แชร์ประสบการณ์ที่แสนเลวร้าย จากการจองทาวน์โฮม ย่านโลตัสอ่อนนุช คนที่จะซื้อบ้านควรอ่าน!
ใครที่กำลังจะซื้อบ้านควรอ่านเรื่องราวในวันนี้เลยค่ะ การตัดสินใจซื้อบ้านหนึ่งหลัง ยิ่งเป็นบ้านหลังแรก ที่เกิดจากการเก็บเงินน้ำพักน้ำแรงของเราแล้วหละก็ ยิ่งต้องศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นดีเวลลอปเปอร์ ว่าเป็นเจ้าที่น่าเชื่อถือ หรือ เคยมีเอฟเฟคในการก่อสร้างหรือไม่ ศึกษาโครงการสร้างของตัวบ้าน ว่าก่อสร้างอย่างไร เช็ครายชื่อผู้รับเหมาของโครงการ ว่ามีประสบการณ์ในการสร้างบ้านมา มากน้อยเท่าไหร่ ?
แต่… ก็ไม่ใช่ว่า ดีเวลลอปเปอร์เจ้าใหม่ หรือ ผู้รับเหมาหน้าใหม่ จะไม่มีคุณภาพเสมอไป เพราะฉะนั้นก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน ควรศึกษาให้ดี เปรียบเทียบกับโครงการบนทำเลที่คุณชอบอย่างถี่ถ้วน ไม่เช่นนั้น จะเหมือนกับ สมาชิกหมายเลข 2691810 Pantip.com ที่ออกมาแชร์ประสบการณ์อันเลวร้ายจากการจองทาวน์โฮมแห่งหนึ่ง เราลองมาดูกันค่ะว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นกับตัวบ้านเค้ากันบ้าง บอกเลยว่าน่าเห็นใจมากจริง ๆ
>——————————————————————-< สวัสดีคะ นี่เป็นกระทู้แรกของเราใน pantip ไม่เคยคิดมาก่อนว่าต้องมาโพสเรื่องราวของตัวเองในนี้ แต่มันสุดทนจริงๆคะ เลยอยากแชร์ประสบการณ์ในการจองทาวน์โฮม สุขุมวิท 50 ให้คนในสังคมรับรู้เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังตัดสินใจมองหาที่อยู่อาศัยย่านโลตัสอ่อนนุช
เริ่มจากเราสนใจดูโครงการแถวๆอ่อนนุช บางนา หามาหลายที่ จนมาถูกใจทาวโฮมแห่งหนึ่งใกล้โลตัสอ่อนนุช
เราไปดูมาหลายรอบ เพราะชอบทำเลและการออกแบบบ้าน เซลล์ก็เข้ามาเสนอราคานู่นนี่ และนัดผู้มีอำนาจตัดสินใจในโครงการมาเจรจากับเรา โดยคนที่บริษัทส่งมาแนะนำให้เราวางเงินจอง 50,000 บาท และให้เวลาเราตัดสินใจภายใน 7 วัน หากไม่เอาก็จะคืนเงินให้ เราก็โอเค วางเงินจองไป 50,000 บาท ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2558
พอใกล้ครบกำหนด 7 วัน เราคิดว่ายังไม่ตัดสินใจซื้อดีกว่า เพราะเผื่อดูโครงการอื่นๆด้วย ประกอบกับราคาที่โครงการเสนอมายังเกินกว่างบที่เราตั้งไว้ ทางโครงการก็ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายมาคุยราคากับเราอีกครั้ง คราวนี้ลดราคาลงมาอยู่ในงบที่เราตั้งไว้ (จาก 10.6 ล้าน ลงเหลือ 9.95 ล้าน) เรากับสามีชอบทำเลและรูปแบบโครงการอยู่แล้ว จึงตัดสินใจว่าโอเค โครงการก็ให้เราวางเงินอีก 150,000 บาท เราก็วางเงินในวันนั้นเลย คือวันที่ 28 กรกฎาคม 2558
เซลล์แจ้งว่าเดี๋ยวจะนัดวันมาทำสัญญาอีกครั้ง เราก็โอเค ไม่มีปัญหา ระหว่างนั้นเราก็ให้น้าเราซึ่งจบวิศวะ แนะนำเพื่อนมาตรวจดูบ้านให้หน่อย เพราะเราไม่มีความรู้เรื่องนี้ ประกอบกับเราจะต่อเติมด้านหลังบ้านด้วย (พื้นที่หลังบ้านเป็นลานกว้าง ติดคลอง) เราคิดจะต่อเติมครัวไทยและห้องสำหรับผู้สูงอายุ เลยต้องการหาวิศวะมาดูและออกแบบให้
วันที่ 14 สิงหาคม 2558: เพื่อนน้าเราที่เป็นวิศวะ มาดูบ้าน แต่ไม่ได้ดูแบบตรวจรับงาน แค่มากะขนาดคร่าวๆว่าพื้นที่ด้านหลังบ้านนี่จะสร้างห้องนอนได้ประมาณไหนแค่นั้น และเซลล์ก็ให้เราเข้าไปเซ็นสัญญาจะซื้อจะขายในวันนั้น โดยในสัญญาระบุว่าบ้านพร้อมส่งมอบในวันที่ 30 สิงหาคม 2558 ซึ่งขณะนั้นด้านหลังบ้านยังไม่เรียบร้อยดีเท่าไหร่ แต่เซลล์ก็รับปากว่าเมื่อลูกค้าวางเงินจองมาแล้วจะรีบเอาช่างเข้าไปทำหน้างานทันที
จากนั้นเราก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะเซลล์คอยรายงานเป็นระยะถึงความคืบหน้าของการเก็บงานเพื่อส่งมอบ
วันที่ 7 กันยายน 2558: วิศวกรของเรานัดหมายผู้รับเหมาเข้าไปดูหน้างานเพื่อตีราคาการต่อเติมด้านหลัง (ซึ่งจะเริ่มทำหลังรับมอบบ้าน) ปรากฎว่าไปเจอว่าผนังหลังบ้านมีเหล็กเส้นยื่นออกมา คล้ายกับผนังไม่ได้วางอยู่บนคานแต่วางอยู่บนพื้น และกำแพงบ้านทั้งสองข้างเริ่มมีรอยร้าว กำแพงหลังบ้านเริ่มเอียงจนดึงให้กำแพงด้านข้างร้าว ตามรูป
วิศวกรเราแจ้งให้เราขอแบบก่อสร้างกับทางโครงการ เพื่อมาตรวจสอบว่าโครงการก่อสร้างตามแบบหรือไม่ เราก็แจ้งเซลล์ไปว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้นะ ขอแบบการก่อสร้างให้วิศวกรเราดูหน่อยได้หรือไม่ เซลล์แจ้งว่าโครงการให้ได้แค่แบบทางสถาปัตย์ ไม่สามารถให้แบบการก่อสร้างได้ และเซลล์แจ้งว่าจะแจ้งผู้บริหารให้ โดยให้เราส่งอีเมลล์ไปหาเซลล์แจ้งความประสงค์ จากนั้นเซลล์จะประสานผู้บริหารให้
เราก็ส่งอีเมลล์ไปถึงเซลล์ แจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นพร้อมแนบรูปถ่ายและแจ้งขอแบบการก่อสร้าง พร้อมทั้งกำชับไปด้วยว่าหากโครงการจะซ่อมแซมจุดชำรุดให้แจ้งให้วิศวกรเราร่วมรับรู้ด้วยว่าโครงการจะแก้ไขยังไง (เพราะเรากลัวว่าโครงการจะแก้ไขโดยการลูบหน้าปะจมูก ไม่ได้แก้ไขถึงโครงสร้าง)
หลังจากนั้นเราก็ตามเรื่องจากเซลล์ เซลล์แจ้งว่าทางโครงการจะให้คุณ A โปรเจคโครงการโทรคุยกับวิศวกรของเรา
หลังจากคุณ A โทรมาคุยกับวิศวกรเราแล้ว เราให้เซลล์แจ้งคุณ A ให้โทรหาเราด้วย เพราะเราอยากรู้ว่าโครงการจะทำอย่างไรกับปัญหานี้
สักพักคุณ A โทรมาหาเราแจ้งว่า แปลงที่ดินหลังที่เราซื้อซึ่งเป็นแปลงในสุดเป็นแปลงที่มีปัญหา เพราะโครงการเคยมีปัญหาการเมืองภายในจนเปลี่ยนผู้รับเหมามาหลายเจ้า บางเจ้าก็ทิ้งงาน แปลงนี้จึงเป็นแปลงสุดท้ายที่งานยังไม่เรียบร้อย เหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากความผิดพลาดของโครงการในการคุมงาน เราเลยแจ้งว่าเราต้องการขอเงินคืน คุณ A ประสานกับทางผู้บริหารให้ได้หรือไม่
คุณ A แจ้งว่า ตอนนี้คุณ A ออกจากโครงการนี้มาแล้ว แต่ที่มาคุยกับเราให้เนื่องจากผู้ใหญ่เห็นว่า เค้าอยู่ในโปรเจคตั้งแต่เริ่มต้นเลยขอร้องให้มาคุยกับเรา และคุณ A บอกอีกว่าเจ้านายเค้า (ผู้บริหาร) ใจดี เคยมีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นแล้ว เค้าก็คืนเงินให้ เราก็โล่งใจ
จากนั้นก็เงียบหายกันไปหมดทั้งผู้บริหารและเซลล์ จนเราต้องตามอยู่หลายครั้ง เซลล์แจ้งว่าทางโครงการต้องการซ่อมจุดที่ชำรุดและให้เราตรวจรับงาน เราเลยแจ้งว่าเราไม่ประสงค์จะซื้อแล้ว ต้องการเงินคืน เซลล์ก็แจ้งว่าเค้าทำอะไรไม่ได้ ทางผู้บริหารให้นโยบายมาแบบนี้ เราเลยขอให้เซลล์นัดผู้บริหารมาคุยกับเราว่าจะเอาอย่างไร รอแล้วรออีกก็เงียบ
เราตามเซลล์อีกครั้งในวันที่ 25 กันยายน 2558 เซลล์แจ้งแบบเดิมว่าต้องการให้เรารับมอบบ้านและบ้านน่าจะพร้อมส่งมอบภายในสิ้นเดือนนี้ (30 กันยายน 2558) เราก็ยืนยันว่าเราไม่รับมอบพร้อมกับทำหนังสือบอกเลิกสัญญาในวันนั้นเลย โดยอ้างเหตุบ้านชำรุด และทางโครงการแก้ไขจุดชำรุดโดยไม่แจ้งวิศวกรเรา เราเลยตรวจสอบไม่ได้ว่าโครงการแก้ไขอย่างไร อีกทั้งในสัญญาจะซื้อจะขายบอกจะส่งมอบ 30 สิงหาคม 2558 นี่เลยกำหนดมาแล้วก็ไม่ส่งมอบ เราให้เวลา 7 วันในการคืนเงิน มิฉะนั้นจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
เราส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาแบบ ปณ ลงทะเบียนตอบรับ ซึ่งเราตรวจสอบแล้วพบว่าจดหมายมีคนรับไว้แล้วตั้งแต่ 28 กันยายน 2558 แต่ถึงตอนนี้โครงการยังเงียบอยู่
30 กันยายน 2558: เซลล์โทรแจ้งความคืบหน้าว่าทางโครงการได้รับหนังสือเลิกสัญญาของเราแล้ว และต่อไปเซลล์จะหมดหน้าที่กับเราแล้ว จะเป็นคนดูแลหลังการขายแทน
1 ตุลาคม 2558: เราโทรไปที่บริษัทเพื่อขอคุยกับผู้บริหาร ผู้บริหารรับสายแล้วแจ้งว่าได้จดหมายแล้ว จะให้ฝ่ายกฎหมายติดต่อกลับมา
2 ตุลาคม 2558: ยังคงไร้วี่แววของฝ่ายกฎหมาย เราเลยติดต่อไปหาคุณ A อีกครั้ง คุณ A แจ้งว่าทางผู้บริหารบอกเค้าว่า เค้าไม่ได้อยู่ในโปรเจคแล้ว ห้ามให้ข้อมูลใดๆกับเราอีก (ทั้งๆที่ตอนมีปัญหาแรกๆส่งคุณ A มาเจรจากับเรา พอคุณ A มาเล่าเรื่องภายในของบริษัทรวมถึงกล่าวยอมรับว่าเป็นความผิดของบริษัท ทางผู้บริหารก็ห้ามคุณ A ให้ข้อมูลใดๆอีกเลย)
ตอนนี้เรารอเวลาให้ครบ 7 วัน ตามหนังสือบอกเลิกสัญญาก็จะดำเนินการฟ้องร้องคดีทันที
ขนาดเรายังไม่รับโอนจากโครงการ การดูแลจากโครงการยังเป็นแบบนี้ หากรับโอนบ้านเน่าๆไปแล้วเกิดพังขึ้นมา ทางโครงการจะดูแลดีขนาดไหน พอมีปัญหาก็ให้ลูกน้องเก่าโทรมาคุย พอลูกน้องเก่าเล่าปัญหาข้อเท็จจริงในโครงการให้ลูกค้าฟัง ก็โดนผู้บริหารโครงการสั่งปิดปาก….ช่างเป็นโครงการที่ดีเหลือเกินคะ
ถ้ามีความคืบหน้าจะมาอัพเดทต่อนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : สมาชิกหมายเลข 2691810 Pantip.com
สนใจลงโฆษณากับทาง Homenayoo ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณวันเฉลิม 086-1290293
ทางเราเป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูล ไม่ใช่เจ้าของโครงการนะครับ
แสดงความคิดเห็น