EP.2212 รีวิว เดอะ ซิตี้ จรัญฯ-ปิ่นเกล้า THE CITY Charun-Pinklao บ้านเดี่ยวหรูสไตล์อังกฤษ ใกล้ MRT แยกไฟฉาย, Central ปิ่นเกล้า และรพ.ศิริราช เริ่ม 30-45 ล้านบาท*
Written by : Nin Yanin
สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์หรู บนทำเล Rare Item ย่านจรัญสนิทวงศ์จากทาง AP Thailand กันค่ะ กับโครงการ ‘THE CITY จรัญฯ-ปิ่นเกล้า’ บนถนนแก้วเงินทอง แขวงคลองชักพระ เขตตลิ่งชัน กทม. บนทำเลศักยภาพ เชื่อมต่อถนนหลักหลายสาย ทั้ง ถนนราชพฤกษ์, ถนนบรมราชชนนี และถนนจรัญสนิทวงศ์ ใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีแยกไฟฉาย เพียง 3 กม.* และทางด่วนศรีรัช เพียง 3.5 กม.*
โครงการแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น Food Villa ราชพฤกษ์, The Circle ราชพฤกษ์ และ Central ปิ่นเกล้า รวมไปถึง Kensington International, รร.เซนต์ปีเตอร์ ธนบุรี, รพ.ธนบุรี และอยู่ใกล้ รพ.ศิริราช เพียง 10 นาที*
‘เดอะ ซิตี้ จรัญฯ-ปิ่นเกล้า’ เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เป็นส่วนตัวด้วยบ้านพักอาศัยเพียง 58 หลัง บนพื้นที่โครงการประมาณ 27 ไร่ ภายใต้ Concept Where elite living meets timeless eleglance “ที่ซึ่งจุดสูงสุดของการอยู่อาศัยมาพบกับความหรูหราที่เหนือกาลเวลา” กับงานสถาปัตกรรมสไตล์ Tudor สุด Timeless และ Classic
โดยมีแบบบ้านมาให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ เป็นบ้าน Series ใหม่ บนที่ดินขนาด 100-167 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 390-580 ตร.ม. กับฟังก์ชัน 4-5 ห้องนอน, 5-6 ห้องน้ำ, 3 ห้องพักผ่อน, 1 ห้องแม่บ้าน และที่จอดรถ 3-4 คัน ทุกหลังรองรับผู้สูงอายุด้วยห้องนอนชั้นล่างและทางลาดสำหรับ Wheel Chair พร้อมฟังก์ชันพิเศษ เช่น Double Master Bedroom บนชั้น 2*, ห้องใต้หลังคา* และพื้นที่ Semi-Outdoor*
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน ทั้ง คลับเฮาส์หรู, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, Lobby Lounge, Fitness Room, Theatre Room, Co-Working Space, สวนพักผ่อน, สนามเด็กเล่น พร้อมระบบ KATSAN และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ในราคาเริ่มต้น 30-45 ล้านบาท* (ม.ค. 66)
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก https://www.apthai.com/
เราไปดูกันเลยค่ะว่าโครงการนี้มีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง
บ้านเดี่ยว ราชพฤกษ์ ทำเลใกล้เคียง ที่น่าสนใจ…
CENTRO ราชพฤกษ์ 3 เริ่ม 7.99 ล้าน*
CENTRO สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ 3 เริ่ม 7.99 ล้าน*
CENTRO ติวานนท์-ศรีสมาน 8.99 ล้าน*
CENTRO พระราม 5-นครอินทร์ 8.99 ล้าน*
THE CITY ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า เริ่ม 8.99 ล้าน*
THE CITY พระราม 5-นครอินทร์ เริ่ม 8.99 ล้าน*
THE CITY สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ เริ่ม 11.9 ล้าน*
THE CITY พระราม 5-นครอินทร์ 2 เริ่ม 17.5 ล้าน*
THE CITY ติวานนท์-งามวงศ์วาน เริ่ม 15.99 ล้าน*
THE CITY ติวานนท์-งามวงศ์วาน 2 เริ่ม 15.99 ล้าน*
THE CITY จรัญ-ปิ่นเกล้า 25.9 ล้าน*
ชื่อโครงการ | เดอะ ซิตี้ จรัญฯ-ปิ่นเกล้า / THE CITY Charun-Pinklao |
เจ้าของโครงการ | บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด / AP Thailand |
ลักษณะโครงการ | บ้านเดี่ยว 2 ชั้น |
พื้นที่โครงการ | ประมาณ 27 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 58 หลัง |
เนื้อที่บ้าน | 100-167 ตร.ว. |
พื้นที่ใช้สอย | 390-580 ตร.ม. |
จำนวนห้อง | 4-5 ห้องนอน, 5-6 ห้องน้ำ, 3 ห้องพักผ่อน, 1 ห้องแม่บ้าน |
ที่จอดรถทั้งหมด | 3-4 คัน |
โซน | เขตตลิ่งชัน |
เส้นทางคมนาคม |
|
ที่ตั้ง | ถนนแก้วเงินทอง แขวงคลองชักพระ เขตตลิ่งชัน กทม. 10170 |
กำหนดการ | เริ่มก่อสร้าง 1 พ.ค. 65 |
ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าแล้วเสร็จ 1 ก.ค. 67 |
ราคา | เริ่มต้น 30-45 ล้านบาท* (ม.ค. 66) |
ค่าส่วนกลาง | 34 บาท/ตร.ว./เดือน |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า/ตลาดสด
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด** |
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
Tel | 1623 |
Website | https://www.apthai.com/ |
ที่ตั้งโครงการ
ถนนแก้วเงินทอง แขวงคลองชักพระ เขตตลิ่งชัน กทม. 10170
พิกัด : 13.765776, 100.452266
ทำเลที่ตั้ง โครงการ THE CITY จรัญฯ-ปิ่นเกล้า ตั้งอยู่บนถนนแก้วเงินทอง ช่วงระหว่างถนนราชพฤกษ์และถนนจรัญสนิทวงศ์ในฝั่งธนบุรี ประมาณ 300 ม.* จาก MRT สถานีแยกไฟฉายค่ะ ภาพรวมของทำเลนี้จะเป็นพื้นที่อยู่อาศัยในแนวราบ ที่ค่อย ๆ ผันมาเป็นพื้นที่อยู่อาศัยในแนวสูงอย่างคอนโดมิเนียม อันเนื่องมาจากการขยายโครงข่ายรถไฟฟ้ามายังฝั่งธนฯ ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ Demand และมูลค่าของที่ดินมีมูลค่าสูงขึ้น
โดยทำเลนี้เป็นทำเลที่ขยายตัวออกมาจากย่านวงเวียนใหญ่และจรัญสนิทวงศ์ ซึ่งเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยเก่าที่มีความหนาแน่นสูง ถือว่าอยู่ไม่ไกลจากจุดศูนย์กลาง และเป็นจุดที่เชื่อมต่อถนนเส้นหลัก ๆ อย่างเส้นจรัญสนิทวงศ์, ราชพฤกษ์ และบรมราชชนนี ที่เป็นที่ตั้งของสาธารณูปโภคต่าง ๆ มากมายได้สะดวกอีกด้วย หนึ่งในนั้นก็คือ รพ.ศิริราช ซึ่งอยู่ใกล้กับโครงการเพียง 10 นาที* เท่านั้น จึงเป็นอีกทำเลหนึ่งที่บรรดาเจ้าของกิจการ, พนักงานเอกชน และบุคลากรทางการแพทย์ มองหาพื้นที่ลงหลักปักฐานกัน
การเดินทางด้วยรถยนต์ จากถนนแก้วเงินทองสามารถเชื่อมต่อออกไปยังถนนใหญ่สายหลักได้หลายเส้นค่ะ โดยสามารถเชื่อมต่อกับซอยจรัญสนิทวงศ์ 35 ไปออกถนนจรัญสนิทวงศ์, ถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 และถนนราชพฤกษ์
โดยจากถนนจรัญสนิทวงศ์ถ้ามุ่งหน้าลงไปทางแยกไฟฉาย ไปออกถนนรัชดา-ท่าพระ ผ่านแยกมไหสวรรย์ และข้ามสะพานพระราม 3 เข้าสู่โซนพระราม 3 ได้อย่างรวดเร็ว หรือจะตัดเข้าเส้นราชพฤกษ์ตรงแยกรัชดา-ราชพฤกษ์ เพื่อออกถนนกรุงธนบุรี ข้ามสะพานตากสินเข้าสู่โซนสาทร-สีลมเลยก็สะดวกเหมือนกัน และจากถนนราชพฤกษ์ยังสามารถเชื่อมต่อกับถนนเพชรเกษม ออกวงแหวนฯ เพื่อลงไปทางโซนพระราม 2 ได้ไม่ยาก
รวมไปถึงถนนแก้วเงินยังสามารถเชื่อมต่อกับถนนฉิมพลี ไปออกถนนเลียบทางรถไฟ และถนนบรมราชชนนี เชื่อมต่อวงแหวนฯ ขึ้นไปทางบางใหญ่ หรือใช้วิ่งออกไปทางศาลายาได้สบาย ๆ ค่ะ
ทางด่วน โครงการจะอยู่ใกล้กับ จุดขึ้นทางด่วนศรีรัช ด่านตลิ่งชัน มากที่สุด ประมาณ 3.6 กม.* จากโครงการ ใช้วิ่งเข้าเมืองโซนจตุจักร-บางซื่อ-ปทุมวัน ได้ง่ายเลย
สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ บนถนนแก้วเงินทองจะมีรถสองแถว, วินมอเตอร์ไซค์ และรถแท็กซี่วิ่งผ่านอยู่ตลอดเวลา พอออกไปที่ถนนจรัญสนิทวงศ์ก็จะมีรถเมล์วิ่งผ่านอยู่หลายสายค่ะ โดยจุดขายของทำเลนี้ก็คือ MRT สถานีแยกไฟฉาย ที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 3 กม.* สามารถเรียกรถไปต่อได้ง่าย ๆ เป็นอีกตัวเลือกในการเดินทางเข้าเมืองในวันที่ไม่ต้องการขับรถ หรือไปในสถานที่ที่หาที่จอดรถยากค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ เป็นทำเลที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตเพราะอยู่ใกล้กับแหล่งอาหารการกินและแหล่ง Shopping เยอะมาก บนถนนแก้วเงินทองเองจะมีพวกร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ รวมไปถึงร้านอาหารอยู่หลายร้าน โดยใกล้ที่สุดจะเป็นตลาดน้ำตลิ่งชัน และถ้าเราออกไปถนนใหญ่อย่างถนนจรัญสนิทวงศ์ ไม่ไกลจากแยกไฟฉายก็จะมี ตลาดบางขุนศรี และ Makro จรัญสนิทวงศ์ หรือที่ฝั่งตรงข้ามก็ยังมี Foodland ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชม. และตลาดอินดี้ที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการเลย
ใกล้เคียงกันบนเส้นราชพฤกษ์ก็เป็นจุดที่มีความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก เพราะเป็นทำเลของหมู่บ้านจัดสรรโครงการใหญ่ ๆ ทำให้มี Shopping Mall และคาเฟ่เก๋ ๆ ให้เลือกกันค่อนข้างเยอะ โดยที่เด่น ๆ จะมี Food Villa, The Circle, The Crystal FB, Home Pro และ The Walk ราชพฤกษ์
หรือออกไปบนเส้นบรมราชชนนีก็มีห้างอยู่เยอะมากเช่นกัน ทั้ง Lotus’s, Central ปิ่นเกล้า และ The Sense อยู่เรียงกันเลยค่ะ ส่วนฝั่งตรงข้ามจะมี Tops ตลิ่งชัน, ห้างเก่าแก่อย่าง PATA, Foodland, ปิ่นเงินปิ่นทองพลาซ่า, Major ปิ่นเกล้า และไม่ไกลจากบริเวณนั้นยังมีตลาดแนว ๆ อย่างช่างชุ่ย และห้างตั้งฮั่วเส็ง
ใครที่วางแผนการศึกษาให้บุตรหลาน ตัวโครงการยังอยู่ใกล้กับสถานศึกษาชั้นนำหลายแห่ง เช่น Kensington International Kindergarten, รร.ทิวไผ่งาม, รร.เขมะ สิริอนุสสรณ์, รร.เซนต์คาเบรียล, รร.เซนต์ฟรังซิสซาเวียร์คอนแวนต์, รร.บดินทรเดชา นนทบุรี, ม.ราชภัฎสวนสุนันทา, ม.ราชภัฎสวนดุสิต, รร.ราชินิบน รวมไปถึง 3 มหาวิทยาลัยดังอย่าง ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์, ม.ศิลปากร วังท่าพระ และ ม.มหิดล เป็นต้น
และครอบครัวไหนมีญาติผู้ใหญ่ อยากได้ความรู้สึกอุ่นใจเข้าถึงมือหมอได้เร็ว โครงการนี้อยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลดี ๆ หลายแห่งเลยค่ะ ใกล้ที่สุดจะเป็น รพ.วิชัยเวช ตรงแยกไฟฉาย ถัดออกมาจะเป็น รพ.ธนบุรี แต่ถ้ามองหาโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ก็จะมี รพ.ศิริราช อีกที่ก็มี รพ.เจ้าพระยา, รพ.ตา หู จมูก, รพ.ยันฮี, รพ.รามาธิบดี และ รพ.ราชวิถี ไปได้สะดวกทุกที่
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า/ตลาดสด
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
การเดินทางสู่โครงการ
วันนี้มาดูเส้นทางการเดินทางไปตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนจรัญสนิทวงศ์ > ซอยจรัญสนิทวงศ์ 35 > ถนนแก้วเงินทอง > THE CITY จรัญฯ-ปิ่นเกล้า
เราเริ่มต้นการเดินทางจากถนนจรัญสนิทวงศ์ฝั่งขาออก โดยมุ่งหน้าไปทางแยกไฟฉายกันค่ะ ทางฝั่งขวามือเราจะผ่าน Home Pro จรัญสนิทวงศ์
จากนั้นให้เราชิดขวาเพื่อลงทางลอดข้ามแยกไฟฉายไปทางบรมราชชนนี ตรงนี้คือข้อดีของเส้นจรัญสนิทวงศ์เลยค่ะ สามารถวิ่งได้ยาว ๆ โดยไม่ติดไฟแดงในแต่ละแยก
พอผ่านแยกไฟแดงมาแล้วทางฝั่งซ้ายมือเราจะผ่านตลอดบางขุนศรี ให้เราชิดซ้ายเอาไว้
จากนั้นให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยจรัญสนิทวงศ์ 35
จากซอยจรัญสนิทวงศ์ 35 จะเริ่มเข้าสู่โซนที่พักอาศัย จะมีพวกร้านค้าและร้านสะดวกซื้ออยู่ตลอดทางเลยค่ะ
ให้เราตรงเข้าไปจนสุดซอยแล้วเลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่ถนนแก้วเงินทอง
ส่วนบรรยากาศภายในถนนแก้วเงินทองจะได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น เราตรงไปเรื่อย ๆ ประมาณ 1.2 กม.*
จากนั้นเราจะเห็นโครงการ THE CITY จรัญฯ-ปิ่นเกล้า อยู่ทางฝั่งซ้ายมือค่ะ
เรามาถึงโครงการ THE CITY จรัญฯ-ปิ่นเกล้า กันแล้วค่า
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
บนถนนแก้วเงินทองเป็นลักษณะของย่านที่อยู่อาศัย รอบ ๆ โครงการมีทั้งบ้านพักอาศัยส่วนตัวและพวกหมู่บ้านจัดสรร ทำให้บรรยากาศค่อนข้างเป็นส่วนตัว แต่ด้วยทำเลที่มีคนอยู่อาศัยกันเยอะพอสมควร ก็ทำให้มีร้านค้าและร้านสะดวกซื้อให้เห็นอยู่ตลอดทางค่ะ
จากหน้าโครงการไปทางฝั่งขวา มุ่งหน้าออกซอยจรัญสนิทวงศ์ 35 ภาพบรรยากาศบริเวณถนนหน้าโครงการดูเงียบสงบด้วยความที่เป็นย่านที่พักอาศัย
นอกจากบ้านพักอาศัยส่วนตัวแล้วก็จะมีพวกอาคารพาณิชย์และบ้านจัดสรร
จากหน้าโครงการไปทางฝั่งซ้าย มุ่งหน้าออกถนนฉิมพลี
ใกล้เคียงกับโครงการจะมีคาเฟ่เล็ก ๆ อยู่ด้วย
เลยจากโครงการไปจะเห็นร้านค้าและร้านอาหารอยู่ตลอดทาง โดยประมาณ 270 ม.* จะมี 7-11 อยู่ 1 สาขาค่ะ
ตัวโครงการ
THE CITY จรัญฯ-ปิ่นเกล้า เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้นระดับ Luxury ที่ให้ความเป็นส่วนตัวกับผู้อยู่อาศัยด้วยจำนวนบ้านภายในโครงการเพียง 58 หลัง พัฒนาบนพื้นที่โครงการขนาดประมาณ 27 ไร่ ภายใต้ Concept Where elite living meets timeless eleglance “ที่ซึ่งจุดสูงสุดของการอยู่อาศัยมาพบกับความหรูหราที่เหนือกาลเวลา” กับงานสถาปัตกรรมที่ Timeless และ Classic
สำหรับ Main Gate ของโครงการถูกออกแบบมาในสไตล์ Modern Classic เป็น Mood and Tone ที่ดูหรูหราและดูสุขุม ด้วยการเล่นเลเยอร์ การใช้เส้นสายที่ดูชดช้อย การใช้วัสดุลายหินธรรมชาติโทนสีเทา และลานน้ำพุตกแต่ง ออกแบบมาให้มีขนาดใหญ่โดดเด่นตามสไตล์แบรนด์ THE CITY
Main Gate ถูกแบ่งออกเป็นฝั่งขาเข้า-ขาออกอย่างชัดเจน โดยมีป้อม รปภ. ขั้นอยู่ตรงกลาง
การเข้า-ออกโครงการจะใช้เป็นระบบ KATSAN ซึ่งเป็นระบบการจำเลขทะเบียนรถ ผ่าน Double Gate Security ชั้นแรกเป็นรั้วไม้กระดก ส่วนชั้นที่ 2 เป็นรั้วเลื่อนอัตโนมัติ ลูกบ้านของโครงการสามารถขับรถผ่านรั้วอัตโนมัติทั้ง 2 ชั้น เข้าไปด้านในโครงการได้เลย โดยไม่ต้องเสียเวลาแตะ Key Card
ส่วนแขกของเราที่ได้ทำการ Pre-Register ผ่าน Application มาแล้ว จะมีการแจ้งเตือนเมื่อแขกมาถึง ลูกบ้านสามารถกดอนุญาตผ่านทาง Application ให้แขกผ่านเข้ามาภายในโครงการได้เลย อีกทั้งยังมีระบบ E-Stamp ใช้ประทับตรา Online ได้ด้วย ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกบ้านได้ดีเลยค่ะ
นอกจากนี้ ที่ประตูทางเข้า-ออกจะมีกล้อง CCTV สำหรับจับภาพด้านหน้ารถยนต์และเลขทะเบียนรถ และยังมีการออกแบบทางเท้าแยกสำหรับให้คนเดินเข้า-ออกได้ง่ายและปลอดภัยอีกด้วย
พอเข้ามาด้านในโครงการแล้ว เราจะเห็นอาคารคลับเฮาส์อยู่ทางฝั่งซ้ายมือเรียกว่า The Club โดยตัวอาคารถูกออกแบบให้เป็นอาคารเดียวกับ Main Gate ภายในมีการแบ่งฟังก์ชันการใช้งานออกเป็นโซน Outdoor และ Indoor
และมีการออกแบบตัวอาคารโดยคำนึงถึงหลักของ Universal Design ด้วยการออกแบบทางลาด ให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวรวมไปถึงผู้สูงอายุที่ต้องใช้ Wheel Chair สามารถเข้ามาพักผ่อนได้ทุกคน
บริเวณด้านหน้าอาคารออกแบบเป็นฟังก์ชันโซน Outdoor เป็นสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือแบบ Overflow
เป็นสระที่มีขนาดใหญ่ประมาณ 13.5 x 7 ม. และลึก 1.2 ม. ใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายได้ การออกแบบตัวสระทำออกมาดู Modern เส้นสายดูคลีนและหรูน่าใช้งานมาก
ภายในสระยังมีการแบ่งออกมาเป็นโซนเด็ก สามารถใช้เป็น Jacuzzi ได้ในตัว
มีมุมสำหรับนั่งพักผ่อนนวดตัวสบาย ๆ
และมีมุม Sunken Seat และ Pool Bed ข้าง ๆ สระสำหรับนั่งเล่นรับลมพักผ่อนหย่อนใจ
นอกจากนี้ยังมีโซน Shower จัดเอาไว้ให้สำหรับล้างตัวก่อนลงสระ
รวมไปถึงห้องน้ำแยกห้องชาย-หญิง และห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุแยกต่างหาก
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำค่ะ ทางโครงการออกแบบมาให้ดูหรูและน่าใช้งานเหมือนกัน โดยใช้ Finishing ผนังเป็นกระเบื้องลายหินอ่อน ตัดกับอ่างล้างมือและพื้นโทนสีเข้ม
ภายในห้องน้ำ
ภายในห้องอาบน้ำ
นอกจากห้องน้ำและห้องอาบน้ำแล้ว ยังมีห้อง Sauna เตรียมเอาไว้ให้ด้วยนะคะ
คราวนี้เราเข้าไปดูฟังก์ชันในโซน Indoor กันบ้าง
ภายใน Lobby Lounge เป็นห้องกระจกที่มีฝ้าเพดานสูงพิเศษ มีความโปร่งโล่ง และมีการตกแต่งมาในสไตล์ Modern Classic บรรยากาศดูดีเลยค่ะ ในห้องมีชุดโซฟาขนาดใหญ่จัดเอาไว้ให้ลูกบ้านสามารถมานั่งพักผ่อนได้ และลูกบ้านยังใช้ห้องนี้เป็นพื้นที่สำหรับรองรับแขกจากภายนอกได้ด้วย เพราะจากทางเข้าโครงการสามารถจอดรถบริเวณโซนด้านหน้าและเดินขึ้นมาที่ Lobby ได้เลย สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มารอเด็ก ๆ ว่ายน้ำกัน ก็มานั่งรอในห้องนี้ได้เช่นกัน
ด้านข้าง Lobby จะมี Meeting จัดเอาไว้ให้ค่ะ รองรับการประชุมหรือคุยงานได้ถึง 6 คน ภายในมีหน้าจอทีวีเตรียมเอาไว้ให้เผื่อใช้ในการ Present ด้วย
ขึ้นมาบนชั้น 2 ฟังก์ชันทางฝั่งขวามือคือ Fitness Room
ภายในมีการออกแบบห้องให้มีหน้าต่างรับแสงธรรมชาติค่อนข้างเยอะ รวมไปถึงมีการออกแบบฝ้าเพดานให้สูงโปร่ง ทำให้บรรยากาศเหมาะสำหรับการออกกำลังกาย พื้นที่ห้องที่จัดมาให้ก็มีขนาดใหญ่เลย ธีมสีบนชั้น 2 นี้เป็นโทนสีน้ำตาลไม้ ๆ ดูอบอุ่นและ Homey มากขึ้น แต่ยังคงความหรูหราอยู่เหมือนเดิม
สำหรับอุปกรณ์ออกกำลังกายที่จัดมาให้จะมี Treadmill, Stationary Bike, Punching Bag
รวมไปถึงชุด Dumbbell และ Adjustable Weight Bench
นอกจากนี้ภายใน Fitness Room ยังมี Smart Mirror สำหรับ Sync เปิดเพลงฟังเวลาออกกำลังกาย รวมไปถึงใช้เปิดคลิปสอนออกกำลังกายได้อีกด้วย
ส่วนฟังก์ชันทางฝั่งซ้ายมือของชั้น 2 จะเป็นส่วนของ Co-Working Space และ Theatre Room ค่ะ
บรรยากาศภายใน Co-Working Space ดู Homey ด้วยโทนสีไม้ดูสบายตา เหมาะสำหรับการพักผ่อนมาก ๆ น่าใช้งานทีเดียว
ภายในมีการจัดเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ โดยแบ่งออกเป็นมุม ๆ ไป มานั่งพักผ่อนกับครอบครัว อ่านหนังสือ หรือเปลี่ยนบรรยากาศนำงานมานั่งทำเงียบ ๆ ก็ได้นะคะ
มีมุมโซฟาตัวใหญ่รองรับลูกบ้านที่มากันเป็นกลุ่ม 3-4 คน
มุม Armchair และมุม Bean Bag น่ารัก ๆ รองรับ 1-2 คน แบบเป็นส่วนตัวหน่อย
ส่วน Theatre Room เป็นห้องดูหนังพร้อมหน้าจอทีวีขนาดใหญ่ มี Armchair ตัวใหญ่ ๆ นั่งสบาย ๆ รองรับได้ทั้งหมด 6 ที่นั่ง แอร์เย็นฉ่ำสะใจ โดยห้องนี้รองรับการใช้งานแบบ Private Booking ด้วยนะคะ
ถัดเข้ามาภายในโครงการเข้าสู่ถนนหลักที่มีความกว้างถึง 12 ม. บรรยากาศภายในโครงการดูเป็นระเบียบเรียบร้อย และดูร่มรื่นด้วยการปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ตลอดแนวเพื่อเป็นร่มเงา
ทางฝั่งขวามือของเรานี้เอง บ้านหลังแรกคือสำนักงานขายของโครงการค่ะ
และบ้านหลังถัดมาก็คือบ้านตัวอย่าง เป็นแบบบ้าน Oxburgh ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโครงการ ซึ่งบ้านของโครงการนี้ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากสถาปัตยกรรมอังกฤษในยุค Tudor ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น โดยรายละเอียดจะเป็นยังไงบ้าง เราจะไปเล่าให้ฟังในหัวข้อบ้านตัวอย่างนะคะ
จากถนนหลักตรงเข้าไปจนถึงวงเวียนต้นไม้
ทางฝั่งซ้ายมือของวงเวียนจะเป็นสวนพักผ่อนภายในโครงการค่ะ
ทางโครงการออกแบบสวนพักผ่อนให้มีกลิ่นอายแบบ British Garden โดยผสมผสานกับ Organic Lines ใช้เส้นสายที่ดูชดช้อย ดูผ่อนคลาย
พื้นที่รอบสวนทำเป็นทางเดินสำหรับเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจ จะใช้เป็น Jogging Track เพื่อวิ่งออกกำลังกายก็ได้เหมือนกัน โดยแต่ละมุมต้นไม้ก็จะมีการใส่พวกม้านั่งพักผ่อนเข้าไป
มีมุมเนินเขาเป็นพื้นที่สนามหญ้าให้เด็ก ๆ วิ่งเล่นกันได้
มีมุมสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่ที่ทางโครงการออกแบบให้เป็นพิเศษ
เรียกว่าออกแบบให้เป็นอาคารขนาดย่อม 1 อาคารเลยค่ะ มีทั้งสไลเดอร์, อุโมงค์เชือกสำหรับปีนป่าย และแทรมโพลีน พื้นที่รอบ ๆ ใช้วัสดุเป็นแผ่นยางลดแรงกระแทกเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ และมีม้านั่งพักคอยสำหรับผู้ปกครองที่มาดูแล
ภาพบรรยากาศโดยรวมภายในสวน
แบบบ้านของโครงการ
ภายในโครงการ THE CITY จรัญฯ-ปิ่นเกล้า มีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ ดังนี้ค่ะ
บ้านตัวอย่าง
แบบบ้าน Oxburgh ขนาด 580 ตร.ม. บนที่ดินบ้านขนาด 123.5 ตร.ว. เป็นบ้านตัวอย่างที่เราจะพาเข้าไปชมกันในวันนี้ค่ะ
แปลนชั้น 1 เริ่มจากที่หน้าบ้านมีพื้นที่จอดรถให้ 4 คัน มีประตูทางเข้าบ้านจากฝั่งโรงจอดรถ และมีทางเชื่อมต่อกับเฉลียงทางเข้าบ้านบ้านหลัก ภายในบ้านออกแบบเป็นโถงขนาดใหญ่แบบ Open Plan รูป L Shape ส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่นแบบ Double Volume และห้องรับประทานอาหาร โดยจะมีห้องนั่งเล่นที่ 2 กั้นส่วนออกไป จากพื้นที่โถงใหญ่จะเชื่อมต่อกับ ห้องครัว, ห้องน้ำชั้นล่าง, ห้องนอนชั้นล่าง และโถงบันได โดยจากห้องครัวจะมีประตูออกสู่ลานซักล้างหลังบ้านและห้องแม่บ้าน โดยพื้นที่บ้านสามารถรองรับครอบครัวขนาดใหญ่ประมาณ 6-8 คนค่ะ
แปลนชั้น 2 เป็นส่วนของห้องนอนทั้งหมด 4 ห้อง, ห้องนั่งเล่นชั้นบน และห้องพระ โดยบ้านหลังนี้จะมี Master Bedroom มาถึง 2 ห้อง มีขนาดกว้างขวางเป็นสัดส่วน พร้อมห้องนั่งเล่นส่วนตัว, Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอน 2 และ 3 ก็มีขนาดใหญ่ สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตและวางเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ได้อย่างลงตัว โดยจะมีห้องน้ำให้ในตัวเช่นกัน นอกจากนี้จะยังมีชั้นลอย เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ใต้หลังคาอีก 1 ห้องให้อีกด้วย
สำหรับสไตล์การออกแบบบ้านของโครงการนี้จะเป็น งานสถาปัตยกรรมในยุค Tudor ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยตัวบ้านที่เป็นโครงสร้างไม้ที่ทำมาจากไม้สน หรือไม้โอ๊คผ่าซีก ที่ทาด้วยน้ำมันสีดำ และใช้ตัวผนังบ้านที่เป็นดินเหนียวพอกโครงไม้สานขัดแตะ ทาด้วยปูนขาว ทำให้เกิดดีเทลเป็นช่องสี่เหลี่ยมหรือสามเหลี่ยมรอบตัวบ้าน ที่เรียกกันว่า Black and White Effect
ทั้งหมดนี้นำมาปรับให้เข้ากับงานสถาปัตยกรรมในยุคปัจจุบัน ให้มีความร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น ออกมาเป็นสไตล์ Modern Classic ที่ Timeless และสุขุม ทำให้ทางโครงการได้รางวัล Thailand Property Awards 2022 สาขา Best High End Housing Architectural Design (Bangkok) จากทาง Property Guru อีกด้วย
ที่จอดรถของบ้านหลังนี้รองรับการจอดรถได้ถึง 4 คันในร่ม พื้นใช้โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กทำผิว Stamped Concrete ฝ้าเพดานมีดวงโคม Downlight ติดมาให้ถึง 9 ดวง
จากที่จอดรถจะมีทางเข้าบ้านรอง ซึ่งออกแบบมาให้เป็นประตูบานเปิดคู่เพื่อให้สามารถขนของชิ้นใหญ่ ๆ เข้าบ้านได้สะดวก โดยบานประตูจะใช้เป็นบานไม้สัก ดูแพงและสวยงาม
โดยที่บ้านประตูจะติดตั้ง Digital Door Lock ของ Life Smart มาให้
ถ้าเข้าบ้านทางฝั่งนี้จะมีพื้นที่โถงที่เรียกว่า Foyer เป็นจุดพักแขกก่อนพาเข้าบ้าน และเป็นจุดที่เราสามารถทำ Built-in เป็นตู้เก็บรองเท้า เก็บร่ม และวางม้านั่งสำหรับนั่งพักคอยและนั่งเปลี่ยนรองเท้าได้เลย เหมือนกับเป็น Shoes Room ขนาดย่อม ๆ
จากโรงจอดรถจะมีทางเชื่อมที่เชื่อมต่อกับเฉลียงทางเข้าบ้านเลย โดยทางเชื่อมนี้จะออกแบบให้เป็นทางลาดในร่ม รองรับการใช้งาน Wheel Chair และรถเข็นเด็กได้
สำหรับเฉลียงทางเข้าบ้านมีการออกแบบมาให้เป็นซุ้มประตูสูง เพิ่มความแกรนด์ให้กับตัวบ้าน และทำให้เห็นทางเข้าบ้านหลักอย่างเด่นชัด
พวกพื้นเฉลียงภายนอก ทางโครงการเลือกใช้เป็นกระเบื้องลายหินธรรมชาติสีเทาเข้มที่มีพื้นผิวค่อนข้างหยาบเพื่อกันลื่น ส่วนประตูทางเข้าบ้านหลักก็ใช้เป็นประตูบานเปิดคู่ขนาดใหญ่ ใช้บานไม้สักเช่นกัน โดยทำลายลูกฟักอย่างสวยงาม
พอเข้ามาในบ้าน เราจะรู้สึกได้เลยว่าพื้นที่บ้านมีขนาดที่กว้างขวาง เพราะว่าบ้านมีพื้นที่ใช้สอยเยอะมากอยู่แล้ว และมีการออกแบบฟังก์ชันให้เปิดเชื่อมต่อกันแบบ Open Plan รวมไปถึงมีการออกแบบช่องแสงขนาดใหญ่โดยรอบบ้าน ทำให้บ้านโปร่งและรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ที่สำคัญเลยคือบ้านมีฝ้าเพดานสูง โดยเฉพาะในส่วนของ Main Living Area ที่ใช้ในการรับแขกนี้ จะมีฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume สูงถึง 6.5 ม. นับว่าเป็น Highlight หนึ่งของบ้านหลังนี้เลยค่ะ
สำหรับวัสดุมาตรฐานภายในบ้าน ที่พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิโตลายหินธรรมชาติ ขนาด 80 x 80 ซม. ผนังเป็นผนังก่ออิฐมวลเบาฉาบเรียบติดวอลล์เปเปอร์ ส่วนประตู-หน้าต่างภายนอกจะเป็นบานเลื่อนกรอบ UPVC ติดกระจกเขียวตัดแสง
ด้วยความที่เรามีพื้นที่ใช้สอยมาเยอะมาก เพราะฉะนั้นการจัดวางเฟอร์นิเจอร์เลยทำได้แบบ Free Style วางโซฟาขนาดใหญ่ทั้ง 3 ด้านล้อมเป็นตัว U และวางโต๊ะรับแขกเอาไว้ตรงกลาง จัดแบบนี้รองรับได้ถึง 8 ที่นั่งเลยค่ะ ยังคงได้พื้นที่แบบสบาย ๆ
ฝั่งตรงข้ามเราได้พื้นที่ผนังที่มีความสูงแบบ Double Volume คู่ควรกับการทำ Built-in สำหรับวางของโชว์ตกแต่ง และการทำ Finishing สวย ๆ รวมไปถึงการติด Chandelier บนฝ้าเพดาน ทำให้บ้านดูแกรนด์มากยิ่งขึ้น
จากห้องนั่งเล่นรับแขกหรือ Main Living Area ฝั่งหน้าบ้าน จะเชื่อมต่อกับ ห้องนั่งเล่น 2 และห้องรับประทานอาหารเป็นรูปตัว L บริเวณนี้ฝ้าเพดานจะมีความสูง 2.8 ม. และติดดวงโคม Downlight LED ให้ทั้งหมด
บ้านตัวอย่างออกแบบและตกแต่งพื้นที่โถงทางเดินขั้นกลางบ้านเพื่อแบ่งสัดส่วนของฟังก์ชัน แต่บ้านมาตรฐานจริง ๆ จะเป็นพื้นที่โล่ง ไม่ได้มีผนังหรือเสาตกแต่งตามที่เห็นแบบนี้นะคะ
ในส่วนของห้องนั่งเล่น 2 จริง ๆ แล้วจะมีประตูบานเลื่อนกระจกและมีผนังทึบกั้นส่วนมาให้เรียบร้อย แต่เราสามารถทำการปรับเปลี่ยน ต่อเติมหรือว่าทุบผนังออกไป ให้พื้นที่ห้องเชื่อมต่อกันแบบบ้านตัวอย่างได้
พื้นที่ห้องนั่งเล่น 2 จะเหมาะสำหรับการจัดเป็นห้องพักผ่อนส่วนตัวของครอบครัวหรือเพื่อนคนสนิทมากยิ่งขึ้น เพราะพื้นที่ห้องจะอยู่ฝั่งด้านในบ้านทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า เป็นห้องที่ได้หน้าต่างข้างบ้านมาขนาดใหญ่ และมีประตูบานเลื่อนสามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่สวนข้างบ้านได้อีกด้วย
โดยพื้นที่ห้องนั้นถือว่าอเนกประสงค์เลยค่ะ เพราะได้พื้นที่มาขนาดใหญ่พอสมควร นอกจากจะจัดเป็นห้องพักผ่อนครอบครัวได้แล้ว ยังสามารถจัดเป็นห้องทำงานส่วนตัวได้อีกด้วย
ถัดมาด้านข้างคือห้องรับประทานอาหาร สัดส่วนพื้นที่จะพอ ๆ กับห้องนั่งเล่นเลยค่ะ
ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ เราสามารถจัดโต๊ะแบบ Long Table รองรับได้ถึง 12 ที่นั่งได้แบบนี้
ด้านหน้าห้องครัวไทยยังมีพื้นที่ให้เราทำ Pantry ได้อีกด้วย ใครที่ชอบครัวเปิดแบบครัวฝรั่งสวย ๆ เอาไว้ทำอาหารโชว์ หรือเชิญ Chef Table มาทำอาหารให้ทานกันที่บ้าน สามารถทำได้ตามความชอบเลยค่ะ
บ้านหลังนี้มาพร้อมกับครัวไทยที่มีขนาดใหญ่มาก มีหน้าต่างระบายอากาศบานใหญ่ รวมไปถึงมีพัดลมดูดอากาศติดตั้งมาให้อีก 1 ตัว
ที่สำคัญคือมาพร้อมกับเคาน์เตอร์ครัวก่อ Top หินแกรนิตดำ และติดหน้าบ้านให้แบบนี้เลยค่ะ มีพื้นที่สำหรับเก็บข้าวของเครื่องใช้ภายในครัวได้เยอะ
มีอ่างล้างจานขนาด 2 หลุมของ Teka ติดตั้งมาให้แบบนี้
สำหรับจุดที่วางเตาแก๊สจะลดระดับตัวเคาน์เตอร์และติด Hood ดูดควันให้แบบนี้ค่ะ
พื้นที่อีกฝั่งยังมีเคาน์เตอร์สำหรับเตรียมอาหารและตู้เก็บของให้อีกนะคะ โดยจะเว้นพื้นที่ให้สำหรับวางตู้เย็นขนาดใหญ่ได้ 1 ตัวพอดี
จากห้องครัวเปิดออกไปที่ฝั่งหลังบ้าน เป็นพื้นที่ของ Maid Plaza มีห้องนอนแม่บ้าน, ห้องน้ำแม่บ้าน, ห้องซัดรีด และลานซักล้างเตรียมเอาไว้ให้อย่างเป็นสัดส่วน
ภายในห้องนอนแม่บ้าน สามารถรองรับเตียง 3 ฟุตได้ถึง 2 เตียงค่ะ บ้านนี้มีแม่บ้านประจำอยู่ได้ 2 คนเลย
มีห้องน้ำส่วนตัวแยกให้จากเจ้าของบ้านอย่างเป็นสัดส่วน
และมีห้องซักรีดสำหรับวางเครื่องซักผ้า-อบผ้าและรีดเสื้อผ้าแยกให้เรียบร้อย
เรากลับเข้ามาภายในบ้าน มาดูห้องน้ำชั้นล่างและห้องนอนชั้นล่างกันต่อค่ะ
ห้องน้ำชั้นล่างจะอยู่ข้าง ๆ กับห้องครัว โดยพื้นที่ด้านหน้าห้องฝั่งหนึ่งทำเป็นตู้เก็บของ ภายในซ่อนพวกตู้ไฟเอาไว้ให้ ส่วนพื้นที่อีกฝั่งเราสามารถจัดโต๊ะคอนโซลและวางของตกแต่งสวย ๆ ได้นะ
ห้องน้ำชั้นล่างจะเป็น Powder Room รองรับการใช้งานระหว่างวันและใช้รองรับแขกที่มาเยือนได้ พื้นและผนังตกแต่งด้วยกระเบื้องโทนสีเทา-ดำลายหินธรรมชาติ ส่วนสุขภัณฑ์ใช้ของ Kohler ทั้งหมด มีอ่างล้างมือฝังบนเคาน์เตอร์สำเร็จรูปพร้อมตู้เก็บของใต้ตู้และกระจกเงา
อ่างทรงสี่เหลี่ยมและก๊อกน้ำแบบก้านโยก มี Low Wall ก่อมาให้ด้านหลังใช้วางของประดับตกแต่งได้
อีกฝั่งเป็นโถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้นพร้อมอุปกรณ์ประกอบการใช้งาน มี Low Wall ก่อมาให้อีกเช่นกัน
ส่วนห้องนอนชั้นล่างจะออกแบบให้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุ จึงวางห้องให้อยู่ฝั่งหน้าบ้านใกล้กับประตูทางเข้า-ออกฝั่งโรงจอดรถ เวลาเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นจะได้ย้ายผู้สูงอายุเข้ารถและส่งถึงมือแพทย์ได้อย่างรวดเร็วที่สุด การออกแบบห้องตั้งแต่ประตูทางเข้าห้องก็จะใช้ประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่เพื่อให้ Wheel Chair สามารถเข็นเข้า-ออกได้สะดวก
ส่วนพื้นภายในห้องทั้งหมดจะใช้เป็นพื้น Absorption Floor ช่วยลดแรงกระแทกเวลาที่เกิดการหกล้มได้ โดยพื้นที่ห้องแล้วมีขนาดใหญ่ จัดวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ ๆ ได้สบายค่ะ
บ้านตัวอย่างวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตพร้อมโต๊ะข้าง 2 ฝั่งมาให้ดูพื้นที่ใช้สอย
ฝั่งปลายเตียงนอนยังวางพวกชั้นวางทีวีเพิ่มได้นะคะ แต่ถ้าเป็นผู้สูงอายุที่ต้องใช้ Wheel Chair แล้ว วางเฟอร์นิเจอร์ให้น้อยชิ้นลงแล้วปล่อยเป็นพื้นที่โล่งเพื่อให้ Wheel Chair ผ่านได้ง่ายจะดีที่สุด
พื้นที่อีกฝั่งของห้องอยู่ติดกับห้องน้ำในตัว วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเขียนหนังสือขนาดใหญ่ได้ลงตัว
สำหรับการออกแบบห้องน้ำของห้องนอนผู้สูงอายุจะเป็นแบบ Stepless พื้นผิวของพื้นทั้งหมดจะทำเสมอกัน เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ
นอกจากนี้ภายในห้องน้ำยังมีการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับการช่วยพยุงตัวเวลาลุกหรือเวลานั่งตามจุดต่าง ๆ ให้อีกด้วย ส่วนการตกแต่งห้องน้ำจะใช้เป็นกระเบื้องโทนสีเทาและหินแกรนิตสีดำ
มีอ่างล้างมือแบบแขวนผนัง เลือกแบบที่ไม่มีเคาน์เตอร์ด้านล่างเพื่อให้ผู้สูงอายุที่ใช้ Wheel Chair ใช้งานได้สะดวก
ข้างกันเป็นโถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้นระบบ Dual Flush
ในส่วนของโซนอาบน้ำจะมีม้านั่งอาบน้ำติดตั้งมาให้ พร้อม Hand Shower, ราวปรับระดับ และชั้นสำหรับวางสบู่
คราวนี้เราจะขึ้นไปดูบ้านบนชั้น 2 กันต่อค่ะ บริเวณด้านข้างโถงบันไดจะมีห้องเก็บของใต้บันไดเตรียมมาให้ นอกจากประตูห้องที่มีขนาดเท่ากับขนาดประตูมาตรฐานทำให้เข้า-ออกได้ง่ายแล้ว พื้นที่ภายในห้องยังมีขนาดใหญ่มากอีกด้วย ใช้เก็บของในบ้านหลังใหญ่ ๆ แบบนี้ได้เยอะพอสมควร
ตั้งแต่พื้นบันไดขึ้นไปจนไปถึงพื้นบ้านบนชั้น 2 จะปูด้วยไม้สักสีเข้มแบบนี้ทั้งหมดเลยนะคะ มือจับบันไดก็ใช้ไม้สักเช่นกัน โดยทางโครงการจะออกแบบ Flight ของบันไดให้มีความกว้างขวางเป็นพิเศษ ทำให้เดินขึ้น-ลงได้สะดวก และยังไม่ต้องกังวลเวลาที่ต้องการย้ายเฟอร์นิเจอร์อีกด้วย
สำหรับพื้นที่บ้านบนชั้น 2 จะประกอบด้วยห้องนอนทั้งหมด 4 ห้อง, ห้องนั่งเล่น และห้องพระอีก 1 ห้อง โดยความสูงฝ้าจะอยู่ที่ 2.8 ม. เช่นกัน
สำหรับห้องนั่งเล่นชั้นบนจะอยู่บริเวณโถงกลางระหว่างห้องนอนทั้ง 4 ห้องนะคะ เหมาะสำหรับการจัดเป็นพื้นที่ Gathering ของทุกคนในครอบครัวก่อนแยกย้ายกันเข้าห้องไป
ส่วนห้องพระจะอยู่บริเวณฝั่งหน้าบ้านเพื่อฮวงจุ้ยที่ดี โดยจะเชื่อมต่อกับ Main Living Area ที่อยู่ชั้น 1 ซึ่งจริง ๆ แล้วบ้านมาตรฐานจะมีผนังทึบพร้อมหน้าต่างกั้นส่วนระหว่างพื้นที่ชั้น 1 และชั้น 2 แต่บ้านตัวอย่างตกแต่งด้วยกระจก Tempered ทำให้พื้นที่บ้านดูเชื่อมต่อกันมากขึ้น
มุมมองลงไปที่ Main Living Area ก่อนจะลงไปชั้นล่างก็แอบมาส่องดูก่อนได้ว่ามีใครกำลังรับแขกอยู่ด้านล่างหรือเปล่านะ
คราวนี้เราจะเข้าไปดูห้องนอนแต่ละห้องกันต่อ เริ่มจาก Master Bedroom ซึ่งเป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่และแกรนด์ที่สุดของบ้าน
ความพิเศษของห้องนี้ก็คือ จะมี Living Area ส่วนตัวอยู่ภายในห้องด้วยค่ะ ด้วยขนาดของพื้นที่ก็เรียกได้ว่าใหญ่พอ ๆ กับห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารของบ้านเดี่ยวขนาดเริ่มต้นแล้ว
โดยพื้นที่แล้วเราจัดเป็นห้องนั่งเล่นดี ๆ ได้ 1 ห้องเลย แล้วก็แบ่งเป็นมุมสำหรับนั่งทำงานได้ด้วย
พื้นที่อีกฝั่งจะเป็น Walk-in Closet ขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัว สามารถทำตู้เสื้อผ้า Built-in และโต๊ะเครื่องแป้งได้โดยรอบ
แน่นอนว่า Master Bathroom จะมีความแกรนด์มากที่สุด เป็นห้องน้ำแบบ Full Function ที่มีหน้าต่างรับแสงธรรมชาติติดตั้งมาให้เยอะพอสมควร ทำให้ห้องน้ำดูสว่างและโปร่ง ตกแต่งผนังด้วยกระเบื้องลายหินธรรมชาติสีเข้มที่มีลวดลายตัดกันชัดเจน
ภายในมีอ่างล้างมือแบบ His & Her ใช้งานได้พร้อมกัน 2 คน เป็นอ่างล้างมือฝังบนเคาน์เตอร์ มีตู้เก็บของให้ด้านล่าง
อีกฝั่งของห้องกั้นส่วนโถสุขภัณฑ์และโซน Shower ด้วยประตูกระจก Tempered อย่างเป็นสัดส่วน
โถสุขภัณฑ์อัปเกรดให้เป็นรุ่นที่ดีนั่งสบายมากขึ้น
ส่วนภายในโซน Shower นอกจากจะมีชุด Hand Shower มาให้แล้ว ยังมี Rain Shower ติดตั้งมาให้บนฝ้าอีกด้วย
ที่ขาดไปไม่ได้สำหรับ Master Bathroom ก็คือ Bathtub ได้เป็นรุ่น Stand Alone ดูสวยงาม สามารถนอนแช่ได้ 1 คนพอดี
สำหรับพื้นที่ห้องนอนของ Master Bedroom จริง ๆ จะถูกแยกส่วนออกไปแบบนี้เป็นอีก 1 ห้องค่ะ
พื้นที่ภายในห้องออกแบบมาให้มีขนาดกำลังดี ไม่ได้ใหญ่จนเกินไปเพื่อให้เหมาะสำหรับการพักผ่อน
แต่โดยพื้นที่ก็ยังวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุต พร้อมโต๊ะข้างได้ลงตัวสบาย ๆ แล้วยังตั้ง Armchair ได้อีก 1 ตัว ถือว่าพอแล้วจริง ๆ
ส่วนมุมฝั่งปลายเตียงยังวางสตูลเป็นมุมนั่งพักผ่อนดูทีวีอีก 1 มุม
พื้นที่ห้องนอนจะมีช่องแสงให้เยอะเลยค่ะ จะเห็นว่าด้านในห้องดูโปร่งสบายมาก โดย 1 ในนั้นจะเป็นประตูบานเลื่อน เปิดมาเชื่อมกับพื้นที่ระเบียงฝั่งหน้าบ้านแบบนี้ เป็นอีกมุมพักผ่อนของห้อง ให้นั่งรับลมชมวิวเวลาแดดร่มลมตกได้
อีก Highlight หนึ่งของบ้านหลังนี้ก็คือ การที่มีฟังก์ชัน Double Master Bedroom โดยห้องนี้จะเรียกว่า Junior Master Bedroom ค่ะ
พื้นที่ภายในห้องจะมีความกว้างขวางมากกว่าห้องนอนทั่ว ๆ ไป
มีพื้นที่ที่สามารถจัดเป็นมุม Living Area ส่วนตัวได้ หรือจะจัดเป็นมุมที่ใช้นั่งทำงานก็ได้เช่นกัน
บ้านตัวอย่างวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตมาให้ดูพื้นที่ใช้สอยพร้อมกับโต๊ะข้างอีกทั้ง 2 ฝั่ง มีชั้นวางทีวีอยู่ที่ฝั่งปลายเตียงด้วย ก็ยังได้พื้นที่แบบสบาย ๆ นะคะ จะอัปไซซ์เตียงนอนให้เป็นขนาด 6 ฟุตก็ยังลงตัว
ภาพบรรยากาศภายใน Junior Master Bedroom อีกมุมหนึ่ง
บริเวณโถงทางเข้าห้อง จะเป็นจุดที่เราทำ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ โดยส่วนนี้จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัว
จะบอกว่า Junior Master Bathroom ก็ได้เป็นห้องน้ำแบบ Full Function เช่นเดียวกันนะคะ การตกแต่งก็ดูหรูหราสวยงาม ใช้เป็นกระเบื้องลายหินธรรมชาติโทนสีขาว
มีอ่างล้างมือฝังบนเคาน์เตอร์ พร้อม Low Wall และกระจกเงาบานใหญ่
โถสุขภัณฑ์รุ่นเดียวกันกับ Master Bathroom
โซนอาบน้ำกั้นส่วนด้วย Tempered Glass มีพื้นที่ยืนอาบน้ำที่กว้างกำลังดีพร้อมชุด Hand Shower และชั้นสำหรับวางขวดสบู่
ส่วนด้านในสุดจะเป็นอ่างอาบน้ำแบบฝังพื้น ขนาดนอนแช่ได้ 1 คนค่ะ
สำหรับห้องนอน 3 และห้องนอน 4 จะมีขนาดใกล้เคียงกันเลยค่ะ ห้องนี้ตกแต่งมาโดยใช้ธีมของลูกสาว ใช้โทนห้องเป็นสีชมพูหวานแหวว
โดยพื้นที่ห้องจริง ๆ แล้ววางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายนะคะ แต่ 5 ฟุตนี่ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว แล้วก็ยังวางโต๊ะข้างกับโต๊ะทำงานเพิ่มด้านข้างได้อีกด้วย
พื้นที่ฝั่งปลายเตียงยังเหลือพื้นที่พอสมควร นอกจากจะวางพวกชั้นวางทีวีได้แล้ว ยังจัดเป็นมุมนั่งเล่น เป็นม้านั่งหรือ Armchair สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ หรือจะจัดเป็นมุมเล่นของเด็กแบบนี้ก็น่ารักดีค่ะ
ฝั่งด้านในห้องเป็นส่วนที่ทำตู้เสื้อผ้า Built-in ได้ ทำได้ขนาดใหญ่เหมือนกันนะ เป็นรูป L Shape แบบนี้
มีห้องน้ำในตัวให้เหมือนกันค่ะ ดูแล้วจะไม่หรูหราเท่าพวก Master Bedroom แต่ก็ยังถือว่ามีขนาดกำลังดีและใช้งานได้สะดวก
มีอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์
อีกฝั่งเป็นโซน Shower พร้อมม้านั่งอาบน้ำ พวกฉากกั้นอาบน้ำก็ติดตั้งมาให้เรียบร้อยค่ะ
สำหรับห้องนอนอีกห้องจะตกแต่งมาในธีมที่ดูเป็นเด็กโตขึ้นมาหน่อย พื้นที่ห้องไม่ต่างกันมากนัก แต่ห้องนี้จะมีช่องแสงเยอะกว่า
การวางเฟอร์นิเจอร์ก็ทำได้คล้าย ๆ กันเลยค่ะ เตียงขนาด 5-6 ฟุตวางได้สบาย
ฝั่งปลายเตียงนอนทำเป็นมุมโต๊ะเขียนหนังสือ ด้านในทำ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้า
พวกวัสดุและสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจะได้มาสเป็กเดียวกันเลยค่ะ แต่ว่าโทนสีจะแตกต่างกันเล็กน้อย
และ Highlight สุดท้ายของบ้านหลังนี้จะถูกซ่อนอยู่บนชั้นลอยค่ะ
เป็นพื้นที่ห้องใต้หลังคานั่นเองค่า ได้ Space มาแบบน่ารัก ๆ ถือว่าเป็นพื้นที่อเนกประสงค์อีก 1 ส่วนของบ้าน สามารถจัดฟังก์ชันได้ตามใจชอบเลย สามารถทำเป็นมุมนั่งพักผ่อนส่วนตัว, มุมห้องสมุด, มุมดูหนัง, มุมเล่นของลูก ๆ หรือถ้าบ้านได้มีเซ็ตหิ้งพระขนาดใหญ่ พื้นที่ส่วนนี้ก็ตอบโจทย์อีกเช่นกัน
นอกจากนี้บ้านหลังนี้ยังมาพร้อมกับระบบ Home Automation และสัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic และ Shock Sensor เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัย โดยตัว Control Panel จะอยู่บริเวณโถงบนชั้น 2 ของบ้าน
โดยจะมี Smart Switch ติดตั้งมาให้ภายในทั้งหลังบ้านทุกจุด
รวมไปถึง IP Camera ทั้งหมด 2 ตัวด้วยกัน โดยจะติดตั้งบริเวณโรงจอดรถ 1 ตัว และบริเวณโถงกลางบ้านอีก 1 ตัวค่ะ
ราคา (ม.ค. 66)
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก https://www.apthai.com/
***ข้อมูลราคา และโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ THE CITY จรัญฯ-ปิ่นเกล้า ตั้งอยู่บนถนนแก้วเงินทองระหว่างเส้นจรัญสนิทวงศ์และเส้นราชพฤกษ์ ซึ่งถือเป็นย่านที่อยู่อาศัยเก่าแก่ที่ถูกพัฒนามานาน จนมีความสะดวกสบายและมีสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบที่อยู่ใกล้และเดินทางไปถึงได้ง่ายมาก ๆ และยิ่งไปกว่านั้นคือการที่มีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินตัดผ่านใกล้ ๆ ทำให้ทำเลนี้ถือว่าสมบูรณ์ในตัวแล้ว
โดยปกติพื้นที่ในโซนนี้ที่เหลืออยู่มักจะถูกพัฒนาเป็นโครงการในรูปแบบของคอนโดมิเนียม แต่ทาง AP ได้พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวแทน เพื่อให้ตอบโจทย์กับคนในพื้นที่ที่ต้องการขยับขยายครอบครัว ต้องการพื้นที่บ้านที่กว้างขวางมากขึ้น แต่ยังคงต้องการความสะดวกสบายของพื้นที่แบบเดิม ทำให้เป็นโครงการที่เหมาะสำหรับเจ้าของกิจการ, พนักงานเอกชนระดับสูง รวมไปถึงบุคลากรทางการแพทย์ ที่ทำงานอยู่ในโซนใกล้เคียง รวมไปถึงตัวเมืองชั้นใน และทำงานใน รพ.ศิริราช อีกด้วยค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว เดินทางสะดวกเพราะสามารถเชื่อมต่อออกถนนใหญ่สายหลัก อย่าง ถนนราชพฤกษ์, ถนนบรมราชชนนี และถนนจรัญสนิทวงศ์ได้สะดวกแล้ว การเชื่อมต่อเข้าตัวเมืองชั้นในอย่างโซนสาทร-สีลม คือใช้ถนนราชพฤกษ์ตรงไปข้ามสะพานตากสินเลย หรือจะใช้ทางด่วนศรีรัชไปโซนจตุจักร-บางซื่อ-ปทุมวัน ก็ทำได้ง่ายค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ มีจุดเด่นที่อยู่ไม่ไกลจาก MRT สถานีแยกไฟฉายประมาณ 3 กม.* อาจจะไม่ได้ใกล้ขนาดระยะเดิน แต่ก็สามารถนั่งรถไปถึงและต่อรถไฟฟ้าได้ง่าย ๆ ในวันที่ไม่ต้องการขับรถเอง ซึ่งลูกบ้านของโครงการนี้หลัก ๆ น่าจะใช้รถยนต์ส่วนตัวกันเป็นหลักอยู่แล้ว แต่การที่มีรถไฟฟ้ามาเป็นอีกทางเลือกก็ถือว่าดีกว่าแน่นอนค่ะ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการถูกออกแบบมาอย่างมีเอกลักษณ์โดยใช้สถาปัตยกรรมในสมัย Tudor ซึ่งทำออกมาได้ดูโดดเด่นสวยงาม และยังดูภูมิฐาน ถือว่าเป็นสไตล์ที่เหมาะสำหรับบ้านในหลักราคานี้ ซึ่งภายในโครงการเองยังได้ความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนบ้านพักอาศัยเพียง 58 หลัง เหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในสังคมคุณภาพ
อ้างอิงจากบ้านที่เข้าไปรีวิว ตัวบ้านเองนอกจากจะมีการออกแบบรูปลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมมาได้ดีแล้ว ยังมีการออกแบบพื้นที่ใช้สอยมาขนาดใหญ่ในทุกฟังก์ชัน ซึ่งน่าจะตอบโจทย์ครอบครัวที่อยู่กันหลาย Generation โดยจะมีห้องนอนผู้สูงอายุ ที่ออกแบบเพื่อผู้สูงอายุเตรียมเอาไว้ให้แล้ว ห้องนั่งเล่นก็มีจัดเอาไว้ให้ถึง 3 ห้อง เผื่อการรองรับแขกและการพักผ่อนของสมาชิกของครอบครัวในเวลาเดียวกัน โดยหนึ่งในนั้นมีฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume
นอกจากนี้ภายในบ้านยังมี Double Master Bedroom รองรับสมาชิกในครอบครัวที่มีครอบครัวแล้วได้เพิ่มขึ้น โดยห้องนอนทุกห้องจะมีห้องน้ำให้ในตัวทั้งหมด ได้ความเป็นส่วนตัว และยังมีพื้นที่ชั้นลอยเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ 1 ส่วน ถือว่าเป็นบ้านที่ฟังก์ชัน Completed แล้วค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ทางโครงการจัดพื้นที่ส่วนกลางมาให้ลูกบ้านใช้กันแบบครบครัน มีทั้ง Lobby Lounge, Meeting Room, Fitness Room, Theatre Room และ Co-Working Space และที่โซน Outdoor จะมีทั้งสระว่ายน้ำขนาดใหญ่, พื้นที่สวนพักผ่อน พร้อมสนามเด็กเล่นที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีดูน่าใช้งาน รวมไปถึงระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. แบบ Double Gate Security ดูแลเพียง 58 ครอบครัว ถือว่าให้มาดีทีเดียวค่ะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
CALL CENTER : 1623
WEBSITE : https://www.apthai.com/
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
บ้านเดี่ยว ราชพฤกษ์ ทำเลใกล้เคียง ที่น่าสนใจ…
THE CITY จรัญ-ปิ่นเกล้า 25.9 ล้าน*
ชีวาวัลย์ ปิ่นเกล้า-สาทร เริ่ม 25.9 ล้าน*
ชีวารมย์ นครอินทร์ เริ่ม 10 ล้าน*
เศรษฐสิริ ราชพฤกษ์ – สาย 1 เริ่ม 20 ล้าน*
เศรษฐสิริ ราชพฤกษ์ – พรานนก เริ่ม 35 ล้าน*
เศรษฐสิริ ราชพฤกษ์ – นครอินทร์ เริ่ม 12 ล้าน*
แกรนด์ บริทาเนีย ราชพฤกษ์ – พระราม 5 เริ่ม 8.69 ล้าน*
VANA ราชพฤกษ์-เวสต์วิลล์ เริ่ม 30 ล้าน*
Bangkok Boulevard ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า เริ่ม 13 ล้าน*
Bangkok Boulevard Signature สาทร-ปิ่นเกล้า เริ่ม 24.9 ล้าน*
Grand Bangkok Boulevard ราชพฤกษ์ – ปิ่นเกล้า เริ่ม 30 ล้าน*
WONDER ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า เริ่ม 8 ล้าน*
THE CITY ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า เริ่ม 8.99 ล้าน*
CENTRO ราชพฤกษ์ 3 เริ่ม 7.99 ล้าน*
ชีวารมย์ ราชพฤกษ์ตัดใหม่ เริ่ม 7 ล้าน*
THE CITY พระราม 5-นครอินทร์ เริ่ม 8.99 ล้าน*
THE CITY พระราม 5-นครอินทร์ 2 เริ่ม 17.5 ล้าน*
CENTRO พระราม 5-นครอินทร์ 8.99 ล้าน*
Bangkok Boulevard พระราม 5 เริ่ม 15 ล้าน*
Bangkok Boulevard Signature พระราม 5 เริ่ม 29 ล้าน*
THE CITY สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ เริ่ม 11.9 ล้าน*
CENTRO สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ 3 เริ่ม 7.99 ล้าน*
สราญสิริ ราชพฤกษ์ 345 เริ่ม 7.99 ล้าน*
สราญสิริ ราชพฤกษ์ 346 เริ่ม 6.99 ล้าน*
Lake Resort ราชพฤกษ์-ปทุมธานี เริ่ม 19 ล้าน*
CENTRO ติวานนท์-ศรีสมาน 8.99 ล้าน*
THE CITY ติวานนท์-งามวงศ์วาน เริ่ม 15.99 ล้าน*
THE CITY ติวานนท์-งามวงศ์วาน 2 เริ่ม 15.99 ล้าน*
บ้านเดี่ยว แจ้งวัฒนะ ทำเลใกล้เคียง ที่น่าสนใจ…
CENTRO รัตนาธิเบศร์ 2 เริ่ม 7.99 ล้าน*
เพอร์เฟค พาร์ค แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ เริ่ม 5.29 ล้าน*
เพอร์เฟค เพลส แจ้งวัฒนะ 6.99 ล้าน*
Bangkok Boulevard แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ เริ่ม 9.9 ล้าน*
Bangkok Boulevard Signature แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ เริ่ม 21.9 ล้าน*
Zerene ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ เริ่ม 7.49 ล้าน*
เดอะ แกรนด์ แจ้งวัฒนะ-เมืองทอง เริ่ม 25 ล้าน*
Grand Britania ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ เริ่ม 10 ล้าน*
The Waterfront ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ เริ่ม 4.99 ลบ.*
ชัยพฤกษ์ แจ้งวัฒนะ เริ่ม 8.8 ล้าน*
แกรนดิโอ แจ้งวัฒนะ-เมืองทอง เริ่ม 12 ล้าน*
The Arbor ดอนเมือง-แจ้งวัฒนะ เริ่ม 12 ล้าน*
The Astoria ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ เริ่ม 6.9 ล้าน*
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
แสดงความคิดเห็น