คิดจะทำธุรกิจบ้านเช่า จำ 10 คำถามนี้ไว้ใช้ ให้แม่น ๆ !
10 คำถามที่ต้องถามคนเช่าบ้าน (Terrabkk)
การทำธุรกิจบ้านเช่า หัวใจสำคัญที่สุดคือการเลือกผู้เช่าที่สามารถดูแลบ้านเราได้และไม่มีปัญหาในเรื่องการจ่ายเงินค่าเช่า ดังนั้นการเลือกคนที่จะมาเช่าบ้านนั้น นอกจากจะซักถามประวัติต่าง ๆ แล้วก็ควรซักถามในเรื่องอื่น ๆ ด้วย เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นในการพิจารณาและตัดสินใจว่าจะให้เช่าดีหรือไม่ โดยคำถามส่วนใหญ่อาจจะเป็นประวัติส่วนตัวเบื้องต้นและข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง TerraBKK Research รวบรวมคำถามที่สำคัญ ๆ สำหรับการพูดคุยเจรจามาไว้ 10 คำถามดังนี้
1. ทำไมถึงย้ายบ้านเช่า ?
เป็นคำถามที่คุณจะรู้ที่มาที่ไปว่าทำไมเขาถึงมาเช่าบ้านของคุณ ซึ่งคำตอบส่วนใหญ่ควรจะเป็นเรื่องย้ายเพราะเปลี่ยนที่ทำงาน, ต้องการบ้านใหญ่ขึ้น, ใกล้โรงเรียนลูก ฯลฯ ควรระวังผู้เช่าที่ย้ายเพราะมีปัญหากับเจ้าของบ้านเก่า เช่น ทะเลาะกับเจ้าของบ้าน, จ่ายเงินไม่ตรงเวลา, หนีเพราะไม่มีเงินจ่าย
2. มีแผนจะเข้าอยู่เมื่อไหร่ ?
สังเกตระยะเวลาที่ผู้เช่าต้องการจะย้ายเพื่อเข้าอยู่ หากผู้เช่าต้องการย้ายพรุ่งนี้ทันทีแสดงให้เห็นถึงความผิดปกติบางอย่าง โดยเฉพาะผู้เช่าที่เคยเช่าย้ายมาจากบ้านเช่าอื่น เพราะอย่างน้อยเขาต้องแจ้งเจ้าของบ้านคนเก่าล่วงหน้า 30 วัน
3. วางแผนว่าจะอยู่นานแค่ไหน ?
ผู้เช่าบางคนมาเช่าเพื่อจะมาอยู่ระยะสั้นเพียงแค่ 1-2 ปี ซึ่งเจ้าของบ้านอาจจะต้องถามว่ามีแผนจะอยู่ยาวแค่ไหน เพื่อจะได้เตรียมตัวเมื่อมีการเปลี่ยนผู้เช่าอีกครั้ง โดยทั่วไปแล้วการทำสัญญาเช่าควรระบุเอาไว้อย่างน้อย 1 ปี แต่หากผู้เช่าบอกเลิกก่อนกำหนดก็สามารถยึดเงินมัดจำได้ เพราะการเปลี่ยนผู้เช่าในแต่ละครั้งจะมีช่วงที่บ้านว่างทำให้ขาดรายได้ประมาณ 1-2 เดือนเป็นอย่างต่ำ (Vacancy Rate)
4. ทำงานอะไร ? และมีรายได้พอจ่ายค่าเช่าหรือไม่ ?
แสดงให้เห็นถึงกำลังการซื้อว่ามีเงินจ่ายค่าเช่าไหวหรือไม่ ? ซึ่งอย่างน้อยผู้เช่าควรมีรายได้มากกว่าค่าเช่าประมาณ 2-3 เท่า เช่น ค่าเช่าบ้าน 10,000 ก็ควรจะมีรายรับประมาณ 20,000 บาทขึ้นไปเพราะต้องหักค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีก ซึ่งคุณเองก็อาจจะถามเรื่องอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ทำงานประจำอย่างเดียวหรือเปล่า ? มีรายได้จากทางอื่นอีกหรือไม่ ? มีหนี้สินอย่างอื่นอีกหรือไม่ ? เป็นต้น เพื่อประเมินเบื้องต้นว่าผู้เช่ารายนี้จะมีปัญหาในการจ่ายค่าเช่าหรือไม่
คิดจะทำธุรกิจบ้านเช่า จำ 10 คำถามนี้ไว้ใช้ให้แม่น ๆ !
5. พร้อมที่จะจ่ายค่ามัดจำและค่าเช่าล่วงหน้าหรือไม่ ?
เป็นสิ่งสำคัญที่จะบอกให้รู้ถึงสถานะการเงินของผู้เช่าว่า ณ ตอนนี้มีเงินก้อนเพื่อจ่ายค่ามัดจำและค่าเช่าล่วงหน้าในเดือนแรกหรือไม่ โดยทั่วไปแล้วจะต้องจ่ายเป็นเงินก้อน 2-3 เท่าของค่าเช่ารายเดือน ซึ่งหากมีการผ่อนผันตั้งแต่เดือนแรกก็อาจเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนักว่าคงจะมีปัญหาตามมาในเดือนต่อ ๆ ไป
6. อยู่กันทั้งหมดกี่คน ?
คุณควรจำกัดจำนวนคนเอาไว้ไม่ให้เกิน 2 คนต่อ 1 ห้องนอน เช่น เป็นบ้านเดี่ยว 2 ห้องนอน แสดงว่าอยู่ได้สูงสุดไม่เกิน 4 คน เป็นต้น เพราะยิ่งคนอยู่เยอะเท่าไร บ้านคุณก็จะยิ่งโทรมและเสียหายมากขึ้นเท่านั้น
7. มีสัตว์เลี้ยงหรือไม่ ?
อันนี้ขึ้นอยู่กับคุณแล้วล่ะว่าจะรับได้หรือไม่หากผู้เช่ามีสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้านด้วย ทั้งนี้อาจมีปัญหาในเรื่องความเสียหายตามมา ยิ่งหากเป็นสัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่อาจจะทำลายข้าวของภายในบ้านหรือสร้างกลิ่นอับและสิ่งสกปรกภายในบ้านได้
8. สามารถหานายจ้างหรือเจ้าของบ้านคนเก่ามาอ้างอิงได้หรือไม่ ?
หากผู้เช่าลังเลในการหาคนมาอ้างอิงแสดงว่ากำลังมีเรื่องปิดบังบางอย่างหรือให้ข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริง การได้อ้างอิงจากนายจ้างจะทำให้รู้ว่าผู้เช่าทำงานที่นี่จริงหรือไม่ และมีตำแหน่งการงานที่มั่นคงหรือไม่ แต่ที่สำคัญคือการได้อ้างอิงจากเจ้าของบ้านคนเก่า จะทำให้รู้ประวัติการเช่าของผู้เช่ารายนี้ว่าดีหรือไม่ มีการจ่ายค่าเช่าตรงเวลาหรือไม่ และปัญหาจากการเช่าอื่น ๆ
9. เคยมีปัญหากับเจ้าของเก่าหรือไม่ ?
แม้จะเป็นการถามที่ตรงเกินไปและน้อยคนนักที่จะตอบตามความเป็นจริง แต่ก็เป็นคำถามที่ควรถามเพื่อจะได้ดูปฏิกิริยาเวลาตอบว่า ตอบตามความจริงหรือดูลังเลเวลาตอบ
10. มีข้อสงสัยอื่น ๆ อีกหรือไม่ ?
เป็นการเปิดประเด็นให้ผู้เช่าซักถามข้อสงสัยอื่น ๆ เกี่ยวกับการเช่าบ้านว่ามีกฎอื่น ๆ ที่ต้องรู้อีกหรือไม่ เพื่อให้เข้าใจตรงกันถึงกฎการเช่า จะได้ไม่มีปัญหาในภายหลัง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : terrabkk
สนใจลงโฆษณากับทาง Homenayoo ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณวันเฉลิม 086-1290293
ทางเราเป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูล ไม่ใช่เจ้าของโครงการนะครับ
แสดงความคิดเห็น