ห้อง

ไฮไลต์ที่เพิ่มขึ้นมาก็คือฝ้าเพดานที่สูงโปร่งถึง 3.5 เมตร พร้อมชั้นลอยซึ่งเป็นฟังก์ชันอเนกประสงค์

พื้นที่ส่วนนี้เราสามารถจัดได้ตามใจชอบเลยค่ะ จะใช้เป็นมุมหิ้งพระก็ได้ หรือถ้าบ้านไหนมีเด็กเล็ก จะจัดเป็นมุมนั่งเล่นของเด็ก ๆ ก็ทำได้เหมือนกัน

เราไปดูห้องนอนใหญ่กันค่ะ

เนื่องจากมีพื้นที่ห้องที่ใหญ่มากขึ้น การแบ่งสัดส่วนของห้องจึงทำได้ดีมากขึ้นเช่นกัน

เข้ามาภายในห้องส่วนแรกจะเป็นโซนพักผ่อน วางเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุต พร้อมโต๊ะข้าง และโต๊ะเครื่องแป้งได้ลงตัวพอดี เพิ่มสตูลที่ปลายเตียงอีกสักตัว ก็ไม่ได้ทำให้ห้องดูอึดอัด

ฝั่งปลายเตียงสามารถวางชั้นวางทีวีระหว่าง Walk-in Closet และห้องน้ำได้

ข้อดีของบ้านหลังนี้ก็คือ ห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำให้ใช้ส่วนตัว ขนาดอาจจะกระทัดรัดลงมาหน่อย แต่ก็ยังใช้งานได้สะดวกเพราะแบ่งสัดส่วนได้ดี

ในส่วนของโซน Shower จะใช้เป็นฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเลื่อนเข้ามุมเพื่อให้ลงตัวกับพื้นที่

Walk-in Closet เชื่อมต่อกับระเบียงฝั่งหน้าบ้าน

ติดกับห้องนอนใหญ่คือห้องน้ำชั้นบน สำหรับห้องนอน 2 และห้องนอน 3 ให้ใช้ร่วมกัน

เราไปดูห้องนอน 2 และห้องนอน 3 กันต่อค่ะ

พื้นที่ห้องนอน 2 จริง ๆ แล้ววางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้เลยนะคะ แต่ถ้าอยากให้ห้องดูโปร่ง ให้วางเตียง 3-3.5 ฟุตเหมือนบ้านตัวอย่าง

ด้านในห้องจัดเป็นโต๊ะเครื่องแป้งตัวใหญ่ได้เลย

ส่วนตู้เสื้อผ้าให้วางไว้ที่ด้านข้างประตูทางเข้าห้อง ขนาดที่วางได้ก็ใหญ่เหมือนกัน

สุดท้ายคือห้องนอน 3 ที่มีขนาดเล็กที่สุด แต่ก็จัดเฟอร์นิเจอร์ได้ครบและลงตัว

วางเตียงนอน แล้วตามด้วยโต๊ะเครื่องแป้งกับตู้เสื้อผ้าได้แบบนี้

---

:::: ราคา (มิถุนายน 2565) ::::

• แบบบ้าน Sylvie ที่ดินขนาด 16.2 ตร.ว. ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท
• แบบบ้าน Mathis ที่ดินขนาด 21.5 ตร.ว. ราคาเริ่มต้น 2.84 ล้านบาท
• แบบบ้าน Lucie ที่ดินขนาด 19.9 ตร.ว. ราคาเริ่มต้น 3.32 ล้านบาท

• เงินจอง 10,000 บาท
• เงินทำสัญญา 40,000 บาท

• ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ว./เดือน (ชำระล่วงหน้า 2 ปี)

• โปรโมชันเปิดโครงการใหม่
  • ส่วนลดพิเศษ** 100,000-300,000 บาท
  • ฟรี ค่าส่วนกลาง 2 ปี
  • ฟรี ค่าธรรมเนียมโอน
  • ฟรี ปั๊มน้ำ+ถังเก็บน้ำ
  • ฟรี แอร์ทุกห้องนอน (ชั้นบน)
  • Central Gift Voucher 10,000 บาท
  • บัตรเครดิตเติมน้ำมัน 5,000 บาท

***ข้อมูลราคา และโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

---

:::: สรุป ::::

ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ Nara Town รัตนาธิเบศร์-เวสต์เกต ตั้งอยู่บนถนนจันทร์ทองเอี่ยมในโซนนนทบุรี ซึ่งเป็นทำเลที่โดดเด่นด้วยความอุดมสมบูรณ์ทางฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ เพราะรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน สามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ตัวเมืองได้อย่างรวดเร็ว โดยรอบโครงการจะพอมีร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อให้ฝากท้องอยู่หลายร้าน

อีกทั้งยังอยู่ใกล้ห้างใหญ่ ทั้ง Central Westgate, Ikea, HomePro, Big C บางใหญ่, Big C Extra บางใหญ่, บางใหญ่ซิตี้, Index Living Mall, The Square และ รพ.เกษมราษฎร์ รวมไปถึงห้างบนเส้นรัตนาธิเบศร์และราชพฤกษ์ ทำให้เป็นทำเลที่อยู่ง่าย และอยู่ได้แบบสะดวกสบายค่ะ

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว เดินทางได้สะดวกสบาย เพราะจากจุดที่โครงการตั้งอยู่นั้นสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนกาญจนาภิเษกได้ไม่ถึง 2 กม. ซึ่งเป็นวงแหวนรอบตัวเมืองกรุงเทพฯ ที่เชื่อมกับถนนสายหลักได้หลายสาย และจากโครงการก็เชื่อมต่อกับถนนรัตนาธิเบศร์ซึ่งก็เป็นอีกถนนสายหลักได้ง่าย

และถนนสายหลักเส้นอื่น ๆ ที่น่าจะได้ใช้บ่อย ๆ และอยู่ใกล้กับตัวโครงการเลยก็จะมี ถนนชัยพฤกษ์, ถนนนครอินทร์, ถนนบางกรวย-ไทรน้อย และถนนราชพฤกษ์ รวมถึงทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ก็จะได้ใช้เป็นเส้นทางเข้าเมืองที่ใช้บ่อยแน่นอนค่ะ

การเดินทางโดยรถสาธารณะ นอกจากจะอยู่บนทำเลที่เรียกแท็กซี่ได้ง่ายแล้ว ก็ยังอยู่ใกล้รถไฟฟ้า MRT ถึง 2 สถานีด้วยกัน ทั้งสถานีคลองบางไผ่ และสถานีตลาดบางพลู เรียกรถไปได้สะดวกทั้ง 2 สถานีเลยนะคะ แต่ถ้าจะนั่งเข้าเมือง ให้ไปขึ้นที่สถานีตลาดบางพลูจะง่ายกว่าค่ะ

การออกแบบโครงการ และวัสดุ เป็นโครงการเดียวในย่านนี้เลยค่ะที่ออกแบบมาในสไตล์ฝรั่งเศส ถ้าใครที่ชอบบ้านสไตล์ยุโรป และกำลังมองหาบ้านบนทำเลนี้ โครงการนี้ตอบโจทย์เลย คือไม่ได้โดดเด่นในแง่ของการออกแบบที่ไม่เหมือนใครในทำเลเท่านั้น แต่การจัดบรรยากาศและพื้นที่ส่วนกลางมาก็ถือว่านำโครงการอื่น ๆ ใน Segment เดียวกันด้วยค่ะ

บ้านภายในโครงการเองมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ การวางแปลนจะใกล้เคียงกันตามสไตล์ทาวน์โฮม แต่จะตอบโจทย์ความต้องการและขนาดของครอบครัวที่แตกต่างกัน รองรับได้ตั้งแต่ครอบครัวขนาดเริ่มต้นไปจนถึงครอบครัวขนาดกลาง ที่มีสมาชิกในครอบครัวเป็นผู้สูงอายุ เพราะในบ้านแต่ละหลังจะมีฟังก์ชันห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนได้

วัสดุของบ้านก็ถือว่าให้มาในระดับที่ดีค่ะ มีความคงทนแข็งแรง ชอบที่หลังบ้านลงเสาเข็มให้เท่าตัวบ้าน เวลาต่อเติมบ้านเลยง่ายมากขึ้น ไม่เสียเวลาเยอะ พวกกระเบื้องต่าง ๆ ในห้องน้ำก็ดูตั้งใจคัดมาพอสมควร ถือว่าดีเลยค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย นับว่าเป็นจุดขายของโครงการนี้เลยค่ะ เพราะมีการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางมาอย่างตั้งใจให้สามารถใช้งานได้จริง ไม่ว่าจะเป็นพวกห้องนั่งเล่นในคลับเฮาส์ ห้องฟิตเนสขนาดใหญ่ สระว่ายน้ำใช้ว่ายออกกำลังกายได้ สวนพักผ่อนขนาดใหญ่ มีการจัดมุมนั่งเล่น ศาลาพักผ่อน และสนามเด็กเล่นให้ด้วย รวมไปถึงระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.

---

:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::

TEL : 1393 กด 115

WEBSITE : https://www.naraiproperty.com/project/tce

หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ