รอบ ๆ โครงการมีความอุดมสมบูรณ์สูง เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งศูนย์การค้าขนาดใหญ่, Community Mall, โรงเรียนนานาชาติ และโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ
มี Co-Working Space และ Meeting Room ขนาดใหญ่ พร้อมลานกิจกรรมกลางแจ้ง ที่รองรับการจัดประชุม จัดงาน Event หรือ Catering ต่าง ๆ ได้ โดยไม่ต้องไปเช่าสถานที่ด้านนอก พร้อมห้อง Fitness ที่มีเครื่องออกกำลังกายครบทั้ง Cardio และ Weight Training
ชื่อโครงการ เจ ดับบลิว พาร์ค โฮมออฟฟิศ กรุงเทพกรีฑา / JW Park Home Office Krungthep Kreetha เจ้าของโครงการ บริษัท เจดับบลิว เรียลเอสเตท จำกัด /JW Real Estate ลักษณะโครงการ โฮมออฟฟิศ 5 ชั้น สไตล์ Moder Luxury มีให้เลือก 2 แบบบ้าน พื้นที่โครงการ ประมาณ 8-1-18 ไร่ จำนวนบ้าน 66 ยูนิต เนื้อที่บ้าน เริ่มต้น 21.9-62.8 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย เริ่มต้น 330-660 ตร.ม. จำนวนห้อง 2-3 ห้องนอน, 6-10 ห้องน้ำ, 1 ห้องแม่บ้าน, พื้นที่อเนกประสงค์ 3 ชั้น ที่จอดรถทั้งหมด ในตัวบ้านได้ 3-8 คัน พื้นที่ลานจอดรถส่วนกลาง รถยนต์ 208 คัน รถมอเตอร์ไซค์ 81 คัน รถกอล์ฟ (รับ-ส่งลานภายในโครงการ) โซน กรุงเทพกรีฑา เส้นทางคมนาคม ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า หรือถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ : 350 ม. ถนนศรีนครินทร์ : 1 กม. ถนนรามคำแหง : 2.5 กม. ถนนพัฒนาการ : 3.3 กม. ถนนลาดพร้าว : 3.5 กม. ถนนกาญจนาภิเษกฯ : 5 กม. ทางลอดกรุงเทพกรีฑา : 200 ม. แยกกรุงเทพกรีฑา : 1 กม. แยกลำสาลี : 3.1 กม. ทางแยกต่างระดับทับช้าง : 5 กม. ทางแยกต่างระดับสุขาภิบาล 3 : 9 กม. ที่ตั้ง ติดถนนกรุงเทพกรีฑา แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. 10240 กำหนดการ พร้อมเปิดให้เข้าชมโครงการ ปีที่สร้างเสร็จ ก.ค. 67 ราคา เริ่มต้น 13.9-34.4 ล้านบาท* (ก.ย. 67) ค่าส่วนกลาง 120 บาท/ ตร.ว./ เดือน สถานที่สำคัญใกล้เคียง ศูนย์การค้า The Park กรุงเทพกรีฑา : 850 ม. Market Place กรุงเทพกรีฑา : 1.6 กม. The Mall บางกะปิ : 3.5 กม. Little Walk กรุงเทพกรีฑา : 3.6 กม. Lotus’s พัฒนาการ : 3.8 กม. The Nine พระราม 9 : 4 กม. Thanya Park : 4.4 กม. The Paseo Town รามคำแหง : 4.9 กม. Market Place สุขาภิบาล 3 : 5.2 กม. Seacon Square ศรีนครินทร์ : 7.9 กม. The Mall รามคำแหง : 8.2 กม. The Paseo Mall ลาดกระบัง : 13.8 กม. Robinson ลาดกระบัง : 14.6 กม. Little Walk ลาดกระบัง : 14.8 กม. สถานศึกษา
ม.อัสสัมชัญ หัวหมาก : 3.2 กม. Stamford International University : 3.8 กม. รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ : 4.3 กม. NIDA : 4.3 กม. ม.รามคำแหง : 5.8 กม. รร.เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า : 7.7 กม. รร.สารสาสน์วิเทศร่มเกล้า อินเตอร์ : 11.4 กม. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง : 18 ม. โรงเรียนนานาชาติ
Wellington College International School : 2 กม. Brighton College Bangkok : 2.5 กม. Ramkhamhaeng Advent International School (RAIS) : 3.8 กม. Beaconhouse Yamsaard International School (BYIS) : 5 กม. Kincaid International School : 5.4 กม. Traill International School : 5.8 กม. Ascot International School : 8.8 กม. Heathfield International School : 9.6 กม. Bromsgrove International School : 10.1 กม. Pan-Asia International School (PAIS) : 10.4 กม. Charter International School : 11.8 กม. Ruamrudee International School (RISM) : 13.7 กม. RIS Swiss Section Deutschsprachige Schule Bangkok : 15 กม. โรงพยาบาล
รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ : 2.6 กม. รพ.รามคำแหง : 3.2 กม. รพ.วิภาราม พัฒนาการ : 3.8 กม. รพ.เกษมราษฎร์ รามคำแหง : 6.2 กม. รพ.รามคำแหง 2 : 9.3 กม. รพ.สิรินธร : 11.8 กม. อื่น ๆ
Krungthep Kreetha Golf Course : 1.4 กม. Unico Grande Golf Course : 1.9 กม. สนามราชมังคลากีฬาสถาน : 3.6 กม. Navatanee Golf Course : 8.7 กม. MISTINE : 9.3 กม. Siam Amazing Park : 9.8 กม. สวน 60 พรรษา : 12 กม. สวนหลวง ร.9 : 12.9 กม. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ : 19 กม. **ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
สิ่งอำนวยความสะดวก ลิฟต์แก้วส่วนตัวทุกยูนิต ถนนหน้าบ้าน กว้าง 15.5 ม. สระว่ายน้ำ ระบบโอโซน Clubhouse พื้นที่พักผ่อน รองรับทุกกิจกรรม ห้อง Fitness พร้อมอุปกรณ์ออกกำลังกายที่ทันสมัย ห้องประชุมส่วนกลางรองรับคนได้ถึง 20 คน ระบบ Wifi Internet ความเร็วสูงในพื้นที่ส่วนกลาง ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ติดสวนสาธารณะริมคลอง Tel 086-311-3333 กด 1 Line https://lin.ee/iEU9BCs Website https://www.jwpark.co/
ที่ตั้งโครงการ
ติดถนนกรุงเทพกรีฑา แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. 10240
พิกัดโครงการ : https://maps.app.goo.gl/MU66Q69xTN475MVq8
โครงการ JW Park Home Office กรุงเทพกรีฑา
รองรับการทำกิจกรรมได้หลากหลาย ทั้งการออกกำลังกาย จัดประชุมขนาดใหญ่ และมีพื้นที่ทั้งในร่มและกลางแจ้งให้ได้จัดงานเลี้ยงประจำเดือน ประจำปีได้ โดยที่ไม่ต้องออกไปเช่าสถานที่ด้านนอกอีกด้วย เรียกว่าครบ จบ ในที่นี่ที่เดียวจริง ๆ ค่ะ
สำหรับที่ตั้งของโครงการนี้จะอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนกรุงเทพกรีฑาตอนต้น ห่างจากถนนศรีนครินทร์ เพียงแค่ 1 กม.*
ทั้งยังมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีกรีฑา และ Airport Link หัวหมาก อยู่ไม่ไกลให้ได้ใช้งาน หน้าโครงการก็มีรถเมล์วิ่งผ่านทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก สะดวกต่อพนักงานที่มาทำงานเป็นอย่างมาก
รอบ ๆ โครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งศูนย์การค้าขนาดใหญ่ อย่าง The Nine พระราม 9, Seacon Square, The Mall บางกะปิ และมี Community Mall ที่ทันสมัย เปิดอยู่ทางเส้นกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ให้ออกไปจับจ่ายใช้สอย หรือทานอาหารร้านเชนดังได้ใกล้ ๆ
ส่วนคนที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยด้วย ที่นี่จะใกล้กับโรงเรียนนานาชาติชื่อดังหลายที่มาก ๆ ค่ะ สามารถขับรถไปส่งลูก ๆ ได้ไม่เกิน 15 นาที* ไม่ว่าจะเป็น Wellington College, Brighton College, RAIS, Traill และ Ascot
และยังมีโรงพยาบาลชั้นนำหลายแห่งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์, รพ.รามคำแหง และ รพ.วิภาราม พัฒนาการ ทำให้การเข้าถึงบริการทางการแพทย์สะดวก นอกจากนั้นยังอยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ ที่ขับรถไปได้ไม่เกินครึ่งชม.* สะดวกต่อคนที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อย ๆ เป็นอย่างมาก
ภาพรวมของทำเลกรุงเทพกรีฑาถือว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพในการเติบโต เพราะมีการพัฒนาทั้งด้านการคมนาคมและโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา จึงเป็นพื้นที่ที่มีแนวโน้มที่จะมีราคาที่ดินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต และควรค่าแก่การลงทุนในตอนนี้เป็นที่สุดเลยค่ะ
การเดินทางโดยรถส่วนตัว :
จากโครงการจะเชื่อมตรงสู่ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า (กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) ได้รวดเร็วเพียงแค่ 350 ม.* และเป็นทำเลที่ใกล้กับจุดกลับรถทั้งขาเข้าและขาออก ทำให้ง่ายต่อการเดินทางออกจากโฮมออฟฟิศและกลับมายังโฮมออฟฟิศ
การเดินทางเข้าเมืองทำได้สะดวก จากโครงการกลับรถไปทางแยกกรุงเทพกรีฑา จะเชื่อมกับถนนเส้นอื่นได้หลายสาย เช่น ถนนศรีนครินทร์, ถนนรามคำแหง, ถนนลาดพร้าว, ถนนพัฒนาการ, ถนนอ่อนนุช และถนนพระราม 9 ที่ใกล้กับโซนไลฟ์สไตล์ในย่านเอกมัย, ทองหล่อ และวิ่งเข้าไป CBD อโศก-สุขุมวิทได้ประมาณครึ่งชม.*
ข้อดีของถนนกรุงเทพกรีฑา ไปจนถึงกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ คือ แยกต่าง ๆ จะใช้รูปแบบของสะพานข้ามแยกและอุโมงค์ลอดใต้ ไม่มีไฟแดง ทำให้ทำความเร็วได้ดี ไม่มีรถติดสะสม
อีกด้านจะเชื่อมต่อกับทางด่วน, มอเตอร์เวย์ฯ และถนนกาญจนาภิเษกฯ ที่เป็นอีกตัวเลือกในการเดินทางเข้า-ออกเมือง และวิ่งรอบเมือง ขับขึ้นเหนือจะเชื่อมสู่ถนนเสรีไทย วิ่งยาวไปรังสิต-ลำลูกกา-ปทุมธานีได้
หากวิ่งลงใต้มาจะเชื่อมกับโซนลาดกระบัง, อ่อนนุช, บางนา, เทพารักษ์ สมุทรปราการ และใช้ข้ามฝั่งออกไปโซนสุขสวัสดิ์, พระราม 2, บางขุนเทียน และบางแคได้สะดวกดีเลยค่ะ
ส่วนเส้นมอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-ชลบุรี สายใหม่ จะใช้วิ่งไปสนามบินสุวรรณภูมิได้ราว ๆ 20-30 นาที* และมีทางด่วนศรีรัชตั้งอยู่ใกล้ ๆ กัน ให้ได้ใช้วิ่งเข้าเมืองไปศูนย์กลางของพระราม 9 ไปพระราม 4 CBD สาทร-สีลม ได้รวดเร็วดีค่ะ
JW Park Home Office กรุงเทพกรีฑา ใกล้ที่สุดจะเป็นมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี สายใหม่
ในระยะทางประมาณ 2.5 กม.* หรือใช้เวลาขับรถไปแค่ 4-5 นาที* ทางนี้จะใช้วิ่งออกเมืองไปสนามบินสุวรรณภูมิ และใช้เดินทางไปจังหวัดยอดนิยมแห่งการท่องเที่ยวอย่างชลบุรีได้ง่ายอีกด้วยค่ะ
ตรงทางแยกต่างระดับศรีนครินทร์ จะมีทางวนให้วิ่งไปเชื่อมกับจุดขึ้นทางด่วนศรีรัช ได้สะดวกเหมือนกัน
ทางนี้จะใช้วิ่งไปพระราม 9 ตรงจุดศูนย์กลาง ไปรามอินทรา-ดินแดง ไป CBD สาทร-สีลม และใช้วิ่งไปดาวคะนองและแจ้งวัฒนะได้
จากโครงการขับไปทางกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ จะไปเชื่อมกับถนนกาญจนาภิเษกฯ (ทางด่วน) ที่ใช้ออกเมืองไปรามอินทรา ออกไปบางปะอิน-อยุธยาได้สะดวก
ส่วนคนที่ต้องการวิ่งรอบเมือง ก็สามารถใช้ทางด่วนกาญจนาภิเษก ด่านทับช้าง ทางฝั่งขาเข้า
ถนนและแยกสำคัญใกล้เคียง
ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า หรือถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ : 350 ม. ถนนศรีนครินทร์ : 1 กม. ถนนรามคำแหง : 2.5 กม. ถนนพัฒนาการ : 3.3 กม. ถนนลาดพร้าว : 3.5 กม. ถนนกาญจนาภิเษกฯ : 5 กม. ทางลอดกรุงเทพกรีฑา : 200 ม. แยกกรุงเทพกรีฑา : 1 กม. แยกลำสาลี : 3.1 กม. ทางแยกต่างระดับทับช้าง : 5 กม. ทางแยกต่างระดับสุขาภิบาล 3 : 9 กม. **ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
การเดินทางโดยรถไฟฟ้า : รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีกรีฑา บนถนนศรีนครินทร์ ที่อยู่ห่างไปประมาณ 950 ม.* หรือนั่งรถออกไปต่อใช้งานได้เพียงแค่ 3 นาที*
ถัดมาจะเป็น Airport Link หัวหมาก ที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 3.2 กม.*
ในอนาคตบนเส้นรามคำแหงจะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (Underground) ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรีวิ่งผ่าน
และถ้าหากรถไฟฟ้าสายสีส้มเปิดใช้งานแล้ว ก็จะช่วยให้ระบบขนส่งสาธารณะในย่านนี้มีความสะดวกสบายมากขึ้น เป็นทำเลที่ใกล้กับรถไฟฟ้าถึง 3 สาย และยังช่วยเพิ่มมูลค่าอสังหาฯ ให้สูงขึ้นได้อีกด้วยค่ะ
สำหรับระยะห่างจาก รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีกรีฑา จริง ๆ จะอยู่ที่ 950 ม.* แต่ถ้าเราขับรถไปหรือนั่งรถไปต่อใช้งาน จะมีระยะทางประมาณ 1.5 กม.*
ต่อมาจะเป็น Airport Link สถานีหัวหมาก จะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 3.2 กม.*
“กรุงเทพกรีฑา” ทำเลศักยภาพเบเวอร์ลีฮิลส์เมืองไทย ที่สองข้างทางมีแต่โครงการบ้านหรูหลากสไตล์ และ Community Mall ที่ทันสมัยเปิดอยู่ใกล้ ๆ ทั้ง The Park กรุงเทพกรีฑา, Market Place กรุงเทพกรีฑา และ Little Walk กรุงเทพกรีฑา ที่ภายในมีร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการอยู่อาศัยที่ครบครัน
นอกจาก 3 Community Mall นี้แล้ว ก็ยังมีปั๊มน้ำมันเปิดอยู่เยอะ โดยปั๊มขนาดใหญ่ จะเป็น PTT Station ที่เป็นปั๊มน้ำมันแบบ Non-Oil ที่นอกจากจะแวะเติมน้ำมัน หรือเติมไฟจากตู้ EV ก่อนเข้า-ออกบ้านได้ง่ายแล้ว ภายในปั๊มก็จะมีแบรนด์ร้านอาหารชั้นนำหลากสไตล์ ทั้งแบบนั่งทานที่ร้าน, Quick Service Restaurant, Food Truck, Kiosk และ Grab & Go
ออกไปเส้นรามคำแหงก็จะมี The Mall บางกะปิ, The Paseo Town รามคำแหง, Market Place สุขาภิบาล 3, The Mall รามคำแหง ให้ออกไปใช้งานได้ใกล้ ๆ
จากโครงการยังเดินทางไป Shopping ห้างในโซนพระราม 9, พัฒนาการ, ศรีนครินทร์ และลาดกระบังได้ง่าย โซนนั้นก็จะมี The Nine Center, Lotus’s พัฒนาการ, Thanya Park, Seacon Square ศรีนครินทร์, The Paseo Mall ลาดกระบัง, Robinson ลาดกระบัง และ Little Walk ลาดกระบัง เป็นต้น
อย่างที่ทราบกันที่ว่าทำเลกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่นั้นเป็นย่านที่อยู่อาศัยระดับ Hi-end ทำให้มีโรงเรียนนานาชาติตั้งอยู่หลายแห่ง ทำให้เหล่าพ่อแม่ผู้ปกครอง รวมถึงกลุ่มนักธุรกิจที่ต้องซื้อโฮมออฟฟิศไว้เปิดธุรกิจและอยู่อาศัย
ตบเท้าเข้ามาสร้างอนาคตในย่านนี้เป็นจำนวนมาก เพื่อให้เด็ก ๆ ได้เดินทางไปโรงเรียนได้ง่าย ช่วย Save แรงในการเดินทาง และเพิ่มเวลาให้ทำกิจกรรมอื่น ๆ กับครอบครัวได้มากขึ้น
บนเส้นกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่นี้จะมีโรงเรียนนานาชาติชั้นนำของประเทศเปิดอยู่ 3 แห่ง ได้แก่ Wellington College, Brighton College Bangkok และ Ascot International School, จากโครงการขับรถไปส่งลูก ๆ ได้สบาย ๆ เพียง 5-15 นาที*
ถัดไปรอบ ๆ ก็จะมี Ramkhamhaeng Advent, BYIS, Kincaid, Traill, Heathfield, Bromsgrove, Pan-Asia, Charter, Ruamrudee และ RIS Swiss ตั้งอยู่ไม่ไกลค่ะ
นอกจากโรงเรียนนานาชาติแล้ว ก็ยังมีโรงเรียนชั้นนำและมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่อีกหลายที่ ได้แก่ รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ, รร.เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า, รร.สารสาสน์วิเทศร่มเกล้า อินเตอร์, ABAC, Stamford, NIDA, ม.รามคำแหง และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
อุ่นใจใกล้โรงพยาบาลขนาดใหญ่หลายแห่ง ทำให้เข้าถึงการรักษาได้อย่างรวดเร็วทันใจได้ตลอด 24 ชม.
นอกจากนั้นยังใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ เพียง 20-30 นาที* และรอบ ๆ โครงการยังมีสนามกอล์ฟใกล้โฮมออฟฟิศ ให้เหล่านักธุรกิจได้นัดกันไปออกรอบได้ใกล้ ๆ
ใกล้กับสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ รวมถึงสวนสนุกสำหรับเด็ก ๆ อย่างเช่น Siam Amazing Park, สนามราชมังคลากีฬาสถาน, สนามปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิต, สวน 60 พรรษา และ สวนหลวง ร.9 ทั้งหมดนี้จะขับรถไปใช้งานได้ไม่เกินครึ่งชม.*
ศูนย์การค้า
The Park กรุงเทพกรีฑา : 850 ม. Market Place กรุงเทพกรีฑา : 1.6 กม. The Mall บางกะปิ : 3.5 กม. Little Walk กรุงเทพกรีฑา : 3.6 กม. Lotus’s พัฒนาการ : 3.8 กม. The Nine พระราม 9 : 4 กม. Thanya Park : 4.4 กม. The Paseo Town รามคำแหง : 4.9 กม. Market Place สุขาภิบาล 3 : 5.2 กม. Seacon Square ศรีนครินทร์ : 7.9 กม. The Mall รามคำแหง : 8.2 กม. The Paseo Mall ลาดกระบัง : 13.8 กม. Robinson ลาดกระบัง : 14.6 กม. Little Walk ลาดกระบัง : 14.8 กม. สถานศึกษา
ม.อัสสัมชัญ หัวหมาก : 3.2 กม. Stamford International University : 3.8 กม. รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ : 4.3 กม. NIDA : 4.3 กม. ม.รามคำแหง : 5.8 กม. รร.เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า : 7.7 กม. รร.สารสาสน์วิเทศร่มเกล้า อินเตอร์ : 11.4 กม. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง : 18 ม. โรงเรียนนานาชาติ
Wellington College International School : 2 กม. Brighton College Bangkok : 2.5 กม. Ramkhamhaeng Advent International School (RAIS) : 3.8 กม. Beaconhouse Yamsaard International School (BYIS) : 5 กม. Kincaid International School : 5.4 กม. Traill International School : 5.8 กม. Ascot International School : 8.8 กม. Heathfield International School : 9.6 กม. Bromsgrove International School : 10.1 กม. Pan-Asia International School (PAIS) : 10.4 กม. Charter International School : 11.8 กม. Ruamrudee International School (RISM) : 13.7 กม. RIS Swiss Section Deutschsprachige Schule Bangkok : 15 กม. โรงพยาบาล
รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ : 2.6 กม. รพ.รามคำแหง : 3.2 กม. รพ.วิภาราม พัฒนาการ : 3.8 กม. รพ.เกษมราษฎร์ รามคำแหง : 6.2 กม. รพ.รามคำแหง 2 : 9.3 กม. รพ.สิรินธร : 11.8 กม. อื่น ๆ
Krungthep Kreetha Golf Course : 1.4 กม. Unico Grande Golf Course : 1.9 กม. สนามราชมังคลากีฬาสถาน : 3.6 กม. Navatanee Golf Course : 8.7 กม. MISTINE : 9.3 กม. Siam Amazing Park : 9.8 กม. สวน 60 พรรษา : 12 กม. สวนหลวง ร.9 : 12.9 กม. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ : 19 กม. **ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
ภาพประกอบการเดินทาง
พิกัดโครงการ : https://maps.app.goo.gl/MU66Q69xTN475MVq8
การเดินทางเริ่มจากถนนศรีนครินทร์ JW Park Home Office กรุงเทพกรีฑา
เริ่มจากถนนศรีนครินทร์ ตรงด้านหน้าทางเข้า รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์
ขับตรงมาตามป้ายบอกทางไปกรุงเทพกรีฑา
ตรงมาจะเจอกับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีกรีฑา ให้เราชิดซ้ายไว้ค่ะ
ผ่านสถานีรถไฟฟ้ามา ให้เลี้ยวขึ้นทางแยกต่างระดับกรุงเทพกรีฑาไป
วนขึ้นมาตามทางแล้วขับลงตามป้ายบอกทางไปกรุงเทพกรีฑา-ร่มเกล้า
พอลงมาสู่ถนนกรุงเทพกรีฑา เราจะตรงไปประมาณ 1 กม.*
เจอป้ายกรุงเทพกรีฑาให้ชิดซ้ายไว้นะคะ ถ้าวิ่ง 2 เลนขวา จะเป็นทางลงอุโมงค์ ที่วิ่งไปกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ไปถนนกาญจนาภิเษก และถนนร่มเกล้าค่ะ
ถึงโครงการ JW Park Home Office กรุงเทพกรีฑา
ภาพมุมสูงโครงการ JW Park Home Office กรุงเทพกรีฑา
บรรยากาศรอบ ๆ โครงการ ริมถนนใหญ่ทั้งขาเข้าและขาออก ส่วนมากจะเป็นอาคารพาณิชย์ ร้านค้า ร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน และอาคารสำนักงานให้เช่า พอถัดเข้าไปด้านหลังก็จะเป็นกลุ่มที่อยู่อาศัยแนวราบ ทั้งแบบบ้านเดี่ยวหรู ทาวน์โฮม สลับกับที่ดินเปล่าที่เป็นพื้นที่สีเขียวอยู่ และที่นี่จะใกล้กับสนามกอล์ฟกรุงเทพกรีฑา ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเพียงแค่ 1.4 กม.* เท่านั้นค่ะ
รอบโครงการ
ทิศเหนือ : คลองลำสาลี ทิศใต้ : ถนนกรุงเทพกรีฑาและอาคารพาณิชย์ทิศตะวันออก : ที่ดินเปล่าทิศตะวันตก : อาคารแรวราบและหอพัก ตัวโครงการ
หน้าโครงการจะมีซุ้มประตูขนาดใหญ่ พร้อมป้ายชื่อบอกทางเข้าสู่โครงการ JW Park Home Office กรุงเทพกรีฑา ที่ติดไว้ด้านบน ทำให้มองเห็นได้ชัดเจน
ด้านหน้าโครงการจะอยู่ติดถนนกรุงเทพกรีฑาช่วงต้น ๆ เลยนะคะ เราขับมาจากแยกกรุงเทพกรีฑา หรือถนนศรีนครินทร์ มาเพียง 1 กม.* ก็ถึงแล้ว
จากโครงการเลี้ยวซ้ายไปไม่ไกลจะเจอกับจุดกลับรถแล้วค่ะ เรียกว่าค่อนข้างสะดวกต่อการเดินทางออกไปด้านนอกและกลับเข้ามายังโฮมออฟฟิศ หากขับตรงไปจะไปเชื่อมกับถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ และถนนกาญจนาภิเษกได้
มองไปทางทางขวาจะเป็นทางที่เราวิ่งมาจากแยกกรุงเทพกรีฑา โดยโครงการจะอยู่ถัดจากทางลงอุโมงค์กรุงเทพกรีฑามาค่ะ
สำหรับตัวซุ้มโครงการจะออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์นใช้โทนสีเทา แต่งด้วยเส้นแนวตั้ง แนวนอนสีขาว ด้านบนติดไฟส่องสว่างที่จะเปิดไว้ในช่วงเวลากลางคืน และมีกล้อง CCTV ติดไว้ให้ด้วย 1 ตัว และในโครงการอีกรวมกว่า 32 ตัว
ถนนเมนเส้นนี้จะทำพื้น Stamped Concrete ดูเรียบร้อย สวยงาม สองฝั่งของถนนเมนจะเป็นทางเดินเท้า ที่มีการจัดสวนแนวตั้งให้บรรยากาศร่มรื่น พนักงานที่นั่งรถไฟฟ้าหรือรถสาธารณะมาทำงาน เดินเข้า-ออกใช้งานได้สะดวกค่ะ
จากซุ้มประตูตรงเข้ามาประมาณ 40 ม. จะเจอกับทางเข้า-ออกภายในโครงการ และป้อม รปภ. ที่มีพี่ ๆ รปภ. ประจำการอยู่ตลอด 24 ชม.
ทางเข้า-ออกจะกั้นด้วยไม้กระดกอัตโนมัติ ผู้พักอาศัยของโครงการสามารถเข้าออกได้ผ่านระบบ Bluetooth
ผ่านไม้กระดกมาจะเจอกับที่จอดรถส่วนกลาง และขวามือจะเป็นที่จอดรถมอเตอร์ไซค์
ตรงเข้ามาจะเจอกับทางแยกซ้าย-ขวาไปยังส่วนของโฮมออฟฟิศ ส่วนด้านหน้าหรือตรงกลางที่ดินนี้จะเป็นที่ตั้งของ Clubhouse
โครงการนี้จะมีโฮมออฟฟิศทั้งหมด 66 ยูนิต โดยแปลงที่ดินจะแยกไปทางฝั่งซ้ายและขวา ส่วนตัวโฮมออฟฟิศจะหันหน้าตำแหน่งเหนือใต้ เพื่อรับทิศทางแสงแดดและลมที่เหมาะสม ตรงกลางจะเป็นถนนคั่นกลางความกว้างอยู่ที่ 15.5 ม. กว้างมากจนสามารถจอดรถได้เป็นแนวยาวได้เลยค่ะ
เท่านั้นไม่พอที่จอดรถยังมีอยู่ทางด้านข้าง ที่เค้าจะเตรียมเป็นลานกว้าง ๆ ไว้ให้ โดยรวมแล้วสามารถจอดรถยนต์ได้มากถึง 208 คัน รถมอเตอร์ไซค์ 81 คัน อันนี้ยังไม่รวมพื้นที่จอดของโฮมออฟฟิศแต่ละยูนิตนะ ถือว่าให้มาเยอะเลย
ดังนั้นเวลามีพนักงานหรือลูกค้าขับรถมา ไม่ต้องกังวลว่าที่จอดรถจะไม่เพียงพอ นอกจากนี้ยังมีบริการรถกอล์ฟวิ่งรับส่งภายในโครงการด้วย สะดวกทั้งเจ้าของกิจการ พนักงาน และลูกค้าที่มาติดต่อเลยค่ะ
จุดเด่นอีกอย่างของโครงการ JW Park Home Office กรุงเทพกรีฑา จะมีอาคาร Clubhouse ให้ผู้อยู่อาศัยรวมถึงพนักงานได้ใช้งานด้วยค่ะ ซึ่งโฮมออฟฟิศบางโครงการหรือเรียกว่าส่วนมากเลย เค้าจะไม่ได้จัดมาให้แบบนี้ แต่สำหรับที่นี่จัดเต็มมาให้หลากหลายฟังก์ชัน โดยจะเป็นอาคาร 2 ชั้น วางอยู่กลางโครงการ ไม่ว่าจะอยู่โซนไหนก็เข้ามาใช้งานได้ง่าย
Clubhouse จะเป็นอาคารสไตล์โมเดิร์น คุมธีมเดียวกันกับโฮมออฟฟิศ มีให้ทั้งหมด 2 ชั้น มี Facilities จัดไว้ให้ครบครัน ทั้งแบบในร่มและกลางแจ้ง โดยชั้น 1 จะมีห้องนิติบุคคล, สระว่ายน้ำในร่ม, Co-Working Space และห้องน้ำส่วนกลางแยกชาย-หญิง
ส่วนชั้น 2 จะมี Meeting Room ขนาดใหญ่ มีห้อง Fitness และตรงกลางเหนือสระว่ายน้ำจะเป็นเหมือนลานอเนกประสงค์ พร้อมมุมนั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใต ให้นั่งรับลม ชมวิวกันได้ และในส่วนของขึ้น-ลงอาคาร จะมีทั้งบันไดปกติ และทางลาดสำหรับเคลื่อนย้าย Wheelchair, รถเข็นเด็ก รวมถึงรถเข็นของเวลาที่มีการจัดงาน Catering ต่าง ๆ ก็ทำได้สะดวกค่ะ
ขึ้นมาด้านบนชั้น 1 จะเจอกับสระว่ายน้ำในร่ม พร้อมสระเด็กที่ตั้งอยู่ตรงกลาง และมีพื้นที่บางส่วนอยู่กลางแจ้ง โดยสระว่ายน้ำจะใช้เป็นระบบโอโซนที่ดีต่อสุขภาพผิว สระผู้ใหญ่มีขนาดประมาณ 11.10 x 4.50 ม. ลึก 1.2 ม.
พื้นที่รอบ ๆ สระจะเป็นพื้นทรายล้าง ใช้งานได้ไม่ลื่นเท้า พร้อมจัดเตรียมม้านั่งและชุดโต๊ะสนามไว้สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจ หรือจะใช้เป็นที่นั่งพักคอยรอลูก ๆ เล่นน้ำก็ได้
ถัดไปที่ด้านหลังจะเป็นโซนกลางแจ้ง แยกเป็นสระเด็ก และ Pool Jet
สระเด็กจะมีขนาดประมาณ 3 x 3 ม. ลึก 50 ม.
ติดกันจะเป็น Pool Jet รองรับการนั่งแช่ตัว นวดหลังได้พร้อม ๆ กัน 2-3 คน เวลาที่พาลูก ๆ มาเล่นน้ำ ผู้ปกครองก็สามารถนั่งแช่ตัวอยู่ใกล้ ๆ กับลูกได้
ด้านหลังจะมี Pool Terrace แยกไว้อีก 1 มุม
ตรงนี้จะวาง Daybed ให้ 2 ตัว และมีม้านั่งให้อีก 1 ตัว
มี Shower ให้ล้างตัวก่อนลงสระว่ายน้ำ 3 จุด
ติดกันกั้นแยกโซนเป็นห้องน้ำหญิงและห้องน้ำชาย ตรงกลางเป็นอ่างล้างมือ พร้อมกระจกเงา 3 ชุด ให้ใช้งานร่วมกันค่ะ
จากท้ายสระว่ายน้ำมองกลับมาที่ด้านหน้า Clubhouse
ภายในอาคารจะมี Co-Working Space ตั้งอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ
Co-Working Space พื้นที่กว้างขวาง มีโซนทำงานและโซนนั่งเล่นให้หลายจุด บรรยากาศภายในมีความ Cozy มีความโปร่ง มีแสงสว่างที่เพียงพอต่อการใช้งาน เนื่องจากตัวห้องจะใช้เป็นผนังกระจก Full Height รอบด้าน และมี Wifi ให้ต่อใช้งานฟรีอีกด้วยนะ
ด้านหน้าจะมีม้านั่งพักผ่อนสไตล์แบบญี่ปุ่น และโต๊ะทำงานตัวยาว ให้นั่งทำงาน นั่งคิดงานพร้อม ๆ กันได้ถึง 6 คน หรือใครที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย และมีเด็ก ๆ ในวัยเรียนด้วย ก็สามารถใช้ห้องนี้เป็นที่นั่งทำการบ้าน ที่นั่งเรียนพิเศษของลูก ๆ ได้ด้วยนะคะ
ด้านในจะมีมุมนั่งเล่นพักผ่อนแยกไว้ให้อีก 2 มุมค่ะ พนักงานสามารถออกมาใช้เป็นที่นั่งพักผ่อนตอนพักเที่ยง หรือจะใช้เป็นที่นัดพบพูดคุยกับลูกค้าก็ได้
ด้านหลังสุดจะมี Pantry พร้อม Sink สำหรับล้างถ้วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ติดกันจะเป็นห้องน้ำส่วนกลาง 1 ห้อง
จาก Co-Working Space จะมีบันไดเชื่อมต่อไปยัง Meeting Room ชั้นบนได้
ด้านบนจะเป็น Meeting Room ขนาดใหญ่ บรรยากาศโปร่ง โล่ง จากผนังกระจกรอบ ๆ ภายในมีอุปกรณ์สำนักงานเตรียมไว้ให้ครบ ทั้งโต๊ะประชุมตัวยาวขนาด 20 ที่นั่ง / Smart TV สำหรับเปิด Present งานต่าง ๆ และมี Glass Whiteboard รวมถึง Wifi ให้ใช้งาน
มี Smart TV และ Glass Whiteboard ขนาดใหญ่ รองรับการเขียนเสนองานประชุมจริงจังได้สบาย ๆ
หน้าโต๊ะประชุมจะมีปลั๊กไฟ และสาย HDMI ให้ต่อใช้งานได้
ภายใน Meeting Room จะมีห้องน้ำส่วนกลางให้ 1 ห้อง ฟังก์ชันเหมือนกันกับชั้นล่าง
บรรยากาศภาพรวมภายใน Meeting Room
ออกมาที่ด้านนอกจะเจอกับลานอเนกประสงค์กว้าง ๆ มีชุดโต๊ะเก้าอี้รับรองให้หลายที่นั่ง รองรับกิจกรรมได้ทุกรูปแบบ จะใช้เป็นพื้นที่จัด Event หรือจัด Meeting ประจำเดือน ประจำปีของบริษัทก็ได้ เพียงแค่ Booking ล่วงหน้าผ่านนิติฯ ก็ใช้งานได้โดยไม่ต้องออกไปเช่าสถานที่ด้านนอก
บรรยากาศตรงนี้จะมองออกไปทางด้านหน้าโครงการ และมองออกไปทางฝั่งสวนและคลองลำสำลีทางด้านหลังได้แบบนี้เลยค่ะ
เชื่อมต่อไปอีกฝั่ง จะเป็นที่ตั้งของห้อง Fitness
มีทางขึ้น-ลงหลัก ๆ ผ่านบันไดข้างห้องนิติบุคคลแบบนี้
ห้อง Fitness ขนาดพอเหมาะ แต่มีเครื่องออกกำลังกายจัดไว้ให้ครบครัน รองรับทั้งเจ้าของกิจการและพนักงานที่ต้องการออกกำลังกายหลังเลิกงานได้ ถือเป็นสวัสดิการให้พนักงานไปได้ในตัว
มีโซน Weight Training พร้อมอุปกรณ์สำหรับการเล่น Body Weight มาตรฐานให้ครบ
ฝั่งด้านหน้าจะเป็น Cardio Zone มีเครื่องเดินวงรี และลู่วิ่งจัดไว้ให้
โซนด้านหลังจะเป็นพื้นที่สวนสาธารณะที่ทางโครงการจัดมาให้เป็นแนวยาว เลียบไปกับคลองลำสำลี บรรยากาศร่มรื่นใกล้ชิดธรรมชาติฟีลสวนริมน้ำ ซึ่งหาได้ยากมากในพื้นที่กรุงเทพฯ แบบนี้
ทางโครงการปลูกต้นไม้ ปลูกหญ้า จัด Landscape ไว้ให้อย่างสวยงาม พร้อมทำทางวิ่ง Jogging ยาว 240 ม. ให้มาวิ่งออกกำลังกายเช้า ๆ หรือเย็น ๆ พร้อมชมวิวริมน้ำชิล ๆ
บริเวณสวนจะมีมุมพักผ่อนเป็นม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ให้หลายจุด และมีสนามเด็กเล่นสำหรับเด็ก ๆ ในโครงการให้ด้วย
สำหรับบ้านโซนริมสวน ริมน้ำ เค้าจะได้พื้นที่สวนด้านหลังแบบนี้ด้วยนะคะ จากภายในบ้านชั้นล่าง จะมีประตูบานเปิดเล็ก ๆ ให้เดินลัดออกมาใช้งานที่สวนได้สะดวก หรือโฮมออฟฟิศไหน เป็นสายปาร์ตี้ ก็ใช้เป็นพื้นที่จัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ ในสวนก็ทำได้เลยค่ะ
แบบบ้าน
โครงการ JW Park Home Office กรุงเทพกรีฑา
แบบบ้านของโครงการมีดังต่อไปนี้
Regent Park โฮมออฟฟิศ 5 ชั้น หน้ากว้าง 5 ม. ที่ดินเริ่มต้น 21.9 ตร.ว. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 330 ตร.ม. ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, พื้นที่อเนกประสงค์ 3 ชั้น, 1 ห้องแม่บ้าน, ที่จอดรถ 3 คัน Hyde Park โฮมออฟฟิศ 5 ชั้น หน้ากว้าง 10 ม. ที่ดินเริ่มต้น 53.4 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 660 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน, 10 ห้องน้ำ, พื้นที่อเนกประสงค์ 3 ชั้น, 1 ห้องแม่บ้าน, ที่จอดรถ 8 คัน (Sold Out)
แปลนบ้านชั้น 1-ชั้น 5 ของแบบบ้าน Regent Park
แปลนบ้านชั้น 1-ชั้น 5 ของแบบบ้าน Hyde Park
บ้านตัวอย่าง
ปัจจุบันทางโครงการจะเปิดขายอยู่ 1 แบบบ้าน คือ Regent Park โฮมออฟฟิศ 5 ชั้น หน้ากว้าง 5 ม. ที่ดินเริ่มต้น 21.9 ตร.ว. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 330 ตร.ม. ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน ,6 ห้องน้ำ, พื้นที่อเนกประสงค์ 3 ชั้น, 1 ห้องแม่บ้าน, ที่จอดรถ 3 คัน ส่วนแบบ Hyde Park
มาดูผังบ้านกันก่อนนะคะ แบบบ้าน Regent จะถูกออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 5 ชั้น โดยชั้น 1 ถูกจัดให้เป็นพื้นที่จอดรถซ้อนกันได้สูงสุดถึง 3 คัน มีโถงลิฟต์ โถงบันได ห้องแม่บ้าน และห้องเก็บของ พร้อมลานซักล้างและสวนหลังบ้าน (บางแปลง)
สำหรับชั้น 2-3 จะเน้นการใช้งานเป็นสำนักงาน มีพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่นั่งพักคอย ที่สามารถกั้นห้องแยกห้องผู้บริการและฝั่งของพนักงานไว้แยกกันได้ ด้านหลังจะเป็นโถงบันได และมีพื้นที่ให้ทำ Pantry วางตู้เย็น พร้อมห้องน้ำแบบ Powder Room และมีระเบียงในร่มขนาดใหญ่ให้ที่ด้านหลังสุด
แปลนชั้น 4 สามารถกั้นห้องทำงาน หรือจะจัดเป็นโซนของพื้นทีอยู่อาศัย พื้นที่ Hangout หรือทำเป็น Studio ขนาดใหญ่ก็มีพื้นที่เพียงพอ ชั้น 4 จะมีห้องน้ำ ที่เพิ่มส่วนเปียกเข้ามา และมีระเบียงในตำแหน่งเดิม
และชั้น 5 โครงการได้จัดให้รองรับการอยู่อาศัยเต็มรูปแบบ มีทั้งหมด 2 ห้องนอน พร้อมห้องน้ำในตัว โดยห้องนอนใหญ่จะอยู่ฝั่งด้านหลัง จึงมีพื้นที่ในส่วนของระเบียงแบบส่วนตัวเข้ามาด้วยค่ะ
ด้านหน้าแบบบ้าน Regent Park โฮมออฟฟิศ 5 ชั้น หน้ากว้าง 5 ม. พร้อมลิฟต์แก้งส่วนตัวทุกยูนิต
และแบบบ้าน Regent Park จะมีที่ดินเริ่มต้นตั้งแต่ 21.9-49.9 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยมากถึง 330 ตร.ม. ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, 1ห้องแม่บ้าน พร้อมพื้นที่อเนกประสงค์ 3 ชั้น ให้จัดพื้นที่ได้ตามความต้องการ ตอบโจทย์ทั้งการทำธุรกิจและการอยู่อาศัย
ส่วนการก่อสร้างบ้านจะใช้เป็นระบบ Conventional ก่อด้วยอิฐมวลเบา แข็งแรง ไม่อมความร้อน เก็บเสียงภายนอก ภายในได้ดี สามารถทุบเจาะต่อเติมได้ในอนาคต ที่สำคัญโครงการนี้บ้านเลขที่เป็นเลขมงคล ขึ้นต้นด้วย 199 ทุกยูนิตค่ะ
การดีไซน์ Facade หน้าบ้าน ทำออกมาได้น่าสนใจมาก ๆ ค่ะ โดยด้านหน้าบ้านจะออกแบบให้มีช่องหน้าต่าง และช่องโถงลิฟต์ยื่นออกมา โดยแต่ละหลังจะดีไซน์ไม่เหมือนกัน เพื่อเพิ่มมิติให้แต่ละยูนิตดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
นอกจากนั้นยังช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับโฮมออฟฟิศ และยังช่วยในเรื่องของความเป็นส่วนตัว เพราะแต่ละส่วนจะมองไม่เห็นกันตรง ๆ และยังช่วยในเรื่องของการบังแดด กันฝนได้ดีมากขึ้นด้วยค่ะ
โฮมออฟฟิศของโครงการนี้เรียกว่าเป็น Smart Home ด้วยนะคะ เนื่องจากทางโครงการเค้าจัดเต็มด้วยระบบ Home Automation หลายฟังก์ชัน ทั้งกลอน Digital Door Lock, ติดกล้อง CCTV ตามส่วนต่าง ๆ รวม 8 จุด ติดสัญญาณกันขโมย Motion Sensor ที่ชั้น 2 ทุกยูนิต
ระบบสวิตช์ไฟที่เปิด-ปิดได้อัตโนมัติ โดยใช้เป็นของแบรนด์ Gratia และมีลิฟต์แก้วให้ทุกยูนิต เชื่อมต่อได้ทุกชั้น สะดวกสบายต่อการใช้ชีวิต ส่วนบนหลังคายังมีพื้นที่รองรับการติดตั้งแผง Solar Cell เพิ่มได้ ถือเป็นโฮมออฟฟิศใหม่ ทำเลดี ที่ให้งานระบบต่าง ๆ มาครบ สามารถขนของย้ายมาเปิดสำนักงาน เปิดหน้าร้าน หรืออยู่อาศัยได้เลยค่ะ
ประตูรั้วบ้านเป็นรูปแบบอัตโนมัติแบบบานเฟี้ยม เปิด-ปิดใช้งานได้สะดวกสบาย ผ่าน Remote Control หรือจะใช้งานผ่าน Application บนมือถือที่ Add User พนักงานหลาย ๆ คนได้
พอเข้ามาด้านในเค้าจะออกแบบเป็นพื้นที่ตอนลึก แบ่งเป็นที่จอดรถยนต์ซ้อนกันได้ 3 คัน และอีกฝั่งจะเป็นโถงลิฟต์ บันได และห้องแม่บ้าน โดยหน้าบ้านจะมีการเตรียม Junction รองรับการติด EV Charger ได้เลย โดยโครงการนี้จะได้ไฟระบบ 3 เฟส 30/100 รองรับการใช้ไฟหนัก ๆ ได้
กลับมาที่ฝั่งบ้านตัวอย่าง จะเห็นว่าตรงที่จอดรถมีการติดโคมไฟ Led Panel มาให้รวม 5 ดวง มี CCTV ติดมาให้ 1 ส่วนที่จอดรถจะมีการลงเสาเข็มมาให้เรียบร้อย ด้านบนทำพื้น Stamped Concrete ลายหินแบบ Random สีเทาดำ ได้ทั้งความสวยงาม ทนทาน แข็งแรง และทำความสะอาดได้ง่าย
รายละเอียดฟังก์ชันในแต่ละชั้นของบ้าน
ชั้นล่างจะมีทางขึ้น-ลงบ้านได้ 2 จุด ค่ะ คือด้านหน้าเป็นทางเชื่อมกับโถงลิฟต์ และอีกจุดจะเป็นบันไดแยกไว้ที่โถงทางหลัง ตรงกลางจะเป็นห้องแม่บ้าน ห้องน้ำ และห้องเก็บของ ส่วนหลังบ้านจะเป็นพื้นที่งานระบบสุขาภิบาล ซึ่งทางโครงการก็ได้ติดตั้งปั๊มน้ำ ถังสำรองน้ำมาให้แล้ว
ห้องนอนแม่บ้านสามารถวางเตียงนอน 3 ฟุต ตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของทีวีขนาดไม่ใหญ่มากได้ ส่วนใครที่ไม่ได้มีแม่บ้านอยู่ประจำ จะทำเป็นห้องเก็บของที่ไม่ค่อยได้ใช้บ่อย ๆ ก็ได้ค่ะ
ห้องน้ำชั้นล่างแบบ Powder Room ที่นอกจากจะให้แม่บ้านใช้งานได้แล้ว ยังใช้เป็นห้องน้ำสำหรับพี่ ๆ Messenger, พี่ ๆ Rider หรือใช้เป็นห้องน้ำรับรองสำหรับช่างที่มา Maintenance งานระบบต่าง ๆ ของบ้านได้
โถงบันไดทางขึ้นฝั่งด้านหลัง เป็นโถงบันไดแบบทึบ มีโคมไฟและราวจับติดมาให้ใช้งานได้สะดวก และจากชั้น 1 ขึ้นไปยังชั้น 2 จะมีประตูกั้นเพิ่มให้อีก 1 ชั้น หมดกังวลเรื่องความปลอดภัยได้เลยค่ะ
กลับมาที่ทางเข้าด้านหน้าจะกั้นด้วยประตูกระจกบานสวิง พร้อมกลอน Digital Door Lock
Digital Door Lock ใช้งานได้ 4 ระบบ คือ ระบบ Key Card, Finger Scan, Pin Code และไขกุญแจในกรณีถ่านหมด
เข้ามาด้านในเราจะเจอกับโถงต้อนรับหรือโถงลิฟต์ ที่สามารถตกแต่งดีไซน์ให้สวยงามตาม Brand Character ของบริษัทได้ ใครที่เปิดธุรกิจแบบที่มีลูกค้ามาใช้บริการบ่อย ๆ จะติดป้ายชื่อบริษัทสวย ๆ หรือติดเป็นโปรโมชันประจำเดือนของธุรกิจนั้น ๆ ก็ได้
ด้านหลังมีพื้นที่ให้ Built-in ตู้เก็บของ ตู้เก็บรองเท้า หรือของใช้ต่าง ๆ ได้ หรือใครจะปรับเป็นม้านั่งพักคอยแบบ 1-2 ที่นั่ง ก็มีพื้นที่เพียงพอค่ะ
ลิฟต์โดยสารดีไซน์สวย เป็นลิฟต์แก้วที่มองเห็นจากด้านนอกได้ โดยให้เป็นของแบรนด์ Fuji ความจุได้สูงสุด 5 คน หรือรองรับน้ำหนักได้ 400 กก.
ชั้น 2-3 ในบ้านตัวอย่างทำเป็นพื้นที่สำนักงาน โดยวางแปลนและจัดฟังก์ชันมาคล้าย ๆ กัน สำหรับชั้น 2 ความสูงฝ้าเพดาน 2.55 ม. วัสดุพื้นที่ใช้ภายในโฮมออฟฟิศตั้งแต่ชั้น 1-5 จะเป็นพื้น SPC ให้ความเรียบหรู ดูโมเดิร์น และยังแข็งแรงทนทานอีกด้วย กันน้ำ กันปลวกได้ดี ทำความสะอาดง่าย
มุมมองทางขึ้น-ลงทั้ง 2 ฝั่ง คือด้านหน้าบ้านจะเป็นลิฟต์โดยสาร ใช้งานได้ทุกชั้น ส่วนด้านหลังจะเป็นบันได เหมาะกับคนที่ทำงานอยู่แค่ชั้น 2 ก็ใช้บันไดเดินขึ้น-ลงได้ โดยชั้น 2 จะได้กล้อง CCTV มา 2 จุด และมีสัญญาณกันขโมยระบบ Motion Sensor ติดตั้งมาให้ด้วย
มาดูไอเดียการตกแต่งภายในบ้านกันยาว ๆ เลยค่ะ ที่โถงชั้น 2 ตรงนี้ สามารถทำเป็นพื้นที่ส่วนต้อนรับได้ อาจจะวางเป็นเคาน์เตอร์นั่งทำงาน สำหรับ Receptionist หรือทำเป็นพื้นที่รองรับแขก พื้นที่นั่งรอของลูกค้าได้ ก็ดูเหมาะสม
โดยด้านหน้าบ้านในทุกชั้นจะใช้ช่องแสงกระจกขนาดใหญ่ ทำให้แต่ละชั้นดูกว้าง ไม่อึดอัด แม้ในพื้นที่จำกัด ก็ยังสามารถทำให้รู้สึกว่าอยู่ในห้องที่กว้างขวาง และยังใช้เป็นช่องแสงธรรมชาติ เพื่อลดดการใช้ไฟฟ้าบางส่วนในช่วงเวลากลางวันได้ด้วย
บ้านตัวอย่างวางโซฟารับองขนาด 2 ที่นั่ง มีโต๊ะกาแฟอยู่ที่ด้านหน้า และใช้ฝั่งตรงข้ามวางชั้นวางทีวี และติดทีวีแขวนผนัง ฟังก์ชันนี้รับรองได้ทั้งแขก และพนักงานที่ต้องการนั่งเล่นในช่วงเวลาพักได้ด้วยค่ะ
ด้านหน้าบ้านวางชุดโต๊ะรับรองขนาด 4 ที่นั่ง ได้กำลังพอดี มุมนี้จะมีพื้นที่ระเบียงทางด้านหน้าด้วย ซึ่งบ้านแต่ละหลังเค้าจะมีระเบียงหน้าบ้านสลับ ๆ ชั้นกันไป ไม่เหมือนกัน
ถัดไปที่ด้านหลังถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่เปิดโล่ง มีขนาดกว้างขวางพอที่จะจัดวางโต๊ะทำงานให้กับพนักงานทั้ง 2 ฝั่งได้อย่างลงตัว และมีพื้นที้ให้ Built-in พวกตู้เก็บเอกสาร ชั้นวางของ และตู้เก็บของได้ค่ะ
ในบ้านตัวอย่างจะแบ่งโต๊ะทำงานไว้ฝั่งละ 2 ตัว มาให้ดูระยะใช้งาน ซึ่งเราสามารถปรับดีไซน์ได้ตามความต้องการของธุรกิจและจำนวนพนักงาน หากต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ก็สามารถติดตั้งผนังกระจกเพื่อแบ่งพื้นที่ได้ตามต้องการ
ด้านหลังพื้นที่ทำงานในชั้น 2 จะเป็นบันได ห้องน้ำ ทางออกไประเบียง และมีพื้นที่ให้ทำ Pantry ได้ และมุมนี้จะมีแสงสว่างที่เพียงพอต่อการใช้งาน เนื่องจากประตูทางออกไประเบียง จะเป็นกระจกใส และด้านข้างยังแถมด้วยบานฟิกซ์เพิ่มมาให้ด้วย
บ้านตัวอย่างเค้าจะทำ Pantry สำหรับชงชา-กาแฟที่มีครบทั้ง Sink ตู้เก็บของบน-ล่าง รองรับการล้างถ้วยชากาแฟของพนักงาน ด้านข้างสามารถวางตู้เย็นใบใหญ่สำหรับแช่เครื่องดื่ม หรืออาหารต่าง ๆ ของพนักงานชั้นนี้ได้
ห้องน้ำชั้น 2 เป็นแบบ Powder Room ตกแต่งกระเบื้องพื้นและผนังเล่นลายสวยงาม มีสุขภัณฑ์มาตรฐานติดมาให้ครบ มีโถสุขภัณฑ์และโถสำหรับผู้ชายติดตั้งแยกมาให้ ส่วนพื้นที่ใช้งานถือว่ากว้างกำลังดี ใช้งานได้ไม่อึดอัด และในห้องน้ำจะมีหน้าต่างไว้รับแสงและเปิดระบายอากาศติดมาให้ด้วย 1 ชุดค่ะ
ระเบียงด้านหลังในชั้น 2-5 จะเป็นระเบียงหน้ากว้างแบบในร่ม ปูพื้นกระเบื้องมาให้เต็มพื้นที่ ด้านขวาเป็นพื้นที่ติดตั้ง CDU ซ้ายมือเป็นส่วนของบันไดหนีไฟ ซึ่งติดให้ตามกฎหมายอาคารสูงเกิน 4 ชั้น โดยทุกชั้นจะมีประตูรั้ว ๆ เล็กปิดไว้อีกทีเพื่อความปลอดภัย
ส่วนผนังฝั่งด้านหลังจะก่ออิฐบล็อกช่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ให้แบบนี้ ช่วยให้อากาศหมุนเวียนได้ดี ได้ความปลอดภัย เป็นส่วนตัว และยังช่วยในเรื่องของการบังสายตา และกรองแสงแดดให้ไม่ร้อนจนเกินไปได้ด้วยนะคะ
จากระเบียงมองกลับเข้ามาภายในพื้นที่ชั้น 2
บันไดจากชั้น 2 ไปชั้น 3 สำหรับพนักงานที่ต้องเดินขึ้น-ลงแค่ชั้นเดียว แนะนำให้ใช้บันไดแทนลิฟต์ เพื่อลดค่าไฟและช่วยประหยัดพลังงานไปในตัว
สำหรับชั้น 3 เป็นพื้นที่สำนักงานเช่นเดียวกัน ความสูงฝ้าเพดานชั้น 3-4 อยู่ที่ 2.35 ม. โดยชั้นนี้จะตกแต่งให้มีความเป็นพื้นที่ทำงานที่จริงจังมากขึ้นค่ะ มีการกั้นห้องสำหรับ MD มีพื้นที่สำหรับนั่งคุยงานประชุมงานตรงกลาง และด้านหลังจะสามารถแบ่งวางโต๊ะทำงาน 2 ฝั่ง แบบชั้น 2 ได้เหมือนกันเลย
มุมมองไปทางลิฟต์แก้วและบันได โดยชั้น 3 จะมีกล้อง CCTV ติดมาให้ 2 จุด ในตำแหน่งที่เหมาะสม และเก็บภาพรวมได้ทั้ง 2 ฝั่ง
ติดกับลิฟต์แก้วทางด้านหน้า โครงการกันเป็นห้องกระจกสำหรับผู้บริหารมาให้ดูเป็นแนวทาง
ภายในมีพื้นที่ให้วางโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ ตู้เก็บเอกสาร ชั้นวางของต่าง ๆ ได้ครบ และยังมีพื้นที่เหลือให้ใช้งาน และนั่งทำงานได้ในบรรยากาศสบาย ๆ เนื่องจากด้านหน้าจะเป็นหน้าต่างบานผสมขนาดใหญ่แบบ Full Height ที่มีบานเลื่อนให้เปิดระบายอากาศได้ หากต้องการความเป็นส่วนตัว ก็อาจจะติดเป็นม่านโปร่ง หรือม่านมู่ลี่ที่ใช้ในออฟฟิศทั่ว ๆ ไปเพิ่มได้ค่ะ
ตรงกลางห้องวางเป็นโต๊ะตัวยาว ขนาด 6 ที่นั่ง และติด Smart TV ที่ผนังมาให้ดูเป็นไอเดีย เราสามารถใช้เป็นโต๊ะอเนกประสงค์ได้ รองรับทั้งการนั่งคุยงาน นั่งประชุมงานทั้งแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ หรือจะใช้เป็นพื้นที่ทานข้าวเที่ยง ข้าวเย็น หรือจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ ในวันสิ้นเดือนที่มุมนี้ก็ได้เหมือนกันค่ะ
ส่วนทางด้านใน สามารถทำเป็นโซนโต๊ะทำงาน และ Pantry เหมือนชั้น 2 ก็ได้ค่ะ หรือใครอยากปรับเปลี่ยนชั้นนี้เป็นพื้นที่ห้องประชุม กั้นโซนด้วยผนังทึบหรือผนังกระจกก็ได้ ปรับเป็นห้องสตูดิโอไว้ถ่ายงาน ไลฟ์สด อัดเสียง จัดไปได้หมดค่ะ
ซ้ายมือจะเป็นบันได ห้องน้ำ และประตูทางออกไประเบียงด้านหลัง
ห้องน้ำชั้น 3 แบบ Powder Room เช่นกัน แต่ภายในจะเปลี่ยนพื้นที่เป็นแบบตอนลึก และปรับเปลี่ยนลวดลายกระเบื้องให้ไม่ซ้ำกันในแต่ละชั้น สุขภัณฑ์มาตรฐานติดตั้งให้ครบ ทั้งอ่างล้างมือ ตู้เก็บของ มีโถสุขภัณฑ์และโถสุขภัณฑ์ชายแยกไว้ให้ นอกจากนั้นยังมีการทำ Low-Wall ไว้รอบ ๆ ให้วางของใช้จุกจิกได้อีกเยอะทีเดียว
ด้านหลังสุดเป็นระเบียงที่ได้ฟังก์ชัน พื้นที่ใช้สอยทุกอย่างมาเหมือนกันกับชั้น 2 ตรงนี้เราสามารถวางชุดโต๊ะเก้าอี้สนาม เก็บของชิ้นใหญ่ ๆ หรือจะปลูกต้นไม้เพิ่มความสดชื่นให้กับชั้นนี้ก็ได้แล้วแต่ชอบเลย
มองกลับเข้ามาดูบรรยากาศภาพรวมภายในชั้น 3
บันไดทางขึ้นไปยังชั้น 4
มุมมองไปลิฟต์แก้วและโถงบันได
ชั้น 4 ของบ้านตัวอย่างถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ เหมาะสำหรับการใช้พื้นที่นี้เป็นโซนพักผ่อนของพนักงาน สำหรับการพักเบรก รับประทานอาหาร หรือนั่งพักผ่อน นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นพื้นที่รองรับลูกค้าหรือจัดเป็นพื้นที่เก็บของและสต๊อกสินค้าได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งาน
ทางด้านหน้าบ้านทำเป็นมุมพักผ่อนขนาดใหญ่มาให้ดู สามารถวางโซฟาได้หลายรูปแบบ ถ้าวางเป็นตัว L หรือตัว U จะรองรับได้สูงสุดถึง 8 ที่นั่ง ด้านหน้ามีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะกาแฟ สำหรับวางเครื่องดื่มของของทานเล่นได้ และอีกด้านจะติด Smart TV ไว้ดูหนัง ดูซีรีส์ได้ตามต้องการเลย
ทางด้านหน้าบ้านจะได้เป็นหน้าต่างกระจกบานผสมแบบ Full Height มาเช่นเดิมค่ะ เปิดม่านออกจะรับแสงธรรมชาติได้เยอะ และยังช่วยให้พื้นที่ทั้งชั้นมีแสงสว่างที่เพียงพอต่อการใช้งาน
อีกด้านของชั้นนี้ทำเป็นโซนทำอาหารมาให้ดูค่ะ ใครที่เป็นสาย Content เกี่ยวกับการทำอาหาร สามารถเอาไอเดียนี้ไปทำตามได้นะคะ พื้นที่มีเพียงพอต่อการวางโต๊ะทานข้าว วาง Island สำหรับนั่งจิบเครื่องดื่ม และมีโซนสำหรับประกอบอาหารจริงจัง โดยรอบ ๆ ยังมีพื้นที่เหลือพอที่จะตั้งกล้อง ตั้งไฟถ่ายงานได้สบาย ๆ ค่ะ
ด้านหลังก็ยังมีพื้นที่ให้วางตู้เย็น ทำ Pantry และวางพวกเครื่องอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อย่างเครื่องล้างจาน เตาอบ และไมโครเวฟได้ โดยโซนนี้จะมีการเตรียมระบบน้ำ ระบบไฟ เพื่อการทำเป็นห้องครัวจริงจังได้ ไม่ต้องทำเพิ่มแล้วค่ะ
ตรงข้ามกับ Pantry จะเป็นบันได ห้องน้ำ และทางออกไประเบียงเหมือนเดิม
สำหรับห้องน้ำบนชั้น 4 จะเพิ่มฟังก์ชันในส่วนอาบน้ำมาให้ เพื่อรองรับการทำเป็นชั้นพักอาศัย หรือจะเตรียมไว้ให้พนักงานได้อาบน้ำหลังจากทำงานได้ ซึ่งด้านในจะตกแต่งลวดลายกระเบื้องมาได้อย่างสวยงาม และมีหน้าต่างไว้รับแสง เปิดระบายอากาศมา 1 บาน เหมือนเดิม
ส่วนแห้งจะได้อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์มาครบ ติดมาในระยะใช้งานสบาย ๆ
ด้านหลังจะมีตู้เก็บของ หน้าบานกระจกเงา ราวแขวนผ้า และ Low-Wall ให้วางของได้เยอะ
ด้านในสุดจะเป็นส่วนอาบน้ำค่ะ มีการแบ่งโซนได้เป็นสัดส่วนดี พร้อมติดฝักบัวมาให้ถึง 2 แบบ ทั้ง Hand Shower และ Rain Shower ด้านข้างมี Low-Wall ที่เป็นเหมือนชั้นวางของให้แบบนี้เลยด้วยค่ะ
ส่วนอาบน้ำกว้างดี ยืนอาบน้ำได้สบาย ๆ และมีการยกธรณีกันน้ำไหลออกไปส่วนแห้งมาให้ด้วย
ระเบียงฝั่งชั้น 4 จะได้มาเหมือนกันกับทุก ๆ ชั้นค่ะ
บันไดทางขึ้นไปยังชั้น 5 ชั้นสุดท้ายของโฮมออฟฟิศ
ชั้น 5 จะเป็นชั้นที่มีความ Private มากที่สุด โดยจะมีทั้งหมด 2 ห้องนอน เผื่อว่าเราอยากนอนพักผ่อนอยู่ที่นี่ไปเลย ก็ขึ้นมานอนที่ชั้น 5 ได้ เรียกได้ว่าเป็นโฮมออฟฟิศที่ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าสุด ๆ โดยชั้นนี้ความสูงเพดานจะสูงที่สุด อยู่ที่ 2.7 ม. ให้บรรยากาศที่โปร่งอยู่สบาย มีกล้อง CCTV ติดมาให้ด้วย 1 ตัวค่ะ
ติดกับลิฟต์แก้วด้านหน้า จะเป็นที่ตั้งของกล่องควบคุมระบบไฟฟ้า และระบบ Home Automation ต่าง ๆ ภายในบ้าน
ห้องนอนใหญ่จะวางตำแหน่งไว้ทางด้านหลังบ้าน และห้องนอนรองจะอยู่ตำแหน่งหน้าบ้านได้พื้นที่ระเบียง ทั้ง 2 ห้องขนาดกว้างขวางอยู่สบาย จัดเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว พร้อมห้องน้ำภายในตัวด้วย
ห้องนอนใหญ่พื้นที่จะกว้างขวางมาก จัด Zoning ต่าง ๆ ได้อย่างลงตัวเป็นสัดส่วน รองรับเตียงนอน 6 ฟุต ได้ตรงกลาง ด้านข้างวางชั้นวางของ หรือโต๊ะทำงานก็ยังได้ ส่วนปลายเตียงก็จะมีพื้นที่ให้วางชั้นวางทีวีตัวยาว หรือติด Smart TV จอใหญ่ได้เลย
ถัดไปทางด้านหลังจะมีพื้นที่แต่งตัว Walk-in Closet เป็นสัดส่วนดีเลย รองรับโต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ไว้เสื้อผ้าเก็บข้าวของต่าง ๆ ได้เป็นระเบียบเรียบร้อย และโซนนี้จะอยู่ใกล้ห้องน้ำ เดินเข้าไปใช้งานได้อย่างสะดวก
ห้องน้ำแบ่งโซนแห้ง โซนเปียก สุขภัณฑ์ครบเซ็ตทั้งอ่างล้างหน้า ติดกระเงามาพร้อมที่วางของใช้ส่วนตัว มีโถสุขภัณฑ์ และด้านในสุดเป็นพื้นที่อาบน้ำ ติดตั้งฝักบัว Hand Shower & Rain Shower ระบบน้ำร้อนให้มาแบบนี้ในทุกห้องน้ำที่มีฝักบัว พร้อมพัดลมดูดอากาศ
อ่างล้างหน้าและตู้เก็บของ พร้อมปลั๊กไฟกันน้ำ
โถสุขภัณฑ์แบบ 1 Piece พร้อมสายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู
ด้านในสุดเป็นส่วนอาบน้ำ พร้อม Low-Wall และฝักบัว 2 แบบ
ห้องนอนใหญ่จะมีระเบียงส่วนตัว ฟังก์ชันเดียวกันกับชั้นอื่น ๆ
มองกลับเข้ามาดูภาพรวมภายในห้องนอนใหญ่ ฝั่งด้านหลัง
ห้องนอน 2 จะอยู่ทางด้านหน้าบ้าน ซึ่งจริง ๆ แล้ว พื้นที่ใช้สอยภายในก็ถือว่าให้มาไม่แตกต่างกันมากนักนะคะ
โครงการจัดเป็นห้องนอนเด็กมาให้ดู โดยใช้พื้นที่ด้านหน้าวางโต๊ะทำการบ้าน เตียงนอน 5 ฟุต และปลายเตียงจะติด Smart TV และ Built-in ตู้เก็บของ และชั้นวางของได้เต็มพื้นที่ และการต่อใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ เราก็ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะโครงการนี้เค้าจะใช้ปลั๊กไฟที่มีทั้งเต้าเสียบ + USB Port และมีงานระบบ Cable TV / Lan Internet มาให้ตามจุดสำคัญต่าง ๆ ครบแล้ว
หน้าบ้านได้เป็นหน้าต่างกระจกบานผสมแบบ Full Height รับแสงสว่างได้เยอะ เปิดระบายอากาศก็ได้ และถ้าติดม่านโปร่งเข้าไปก็จะได้บรรยากาศที่ Cozy น่าพักผ่อนมาก ๆ
อีกด้านของห้องจะเป็นโซนแต่งตัว ที่อยู่ติดกับห้องน้ำ
ด้านหน้าสามารถวาง หรือ Built-in ตู้เสื้อผ้าใบใหญ่ และวางโต๊ะเครื่องแป้งแบบ 1 ที่นั่งได้
ห้องน้ำมีครบทั้งส่วนแห้ง และส่วนอาบน้ำ พร้อมติดตั้งสุขภัณฑ์มาตรฐานต่าง ๆ มาให้ครบแล้วค่ะ
ราคา (ก.ย. 67)
ราคาเริ่มต้น 13.9 ล้านบาท* จอง-ทำสัญญา 50,000 บาท* ค่าส่วนกลาง 120 บาท/ ตร.ว./ เดือน
ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://jwpark.co/
*หมายเหตุ : ข้อมูลราคา และโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม*
สรุป
⇒ ทำเลที่ตั้งโครงการ : JW Park Home Office กรุงเทพกรีฑา
และใครที่เดินทางบ่อย ๆ ก็สะดวกมาก เพราะอยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ เพียง 20-30 นาที* และมีรถไฟฟ้าใกล้ ๆ ให้เลือกใช้ในการเดินทางไปสถานที่ต่าง ๆ รอบ ๆ โครงการมีความอุดมสมบูรณ์สูง รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ใกล้แหล่ง Shopping, ที่ทำงาน, โรงพยาบาล และสถานศึกษาของลูก ๆ อย่างครบครันค่ะ
⇒ การเดินทางโดยรถส่วนตัว :
ใครรีบ ๆ ก็มีทางด่วนใกล้ ๆ ให้ได้เลือกใช้ ทั้งทางด่วนศรีรัช มอเตอร์เวย์กรุงเทพ ชลบุรี-สายใหม่ ทางนี้ใช้วิ่งตรงไปสนามบินสุวรรณภูมิ และชลบุรีได้ง่าย และยังใกล้กับถนนกาญจนาภิเษก และทางด่วนกาญจนาภิเษก ที่เป็นวงแหวนรอบเมือง อยากไปติดต่อลูกค้าโซนไหน ก็เดินทางไปได้สะดวกทั้งหมด
⇒ การเดินทางโดยรถไฟฟ้าและรถสาธารณะ :
⇒ การออกแบบโครงการ แบบบ้าน และวัสดุ :
เพราะเค้าพัฒนาออกมาเป็นโฮมออฟฟิศที่นี่มีมากถึง 5 ชั้น โดยบ้านที่ขายอยู่ตอนนี้จะเป็นแบบ Regent ที่เราพาไปชม ได้พื้นที่ใช้สอยเยอะถึง 330 ตร.ม. ฟังก์ชันครบครัน ทั้งพื้นที่อเนกประสงค์มากถึง 3 ชั้น มีห้องน้ำมากถึง 6 ห้อง ตอบโจทย์ธุรกิจหลากหลายรูปแบบ และยังจัดฟังก์ชันห้องนอนมาให้ด้วย ทำงานก็ได้ อยู่อาศัยก็ดี ลงตัวมาก ๆ
นอกจากฟังก์ชันที่ดี ก็ยังมีการเตรียมงานระบบต่าง ๆ ที่คนต้องการทำเป็นโฮมออฟฟิศหรือหารอยู่อาศัยให้ครบแล้ว ทั้งกล้อง CCTV ประตูรั้ว Remote Control มีระบบ Home Automation พร้อมลิฟต์แก้วส่วนตัวให้ทุกยูนิต ทั้งหมดที่ได้จะอยู่ในราคาเริ่มต้นที่ 13.9 ล้านบาท* บอกเลยค่ะ ว่าครบคุ้มค่ามาก ๆ เพราะถ้าไปติดตั้งงานระบบต่าง ๆ เอง และอยู่บนทำเลที่ดีแบบนี้ ราคานี้ไม่ได้แน่นอนค่ะ
⇒ สิ่งอำนวยความสะดวกและระบบรักษาความปลอดภัย :
มี Fitness, Co-Working Space และ Meeting Room ขนาดใหญ่ รองรับการทำงาน การพักผ่อน และการออกกำลังกายได้อย่างลงตัวและสมดุล นอกจากนั้นยังมีสวนสาธารณะริมน้ำ สนามเด็กเล่น พร้อม Jogging Track ยาว 240 ม. และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
และ Highlight ที่น่าจะทำให้ตัดสินใจได้ง่ายเลย คือเรื่องของที่จอดรถ ที่เค้าให้มามากว่า 2 ไร่ คิดเป็น 600% ของจำนวนยูนิต หรือจอดรถได้มากกว่า 200 คัน เพียงพอต่อเจ้าของกิจการ พนักงาน ลูกค้าได้แน่ ๆ แถมโครงการยังมีบริการรถกอล์ฟในการรับ-ส่งบริเวณลานจอดรถอีกด้วยค่ะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 086-311-3333 กด 1
Line : https://lin.ee/iEU9BCs
Website : https://jwpark.co/
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น