เทคนิคการใช้จ่ายเงิน และการออมเงิน (อย่างง่าย) สำหรับมนุษย์เงินเดือน พร้อมแจกไฟล์รายรับ-รายจ่ายฟรี !
ขอแนะนำการใช้จ่ายเงินและการออมเงิน (อย่างง่าย) สำหรับมนุษย์เงินเดือน มีแจกไฟล์ EXCEL ด้วย โดยคุณสมาชิกหมายเลข 1602059 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
วันนี้ผมอยากนำวิธีที่ผมใช้ในชีวิตประจำวัน เกี่ยวกับเรื่องการเงินอย่างง่ายมาให้เพื่อน ๆ ได้นำไปประยุกต์ใช้กัน (ถ้าคิดว่าดีนะ ฮา…และพอดีไม่ได้ยืนยันตัวตน ก็เลยตั้งเป็นกระทู้คำถาม)
หากเราเป็นคนหนึ่งที่รับผิดชอบชีวิตตัวเอง ไม่ได้ขอเงินจากพ่อแม่หรือใครคนอื่น (ยกเว้นนายจ้างเรา) ไม่ได้เกิดบนกองเงินกองทอง เริ่มต้นชีวิตจากศูนย์ เป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาทั่วไป ก็ย่อมมีการประหยัดเงินออมกันบ้าง หากผิดพลาดอะไรผมก็ขอโทษด้วยนะครับ ขอเริ่มหัวข้อแรกกันเลย
1. คำนวณรายรับทั้งหมด
คุณอาจเป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ทางเดียว หรืออาจจะมีรายได้จากการรับฟรีแลนซ์เพิ่ม ขายของเพิ่ม หรืออย่างอื่น ผมก็อยากให้รวมเงินเป็นรายรับยอดรวมทั้งหมด
ยกตัวอย่าง ผมมีเงินเดือน 20,000 บาท เพียงทางเดียว (หักประกันสังคม 750 บาท กองทุนสำรองเลี้ยงชีพอีก 5% (500 บาท) รวมเป็น 1,250 บาท) รวมรายรับทั้งหมด คือ 20,000-1,250 = 18,750 บาท
2. นำเงินมาเก็บเป็นเงินออม
หากคุณไม่สนใจก็สามารถข้ามหัวข้อนี้ได้เลยครับ แต่หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจการลงทุนและต้องการออมเงินอยู่แล้ว ก็อาจจะมีพวกบัญชีซื้อขายหุ้น กองทุนรวม สลากออมสิน หรือหวย (ฮาา) ก็ตัดออกจากรายรับเลยครับ ให้กลายเป็นเงินคงเหลือที่จะต้องใช้จ่าย
ตรงส่วนนี้เราจะเก็บไว้ที่จำนวนเงินออมของเรา สมมติว่าของผมออมไว้ในบัญชีหุ้นเดือนละ 4,000 บาท และหักเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 5% เป็นเดือนละ 1,000 บาท รวมเป็น 5,000 บาท (จริง ๆ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพก็นับเป็นเงินออมนะครับ นำมารวมได้เลย พอวันหนึ่งคุณลาออกจากบริษัทหรือกรณีอื่น ๆ ตรงส่วนนี้เราก็จะได้คืน แถมจะได้เงินสมทบด้วย ถ้าเข้าเงื่อนไขของทางกองทุนเขานะครับ)
3. การจัดการค่าใช้จ่าย
เริ่มจากแบ่งเป็นสัดส่วนที่ชัดเจนก่อน โดยแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายประจำวัน (ค่าอาหาร) ค่าที่อยู่อาศัย ค่าเดินทาง สินค้าอุปโภคบริโภค ค่าโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต เที่ยวแฮงก์เอาท์ หรือค่าบัตรเครดิต เป็นต้น เมื่อแยกประเภทของค่าใช้จ่ายได้แล้ว ผมจะแนะนำวิธีการประหยัดกันครับ
– 3.1 ค่าอาหารรายวัน
ยกตัวอย่าง ผมจะกำหนดไว้ที่เฉลี่ยมื้อละ 35 บาท (30-40 บาท) แต่บางทีอาจมีที่ประหยัดกว่าผมก็ได้นะครับ หรืออาจทำกินเองยิ่งประหยัดไปอีก ส่วนผมกินที่โรงอาหารของที่ทำงาน เสาร์-อาทิตย์ก็กินแถวที่พัก รวมกินขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ วันละ 40 บาท รวมเดือนหนึ่งใช้จ่ายค่าอาหาร [(35บาท x 3มื้อ) + 40 บาท] x 30วัน เท่ากับ 4,350
หากเทียบกับการกินในห้าง ฟู้ดคอร์ททั้งหมด สมมติว่าราคาในห้างเฉลี่ย 50 บาท เดือนหนึ่งจะประหยัดได้ (50-35บาท) x (3มื้อ) x (30วัน) เท่ากับ 1,350 บาท
– 3.2 ค่าที่อยู่อาศัย
หากใครได้พักที่บ้านตนเอง ไม่มีรายจ่ายส่วนนี้ก็สบายไป ส่วนผมเป็นเด็กต่างจังหวัดต้องเช่าอาศัยหอพักอยู่ ก็พยายามหาที่พักที่ราคาเหมาะสม ใกล้ที่ทำงาน หาอาหารการกินสะดวก สิ่งแวดล้อมดี สนนราคารายเดือน รวมค่าน้ำไฟเดือนละ 4,500 บาท
สำหรับการเช่าคอนโดหรือที่พักราคาแพง ความเห็นผม ผมแนะนำว่าหากทำงานที่เดิมหรือใกล้เคียงในระยะยาว (มากกว่า 10-20 ปี) ควรผ่อนหรือซื้อไปเลย เพราะเงินค่าเช่ามันจะสูญเปล่า แต่เงินที่เราผ่อนมันจะทำให้เรากลายเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยนั้นด้วย
– 3.3 ค่าเดินทาง
สำหรับผมเคยเดินทางโดยรถไฟฟ้า (ที่พักกับที่ทำงานห่างกันไกล) โดยซื้อตั๋วรถแบบเหมาจ่ายรายเดือน ตกเดือนละ 1,400 บาท แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นขับรถมอเตอร์ไซค์ไปทำงาน (เสี่ยงอยู่เหมือนกัน) จ่ายค่าน้ำมัน ตกเดือนละประมาณ 500 บาท ประหยัดไป 900 บาท
– 3.4 สินค้าอุปโภคบริโภค
คืออะไร ? ก็พวกสบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน แชมพู เครื่องสำอางครับ อันนี้เป็นเทคนิคส่วนตัวผมนะ ปกติพวกทางบิ๊กซี โลตัส ท็อปส์ มักจะมีสินค้าลดราคาทุก ๆ อาทิตย์ หรือสองอาทิตย์ ผมเดินทางผ่านบ่อยอยู่แล้ว หรือบางทีก็ดูตามหนังสือพิมพ์ ไม่ก็หน้าเว็บไซต์ของห้างเลย ก็จะรู้ว่าสินค้าลดราคามีอะไรบ้าง
ยกตัวอย่างสินค้าลดราคาที่ผมมักได้บ่อย ๆ นะครับ (ส่วนลดนะ) แชมพู 30 บาท ยาสีฟัน 20 บาท ผงซักฟอก 40 บาท โฟมล้างหน้า 25 บาท กาแฟ 20 บาท สบู่ 10 บาท คือในส่วนนี้รวม ๆ เฉลี่ยเดือนหนึ่งผมจะประหยัดได้ประมาณ 200 บาทเลยครับ
– 3.5 ค่าโทรศัพท์ และอินเทอร์เน็ต
ของผมขอรวมกันเลยนะครับ เพราะผมอาศัยอยู่หอพักมีอินเทอร์เน็ตเรียบร้อย สำหรับแพ็คเกจโปรโมชั่นของมือถือผมเลือกโปรที่ประหยัดที่สุด (เน็ต 750 MB โทร 100 นาทีก็พอแล้ว เพราะผมไม่ค่อยเล่นพวกโซเชียลบ่อยเท่าไร)
ค่าใช้จ่ายจะตกประมาณเดือนละ 350 บาทครับ จะประหยัดกว่าค่าโปรโมชั่นเฉลี่ยที่ผมเห็นเพื่อน ๆ ใช้กันเดือนละ 599 บาท (รวม VAT จะตกประมาณ 642 บาท) ประหยัดได้เกือบ 300 บาทต่อเดือน
– 3.6 ค่าประกันสังคม หักภาษีเงินได้
ส่วนนี้หากเป็นมนุษย์เงินเดือนก็น่าจะโดนหักทุกคนอยู่แล้วนะครับ น่าจะเท่ากันที่ 750 บาท ส่วนภาษีก็แล้วแต่ฐานเงินเดือนครับ แต่หากนำเงินไปซื้อกองทุนทั้งหลายตามข้อกำหนด หรืออื่น ๆ ก็จะได้ค่าลดหย่อนภาษีคืนด้วยนะครับ
– 3.7 ค่าบัตรเครดิต
อันนี้ผมยังไม่เคยมีครับ แต่สำหรับผมก็ไม่แนะนำให้ใช้สักเท่าไร ถ้าไม่จำเป็นต้องเอาเงินในอนาคตมาใช้ เพราะมันจะสร้างภาระทางการเงินให้คุณ เว้นแต่หากคุณมีระเบียบวินัยทางการเงินดีมาก ๆ ก็แล้วแต่เลยครับ
– 3.8 ค่าแฮงก์เอาท์
หากคุณมีชีวิตที่รักความสนุกสนาน ก็คงมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ผมเผื่อไว้ประมาณ 1,500 บาทครับ ยิ่งเที่ยวน้อย ยิ่งประหยัดครับ
ผมคิดว่าน่าจะหมดเรื่องค่าใช้จ่ายแล้วนะครับ เมื่อนำมาคำนวณกันก็จะได้ตามรูปข้างล่างนะครับ
สรุปคือ รายได้ทั้งหมด 20,000 บาท รายจ่ายทั้งหมดประมาณ 12,750 บาท เงินออมทั้งหมด 5,000 บาท จะมีเงินเหลือเพียว ๆ 2,250 บาท หากยิ่งเที่ยวน้อยก็ยิ่งประหยัดลงไปอีก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะอดแบบสุด ๆ นะครับ บางทีเราก็ควรให้รางวัลตัวเองกันบ้าง เราจะได้มีความสุขครับ
การทำแบบนี้ถ้าเราทำตามที่วางแผนทางการเงินไว้ ก็จะเห็นภาพชัดเจนว่ารายจ่ายของเราไปอยู่ที่ไหน มีรายรับ เงินออม เงินคงเหลือเท่าไร ยิ่งหากมีวินัยทางการเงินที่ดี และขยันทำมาหากิน หาความรู้เพื่อสร้างทรัพย์สินให้ได้มากมายในอนาคต ก็จะทำให้ประสบความสำเร็จเร็วขึ้นครับ
หากใครมีวิธีที่ดีกว่านี้มาแชร์กันครับ เพื่อเงินออมไว้ทำตามความฝันของเรา และจะได้เป็นอิสระทางการเงินกันทุกคน ขอขอบคุณมากที่อุตส่าห์ลากยาวอ่านจนจบ หากไม่ดีไม่ถูกใจก็ขออภัยด้วยนะครับ
สุดท้ายนี้แจกไฟล์ที่ผมใช้ทำรายรับรายจ่าย เพื่อเงินออมไว้ด้วยครับ ที่ dropbox.com
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
สมาชิกหมายเลข 1602059 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
สนใจลงโฆษณากับทาง Homenayoo ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณวันเฉลิม 086-1290293
ทางเราเป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูล ไม่ใช่เจ้าของโครงการนะครับ
แสดงความคิดเห็น