homenayoo

11 พฤติกรรมทำร้าย iPhone ที่ควรลด ละ เลิกเป็นการด่วน ก่อน iPhone ของคุณจะจากไปก่อนวัยอันควร!

โพสโดย : pure / วันที่ : 1 September 2015

11 พฤติกรรมทำร้าย iPhone ที่ควรลด ละ เลิกเป็นการด่วน ก่อน iPhone ของคุณจะจากไปก่อนวัยอันควร!

2-horz

วันนี้เรามีทริคดีๆ จาก thaimobilecenter.com เกี่ยวกับการใช้ iPhone ให้ถูกวิธี เพราะเราเชื่อว่า ยังมีอีกหลายคนที่ไม่รู้ว่า สิ่งที่บอกต่อไปนี้ อาจจะส่งผลร้ายต่อ iPhone ของเรา และ ยังมีอีกหลายอย่างที่เราคาดไม่ถึง ซึ่งอาจจะทำให้เครื่อง iPhone ของเราเสียก่อนเวลาอันควร มาดู 11 พฤติกรรมที่เป็นการทำร้าย iPhone เพื่อทุกท่านที่ใช้ iPhone จะได้หลักเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้ และยังช่วยให้เครื่องของคุณอยู่กับเราไปได้อีกนาน

2

1. ไม่เคยปิดเครื่องไอโฟนเลย

จริงๆ แล้วในหนึ่งสัปดาห์เราควรปิดเครื่องอย่างน้อย 1 ครั้ง เพราะการเปิดเครื่องไอโฟนทิ้งไว้ตลอดเวลาก็ส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ด้วย ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า หากคุณซื้อสมาร์ทโฟนมาแล้วใช้เหมือนเป็นนาฬิกาปลุก ก็ควรหยุดแล้วหาซื้อนาฬิกาปลุกถูกๆ สักอันมาใช้จะดีกว่า หรือเลือกเวลาในการปิดเครื่องเป็นช่วงอื่นของวันแทน

3

2. เปิด Wi-Fi กับ Bluetooth ไว้ตลอดเวลา

การเปิด Wi-Fi กับ Bluetooth อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งคู่ไว้โดยที่ไม่ได้ใช้ตลอดเวลานั้น เป็นการใช้พลังงานไปอย่างสิ้นเปลือง ไม่ควรเปิดทิ้งไว้เพราะเผื่อว่าจะต้องใช้ ควรเปิดใช้เมื่อมีความจำเป็นจริงๆ จะดีกว่า

3.ใช้ไอโฟนในสภาพอากาศสุดโต่ง

ต้องระลึกไว้เสมอว่า ไอโฟนนั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ทนต่อสภาพอากาศที่ร้อนจัด หรือหนาวจัด จึงไม่ควรใช้ไอโฟนในสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 32 องศาฟาเรนไฮต์ (0 องศาเซลเซียส) หรืออุณหภูมิสูงกว่า 95 องศาฟาเรนไฮต์ (35 องศาเซลเซียส) เพราะจะมีผลต่อการทำงานของแบตเตอรี่ และอาจส่งผลให้เครื่องดับชั่วคราว เพราะฉะนั้นหากรู้ตัวว่าจะต้องไปอยู่ในที่ๆ มีอากาศแบบนี้แล้วละก็ควรปิด และเก็บไอโฟนไว้ในกระเป๋าจะเป็นการดีที่สุด

4

4. เสียบชาร์จแบตเตอรี่ค้างไว้ทั้งคืน

การเสียบไอโฟนชาร์จไว้ตอนเรานอนหลับ ฟังดูน่าจะเป็นวิธีที่ดี แต่จริงๆ แล้วการเสียบชาร์จทิ้งไว้หลังจากแบตเตอรี่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นการทำลายแบตเตอรี่ทางอ้อม ส่งผลให้แบตเตอรี่หมดเร็วขึ้น การชาร์จที่ถือเป็นการถนอมแบตเตอรี่คือถอดสายชาร์จออกก่อนที่จะเต็ม

5. ชาร์จแบตเตอรี่ไว้เต็ม 100% ตลอด หรือใช้แบตเตอรี่จนหมดเกลี้ยง

Shane Broesky ผู้ก่อตั้งบริษัท Farbe Technik ที่ผลิตอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ ได้กล่าวไว้ว่า แบตเตอรี่แบบ Lithium (ซึ่งเป็นชนิดของแบตเตอรี่ที่ถูกนำมาใช้ในเครื่องไอโฟน) จะมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีที่สุด หากแบตเตอรี่มีปริมาณของประจุไฟฟ้าอยู่ในช่วงประมาณ 50-80 เปอร์เซ็นต์

และในทางกลับกันการที่เราใช้แบตเตอรี่จนหมดเกลี้ยงนั้น อาจทำให้แบตเตอรี่ต้องตกอยู่ในสถานะที่เรียกว่า Deep Discharge State ซึ่งส่งผลให้ตัวเก็บประจุไฟฟ้าในแบตเตอรี่ไม่สามารถทำงานได้ ดังนั้นทางที่ดีคือให้พยายามชาร์จแบตเตอรี่เพียงแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ หรือเพียงแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อให้ประจุได้รับพลังงานที่พอดีสำหรับการนำไปใช้งาน และเพื่อเป็นการถนอมแบตเตอรี่อีกด้วย

5

6. ไม่ใช้ที่ชาร์จแบตเตอรี่ของจริงจาก Apple

หลายคนอาจจะมองว่าที่ชาร์จแบตเตอรี่ของ Apple มีราคาแพง จึงไม่ซื้อมาใช้ เลือกที่จะซื้อของปลอมมาใช้แทน จริงๆ แล้วควรใช้อุปกรณ์แท้ หากใช้ของโนเนมอาจส่งผลร้ายต่อแบตเตอรี่ และอาจถึงขั้นระเบิดได้เลยทีเดียว ซึ่งทำให้ Apple ได้ตั้งโครงการ USB Power Adapter Takeback ขึ้น ซึ่งเป็นโครงการที่ให้นำที่ชาร์จแบตเตอรี่ของปลอมมา เป็นส่วนลดในการซื้อที่ชาร์จแบตเตอรี่ของจริงจาก Apple

6

7. ไม่เคยทำความสะอาดตัวเครื่องเลย

รู้หรือไม่ว่าในไอโฟนของเรามีฝุ่น และเชื้อโรคมากกว่าที่คิด พูดได้ว่าฝุ่น เชื้อโรคที่อยู่ในห้องน้ำ หรือแม้แต่ในชามข้าวสัตว์เลี้ยงยังมีน้อยกว่าที่อยู่ในไอโฟนตัวน้อยของเราซะอีก ซึ่งทาง Apple ได้ออกมาแนะนำให้ใช้ Lint-Free Cloth หรือผ้าไร้ฝุ่นในการทำความสะอาดเครื่อง

และที่สำคัญห้ามลืมทำความสะอาดช่องเสียบชาร์จ เพราะมักจะมีเศษขยะ หรือฝุ่นจากกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกงเข้าไปติดอยู่เป็นจำนวนมาก อาจจะทำให้เกิดปัญหาในการเชื่อมต่อต่างๆ ได้ ควรใช้ไม้จิ้มฟัน เข็มเย็บผ้า หรือแม้แต่ก้านต่างหูในการแคะสิ่งสกปรกข้างในออกมา

7

8. เดินถือไอโฟนโดยไม่ระมัดระวังรอบข้าง

คงไม่ต้องแปลกใจหากรู้ว่าไอโฟน ถือเป็นสินค้ายอดนิยมในตลาดมืดทั้งหลาย และเป็นเป้าหมายหลักของกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ ซึ่งคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของประเทศสหรัฐอเมริกา (FCC) รายงานว่าในปี 2013 ตามเมืองใหญ่ต่างๆ นั้นมีคดีเกี่ยวกับการปล้นชิงสมาร์ทโฟนประมาณร้อยละ 40 ซึ่งถือเป็นอัตราที่สูงมาก จึงควรระมัดระวังในการใช้สมาร์ทโฟนขณะเดินในที่สาธารณะให้มากขึ้น

8

9. ไม่ตั้งรหัสล็อกหน้าจอ

Apple รายงานว่าเกือบครึ่งของจำนวนผู้ใช้ไอโฟนไม่ได้ตั้งรหัสล็อกหน้าจอ (Passcode) ไว้ หากคุณไม่ได้ตั้งรหัสไว้ และเมื่อไอโฟนถูกขโมยไป มิจฉาชีพจะสามารถนำข้อมูลส่วนตัวทุกอย่างของคุณไปใช้ในทางไม่ดีได้ ซึ่งการตั้งรหัสล็อกหน้าจอนั้นถือเป็นหนึ่งในวิธีป้องกันที่ทำได้ง่ายที่สุด

11

10. เปิด GPS ให้รู้ตำแหน่งที่ตั้งทุกแอปพลิเคชันอยู่ตลอดเวลา

แอปพลิเคชันอย่าง Uber หรือ Maps นั้นจำเป็นต้องเปิดการใช้งาน “Location Services” เพื่อให้บางฟีเจอร์นั้นทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และจะมีการแจ้งเตือนด้วยว่าจะต้องใช้เมื่อใด ในขณะที่เมื่อใช้ฟีเจอร์อื่นๆ บริการนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ก็ได้ จึงควรตั้งค่าปิด “Location Services” ไว้ตลอดเวลา เพื่อเป็นการถนอมแบตเตอรี่ไปในตัวด้วย

12

11. ตั้งค่าให้ทุกแอปพลิเคชันแจ้งเตือนอยู่ตลอดเวลา

การตั้งค่าให้ทุกแอปพลิเคชันมีการแจ้งเตือนอยู่ตลอดเวลา เป็นการทำให้ไอโฟนทำงานหนักตลอดเวลา เพราะต้องคอยอัปเดตให้ข้อมูลเป็นปัจจุบันเสมอ ซึ่งทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว เนื่องจากหน้าจอจะติดทุกครั้งที่มีการแจ้งเตือนต่างๆ เข้ามา และนักวิจัยกล่าวว่าเป็นการทำให้เสียสมาธิอีกด้วย จึงควรเลือกให้มีการแจ้งเตือนเฉพาะแอปพลิเคชันที่สำคัญๆ เท่านั้น

จาก 11 พฤติกรรมทำร้ายไอโฟนข้างต้น หากเราใส่ใจกันสักหน่อย ก็คงจะไม่ยากเกินไปนักที่จะหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้ ซึ่งหากหลีกเลี่ยงได้ ก็จะช่วยให้เครื่องไอโฟนสุดรักสุดหวงของเราใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพไปได้นานแสนนาน ไม่ด่วนจากไปก่อนวัยอันควร และถ้าจะให้ดีก็อย่าลืมแบ่งปัน หรือบอกต่อเรื่องราวที่มีประโยชน์เหล่านี้กับเพื่อนๆ ชาวไอโฟนของคุณบ้างนะครับ

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : thaimobilecenter.com

 


สนใจลงโฆษณากับทาง Homenayoo ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณวันเฉลิม  086-1290293 
LINE ID : 123456786205
Email : wanchalearm.t@gmail.com
ทางเราเป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูล ไม่ใช่เจ้าของโครงการนะครับ

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " 11 พฤติกรรมทำร้าย iPhone ที่ควรลด ละ เลิกเป็นการด่วน ก่อน iPhone ของคุณจะจากไปก่อนวัยอันควร! "

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.