เดินทางสะดวกสบาย ใกล้รถไฟฟ้า MRT ลาดพร้าว และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ใกล้ถนนลาดพร้าว, ถนนรัชดาภิเษก และถนนพหลโยธิน ใกล้ศูนย์การค้า Central Plaza ลาดพร้าว, Union Mall และ Big C ลาดพร้าว
ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรเชิญติดตามได้ที่ด้านในรีวิวเลยครับผม ^ ^
ชื่อโครงการ
ดิ อิสสระ ลาดพร้าว / THE ISSARA LADPRAO
เจ้าของโครงการ
บริษัท ซี.ไอ.เอ็น เอสเตท จำกัด (ในเครือชาญอิสระ)
ลักษณะห้องและขนาดห้อง
3 Bed, Duplex
เนื้อที่ทั้งหมด
4 ไร่ 3 งาน 54 ตร.ว.
จำนวนตึก
1 อาคาร
จำนวนชั้น
47 ชั้น
จำนวนห้อง
561 ยูนิต
ที่จอดรถทั้งหมด
70% รวมซ้อนคัน
โซน
ลาดพร้าว,จตุจักร,ประชาชื่น
ขนส่งสาธารณะ
รถไฟฟ้า MRT สถานีลาดพร้าว 400 เมตร
รถโดยสารที่ผ่าน
รถประจำทาง, มอเตอร์ไซค์รับจ้าง, แท๊กซี่
ที่ตั้ง
ถนนลาดพร้าว ระหว่างซอยลาดพร้าว 12 และซอยลาดพร้าว 14 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.
กำหนดการ
n/a
ปีที่สร้างเสร็จ
ปลายปี 2555
ราคา
เริ่มต้น 18,000,000 บาท – ขนาด 3 ห้องนอน (ส.ค. 59)
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม
เริ่มต้น 130,000 บาท/ตร.ม.
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
– Big C ลาดพร้าว : 50 ม.
– ยูเนี่ยนมอลล์ : 1.1 กม.
– เซ็นทรัลลาดพร้าว : 1.7 กม.
– Tesco Lotus ลาดพร้าว : 2.3 กม.
– ตลาดลุงเพิ่ม : 900 ม.
– สวมลุมไนท์บาซาร์ รัชดาภิเษก : 1.1 กม.
– สวนจตุจักร (สวนสาธารณะ) : 1.6 กม.
– สวนจตุจักร (ตลาดนัด) : 2.8 กม.
– ศาลอาญารัชดา : 2.4 กม.
– สำนักงานใหญ่การบินไทย : 1.4 กม.
– โรงเรียนเซนต์ตอห์นและมหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น : 950 ม.
สิ่งอำนวยความสะดวก
-สระว่ายน้ำ ขนาด 25×8 เมตร
-ฟิตเนส พื้นที่ 500 ตร.ม.
-รปภ. 24 ชม.,กล้องวงจรปิด
-ร้านอาหาร
-สวนหย่อม
– access control (Key card)
จุดเด่นของโครงการ
คอนโดมิเนียมต้นแบบที่ให้คุณมีพื้นที่ใช้สอยครบครัน ให้ความเป็นส่วนตัวตอบสนองทุกความต้องการ พร้อมทัศนียภาพ กว้างไกลกับสถาปัตยกรรมแนวสูง พักผ่อนได้เต็มที่กับพื้นที่สีเขียว เดินทางสะดวก ด้วยรถไฟฟ้า MRT ลาดพร้าว และแหล่งศูนย์การค้า สวนสาธารณะ ตลาดสด สถาบันการศึกษามากมาย
คอนโดติดรถไฟฟ้า MRT พหลโยธิน
คอนโดโดยรอบ MRT พหลโยธิน (เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม BTS ห้าแยกลาดพร้าว)
::: ที่ตั้งโครงการ :::
ถนนลาดพร้าว ระหว่างซอยลาดพร้าว 12 และซอยลาดพร้าว 14 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม
แผนที่โครงการ
The Issara ลาดพร้าว ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ลาดพร้าวช่วงต้นระหว่างซอยลาดพร้าว 12 และ 14 ประมาณกึ่งกลางระหว่างห้าแยกลาดพร้าวกับแยกรัชดา-ลาดพร้าว ทำเลดังกล่าว เป็นทำเลที่ค่อนข้างหลากหลายทั้งบ้านพักอาศัยแนวราบ, คอนโด, ห้างร้าน, แหล่งธุรกิจและห้างสรรพสินค้า
เรื่องของการเดินทางถนนลาดพร้าวเป็นถนนสายสำคัญของกรุงเทพโซนเหนือ มีจุดเชื่อมต่อกับถนนเส้นสำคัญหลายเส้นดังนี้
ถนนลาดพร้าว ตัวโครงการตั้งอยู่ช่วงต้นที่จุดเริ่มต้นคือห้าแยกลาดพร้าวที่เป็นจุดตัดกับกับถนนพหลโยธินและวิภาวดีรังสิต ส่วนทางด้านปลายนั้นถนนลาดพร้าวเป็นถนนที่ยาวมากจุดสิ้นสุดไปอยู่ที่บางกะปิตรงบริเวณใกล้ห้างเดอะมอลล์บางกะปิ วิ่งตรงต่อไปยังถนนเสรีไทยหรือแยกลำสาลีที่ใช้งานไปยังถนนศรีนครินทร์ได้อีกที
ถนนรัชดาภิเษก ถนนเส้นนี้อยู่ห่างจากโครงการราว 1 กม. มีจุดจัดที่แยกรัชดา-ลาดพร้าว การใช้งานถนนรัชดาหากวิ่งขึ้นทางเหนือมุ่งหน้าสู่แยกรัชโยธินหากวิ่งไปต่อไปข้ามถนนวิภาวดีรังสิตจะเข้าสู่แยกประชานุกูลแถวๆประชาชื่น
ถนนพหลโยธิน อีกเส้นสำคัญที่ใช้เข้าเมืองไปทางฝั่งอนุเสารีย์ชัยฯ หรือฝั่งขาออกใช้งานไปยังแยกเกษตรต่อเนื่องไปรามอินทรา-แจ้งวัฒนะ และจะไปสิ้นสุดที่ทางร่วมเข้าถนนวิภาวดีรังสิตบริเวณอนุสรณ์สถาน
ถนนวิภาวดีรังสิต ฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าสู่ดินแดง ส่วนฝั่งขาออกมุ่งหน้าไปทางหลักสี่-ดอนเมืองต่อเนื่องไปทางรังสิต, นครนายก, ปทุมธานี, อยุธยา
ความอุดมสมบูรณ์ บริเวณโครงการมีจุดเด่นอยู่ที่ Big C ฝั่งตรงข้ามที่เพียงแค่ข้ามถนนก็ถึงแล้วภายใน Big C ถือว่าครบครันเพราะเป็น Big C Extra นอกจากซื้อข้าวของเครื่องใช้ซื้อเสบียงแล้วยังมีร้านอาหารชื่อดังที่คนไทยนิยมเช่น Bar B Q Plaza, MK, KFC, McDonald และ Pizza Company เป็นต้น แถมพ่วงด้วย Homepro อีกห้างอยู่ด้านใน ยังไม่รวมฟู้ดคอร์ตที่ราคาย่อมเยา ส่วนบริเวณร้านข้างทางริมถนนลาดพร้าวร้านสะดวกซื้อก็มีให้เลือกเดินไปหาในระยะที่ไม่ไกลจนเกินไป ร้านกาแฟมี Espresso Gallery อยู่หน้าตึก
ในส่วนของภาพรวมใหญ่ขึ้นสำหรับคนที่มองหาแหล่งช้อปปิ้งมีห้าแยกลาดพร้าวเป็นตัวชูโรง ได้แก่ Union mall นระยะ 1.1 กม. แหล่งรวมไลฟ์สไตล์ที่ตอนนี้คนฮิตมากแวะมาอัพเดตแฟชั่นกันได้เลยไม่ผิดหวัง อีกห้างคือ Central Plaza ลาดพร้าว ที่เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการปิดปรับปรุง รีโนเวทครั้งใหญ่ให้ห้างดูทันสมัยและครบครันกว่าเดิมระยะทางประมาณ 1.7 กม. หรือเลยไปหน่อยก็มีโลตัสแต่การใช้งานคล้ายคลึงกับ Big C ที่อยู่หน้าบ้าน อีกจุดคือสวนลุมไนท์รัชดาที่อยู่ฝั่งแยกรัชดา-ลาดพร้าว ตลาดสดมีตลาดลุงเพิ่มอยู่ด้านหลังการบินไทยการเดินทางสามารถทะลุได้ที่ซอยลาดพร้าวซอย 10 ระยะทางไม่เกิน 1.0 กม. นอกจากนั้นก็มีตลาดนัดสวนจตุจักรที่นอกจากตอนกลางวันแล้วยังมีมีตลาดเจเจกรีนที่อยู่ละแวกเดียวกันเป็นแหล่งเดินชิลยามค่ำคืนที่กำลังได้รับความนิยมมากทีเดียว
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ มีรถไฟฟ้า MRT ให้ใช้งานโดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ MRT สถานีลาดพร้าวที่อยู่ใกล้แยกรัชดา-ลาดพร้าว ระยะเดินเท้าประมาณ 450 เมตรจะว่าใกล้ก็ใกล้จะว่าไกลก็ถือว่าเดินได้เหงื่อเหมือนกัน ถ้าแดดประเทศไทยมันร้อนจนทำร้ายกันมากเกินไปขึ้นพี่วินไปใช้งานสถานีพหลโยธินก็ได้ครับระยะทางประมาณ 1 กม. 2-3 นาทีก็ถึง สำหรับทำเลรถไฟฟ้านั้นมีอีกข้อที่เป็นข้อได้เปรียบคือนั่ง MRT ไปแค่ 1-2 สถานีที่บริเวณจตุจักรซึ่งเป็นจุด Interchange กับ BTS สายหมอชิตใช้นั่งไปยังสยาม-สีลม เพิ่มศักยภาพในการเดินทางโดยไม่ใช้รถส่วนตัวได้เป็นอย่างดี
สำหรับคนที่ชอบเดิน การเดินไปใช้รถไฟฟ้าด้วยระยะ 450 เมตรก็ถือว่าเป็นการออกกำลังกายไปในตัวใช้เวลาประมาณ 5 นาทีเท่านั้นครับ เป็นทางขึ้นลงสถานีที่ประตูหมายเลข 2
จุดขึ้น-ลงทางด่วน ในส่วนของทางด่วยโทลล์เวย์ผมขออนุญาตข้ามการอธิบายไปเพราะว่าแค่ออกจากหน้าโครงการไปเลี้ยวซ้ายที่ห้าแยกลาดพร้าวก็จะเจอกับทางด่วนโทลล์เวย์ แต่ในส่วนของทางด่วนศรีรัชนั้นจะต้องเดินทางต่อไปตามถนนพหลโยธินผ่านหน้าตลาดนัดจตุจักรไปยังถนนกำแพงเพชรจึงจะเจอกับจุดขึ้นทางด่วนกำแพงเพชร ระยะทางอยู่ที่ประมาณ 4.5 กม. ถ้ารถไม่ติดใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีครับ ส่วนทางขึ้นลงทางด่วนศรีรัชอีกจุดนั้นจะอยู่ที่บริเวณแยกประชานุกูลซึ่งผมมองว่าการจราจรและการเดินทางไปใช้งานทำได้ลำบากกว่าครับจึงไม่แนะนำ
อีกทางด่วนที่อยู่ใกล้กับโครงการคือทางด่วนรามอินทรา การใช้งานคือให้กลับรถวิ่งไปตามเส้นลาดพร้าวฝั่งที่มุ่งหน้าไปยังบางกะปิ ระยะทางอยู่ที่ 5.5 กม.
::: การเดินทาง :::
เส้นทางที่ผมใช้เดินทางมายังโครงการในวันนี้ ผมมาจากทางถนนอโศกวิ่งมาทางถนนรัชดาภิเษก ผ่านแยกสุทธิสารมาจนถึงแยกรัชดา-ลาดพร้าวจึงเลี้ยวซ้ายที่แยกดังกล่าวมุ่งหน้าไปทางห้าแยกลาดพร้าว ผ่านสถานี MRT ลาดพร้าว เลยจากสถานีรถไฟฟ้าประมาณ 400 เมตรก็จะเห็นตัวโครงการ The Issara ลาดพร้าวอยู่ทางซ้ายมือ
สรุปการเดินทาง : แยกสุทธิสาร > ถนนรัชดาภิเษก > แยกรัชดา – ลาดพร้าว > ถนนลาดพร้าว > The Issara ลาดพร้าว *ใกล้ซอยลาดพร้าว 12
เราเริ่มจากแยกสุทธิสารที่มาจากพระราม 9 ขับวิ่งตรงไปพหลโยธิน ผ่าน MRT สุทธิสาร จากตรงแยกจะเห็นโครงการของ AP ขวามือ
ผ่าน MRT สุทธิสาร ขับตรงไปจนกว่าจะถึงแยก รัชดา – ลาดพร้าว
ผ่านหน้าห้างบุญถาวรรัชดาภิเษก
ผ่านหน้ารถไฟฟ้า MRT รัชดาภิเษก
เห็นป้ายลาดพร้าวอยู่ด้านบนให้เตรียมชิดซ้าย
เลี้ยวซ้ายไปทางห้าแยกลาดพร้าวหรือถนนวิภาวดีรังสิตที่แยกรัชดา-ลาดพร้าว
ผ่านหน้า MRT ลาดพร้าวเลยไปประมาณ 400 เมตร
ถึงแล้วครับโครงการ The Issara ลาดพร้าว อยู่ด้านซ้ายมือ หน้าทางเข้าโครงการมีร้านกาแฟ Espresso Gallery ให้เป็นจุดสังเกต
ป้ายโครงการ
ถนนทางเข้าโครงการ
เงยหน้าดูภาพมุมสูงเห็นตัวอาคาร ดิ อิสสระ ลาดพร้าว
::: บริเวณโครงการ :::
สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ
– Big C ลาดพร้าว : 50 เมตร
– ยูเนี่ยนมอลล์ : 1.1 กม.
– เซ็นทรัลลาดพร้าว : 1.7 กม.
– Tesco Lotus ลาดพร้าว : 2.3 กม.
– ตลาดลุงเพิ่ม : 900 เมตร
– สวมลุมไนท์บาซาร์ รัชดาภิเษก : 1.1 กม.
– สวนจตุจักร (สวนสาธารณะ) : 1.6 กม.
– สวนจตุจักร (ตลาดนัด) : 2.8 กม.
– ศาลอาญารัชดา : 2.4 กม.
– สำนักงานใหญ่การบินไทย : 1.4 กม.
– โรงเรียนเซนต์ตอห์นและมหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น : 950 เมตร
แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง
– ถนนรัชดาภิเษก (แยกรัชดา-ลาดพร้าว) : 1.3 กม. ระยะทางรวมกลับรถ
– ถนนพหลโยธิน, ถนนวิภาวดีรังสิต, ทางด่วนโทลล์เวย์ (ห้าแยกลาดพร้าว) : 1.0 กม.
ผมจะขอพาทุกท่านเดิมชมบรรยากาศหน้าโครงการกันก่อนครับ
ถนนลาดพร้าวช่วงหน้าโครงการกว้างฝั่งละ 3 เลน มีเกาะกลางถนน
ฟุตบาทหน้าโครงการกว้างมีเลนจักรยานแยกให้สำหรับคนชอบปั่นจักรยาน
ร้านกาแฟ Espresso Gallery ตั้งอยู่ติดกับทางเข้าโครงการ
ทางเข้าโครงการ The Issara ลาดพร้าว
เดินผ่านหน้าโครงการขึ้นไปทางฝั่งห้าแยกลาดพร้าว ประมาณ 50 เมตรเจอกับสะพานลอยใช้ข้ามฝั่งไปยัง Big C ลาดพร้าว
7-11 อยู่ด้านล่างของสะพานลอยดังกล่าว
จากด้านบนสะพานลอยมองดูถนนลาดพร้าวสภาพจราจรในช่วงบ่ายๆ
บางจังหวะถนนโล่งจนน่าแปลกใจ
Big C Extra ลาดพร้าว ขนาดใหญ่กว่าบิ๊กซีปกติพร้อมทั้งมี Homepro ด้วย
::: ภายในโครงการ :::
กลับเข้าไปชมด้านในโครงการกันต่อครับ
มองย้อนกลับไปทางถนนลาดพร้าว
ถนนทางเข้าไปยังโครงการร่มรื่นมีต้มไม้สูงใหญ่ขึ้นโอบล้อมดูร่มรื่น
Gate Entrance
แตะคีย์การ์ดเพื่อเปิด
มีไม้กระดกกั้นพร้อมกล้อง CCTV
ซุ้มทางเข้าออกจากมุมมองย้อนกลับ
ด้านข้างมีสวนหย่อม
บรรยากาศร่มรื่นใช้วิ่งออกกกำลังกายรอบสระน้ำได้เลย
เงยหน้ามองตัวอาคารที่มีความสูง 47 ชั้น
ลานหน้าอาคารที่เป็นจุด Drop Off ขนาดกว้างใช้งานสะดวกสบาย ทางด้านซ้ายเป็นทางขึ้นลานจอดรถ
ถนนรอบอาคารเดินรถเป็นวันเวย์เพื่อความคล่องตัว
ทางเข้าลานจอดรถใต้อาคาร
ลานจอดรถมีทั้งหมด 5 ชั้นตั้งแต่ชั้น 1 ถึงชั้น 5
ทางลาดขึ้นลงไม่ชัน ขับง่าย
ภายในลานจอดรถเดินรถเป็นวันเวย์เช่นกัน ช่วยลดโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุได้เยอะ
ย้อนกลับมาที่ลานด้านหน้าอาคาร
มุ่งหน้าไปยังทางเข้าล็อบบี้ครับ
แนวกำแพงผนังไม้ขนาดใหญ่ นอกจากเรื่องของความสวยงามแล้วยังทำหน้าที่ในการช่วยบังสายตาจากลานจอดรถอีกด้วย
ทางเข้าล็อบบี้
ถนนด้านนี้เป็นทางออกมาจากลานจอดรถด้านหลังอาคาร
ทางเดินเพดานสูงโปร่ง ผนังเสายังคงใช้ลายไม้เข้ามาช่วยสร้างบรรยากาศ
มุมนั่งเล่น outdoor
ทางเข้าอาคารประตูเลื่อนอัตโนมัติ
ผ่านประตูเข้ามาเจอกับเคาน์เตอร์ Reception
จุดนัดพบวางโซฟาและเก้าอี้สำหรับนักพักผ่อนนั่งรอแขกหรือเพื่อน ผนังด้านนึงเป็นหินอ่อนสีเขียวผนังอีกด้านเป็นช่องกระจกขนาดใหญ่เต็มผนัง
เพดานสูงราว 6 เมตร
ทางเข้าโถงลิฟต์
แตกคีย์การ์ดเพื่อเปิด
โถงลิฟต์
ลิฟต์มีทั้งหมด 6 ตัวแบ่งเป็นลิฟต์โดยสาร 5 ตัวและลิฟต์ขนของ 1 ตัว
แบ่งโซนลิฟต์เป็นโซน High และ Low โดยโซน Low ใช้สำหรับชั้น 1-29 มีลิฟต์ 3 ตัว
ส่วนฝั่ง High ใช้ขึ้นไปยังชั้น 30-47 มี 2 ตัว แต่สามารถจอดที่ชั้นส่วนกลางอย่างลานจอดรถ, สระว่ายน้ำและฟิตเนสได้
ตอนนี้ผมเข้ามาอยู่ที่ห้องฟิตเนสบริเวณชั้น 4
ห้องฟิตเนสสูงโปร่งมีมุมนั่งพักผ่อน
เพดานสูงโปร่งแบบ Double Volume ยังคงใช้ลายไม้มาเป็นส่วนนึงของการตกแต่งเช่นกัน
อุปกรณ์ครบครันคล้ายกับว่าไปใช้งานฟิตเนสชื่อดังตามห้าง
อุปกรณ์ที่คนนิยมใช้อย่างเช่นลู่วิ่งหรือจักรยานปั่นมีให้ขั้นต่ำ 3-4 ตัว เนื่องจากในขณะที่ผมเก็บภาพมีคนใช้งานอยู่พอสมควรจึงต้องพยายามเลี่ยงภาพในบางมุมเพื่อความเป็นส่วนตัวครับ
มุมเสริมสร้างกล้ามเนื้อก็มีครบทั้ง บาร์เบล ดัมเบล
บาร์เบลพร้อมแผ่นน้ำหนักหลากหลายขนาด สำหรับคนที่มุ่งพัฒนากล้ามเนื้ออย่างจริงจัง
ดัมเบลพร้อมเตียงยกและเตียงซิตอัพปรับขนาดได้
ลานโยคะพื้นกระเบื้องยางลายไม้
ทางเข้าห้องน้ำฟิตเนสซ่อนอยู่ในแนวผนังได้อย่างกลมกลืน
ห้องสตีมกระจกมีไอน้ำเกาะอยู่เนื่องจากเพิ่งมีลูกบ้านใช้งานไปเมื่อสักครู่นี้ครับ
ห้องล็อคเกอร์
ตอนนี้ผมขึ้นลิฟต์มาอีก 2 ชั้นอยู่ที่ชั้น 6 เพื่อมาชมในส่วนของสระว่ายน้ำ
รอบสระน้ำพื้นปูด้วยแผ่นไม้ ช่วงที่มีแดดพื้นไม้จะเก็บความร้อนน้อยกว่าพื้นปูนหรือกระเบื้อง
ทางเดินรอบสระกว้างขวาง
เก้าอี้นั่งเล่นริมสระ สำหรับคนที่ไม่ได้มาว่ายน้ำก็มีมุมให้นั่งพักผ่อน
ทางลงสระว่ายน้ำต้องขึ้นบันไดสเตปที่ยกสูง 3 ขั้น
Daybed ริมสระ
จุดล้างตัวก่อนและหลังใช้งานสระ
สระว่ายน้ำขนาด 8 x 25 เมตร ระบบเกลือ ลึก 1.3 เมตร
สระจากกุซซี่
แยกสระเด็กลึก 60 ซม.
ทางเดินลงสระอยู่ตรงกลางระหว่างสระเด็กและสระจากุซซี่
ย้อนกลับมาที่บริเวณทางเข้าออกตัวอาคาร เพื่อไปดูอีกด้านที่มีลานกิจกรรม
ทางเดินปกคลุมด้วยต้นไม้ที่โอบล้อมอยู่สองข้างทาง
สุดทางเดินมาเจอกับสิ่งปลูกสร้างที่เปิดโล่งรอบด้าน
มุมนั่งเล่นในร่ม
ห้องน้ำมีทางเข้าออกแอบอยู่ด้านหลัง
สามารถลงสระว่ายน้ำจากทางด้านนี้ก็ได้
มองข้ามไปอีกด้านของสระว่ายน้ำที่เราไปเดินสำรวจกันมาก่อนหน้านี้บริเวณสระจากุซซี่
ลานกิจกรรมเปิดโล่งขนาดใหญ่ พื้นหญ้าเทียมใช้สำหรับจัดกิจกรรมร่วมกันของลูกบ้าน
::: แปลนอาคาร :::
Master Plan
6th Floor
18th Floor
30th Floor
::: แปลนห้อง :::
The Issara ลาดพร้าว มีให้เลือกทั้งหมด 8 แบบ มีดังนี้ครับ
– Studio 34.20 sq.m.
– 1 Bedroom 34.20 sq.m.
– 1 Bedroom 52.25 sq.m.
– 2 Bedroom 52.25 sq.m.
– 2 Bedroom 78.88 sq.m.
– 3 Bedroom 138.80 sq.m.
– Duplex 339.96 sq.m.
– Penthouse 647 sq.m.
Studio 34.20 sq.m.
1 Bedroom 34.20 sq.m.
1 Bedroom 52.25 sq.m.
2 Bedroom 52.25 sq.m.
2 Bedroom 78.88 sq.m.
3 Bedroom 138.80 sq.m.
Duplex 339.96 sq.m.
Penthouse 647 sq.m.
::: ห้องตัวอย่าง :::
โครงการ The Issara ลาดพร้าว มีห้องพักอาศัยครบทุกแบบได้แก่ Studio, 1 – 3 Bedroom, Duplex และ Penthouse แต่ ณ ขณะนี้ทางโครงการมีเหลือห้องตัวอย่างให้ชม 2 แบบด้วยกันคือ
3 Bedroom ขนาด 138 ตร.ม. ชั้น
Duplex 4 ห้องนอน ขนาด 316 ตร.ม. ชั้น 45
ขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเข้าอยู่อาศัยตามที่ท่านกำลังจะได้รับชมต่อจากนี้เลยครับผม
เริ่มกันที่ห้องแบบ 3 Bedroom ขนาด 138 ตร.ม.
แปลนห้อง 3 Bedroom ทางเข้าห้องอยู่ด้านล่างขวาตามภาพ เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับห้องครัวแบบปิดอยู่ด้านหลังประตู ห้องนอน 1 มีในแปลนจะมีจุดแตกต่างกับห้องจริงเล็กน้อยตรงตำแหน่งประตูที่จะไปอยู่ทางฝั่งของห้องนั่งเล่น พื้นที่โถงกลางห้องใช้ร่วมกันทั้งห้องนั่งเล่นและห้องทานข้าว ห้องนอน 2 เป็นห้องที่ไม่มีห้องน้ำในตัวแต่จะมีห้องน้ำส่วนรวมอยู่ตรงข้าม ส่วนห้องนอน 3 หรือใช้งานเป็นห้องนอนหลักจะอยู่ด้านในสุดมีห้องน้ำในตัว ระเบียงห้องจะมีแนวยาวโดยแบ่งเป็นสองส่วนคือระเบียงห้องนั่งเล่น กับระเบียงห้องนอน 2 และ 3 ที่ยาวต่อเนื่องเชื่อมต่อถึงกัน
ประตูห้องบานไม้
พื้นห้องหินอ่อน
ห้องครัวอยู่ทางด้านหลังบานประตู
ครัวเป็นแบบครัวปิดบานเลื่อน
ภายในครัวก่อเคาน์เตอร์ให้เรียบร้อยพร้อมใช้งาน
เครื่องใช้ไฟฟ้าก็มีให้ครบทุกรายการทั้งตู้เย็นและเครื่องซักผ้า
ท็อปครัวและผนังกันเปื้อนด้านลังปูด้วยหินแกรนิต
ซิงค์ smeg
เตาเซรามิค 4 หัวพร้อมฮูดดูดควัน smeg
ด้านล่างเคาน์เตอร์ฝังเครื่องไมโครเวฟและช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า
กลับมาที่บริเวณทางเข้าห้อง อีกด้านเป็นพื้นที่ห้องโถงหลักที่ใช้งานรวมกันระหว่างโซนทานอาหารและโซนนั่งเล่น เพดานห้องสูง 2.6 เมตร ผนังห้องปูวอลล์เปเปอร์สีเทาเรียบหรู
โต๊ะทานข้าวขนาด 4 ที่นั่ง
ผนังกำแพงตรงบริเวณที่วางโต๊ะทานข้าวบิลท์อินเป็นเก้าอี้ยาวขนาด 2 ที่นั่งบุนวมด้วยเบาะผ้า
ห้องนั่งเล่น ฝ้าด้านบนดรอปเล็กน้อยซ่อนรางไฟ มีพัดลมเพดานให้ด้วย
เฟอร์นิเจอร์ที่ห้องนั่งเล่นให้ครบตามภาพ โซฟา 3 ที่นั่ง เก้าอี้ 1 ตัวและโต๊ะกลางผิวหน้าบานกระจกดำ
ระยะดูทีวีประมาณ 4 เมตร ด้านข้างผนังชั้นวางทีวีมองเห็นทางเข้าห้องนอน 1
มีชั้นวางทีวีให้พร้อมทีวีขนาด 32 นิ้ว
ด้านนอกของห้องนั่งเล่นมีระเบียง ประตูระเบียงบานเลื่อนวัสดุอลูมิเนียมรมดำ
พื้นที่ระเบียงกว้างเท่ากับขนาดห้องนั่งเล่นประมาณ 4 x 1 เมตร
วิวด้านนอกจากชั้น 42 จะเห็นได้ว่าอยู่สูงเหนือจากตึกสูงอื่นๆโดยรอบ
ด้านล่างมองเห็นถนนลาดพร้าวและ Big C
ห้องนอนห้องนี้เปิดปิดด้วยประตูบานเลื่อน
ผ่านประตูห้องนอนเข้ามา มีตู้เสื้อผ้าบิลท์อินอยู่ใกล้กับบริเวณทางเข้า
ในส่วนของห้องนอนปูด้วยพื้นหินอ่อนเช่นกัน
วางเตียงขนาด 5 ฟุต ให้เฟอร์นิเจอร์ตามแบบในภาพห้องตัวอย่างนี้เลย
ปลายเตียงมีชั้นวางทีวีแบบด้านล่างเปิดปิดด้วยบานเลื่อนไฮกรอสสีขาว
หน้าต่างกรอบอลูมิเนียมขนาดใหญ่เพิ่มความโปร่งด้วยลูกฟักด้านล่างยาวติดพื้น
มองย้อนกลับเข้าไปภายในห้อง ทางด้านซ้ายคือห้องน้ำในตัวของห้องนอนนี้ แอร์ใช้แบบคอนซีล
ประตูห้องน้ำบานเลื่อนมีช่องแสงเป็นกระจกฝ้าเพื่อช่วยรับแสงให้สามารถส่องเข้าไปถึงภายในห้องน้ำได้
พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคกันลื่นสีขาวขนาด 60×60 ซม.
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard วางในตำแหน่งทางด้านขวาชิดกับฉากกระจกไปหน่อย เวลาใช้งานต้องคอยระวังข้อศอกด้านซ้ายกันหน่อย
ตรงข้ามกับโถสุขภัณฑ์เป็นช่องวางอ่างล้างมือแบบก่อเป็นเคาน์เตอร์เต็มพื้นที่
อ่างล้างหน้าทรงเหลี่ยมดูทันสมัย วางบนเคาน์เตอร์หินอ่อนมีที่ให้วางของได้โดยรอบ
ด้านล่างมีบานเปิดปิดสำหรับเก็บของ
ห้องอาบน้ำแยกส่วนเปียกด้วยฉากกระจกนิรภัยแบบ Frameless
ฉากวางอยู่บนธรณีหินอ่อนกันน้ำไหลเข้ามายังพื้นที่ส่วนแห้ง
ฝักบัว Grohe ราวแขวนปรับระดับความสูงได้ ก่อชั้นวางของเข้ามุม 2 ชั้นด้วยแผ่นหินอ่อน
หน้าตาฝักบัว
กลับมาที่ห้องโถงนั่งเล่น เพื่อไปชมห้องนอนอีก 2 ห้องที่อยู่ด้านในทางเดินกลางห้อง
ด้านซ้ายของทางเดินกรุกระจกเต็มผนังช่วยในเรื่องของความรู้สึกให้ทางเดินดูกว้างขึ้นกว่าปกติ
ห้องนอน 2 อยู่ทางด้านขวาของทางเดิน
แวะชมห้องนอน 2 นี้กันก่อนเลยครับ พื้นห้องปูด้วยกระเบื้องยางลายไม้
ภายในห้องนอนวางเตียงและโต๊ะเขียนหนังสือ ให้เฟอร์และพร๊อพตามนี้เช่นกัน
เตียงนอนขนาด 6 ฟุต
ปลายเตียงวางโต๊ะทำงานหรืออาจจะใช้เป็นโต๊ะเอนกประสงค์วางทีวีแทนก็ได้
ด้านข้างซ้ายขวาของประตูห้อง บิลท์อินตู้เสื้อผ้าบานปิดกระจกเงา ส่วนแอร์ในห้องเป็นแบบคอนซีลเช่นกัน
ทางเดินสำหรับใช้งานตู้เสื้อผ้ากว้างประมาณครึ่งเมตร
ด้านนอกมีระเบียงสำหรับออกไปรับลมชมวิว
ระเบียงปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิค
วางคอมแอร์ไว้ที่พื้นทำให้เสียพื้นที่ใช้งานไปพอสมควร น่าจะแขวนขึ้นด้านบน
อีกด้านของระเบียงจะเห็นว่าพื้นที่ยาวลึกกว่าปกติ นั่นเพราะเป็นระเบียงที่มีความยาวเชื่อมต่อกับห้องนอนหลักอีกที่อยู่ถัดไป แต่เดี๋ยวผมจะขอกลับไปที่โถงทางเดินกลางห้องก่อนนะครับ
ออกจากห้องนอนเมื่อสักครู่ ห้องน้ำจะอยู่ตรงข้าม ส่วนประตูทางขวาคือห้องนอนหลัก
ห้องน้ำห้องนี้ใช้งานเป็นห้องน้ำส่วนรวมและห้องนอน 2 ก็จะใช้งานห้องน้ำห้องนี้เป็นหลักเช่นกันเพราะว่าไม่มีห้องน้ำในตัวให้
ด้านข้างบานประตูจะเห็นว่ามีบานกระจกฝ้าที่พอจะช่วยรับแสงจากด้านนอกเข้ามาภายในห้องน้ำให้สว่างขึ้น
อ่างล้างหน้า Toto วางบนเคาน์เตอร์ลอยผิวหินอ่อน
ด้านล่างมีตู้เก็บของ
ข้างเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้ามีห่วงสำหรับแขวนผ้าเช็ดมือ
โถสุขภัณฑ์วางในช่องด้านข้าง Shower box อาจจะดูแคบไปสักหน่อยสำหรับคนตัวใหญ่ มีสายชำระและที่แขวนทิชชู่พร้อมใช้งาน
หน้าตาหัวฉีดชำระ
Shower Box กระจกนิรภัย frameless เปิดปิดแบบบานสวิง
ฝักบัวปรับระดับความสูงได้พร้อมชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำ 2 ชั้นเหมือนห้องน้ำห้องก่อนหน้านี้
ห้องสุดท้ายที่เราจะเข้าไปดูกันคือห้องนอนหลัก Master Bedroom
เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับทางเดินที่เป็นตัวแบ่งทางแยกอีกที ด้านซ้ายเป็นห้องน้ำ ตรงไปคือห้องแต่งตัวหรือ closet ส่วนทางขวาคือพื้นที่ห้องนอน
ภาพอีกมุมจะเห็นได้ชัดเจนขึ้นถึงเรื่องของระยะของ walk-in closet และห้องนอน
พื้นห้องนอนและห้องแต่งตัวนี้ปูด้วยกระเบื้องยางลายไม้ พื้นที่กำลังเหมาะสมกับการใช้งานจริง
บานตู้เสื้อผ้าบานเลื่อนมีกระจกเงา
มองย้อนออกไปยังทางเข้าห้องและโถงทางเดินกลางห้อง
เข้ามาดูในห้องน้ำกันครับ ประตูห้องน้ำกระจกใสแจ๋ว มีตัวล็อคให้แต่จะล็อคทำไมเมื่อสามารถมองทะลุจากด้านนอกเข้าไปด้านในได้อย่างชัดเจน ^ ^”
ห้องน้ำห้องนี้ปูด้วยพื้นและผนังหินอ่อน ซึ่งต่างจากห้องอื่นๆที่พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค
แนวธรณีกันน้ำไหลก่อด้วยหินอ่อน
อ่างล้างหน้าทรงรีขนาดใหญ่วางบนเคาน์เตอร์หินอ่อน ส่วนหัวก๊อกเป็นแบบฝังผนังเหนืออ่าง
โถสุขภัณฑ์วางเข้ามุมในช่องด้านข้างของ Shower Box
Shower Box
ฝักบัวอาบน้ำและชั้นวางของเหมือนห้องน้ำเมื่อสักคู่นี้ แต่มีจุดที่แตกต่างกันอยู่ 1 จุดนั้นคือ ….
ใช่แล้วครับฝักบัวแบบ Rain Shower ที่ฝังอยู่ด้านบน
ไปดูในส่วนของพื้นที่หลักใน Master Bedroom กันต่อ
ภาพรวมภายในห้องนอน
วางเตียง 5 ฟุต ผนังหัวเตียงบุนวม
ปลายเตียงมีโต๊ะเอนกประสงค์พร้อมวางทีวี 32 นิ้ว 1 เครื่อง
มองย้อนกลับไปยังทางเข้าห้อง เครื่องปรับอากาศฝั่งอยู่ที่ฝ้าด้านบน
ด้านนอกเป็นระเบียง
ทางเดินข้างเตียงฝั่งระเบียงกว้างประมาณครึ่งเมตร เดินเข้าออกหรือเปิดปิดม่านได้สะดวก
น่าจะยังจำได้นะครับว่าระเบียงตรงนี้เชื่อมต่อกับระเบียงของห้องนอนก่อนหน้านี้ทำให้ขนาดระเบียงยาวดังภาพที่เห็น
อีกด้านวางคอมแอร์ไว้ที่พื้น
ห้องต่อ่ไปที่เราจะได้รับชมกันคือห้อง Duplex 4 ห้องนอนขนาด 318 ตร.ม. ห้องขนาดใหญ่จนกระทั่งประตูทางเข้าต้องใหญ่ตามโดยใช้เป็นแบบบานเปิดคู่ ส่วนห้องนี้ขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์, เครื่องใช้ไฟฟ้ารวมทั้งพร๊อพตกแต่งครบทุกชิ้นตามที่ท่านกำลังจะได้เห็นต่อจากนี้ครับ
เข้าไปชมด้านในกันครับ
พื้นห้องปูด้วยหินอ่อน
มุมมองอีกด้านนึงของประตู
มือจับประตูด้านในเป็นลูกบิดเหล็ก
มือจับด้านนอก
บริเวณหน้าห้องมีรางซ่อนไฟด้านบนเปิดอัตโนมัตในช่วงค่ำ
เปิดห้องเข้ามาด้านในมุมมองแรกเลยเจอกับห้องรับแขก เพดานห้องสูง 2.6 เมตร โคมไฟดาวน์ไลท์
ห้องโถงรับแขกเปิดโล่งพื้นที่ขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับโซนทานข้าวด้านใน
ด้านนึงของห้องเป็นครัวแบบเปิด
อีกด้านนึงเป็นทางไปยังห้องโถงบันไดที่ใช้สำหรับขึ้นไปยังชั้นบน
เราไปเริ่มดูห้องครัวที่อยู่ใกล้กับประตูทางเข้ากันก่อน
พื้นที่ทำครัวเป็นแนวยาวลึกเข้่าไปด้านใน ยืนทำครัวพร้อมกันได้หลายคน
ตู้เย็น ไมโครเวฟ เตาอบมีให้ครบครันพร้อมใช้งาน ซึ่งเกรดคุณภาพเป็นของระดับพรีเมี่ยมทั้งสิ้น
แนวเคาน์เตอร์วัสดุหินอ่อนสีน้ำตาล ด้านล่างมีช่องเก็บของและลิ้นชักสำหรับเก็บอุปกรณ์ครัว
เตาไฟฟ้าแบ่งพื้นที่ใช้งานออกเป็น 3 ส่วน ซ้าย-กลาง-ขวา รวมแล้วมี 5 ช่องในการใช้งาน
ฮูดดูดควันตัวปล่องหุ้มด้วยหินอ่อนสีน้ำตาลเช่นกัน เพิ่มแนวกระจกใสรอบด้านกันควันไปเกาะตัวหินอ่อนและเพดานด้านบน
ลองเปิดลิ้นชักดูมีชุดจาน ช้อน ส้อมและมีดให้
ส่วนตู้อื่นไม่ได้มีอุปกรณ์ใดๆ
เคาน์เตอร์ด้านบนบานปิดกระจก
ซิงค์แกรนิตของ FRANKE
แนวเคาน์เตอร์ฝั่งด้านนอกเว้นช่องเข้าไปด้านในให้สามารถวางเก้าอี้เพื่อใช้งานเป็นเคาน์เตอร์บาร์เตี้ยๆได้
ด้านในเป็นโซนทานข้าว
โต๊ะทานข้าวกลมขนาด 8 ที่นั่ง แต่นึกภาพการใช้งานจริงคงจะเบียดกันไปหน่อย ลดเหลือสัก 6 ที่นั่งน่าจะสบายขึ้น
โฟกัสไปที่ห้องรับแขก มีพัดลมเพดานให้ 1 ตัว
ระยะดูทีวีประมาณ 5-6 เมตร ผนังฝั่งชั้นวางทีวีกรุด้วยหินอ่อนสีน้ำตาลทั้งแผง
อีกหนึ่งมุมมองของห้องรับแขก
ภาพนี้ผมพยายามให้โฟกัสไปที่ประตูระเบียงที่เป็นแนวยาวอยู่ด้านนอก
พื้นที่ระเบียงจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือระเบียงตรงกับห้องรับแขก
พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร
ด้านนึงใช้สำหรับวางคอมแอร์ มีระแนงไม้ช่วยบังสายตาให้ความเป็นระเบียบ
อีกด้านเป็นแนวกำแพงไม้แบ่งส่วนกับระเบียงอีกด้านนึงของฝั่งโซนทานข้าว
ระเบียงอีกด้านนึงขนาดเหมือนกับระเบียงด้านเมื่อสักครู่นี้ทุกประการ
ย้อนกลับมาที่บริเวณหน้าประตูกันอีกสักนิด
จุดนี้บิลท์ตู้รองเท้าทรงสูงให้ พร้อมด้วยบานกระจกเงาขนาดใหญ่เพื่อให้สำรวจความเรียบร้อยของตนเองก่อนออกจากบ้าน
ไปชมส่วนถัดไปของห้องคือโถงบันไดขึ้นชั้นบน ต้องผ่านประตูบานเลื่อนนี้เข้าไป
บันไดทางขึ้นชั้นบนอยู่ทางด้านขวา
ผมขอเลี้ยวซ้ายไปดูห้องน้ำชั้นล่างกันก่อน
ช่องทางเข้าห้องน้ำ ประตูห้องน้ำอยู่ทางซ้าย ส่วนทางขวาเป็นห้องเก็บของ
ห้องน้ำมีเฉพาะพื้นที่ส่วนแห้ง ไม่มีส่วนเปียกสำหรับอาบน้ำ
อ่างล้างหน้า TOTO วางบนเคาน์เตอร์หินอ่อนสีน้ำตาล มีช่องเก็บของด้านล่าง
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard
บานกระจกเงามีชั้นวางของเล็กๆแทรกตัวอยู่บริเวณด้านขวา
ย้อนกลับออกมาที่โถงบันได
ทางโครงการจัดเป็นห้องนั่งเล่นชมวิวด้วยโซฟา Daybed
บันไดทางขึ้นชั้นบนวัสดุไม้ ผมลองเดินด้วยการลงน้ำหนักเท้าแรงๆ ไม่มีเสียงดังครับแน่นปึ๊ก
ด้านบนของห้องโถงตกแต่งด้วยโคมไฟแชนเดอเลียร์
ช่องหน้าต่างตรงจุดนี้เป็นแบบบานฟิกซ์เต็มผนังแบ่งออกเป็น 4 ช่อง เห็นวิวด้านนอกได้ชัดเจน ความสูงของห้องโถงนี้ประมาณ 5.2 เมตร
จากด้านบนมองลงไปด้านล่างเพื่อชมพื้นที่รวมๆกันอีกทีนึง
พื้นชั้นบนปูด้วยไม้แท้ทั้งชั้น
ส่วนผนังก็กรุด้วยไม้แท้เช่นกัน มีห้องนอนทั้งหมด 4 ห้อง อันที่จริงพื้นที่ตรงส่วนนี้กว้างพอสำหรับจัดเป็นห้องนั่งเล่นได้อีกจุดสบายๆ
ชั้นบนมีห้องนอนทั้งหมด 4 ห้องโดยผมจะขอเริ่มจากห้องนอนแรกที่อยู่ทางขวามือของภาพ
มองผ่านประตูเข้าไปด้านใน
มุมมองย้อนกลับไปยังด้านประตูทางเข้าออกห้อง
ด้านหลังประตูบิลท์เป็นชั้นวางของที่ดูเหมือนจะทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้ แต่อาจจะต้องเลือกใช้สตูลที่มีขนาดเล็กหน่อยไม่เช่นนั้นจะทำให้ขวางทางเดินเข้าออกทำให้เดินไม่สะดวก
อีกด้านเป็นห้องน้ำในตัวที่ใช้ประตูแบบบานเลื่อน
ภาพรวมภายในห้องน้ำแบ่งโซนการใช้งานเรียบง่าย
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard
อ่างล้างหน้าทรงเหลี่ยมของ TOTO วางบนเคาน์เตอร์หินอ่อนสีน้ำตาล
ผนังกรุด้วยบานกระจกเงาสีชา
พื้นีท่ส่วนเปียกแบ่งโซนด้วยฉากกระจกนิรภัย Frameless
พื้นที่ยืนอาบน้ำขนาด 1.8 x 0.9 เมตร
มีช่องกระจกที่สามารถมองออกไปด้านนอกได้ หรือที่เรียกกันว่า sexy bathroom
ผนังฝั่งที่ติดตั้งราวแขวนฝักบัวปูด้วยหินอ่อนสีน้ำตาล
ออกมาจากห้องน้ำฝั่งตรงข้ามมีตู้เสื้อผ้าบิลท์อินบานปิดเลื่อน
ส่วนพักผ่อนด้านในวางเตียงขนาด 6 ฟุต
ปลายเตียงมีชั้นวางทีวีให้ ผนังดรอปเข้าไปด้านในเพื่อซ่อนรางไฟด้านข้าง
ด้านนอกเป็นระเบียงห้องนอนที่ประตูบานเลื่อนนั้นกว้างเต็มผนัง
ประตูระเบียงบานเลื่อนอลูมิเนียมสีดำ
ด้านข้างของผนังระเบียงปูด้วยวัสดุไม้
ความกว้างระเบียงประมาณ 1 เมตร
มองย้อนกลับเข้าไปภายในห้อง เครื่องปรับอากาศใช้แบบฝังเพดานคอนซีล
กลับออกมาที่โถงทางเดินชั้นบนเพื่อชมห้องนอนถัดไป
ห้องนอนนี้เป็นห้องนอนหลัก Master Bedroom
ทางซ้ายเป็นทางเดินไปสู่ห้องน้ำ
พื้นที่หน้าห้องน้ำคือ walk-in closet
ด้านนึงเป็นตู้เก็บของและโต๊ะเครื่องแป้ง
อีกด้านเป็นแนวตู้เสื้อผ้ายาว 3 ตอน
เข้าไปดูด้านในห้องน้ำกันต่อเลยครับ
ภาพรวมภายในห้องน้ำพื้นห้องน้ำและผนังปูด้วยหินอ่อน
แนวเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้ายาว วางอ่างล้างหน้า 2 ชิ้น
อ่างล้างหน้าทรงรีกว้าง ก๊อกน้ำฝังกำแพงด้านบน
อีกด้านวางอ่างอาบน้ำแบบลอยตัว
วัสดุอ่างอาบน้ำเป็นหินสังเคราะห์
ผนังด้านหลังเปิดโล่งด้วยกระจกบานใสขนาดใหญ่ มีม่านมูลี่เปิดปิด
ด้านในสุดของห้องน้ำเป็นทางแยก
ทางซ้ายเป็นพื้นที่วางโถสุขภัณฑ์
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard
อีกฝั่งเป็นห้องอาบน้ำฝักบัว
ฉากอาบน้ำวางบนธรณีก่อหินอ่อน
ราวแขวนฝักบัวปรับระดับได้ แยก Rain Shower ฝังด้านบน ผนังด้านหลังปูด้วยหินอ่อนมีช่องสำหรับวางของ
มองย้อนกลับไปยังทางเข้าห้องน้ำ
กลับมาที่ส่วนพักผ่อนของห้องนอนหลัก พื้นที่ตรงส่วนนี้กว้างมากจนทางโครงการแบ่งออกการใช้งานออกเป็น 3 ส่วน
ส่วนแรกคือมุมนั่งเล่นที่วางได้ครบทั้งโซฟา โต๊ะกลางและชั้นวางทีวี
มองย้อนกลับไปยังฝั่งทางเข้าห้อง
พื้นที่ส่วนถัดไปใช้วางเตียงนอนขนาด 5 ฟุต
ทางเดินข้างเตียงทั้งสองด้านกว้างใกล้เคียงกันประมาณ 1 เมตร เดินผ่านเข้าออกได้สะดวก
ด้านในสุดใช้เป็นมุมทำงาน
วางโต๊ะทำงานไว้ด้านหลังหัวเตียงและตู้เก็บของ
ในส่วนของระเบียงห้องนั้นเป็นแนวยาวเท่ากับขนาดห้องนอนหลัก กว้างประมาณ 1 เมตรส่วนความยาวผมต้องขออภัยที่ไม่มีตัวเลขให้ในส่วนนี้
วางคอมแอร์ไว้ด้านหลังระแนงไม้เป็นระเบียบ
เหลือห้องนอนอีกสองห้องที่เป็นห้องนอนรอง
เข้าไปชมด้านในกันต่อเนื่องเลยครับ
ผ่านประตุห้องเข้ามาเจอกับห้องน้ำอยู่ทางด้านซ้าย
ด้านหลังประตูมีช่องที่บิลท์อินเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง
ตู้เสื้อผ้า
ภายในห้องน้ำรูปแบบดูคุ้นตามาก เพราะว่าเหมือนกับห้องน้ำในห้องนอนแรกทุกประการ
ภาพรวมในห้องนอนก็ไม่แตกต่างกัน
มองย้อนกลับไปยังทางเข้าห้อง
ห้องนอนห้องสุดท้ายอยู่สุดทางเดิน
รูปแบบ Layout เหมือนกับห้องนอนรองอีกสองห้องก่อนหน้านี้
ห้องน้ำวางเหมือนกันแคาสลับด้านกันแบบ Mirror
ส่วนของห้องนอน
มองย้อนกลับไปยังทางเข้าห้องและขออนุญาตสิ้นสุดการสำรวจห้องตัวอย่างที่ภาพนี้ครับผม
::: ราคา ::: (ส.ค.59)
3 Bedroom (ห้องเปล่า) : ราคา 18 ล้านบาท
3 Bedroom (ตกแต่งครบ) : ราคา 20.9 ล้านบาท
ชั้น 42 / 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ / พื้นที่ใช้สอยขนาด 138 ตร.ม.
Duplex 4 Bedroom (ห้องเปล่า) : ราคา 36 ล้านบาท
Duplex 4 Bedroom (ตกแต่งครบ) : ราคา 49 ล้านบาท
ชั้น 45 / 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ / พื้นที่ใช้สอยขนาด 316 ตร.ม.
::: บทสรุปโครงการ :::
ทำเลที่ตั้งโครงการ : The Issara ลาดพร้าว ตั้งอยู่บนถนนลาดพร้าวช่วงต้นใกล้ห้าแยกลาดพร้าวและแยกรัชดา-ลาดพร้าว ทำเลดังกล่าวถือว่าอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่ดีมีจุดเชื่อมถนนเส้นสำคัญหลายเส้น รถไฟฟ้า ทางด่วนรวมถึงความอุดมสมบูรณ์ ในเรื่องของการเดินทางนั้นตัวสถานีรถไฟฟ้าหรือทางด่วนเองอาจจะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดถึงกับขึ้นออกจากหน้าบ้านขึ้น MRT ได้เลยหรือขับรถออกจากโครงการแล้วมีทางด่วนมารอรับ แต่ชดเชยด้วยการที่มีทางเลือกที่หลากหลายให้สามารถใช้งานได้อย่างคลอบคลุมนั่นเอง
ส่วนในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ถือว่าเป๊ะพอสมควร อันดับแรกเลยคือมีห้าง Big C Extra ย้ำนะครับว่า Extra เพราะจะค่อนข้างใหญ่และครบครันกว่า Big C ธรรมดาพอสมควร ที่ตั้งนั้นอยู่ตรงข้ามกับโครงการแค่ข้ามถนนก็ถึงแล้วเดินประมาณ 50 เมตรเอง ส่วนสองข้างทางก็มีร้านอาหารอยู่หลายเจ้าปั๊มน้ำมันก็มีดักอยู่ทั้งฝั่งขาเข้าขาออก สำหรับคอกาฟมีร้านกาแฟ Espresso Gallery แค่เดินลงมาใต้อาคารก็สั่งกาแฟดื่มได้แล้ว ยังไม่หมดแค่นั้นที่ห้าแยกลาดพร้าวยังมีทั้งเซ็นทรัลลาดพร้าวและยูเนี่ยนมอลล์ระยะห่างราวกิโลเศษๆ หรือถ้าชอบเป็นแนวสตรีทมาร์เก็ตก็ไปยังตลาดนัดสวนจตุจักรหรือสวนลุมไนท์บาซาร์แทน
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : ถนนลาดพร้าวมีศักยภาพในเรื่องของการเดินทาง สามารถใช้ไปยังถนนเส้นสำคัญอื่นได้ดีโดยมีสองจุดใหญ่ๆคือห้าแยกลาดพร้าวที่เชื่อมต่อกับถนนพหลโยธินและวิภาวดีรังสิต จะเลือกเข้าเมืองไปทางดินแดงหรืออนุเสาวรีย์ชัยแล้วแต่จุดหมายอาจจะใช้ทางด่วนโทลล์เวย์เป็นตัวช่วยในกรณีเร่งด่วน วิ่งขึ้นทางด้านเหนือไปหลักสี่,ดอนเมือง, รังสิตก็ง่าย อีกแยกที่ต้องใช้งานในชีวิตประจำวันคือรัชดา-ลาดพร้าว ที่มีถนนรัชดาภิเษกเป็นตัวเลือกในการเดินทางไปยังย่านพระราม 9, อโศก หรือจะมุ่งหน้าไปตามเส้นลาดพร้าวช่วงปลายเข้าสู่ย่านบางกะปิเสรีไทยก็ทำได้สะดวกเช่นกัน ส่วนทางด่วนศรีรัชมีให้เลือกไปใช้งานได้ 2 จุดคือทางขึ้นลงกำแพงเพชรที่เน้นการใช้งานไปทางย่านดาวคะนอง-แจ้งวัฒนะ ส่วนอีกฝั่งคือด่านพระราม 9 ที่เน้นการใช้งานไปยังดินแดง-บางนา-มอเตอร์เวย์
การเดินทางโดยรถสาธารณะ : ตัวเลือกนี้มีรถไฟฟ้า MRT สถานีลาดพร้าวให้ใช้งานแต่เรื่องความสะดวกการใช้งานนั้นยังไม่ค่อยสุดเพราะอยู่ห่างจากตัวโครงการราว 400 เมตร ไกลเกินระยะเดินเท้าได้สะดวกอาจต้องพึ่งพี่วินเพื่อต่อคอมโบในการไปใช้งาน ข้อดีอีกหนึ่งประการคือตัว MRT ในละแวกลาดพร้าวอยู่ใกล้กับ BTS หมอชิดที่ใช้เป็นจุด Interchange ในการใช้งานต่อเนื่องเข้าไปย่านตัวเมืองฝั่งสยาม-สีลม โดยรวมแล้วก็ยังถือว่าใช้งานได้จริงเป็นตัวเลือกรองในกรณีที่ไม่สะดวกในการใช้รถส่วนตัว
การออกแบบโครงการและวัสดุ ดิ อิสสระ ลาดพร้าวเป็นคอนโดสูง 47 ชั้นที่ถือว่าสูงที่สุดในย่านลาดพร้าวนี้เลย ด้วยการที่เป็นคอนโดระดับไฮเอนด์การออกแบบจึงหนีไม่พ้นเรื่องของความหรูหรา ตามคอมเซปต์ Luxurios Living เน้นความใหญ่ อลังการ มีระดับ จำนวนยูนิตที่ทั้งหมด 561 ชั้น บนพื้นที่ 4 ไร่ 3 งาน 54 ตร.ว. ถ้าเน้นเรื่องของวิวประมาณชั้น 20 ขึ้นไปก็สามารถมองเห็นวิวได้อย่างชัดเจนโดยไม่มีอะไรมาบดบัง
ห้องพักอาศัยมีให้เลือกครบทุกแบบตามลักษณะครอบครัวตั้งแต่ Studio, 1 Bed, 2 Bed, 3 Bed, Duplex 4 Bed และ Penthouse โดยในส่วนของแบบแปลนและวัสดุนั้นผมมีโอกาสได้เข้าไปชมเฉพาะห้องที่ยังมีเหลือขายอยู่คือแบบ 3 ห้องนอนและ Duplex เรื่องของพื้นที่ใช้สอยนั้นเยอะหายห่วงทำให้การแบ่งพื้นที่ย่อยในส่วนต่างทำออกมาได้ง่ายและใช้งานสะดวกที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับว่าตรงกับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยหรือไม่เท่านั้น
ส่วนวัสดุที่ทางโครงการให้มาในแบบห้องดังกล่าวอยู่ในเกรดพรีเมี่ยมทั้งสิ้น พื้นหินอ่อน, ผนังวอลล์เปเปอร์สลับกับผนังหินอ่อนในบางจุด, เพดานสูง 2.6 เมตร, บานประตูไม้จริง, บานเลื่อนอลูมิเนียมสีดำ, โคมไฟดาวน์ไลท์, เคาน์เตอร์ครัวหินอ่อนและหินแกรนิตพร้อมอุปกรณ์ครัวครบชุดทั้งเตาไมโครเวฟ เตาอบ เตาเซรามิคและฮูดดูดควัน ภายในห้องน้ำแบ่งโซนด้วยกระจกนิรภัย Frameless อ่างล้างหน้า TOTO, โถสุขภัณฑ์ Americanstandard, ฝักบัว Grohe, เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าครบทุกรายการพร้อมเข้าอยู่อาศัยได้ทันที
สาธารณูปโภค ทางโครงให้มาหลายอย่างแต่ดูจะขาดความครันไปสักหน่อยเมื่อเทียบกับระดับคอนโดที่เป็นระดับไฮเอนด์ ที่มีให้เริ่มจากชั้น 6 มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 8 x 25 เมตร ระบบเกลือพร้อมจากุซซี่และสระเด็ก สวนหย่อมและลานกิจกรรมหญ้าเทียบสำหรับทำกิจกรรมร่วมกันของลูกบ้าน ห้องฟิตเนสขนาดใหญ่เพดานสูงโปร่งอยู่ที่ชั้น 4 มีอุปกรณ์ครบครันคล้ายฟิตเนสมืออาชีพพร้อมห้องอบไอน้ำ ชั้นล่างมีล็อบบี้โอโถ่งแต่ดูแคบไปหน่อยเนื่องจากแบ่งพื้นที่เป็นโซน Outdoor-Indoor สิ่งที่ขาดตกไปบ้างคือห้องสมุด ห้องซาวน่า ห้องประชุม ที่น่าจะเพิ่มให้สักหน่อยให้มันเต็มรูปแบบสมกับความเป็นคอนโดระดับหรู ยิ่งถ้าย้ายสิ่งอำนวยความสะดวกหลักไปอยู่ชั้นดาดฟ้าด้วยแล้วจะสามารถเพิ่ม Value จากวิวที่เหนือกว่าคอนโดอื่นๆเพราะสูงถึง 47 ชั้น
ลิฟท์โดยสารมีให้ทั้งหมด 6 ตัวลิฟต์โยสาร 5 และลิฟต์ขนของ 1 แบ่งโซนการใช้งาน High กับ Low เพื่อความรวดเร็วในการเดินทางของลิฟต์ ที่จอดรถให้มาเยอะถึง 70% หมดกังวลเรื่องการหาที่จอดรถ ระบบรักษาความปลอดภัยเข้าออกโครงการ โถงลิฟต์ด้วย Access Card Control มีรปภ.ดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
::: คะแนน :::
ทำเลที่ตั้งโครงการ
8.5
ติดถนนใหญ่บริเวณลาดพร้าวช่วงต้น มีความอุดมสมบูรณ์สูง
การเดินทาง ใช้รถ
8.5
ใกล้แยกสำคัญ เดินทางเข้าออกเมืองสะดวก มีทางลัดเลี่ยงได้เยอะในกรณีที่คุ้นชินกับเส้นทาง
การเดินทาง ไม่ใช้รถ
7.75
มีรถไฟฟ้า MRT สถานีลาดพร้าวและพหลโยธิน ขออนุญาตตัดคะแนนนิดเดียวในเรื่องของระยะที่ห่างเกินคำว่าเดินสบาย
ห้องพักและวัสดุ
9.0
Layout สวยเป็นสัดส่วน ให้แบบ Fully Furnished รวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า วัสดุเกรดพรีเมี่ยม
สิ่งอำนวยความสะดวก
8.0
สระว่ายน้ำและฟิตเนสขนาดใหญ่ ที่จอดรถเยอะ ระบบรักษาความปลอดภัยได้มาตรฐาน
ความคุ้มค่ากับราคา
–
ห้องที่เหลือขายเป็นระดับเกินราคา 10 ล้านบาทซึ่งเป็นส่วนที่ใช้ Emotional ในการตัดสินใจผมจึงขออนุญาตเว้นคะแนนในส่วนนี้ไว้ครับ
คะแนนรวมเฉลี่ย
8.35
ดีเยี่ยม
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 02-308-2222
Website : http://charnissara.com/IssaraLadprao/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ
แสดงความคิดเห็น