EP.552 รีวิว คอนโด Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 ใกล้รถไฟฟ้า MRT บางกระสอ

---

คอนโด Aspire ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
Aspire รัตนาธิเบศร์-เวสต์ตัน
Aspire รัตนาธิเบศร์
Aspire รัตนาธิเบศร์ 2
Aspire งามวงศ์วาน
Aspire อโศก-รัชดา
Aspire พระราม 4
Aspire เอราวัณ
Aspire เอราวัณ ไพรม์
Aspire พระราม 9
Aspire รัชดา-วงศ์สว่าง
Aspire สุขุมวิท 48

---

---

Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์ช่วงใกล้แยกแคราย ทำเลดังกล่าวถือว่าอยู่ใจกลางตัวเมืองนนทบุรี โดยมีแยกแครายเป็นจุดศูนย์กลาง ยิ่งในอนาคตจะเป็นจุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้าของสายสีม่วง และสายสีชมพูอีกด้วย ปัจจัยดังกล่าวเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญที่จะนำความเจริญ และทางเลือกในการคมนาคมให้หลากหลายมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องใช้รถส่วนตัวเพียงอย่างเดียว เพราะอย่างที่น่าจะทราบชื่อเสียงกันอยู่ว่าแยกแครายนั้นมีการจราจรที่ค่อนข้างจะหนาแน่นทีเดียว อีกหนึ่งจุดที่ส่งเสริมเรื่องการเดินทางคือทางด่วนศรีรัช ด่านงามวงศ์วาน ช่วยให้การเข้าเมืองง่ายทำได้ง่ายขึ้นเยอะ

แต่ถ้าหากไม่ได้เร่งรีบมากนัก ถนนราชพฤกษ์ที่อยู่อีกฝั่งข้ามสะพานพระนั่งเกล้าไป ก็ใช้เข้าเมืองไปทางฝั่งสาทรได้เช่นกัน ซึ่งระยะทางจะไกลกว่าพอสมคว รแต่การจราจรในช่วงระหว่างวัน ถือว่าพอทำความเร็วได้ดี และไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม ส่วนเส้นติวานนท์ใช้เดินทางไปยังปากเกร็ด-แจ้งวัฒนะได้ หรือลงด้านล่างไปทางฝั่งนครอินทร์ ที่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยสะพานพระราม 5 ไปราชพฤกษ์ได้อีกทาง

เรื่องความอุดมสมบูรณ์ ในระยะที่เดินสะดวกไม่ค่อยมีให้เห็นเท่าไร แต่ถ้าเป็นคนชอบเดินขยันเดินก็จะมีห้างบิ๊กซี ที่อยู่ในระยะพอเดินได้ ประมาณ 500 เมตร ถ้ามองในภาพรวมที่ใหญ่ขึ้น นอกจากบิ๊กซีแล้วยังมีทั้งเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์, เทสโก้ โลตัส รัตนาธิเบศร์ และเอสพลานาด แคราย เลยไปทางเส้นงามวงศ์วานผ่านแยกแครายไปก็มีห้างรวมแหล่งไอที พันธ์ทิพย์ และเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ที่ติดกับโรงพยาบาลนนทเวช

พูดถึงเรื่องจุดกลับรถที่จะต้องใช้งานกันเป็นประจำ จุดแรกคือจุดกลับรถที่อยู่บริเวณหน้าโครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์ (1) ระยะทางไปใช้งาน 2 กม. ใช้ในกรณีที่ออกจากโครงการแล้วต้องการมุ่งหน้าไปทางแยกแครายข้ามฝั่งไปงามวงศ์วาน และทางด่วนศรีรัช จุดกลับรถอีกจุดอยู่ที่บริเวณแยกแคราย ใช้ในกรณีมาจากฝั่งสะพานพระนั่งเกล้า แล้วต้องการกลับรถเข้าโครงการ ระยะทางจากจุดกลับรถถึงโครงการอยู่ที่ 1.2 กม.

อันที่จริงแล้วหน้าโครงการเองมีสะพานเกือกม้ากลับรถ อยู่ทั้ง 2 ด้านขาเข้าและขาออก แต่เราไม่สามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประวันเนื่องจากว่าตำแหน่งที่ตั้งโครงการอยู่จุดเกือบจะกึ่งกลางนั่นเอง หากขึ้นสะพานดังกล่าวก็จะเลยทางเข้าโครงการไป

การไปใช้งานทางด่วนศรีรัช พอออกจากโครงการต้องไปกลับรถที่สะพานกลับรถบริเวณหน้าโครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์ (1) มุ่งหน้าผ่านแยกแคราย ขึ้นที่ด่านงามวงศ์วานระยะทางรวมกลับรถแล้ว 7.6 กม. แต่ในส่วนของขากลับเข้าโครงการนั้นไม่ซับซ้อนครับ พอลงทางด่วนแล้ววิ่งขึ้นสะพานข้ามแยกแครายก็จะถึงโครงการทางซ้ายมือระยะทางแค่ 2.6 กม.

การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า สะดวกมากเพราะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงผ่านหน้าโครงการ ระยะทางจากโครงการไปยังสถานีบางกระสอ เดินด้วยเท้าได้สบายแค่ 250 เมตร ในเรื่องของระยะเดินนั้น ผมยังไม่ได้รวมในส่วนของทางเท้าจากหน้าโครงการ เข้าไปยังตัวอาคารอีกประมาณ 80 เมตรนะ อีกสถานีที่ไปใช้งานได้คือสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ระยะเดินเท้าไกลกว่าหน่อยที่ 300 เมตร (วัดจากหน้าโครงการถึงบันไดทางขึ้นสถานี) ที่ในอนาคตจะเพิ่มรถไฟฟ้าอีก 1 สายคือรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ซึ่งใช้สถานีดังกล่าวเป็นจุด Interchange เชื่อมต่อสายสีม่วงกับสายสีชมพูเข้าด้วยกัน คาดว่าจะเปิดให้ใช้งานในปี 2563 สำหรับสายสีชมพู

สรุปแยกและถนนสำคัญใกล้เคียง

– ถนนติวานนท์และถนนงามวงศ์วาน (แยกแคราย) : 5.8 กม. รวมกลับรถแล้ว
– ถนนประชาชื่น (แยกพงษ์เพชร) : 8.4 กม. รวมกลับรถแล้ว
– ทางด่วนศรีรัช : 7.2 กม.
– ถนนเลี่ยงเมืองนนท์ : 1.6 กม.
– สะพานพระนั่งเกล้า : 3.7 กม.
– สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ : 4.3 กม.

::: การเดินทาง :::

เส้นทางที่ผมใช้เดินทางไปยังโครงการในวันนี้ ผมมาจากทางถนนราชพฤกษ์จากนั้นวิ่งเข้าถนนรัตนาธิเบศร์เพื่อขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าข้ามฝั่งเพื่อมุ่งหน้าสู่แยกแครายแล้วจึงกลับรถเข้าโครงการ

สรุปการเดินทาง : ถนนราชพฤกษ์ > ถนนรัตนาธิเบศร์ > สะพานพระนั่งเกล้า > ถนนรัตนาธิเบศร์ > กลับรถที่แยกแคราย > Aspire รัตนาธิเบศร์ 2

เริ่มต้นอธิบายภาพประกอบการเดินทางจากบนถนนราชพฤกษ์ ฝั่งที่มุ่งหน้าไปขาออกไปยังถนนรัตนาธิเบศร์

ผ่านวงเวียนพระราม 5 – นครอินทร์

เจอป้ายบอกทางไปถนนรัตนาธิเบศร์ให้ชิดซ้าย

ออกไปวิ่งทางขนานด้านนอก

ที่ทางขนานด้านนอกจะมีทางแยกย่อยถนนรัตนาธิเบศร์ระหว่างไปถนนกาญจนาภิเษกและสะพานพระนั่งเกล้า ให้เราเลือกไปทางสะพานพระนั่งเกล้าด้านขวา

ทางไปสะพานพระนั่งเกล้าจะเป็นสะพานวงแหวน พอลงด้านล่างมาจะมีทางแยกย่อยให้อยู่ทางซ้ายครับ ส่วนทางขวาจะเป็นการกลับรถเพื่อกลับไปยังถนนราชพฤกษ์ขาเข้า

ขณะนี้ผมอยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์ ผ่านรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีไทรม้า

ขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าเพื่อข้ามฝั่งไปยังแคราย

ผ่านรถไฟฟ้าสถานี แยกนนทบุรี 1

ผ่านหน้าสถานี MRT บางกระสอ มองเห็นห้างบิ๊กซีอยู่ฝั่งตรงข้าม จริงๆแล้วที่จุดนี้เราสามารถวิ่งอยู่ที่ทางหลักด้านในก่อนก็ได้ครับ

จุดกลับรถจะอยู่เลยจากตัวโครงการไปประมาณ 1.2 กม. ที่แยกแคราย

มุ่งหน้าตรงไปสู่แยกแคราย ผ่านหน้า Tesco Lotus และ Esplanade แคราย ระวังอย่าอยู่ช่องขวาเพราะจะเป็นการขึ้นสะพานข้ามแยกไปยังฝั่งงามวงศ์วาน

กลับรถใต้สะพานข้ามแยกแคราย

พอกลับรถมาเราจะอยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งที่มุ่งหน้าย้อนกลับไปยังสะพานพระนั่งเกล้าผ่าน MRT สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี

ตรงจุดนี้เราต้องวิ่งอยู่ทางขนานด้านนอกเท่านั้น

จากจุดกลับรถมาประมาณ 1.2 กม. ก็จะถึงตัวโครงการ Aspire รัตนาธิเบศร์ 2

::: บริเวณโครงการ :::

สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ

– Big C รัตนาธิเบศร์ : 500 เมตร
– Big C ติวานนท์ : 4.6 กม.
– เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ : 1..6 กม.
– Tesco Lotus รัตนาธิเบศร์ : 1.1 กม.
– เอสพลานาด รัตนาธิเบศร์-แคราย : 1.1 กม.
– The Mall งามวงศ์วาน : 8.1 กม.
– พันธ์ทิพย์ งามวงศ์วาน : 7.7 กม.
– มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ : 10.0 กม.
– กระทรวงสาธารณสุข : 7.3 กม.
– กระทรวงพาณิชย์ : 5.4 กม.
– โรงพยาบาลนนทเวช : 8.3 กม.

ภาพมุมสูง ทางเข้าออกโครงการอยู่ทางทิศเหนือติดถนนใหญ่ ที่ตั้งตัวอาคารจะอยุ่ด้านในห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 80 เมตร ที่ดินเปล่าของ AP ปัจจุบันทำเป็นสนามบอลและสนามเด็กเล่นลูกบ้านสามารถมาใช้งานได้แต่ต้องเดินอ้อมเข้าจากทางถนนใหญ่นะไม่มีทางเชื่อมจากด้านใน ริมถนนใหญ่ด้านขวาเป็นแนวอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ส่วนทางซ้ายเป็นปั๊มน้ำมัน RB และเขตบ้านพักอาศัยแรวราบสูงไม่เกิน 2 ชั้น

ภาพมุมสูงด้านหน้าโครงการ ทางเข้า-ออกติดถนนรัตนาธิเบศร์ หันหน้าไปทางฝั่งทิศเหนือ

ภาพมุมสูงโครงการ ตัวอาคารออกแบบเป็นรูปตัว H ฝั่งซ้ายมือเป็นอาคาร North ส่วนขวามือคืออาคาร South

ภาพมุมสูงอาคารฝั่งทิศเหนือ ติดสนามบาส (ที่ดินของ AP)

ภาพมุมสูงอาคารฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

ภาพมุมสูงอาคารฝั่งทิศตะวันตก  ติดบ้านพักอาศัยแนวราบ

ภาพมุมสูงอาคารฝั่งทิศตะวันตก จะเห็นอาคารจอดรถ 8 ชั้น และ พื้นที่ส่วนกลางที่ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 อาคาร

ภาพมุมสูงพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 7 x 32 เมตร, ฟิตเนส, สวนหย่อม และ สนามเด็กเล่น

ภาพมุมสูงอาคารฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้

ภาพมุมสูงอาคารฝั่งทิศใต้ ติดบ้านพักอาศัยแนวราบ

ภาพมุมสูงอาคารฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้

ภาพมุมสูงอาคารฝั่งทิศตะวันออก ติดโกดังเก็บของ

ภาพมุมสูงอาคารฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

ผมจะพาทุกท่านไปเดินชมบรรยากาศด้านหน้าโครงการรวมถึงทางเดินไปยังรถไฟฟ้าสถานีบางกระสอที่เป็นตัวเลือกการเดินทางหลักสำหรับคนที่ไม่ใช่รถส่วนตัว จะได้พอเห็นภาพว่าสภาพแวดล้อมเป็นอย่างไรกันบ้าง

ถนนรัตนาธิเบศร์ช่วงหน้าโครงการนั้นจะตรงกับสะพานกลับรถ ส่วนถนนที่ใช้สัญจรก็จะแบ่งเป็นทางหลักด้านและทางขนานด้านนอก

ทางขนานนั้นกว้าง 2 เลน ส่วนถนนหลักด้านในกว้าง 3 เลน

น่าเสียดายที่เราไม่สามารถใช้ประโยชน์จากสะพานกลับรถที่อยู่ด้านหน้านี้ได้ เพราะทางลงเลยสะพานไปไม่สามารเลี้ยวเข้าโครงการได้

อาคารที่อยู่ด้านหน้าปากทางเข้านี้คืออาคารสำนักงานขาย Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 แต่ ณ เวลานี้ตัวอาคารสร้างเสร็จ 100% แล้วจึงย้ายสำนักงานเข้าไปอยู่ด้านในแทน

ผมจะเดินไปตามฟุตบาททางด้านนี้ โดยมีจุดหมายคือรถไฟฟ้าสถานีบางกระสอครับ

จากถนนใหญ่มองไปทางตัวอาคาร Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 ผ่านที่ดินเปล่าด้านหน้าของ AP

ที่ดินตรงนี้ทำเป็นพื้นที่สีเขียวที่มีทั้งสนามเด็กเล่นและสนามบอล ลูกบ้าน Aspire สามารถเข้ามาใช้งานได้ครับ มีรปภ.คอยดูแลสถานที่อยู่ด้วย

สนามบอลใหญ่เล่นได้ 7-11 คนต่อทีม มีซุ้มหลังคาวางของกันแดดกันฝนให้

สนามเด็กเล่นมีทั้งเครื่องเล่นและสนามทราย

ไม่มีทางเข้าออกเชื่อมต่อกับตัวอาคารนะครับ ต้องเดินอ้อมผ่านทางเข้าด้านหน้าเมื่อสักครู่นี้เท่านั้น

ปั๊มน้ำมัน RB

ถัดมาเล็กน้อยมีร้านอ้าเลือดหมู ร้านนี้อร่อยดีครับ วันนี้ผมก็ฝากท้องที่นี้แหล่ะ

จากหน้าโครงการประมาณ 250 เมตรถึงตัวสถานีบางกระสอ มีฟุตบาทให้เดินได้สะดวกมาตลอดทาง

บันไดทางขึ้นสถานี

มีทางลาดขึ้นลิฟต์สำหรับผู้ทุพพลภาพที่ต้องใช้เก้าอี้วีลแชร์

ย้อนกลับมาบริเวณปากทางเข้าโครงการเพื่อเดินไปดูอีกฝั่งครับ

ด้านข้างฝั่งนี้เป็นแนวอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น

ที่ติดกับเป็นร้านเฟอร์นิเจอร์ Happy Home

ถัดมาอีกหน่อยยังคงเป็นแนวอาคารพาณิชย์ แต่เท่าที่สำรวจดูไม่มีร้านค้าใดๆน่าสนใจนัก

สะพานลอยข้ามฝั่งอยู่ใกล้เดินประมาณ 50 เมตรจากหน้าโครงการ

ต่อไปผมจะเดินเข้าไปชมด้านในกันบ้าง ตัวอาคารอยู่ลึกเข้าไปจากถนนใหญ่ราว 80 เมตร

ทางเข้าออกกั้นด้วยไม้กระดกสำหรับกรองลูกบ้านและผู้มาติดต่อ

แท่นแตะคีย์การ์ด

กล้องวงจรปิด

ป้อมยามหน้าโครงการมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและดูแลรักษาความปลอดภัย 24 ชม.

ช่องจอดรถจักรยาน มีแท่นเหล็กสำหรับคล้องสายยูเพื่อล็อค จอดได้หลายคันเลยครับ

ระหว่างทางเข้ามีต้นไม้ใหญ่สองข้างทาง บรรยากาศร่มรื่น

แยกช่องทางเดินออกจากถนนชัดเจน

สุดทางเดินมาจะเป็นช่วงที่เข้าสู่ตัวอาคาร ระยะถนนทางเข้าดังกล่าวประมาณ 80 เมตร

สามแยกตรงจุดนี้ หากตรงไปจะเป็นจุด Drop off ส่วนทางขวาไปยังลานจอดรถ

ผมขอตรงมาดูบริเวณจุด Drop off ก่อนครับ

ทางเข้าอาคาร A

ทางเข้าอาคาร B

จุด Drop off อยู่กึ่งกลางระหว่างทางเข้าอาคาร A และ B

สวนหย่อมกระจายตัวอยู่รอบอาคาร

กลับมาที่สามแยก ไปดูทางเข้าอาคารจอดรถ

อาคารจอดรถสูง 7 ชั้นถ้ารวมชั้นดาดฟ้าด้วยก็ 8 ชั้น สามารถจอดรถได้ประมาณ 40% รวมซ้อนคันแล้ว ตัวอาคารจอดรถดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของอาคาร A ก็จริงแต่ว่าไม่มีทางเชื่อมต่อกับตัวอาคารโดยตรง เวลาจอดรถเสร็จต้องลงมาที่ชั้นล่าง เพื่อเดินเข้าไปด้านในอาคารครับ

ตัวเลขจำนวนช่องจอดรถรวมช่องจอดที่อยู่ด้านล่างรอบอาคารแล้ว

ภายในดครงการมีแบ่งเลนพิเศษสำหรับรถจักรยาน

เลนพิเศษสำหรับวิ่งจีอกกิ้งรอบอาคาร

ทางเดินเชื่อมต่อจากลานจอดรถไปยังอาคาร A มีหลังคากันแดดกันฝน

ห้องนิติบุคคลและทางเข้าออกโถงลิฟต์ลานจอดรถ

เข้ามาด้านล่างอาคาร A เจอกับห้องจดหมายและทางเข้าส่วนของห้องพักที่มีอยู่ตั้งแต่ชั้นล่าง ผ่านเข้าออกส่วนพักอาศัยต้องแตะคีย์การ์ด

Lobby ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างอาคาร A และ B

ปัจจุบันใช้งานเป็นสำนักงานขายไปด้วย สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ที่ส่วนนี้ครับ

ล็อบบี้เพดานสูง Double Volume โปร่งสบาย มีแนวผนังลายไม้แบ่งเป็นช่องๆที่นอกจากเรื่องของดีไซน์แล้วยังช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วย

มุมนั่งอ่านหนังสือ

จุดนั่งเล่นโซน outdoor

สิ่งอำนวยความสะดวกหลักนั้นจะอยู่ที่ชั้นล่างทั้งหมดทั้งสระว่ายน้ำและห้องฟิตเนส

สนามเด็กเล่นพื้นปูหญ้าจริง

ทางเดินไปยังสระว่ายน้ำและห้องฟิตเนส ระหว่างทางมีสวนหย่อมและต้นไม้

พื้นที่สีเขียวรอบๆโครงการรวมแล้วกว่า 2 ไร่

ลักษณะถนนโครงการนั้นจะล้อมรอบตัวอาคารทั้งหมด สำหรับรถที่ไปส่งผู้โดยสารลงจุด Drop off จะใช้ถนนด้านหลังนี้วนไปขึ้นอาคารจอดรถ ช่วยให้การจราจรภายในค่อนข้าง flow สัญจรสะดวก

ตัวอาคารรูปแบบตัว U พื้นที่ส่วนกลางหลักอยู่ที่ด้านในโอบล้อมด้วยตัวอาคาร

กลับไปยังโซนสิ่งอำนวยความสะดวก

จุดล้างตัวก่อนใช้งานสระว่ายน้ำ

ห้องฟิตเนส

ด้านข้างห้องฟิตเนสมีห้องน้ำแยกชายหญิง

เข้ามาดูภายในห้องน้ำ วัสดุโดยรวมดูหรูหราทีเดียว

ตู้ล็อคเกอร์เก็บของ

แบ่งแยกห้องอาบน้ำกับห้องน้ำ

ห้องซาวน่า

ประตูมันล็อคครับผมเข้าไปด้านในไม่ได้ แต่เท่าที่แอบส่องดูสามารถใช้งานได้ครั้งละ 3-4 คน

ลานหน้าห้องฟิตเนสมีชายคาที่ยื่นออกมาใช้เป็นจุดนั่งเล่นริมสระน้ำ พร้อมเตียง Daybed

เข้าไปดูด้านในฟิตเนส

ห้องฟิตเนสขนาดใหญ่ พื้นปูด้วยพรมฝ้าเพดานตกแต่งด้วยลายไม้ซ่อนรางไฟ

อุปกรณ์ครบครันใช้งานได้ทั้งคาร์ดิโอหรือเพาะกาย เริ่มจากแมชชีนสร้างกล้ามเนื้อครบส่วน

ดัมเบลพร้อมเตียงยกปรับระดับ

ลู่วิ่งทั้งหมด 6 ตัว

จักรยานนั่งปั่น และเอนปั่นอย่างละ 2 ตัว

สระว่ายน้ำขนาด 32 x 10 เมตร ระบบเกลือ มีพื้นที่ส่วนตื้นสำหรับเด็ก

ตัวอาคารนั้นแยกออกจากกันโดยมีแค่พื้นที่ชั้น 1 ที่เชื่อมต่อกันคือ Lobby

::: แปลนอาคาร :::

Master Plan : ทางเข้าโครงการอยู่ติดกับถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์ ช่วงทางเข้าเป็นทางเดินรถระหว่างถนนถึงตัวอาคารลึกประมาณ 80 เมตร มีลานจอดรถอยู่ติดกับอาคาร A ในส่วนของลานจอดรถนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของอาคาร A แต่ว่าไม่มีทางเชื่อมถึงกันต้องลงลิฟต์มาที่ชั้นล่างเท่านั้นเพื่อไปยังอาคารพักอาศัย Lobby อยู่กึ่งกล่างระหว่างโถงลิฟต์อาคาร A และ B จำนวนลิฟต์มีให้ 3 ลิฟต์โดยสาร+ 1 ลิฟต์ขนของในแต่ละอาคาร สระว่ายน้ำและฟิตเนสอยู่ตรงพื้นที่ด้านในโอบล้อมด้วยตัวอาคาร

2nd Floor : อาคารพักอาศัยแบ่งแยกออกจากกันชัดเจนตั้งแต่ชั้น 2 เป็นต้นไป ไม่มีทางเชื่อมต่อถึงกัน ในส่วนของอาคาร A จะพวกแถมอาคารจอดรถมาด้วยแต่ไม่มีทางเชื่อมถึงกัน สาเหตเนื่องจากเรื่องของการรักษาดูและความปลอดภัย

3rd – 7th Floor : ตั้งแต่ชั้น 3 เป็นต้นไปจะเริ่มเป็นชั้นพักอาศัยทั้งชั้น แต่ในขณะที่อาคาร A ยังคงมีอาคารจอดรถอยู่

8th Floor : ที่ชั้น 8 จะคล้ายกับชั้น 3-7 โดยส่วนที่แตกต่างกันคือชั้นดาดฟ้าของลานจอดรถ (ชั้น 8) เป็นลานสวนหย่อมแต่การใช้งานยังคงต้องลงไปที่ชั้นล่างเพื่อเข้าถึง ไม่มีทางเชื่อมโดยตรง

9th – 25th Floor [Tower A] : ตั้งแต่ชั้น 9 เป็นต้นไปจนถึงชั้น 25 จะเป็นชั้นพักอาศัยหลักมีความหนาแน่นอยู่ที่ 31 ยูนิตต่อชั้น โถงบันไดหนีไฟกระจายให้ให้ 3 จุด

9th – 25th Floor [Tower B] : แปลนเหมือนกับอาคาร A ในส่วนของความหนาแน่นจำนวนยูนิตก็เท่ากันที่ 31 ห้องต่อชั้น แค่สลับด้านกันแบบ mirror เท่านั้น

::: แปลนห้อง :::

แบบห้องภายในโครงการมีทั้งหมด 4 แบบได้แก่

• One Bedroom Type A ขนาด 24.50 ตร.ม.
• One Bedroom Type B1 ขนาด 30.00 ตร.ม.
• One Bedroom Type B2 ขนาด 30.00 ตร.ม.
• Two Bedroom Type C ขนาด 45.50 ตร.ม.

One Bedroom Type A ขนาด 24.50 ตร.ม.

One Bedroom Type B1 ขนาด 30.00 ตร.ม.

One Bedroom Type B2 ขนาด 30.00 ตร.ม.

Two Bedroom Type C ขนาด 45.50 ตร.ม.

::: ห้องตัวอย่าง :::

ห้องตัวอย่างที่ผมจะพาไปชมในวันนี้มีทั้งหมด 3 ห้องด้วยกันได้แก่ 1 ห้องนอน Type A, B1 และ 2 ห้องนอน Type C โดยห้องตัวอย่างนั้นจะอยู่ที่ชั้น 8 ของอาคาร A ทั้งหมด ทางโครงการขายแบบ Fully Fitted อุปกรณ์พื้นฐานที่มีให้ได้แก่ เคาน์เตอร์ครัว, ตู้เสื้อผ้า, ชุดสุขภัณฑ์ และเครื่องปรับอากาศ

ผมขอเริ่มจากห้องขนาดเล็กสุดคือ 1 ห้องนอน Type A ขนาด 24.50 ตร.ม. ดูจากแปลนห้องเปิดประตูเข้าไปเจอกับโซนนั่งเล่นที่กันส่วนกับห้องนอนด้วยฉากบานเลื่อนกระจกใส ทำให้หน้าต่างห้องนอนสามารถพาแสงเข้ามายังห้องนั่งเล่นได้ อีกด้านเป็น Pantry ครัวและห้องทานข้าว ด้านนอกเป็นระเบียง ด้านในเป็นห้องน้ำแยกส่วนแห้งส่วนเปียก

ประตูห้องปิดผิวด้วยลามิเนต

มือจับแบบก้านโยก

เปิดประตูเข้ามาส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่น ด้านในเป็นห้องนอนที่แบ่งส่วนด้วยฉากกระจกบานเลื่อน ส่วนทางขวาเป็นทางเข้าครัวและห้องน้ำ พื้นห้องปูด้วยลามิเนตขนาด 8 มม. ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร

ไฟในห้องใช้แบบโคมสี่เหลี่ยม

โฟกัสไปยังส่วนของพื้นที่ห้องนั่งเล่น ที่อยู่ติดกับประตูทางเข้าห้อง แบ่งผนังด้านนึงวางโซฟาและอีกด้านเป็นชั้นวางทีวี

มุมวางโซฟาถ้าวางขนาด 2 ที่นั่งจะพอเหลือพื้นที่ด้านข้างวางโคมไฟ หรืออาจจะวางชิดกำแพงทางด้านซ้ายไปเลยเพื่อที่ด้านขวาจะได้จัดเป็นมุมทำงานหรือเขียนหนังสือแทนก็ได้

ชั้นวางทีวีกว้างประมาณ 1 เมตรวางทีวีขนาด 32-40 นิ้วกำลังดี เพิ่มชั้นวางของด้านบนให้เก็บของได้อีกหน่อย

มองไปกลางห้องดูทางเดินไปยังห้องนอนและห้องครัว

ห้องนอนแยกเป็นสัดส่วนด้วยฉากบานเลื่อนกระจกกรอบอลูมิเนียม แสงสว่างจากห้องนอนสามารถส่งผ่านเข้าถึงตัวห้องนั่งเล่นได้

ห้องนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุตให้ดูเป็นตัวอย่างโดยวางเตียงชิดกำแพงทำให้เหลือพื้นที่ทางเดินกว้างด้านข้างหัวเตียงสามารถทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้เลย แต่ข้อเสียของการวางเตียงชิดกำแพงคือจะไม่เหลือทางเดินฝั่งหน้าต่างสำหรับเปิดปิดหน้าต่างหรือผ้าม่าน รวมถึงการจัดเตียงก็จะทำได้ไม่สะดวกเช่นกัน

กรณีที่วางเตียง 5 ฟุตชิดกำแพงจะเหลือทางเดินด้านนี้ประมาณ 60 ซม.

หน้าต่างกรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ

สามารถเปิดได้เพียงช่องเดียวที่ช่องบานกระทุ้ง

มองไปทางด้านปลายเตียง

ทางเดินปลายเตียงเหลืออยู่ประมาณ 1 ฟุต มีช่องเสียบเสาอากาศทีวีแต่ถ้าติดตั้งทีวีต้องใช้เป็นแบบแขวนผนังแทน เพราะพื้นที่ไม่พอสำหรับชั้นวางทีวีแน่ๆ

ตู้เสื้อผ้าบิลท์อินให้พร้อม รูปแบบประตูบานเลื่อน

เข้าไปดูส่วนของ Pantry ครัวกันต่อครับ ทางด้านขวานั้นเป็นห้องน้ำจะเห็นว่ามุมของผนังห้องน้ำจะถูกลบเหลี่ยมเพื่อให้ทางเดินตรงนี้ดูกว้างขึ้นเดินผ่านได้สะดวก

ห้องครัวใช้งาน 2 ฟังก์ชั่นคือวาง Pantry ครัวสำหรับเตรียมอาหารและมุมทานอาหาร

เว้นช่องสำหรับวางตู้เย็น ใช้ขนาดใหญ่กว่า 7 คิวขึ้นไปได้สบาย แต่ก่อนซื้ออย่าลืมวัดขนาดให้ชัวร์นะครับ

เคาน์เตอร์ชุดนี้ทางโครงการมีให้ทั้งชิ้นบนและล่าง

เคาน์เตอร์ครัวท็อปไม้ ซิงค์ล้างจาน Teka ด้านหลังกรุกระเบื้องกันเปื้อนสีขาว

เคาน์เตอร์ด้านบน

ช่องเคาน์เตอร์ด้านบนเว้นสำหรับติดตั้งฮูดดูดควัน

มุมทานข้าวสำหรับ 2 ที่นั่ง

หากทานข้าวพร้อมกัน 2 คน นึกถึงการใช้งานจริงอาจจะมีศอกชนกันบ้างแต่ก็ดูอบอุ่นดีนะ

ด้านนอกเป็นระเบียงห้อง

ประตูระเบียงบานเลื่อนอลูมิเนียม วางบนธรณียกสูงประมาณ 10 ซม.

พื้นที่ระเบียง 1.5 x 0.9 เมตร มีก๊อกน้ำพร้อมใช้

คอมแอร์แขวนไว้ด้านบน มีระแนงบังสายตาให้ภาพรวมตัวอาคารดูเรียบร้อยขึ้น

กลับหลังหันจากระเบียง เข้าไปดูวัสดุในห้องน้ำกัน

ทางเข้าห้องน้ำก่อธรณียกสูงเล็กน้อย

ห้องน้ำส่วนแห้ง

ด้านหลังมีแนวบ่าของกำแพงแต่ไม่ค่อยลึกพอวางของได้เล็กน้อย

อ่างล้างหน้าทรงเหลี่ยมของ Cotto

โถสุขภัณฑ์ Cotto

หัวสายฉีดชำระ

ไฟห้องน้ำใช้แบบดาวน์ไลท์ มีพัดลมดูดอากาศ

พื้นที่อาบน้ำแยกส่วนเปียกชัดเจนด้วยฉากบานเลื่อนสำเร็จรูป

ฝักบัวสายอ่อนของ Prema เพิ่มชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำให้ด้วยซึ่งอย่างที่เราทราบกันดีว่าโครงการส่วนใหญ่ให้แค่ที่วางสบู่สำหรับก้อนเดียวซึ่งมันไม่พอในชีวิตจริง ทางโครงการเลยจัดชั้นวาง 2 ชั้นให้เลยของ Bathero

ฝักบัวปรับรูปแบบน้ำไหลได้

ห้องต่อไปที่ผมจะพาไปชมคือห้อง Type B1 ยังคงเป็นขนาด 1 ห้องนอนอยู่แต่ขนาดเพิ่มเป็น 30.00 ตร.ม. จุดแต่งต่างที่เห็นได้ชัดจากห้องเมื่อสักครู่นี้คือห้องครัวที่ให้มาเป็นห้องครัวปิดด้วยฉากบานเลื่อน และห้องนอนมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าเดิมเพราะเข้าผ่านประตูห้อง ไม่ได้เป็นฉากบานเลื่อน ห้องน้ำเข้าออกจากด้านในห้องนอน

ผ่านประตูเข้ามาด้านในพื้นที่ส่วนแรกคือห้องนั่งเล่น พื้นปูลามิเนต 8 มม. และเพดานสูง 2.5 เมตร

ด้านในเป็นห้องครัวปิดและห้องนอน

มองย้อนกลับไปยังประตูทางเข้า

ผนังฝั่งชั้นวางทีวีความกว้างประมาณ 1 เมตร ถูกจำกัดของขนาดทีวีเนื่องจากด้านซ้ายเป็นตู้เก็บรองเท้าและทางขวาคือประตูห้องนอน

ตู้เก็บรองเท้าบิลท์อินให้ตามแบบ

มุมวางโซฟาพื้นที่กว้างพอสมควร จะเพิ่มขนาดให้ยาวกว่านี้ก็ได้หรือจะเพิ่มเป็นมุมโต๊ะทำงานก็ดีแทนที่ของโคมไฟด้านข้าง

ห้องครัวนี้ทางโครงการให้เป็นครัวปิด โดยแบ่งพื้นที่ด้วยฉากบานเลื่อนกระจกกรอบอลูมิเนียม เพื่อที่แสงจากระเบียงยังสามารถส่งไปถึงตัวห้องนั่งเล่นได้

พื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องเซรามิคที่มีความทนทานต่อความชื้นได้ดีกว่าพื้นลามิเนต

ห้่องครัวใช้งานเป็นทั้งส่วนเตรียมอาหารและมุมทานข้าว

มุมทานข้าวพื้นที่สำหรับวางโต๊ะและเก้าอี้ 2 ที่นั่งหันหน้าเข้าหากำแพง

เคาน์เตอร์ครัววางอยู่มุมด้านนอกติดกับระเบียง เว้นช่องด้านในสำหรับวางตู้เย็น

ระเบียงกว้าง 1.5 x 0.9 เมตร

เข้าไปดูในห้องนอนกันต่อครับ สำหรับห้อง Type B1 ห้องนอนมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเพราะไม่ได้แบ่งส่วนด้วยฉากกระจกแล้ว แต่มีประตูเข้าออกแยกเป็นห้องนอนโดยเฉพาะ

ภาพรวมภายในห้องนอน

วางเตียงขนาด 5 ฟุต

ผนังบริเวณด้านข้างหัวเตียงเหลือแนวยาวเยอะพอสมควร จะแบ่งทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง, โต๊ะทำงานหรือมุมงานอดิเรก

ทางด้านปลายเตียงมีตู้เสื้อผ้าบิลท์อิน

ช่องทางเดินปลายเตียงเหลือประมาณ 1 ฟุต ไม่พอสำหรับชั้นวางทีวี ต้องใช้แบบแขวนผนังเท่านั้น

ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อนไม้

ทางเดินข้างเตียงฝั่งหน้าต่างเหลือประมาณ 1 ฟุต เดินจัดเตียงเปิดปิดผ้าม่านสะดวก

หน้าต่างบานใหญ่รับแสงเข้ามายังห้องนอนได้มาก

เปิดรับลมถ่ายเทอากาศได้เพียงบานเดียวแบบบานกระทุ้ง

สวนตรงจุดนี้เป็นสวนที่อยู่ชั้นดาดฟ้าของอาคารจอดรถ

ขนาดกว้างที่เดียวพื้นปูหญ้าจริง แต่ขาดเรื่องความเป็นส่วนตัวไปหน่อยเพราะอยู่ติดกับส่วนที่เป็นห้องพักอาศัยของอาคาร A ชั้น 8 แต่ไม่ต้องกลัวว่าด้านล่างจะปีนขึ้นห้องมาได้นะครับ ระดับความสูงต่างกันพอสมควร

มองย้อนกลับเข้าไปด้านใน เห็นทางเข้าห้องน้ำที่ต้องเข้าจากห้องนอน

พื้นห้องน้ำยกสูงเล็กน้อย พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค

ผ่านประตูเข้ามาทางซ้ายเป็นอ่างล้างหน้า Cotto

ทางขวาวางโถสุขภัณฑ์ Cotto

ภาพรวมพื้นที่ห้องน้ำ ให้ดูความห่างระหว่างโถสุขภัณฑ์กับอ่างล้างหน้า

ด้านในเป็นพื้นที่ส่วนเปียกที่กั้นด้วยฉากบานเลื่อนสำเร็จรูป

มีฝักบัวและที่วางสบู่ให้

กลับออกมาที่โถงทางเดินเพื่อไปชมห้องแบบ 2 ห้องนอนกันต่อครับ

สุดท้ายเป็นแบบ 2 ห้องนอน Type C ขนาด 45.50 ตร.ม. เปิดประตูห้องเข้ามาอยู่ที่บริเวณโถงกลางใช้งานเป็นห้องนั่งเล่นกับโซนทานข้าว ระเบียงเข้าออกผ่านทางห้องนั่งเล่น ด้านขวาเป็นห้องนอนหลักและห้องน้ำที่สามารถเข้าออกได้จากห้องนอนและโถง อีกด้านของห้องเป็นครัวปิดและห้องนอนรอง

มองผ่านประตูเข้าไปด้านในห้อง

ส่วนแรกเจอกับห้องโถงใหญ่ที่จัดวางเป็นมุมทานข้าวและห้องนั่งเล่น พื้นปูด้วยลามิเนต 8 มม. เพดานสูง 2.5 เมตร และโคมไฟแบบดวงเหลี่ยม

มองย้อนกลับไปยังทางเข้าห้อง จะเห็นว่างทางเข้าห้องน้ำอยู่ใกล้กับประตูทางเข้า

ด้านข้างบิลท์เป็นชั้นวางรองเท้าให้ดูเป็นตัวอย่าง

โต๊ะทานข้าววางอยู่หน้าห้องครัว

โต๊ะทานข้าวขนาดสำหรับ 4 ที่นั่ง

ห้องครัวปิด ประตูฉากบานเลื่อนอลูมิเนียม

พื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องเซรามิค

แบ่งส่วนใช้งานโดยด้านนึงวางเครื่องซักผ้าและตู้เย็น

อีดด้านเป็นแนวเคาน์เตอร์ครัวบนล่าง

เคาน์เตอร์ด้านบนเว้นช่องสำหรับติดตั้งเครื่องดูดควัน

สำหรับห้องแบบ 2 ห้องนอนนั้นจะมีตำแหน่งอยู่ที่มุมของอาคาร จึงมีหน้าต่างเพิ่มเข้ามาหลายจุดรวมถึงห้องครัวด้วย สามารถเปิดให้อากาศถ่ายเทได้ช่วยลดกลิ่นอาหารภายในครัวได้เป็นอย่างดี

ย้อนกลับมาดูห้องน้ำที่อยู่ข้างๆประตูทางเข้าห้อง

ภาพรวมวัสดุในห้องน้ำเหมือนกับห้องอื่นๆที่เราได้ชมกันไปแล้ว

สุขภัณฑ์ของ Cotto

ฉากอาบน้ำบานเลื่อน

พื้นที่อาบน้ำขนาด 1.5 x 1.0 เมตร

นอกจากฝักบัวและชั้นวางของแล้ว เพิ่มเติมช่องวางอุปกรณ์ที่ตัวกำแพงอีกหนึ่งจุด

สำหรับห้องน้ำนี้มีความพิเศษตรงที่เป็นฟงัก์ชั่นเข้าออกได้จาก 2 ทางคือทางห้องโถงนั่งเล่นและห้องนอนหลัก

กลับมาที่ห้องโถงอีกครั้ง เพื่อขยับเข้าไปชมด้านในส่วนของมุมนั่งเล่น

ห้องนั่งเล่นระยะดูทีวีประมาณ 3 เมตร ด้านนอกเป็นระเบียง

ชั้นวางทีวีฝั่งตรงข้ามโซฟา ติดตั้งทีวี 32-40 นิ้ว ใหญ่กว่านี้อาจจะล้นขอมไปขวางทางเข้าออกห้องนอนรอง

ขนาดระเบียง 3.3 x 1.2 เมตร

คอมแอร์แขวนด้านบน มีระแนงเหล็กบังสายตา

อีกด้านของระเบียงติดโคมไฟระเบียง

ห้องนอนรองวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตชิดกำแพง

เหลือพื้นที่ใช้งานกลางห้องประมาณนี้

อีกด้านบิลท์อินตู้เสื้อผ้าให้

ช่องด้านข้างเว้นเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง

มองไปยังปลายเตียง ติดตั้งทีวีแบบแขวนผนัง

หน้าต่างห้องนอนรองทรงสูงเปิดได้ 1 บานที่บานกระทุ้งเหมือนกับบานอื่นๆ

ข้ามฝั่งไปดูห้องนอนหลัก

ภาพรวมภายในห้องนอนหลัก

แบ่งพื้นที่บริเวณหน้าห้องน้ำบิลท์ตู้เสื้อผ้าโต๊ะเครื่องแป้งใช้งานเป็น closet

ห้องน้ำเข้าออกจากทางห้องนอนหลักนี้ก็ได้

แนวผนังฝั่งปลายเตียง ถ้าชอบดูทีวีต้องใช้แบบแขวนเหมือนในภาพครับ

ปลายเตียงฝั่งหน้าต่างเหลือประมาณ 1 ฟุต ให้เดินเข้าออกจัดเตียง เปิดปิดม่านสะดวก

หน้าต่างห้องนอนหลักเปิดปิดได้ 1 บานที่บานกระทุ้งเช่นกัน

มองย้อนกลับเข้าไปยังฝั่งทางเข้าห้องนอนหลัก

---

::: ราคา ::: (ก.ย. 2559)

1 Bedroom Type A ขนาด 24.50 ตร.ม. : ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท

เงินจอง 10,000 บาท

ค่าส่วนกลาง 40 บาท/เดือน/ตร.ม (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)
ค่ากองทุน 350 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

---

::: บทสรุปโครงการ :::

ทำเลที่ตั้งโครงการ – Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์ ช่วงใกล้ระหว่างสะพานพระนั่งเกล้ากับแยกแคราย โดยอยู่ใกล้แยกแครายในระยะแค่ 1.2 กม. มีจุดเด่นเรื่องคมนาคมที่มีรถไฟฟ้าผ่านหน้าบ้านและไม่ไกลจากจุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัช ทำเลดังกล่าวมีความเจริญขึ้นมากโดยเฉพาะรถไฟฟ้าที่เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ

– ความอุดมสมบูรณ์ ในระยะที่พอเดินเท้าด้วยไม่ค่อยมีให้เห็น จากเท่าที่สำรวจเห็นจะมีร้านอ้าต้มเลือดหมูเพียงร้านเดียวที่อยู่ในระยะเดินเท้าสะดวก แต่ให้กินทุกวันก็คงไม่ไหว จุดที่น่าสนใจที่ใกล้ที่สุดคือห้างบิ๊กซีที่อยู่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบางกระสอ ระยะห่างประมาณ 500 เมตร ถ้าขยันหน่อยก็เดินไหวได้เหงื่อนิดหน่อย หากมองในภาพที่กว้างขึ้นเส้นรัตนาธิเบศร์-งามวงศ์วานมีห้างอยู่ค่อนข้างหลากหลายที่นอกจากบิ๊กซีแล้วยังมี Tesco Lotus, เอสพลานาด, เดอะมอลล์, พันธ์ทิพย์ และเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – ถนนรัตนาธิเบศร์ด้านหน้าโครงการเป็นถนนเส้นสำคัญในตัวเมืองโซนนนทบุรีเพราะมีจุดตัดที่สำคัญโดยเฉพาะแยกแคราย ที่จะเป็นจุดศูนย์กลางในการกระจายไปยังสถานที่ต่างๆเช่นไปงามวงศ์วานสามารถเดินทางต่อไปยังเส้นประชาชื่น, วิภาวดีรังสิต และจุดขึ้นลงทางด่วนงามวงศ์วานตัวช่วยสำคัญในการเข้าเมือง ถนนติวานนท์เองใช้งานในกรณีที่ต้องการไปย่านปากเกร็ด-แจ้งวัฒนะ แต่ปัจจัยที่ต้องนำมาคิดด้วยคือเรื่องการจราจรที่แยกแครายค่อนข้างหนักหนาเอาเรื่องทีเดียว ยังดีที่ซอกซอยในพื้นที่ดังกล่าวพอจะใช้ลัดเลี่ยงรถติดได้โดยเฉพาะซอยเรวดีนั้นสามารถช่วยได้เยอะ ส่วนการข้ามฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยามีสะพานพระนั่งเกล้าข้ามฝั่งไปยังถนนราชพฤกษ์และโซนบางใหญ่เส้นกาญจนาภิเษกหน้าห้างเซ็นทรัลเวสต์เกต หรือสะพานใหม่แกะกล่องอย่างสะพานเจษฎาบดินทร์ฯก็ใช้ข้ามฝั่งไปยังเส้นราชพฤกษ์ได้เช่นกัน

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – ด้านหน้าโครงการมีทางเลือกการคมนาคมด้วยรถสาธารณะครบทุกรูปแบบทั้งรถประจำทาง, รถแท๊กซ๊่และรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างและที่สำคัญคือรถไฟฟ้า ปัจจุบันเปิดให้ใช้งานแล้วสำหรับสายสีม่วงช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ส่วนในอนาคตประมาณปี 2563 จะมีเปิดให้ใช้งานอีก 1 สายคือสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี ตัวสถานีอยู่ห่างจากโครงการเพียง 250 เมตรสำหรับสถานีบางกระสอ และ 300 เมตรสำหรับสถานีศูนย์ราชการนนทบุรีซึ่งเป็นจุด Interchange ระหว่างสายสีม่วงและชมพู

การออกแบบโครงการและวัสดุ – Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 เป็นคอนโด High-Rise สูง 25 ชั้น จำนวน 1,429 ยูนิต บนพื้นที่ 10 – 1 – 91.80 ไร่ จำนวน 2 อาคาร แยกอาคารจอดรถ 8 ชั้น ห้องพักอาศัยขนาดเริ่มต้นที่ 24.50 ตร.ม. จนถึง 30 ตร.ม. สำหรับแบบ 1 ห้องนอน ส่วนห้องแบบ 2 ห้องนอนนั้นมีขนาดอยู่ที่ 45 ตร.ม.

– ห้องพักอาศัยออกแบบ Layout ได้อย่างลงตัวฟังก์ชั่นครบในทุกแบบห้อง ห้องขนาดเริ่มต้น 24.50 ตร.ม.แบ่งแยกห้องนั่งเล่นกับห้องนอนด้วยฉากบานเลื่อนครัวแบบเปิด แต่ถ้าขยับเป็นแบบ 30 ตร.ม. ห้องนอนจะมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น รวมถึงห้องครัวที่จะเพิ่มฉากบานเลื่อนทำเป็นครัวปิดให้ ส่วนห้องแบบ 2 ห้องนอนนอกจากครัวปิดแล้วจะเพิ่มฟังก์ชั่นห้องน้ำให้สามารถเข้าออกได้ 2 ทางเสมือนว่าห้องนอนหลักมีห้องน้ำในตัว

– วัสดุที่ทางโครงการให้มาอยู่ในเกรดปานกลางเริ่มจากพื้นห้องปูลามิเนต 8 มม., พื้นห้องน้ำ,ห้องครัว และระเบียงกระเบื้องเซรามิค, ผนังฉาบเรียบทาสีขาว เพดานสูง 2.5 เมตร, บานเลื่อนประตูห้องครัวประตูระเบียงและหน้าต่างอลูมิเนียมสีธรรมชาติ, เคาน์เตอร์ครัวท็อปไม้ ซิงค์ Teka ไม่มีเตาและฮูดให้ แต่เคาน์เตอร์ด้านบนเว้นช่องไว้สำหรับติดตั้งได้เลย หลังเคาน์เตอร์กรุกระเบื้องกันเบื้อน, ห้องน้ำใช้สุขภัณฑ์ของ Cotto และ Prema ฉากอาบน้ำสำเร็จรูป โดยปกติแล้วทางโครงการขายแบบ Fully Fitted มีให้แค่ตู้เสื้อผ้า, เคาน์เตอร์ครัวและชุดสุขภัณฑ์

สิ่งอำนวยความสะดวก – ส่วนกลางเน้นพื้นที่สีเขียวด้วยสวนสาธารณะสไตล์ Chic of Wood ขนาดเกือบ 2 ไร่ ถนนรอบอาคารแยกเลนจักรยานและลู่วิ่งจ๊อกกิ้ง วิ่งอำนวยความสะดวกหลักจะอยู่ที่ชั้น 1 ได้แก่สระว่ายน้ำขนาด 32 x 10 เมตรระบบเกลือ, ห้องฟิตเนส, ห้องล็อบบี้, ห้องซาวน่า, สนามเด็กเล่น และสนามฟุตบอล อาคารจอดรถสามารถจอดได้ประมาณ 40% รวมซ้อนคันแล้ว ลิฟต์แบ่งออกเป็น 2 อาคารอาคารละ 3 ลิฟต์โยสาร + 1 ลิฟต์ขนของ ส่วนลานจอดรถที่สูง 8 ชั้นแยกโถงลิฟต์ต่างหากอีก 2 ตัว ระบบรักษาความปลอดภัยมีไม้กระดกกั้นแตะคีย์การ์ดเพื่อเปิดรวมถึงการผ่านเข้าออกส่วนกลางต้องใช้คีย์การ์ด เจ้าหน้าที่รปภ. ประจำอยู่รอบอาคารตลอด 24 ชม.

---

::: คะแนน :::

ทำเลที่ตั้งโครงการ	7.5	ทำเลใจกลางเมืองนนท์ คมนาคมสะดวก
การเดินทาง ใช้รถ	7.5	ใกล้แยกแครายและทางด่วนศรีรัชด่านงามวงศ์วาน แต่การจราจรค่อนข้างหนาแน่น
การเดินทาง ไม่ใช้รถ	8.5	หารถสาธารณะได้ง่ายที่หน้าโครงการ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสองสายทั้งสายสีชมพูและสายสีม่วง ระยะห่างสถานี 250-300 เมตร
ห้องและวัสดุ	7.5	แบบห้องฟังก์ชั่นครบ วัสดุเกรดมาตรฐาน
สิ่งอำนวยความสะดวก	8.0	ให้มาครบครันทั้งสระว่ายน้ำ,ฟิตเนส,ซาวน่า เน้นพื้นที่สีเขียวเกือบ 4 ไร่
ความคุ้มค่ากับราคา	8.0	ราคาเริ่มประมาณ 60,000 บาท/ตร.ม. ได้ทำเลเกาะแนวรถไฟฟ้า ใช้รถส่วนตัวสะดวก ใกล้ห้างสรรพสินค้า
คะแนนรวมเฉลี่ย	7.83	ดี

 

---

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

Tel. 08-591-6560 หรือ 1623

Website : http://www.apthai.com/%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%94/aspire/aspire-rattanathibet-2/#concept

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ