EP.339 รีวิว พฤกษาวิลล์ 73 พัฒนาการ Pruksa Ville 73 Pattanakarn
สวัสดีผู้อ่าน Homenayoo ที่รักทุกคนค่ะ วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ พฤกษาวิลล์ 73 พัฒนาการ (Pruksa Ville Pattanakarn) เป็นอีกหนึ่งโครงการน้องใหม่ใน “พฤกษา Avenue” ซึ่งมีโครงการรุ่นพี่เกิดขึ้นแล้วหลายโครงการค่ะ ตัวอเวนิวอยู่ในซอยพัฒนาการ 38 โดยโครงการเป็นทาวน์โฮมและบ้านแฝด 2 ชั้น มีบ้านทั้งหมด 3 แบบ บนที่ดินเริ่มต้น 18 ตารางวา ในราคาเริ่มต้น 2.799 ล้านบาท โครงการจะเป็นอย่างไร เราไปดูรายละเอียดกันเลยค่า
ชื่อโครงการ | พฤกษาวิลล์ 73 พัฒนาการ Pruksa Ville 73 Pattanakarn |
เจ้าของโครงการ | พฤกษา เรียลเอสเตท / Pruksa Real Estate |
ลักษณะโครงการ | – บ้านแฝด 2 ชั้น – ทาวน์โฮม 2 ชั้น |
พื้นที่โครงการ | 52-1-81.8ไร่ |
จำนวนบ้าน | 470 ยูนิต |
พื้นที่ใช้สอย | – บ้านแฝด 135 ตร.ม. – ทาวน์โฮม 95-120 ตร.ม. |
เนื้อที่บ้าน | – บ้านแฝด 38 ตร.วา – ทาวน์โฮม 18.5-21 ตร.วา |
จำนวนห้อง | 3 ห้องนอน, 2-3 ห้องน้า |
ที่จอดรถทั้งหมด | 1-2 คัน |
โซน | เขตสวนหลวง |
ขนส่งสาธารณะ | n/a |
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ซอยพัฒนาการ 38 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม. |
กำหนดการ | เปิดตัว ก.พ. 2558 |
ปีที่สร้างเสร็จ | พ.ศ. 2560 |
ราคา | เริ่มต้น 2.799 ล้านบาท |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | 30 บาท/ตร.วา ค่าส่วนกลางพฤกษา อเวนิว 5 บาท/ตร.วา |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก | – The Bale House – สระว่ายน้ำระบบเกลือ – สวนสาธารณะ – ระบบประตูล็อก 2 ชั้น – Auto Access Card – CCTV – รปภ. 24 ชม. |
จุดเด่นของโครงการ | พฤกษาวิลล์ สไตล์ชีวิต…คิดรอบด้าน |
ที่ตั้งโครงการ
ซอยพัฒนาการ 38 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม.
พิกัด : 13.719268, 100.632578
แผนที่จากทางโครงการดูเข้าใจง่ายดีค่ะ
โครงการ พฤกษาวิลล์ 73 พัฒนาการ ตั้งอยู่ในพฤกษา อเวนิว (Pruksa Avenue) ซึ่งเป็นที่ดินขนาดใหญ่ที่รวมโครงการบ้านและทาวน์โฮมของแบรนด์พฤกษาไว้หลายโครงการ ปัจจุบันนี้ก็โครงการในพฤกษา อเวนิวก็มีอยู่ประมาณ 12 โครงการแล้วค่ะ โดยตัวพฤกษา อเวนิวนี้จะมีที่ตั้งอยู่ในซอยพัฒนาการ 38 เข้าซอยมาจากถนนพัฒนาการประมาณ 1.2 กิโลเมตร ส่วนตัวโครงการ พฤกษาวิลล์ 73 พัฒนาการ จะเข้ามาจากปากซอยพัฒนาการ 38 ประมาณ 2.4 กิโลเมตรค่ะ
ถนนพัฒนาการเป็นถนน 6 เลน เส้นสั้นๆ ที่มีจุดเริ่มต้นที่สี่แยกตลองตันจุดตัดถนนเพชรบุรีและถนนรามคำแหง ยาวไปตัดกับถนนศรีนคริทร์ที่แยกพัฒนาการและสิ้นสุดที่ถนนสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) นอกจากนั้นยังมีทางลัดที่สามแยกพัฒนาการ 25 ที่เป็นทางลัดเชื่อมกับถนนกำแพงเพชร 7 เส้นวิ่งเลียบทางรถไฟไว้ใช้หนีรถติดไปออกหลังรามคำแหงเชื่อมเส้นพระราม 9 ได้ค่ะ ส่วนสภาพแวดล้อมโดยรวมบนถนนพัฒนาการจะเป็นอาคารพาณิชย์, ตึกแถวและโครงการแนวราบเป็นส่วนใหญ่
การเข้าถึงโครงการถ้ามาจากในเมืองสามารถใช้เส้นพระราม 9, ถนนเพชรบุรี, ถนนรามคำแหง เพื่อเข้าทางหลักที่จะใช้เข้าตัวโครงการได้ นั่นคือถนนพัฒนาการแล้ววิ่งบนถนนพัฒนาการฝั่งมุ่งหน้าถนนสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) หรือถ้าใครใช้เส้นนอกเมืองก็สามารถใช้เส้นศรีนครินทร์เข้าถนนพัฒนาการได้ที่แยกพัฒนาการซอยพัฒนาการ 38 จะอยู่ฝั่งมุ่งหน้าแยกคลองตัน หรือจะใช้เส้นสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) เข้าพัฒนาการก็ได้ค่ะ ส่วนการจราจรบนถนนเส้นนี้ค่อนข้างติดแต่ถือว่ายังน้อยเมื่อเทียบกับเส้นอ่อนนุชและรามคำแหง เพราะฉะนั้นใครต้องเข้าไปทำงานในเมืองต้องเผื่อเวลากันให้ดี หรือจะใช้บริการรถไฟฟ้าก็เป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ
สำหรับการเดินทางโดยรถสาธารณะอาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่นักเพราะตัวโครงการเข้าซอยมาค่อนข้างลึกแถมยังอยู่เกือบท้ายสุดของตัวพฤกษา อเวนิวเลยด้วย การเดินทางเข้าถึงโครงการก็ต้องใช้บริการ Taxi หรือไม่ก็พี่วินที่จะมีอยู่ช่วงต้นและช่วงกลางๆซอยพัฒนาการ 38 เท่านั้น และถ้าจะออกจากโครงการไปข้างนอกก็จะลำบากกว่าอีกหน่อยเพราะโดยปกติในโครงการจะไม่มี Taxi ผ่านไปมาอยู่แล้ว พี่วินก็ไม่มี ต้องเดินมากลางๆซอยซึ่งค่อนข้างไกลแต่ถ้าใครฟิตๆ จะเดินมาก็ได้แต่เหนื่อยหน่อยนะ ดังนั้นทางเลือกที่เราจะแนะนำคือต้องเรียก Taxi เข้ามารับค่ะ นอกจากนั้นก็จะมีรถไฟฟ้าสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ BTS อ่อนนุช, Airport Link สถานีหัวหมากและรามคำแหงแต่ยังไงก็ไกลจากตัวโครงการค่อนข้างมาก ต้องอาศัย Taxi อยู่ดีค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินของโครงการนี้ไม่มี เพราะร้านอาหารต่างๆส่วนใหญ่จะอยู่ในซอยพัฒนาการ 38 ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนจึงมีเต็นท์ขายอาหารและร้านอาหารเล็กๆที่เป็นของชาวบ้านแถวนั้น ที่หน้าปากซอยก็มี Family Mart พอให้พึ่งพิง ส่วนความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้างออกมาหน่อยจะมี Tesco Lotus ที่อยู่ระหว่างซอยพัฒนาการ 43 กับ 45 และ Max Value ที่ใกล้ๆกับแยกพัฒนาการ ส่วนพวก Community Mall ก็มีให้เลือกหลายที่เหมือนกัน ที่ใกล้ที่สุดจะเป็น London Street จะเป็นแหล่งรวมร้านอาหารในเครือ MK ค่ะ ไกลออกมาหน่อยก็จะมี Thanya Park บนถนนศรีนครินทร์, The Nine พระราม 9 และ PickaDaily คอมมิวนิตี้มอลล์สไตล์อังกฤษ บนถนนสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) ส่วนห้างใหญ่ๆที่อยู่ใกล้โครงการก็จะมี Paradise Park, Seacon Square บนถนนศรีนครินทร์ หรือ Central พระราม 9 บนถนนพระราม 9 ส่วนโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดคือ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ค่ะ
การเดินทางไปโครงการในวันนี้เราจะเริ่มเก็บภาพให้ดูตั้งแต่ถนนรามคำแหงเข้าแยกคลองตันซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของถนนพัฒนาการ ตรงไปตามถนนพัฒนาการเรื่อยๆ แล้วกลับรถใต้อุโมงค์ก่อนถึงซอยพัฒนาการ 39 เมื่อขึ้นมาจากอุโมงค์ก็ตรงมาอีกหน่อยถึงซอยพัฒนาการ 38 เลี้ยวเข้าซอย ขับไปตามทางประมาณ 2 กิโลเมตร ก็จะเข้าไปในอาณาจักรพฤกษา อเวนิว ขับตามทางไปเรื่อยๆเจอวงเวียนแรกเลี้ยวขวา เมื่อเจอวงเวียนที่ 2 เลี้ยวซ้าย โครงการจะอยู่ทางขวามือค่ะ
สรุปเส้นทางการเดินทาง ถนนรามคำแหง > แยกคลองตัน > ถนนพัฒนาการ > ซอยพัฒนาการ 38 > พฤกษา อเวนิว > พฤกษาวิลล์ 73 พัฒนาการ
เริ่มต้นที่ถนนรามคำแหงบริเวณแยกคลองตันซึ่งเป็นจุดตัดถนนเพชรบุรีกับถนนรามคำแหง เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพัฒนาการค่ะ
เข้ามาวิ่งบนถนนพัฒนาการซึ่งเป็นถนน 6 เลน แบ่งเป็นฝั่งละ 3 เลนค่ะ
ตรงมาเรื่อยๆจะเจอแยกใต้ทางด่วนพัฒนาการ เลี้ยวซ้ายไป พระราม 9 และรามอินทรา และแยกนี้จะเป็นแยกที่เป็นจุดขึ้นลงทางด่วน(รามอินทรา – อาจนรงค์) ที่ใกล้โครงการที่สุดด้วยค่ะ
จากแยกถ้าเลี้ยวขวาจะไปบางนา-ดาวคะนอง และดินแดง-แจ้งวัฒนะได้ค่ะ
ยังไม่ทันจะพ้นแยกเราก็เห็นป้ายบอกทางไปโครงการแล้วค่ะ
ตรงมาเรื่อยๆจะเจออีกแยก คือแยกพัฒนาการ 25 ซึ่งสามารถพาเราไปพระราม 5 และรามคำแหงได้ค่ะ
มี Mini BigC ในปั๊มปตท. ที่ฝั่งตรงข้าม
ผ่านสะพานข้ามคลองลาว
เลยสะพานมานิดเดียวเราก็จะเห็นป้ายกลับรถ ก็ให้เตรียมชิดขวาตามป้ายบอกได้เลยค่า
ชิดขวามาเรื่อยๆจะเห็นทางลงอุโมงค์กลับรถ ส่วนซ้ายมือก็จะเป็นถนนพัฒนาการ ตรงไปเรื่อยๆจะไปผ่านแยกพัฒนาการและไปสุดที่ถนนสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช)
ลงอุโมงค์แล้วว
ตอนนี้เราก็มาอยู่อีกฝั่งกันแล้วค่ะ
ขึ้นมาจากอุโมงค์ก็ชิดซ้ายไว้นะคะ ไม่ต้องรีบร้อนเปลี่ยนเลน เพราะซอยพัฒนาการ 38 นี้อยู่ไม่ไกลค่ะ
ข้ามสะพานลาวกันอีกครั้ง
เห็นสะพานนี้แล้วก็เตรียวเลี้ยวซ้ายได้เลยค่ะ
เข้าซอยพัฒนาการ 38
เข้ามาในซอยพัฒนาการ 38 แล้วขับตรงไปอีกประมาณ 1.2 กม. ก็จะถึงปากทางเข้าพฤกษาอเวนิวค่ะ ส่วนสภาพแวดล้อมในซอยพัฒนาการ 38 จะเป็นชุมชนมุสลิม ช่วงต้นซอยจะมีร้านอาหารและมัสยิด ถัดมาในซอยลึกๆหน่อยจะเป็นอพาร์ทเมนท์และที่พักอาศัยทั้งทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยวค่ะ
ที่ปากซอยจะมี Family Mart และคิวพี่วินอยู่ด้วยค่ะ
ถัดมาเป็นเต็นท์ขายอาหาร มีทั้งของสด ของแห้ง อาหารสำเร็จค่ะ
ตามทางก็จะมีร้านขายอาหารและร้านขายของชำ
ข้ามสะพานข้ามคลองพระโขนง – คลองบ้านป่า
ลงมาจากสะพานจะเจอมัสยิดอันวารุ้ล อับร๊อค ซึ่งลูกบ้านในโครงการพฤกษาอเวนิวก็อาจจะได้ยินเสียงละหมาดกันบ้างนะคะ
ขับตามทางในซอยมาเรื่อยๆ ช่วงกลางๆซอยจะเริ่มเป็นที่พักอาศัยมากขึ้น มีอพาร์ทเมนท์ 2 – 4 ชั้น
เข้ามาอีกนิดช่วงใกล้ๆถึงพฤกษา อเวนิวจะเป็นทาวน์เฮาส์สูง 2 – 3 ชั้น
ถึงตัวทางเข้าพฤกษา อเวนิวแล้วค่ะ ส่วนถนนทางขวาที่ติดกันนั้นจะเป็นซอยตันนะคะ
เข้ามาปุ๊ป เราจะเจอป้อมรปภ. ต้องรับบัตรเข้าโครงการค่ะ
สองโครงการแรกที่เจอคือโครงการ Patio และ The Plant
ตรงมาเรื่อยๆจะโครงการ The Palm และวงเวียนแรก เราเลี้ยวขวา
ตรงมาจะเจอโครงการภัสสร เพรสทีจ
โครงการ Villette Lite ทางซ้ายมือ
และเจอโครงการ The Palm พร้อมวงเวียนจุดที่สอง จากตรงนี้เราเลี้ยวซ้ายค่ะ
เลี้ยวซ้ายมาเราจะเจอโครงการพฤกษาวิลล์ 73 เป็นโครงการแรกทางขวามือค่ะ
ก่อนที่เราจะไปดูรายละเอียดอื่นๆของโครงการ เดี๋ยวจะขอเล่ารายละเอียดของตัวพฤกษา อเวนิวให้อ่านกันก่อนนะคะ ตัวพฤกษา อเวนิว (Pruksa Avenue) เป็นกลุ่มโครงการแนวราบของพฤกษาบนผืนที่ดินขนาดใหญ่ โดยมีการวางผังให้ทุกโครงการมีถนนเชื่อมถึงกันหมด ซึ่งขอบเขตถนนของโครงการแต่ละเส้นจะสิ้นสุดที่สะพานเชื่อมต่อถนนในซอยพัฒนาการ 32, 38 และ 44
โดยที่ซอยพัฒนาการ 38 คือทางเข้าหลักของโครงการที่เราถ่ายภาพการเดินทางมาให้ดูกันไปแล้วในตอนต้น ส่วนซอยพัฒนาการ 32 และ 44 นั้นยังคงเป็นถนนบนที่ดินส่วนบุคคลที่ตอนนี้ยังสามารถใช้เป็นทางรองสำหรับเข้าออกโครงการได้ค่ะ
นอกจากทางหลักที่เชื่อมต่อกับถนนพัฒนาการแล้วยังมีเส้นทางลัดท้ายโครงการอีก 2 เส้นทางคือซอยอนามัยที่สามารถใช้ลัดเลาะไปยังถนนศรีนครินทร์ และซอยอ่อนนุช 39 ที่ใช้ลัดไปออกถนนสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) ได้เช่นกันค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ด้านหน้าโครงการเป็นโครงการเพื่อนบ้าน Villette Lite
ซ้ายมือเป็นถนนภาระจำยอมกว้าง 12 เมตร ของพฤกษาอเวนิวเส้นทางนี้จะพาเราไปทางด้านหน้าของโครงการ
ส่วนทางขวามือเป็นสะพานข้ามคลอง เป็นจุดสิ้นสุดของถนนเส้นนี้ค่ะ
ติดกับรั้วโครกงารเป็นถนนเข้าบ้านคลองจวญ ซึ่งเป็นถนนส่วนบุคคลค่ะ
เดินมาดูบรรยากาศกันอีกนิดที่ดินติดกับโครงการทางด้านทิศตะวันออกจะเป็นที่ดินเปล่า
ตรงกันข้ามเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ ไม่มีกลิ่นและขยะค่ะ
ก่อนพาเข้าไปชมโครงการ ขออธิบายผังโครงการคร่าวๆก่อนนะคะ โครงการ พฤกษาวิลล์ 73 เป็นโครงการทาวน์โฮมและบ้านแฝด 2 ชั้น จำนวน 470 ยูนิต โครงการแบ่งเป็น 2 เฟส เฟสแรกเป็นทาวน์โฮมล้วนๆ ส่วนเฟสที่สองจะเน้นบ้านแฝดเพิ่มเข้ามาและมีทาวน์โฮมด้วยบางส่วนค่ะ โดยแบบบ้านจะมีทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ ทาวน์โฮม BV3 – MO1 พื้นที่ใช้สอย 95 ตร.ม, BV4 – MO1 พื้นที่ใช้สอย 120 ตร.ม และแบบบ้านแฝด Grand Balina – MO1 พื้นที่ใช้สอย 135 ตร.ม
จากผังจะเห็นว่าโครงการจะมีทางเข้าออกทางเดียวคือทางเข้าหลักจากถนนพฤกษา อเวนิว โดยต้องผ่านป้อมรปภ. ซึ่งมีระบบรักษาความปลอดภัยเป็น Double Security Gate คือประตูรั้วไม้กระดก และประตูบานใหญ่อีกชั้นหนึ่ง ที่คัดกรองลูกบ้านด้วยระบบ Access Key Card ระยะใกล้ เข้ามาในโครงการจะเจอถนน Main ของโครงการกว้าง 16 เมตร และมีถนนรองกว้าง 12.70 เมตร เป็นถนนช่วงสั้นๆตรงท้ายโครงการ ถนนในซอยย่อยกว้าง 9 เมตร ส่วนกลางจะอยู่ที่ต้นโครงการมี Bale House ซึ่งเป็นส่วนของนิติบุคคล,สระว่ายน้ำพร้อมจุดล้างตัวและห้องน้ำ 1 จุด ส่วนสวนหย่อมที่อยู่ติดกันเป็นสวนขนาด 1 – 2 – 93.5 ไร่ พร้อมศาลานั่งพักและ Jogging Track รอบสวน
ตัวบ้านส่วนใหญ่จะหันหน้าไปทางทิศเหนือและใต้ บ้านที่หันหน้าไปทางทิศเหนือโซนฝั่งหน้าบ้านคือห้องรับแขกและห้องนอนจะได้รับแสงแดดช่วงเช้า และจะร่มในตอนบ่าย แต่จะอับลมในช่วงเดือน มี.ค.-ต.ค. ซึ่งเป็นช่วง ฤดูร้อน-ฝน ส่วนบ้านที่หันหน้าไปทางทิศใต้ฝั่งหน้าบ้านคือห้องรับแขกและห้องนอนใหญ่จะได้รับแสงแดดช่วงเช้า และจะร่มในตอนบ่าย แต่จะอับลมในช่วงเดือน มี.ค.-ต.ค. ซึ่งเป็นช่วง ฤดูร้อน-ฝน ซึ่งใครชอบแบบไหนก็ลองไปเลือกชมกันที่โครงการได้ค่ะ
ซุ้มทางเข้าหลักโครงการตกแต่งสไตล์บาหลี แบ่งทางเข้าออกสองฝั่ง
ด้านข้างซุ้มฝั่งซ้ายเป็นสวนหย่อมเล็กๆ พร้อมป้ายโครงการ
ป้ายโครงการพร้อมสวนหย่อมอีกด้าน
ระบบรักษาความปลอดภัย Double Security Gate คือมีประตูรั้วไม้กระดกกั้นและมีประตูรั้วใหญ่ที่เป็นเหล็กโปร่งกั้นให้อีกชั้นหนึ่งค่ะ โดยการคัดกรองลูกบ้านจะใช้ Access Card แบบระยะใกล้ คือต้องยื่นบัตรแตะผ่านรั้วไม้กระดก และมีกล้อง CCTV 2 จุด ส่องหน้าคนขับและส่องป้ายทะเบียน ส่วน Visitor จะต้องแลกบัตรกับพี่ รปภ.ก่อนนะคะ
พื้นถนนเป็น Concrete Stamp
ด้านข้างมีประตูทางคนเดิน
เข้ามาในโครงการเจอถนนหลักกว้าง 16 เมตร
ซ้ายมือคือ Bale House เป็น Sales Office ซึ่งในอนาคตจะเปลี่ยนเป็นนิติบุคคลค่ะ
ด้านหน้า Bale House จะมีที่จอดรถและมีรถกอล์ฟสำหรับผู้ที่มาติดต่อโครงการ
ติดกับ Bale House เป็นสวนหย่อมหลักของโครงการซึ่งเดี๋ยวเราจะไปดูสภาพรวมๆของโครงการก่อนแล้วเราจะกลับมาดูรายละเอียดส่วนกลางกันตอนท้ายนะคะ
ตรงข้ามกับ Bale House และส่วนกลางเป็นบ้านตัวอย่าง
ขวามือเป็นโครงการทาวน์โฮมเฟส 1 ส่วนซ้ายมือเป็นเฟส 2 ที่จะมีบ้านแฝดเพิ่มเข้ามาและกำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ
ถนนหลักจะมีฟุตบาทขนาดประมาณ 1 คนเดินสบาย มีต้นไม้ลงไว้ให้ตลอดทางช่วยให้บรรยากาศร่มรื่น
ถนนในซอยกว้าง 9 เมตร เนื่องจากโครงการเฟส 1 เสร็จเรียบร้อยแล้วจึงมีลูกบ้านเข้าอยู่แล้วบางส่วนค่ะ
หน้าบ้านทุกหลังจะทำเป็นถนนลาดเอียงแบบนี้ จะได้ถอยรถเข้าออกบ้านได้สะดวก
ระหว่างบล็อคบ้านแต่ละชุดจะมีจุดกลับรถให้ พร้อมลงต้นไม้ให้ 1 ต้นแบบนี้ค่ะ
รั้วโครงการสูง 2 เมตร
กลับมาดูที่ Bale House ตกแต่งในแบบสไตล์บาหลี
บรรยากาศด้านใน Sale Office ก็ตกแต่งออกมาได้เข้ากับ Concept บาหลี
ซ้ายมือมีที่นั่งต้อนรับ ด้านหลังจะมีห้องน้ำให้บริการค่ะ
ที่นั่งรับรองอีกด้านหนึ่ง
กลับออกมาด้านนอก Sale Office จะเป็นสระว่ายน้ำ
สระว่ายน้ำเป็นสระระบบเกลือ ขนาด 7 x 15 เมตร ลึก 1.2 เมตร แบ่งเป็นสระเด็กขนาด 2.5 x 5.4 เมตร ลึก 0.4 เมตร
สระระบบน้ำล้น
มีที่นั่ง 1 ชุด บน Pool Deck รอบสระ
และ Day Bed 4 ชุด พร้อมร่มกันแดดและฝน
มุมจาก Day Bed มองไปยังสระว่ายน้ำ
ติดกับ Bale House จะมีจุดล้างตัวและห้องน้ำ
จุดล้างตัวมีฝักบัว 2 ชุด
เข้ามาในห้องน้ำมีอ่างล้างมือพร้อมกระจก 1 ชุด และห้องน้ำสาธารณะ 1 ห้อง
ด้านในห้องน้ำค่ะ
มาที่สวนหย่อมขนาดใหญ่ของโครงการ
มี Jogging Track รอบสวน
และมีที่นั่งคอนกรีตเป็นระยะๆ
ศาลานั่งพักสไตล์บาหลี 1 หลัง
ด้านในโปร่งโล่ง ลมโกรกดี มีที่นั่งพักผ่อน 2 จุด
มุมจากศาลามองออกมาที่สวน
บ้านตัวอย่าง
แบบบ้านในโครงการนี้จะมีทั้งหมด 3 แบบ เป็นแบบบ้านทาวน์โฮม 2 แบบ และแบบบ้านแฝด 1 แบบคือ
โดยทั้ง 3 แบบจะมีแนวทางการออกแบบที่เหมือนกันคือใช้สไตล์บาหลีเป็นหลัก คุมโทนด้วยสีน้ำตาล และมีการเพิ่มรายละเอียดเล็กๆน้อยๆอย่างค้ำยันใต้หลังคา และบานกรอบประตูหน้าต่างที่ใช้อลูมิเนียมอบสีน้ำตาล ทำให้ภาพรวมของบ้านดูเป็นสไตล์บาหลีมากขึ้นค่ะ
เริ่มกันที่แบบบ้านแฝดกันก่อน Type Grand Balina – MO1 พื้นที่ใช้สอยประมาณ 135 ตร.ม. แบบ 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร 1 ห้องครัว 2 ที่จอดรถ บนที่ดินเริ่มต้น 38.5 ตร.วา เมื่อเข้ามาในบริเวณบ้านจะเจอกับพื้นที่จอดรถขนาด 2 คัน ส่วนทางเข้าบ้านจะมีทางเดียวคือประตูทางเข้าหลักหน้าบ้าน ไม่มีประตูที่ใช้เข้าจากที่จอดรถนะคะ เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอกับห้องรับแขกก่อน จากห้องรับแขกจะมีพื้นที่ต่อเนื่องไปยังห้องทานอาหารและห้องครัว โดยที่ห้องครัวจะให้มาเป็นครัวเปิดค่ะ คือจะไม่กั้นห้องมาให้ ซึ่งตรงนี้ถ้าหากเรากังวลเรื่องกลิ่นรบกวนก็สามารถกั้นห้องเองได้ไม่ยาก เพราะเค้าวางแปลนมาให้ค่อนข้างเป็นสัดเป็นส่วนอยู่แล้ว จากครัวจะมีประตูเชื่อมต่อออกไปยังลานซักล้างหลังบ้านได้ค่ะ ส่วนห้องน้ำที่ชั้น 1 นี้จะอยู่ติดกับบันได ซึ่งสามารถเข้าถึงได้จากบริเวณห้องรับแขกและห้องทานอาหาร โดยห้องน้ำที่ชั้น 1 นี้จะมีส่วนอาบน้ำมาให้ด้วยแต่ไม่ได้แยกส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้นะคะ
ขึ้นมาชั้น 2 จะมีห้องนอน 3 ห้อง เป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องและ Master Bedroom ที่จะมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าอีก 2 ห้อง มีระเบียงหน้าบ้านและมีพื้นที่เพียงพอสำหรับจะเป็น Walk – in Closet ได้ ซึ่งทั้ง 3 ห้องนี้จะใช้ห้องน้ำที่โถงบันไดร่วมกัน โดยห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันนี้จะมีทางเข้าออก 2 ทาง คือจากโถงบันไดและ Master Bedroom นอกจากนั้นในห้องน้ำจะมีการกั้นส่วนแห้งส่วนเปียก และแยกส่วนอ่างล้างมือออกจากส่วนห้องน้ำและส่วนอาบน้ำด้วยประตูบานเลื่อนเพื่อที่จะได้ใช้งานได้พร้อมๆกัน แต่ในช่วงเวลาเร่งด่วนที่ต้องใช้ห้องน้ำพร้อมๆกันทุกคนก็อาจจะไม่เพียงพอคงจะต้องลงไปใช้ห้องน้ำที่ชั้นล่างค่ะ
มาดูของจริงกันค่ะ ตัวบ้านตกแต่งสไตล์บาหลี โทนสีของบ้านจะเป็นสีน้ำตาล – เทา ดูดีทีเดียวค่ะ
ส่วนหน้าบ้านจะถูกแบ่งเป็นที่จอดรถและประตูหลักสำหรับเข้าบ้าน
มาเดินดูรอบๆบ้านกันก่อน เริ่มจากฝั่งซ้ายมือ
ทำเป็นสวนและมีทางเดินให้ดูแบบนี้ แต่ของจริงแปลงมาตรฐานจะได้เป็นทรายปรับระดับ แต่ถ้าเป็นแปลงมุมที่ติดถนนหลักของโครงการจะมีปูหญ้ามาให้ค่ะ
พื้นที่หลังบ้านจะมีพื้นที่เหลือนิดหน่อย และจะเห็นว่าบนชั้น 2 ไม่มีที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ ก็ต้องติดตั้งแบบลอยตัวเหมือนในบ้านตัวอย่างแบบนี้ค่ะ
ลานซักล้างหลังบ้านของจริงจะเป็นซีเมนต์ขัดหยาบปาดเรียบ
ส่วนประตูที่เชื่อมลานซักล้างกับครัวจะเป็นบานประตู UPVC สีขาว มีกันสาดเล็กๆเหนือประตูและหน้าต่าง พร้อมดวงไฟฟลูออเรสเซ้นท์ 1 จุด
พื้นที่ที่ติดกันกับเพื่อนบ้านตรงนี้ของจริงจะได้เป็นรั้วทึบสูง 1.5 เมตร
พื้นที่จอดรถของจริงเป็นซีเมนต์ฉาบเรียบ และได้ไฟดาวน์ไลท์มา 1 จุด
จากพื้นที่จอดรถจะมีช่องเชื่อมกับส่วนทางเข้าบ้านเล็กๆแบบนี้ ซึ่งก็ไม่พอที่จะวางอะไรหรือเดินผ่านไปได้ เป็นได้แค่ช่องให้ลมพัดผ่านเพื่อความโปร่งค่ะ
เฉลียงทางเข้าบ้านยกระดับขึ้นมาประมาณ 20 ซม. ขนาดค่อนข้างกว้างประมาณ 1 x 3.6 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม. พื้นที่ด้านข้างสามารถวางชั้นวางรองเท้าหรือที่เก็บของเล็กๆน้อยๆแต่ระวังอย่าให้ใหญ่เกินไปนะคะ เดี๋ยวจะเกะกะทางเดิน
ประตูทางเข้าหลักหน้าบ้านเป็นประตูบานเลื่อนคู่ บานกรอบอลูมิเนียมอบสีน้ำตาล กระจกเขียวตัดแสง ที่จะช่วยกรองความสว่างที่จะเข้าบ้านให้ลดลงได้บ้าง แต่ไม่ช่วยในเรื่องความร้อน ซึ่งถ้าเรากังวลเรื่องความร้อนที่จะเข้าบ้านก็สามารถติดฟิล์มกรองแสงหรือติดม่านกัน UV เพิ่มเติมได้ ส่วนด้านข้างบานประตูเป็นหน้าต่างบานฟิกซ์ไว้เพิ่มช่องแสงให้กับตัวบ้าน ประตูที่เป็นกระจกเต็มบานแบบนี้อาจจะมีความปลอดภัยน้อยกว่ากระจกบานทึบแนะนำให้ติดประตูเหล็กดัดเพิ่มด้านในนะคะ
พื้นชั้น 1 ยกสูงประมาณ 6 เซนติเมตร ตัวรางเลื่อนติดตั้งแบบลดระดับมาให้แล้ว เวลาเดินเข้าออกบ้านจะลดโอกาสสะดุดได้ดีค่ะ
มือจับและตัวล็อคประตู
เข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับห้องรับแขก ซึ่งเชื่อมต่อกับส่วนห้องรับประทานอาหาร พื้นชั้น 1 ทั้งชั้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ความสูงฝ้าเพดาน 2.65 เมตร ผนังได้เป็นคอนกรีตฉาบเรียบทาสีพร้อมบัวผนังสีขาว
ส่วนรับแขกจะได้ไฟดาวน์ไลท์มา 1 ดวง ซึ่งแสงสว่างในเวลากลางคืนน่าจะไม่เพียงพอ แนะนำให้ติดดวงไฟเพิ่มเติม หรือจะดรอปฝ้า แล้วฝังไฟดาวน์ไลท์เพิ่มเหมือนในบ้านตัวอย่างก็เป็นไอเดียที่ดีนะคะ
ห้องรับแขกจะได้แสงธรรมชาติมาจากชุดหน้าต่างบานเลื่อนด้านข้างและประตูทางเข้าหลักของบ้าน
ห้องรับแขกในบ้านตัวอย่างวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง มาให้ดูซึ่งก็เหมาะสมกับพื้นที่ดี แต่ถ้าเราอยากจะขยับขนาดขึ้นเป็น 4 ที่นั่งก็ยังได้อยู่ค่ะ
ฝั่งตรงข้ามเป็นโต๊ะวางทีวีมี Built – in ผนังเพิ่มมาให้ดูเป็นไอเดีย ส่วนของจริงจะได้เป็นผนังเรียบทาสี ซึ่งเราสามารถจะหาชั้นวางทีวีขนาดใหญ่พร้อมชั้นวางของมาใส่ก็ได้หรือจะติดทีวีไว้กับผนังเลยก็ได้ค่ะ จะได้เพิ่มระยะการนั่งดูทีวีด้วย
มีระยะดูทีวีหลังหักระยะวางโซฟาและโต๊ะวางทีวีแล้วก็จะเหลือประมาณ 2.4 เมตร เป็นระยะสามารถวางทีวีจอขนาด 40 – 60 นิ้วได้สบายๆค่ะ
ถัดจากห้องนั่งเล่นเป็นส่วนรับประทานอาหาร มีช่องแสงมา 2 จุด คือหน้าต่างบานเลื่อนบานใหญ่ข้างบ้าน และหน้าต่างบานเลื่อนคู่ฝั่งหลังบ้าน และนอกจากหน้าต่าง 2 บานหลักๆแล้วยังได้อานิสงค์จากหน้าต่างห้องรับแขกมาด้วย
หน้าต่างบานใหญ่ข้างบ้านนอกจากจะใช้เปิดเพื่อให้อากาศถ่ายเทแล้ว ยังสามารถใช้เป็นประตูบานเลื่อนเชื่อมพื้นที่ส่วนทานอาหารกับนอกบ้านได้เผื่อวันไหนมีเพื่อนมาแล้วจัดปาร์ตี้ BBQ นอกบ้านค่ะ
หน้าต่างบานเลื่อนคู่หลังบ้านบานกรอบอลูมิเนียมอบสีน้ำตาล
จัดโต๊ะอาหารสำหรับ 4 ที่นั่งมาให้ซึ่งอาจจะดูหยุมหยิมไปหน่อยเพราะยังเหลือระยะรอบโต๊ะค่อนข้างเยอะ เราสามารถเพิ่มเป็น 5 – 6 ที่นั่งได้ หรือจะคงขนาด 4 ที่นั่งไว้ แล้วเพิ่มขนาดโต๊ะใหญ่ใหญ่ขึ้นหน่อยจะได้ดูกำลังสวยค่ะ
ติดกับส่วนทานอาหารเป็นครัวเปิด, ห้องน้ำ และบันไดขึ้นชั้นบน
มาดูที่ส่วนครัวกันก่อน บ้านตัวอย่างกั้นประตูบานเลื่อนผิวปิดกระจกเงามาให้ดูแบบนี้ ซึ่งถือเป็นอีกไอเดียการกั้นประตูห้องแบบทึบแต่ไม่ทำให้ห้องดูแคบเพราะกระจกเงาจะช่วยสะท้อนหลอกตาให้เหมือนกับห้องดูกว้างขึ้น หรือถ้าใครไม่อยากกั้นประตูทึบก็สามารถใช้บานเลื่อนกระจกใสแทน ก็ยังได้ความโปร่งเหมือนกันค่ะ
พื้นห้องครัวลดระดับลงไปประมาณ 5 ซม.
ห้องครัวจะได้ช่องแสงเป็นหน้าต่างบานเลื่อน 2 บาน
มีประตูเชื่อมครัวกับลานซักล้างหลังบ้านเป็นบาน UPVC
ห้องครัวจะได้ไฟดาวน์ไลท์มา 1 ดวง
จัดชุดเคาน์เตอร์ครัวมาให้ดูเป็นตัวอย่าง เป็นเคาน์เตอร์รูปตัว L เกาะตามผนังไปแบบนี้ ซึ่งทำให้มีพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารค่อนข้างเยอะ
วางอ่างล้างจานใกล้หน้าต่างเพื่อรับแสงแดดช่วยฆ่าเชื้อโรค และลดการอับชื้นค่ะ
ส่วนตำแหน่งวางเตาวางไว้ประมาณนี้ก็โอเคนะคะ มีพื้นที่ด้านข้างสำหรับเตรียมอาหาร ขอแค่ไม่ไปวางใกล้ตู้เย็นมากเกินไปก็พอ
ถัดจากห้องครัวมาต่อที่ห้องน้ำใต้บันไดของชั้น 1 จะอยู่ตรงกลางระหว่างบันไดทางขึ้นไปชั้น 2 และห้องครัวนะคะ
หน้าห้องน้ำก็มีไฟดาวน์ไลท์มาให้ 1 ดวง
มีห้องเก็บของเล็กๆใต้บันได
ด้านในห้องเก็บของมีพื้นที่พอให้เก็บพวกอุปกรณ์ของใช้เล็กๆในห้องน้ำ แต่ไม่พอจะเก็บพวกไม้ถูพื้นหรือไม้กวาด
และเนื่องจากเป็นห้องน้ำใต้บันไดซึ่งความสูงฝ้าจะเสียไปให้กับบันไดค่อนข้างเยอะจึงต้องทดแทนด้วยการลดระดับพื้นเพื่อให้ได้ระยะฝ้าที่เหมาะสมกับการใช้งาน โดยบ้านหลังนี้จะลดระดับพื้นลงไป 2 ขั้นแบบนี้
รวมระยะที่ลดระดับลงมาก็ประมาณ 25 ซม.
ห้องน้ำชั้น 1 พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ผนังกรุกระเบื้องแกรนิตโต้สีเดียวกับพื้นและกระเบื้องตกแต่งตามภาพ ส่วนฟังก์ชั่นใช้งานจะมีให้ครบค่ะ คือมีส่วนอาบน้ำมาให้ด้วยนะคะ
มีหน้าต่างบานกระทุ้งบานเล็กๆมาให้ 1 จุด ไว้รับแสงธรรมชาติและระบายอากาศและถ้าใครชอบเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ก็อย่าลืมติดมุ้งลวดเพื่อนกันแมลงเข้ามาด้วยนะคะ และได้ไฟดาวน์ไลท์มา 1 จุด
อ่างล้างมือแบบลอยตัว Bathroom Design ก๊อกน้ำ Rassland ไม่มีเคาน์เตอร์ใต้อ่างมาให้ ถ้ามีของใช้เยอะก็ต้องหาชั้นวางของมาติดตั้งเพิ่มเติมเอาเอง ขนาดอ่างพอดีๆค่ะ
อีกด้านของห้องน้ำเป็นพื้นที่อาบน้ำและโถสุขภัณฑ์ จากรูปจะเห็นว่าทางโครงการไม่ได้แยกส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้ และระยะระหว่างพื้นที่อาบน้ำกับโถสุขภัณฑ์ค่อนข้างกระชั้นจะกั้นห้องอาบน้ำหรือจะติดม่านก็คงไม่เพียงพอ เพราะฉะนั้นเวลาอาบน้ำโถสุขภัณฑ์ก็ต้องเปียกไปด้วยแบบเลี่ยงไม่ได้ค่ะ
โถสุขภัณฑ์ Karat ระยะการใช้งานพอดีๆ
สายชำระขนาดกลางๆค่ะ
ฝักบัว Rassland มาพร้อมที่วางสบู่
พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 1 x 1.1 พออาบได้พอดีๆไม่แคบเกินไปค่ะ
ขึ้นไปชั้น 2 กันต่อค่ะ บันไดโครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ขั้นบันไดปิดผิวด้วยไม้ยาง ราวบันไดข้างเดียวเป็นเหล็กทาสีน้ำตาล มือจับเป็นไม้สีเดียวกันกับลูกนอนบันได
ที่ชานพักบันไดแบบผสมชานพักสามเหลี่ยม 2 ขั้นและ 4 เหลี่ยม 1 ขั้น โถงบันไดนี้มีการเจาะช่องแสงเพื่อให้โถงบันไดสว่างในเวลากลางวัน จะได้ไม่ต้องเปิดไฟค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 พื้นปูด้วยลามิเนตลายไม้สีเข้ากับบันได
โถงบันไดชั้น 2 จะแจกไปที่ห้องนอนทั้ง 3 ห้องและห้องน้ำที่อยู่ตรงกลาง 1 ห้อง
มองกลับไปที่โถงบันได จะมีไฟดาวน์ไลท์มาให้แค่ 1 จุด แนะนำให้ติดโคมไฟเพิ่มสำหรับตอนกลางคืนค่ะ
เริ่มดูห้องนอนเล็กที่ติดบันไดกันก่อน บานประตูที่ได้จะเป็นบาน HDF สีขาว มือจับก้านโยกตามรูปค่ะ
พื้นห้องจะเป็นลามิเนตปูต่อเนื่องจากโถงไปโดยไม่มีตัวจบกั้นระหว่างห้อง
เข้ามาด้านในจะเป็นห้องขนาดประมาณ 3.6 x 2.2 เมตร บ้านตัวอย่างเค้าจัดมาให้ดูเป็นห้องพักผ่อน/ทำงาน ซึ่งจริงๆเราสามารถจัดเป็นห้องนอนได้ โดยใช้เตียงขนาด 3.5 ฟุตวางแบบเข้ามุมจะพอเหมาะกับขนาดของห้องนี้ค่ะ
มีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานเลื่อน 2 บาน สามารถเปิดสองบานพร้อมกันแล้วปล่อยให้ลมโกรก อากาศจะได้ถ่ายเทค่ะ
ได้ไฟดาวน์ไลท์มา 1 ดวง ซึ่งถ้าเราทำเป็นห้องนอนอย่างเดียวก็ไม่มีปัญหา ไม่ต้องใช้แสงสว่างมากเท่าไหร่ แต่ถ้าจะทำเป็นห้องทำงานหรืออ่านหนังสือละก็ แนะนำให้ติดไฟเพิ่มนะคะ
หน้าต่างบานข้างบ้านนี้แนะนำให้ติดม่านหรือมู่ลี่กรองแสงด้วยนะคะ เพราะบานนี้อยู่ติดกับบ้านแฝดอีกหลังมองไปจะเห็นบ้านข้างๆซึ่งมีตำแหน่งหน้าต่างที่ตรงกัน มองเห็นกันได้เลยค่ะ
ถัดไปเราจะไปดูห้องนอนฝั่งหน้าบ้านกันบ้าง
มาที่ Master Bedroom กันก่อน
ห้องนอนใหญ่ตกแต่งมาในสไตล์บาหลี คุมโทนน้ำตาลเหมือนตัวบ้าน มีช่องแสง 2 จุด คือหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยวข้างเตียงและประตูบานเลื่อนคู่ที่เชื่อมห้องนอนกับระเบียงหน้าบ้านค่ะ
ได้ไฟดาวน์ไลท์มา 1 จุด แนะนำให้ติดไฟเพิ่มนะคะ จะติดเป็นโคมไฟสวยๆหรือจะดรอปฝ้าแล้วฝังไฟเพิ่มก็ได้ค่ะ
เราออกไปดูระเบียงหน้าบ้านกันก่อน ประตูที่เชื่อมห้องนอนกับระเบียงหน้าบ้านเป็นประตูบานเลื่อนคู่ ซึ่งบานประตูค่อนข้างใหญ่แนะนำให้ติดม่านกัน UV จะได้กันความร้อนเข้ามาในห้องและรักษาความ Privacy ไว้ด้วยคะ่
มือจับด้านในและด้านนอก
มีธรณีก่อขึ้นมาสูงประมาณ 15 ซม. เพื่อกันน้ำจากภายนอกกระเซ้นเข้ามาในห้องนอน
พื้นที่ระเบียงขนาดประมาณ 0.8 x 3.3 เมตร พอจะวางชุดโต๊ะกาแฟเล็กๆไว้นั่งจิบกาแฟยามเช้าได้ 1 ชุด หรือใครชอบต้นไม้ก็อาจจะปลูกไม้กระถางเล็กๆได้ค่ะ จะได้สร้างบรรยากาศที่ร่มรื่นให้กับตัวบ้านด้วย
ตัวค้ำยันที่เพิ่มมาให้เข้ากับ Concept โครงการ
กลับเข้ามาในห้องนอน วางเตียงขนาดคิงส์ไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งมีพื้นที่เหลือเฟือสามารถวางโต๊ะเล็กข้างเตียงได้สบายๆค่ะ
พื้นที่ข้างเตียงฝั่งระเบียงเหลือประมาณ 75 ซม.
ปลายเตียงจัดเป็นชั้นวางทีวีให้เป็นตัวอย่าง ซึ่งถ้าใครไม่ชอบดูทีวีจะจัดเป็นชั้นวางหนังสือหรือตู้เก็บของสะสมก็ได้นะคะ
พื้นที่ปลายเตียงยังเหลือประมาณ 1 เมตร ให้วางของได้สบายๆค่ะ
อีกฝั่งของห้องเป็น Walk – in Closet
พื้นที่ข้างเตียงฝั่ง Walk – in Closet ก็ยังเหลือให้เดินได้สบายๆค่ะ
ประตูกั้นระหว่างห้องนอนและ Walk – in Closet ทำเป็นประตูฉลุลายแบบเลื่อนเปิดปิดแบบนี้จะทำให้ดูเป็นของตกแต่งห้องอีกชิ้นสามารถเก็บไว้เป็นไอเดียได้ค่ะ เพราะของจริงเค้าจะมาเป็นห้องเปล่าๆ ไม่มีกั้นห้องมาให้นะ
ด้านใน Walk – in Closet ก็ Built – in ตู้สีเข้มติดผนังมาให้ดูเป็นตัวอย่างแบบนี้ ซึ่งการใช้สีเข้มแบบนี้อาจจะเข้ากับ Concept ของตัวบ้าน แต่ในความเป็นจริงก็แล้วแต่ความชอบของเรานะคะ เพราะใช้สีเข้มแบบนี้จะทำให้ห้องดูแคบและทึบ ถ้าอยากได้ห้องสว่างๆโปร่งๆก็แนะนำให้ใช้เฟอร์นิเจอร์สีอ่อนๆหน่อยจะดีกว่าค่ะ
ห้องนี้จะได้ไฟดาวน์ไลท์มา 1 ดวง กลางห้องแบบนี้ค่ะ
มีช่องแสง 1 จุดเป็นหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยว ตรงนี้จะได้แสงธรรมชาติ เหมาะจะวางโต๊ะเครื่องแป้งสำหรับแต่งหน้าจะได้เห็นสีชัดเจนแต่งหน้าสีไม่เพี้ยนนะคะ
ทางเข้าห้องน้ำจาก Master Bedroom ก็อยู่ในส่วน Walk – in Closet
ประตูห้องน้ำทุกบานในบ้านจะได้เป็นบาน UPVC สีขาว
อย่างที่บอกไปตอนต้นแล้วว่าห้องน้ำที่ชั้น 2 นี้จะสามารถเข้าไปสองทางคือจากห้องนอนใหญ่และจากโถงบันได และนี่คือพื้นที่ทางเข้าที่เชื่อมต่อกันของห้องนอนและโถงบันไดค่ะ
พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. และลดระดับลงไปประมาณ 3 ซม.
เข้ามาในห้องน้ำส่วนแรกที่จะเจอเลยคืออ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงา
อ่างล้างหน้าชั้นบนจะเป็นอ่างล้างหน้าแบบฝังเคาน์เตอร์ยี่ห้อ Parazzo ก๊อกน้ำของ Rassland มีพื้นที่วางของบนอ่างค่อนข้างเยอะแต่ใต้เคาน์เตอร์อาจจะวางของได้ไม่มาก เหมือนเป็นการเจาะช่องเพื่อตกแต่งมากกว่า เพราะฉะนั้นถ้ามีของใช้เยอะๆเราอาจจะต้องหาชั้นวางหรือติดตั้งตู้เพิ่มเติมที่ใต้อ่างก็ได้ค่ะ
ขนาดอ่างค่อนข้างกว้าง ยกขอบสูงป้องกyนน้ำกระเซ็นเปียกเคาน์เตอร์ได้ดีค่ะ
ในห้องน้ำเราจะได้ไฟดาวน์ไลท์ 2 ดวง ที่ส่วนห้องน้ำ 1 ดวง และพื้นที่อาบน้ำอีก 1 ดวง
ส่วนห้องน้ำและห้องอาบน้ำจะถูกกั้นด้วยฉากกั้นกระจกนิรภัยแบบขุ่น เป็นบานเลื่อนแบบนี้ค่ะ ในเวลาเร่งด่วนก็สามารถใช้ห้องน้ำและอีกคนก็สามารถล้างหน้าแปรงฟันไปพลางๆได้พร้อมๆกัน
มือจับของฉากกั้นเป็นวัสดุเดียวกับบานประตู ยกขอบขึ้นมาให้จับได้นิดหน่อยแบบนี้
ด้านหลังฉากกั้นจะมีโถสุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำที่มีกระจกกั้นอาบน้ำมาให้อีก 1 ชุด มีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยว 1 จุดสำหรับระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติ
โถสุขภัณฑ์ของ Karat ตำแหน่งติดตั้งได้มาตรฐาน ระยะใช้งานสะดวกค่ะ
ส่วนฝักบัวอาบน้ำของ Rassland และที่วางสบู่ของ Karat/Kohler
พื้นห้องอาบน้ำจะมีธรณีก่อขึ้นมาประมาณ 6 ซม.
ถ้าเราเข้าห้องน้ำจากทางโถงบันไดก็จะเห็นมุมประมาณนี้ค่ะ
มาที่ห้องนอนเล็กห้องสุดท้าย
ห้องนี้ตกแต่งมาแบบสดใสน่ารักด้วยโทนสีส้ม มีช่องแสง 3 จุดเป็นหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยวฝั่งข้างบ้าน 1 ชุด, หน้าต่างบานฟิกซ์ 1 ชุด และชุดหน้าต่างผสมบานเลื่อนและบานฟิกซ์อีก 1 ชุด จากขนาดของห้องและตำแหน่งการติดตั้งหน้าต่างบานเลื่อนทั้ง 2 บาน จะเห็นได้ว่าเราสามารถเปิดหน้าต่างพร้อมๆกันเพื่อให้ลมโกรกพัดผ่านเตียงได้ วันไหนที่อากาศดีๆก็อาจจะไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศนอนเลยก็ได้นะ แต่อย่าลืมติดมุ้งลวดกันแมลงเข้าห้องด้วยล่ะ
เนื่องจากห้องนอนห้องนี้เป็นห้องที่วางอยู่บนหลังคาที่จอดรถไปครึ่งนึง จึงยังเหลือหลังคาที่จอดรถอีกครึ่งให้วางคอมเพรสเซอร์แอร์แบบนี้ค่ะ
ห้องนี้วางเตียงขนาด 3.5 ฟุต มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
พื้นที่ข้างเตียงที่เหลือประมาณ 50 ซม. สามารถวางโต๊ะเล็กๆไว้เก็บของหรือวางโคมไฟได้ค่ะ
ปลายเตียงก็จัดเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง
ซึ่งตู้เสื้อผ้าที่จัดมาให้ดูจะเป็นตู้เสื้อผ้าบานเปิด เมื่อใช้งานจริงจะค่อนข้างลำบากเพราะระยะปลายเตียงที่เหลือไม่พอ ทำให้เปิดมาแล้วประตู้ชนกับปลายเตียงแบบนี้ค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าใครจะจัด Lay Out ห้องตามแบบบ้านตัวอย่างนี้ก็แนะนำให้ใช้ตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อนจะเหมาะกว่านะคะ
อีกมุมของห้อง
มีพื้นที่เหลือค่อนข้างเยอะ สามารถวางฟูกนุ่มๆไว้นั่งอ่านหนังสือได้แบบนี้ค่ะ
บ้านตัวอย่างหลังที่สองที่จะพามาดูกันจะเป็นแบบบ้านทาวน์โฮม BV4 MO1 พื้นที่ใช้สอย 120 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ โดยแบบบ้านทาวน์โฮมนี้จะมีการวางแปลนที่คล้ายกับแบบบ้านแฝด แตกต่างกันที่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆและพื้นที่รอบบ้านที่จะได้น้อยกว่าบ้านแฝดค่ะ
จากแปลนจะเห็นว่าตัวบ้านจะมีทางเข้าออกแค่ทางเดียวคือทางเข้าหลักหน้าบ้าน เมื่อเข้ามาในตัวบ้านจะเจอพื้นที่หลังประตูสำหรับวางตู้รองเท้าหรือเก็บอุปกรณ์อื่นๆ ถัดมาคือห้องรับแขกที่มีพื้นที่เชื่อมต่อกับส่วนทานอาหารและห้องครัวซึ่งจะมีประตูเชื่อมออกไปยังส่วนซักล้างหลังบ้านได้ ส่วนห้องน้ำจะเข้าได้จากทาห้องครัวและบันไดขึ้นไปชั้น 2 ก็จะอยู่ติดกับห้องรับแขกค่ะ
ขึ้นมาชั้น 2 จะเจอโถงบันได แบ่งออกไปยังห้องนอน 3 ห้องคือห้องนอนใหญ่ที่ฝั่งหน้าบ้านและห้องนอนเล็ก 2 ห้องจะถูกวางไว้ฝั่งหลังบ้าน ส่วนห้องน้ำก็สามารถเข้าได้ 2 ทางเหมือนบ้านแฝดคือ จากห้องนอนใหญ่และโถงบันไดค่ะ
ตัวบ้านภายนอกก็ยังคงความเป็นบาหลีผสมโมเดิร์น เน้นโทนสีน้ำตาลและเทา มีไม้ค้ำยันใต้หลังคาเหมือนแบบบ้านแฝด
หน้าบ้านจะเป็นที่จอดรถ 2 คัน เต็มหน้ากว้างบ้านค่ะ
หลังบ้านเป็นลานซักล้างซึ่งของจริงจะเป็นพื้นซีเมนต์ขัดหยาบปาดเรียบ
พื้นที่จอดรถมีไฟดาวน์ไลท์มาให้ 1 ดวง และโคมไฟติดผนังสีดำข้างประตูทางเข้า 1 ดวง
เฉลียงหน้าบ้านยกสูงขึ้นมาประมาณ 10 ซม. มีความยาวเต็มหน้ากว้าง และมีกว้างประมาณ 90 ซม. ซึ่งเป็นระยะเฉลียงที่ค่อนข้างปลอดภัยสำหรับบ้านไหนที่มีรถไซส์มาตรฐาน แต่ถ้าเป็นรถกระบะที่มีท้ายยาวอาจจะต้องถอยด้วยความระมัดระวังหน่อยนะคะ
บานประตู UPVC กรุผิวลามิเนต
มือจับก้านโยกแสตนเลส จับได้ถนัดมือค่ะ
พื้นบ้านชั้น 1 ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. และยกระดับขึ้นมาประมาณ 4 ซม.
เข้ามาในบ้านจะเจอพื้นที่โถงบันไดก่อนเป็นส่วนแรก ติดกันคือห้องรับแขกเป็นและถัดจากห้องรับแขกไปจะเป็นส่วนของห้องทานอาหาร ความสูงฝ้าเพดาน 2.65 เมตร ผนังฉาบเรียบทาสีพร้อมบัวเชิงผนังสีขาว
ห้องรับแขกจะได้ไฟดาวน์ไลท์ 1 ดวง
หันกลับมาดูที่ประตูทางเข้า หลังประตูจะมีพื้นที่ว่าง สามารถใช้วางตู้วางรองเท้า หรือชั้นเก็บของเล็กๆน้อยๆได้ค่ะ
ถึงแม้ว่าประตูทางเข้าบ้านจะเป็นประตูทึบ แต่ยังมีหน้าต่างบานเลื่อนคู่และบานเลื่อนเดี่ยวที่เป็นช่องแสงให้กับห้องนั่งเล่นได้ค่ะ
หน้าต่างบานเลื่อนคู่เป็นบานเลื่อนเปิดออกด้านข้างแบบนี้ค่ะ
บ้านตัวอย่างวางโซฟาขนาด 2 – 3 ที่นั่งมาให้ดูแบบนี้ซึ่งก็ดูพอดีกับพื้นที่แล้ว แต่ถ้าอยากจะเพิ่มอีกเป็น 4 ที่นั่งก็ยังพอจะไหวหรือถ้าใครชอบโซฟาตัวยาว จะวางโซฟารูปตัว L เกาะไปกับผนังอีกฝั่งก็ยังได้ แต่จะไม่มีพื้นที่ข้างโซฟาเหลือให้วางโต๊ะเล็กแล้วนะ
ส่วนการจัดวางทีวีของห้องรับแขกอาจจะต้องอาศัยฉากหรือผนังลอยแบบนี้เพื่อจะได้กั้นแยกห้องรับแขกกับห้องทานอาหารให้เป็นสัดเป็นส่วนค่ะ
ระยะดูทีวีเหลือประมาณ 1.8 เมตร สามารถวางทีวีขนาดประมาณ 42″ – 47″ จะได้ขนาดทีวีที่เหมาะสมค่ะ แต่เนื่องจากเราสามารถกำหนดระยะดูทีวีตรงนี้ได้เอง จึงขึ้นอยู่กับแต่ละคนนะคะว่าจะวางฉากกั้นวางทีวีไว้ที่ตำแหน่งไหน
ถัดจากห้องนั่งเล่นต่อไปเราจะไปดูกันที่ห้องทานอาหารค่ะ
ที่ห้องทานอาหารจะได้ช่องแสงมา 2 จุดคือบานข้างบ้าน และอีก 1 บานที่ฝั่งหลังบ้าน ซึ่งบ้านตัวอย่างที่เราพามาดูนี้จะเป็นบ้านแปลงมุม จึงได้ช่องแสงมา 2 จุด ตามภาพ แต่ถ้าหากเป็นบ้านแปลงมาตรฐานก็จะได้หน้าต่างมาแค่บานเดียวคือบานหลังบ้านนะคะ
ส่วนทานอาหารจะได้ไฟดาวน์ไลท์มา 1 ดวง ตรงนี้แนะนำให้ติดไฟเพิ่มนะคะ จะเป็นโคมไฟหรือจะดรอปฝ้าเพื่อติดไฟเพิ่มก็ได้ค่ะ
โครงการวางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งมาให้ดูซึ่งเป็นขนาดที่พอดีกับพื้นที่แล้ว ถ้าใหญ่กว่านี้ก็อาจจะเกะกะทางเดิน และใช้งานไม่สะดวกนะ
ติดกับห้องทานอาหารเป็นส่วนของห้องครัว ซึ่งบ้านจริงที่ได้เราจะได้เป็นครัวเปิดนะคะ คือไม่มีการกั้นห้องอะไรมาให้ แต่ถ้าใครกังวลเรื่องกลิ่นที่จะลอยเข้ามาติดเฟอร์นิเจอร์ก็ควรกั้นห้องให้เป็นครัวปิด โดยแนะนำให้ใช้อะไรที่ไม่ทำให้ห้องดูทึบมากไปอย่างประตูบานเลื่อนกระจกค่ะ
บ้านตัวอย่างก็กั้นพื้นที่มาให้ดูด้วยฉากกั้นกระจก ซึ่งฉากกั้นแบบนี้จะไม่ช่วยเรื่องกลิ่นจากการทำอาหารนะคะ แต่ถ้าบ้านไหนคิดว่าคงไม่ทำอาหารทานกันอยู่แล้วก็สามารถเก็บไว้เป็นไอเดียได้เหมือนกันค่ะ
ส่วนของห้องครัวจะมีช่องแสงมาให้ 1 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยว และไฟดาวน์ไลท์ 1 ดวง
ทางโครงการลองวางเคาน์เตอร์ครัวมาให้ดูเป็นแนวทางแบบนี้ ซึ่งก็ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าเหมาะจะเก็บไว้เป็นไอเดียตกแต่งบ้านค่ะ
ส่วนห้องน้ำที่ชั้น 1 ของบ้านหลังนี้จะเข้าได้จากห้องครัว
พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องแกรนิตโต้ และลดระดับลงไปประมาณ 3 ซม.
ในห้องน้ำมีฟังก์ชั่นครบทั้งห้องน้ำและพื้นที่อาบน้ำ แต่ไม่ได้แยกส่วนแห้ง ส่วนเปียกมาให้นะคะ
อ่างล้างมือทรงรีแบบลอยตัวของ Karat และก๊อกน้ำของ Rassland
ติดกับอ่างล้างมือเป็นโถสุขภัณฑ์ของ Karat ตำแหน่งติดตั้งอยู่ใกล้กับพื้นที่อาบน้ำมากๆ เวลาเราอาบน้ำโถสุขภัณฑ์จะต้องเปียกแน่นอนค่ะ
สายชำระขนาดพอดีๆ
ฝักบัวอาบน้ำ Rassland พร้อมที่วางสบู่
ฝักบัวขนาดพอดีๆไม่เล็กไม่ใหญ่ค่ะ
พื้นที่สำหรับอาบน้ำขนาดประมาณ 1.3 x 0.8 เมตร เพียงพอให้ขยับตัวอาบน้ำได้สบายๆ แต่ถ้าจะกั้นห้องอาบน้ำหรือติดม่านกั้นอาบน้ำพื้นที่ขนาดนี้คงไม่เพียงพอนะ
ออกมาจากห้องน้ำมองไปฝั่งหน้าบ้านจะเห็นว่าการใช้ฉากกั้นสำหรับวางทีวีเป็นแบบฉลุจะช่วยให้ภาพรวมของพื้นที่ยังดูโปร่งอยู่ค่ะ
มาที่บันไดขึ้นไปชั้น 2 กันต่อ ตัวบันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กปิดหน้าด้วยไม้สังเคราะห์ ราวบันไดสีน้ำตาลมือจับสีเดียวกันกับไม้ปิดหน้าบันได ส่วนที่ข้างบันไดจะมีช่องเก็บของเล็กๆอยู่ด้วย
ขนาดห้องเก็บของนี้จะเป็นห้องที่ใช้พื้นที่ใต้บันไดที่ยังเหลืออยู่ ก็พอใช้เก็บพวกน้ำยาทำความสะอาดหรือสบู่แชมพูที่เราซื้อมาเก็บไว้ได้ แต่คงเตี้ยไปสำหรับการเก็บไม้ถูพื้นหรือไม้กวาดค่ะ
โถงบันไดทึบไม่มีช่องแสงและไฟส่องสว่างมาให้ แนะนำว่าควรติดดวงไฟเพิ่มเติม อาจจะเป็นไฟติดผนัง ติดเป็นระยะๆ 2 – 3 ดวง หรืออาจจะใช้โคมไฟระย้าเก๋ๆเหมือนในบ้านตัวอย่างนี้ก็ได้ค่ะ
ชานพักบันไดแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกจะเป็นชานพักสามเหลี่ยม ส่วนชานพักด้านบนจะเป็นชานพักแบบสี่เหลี่ยมซึ่งชานพักแบบสี่เหลี่ยมจะค่อนข้างเดินได้สะดวกและปลอดภัยกว่าชานพักสามเหลี่ยมด้านล่างค่ะ
พื้นชั้น 2 ปูด้วยลามิเนต ลายไม้สีเข้ากับบันไดทั้งชั้น ยกเว้นส่วนห้องน้ำและระเบียงหน้าบ้านค่ะ
ขึ้นมาจะเจอโถงบันได ที่ชั้น 2 นี้จะมีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง โดยฝั่งหน้าบ้านจะเป็นห้อง Master Bedroom และฝั่งหลังบ้านจะเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้อง และมีห้องน้ำที่โถง 1 ห้องซึ่งสามารถเข้าออกได้ 2 ทางคือจาก Master Bedroom และโถงบันไดเพื่อจะได้สะดวกในการใช้งานเพราะห้องน้ำห้องนี้ต้องใช้ร่วมกันระหว่างห้องนอนทั้ง 3 ห้องเลยค่ะ
หันกลับไปดูภาพรวมโถงบันไดซะหน่อย
เริ่มดูห้องนอนห้องแรก คือห้องที่อยู่ติดบันได บานประตูของจริงที่ได้จะเป็นบาน HDF สีขาว วงกบ UPVC และลูกบิดกลมมาตรฐาน
พื้นห้องก็ยังคงเป็นพื้นลามิเนตที่ปูยาวมาจากโถงบันได ไม่มีตัวจบกั้นห้อง
ห้องนี้มีขนาดประมาณ 2.5 x 2.5 เมตร มีช่องแสงเพียงจุดเดียวคือบานหน้าต่างทางหลังบ้าน บ้านตัวอย่างที่ทางโครงการจัดมาให้ดูเป็นห้องทำงาน ซึ่งจริงๆแล้วเราสามารถที่จะทำเป็นห้องนอนได้ โดยขนาดเตียงที่เหมาะสมกับห้องนี้ก็จะเป็นเตียงขนาด 3.5 ฟุตค่ะ
ได้ไฟดาวน์ไล์มา 1 ดวง
อีกมุมของห้อง
ห้องถัดไปที่เราจะมาดูกันคือห้องนอนเล็กอีกห้อง ซึ่งอยู่ฝั่งหลังบ้านและติดกับห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันด้วยค่ะ
เปิดเข้ามาเจอห้องที่แต่งมาแบบเรียบร้อยๆ โทนสีฟ้าสบายตา
ห้องนี้มีช่องแสงมาให้ 2 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยว ซึ่งอย่างที่เคยบอกว่าบ้านตัวอย่างหลังนี้เป็นบ้านแปลงมุมเพราะฉะนั้นจึงได้ช่องแสงมามากกว่าบ้านแปลงมาตรฐาน สำหรับห้องนี้ถ้าเป็นแปลงมาตรฐานจะมีหน้าต่างแค่บานเดียวคือบานหลังบ้านค่ะ
ห้องนี้ก็ได้ไฟดาวน์ไลท์มา 1 ดวงเช่นกัน
วางเตียงขนาด 3.5 ฟุตมาให้ดูเป็นตัวอย่าง
พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 50 ซม. พอให้วางโต๊ะเล็กและเดินมาเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้สะดวก
ฝั่งปลายเตียงวางตู้เตี้ยๆสำหรับเก็บของไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างจะเห็นว่าที่โครงการวางได้แค่ตู้เตี้ยๆแบบนี้เพราะติดบานหน้าต่าง ซึ่งในบ้านแปลงมาตรฐานผนังฝั่งนี้จะเป็นผนังทึบ เราสามารที่จะวางตู้สูงกว่านี้ หรือจะติดเป็นตู้ลอยก็ยังได้ค่ะ
พื้นที่เหลือปลายเตียงก็ยังเหลือให้พอเดินได้สะดวก
อีกฝั่งของห้องวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง/โต๊ะเขียนหนังสือไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง
มุมจากปลายเตียงมองไปประตูทางเข้าห้อง
ห้องถัดมาคือ Master Bedroom ซึ่งเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และได้พื้นที่หน้ากว้างของบ้านไปทั้งหมดค่ะ
ด้านในยังคงตกแต่งมาแบบเรียบร้อย เน้นสีฟ้าและสีน้ำเงินสดใส
ฝั่งห้องนอนนี้จะมีช่องแสง 2 จุด คือหน้าต่างบานเลื่อนบานใหญ่ฝั่งหน้าบ้าน และหน้าต่างบานฟิกซ์ฝั่งข้างบ้านซึ่งแปลงมาตรฐานจะได้แค่หน้าต่างบานใหญ่ที่อยู่หน้าบ้านเท่านั้นนะคะ
หลายคนเห็นราวเหล็กหลังหลังหน้าต่างบานใหญ่ฝั่งหน้าบ้านแล้วก็คงจะคิดว่าเป็นระเบียง แต่ไม่ใช่ค่ะ ตรงนี้เป็นแค่ราวเหล็กสำหรับตกแต่งเพื่อเพิ่มความเป็นบาหลีให้กับดีไซน์ภายนอกเท่านั้นค่ะ
พื้นที่ทั้งห้องตั้งแต่ห้องนอนยาวไปจนส่วน Walk – in Closet จะได้ไฟดาวน์ไลท์มาทั้งหมด 3 ดวง
ห้องนี้วางเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งดูจากขนาดห้องแล้วเราก็สามารถจะขยับขนาดเตียงเป็นคิงส์ไซส์ได้นะคะ จะได้นอนหลับแบบสบายๆ
พื้นที่ข้างเตียงเหลือเฟือ
ฝั่งปลายเตียงจะทำเป็นฉากกั้นพร้อมส่วน Walk – in Closet
ถึงจะกั้นส่วน Walk – in Closet แล้ว ก็ยังมีพื้นที่ปลายเตียงเหลือพอให้วาง Bench Bed ได้แบบนี้
ด้านใน Walk – in Closet จัดเป็นตู้เสื้อผ้าบานสูงให้ดูเป็นตัวอย่างแบบนี้ค่ะ
ตำแหน่งที่วางโต๊ะเครื่องแป้งใกล้กับช่องแสงแบบนี้เวลาแต่งหน้าจะได้เห็นสีเครื่องสำอางค์ไม่เพี้ยนค่ะ
กลับมาที่ส่วนของห้องนอนไปดูห้องน้ำของชั้น 2 กันต่อ
พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีครีม ขนาด 60 x 60 ซม. และพื้นลดระดับลงไปประมาณ 3 ซม.
เข้ามาด้านในห้องน้ำจะเห็นว่ามีการแบ่งออกเป็น 3 โซนด้วยกัน
โซนแรกคืออ่างล้างหน้า
ตัวอ่างถูกติดตั้งมาพร้อมเคาน์เตอร์ยี่ห้อ Parazzo มีพื้นที่สำหรับวางของกระจุกกระจิกบนเคาน์เตอร์เล็กน้อย ส่วนใต้เคาน์เตอร์ก็เก็บของได้ไม่เยอะเพราะฉะนั้นแนะนำว่าควรหาตู้หรือชั้นเก็บของเล็กๆมาวางไว้ในห้องน้ำด้วยค่ะ
โซนที่ 2 จะเป็นห้องอาบน้ำ ที่ถูกกั้นด้วย Shower Box มาให้เป็นสัดเป็นส่วน ประตูเป็นบานเลื่อน 3 ตอน
มือจับ จับค่อนข้างยากไปนิด
ที่พื้นห้องอาบน้ำไม่ได้มีการลดระดับมาให้แต่จะมีรางของ Shower Box ที่พอจะช่วยไม่ให้น้ำไหลซึมออกไปข้างนอกได้ค่ะ
ในห้องอาบน้ำมีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยว สำหรับรับแสงธรรมชาติและระบายอากาศ
ฝักบัวยี่ห้อ Rassland
ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 1.1 x 0.85 เมตร อาบได้แบบพอดีๆตัวค่ะ
ส่วนโซนที่ 3 จะถูกกั้นด้วยฉากกั้นบานเลื่อน หน้าบานเป็นกระจกฝ้านิรภัย ซึ่งฉากนี้จะกั้นพื้นที่ระหว่างส่วนอาบน้ำกับส่วนโถสุขภัณฑ์ ทำให้สามารถใช้งานทั้ง 2 ฟังก์ชั่นพร้อมๆกันได้
ตัวรางเลื่อนจะเป็นรางเลื่อนด้าน ด้านล่างจะไม่มีรางมาเกะกะป้องกันการเดินสะดุดค่ะ
มือจับเป็นปุ่มทรงกลมยื่นออกมาแบบนี้ ส่วนตัวล็อคจะใช้การเกี่ยวเหมือนเกี่ยวตะขอกับตัวล็อค
เปิดออกมาจะเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์แบบนี้
โถสุขภัณฑ์ที่ได้เป็นของ Karat ระยะติดตั้งพอใช้งานได้สะดวกไม่อึดอัดค่ะ
ถ้าเข้าห้องน้ำจากทางห้องโถงแล้วปิดประตูก็จะได้ความเป็นส่วนตัวแบบนี้
อุปกรณ์ปลั๊กและสวิทช์ไฟทั้งหลังใช้ของ Schnider
วิดีโอโครงการพฤกษาวิลล์ 73 พัฒนาการ
ราคา (มีนาคม 2559)
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ : โครงการ พฤกษาวิลล์ 73 พัฒนาการ ตั้งอยู่ในซอยพัฒนาการ 38 ในกลุ่มโครงการแนวราบขนาดใหญ่ชื่อ พฤกษา อเวนิว(Pruksa Avenue) สภาพแวดล้อมรอบโครงการจึงเป็นหมู่บ้านทั้งทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยว มีความสงบเหมาะกับการอยู่อาศัย และมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง แต่อาจจะน้อยกว่าโครงการอื่นๆในพฤกษาอเวนิวอยู่หน่อย เพราะเป็นโครงการที่อยู่ท้ายสุดของเขตพฤกษาอเวนิว และไม่มีป้อมรปภ.ของอเวนิวเหมือนถนนฝั่งซอย 38
ส่วนในซอยพัฒนาการ 38 สภาพแวดล้อมจะเป็นชุมชนมุสลิมดั้งเดิมที่อยู่กันมานานแล้ว สังเกตได้จากมัสยิดและชื่อของอพาร์ตเมนท์ต่างๆในซอย และผลพลอยได้ของความเป็นชุมชนนั่นคือความอุดมสมบูรณ์ที่ตามมานั่นเองค่ะ ในซอย 38 มีความอุดมสมบูรณ์ให้พึ่งพิงได้อยู่ค่อนข้างเยอะ เป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์ที่ใกล้โครงการที่สุด มีทั้งเต็นท์ขายอาหารสด, ร้านอาหาร, Family Mart และร้านขายของชำ ส่วนความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้างของแถวนี้จะเป็นพวก Hyper Market และ Community Mall ซะส่วนมาก อย่าง Tesco Lotus, Max Value และ Community Mall คือ London Street, Thanya Park, Pickadaily, The Nine พระราม 9 ส่วนพวกห้างใหญ่ๆก็จะต้องออกมาไกลอีกหน่อยมี Central พระราม 9, Paradise Park, Seacon Square
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : การเดินทางด้วยรถยนต์ดูจะเป็นวิธีที่สะดวกที่สุดสำหรับโครงการนี้ เพราะถนนพัฒนาการสามารถเชื่อมกับถนนเส้นสำคัญๆอย่างถนนเพชรบุรี, ถนนพระราม 9 , ถนนรามคำแหง ที่สามารถใช้ไป อโศก, เอกมัย, ทองหล่อ , พร้อมพงษ์ และถนนศรีนครินทร์ที่สามารถใช้เข้าเส้นลาดพร้าว, บางนา – ตราดได้ นอกจากนั้นยังมีทางลัดเข้าออกได้หลายทางเช่น ซอยอนามัยด้านหลังโครงการที่สามารถลัดไปถนนศรีนครินทร์ได้ และซอยอ่อนนุช 39 ที่สามารถเป็นทางลัดไปถนนสุขุมวิท 77(อ่อนนุช)ได้ นอกจากนั้นยังมีสามแยกพัฒนาการ 25 เป็นอุโมงค์ไปออกถนนกำแพงเพชร 7 ทะลุไปถนนรามคำแหงได้แต่การจราจรค่อนข้างหนาแน่นทั้งเส้นอ่อนนุช, เพชรบุรี และพระราม 9 ควรกะเวลาการเดินทางให้ดีๆนะคะ ส่วนทางด่วนที่ใกล้ที่สุดก็เป็นทางด่วนรามอินทรา – อาจนรงค์ค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ : ค่อนข้างลำบากหน่อยเพราะตัวโครงการอยู่ในซอยค่อนข้างลึกไม่อยู่ในระยะที่จะเดินไหวและไม่มีรถสาธารณะใดๆวิ่งผ่านเข้ามาในโครงการเลย ต้องพึ่งพี่วินที่อยู่ต้นซอยและกลางซอยพัฒนาการ 38 หรือเรียก Taxi มารับเท่านั้น แต่ก็ยังดีที่มี BTS อ่อนนุช, Airport Link หัวหมากและรามคำแหงให้เลือกใช้ถ้าหากต้องเดินทางเข้าเมือง(แต่ก็ต้องนั่ง Taxi ไปยังตัวสถานีก่อนอยู่ดีนะคะ)
บ้านและวัสดุ : มีการออกแบบโดยรวมในสไตล์บาหลี ที่เพิ่มความโมเดิร์นเข้าไปด้วย โดยจุดที่เพิ่มความเป็นบาหลีให้ตัวบ้านแบบเห็นได้ชัดเลยคือการวางไม้ค้ำยันใต้หลังคาและโทนสีน้ำตาล – เทา บวกกับการที่โครงการจัดสภาพแวดล้อมให้มีความร่มรื่น ทำให้ได้กลิ่นอายบรรยากาศเหมือนอยู่รีสอร์ทแบบเบาๆเลยค่ะ
ส่วนการวางผังของบ้านจะขอแยกเป็นส่วนของทาวน์โฮมและบ้านแฝด โดยตัวทาวน์โฮมทั้ง 2 แบบนั้นจะมีการวางผังคล้ายๆกัน ต่างกันที่จำนวนที่จอดรถหน้าบ้านเท่านั้นค่ะ ส่วนฟังก์ชั่นการใช้งานครบเหมาะสมกับพื้นที่ใช้สอยที่ได้มา และค่อนข้างยืดหยุ่นกับการปรับการใช้งานตามแต่ผู้อยู่อาศัย ตัวครัวก็แยกมาให้ชัดเจนสามารถกั้นห้องเป็นครัวปิดได้ง่ายๆ ไม่มีมุมไหนของบ้านที่ให้ความรู้สึกติดขัดใช้งานลำบาก ส่วนแบบบ้านแฝดก็จะมีการวางผังคล้ายๆกัน ฟังก์ชั่นด้านในก็ครบถ้วนจะต่างกันก็ตรงที่ได้พื้นที่เหลือข้างเพิ่มมากขึ้นและได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเพราะไม่ต้องใช้ผนังร่วมกับเพื่อนบ้านค่ะ
วัสดุได้มาแบบมาตรฐานโดยบ้านที่ทางโครงการขายจะเป็นบ้านมาตรฐาน (บ้านเปล่า) ลานจอดรถเป็นพื้นซีเมนท์ขัดหยาบฉาบเรียบ, พื้นชั้น 1 และพื้นห้องน้ำ เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม., พื้นชั้นบนปูด้วยลามิเนตทั้งชั้น ส่วนระเบียงและเฉลียงหน้าบ้านได้เป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม., ผนังบ้านฉาบเรียบทาสีติดบัวเชิงผนังมาให้ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ฝ้าเพดานเป็นชั้นล่างคอนกรีตแต่งผิวเรียบทาสี, ฝ้าเพดานสูง 2.65 เมตร ตัวฝ้าเพดานชั้นบนเป็นยิปซั่มบอร์ดฉาบเรียบทาสีส่วนห้องน้ำฝ้าเพดานยิปซั่มบอร์ดกันชื้นฉาบเรียบทาสีขาว, ไฟดาวน์ไลท์ทั้งหลัง
สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำใช้หลายยี่ห้อด้วยกันเริ่มที่อ่างล้างมือจะใช้ของ Englefield, Parazzo,Bathroom Design ก๊อกน้ำและฝักบัวอาบน้ำ Rassland โถสุขภัณฑ์ Karat ห้องอาบน้ำมีฉากกั้นมาให้ที่ห้องน้ำชั้น 2 ของบ้านทุกแบบ
ประตูและหน้าต่างภายนอกเป็นบานเลื่อนและบานกระทุ้งกรอบอลูมิเนียมอบสีน้ำตาล กระจกเขียวตัดแสง, บานประตูภายในบ้านเป็นบาน HDF วงกบ UPVC ส่วนประตูห้องน้ำเป็น UPVC สีขาว, อุปกรณ์ปลั๊กและสวิทช์ไฟของ Schnider
สิ่งอำนวยความสะดวก : มี Bale House ซึ่งเป็นส่วนของนิติบุคคลจะมีสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 7 x 15 เมตร แบ่งสระเด็ก ลึก 0.4 เมตร สระผู้ใหญ่ ลึก 1.2 เมตร มีสวนหย่อมขนาดใหญ่ 1-2-9.3 ไร่ ซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อยไปสำหรับโครงการขนาด 470 ยูนิต แต่ก็มีข้อดีตรงที่ค่าส่วนกลางก็ลดลงไปด้วย เหมาะสำหรับใครที่คิดว่าไม่ค่อยได้ใช้ส่วนกลางเท่าไหร่ มีไว้เพื่อพักผ่อนหย่อนใจเป็นครั้งคราว ส่วนถนนหลักกว้าง 16 เมตร ถนนในซอยย่อย 9 เมตรถือว่าขับไปมาได้สะดวกค่ะ
ระบบรักษาความปลอดภัย : มีซุ้มทางเข้าที่มีระบบรักษาความปลอดภัยด้วย Double Security Gate คือมีรั้วไม้กระดกและรั้วเลื่อนไฟฟ้า พร้อมกล้อง CCTV จับภาพป้ายทะเบียน และคนขับฝั่งละ 2 ตัว เข้า-ออกโครงการด้วย Key Card Access ระยะใกล้ ส่วน Visitor ต้องแลกบัตรกับทางโครงการ รั้วรอบโครงการสูง 2 เมตร รั้วระหว่างบ้านแต่ละหลังสูง 1.5 เมตร และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 7.75 | อยู่ในซอยลึก มีความเป็นส่วนตัวสูง เหมาะกับการเป็นที่อยู่อาศัย มีความอุดมสมบูรณ์อาจจะอยู่ไกลไปหน่อย คืออยู่ช่วงต้นซอยพัฒนาการ 38 |
การเดินทาง ใช้รถ | 8.5 | เดินทางสะดวก มีหลายเส้นทางให้เลือกใช้ |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 7.0 | ค่นข้างลำบากต้องอาศัยเรียกพี่วินหรือ Taxi เข้ามาในโครงการ ไม่มีรถสาธารณะใดๆวิ่งผ่าน แต่ยังดีที่พอจะมีรถไฟฟ้าอ่อนนุชและแอร์พอร์ตลิ้งค์ให้เลือกใช้ |
บ้านและวัสดุ | 8.0 | แบบบ้านตรงตาม Concept ให้ความรู้สึกผ่อนคลายสไตล์บาหลี ภายในบ้านฟังก์ชั่นครบครัน ออกแบบพื้นที่มาลงตัวดี วัสดุสมราคาและเหมาะกับรูปแบบการใช้งาน |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 7.75 | ส่วนกลางค่อนข้างน้อย มีอาคาร Bale House สระว่ายน้ำและสวนหย่อมเท่านั้น แต่จัดสภาพแวดล้อมในโครงการมาได้ร่มรื่นดี ระบบรักษาความปลอดภัยดีเป็นระบบ Double Security Gate และมี 24 ชม. |
ความคุ้มค่ากับราคา | 7.75 | เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง 3-5 คน ที่มองหาทาวน์โฮมย่านพัฒนาการ อ่อนนุช ศรีนครินทร์ เน้นการใช้งานรถยนต์เป็นหลัก |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.79 | ดี |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 081-345-6660 หรือ 1739
Website : คลิกที่นี่
หากท่านเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
สอบถามข้อมูลครับ
ไม่ทราบว่า รอบโครงการเป็นชุมชนมุสลิมใช่ไหมครับ
ได้ยินเสียงจากเครื่องขยายเสียงเวลาชุมชนละหมาดหรือไม่ครับ
ขอบคุณครับ