EP.694 รีวิว ทาวน์โฮม พฤกษา วิลล์ 64 สายไหม PRUKSA VILLE 64 SAIMAI
สวัสดีค่าท่านผู้อ่านชาว Homenayoo ที่น่ารักทุกคน วันนี้เรามีโครงการทาวน์โฮมมาฝากนั่นก็คือโครงการ พฤกษา วิลล์ 64 สายไหม จาก พฤกษา เรียลเอสเตท นั่นเอง โครงการเป็นทาวน์โฮมสูง 2 – 3 ชั้น ออกแบบด้วยการผสานแนวการออกแบบระหว่าง Zen และ Modern เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ชีวิตได้สัมผัสธรรมชาติ สะท้อนรูปแบบและรสนิยมแห่งวิถีชีวิตอีกขั้นในแบบ Zen
ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนสายไหม สามารถเดินทางได้สะดวกเชื่อมต่อถนนสายหลักได้อย่างง่ายดาย อยู่ใกล้ทั้งทางด่วนโทลล์เวย์และทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ อีกทั้งยังใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าพิพิธพันธ์กองทัพอากาศในระยะ 5.1 กม.ซึ่งจะเปิดใช้งานในอนาคตอันใกล้นี้ สิ่งอำนวยความสะดวกรองรับการอยู่อาศัยในราคาเริ่มต้นที่ 1.9 ล้านบาท รายละเอียดในเชิงลึกของทางโครงการจะเป็นอย่างไรนั้น เชิญเลื่อนลงไปตามอ่านที่ข้างล่างลิ้งค์นี้ได้เลยค่า
ชื่อโครงการ | พฤกษาวิลล์ 64 สายไหม PRUKSA VILLE 64 SAIMAI |
เจ้าของโครงการ | พฤกษา เรียลเอสเตท – PRUKSA REAL ESTATE |
ลักษณะโครงการ | ทาวน์โฮมสูง 2 ชั้นและ 3 ชั้น |
พื้นที่โครงการ | 48 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 396 ยูนิต |
พื้นที่ใช้สอย | 95.0 – 176.0 ตร.ม. |
เนื้อที่บ้าน | 17.5 – 22 ตร.ว. |
โซน | เกษตร-นวมินทร์, รามอินทรา, สายไหม |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน |
|
ที่ตั้ง | ถนนสายไหม แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร 10220 |
กำหนดการ | เปิดตัวโครงการปี 2556 |
ปีที่สร้างเสร็จ | กลางปี 2560 |
ราคา | เริ่มต้น 1.9 ล้านบาท |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | NEO ZEN ทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น จากพฤกษาวิลล์ ดีไซน์ใหม่ซึ่งนำเอาแนวคิด Zen ที่บ่งบอกถึงความเรียบง่าย สงบ สอดคล้องกับธรรมชาติ มาผสมผสานกับการออกแบบบ้านที่ทันสมัย ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถสัมผัสชีวิตอันกลมกลืนกับธรรมชาติแต่เรียบง่ายได้ |
โครงการใกล้เคียง
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ถนนสายไหม แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร 10220
พิกัด : 13.921381, 100.665675
แผนที่จากทางโครงการ
ทำเลที่ตั้ง โครงการ พฤกษา วิลล์ 64 สายไหม ตั้งอยู่ในย่านที่พักอาศัยไกลออกมาจากตัวเมืองกรุงเทพฯฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือบนถนนสายไหม ตัวโครงการจะอยู่ติดกับ Big C market สายไหมเลย โดยถนนสายไหมเองจะเป็นถนนกว้าง 4 เลน เรียงรายด้วยหมู่บ้านจัดสรรเล็กใหญ่หลากหลายโครงการ แต่จะไม่เจริญและคึกคักเท่าถนนใหญ่อย่างถนนพหลโยธินและถนนลำลูกกา ซึ่งอาคารส่วนมากจะเป็นอาคารพาณิชย์, สำนักงาน, อพาร์ทเม้นท์ และคอนโดมิเนียม โดยถนนพหลโยธินช่วงที่ใกล้เคียงกับตัวโครงการจะเป็นที่ตั้งของฐานทัพและหน่วยงานของกองทัพอากาศ ถนนสายไหมเองจึงกลายเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของบุคลากรในกองทัพอากาศไปในตัวเลย
การเดินทางด้วยรถยนต์ สำหรับเส้นทางการเข้า – ออกจากตัวโครงการจะอยู่บนถนนสายไหม โดยถนนสายไหมเป็นถนนรองที่วิ่งไปเชื่อมกับถนนพหลโยธิน 54/1 ใช้วิ่งออกเส้นพหลโยธิน ซึ่งถนนพหลโยธินถือเป็นทางเข้าหลักของถนนสายไหม เป็นถนนสายหลักที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่วิ่งไปตัดถนนใหญ่อีกหลายเส้นทั้ง รามอินทรา – แจ้งวัฒนะ, งามวงศ์วาน – เกษตรนวมินทร์, รัชดาภิเษก, ลาดพร้าว และตัดยาวลงไปสุดที่อนุสาวรีย์ และถนนสายไหมจะเชื่อมกับถนนจันทรุเบกษาวิ่งออกเส้นวิภาวดี – รังสิตเข้าสู่ตัวเมืองและวิ่งไปทางรังสิตยาวไปถึงบางปะอินได้ บนเส้นวิภาวดี – รังสิตเองก็จะมีดอนเมืองโทลล์เวย์เป็น 1 ตัวช่วยหนีการจราจรที่ติดขัด
ถนนสายไหมจะวิ่งขนานกับถนนเพิ่มสินและถนนเทพารักษ์ซึ่งจะไปเชื่อมกับถนนวัชรพลและถนนสุขาภิบาล 5 สามารถวิ่งออกถนนรามอินทราไปได้ทั้งทางปากเกร็ดและมีนบุรีผ่านสถานที่ราชการและมหาวิทยาลัย ตรงเส้นสุขาภิบาล 5 เองก็จะมีจุดขึ้น – ลงทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์เป็นตัวช่วยในการเดินทางทั้งขาเข้าและขาออกตัวเมืองให้สะดวกมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้แล้วถนนสายไหมเองก็จะวิ่งขนานกับถนนลำลูกกาซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียง 1 กม.โดยมีคลองหกวาคั่นอยู่ตรงกลาง ซอยที่มีสะพานข้ามคลองที่สามารถวิ่งเชื่อมจากถนนสายไหมไปถนนลำลูกกาได้ก็จะมีซอยเฉลิมพงษ์ซึ่งอยู่ห่างจากตัวโครงการออกไป 2 กม. โดยถนนลำลูกกาเองก็จะเป็นถนนที่มีความอุดมสมบูรณ์เพราะสามารถใช้วิ่งไปขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษกได้นั่นเอง
ในปัจจุบันที่ถนนพหลโยธินกำลังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวซึ่งทำให้การจราจรบนถนนพหลโยธินติดขัดมาก ส่งผลให้รถหนีไปวิ่งบนถนนวิภาวดี – รังสิตด้วย ทำให้การจราจรบนถนนวิภาวดี – รังสิตและถนนรามอินทรามีความติดขัดสาหัสสากรรจ์ตามมา หากต้องการที่จะเข้าเมืองจะแนะนำให้ขึ้นทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์เลยค่ะ หรือหากใครที่ต้องผ่านถนนทั้ง 3 เส้นนี้ก็ให้เผื่อเวลากันให้ดีๆนะคะ อาจจะต้องทนกันไปอีกประมาณ 4 – 5 ปีจะเป็นกำหนดการที่คาดว่ารถไฟฟ้าสายนี้จะสร้างเสร็จ
ทางด่วน ตัวโครงการอยู่ใกล้กับจุดขึ้น – ลงดอนเมืองโทลล์เวย์ในระยะ 10.6 กม. โดยวิ่งจากถนนสายไหมไปถนนจันทรุเบกษาไปเชื่อมกับถนนพหลโยธินเข้าถนนวิภาวดี – รังสิตบริเวณตลาดสี่มุมเมืองและฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต เลี้ยวซ้ายแล้วตรงขึ้นดอนเมืองโทลล์เวย์ได้เลย
และตัวโครงการยังอยู่ใกล้กับทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ สามารถใช้วิ่งเข้าสู่ตัวเมืองและไปทางพระราม 9 หรือบางนาได้สะดวก โดยจะต้องวิ่งเข้าซอยสายไหม 56 มาออกที่ถนนเพิ่มสินซึ่งจะวิ่งไปเชื่อมกับถนนสุขาภิบาล 5 ในระยะ 7.7 กม.เท่านั้น แต่หากจะวิ่งจากถนนสายไหมไปเข้าถนนสุขาภิบาล 5 ตรงๆเลยก็ได้เช่นกันแต่ระยะทางจะบวกเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 2 กม.
ความอุดมสมบูรณ์ บนถนนสายไหมเองจะเป็นที่ตั้งของแหล่งที่อยู่อาศัยจำพวกบ้านจัดสรรและตึกแถวเสียเป็นส่วนใหญ่ ถึงจะมีความอุดมสมบูรณ์ไม่สู้บริเวณบนถนนพหลโยธิน, ถนนลำลูกกา และถนนรามอินทราซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารพาณิชย์, ตึกแถว, คอนโดมิเนียมแบบ Low rise และห้างสรรพสินค้าอย่างห้าง Big C, Tesco Lotus, เซ็นทรัลรามอินทรา,แฟชั่นไอส์แลนด์ และคอมมูนิตี้มอลล์ แต่เนื่องจากถนนสายนี้เป็นแหล่งของที่พักอาศัย จึงสามารถหาซื้อของใช้และอาหารการกินได้ไม่ยากเพราะจะมีร้านอาหารร้านเล็กๆตั้งอยู่ทั่วๆไปตามถนนตลอดเส้น มี Tops supermarket สายไหม และ Big C market สายไหมซึ่งจะตั้งอยู่ข้างๆกันกับตัวโครงการ พฤกษา วิลล์ 64 สายไหม เลย
ส่วนบริบทในวงกว้าง โดยรอบโครงการนั้นมีถนนสายสำคัญอย่างถนนพหลโยธิน ซึ่งเป็นถนนเส้นที่มีความอุดมสมบูรณ์เส้นนึง มีทั้งร้านค้า, ธนาคาร, สำนักงาน, โรงพยาบาลเซ็นทรัลเย็นเนอรัล, ห้าง Big C และ Tesco Lotus ในบริเวณที่ใกล้เคียงกัน ออกไปทางรังสิตก็จะมีตลาดสี่มุมเมือง, Big C, Makro, Tesco Lotus, เซียร์รังสิต, ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต และอื่นๆอีกมากมาย
มาทางเส้นรามอินทราก็จะมี เซ็นทรัลรามอินทรา, Big C, ฟู้ดแลนด์, Ease park คอมมูนิตี้มอลล์ที่เพิ่มเปิดตัวใหม่, พรอมานาด และแฟชั่นไอส์แลนด์ นอกจากนี้ถ้าวิ่งเลียบทางด่วนรามอินทราไปก็ยังมี The Crystal, The walk และเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ ส่วนใครที่ชอบเดินตลาดนัดตอนกลางคืนก็จะมีตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทราและตลาดหัวมุม มีสินค้าและอาหารมากมายให้เลือกชม ชิม ช้อปอีกเพียบ
อีกทั้งบนถนนสุขาภิบาล 5 และถนนวัชรพลเองก็ค่อนข้างมีความคึกคักอยู่เหมือนกัน นอกจากจะมีร้านอาหารและอาคารพาณิชย์แล้วก็จะมีตลาดวงศกร, ตลาดออเงิน, Venis Di Iris คอมมูนิตี้มอลล์สุดเก๋สไตล์อิตาลี, Plearnary mall และตลาดถนอมมิตร
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ โครงการ พฤกษา วิลล์ 64 สายไหม ตั้งอยู่บนถนนสายไหมซึ่งจะมีรถเมล์วิ่งผ่านสาย สะพานใหม่ – สายไหม – วัชรพล และสาย สะพานใหม่ – มีนบุรี และยังมีรถตู้แบบเสริมหลายสายวิ่งผ่านอยู่เรื่อยๆด้วย นอกจากนี้ในปี 2665 รถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงเคหะสมุทรปราการ – บางปู ก็คาดว่าจะสร้างเสร็จได้เปิดใช้งานพอดีโดยสถานีที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็น สถานีพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวโครงการออกไปเป็นระยะ 5.1 กม. ถึงจะไม่อยู่ใกล้พอที่จะสามารถเดินไปได้สะดวกแต่ก็สามารถเรียกพี่วินนั่งไปได้ในเวลาไม่เกิน 10 นาทีเท่านั้น
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการ พฤกษา วิลล์ 64 สายไหม โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนรามอินทรา > ถนนวัชรพล > 5 แยกวัชรพล > ถนนสุขาภิบาล 5 > ถนนสายไหม > พฤกษา วิลล์ 64 สายไหม
เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากถนนรามอินทราช่วงกม.4 เลยแยกมัยลาภมาเล็กน้อย จะมีจุดสังเกตเป็นปั๊ม Esso ทางซ้าย ให้เตรียมชิดซ้ายเอาไว้เดี๋ยวเราจะเลี้ยวเข้าถนนวัชรพลกันข้างหน้าค่ะ
เลี้ยวซ้ายเข้าถนนวัชรพล
เลี้ยวซ้ายตามถนนวัชรพลมาเรื่อยๆ
เมื่อเข้าสู่ทางตรงของถนนวัชรพล ทางซ้ายมือจะมีจุดสังเกตเป็น The Platinum Place ทางขวามือจะเป็นอาคารพาณิชย์และตึกแถวสูง 4 ชั้นครึ่ง
วิ่งตรงไปจนถึง 3 แยกให้เลี้ยวขวา
เมื่อเลี้ยวขวามาแล้วทางซ้ายมือจะมีจุดสังเกตเป็นปั๊มบางจาก เราจะวิ่งลอดใต้ทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ข้างหน้าค่ะ
เมื่อวิ่งลอดใต้ทางด่วนมาแล้วให้สังเกตป้ายถนนวัชรพลและถนนสุขาภิบาล 5 เอาไว้ ข้างหน้าจะเป็น 5 แยกวัชรพลค่ะ
มาถึงไฟแดงตรง 5 แยกวัชรพลให้อยู่เลนขวาเอาไว้นะ เราจะเลี้ยวขวาเข้าถนนสุขาภิบาล 5
เมื่อเลี้ยวเข้ามาในถนนสุขาภิบาล 5 แล้วให้สังเกตป้ายสายไหม วิ่งตรงตามทางไปเลย
สังเกตป้ายสายไหมแล้ววิ่งขึ้นสะพานไปได้เลยค่ะ
วิ่งตรงตามถนนสุขาภิบาล 5 ไปเรื่อยๆจะมีจุดสังเกตเป็น Mini big C ทางซ้ายมือ
จากนั้นให้สังเกตป้ายถนนสายไหมแล้วชิดซ้ายค่ะ
ทางซ้ายมือจะมีตลาดวงศกร ตอนนี้เราอยู่ใกล้กับไฟแดงทาง 3 แยกแล้ว
จาก 3 แยกไฟแดงให้ชิดซ้ายแล้วเลี้ยวเข้าถนนสายไหม
เมื่อเข้ามาในถนนสายไหมแล้วจะมีทั้งอาคารพาณิชย์, ตึกแถว, หมู่บ้านอีกหลากหลายโครงการ, ร้านค้า และร้านอาหารเรียงตามทั้ง 2 ฝั่งถนน จาก 3 แยกไฟแดงให้วิ่งตรงไปอีกประมาณ 2.3 กม.ก็จะถึงซุ้มทางเข้าโครงการ
วิ่งตรงไปเรื่อยๆจะเห็น Big C market อยู่ฝั่งขวามือ นั่นแสดงว่าเราใกล้ถึงตัวโครงการแล้วค่ะ ให้สังเกตฝั่งขวามือเอาไว้เลย
ถัดจาก Big C market มาเพียง 70 เมตรเราก็มาถึงซุ้มทางเข้าโครงการกันแล้วค่า
สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
บริเวณโดยรอบโครงการบนถนนสายไหมจะเป็นโซนของที่อยู่อาศัยในแนวราบทั้งหมด มีโครงการบ้านจัดสรรทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม, บ้านพักอาศัยส่วนตัวดั้งเดิม, ตึกแถวสูงไม่เกิน 4 ชั้น, อาคารพาณิชย์, ร้านอาหาร, ร้านขายของชำ และที่ดินเปล่าบ้างประปราย
เดี๋ยวเราจะเดินสำรวจบริเวณใกล้เคียงกับตัวโครงการกันนะคะจะได้รู้ว่ามีอะไรอยู่แถวนี้บ้าง 🙂
เริ่มต้นจากฝั่งตรงข้ามกับซุ้มทางเข้าโครงการจะเป็นบ้านหัสดินทร์ ด้านหน้าเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้นครึ่ง ถัดเข้าไปก็จะเป็นหมู่บ้านหัสดินทร์
มองไปทางซ้ายมือมุ่งหน้าไปถนนสุขาภิบาล 5 เดี๋ยวเราจะเดินสำรวจไปทางนี้ก่อนนะ
ถัดจากซุ้มทางเข้าโครงการเลยก็จะมีซุ้มขายอาหารทั้งก๋วยเตี๋ยวและข้าวมันไก่
ถัดไปก็มีซุ้มขายน้ำปั่นและอาหารจานด่วน
ฝั่งตรงข้ามก็มีขายข้าวแกงปักใต้
ถัดไปใกล้เคียงกันจะเป็นอู่ซ่อมรถ
และปั๊มน้ำมัน NGV ตอนนี้ปิดปรับปรุงชั่วคราวค่ะ
ถัดมาจากซุ้มทางเข้าโครงการเพียง 70 เมตรก็จะถึง Big C market เป็นอีกหนึ่งความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ทุกหมู่บ้านบนถนนเส้นนี้
ในบริเวณนี้ก็จะมีพื้นที่ให้เช่าสำหรับทำการค้าขายได้
นอกจากนี้ก็จะมีร้านซาลอน, คลีนิกเสริมความงาม, ธนาคาร, ร้านกาแฟ และอื่นๆอีกมากมาย
บริเวณหน้าทางออกจาก Big C market ก็จะมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ สามารถเดินมาเรียกใช้บริการได้
อัตราค่าโดยสารตามนี้เลยค่ะ
ข้างๆกันกับวินมอเตอร์ไซค์ก็จะมีป้ายรถเมลล์พอดี แต่สายที่ผ่านอาจจะมีไม่เยอะเท่าไหร่
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถยนต์
ข้างๆกันก็จะเป็นตึกแถวสูง 3 ชั้นครึ่ง ชั้นล่างเปิดร้านค้าขาย
ถัดจากป้ายรถเมล์ไปก็จะเป็นโครงการพฤกษา วิลล์ สายไหม – พหลโยธิน
ใกล้เคียงกันเป็นตึกแถว ชั้นล่างเปิดร้านขายส้มตำ
ข้างๆร้านส้มตำจะเป็นร้านซักรีด
หลังตึกแถวเข้าไปจะเป็นหมู่บ้านมนชญา 2 เป็นทาวน์โฮมสูง 2 ชั้น
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นหมูบ้านศุภาลัย วิลล์
ตรงไปทางสุขาภิบาล 5 ก็จะมีหมู่บ้านเรียงรายอยู่ตลอดถนนสายไหมทั้ง 2 ฝั่งเลยค่ะ
กลับมาที่หน้าซุ้มทางเข้าโครงการ เราจะเดินไปสำรวจบเส้นทางฝั่งขวามือกันต่อ
ข้างๆกับซุ้มทางเข้าโครงการเลยจะเป็นที่ดินเปล่า ในอนาคตก็คงหนีไม่พ้นขึ้นเป็นโครงการบ้านจัดสรรแน่ๆ
ฝั่งตรงข้ามข้างๆกับโครงการบ้านหัสดินทร์ก็จะเป็นที่ดินเปล่าเช่นกัน
ไม่ไกลกันจะเป็นโครงการเอ.ซี.เฮ้าส์ สายไหม
ถัดไปอีกหน่อยจะเป็นหมู่บ้านชมนาถ คันทรีโฮม
และกัสโต้ พหลโยธิน – สายไหม
ฝั่งตรงข้ามจะมี L park ภายในมีทั้งร้านกาแฟ, ร้านล้างรถ, ร้านอาหาร, ร้านซักรีด และอื่นๆอีกมากมาย
เดินเลยไปอีกหน่อยก็จะเจอหมู่บ้านพนาสนธิ์ การ์เด้นโฮม
ถ้าตรงต่อไปเรื่อยๆทางนี้ก็จะไปเชื่อมกับถนนพหลโยธิน 54/1 ค่ะ
:::: ตัวโครงการ ::::
โครงการ พฤกษา วิลล์ 64 สายไหม เป็นโครงการทาวน์โฮมสูง 2 – 3 ชั้น จำนวน 396 ยูนิต บนที่ดิน 48 ไร่ ที่มีแนวคิดมาจาก Neo Zen พัฒนาบ้านเพื่อชีวิตที่เรียบง่าย แต่ไม่ล้าสมัย ลดทอนรายละเอียดและเพิ่มพื้นที่ในส่วนสำคัญ โปร่งโล่งและรับมุมมองธรรมชาติ ให้บ้านเป็นพื้นที่ที่ตอบสนองทุกความต้องการของคนทั้งครอบครัว ก่อนที่จะพาเข้าไปดูภาพภายในโครงการจะขออธิบายผังโครงการคร่าวๆเพื่อความเข้าใจกันก่อนนะคะ
ทางเข้า – ออกของโครงการหลักจะมีเพียงทางเดียวคือจากซุ้มทางเข้าโครงการบนถนนสายไหม โดยจะต้องผ่านรปภ.ซึ่งจะประกอบด้วย ป้อมยาม, เครื่องสแกน Auto access card, กล้อง CCTV, รั้วไม้กระดก และประตูรั้วเลื่อน เมื่อผ่านเข้ามาภายในตัวโครงการแล้วจะเจอถนนเมนกว้าง 16 เมตรต่อเนื่องด้วยถนนกว้าง 12 เมตรผ่ายาวต่อเนื่องเข้าไปจนถึงท้ายโครงการ แจกเข้าสู่ตัวบ้านแต่ละหลังด้วยถนนกว้าง 9 เมตรที่ไม่ลึกมากนักเพราะที่ดินบนถนนสายไหมจะถูกแบ่งเป็นแบบหน้าแคบแต่ลึก
ส่วนกลางของโครงการจะมีคลับเฮ้าส์และสระว่ายน้ำอยู่ข้างๆซุ้มทางเข้าโครงการ ซึ่งปัจจุบันคลับเฮ้าส์ก็คือสำนักงานขาย เมื่อบ้านถูกขายหมดแล้วก็จะกลายเป็นห้องนิติบุคคลด้วย ส่วนสวนพักผ่อนจะอยู่ลึกเข้าไปตรงกลางไซท์ ซึ่งวัดระยะทางจากซุ้มทางเข้าโครงการเข้าไปถึงท้ายโครงการจะมีระยะประมาณ 950 เมตร ถ้าลูกบ้านหลังท้ายๆจะเดินออกมาใช้สระว่ายน้ำหรือจะเดินออกมาซื้อของที่ถนนสายไหมก็อาจจะต้องเดินไกลกันหน่อย
ลูกบ้านหลังหน้าๆจะค่อนข้างสะดวกในการเดินทางและสะดวกในการมาใช้งานส่วนกลางของโครงการ แต่ก็จะต้องแลกกับความเป็นส่วนตัวเพราะแน่นอนว่าบริเวณบ้านหลังหน้าๆจะต้องมีรถของลูกบ้านหลังอื่นวิ่งผ่านไปมาตลอด ส่วนลูกบ้านหลังในๆถึงแม้ว่าอาจจะเดินไกลกว่า แต่บ้านจะได้รับความสงบเพราะไม่ค่อยมีรถวิ่งผ่านทำให้มลพิษและฝุ่นที่จะเข้าบ้านก็น้อยลง ซึ่งจริงๆแล้วถ้าจะขับรถหรือปั่นจักรยานออกมาจอดไว้ข้างหน้าก็ใช้เวลาเพียงนิดเดียวเองค่ะ
:::: บริเวณภายในโครงการ ::::
::: ทางเข้าโครงการ :::
เราได้ชมรายละเอียดกันไปแล้ว ตอนนี้เราจะพาท่านผู้อ่านเดินชมภาพบรรยากาศจริงของโครงการกันบ้าง
เริ่มจากที่ซุ้มทางเข้าโครงการ ตัวซุ้มมีดีไซน์ที่เรียบง่ายและนิ่งตามแบบ Zen โดยใช้ระแนงเหล็กสีดำเป็นองค์ประกอบหลัก
ซุ้มทางเข้าโครงการจะเป็น Double Gate คือมีประตูรั้ว 2 ส่วน ส่วนแรกจะเป็นรั้วไม้กระดก ตรงนี้ลูกบ้านจะมี Access card สามารถสแกนบัตรและขับรถผ่านเข้าไปได้เลย ส่วนที่ 2 จะเป็นประตูรั้วเลื่อนซึ่งลูกบ้านสามารถใช้รีโมทในการเปิดประตูเองได้ค่ะ
เครื่องสแกน Access card เป็นระบบ Automation จะเห็นได้ว่าในส่วนนี้จะไม่มีมีหลังคาปกคลุมมาถึง ถ้าฝนตกก็อาจจะมีเปียกกันบ้างเล็กน้อย
ข้างๆกับถนนทางเข้าจะทำเป็นทางเท้ายกระดับขึ้นมาจากถนนให้ลูกบ้านเดินเข้าได้อย่างปลอดภัย แต่ก็ต้องแลกบัตรผ่านด้วยนะ
มุมมองไปที่ด้านข้างของป้อมยาม ดีไซน์เรียบๆนิ่งๆตามคอนเซ็ปต์ของตัวโครงการ
ตรงนี้จะมี CCTV อยู่ 2 ตัว ซึ่งกล้องตัวบนจะจับภาพคนขับ ส่วนกล้องตัวล่างจะจับภาพป้ายทะเบียนรถ
ภาพมุมมองจากในโครงการไปยังด้านหลังของป้อมยาม
::: บริเวณภายในโครงการ :::
เมื่อเข้ามาภายในโครงการแล้วจะเจอกับถนนเมนกว้าง 16 เมตร
ฝั่งขวามือจะเป็นพื้นที่ให้นำจักรยานหรือมอเตอร์ไซค์มาจอดทิ้งไว้ได้ สำหรับลูกบ้านที่ไม่ได้ขับรถส่วนตัว ตอนเช้าก็สามารถปั่นจักรยานมาจอดทิ้งไว้นั่งรถสาธารณะออกไปทำงาน ตอนเย็นก็ปั่นกลับเข้าบ้านสบายๆ
มุมมองไปทางซ้ายมือก็จะเป็นคลับเฮ้าส์และบ้านตัวอย่าง
บ้านตัวอย่างแบบ Neo Zen สูง 3 ชั้น
คลับเฮ้าส์และสระว่ายน้ำ ซึ่งตอนนี้คลับเฮ้าส์จะถูกใช้เป็นสำนักงานขาย ต่อไปเมื่อขายบ้านหมดทุกยูนิตแล้วก็จะกลายเป็นคลับเฮ้าส์สำหรับนั่งเล่นและส่วนติดต่อนิติบุคคลค่ะ
เดินเข้าไปดูข้างในกันสักนิด
มุมมองเข้าไปภายในคลับเฮ้าส์ จัดได้โปร่งโล่งน่านั่งดีค่ะ
มาดูในส่วนของสระว่ายน้ำที่อยู่ข้างๆกันต่อ สระว่ายน้ำจะเป็นระบบเกลือมีขนาด 5 x 14 เมตร ลึก 1.2 เมตร
ภายในสระจะมีแบ่งส่วนเป็นสระเด็กให้ด้วย จะทำเป็นผนังกั้นอยู่ภายในสระ สระเด็กก็ตื้นๆแค่ช่วงเข่าเท่านั้นเอง ข้างสระจะวางโต๊ะและเก้าอี้หวายให้นั่งพักผ่อนได้
มุมมองภายในสระ
ทางเดินลงสระเป็นบันไดสแตนเลสพร้อมราวจับ
มุมมองย้อนกลับ
เดินเข้าไปข้างในมุมสระจะมีอ่างล้างมือ, ห้องน้ำ และโซน Shower ชำระตัวก่อนลงสระ
อ่างล้างมือและห้องน้ำ ถ้าจะเปลี่ยนเสื้อผ้าก็สามารถเปลี่ยนในห้องน้ำนี้ได้เลย
โซน Shower มีฝักบัวให้ 1 จุด
กลับมาที่ถนนเมนกว้าง 16 เมตร เราจะเดินสำรวจตามถนนเมนนี้ไปเลย
ทางซ้ายมือจะเป็นซอยบ้านซอยที่ 2
ป้ายบอกหมายเลขซอยอยู่ที่หน้าปากซอยบ้านทุกซอย
มุมมองเข้าไปภายในซอยที่ 2 ซอยบ้านจะเข้าไปไม่ลึกมากตามรูปร่างของไซท์โครงการที่จะมีหน้าแคบแต่ลึก ซอยกว้าง 9 เมตร ทั้ง 2 ฝั่งจะเป็นแบบบ้านตัวอย่าง
ฝั่งซ้ายเป็นแบบบ้าน Mono Zen 2 สูง 2 ชั้น
ฝั่งขวาจะเป็นแบบบ้าน Mono Zen 1 สูง 2 ชั้นเช่นกัน ซึ่งเราจะกลับมาดูรายละเอียดแบบเจาะลึกภายในบ้านในหัวข้อถัดไปกันค่ะ อดใจรอกันอีกนิดนึงนะ
กลับมาที่ถนนเมนกว้าง 16 เมตรกันอีกครั้ง ตอนนี้ซอยบ้านทั้งหมดจะอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนมากจากเป็นยูนิตบ้าน Neo Zen สูง 3 ชั้น
ตลอดแนวถนนทั้งฝั่งซ้ายและขวาจะปลูกต้นไม้ให้ความร่มรื่นเขียวชะอุ่ม เดินได้สบายๆเพราะมีร่มไม้ช่วยบังแดดให้ตลอดทาง
เดินต่อไปข้างหน้าจะเจอสะพานข้ามคลองลำหม้อแตก ตัวโครงการถูกตัดด้วยคลองประมาณ 2 จุดได้
มุมมองจากบนสะพานไปฝั่งซ้าย ไกลๆเลยที่ดินเปล่าไปก็คือหมู่บ้านชมนาถคันทรีโฮม
ฝั่งขวาเลยเข้ามาจาก Big C market กำลังทำเป็นร้านอาหาร
เมื่อข้ามสะพานมาแล้วก็จะยังคงเป็นถนนเมนกว้าง 16 เมตรยาวเข้าไปเชื่อมกับถนนกว้าง 12 เมตร ฝั่งซ้ายจะเป็นยูนิตบ้าน Neo Zen สูง 3 ชั้นทั้งหมด
ตรงนี้จะเป็นจุดต่อของถนนกว้าง 12 เมตร ข้างหน้านี้จะเป็นเฟสก่อสร้างของแบบบ้าน Mono Zen 1 และ Mono Zen 2 แบบมีที่จอดรถ 2 คัน สวนสาธารณะสไตล์ Zen จะอยู่ข้างในซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้าง ยังไม่มีภาพมาให้ชมกันนะคะ
จุดนี้จะมีประตูรั้วอยู่อีก 2 ชั้นและป้อมยามเพราะในอนาคตพื้นที่ตรงกลางระหว่างประตูรั้วจะกลายเป็นถนนเวรคืนของกทม.ค่ะ จะเป็นช่วงซอยสายไหม 47 ตัดยาวผ่านไปเชื่อมกับซอยพหลโยธิน 54/1 แยก 10 มองดูเลยเหมือนโครงการนี้มี 2 เฟส
เมื่อข้ามประตูรั้วเข้ามาก็จะเป็นส่วนของยูนิตบ้าน Mono Zen 1 และ Mono Zen 2 ทั้งหมด
มุมมองไปทางขวามือ
มุมมองไปทางซ้ายมือจะมีสะพานข้ามคลองลำหม้อแตกอีก 1 จุด ข้ามไปก็จะเข้าไปในส่วนเขตก่อสร้างของแบบบ้าน Mono Zen 1 และ 2 แบบพัฒนาจากของเดิม จะมีรายละเอียดเป็นอย่างไรนั้นเชิญติดตามอ่านได้ในหัวข้อถัดไปนี้เลยค่ะ
:::: แบบบ้านของโครงการ และ บ้านตัวอย่าง ::::
::: แบบบ้านของโครงการ :::
แบบบ้านของโครงการได้แรงบันดาลใจในการพัฒนาบ้านเพื่อชีวิตที่เรียบง่ายและไม่ล้าสมัยแบบ Neo Zen ที่ผสานการออกแบบระหว่าง Zen และ Modern ให้แบบบ้านมีความเรียบสงบด้วยเส้นสายที่ร้อยเรียงกัน ลดทอนรายละเอียดและเพิ่มพื้นที่ในส่วนที่สำคัญ โปร่งโล่งให้ชีวิตได้สัมผัสธรรมชาติ สะท้อนรูปแบบและรสนิยมแห่งวิถีชีวิตในแบบ Zen ด้วยแบบบ้านทั้งหมด 3 แบบด้วยกัน
แบบบ้าน Mono Zen 1
แบบบ้าน Mono Zen 2
แบบบ้าน Neo Zen
:: แบบบ้าน Mono Zen 1 ::
แปลนบ้านชั้นที่ 1 ประกอบด้วย
แปลนชั้นที่ 2 ประกอบด้วย
:: แบบบ้าน Mono Zen 2 ::
แปลนบ้านชั้นที่ 1 ประกอบด้วย
แปลนชั้นที่ 2 ประกอบด้วย
:: แบบบ้าน Neo Zen ::
แปลนบ้านชั้นที่ 1 ประกอบด้วย
แปลนชั้นที่ 2 ประกอบด้วย
แปลนชั้นที่ 3 ประกอบด้วย
::: บ้านตัวอย่าง :::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo จะพาท่านผู้อ่านของเราไปชมบ้านตัวอย่าง 2 หลังด้วยกันนั่นก็คือแบบบ้าน Mono Zen 1 และ Mono Zen 2 สูง 2 ชั้น เป็นแบบที่มีที่จอดรถ 1 คัน ส่วนแบบที่มีที่จอดรถ 2 คันนั้นยังไม่มีตัวบ้านมาให้ดูกันค่ะ แต่รูปแบบของแปลนบ้านก็จะไม่ต่างกับแบบที่จอดรถ 1 คัน ส่วนแบบบ้าน Neo Zen สูง 3 ชั้นทางโครงการได้ขายหมดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แบบบ้าน Mono Zen 1 และ Mono Zen 2 ตอนนี้จะมีการพัฒนาแบบเพิ่มขึ้นจากเดิมให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยจะเพิ่มประตูเชื่อมระหว่างห้องนอน Master bedroom กับห้องน้ำ 1 ให้การใช้งานสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และตัดจูเลียตหรือหน้าต่างบานใหญ่เสมือนระเบียงห้องนอน Master bedroom ออก ให้เป็นหน้าต่างบานเลื่อนแบบธรรมดาเพื่อลดความร้อนจากภายนอกที่จะเข้าสู่ตัวห้องนอนเพื่อการนอนหลับพักผ่อนที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และประหยัดพลังงานการใช้ไฟฟ้าจากเครื่องปรับอากาศ หน้าตาบ้านก็จะเปลี่ยนไปบ้างเล็กน้อย ซึ่งทางทีมงานจะเปรียบเทียบรายละเอียดแต่ละส่วนให้ท่านผู้อ่านได้เห็นกันเลยค่ะ
:: แบบบ้าน Mono Zen 1 ::
หน้าตาแบบบ้าน Neo Zen 1 แบบเก่า ใช้หลังคาแบบ Lean หรือที่เรียกกันในภาษาไทยว่าหลังคาทรงเพิงหมาแหงน ชั้น 2 ที่ห้องนอน Master bedroom จะยังมีจูเลียตอยู่ เป็นหน้าต่างกระจกบานยาวจากพื้นถึงฝ้าเพดานเข้ามุม เปิดออกมาเสมือนเป็นระเบียงห้องนอน
รั้วบ้าน และโรงจอดรถ บ้านมาตรฐาน
หน้าตาแบบบ้าน Neo Zen 1 แบบใหม่ จะเห็นได้ว่าจูเลียตที่ห้องนอน Master bedroom จะหายไปเปลี่ยนเป็นหน้าต่างบานเลื่อนธรรมดา ส่วนหลังคาจะเปลี่ยนมาใช้เป็นหลังคาแบบ Hip หรือที่เรียกว่าทรงปั้นหยา ซึ่งโดยรวมแล้วจะเหมาะสมกับสภาพอากาศของประเทศไทยมากกว่า
นี่คือบ้านมาตรฐานที่ส่งมอบค่ะ มาดูสภาพหน้าบ้าน, รั้วบ้าน และโรงจอดรถที่เราจะได้จริงๆกันก่อน
รั้วบ้านจะเป็นรั้วซี่เหล็กทาสีน้ำมันสีดำ เป็นบานพับ 6 ตอน สูงประมาณ 1.5 เมตร
หน้าบ้านแต่ละหลังจะมีกริ่งออด, ป้ายเลขที่บ้าน และไฟกิ่งมาให้ 1 ดวง แต่ไม่มีกล่องจดหมายมาให้ ต้องซื้อมาติดกันเอาเองนะคะ
รั้วบ้านที่กั้นระหว่างบ้านแต่ละหลังจะเป็นรั้วทึบฉาบเรียบสูง 1.5 เมตร พื้นบริเวณบ้านจะเป็นพื้นซีเมนต์ปาดเรียบขัดหยาบทั้งหมด พื้นจะทำเป็น Slope เพื่อให้นำรถเข้ามาจอดได้สะดวก ถ้าเป็นบ้านแปลงมุมจะมีส่วนพื้นที่เหลือข้างบ้านจะทำเป็นพื้นทรายปรับระดับเอาไว้ให้
ถ้าใครที่ชอบสนามหญ้าอยากให้บ้านดูเขียวชอุ่มก็อาจจะกั้นขอบพื้นขึ้นมาสักหน่อย ลงดินไม่ต้องหนามากก็สามารถปูพื้นหญ้าได้แล้ว หรือจะจัดเป็นสวนหย่อมแบบสวนหินสไตล์ Zen ก็ได้ จะทำขอบผนังเป็นกะบะใส่ดินปลูกต้นไม้ หรือวางเป็นไม้กระถางไปเลยก็ง่ายดี มีหลากหลายไอเดียในการทำสวนสวยที่ทำได้ไม่ยากและดูแลง่ายด้วยค่ะ
ในโรงจอดรถจะสามารถจอดรถได้ 1 คัน เป็นพื้นซีเมนต์ปาดเรียบขัดหยาบ ที่ฝ้าเพดานติดดวงโคมซาลาเปา LED ทรงสี่เหลี่ยมมาให้ 1 ดวง
ดวงโคมซาลาเปา LED ทรงสี่เหลี่ยมดูทันสมัย
บริเวณโรงจอดรถจะมีช่องเก็บของเป็นพื้นที่ใต้บันไดใช้ประตูบานเปิด UPVC สามารถเก็บอุปกรณ์โรงรถหรืออุปกรณ์ทำสวนได้
มาในดูในส่วนของเฉลียงทางเข้าบ้านกันบ้าง
เหนือเฉลียงทางเข้าจะมี Facade ของบ้านยื่นออกมาทำหน้าที่เป็น Shade ให้กับตัวบ้านได้นิดหน่อย ติดดวงโคมซาลาเปามาให้ 1 ดวง
พื้นเฉลียงจะกว้าง 60 ซม. ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม. ยกระดับขึ้นมาจากพื้นซีเมนต์ประมาณ 10 ซม. เก็บขอบด้วยหินกรวด
แบบบ้านตัวอย่าง
มาชมบ้านตัวอย่างกันต่อเลยค่ะ หน้าตาของบ้านตัวอย่างจะยังเป็นแบบบ้านเดิมอยู่นะคะ
ประตูทางเข้าบ้านจะเป็นประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมสีธรรมชาติลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง สามารถเลื่อนเปิดได้ตามภาพ
มือจับและตัวล็อคประตู ตรงนี้ถ้าใครที่ต้องการความปลอดภัยมากขึ้นก็สามารถหาระบบล็อคแบบอื่นๆมาติดเพิ่มเติมได้
เมื่อเข้ามาในตัวบ้านแล้วจะเจอห้องนั่งเล่นก่อน ถัดเข้าไปคือห้องรับประทานอาหาร พื้นบ้านจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. จะปูยาวเข้าไปถึงในห้องครัว ผนังจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสีขาวเก็บขอบด้วยบัวผนังเรียบร้อย แปลนบ้านจะเป็นแบบ Open plan เชื่อมพื้นที่แต่ละฟังก์ชั่นเข้าด้วยกันทั้งหมดทำให้ภายในบ้านดูโปร่งโล่งดี
ที่ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบทั้งหลังลดระดับฝ้าให้ตามภาพเพราะจะเป็นพื้นที่ส่วนของงานระบบท่อภายในห้องน้ำ และมีผลพลอยได้คือทำให้เหมือนเป็นการแบ่งโซนพื้นที่ให้ไปด้วยในตัว ภายในบ้านที่ชั้น 1 จะใช้ดวงโคมซาลาเปาทรงสี่เหลี่ยมทั้งหมดยกเว้นในห้องน้ำที่จะใช้เป็นดวงโคมดาวน์ไลท์
มุมมองไปทางชุดโซฟารับแขก
ทางบ้านตัวอย่างได้จัดวาง Arm Chair ขนาด 2 ที่นั่งเอาไว้ให้ดูเหมาะสมกับพื้นที่ดีนะ แต่จริงๆแล้วจะวางเป็นโซฟารูปตัว L ก็มีที่เหลือพอ
ฝั่งชั้นวางทีวีผนังจะเว้าเข้ามาเพราะด้านนอกเป็นที่จอดรถ ผนังกว้างประมาณ 2.7 เมตร ทำให้เราได้ที่วาง Built – in ตู้วางทีวีพร้อมช่องเก็บของได้สบายๆ ใครอยากให้บ้านดูกว้างขวางขึ้นลองใช้กระจกมาติดที่ผนังบางส่วนดูตามแบบบ้านตัวอย่าง ก็จะทำให้บ้านของท่านดูกว้างขวางขึ้นในทันที โน้ตไว้เป็นไอเดียตกแต่งบ้านได้เลยค่ะ
ระยะจากโซฟาถึงผนังอีกฝั่งเหลือ 1.55 เมตร เป็นระยะที่เหมาะสำหรับการนั่งดูทีวีขนาด 32 – 42 นิ้วค่ะ แต่ถ้าเราอยากได้ระยะดูทีวีเพิ่มขึ้นก็สามารถใช้วิธีเอาทีวีติดผนังได้ จะได้ระยะดูทีวีเพิ่มมาเป็น 1.80 เมตร ซึ่งจะทำให้สามารถวางทีวีขนาด 47 นิ่วได้เลย
ภายในห้องนั่งเล่นจะมีช่องแสง 2 จุด คือจากประตูทางเข้าหลักและหน้าต่างบานเลื่อนข้างบ้าน ซึ่งถ้าเป็นแปลงมาตรฐานก็จะไม่มีบานข้างบ้านนะคะ จะได้แสงธรรมชาติจากประตูหลักเข้าบ้านทางเดียวเท่านั้น ตรงนี้ถ้าใครกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวแนะนำให้ติดม่านบังสายตาไว้ เพราะบานประตูเลื่อนค่อนข้างใหญ่ทีเดียว
มุมมองจากห้องนั่งเล่นไปที่ห้องรับประทานอาหาร, โถงบันได และห้องครัว
จะเห็นได้ว่าบริเวณระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องรับประทานอาหารยังเหลือพื้นที่ผนังอีกเยอะเลย ตรงนี้เราสามารถตั้งชั้นวางหนังสือ, วางของตกแต่ง, ตู้เก็บจานชาม หรือจะวางเป็นโต๊ะทำงานก็ดีเหมือนกันนะ
มาดูที่ห้องรับประทานอาหารกันต่อ ที่ห้องนี้ก็จะมีช่องแสงให้อยู่ 2 จุดเช่นกัน แต่ถ้าเป็นบ้านแปลงมาตรฐานก็จะมีหน้าต่างบานเลื่อนส่วนที่ติดกับลานซักล้างเพียงบานเดียว
ที่บานกรอบหน้าต่างจะไม่มีมือจับมาให้แต่จะทำเป็นครีบขึ้นมาสามารถจับเลื่อนเปิด – ปิดได้ ซึ่งการดีไซน์รายละเอียดบ้านแบบนี้จะช่วยให้ดูเรียบและโมเดิร์นมากขึ้น มองออกไปข้างนอกหน้าต่างจะเห็นส่วนของลานซักล้าง
ตัวล็อคท้ายบานแบบก้นหอย
สำหรับโต๊ะอาหารสามารถวางได้ขนาด 4 ที่นั่งพอดี จัดให้ดูน่านั่งจะได้สามารถเป็นมุมนั่งเล่นได้อีก 1 มุม
จากห้องรับประทานอาหารจะเชื่อมต่อกับห้องครัว ซึ่งตรงนี้เราสามารถติดตั้งประตูบานเลื่อนกั้นส่วนระหว่างพื้นที่ห้องเพื่อกันกลิ่นจากการปรุงอาหารได้ ตัวห้องครัวที่ได้จะเป็นห้องโล่งๆอย่างนี้ค่ะ ภายในห้องจะมีหน้าต่างบานเลื่อนสำหรับเปิดระบายอากาศได้
ฝ้าเพดานบริเวณห้องรับประทานอาหารและห้องครัว
ข้างๆห้องครัวจะติดอุปกรณ์ดับเพลิงเอาไว้เผื่อเหตุฉุกเฉินมาให้กับตัวบ้านด้วย
ห้องครัวถึงจะดูเล็กไปสักหน่อย แต่พอจัดออกมาก็สามารถวางเคาน์เตอร์ที่มีพื้นที่สำหรับการทำอาหารได้พอดีๆ แต่ถ้าใครชอบทำอาหารไทยที่ต้องการพื้นที่ในการเตรียมอาหารค่อนข้างมาก ก็อาจจะต้องทำการต่อครัวเพิ่มเติมที่ลานซักล้างนะ ตำแหน่งติดตั้งอ่างล้างจานจะอยู่ตรงกับหน้าต่างพอดี นับว่าเป็นตำแหน่งที่ดี เพราะจะช่วยระบายอากาศและแสงแดดจะช่วยฆ่าเชื้อโรคที่เกิดจากความอับชื้นได้ค่ะ
ก่อนจะทำเคาน์เตอร์ในห้องครัวอย่าลืมหา Dimensions ของตู้เย็นที่จะเอามาวางไว้ก่อนนะจะได้เตรียมพื้นไว้ได้พอดี ระยะมาตรฐานก็ราวๆ 60 ซม.ได้ค่ะ จะเป็นตู้เย็นขนาดมาตรฐาน แต่ถ้าเป็นตู้เย็นแบบ 2 ประตูก็จะต้องเผื่อที่มากกว่านี้นะ เมื่อวางเคาน์เตอร์แล้วระยะภายในห้องครัวจะเหลือ 1.2 เมตร ถือว่าเป็นระยะที่พอดีเลย
มาดูห้องน้ำกันต่อเลยค่ะ ห้องน้ำจะสามารถเข้าได้จากทางห้องครัวเพียงทางเดียว ประตูห้องน้ำจะเป็นบาน UPVC ติดเกล็ดระบายอากาศ
อุปกรณ์มือจับเป็นลูกบิดสแตนเลสแบบมาตรฐานของ Colt
มุมมองเข้าไปภายในห้องน้ำ 2 จะวางจากโซนแห้งไล่เข้าไปยังโซนเปียก ตอนนี้บ้านมาตรฐานแบบใหม่จะใช้วัสดุและสุขภัณฑ์ต่างไปจากของเดิม พื้นห้องน้ำจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวด้านกันลื่นขนาด 60 x 60 ซม. ผนังกรุด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวเรียบขนาด 60 x 60 ซม.และกระเบื้องเซรามิคขนาด 20 x 30 ซม.จากพื้นจรดฝ้าเพดาน ไฟในห้องน้ำจะใช้เป็นดวงโคมดาวน์ไลท์ กระจกบานที่ได้มาเป็นกระจกเจียปรี ขนาด 900 x 1100 มม.
พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงจากพื้นชั้น 1 ลงไปประมาณ 5 ซม.
อ่างล้างหน้าที่ได้จะเป็นของ American Standard แบบแขวนผนัง มีขนาดกระทัดรัดทรงมนปลอดภัยในการใช้งาน มีพื้นที่ขอบอ่างให้วางขวดสบู่ได้นิดหน่อย ส่วนท่อดักกลิ่นจะครอบด้วยอุปกรณ์อ่างเซรามิกให้เรียบร้อย
ส่วนก๊อกน้ำจะใช้ของ Rasland
ข้างๆอ่างล้างมือจะติดราวแขวนผ้าเช็ดตัวให้ใช้ของ Mogen
ถัดจากอ่างล้างมือจะเป็นโถสุขภัณฑ์ของ American Standard แบบแยกชิ้น ระบบ Single flush พร้อมสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษชำระ ข้างๆกันฝั่งซ้ายจะเป็นพื้นที่ยืนอาบน้ำกว้างประมาณ 60 ซม. อาจจะแคบไปสักหน่อยแต่ในวันเร่งด่วนห้องน้ำชั้นบนไม่ว่างก็มาอาบที่ห้องนี้ได้
ที่ใส่กระดาษชำระของ Mogen
สายฉีดชำระพลาสติกสีโครเมี่ยมน้ำหนักเบามือ
ชุดฝักบัวอาบน้ำแบบไม่มีราวปรับระดับของ Rasland
พร้อมชั้นวางสบู่ของ Mogen ขนาดสามารถใส่สบู่ได้ 1 ก้อนพอดี หาซื้อชั้นวางสบู่มาติดตั้งเพิ่มได้เลย แนะนำให้ใช้เป็นแบบแขวนผนังเพราะพื้นที่ยืนอาบน้ำไม่ได้เหลือกว้างขวางมาก
เนื่องจากภายในห้องน้ำจะไม่มีหน้าต่างระบายอากาศมาให้ ทางโครงการจึงได้ติดตั้งระบบพัดลมดูดอากาศมาให้ภายในห้องด้วย
มาดูในส่วนของลานซักล้างกันต่อ ประตูลานซักล้างเป็นบานประตูสำเร็จรูปสีขาว อุปกรณ์ลูกบิดสแตนเลสของ Colt
ลานซักล้างที่ได้จะทำเป็นพื้นซีเมนต์ปาดเรียบกว้าง 2 เมตรพื้นลาดเอียงเล็กน้อย และจะลดระดับลงจากพื้นชั้น 1 อยู่ 10 ซม.
พื้นที่บริเวณลานซักล้างกว้างขวางดีค่ะ ถ้าจะต่อเติมครัวเพิ่มก็ยังพอรองรับได้อยู่ มีปลั๊กไฟสำหรับเครื่องซักผ้าและดวงโคมฟลูออเรสเซ้นต์ติดไว้ให้เหนือประตูทางออก ผนังที่กั้นระหว่างบ้านสูงประมาณ 1.75 เมตร
ดวงโคมฟลูออเรสเซ้นต์ตำแหน่งเหนือประตู
ปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบกันน้ำ
มุมมองย้อนกลับเข้ามาภายในตัวบ้าน
ขึ้นบันไดไปดูที่ชั้น 2 กันต่อเลย ตัวโถงบันไดจะกว้าง 90 ซม.ได้ระยะมาตรฐานพอดี ผนังด้านข้างยังเหลือพื้นที่สามารถทำชั้น Built – in วางของใช้หรือวางกรอบรูป, โคมไฟ และแจกันตกแต่งบ้านให้น่าอยู่ได้อีก
ลูกนอนของบันไดจะเป็นไม้ยางพาราอัดประสาน ส่วนลูกตั้งจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสี
ที่ด้านข้างของโถงบันไดจะมีช่องแสงเป็นหน้าต่างบาน Fix ให้ มองออกไปจะเห็นบริเวณโรงจอดรถพอดี
มุมมองขึ้นไปที่โถงบันไดชั้น 2 บันไดจะเป็นบันไดแบบหักกลับรูปตัว U วนขวาขึ้นไป ดวงไฟจะได้เป็นดวงโคมซาลาเปา LED ทรงสี่เหลี่ยม ถ้าตกแต่งด้วยโคมไฟแบบนี้ก็สวยดีนะ
มุมมองไปที่ชานพักบันได
ราวบันไดเป็นราวเหล็กมือจับไม้ยางพาราอัดประสาน
พื้นชั้น 2 ทั้งหมดจะปูด้วยไม้ลามิเนตหนา 8 มม.ยกเว้นพื้นห้องน้ำและพื้นระเบียงห้องนอน
มุมมองขึ้นไปยังโถงบันไดชั้น 2 โถงบันไดจะเป็นตัวแจกเข้าห้องต่างๆ ทางซ้ายมือจะเป็นห้องนอน 3 และห้องนอน 2 ตามลำดับ ตรงกลางโถงจะเป็นห้องน้ำ 1 ส่วนทางขวามือจะเป็นห้องนอน Master bedroom
บริเวณโถงบันไดจะติดตู้ Load center ใช้ของ Schneider electric
มุมองย้อนกลับไปที่โถงบันได ฝั่งซ้ายคือห้องนอน Master bedroom ฝั่งขวาคือห้องนอน 3
เดี๋ยวเราจะเข้าไปดูที่ห้องฝั่งขวากันก่อน ลำดับเป็นห้องนอน Master bedroom และห้องน้ำ 1
ประตูห้องนอนทุกห้องจะเป็นประตูบานสำเร็จรูป มือจับแบบลูกบิดสแตนเลส
และจะติด Door stopper ไว้ที่พื้นกันประตูกระแทกผนัง
มุมมองเข้าไปภายในห้องนอน Master bedroom บริเวณลายผนังของห้องนอนจะเดินปลั๊กไฟและสายอากาศเอาไว้ให้ด้วยสำหรับการติดตั้งทีวีและสายโทรศัพท์มาให้ ภายในห้องจะแบ่งออกเป็น 2 โซนด้วยกัน ที่โซนซ้ายมือจะเป็นโซนที่นอน จะเห็นได้ว่าแบบบ้านใหม่จะเปลี่ยนจากหน้าต่างกระจกเข้ามุมสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานเป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่
แบบบ้านเก่าจะเป็นหน้าต่างบานเลื่อนสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน
เปิดออกไปมีระเบียงกันตก ตรงนี้เราเรียกว่าจูเลียต
ซึ่งแบบบ้านใหม่ที่เราจะได้จะเป็นหน้าต่างบานเลื่อนแบบนี้ค่ะ
มาดูที่โซนที่นอน จะสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้และยังเหลือที่สำหรับวางโต๊ะข้างหัวเตียงทั้ง 2 ฟาก
พื้นที่ฝั่งซ้ายจะเหลือประมาณ 40 ซม. ส่วนฝั่งขวาจะเหลือประมาณ 60 ซม.ถ้าจะวางเตียงขนาด 6 ฟุตก็พอทำได้อยู่แต่จะต้องวางชิดผนังฝั่งซ้ายไปเลยนะ
มุมมองไปที่โซน Walk – in closet กันบ้าง
ส่วนของ Walk – in closet จะมีขนาดที่กว้างขึ้นเพราะผนังห้องถูกทำให้เสมอกันหมดแล้ว ไม่มีส่วนที่เซ็ทเข้ามาแล้วค่ะ จากหน้าต่างบานเปิดจะได้เป็นหน้าต่างบาน Fix แทน
โต๊ะส่วนนี้อาจจะต้องกลายเป็นโต๊ะเครื่องแป้งแทนแล้วเพราะผนังอีกฝั่งจะทำประตูเชื่อมห้องนอน Master bedroom กับห้องน้ำ 1
ตำแหน่งของตู้เสื้อผ้าก็จะต้องย้ายไปวางชิดริมผนังฝั่งกระจกแทนเช่นกัน ตรงนี้เราจะทำเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Built – in ยาวเต็มผนังได้เลย
มุมมองย้อนกลับไปที่โซนที่นอน
ส่วนดวงโคมภายในห้องนอนทุกห้องก็จะใช้เป็นดวงโคมดาวน์ไลท์ทรงสี่เหลี่ยมแบบซ่อนหลอดไฟ
มุมมองเข้าไปภายในห้องน้ำ 1 จะใช้วัสดุและสุขภัณฑ์เหมือนกับห้องน้ำชั้นล่างทั้งหมด แต่ห้องนี้จะมีพื้นที่ที่กว้างขวางมากกว่า สังเกตที่บ้านมาตรฐานที่ได้จริงๆจะไม่มีหน้าต่างภายในห้องน้ำให้ แต่จะติดตั้งระบบพัดลมดูดอากาศมาให้แทน
ระดับพื้นห้องน้ำจะลดลงจากพื้นชั้น 2 ประมาณ 1 นิ้ว
อ่างล้างหน้าของ American Standard และก๊อกน้ำของ Rasland
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard พร้อมสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษชำระของ Mogen พื้นที่โถสุขภัณฑ์กว้างขวางดีนั่งได้สบาย
ส่วนโซน Shower ของบ้านแบบใหม่จะไม่ได้ติดตั้ง Shower box มาให้ด้วย ถ้าอยากให้ห้องน้ำใช้งานได้สะดวก น้ำไม่กระเด็นเปียกไปทั่วห้องหลังอาบน้ำแนะนำให้ติดตั้ง Shower box ตามแบบบ้านตัวอย่างได้เลยค่ะ
พื้นที่ยืนอาบน้ำแบ่งจากพื้นที่โถสุขภัณฑ์แล้วจะกว้างประมาณ 90 ซม. กว้างกำลังดีเลย
ฝ้าเพดานจะใช้เป็นฝ้ายิปซั่มฉาบเรียบกันความชื้น ติดดวงโคมดาวน์ไลท์กล่องสี่เหลี่ยมมาให้พร้อมพัดลมดูดอากาศภายในห้อง
มาดูในส่วนของห้องนอนทางฝั่งซ้ายมือของโถงบันไดกันต่อ เริ่มจากห้องนอน 2 กันก่อน
มุมมองเข้าไปในห้องนอน 2 ภายในห้องนี้ถ้าเป็นบ้านแปลงมุมจะได้หน้าต่างมาทั้ง 2 ฝั่งเลย แต่แปลงมาตรฐานปกติก็จะได้หน้าต่างมาด้านเดียวค่ะ
ฝ้าเพดานและดวงโคมภายในห้อง
ในห้องนี้จะสามารถจัดวางเตียงขนาด 3 ฟุตครึ่ง, ชั้นวางของปลายเตียง, โต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงาน และตู้เสื้อผ้าขนาดกลางได้
จากปลายเตียงจนถึงผนังกว้าง 40 ซม. ทำชั้น Built – in สูงขึ้นมาจากพื้นแบบนี้จะช่วยทำให้ห้องดูไม่อึดอัดนัก
ระยะจากตู้เสื้อผ้าจนถึงเตียงนอนอยู่ที่ 1.3 เมตร สามารถเปลี่ยนผ้าปูเตียง หรือยืนแต่งตัวได้สบายๆ จริงๆจะวางเป็นเตียงนอนขนาด 4 ฟุตก็ยังทำได้
มุมมองไปฝั่งโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า พื้นที่เหลือให้วางได้ไม่เยอะมากเพราะจะต้องเผื่อพื้นที่สำหรับวงประตู
มุมมองไปทางประตูทางเข้าห้อง ที่ผนังฝั่งนี้จะสามารถทำชั้น Built – in เพิ่มเติมได้อีกจะได้มีพื้นที่เก็บของได้เยอะๆ ในบริเวณที่ใกล้วงเปิดประตูก็อาจจะทำเป็นราวแขวนของแทน สามารถใช้แขวนกระเป๋า, หมวก, ผ้าพันคอ และ Accessories อื่นๆได้
มาถึงห้องนอน 3 ห้องสุดท้ายกันแล้วค่ะ
มุมมองเข้าไปในห้องนอน 3 ห้องนี้จะเป็นห้องที่มีขนาดเล็กที่สุด แต่ก็ยังสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างครบครัน บางท่านอาจจะจัดให้ห้องนี้เป็นห้องอเนกประสงค์แทนก็ได้
ฝ้าเพดานและดวงโคมภายในห้อง
ในห้องนี้จะสามารถจัดวางเตียงขนาด 3 ฟุตครึ่ง, ชั้นวางของปลายเตียง, โต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงาน และตู้เสื้อผ้าขนาดกลางได้เหมือนกับห้องนอน 2 เลย แต่จะเหลือพื้นที่รอบๆเตียงน้อยกว่า
จากปลายเตียงจนถึงผนังห้องกว้าง 50 ซม.
ระยะจากตู้เสื้อผ้าจนถึงเตียงนอนอยู่ที่ 65 ซม. เหลือน้อยกว่าห้องนอน 2 ครึ่งนึง
มุมมองไปฝั่งโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าขนาดแบบกระทัดรัดๆ
มุมมองไปทางประตูทางเข้าห้อง
นอกจากนี้แบบบ้านใหม่ทางโครงการจะติดตั้ง Smoke detector และ Fire alarm มาให้กับตัวบ้านด้วย
ส่วนสวิตช์และปลั๊กไฟของบ้านทั้งหลังจะใช้ของ Schneider electric ค่ะ
:: แบบบ้าน Mono Zen 2 ::
มาถึงบ้าน Mono Zen 2 กันแล้วค่ะ หน้าตาของบ้านรวมถึงการวางแปลนจะเหมือนกับแบบบ้าน Mono Zen 1 ทุกประการเลย จะต่างกันแค่ความลึกของบ้านเท่านั้น โดยบ้านหลังที่แล้วจะลึก 7 เมตร ส่วนบ้านหลังนี้จะลึก 8 เมตรค่ะ ซึ่งจะได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มมาเป็น 110 ตารางเมตร ซึ่งภาพนี้จะเป็นแบบบ้านแบบเก่าค่ะ บ้านแบบใหม่ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงเหมือนแบบบ้าน Mono Zen 1 ทุกประการ
แบบบ้านตัวอย่าง
เข้าไปชมภายในบ้านกันเลย ประตูทางเข้าวัสดุเหมือนกันกับหลังที่แล้วทุกประการ
เข้าไปภายในบ้านก็จะเจอกับโซนห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารด้านหลังค่ะ ซึ่งพื้นที่ในโซนห้องนั่งเล่นนี้จะเท่ากันกับบ้านหลังที่แล้ว แปลนในส่วนหน้าบ้านไม่ได้ยืดออกไป ฝ้าเพดานและดวงโคมที่ใช้เหมือนกับบ้านหลังที่แล้ว
มุมมองไปทางชุดโซฟารับแขกซึ่งถูกจัดวางเอาไว้แบบ 3 ที่นั่งซึ่งจริงๆแล้วบ้านหลังนี้จะสามารถวางได้ถึง 4 – 5 ที่นั่งเลย
ข้างๆโซฟายังเหลือพื้นที่อีกเยอะ จะทำชั้นวางของแบบโปร่งขึ้นมากั้นโซนระหว่างโซนห้องก็ทำให้บ้านดูเป็นสัดเป็นส่วนขึ้นโดยที่ไม่ทำให้ดูทึบตันและอึดอัด
ขนาดความกว้างของผนังทีวีฝั่งโรงจอดรถก็จะเท่ากันค่ะ
ระยะดูทีวีก็เท่าเดิมเป๊ะเหมือนหลังที่แล้ว
มุมมองจากห้องนั่งเล่นไปที่ห้องรับประทานอาหาร, โถงบันได และห้องครัว
มาดูที่ห้องรับประทานอาหารกันต่อ
สำหรับโต๊ะทานอาหารห้องตัวอย่างได้จัดไว้ขนาด 4 ที่นั่ง จริงๆแล้วจะสามารถจัดได้ถึง 6 ที่นั่งเลยค่ะ
เนื่องจากพื้นที่ส่วนหลังบ้านช่วงห้องรับประทานอาหารและห้องครัวจะขยายเพิ่มออกไปจากบ้านหลังที่แล้ว 1 เมตร จึงทำให้เหลือพื้นที่ข้างหลังโต๊ะทานข้าวอีกเยอะ สามารถทำชั้นวางจาน – ชามสวยงาม, ทำเคาน์เตอร์แพนทรี่เพิ่มเติม หรือจะเปลี่ยนทิศการจัดโต๊ะอาหารเพื่อให้ได้จำนวนที่นั่งเพิ่มขึ้นอีกก็ทำได้เช่นกัน
มาดูในส่วนของห้องครัวกันต่อ
จุดที่แตกต่างกันจากบ้านหลังที่แล้วอย่างชัดเจนก็คือห้องครัวที่ได้ขนาดกว้างขึ้นมากๆสามารถทำอาหารแบบครัวไทยหนักๆได้โดยไม่จำเป็นที่จะต้องทำส่วนต่อเติมออกไปที่ลานซักล้าง เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่และผู้ที่ชอบทำอาหารทานเองบ่อยๆ
ภายในห้องครัวสามารถทำเคาน์เตอร์เป็นรูปตัว L วางอ่างล้างจานและเตาปรุงอาหารแล้วยังเหลือพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารอีกเหลือเฟือ สามารถวางตู้เย็นขนาดใหญ่ 2 ประตูได้ด้วย
เมื่อวางเคาน์เตอร์แล้วระยะยังเหลืออีก 1.8 เมตรเลย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะสามารถเข้ามาช่วยปรุงอาหารกันหลายๆคนได้
ห้องน้ำจะสามารถเข้าได้จากทางห้องครัวเพียงทางเดียว ประตูห้องน้ำจะเป็นบาน UPVC ติดเกล็ดระบายอากาศเหมือนหลังที่แล้ว
ภายในห้องน้ำและขนาดห้องน้ำจะเหมือนกันกับบ้านหลังที่แล้วทุกประการ
ด้านข้างห้องครัวก็จะมีประตูบานเปิดออกไปสู่ลานซักล้างเหมือนกันกับหลังที่แล้ว
ลานซักล้างที่ได้จะทำเป็นพื้นซีเมนต์ปาดเรียบกว้าง 2 เมตรพื้นลาดเอียงเล็กน้อย และจะลดระดับลงจากพื้นชั้น 1 อยู่ 10 ซม. มีปลั๊กไฟสำหรับเครื่องซักผ้าและดวงโคมฟลูออเรสเซ้นต์ติดไว้ให้เหนือประตูทางออก
มุมมองย้อนกลับเข้ามาภายในตัวบ้าน
ขึ้นบันไดไปดูที่ชั้น 2 กันต่อเลย ตัวโถงบันไดจะกว้าง 90 ซม. วัสดุบันไดเหมือนกันกับบ้านหลังที่แล้วทุกประการ และมีช่องแสงบริเวณข้างบันไดขนาดเท่ากัน
บริเวณโถงบันไดจะได้เป็นดวงโคมซาลาเปา LED เปลี่ยนมาติดเป็นโคมไฟตกแต่งแบบนี้ทำให้ได้บรรยากาศที่ดีขึ้นเยอะเลย
ชานพักบันไดก็เหมือนกันกับบ้านหลังที่แล้วทุกประการค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 ของบ้านแล้ว สำหรับตำแหน่งห้องนอน Master bedroom จะอยู่ด้านซ้ายมือ ตรงกลางเป็นห้องน้ำ และถัดไปด้านขวาจะเป็นห้องนอน 2 และ 3 ค่ะ ที่พื้นชั้น 2 ทั้งหมดจะปูด้วยไม้ลามิเนตหนา 8 มม.เหมือนหลังที่แล้ว
มุมองย้อนกลับไปที่โถงบันได ฝั่งซ้ายคือห้องนอน 3
เดี๋ยวเราจะเข้าไปดูที่ห้องฝั่งซ้ายของโถงบันไดกันก่อน ลำดับเป็นห้องนอน Master bedroom และห้องน้ำ 1
สำหรับห้องนอนห้องนี้ก็จะขนาดเท่ากันกับบ้านหลังที่แล้วทุกประการนะคะ พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 50 ซม. ทั้งสองข้าง
จากปลายเตียงไปยังหัวเตียงสามารถวางสตูลปลายเตียงเพิ่มได้อีก 1 ตัว
มุมมองไปที่โซน Walk – in closet กันบ้าง
การตกแต่งก็จะคล้ายๆกันกับห้องที่แล้ว
ตำแหน่งของตู้เสื้อผ้าก็จะต้องย้ายไปวางชิดริมผนังฝั่งโต๊ะเครื่องแป้งแทน เพราะแบบบ้านใหม่ได้ทำประตูเชื่อมห้องน้ำ 1 ขึ้นมาเพิ่ม
มุมโซฟาตรงนี้ก็คงจะต้องเปลี่ยนไปเป็นโต๊ะเครื่องแป้งแทนค่ะ
มาดูในส่วนของห้องน้ำ 1 กันต่อซึ่งจะเหมือนกันกับบ้านหลังที่แล้วทุกประการ
ต่อไปมาดูห้องฝั่งขวาของโถงบันไดกันบ้าง เริ่มจากห้องนอน 2
ภายในห้องนอน 2 ของบ้านหลังนี้จะใหญ่กว่าหลังที่แล้วพอสมควรเลยค่ะ เพราะตัวห้องจะกว้างขึ้นอีก 1 เมตร
ภายในห้องตัวอย่างได้จัดวางเตียงขนาด 3 ฟุตครึ่งเอาไว้ ซึ่งจริงๆแล้วเนี่ยจะวางเป็นเตียงขนาด 4 ฟุตก็ยังได้นะ
ระยะระหว่างปลายเตียงถึงผนังกว้าง 80 ซม. สามารถวางชั้นวางของหรือทำชั้น Built – in ได้แบบนี้
ถ้าเป็นบ้านแปลงมาตรฐานจะมีหน้าต่างให้เพียงฝั่งเดียว สามารถทำ Built – in วางของได้เต็มผนังและติดกระจกบานใหญ่สำหรับเช็คความเรียบร้อยก่อนออกจากห้อง
มุมมองไปที่ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งบ้าง ขนาดที่สามารถวางได้จะไม่ใหญ่มาก จะใช้เป็นโต๊ะทำงานแทนก็ได้
ระยะยืนแต่งตัวและระยะนั่งเหลือประมาณ 1.1 – 1.2 เมตร เหลือเฟือแล้ว
มุมมองไปฝั่งหัวเตียงจะสามารถทำชั้นวางของเพิ่มได้อีก 1 ชั้น ตรงหัวเตียงเองก็อย่าละเลยไป ยังทำอะไรเพิ่มได้อีกเยอะค่ะ แต่ระวังอย่าให้ระยะของชั้นวางของยื่นออกมาเยอะมาก ตื่นนอนมาหัวโปกได้นะ
มาถึงห้องนอนห้องสุดท้ายกันแล้วค่า
ภายในห้องนอน 3 ก็จะกว้างกว่าบ้านหลังที่แล้วเช่นกัน ทางโครงการได้จัดห้องตัวอย่างเอาไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากโดยจัดพื้นที่ของห้องเล็กๆให้มีที่นอนได้ถึง 2 ที่ เหมาะสำหรับเด็กๆ
เตียงชั้นล่างจะวางฟูกไว้บน Built – in ของเตียงที่ทำเป็นลิ้นชักเก็บของ แต่เตียงนี้มีขนาดเพียง 2 ฟุตครึ่งเท่านั้นค่ะ น่าจะทำเป็นขนาด 3 ฟุตได้นะ
บนหัวเตียงสามารถทำชั้นเก็บของได้ ข้างๆก็ทำเป็นโต๊ะนั่งทำงาน – อ่านหนังสือตัวเล็กๆได้อีก
ส่วนฐานของเตียงชั้นบนจะทำเป็นลิ้นชักเก็บของได้อีก ปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้า
ระยะตรงนี้เหลือประมาณ 75 ซม. สามารถเปิด – ปิดลิ้นชักได้สะดวก
ส่วนเตียงชั้นบนก็เป็นขนาด 2 ฟุตครึ่งค่ะ
มุมมองไปที่ฝั่งประตูทางเข้าห้อง จัดห้องแบบนี้แล้วทำให้เหลือพื้นที่กว้างขวางดีนะคะ
:::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (มกราคม 2560) ::::
วัสดุโดยรวม
ห้องน้ำ และสุขาภิบาล
งานไฟฟ้า
***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ
:::: ราคา (มกราคม 2560) ::::
แบบบ้าน Mono Zen 1
พื้นที่ใช้สอย 95 ตรม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ
– แปลงมาตรฐานขนาด 17.5 ตร.วา
– ราคา 2,199,000 บาท
แบบบ้าน Mono Zen 2
พื้นที่ใช้สอย 110 ตรม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ
– แปลงมาตรฐานขนาด 18.7 ตร.วา
– ราคา 2,399,000 บาท
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ พฤกษา วิลล์ 64 สายไหม ตั้งอยู่ในย่านที่พักอาศัยไกลออกมาจากตัวเมืองกรุงเทพฯฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือบนถนนสายไหม ตัวโครงการจะอยู่ติดกับ Big C market สายไหม โดยถนนสายไหมเองจะเป็นถนนกว้าง 4 เลน เรียงรายด้วยหมู่บ้านจัดสรรเล็กใหญ่หลากหลายโครงการ แต่จะไม่เจริญและคึกคักเท่าถนนใหญ่อย่างถนนพหลโยธินและถนนลำลูกกา เนื่องจากอยู่ใกล้ที่ตั้งของฐานทัพและหน่วยงานของกองทัพอากาศบนเส้นพหลโยธิน ถนนสายไหมเองจึงกลายเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของบุคลากรในกองทัพอากาศไปในตัวเลย
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว สามารถเดินทางได้สะดวกเพราะถนนสายไหมสามารถวิ่งเชื่อมไปยังถนนหลักสายต่างๆได้ง่าย ทั้งถนนพหลโยธินที่เป็นถนนสายหลักที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่วิ่งไปตัดถนนใหญ่อีกหลายๆเส้นทั้ง รามอินทรา – แจ้งวัฒนะ, งามวงศ์วาน – เกษตรนวมินทร์, รัชดาภิเษก, ลาดพร้าว และตัดยาวลงไปสุดที่อนุสาวรีย์ และเชื่อมกับถนนจันทรุเบกษาวิ่งออกเส้นวิภาวดี – รังสิตวิ่งเข้าสู่ตัวเมืองและวิ่งไปทางรังสิตยาวไปถึงบางปะอินได้ โดยบนเส้นวิภาวดี – รังสิตเองก็จะมีดอนเมืองโทลล์เวย์เป็น 1 ตัวช่วยหนีการจราจรที่ติดขัด และตัวโครงการยังอยู่ใกล้กับทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์โดยจุดขึ้น – ลงจะอยู่บนเส้นสุขาภิบาล 5 จากถนนสายไหมสามารถวิ่งเชื่อมไปได้สะดวก
นอกจากนี้แล้วถนนสายไหมเองก็จะวิ่งขนานกับถนนลำลูกกาซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียง 1 กม.โดยมีคลองหกวาคั่นอยู่ตรงกลาง ซอยที่มีสะพานข้ามคลองที่สามารถวิ่งเชื่อมจากถนนสายไหมไปถนนลำลูกกาได้ก็จะมีซอยเฉลิมพงษ์ซึ่งอยู่ห่างจากตัวโครงการออกไป 2 กม. โดยถนนลำลูกกาสามารถใช้วิ่งไปขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษกได้
การเดินทางโดยรถสาธารณะ บนถนนสายไหมจะมีรถเมล์วิ่งผ่านสาย สะพานใหม่ – สายไหม – วัชรพล และสาย สะพานใหม่ – มีนบุรี และยังมีรถตู้แบบเสริมหลายสายวิ่งผ่านอยู่เรื่อยๆด้วย นอกจากนี้ในปี 2665 รถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงเคหะสมุทรปราการ – บางปู ก็คาดว่าจะสร้างเสร็จได้เปิดใช้งานพอดีโดยสถานีที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็น สถานีพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวโครงการออกไปเป็นระยะ 5.1 กม. ถึงจะไม่อยู่ใกล้พอที่จะสามารถเดินไปได้สะดวกแต่ก็สามารถเรียกพี่วินนั่งไปได้ในเวลาไม่เกิน 10 นาทีเท่านั้น
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็นทาวน์โฮมสูง 2 – 3 ชั้น จำนวน 396 หลัง บนพื้นที่ 48 ไร่ ไซท์ของโครงการเป็นแบบหน้าแคบแต่ลึก โดยจะใช้ถนนเมนผ่ากลางไซท์เข้าไปแจกด้วยซอยที่ไม่ลึกซึ่งมีข้อดีคือดูไม่ค่อยเปลี่ยวเท่าซอยลึกๆยาวๆนะ เดินออกมาที่ถนนเมนก็ใกล้แต่ระยะจากหน้าโครงการไปถึงท้ายโครงการจะค่อนข้างไกลหน่อย
ปัจจุบันบ้านของโครงการที่เหลืออยู่จะเป็นทาวน์โฮมสูง 2 ชั้นมีทั้งหมด 2 แบบ ขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และ 1 ที่จอดรถ ซึ่ง 2 แบบนี้มีความเหมือนกันทุกประการยกเว้นความลึกของตัวบ้านโดยแบบ Mono Zen 1 จะลึก 7 เมตรและแบบ Mono Zen 2 จะลึก 8 เมตร ส่วนที่ขยายออกไปจะเป็นบริเวณโซนห้องครัวและห้องนอน 2 – 3 ที่ชั้น 2 ฟังก์ชั่นการออกแบบก็เป็นแบบสไตล์ทาวน์โฮมของบ้านพฤกษาที่อื่นๆ ตัวคอนเซ็ปต์ไม่ได้เด่นชัดอะไรขนาดนั้น ที่แตกต่างออกไปก็คือที่หน้าบ้านจะเทพื้นซีเมนต์ทั้งหมดแทนสนามหญ้าซึ่งตรงนี้จะสามารถจอดรถคันเล็กๆเพิ่มได้อีก 1 คัน ซึ่งในอนาคตทางโครงการจะมีแบบบ้านที่มีที่จอดรถ 2 คันเพิ่มตามความต้องการของลูกค้า ส่วนวัสดุและสุขภัณฑ์ที่ได้ภายในบ้านก็มีมาตรฐานค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการจะประกอบด้วยคลับเฮ้าส์, สระว่ายน้ำระบบเกลือ และสวนสาธารณะ ซึ่งภายในคลับเฮ้าส์จะเป็นพื้นที่นั่งเล่นและส่วนติดต่อนิติบุคคล ไม่ได้มีฟิตเนสให้นะคะ โดยการวางส่วนของคลับเฮ้าส์จะอยู่ข้างซุ้มทางเข้าของโครงการเลย ส่วนสวนสาธารณะจะแยกออกมาอยู่ช่วงกลางๆไซท์ ซึ่งบ้านช่วงหน้าๆจะถูกขายไปหมดแล้ว จะเหลือบ้านข้างในไซท์ซึ่งระยะเดินก็อาจจะดูไกลไปหน่อยแต่ถ้าปั่นจักรยานออกมาก็ยังสะดวกนะ
ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยจะมีตลอด 24 ชม. ประกอบด้วยป้อมยาม, กล้อง CCTV และ Double gate มีประตูรั้ว 2 ส่วน จะเป็นรั้วไม้กระดกโดยลูกบ้านจะมี Access card สำหรับสแกนเปิดรั้วไม้กระดกและประตูรั้วเลื่อนหลังป้อมยามโดยลูกบ้านสามารถใช้รีโมทกดเปิดเองได้ค่ะ
:::: คะแนน ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 7.5 | อยู่บนถนนสายไหมเป็นถนนรองขนาด 4 เลนซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัย มีโครงการบ้านจัดสรรหลากหลายโครงการ |
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว | 7.9 | เดินทางได้สะดวกสบายเพราะสามารถวิ่งเชื่อมสู่ถนนสายหลักหลายได้สะดวก อีกทั้งยังอยู่ใกล้ดอนเมืองโทลล์เวย์, ทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ และวงแหวนรอบนอกกาญจนาภิเษก เสียอย่างเดียวที่รถค่อนข้างจะติด |
การเดินทางโดยรถสาธารณะ | 7.8 | มีรถสาธารณะวิ่งผ่านหน้าโครงการ อยู่ในละแวกการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ในปี 2565) |
บ้านและวัสดุ | 7.5 | บ้านสไตล์โมเดิร์น ฟังก์ชั่นมีความกระชับ วัสดุได้มาตรฐาน |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 7.2 | สิ่งอำนวยความสะดวกมีสวนสาธารณะและคลับเฮ้าส์พร้อมสระว่ายน้ำ แต่จะไม่มีฟิตเนสให้ ระบบรักษาความปลอดภัยได้มาตรฐานดี |
ความคุ้มค่ากับราคา | 7.6 | โครงการเหมาะสำหรับครอบครัวขยายขนาด 2 – 4 คน เดิมอาศัย หรือมีที่ทำงานอยู่ใกล้เคียงกับบริเวณโครงการ |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.58 | ดี |
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
CALL CENTER : 1793
สำนักงานขาย : 099 – 664 – 4474
WEBSITE : http://pruksaville.pruksa.com/3922/พฤกษาวิลล์-64-สายไหม
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
แสดงความคิดเห็น