EP.793 รีวิว ทาวน์โฮม ซิตี้เซนส์ รามอินทรา (ซ.พระยาสุเรนทร์ 30) City Sense Ramintra
สวัสดีผู้อ่านชาว HOMENAYOO ทุกคนค่ะ วันนี้ทีมงานจะขอพาไปชมโครงการ CITY SENSE รามอินทรา จาก ปริญสิริ โครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น อยู่ในซอยพระยาสุเรนทร์ 30 ใกล้ Fashion Island และ Promanade
ซิตี้เซนส์ รามอินทรา โครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวน 243 ยูนิต บนที่ดิน 21 – 1 – 44.2 ไร่ มีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 3 แบบคือแบบ Winter, Autumn และ Spring ตัวบ้านใส่ใจการออกแบบฟังก์ชั่นให้ห้องกว้าง ฝ้าเพดานสูงถึง 2.8 เมตร รองรับกับผู้อยู่อาศัย พร้อมช่องแสงบานใหญ่ จัดบรรยากาศในโครงการเงียบสงบเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ผ่อนคลายสไตล์รีสอร์ท กับ Oxygen Community (สร้างเสร็จพร้อมอยู่)
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ เช่น ระบบรักษาความปลอดภัยหน้าโครงการ Key Card Access พร้อมส่วนกลางคือ Club House, สระว่ายน้ำ และสวนสาธารณะ ในราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท
ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไรนั้น ติดตามอ่านต่อด้านล่างกันได้เลยค่ะ 🙂
ทาวน์โฮม Citysense ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
– Citysense ดอนเมือง-สรงประภา
– Citysense สรงประภา
– Citysense ศาลายา
– Citysense พระราม 2 – ท่าข้าม
– Citysense Prive พระราม 2 – ท่าข้าม
– Citysense เพชรเกษม 69
– Citysense รัตนาธิเบศร์ – เลี่ยงเมืองนนท์ 13
– Citysense รามอินทรา
– Citysense รามอินทรา 109 – วัชรพล
– Citysense บางนา กม.10
ชื่อโครงการ | ซิตี้เซนส์ รามอินทรา City Sense Ramintra |
เจ้าของโครงการ | ปริญสิริ Prinsiri |
ลักษณะโครงการ | ทาวน์โฮม 2 ชั้น |
พื้นที่โครงการ | 21-1-44.2 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 243 ยูนิต |
พื้นที่ใช้สอย |
|
เนื้อที่บ้าน | – แบบบ้าน Winter และ Autumn : 18 ตร.วา – แบบบ้าน Spring : 20 ตร.วา |
จำนวนห้อง | 2-3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ |
ที่จอดรถทั้งหมด | 2 คัน |
โซน | รามอินทรา |
ขนส่งสาธารณะ | – รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีบางชัน – ใกล้ทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา – ใกล้ถนนกาญจนาภิเษก |
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ซอยพระยาสุเรนทร์ 30 ถนนรามอินทรา 109 เขตคลองสามวา แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. |
กำหนดการ | – |
ปีที่สร้างเสร็จ | สร้างเสร็จพร้อมอยู่ |
ราคา | เริ่มต้น 2.19 ล้านบาท |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | 40 บาท/ตร.วา/เดือน (ชำระล่วงหน้า 3 ปี) |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | House Type เพราะธรรมชาติ เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต สัมผัสทาวน์โฮม Modern Wide Series ที่รังสรรค์เพื่อการอยู่อาศัยที่สมบูรณ์ของทุกคนในครอบครัว ด้วยการออกแบบช่องแสงทุกบาน เปิดกว้างเชื่อมต่อกับธรรมชาติ ให้ทุกชีวิตได้สูดกลิ่นไอจากสายลม และเสียงดนตรีจากแมกไม้ พร้อมพื้นที่ห้องกว้างใช้งานได้จริง เพื่อเริ่มต้นชีวิตดีๆได้ทุกวัน |
พาชม Virtual Tour 360 Citysense รามอินทรา
ที่ตั้งโครงการ
ซอยพระยาสุเรนทร์ 30 ถนนรามอินทรา 109 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร
พิกัด : 13.834170, 100.709981
แผนที่จากทางโครงการแสดงเส้นทางการเข้าถึงโครงการจะสามารถใช้ถนนรามอินทราเป็นหลัก เข้าซอยย่อยรามอินทรา 109, ถนนปัญญาอินทราและถนนหทัยราษฎร์ และความอุดมสมบูรณ์โดยรอบในระยะใกล้มี Tesco Lotus, Panya Village, Max Value ห้างใหญ่ที่ใกล้โครงการมี Fashion Island และ Promanade ค่ะ
โครงการ Citysense รามอินทรา ต้ังอยู่ในซอยพระยาสุเรนทร์ 30 ลึกเข้ามาในซอยประมาณ 1.3 กม. โดยตัวโครงการจะมีถนนส่วนบุคคลของโครงการเชื่อมเข้ามาจากถนนซอยพระยาสุเรนทร์ 30 อีกประมาณ 100 เมตร สภาพแวดล้อมโดยรวมเกือบทั้งหมดจะเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการหมู่บ้านจัดสรร และมีที่ดินเปล่าผืนใหญ่ๆเหลืออยู่บ้างแต่ไม่มาก บรรยากาศมีความเป็นชุมชนที่เงียบสงบ ในขณะที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ให้ได้พึ่งพาในซอยข้างเคียงพอสมควรค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว เป็นการวิธีที่สะดวกที่สุดสำหรับโครงการนี้ โดยเส้นทางหลักๆที่ใช้ของโครงการนี้จะมีถนนรามอินทรา ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักการเข้าถึงโครงการสามารถใช้ถนนรามอินทราฝั่งมุ่งหน้ามีนบุรี เข้าถนนปัญญารามอินทรา และถนนพระยาสุเรนทร์ และเข้าซอยพระยาสุเรนทร์ 30หรือถ้ามาจากเส้นสุวินทวงศ์ ก็สามารถเข้าเส้นหทัยราษฎร์และเข้าซอยเจริญพัฒนาก็จะสามารถเชื่อมเข้าซอยพระยาสุเรนทร์ 30 ได้ค่ะ
นอกจากนั้นยังสามารถใช้เดินทางไปเชื่อมกับถนนสายอื่นๆได้อีกหลายเส้น อย่างถนนแจ้งวัฒนะ, ถนนนวมินทร์, ถนนเกษตรนวมินทร์, ถนนเสรีไทย หรือจากฝั่งนอกเมืองก็สามารถมาได้ทั้งจากถนนหทัยราษฏร์, ถนนพระยาสุเรนทร์, ถนนคู้บอน และถนนพหลโยธินทำให้การเดินทางเข้าถึงโครงการสะดวกยิ่งขึ้นค่ะ
ส่วนทางด่วนที่เราสามารถใช้เดินทางเข้าเมืองที่ใกล้โครงการมากที่สุดจะมี
1.จุดขึ้นลงทางด่วนกาญจนาภิเษก โดยออกจากโครงการเลี้ยวซ้าย มุ่งหน้ามาถนนรามอินทราเลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานกลับรถเข้าถนนกาญจนาภิเษก และจุดขึ้นทางด่วนจะอยู่ไม่ไกล รวมระยะทางจากโครงการถึงจุดขึ้นทางด่วนแรกประมาณ 8.6 กม. ใช้เวลาประมาณ 10 -20 นาที
2.จุดขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษกฝั่งขาออก มีระยะทางจากโครงการประมาณ 9.7 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 – 25 นาที หรือใช้ถนนเส้นเลียบกาญจนาภิเษกออกนอกเมืองไปบางปะอิน อยุธยาได้ด้วยค่ะ
3. จุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา – อาจนรงค์โดยออกจากโครงการเลี้ยวซ้ายวิ่งออกมารามอินทรา เข้าถนนรามอินทรา นวมินทร์ และเกษตร – นวมินทร์ และเลี้ยวซ้ายเข้าถนนประดิษฐ์มนูญธรรม จุดขึ้นทางด่วนขาเข้าเมืองจะอยู่ทางซ้ายมือ รวมระยะทางจากโครงการถึงจุดขึ้นทางด่วน ประมาณ 14.5 กม. ใช้เวลาประมาณ 20 – 30 นาที
สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์สาธารณะ ตัวโครงการไม่มีรถสาธารณะใดๆวิ่งผ่าน นอกจาก Taxi หรือพี่วินที่นานๆจะผ่านมาที ถ้าจะใช้รถเมล์ก็ต้องออกมาบนถนนรามอินทรา โดยจะมีรถเมล์สาย 26, 96, 115ร, 150ร, 501, 525 หรือถ้าใครสะดวกใช้รถตู้ก็สามารถไปที่ป้ายหน้าห้าง Fashion Island จะมีรถตู้ผ่านหลายเส้นทาง ทั้งเข้าเมืองไป BTS จตุจักร อนุสาวรีย์ และเข้าเมืองมีน
ส่วนในอนาคต ก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย – มีนบุรี ที่จะช่วยให้การเดินทางในละแวกนี้สะดวกขึ้น โดยแนวเส้นทางจะเริ่มต้นบนถนนรัตนาธิเบศร์บริเวณระหว่าง ศูนย์ราชการนนทบุรีและแยกแคราย ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่ – บางซื่อ) บริเวณสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี และนอกจากนั้นยังเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม(ตลิ่งชัน – มีนบุรี) ตรงสถานี Interchange ที่สถานีมีนบุรี บนถนนรามคำแหงซึ่งเราสามารถใช้เส้นนี้เพื่อเข้าเมืองไปเชื่อมต่อกับรถไฟใต้ดิน MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรมได้อีกด้วย
โดยสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นสถานีบางชันและสถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังคงต้องอาศัยพี่วินหรือแท็กซี่มาส่งที่ตัวสถานีก่อนนะ
ความอุดมสมบูรณ์ของโครงการนี้ถือว่ามีค่อนข้างมาก พอสมควร เพราะแถวนี้ถือว่ามีที่อยู่อาศัยเยอะ ทั้งหมู่บ้านและบ้านของคนที่อยู่เดิม ความอุดมสมบูรณ์ของโครงการจะเป็นในแบบระยะไกลหน่อย คือเกินระยะที่จะเดินถึงต้องอาศัยขับรถออกมาค่ะ ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ที่ใกล้โครงการหลักๆ จะอยู่ในตัวซอยพระยาสุเรนทร์และถนนปัญญาอินทรา
โดยภายในซอยพระยาสุเรนทร์จะมีร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารทั่วไปหลายร้าน และมี Tesco Lotus ส่วนบนถนนปัญญาอินทราจะมีร้านอาหารหลายร้านเช่นกัน และจะมี Panya Village และ Max Value อยู่ช่วงต้นๆซอย นอกจากนั้นก็จะมีห้างใหญ่ๆที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการคือ Fashion Island และ Promanade ส่วนโรงพยาบาลใกล้ๆ จะมีโรงพยาบาลนวมินทร์ และโรงพยาบาลสินแพทย์ ไกลไปอีกก็จะมีโรงพยาบาลนพรัตนราชธานีตรงแยกตัดกับถนนสวนสยาม
นอกจากนั้นความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้างก็จะมีทั้งตลาดสายเนตร กม.8, BigC คู้บอน ไกลไปอีกหน่อยก็มีตลาดมีนบุรี, BigC, Tesco Lotus ซึ่งอยู่บนบนถนนรามอินทรา ลงมาบนถนนนวมินทร์จะมีตลาดนวลจันทร์ และ BigC สุขาภิบาล สำหรับ Community Mall ก็จะมี Amorini ตรงแยกสวนสยาม
การเดินทาง
การเดินทางในวันนี้ เราจะเริ่มต้นกันบนถนนรามอินทราฝั่งมุ่งหน้ามีนบุรี บริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลรามอินทรา ขับตรงไปเข้าถนนปัญญารามอินทรา เลี้ยวขวาที่แยกถนนพระยาสุเรนทร์ และเลี้ยวซ้ายเข้าซอยพระยาสุเรนทร์ 30 ตรงเข้ามาประมาณ 1.3 กม. จะเห็นทางเข้าโครงการอยู่ทางขวามือค่ะ
สรุปการเดินทาง ถนนรามอินทรา > ถนนปัญญารามอินทรา > ซอยพระยาสุเรนทร์ 30 > Citysense รามอินทรา
เริ่มการเดินทางกันบนถนนรามอินทราบริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลพลาซ่ารามอินทราค่ะ
เราขับตรงมาเรื่อยๆผ่านสนามมวยลุมพินีทางขวามือ
และผ่าน Foodland ทางซ้ายมือ สามารถแวะเพื่อซื้ออาหารเข้าบ้านได้
ตรงมาเรื่อยเรื่อยๆมุ่งหน้าตามป้ายมีนบุรีไปค่ะ
ขึ้นสะพานข้ามแยก
สังเกตป้ายบอกทางตามภาพ ให้เราเตรียมออกเลนซ้ายได้ค่ะ
เข้าเลนซ้ายมาเรื่อยๆเราจะเห็นป้ายบอกทางเข้าถนนปัญญารามอินทราทางซ้ายมือ
ตรงมาตามทางเรื่อยๆ ก็จะมีป้ายบอกทาง เราชิดซ้ายค่ะ
เมื่อเราชิดซ้ายมาได้เรื่อยๆเราจะเห็นป้ายบอกทางรามอินทราให้เลี้ยวขวา
เลี้ยวขวาตรงถึงทางแยกเพื่อเข้าถนนปัญญารามอินทราค่ะ
เมื่อเลี้ยวขวามาแล้วเราขับตรงเลนกลางไปต่อก็จะเข้าสู่ถนนปัญญารามอินทรา
ช่วงต้นของถนนปัญญารามอินทราจะมี Panya Village ซึ่งเป็น Avenue ขนาดใหญ่ มีร้านค้าร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อยู่ภายในค่อนข้างเยอะ ถือว่าเป็นแหล่ง Avenue ขนาดใหญ่ที่สามารถมาจากโครงการได้สะดวกเลยค่ะ
ติดกับปัญญารามอินทราจะเป็น Max Value ขนาดใหญ่เปิด 24 ชั่วโมง นอกจากนั้นทั้งสองข้างทางบนถนนเส้นนี้จะมีร้านอาหารน้อยใหญ่ หลายร้านสามารถที่จะเลือกซื้อเลือกทานกันได้
บนถนนรามอินทรารามอินทรานี้จะมีหมู่บ้านขนาดใหญ่หลายหมู่บ้านและมีสนามกอล์ฟปัญญารามอินทราเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่
โดยหมู่บ้านใหญ่บนถนนนี้จะเป็นหมู่บ้านปัญญารามอินทราค่ะ ซึ่งจะมีหลายโครงการด้วยกัน
เราขับตรงไปเรื่อยๆ จนถึงแยกถนนพระยาสุเรนทร์ ให้เราเลี้ยวขวา
เลี้ยวขวาแล้วขับตรงมาเรื่อยๆ เราจะเห็นซอยพระยาสุเรนทร์ 30 ทางซ้ายมือ
เข้ามาในซอยเราจะเริ่มเห็นป้ายบอกทางเข้าโครงการค่ะ
ภายในซอยก็จะมีร้านอาหารเปิดบ้างประปราย
รวมถึงร้านสะดวกซื้อ 7 – 11 ก็อยู่ไม่ไกล
ตรงเข้าซอยมาประมาณ 1.3 เมตร จะเห็นทางเข้าโครงการทางขวามือค่ะ
ถนนและแยกที่สำคัญรอบโครงการ
สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ
รอบๆโครงการ
พื้นที่โดยรอบโครงการส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัย มีทั้งแบบจัดสรรและที่อยู่อาศัยส่วนบุคคล นอกจากนั้นก็จะมีโรงงานขนาดเล็กแทรกอยู่บ้างค่ะ โดยตัวพื้นที่ดินของโครงการนี้จะอยู่ถัดเข้ามาจากซอยพระยาสุเรนทร์ประมาณ 100 เมตร เป็นถนนภาระจํายอมของโครงการ ซึ่งจะเหมือนเป็นถนนส่วนตัวเพื่อเชื่อมเข้ามาถึงยังโครงกา รบรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบค่ะ สำหรับผืนพื้นที่ดินโครงการ
มาดูบรรยากาศโดยรอบซักหน่อยออกมาด้านหน้าโครงการจะเป็นถนนซอยพระยาสุเรนทร์ 30 ติดกับโครงการทางฝั่งขวามือเป็นอู่รถ ตรงข้ามเป็นที่ดินเปล่า
ซอยทางซ้ายมือจะเป็นโรงงานขนาดเล็กและอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้นครึ่ง
ถนนของโครงการที่เชื่อมจากถนนพระยาสุเรนทร์เข้าไปยังตัวโครงการมีต้นไม้ตลอดสองข้างทาง บรรยากาศมีความเป็นส่วนตัวและเงียบสงบ
ตัวโครงการ
มาดูตัวโครงการกันบ้างค่ะ สำหรับโครงการ Citysense รามอินทรา เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้นในซอยพระยาสุเรนทร์ 30 ตัวที่ดินของโครงการจะอยู่ถัดเข้ามาจากตัวซอยพระยาสุเรนทร์ 30 ประมาณ 100 เมตร โดยจะมีถนนภาระจำยอมกว้าง 13 – 14 เมตร เชื่อมเข้ามายังที่ดินของโครงการ
เมื่อถึงที่ดินของโครงการจะต้องผ่านซุ้มทางเข้าหลัก โดยจะใช้ระบบ Key Card Access และมีรปภ. ประจำตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อเข้ามาในโครงการจะเจอกับถนนหลักที่กว้าง 12 เมตร ตัวถนนหลักจะเชื่อมไปยังถนนซอยย่อยที่มีความกว้าง 9 เมตร และจุดเด่นของถนนภายในโครงการคือถนนซอยทุกซอยจะถูกเชื่อมถึงกัน ทำให้เวลาเราขับรถภายในโครงการจะไม่ต้องกลับรถเพื่อวนออกมาทางเดิม ทำให้การสัญจรภายในโครงการสะดวกค่ะ
ส่วนกลางของโครงการจะมีอาคาร Club House มีพื้นที่นั่งพักผ่อนและสระว่ายน้ำ แยกสระเด็ก สระผู้ใหญ่ ขนาด 7 x 21 เมตร , ห้องน้ำและสวนสาธารณะ ส่วนรั้วโครงการเป็นรั้วทึบ สูง 3 เมตร (และต่อโปร่ง 2 เมตรในบางส่วน)
มาดูตัวโครงการของจริงกันบ้างค่ะ เริ่มที่ซุ้มทางเข้าหลักของโครงการ จะแยกเป็นทางเข้าออกสองฝั่ง มีป้ายชื่อโครงการอยู่เหนือซุ้ม ตรงกลางระหว่างทางเข้าและออกจะเป็นซุ้มรปภ. ที่จะมีรปภประจำอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับประตูทางเข้าโครงการจะถูกกั้นด้วยประตูทางเข้าอัตโนมัตร เข้าโครงการโดย Key Card Access มีกล้อง CCTV ติดตั้งไว้ฝั่งละ 2 ตัว
เข้ามาในโครงการจะเจอกับถนนกว้าง 12 เมตร บรรยากาศโดยรวมมีต้นไม้ลงไว้ให้ตลอดสองข้างทาง ดูร่มรื่นและสดชื่นค่ะ
ทางฝั่งขวามือจะเป็นส่วนของสวนสาธารณะและอาคารคลับเฮ้าส์ โดยตัวสวนจะลงต้นปาล์มไว้ให้หลายต้น ได้บรรยากาศรีสอร์ท
เดินตรงเข้ามาอีกหน่อยจะเห็นซอยย่อยทางขวาและซ้ายมือ
โดยซอยย่อยซอยแรกจะเป็นที่ตั้งของสำนักงานขาย บรรยากาศโดยรวมในซอยแรกค่ะ
บรรยากาศโดยรวมภายในสวนสาธารณะมีความร่มรื่น
ถัดมาในซอยย่อยซอยแรกจะเป็นทางเข้าของอาคารคลับเฮ้าส์
ตัวการ Club House ทำมาในสไตล์โมเดิร์น
มีแยกทางขึ้นสำหรับเข้าไปในอาคาร Club House และส่วนสระว่ายน้ำ Outdoor
เราไปดูภายในตัวอาคาร Club House ก่อนค่ะ
ภายใน Club House ปัจจุบันจะเป็นที่ตั้งของสำนักงานขาย มีป้ายชื่อโครงการพร้อมติดตั้งเครื่องปรับอากาศไว้ให้ ส่วนในอนาคตพื้นที่นี้จะเป็นโถงสำหรับนั่งพักผ่อนของลูกบ้าน
อีกฝั่งนึงของอาคาร Club House ค่ะ
มาดูในส่วนของสระว่ายน้ำ Outdoor กันบ้าง โดยตัวสระจะเป็นสระว่ายน้ำขนาด 7 x 21 เมตร แยกสระเด็กและสระผู้ใหญ่ มี Terrace ข้างสระค่อนข้างกว้าง
ตัวสระที่แยกสระเด็กและสระผู้ใหญ่
มุมจากสระมองย้อนไปทางถนนหลัก
พื้นที่ข้างสระอีกฝั่งจะมีม้านั่งรอบต้นไม้ใหญ่ไว้รองรับ
และมีจุดล้างตัวก่อนลงสระ 2 ชุด ไล่ระดับเป็นฝักบัวเล็กสำหรับเด็กและฝักบัวสูงสำหรับผู้ใหญ่
ด้านหลังก็จะมีห้องน้ำให้บริการ
โดยตัวห้องน้ำแยกชายและหญิง
มาดูภายในห้องน้ำหญิงกันก่อนค่ะ เมื่อเข้ามาด้านในห้องน้ำหญิงจะตกแต่งด้วยวัสดุลายไม้และปูนเปลือยให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในรีสอร์ท
ได้อ่างล้างมือแบบฝังเคาน์เตอร์ 2 อ่าง
ห้องน้ำจะได้ทั้งหมด 2 ห้อง ภายในห้องน้ำมีสุขภัณฑ์ครบชุด พร้อมบ่อวางของและที่แขวนกระเป๋า
ภายในห้องอาบน้ำมีติดตั้งฝักบัวและที่วางของพร้อมที่แขวนผ้าเช็ดตัว โดยจะมีห้องอาบน้ำทั้งหมด 2 ห้องค่ะ
ถัดมาดูในส่วนของห้องน้ำชายกันต่อ
เข้ามาภายในห้องน้ำชายจะมีสไตล์การตกแต่งคล้ายๆกับห้องน้ำหญิง โดยพื้นที่ในห้องน้ำชายจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง
ฝั่งขวาเป็นอ่างล้างมือ มีอ่างล้างมือติดตั้งมาให้ 2 จุด
อีกฝั่งจะเป็นส่วนของห้องน้ำ 2 ห้อง
มีโถปัสสาวะชาย 3 โถ
และห้องอาบน้ำ 1 ห้องค่ะ
ภาพรวมของตัวส่วนกลางหลักจากสระมองย้อนไปทางอาคาร Club House
บรรยากาศภายในสวนอีกมุมนึงค่ะ
เข้ามาดูบรรยากาศภายในซอย 1 ซึ่งตอนนี้มีลูกบ้านเข้าอยู่เกือบครบแล้วค่ะ ยังคงมีความเรียบร้อยอยู่
ภายในซอย 1 นี้จะถูกแบ่งเป็นถนนย่อยเชื่อมกับซอยย่อยด้านหลังค่ะ
ออกมาดูภายในซอยย่อยกันหน่อยค่ะ
บรรยากาศโดยรวมภายในซอย
กลับมาที่ถนนหลักเราจะไปดูบรรยากาศโดยรวมในโครงการ และซอยย่อยอื่นๆกันต่อนะคะ
ฟุตบาทริมถนนหลักจะลงต้นไม้ใหญ่ ปูหญ้าและมีทางเดินเล็กๆให้สำหรับกว้างประมาณ 1 คนเดิน
บรรยากาศโดยรวมภายในซอย 2 ถนนซอยกว้าง 9 เมตร ลักษณะการวางบ้านหันหน้าเข้าหากันตามแบบทาวน์โฮมทั่วไป
กลับมาบนถนนหลัก
บรรยากาศในซอย 3 ค่ะ โดยภายในซอยนี้จะมีทั้งบ้านพี่พร้อมขายและบ้านที่ลูกบ้านเข้าอยู่แล้วบางส่วน
บรรยากาศโดยรวมในซอย 4
เดินต่อมาเรื่อยๆบนถนนหลัก
บรรยากาศในซอย 5 ค่ะ
และบรรยากาศโดยรวมในซอยสุดท้าย ซึ่งจะมีความพิเศษกว่าโซนอื่นๆ เพราะว่าไม่ต้องหันหน้าชนกับเพื่อนบ้าน
Gap ระหว่างบ้านจะถูกจัดสวนลงต้นไม้มีทางเดินเล็กๆ
แบบบ้าน
แบบบ้าน Winter : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร
เนื้อที่บ้าน เริ่มต้น 18 ตร.วา | พื้นที่ใช้สอย 120 ตร.ม.
ขนาด : 2 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 2 คัน
แปลนบ้านชั้น 1 / แปลนบ้านชั้น 2
แบบบ้าน Autumn : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร
เนื้อที่บ้าน เริ่มต้น 18 ตร.วา | พื้นที่ใช้สอย 120 ตร.ม.
ขนาด : 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 2 คัน
แปลนบ้านชั้น 1 / แปลนบ้านชั้น 2
แบบบ้าน Spring : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร
เนื้อที่บ้าน เริ่มต้น 20 ตร.วา | พื้นที่ใช้สอย 132 ตร.ม.
ขนาด : 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 2 คัน
แปลนบ้านชั้น 1 / แปลนบ้านชั้น 2
บ้านตัวอย่าง
สำหรับบ้านตัวอย่างที่เราจะพามาดูกันในวันนี้ จะมีบ้านทั้งหมด 3 แบบ คือแบบ Winter, Autumn และ Spring
โดยเราจะเริ่มต้นกันที่แบบ Winter พื้นที่ใช้สอย 120 ตารางเมตร บนที่ดินเริ่มต้นจะมา 18.1 ตารางวา หน้ากว้าง 5 เมตร ฟังก์ชั่นภายในบ้านมี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำและ 2 ที่จอดรถ
มาดูตัวแปลนบ้านกันก่อนค่ะ สำหรับตัวเป็นบ้านเมื่อเข้าไปในพื้นที่ของตัวบ้านจะเจอกับที่จอดรถขนาด 2 จอด จากที่จอดรถจะสามารถเข้าไปในตัวบ้านทางประตูทางเข้าหลัก เมื่อเข้าไปในตัวบ้านจะเจอกับส่วนของ Living Area จะซื้อของ Living Area จะโถงเล็กๆ เป็นทางเชื่อมเข้าไปยังส่วนของห้องน้ำซึ่งการที่มีโถงย่อยแบบนี้จะช่วยบังสายตาจากประตูห้องน้ำ ทำให้ตัวบ้านโดยรวมดูเรียบร้อยขึ้นค่ะ
จากส่วน Living Area จะมีโถงโล่งต่อเนื่องไปยังส่วนพื้นที่ทานอาหารและส่วนห้องครัว โดยพื้นที่ของห้องครัวจะเป็นครัวแบบเปิด แต่มีการแบ่งพื้นที่ไว้ให้ค่อนข้างเป็นสัดส่วน ทำให้เราสามารถที่จะกั้นครัวเพิ่มเติมได้ และจากห้องครัวจะมีประตูเชื่อมไปยังลานซักล้างหลังบ้าน
ขึ้นมาบนชั้น 2 ความพิเศษของบ้าน Winter คือจะมี 2 ห้องนอนที่เป็นห้องนอนขนาดใหญ่ เรียกได้ว่ามีขนาดเท่าห้อง Master Bedroom ทั้งคู่ได้เลยค่ะโดยจะมีพื้นที่ส่วนห้องนอนและพื้นที่สำหรับเป็น Walk – in Closet ทั้ง 2 ห้อง ส่วนห้องน้ำจะถูกแบ่งเป็นส่วนแห้งส่วนเปียกเป็น 2 ห้อง โดยจะมีส่วนและข้อดีของการที่ห้องน้ำถูกเอาไปอยู่ฝั่งหลังบ้านคือ ทำให้ภายในห้องน้ำได้ช่องแสงทุกห้อง แตกต่างจากทาวน์โฮมทั่วไปที่จะมีห้องน้ำอยู่กลางบ้านและส่วนใหญ่จะไม่ได้ช่องแสงค่ะ
มาดูของจริงกันบ้าง หน้าตาภายนอกจะมาในสไตล์โมเดิร์น โทนสีที่ใช้จะใช้เป็นโทนสีน้ำตาลอ่อนและสีขาวเป็นหลัก หน้าตาโดยรวมดูเรียบง่ายสวยงาม
บ้านจริงที่ได้ก็จะได้หน้าตาแบบนี้ค่ะ
สำหรับรั้วทางเข้าหน้าบ้านจะได้เป็นรั้วเหล็กสีดำลักษณะบานเปิดเป็นบานพับ เปิดได้เต็มหน้ากว้าง 5 เมตร
พื้นที่ข้างบ้านจะมีกริ่งติดมาให้แบบนี้
เมื่อเข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่ส่วนจอดรถกันก่อน โดยในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นพื้นซีเมนต์ขัดเรียบความกว้างขนาดรถ 2 จอด
เข้ามาด้านในตัวบ้านอีกหน่อย พื้นที่ส่วนหน้าบ้านจะถูกแบ่งเป็นประตูทางเข้าหลักของบ้านทางซ้ายมือ และทางขวามือจะเป็นช่องแสงที่เชื่อมไปยังส่วนโถงบันไดและได้ไฟโคมซาลาเปามา 1 ดวงค่ะ
รั้วระหว่างบ้านมีความสูง 1.5 เมตร เป็นรั้วทึบสีขาว
ก่อนจะเข้าไปในตัวบ้านจะมีเฉลียงยื่นออกมา ความกว้างประมาณ 1 เมตร ยกระดับจากพื้นลานจอดรถประมาณ 7 ซม. วัสดุปูด้วยกระเบื้องเซรามิกสีครีมอ่อน พื้นที่เฉลียงนี้สามารถที่จะวางชั้นวางรองเท้าขนาดไม่ใหญ่มากได้
ประตูทางเข้าหลักของบ้าน จะได้เป็นประตูบานเลื่อนคู่ ลักษณะบานเปิดสลับ บานกรอบอลูมิเนียมสีขาว กระจกเขียวตัดแสง
มือจับและตัวล็อคด้านนอกและด้านในบ้าน พร้อมตัวล็อคแบบก้นหอย
พื้นบ้านจะถูกยกขึ้นมาจากพื้นเฉลียงอีกประมาณ 7 ซม. เมื่อเข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่ส่วน Living Room เป็นส่วนแรก ความสูงฝ้าเพดานของบ้านสูงถึง 2.8 เมตร ทำให้เข้ามาในบ้านแล้วจะรู้สึกว่าตัวบ้านมีความโปร่งและกว้างกว่าแบบทาวน์โฮมทั่วไป ที่มาตรฐานจะอยู่ที่ประมาณ 2.6 เมตรค่ะ
สำหรับพื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นทางโครงการจัดวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งเราจะเห็นว่ามีพื้นที่เหลือข้างโซฟาอีกพอสมควร ดังนั้นถ้าหากใครที่ชอบโซฟาตัวใหญ่ๆก็สามารถที่จะวางโซฟาขนาด 3 – 4 ที่นั่งได้สบายๆค่ะ
ฝั่งตรงข้ามโซฟาจะเป็นผนังโล่ง สำหรับติดตั้งทีวี ซึ่งเราสามารถที่จะเลือกได้ว่าจะ Built – in เป็นชุดตู้พร้อมชั้นวางทีวีหรือจะหาชั้นวางทีวีง่ายๆมาวางก็ได้ค่ะ ส่วนทางฝั่งซ้ายมือที่เราเห็นจะเป็นโถงย่อยที่เชื่อมเข้าไปยังส่วนห้องน้ำห้อง, เก็บของ ส่วนทางขวามือจะเป็นบันไดขึ้นเตียงชั้น 2 ค่ะ
ถัดจากส่วนห้องนั่งเล่นเราไปดูในส่วนของห้องน้ำรับรองที่ชั้น 1 กันก่อนค่ะ โดยทางเชื่อมไปยังห้องน้ำจะเป็นโถงทางเดินย่อยเล็กๆ เพื่อบังสายตาจากภายนอก
เข้ามาด้านในตัวประตูห้องน้ำจะมีความสูงถึง 2.2 เมตร
ภายในห้องน้ำจะได้ฟังก์ชั่นมาครบทั้งส่วนแห้ง ส่วนเปียก โดยพื้นห้องน้ำจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีดำ ลดระดับลงไปจากพื้นด้านนอกประมาณ 5 ซม. เพื่อป้องกันน้ำกระเซ็นออกมาด้านนอก ส่วนผนังกรุด้วยกระเบื้องสีดำ พร้อมกระเบื้องตกแต่งตามภาพ
ตัวอ่างล้างมือจะได้อ่างล้างมือแบบลอยตัวทรงสี่เหลี่ยม พร้อมก๊อกน้ำเย็นยี่ห้อ American Standard ขนาดอ่างพอให้ใช้งานได้สะดวก มีพื้นที่วางของเหนืออ่างนิดหน่อย
ส่วนโถสุขภัณฑ์จะได้มาครบชุด พร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระ โดยจะได้ของยี่ห้อ American Standard แบบ Dual Flush ระยะการใช้งานพอดีๆ แต่เนื่องจากภายในห้องน้ำไม่มีการแบ่งแยกส่วนแห้ง ส่วนเปียก เวลาอาบน้ำจึงอาจจะทำให้ฝาชักโครกเปียกได้
สายชำระขนาดพอดีมือ
พื้นที่อาบน้ำจะติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower ปรับระดับได้ พร้อมเดินสายไฟรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น สำหรับฝักบัวที่ได้จะได้ของยี่ห้อ American Standard ขนาดค่อนข้างเล็กค่ะ
พื้นที่สำหรับอาบน้ำประมาณ 0.8 x 0.6 เมตร พอให้ยืนอาบได้สะดวก
ออกมาจากห้องน้ำฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องเก็บของใต้บันได
โดยข้อดีของห้องเก็บของในบ้านชุดนี้คือจะได้เป็นบานประตูสูง สามารถที่จะเข้าไปเก็บของได้สะดวก
ภายในห้องเก็บของขนาดค่อนข้างกว้างสามารถเก็บของได้พอสมควร ขนาดห้องประมาณ 2.7 x 1.5 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาเข้ม
ถัดมาเราไปดูในส่วนของห้องทานอาหารและห้องครัวกันต่อ โดยพื้นที่ส่วนห้องทานอาหารจะได้โคมซาลาเปามา 1 ดวง
พื้นที่ส่วนทานอาหารสามารถที่จะวางโต๊ะขนาด 4-5 ที่นั่งได้สบายๆ
ติดกับห้องทานอาหารจะเป็นส่วนของห้องครัว
โดยพื้นที่ครัวที่ได้ จะได้เป็นครัวแบบเปิด เหมาะสำหรับครอบครัวไหนที่ทำอาหารไม่บ่อย อาจจะเป็นการเตรียมอาหารเล็กๆน้อยๆ ส่วนถ้าใครทำอาหารหนักหรือทำเป็นประจำก็แนะนำให้กั้นห้องเพิ่มเติมหรือ ต่อเติมไปยังพื้นที่ส่วนหลังบ้านค่ะ
สำหรับในบ้านมาตรฐานทางโครงการจะมีการเดินท่อและสายไฟมาให้ครบถ้วน พร้อมที่จะติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวและอุปกรณ์อื่นๆ นอกจากนั้นยังมีช่องแสงไว้ให้ 1 ชุดซึ่งมีระยะการติดตั้งที่เหมาะสมกับตัวเคาน์เตอร์ครัวค่ะ
หลังจากติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวลงไปแล้วจะเหลือระยะการใช้งานประมาณ 0.6 เมตร พอให้เข้าไปยืนทำครัวได้ 1 คน
จากพื้นที่ส่วนห้องทานอาหารและห้องครัวจะมีประตูเชื่อมต่อไปยังและซักล้างหลังบ้าน โดยบานประตูจะได้เป็นบานเลื่อนคู่ บานกกรอบอลูมิเนียมสีขาวแบบนี้ค่ะ
ออกมายังพื้นที่ส่วนลานซักล้างในบ้านตัวอย่างจะถูกตกแต่งเป็นพื้นที่ห้องนั่งพักผ่อน จัดวางชุดม้านั่งน่ารักๆ และชั้นวางหนังสือ
อีกฝั่งก็จะเป็นซิงค์ล้างจานภายนอก
ส่วนในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นลานซักล้างพื้นคอนกรีตขัดหยาบแบบนี้ค่ะ
โดยพื้นที่ข้างนอกลานซักล้างจะมีปลั๊กไฟติดตั้งมาให้เพื่อรองรับการวางเครื่องซักผ้า
และจะมีไฟฟลูออเรสเซนต์ติดตั้งมาให้ 1 ดวง
กลับเข้ามาในบ้านเราไปดูบนชั้น 2 กันต่อ
โดยบันไดของบ้านหลังนี้จะมีโครงสร้างเป็นคสล. ปิดหน้าด้วยไม้สำเร็จรูป ผิวขัดเรียบลายไม้ สีอ่อน มีช่องแสงบริเวณโถงบันไดมาให้ 1 จุด ซึ่งเป็นช่องแสงที่เราเห็นจากหน้าบ้านนั่นเองค่ะ สำหรับราวบันไดจะได้เป็นไม้สำเร็จรูป ผิวขัดเรียบพร้อมทาสียูรีเทน สีเข้ากับตัวบันได
ขึ้นมาบนชั้น 2 พื้นจะถูกปูด้วยลามิเนตลายไม้ สีเข้ากับบันได มีตัวจบติดตั้งมาให้เรียบร้อย
สำหรับตัวบันไดจะถูกแบ่งเป็นชานพัก 2 ชุด เป็นชานพักสามเหลี่ยมและชานพักสี่เหลี่ยม
ขึ้นมาบนพื้นที่ชั้น 2 จะถูกแบ่งเป็นฟังก์ชั่น 2 ห้องนอนและ 2 ห้องน้ำแยก
ขึ้นมาบนชั้น 2 มองย้อนไปทางพื้นที่โถงโดยรวม
เรามาดูห้องนอนกันก่อนค่ะ โดยห้องแรกจะไปดูส่วนของห้อง Master Bedroom
ประตูในห้องนอนทุกหลังจะได้เป็นบานประตูสำเร็จรูป HDF สีขาว ลูกบิดกลมมาตรฐาน มีตัว Stopper ติดตั้งมาให้หลังบานประตูทุกบานเพื่อป้องกันประตูกระแทกผนัง
เข้ามาในห้อง Master Bedroom จะเป็นห้องนอนขนาดใหญ่ที่สุดของบ้าน ภายในห้องมีจุดเด่นคือได้ช่องแสงมาค่อนข้างเยอะ และได้พื้นที่หน้ากว้างของบ้านไปทั้งหมด จึงสามารถที่จะแบ่งเป็นส่วนห้องนอน, พื้นที่ Walk – in Closet และมีพื้นที่ทำงานอีกนิดหน่อย
สำหรับช่องแสงที่เด่นในห้องนี้คือชุดหน้าต่างบาน ฟิกซ์ผสมบานเลื่อน โดยจะได้เป็นกระจกแบบเข้ามุม ทำให้รับแสงธรรมชาติจากภายนอกได้มากขึ้นและยังเพิ่มมุมมองจากภายในบ้านออกไปด้านนอกได้อีกด้วยค่ะ
สำหรับห้องนอนห้องนี้ทางโครงการวางเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
พื้นที่ข้างเตียงที่เหลือสามารถที่จะวางโต๊ะหัวเตียงได้สบายๆ
ส่วนพื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งเหลือค่อนข้างเยอะ สามารถที่จะติดตั้งเป็นโต๊ะนั่งทำงานขนาดใหญ่ได้เลยค่ะ ระยะการใช้งานเหลือเฟือ
ส่วนพื้นที่ปลายเตียงจะถูกจัดเป็นส่วน Walk – in Closet
โดยส่วน Walk – in Closet นี้จะมีช่องแสงอีก 1 บาน เป็นหน้าต่างบานสูง ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังระเบียงเล็กนอกบ้านได้
ให้ดูระยะการใช้งานปลายเตียงจนถึง Walk – in Closet สามารถที่จะวางโต๊ะวางของเตี้ยๆทในลักษณะนี้เพื่อแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนได้ โดยไม่ทำให้ห้องดูแคบลง
สำหรับตัวบานหน้าต่างบริเวณ Walk – in Closet จะเป็นหน้าต่างบานเปิด สามารถเปิดระบายอากาศได้แบบนี้ค่ะ
ส่วนระเบียงภายนอกจะเป็นระเบียงสำหรับวางคอมเพรสเซอร์แอร์ หรือไว้ปลูกต้นไม้เท่านั้น ไม่เหมาะที่จะออกมายืนกินลมชมวิว ซึ่งการที่มีพื้นที่ระเบียงเล็กแบบนี้ทำให้เราได้พื้นที่ในส่วนของห้องนอนเพิ่มมากขึ้น ตอบรับการใช้งานในชีวิตจริงที่ลูกบ้านทาวน์โฮมส่วนใหญ่จะไม่ค่อยออกมาใช้งานระเบียงชั้น 2 กันเท่าไหร่ จึงปรับเอามาเพิ่มให้ในส่วนห้องนอนจะได้ใช้ประโยชน์กันมากขึ้นค่ะ
มุมจากภายในห้องนอนมองย้อนไปทางประตูทางเข้าค่ะ
พื้นระหว่างโถงบันไดเข้าห้องนอนจะมีตัวจบลามิเนตติดตั้งมาให้ทุกห้อง
ออกมาที่โถงบันไดเราจะไปดูในส่วนของห้องนอนรองกันต่อ
สำหรับประตูห้องนอนก็จะมีความสูงถึง 2.2 เมตร เช่นกัน
เข้ามาภายในห้องนอนรอง ซึ่งตัวห้องนอนร้องห้องนี้ก็ถือว่ามีขนาดค่อนข้างใหญ่สามารถที่จะเปรียบเทียบได้เป็นห้อง Master Bedroom ของทาวน์โฮมทั่วไปได้เลยค่ะ
เรามาดูทางฝั่งของห้องนอนกันก่อน
พื้นที่ส่วนห้องนอนนี้ทางโครงการติดตั้งเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
ระยะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง เหลือพอที่จะวางโต๊ะหัวเตียงได้สบายๆ
ส่วนระยะปลายเตียงพอให้เดินผ่านได้สะดวก
อีกฝั่งของห้องจะเป็นส่วนของ Walk – in Closet เล็กๆโดยห้องนี้ก็จะมีช่องแสงมาให้ 1 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่สามารถรับแสงธรรมชาติและเปิดระบายอากาศได้
ตัวพื้นที่ Walk – in Closet สามารถที่ใช้ติดตั้งตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้ 1 หลัง และอาจจะวางชุดโต๊ะเครื่องแป้งได้อีก 1 ชุด
ให้ดูระยะการใช้งานสามารถยืนแต่งตัวได้พอดีค่ะ
กลับมาที่โถงบันได เรามาดูในส่วนของห้องน้ำที่ชั้น 2 กันต่อ โดยห้องน้ำที่ชั้น 2 จะมีจุดเด่นตรงที่ถูกแบ่งแยกส่วนแห้งส่วนเปียกอย่างเป็นชัดเจน โดยห้องทางฝั่งซ้ายมือจะเป็นส่วนของห้องอาบน้ำ มีอ่างล้างมือและฝักบัว ขวามือจะเป็นส่วนของห้องน้ำที่จะมีโถสุขภัณฑ์อย่างเดียวค่ะ
เรามาดูในส่วนของห้องน้ำกันก่อน
ส่วนห้องน้ำจะมีพื้นที่สำหรับวางชั้นวางหนังสือไว้อ่านเพลินๆได้
ภายในห้องน้ำจะได้ช่องแสงขนาดใหญ่เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งผสมบานฟิกซ์ ตัวบานสูงกระจกฝ้า ทำให้สามารถรับแสงธรรมชาติได้และยังมีความเป็นส่วนตัวอยู่ นอกจากนั้นยังสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้กว้างอีกด้วยค่ะ
โถสุขภัณฑ์ที่ได้จะได้ของ American Standard ระยะการใช้งานเหมาะสม มีบ่าวางของด้านหลังนิดหน่อย สามารถใช้วางพวกหนังสือหรือโทรศัพท์ได้
ห้องน้ำอีกห้องจะเป็นส่วนของห้องอาบน้ำ
ภายในห้องจะมีอ่างล้างมือและฝักบัวพร้อมทั้งได้ช่องแสงมาอีก 2 จุด เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งทั้งคู่ สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้และรับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้ค่ะ
อ่างล้างมือจะได้เป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยมยี่ห้อ American Standard
พื้นที่ส่วนอาบน้ำจะติดตั้งฝักบัวพร้อมเดินสายไฟสำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย มีช่องวางของในผนัง 2 ช่อง
พื้นที่อาบน้ำประมาณ 0.9 x 0.7 เมตร พอให้ยืนอาบได้สะดวก
ต่อมาเรามาดูในบ้านแบบที่ 2 กันต่อ เป็นบ้านแบบ Autumn ฟังก์ชันในบ้านจะคล้ายกับบ้านแบบ Winter โดยฟังก์ชั่นภายในชั้น 1 จะเหมือนเดิม แต่จะมีการปรับฟังก์ชั่นคือพื้นที่บนชั้น 2 ที่จะมีเพิ่มเป็น 3 ห้องนอน เหมาะสำหรับบ้านที่มีสมาชิกเพิ่มขึ้นมาอีก 1 คนค่ะ
มาดูบ้านของจริงกันต่อค่ะ การออกแบบภายนอกจะคล้ายกับบ้านแบบที่แล้ว โดยจะยังใช้สีหลักเป็นสีน้ำตาล – เทาอ่อน, สีขาวและบานกรอบช่องแสงทั้งหมดเป็นสีขาว ลุคโดยรวมยังคงดู Modern เรียบง่าย
บ้านมาตรฐานก็จะได้เป็นหน้าตาแบบนี้ค่ะ
เข้ามาดูภายในตัวบ้าน พื้นที่ส่วนแรกจะเป็นส่วนของที่จอดรถขนาด 2 จอด หน้ากว้างบ้าน 5 เมตร มีทางเข้าหลักของบ้านเป็นประตูบานเลื่อนและมีช่องแสงที่ส่องไปยังโถงบันไดด้านใน และได้โคมซาลาเปา 1 ดวง
พื้นทางเข้ามีเฉลียงยกระดับขึ้นมาประมาณ 7 ซม. สามารถใช้วางชั้นวางรองเท้าได้
ตัวประตูทางเข้าหลักของบ้านจะได้เป็นบานเลื่อนคู่ บานกรอบอลูมิเนียมสีขาว พร้อมช่องแสงเหนือประตูอีก 1 บาน
เข้ามาภายในตัวบ้านจะเจอกับส่วน Living Room เป็นส่วนแรก มองตรงไปจะเป็นห้องทานอาหารและห้องครัว การตกแต่งในบ้านตัวอย่างหลังนี้จะตกแต่งภายในแนวการอยู่อาศัยจริง ดูอบอุ่นมากขึ้น ความสูงฝ้าเพดาน 2.8 เมตรพื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีครีมขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นผนังสีขาวฉาบเรียบพร้อมบัวเชิงผนังติดตั้งมาให้ทั้งหลัง
สำหรับบ้านหลังนี้ทางโครงการวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง มาให้ดูเป็นตัวอย่างซึ่งมีระยะการใช้งานที่พอดี เหลือพื้นที่ข้างโซฟานิดหน่อย
อีกฝั่งติดตั้งเป็นทีวีและตู้เก็บของ
ฝั่งขวามือจะเป็นโถงเชื่อมไปยังห้องน้ำและห้องเก็บของ
ภายในห้องน้ำมีฟังก์ชั่นครบทั้งส่วนแห้งและส่วนเปียก
อ่างล้างมือได้เป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยม แบบลอยตัว ยี่ห้อ American Standard พร้อมก๊อกน้ำเย็น
โถสุขภัณฑ์ได้ยี่ห้อ American Standard แบบ Dual Flush
ฝักบัวจะได้เป็นแบบ Hand Shower พร้อมเดินสายไฟรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น
พื้นที่ห้องน้ำจะไม่ถูกแยกส่วนแห้งส่วนเปียกและสjวนอาบน้ำจะมีพื้นที่ให้ยืนประมาณ 1 x 0.9 เมตร
ถัดมาเรามาดูในส่วนของห้องทานอาหารกันต่อ พื้นที่ห้องทานอาหารจะได้ช่องแสงมา 1 จุด เป็นประตูเชื่อมไปยังลานซักล้างหลังบ้าน
สำหรับบ้านหลังนี้ทางโครงการวางชุดโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง ให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งจริงๆเราสามารถเพิ่มเป็น 5 – 6 ที่นั่งได้ค่ะ
พื้นที่ครัวได้เป็นครัวเปิด ติดตั้งโคมซาลาเปา 1 ดวง และติดตั้งท่อ, ปลั๊กไฟมาให้รองรับสำหรับการติดตั้งเคาน์เตอร์ครัว
เราไปดูในส่วนลานซักล้างหลังบ้านกันต่อ
สำหรับบ้านตัวอย่างมีการเปลี่ยนพื้นปูด้วยกระเบื้อง แต่ยังคงเป็นร้านซักล้างเปิดโล่งทั่วไป ส่วนในบ้านมาตรฐานก็จะได้เป็นพื้นซีเมนต์ขัดหยาบเหมือนบ้านแบบที่แล้วค่ะ
ขึ้นไปดูบนชั้น 2 กันต่อ โดยพื้นที่โถงบันไดจะได้ช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานฟิกซ์ตัวบานยาวรับแสงธรรมชาติเข้ามาในโถงบันได
โครงสร้างบันไดจะได้เป็นคสล.ปิดหน้าด้วยไม้สำเร็จรูป ราวจับไม้สำเร็จรูปสีเข้ากับบันได
ขึ้นมาบนชั้น 2 จะถูกแบ่งฟังก์ชันออกเป็น 3 ห้องนอนและ 1 ห้องน้ำ
เราไปดูห้องนอนแรกเป็นห้องนอนรองติดบันไดกันก่อนค่ะ ตัวบานประตูจะยังคงได้ความสูง 2.2 เมตรเช่นเดิม
ภายในห้องนอนรองห้องแรกที่เราเข้ามาดูนี้ จะเป็นห้องนอนขนาดเล็กสุดของบ้าน ได้ช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ บานกรอบอลูมิเนียมสีขาว กระจกเขียวตัดแสง
ห้องนี้จัดวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต วางแบบเข้ามุมมาให้ดูเป็นตัวอย่าง
การจัดฟังก์ชันในห้องอีกด้านสามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดไม่ใหญ่ พร้อมโต๊ะเขียนหนังสือเล็กๆได้ เหมาะสำหรับเป็นห้องเด็กเล็ก
ระยะการใช้งานตู้เสื้อผ้าและโต๊ะวางหนังสือพอให้ใช้งานได้สะดวก
ถัดมาดูในห้องนอนและห้องที่ 2 กันต่อ
ห้องนอนห้องนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าห้องที่แล้วขึ้นมาหน่อย มีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ฝั่งหลังบ้าน
ห้องนี้จัดวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต แบบเข้ามุมมาให้ดูเป็นตัวอย่าง
และเนื่องจากขนาดห้องใหญ่กว่าห้องที่แล้ว จึงมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเขียนหนังสือที่กว้างขึ้น ระยะการใช้งานเพิ่มมากขึ้น จากระยะการใช้งานที่เหลือเราสามารถที่จะวางเตียงเป็นขนาดควีนไซส์ได้ แต่อาจจะต้องลดพื้นที่วางโต๊ะเขียนหนังสือลงไปค่ะ
ถัดมาเราไปดูในส่วนของห้องน้ำและห้องนอน Master Bedroom กันต่อ โดยเริ่มที่ห้องน้ำก่อนค่ะ
ในห้องน้ำจะแยกส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้ชัดเจน พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีดำ ลดระดับลงไปประมาณ 5 เซนติเมตร ได้กระจกเงาบานใหญ่
สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจะได้อ่างล้างมือแบบลอยตัวทรงสี่เหลี่ยมและสุขภัณฑ์สีขาวแบบ Dual Flush ยี่ห้อ American Standard เหนืออ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์จะมีบ่าวางของมาให้ สามารถใช้วางของกระจุกกระจิกได้ค่ะ
สำหรับพื้นที่ส่วนห้องอาบน้ำทางโครงการจะมีธรณีพื้นยกขึ้นมาให้สูงประมาณ 5 เซนติเมตร ไม่มี Shower Box ติดตั้งมาให้ซึ่งเราสามารถติดตั้งเองได้ไม่ยากค่ะ ภายในห้องอาบน้ำจะมี Hand Shower แบบปรับระดับได้ ยี่ห้อ American Standard ติดตั้งมาให้ พร้อมช่องวางของในผนังอีก 2 ช่อง
ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 1.4 x 0.9 เมตร พอยืนอาบได้สะดวก
ถัดมาดูส่วนของห้อง Master Bedroom กันต่อ
เข้ามาในห้อง Master Bedroom จะมีขนาดใหญ่ที่สุดของบ้าน ได้พื้นที่หน้ากว้างของบ้านไปทั้งหมด จึงสามารถแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนห้องนอนและ Walk – in Closet ขนาดย่อมๆได้ ภายในห้องนอนห้องนี้จะมีช่องแสงมาให้ 2 จุด เป็นชุดหน้าต่างบานเลื่อนผสมบานฟิกซ์แบบเข้ามุม และหน้าต่างบานเปิดผสมบานฟิกซ์ ที่สามารถเปิดออกไปยังระเบียงเล็กภายนอกได้
มาดูในส่วนของห้องนอนกันก่อนค่ะ
พื้นที่ห้องนอนวางเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
ระยะที่เหลือข้างเตียงพอให้วางโต๊ะหัวเตียงได้
พื้นที่อีกฝั่งจะถูกจัดเป็น Walk – in Closet และพื้นที่ปลายเตียงจะมีการติดตั้งชั้นวางทีวีและชั้นวางของแบบลอยตัว
ระยะการใช้งานปลายเตียงเหลือค่อนข้างกว้าง สามารถเดินผ่านได้สบายๆ
พื้นที่ข้างเตียงระหว่างส่วนห้องนอนและส่วน Walk – in Closet หรือค่อนข้างกว้าง สามารถที่จะใช้เป็นพื้นที่วางเก้าอี้นั่งพักผ่อนเล็กๆ หรือจะหาฉากกั้นมากั้นส่วนแต่งตัวให้แยกเป็นสัดส่วนก็ได้ค่ะ
ช่องแสงในพื้นที่ส่วน Walk – in Closet จะได้เป็นบานเปิด หน้าตาแบบนี้ค่ะ
เปิดมาเป็นพื้นที่ระเบียงเล็กๆสำหรับวางคอมเพรสเซอร์แอร์หรือปลูกต้นไม้ มีระแนงติดตั้งมาให้เพื่อบังสายตา
ถัดมาดูแบบบ้านที่ใหญ่ที่สุดของโครงการนี้คือบ้านแบบ Spring พื้นที่ใช้สอย 132 ตารางเมตร ที่ดินเริ่มต้น 19.9 ตารางวา หน้ากว้าง 5.5 เมตรฟังก์ชันภายในบ้าน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
มาดูในส่วนของแปลนบ้านกันก่อน เริ่มจากเข้าไปในพื้นที่ของตัวบ้านจะเจอกับที่จอดรถขนาด 2 จอด จากพื้นที่จอดรถเข้าไปในตัวบ้านจะเป็นส่วน Living Room จากห้อง Living Room จะเชื่อมไปยังพื้นที่ทานอาหาร และครัว โดยพื้นที่สวนครัวนี้จะได้เป็นครัวเปิด ไม่ได้ถูกแยกพื้นที่ออกจากห้องทานอาหารแนะนำให้กั้นห้องเพิ่มเติมหรือต่อเติมที่ลานซักล้างหลังบ้านค่ะ ส่วนห้องน้ำที่ชั้น 1 นี้จะถูกแยกเป็นสัดส่วนเหมือนบ้านแบบที่แล้ว ฟังก์ชันภายในครบ แยกทั้งส่วนเปียกและส่วนแห้ง
ขึ้นมาบนชั้น 2 จะมีทั้งหมด 3 ห้องนอนและ 1 ห้องน้ำ โดยจุดเด่นของพื้นที่บนชั้น 2 จะเป็นการวางแปลนที่แตกต่างจากทาวน์โฮมทั่วไป คือมีการดันห้องน้ำไปไว้ฝั่งหลังบ้านเพื่อให้ได้ช่องแสงเพิ่มและห้องนอนทุกห้องจะได้ช่องแสงภายในห้อง นอกจากนั้นในส่วนของบันไดจะมีช่องแสงแยกต่างหาก สามารถที่จะเปิดเพื่อระบายอากาศให้อากาศถ่ายเทภายในบ้านได้ดียิ่งขึ้น
ตัวบ้านของจริงการออกแบบภายนอกจะดูมีดีเทลเพิ่มขึ้นกว่าอีก 2 แบบที่แล้ว โดยเราจะเห็นว่าตัว Facade จะมีการเล่นเส้นสายแนวตั้งและมีระเบียงหน้าบ้านทำให้ดูมีมิติมากขึ้น ส่วนโทนสีที่ใช้ก็จะยังคล้ายๆกันคือเป็นโทนน้ำตาลเทาและสีขาวค่ะ
ในบ้านมาตรฐานที่ได้แต่หน้าตาแบบนี้
มาดูภายในตัวบ้านกันต่อ เมื่อเข้ามาภายในตัวบ้านจะเป็นพื้นที่จอดรถขนาด 2 จอด ส่วนตัวบ้านจะแยกเป็นประตูทางเข้าหลักขวามือและช่องแสงบริเวณโถงบันไดทางซ้าย
ประตูทางเข้าหลักของบ้านจะได้เป็นบานเลื่อนคู่ บานกรอบอลูมิเนียมสีขาว กระจกเขียวตัดแสง
เข้ามาภายในตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่ส่วน Living Area เป็นส่วนแรก ความสูงฝ้าเพดาน 2.8 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีครีม จากห้องนี้มองตรงไปจะเป็นส่วนของห้องทานอาหารและห้องครัวฝั่งซ้ายมือจะเป็นส่วนของห้องน้ำ พื้นที่ตั้งแต่ห้องนั่งเล่นไปจะถึงห้องทานอาหารจะได้เป็นโคมซาลาเปา
2 ดวง
บ้านหลังนี้จัดวางโซฟาขนาด 4 ที่นั่งทรง L shape มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งดูเหมาะสมกับพื้นที่และสามารถใช้งานได้หลายคนค่ะ
อีกฝั่งของห้องเป็นที่สำหรับวางทีวี
พื้นที่ส่วนห้องน้ำจะถูกแยกไว้เป็นสัดส่วน มีโถงย่อยจากห้องนั่งเล่น
เข้าไปภายในห้องน้ำจะถูกจัดไว้เป็นสัดส่วนมากขึ้น โดยพื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาเข้ม ลดระดับลงไปประมาณ 5 เซนติเมตร ได้ฟังก์ชั่นครบทั้งส่วนแห้ง ส่วนเปียก มีช่องแสงมาให้ 1 จุด เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งผสมบานฟิกซ์ หน้าต่างกระจกฝ้า
อ่างล้างเมืองและโถสุขภัณฑ์ได้ของ American Standard สีขาว
พื้นที่ส่วนห้องอาบน้ำแยกส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้ พร้อมติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower ยี่ห้อ American Standard มีที่วางของในผนังให้ 1 ช่อง
พื้นลดระดับลงไปประมาณ 5 ซม. ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 0.6 x 0.8 เมตร
ออกมาจากห้องน้ำก็จะเป็นส่วนของห้องเก็บของ
ถัดมาไปดูในส่วนของห้องทานอาหารและห้องครัวกันต่อ โดยพื้นที่ส่วนห้องทานอาหารนี้จะถูกรวมไว้กับห้องครัว ซึ่งถ้าใครกังวลเรื่องกลิ่นรบกวนก็แนะนำให้กั้นห้อง โดยอาจจะใช้วัสดุเป็นกระจกใส เพื่อช่วยให้ตัวบ้านไม่ทึบหรือต่อเติมครัวเพิ่มหลังบ้านก็จะได้ครัวที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและเป็นสัดส่วนมากขึ้นค่ะ
พื้นที่ห้องทานอาหารของบ้านหลังนี้วางโต๊ะขนาด 4 ที่นั่ง ให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งดูเหมาะสมกับพื้นที่การใช้งาน
พื้นที่ห้องครัวทางโครงการติดตั้งชุดเคาน์เตอร์ครัวมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ส่วนในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นห้องเปล่า พร้อมเดินท่อและสายไฟมาให้เรียบร้อย มีช่องแสง 1 จุด สำหรับระบายอากาศ
ให้ดูระยะการใช้งานระหว่างห้องทานอาหารและห้องครัว ซึ่งถ้าเราจัดตกแต่งภายในบ้านเหมือนในบ้านตัวอย่าง ก็จะเหลือพื้นที่ทำครัวประมาณ 1.2 เมตร
ต่อมาเรามาดูในส่วนของลานซักล้างหลังบ้านกันต่อ
ในบ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องซักรีดและพื้นที่ห้องนั่งเล่นแบบสวนวินเทจ
ส่วนในบ้านมาตรฐานก็ได้เป็นพื้นซีเมนต์ขัดหยาบทั่วไป
ต่อมาเราจะขึ้นไปดูบนชั้น 2 กันต่อค่ะ
ตัวบันไดจะได้โครงสร้างคสล. ปิดหน้าด้วยไม้สำเร็จรูป
ชานพักบันได 2 ตอนแบบสี่เหลี่ยมและแบบสามเหลี่ยม
พื้นที่บนชั้น 2 จะถูกแบ่งเป็นห้องนอน 3 ห้อง และห้องน้ำ 1 ห้อง
ขึ้นมาบนชั้น 2 ให้ดูภาพรวมของโถงบันไดจะมีราวกันตกสีขาว มือจับไม้สําเร็จรูป
มาดูห้องนอนห้องแรกกันก่อนค่ะ เป็นห้องนอนรองห้องที่ 2
เข้ามาภายในห้องจะถูกตกแต่งเป็นห้องนอนของลูกสาว ซึ่งจากขนาดของห้องก็เหมาะที่จะเป็นห้องนอนของเด็กเล็กหรือเป็นห้องที่เหมาะสำหรับวางเตียงเดี่ยวค่ะ
ความพิเศษของห้องนี้คือจะมีช่องแสงแบบเข้ามุมบานใหญ่ สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้ดีและรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะ
ในบ้านตัวอย่างจัดวางเป็นเตียงขนาด 3.5 ฟุต แบบเข้ามุมมาให้ดูเป็นตัวอย่าง
พื้นที่ข้างเตียงจะเป็นผนังเว้าลงไปเหมาะสำหรับ Built – in เป็นตู้เสื้อผ้าตามแบบ
ระยะการใช้งานพอให้ใช้งานได้สะดวก
พื้นที่ปลายเตียงติดตั้งชั้นวางของแบบลอยตัว
ระยะการใช้งานเหลือค่อนข้างเยอะค่ะ
มาดูในส่วนของห้อง Master Bedroom กันต่อ
ภายในห้อง Master Bedroom ซึ่งเป็นห้องขนาดใหญ่ที่สุดของบ้าน จะมีพื้นที่พอให้วางฟังก์ชันต่างๆครบถ้วนและมีระเบียงในตัว
โดยห้องนี้จัดวางเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
ระยะข้างเตียงเหลือพอให้ใช้งานฟังก์ชั่นตู้เสื้อผ้าและสามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้
พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งจะมีช่องแสงขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อไปยังระเบียงภายนอก
โดยพื้นที่ทางฝั่งนี้เหลือค่อนข้างเยอะสามารถที่จะวางโซฟาเอนหลังได้ 1 ตัว
ให้ดูช่องแสงขนาดใหญ่ในห้อง Master Bedroom จะได้เป็นประตูบานเลื่อนคู่ผสมบานฟิกซ์
ระเบียงภายนอกเป็นคอนกรีตฉาบเรียบ ราวกันตกเหล็กสีน้ำตาลเข้ม
พื้นที่ปลายเตียงวางเป็นชั้นวางของ มีระยะการใช้งานให้เดินสะดวก
กลับมาที่โถงบันไดอีกครั้ง เราจะไปดูในส่วนของห้องนอนรองห้องที่ 3 และห้องน้ำกันต่อ โดยจากมุมนี้เราจะเห็นว่าตัวโถงบันใดมีความพิเศษตรงที่ทางโครงการติดตั้งช่องแสงมาให้ด้วย
ซึ่งตัวช่องแสงนี้จะเป็นหน้าต่างบานเลื่อน ผสมบาน fix ลักษณะบานเป็นบานยาวเกือบเต็มผนังทำให้โถงบันใดมีความโปร่งและระบายอากาศได้ดี
มาดูในห้องนอนรองกันต่อค่ะ
เข้ามาภายในห้อง ทางโครงการจัดพื้นที่ในห้องให้ดูเป็นเตียงสองชั้น ซึ่งในบ้านของโครงการนี้สามารถจัดเป็นเตียงสองชั้นได้สบายๆ เพราะว่ามีฝ้าเพดานที่สูงถึง 2.8 เมตร ทำให้เวลาจัดเตียงสองชั้นแล้วคนที่นอนบนชั้น 2 ก็ยังรู้สึกไม่อึดอัด และภายในห้องจะได้ช่องแสงมา 1 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้
พื้นที่อีกด้านของห้องถูกจัดเป็นตู้เสื้อผ้าและเก้าอี้นั่งพักผ่อนข้างเตียง
มาดูส่วนของห้องน้ำกันต่อ ห้องน้ำบนชั้นสองจะถูกวางมาให้อยู่ฝั่งหลังบ้านเพื่อที่จะได้ช่องแสง ไว้ เปิดระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติ
ภายในห้องน้ำจะมีทั้งส่วนแห้งและส่วนเปียก สุขภัณฑ์ที่ได้จะได้มาครบพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ตามรูป
โดยอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์จะได้เป็นสีขาว ยี่ห้อ American Standard เหนืออ่างจะมีบ่าวางของไว้ให้
ช่องแสงในห้องน้ำจะได้เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งผสมบานฟิกซ์ บานค่อนข้างใหญ่
ส่วนห้องอาบน้ำจะถูกแยกเป็นสัดส่วน มีธรณีก่อสูงขึ้นมาประมาณ 4 เซนติเมตร ภายในห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัวและมีช่องวางของในผนัง
ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 0.6 x 0.9 เมตร
ราคา (มีนาคม 2560)
โปรโมชั่นอื่นๆ โปรดสอบถามทางโครงการ*
บทสรุปโครงการ
ทำเลโดยรอบ : โครงการ Citysense รามอินทรา ต้ังอยู่ในซอยพระยาสุเรนทร์ 30 สภาพแวดล้อมโดยรวมเกือบทั้งหมดจะเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบและมีที่ดินเปล่าผืนใหญ่ๆเหลืออยู่บ้างแต่ไม่มาก บรรยากาศมีความเป็นชุมชนที่เงียบสงบ มีถนนภาระจำยอมของโครงการเชื่อมมาจากถนนซอยก่อน จึ่งทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เหมาะแก่การอยู่อาศัย
ในขณะที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ให้ได้พึ่งพาในซอยข้างเคียงพอสมควร โดยจะอยู่ในระยะที่ไกลจากโครงการออกมาหน่อย อาหารการกินในระยะเดินถึงไม่มี ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ที่ใกล้โครงการหลักๆ จะอยู่ในตัวซอยพระยาสุเรนทร์และถนนปัญญาอินทราโดยจะมีร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารทั่วไปหลายร้าน และมี Tesco Lotus ส่วนบนถนนปัญญาอินทราจะมีร้านอาหารหลายร้าน รวมไปถึง Avenue อย่าง Panya Village และ Max Value ส่วนห้างใหญ่ๆที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการคือ Fashion Island และ Promanade ส่วนโรงพยาบาลใกล้ๆ จะมีโรงพยาบาลนพรัตนราชธานีตรงแยกตัดกับถนนสวนสยาม และโรงพยาบาลสินแพทย์ ไกลไปอีกก็จะมีโรงพยาบาลเปาโลนวมินทร์ (พญาไท นวมินทร์)ค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : สะดวกโดยเส้นทางหลักๆที่ใช้ของโครงการนี้จะมีถนนรามอินทราสามารถใช้เดินทางไปเชื่อมกับถนนสายอื่นๆได้อีกหลายเส้น อย่างถนนแจ้งวัฒนะ, ถนนนวมินทร์, ถนนเกษตรนวมินทร์, ถนนเสรีไทย หรือจากฝั่งนอกเมืองก็สามารถมาได้ทั้งจากถนนหทัยราษฏร์, ถนนพระยาสุเรนทร์, ถนนคู้บอน และถนนพหลโยธิน
การเข้าถึงโครงการสามารถใช้ถนนรามอินทราฝั่งมุ่งหน้ามีนบุรี เข้าถนนปัญญารามอินทรา และถนนพระยาสุเรนทร์ และเข้าซอยพระยาสุเรนทร์ 30หรือถ้ามาจากเส้นสุวินทวงศ์ ก็สามารถเข้าเส้นหทัยราษฎร์และเข้าซอยเจริญพัฒนาก็จะสามารถเชื่อมเข้าซอยพระยาสุเรนทร์ 30 ได้ค่ะ
นอกจากนั้นโครงการยังอยู่ใกล้กับทางด่วนวงแหวนรอบนอกและทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ ซึ่งสะดวกสำหรับขาเข้าเมือง ส่วนขาออกนอกเมืองก็สามารถออกจากโครงการแล้วใช้เส้นเลียบกาญจนาตรงขึ้นไปได้ถึงบางปะอิน อยุธยาเลยค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ : อาจจะไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่เพราะตัวโครงการไม่มีรถสาธารณะวิ่งผ่าน มีแค่ Taxi หรือพี่วินที่นานๆจะผ่านมาที ถ้าจะใช้รถเมล์ก็ต้องออกมาบนถนนรามอินทรา (มีรถเมล์สาย 26, 96, 115ร, 150ร, 501, 525 ) หรือถ้าใครสะดวกใช้รถตู้ก็สามารถไปที่ป้ายหน้าห้าง Fashion Island จะมีรถตู้ผ่านหลายเส้นทาง ทั้งเข้าเมืองไป BTS จตุจักร อนุสาวรีย์ และเข้าเมืองมีน
ส่วนในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย – มีนบุรี สถานีที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นสถานีบางชันและสถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่ – บางซื่อ) และเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม(ตลิ่งชัน – มีนบุรี) เราสามารถใช้เส้นนี้เพื่อเข้าเมืองไปเชื่อมต่อกับรถไฟใต้ดิน MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรมได้ค่ะ แต่เนื่องจากตัวโครงการไม่ได้อยู่เกาะแนวเส้นรถไฟฟ้าจึงต้องพึ่งรถโดยสารเพื่อไปถึงตัวสถานีก่อนค่ะ
การออกแบบโครงการและแบบบ้าน : ตัวโครงการการออกแบบมาใน Concept Sense Of Relaxation และ Oxygen Community เน้นบรรยากาศที่เงียบสงบ ผ่อนคลาย สไตล์รีสอร์ท มีพื้นที่สีเขียวในโครงการเยอะ นอกจากนั้นยังมีการจัดวางผังถนนในโครงการแบบเชื่อมถึงกันหมด ทำให้สามารถที่จะขับได้รอบโดยไม่ต้องกลับรถ ส่วนบรรยากาศของโครงการที่ตอนนี้มีลูกบ้านเข้าอยู่พอสมควรแล้วยังดูเรียบร้อย เป็นระเบียบดีค่ะ
ส่วนการออกแบบตัวบ้านของปริญสิริ ทำออกมาได้ใส่ใจและละเอียดดีค่ะ โดยเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น มีทั้งหมด 3 แบบ แตกต่างกันโดยจะมีการจัดฟังก์ชั่นมาเพื่อให้เหมาะสมกับผู้ใช้งาน และมีการศึกษา User เพื่อปรับเพิ่มลดพื้นที่ส่วนต่างๆตามลักษณะการใช้งานของแต่ละครอบครัว เช่น ลดระเบียงหน้าบ้านเพื่อมาเพิ่มพื้นที่ในส่วนของห้องนอนแทน ตามนิสัยการใช้งานของคนที่อยู่ทาวน์โฮมส่วนใหญ่ที่จะไม่ค่อยได้ใช้พื้นที่บนระเบียงชั้น 2 เท่าไหร่ค่ะ นอกจากนั้นตัวบ้านยังมีจุดเด่นที่มีช่องแสงเยอะ มีการออกแบบโดยพยายามใส่ช่องแสงเข้าไปในทุกๆห้อง เพื่อสามารถระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติได้ ส่วนห้องน้ำก็มีแยกส่วนแห้งส่วนเปียกชัดเจน ฝ้าเพดานสูงถึง 2.8 เมตร ทำให้บ้านกว้างและโปร่งสบาย
ส่วนการวางฟังก์ชั่นการใช้งานโดยรวมก็ครบถ้วน พื้นที่ใช้สอยโดยรวมจัดมาให้ใช้ได้อย่างลงตัวไม่รู้สึกติดขัดอะไร ในห้องนอนแต่ละห้องจัดพื้นที่มาให้เหลือๆ สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นๆได้ครบแต่เสียดายที่ครัวที่ให้มาค่อนข้างเล็กไปหน่อย อาจจะต้องต่อเติมเพิ่มกันเอง
วัสดุ : ที่จอดรถหน้าบ้านเป็นพื้นซีเมนต์ขัดหยาบ เฉลียงหน้าบ้าน, ลานซักล้างและระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม. พื้นภายในบ้านชั้นล่าง รวม Pantry และ ห้องครัวเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. ชั้น 2 ได้เป็นพื้นลามิเนตหนา บานประตูภายในบ้านเป็นบานประตูสำเร็จรูป HDF, ส่วนประตูและหน้าต่างบานเลื่อนและบานกระทุ้งทั้งหมดเป็นบานกรอบอลูมิเนียมอบขาว กระจกเขียวตัดแสง สวิทช์ไฟทั้งหลังของ Bticino ไฟทั้งบ้านผสมระหว่างดาวน์ไลท์และโคมซาลาเปาทั้งหลัง โถสุขภัณฑ์ ใช้ของ American Standard
สาธารณูปโภค : ระบบรักษาความปลอดภัยมีป้อมรักษาความปลอดภัยหน้าโครงการ ใช้ประตูอัตโนมัติ เข้าออกโครงการด้วย Key Card Access ติดตั้ง CCTV ฝั่งละ 2 ตัว รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร (+ต่อรั้ว 2 เมตร ในบางจุด) และรั้วของบ้านแต่ละหลังสูง 1.5 เมตร ถนนหลักกว้าง 12 เมตรและถนนรองในโครงการกว้าง 9 เมตร สำหรับส่วนกลางมีสวนสาธารณะ อาคาร Club House, สระว่ายน้ำ แยกสระเด็ก สระผู้ใหญ่ ขนาด 7 x 21 เมตร
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.0 | มีข้อดีตรงที่มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบสูง ใกล้ห้าง Fashion Island |
การเดินทาง ใช้รถ | 8.0 | เข้า – ออกเมืองได้สะดวกโดยใช้ถนนรามอินทราและทางด่วนที่ใกล้จะเป็นทางด่วนรามอินทรา – อาจนรงค์และวงแหวนตะวันออก |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 6.0 | ค่อนข้างลำบาก จากโครงการออกมาถนนใหญ่ค่อนข้างไกล และไม่มีรถโดยสาธารณะผ่านนอกจากรถ Taxi และพี่วิน |
บ้านและวัสดุ | 8.75 | ตัวบ้านออกแบบมาได้ใส่ใจในตัวฟังก์ชั่นการใช้งาน และความอยู่สบายคนอยู่อาศัยดีมาก ได้ฝ้าเพดานที่สูงโปร่ง วัสดุมาตรฐานค่อนข้างดี มีจุดเด่นตรงที่ระบบระบายอากาศและได้ช่องแสงมาเยอะ ฟังก์ชั่นครบ |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.5 | ระบบรักษาความปลอดภัย Key card access ระยะใกล้ จากป้อมของโครงการ ถนนภายในกว้าง 12 และ 9 เมตร มีสวนสาธารณะ, Club House, และสระว่ายน้ำ |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.75 | ราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท ถือว่าเป็นราคาที่มาตรฐานทาวน์โฮมเฉลี่ยบนทำเลนี้ แต่ได้คุณภาพและความใส่ใจในการออกแบบตัวบ้านและวัสดุ รวมไปถึงบรรยากาศภายในโครงการเยอะกว่ามาก Facilities ดี เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง – ขนาดใหญ่ |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.00 | ดี |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
TEL : 02-5087069
WEBSITE : http://www.prinsiri.com
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
มาคอนเฟิร์มอีกเสียง
ว่าแย่มากตั้งแต่ฝ่ายขาย ยัน ฝ่ายบริการหลังการขายเลย
ถ้าไม่ติดว่า อยู่ใกล้ที่ทำงาน และ แบบบ้านสวย จะไม่เอาเลย
รีบให้โอนซะจริงๆ ทั้งๆที่บ้านยังเละอยู่ ไม่รู้ว่าไปฮั๊วอะไรกับธนาคารหรือเปล่า
ตามให้มาเก็บงานก่อนเข้าอยู่ ตามแล้วตามอีก น้ำหลังคารั่วยังไงก็ยังงั้น ตามจนจะเป็นนางยักษ์นางมาร
นี่ตัดสินใจเลือกซื้อโครงการที่เป็นมหาชนนะ บางทีก็รู้สึกว่า เหนื่อยใจมาก กับคุณภาพบ้าน และ การบริการ
ขายได้แล้วทิ้งลูกบ้านเลย ไม่มีบริการหลังการขาย บ้านอยู่มาไม่ถึงปีตอนนี้ร้าวทั้งหลัง การรักษาความสะอาดในหมู่บ้านไม่มี มีแค่ทางเข้าหมู่บ้านและที่สำนักงานขายเท่านั้น
ส่วนในบริเวณถนนหน้าบ้านของลูกบ้าน ไม่เคยมากวาด ต้องดูแลกันเอง หน้าบ้านใครบ้านมัน เอาต้นไม้มาปลุกไว้ตามหน้าบ้านลูกบ้าน แต่ไม่เคยมากวาดใบไม้
กลางคืนค่ำมืดดึกดื่นก็ยังมีรถขนดินขนทราย เข้ามาในหมู่บ้าน เพราะโครงการนี้ยังสร้างไม่เสร็จ
ไม่มีความเกรงใจลูกบ้าน บริการหลังการขายไม่มี เวลาเกิดปัญหาตามใครไม่ได้
ผิดหวังจริงๆที่มาซื้อโครงการนี้
ที่รีวิวจริงเหรอครับ…ผมกำลังจะไปจองพอดี…วันก่อนไปดูมา…ช่วยตอบด่วน
เป็นโครงการที่บริการหลังการขายแย่มาก ขายแล้วโอนแล้วคือจบ ทิ้งขว้างลูกบ้านเลย การปฏิบัติระหว่างลูกค้าก่อนมาซื้อบ้านกับลูกบ้านแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ตอนนี้บ้านเป็นประเภทสร้างไปขายไป วันเสาร์หรืออาทิตย์ก็มีการทำงานของคนงานโดยไม่มีความเกรงใจลูกบ้าน เสียงดังมาก คือโครงการนี้ไม่มีความเห็นหัวลูกบ้านเลย
call center ร้องเรียนไปก็แค่นั้น เสียเวลาเปล่า การดูแลความสะอาดในหมู่บ้านจะมีแค่ส่วนของทางเข้าหมู่บ้านและในส่วนของสำนักงานขายเท่านั้น
ส่วนถนนตามหน้าบ้านของลูกบ้าน ไม่เคยเห็นมากวาด สกปรกยังงัยก็ยังงั้น ค่าส่วนกลางก็เก็บ โครงสร้างบ้านก็แย่ อยู่ได้ไม่นานร้าวทั้งหลัง
ตามให้มาเก็บงานก็ยาก ขายทิ้งจริงๆสำหรับโครงการนี้