หนึ่งในคอนโดที่เปิดตัวมาแล้วได้รับการพูดถึงกันมากตั้งแต่ปีที่แล้ว ด้วยทำเลใจกลางสุขุมวิท ที่เป็น CBD ของจริง ใกล้แยกอโศก 20 เมตร ถึง MRT สุขุมวิท และ 230 เมตร ถึง BTS อโศก
ส่วนราคาตอนนี้ก็ขยับขึ้นมาตามกาลเวลา เพราะโครงการนี้คนให้ความสนใจเยอะมาก เพราะขายหมดเกลี้ยงไปเรียบร้อยแล้วจ้า ใครอยากได้ห้องก็ต้องไปหา Resale กับ The Agent กันเอาเองนะ ราคาเริ่มต้น 6.9 ล้านบาท (ราคาเปิดตัว) หรือ ราคาเริ่มต้น 210,000 บาท / ตร.ม.
ดู ASHTON ทำเลอื่นๆ
Ashton Asoke
Ashton Chula-Silom
Ashton Silom
Ashton Residence 41
ชื่อโครงการ
แอชตัน อโศก Ashton Asoke
เจ้าของโครงการ
อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ Ananda Development
ลักษณะห้องและขนาดห้อง
1 ห้องนอน : 30-34 ตร.ม
2 ห้องนอน : 46 ตร.ม.
2 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ : 64 ตร.ม.
เนื้อที่ทั้งหมด
ประมาณ 2-3-47.60 ไร่
จำนวนตึก
1 อาคาร
จำนวนชั้น
50 ชั้น
จำนวนห้อง
783 ยูนิต
ที่จอดรถทั้งหมด
371 คัน / ที่จอดรถชั้น 2-9
โซน
สุขุมวิท , อโศก , วัฒนา
ขนส่งสาธารณะ
รถโดยสารที่ผ่าน
รถเมล์สาย 38, 98, 136, 185
ที่ตั้ง
ถนนอโศกมนตรี (สุขุมวิท 21) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
กำหนดการ
n/a
ปีที่สร้างเสร็จ
กำหนดการสร้างเสร็จ ต.ค. 2560
ราคา
เริ่มต้น 7 ล้านบาท (อ้างอิงราคา Resale ปัจจุบัน)
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม
ราคาต่อตร.ม. เริ่มต้น 230,000 บาท/ตร.ม.
(อ้างอิงราคา Resale ปัจจุบัน)
http://www.theagent.co.th/project/d/1010/ashton-asoke
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
ห้างสรรพสินค้า Office
Terminal 21
EMQUATIER/ EMPORIUM/ EMSPHERE
Singha Complex
Exchange Tower
Interchange Tower
GMM Tower
Sino-Thai Tower
โรงแรม
Pullman Bangkok Grande Sukhumvit Hotel
The Westin Grande Sukhumvit Bangkok Hotel
สวน
Benjakiti Park
Benjasiri Park
โรงพยาบาล
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
โรงพยาบาลสมิติเวช
โรงเรียน
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย
NIST International School
สิ่งอำนวยความสะดวก
สวนภายในโครงการกว่า 1 ไร่
Social Club
สระว่ายน้ำ
ห้องซาวน่า
ห้องสมุด
ห้องซักรีด (ไม่รวมอุปกรณ์)
Fitness
Sky Lounge
Access Key Card
รปภ & CCTV 24 ชั่วโมง
จุดเด่นของโครงการ
“คอนโดระดับลักส์ชัวรี่ ติดรถไฟฟ้า MRT สุขุมวิท เพียง 20 ม. และ BTS อโศก เพียง 230 ม. พร้อมสวนส่วนกลางกว่า 1 ไร่”
คอนโด BTS อโศก & MRT สุขุมวิท / คอนโดติดรถไฟฟ้า MRT สุขุมวิท & BTS สุขุมวิท
คอนโดโดยรอบ BTS อโศก & MRT สุขุมวิท
Sukhumvit Interchange – Asoke Interchange
ถนนอโศกมนตรี (ถนนสุขุมวิท 21)
ซอยสุขุมวิท 19 (ซอยวัฒนา)
ซอยสุขุมวิท 14 (ซอยแพรกสามัคคี)
ซอยสุขุมวิท 12 (ซอยสุขใจ)
ซอยสุขุมวิท 10 (ซอยแสนสำราญ)
ซอยสุขุมวิท 23 (ซอยประสานมิตร)
ซอยสุขุมวิท 27 (ซอยประภัทรศร)
ซอยสุขุมวิท 16 (ซอยสามมิตร)
ซอยสุขุมวิท 18 (ซอยพิชิต)
ซอยสุขุมวิท 22 (ซอยสายน้ำทิพย์)
คอนโด BTS อุดมสุข
คอนโด BTS ปุณณวิถี
คอนโด BTS บางจาก
คอนโด BTS อ่อนนุช
คอนโด BTS พระโขนง
คอนโด BTS เอกมัย
คอนโด BTS ทองหล่อ
คอนโด BTS พร้อมพงษ์
คอนโด BTS อโศก
คอนโด BTS นานา
คอนโด BTS เพลินจิต
คอนโด BTS ชิดลม
ที่ตั้งโครงการ
ถ.อโศกมนตรี (สุขุมวิท 21) เขตวัฒนา กทม.
พิกัด : 13.739029, 100.561017
แผนที่จากทางโครงการ
โครงการ Ashton อโศก เป็นโครงการคอนโด High Rise สูง 50 ชั้น จำนวนยูนิตพักอาศัย 783 ยูนิต จุดเด่นจุดขายจริงๆของโครงการนี้แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องของทำเลที่ตั้งอยู่ในโซนสุขุมวิท บนถนนอโศกมนตรีฝั่งมุ่งหน้าเพชรบุรี ที่เรียกได้ว่าเป็น CBD ของจริง ยิ่งใกล้จุด Interchange ระหว่าง BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ทำเลนี้สะดวกสบายเข้าไปอีกค่ะ
โดยตัวถนนอโศกมนตรีเป็นถนนหลักเส้นสั้นๆ เริ่มต้นที่แยกอโศกซึ่งเป็นจุดตัดระหว่างถนนสุขุมวิทกับถนนรัชดาภิเษกที่มาจากฝั่งคลองเตย และไปสิ้นสุดที่แยกอโศก – เพชรบุรี ถ้าข้ามไปจะเป็นถนนอโศกดินแดง แต่เดิมถนนอโศกมนตรีมีชื่อเรียกว่า “ซอยสุขุมวิท 21 (ซอยอโศก)” และ “ถนนอโศก” และภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น ถนนอโศกมนตรี จนถึงปัจจุบันดังนั้นตามซอยย่อยที่เชื่อมจากถนนอโศกมนตรีจะมีชื่อว่า สุขุมวิท 21 ซอยต่างๆ
ความหนาแน่นของอาคารแค่บนถนนเส้นอโศกมนตรี ก็มีทั้งสำนักงานออฟฟิศตามริมถนน รวมไปถึงโรงแรมชื่อดัง และคอนโดมิเนียมระดับ Hi-end มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ไปจนถึงโรงเรียนและมหาวิทยาลัยชื่อดัง ถ้าวัดกันตามสถานี BTS ถัดไปอีกไม่กี่สถานีก็ทองหล่อ เอกมัยแล้วค่ะ
สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ถือว่าสะดวกสามารถเชื่อมต่อไปได้หลากหลายเส้นทาง เพราะตัวทำเลตั้งอยู่จุดศูนย์กลางและมีทางเชื่อมออกไปยังที่ต่างๆ แต่การจราจรก็หนาแน่นมากตามไปด้วยโดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วนค่ะ โดยจากโครงการสามารถใช้เส้นทางหลักที่เชื่อมกับถนนอโศกมนตรีได้ คือ
ถนนเพชรบุรี โซนฝั่งเพชรบุรีข้ามแยกไปเป็นถนนอโศก-ดินแดงจะไปเชื่อมกับถนนรัชดาภิเษกตรงแยกพระราม 9 และสามารถเข้าถนนดินแดง ถนนพระรามเก้าได้ มีจุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัชตรงอโศก-ดินแดง
ถนนสุขุมวิท สามารถวิ่งเข้าเมืองไปเชื่อมเพลินจิตและพระราม 1 ใช้ไปสยามได้ มีจุดเชื่อมถนนวิทยุ, หลังสวน, ราชดำริ หรือถ้าวิ่งเส้นสุขุมวิทฝั่งออกนอกเมือง ก็จะวิ่งไปผ่านพร้อมพงษ์, ทองหล่อ, เอกมัย จนถึงบางนาวิ่งออกสมุทรปราการได้เลยค่ะ
ถนนรัชดาภิเษก เชื่อมต่อกันที่แยกอโศกสามารถใช้วิ่งตรงมาออกพระราม 4 ได้เลย หรือขึ้นสะพานข้ามไปพระราม 3 ก็ได้ค่ะ โดยจะมีทางด่วนเฉลิมมหานครให้ใช้ค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ซึ่งเป็นจุดเด่นของโครงการนี้จะมี MRT สุขุมวิท โดยทางเข้าสถานีจะอยู่ห่างจากทางเข้าโครงการประมาณ 30 – 40 เมตร สามารถเดินมาขึ้นได้สบายๆและ BTS อโศก ที่มีระยะจากทางเข้าโครงการประมาณ 230 เมตร ซึ่งถือว่ายังอยู่ในระยะเดินสบายอยู่ สามารถเดินมาได้อีกเช่นกันค่ะ
นอกจากรถไฟฟ้าแล้ว ยังมีตัวเลือกอื่นๆอีกมากมายเพราะตัวโครงการอยู่เกือบติดถนนใหญ่อโศกมานตรี เช่น Taxi ที่วิ่งผ่านไปมาหน้าโครงการตลอด สามารถเรียกใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ส่วนทางเลือกรองๆอย่างรถเมล์ก็มีค่ะ โดยป้ายจะอยู่ห่างจากทางเข้าโครงการประมาณ 230 เมตร และมีรถเมล์สาย 38ร, 98ร, 136, 185 ผ่านค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ของโครงการนี้ คงไม่ต้องพูดกันมาก อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าโครงการตั้งอยู่บนทำเลกลางเมืองแบบสุดๆ ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบจึงรายล้อมไปด้วยห้างใหญ่ ห้างหรูหลายแห่ง ที่ใกล้โครงการจนเดินมาได้เลยคือ Teminal 21 แหล่ง Shop ที่มีทั้งร้านในส่วนพลาซ่า และแบรนด์ต่างๆ แม้แต่ร้านอาหารก็มีตั้งแต่ราคาถูกจนถึงร้านขึ้นห้าง โดยเฉพาะ Food Court ของที่นี่ก็ขึ้นชื่อเรื่องความถูกและอร่อย
ขยับออกไปหน่อยก็เป็นทางฝั่งทองหล่อ พร้อมพงษ์ มีห้างใหญ่และหรูในเครือ Tha Mall คือ ห้างตระกูล Em ทั้งหลาย (Emquatier, Emporium และ Emsphere ในอนาคต)
หรือมาทางฝั่งสยามก็ไม่ไกล นั่งรถไฟฟ้า 3 – 4 สถานีก็ถึงแล้ว มี Central World, Siam Discovery, Paragon, Siam Square เป็นต้น
นอกจากห้างใหญ่ๆแล้ว ใกล้ๆโครงการจะมีตลาดนัดหลายแห่ง เนื่องจากบนถนนเส้นนี้มีออฟฟิศเยอะ จึงมีตลาดนัดสำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศให้เลือกหลายแห่งตามมาด้วยค่ะ ส่วนโรงพยาบาลใกล้ๆจะมี รพ.จักษุ รัตนินทร์, รพ.BBH, รพ.สมิติเวช, รพ.บำรุงราษฎร์ และสวนสาธารณะใหญ่ๆก็มีทั้งสวนเบญจกิตติและสวนลุมพินีให้ได้มาวิ่งสูดอากาศบริสุทธิ์กันค่ะ
การเดินทาง
สำหรับการเดินทางในวันนี้เราจะมีการเดินทางให้ดู 2 เส้นทางด้วยกันนะคะ คือการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าและการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
โดยเราจะเริ่มที่การเดินทางด้วยรถไฟฟ้ากันก่อนค่ะซึ่งเป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุดสำหรับโครงการนี้โดยเราจะนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีอโศก และเดินต่อไปด้วยระยะทางประมาณ 230 เมตร จะถึงตั Sale Office และจากสำนักงานขายถัดไปอีกประมาณ 30 เมตร จะเป็นที่ตั้งของตัวโครงการค่ะ
ตอนนี้เราอยู่บน BTS สถานีอโศก มองลงไปยังเส้นอโศกฝั่งมุ่งหน้าเพชรบุรีนะคะ จะเห็นว่าตัวถนนอโศกเป็นถนนใหญ่ ภาพรวมบนสองฝั่งถนนจะมีแต่ตึกสูงๆเรียงรายยาวตลอดเส้นทาง
เราเดินจากบนสถานี BTS ออกมาทางทางออกที่ 3
ออกมาจากตัวสถานีจะมีเส้นทางเชื่อมเข้าห้าง Terminal 21 สามารถที่จะเข้าไปช้อปปิ้งหรือหาร้านอาหารทานได้สะดวกค่ะ
ส่วนอีกทางจะเป็นอินเตอร์เชนจ์ระหว่างสถานีสุขุมวิทและ BTS อโศก
เราจะเดินลงไปดูภายในสถานีสุขุมวิทกันซะหน่อยนะคะ ว่ามีอะไรบ้าง
ภายในสถานีใต้ดินจะมี Metro Mall
ซึ่งด้านในจะเปิดเป็นพลาซ่า มีทั้งร้านขายของต่างๆ เช่น เกมส์, ร้านอาหาร, ร้านขายเสื้อผ้า, ร้านกาแฟและร้านเสริมสวยก็มีให้บริการค่ะ
กลับมาที่ตัวสถานี BTS เราลงมาจากตัวสถานี BTS อโศก แล้วเดินมุ่งหน้าไปตามถนนอโศกฟังมุ่งหน้าเพชรบุรีกันต่อ
เดินจากสถานี BTS อโศกมา ประมาณ 230 เมตร ก็จะถึงที่ตั้งของ Sale Office ของแบรนด์ Ashton ที่เราจะเห็นว่าตั้งอยู่ติดกับ MRT สุขุมวิทเลย ดังนั้นถ้าใครที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินก็สามารถที่จะลงที่ MRT สุขุมวิท ทางออกที่ 1 ก็จะถึงตัว Sale Office เลยค่ะ และจาก mrt เดินไปอีกประมาณ 30 เมตร ก็จะถึงทางเข้าโครงการ Ashton อโศกซึ่งถือว่าเป็นระยะที่ใกล้มากๆสำหรับทำเลกลางเมืองแบบนี้ค่ะ
เข้ามาดูบรรยากาศภายในเซลล์ออฟฟิศซะหน่อย ด้านในจะตกแต่งในสไตล์ Modern Luxury มีชุดโซฟาสำหรับรับรองและมีเคาน์เตอร์เจ้าหน้าที่คอยให้ข้อมูลค่ะ
ส่วนห้องห้องที่เราเห็นทางขวามือจะเป็นห้องตัวอย่างของ Ashton แต่ละโครงการผลัดเปลี่ยนกันไป
การเดินทางด้วยรถยนต์
สำหรับเส้นทางการเดินทางด้วยรถยนต์จะขอยกมาจากที่ทางทีมงานเคยรีวิวไว้แล้วนะคะ โดยเส้นทางที่เราจะใช้เดินทางในครั้งนี้ จะเริ่มต้นจากแยกนางลิ้นจี่ และวิ่งไปตามถนนพระราม 3 , ถนนรัชดาภิเษก ผ่านศูนย์สิริกิตต์ เลยแยกอโศก ให้สังเกตซ้ายมือ MRT สุขุมวิท ทางออกที่ 1 ห่างจากตัวโครงการประมาณ 10 เมตร ก็จะเจอตัวโครงการที่ตั้งอยู่ใกล้กับ MRT สุขุมวิทค่ะ สำหรับใครที่ยังนึกภาพไม่ออก ไปดูภาพประกอบการเดินทางด้านล่างได้เลยค่ะ
สรุปการเดินทาง แยกนางลิ้นจี่ > ถนนพระราม 3 > ถนนรัชดาภิเษก > แยกอโศกมนตรี > ถนนอโศกมนตรี (สุขุมวิท 21) > Ashton อโศก
เริ่มต้นการเดินทางจากถนนนางลิ้นจี่ เมื่อเจอแยกให้เลี้ยวซ้ายไปทางคลองเตย
พอเลี้ยวซ้ายมาแล้ว ให้เบี่ยงออกขวา เพื่อวิ่งสู่ถนนพระราม 3 ทางด้านซ้ายมือจะเป็นจุดขึ้นทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานครค่ะ
ขับต่อมาเรื่อยๆ จะเจอสะพาน ให้วิ่งตรงขึ้นไปเลยค่ะ
ลงสะพาน และวิ่งตรงต่อไป อย่าออกไปเลนซ้ายนะคะ ให้อยู่เลนกลางหรือขวาไว้ เพราะเราจะต้องข้ามสะพานข้ามห้าแยกคลองเตยไปอีก
วิ่งขึ้นสะพานข้ามแยกคลองเตย ตรงไปสู่ถนนรัชดาฯค่ะ
ตอนนี้เรากำลังลงจากสะพาน สังเกตทางด้านซ้ายจะเป็น MRT ศูนย์สิริกิตต์ วิ่งตรงต่อไปค่ะ
ผ่านหน้าศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มุ่งหน้าสู่แยกอโศก
พอเจอแยกอโศกแล้ว ให้วิ่งตรงไปถนนอโศกมนตรี หรือ ซอยสุขุมวิท 21 ค่ะ
ข้ามแยกอโศกไปเลยค่ะ สังเกตทางด้านซ้ายจะเป็นจุด Interchange ของรถไฟฟ้าค่ะ
ผ่านจุดเชื่อมต่อ BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท ด้านหลังคือ เทอมินอล 21 ตลาดสดอโศกจะอยู่ริมถนนใหญ่ ให้ขับตรงไปประมาณ 200 เมตรถึงโครงการค่ะ
โครงการติดกับ MRT สุขุมวิท ประตู 1 เลยค่ะ
ทางเข้าโครงการค่ะ
ถนนและแยกที่สำคัญรอบโครงการ
แยกอโศก-เพชรบุรี : 1.2 ม.
แยกอโศก : 200 ม.
แยกพระราม 9 : 1.9 กม.
แยกพระรามสี่ : 3.7 กม.
แยกวิทยุ : 6.1 กม.
แยกเพลินจิต : 4.5 กม.
แยกทองหล่อ : 4.9 กม.
แยกเอกมัย : 5.2 กม.
แยกราชประสงค์ : 3.5 กม.
ถนนสุขุมวิท : 200 ม.
ถนนเพชรบุรี : 1.2 กม.
ถนนอโศก-ดินแดง : 1.6 กม.
ถนนพระรามเก้า : 2 กม.
ถนนดินแดง : 4.8 กม.
ถนนพระรามเก้า : 1.9 กม.
ถนนรัชดาภิเษก : 6 กม.
ถนนพระราม 3 : 2.9 กม.
ถนนพระรามสี่ : 3.1 กม.
สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ
MRT สุขุมวิท 20 ม.
BTS อโศก 230 ม.
พิพิธภัณฑ์บ้านคำเที่ยง 45 ม.
สยามสมาคม 45 ม.
สภาวิชาชีพบัญชี 50 ม.
Terminal 21 350 ม.
ตลาดสดอโศก 160 ม.
Robinson 500 ม.
คริสตจักรวัฒนา 600 ม.
ร.ร.วัฒนาวิทยาลัย 800 ม.
ร.ร.สาธิตฯประสานมิตร 800 ม.
ม.ศว.ประสานมิตร 800 ม.
ตลาด Pocket 950 ม.
ตลาดแกรมมี่ 800 ม.
รอบๆโครงการ
ทิศเหนือ ติดกับที่อยู่อาศัย สูง 1 – 2 ชั้น และสภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมภ์
ทิศใต้ ติดกับห้าง Terminal 21
ทิศตะวันออกติดกับ พิพิธภัณฑ์บ้านคำเที่ยง และร้าน Black Canyon Coffee
ทิศตะวันตกติดกับอาคารพาณิยช์และทาวน์โฮมสูง 3 – 5 ชั้น
สำหรับวิวโดยรอบโครงการในชั้นพักอาศัยจะไม่มีปัญหาโดนบังวิวในระยะประชิดค่ะ เพราะชั้นพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 10 ขึ้นไป จึงไม่มีตึกที่สูงถึง 10 ชั้นในระยะประชิดที่จะบังทัศนียภาพได้ จะมีก็ทางทิศเหนือคืออาคาร FuramaXclusive Asoke สูง 12 ชั้น และ คอนโดสูง 28 ชั้น ที่อาจจะบังวิวในชั้น 11 – 28 นิดหน่อยค่ะ
มาดูรอบรอบโครงการจัดบ้างค่ะ พื้นที่รอบโครงการติดถนนจะเป็นทางเข้าเป็นถนนส่วนบุคคลเชื่อมไปยังโครงการด้านใน
ด้านหน้าโครงการเลยจะเป็นถนนอโศก
ฝั่งขวามือจะเป็นถนนอโศกฝั่งมุ่งหน้าแยกอโศกที่เราเดินผ่านจะมาเมื่อสักครู่ค่ะ
ส่วนฝั่งซ้ายมือจะเป็นถนนอโศกมุ่งหน้าเพชรบุรี เราจะสังเกตได้ว่าบนถนนเส้นนี้มีตึกสูงอยู่เยอะโดยตึกสูงเหล่านี้จะมีทั้งอาคารสำนักงานและคอนโด
พื้นที่ติดหน้าโครงการฝั่งซ้ายมือจะเป็นร้านกาแฟ Black Canyon บรรยากาศในสวน
ด้านหน้าจะมีคิวพี่วิน ใครที่ขี้เกียจขับรถยนต์ส่วนตัวก็สามารถที่จะเรียกใช้บริการพี่วินได้สะดวกค่ะ
ติดกับร้านกาแฟจะเป็นพิพิธภัณฑ์บ้านคำเที่ยง เป็นพิพิธภัณฑ์บ้านไม้สักโบราณศิลปะแบบทางเหนือ ภายในจัดแสดงพืชพันธุ์ไม้ดอกของไทย รวมถึงสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆของชาวนาและชาวประมงของไทยค่ะ
ภายในบรรยากาศร่มรื่น
ฝั่งตรงข้ามเป็น Office Building
เนื่องจากถนนอโศกเป็นถนนที่มีรถวิ่งเยอะ การจราจรค่อนข้างวุ่นวายจึงมีข้อกำหนดการสัญจรคือช่วงเวลา 6 โมงถึง 9 โมงเช้าจะเป็นเส้นทางเดินรถมุ่งหน้าแยกอโศก 3 เลนและฝั่งมุ่งหน้าเพชรบุรีเปลี่ยนเป็นแค่ 1 เลนนะคะ
เดินมาอีกหน่อยจะเป็นสมาสภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมภ์
ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็น Office Building มีป้ายรถเมล์จุดที่ใกล้โครงการที่สุดค่ะ
ถ้าไปอีกบนถนนอโศกบรรยากาศค่อนข้างคึกคักโดยเฉพาะช่วงเช้าเที่ยงและเย็น เพราะอย่างที่บอกว่ามีอาคารสำนักงานอยู่เยอะมากๆ จึงทำให้มีหนุ่มสาวออฟฟิศเยอะตามไปด้วยช่วงเวลาเช้าเที่ยงและเย็นจึงเห็นผู้คนเดินกันขวักไขว่และรถค่อนข้างติดค่ะ
สำหรับตลาดฝั่งอโศกที่ใกล้โครงการที่สุดจะมีร้านอาหารด้านในอยู่พอสมควรสามารถที่จะเดินมาทานกันได้
ตัวโครงการ
ก่อนจะเข้าข้อมูลโครงการเรามี VDO ภาพจำลองบรรยากาศของโครงการมาให้ชมกันก่อนค่ะ
โครงการ Ashton Asoke เป็นคอนโด High Rise สูง 50 ชั้น ยูนิตพักอาศัยทั้งหมด จำนวน 783 ยูนิต บนที่ดินประมาณ 2-3-47.60 ไร่ มีจุดเด่นของพื้นที่โครงการที่อยู่บนพื้นที่ CBD ของกรุงเทพ
โดยตั้งอยู่ ถนน สุขุมวิท 21 หรือ ตรงแยกอโศก โดยยังเป็นตำแหน่งที่ตัดกันของรถไฟฟ้า BTS และ MRT ท่ามกลางพื้นที่ที่มีความเคลื่อนไหวของชีวิตเมืองที่รวดเร็วและไม่หยุดนิ่ง
โดยโครงการ ASHTON ASOKE ถูกออกแบบโดย A49 ซึ่งมีแนวความคิดหลักในการออกแบบโครงการออกเป็น 3 ส่วน คือ
Serenity หรือ ความสงบนิ่งเรียบง่าย ท่ามกลางความเคลื่อนไหวที่ไม่หยุดนิ่งมากที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร โดยมุ่งเน้นให้เกิดความสง่างามทางรูปลักษณ์ของอาคารที่มีความเรียบง่าย แต่ใส่ใจในรายละเอียดของการออกแบบ
โดยอาคารถูกออกแบบให้เป็นรูปทรงสีเหลี่ยมผืนผ้ามุมโค้ง 4 ปีกอาคาร ทำให้เกิดความบางเบา สง่างาม
Legendary หรือ ซึ่งการเป็นตำนาน เพราะลักษณะพิเศษที่ดินโครงการ ที่มีต้นไม้อายุเก่าแก่และทรงคุณค่าระดับ Legendary Tree ที่หาได้ยาก ซึ่งได้เก็บรักษาต้นไม้ทรงคุณค่าเหล่านี้ไว้ทั้งหมด
ซึ่งต้นไม้ใหญ่เหล่านี้จะทำให้บรรยากาศรอบๆโครงการมีความร่มรื่นร่มเย็น และกลายสภาพแวดล้อมเป็นป่ากลางเมืองที่จะเป็นมรดกสีเขียวของโครงการใจกลางย่านอโศกตลอดไป
Reflection หรือ ภาพสะท้อนสยามฯ การออกแบบที่ให้ความสำคัญในการพัฒนาโครงการ เพื่อเป็นเพื่อนบ้านใหม่ที่มีความสวยงามต่อเนื่อง กับพื้นที่ของสยามสมาคมฯ คุณค่าทางศิลปะวัฒนธรรมแห่งสยาม
สร้างแรงบันดาลใจในการออกแบบรายละเอียดทางสถาปัตยกรรม ภูมิสถาปัตยกรรม และงานออกแบบตกแต่งภายในของพื้นที่ต่างๆในโครงการ
โดยนำองค์ประกอบต่างๆมาประยุกต์ใช้ในรูปแบบเทคนิควิธีการที่ทันสมัยและมีความเป็นสากลเพื่อสะท้อนศิลปวัฒนธรรมของสยามประเทศให้เกิดขึ้นภายในโครงการ
ภาพบรรยากาศบนถนนอโศกมนตรียามค่ำคืน
มาดูโมเดลจำลองหน้าตาของตัวอาคารกันก่อน จะเห็นว่าตัวอาคารจะเป็นสไตล์โมเดิร์น ใช้สีเทาเข้มเกือบดำทั้งอาคารเลยค่ะ สวยหรูตามสไตล์ Ashton
มองจาก Front View จะแบ่งตัวอาคารคร่าวๆได้เป็นชั้นที่จอดรถด้านล่าง (ชั้น 2 – 9) ชั้นส่วนกลางหลักจะดูเหมือนแบ่งอาคารครึ่งๆ ที่ชั้น 35 และ 35M และชั้น Rooftop เป็นสวนหย่อมขนาดใหญ่ค่ะ
ส่วนช่องตรงกลางที่เราเห็นจะเป็นช่อง Sky Lobby มีลักษณะเป็นโถงลิฟท์ที่ใช้กระจกใสทุกชั้น ทำให้เราสามารถมองเห็นวิวเมืองเต็มตาได้ทุกวัน
และในชั้นที่มี Sky Atrium Lobby จะมีพื้นที่พักผ่อน จัดบรรยากาศลงต้นไม้ไว้ให้เพื่อให้ได้สัมผัสธรรมชาติกันเบาๆ ซึ่งชั้นที่มีส่วน Atrium คือชั้น 11, 16, 21, 36, 31, 36, 41, 46
ซูมให้ดู Sky Atrium Lobby ของทุกชั้น จะเห็นว่าใช้กระจกใสเต็มพื้นที่ จากพื้นถึงฝ้า ให้มุมมองที่กว้างจริงๆค่ะ
รูปทรงอาคารจะเน้นหน้ากว้าง ตัวอาคารจะแบนๆ เพรียวๆ ตามรูปทรงที่ดินแบบนี้ค่ะ
นอกจากส่วนกลางที่ชั้น 34 และ Rooftop แล้วยังมีสวนหย่อมที่ชั้น 10
ตัวอาคารฝั่งทิศตะวันตก หรือด้านหลังอาคาร
หน้าตาอาคารทางทิศใต้ ฝั่งติดกับห้าง Terminl 21
พื้นที่รอบๆอาคารโดยคร่าว ทางด้านหน้าอาคารติดกับทางเข้าออกจะเป็นร้าน Black Canyon และ พิพิธภัณฑ์บ้านคำเที่ยง ติดกับทางเข้าออกอีกฝั่งเป็น MRT สุขุมวิท และติดกับอาคารฝั่งทิศใต้เป็นห้าง Terminal 21 และบนถนนใหญ่จะมี BTS อโศก ที่เราสามารถเดินจากโครงการไปได้สบายๆค่ะ
ดูหน้าตาอาคารโดยรวมกันไปแล้ว เรามาดูผังโครงการกันบ้าง เริ่มที่ชั้น 1 เมื่อเข้ามาในที่ดินโครงการ ผ่านถนนทางเข้ามาจะเจอสวนสาธารณะหน้าโครงการฝั่งซ้าย ถนนภายในโครงการจะเป็นแบบขับสวนกันได้ เมื่อเข้ามาถึงหน้าอาคารจะมีจุด Drop Off ส่งผู้โดยสารเพื่อเข้าอาคาร และขับต่อไปทางขวาเพื่อไปเข้าที่จอดรถด้านหลังอาคาร หรือจะจอดในที่จอดรถข้างอาคารก็ได้ค่ะ โดยภายในโครงการมีที่จอดรถ 371 คัน หรือประมาณ 47%
เมื่อเข้ามาในอาคาร ส่วนแรกที่เจอจะเป็น Semi Outdoor Lobby เป็นโถง Lobby ที่มีการจักบรรยากาศโดยรอบล้อมไปด้วยบ่อน้ำและต้นไม้ ถัดเข้ามาด้านในอีกหน่อยจะเป็น Lobby หลัก จากส่วน Lobby จะเชื่อมไปยังโถงลิฟท์ และ Mail Room โดยภายในโถงลิฟท์ จะมีลิฟท์โดยสาร 6 ตัว ส่วน Service Lift แยก 1 ตัว มีอัตราเฉลี่ยลิฟท์โดยสารต่อยูนิตพักอาศัยประมาณ 130 : 1 ถือว่าเกินมาตรฐานมาหน่อย ในเวลาเร่งด่วนอาจจะต้องรอลิฟท์กันนานนิดนึง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องรอดูระบบลิฟท์ของโครงการด้วยว่าจะมีอัตราเร็วเท่าไหร่ค่ะ
มาดูโมเดลจำลองเพื่อจะได้เห็นภาพชัดขึ้นอีกหน่อย เมื่อผ่านประตูทางเข้ามาแล้วจะเจอกันสวนสาธารณะทางซ้ายมือ ภายในสวนลงต้นไม่ไว้ให้ร่มรื่น มีที่นั่งพักผ่อนจัดไว้ให้หลายจุด
ผ่านเข้ามาตามถนนอีกหน่อยจะเข้าไปยังหน้าอาคาร
มาถึงหน้าอาคาร เส้นทางเดินรถจะเป็นถนนทางขวามือ มีจุด Drop Off เพื่อส่งผู้โดยสารเข้าตัวอาคาร เข้าไปในส่วน Semi Outdoor Lobby ก่อน ที่เราจะเห็นว่าตัว Semi Lobby จะมีผนังเปิดโล่ง พื้นโดนรอบเป็นบ่อน้ำ
เส้นทางเดินรถในโครงการเข้ามาเรื่อยๆ
ถึงหลังอาคารก็จะสามารถเข้าไปยังที่จอดรถในอาคารได้ค่ะ
ส่วนพื้นที่อาคารที่ไม่ได้เป็นเส้นทางเดินรถ ทางโครงการก็จะมาเป็นพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนมาให้เยอะเลยค่ะ
ภาพบรรยากาศจำลองส่วน Semi Outdoor Lobby ดูเป็นโถงกว้าง โออ่าเลยค่ะ สวย
ผังอาคารชั้น 2 – 9 จะเป็นส่วนของที่จอดรถทั้งหมด โดยทุกชั้นจะสามารถเข้าถึงโถงลิฟท์ เพื่อขึ้นไปยังส่วนพักอาศัยได้สะดวก
ผังอาคารชั้น 10 จะเป็นส่วนของห้องเครื่อง เข้าถึงได้จาก Service Lift เท่านั้น แต่ก็ยังมีจัด Garden ไว้ ไม่ให้แห้งแล้ง
ผังโครงการชั้น 11 เป็นส่วนพักอาศัยล้วน ลักษณะการวางโถงลิฟท์จะอยู่กลางๆอาคาร ทำให้การเดินไปยังปีกทั้ง 2 ฝั่ง มีระยะไม่ไกลกว่ากันจนเกินไป จะเห็นว่า Type ของห้องพักอาศัยชั้นนี้ส่วนใหญ่จะเป็น 1 Bedroom จะมีห้องมุม 2 ฝั่งอาคารเท่านั้นที่จะได้เป็น Bedroom และจะเป็นแบบนี้เหมือนกันในทุกชั้นค่ะ สำหรับชั้นนี้ ออกจากโถงลิฟท์มาจะเจอกับ Sky Atrium Lobby ให้มาพักผ่อนกันได้
ผังอาคารชั้น 12 – 15 เป็นส่วนพักอาศัยล้วนๆ แต่ชั้นนี้จะไม่มีส่วน Sky Atrium Lobby แต่ผนังของ Lobby ยังเป็นกระจกใส ได้วิวเต็มๆเหมือนกันค่ะ
ผังอาคารชั้น 16 เป็นยูนิตพักอาศัยล้วน การวางห้องเหมือนชั้นอื่นๆ และมีส่วน Sky Atrium Lobby
ผังอาคารชั้น 17 – 20 เป็นยูนิตพักอาศัย ไม่มีส่วน Sky Atrium Lobby
ผังโครงการชั้น 21 เป็นยูนิตพักอาศัยล้วน การวางห้องเหมือนชั้นอื่นๆ และมีส่วน Sky Atrium Lobby
ผังอาคารชั้น 22 – 25 เป็นยูนิตพักอาศัย ไม่มีส่วน Sky Atrium Lobby
ผังโครงการชั้น 26 เป็นยูนิตพักอาศัยล้วน การวางห้องเหมือนชั้นอื่นๆ และมีส่วน Sky Atrium Lobby
ผังอาคารชั้น 27 – 30 เป็นยูนิตพักอาศัย ไม่มีส่วน Sky Atrium Lobby
ผังโครงการชั้น 31 เป็นยูนิตพักอาศัยล้วน การวางห้องเหมือนชั้นอื่นๆ และมีส่วน Sky Atrium Lobby
ผังอาคารชั้น 32 – 34 เป็นยูนิตพักอาศัย ไม่มีส่วน Sky Atrium Lobby
ผังอาคารชั้น 35 เป็นชั้นของ Facility ทั้งชั้น ประกอบไปด้วย Swimming Pool ขนาดใหญ่ใช้พื้นที่กว่าครึ่งนึงของทั้ง Floor โดยภายในสระจะแบ่งพื้นที่เป็น Jacuzzi และ Seating Area ที่จะอยู่ริมสระ สามารถนั่งเพลินๆ ชมวิวสวยๆได้
พื้นที่อีกฝั่งก็จะเป็นส่วนของสระเด็ก, Fitness, ห้องน้ำ ภายห้องน้ำจะมีห้องอาบน้ำ ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
ภาพจำลองบรรยากาศสระว่ายน้ำและพื้นที่พักผ่อน
ผังโครงการชั้น 35 M เป็นส่วนของ Library และ Social Club
ผังโครงการชั้น 36 เป็นยูนิตพักอาศัยล้วน การวางห้องเหมือนชั้นอื่นๆ และมีส่วน Sky Atrium Lobby
ผังอาคารชั้น 37 – 40 เป็นยูนิตพักอาศัย ไม่มีส่วน Sky Atrium Lobby
ผังโครงการชั้น 41 เป็นยูนิตพักอาศัยล้วน การวางห้องเหมือนชั้นอื่นๆ และมีส่วน Sky Atrium Lobby
ผังอาคารชั้น 42 – 45 เป็นยูนิตพักอาศัย ไม่มีส่วน Sky Atrium Lobby
ผังโครงการชั้น 46 เป็นยูนิตพักอาศัยล้วน การวางห้องเหมือนชั้นอื่นๆ และมีส่วน Sky Atrium Lobby
ผังโครงการชั้น 47 ชั้นนี้จะมียูนิตพักอาศัยแค่ครึ่งเดียว มีความเป็นส่วนตัวกว่าชั้นที่ผ่านๆมา โดยจะเป็นส่วนอาคารทางปีกทิศเหนือ ลิฟท์โดยสารก็จะลดลงเหลือครึ่งนึง หรือ 3 ตัว ส่วนพื้นที่ ที่เหลือของชั้นนี้จะเป็นสวนหย่อมค่ะ
ผังโครงการชั้น 48 ชั้นนี้จะมียูนิตพักอาศัยแค่ครึ่งเดียว พร้อมลิฟท์โดยสาร 3 ตัว เช่นกัน
ผังโครงการชั้น 49 ชั้นนี้จะมียูนิตพักอาศัยแค่ครึ่งเดียว พร้อมลิฟท์โดยสาร 3 ตัว
และผังโครงการชั้น 50 ชั้นนี้จะมียูนิตพักอาศัยแค่ครึ่งเดียว พร้อมลิฟท์โดยสาร 3 ตัว เช่นกัน
ผังโครงการชั้น Rooftop จะเป็นส่วนสวนหย่อมเกือบเต็มพื้นที่ค่ะ
แบบห้อง
แบบห้องจะมีแบบ 1 Bedroom และ 2 Bedroom
โดยแบบห้องที่มีเยอะที่สุดจะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom 1 ขนาด 30 – 34 ตร.ม.
ส่วนห้องแบบ 2 Bedroom จะมีชั้นละ 2 ห้องคือห้องขนาด 46 ตร.ม.(2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ) และ ขนาด 64 ตร.ม. (2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ)
เริ่มที่ห้องขนาดใหญ่สุด เป็นห้องมุมฝั่งทิศใต้ Type A ขนาดพื้นที่ใช้สอย 64 ตร.ม. จุดเด่นของห้องมุมทุกห้องคือได้วิว Panorama ผนังกระจกโค้งค่ะ
ห้องขนาดรองลงมา เป็นห้องมุมฝั่งทิศเหนือ Type B ขนาดพื้นที่ใช้สอย 46 ตร.ม. ได้วิว Panorama ผนังกระจกโค้ง
สำหรับห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดใหญ่สุดจะเป็นห้อง Type C พื้นที่ใช้สอย 34 ตร.ม. โดยการวางผังห้องจะมีทั้งหมด 4 แบบแบบมาตรฐานหรือห้องกลาง 2 แบบ และแบบห้องที่อยู่ริมอีก 2 แบบค่ะ
ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดรองลงมาจะเป็นห้อง Type D พื้นที่ใช้สอย 30 ตร.ม. โดยการวางผังห้องจะมีทั้งหมด 3 แบบ แบบมาตรฐานหรือห้องกลาง 2 แบบ และแบบห้องที่อยู่ริม 21 แบบค่ะ
ห้องตัวอย่าง
สำหรับห้องตัวอย่างที่เราจะมาดูกันในวันนี้ จะเป็นห้องแบบ One Bedroom ขนาด 35 ตารางเมตร เรามาดูของจริงกันเลยค่ะ เริ่มจากประตูทางเข้าในห้องมาตรฐาน จะได้เป็นประตู Digital Door Lock
เมื่อเข้ามาด้านในตัวห้อง พื้นห้องส่วนแรกที่เป็นห้องครัว จะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ลายหินอ่อนสีครีม ขนาด 60 x 60 ซม.
พื้นที่ส่วนแรกที่เราเข้ามาเจอเลยจะเป็นพื้นที่ส่วนครัว โดยจะได้เป็นครัวเปิด พื้นที่เชื่อมต่อยาวไปยังห้องนั่งเล่นและห้องนอน ตรงนี้แนะนำให้กั้นเป็นครัวปิดเพิ่มเติมสำหรับคนที่ทำอาหารบ่อยๆค่ะ
ฝั่งซ้ายมือจะเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น
และมี Built – in ชั้นวางของทรงสูงมาให้ 1 บาน สำหรับตู้เก็บของที่มีมาให้ ด้านในจะแบ่งเป็นช่องสำหรับเก็บของซึ่งเราสามารถที่จะใช้เก็บของกระจุกกระจิกหรือเป็นตู้เก็บรองเท้าก็ได้ค่ะ
ด้านบนจะแบ่งเป็นชั้นวางของอีก 2 ชั้น
สำหรับบานเปิดตู้และลิ้นชักทั้งหมดในห้องจะได้เป็นแบบ Soft Close กันกระแทก
มือจับตู้เป็นแผ่นเหล็กยื่นออกมาหน้าตาโมเดิร์นจับสะดวกค่ะ
ฝั่งขวามือจะเป็นชุดเคาน์เตอร์ครัว Built – in ซึ่งตรงนี้ทางโครงการจะมีมาให้กับตัวห้องเป็นมาตรฐาน
มาดูตัวเคาน์เตอร์ชิ้นหลักกันก่อน พื้นที่บนเคาน์เตอร์ด้านบนจะมีซิงค์ล้างจานและเตาไฟฟ้าติดตั้งมาให้ มีพื้นที่เตรียมอาหารนิดหน่อย
โดยตัวซิงค์ล้างจานจะมีเอกลักษณ์ตรงที่ทวงโครงการให้เป็นแผ่นหินอ่อนเหมือนเป็นฝาสำหรับวางปิดอ่างไว้ จะได้เพิ่มพื้นที่เตรียมอาหาร เวลาที่เราไม่ต้องใช้อ่างค่ะ
สำหรับตัวอ่างล้างจานและก๊อกน้ำทรงโค้งจะได้ของ MEX
เตาไฟฟ้าจะได้เตาแบบ 2 หัว ยี่ห้อ MEX เช่นกัน
ลิ้นชักด้านล่างจะแบ่งเป็นตู้เก็บของใต้ซิงค์ล้างจาน + ถึงขยะ, ตู้เก็บของย่อยทางซ้ายมือแบ่งได้เป็น 2 ชั้นและลิ้นชักลิ้นชักที่มีช่องแยกช้อนส้อมไปให้ค่ะ
บานจับตู้จะเป็นแผ่นเหล็กที่ยื่นมาให้จับแบบนี้
สำหรับชุดตู้ Built – in ด้านบน จะมีช่องสำหรับวางเตาไมโครเวฟ (เตาไมโครเวฟไม่ได้แถมมาด้วยนะคะ) ข้างช่องวางเตาไมโครเวฟจะเป็นช่องสำหรับวางเครื่องปรุง สูง 2 ชั้น ด้านบนจะเป็นตู้บานเปิดคู่ด้านในมีกล่องวงจรไฟฟ้าและอีกฝั่งจะเป็นตู้ดูดควัน เปิดออกมาด้านในมีที่เก็บของพอสมควรค่ะ
ตัวบานเปิดตู้จะเป็นแบบสปริง คือต้องกดและตัวบานเปิดจะเด้งออกมา ส่วนเวลาเราจะปิดตู้ก็ต้องออกแรงกดหน่อยนึง เพื่อจะให้บานตู้ปิดสนิทค่ะ
ถัดจากห้องครัวมาจะเป็นพื้นที่ทานอาหารและตรงเข้าไปเป็นห้องนั่งเล่น ฝั่งซ้ายเป็นห้องนอน
เรามาดูพื้นที่ทานอาหารกันก่อน สำหรับพื้นที่ทานอาหารจะอยู่ติดกับห้องครัวและห้องนั่งเล่น พื้นที่ส่วนนี้สามารถวางโต๊ะทานอาหารได้ 2 ที่นั่งแบบพอดีๆ
ให้ดูระยะการวางของโต๊ะทานอาหาร ซึ่งจากระยะที่เหลือคิดว่าอาจจะไม่พอสำหรับวางโต๊ะทานอาหารขนาดใหญ่ขึ้นได้แล้วนะ นอกจากจะใช้เป็นโต๊ะพับก็จะได้เพิ่มมาอีก 1 ที่นั่ง เวลาไม่ใช้ก็สามารถพับเก็บได้ค่ะ
ถัดจากพื้นที่ทานอาหารเข้ามาจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น
โดยทางโครงการวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง มาให้ดูเป็นตัวอย่า งซึ่งดูเหมาะสมกับพื้นที่ดีแล้ว ใหญ่กว่านี้จะแน่นไปค่ะ
ฝั่งตรงข้ามจะติดตั้งเป็นชั้นวางทีวี ซึ่งในห้องจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆ เราสามารถเลือกที่จะ Built – in ตู้โชว์ของได้ หรือจะวางเป็นโต๊ะวางทีวีแบบง่ายๆก็ได้ค่ะ
ระยะดูทีวีของห้องนี้อยู่ที่ประมาณ 1.6 เมตร สามารถวางทีวีขนาด 32″ – 46″ จะได้ระยะดูทีวีที่สบายตา
ถัดจากห้องนั่งเล่นจะเป็นพื้นที่เชื่อมต่อไปยังระเบียงภายนอก โดยประตูที่เชื่อมระหว่างห้องนั่งเล่นและระเบียงภายนอก จะได้เป็นประตูบานเลื่อน 3 ตอน บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกสีดำใสช่วย กรองแสงภายนอกค่ะ
เปิดออกมาด้านนอก พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ และลดระดับลงไปประมาณ 5 ซม
มือจับประตูแบบเซาะร่อง และตัวล็อคหน้าตามาตรฐาน
ขนาดระเบียงที่ได้ค่อนข้างกว้างเลยค่ะ สามารถที่จะวางเก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อนได้ ขนาดระเบียงประมาณ 2.5 x 1 เมตร ส่วนตัวราวกันตกจะได้เป็นราวเหล็กสีดำ
นอกจากนั้นยังได้ชุดหน้าต่างบานเลื่อนคู่ ผสมบาน Fix บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ สามารถเปิด – ปิดเพื่อรับลมได้แบบนี้ค่ะ
กลับเข้ามาได้ในห้อง ต่อมาเราจะไปดูในส่วนของห้องนอนกันต่อ โดยในห้องมาตรฐานจะได้ฉากกั้นห้องมาด้วย แต่จะเป็นแบบเรียบๆ แทน
ให้ดูลักษณะการเปิด – ปิดของผนังกั้น ว่าสามารถบริหารพื้นที่ได้แบบนี้ค่ะ ประโยชน์คือสามารถเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับห้องนอน เหมาะกับช่วงที่มีเพื่อน มีแขกมาเยี่ยมเยียนในห้องค่ะ
เข้ามาในห้องนอนทางโครงการตกแต่งมาในสไตล์ Modern นี้สีดำทึบ ให้ความรู้สึกขรึมและทันสมัย
วางเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
จะเห็นว่าระยะข้างเตียงเหลือพอให้วางโต๊ะหัวเตียงได้
นอกจากนั้นยังมีมุมสำหรับวางโซฟาขนาดย่อมๆ ริมหน้าต่าง เพื่อ Take วิวเมืองด้านนอกได้แบบนี้ค่ะ
บานหน้าต่างภายในห้องนอนที่ได้ จะได้เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งผสมบาน fix 2 คู่ สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้ 1 บาน ที่เหลือจะเป็นบานปิด ใช้รับแสงธรรมชาติได้อย่างเดียวค่ะ
อีกด้านของห้องจะเป็นพื้นที่ Walk – in Closet และห้องน้ำ สำหรับพื้นที่ Walk – in Closet ในห้องจริง ก็จะได้เป็นพื้นที่โล่งๆ สามารถที่จะ Built – in ตู้เสื้อผ้าขนาบสองฝั่งได้ แล้วยังเหลือพื้นที่ตรงกลางกว้างพอให้ยืนแต่งตัวและเดินผ่านเข้าไปยังห้องน้ำได้สะดวกค่ะ
พื้นที่ข้างเตียงฝั่งนี้เหลือเยอะกว่าฝั่งขวา สามารถวางโต๊ะหัวเตียงขนาดใหญ่ขึ้นมาได้อีกหน่อย
เรามาดูในห้องน้ำกันต่อ
สำหรับพื้นห้องน้ำจะได้กระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อนสีเทา พื้นห้องน้ำลดระดับลงมาประมาณ 2 เซนติเมตร
เข้ามาด้านในห้องน้ำ ส่วนแรกที่เราเจอจะเป็นอ่างล้างหน้า โดยเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าเป็น Natural Stone Black Marquina ค่ะ
สำหรับตัวอ่างล้างมือจะได้เป็นทรงสี่เหลี่ยมขนาดค่อนข้างกว้าง ยี่ห้อ Kohler
พร้อมก๊อกน้ำปรับอุณหภูมิได้ ยี่ห้อ Grohe
ติดกับอ่างล้างหน้าจะเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์ และที่แขวนผ้าเช็ดตัวด้านบนค่ะ
สำหรับชุดสุขภัณฑ์ที่ได้จะได้มาครบชุด พร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระยี่ห้อ Kohler ระยะการใช้งานพอดีๆ
ตัวสายชำระหน้าตามาตรฐาน ขนาดพอดีมือ
เหนือโถสุขภัณฑ์จะเป็นที่วางผ้าขนหนูค่ะ
อีกฝั่งของห้องน้ำจะเป็นส่วนของห้องอาบน้ำ
โดยในห้องมาตรฐานจะได้ Shower Box ติดตั้งมาให้แบบนี้ ลักษณะบานเป็นบานเปิดเข้าไปด้านใน
มือจับตัว Shower Box จะเป็นปุ่มยื่นออกมาแบบนี้ค่ะ
พื้นห้องอาบน้ำจะมีธรณีก่อสูงขึ้นมาประมาณ 5 เซนติเมตร เพื่อป้องกันน้ำกระเด็นออกมาภายนอก
ด้านหลังบานประตูจะมีตัว Stopper ติดไว้ให้เพื่อป้องกันการเปิดประตูกระแทกผนังค่ะ
ขนาดห้องอาบน้ำอยู่ที่ประมาณ 1.3 x 0.9 เมตร พอให้ยืนอาบได้สบายๆไม่อึดอัด
สวนผักบัวที่ได้ติดตั้งมาในห้องน้ำจะได้ 2 ชุด เป็นแบบ Rain Shower และ Hand Shower
ตัวฝักบัว Hand Shower ปรับระดับได้ มาพร้อมที่วางสบู่ ขนาดของฝักบัวค่อนข้างใหญ่โดยชุดประกวดทั้งหมดจะได้ยี่ห้อ grohe
และฝักบัวแบบ Rain Shower ปรับอุณหภูมิได้ ติดตั้งมาให้บนเพดานแบบนี้ค่ะ
สำหรับสวิทช์ไฟและปลั๊กไฟทั้งห้องจะได้ใช้ของ Schnider หน้าตาแบบนี้ค่ะ
ราคา
ราคาห้องเริ่มต้นปัจจุบัน 7 ล้านบาท (อ้างอิงจากราคา Resale ปัจจุบัน)
ราคาต่อตร.ม. เริ่มต้น ประมาณ 230,000 บาท / ตร.ม. (อ้างอิงจากราคา Resale ปัจจุบัน)
กองทุนแรกเข้า 1,000 บาท ต่อ ตารางเมตร
ค่าส่วนกลาง 70 บาท ต่อ ตารางเมตร
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ : Ashton Asoke ไม่ได้แค่เอาชื่ออโศกมาประดับเก๋ๆ แต่อยู่ในอโศกจริงๆ โดยโครงการจะตั้งอยู่บนถนนอโศกมนตรีฝั่งมุ่งหน้าเพชรบุรี ใกล้ MRT สุขุมวิทในระยะ 20 เมตร และ BTS อโศกในระยะ 230 เมตร และยังใกล้ Terminal 21 ในระยะเดินถึงได้สบายๆ
นอกจากนั้นสภาพโดยรวมก็มีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก บนถนนอโศกมนตรีรายล้อมไปด้วยสำนักงานออฟฟิศ ร้านค้า ร้านอาหารที่มีตั้งแต่แบบข้างทางไปจนถึงร้านอาหารหรูๆตามโรงแรมและห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่างๆ หน้าโครงการเลยจะมีร้านกาแฟ Black Canyon ถัดออกมาหน่อยจะมีตลาดอโศกและตลาดขายอาหารย่อยๆ หลายแห่งที่มีไว้รองรับหนุ่มสาวออฟฟิศ และข้อดีอีกอย่างคือถึงแม้ว่าตัวโครงการจะอยู่กลางเมืองแบบนี้ แต่ที่ดินจริงๆจะไม่ได้อยู่ติดถนนหลัก โดยทางเข้าโครงการจะมีถนนรองระยะทางประมาณ 60 เมตร ทำให้ภายในโครงการมีความเป็นส่วนตัว ไม่พลุกพล่านค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : เนื่องจากตัวโครงการตั้งอยู่ในทำเลกลางเมืองขนาดนี้ การเดินทางไปไหนมาไหนด้วยรถยนต์ก็ต้องสะดวกแน่นอน แต่ก็มีข้อเสียอยู่หน่อยตรงที่การจราจรค่อนข้างหน้าแน่นถึงหนาแน่นมากในช่วงเวลาเร่งด่วน
ถนนอโศกมนตรีสามารถใช้เชื่อมถนนสุขุมวิท ใช้วิ่งไปโซนทองหล่อ และออกนอกเมืองไปบางนา สมุทรปราการได้ หรือจะใช้วิ่งเข้าเมืองไปทางเพลินจิต, ชิดลม, สยามและวิ่งเข้าเขตพระนครได้
หรือใช้เส้นรัชดาภิเษกไปโซนพระราม 4 วิ่งเข้าสาทร, สวนลุม, สีลม, สามย่านได้เลย และถนนเพชรบุรีจะเป็นเส้นที่วิ่งขนานกับสุขุมวิททั้งเข้าและออกเมือง สามารถเชื่อมกับท้ายซอยของสุขุมวิทต่างๆได้
นอกจากนั้นเส้นอโศกจะตัดกับแยกพระราม 9 มีถนนสำคัญอีก 3 เส้นคือ ดินแดงวิ่งไปอนุสาวรีย์ชัยฯ หรือออกวิภาวดีรังสิตได้, ถนนพระรามเก้าวิ่งไปทางพัฒนาการออกมอเตอร์เวย์ได้ และถนนรัชดาภิเษกวิ่งไปผ่าน ห้วยขวาง รัชดาฯวิ่งยาวไปวงศ์สว่างได้เลย โดยจะมีจุดตัดเข้าลาดพร้าว และวิภาวดี มีจุดขึ้น-ลงทางด่วนศรีรัชตรงเส้นอโศกดินแดงค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : สะดวกมากๆ โดยตัวโครงการอยู่ห่างจาก MRT สุขุมวิท 30 เมตร และ BTS อโศก 230 เมตร สามารถเดินมาใช้งานได้อย่างสะดวก หรือถ้าใครไม่อยากเดิน แค่ออกมาหน้าโครงการก็สามารถเรียก Taxi หรือพี่วินเพื่อใช้เดินทางได้สบายๆ แล้วถ้าใครอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศเดินทางด้วยเรือก็มีคลองแสนแสบท่าเรืออโศก ทำให้มีตัวเลือกการเดินทางทางน้ำอีกแบบให้เลือกใช้บริการได้ สามารถใช้ไปเซ็นทรัลเวิลด์, แพลทินัม, เดินเชื่อมไปสยามได้โดยลงท่าประตูน้ำ หรือถ้าไป MBK ก็ไปลงท่าสะพานหัวช้างก็ได้สะดวกดี
นอกจากนั้นรถเมล์ก็มีวิ่งผ่านโดยป้ายจะอยู่ห่างจากทางเข้าโครงการประมาณ 230 เมตร และมีรถเมล์สาย 38ร, 98ร, 136, 185 ผ่านค่ะ สำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัว หรือไม่ชอบขับรถสามารถอยู่โครงการนี้ได้สบายมาก แต่คาดว่าลูกบ้านส่วนใหญ่จะมีรถ แต่ต้องการความสะดวกโดยการใช้รถไฟฟ้ามากกว่าค่ะ
การออกแบบโครงการและวัสดุ : ตัวอาคารออกแบบมา 1 อาคาร สูง 50 + Rooftop บนพื้นที่ดินขนาด 2 – 3 – 47.60 ไร่ การออกแบบยังคงเป็นสไตล์ Ashton เรียบๆ โมเดิร์น และดูดี เน้นสีเข้มๆ ถนนในโครงการเป็นเลนสวน การวางผังดูง่ายๆไม่ซับซ้อน ใช้งานง่ายทั้งเส้นทางรถและจาก Parking เข้าตัวอาคาร ที่จอดรถ 47% มาตรฐาน แต่อาจจะน้อยไปหน่อยสำหรับโครงการที่คาดว่าลูกบ้านน่าจะมีรถยนต์ใช้กันเป็นส่วนใหญ่
การออกแบบในห้องพักอาศัยในโครงการจะมี 3 แบบคือ 1 Bedroom ( 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ) และ 2 Bedroom แบ่งเป็น 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ โดยส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ส่วนห้อง 2 Bedroom จะมีเพียงชั้นละ 2 ห้องเท่านั้น ทางโครงการขายแบบ Fully Fitted มีเฟอร์นิเจอร์มาให้บางส่วนคือ เคาน์เตอร์ครัว, ตู้เก็บของ Built – in บริเวณทางเข้า, ชุดสุขภัณฑ์ครบชุด พร้อม Shower Box
การจัดสรรพื้นที่ในห้อง อ้างอิงจากห้องตัวอย่าง ห้องครัวได้เป็นครัวเปิดระยะการใช้งานไม่แคบ สามารถยืนเตรียมอาหารได้สะดวก พื้นที่ส่วนทานอาหารจะค่อนข้างแน่น ต้องจัดวางโต๊ะดีๆ ถ้าต้องการโต๊ะที่มากกว่า 2 ที่นั่งแนะนำให้ใช้เป็นโต๊ะพับค่ะ ส่วนพื้นที่ห้องนั่งเล่นมาตรฐาน ใช้งานสะดวก สามารถเชื่อมต่อกับห้องนอนได้ โดยทางโครงการจะให้ฉากกั้นระหว่างห้องมาเปิดปิดได้ เป็นผนังทึบ ซึ่งเวลาปิดทั้งบานก็อาจจะทำให้รู้วึกว่าห้องนั่งเล่นแคบไปหน่อย ส่วนห้องน้ำถือว่าทำมาสวยค่ะ ระยะการใช้งานทุกอย่างสามารถใช้งานได้สะดวก ไม่แคบไม่กั๊ก และระเบียงภายนอกกว้างพอให้ใช้งานได้ พร้อมได้หน้าต่างบานสูงติดตั้งมาให้ด้านนอกอีก
วัสดุของโครงการนี้ถ้านับเอาค่าตัวทำเลมาคิดด้วยแล้วถือว่าใช้ของเหมาะสมตามราคาค่ะ โดยประตูทางเข้าห้องเป็นประตู Digital Door Lock, ประตูระเบียงเป็นประตูบานเลื่อน 3 ตอน บานกรอบ อลูมิเนียมสีดำ กระจกดำใส, พื้นห้องครัว เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อน พื้นห้องนอนและห้องนั่งเล่นปูด้วย Engineering Wood ส่วนพื้นและผนังห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหิน,
ได้เคาน์เตอร์ครัวครบชุด อ่างล้างจานและเตาไฟฟ้า 2 หัว ยี่ห้อ MEX พร้อมเครื่องดูดควัน, อ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ Kohler ก๊อกน้ำและฝักบัว Grohe โดยฝักบัวได้แบบ Rain Shower + Hand Shower แบบปรับอุณหภูมิได้ และได้ฉากกั้นห้องอาบน้ำ
สิ่งอำนวยความสะดวก : Facility ของโครงการนี้เน้นพื้นที่สีเขียว ให้พื้นที่นั่งพักผ่อนมาเยอะเลยค่ะ โดยเริ่มต้นจากชั้น 1 มีสวนหน้าโครงการและที่นั่งพักผ่อนรอบอาคาร ภายในตัวอาคารได้ Lobby มา 2 ส่วนคือ Semi Outdoor Lobby มีบ่อน้ำล้อมรอบและตัว Lobby หลัก ส่วน Facility หลักของโครงการอยู่ที่ชั้น 35 และ 35M ประกอบด้วย Swimming Pool ขนาดใหญ่ ภายในสระจะแบ่งพื้นที่เป็น Jacuzzi และ Seating Area , สระเด็ก, Fitness, ห้องน้ำ, Library และ Social Club ส่วนชั้น Rooftop จะเป็นสวนหย่อมทั้งชั้น นอกจากส่วนกลางหลักๆแล้วก็ยังมีสวนย่อยๆที่ชั้น 10 ค่ะ
ลิฟต์โดยสารมี 6 ตัว และ Service Lift 1 ตัว ที่จอดรถชั้น 2 – 9 จำนวน 371 คัน หรือประมาณ 47% ระบบรักษาความปลอดภัยมีรปภ. CCTV และผ่านเข้าออกด้วยระบบ Key Card Access
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ
9.5
อยู่ใจกลางเมืองอโศก ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่าง เดินทางสะดวกใกล้ BTS อโศก, MRT สุขุมวิท
การเดินทาง ใช้รถ
8.0
สามารถเชื่อมออกไปถนนเส้นสำคัญต่างๆได้สะดวก แต่จะติดขัดมากในช่วงเวลาเร่งด่วน
การเดินทาง ไม่ใช้รถ
8.75
ตัวเลือกการเดินทางมีหลากหลาย ทั้ง MRT สุขุมวิท BTS อโศก, รถเมล์, โดยสารทางเรือ , วินมอเตอร์ไซค์ , Taxi
ห้องและวัสดุ
8.0
วัสดุที่ใช้คิดรวบกับค่าตัวทำเลไปด้วยอยู่ในระดับมาตรฐาน ได้ของดี ขายแบบ Fully Fitted มี ชุดเคาน์เตอร์ครัว, Hob & Hood , สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ + Shower Box, Digital Doorlock
สิ่งอำนวยความสะดวก
8.5
Facility มีมาให้ครบอยู่ที่ชั้น 35 และ 35 M นอกจากนั้นยังมีพื้นที่พักผ่อนให้อีกหลายส่วน ออกแบบมาสวย น่าใช้
ความคุ้มค่ากับราคา
8.5
ได้ทำเลทองมากๆ อยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก ใกล้ BTS MRTใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ ใกล้ห้างใหญ่ ราคายังคงขึ้นเรื่อยๆจากวันเปิดตัว
คะแนนรวมเฉลี่ย
8.54
ดีมาก
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
TEL : 02-316-2222
WEBSITE : http://www.ananda.co.th/condo/ashton/ashton-asoke/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
ขาย คอนโดหรู Ashton Asoke
ราคา 8 ล้านบาท
1 ห้องนอน ห้องหัวมุม ชั้น 15
31 ตรม. ห้องใหม่พร้อมอยู่ ตกแต่งเรียบร้อยแล้ว
สนใจติดต่อ คุณเกด
โทร/ไลน์ : 082-654-2149
ขาย คอนโดหรู Ashton Asoke
ขาย 8 ล้านบาท (พร้อมผู้เช่า)
1 ห้องนอน ห้องหัวมุม ชั้น 15
31 ตรม. ห้องใหม่พร้อมอยู่ ตกแต่งเรียบร้อยแล้ว
สนใจติดต่อ คุณเกด
โทร/ไลน์ : 065-464-7459
โทร/ไลน์ : 082-654-2149
Ashton Asoke
Located; 0เมตร MRT BTSอโศก, Terminal21อโศก, ใจกลางสี่แยกอโศก, สวนเบญจกิติ(สวนที่ใหญ่ที่สุดใน กทม. ชั้นใน)
.
.
– 1Bedroom 33.31sqm
– ชั้น 25+
– เฉลี่ยแค่ 215,000/sqm!! (ถูกกว่าตลาด 260,000/sqm.)
.
*จองตอนนี้ได้ส่วนลดอีก
ติดต่อดูห้องจริงได้ที่;
Tel. 0958804634, 0955466497 (เนสท์ ครับ)
LINE@: @thenestt