ที่ตั้งโครงการอยู่ติดถนนใหญ่รามอินทรา ใกล้แยกเมืองมีน ที่เชื่อมต่อทั้งถนนรามอินทราและถนนเสรีไทย จัดเป็นทำเลที่มีความสะดวกสบายใกล้จุดขึ้นลงมอเตอร์เวย์และวงแหวนกาญจนาภิเษก, ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ เพียง 100 เมตรจากโครงการ และมีความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้ห้างใหญ่และแหล่งช้อปปิ้งทั้ง Fashion Island, Promanade, Amorini, Makro และ ตลาดมีนบุรี
ชื่อโครงการ
เอสต้า บลิซ ESTA BLISS
เจ้าของโครงการ
บริษัท แอสเซท ไวส์ จำกัด Asset Wise
ลักษณะห้องและขนาดห้อง
– 1 Bed / 23-41 ตร.ม.
– 2 Bed / 45-54 ตร.ม.
เนื้อที่ทั้งหมด
6-0-66 ไร่
จำนวนตึก
3 อาคาร
จำนวนชั้น
8 ชั้น
จำนวนห้อง
634 ยูนิต
ที่จอดรถทั้งหมด
ที่จอดรถในช่องจอดรวม 222 คัน รวมจอดซ้อนคันได้ประมาณ 280 คัน หรือประมาณ 44% ของจำนวนยูนิตโครงการ
โซน
เขตมีนบุรี
ขนส่งสาธารณะ
– รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ 100 เมตร
รถโดยสารที่ผ่าน
n/a
ที่ตั้ง
ถนนรามอินทรา เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร
กำหนดการ
เริ่มก่อสร้าง มีนาคม 2558
ปีที่สร้างเสร็จ
สร้างเสร็จพร้อมอยู่ปลายปี 2559
ราคา
เริ่มต้นที่ 1.39 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม
62,000 บาท
ค่าส่วนกลางและกองทุน
ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน ชำระล่วงหน้า 2 ปีค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
โรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ 400 ม.
ตลาดมีนบุรี1 1.5 กม.
ศูนย์การค้าตลาดมีนบุรี1 1.5 กม.
Makro รามอินทรา 2 กม.
Amorini 3.1 กม.
ร.พ.นพรัตนราชธานี 3.2 กม.
สวนสยาม 4.6 กม.
Fashion Island 6.4 กม.
Promanade 6 กม.
Makro บางกะปิ 12.2 กม.
The Mall บางกะปิ 12.2 กม.
ตะวันนา 12 กม.
RBAC 14.2 กม.
NIDA 10.4 กม.
Chocolate Ville 9.8 กม.
ตลาดปัฐวิกรณ์ 7.8 กม.
Crystal Design Center (CDC) 12.4 กม.
Centralfestival Eastville 13.6 กม.
Crystal Park 12.1 กม.
ร.พ.ลาดพร้าว 14.9 กม.
ร.พ.เวชธานี 13.3 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก
– สระว่ายน้ำ ทั้งผู้ใหญ่ และเด็ก, ฟิตเนส, สวนส่วนกลาง, Steam, สนามเด็กเล่น, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม. กล้องวงจรปิด, Keycard Access
จุดเด่นของโครงการ
“เอสต้า บลิซ ESTA BLISS คอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร ติดรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ เพียง 100 เมตร
ชม Virtual Tour 360 ESTA BLISS รามอินทรา
ที่ตั้งโครงการ
ถนนรามอินทรา เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร
โครงการ เอสต้า บลิซ รามอินทรา มีที่ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่รามอินทรา ใกล้แยกเมืองมีน ที่เชื่อมต่อทั้งถนนรามอินทราและถนนเสรีไทย จัดเป็นทำเลที่มีความสะดวกสบายใกล้จุดขึ้นลงมอเตอร์เวย์และวงแหวนกาญจนาภิเษก, ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู และมีความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้ห้างใหญ่และแหล่งช้อปปิ้งทั้ง Fashion Island, Promanade, Amorini, Makro และ ตลาดมีนบุรี
โครงการ เอสต้า บลิซ รามอินทรา (ESTA BLISS RAMINTRA) มีที่ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่รามอินทรา สำหรับคนไม่ใช้รถ ถือว่าสะดวกสบายทีเดียวค่ะ ออกมาหน้าโครงการเป็นถนนใหญ่รามอินทราเลย มีป้ายรถเมล์อยู่ใกล้ๆมีรถเมล์และรถแดงผ่านหลายสาย มีรถแท็กซี่, วินมอเตอร์ไซค์ผ่านไปมาตลอด และผ่านเยอะ ออกมาหารถไปไหนมาไหนได้ง่าย
นอกจากนี้ยังใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพูสายอนาคต แคราย/มีนบุรี โดยสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือ สถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ซึ่งอยู่ห่างจากที่ตั้งโครงการไปประมาณ 100 ม. เป็นระยะที่เดินไปมาได้สะดวก และเชื่อมต่อถนนสายสำคัญได้หลายเส้นทางและสามารถไปเปลี่ยนสายรถไฟฟ้าสายสีส้มที่สถานีมีนบุรีที่อยู่ถัดไปเพียง 2 สถานีเท่านั้น ซึ่งจากสายสีส้มนี่เชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีเหลืองโซนบางกะปิลาดพร้าว สร้างเสร็จเมื่อไหร่คนในโครงการก็จะมีความสะดวกในการเดินทางเพิ่มขึ้นเยอะเลยค่ะ จากโครงการนี่นั่งไปหาอะไรกินแถวลาดพร้าว บางกะปิได้ในเวลาประมาณ 20 – 30 นาทีเท่านั้น คลิกที่นี่ เพื่อดูแผนรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย/มีนบุรี
สำหรับคนใช้รถ โครงการ เอสต้า บลิซ รามอินทรา (ESTA BLISS RAMINTRA) เป็นทำเลที่เดินทางสะดวกสบายไปไหนมาไหนสะดวกทั้งเข้าเมืองและออกเมืองค่ะ โดยที่ตั้งโครงการอยู่ติดถนนใหญ่รามอินทรา ใกล้แยกเมืองมีน, ถนนเสรีไทย และอยู่ห่างจากจุดขึ้นลงวงแหวนกาญจนาภิเษกในระยะขับรถประมาณ 5 กิโลเมตรเท่านั้น จะเข้าเมืองจากถนนรามอินทราออกมาจะมีทางเชื่อมไปออกถนนเษตรนวมินทร์ใช้วิ่งเข้าเมืองไปทางพหลโยธิน หรือขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ตรงไปออกถนนเพชรบุรีและถนนสุขุมวิทได้ง่าย
หรือจากโครงการออกมาถนนเสรีไทย วิ่งมาถนนใหญ่ลาดพร้าว ซึ่งเชื่อมต่อกับถนนหลักๆหลายเส้น ไม่ว่าจะศรีนครินทร์, นวมินทร์, รามคำแหง จะออกเมืองไปทางหนองจอก มีนบุรี หรือขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษกไปทางเหนือไปสายไหม ไปรังสิต หรืออยุธยาก็ง่ายและสะดวก
ที่ตั้งโครงการ จะอยู่ห่างจากจุดขึ้นลงวงแหวนกาญจนาภิเษกประมาณ 5.7 กม. ทำให้การเดินทางจากโครงการบนถนนรามอินทรามาวงแหวนกาญจนาภิเษกนั้นใช้เวลาโดยประมาณเพียง 8 นาทีเท่านั้น โดยจากวงแหวนสามารถวิ่งไปมอเตอร์เวย์หรือขับไปขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ทำให้คนใช้รถสามารถขับเข้าออกเมืองได้สะดวก
นอกจากนี้เนื่องจากโครงการอยู่ใกล้แยกเมืองมีน เชื่อมต่อกับถนนเสรีไทย ซึ่งจากเสรีไทยก็สามารถเชื่อมต่อไปกลับวงแหวนกาญจนาภิเษกได้เหมือนกันค่ะ โดยจากวงแหวนกาญจนาภิเษกมาโครงการ เอสต้า บลิซ รามอินทรา เป็นระยะทางประมาณ 4.7 กิโลเมตร หรือเวลาขับรถโดยประมาณเพียง 12 นาทีเท่านั้น
แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง
แยกเมืองมีน 250 ม.
แยกนวมินทร์ 7.1 กม.
แยกนวมินทร์-นวลจันทร์ 8.3 กม.
แยกบางกะปิ 9.3 กม.
ถนนเสรีไทย 400 ม.
ถนนนวมินทร์ 7.1 กม.
ถนนเกษตร-นวมินทร์ 8.4 กม.
วงแหวนกาญนาภิเษก 4.7 กม.
เลียบทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ 10.5 กม.
ถนนลาดพร้าว 9.7 กม.
ถนนรามคำแหง 5.8 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ เอสต้า บลิซ รามอินทรา เนื่องจากโครงการจะอยู่ใกล้โรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ และโชว์รูมสินค้าหลายแห่ง รอบๆโครงการจึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกพอสมควร ทั้งร้านอาหาร อาคารพาณิชย์ สวนริมคลอง อู่รถ ส่วนห้างและแหล่งช้อปปิ้งใหญ่ๆขับรถออกมาแค่ระยะ 5 – 10 กว่านาทีก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Fashion Island, Promanade, Makro รามอินทรา, สวนสยาม, Amorini, The Mall บางกะปิ, Makro บางกะปิ และ ตลาดมีนบุรี
สิ่งอำนวยความสะดวกใกล้เคียงโครงการ
โรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ 400 ม.
ตลาดมีนบุรี 1 1.5 กม.
ศูนย์การค้าตลาดมีนบุรี1 1.5 กม.
Makro รามอินทรา 2 กม.
Amorini 3.1 กม.
ร.พ.นพรัตนราชธานี 3.2 กม.
สวนสยาม 4.6 กม.
Fashion Island 6.4 กม.
Promanade 6 กม.
Makro บางกะปิ 12.2 กม.
The Mall บางกะปิ 12.2 กม.
ตะวันนา 12 กม.
RBAC 14.2 กม.
NIDA 10.4 กม.
Chocolate Ville 9.8 กม.
ตลาดปัฐวิกรณ์ 7.8 กม.
Crystal Design Center (CDC) 12.4 กม.
Centralfestival Eastville 13.6 กม.
Crystal Park 12.1 กม.
ร.พ.ลาดพร้าว 14.9 กม.
ร.พ.เวชธานี 13.3 กม.
วันนี้เรามีภาพการเดินทางจากรถมาให้ชมกันค่ะ เส้นทางการเดินทางตามลูกศรแดง โดยเริ่มเดินทางจาก ถนนรามอินทรา → มุ่งหน้าไปทางแยกเมืองมีน และกลับรถที่จุดกลับรถใต้สะพานข้ามแยกเมืองมีน → ตรงมาประมาณ 250 เมตร จะ เจอ โครงการ เอสต้า บลิซ รามอินทรา อยู่ทางซ้ายมือ ไปดูภาพการเดินทางกันต่อเลยค่ะ
เราเริ่มเดินทางกันบนถนนรามอินทรา ซ้ายมือเราจะเห็นห้าง Promanade ซึ่งอยู่ติดกันกับห้าง Fashion Island ซึ่งเป็น 2 ห้างใหญ่ของคนย่านนี้นะคะ เราตรงไปตามทางมุ่งหน้าไปทางมีนบุรี
ห้าง Fashion Island อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 6.4 กม. ภายในมีห้างโรบินสัน, Big C, Power Buy ร้านอาหารและแหล่งเรียนพิเศษมากมาย วันนี้เราตรงตามทางไปเรื่อยๆ
ถัดมาทางฝั่งซ้ายมือจะเจอห้าง Grand Home Mart ร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง
ส่วนเราตรงไปเรื่อยๆ มุ่งหน้าไปทางฝั่งมีนบุรีค่ะ
ตรงมาอีกหน่อยจะเห็น Makro รามอินทรา ทางฝั่งขวามือ แมคโครแห่งนี้อยู่ห่างจากโครงการ ESTA BLISS ประมาณ 2 กม. ถือเป็นห้างที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดแห่งนึงนะคะ
ตรงมาอีกหน่อยจะเจอโรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญทางฝั่งซ้ายมือ จากจุดนี้เราจะเห็นกลุ่มคอนโดมิเนียม เอสต้า บลิซ รามอินทรา (ESTA BLISS RAMINTRA) อยู่ติดถนนใหญ่รามอินทราทางฝั่งขวามือเราแล้วค่ะ
จากนั้นเราตรงผ่านหน้าโรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ชิดขวาเพื่อกลับรถใต้สะพานมาโครงการ เอสต้า บลิซ รามอินทรา (ESTA BLISS RAMINTRA) ไปดูภาพการเดินทางกันค่ะ
เราเลี้ยวขวาเพื่อกลับรถใต้สะพานข้ามแยกเมืองมีน
พอกลับรถมาจะเห็น พี พี เซรามิค โชว์รูมขายกระเบื้องปูพื้นและอุปกรณ์ก่อสร้างทางฝั่งซ้ายมือ
ตรงมาอีกหน่อยจะเห็นป้ายสุขภัณฑ์เซนเตอร์ ซึ่งออกแนวห้างขายอุปกรณ์ก่อสร้างเหมือนกันค่ะ โดยห้างนี้จะอยู่ติดกับที่ดินโครงการ เอสต้า บลิซ รามอินทรา (ESTA BLISS RAMINTRA) เลย
ถัดมาเราก็เลี้ยวซ้ายเข้าโครงการ เอสต้า บลิซ รามอินทรา (ESTA BLISS RAMINTRA) ได้เลยค่ะ
ก่อนเข้าไปดูภายในโครงการ เราพาไปดูรอบๆหน้าโครงการกันก่อนนะคะว่ามีอะไรบ้าง
รอบโครงการ
รอบๆโครงการ เอสต้า บลิซ รามอินทรา (ESTA BLISS RAMINTRA) ที่ดินโครงการเป็นที่ดินรูปสามเหลี่ยม ทางเข้าออกโครงการอยู่ติดถนนใหญ่รามอินทราเลย ทางฝั่งทิศเหนือ ติดที่ดินโครงการเลย ทิศตะวันออกเป็นจะเป็นห้างสูง 2 – 3 ชั้น ขายวัสดุก่อสร้างและสุขภัณฑ์ชื่อสุขภัณฑ์เซ็นเตอร์ ถัดไปเป็นเต็นท์ขายรถ 62 ยานยนต์ ถัดไปเป็นห้างขายวัสดุก่อสร้าง พี พี เซรามิค รามอินทรา ทิศตะวันตกติดโกดังสินค้าสูงประมาณ 2 ชั้นและอาคารสูงประมาณ 4-5 ชั้น
โครงการ เอสต้า บลิซ รามอินทรา (ESTA BLISS RAMINTRA) เป็นโครงการคอนโด 8 ชั้น 3 อาคาร ด้านบนเป็นภายถ่ายมุมสูงของโครงการค่ะ เราใส่ความสูงอาคารรอบๆมาโครงการให้เห็นภาพนะคะ ยูนิตหันหน้าไปทางทิศตะวันออกตะวันตกแทบทุกห้อง แบ่งเป็นวิวนอกและวิวใน วิวในก็เป็นวิวสระว่ายน้ำและสวนภายในโครงการ ซึ่งมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและตกแต่งมาอย่างสวยงาม
ส่วนวิวนอก ระเบียงอาคาร A และ B ฝั่งที่หันไปทางทิศตะวันออกติดห้างขายวัสดุก่อสร้างและสุขภัณฑ์ชื่อสุขภัณฑ์เซ็นเตอร์ ถัดไปเป็นเต็นท์ขายรถ 62 ยานยนต์ ถัดไปเป็นห้างขายวัสดุก่อสร้าง พี พี เซรามิค รามอินทรา ฝั่งนี้ดีสำหรับคนชอบความเป็นส่วนตัวนะคะ เพราะว่ามันเป็นห้างไม่ใช่ที่พักอาศัย ตอนกลางคืนไม่มีคนอยู่ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง ระเบียงห้องเราหันหน้าออกไปไม่ชนระเบียงห้องคนอื่น (โดยเฉพาะอาคาร B ที่อยู่ไกลถนนกว่าอาคารอื่นก็จริง แต่ได้วิวที่มีความเป็นส่วนตัวสูงทั้ง 2 ฝั่ง ตะวันออกและตะวันตก) ในขณะเดียวกันก็มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเพราะมีลักษณะเป็นห้างที่มีสินค้าที่ต้องรักษานั่นเอง
ส่วนระเบียงที่หันไปฝั่งทิศตะวันตกของอาคาร C จะเป็นโกดังและบ้านเดี่ยว 2 ชั้น และอาคาร 4-5 ชั้น ฝั่งนี้วิวนอกด้อยกว่าอาคาร A และ B ค่ะ เพราะมีส่วนที่เป็นอาคารที่พักอาศัยอยู่ และแดดทิศตะวันตกที่เป็นแแดดช่วงบ่ายที่แรงกว่าฝั่งทิศตะวันออกด้วย
ทางเข้าออกโครงการอยู่ติดถนนใหญ่รามอินทราทางฝั่งทิศเหนือ ติดที่ดินโครงการเลย ฝั่งซ้ายมือในภาพหรือทางทิศตะวันออกเป็นจะเป็นห้างสูง 2 – 3 ชั้น ขายวัสดุก่อสร้างและสุขภัณฑ์ชื่อสุขภัณฑ์เซ็นเตอร์ ถัดไปเป็นเต็นท์ขายรถ 62 ยานยนต์ ถัดไปเป็นห้างขายวัสดุก่อสร้าง พี พี เซรามิค รามอินทรา ฝั่งขวามือในภาพหรือฝั่งทิศตะวันตกติดโกดังสินค้าสูงประมาณ 2 ชั้นและอาคารสูงประมาณ 4-5 ชั้น เราไปดูรอบๆโครงการกันต่อเลยค่ะ
จากหน้าซุ้มโครงการ อยู่ติดถนนใหญ่รามอินทรา มองไปทางฝั่งซ้ายมือหรือทางทิศตะวันออกจะเป็นทางเดินเท้าติดถนนใหญ่พร้อมห้างขายวัสดุก่อสร้างและสุขภัณฑ์ชื่อสุขภัณฑ์เซ็นเตอร์
สุขภัณฑ์เซ็นเตอร์ ตัวห้าง สูง 2 – 3 ชั้น แต่ด้านหน้าติดป้ายสูงเพื่อให้คนผ่านไปผ่านมาเห็นได้ง่ายนั่นเองค่ะ และอยู่ติดที่ดินโครงการ จะมีที่จอดรถเป็นลานคอนกรีตด้านหน้าแบบนี้
ถัดมามีป้ายรถเมล์ที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 65 เมตรเท่านั้น ก็เป็นระยะที่เดินมาได้สบายๆนะคะ โดยป้ายรถเมล์นี้จะเป็นฝั่งมุ่งหน้าไปทางวงแหวนกาญจนาภิเษก รถเมล์ที่วิ่งผ่านมีสาย 26, 96, 115ร, 501, 525 นอกจากนี้ยังมีรถตู้ผ่านหน้าโครงการบ่อยๆด้วยค่ะ ช่วยเพิ่มทางเลือกในการเดินทางได้อีกทาง
ถัดจากป้ายรถเมล์เป็นเต๊นท์ขายรถยนต์มือสองที่ค่อนข้างใหญ่ทีเดียว
มองไปทางแยกเมืองมีนค่ะ
ภาพนี้จากหน้าโครงการ เอสต้า บลิซ รามอินทรา (ESTA BLISS RAMINTRA) มองไปทางขวามือ
มองไปทางทิศเหนือหน้าโครงการจะเป็นถนนรามอินทราฝั่งมุ่งหน้าไปวงแหวนกาญจนาภิเษก กลางถนนรามอินทราหน้าโครงการจะมีสะพานข้ามแยกเมืองมีนอยู่
กลับมาดูฝั่งขวามือหรือฝั่งทิศตะวันออกกันต่อนะคะ หน้าโครงการมีทางเดินเท้าข้างถนนใหญ่ ซ้ายมือของภาพจะเห็นกำแพงโครงการปักป้าย เอสต้า บลิซ รามอินทรา (ESTA BLISS RAMINTRA) เป็นระยะ และมีกระถางต้นไม้พร้อมปลูกไม้พุ่มคลุมดินมาให้เป็นแนว เพิ่มสีเขียวให้ดูร่มรื่นขึ้น
ถัดมาเป็นร้านลาบเป็ดร้อยเอ็ดที่เปิดตอนเย็นๆและกลางคืน และสะพานลอยข้ามไปฝั่งตรงข้าม
ติดสะพานลอยเป็นซอยรามอินทรา 88
ต้นซอยมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ จัดเป็นวินมอเตอร์ไซค์ที่ใกล้โครงการที่สุดนะคะ เดินจากโครงการมาแค่ประมาณ 100 เมตรเท่านั้น
อัตราค่าโดยสารค่ะ
ข้ามสะพานลอยไปจะเป็นโรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ซึ่งในอนาคตสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูสถานี เศรษฐบุตรบำเพ็ญ ก็จะสร้างออยู่ในบริเวณนี้โดยมีทางขึ้นลงทั้งสองฝั่งถนนตามปกติ นะคะ
จากสะพานลอยมองลงมา ถัดจากซอยรามอินทรา 88 จะเป็นอาคารสูง 5 ชั้นอยู่
ถัดไปเป็นสวนบึงกระเทียม ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่ใกล้โครงการที่สุดนะคะ แวะมาเดินเล่นออกกำลังกายกันได้
หน้าสวนบึงกระเทียมก็จะมีป้ายรถเมล์อยู่เช่นกัน
ส่วนในสวนบึงกระเทียมจะมีทางเดินและคลองให้เดินเล่นกันได้ยาวเลยทีเดียว
ตัวโครงการ
เราเข้าไปดูภายในโครงการ เอสต้า บลิซ รามอินทรา (ESTA BLISS RAMINTRA) กันต่อนะคะ
เริ่มจาก Master Plan หรือผังรวมของโครงการ จะเห็นว่าที่ดินโครงการเป็นที่ดินรูปสามเหลี่ยม ทางเข้าออกโครงการอยู่ติดถนนใหญ่รามอินทราเลย ภายในเป็นคอนโด 8 ชั้น 3 อาคาร วางตัวตามแนวที่ดิน ฝั่งทิศตะวันออก 2 อาคารคือ A และ B ส่วนฝั่งทิศตะวันตก 1 อาคารคือ ส่วนพื้นที่เปิดโล่งตรงกลางเป็นสระว่ายน้ำ สวนหย่อม และสนามเด็กเล่นด้านหลังโครงการ
ชั้น 1 ของโครงการจะไม่มียูนิตที่พักอาศัยนะคะ จะเป็นส่วนของที่จอดรถใต้อาคารและรอบๆอาคาร ที่จอดรถในช่องจอดรวม 222 คัน รวมจอดซ้อนคันได้ประมาณ 280 คัน หรือประมาณ 44% ของจำนวนยูนิตโครงการ และจะมีส่วนกลางที่อยู่ในชั้น 2 ของอาคาร A, B, C ที่จะเห็นเป็นส่วนพื้นที่สีเหลืองในแต่ละอาคาร โดยอาคาร A จะเป็นส่วนของ Library หรือห้องสมุด, อาคาร B จะเป็นส่วนของห้องฟิตเนสและคาเฟ่ 24 ชั่วโมง, อาคาร C จะเป็นส่วนของล็อบบี้หลักซึ่งตอนนี้เป็นส่วนของสำนักงานขายอยู่นั่นเอง
ทางเข้าออกโครงการเป็นซุ้มใหญ่ มีหลังคากันแดดกันฝนและป้อมรปภ.ตรงกลาง แบ่งฝั่งรถเข้าโครงการฝั่งซ้าย ออกโครงการฝั่งขวา และมียกพื้นขึ้นเป็นทางเดินเท้าฝั่งซ้ายมือพร้อมป้ายโครงการ ESTA BLISS และขวามือของซุ้มโครงการจะมีบ่อน้ำพุอยู่สร้างบรรยากาศที่เคลื่อนไหวและเสียงของน้ำที่ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติเวลาเข้าออกโครงการค่ะ
พื้นทางเข้าโครงการเป็นคอนกรีตสแตมป์ ทางเข้าออกโครงการเป็นไม้กระดก รถเข้าโครงการฝั่งซ้าย ออกโครงการฝั่งขวา และมียกพื้นขึ้นเป็นทางเดินเท้าฝั่งซ้ายมือ
ทางเข้าลานจอดรถจะเป็นรั้วไม้กระดก ผ่านเข้าออกด้วย Access Card แบบระยะใกล้ และมีกล้อง CCTV จับหน้าและป้ายทะเบียนรถเข้าออก คนนอกแลกบัตรกับรปภ. นอกจากนี้ยังมีกล้องวงจรปิดหรือ CCTV รอบโครงการ
ถนนส่วนหน้าซุ้มโครงการจะเป็นคอนกรีตสแตมป์ค่ะ
ส่วนยูนิตที่พักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 – 8 ส่วนชั้นล่างจะเป็นที่จอดรถและส่วนกลางนะคะ แต่เราจะเห็นว่าหลังต้นไม้กลางภาพมีส่วนหน้าต่างสูงอยู่บนอาคารชั้น 2 – 3 เนื่องจากแต่ละอาคารจะมีพื้นที่ส่วนกลางแบบเพดานสูงอยู่ที่ชั้น 2 ของแต่ละอาคารซึ่งเดี๋ยวเราจะค่อยๆพาไล่ดูกันไปทีละอย่างนะคะ
ชั้น 1 จะเป็นส่วนที่จอดรถใต้อาคาร ที่จอดรถในช่องจอดรวม 222 คัน รวมจอดซ้อนคันได้ประมาณ 280 คัน หรือประมาณ 44% ของจำนวนยูนิตโครงการ
ถนนในโครงการเป็นถนนคอนกรีต ทำทางเท้ามาให้ด้านข้างเรียบร้อย กำแพงสองฝั่งปลูกไม้พุ่มเป็นแนวมาให้ร่มรื่นพร้อมเสาไฟสำหรับตอนกลางคืน
เรามาดูสวนส่วนกลางและสระว่ายน้ำกลางโครงการกันต่อเลยค่ะ นี่เป็นภาพมุมสูงให้เห็นภาพรวมของสระนะคะ ขอบอกก่อนว่าส่วนกลางที่นี่ถือว่าจัดเต็มมากทีเดียว สำหรับโครงการราคาระดับนี้นะคะ เริ่มกันจากส่วนสระว่ายน้ำจะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ
สระว่ายน้ำของโครงการทำทางเดินผิวทรายล้างมาให้เดินไปล้างตัวก่อนลงสระ หรือใช้เดินเล่นชมสวนรอบสระได้ โดยภายในสระจะมีกระถางปลูกไม้ยืนต้น ไม่พุ่ม คลุมดินมาร่มรื่นค่ะ ถ้าต้นไม้โตกว่านี้เมื่อไหร่ ก็จะช่วยบังแดดให้ทางเดินโซนนี้ไปด้วย
จุดล้างตัวข้างสระทำมาให้ 1 จุด เป็นฝักบัวแบบ Rain Shower
ถัดจากจุดล้างตัวจะมีที่นั่งกลางสระแบบ Sunken Seat ที่ทำจากผิวทรายล้าง กลมกลืนไปกับพื้นทางเดินรอบๆ ใช้นั่งพักผ่อนได้ดี
ข้างสระปู Deck ไม้สำเร็จพร้อมที่นั่งพักผ่อนริมสระ ปรับระดับพนักพิงให้เอนมากน้อยได้ ชอบที่มีกระถางต้นไม้คั่นระหว่างที่นั่งเป็นคู่ๆแบบนี้ เป็นดีเทลที่มาจากความใส่ใจรายละเอียดของลักษณะการใช้งานพื้นที่แต่ละส่วน
ข้างสระมีก่อผนังน้ำตกขึ้นมาซึ่งนอกจากจะเพิ่มความเป็นส่วนตัวเนื่องจากบังมุมมองจากลานจอดรถใต้อาคารได้แล้ว เสียงของน้ำตกและวัสดุที่เลือกใช้ยังสร้างบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติได้ดี
นอกจากนี้ตรงกลางระหว่างน้ำตกสองด้านจะมีที่นั่งแบบจากุซซี่อยู่ด้วย
ทางลงสระเป็นแบบขั้นบันไดลงไปแบบนี้
ใครชอบเดินลุยน้ำเล่นแบบไม่อยากให้ชุดเปียก ก็มีโซนน้ำตื้นประมาณข้อเท้าพร้อมน้ำพุมาให้จุ่มเท้าเดินเล่นกันได้
มีที่นั่งแบบชิงช้าใหญ่ให้เราใช้นอนอ่านหนังสือหรืองีบหลับได้สบายๆ
มองกลับไปที่ส่วนสระว่ายน้ำค่ะ
มองไปที่ตัวอาคาร จะเห็นว่าตัวโครงการมีการเว้นยูนิต เพื่อทำช่องเปิดให้กับโถงทางเดินด้านในอาคาร ซึ่งนอกจากจะนำแสงธรรมชาติเข้าไปในโถงทางเดินช่วยประหยัดค่าไฟส่วนกลางใ้ห้ลูกบ้านได้ในระยะยาว และช่วยถ่ายเทอากาศในตึกให้ไหลเวียนดี ไม่อับชื้น เวลาเปิดประตูเข้าแต่ละยูนิต อากาศดีๆก็จะพัดเข้าไปไหลเวียนในยูนิตได้อีกทางด้วย จัดเป็นอีกรายละเอียดที่น่าชื่นชมของโครงการนี้นะคะ เพราะเสียพื้นที่ทำยูนิตที่ขายได้ไปเป็นล้านทีเดียว
ภาพรวมจากมุมสูงค่ะ นอกจากสวนและสระตรงกลางแล้ว อยากให้สังเกต 2 จุด จุดแรกคือมีการเว้นช่องเปิดแต่ละอาคารมาให้ทุกอาคาร จุดที่สองคือจะเห็นว่ามีระเบียงใหญ่อยู่ในบางยูนิตด้วย ระเบียงใหญ่นี้สามารถใช้ออกมาพักผ่อนหย่อนใจและปลูกต้นไม้ทำสวนที่ระเบียงเพิ่มเติมได้
มองไปยังพื้นผิวอาคารของแต่ละอาคาร หน้าตาอาคารจะเป็นสไตล์โมเดิร์น สีเทาเข้ม เทาอ่อน และสีขาว โดยทุกอาคารจะมีเว้นช่องเปิดในส่วนโถงทางเดินอาคาร และยูนิตที่ได้ระเบียงห้องใหญ่ๆอยู่ ทำให้เกิดเป็นจังหวะที่น่าสนใจในการออกแบบ
ทางเดินข้างสระว่ายน้ำค่ะ จะเห็นว่ามีการวางกระถางต้นไม้มาเป็นแนวรั้วพุ่มไม้ เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่สระว่ายน้ำอีกด้วย
ถัดมาจะเป็นส่วนสระเด็ก ซึ่งข้างสระมีชุดที่นั่งเอาไว้ให้นั่งเฝ้าเด็กๆเล่นน้ำได้
สระว่ายน้ำเด็กทำมาน่ารักดีค่ะ นอกจากจะมีศาลาและที่นั่งแบบชิงช้าให้นั่งเล่นกันแล้ว ยังมีสไลเดอร์เล็กๆทรงไดโนเสาร์กินน้ำที่เด็กๆใช้สไลเดอร์ลงน้ำกันได้
และมีเครื่องเล่นแบบในสวนน้ำอยู่ด้วย คือเป็นเหมือนถังหมุนได้เทน้ำลงมาในสระ
ถัดไปเป็นทางเดินไปอาคาร B ค่ะ การจัดสวนมีทั้งสระแบบตื้นและสวนหย่อมพร้อมที่นั่งพักใกล้ๆ
ถัดจากอาคาร B มาพื้นที่สามเหลี่ยมด้านหลังโครงการจะเป็นส่วนสนามเด็กเล่นค่ะ ปูหญ้าปลูกต้นไม้มาให้ร่มรื่นและวางเครื่องเล่นมาให้หลายชุดทีเดียว
มีชุดสไลเดอร์ 1 ชุด วันที่ไปถ่ายนี่โครงการสร้างเสร็จใหม่ๆเลยค่ะ เครื่องเล่นจึงยังใหม่เอี่ยมแบบยังมีพลาสติกแรปเอาไว้อยู่เลย
เครื่องเล่นสำหรับปีนพร้อมราวโหน และชุดชิงช้า 3 ที่นั่ง
สนามเด็กเล่นส่วนท้ายที่ดินโครงการจะเป็นมุมสามเหลี่ยมตามที่ดินโครงการนั่นเองค่ะ จะมีศาลาเล็กๆกันแดดกันฝนได้พร้อมไฟกลางคืนมาให้
ผังอาคารทั้ง A, B, C จะจัดคล้ายๆกันทั้งหมด โดยจัดมาอย่างเรียบง่ายคือส่วนยูนิตที่พักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 – 8 แต่ละอาคารมีลิฟท์ล็อกชั้น 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ ประมาณ 110 ยูนิตต่อลิฟท์ 1 ตัว ถือว่ากำลังเหมาะ โถงทางเดินมีหน้าต่างและช่องแสงมาให้เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดี ทุกอาคาร ส่วนที่ต่างก็คือพื้นที่ส่วนกลางแบบเพดานสูงที่กินพื้นที่ชั้น 2 – 3 บางส่วนไปซึ่งแต่ละอาคารจะไม่เหมือนกัน อาคาร A เป็นส่วนของ Library, อาคาร B เป็นส่วนของห้องฟิตเนสและคาเฟ่ 24 ชั่วโมง, อาคาร C เป็นส่วนของล็อบบี้หลักซึ่งตอนนี้เป็นส่วนของสำนักงานขายอยู่นั่นเอง
เรามาดูส่วนกลางที่กระจายอยู่ในชั้น 2 ของแต่ละอาคารกันต่อนะคะ ด้านบนเป็นผังของ อาคาร B ที่เราจะพามาดูกันก่อน อาคาร B มีความพิเศษกว่าอาคาร A และ C คือตั้งอยู่ในสุด ส่วนระเบียงของห้องทั้งฝั่งทิศตะวันออกและตะวันตกจะมีความเป็นส่วนตัวกว่า เปิดมาไม่เจอระเบียงห้องอื่นอย่างที่อธิบายไปในส่วนรอบๆโครงการข้างต้น นอกจากนี้อาคาร B จะมีพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 2 ที่ใหญ่กว่าอาคารอื่น โดยจะมีทั้งส่วนของห้องฟิตเนสและคาเฟ่ 24 ชั่วโมง และมีเทอเรซให้มานั่งเล่นกันได้ และอยู่ติดกับสนามเด็กเล่นที่เราพาไปดูกันมาเมื่อกี้นั่นเอง
ทางขึ้นไปอาคาร B จากสวนหน้าอาคาร จะเห็นว่าเป็นบันไดขึ้นไปเพราะอยู่ชั้น 2 นะคะ ชั้นล่างก็คือที่จอดรถ เหนือบันไดจะเป็นเทอเรซพร้อมหลังคาให้มานั่งเล่นรับลมชมสวนได้
ขึ้นบันไดมา จะเจอประตูของ 24 Hours Cafe หรือคาเฟ่ที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง เข้าไปดูด้านในกันเลยค่ะ
เปิดเข้ามาจะเป็นส่วนที่นั่งแบบอาร์มแชร์ พร้อมโต๊ะ ภายในเป็นห้องเพดานสูง ผนังกระจก ให้ความรู้สึกโปร่งสบายไม่อึดอัด
และจะมียกพื้นขึ้นไปส่วนด้านใน
ภายในจัดอินทีเรียมาเหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจดีค่ะ ชอบไฟเพดานที่แต่งเป็นท่อพร้อมแสงสีเหลืองอ่อนๆของห้องนี้ค่ะ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายดี จัดพื้นที่โดยวางบีนแบ็ก หมอนอิงใบใหญ่ๆ อาร์มแชร์มาให้กระจายหลายจุด พร้อมเปิดแอร์มาให้เย็นสบายดี เป็นส่วนคาเฟ่ที่เปิด 24 ชั่วโมงนะคะ
ถ่ายให้ดูมุมนั่งพักผ่อนพร้อมบีนแบ็กและหมอนอิง จะเห็นว่ามีโต๊ะกาแฟ เก้าอี้และของเล่นสำหรับเด็กวางมาให้ด้วย ใครมีลูกๆวัยกำลังเล็กๆก็ดูจะเป็นจุดพักผ่อนที่ดีค่ะ
อย่างอีกมุมเป็นบีนแบ็ก หมอนอิง และอาร์มแชร์ พร้อมสตูลและโต๊ะกาแฟ
ออกจากคาเฟ่ 24 ชั่วโมง ฝั่งตรงข้ามจะเป็นประตูห้องฟิตเนสค่ะ
ภายในห้องฟิตเนสตกแต่งมาในโทนขาวเป็นหลัก แต่งคานสีเทา และเสาด้านนอกสีแดง ผนังด้านหลังเป็นกระจกเงา ด้านหน้าเป็นกระจกใสวิวสระน้ำ และวางเครื่องเล่นมาให้หลายชุด
มีเครื่องเดินออกกำลังกาย 2 เครื่อง
ลู่วิ่งไฟฟ้า 4 เครื่อง
เครื่องปั่นจักรยาน 4 เครื่อง
มีประตูแบบหมุนกั้นห้องด้านในไว้
ด้านในจัดเป็นโซนเพาะกายค่ะ มีเครื่องเพาะกายเครื่องใหญ่มาให้ พร้อมเครื่องซิทอัพ และชุดบาร์ยกน้ำหนัก
ถัดจากอาคาร B เรามาดูส่วนกลางอาคาร A กันต่อค่ะ ด้านบนเป็นผังอาคาร A ซึ่งอาคาร A มีจุดเด่นคืออยู่ใกล้ซุ้มทางเข้าออกและถนนใหญ่รามอินทรามากที่สุดนะคะ วิวในระเบียงฝั่งทิศตะวันตกได้วิวสระว่ายน้ำ วิวนอกทิศตะวันออกหันไปทางแยกมีนบุรี ติดห้างขายอุปกรณ์ก่อสร้าง เป็นวิวโล่งที่มีความเป็นส่วนตัวสูง อาคาร A จะมีพื้นที่ส่วนกลางเป็นห้องสมุดให้มานั่งพักผ่อนเล่นมือถือ หรือนั่งคุยงานกันได้ โดยมีห้องประชุมอยู่ภายในห้องสมุดด้วย จะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ
ทางขึ้นบันไดไปอาคาร A ค่ะ สังเกตว่าวัสดุที่ใช้ในส่วนกลางและทางเข้าอาคารแต่ละอาคารจะไม่เหมือนกันนะคะ อย่างของอาคาร A นี่กรุผิวไม้
ขึ้นมาก็จะเจอประตูห้องสมุดหรือ Library ตั้งฉากอยู่กับประตูทางเข้าอาคาร A เราเข้าไปดูในห้องสมุดกันต่อเลยค่ะ
ถายในห้องสมุด วางที่นั่งแบบอาร์มแชร์มาให้หลายตัวดีค่ะ โดยจะมีส่วนที่เป็นโต๊ะยาวติดกระจกสำหรับเอาการบ้านมานั่งทำ หรือเอางานมานั่งพิมไปชมวิวสวนไปได้อีกด้วย
ส่วนอาร์มแชร์ก็จะมีโต๊ะกาแฟตรงกลางมาให้วางของได้
ชั้นหนังสือขนาดกว้างทีเดียว และวางหนังสือมาให้พอสมควร
ด้านในมีประตูหมุนเปิดไปส่วนห้องประชุมด้านใน อันนี้ดีนะคะ คือสำหรับคนที่อาจจะมีงานต้องคุย หรืออยากนั่งคุยกันเสียงเบาๆ ก็แยกมานั่งด้านในได้
ส่วนห้องประชุมค่ะ
เรามาดูอาคาร C ตรงข้ามอาคาร A กันต่อ ด้านบนเป็นผังอาคาร C ซึ่งอาคาร C วิวในระเบียงฝั่งทิศตะวันออกได้วิวสระว่ายน้ำ วิวนอกทิศตะวันตกหันไปทางสวนสาธารณะบึงกระเทียม อาคาร C จะมีพื้นที่ส่วนกลางเป็นล็อบบี้หลักให้มานั่งพักผ่อนเล่นมือถือ หรือนั่งคุยงานกันได้ (สังเกตว่าฟังก์ชั่นไม่ได้ต่างจากห้องสมุดมากนัก) โดยมีห้องประชุมและสำนักงานขายของโครงการอยู่ภายในล็อบบี้ด้วย จะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ
ทางขึ้นบันไดไปอาคาร C ค่ะ สังเกตว่าวัสดุที่ใช้ในส่วนกลางและทางเข้าอาคารแต่ละอาคารจะไม่เหมือนกันนะคะ อย่างของอาคาร C นี่กรุผิวเป็นลายหินอ่อนขาวขีดเทาแบบไวท์คาราร่า
ขึ้นมาก็จะเจอประตูของล็อบบี้ ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นสำนักงานขายของโครงการ ตั้งฉากอยู่กับประตูทางเข้าอาคาร C เราเข้าไปดูใน ล็อบบี้/สำนักงานขาย กันต่อเลยค่ะ
ภายในสำนักงานขายตกแต่งมาสบายตาดีค่ะ เข้ามาฝั่งซ้ายมือจะเป็นเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ตอนนี้จะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายคอยให้บริการข้อมูลโครงการและพาชมห้องตัวอย่างกันอยู่ รอบๆมีที่นั่งรับรองมาให้หลายจุด
ด้านในมีโต๊ะประชุมพร้อมชุดโซฟามาให้
และมีชุดอาร์มแชร์พร้อมโต๊ะกาแฟมาให้หลายจุด
ออกจากสำนักงานขายเราเข้าไปดูภายในอาคารกันต่อค่ะ ทางเข้าออกอาคารเป็นประตูบานเปิดกระจก ต้องสแกนบัตรเข้าไป
โถงทางเดินภายในอาคารจะเหมือนๆกันทุกอาคารค่ะ คือจะมีส่วนหน้าต่างและช่องแสงธรรมชาติอยู่ พื้นทางเดินปูกระเบื้องลายหินอ่อนสีเทาและขาว
ที่โถงลิฟต์จะมีบันไฟหนีไฟอยู่ฝั่งตรงข้าม และที่โถงลิฟต์ชั้นสองของทุกอาคารจะมีห้องจดหมายมาให้
แต่ละอาคารมีลิฟท์ล็อกชั้น 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ ประมาณ 110 ยูนิตต่อลิฟท์ 1 ตัว ถือว่ากำลังเหมาะ
ห้องจดหมายจะมี Mail Box มาให้ เมื่อเสร็จเรียบร้อยจะมีเลขที่ห้องแต่ละห้องติดไว้พร้อมกุญแจสำหรับไขเอาจดหมาย
โถงทางเดินจะเห็นว่าเป็น Single Corridor ซะเป็นส่วนใหญ่ และมีหน้าต่างเป็นช่องแสงธรรมชาติมาให้เป็นแนว
อีกรายละเอียดที่น่าชื่นชมที่เจอในโถงทางเดิน คือใต้ Main Sharp หรือส่วนงานระบบหลักของแต่ละชั้นจะมีการเดินท่อระบายน้ำมาให้ที่พื้นด้วย อันนี้เป็นความใส่ใจในแง่ของการดูแลรักษาและการอยู่อาศัยระยะยาวที่ดีและหายากทีเดียว
ห้องตัวอย่าง
ห้องตัวอย่างห้องแรกที่จะพาไปชมเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Plus Type B4 ขนาด 36.08 ตร.ม. ซึ่งโครงการขายแบบ Fully Furnished โดยจะมาพร้อมเครื่องปรับอากาศ วอลเปเปอร์ ชุดเฟอร์นิเจอร์ครัว และเฟอร์นิเจอร์ การจัดผังห้องเปิดเข้ามาในห้องจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่นขนาดกำลังสบายๆถัดไปเป็นห้องนอนติดระเบียงซึ่งมีฉากกั้นเป็นกระจกบานเลื่อนมาให้เป็นสัดส่วน จากห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับห้องครัวซึ่งอยู่ระหว่างทางเข้าห้องน้ำฝั่งนึง และห้องอเนกประสงค์อีกฝั่ง ซึ่งจะใช้เป็นห้องนอนหรือตู้เสื้อผ้าหรือห้องทำงานก็แล้วแต่ไลฟ์สไตล์แต่ละคนนะคะ โดยห้องอเนกประสงค์นี้จะมีประตูเปิดไประเบียงได้ ตัวห้องจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ
ประตูที่ได้จะเป็นบาน HDF กรุลามิเนตลายไม้ มีเซาะร่องเป็นลายได้แบบที่เห็นนะคะ และมีตาแมวไว้ส่องดูคนที่มาเคาะประตูเพื่อความปลอดภัย ผนังข้างประตูห้องจะมีแผ่นอคริลิคบอกเลขที่ห้อง
มือจับประตูเป็นแบบก้านโยกสแตนเลส พร้อม Digital Door Lock ของ Samsung ติดมาให้เรียบร้อยเพิ่มความปลอดภัยได้อีกระดับนะคะ วิธีการเข้าห้องคือแตะการ์ดเข้าไปและกดรหัสผ่าน ซึ่งสะดวกดีค่ะ ภาพขวามือคือภาพจากด้านในห้อง เวลาจะออกจากห้องก็กดปลดล็อกออกไป พอเราปิดประตูห้อง Digital Door Lock นี้ก็จะล็อกห้องให้เราอัตโนมัตค่ะ
เข้าห้องมาจะเจอส่วนของห้องนั่งเล่นขนาดกำลังสบายๆถัดไปเป็นห้องนอนติดระเบียงซึ่งมีฉากกั้นเป็นกระจกบานเลื่อนมาให้เป็นสัดส่วน พื้นห้องเป็นพื้นไวนิลลายไม้ที่มีความทนทานต่อสูงกว่าลามิเนตทั้งความชื้นและรอยขีดข่วนนะคะ ดูแลรักษาง่ายและติดตั้งซ่อมแซมได้ง่าย ไฟติดเพดานเป็นไฟดาวน์ไลท์ เพดานห้องสูง 2.4 เมตร ผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาว ของจริงได้ตามนี้
จากห้องนั่งเล่นมองกลับไปที่ประตู จะมีส่วนโต๊ะรับประทานอาหารวางมาให้ที่ผนังติดประตูฝั่งนึง และชั้นเก็บของ Built in ฝั่งนึงของจริงได้ตามนี้
ส่วนชุดโต๊ะอาหารสำหรับ 4 ที่นั่งวางมาให้ดูเป็นไอเดีย ของจริงโต๊ะกินข้าวนี้ไม่ได้นะคะ แต่จะเห็นระยะใช้งานกำลังพอดีกับพื้นที่ข้างประตู
โซฟาให้มาเป็นโซฟา 2 ที่นั่งกำลังพอดีกับพื้นที่ ห้องตัวอย่างวางสตูลสำหรับวางขาพร้อมโต๊ะกาแฟมาให้ดูเป็นไอเดีย
โซฟาที่ได้เป็นโซฟาบุผ้าสีครีม 2 ที่นั่งพร้อมพนักพิงและที่วางแขน ฐานโซฟาเป็นแบบโปร่งวางบนโครงอลูมิเนียม ทำให้ทำความสะอาดส่วนใต้โซฟาได้ง่าย
ระยะดูทีวีจากโซฟาประมาณ 2.8 เมตร วางทีวีขนาดประมาณ 60 – 70 นิ้วได้สบายๆ
ความพิเศษอีกอย่างคือยูนิตในโครงการจะแถม Bluetooth Sound System มาให้ทุกยูนิตเลย ใครที่ชอบฟังเพลงน่าจะชอบกันค่ะ คือเป็นระบบเครื่องเสียงระบบบลูทูธที่เชื่อมต่อกับลำโพงที่เพดานห้อง สามารถฟังเพลงจากมือถือหรือคอมพิวเตอร์เปิดผ่านบลูทูธออกลำโพงได้เลย หรือจะเอา USB มาเสียบที่ตัวเครื่องก็ได้ รับสัญญาณวิทยุหรือเป็นนาฬิกาจับเวลาก็ได้ อันนี้คอนโดทั่วไปไม่ค่อยมีมาให้นะคะ
ชั้นวางทีวีเป็นชั้นสีเทาพร้อมชั้นวางของข้างประตู Built in มาให้ ของจริงได้ตามนี้ พร้อมเครื่องปรับอากาศด้านบน แต่ทีวีไม่ได้นะคะ วางมาให้เห็นระยะเฉยๆ เราบานปิดให้ดูช่องเก็บของด้านในจะเห็นว่ารวมกับชั้นวางของแล้วช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของให้ห้องได้เยอะทีเดียว
ถัดจากห้องนั่งเล่นจะเป็นส่วนห้องนอน มีฉากกั้นห้องเป็นกระจกใสกรอบอลูมิเนียมสีดำแบบ 3 บาน กั้นส่วนห้องนอนมาให้เป็นสัดส่วน ข้อดีของหน้าบานแบบบานเลื่อน 3 บานคือส่วนห้องนอนได้ช่องเปิดที่กว้างขึ้นช่วยกันกลิ่นอาหารจากครัวและห้องนั่งเล่นเข้าไปในส่วนห้องนอน บางคนอาจต้องการความเป็นส่วนตัว อาจติดฟิล์มแบบกระจกฝ้าหรือผ้าม่านเพิ่มในห้องนอนได้
ห้องนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้และวางโต๊ะข้างมาให้ 1 ฝั่งให้ดูระยะใช้งานสบายๆ ในห้องนอนจะมีหน้าต่างบานใหญ่ 1 ชุด
จะเห็นว่าส่วนหัวเตียงติดเต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้และวางโต๊ะข้างเตียงมาให้ดูระยะใช้งาน มีระยะข้างเตียงฝั่งละประมาณ 50 cm. จากหน้าต่าง ถือว่าเป็นระยะสบายๆ
ปลายเตียงหลังจากวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งไปแล้วเหลือระยะใช้งานประมาณ 70 cm.
ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเปิด Built in มาให้ของจริงได้ตามนี้ จะเห็นว่าสามารถเปิดปิดตู้ได้สบายๆ และมีลิ้นชักมาให้ 2 ช่อง พร้อมช่องเก็บของด้านล่างและด้านบน พร้อมราวแขวนบนล่าง ตู้เสื้อผ้าเป็นขนาดสำหรับ 1 คนค่ะ เปิดออกมาจะเห็นว่าด้านในมีดีเทลติดกระจกเงาที่หน้าบานมาให้ด้วย
ถัดจากตู้เสื้อผ้ามีชั้นวางของลอยมาให้อีก 2 ชั้น พร้อมเตรียมงานระบบสำหรับสัญญาณทีวีมาให้เรียบร้อย ด้านบนติดเครื่องปรับอากาศมาให้ของจริงได้ตามนี้
ถัดจากห้องนั่งเล่นด้านหลังจะเป็นส่วนครัวซึ่งอยู่ระหว่างทางเข้าห้องน้ำฝั่งนึง และห้องอเนกประสงค์อีกฝั่ง
มาดูส่วนเคาน์เตอร์ครัวกันต่อค่ะ ชุดครัวด้านพร้อมชั้นลอยแบบมีหน้าบานของ RCD ของจริงได้ตามที่เห็นทั้งบนและล่าง เปิดให้ดูช่องเก็บของด้านในมีที่เก็บของมาให้พอสมควร เหมาะสำหรับใช้อุ่นอาหาร ล้างจาน หรืออาหารที่ประกอบง่ายๆไม่ซับซ้อน มีลิ้นชักวางช้อนส้อมมาให้ หน้าบานตู้เป็นเมลามีนสีเทา เปิดปิดแบบเซาะร่อง
Top เป็นเมลามีนสีเทาไม่มีเตาไฟฟ้าหรือเครื่องดูดควันมาให้นะคะ บางคนอาจเลือกใช้เตาไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กแทน ที่ยกไปเก็บใต้เคาน์เตอร์ได้ ช่วยประหยัดพื้นที่ใช้งานได้อีกทาง ด้านหลังเคาน์เตอร์ครัวมีหน้าต่างเปิดระบายอากาศได้
อ่างล้างจานสแตนเลสฝังมาให้แบบหลุมเดียว เทียบฝ่ามือให้ดูขนาดอ่างนะคะ
มีลิ้นชักพร้อมสลอตใส่ช้อนส้อมมาให้เป็นสัดส่วน
ฝั่งขวามือของห้องครัวจะมีประตูเปิดไปส่วนห้องน้ำอยู่ ธรณีประตูห้องน้ำเป็นกระเบื้องแบบเดียวกันกับพื้นห้องน้ำซึ่งมีความทนทานต่อความชื้น ใช้ไปนานๆก็ไม่บวมแบบลามิเนตนั่นเอง ธรณีประตูห้องน้ำยกระดับสูงขึ้นมาจากพื้นห้องประมาณ 5 cm. เพื่อกันน้ำและความชื้นจากห้องน้ำกระเด็นออกมาด้านนอก
ภาพรวมห้องน้ำค่ะ เดี๋ยวพาไล่ดูกันไปทีละอย่างนะคะ พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิกแบบผิวด้านสีเทาอ่อนขนาด 30 x 30 cm. สุขภัณฑ์ของ Mogen และ American Standard
ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องมาให้จนจรดเพดาน ที่เพดานติดไฟดาวน์ไลท์มาให้ พร้อมพัดลมดูดอากาศเหนือโถสุขภัณฑ์
อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Mogen พร้อมกระจกเงาด้านบนและชั้นวางของลายไม้ใต้อ่างมาให้ได้ตามนี้ ผนังด้านข้างมีที่แขวนผ้าเช็ดตัวมาให้
เทียบขนาดฝ่ามือกับอ่างให้เห็นระยะใช้งานค่ะ เป็นอ่างไฟเบอร์ของ Mogen ด้านบนมีที่ให้วางของได้พอสมควร
โถสุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard หรือแบรนด์เทียบเท่านะคะ ที่ใส่กระดาษทิชชู่ผิวสแตนเลส สายฉีดชำระสีขาวเข้าชุดกัน
ส่วนอาบน้ำเป็นแบบเข้ามุม ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำ ที่ชุดฝักบัวเจาะผนังเป็นที่วางของมาให้สูงทีเดียวใครของเยอะก็ทำชั้นวางของเพิ่มได้อีกหลายชั้นเลยค่ะ พร้อมเตรียมงานระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย เราเทียบขนาดฝักบัวกับฝ่ามือให้ดูค่ะ เป็นฝักบัวสแตนเลสขนาดกำลังเหมาะมือ อุปกรณ์ฝักบัวและก็อกน้ำจะเป็นของ American Standard
พื้นที่ส่วนอาบนำ้หรือส่วนเปียกจะลดระดับลงไปประมาณ 2 cm. เป็นพื้นส่วนเปียก
ออกจากห้องน้ำมา ฝั่งซ้ายมือของครัวจะเป็นห้องอเนกประสงค์ ประตูห้องเป็นบานเลื่อนกระจก กรอบอลูมิเนียมแบบ 2 บาน
ห้องตัวอย่างจัดมาเป็นห้องนอนเล็กนะคะ แต่บางคนอาจใช้เป็น Walk in closet หรือห้องพระ หรือห้องทำงาน หรืออื่นๆก็ได้ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกันนะคะ
ในห้องมีมุมข้างเตียงซึ่งจะมี Built in ตู้เสื้อผ้ามาให้ ของจริงได้ตามนี้
ในห้องนี้จะมีประตูเปิดออกไประเบียงได้ ธรณีประตูยกพื้นขึ้นมาประมาณ 5 เซนติเมตร พร้อมวางรางประตูด้านบนอีกที เพื่อกันฝุ่นและความชื้นจากระเบียง ด้านบนประตูติดเครื่องปรับอากาศพร้อมช่องเก็บของมาให้ของจริงได้ตามนี้ บานเลื่อนประตูเป็นแบบ 3 ตอน ทำให้สามารถเปิดช่องเปิดได้กว้างกว่าแบ 2 ตอนอย่างที่เห็น
พื้นระเบียงปูกระเบื้องเซรามิกผิวด้านสีครีมขนาด 30 x 30 cm. มาให้ ราวกันตกเป็นเหล็กโปร่งทาสีเทาและที่พื้นระเบียงเดินท่อระบายนำ้มาให้เรียบร้อย
ที่ระเบียงจะแขวนแอร์คอมเพรสเซอร์มาให้ด้านบน 2 และวางด้านล่าง 1 ตัว มีกริลบังแอร์คอมเพรสเซอร์สูงจรดเพดาน
ห้องตัวอย่างห้องที่สองที่จะพาไปชมเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน Type A 2 ขนาด 26.34 ตร.ม. ซึ่งโครงการขายแบบ Fully Furnished โดยจะมาพร้อมเครื่องปรับอากาศ วอลเปเปอร์ ชุดเฟอร์นิเจอร์ครัว และเฟอร์นิเจอร์ การจัดผังห้องเปิดเข้ามาในห้องจะเป็นส่วนครัวเปิดฝั่งขวา ประตูห้องน้ำฝั่งซ้าย ต่อไปยังส่วนห้องนั่งเล่น ถัดไปเป็นห้องนอนติดระเบียงซึ่งมีฉากกั้นเป็นกระจกบานเลื่อนมาให้เป็นสัดส่วน ตัวห้องจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ
ธรณีประตูห้องเป็นหินแกรนิตสีดำที่มีความทนทานสูง อันนี้ดีกว่าธรณีประตูลามิเนตตามโครงการราคาระดับนี้ทั่วๆไปค่ะ และตัวธรณียกระดับขึ้นสูงกว่าพื้นของโถงทางเดินด้านนอกเพื่อกันฝุ่นจากโถงทางเดินนั่นเอง พื้นห้องเป็นพื้นไวนิลลายไม้ที่มีความทนทานต่อสูงกว่าพื้นลามิเนตที่ใช้กันทั่วไปทั้งในแง่ความทนทานต่อความชื้นและรอยขีดข่วนนะคะ นอกจากนี้ในระยะยาวยังดูแลรักษาง่ายและติดตั้งซ่อมแซมได้ง่าย
เข้าห้องมาจะเจอส่วนของห้องครัวเปิดและทางเข้าห้องน้ำตรงข้ามชุดครัวค่ะ ระยะใช้งานกำลังดี เพดานห้องสูง 2.4 เมตร ผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาว ไฟติดเพดานเป็นไฟดาวน์ไลท์ ของจริงได้ตามนี้
มาดูส่วนเคาน์เตอร์ครัวกันต่อค่ะ ชุดครัวด้านพร้อมชั้นลอยแบบมีหน้าบานของ RCD ของจริงได้ตามที่เห็นทั้งบนและล่าง เปิดให้ดูช่องเก็บของด้านในมีที่เก็บของมาให้พอสมควร เหมาะสำหรับใช้อุ่นอาหาร ล้างจาน หรืออาหารที่ประกอบง่ายๆไม่ซับซ้อน มีลิ้นชักวางช้อนส้อมมาให้ หน้าบานตู้เป็นเมลามีนสีเทา เปิดปิดแบบเซาะร่อง
Top เป็นเมลามีนสีเทาไม่มีเตาไฟฟ้าหรือเครื่องดูดควันมาให้นะคะ บางคนอาจเลือกใช้เตาไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กแทน ที่ยกไปเก็บใต้เคาน์เตอร์ได้ เพราะไม่ได้ทำอาหารบ่อยๆนั่นเอง อ่างล้างจานสแตนเลสฝังมาให้แบบหลุมเดียว เทียบฝ่ามือให้ดูขนาดอ่างนะคะ
มีลิ้นชักพร้อมสลอตใส่ช้อนส้อมมาให้เป็นสัดส่วน
มาดูห้องน้ำกันต่อ ทางเข้าห้องน้ำจะอยู่อีกฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัว ธรณีห้องน้ำเป็นกระเบื้องแบบเดียวกันกับพื้นห้องน้ำซึ่งมีความทนทานต่อความชื้น ใช้ไปนานๆก็ไม่บวมแบบลามิเนตนั่นเอง ธรณีประตูห้องน้ำยกระดับสูงขึ้นมาจากพื้นห้องประมาณ 5 cm. เพื่อกันน้ำและความชื้นจากห้องน้ำกระเด็นออกมาด้านนอก
ภาพรวมห้องน้ำค่ะ เดี๋ยวพาไล่ดูกันไปทีละอย่างนะคะ พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิกแบบผิวด้านสีเทาอ่อนขนาด 30 x 30 cm. สุขภัณฑ์ของ Mogen และ American Standard
อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ Mogen พร้อมกระจกเงาด้านบนและชั้นวางของลายไม้ใต้อ่างมาให้ได้ตามนี้ ผนังด้านข้างมีที่แขวนผ้าเช็ดตัว ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องมาให้จนจรดเพดาน ที่เพดานติดไฟดาวน์ไลท์มาให้
เทียบขนาดฝ่ามือกับอ่าง เป็นอ่างไฟเบอร์ค่ะ ส่วนด้านบนอ่างมีที่ให้วางของได้พอสมควร
โถสุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard ที่ใส่กระดาษทิชชู่ผิวสแตนเลส สายฉีดชำระสีขาวเข้าชุดกัน
ส่วนอาบน้ำเป็นแบบเข้ามุม ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำแต่พื้นที่ส่วนอาบนำ้หรือส่วนเปียกจะลดระดับลงไปประมาณ 2 cm. เป็นพื้นส่วนเปียก ที่ชุดฝักบัวเจาะผนังเป็นที่วางของมาให้สูงทีเดียวใครของเยอะก็ทำชั้นวางของเพิ่มได้อีกหลายชั้นเลยค่ะ พร้อมเตรียมงานระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย เราเทียบขนาดฝักบัวกับฝ่ามือให้ดูค่ะ เป็นฝักบัวสแตนเลสขนาดกำลังเหมาะมือ อุปกรณ์ฝักบัวและก็อกน้ำจะเป็นของ American Standard
ที่มุมใกล้ประตูทางเข้าห้องน้ำจะมีช่องแสงธรรมชาติติดกระจกฝ้ามาให้ ภาพขวามือเป็นภาพจากด้านนอกห้องน้ำค่ะ ข้อดีคือตอนกลางวันห้องน้ำก็จะสว่างเพราะแสงธรรมชาติได้ แบบไม่ต้องเปิดไฟตลอดเวลา แต่ข้อเสียคือเวลาคนมาเยี่ยม เวลาเข้าห้องน้ำอาจจะมีเกร็งๆกันนิดนึง เพราะติดกระจกฝ้าไว้แต่ก็จะพอเห็นภายในห้องน้ำเป็นเงาๆจากส่วนห้องนั่งเล่นได้อยู่ดีค่ะ
เข้าไปดูส่วนห้องนั่งเล่นและนอนกันต่อค่ะ ส่วนห้องนั่งเล่นจะอยู่ถัดจากห้องครัวและห้องน้ำเลย
พื้นที่ห้องนั่งเล่นมีขนาดกำลังพอดีๆ สามารถวางโต๊ะทานข้าวแบบ 2 ทีนั่งติดผนังด้านนึงและวางโซฟาแบบ 2 ที่นั่งมาให้พร้อมโต๊ะกาแฟมาให้ดูระยะใช้งาน
วางโต๊ะกินข้าวมาให้ดูเป็นไอเดีย จะเห็นว่าระยะถอยเก้าอี้เข้าออกทำได้สบายๆไม่ติดผนัง
โซฟาบุผ้าสีครีมแบบ 2 ที่นั่ง มีที่วางแขนข้างนึง ด้านล่างโซฟาเป็นโครงอลูมิเนียมโปร่ง สามารถกวาดหรือดูดฝุ่นเพื่อทำความสะอาดใต้โซฟาได้ง่าย โต๊ะกาแฟห้องตัวอย่างวางมาให้ดูเป็นไอเดียและให้เห็นระยะใช้งาน
มองไปทางชั้นวางทีวี จะมี Built in ชั้นวางทีวีมาให้ต่อเนื่องเป็นชุดเดียวกันกับชุดครัว
ระยะดูทีวีจากโซฟาประมาณ 2.8 เมตร วางทีวีจอใหญ่ 60 – 70 นิ้วได้สบายๆ
ชั้นวางทีวีทำ Built in มาให้เป็นชั้นลอยสำหรับวางทีวี ที่ชั้นวางทีวีมีลิ้นชักและช่องเก็บของมาให้อย่างละ 2 อันช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดีค่ะ พร้อมเตรียมเต้าเสียบปลั๊กไฟและช่องเสียบสายสัญญาณสำหรับทีวีมาให้เรียบร้อย นอกจากนี้จะเห็นว่าขวามือข้างชุดครัวชั้นวางของมีบานพับที่ยกขึ้นมาให้สามารถใช้งานพื้นที่ด้านบนได้กว้างขึ้น และใช้เป็นเหมือนโต๊ะเสริมใช้วางของด้านข้างเวลาประกอบอาหารได้
ความพิเศษอีกอย่างคือยูนิตในโครงการจะแถม Bluetooth Sound System มาให้ทุกยูนิตเลย ใครที่ชอบฟังเพลงน่าจะชอบกันค่ะ คือเป็นระบบเครื่องเสียงระบบบลูทูธที่เชื่อมต่อกับลำโพงที่เพดานห้อง สามารถฟังเพลงจากมือถือหรือคอมพิวเตอร์เปิดผ่านบลูทูธออกลำโพงได้เลย หรือจะเอา USB มาเสียบที่ตัวเครื่องก็ได้ รับสัญญาณวิทยุหรือเป็นนาฬิกาจับเวลาก็ได้ อันนี้คอนโดทั่วไปไม่ค่อยมีมาให้นะคะ
ถัดจากห้องนั่งเล่นจะเป็นส่วนห้องนอน มีฉากกั้นห้องเป็นกระจกใสกรอบอลูมิเนียมสีดำแบบ 3 บาน กั้นส่วนห้องนอนมาให้เป็นสัดส่วน ข้อดีของหน้าบานแบบบานเลื่อน 3 บานคือส่วนห้องนอนได้ช่องเปิดที่กว้างขึ้นช่วยกันกลิ่นอาหารจากครัวและห้องนั่งเล่นเข้าไปในส่วนห้องนอน บางคนอาจต้องการความเป็นส่วนตัว อาจติดฟิล์มแบบกระจกฝ้าหรือผ้าม่านเพิ่มในห้องนอนได้
ห้องนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้และวางโต๊ะทำงานริมหน้าต่างข้างเตียงมาให้ 1 ฝั่งพร้อมหน้าต่างบานใหญ่ 1 ชุดและประตูเปิดออกไประเบียงได้
จะเห็นว่าเตียงด้านนึงจะอยู่ชิดประตูบานเลื่อนนะคะ ส่วนอีกฝั่งจะเป็นโต๊ะทำงานริมหน้าต่างข้างเตียง
ข้างเตียงฝั่งติดหน้าต่างบานใหญ่วางโต๊ะทำงานริมหน้าต่างมาให้ดูระยะใช้งานพร้อมเก้าอี้ จะเห็นว่ามีระยะกำลังดี บางคนอาจใช้เป็นโต๊ะเครื่องแป้ง
จากริมหน้าต่างห้องนี้มองออกไปจะเป็นวิวสระว่ายน้ำสวยทีเดียว จะเห็นว่ากระจกหน้าต่างเป็นแบบกระจกเข้ามุมทำให้เห็นมุมมองที่กว้างและมีความต่อเนื่องขึ้นด้วย
มองไปทางฝั่งปลายเตียงมีมุมเข้าไปตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเปิดของจริงได้ตามนี้ แบ่งเป็น 2 ฝั่งนะคะ พร้อมช่องเก็บของด้านล่างและด้านบน และราวแขวนบนล่าง ตู้เสื้อผ้าเป็นขนาดสำหรับ 1 คนค่ะ
ถัดมาในห้องนอนจะมีประตูเปิดออกไประเบียงได้ ธรณีประตูยกพื้นขึ้นมาประมาณ 5 เซนติเมตร พร้อมวางรางประตูด้านบนอีกที เพื่อกันฝุ่นและความชื้นจากระเบียง ด้านบนประตูติดเครื่องปรับอากาศพร้อมช่องเก็บของมาให้ของจริงได้ตามนี้ บานเลื่อนประตูเป็นแบบ 3 ตอน ทำให้สามารถเปิดช่องเปิดได้กว้างกว่าแบ 2 ตอนอย่างที่เห็น
พื้นระเบียงปูกระเบื้องเซรามิกผิวด้านสีครีมขนาด 30 x 30 cm. มาให้ ราวกันตกเป็นเหล็กโปร่งทาสีเทาและที่พื้นระเบียงเดินท่อระบายนำ้มาให้เรียบร้อย
ที่ระเบียงจะแขวนแอร์คอมเพรสเซอร์มาให้ด้านบน 1 และวางด้านล่าง 1 ตัว มีกริลบังแอร์คอมเพรสเซอร์สูงจรดเพดานโดยที่ระเบียงเตรียมเต้าเสียบปลั๊กไฟและฝาครอบกันน้ำและก็อกน้ำติดผนังมาให้เรียบร้อย
ราคา (พ.ย.59)
1 ห้องนอน A806 ขนาด 22.99 ตร.ม. ราคา 1.54 ล้านบาท
1 ห้องนอน C221 ขนาด 23.01 ตร.ม. ราคา 1.49 ล้านบาท
1 ห้องนอน C228 ขนาด 31.56 ตร.ม. ราคา 1.99 ล้านบาท
โครงการขายแบบ Fully Furnished พร้อมชุดครัว เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องปรับอากาศ
– เงินจอง 5,000 บาท
– เงินทำสัญญา 10,000 บาท
– ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม. ชำระครั้งเดียว
– ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน (ชำระล่วงหน้า 2 ปี)
สอบถามราคาเพิ่มเติมกรุณาติดต่อสำนักงานขายเพื่อข้อมูลที่อัพเดตที่สุดค่ะ*
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ –โครงการ เอสต้า บลิซ รามอินทรา มีที่ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่รามอินทรา ใกล้แยกเมืองมีน ที่เชื่อมต่อทั้งถนนรามอินทราและถนนเสรีไทย จัดเป็นทำเลที่มีความสะดวกสบายใกล้จุดขึ้นลงมอเตอร์เวย์และวงแหวนกาญจนาภิเษก, ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู และมีความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้ห้างใหญ่และแหล่งช้อปปิ้งทั้ง Fashion Island, Promanade, Amorini, Makro และ ตลาดมีนบุรี
ความอุดมสมบูรณ์ – เนื่องจากโครงการจะอยู่ใกล้โรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ และโชว์รูมสินค้าหลายแห่ง รอบๆโครงการจึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกพอสมควร ทั้งร้านอาหาร อาคารพาณิชย์ สวนสาธารณะริมคลอง(สวนบึงกระเทียม) อู่รถ ส่วนห้างและแหล่งช้อปปิ้งใหญ่ๆขับรถออกมาแค่ระยะ 5 – 10 กว่านาทีก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Fashion Island, Promanade, Makro รามอินทรา, สวนสยาม, Amorini, The Mall บางกะปิ, Makro บางกะปิ และ ตลาดมีนบุรี
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – สำหรับคนใช้รถ โครงการ อยู่บน เป็นทำเลที่เดินทางสะดวกสบายไปไหนมาไหนสะดวกทั้งเข้าเมืองและออกเมืองค่ะ โดยที่ตั้งโครงการอยู่ติดถนนใหญ่รามอินทรา ใกล้แยกเมืองมีน, ถนนเสรีไทย และอยู่ห่างจากจุดขึ้นลงวงแหวนกาญจนาภิเษกในระยะขับรถประมาณ 5 กิโลเมตรเท่านั้น จะเข้าเมืองจากถนนรามอินทราออกมาจะมีทางเชื่อมไปออกถนนเษตรนวมินทร์ใช้วิ่งเข้าเมืองไปทางพหลโยธิน หรือขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ตรงไปออกถนนเพชรบุรีและถนนสุขุมวิทได้ง่าย
หรือจากโครงการออกมาถนนเสรีไทย วิ่งมาถนนใหญ่ลาดพร้าว ซึ่งเชื่อมต่อกับถนนหลักๆหลายเส้น ไม่ว่าจะศรีนครินทร์, นวมินทร์, รามคำแหง จะออกเมืองไปทางหนองจอก มีนบุรี หรือขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษกไปทางเหนือไปสายไหม ไปรังสิต หรืออยุธยาก็ง่ายและสะดวก
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – สำหรับคนไม่ใช้รถ ถือว่าสะดวกสบายทีเดียวค่ะ ออกมาหน้าโครงการเป็นถนนใหญ่รามอินทราเลย มีป้ายรถเมล์อยู่ใกล้ๆมีรถเมล์และรถแดงผ่านหลายสาย มีรถแท็กซี่, วินมอเตอร์ไซค์ผ่านไปมาตลอด และผ่านเยอะ ออกมาหารถไปไหนมาไหนได้ง่าย
นอกจากนี้ยังใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพูสายอนาคต แคราย/มีนบุรี โดยสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือ สถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ซึ่งอยู่ห่างจากที่ตั้งโครงการไปประมาณ 100 ม. เป็นระยะที่เดินไปมาได้สะดวก และเชื่อมต่อถนนสายสำคัญได้หลายเส้นทางและสามารถไปเปลี่ยนสายรถไฟฟ้าสายสีส้มที่สถานีมีนบุรีที่อยู่ถัดไปเพียง 2 สถานีเท่านั้น ซึ่งจากสายสีส้มนี่เชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีเหลืองโซนบางกะปิลาดพร้าว สร้างเสร็จเมื่อไหร่คนในโครงการก็จะมีความสะดวกในการเดินทางเพิ่มขึ้นเยอะเลยค่ะ จากโครงการนี่นั่งไปหาอะไรกินแถวลาดพร้าว บางกะปิได้ในเวลาประมาณ 20 – 30 นาทีเท่านั้น
การออกแบบโครงการและวัสดุ – ตัวห้องขายแบบ Fully Furnished คือมีชุดครัวและชุดเฟอร์นิเจอร์แบบ Built in มาให้พร้อมแอร์ครบทุกยูนิต สำหรับราคานี้ก็ถือว่าเลือกวัสดุมาได้ดีเลยค่ะ ประเด็นคือสร้างเสร็จพร้อมอยู่จริงๆแล้ว เช็คสภาพห้องได้ไม่ต้องเสี่ยงด้วย ได้ Digital Door Lock ทุกห้อง ฝ้าเพดานสูง 2.4 ม. เพดานติดไฟดาวน์ไลท์ พื้นเป็นไวนิลลายไม้ที่มีความทนทานกว่าลามิเนต และห้องน้ำกับระเบียงจะเป็นกระเบื้องเซรามิกที่มีความทนทาน สุขภัณฑ์ Mogen และ American Standard และห้องครัวมาให้ พร้อมเฟอร์นิเจอร์ Built in ซึ่งให้มาเยอะ สเป็คสวยและช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดี แบบห้องมีการจัดวางระยะใช้สอยที่ใช้งานได้สบายและลงตัว ไม่อึดอัด
ตัวโครงการมีการเว้นยูนิต เพื่อทำช่องเปิดให้กับโถงทางเดินด้านในอาคาร ซึ่งนอกจากจะนำแสงธรรมชาติเข้าไปในโถงทางเดินช่วยประหยัดค่าไฟส่วนกลางใ้ห้ลูกบ้านได้ในระยะยาว และช่วยถ่ายเทอากาศในตึกให้ไหลเวียนดี ไม่อับชื้น เวลาเปิดประตูเข้าแต่ละยูนิต อากาศดีๆก็จะพัดเข้าไปไหลเวียนในยูนิตได้อีกทางด้วย จัดเป็นอีกรายละเอียดที่น่าชื่นชมของโครงการนี้นะคะ เพราะเสียพื้นที่ทำยูนิตที่ขายได้ไปเป็นล้านทีเดียว
สิ่งอำนวยความสะดวก – ถือว่าเป็นโครงการที่เตรียมเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยมาดีเลยค่ะ โดย ทางเข้าออกโครงการเป็น Access Card ทั้งหมด ใช้ลิฟต์ล็อกชั้นหรือ Proxy Lift, มี CCTV รอบโครงการ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
ส่วนกลางอื่นๆก็ถือว่าให้มาเยอะ และใส่ใจรายละเอียด เมื่อเทียบกับโครงการในราคาระดับเดียวกัน ที่จอดรถในช่องจอดรวม 222 คัน รวมจอดซ้อนคันได้ประมาณ 280 คัน หรือประมาณ 44% ของจำนวนยูนิตโครงการ มีสระว่ายน้ำพร้อมสวนกลางโครงการที่มีลูกเล่นน่าสนใจหลายอย่าง และมีสนามเด็กเล่นและสระเด็กแบบที่เด็กๆน่าจะชอบ และจะมีส่วนกลางที่อยู่ในชั้น 2 ของอาคาร A, B, C ที่จะเห็นเป็นส่วนพื้นที่สีเหลืองในแต่ละอาคาร โดยอาคาร A จะเป็นส่วนของ Library หรือห้องสมุด, อาคาร B จะเป็นส่วนของห้องฟิตเนสและคาเฟ่ 24 ชั่วโมง, อาคาร C จะเป็นส่วนของล็อบบี้หลัก พร้อมทั้งรายละเอียดของการออกแบบพื้นที่ในแต่ละส่วนที่มีความใส่ใจสูง
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ
8
ติดถนนใหญ่รามอินทรา ใกล้แยกเมืองมีน วงแหวนกาญจนาภิเษก และรถไฟฟ้าสายอนาคตสีชมพู
การเดินทาง ใช้รถ
8
เดินทางสะดวกเชื่อมต่อออกไปได้หลายเส้นทาง อยู่ติดถนนใหญ่รามอินทรา ใกล้แยกเมืองมีน, ถนนเสรีไทย
การเดินทาง ไม่ใช้รถ
8
สะดวกเพราะในระยะเดินมีทั้งวินมอเตอร์ไซค์ ป้ายรถเมล์หน้าโครงการ และแท้กซี่ผ่านไปมาตลอด ในอนาคตเดิน 100 เมตรจากโครงการถึง รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ
ห้องและวัสดุ
9
แปลนห้องแบ่งได้เป็นสัดส่วนลงตัว ขายแบบ Fully Furnished วัสดุและเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มีความใส่ใจรายละเอียดดี และให้ Built in มาค่อนข้างเยอะ
สิ่งอำนวยความสะดวก
10
มีให้ครบครัน จัดเต็ม และออกแบบได้น่าใช้งาน ยอมเสียกำไรในส่วนที่สามารถทำได้ ยกตัวอย่างเช่นการเว้นช่องแสงและการถ่ายเทอากาศที่ดีของโถงทางเดินในส่วนยูนิตที่พักอาศัย
ความคุ้มค่ากับราคา
9
ราคาเริ่มต้นตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 61,000 บาท/ตร.ม. ได้คอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ทำเลติดถนนใหญ่รามอินทรา ใกล้รถไฟฟ้าอนาคตสายสีชมพู ไปไหนมาไหนสะดวก แถมเฟอร์นิเจอร์ Fully Furnished พร้อมชุดครัว และเครื่องปรับอากาศ
คะแนนรวมเฉลี่ย
9
ดีมาก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
TEL : 099-535-5539
WEBSITE : http://www.esta-bliss.com/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น