Master Plan โครงการ CULTURE ทองหล่อ มีทางเข้า-ออกเพียงทางเดียวผ่านซอยสุขุมวิท 59 ที่อยู่ห่างจากถนนใหญ่สุขุมวิท เพียง 120 เมตร* จากหน้าโครงการจะมีระยะ Setback ก่อนถึงตัวอาคารมาให้พอประมาณ ช่วยลดเสียงรบกวนจากรถยนต์และคนที่เดินผ่านไปมาในซอยได้ดี และเพิ่มความ Pricavy ให้แก่ลูกบ้านได้ด้วย
ติดกับทางเข้า-ออกรถยนต์ จะเป็น Walk Way และ Multi Purposr Area ที่อยู่ท่ามกลางพื้นที่สวนสีเขียว เดินเข้า-ออกโครงการได้บรรยากาศร่มรื่นผ่อนคลาย และสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งบน Multi Purposr Area ได้หลากหลาย เช่น นั่งอ่านหนังสือม นั่งรอเพื่อน หรือใช้เป็นพื้นที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งได้
เข้ามาด้านในโครงการจะเจอกับถนนเมนที่ล้อมรอบตัวอาคาร ที่นี่จะให้ที่จอดรถแบบ Auto Parking 100% คิดเป็น 40% ของจำนวนยูนิต หรือจอดในช่องจอดได้ประมาณ 200 คัน มีทางเข้า-ออกลิฟต์ Auto Parking อยู่ที่ข้างอาคาร โดยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 ไปจนถึงชั้น 10ข้างอาคารอีกฝั่งจะมี EV Charger รองรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาให้ 1 Slot และมีร้านค้าให้ 1 ยูนิต
ส่วนพื้นที่ภสยในอาคารจะประกอบไปด้วย Co-Living Hall ที่เป็นเสมือน Lobby สำหรับรองรองเพื่อน ๆ และใช้เป็น Guest Area ได้ โดยจะมีบันไดวนขึ้นไป Co-Working Space ที่ชั้น 2 ได้ด้วย ติดกันจะเป็นห้องนิติบุคคล และ Mail Area มี Lift Hall ตั้งอยู่ตรงกลางตึก ได้เป็นลิฟต์โดยสาร แบบล็อกชั้นจำนวน 3 ตัว และมีลิฟต์บริการแยกออกมาให้ 1 ตัว
แปลนอาคารชั้น 2 เหนือ Co-Living Hall จะเป็นที่ตั้งของ Co-Wokring Space ตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่หันมาทำงานอยู่ที่บ้านกันมากขึ้น ภายในมีพื้นที่กว้างขวาง รองรับ Funvtional ได้หลากหลาย ทั้งการนั่งทำงานคนเดียว , ทำเป็นคู่ หรือทำเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ก็ลงตัว ซึ่ง Co-Living Hall จะเปิดให้บริการตลอด 24 ชม. อีกด้วยค่ะ
แปลนอาคารชั้น 11 จะตั้งอยู่เหนือ Automatic Patking ชั้นสุดท้าย ออกแบบพื้นที่ให้เป็น Main Facilites แบบเต็มชั้น โดยออกแบบให้มีพื้นที่ส่วนกลางครบรอบด้าน จากภาพทางฝั่งซ้ายมือหรือหน้าโครงการ จะเป็นที่ตั้งของสวนหย่อม และ Living Area ถัดมาจะเป็น Private Pool เอาใจกลุ่มคนที่ชอบว่ายน้ำ ออกกำลังกายแบบ Private เงียบ ๆ คนเดียว หรือใช้งานกัน 2-3 คน เฉพาะกับเพื่อน ๆ หรือสมาชิกในครอบครัว โดยจุดนี้จะต้อง Booking กับทางนิติก่อนใช้งาน
ด้านข้างเชื่อมจาก Private Pool มา จะเป็นสระว่ายน้ำรวม เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือความยาวมาตรฐาน สามารถว่ายออกกำลังกายจริงจังได้สบาย ๆ หรือใครที่อยากผ่อนคลายร่ากายหลังจากที่เหนื่อยล้าจากการทำงาน ก็จะมี Onzen แยกออกมาให้ใช้งานให้อีก 1 สระ
ส่วนฝั่งขวามือจากภาพหรือด้านหลังโครงการ จะมี Living Area ให้อีก 1 จุด ต่อเนื่องไปจะเป็นห้อง Yoga และ Fitness ที่เปิดใช้งานตลอด 24 ชม. เอาใจคนที่กลับบ้านดึก แต่อยากออกกำลังกายในพื้นที่ส่วนกลางที่มีเครื่องออกกำลังกายที่ทันสมัย และครบครันทั้ง Weight Training และ Cardio ทั้งยังมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำแยกชาย-หญิงมาให้ รวมถึงมี Laundry Area รองรับการซัก-อบ-ผ้า แบบหยอดเหรียญมาให้ด้วยค่ะ
แปลนอาคารชั้น 12-19 เป็น Typical Floor Plan ของห้องพักรูปแบบ Simplex เพดานสูง 2.6 เมตร วางผังอาคารมาเหมือนกันทุกชั้นค่ะ โดยความหนาแน่นจะอยู่ที่ 21 ยูนิต/ชั้น
แปลนอาคารชั้น 20-32 จะเป็น Typical Floor Plan ของห้องแบบ Hybrid ความสูงเพดาน 4.3 เมตร อัตราความหนาแน่นจะอยู่ที่ 21 ยูนิต/ชั้น
แปลนอาคารชั้น 33 จะรวมห้องพักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลางไว้ด้วยกัน โดยจะแบ่งให้พื้นที่ส่วนกลางตั้งอยู่ทางหน้าอาคาร ประกอบไปด้วย Double Volume Sky Lounge หน้ากว้าง เปิดรับมุมมองได้กว้าง และมีพื้นที่ใช้งานและพักผ่อนที่หลากหลาย ฝั่งซ้ายของ Sky Lounge จะเป็นที่ตั้งของ Relaxation Room ห้องผนังโค้งที่ออกแบบมาเพื่อการพักผ่อน หรือใช้เป็นห้องนั่งเล่นอ่านหนังสือ เล่นมือถือ เทรดหุ้นแบบเงียบ ๆ โดยห้องนี้จะมีเก้าอี้นวดไฟฟ้าจัดเตรียมไว้ให้ด้วย
ส่วนฝั่งขวาของ Sky Lounge จะเป็นห้องผนังโค้งเช่นเดียวกัน จัดฟังก์ชันมาเป็นห้อง Love Studio ที่เหมาะกับชพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการ Live ขายของ, ใช้เป็น Studio ในการถ่ายสินค้า หรือนางแบบ-นายแบบเพื่อลง Platform ต่าง ๆ ทั้งยังเหมาะกับกลุ่ม Influacer ที่ต้องการใช้เป็นห้องอัดงาน รองรับทั้งการ Live, Steam หรือถ่ายเป็นคลิป VDO เพื่อไปตัดต่อได้อีกทีค่ะ
ถัดออกจาก Sky Lounge ออกไป จะจัดเป็นพื้นที่สีเขียวหน้ากว้างเต็ม ๆ ชั้น เพื่อให้ผู้ที่ออกมาใช้งานส่วนกลางได้บรรยาาศที่ผ่อนคลาย ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวใจกลางเมือง ต้นไม้ที่จัดมาให้บริเวณนี้จะมีทั้งต้นไม้ใหญ่, ไม้พุ่มประดับ และสนามหญ้า ช่วยบังสาตาและเป็นร่มเงาให้แก่พื้นที่ส่วนกลางในจุดต่าง ๆ ได้ด้วยค่ะ
ในส่วนของห้องพักจะวางผังมาเป็นรูปตัว L การเข้า-ออกส่วนห้องพักและพื้นที่ส่วนกลางจะได้ความเป็นส่วนและมีการโยกโซนพักอาศัยออกจากกันอย่างชัดเจนด้วยประตู Key Card ทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนห้องพักอาศัยยังคงเป็นแบบ Hybrid เพดานสูง 4.3 เมตร มีจำนวนห้องพักลดจากชั้น 20-32 ลงมาเหลือ 13 ยูนิต/ชั้น เท่านั้นค่ะ
แปลนอาคารชั้น 34 จัดผังรวม ๆ มาเหมือนกันกับชั้น 33 เลยค่ะ คือใช้พื้นที่ฝั่งหน้าโครงการเป็นพื้นที่ส่วนกลาง จากภาพจะเห็นว่ามีบันไดวนจาก Sky Lounge ให้เดินขึ้นมาใช้งานได้ จากชั้น 32 ขึ้นมาจะมีเหมือนจุดชมวิวเมืองเล็ก ๆ ให้ที่ด้านบน
ฝั่งซ้ายมือจะเป็นที่ตั้ง Private Dining Room ห้องกระจกผนังโค้ง ที่สามารถ Booking เป็นห้องทำอาหาร, ห้องทานอาหารแบบ Private กับเพื่อน ๆ หรือสมาชิกในครอบครัวได้ ส่วนฝั่งขวามือจะเป็น Cinema & Karaoke เป็นห้องกระจกผนังโค้งเช่นเดียวกันนะคะ ห้องนี้เอาใจสาน Entertain มีอุปกรณ์ Entertainment ให้มาแบบจัดเต็ม ใช้สำหรับนั่งร้องเพลง หรือนั่งดู Netflix กับทีวีจอดใหญ่ได้
ส่วนห้องพักจะมีประตู Key Card Access แยกโซนมาให้ทั้ง 2 ฝั่ง รับรองในเรื่องของความปลอดภัย บวกกับระบบลิฟต์ล็อกชั้นอยู่แล้วด้วย โดยห้องพักจะวางผังมาเหมือนกันกับชั้น 32 ทุกประการ และมีห้องพักอยู่ที่ 13 ยูนิต/ชั้น เช่นเดียวกัน
แปลนอาคารชั้น 35 ด้านหน้าจะเป็นที่ตั้งของสวนพักผ่อนหน้ากว้างเต็มหน้าอาคาร ถัดไปที่ด้านหลังจะประตู Key Card แยกห้องพักอาศัยกับส่วนกลางให้เช่นเดิม ส่วนห้องพักอาศัยจะมีทั้งหมด 13 ยูนิต/ชั้น
แปลนอาคารชั้น 36 จะมีระยะร่นถอยตามกฏหมายเข้ามา ทำให้พื้นที่ด้านหน้าจะไม่มีสวนพักผ่อนหรือพื้นที่ส่วนกลางแต่อย่างไร ทำให้ชั้นนี้เป็นชั้นสุดท้ายที่มีห้องพักอาศัยแบบ Hrbrid เต็ม ๆ ชั้น และมีห้องพักอยู่ที่ 13 ยูนิต/ชั้น เท่านั้นค่ะ
UNIT TYPE
xxx
xxx
xxx
ห้องตัวอย่าง
วันนี้เรามีห้องตัวอย่างให้ชมทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน ได้แก่ แบบ Studio Hybrid ขนาด 27.50 ตร.ม. เพดานสูง 4.3 เมตร และแบบ 1 Bedroom Simplex ขนาด 32.00 ตร.ม. เพดานสูง 2.6 เมตร
โดยทางโครงการจะขายห้องพักให้ในรูปแบบ Fully Fitted คือได้เป็นห้องเปล่า และเฟอร์นิเจอร์ Built-in บางส่วน โดยสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับมีดังนี้
ชุดครัว Built-in ท็อปหินสังเคราะห์ พร้อม Backsplash และ Hob, Hood, Sink ของ Mex ตู้เก็บของ Built-in ภายใน Common Area สุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ American Standard และ Charmer ชุดก๊อกน้ำและฝักบัวสีดำของ Hafele ฉากกั้นอาบน้ำ Temered Glass พัดลมระบายอากาศแบบฝังเพดาน แอร์ Wall Type ของ Daikin จำนวน 1-2 ตัว* (แล้วแต่ขนาดห้องพัก) ห้องตัวอย่าง Studio Hybrid ขนาด 27.50 ตร.ม.
แปลนห้องตัวอย่างแบบ Studio Hybrid ขนาด 27.50 ตร.ม. เป็นห้อง Size ใหญ่สุดในรูปแบบของ Studo โดยพื้นที่ใช้งานภายในจะแบ่งไว้ 3 ส่วนหลัก ๆ คือส่วนแรกที่เป็น Common Area เพดานสูง 2.1 เมตร ที่เป็นห้องครัวปิด พร้อมตู้เก็บของ และพื้นที่วางตู้เย็นในระยะใช้งานสบาย ๆ ซ้ายมือจะเป็นที่ตั้งของห้องน้ำหน้ากว้าง ที่มีการแบ่งส่วนแห้ง และกั้นแยกส่วนอาบน้ำมาให้เรียบร้อย
ถัดจาก Common Area เข้าไป จะมีการแยกโซนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน เพื่อป้องกันกลิ่น คัน จากการประกอบอาหาร และช่วยแยกโซนระหว่างพื้นที่ใช้งานหนัก กับโซน Livng ให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น โดยพื้นที่ Living Area จะได้เพดานสูงถึง 4.3 เมตร สามารถรวมห้องนั่งเล่น และมุมทานอาหารเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว
ท้ายห้องจะมีมุมเว้นลึกลงไป และให้เป็นหน้าต่างแบบ Corner Windows เหมาะสำหรับจัดเป็นมุมทำงาน เพราะจะได้ช่องแสงที่เพียงพอต่อการใช้งาน และสามารถพักสายตา แล้วมองออกไปดูวิวเมืองชั้นสูงกันได้ อีกฝั่งที่ตอดกันจะเป็นระเบียงพักผ่อน มีขนาดค่อนข้าง Compact แต่ก็สามารถวางราวตากผ้า หรือจัดสวน Pocket Garden เพิ่มเข้าไปได้ค่ะ
จากชั้นล่าง ขึ้นไปที่ชั้นลอย จะเป็นส่วนของห้องนอน พื้นที่ใช้งานให้มาขนาดพอเหมาพกำลังดี โดยจะมีความกว้างอยู่ที่ประมาณ 3 เมตร สามารถวางเตียงนอน King Size และมีพื้นที่เหลือให้วางตู้เสื้อผ้าใบใหญ่, โต๊ะเครื่องแป้ง หรือใช้ผนังส่วนที่โล่ง ๆ ติด TV แขวนผนังเข้าไปก็ทำได้ตามต้องการค่ะ
ประตูห้องจริงได้เป็นประตูไม้สำเร็จรูปบายทึบ พร้อมกลอน Digital Door Lock และธรณีหินสังเคราห์ ป้องกันฝุ่งผง และแมลงตัวเล็ก ๆ ไม้ให้เข้าสู่ห้องพักโดยตรงได้
เข้ามาด้านในจะเจอกับ Common Area พื้นที่ส่วนกลางที่ประกอบไปด้วยห้องครัวปิด, พื้นที่วางตู้เย็น, ห้องน้ำ และห้องเก็บของ ที่ Built-in มาให้กับห้องพัก แยกส่วน Common และ Living ด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน เฟรมอะลูมิเนียมสีดำ ส่วนตัวพื้นจะปูด้วยแกรนิตโต้สีเบจ 60 x 60 ซม. ฝ้าเพาดานสูงประมาณ 2.1 เมตร และได้ผนังฉาบเรียบทาสีพื้น และโคมไฟ Downlight
โครงการขายห้องพักให้แบบ Fully Fitted สิ่งที่ได้จะเป็นชุดครัว Built-in อุปกรณ์บานตู้ต่าง ๆ ใช้เป็น Hafele ที่มีมาตรฐานและแข็งแรง ใช้งานได้นาน มีให้ครบทั้งตู้เก็บของบน-ล่าง พร้อมช่องวางไมโครเวฟ และเครื่องซักผ้าฝาหน้า ที่ด้านหลังมีการเดินระบบไฟฟ้าและระบบประปามาให้พร้อมต่อใช้งาน
หน้าท็อปครัวได้เป็นหินสังเคราะห์สีเทา ที่มีความแข็งแรง ทนรอยขีดข่วน ทนน้ำ ทนชื้นได้ดี และที่สำคัญเช็ดถูทำความสะอาดได้ง่าย ผนังมีการทำ Backsplash มาให้เรียบร้อย นอกจากนั้นยังมีราวแขวนอุปกรณ์ทำครัว และที่วางมือถือ ไว้เปิดเพลงฟัง หรือเปิดดูเมนูอาหารได้
ซิงค์ล้างจานสแตนเลสหลุมเดี่ยวของ Mes พร้อมก๊อกน้ำทรงโค้ง หัวก๊อกแบบก้านโยกสีดำของ Hafele
ไฟเตาไฟฟ้า 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควัน Slimline ของ Mex ทั้งชุด
ด้านล่างมีตู้เก็บของบานเปิด พร้อมลิ้นชีก และช่องวางเครื่องซัก-อบผ้าขนาดไม่เกิน 7 กก.
ตู้ให้มาแบบ Full FUnction คือมีตู้เก็บของใต้อ่าง พร้อมกรุแผ่นอะลูมิเนียมกันน้ำกันชื้นมาให้ ถัดมาจะเป็นลิ้นชัก พร้อมถังขยะ 2 ใบ และด้านบนสุดเป็นลิ้นชักพร้อมถาดจัดระเบียบช้อน-ส้อม
ด้านบนได้เป็นตู้เก็บของบานเปิด พร้อมชั้นลอยที่ด้านใน ซ้ายมือสุดเป็นช่องสำหรับวางไทโครเวฟขนาดมาตรฐาน ที่ผนังด้านหลังมีเต้าเสียบปลั๊กไฟติดมาให้พร้อมเสียบใช้งาน
ติดกับชุดครัวห้องจริงจะเป็นพื้นที่โล่ง ๆ ความกว้างประมาณ 90 ซม. สามารวางตู้เย็น 2 ประตู ขนาด 6-12 คิวได้ ผนังด้านหลังมีเต้าเสียบปลั๊กไฟติดมาให้ครบเช่นกัน
ตรงข้ามครัวจะเป็นที่ตั้งของห้อง้ำ ถัดไปจะเป็นตู้เก็บของบานเปิดบน-ล่าง ที่ทางโครงการ Built-in มาให้มาตรฐานกับตัวห้อง
ห้องน้ำเป็นห้องหน้ากว้าง แบ่งส่วนแห้งแยกส่วนเปียกมาได้ลงตัวดี มีระยะใช้งานสบาย ๆ ไม่อึดอัด โดยลายกระเบื้องพื้นและผนังจะใช้เป็นโทนสีเทา และสีขาว ดูหรูหรา น่าใช้งาน สุขภัณฑ์มาตรฐานใช้เป็นของ American Standard, Charmer และอุปกรณ์ประกอบของ Hafele
มาดูภาพรวมส่วนแห้งกันก่อนค่ะ ฝั่งนี้จะติดสุขภัรฑ์มาให้ตำแหน่งตามภาพ ด้านหลังจะมี Low-Wall ตัว L ให้วางของใช้ต่าง ๆ ได้เยอะ ผนังห้องน้ำติดกระจกเงาบานใหญ่มาให้ 2 บาน มีราวแขวนผ้าให้ 1 ชิ้น และมีตัวช่วยระบายอากาศเป็นพัดลมแบบฝังฝ้า 1 ตัว
อ่างล้างทรงเหลี่ยมขอบมนวางบนตู้เก็บของใต้อ่าง ก๊อกน้ำก้านโยกสีดำของ Hafele ในตู้มีพื้นที่พอประมาณ เหมาะสำหรับเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด หรือใช้เป็นตู้ Stock ครีมอาบน้ำ, แชมพู, ครีมนวด, แปรงสีฟัน-ยาสีฟัน และกระดาษทิชชู่ได้
สำหรับห้อง Hybrid ในทุก Type ทุกขนาด จะได้โถสุขภัณฑ์แบบ Wall Hung มีปุ่มกด Dual Flush ที่ Low-Wall ด้านหลัง ติดอุปกรรืประกอบมาให้ครบทั้งสายฉีดชำระ และที่แขวนกระดาษทิชชู่สีดำของ Hafele
ขวามือจะเป็นส่วนอาบน้ำ ได้ฉากกั้นอาบน้ำกระจก Tempered Glass บานเลื่อน 3 ตอน มากับตัวห้องแบบนี้
พื้นที่อาบน้ำขนาด ประมาณ 1.2 x 0.80 เมตร พอยืนอาบน้ำได้สบาย ๆ
ภายในติดฝักบัวมาให้ 2 รูปแบบ ทั้ง Rain Shower และ Hand Shower สีดำ พร้อมราวปรับระดับสูง-ต่ำ ก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยกของ Hafele ผนังเจาะช่องทำชั้นวางของมาให้ 1 ช่อง สามารถวางขวดสบู่ได้ 2-3 ขวด
มองกลับมาดูภาพรวมทางฝั่ง Common Area จะมีระยะใช้งานตรงกลางกว้างอยู่ที่ ประมาณ 1.2 เมตร ค่ะ
ผ่าน Common Area และประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนเข้ามาที่ด้านใน จะเจอกับ Living Area เพดานสูงถึง 4.3 เมตร ได้พื้นกระเบื้องลายไม้ทั้งหมด ภายในมีพื้นที่ใช้งานกว้างกำลังดี สามารถรวมห้องนั่งเล่น, มุมทานอาหาร และมุมทำงานเข้าไว้ในพื้นที่เดียวกันได้อย่างลงตัว ทั้งนี้หน้ากว้างของห้องยังมีให้มากถึง 3.5 เมตร ด้วยกันค่ะ
ถ่ายกลับมาให้ดูภาพรวมเพื่อให้เห็นรูปแบบห้องพักแบบ Hybrid เราสามารถใช้พื้นที่ใช้ล่างเป็น Living Area และชั้นบนเป็นห้องนอน ที่ให้ความเป็นส่วนตัวได้ดี
ห้องตัวอย่างวางโซฟาตัวยาว รองรับคนนั่งได้ประมาณ 5 คน โดยจะแบ่งฝั่งนึงเป็นมุมทานอาหาร แล้วเสริมด้วยสตูลกลม เพื่อเพิ่มพื้นที่นั่งได้อีก 1-2 คน ติดกันจะเป็นมุมนั่งเล่นดูทีวี นั่งสบาย ๆ ได้อีก 2-3 คน และด้านหน้ายังมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะรับแขกขนาดใหญ่ได้ ส่วนห้องจริงลูกค้าสามารถ Customize เฟอร์นิเจอร์เองได้ตามชอบเลยค่ะ
อีกฝั่งของห้องจะมีพื้นที่เหลือและเพดานสูงมาก ให้เราวางชั้นวางทีวีตัวยาว หรือจะ Built-in ตู้เก็บของด้านบนเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอย และเก็บของให้เป็ระเบียบมากขึ้นก็ทำได้
ถัดไปที่ด้านหลังห้อง จะมีพื้นที่เว้นลึกลงไป เหมาะสำหรับทำเป็นมุมทำงาน หรือมุมโต๊ะเครื่องแป้ง ติดกันจะเป็นระเบียงพักผ่อนที่อยู่ด้านนอก
พื้นทีที่เว้นลึกลงไป จะรองรับโต๊ะทำงานขนาด 1 ที่นั่ง แบบหลวม ๆ ได้เลย โดยจุดนี้จะมีความพิเศษคือได้หน้าต่างกระจก Full Height แบบ Corner Windows เฟรมอะลูมิเนียมสีขาว ช่วยให้เปิดรับแสงและวิวภายนอกได้กว้าง และมีการติดบานกระทุ้งมาให้ 1 ช่วย ไว้สำหรับเปิดรับลม เปิดระบายอากาศได้
ติดกันจะเป็นระเบียงพักผ่อนค่ะ แยกโซนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กรอบอะลูมิเนียมสีขาว เพื่อให้กลมกลืนกับตัวอาคารภายนอกที่ใช้เป็นโทนสีขาวอ่อน ๆ พร้อมยกธรณี*วงกบขึ้นมาให้ 15 ซม. ป้องกันน้ำฝน และสิ่งสกปรกไม่ให้พัดเข้าสู่ห้องโดยตรงได้
ระเบียงขนาด Compact ดี ปูพื้นกระเบื้องเซรามิกกันลื่นสีเทามาให้ พื้นที่ใช้งานประมาณ 1.5 x 1.2 เมตร สามารถวางราวตากผ้า, เก้าอี้พักผ่อน หรือจัดเป็นสวนไม้กระถาง จัดสวน Pocket Garden เพิ่มความ Greenery ให้กับห้องได้ตามต้องการ
ติดราวระแนงเหล็กกันตกความสูงประมาณ 1 เมตร พร้อมกริลบัง CDU ความสูงจรดฝ้าเพดาน 4.3 เมตร ด้านบนติด CDU ไว้ 2 ตัว ทำให้พื้นที่ระเบียงไม่อมความร้อน ใช้งานได้สบาย ๆ และที่ผนังข้างขวาจะมีไฟกิ่งให้แสงสว่างมาอีก 1 ดวง
มองกลับเข้ามาดูภาพรวมภายในห้อง จะเห็นถึงความโปร่ง โล่ง รับแสงได้ดี แบบนี้เลยค่ะ
ขึ้นบันไดไปดูชั้นลอยด้านบนกันต่อ
ด้านบนนี้จะเป็นส่วนของห้องนอนค่ะ ตัวพื้นจะปูกระเบื้องยางลายไม้ ผนังฉาบเรียบทาสีพื้น และมีงานระบบไฟฟ้า เต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้ตามจุดต่าง ๆ ส่วนพื้นที่ใช้งานรองรับการวางเตียงนอน 5-6 ฟุต และตู้เสื้อผ้า Size มาตรฐานได้
ปลายเตียงนอนจะติดราวระแนงกันตกมาให้แบบในภาพ ห้องจริงเราสามารถต่อเติมห้องกระจก หรือวางชั้นวางทีวีที่ปลายเตียงเพิ่มเข้าไปได้ค่ะ
จากห้องนอน มองกลับลงมาดู Living Area ที่ด้านล่าง
ห้องตัวอย่าง แบบ 1 Bedroom Simplex ขนาด 32.00 ตร.ม.
แปลนห้องตัวอย่าง แบบ 1 Bedroom Simplex ขนาด 32.00 ตร.ม. ตั้งอยู่ที่ชั้น 12-19 เป็นห้องพักเพดานสูง 2.6 เมตร ผังห้องเป็นแบบตอนลึก แบ่งไว้ทั้งหมด 3 ส่วน เพื่อการใช้งานแยกกันได้อย่างลงตัว โดยส่วนแรกจะเป็น Common Area ที่รวมห้องครัวปิด, ตู้เก็บของ และห้องน้ำเข้าไว้ด้วยกัน ผ่านประตูกระจกบานเลื่อนเข้าไปที่ตรงกลางห้อง จะเป็นส่วน Living Area ที่รวมห้องนั่งเล่นและมุมทานอาหารเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว
ถัดเข้าไปด้านในสุดจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน อีกชั้น ภายในเป็นห้องนอน รองรับเตียงนอน 5-6 ฟุต และเฟอร์นิเจอร์มาตรฐานได้ครบ ทั้งยังพื้นที่เว้นลึกลงไปให้ทำเป็นมุมทำงาน โดยตรงนั้นจะได้หน้าต่างกระจก Corner Windows มาเช่นเดิม ส่วนระเบียงมีขนาด Compact พอใช้งานได้สะดวกค่ะ
เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับ Common Area เป็นอันดับแรก ซ้ายมือเป็นห้องครัวปิด ขวามือเป็นห้องน้ำและตู้เก็บของที่ทางโครงการ Built-in มาให้กับตัวห้อง จากจุดนี้จะแยกโซนด้วยประตูระจกบานเลื่อน 3 ตอน เฟรมอะลูมิมิเนียมสีดำ ตัวพื้นปูแกรนิตโต้สีเบจ 60 x 60 ซม. เพื่อการเช็ดถูและทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนผนังและไฟในห้องทั้งหมด จะได้เป็นผนังฉาบเรียบทาสีพื้น โคมไฟ Downlight หลอด LED ประหยัดพลังงาน
ซ้ายมือจะเป็นชุดครัว Built-in ท็อปหินสังเคราะห์สีเทา พร้อม Hob, Hood, Sink ของ Mex พร้อมตู้เก็บของบน-ล่าง ที่มีช่องวางไมโ๕รเวฟ และช่องวางเครื่องซักผ้าฝาหน้าให้พร้อม โดยหน้าตาและฟังก์ชันที่ได้จะเหมือนกันกับห้องก่อนหน้านี้ทุกประการ ติดกันจะมีพื้นที่เหลือกว้างประมาณ 1.2 เมตร ให้วางตู้เย็น 2 ประตู ขนาด 6-12 คิวได้ ผนังด้านหลังมีเต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้พร้อมต่อใช้งาน
อีกฝั่งจะเป็นตู้เก็บของ และห้องน้ำ
โครงการ Built-in ตู้เก็บของบานเปิดมาให้ตามนี้เลยนะคะ โดยจะแบ่งเป็นตู้เก็บรองเท้าที่ด้านล่าง ที่มีช่องระบายความอับชื้นมาให้ ด้านบนเป็นตู้อเนกประสงค์ เลือกเก็บของใช้ในห้องได้ตามชอบ ส่วนหน้าตู้ใบล่าง ได้เป็นหินสังเคราะห์ เหมาะสำหรับวางถาดใส่กุญแจรถ กุญแจบ้าน หรือกระเป๋าถือที่ต้องหยิบใช้งานบ่อย ๆ
ส่วนห้องน้ำจะเป็นห้องหน้ากว้าง ตกแต่งพื้นและผนังคุมโทนสีเทาและสีขาวดูหรูหราเช่นเดิม มีการแบ่งส่วนแห้ง กั้นแกส่วนอาบน้ำให้เรียบร้อย สุขภัณฑ์มาตรฐานติดมาให้ตำแหน่งตามภาพ โดยจะใช้อ่างของ Charmer, โถสุขภัณฑ์ American Standard และอุปกรณ์ประกอบต่าง ๆ สีดำที่ดูทันสมัยของ Hafele ทั้งหมด
ภาพรวมส่วนแห้งวางสุขภัณฑ์มาในระยะใช้งานสบาย ๆ เพดานติดพัดลมช่วยระบายกลิ่น ระายอากาศ และความอับชื้นมาให้ 1 ตัว
โถสุขภัณฑฬนห้อง SImplex จะได้เป็นแบบ 2 Piece ระบบ Dual Flush พร้อมสายฉีดชำระ และที่แขวนกระดาษทิชชู่สีดำของ Hafele
อ่างล้างหน้าสี่เหลี่ยมขอบมน วางบนตู้เก็บของบานเปิดลายไม้ ด้านในใช้เก็บของจุกขิกได้พอสมควร ส่วนหน้าอ่าง และด้านหลังมี Low-Wall แนวยาวให้วางของใช้ได้เยอะ ก๊อกน้ำเป็นก้านยกสีดำทรงสูง เปิด-ปิดใช้งานสะวดกดี ผนังติดกระจกเงาบานใหญ่มาให้ 1 บาน
ซ้ายมือเป็นส่วนอาบน้ำ โครงการติดฉากกั้นอาบน้ำกระจก Tempered Glass บานเลื่อน 3 ตอนมาให้มาตรฐานกับห้อง ภายในมีพื้นที่ใช้ค่อนข้างกว้าง ยืนอาบน้ำ จัดผิด จัดตัวได้สบาย ๆ ไม่ติดหรือชนกับผนังห้อง
ฝักบัวให้มา 2 รูปแบบเช่นเดิม คือทั้งตัว Rain Shower และ Hand Shower พร้อมราวปรับระดับสูง-ต่ำ ก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยก ทั้งชุดของ Hafele ผนังด้านข้างเจาะช่องทำชั้นวางของมาให้ 1 ชั้น
ถัดจาก Common Area เข้าไปโดยผ่านประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน เฟรมอะลูมิเนียมสีดำ แบบ Full Height
ตรงเข้ามาภายในจะเป็นส่วน Living Area และห้องนอน โดยพื้นห้องทั้ง 2 ส่วนนี้จะเปลี่ยนมาเป็นกระเบื้องบางลายไม้สีธรรมชาติ ช่วยให้ดูผ่อนคลาย และเดินสบายเท้า
ห้องนั่งเล่นสามารถวางโซฟาตัวยาวพอดีผนัง แบ่งแบ่งฟังก์ชันไว้นั่งดูหนัง กับนั่งทานข้าวในโซฟาตัวเดียวกันได้ หรือใครสะดวกจะแยกเฟอร์นิเจอร์ 2 ส่วนไปเลยก็ทำได้เช่นกัน ฝั่งตรงข้ามจะเป็นผนังเปล่าโล่ง ๆ รองรับชั้นวางทีวีตัวยาว และทีวีจอใหญ่ 52-60 นิ้วได้สบาย ๆ งานระบบต่าง ๆ มีให้พร้อมเสียบต่อใช้งาน
ความกว้างของห้องนั่งเล่นจะอยู่ที่ ประมาณ 3 เมตร เป็นระยะที่ดูทีวี ดูซีรีส์ได้ในระดับสายตาที่ดี ด้านหน้ามีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะรับแขกเสริมเข้าไปและ ยังมีพื้นที่ให้เราเดินเข้า-ออกไปส่วนอื่น ๆ ของห้องได้สะดวกดีค่ะ
บรรยากาศภาพรวมบริเวณ Living Area
ถัดจาก Living Area เข้าไป จะเป็นห้องนอน โดยจะแยกส่วนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน เฟรมอะลูมิเนียมสีดำบานสูงจรดฝ้าเพดาน ช่วยให้ห้องดูโปร่งกว้าง รับแสงธรรมชาติจากหน้าต่างและระเบียงเข้ามาสู่ห้องนอน และ Living ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ภายในห้องนอนมีพื้นที่ใช้งานกว้างกำลังดีค่ะสามารถวางเตียงนอน 5-6 ฟุต ได้ตามชอบ อีกฝั่งเลือกได้ว่าจะวางเฟอร์นิเจอร์แบบไหน จะวางเป็นตู้เสื้อผ้ากับโต๊ะเครื่องแป้ง หรือจะวางเป็นตู้เสื้อผ้า กับชั้นวางทีวี แล้วย้ายโต๊ะเครื่องไปไปที่พื้นที่หัวมุมข้างห้องก็ได้
ด้านหลังสุดจะเป็นพื้นที่ที่เว้นลึกลงไป ติดกันเป็นระเบียงพักผ่อน
ข้างเตียงนอนจะเป็นพื้นที่ที่เหมาะกับการทำเป็นมุมทำงานอยู่ที่บ้านค่ะ สามารถวางโต๊ะทำงานตัวยาว นั่งคนเดียวสบาย ๆ ได้เลย ที่สำคัญจุดนี้เค้าจะให้หน้าต่าง Full Height แบบ Corner Windows มาด้วย สามารถเปิดรับวิวเมืองรอบ ๆ ได้กว้างมากขึ้น และมีบานกระทุ้ง ไว้เปิดรับลม ระบายอากาศได้อีก 1 บาน
ติดกันจะเป็นประตูทางออกไปยังระเบียงค่ะ ได้เป็นประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน เฟรมอะลูมิเนียมสีขาว เหนือประตูติดแอร์ Wall Type มาให้ 1 ตัว
ระเบียงมีขนาด Compact ปูพื้นกระเบื้องเซรามิกกันลื่นสีเทา 30 x 30 ซม. มาให้ พื้นที่ใช้งานมีให้พอดี ๆ สามารถวางราวตากผ้าเล็ก ๆ, เก้าอี้พักผ่อน หรือจัดสวนบนคอนโดได้ค่ะ
ส่วราวกันตกจะเป็นระแนงเหล็กทาสีขาว พร้อมกริลบังแอร์ความสูงจรดฝ้าเพดาน ซ้ายมือติด CDU มาให้ 2 ตัว ขวามือติดโคมไฟกิ่งมาให้ 1 ดวง
มองกลับเข้ามาดูบรรยากาศภาพรวมภายในห้อง 1 Bedroom Simplex ขนาด 32.00 ตร.ม.
แสดงความคิดเห็น