มีแบบห้องให้เลือกหลากหลาย ทั้ง 1 Bedroom ขนาด 26.25 – 40.75 ตร.ม., 2 Bedrooms ขนาด 51.50 – 67.00 ตร.ม. และ 3 Bedrooms : 79.00 – 111.50 ตร.ม. ขายแบบ Fully Fitted ความสูงฝ้าเพดาน 2.7 ม.โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่
ระบบรักษาความปลอดภัย Face Scan, Access Card Control, CCTV พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ในราคาเริ่มต้น 4.29 ล้านบาท
คอนโด The Line ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
The Line สาทร
The Line ราชเทวี
The Line พหล-ประดิพัทธ์
The Line พหลโยธิน พาร์ค
The Line จตุจักร-หมอชิต
The Line พระราม 9
The Line อโศก-รัชดา
The Line สุขุมวิท 71
The Line สุขุมวิท 101
The Line วงศ์สว่าง
ชื่อโครงการ
เดอะ ไลน์ พหลฯ-ประดิพัทธ์ THE LINE Phahol-Pradipat
เจ้าของโครงการ
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
เนื้อที่ทั้งหมด
ประมาณ 5 ไร่
จำนวนตึก
อาคารพักอาศัย 1 อาคาร, อาคาร Club House สูง 2 ชั้น 1 อาคาร
จำนวนชั้น
46 ชั้น
จำนวนห้อง
981 + 1 ยูนิตร้านค้า
ลักษณะห้องและขนาดห้อง
1 Bedroom : 26.25 – 40.75 ตร.ม.
2 Bedrooms : 51.50 – 67.00 ตร.ม.
3 Bedrooms : 79.00 – 111.50 ตร.ม.
ที่จอดรถทั้งหมด
50% รวมจอดซ้อนคัน
จำนวนลิฟท์
6 ตัว
โซน
ประดิพัทธ์, สะพานควาย
ขนส่งสาธารณะ
รถไฟฟ้า BTS สะพานควาย 550 เมตร
ใกล้ทางด่วน
รถโดยสารที่ผ่าน
รถเมล์สาย 3, 9, 97, 117
ที่ตั้ง
ซอยประดิพัทธ์ 21 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.
กำหนดการ
สร้างเสร็จพร้อมอยู่
ปีที่สร้างเสร็จ
สร้างเสร็จพร้อมอยู่
ราคา
เริ่มต้น 4.29 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม
ประมาณ 155,000 บาท/ ตร.ม.
ค่าส่วนกลางและกองทุน
ค่าส่วนกลาง 52 บาท/ตร.ม./เดือน (ตั้งแต่ปี 2565)
ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
ตลาดและห้างสรรพสินค้า
Aqua 400 ม.
Big C สะพานควาย 450 ม.
Tesco Lotus Express 600 ม.
La Villa Aree 1.4 กม.
JJ Mall 2 กม.
ตลาดนัดจตุจักร 2 กม.
Union Mall 3.3 กม.
Central ลาดพร้าว 3.7 กม.
สถานพยาบาล
รพ.เปาโล เมโมเรียล 550 ม.
รพ.ประสานมิตร 850 ม.
รพ.พญาไท 2 2.6 กม.
อื่นๆ
สวนจตุจักร 2 กม.
สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ 2.4 กม.
สวนวชิรเบญจทัศ 3.6 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก
Lobby
Mailbox
สระว่ายน้ำ
สระว่ายน้ำเด็ก
Stream & Sauna
Jacuzzi
Lap Pool
ห้องออกกำลังกาย
สวนพักผ่อน
Co-Kitchen
Co-Working Space
Outdoor Dining
Kid’s Yard
Game Room
Access Card Control
CCTV
ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
จุดเด่นของโครงการ
The Line พหลฯ-ประดิพัทธ์ คอนโดใหม่ อบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน บนทำเลศักยภาพ เดินทางสะดวกสบาย ใกล้ทางด่วน และ รถไฟฟ้า BTS สะพานควาย 550 เมตร เพียง 1 สถานี ถึง MRT จตุจักร ให้คุณเข้าถึงใจกลางเมืองได้รวดเร็ว พร้อมพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ครบ จัดเต็ม กว่าใคร เริ่ม 4.29 ล้านบาท*
คอนโด BTS สะพานควาย / คอนโดติดรถไฟฟ้า BTS สะพานควาย
คอนโดโดยรอบ BTS สะพานควาย
ที่ตั้งโครงการ
ซอยประดิพัทธ์ 21 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.
พิกัด : 13.790541, 100.546102
โครงการ The Line พหลฯ – ประดิพัทธ์ ตั้งอยู่บนถนนประดิพัทธ์ฝั่งมุ่งหน้าแยกสะพานควายระหว่างซอย 19-21 สภาพแวดล้อมโดยรวมคึกคักเพราะเป็นย่านชุมชนเก่า จุดเด่นของโครงการนอกจากจะตั้งอยู่ติดถนนใหญ่แล้วยังสร้างขึ้นมาตามรถไฟฟ้าสะพานควาย โดยมีระยะทางจากตัวสถานีถึงโครงการประมาณ 550 เมตร ซึ่งเกินระยะเดินสบายไปหน่อยแต่ก็ยังพอเดินได้เพราะตลอดทางจะเป็นฟุตบาทที่เดินค่อนข้างสะดวก แต่อาจจะมีคนเดินเยอะในช่วงเช้าและเย็น ประกอบกับริมฟุตบาทจะมีร้านอาหารมาตั้งขายเป็นวงกว้างจึงอาจจะเร่งฝีเท้าได้ไม่เท่าไหร่นะคะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ เป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุดสำหรับโครงการนี้ และแน่นอนเส้นทางที่สะดวกที่สุดคือการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ BTS สะพานควาย มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 550 เมตร เกินระยะเดินสบายไปหน่อยแต่ก็ยังเดินได้อยู่ และสามารถนั่งไปเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าใต้ดินได้ที่ BTS สถานีหมอชิต 1 สถานีจาก BTS สะพานควาย
นอกจาก BTS แล้วก็สามารถเรียก Taxi ที่หน้าโครงการได้ มีวิ่งผ่านไปมาตลอดค่ะ หรือถ้าจะไปใกล้ๆ ก็มีคิวพี่วินอยู่บริเวณจ้นซอยประดิพัทธ์ 21 (เดินจากโครงการไปไม่ถึง 100 เมตร) นอกจากนั้นยังมีป้ายรถเมล์ที่อยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 65 เมตร โดยจะมีรถเมล์สาย 3, 9, 97, 117 ค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ก็สะดวกค่ะ เนื่องจากตัวโครงการเกาะอยู่กับถนนประดิพัทธ์ ที่สามารถใช้วิ่งยาวไปเชื่อมกับถนนทหารและถนนสามเสน สามารถใช้ลัดไปถนนราชวิถีเพื่อไปฝั่งธนฯได้โดยไม่ต้องรถติดแถวสวนสัตว์ดุสิตหรืออนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิค่ะ นอกจากนั้นถนนประดิพัทธ์จะยังใช้ไปถนนพระราม 6 , ถนนเทอดดำริ, ถนนพระราม 5 ที่สามารถใช้เชื่อมไปถนนประชาชื่นใช้วิ่งยาวผ่านรัชดาภิเษกไปจนถึงแจ้งวัฒนะ หลักสี่ได้ค่ะ และถ้าดูจาก Map แล้วจะเห็นว่ามีถนนเส้นหลักๆอีก 2 เส้นที่สามารถใช้เดินทางได้คือ
ถนนพหลโยธิน สามารถใช้ขึ้นไปทางทิศเหนือไป หลักสี่ ดอนเมือง ยาวไปจนถึงรังสิต หรือใช้เส้นพหลลงทางทิศใต้ก็จะสามารถวิ่งตรงไปอนุสาวรีย์ เชื่อมกับพญาไทได้ค่ะ นอกจากเส้นพหลที่วิ่งขึ้นเหนือลงใต้โดยตรงแล้วยังมีถนนอีก 2 เส้นหลักๆที่อยู่ใกล้โครงการและสามารถใช้ได้สะดวกค่ะ คือ ถนนประดิพัทธ์ และถนนสุทธิสารวินิจฉัย
ถนนสุทธิสารวินิจฉัย สามารถใช้วิ่งไปเชื่อมกับถนนวิภาวดีรังสิต, รัชดาภิเษก และลาดพร้าวได้(ลาดพร้าว 64) แต่รถเส้นนี้จะติดหน่อยและการใช้ถนนจะแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา เช่น ช่วงเช้า – กลางวัน รถจะสามารถวิ่งขาออกไปเส้นวิภาวดีได้ 2 เลน พอเป็นช่วงค่ำๆก็จะสลับเป็นวิ่งเข้าเส้นพหลได้ 2 เลน เป็นต้นค่ะ
ถนนพระราม 6 สามารถใช้วิ่งไปพระราม 4, หัวลำโพง หรือวิ่งขึ้นทางเหนือไปบางเขนได้ค่ะ
ส่วนทางด่วนรอบๆ มีให้เลือกใช้ใกล้ๆ 2 เส้น คือทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ และทางด่วนศรีรัช โดยจุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นจุดขึ้นทางด่วนศรีรัชฝั่งขึ้นไปทางทิศเหนือ สามารถใช้วิ่งไปบางเขน, ปากเกร็ดได้ โดยจุดขึ้นทางด่วนนี้จะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 2.6 กม. ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีค่ะ
และจุดขึ้นทางด่วนศรีรัชฝั่งมุ่งหน้าลงทิศใต้ ที่ใช้วิ่งเข้าผ่านเมืองช่วงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ลงไปถึงเจริญราษฎร์และใช้เชื่อมกับทางด่วนเฉลิมมหานครใช้วิ่งไปพระราม 2 , พระโขนงได้ โดยจุดขึ้นทางด่วนนี้จะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 2.3 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 – 15 นาทีค่ะ
ส่วนจุดขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทล์เวย์ ฝั่งลงทิศใต้ที่ใช้วิ่งลงมาเข้าราชเทวีได้ จะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 4 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 – 20 นาทีค่ะ
จุดขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ฝั่งมุ่งหน้าขึ้นทางเหนือ สามารถใช้วิ่งไปดอนเมือง, รังสิตได้ โดยจุดขึ้นทางด่วนนี้จะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 3.3 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 – 15 นาที
ถนนและแยกที่สำคัญรอบๆโครงการ
ถนนประดิพัทธ์ 30 ม.
ถนนพหลโยธิน 250 ม.
แยกสะพานควาย 220 ม.
ถนนสุทธิสาร 300 ม.
แยกสะพานสุทธิสาร 1.7 กม.
คาแร็คเตอร์ที่เด่นๆของย่านนี้ที่เราจะเห็นว่าค่อนข้างแปลกกว่าทำเลในเมืองย่านอื่นๆ คือแถวนี้จะเป็นถิ่นของร้านเก่าๆ โดยเฉพาะร้านพระเครื่องจะไม่ได้มีเฉพาะพระเครื่องเท่านั้น แต่พวกของเก่าอย่างเหรียญ นิตยสารเก่าๆ หรือเครื่องประดับเก่าๆ ก็มีมาวางขายเป็นในลักษณะของการตั้งร้านริมฟุตบาท มีทุกวันตั้งแต่เช้าถึงเย็น
ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการ ค่อนข้างสูง หน้าโครงการจะมีร้านอาหารให้เลือกเยอะทั้งในเวลากลางวันและกลางคือ โดยบริเวณหน้าโครงการที่เป็นเส้นประดิพัทธ์ช่วงแยกสะพานควายเป็นอีกหนึ่งแหล่งความอุดมสมบูรณ์ที่มีชื่อเสียงแบบเงียบๆมานาน จะมีร้านอาหารทั้งคาวหวานที่เปิดตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงดึกค่ะ
นอกจากนั้นพวก Hyper Market ตัวหลักใหญ่ๆจะมี Big C รองลงมาเป็น Tesco Lotus Express (เปิด 24 ชม.) มีร้านค้า ร้านอาหารย่อยๆอยู่ทั่วไป ทั้งที่เปิดเป็นร้านแบบจริงจังและร้านข้างทางถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์สูงเลยทีเดียวค่ะ
ถัดมาอีกหน่อยจะเป็นโซนใกล้เคียงอย่างอารีย์ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ามีร้านคาเฟ่น่ารักๆเพียบ และยังมี Villa Aree เป็น Community Mall ที่มีร้านอาหารชื่อดังด้านอยู่เยอะเลยค่ะ เช่น After You, กับข้าวกับปลา, Starbucks เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีซอย Aqua ที่เพิ่งเปิดมาได้ไม่นานมานี้ เป็นซอยสั้นๆ แต่อัดแน่นไปด้วยร้านอาหารดีๆหลายร้าน และยังมีร้านเช่าชุดราตรี และ Fitness ด้วยค่ะ
สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ
ตลาดและห้างสรรพสินค้า
Aqua 400 ม.
Big C สะพานควาย 450 ม.
Tesco Lotus Express 600 ม.
La Villa Aree 1.4 กม.
JJ Mall 2 กม.
ตลาดนัดจตุจักร 2 กม.
Union Mall 3.3 กม.
Central ลาดพร้าว 3.7 กม.
สถานพยาบาล
รพ.เปาโล เมโมเรียล 550 ม.
รพ.ประสานมิตร 850 ม.
รพ.พญาไท 2 2.6 กม.
อื่นๆ
สวนจตุจักร 2 กม.
สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ 2.4 กม.
สวนวชิรเบญจทัศ 3.6 กม.
การเดินทาง
การเดินทาง วันนี้ เราจะเริ่มต้นบนถนนพหลโยธินฝั่งมุ่งหน้าจตุจักร บริเวณ BTS อารีย์ ขับตรงไปเรื่อยๆ ถึงแยกสะพานควายเลี้ยวซ้ายเข้าถนนประดิพัทธ์ ขับตรงไปอีกประมาณ 240 เมตร จะเห็นตัวโครงการ THE LINE พหลฯ – ประดิพัทธ์ ทางขวามือค่าา
สรุปการเดินทาง ถนนพหลโยธิน(ฝั่งมุ่งหน้าจตุจักร) > แยกสะพานควาย > ถนนประดิพัทธ์ > THE LINE พหลฯ – ประดิพัทธ์
เริ่มต้นการเดินทางบนถนนพหลโยธิน ฝั่งมุ่งหน้าจตุจักร ผ่าน BTS อารีย์ไปนะคะ
ผ่าน BTS อารีย์มาหน่อยเดียวจะเห็นซอยอารีย์ทางซ้ายมือ ในซอยนี้มีร้านอาหารเพียบค่ะ ราคาตั้งแต่ถูกจนถึงแบบดีๆหน่อย สามารถแวะหาอาหารทานกันได้
ขับตรงมาเรื่อยๆเราจะถึงแยกสะพานควาย สำหรับแยกนี้ถ้าเราเลี้ยวซ้ายจะสามารถเข้าเส้นสุทธิสารได้ แต่วันนี้เราจะเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าถนนประดิพัทธ์นะคะ
เลี้ยวซ้ายเข้าถนนประดิพัทธ์มาแล้วตรงมาประมาณ 240 เมตร เราจะเห็นโครงการ THE LINE พหลฯ – ประดิพัทธ์ ทางขวามือค่าา
รอบๆโครงการ
สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการจะเห็นว่าลักษณะของตัวที่ดินจะมีหน้าตาเกือบๆ C Shape
ทิศเหนือ โครงการจะติดกับซอยย่อยประดิพัทธ์ 21 , สปาและที่อยู่อาศัยเตี้ยๆ
ทิศใต้ หรือหน้าโครงการติดกับถนนประดิพัทธ์ ฝั่งตรงข้ามถนนเป็นอาคารพาณิชย์ซะส่วนใหญ่
ทิศตะวันตก ติดกับที่ติดบ้านเดี่ยวและโบสถ์คริสต์ สูง 1 – 2 ชั้น จะเห็นว่ารอบๆโครงการเกือบทั้งหมดจะเป็นอาคารพาณิชย์หรือตึกแถวที่สูง 2 – 5 ชั้น ยกเว้นทาง
ทิศตะวันออก บริเวณส่วนเว้าของตัว C ที่จะเป็นคอนโดรุ่นเก่า สูง 8 ชั้น แทรกเข้ามา
เรื่องวิวของโครงการนี้ค่อนข้างโปร่ง ไม่มีอาคารหรือคอนโดสูงๆในระยะประชิด โดยจะมีคอนโดเพื่อนบ้านรายล้อมอยู่รอบๆบ้าง แต่มีระยะที่ค่อนข้างห่างออกไปพอสมควรจึงทำให้ไม่มีผลเมื่ออยู่ในชั้นสูงๆของตึกเท่าไหร่ค่ะ
หน้าโครงการติดกับถนนประดิพัทธ์ ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์และอาคารธนาคารกรุงเทพ
มองไปด้านหลังเป็นคอนโด Rhythm
ฝั่งขวามือจะเป็นตึกแถวของชาวบ้านแถวนี้ยาวไปตลอดทาง
โดยตึกแถวก็จะมีการเปิดธุรกิจต่างๆ เช่น ร้านเกมส์
ร้านอาหารแถวรี้ก็มีเยอะค่ะ ในระยะเดินใกล้ๆฝั่งนี้จะมีร้านก๋วยเตี๋ยวหมูรสเด็ด
ถัดมาเป็นร้านลูกชิ้นปลานายโจว
และร้านกาแฟ Moka Mania
เดินต่อมาอีกนิดก็จะมี 7-11 อีก 1 สาขา
ถัดจากตรงนี้ไปก็จะเป็นตึกแถวยาวตลอดทาง มีร้านอาหารชื่อดังดั้งเดิมอีกหลายร้าน เช่น ร้านระฆังทอง, ครัวประดิพัทธ์ เป็นต้น
กลับมาที่หน้าโครงการทางฝั่งซ้ายจะติดกับถนนประดิพัทธ์ฝั่งมุ่งหน้าแยกสะพานควาย
หน้าโครงการมี 7-11 ทำกรอบด้านหน้าสวย เข้ากับตัวโครงการ โดยสาขานี้ ลูกบ้านสามารถเดินเข้าร้านได้จากทางเข้าด้านในคลับเฮ้าส์ได้ด้วยค่ะ
ในช่วงเย็นๆ ค่ำๆ จะมีร้านอาหารรถเข็นเปิดหน้าโครงการหลายร้าน ยาวไปจนถึงแยกสะพานควายเลย คึกคักมากๆค่ะ
ภายในซอยจะเป็นตึกแถวที่อยู่ของชาวบ้านแถวนี้ ส่วนต้นๆซอยจะมีคิวพี่วินที่อยู่ใกล้โครงการที่สุด
อัตราค่าโดยสารของพี่วินเค้าค่ะ
เดินมาเรื่อยๆถึงซอยประดิพัทธ์ 21
และมีร้านสะดวกซื้ออยู่ไม่ไกล
เดินต่อมา แถวนี้จะมีร้านแลกเงินและร้านขายยาเยอะค่ะ
ซึ่งภายในซอยจะมีตลาดสดเจ้าใหญ่อยู่ สามารถมาซื้อของทำอาหารได้ และถ้าเดินเข้าไปลึกๆจะมีหอพัก และอพาร์ทเมนท์มากมายหลายตึกเลยค่ะ
ตัวโครงการ
โครงการ The Line พหลฯ – ประดิพัทธ์ เป็นคอนโด High Rise สูง 46 ชั้น ตัวโครงการติดถนนประดิพัทธ์ มีแนวคิดการออกแบบที่คำนึงถึงความกลมกลืน และสอดคล้องไปกับธรรมชาติ Concept การออกแบบที่ออกแบบมาที่ต้องการให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกเหมือนอยู่ในบ้านหลังใหญ่ บ้านที่ถูกโอบกอดด้วยธรรมชาติ และมีพื้นที่สำหรับทุกช่วงวัย ทุกไลฟ์สไตล์ โดยจะมีส่วนกลางให้ครบครัน
ส่วนการออกแบบสถาปัตยกรรม จะออกแบบตัวอาคารโดยรอบให้กลมกลืน กับธรรมชาติ ด้วยการบิดองศาของผนังของห้องเพื่อสร้างมุมมองภายในที่ไม่น่าเบื่อ และยังสามารถสัมผัสกับบรรยากาศของแสงและเงาที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลาได้ และตัวอาคารใช้การไล่เฉดสี EARTH TONE เพื่อเน้นให้กลมกลืนกับแสงธรรมชาติ และรู้สึกอบอุ่นเมื่อมองมาที่ตัวอาคารค่ะ
ภายในที่ดินจะแบ่งย่อยออกเป็น 2 อาคาร คืออาคารสำหรับพักอาศัย เป็นอาคารหลักสูง 46 ชั้น และอาคารส่วนกลาง ( Facility ) หรือ Co-Living Space สูง 2 ชั้น ซึ่งถึงจะมีการทำตัวอาคาร Facility แยกออกมาแล้ว แต่ทางโครงการก็ยังใส่ส่วนกลางอื่นๆไว้ในอาคารหลักด้วยค่ะ เช่น Lobby, สระว่ายน้ำ, สนามเด็กเล่น และ Rooftop Garden และเป็น Indoor Parking ในส่วนด้านหลังของอาคาร ชั้น 2 – 8
โดยตัวอาคารหลักจะแบ่งเป็นอาคารส่วนด้านหน้าสูง 35 ชั้น และอาคารด้านหลังสูง 46 ชั้น
มาดู Master Plan กันต่อ จากแปลนจะเห็นว่าทางเข้าออกโครงการจะมี 2 ทาง คือถ้าเดินเท้ามาโครงการก็สามารถเข้าได้จากทางสวน Secret Garden ติดกับอาคาร Co-Living Space ส่วนถ้าใครขับรถมาก็สามารถใช้ทางเข้าหลักจากถนนประดิพัทธ์ เมื่อเข้ามาในโครงการจากทางเข้าหลักจะต้องผ่านป้อม รปภ. และเข้ามายังพื้นที่ Drop Off จากนั้นก็สามารถวิ่งรถได้รอบอาคาร โดยถ้าออกไปทางซ้ายจะเจอกับที่จอดรถ Outdoor Parking ก่อน และไปเข้า indoor Parking ทางฝั่งตะวันออก
เมื่อเข้ามาในตัวอาคารส่วนแรกจะเจอกับ Lobby ฝ้าเพดานสูงโปร่งประมาณ 9.2 เมตร ถัดมาจาก Lobby จะเป็นโถงลิฟต์ภายในมีลิฟต์ทั้งหมด 6 ตัว เฉลี่ยลิฟต์ต่อห้องพักอาศัยประมาณ 1 : 163 ถือว่าค่อนข้างแน่นอาจจะต้องรอนานหน่อยในช่วงเวลาเร่งด่วน
มาดูบรรยากาศจริงของโครงการกันต่อค่ะ เริ่มจากหน้าโครงการเป็นป้ายชื่อโครงการ เห็นชัดเจน
ทางเข้าโครงการจะอยู่ติดถนนประดิพัทธ์ มีป้อมรปภ. รักษาความปลอดภัย 24 ชม.
เข้ามาภายในโครงการเจอถนนหลัก ตรงไปจะเข้าที่จอดรถภายในตัวอาคาร ซ้ายมือเป็นอาคารหลัก และขวามือเป็นคลับเฮ้าส์
เรามาดูตัวคลับเฮ้าส์กันก่อนค่ะ ตัว Facade จะใช้วัสดุสีทองแดฉลุเพิ่มมิติ และลูกเล่นให้กับตัวอาคาร
บริเวณโซนแรกของคลับเฮ้าส์จะเป็นพื้นที่ Semi Outdoor ด้านหน้ามีบ่อบัวตกแต่งให้ความรู้สึกเย็นๆ
ขวามือเป็นทางเข้า 7-11 โดยจะต้องใช้คีย์การ์ดแตะเพื่อเข้าร้านด้วยค่ะ
หันมาดูฝั่งซ้ายมือจะเห็นบันไดวนเสมือนลอยอยู่บนบ่อน้ำ โดยตัวบันไดจะเชื่อมขึ้นชั้น 2
ติดกับบันไดเป็นลิฟต์โดยสาร สำหรับผู้ที่ใช้วีลแชร์ก็ยังสามารถขึ้นไปใช้ส่วนกลางชั้นบนได้สะดวก
ติดกับลิฟต์โดยสาร ฝั่งขวามือ จะมีห้องน้ำแยกชาย – หญิง และ Co – Kitchen + BBQ Lawn
ภายในห้องน้ำหญิงเปิดเข้าไปจะเจออ่างล้างมือพร้อมกระจกเงา 2 ชุด สไตล์มินิมอล และอีกฝั่งเป็นห้องน้ำ 2 ห้อง ผนังเป็นกระจกเงาสามารถส่องเพื่อเช็คความเรียบร้อยได้
ภายในห้องน้ำชายทำออกมาเหมือนกันกับห้องน้ำหญิงค่ะ
นอกจากนั้นก็ยังมีห้องน้ำสำหรับผู้ที่ใช้วีลแชร์มารองรับด้วย
ภายใน Co – Kitchen ทำออกมาน่าใช้งานเลยค่ะ ได้พื้นที่ครัวกว้างๆ ผนังฝั่งส่วนเปิดเป็นกระจกเต็มๆ บรรยากาศดีมาก
อุปกรณ์ที่จัดมาให้ใช้งานครบครันมากๆ ทั้งเคาน์เตอร์ครัว และชุดเตาอบต่างๆ สามารถจองห้องไว้จัดปาร์ตี้ได้ หรือถ้าใครอยากถ่ายคลิปทำอาหารสวยๆก็เหมาะเลยค่ะ
ส่วนพื้นที่ด้านนอกจะมีชุดโต๊ะทานอาหาร สามารถนั่งทานอาหารไป ชมวิวสวนไปได้ด้วย
จากพื้นที่ด้านในตัวคลับเฮ้าส์ จะมีโซน Secret Garden ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของโครงการนี้ โดยพื้นที่ตรงนี้จะมีตัวฉากกั้นที่สามารถเปิดปิดได้บานใหญ่ๆ ลักษณะบานเป็นระแนง ช่วยให้ได้เอฟเฟกต์ของแสงเงาภายในสวน
เข้ามาภายในสวนจะมีชุดเก้าอี้ และโต๊ะ นั่งพักผ่อน จะเห็นว่าพื้นที่ตรงนี้ได้เงาจากตัวระแนงและ Facade ที่ฉลุด้านบน เวลานั่งก็จะไม่ร้อนมากค่ะ
บรรยากาศภายในสวนจะลมต้นไม้มาให้ร่มรื่นมากๆ พร้อมโซนบ่อน้ำเล่นระดับ ให้ความสดชื่นภายในโครงการ
นอกจากนั้นก็จะมี BBQ Lawn มุมบาร์บีคิวในสวน ที่จัดอุปกรณ์มาให้ครบ พร้อมโต๊ะยาว พร้อมนั่งทานใต้ร่มไม้ได้เลย
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอพื้นที่เปิดโล่ง มีม้านั่งตัวยาวไว้ให้นั่งพักผ่อน ฟังก์ชั่นหลักๆชั้นนี้ส่วนแรกคือ Co – Working Space
เข้ามาด้านในจะได้บรรยากาศ Cozy มากๆ ด้วยวัสดุที่คุมมาในโทนไม้ทั้งห้อง พร้อมเฟอร์นิเจอร์สีอ่อน และปลูกต้นไม้จริง เป็น Green Chanderia ขนาดใหญ่
ภายในห้องนอกจากพื้นที่นั่งทำงานแล้ว ยังมีเครื่องพิมพ์เอกสารไว้ให้ใช้งานด่วนอีกด้วย โดยเป็นการสั่งงานผ่าน Application ค่ะ
พื้นที่ทำงานจะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ในภาพเป็นฝั่งขวามือ จัดเป็นโซนที่แยกกัน หลายๆชุด รองรับคนที่เข้ามาใช้งานหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะมาคนเดียว, มาคู่ หรือมาเป็นกลุ่มเล็กๆ
อีกฝั่งจะมีประตูบานสวิงที่สามารถปิดกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัวได้
ภายในจัดเป็นชุดเก้าอี้ยาว 2 ชุด เหมาะกับการมานั่งประชุมในบรรยากาศสบายๆ
ส่วนฟังก์ชั่นอีกอย่างบนคลับเฮ้าส์ชั้น 2 นี้ จะเป็นห้อง Cinema Mania
ภายในจัดโซฟาชุดใหญ่ ตัวยาว เหมาะกับการนั่งดูหนังแบบเป็นส่วนตัว ผนังบุกันเสียงรอบห้อง
โดยทางโครงการจะมีทีวีขนาดใหญ่มาให้ แบบนี้เลย
ขึ้นมาที่ชั้น Rooftop ส่วนแรกเป็นม้านั่งยาว ขึ้นมานั่งเล่นชิลล์ๆได้
เดินขึ้นมาอีกหน่อยจะมีทางเดิน และม้านั่งจัดมาให้ ในพื้นที่เปิดโล่ง
เดินมาสุดทางจะมีมุมเก้าอี้ลูกฟูก ขึ้นมานั่งเล่นตอนเย็นๆ น่าจะชิลล์ดีค่ะ
ม้านั่งอีกฝั่ง จะเห็นว่ามีการจัดมุมที่นั่งกระจายไว้หลายจุด ทำให้ลูกบ้านสามารถขึ้นมาใช้งานได้พร้อมๆกันโดยไม่เสียความเป็นส่วนตัวมากนัก
หลังผ่านป้อม รปภ. มาแล้ว ฝั่งซ้ายมือจะมีสวนหย่อม ลงต้นไม้ให้บรรยากาศในโครงการร่มรื่น และดูเป็นส่วนตัวมากขึ้น
มีศาลาเล็กๆให้นั่งพักในสวน
ถัดเข้ามาจะเป็นที่จอดรถ Visitor บริเวณข้างอาคาร และด้านหลังสวนหย่อม เราจะเห็นเสาสีขาวๆตรงที่จอดรถ อันนั้นคือ Omni Light ที่ช่วยผลิตกระแสไฟฟ้ามาใช้ในพื้นที่ส่วนกลาง ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าส่วนกลางได้บางส่วน
ส่วนที่จอดรถ จะอยู่ถัดเข้าไปด้านในค่ะ ถ้าเราขับผ่านรปภ.มาแล้วก็ขับตรงตามถนนไปเลย
ด้านในจะมีระบบรักษาความปลอดภัยเป็นรั้วกั้นไม้กระดก ตรงนี้ต้องใช้คีย์การ์ดเพื่อเข้าไปจอดรถบนอาคาร
ที่จอดรถรับความสูงรถได้สูงสุด 2.10 ม. ภายในมีที่จอดรองรับ 50% รวมจอดซ้อนคัน พร้อมจุดชาร์จที่จอดรถพลังงานไฟฟ้า Smart Moveโดยห้อง 1 Bedroom ได้สิทธิ์จอด 1 คัน, 2 Bedroom 2 คัน ไม่ฟิกซ์ที่จอด
ด้านบนมีปลูกไม้เลื้อยตามแนว Facade ทำให้ตัวอาคารจอดรถดูกลมกลืนกับส่วนอื่นๆของโครงการ
กลับมาที่ตัวอาคารหลัก พื้นที่ด้านหน้าจะเป็นจุด Drop Off มีหลังคาคลุม เวลาจอดรับส่งก็สามารถบังแดดบังฝนได้
ประตูทางเข้าอาคารทำผนังเป็นกระจกสูง โปร่งโล่ง
การเข้าอาคารจะมีระบบรักษาความปลอดภัยอีกชั้น ด้วยระบบสแกนใบหน้า
เข้ามาภายในส่วน Lobby จะเจอเคาน์เตอร์เจ้าหน้าที่ทางขวามือ ช่วงนี้ถ้าใครอยากเข้าชมโครงการก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ตรงนี้ได้เลย
Lobby ดีไซน์โปร่ง โล่งเปิดรับลม ด้วยดีไซน์แบบ Triple Volume Lobby สูงถึง 9.2 เมตร รอบๆเป็นผนังกระจกสูง ยาวขึ้นไปถึงฝ้า และมีบานเปิดที่สามารถเปิดรับลมได้เต็มที่ ไม่ต้องพึ่งพาพลังงานไฟฟ้าตลอดเวลา
ในส่วนของการตกแต่ง Lobby จะใช้วัสดุที่เป็นธรรมชาติ ทั้ง หินอ่อน ไม้ รวมถึงใช้ผ้าในโทนสีที่ให้ความอบอุ่น ดูเป็นผู้ใหญ่ๆหน่อยค่ะ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ส่วนของการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ มีการจัดวางให้มีรูปแบบที่แตกต่างกันไปในแต่ละมุม ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในบ้านหลังใหญ่ มองออกไปด้านนอกก็จะเจอสวนร่มรื่นรอบๆบ้าน
เข้ามาด้านในจะเป็นโถงทางเดินสูงโปร่ง เชื่อมไปยังโถงลิฟต์
โดยตลอดโถงทางเดินตรงนี้ก็จะมีช่องแสงขนาดใหญ่ ที่จัดวางฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นมุมนั่งพักที่เป็นส่วนตัวแยกไว้ให้ ได้บรรยากาศที่สงบ เป็นส่วนตัวมากขึ้น
เข้ามาสุดโถงทางเดินจะเห็นผนังกระจกเงาบานใหญ่ มองเผินๆจะนึกว่าเป็นงานตกแต่งเรียบๆ แต่จริงจะมีประตูที่เชื่อมออกไปที่จอดรถ และห้องน้ำรับรองของ Lobby ด้วย
เข้ามาภายในโถงลิฟต์ใช้วัสดุตกแต่งเป็นกระเบื้องลายหินอ่อน ส่วนบริเวณกรอบลิฟต์แต่ละตัวจะใช้เป็นวัสดุแนวๆไม้ๆสีเข้ม ให้ความรู้สึกอบอุ่น โดยที่นี่จะมีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 6 ตัว และ Service Lift 1 ตัว
ลิฟต์โดยสารของที่นี้ใช้ Mitsubishi แบบล็อคชั้น ใช้คีย์การ์ด หรือการสแกนใบหน้า รับน้ำหนักได้ 1,050 กก. หรือประมาณ 14 คน
จากโถงลิฟต์เข้ามาด้านในจะมีโถงทางเดินอีกจุด ที่เป็นส่วนของ Mail Room, Laundry Room และ ตู้ iBOX ของไปรษณีย์ไทย
มาดูภายใน Mail Room กันก่อนค่ะ ทำออกมาสวยเลยทีเดียว
ด้านในจะทำออกมาในสีโทนเข้มๆหน่อย ดูเป็นส่วนตัวมากๆ พื้นเป็นหินอ่อนสีดำ Black Marquina Marble ส่วนตู้จดหมายทั้งหมดใช้ไม้สีเข้ม แบ่งเป็นช่องๆตามเลขที่ห้อง และมีถังขยะไว้ให้ทิ้งเอกสารหรือหีบห่อที่ไม่ใช้แล้วด้วย
ถัดเข้ามาจาก Mail Room จะเป็นโถงทางเดินเชื่อมมาที่ห้อง Laundry Room โดยบริเวณหน้าห้องจะมี iBOX เป็นบริการรับฝากของ ที่อำนวยความสะดวกให้ลูกบ้าน มารับพัสดุได้ด้วยตัวเอง ตลอด 24 ชม.
ภายในห้อง Laundry Room จะมีลงเครื่องซักผ้า, ตู้อบผ้า และตู้กดน้ำดื่ม หยอดเหรียญไว้อำนวยความสะดวก โดยลูกบ้านสามารถใช้ Sansiri Home Application ในส่วนของ Trendy Wash ไว้เช็คการทำงานของเครื่องซักผ้าได้
ขึ้นมาที่ชั้น 6, 7 และ 8 อาคารฝั่งหน้าจะเป็นส่วนพักอาศัยและอาคารฝั่งหลังจะเป็น Indoor Parking ค่ะ
ชั้น 9 จะเป็นส่วนพักอาศัย และมีส่วน Facility ขนาดใหญ่ ประกอบด้วย สระว่ายน้ำแบบ Outdoor ขนาด 30 x 24 เมตร แยกสระเด็ก – สระผู้ใหญ่ พร้อม Pool Terrace ข้างสระ สำหรับนั่งพักผ่อน
ส่วนในตัวอาคารรอบๆ สระว่ายน้ำ จะมีห้องน้ำแยกชาย – หญิง พร้อมห้อง Sauna & Stream ที่ผนังภายในห้อง Sauna จะใช้หินเกลือผลึก Himalayan Salt ที่เชื่อกันว่าสามารถใช้เป็นหินบำบัดได้, ห้อง Multi Area, ฟิตเนสขนาดใหญ่ แยกห้อง Free Weight
มาดูของจริงกันเลย พอเราออกมาจากโถงลิฟต์ ก็จะเจอทางเดิน เชื่อมไปยังส่วนกลางจุดต่างๆ บรรยากาศเหมือนอยู่ในสวนเปิดโล่ง
ขวามือเป็นพื้นที่สวน ที่มีม้านั่งไว้ให้นั่งพักหลายจุด ตรงนี้ตอนกลางวันก็ยังมานั่งได้ค่ะ เพราะได้ร่มเงาจากต้นไม้ และเงาจากตัวอาคารเองบางส่วน ทำให้ไม่ร้อนแดด
เข้ามาส่วนแรกเราจะผ่านห้องน้ำ ฝั่งซ้ายเป็นห้องน้ำชาย ขวามือเป็นห้องน้ำหญิง
ทางเข้าห้องน้ำจะมีทางเดินลึกเข้าไป เพื่อให้เกิดการแยกพื้นที่เป็นสัดส่วนมากขึ้น
ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน และวัสดุระแนงไม้ ได้บรรยากาศสปาๆ
ขนาดพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางเลย มีแบ่งโซนเป็นห้อง Sauna, Steam, โถปัสสาวะชาย 2 จุด, ห้องน้ำ และห้องอาบน้ำอย่างละ 1 ห้อง
ภายในห้องอาบน้ำและห้องน้ำ
ภายในห้อง Sauna พื้นที่ในห้องก็มีขนาดกว้างขวาง ชอบที่ทำบานกระจกฝั่งนึงเปิดโล่ง เห็นวิวสวน (สวนเป็นพื้นที่ปิด ไม่มีคนเดินผ่านไปมานะ) เพราะเวลาใช้งานจริงส่วนใหญ่เราจะต้องนั่งอยู่เฉยๆ ถ้ามีวิวให้มองออกไปแบบนี้ก็สบายตาดีค่ะ
ผนังกรุด้วยเกลือ Himalayan Salt ที่จะมีไอระเหย ช่วยผ่อนคลาย เหมือนได้ทำสปาดีๆเลยค่ะ
ภายในห้อง Steam จะมีขนาดไม่ใหญ่มาก ได้วิวสวนส่วนตัวเหมือนกันค่ะ
นอกจากนั้นก็จะมีล็อคเกอร์ให้ใช้งาน 16 ช่อง
อีกฝั่งเป็นห้องน้ำหญิง
มีห้องน้ำสำหรับผู้ที่ใช้วีลแชรืให้บริการด้วย พื้นที่กว้างๆ ใช้งานได้จริง
ภายในห้องน้ำหญิงจะเหมือนกับห้องน้ำชายค่ะ แต่จะลดส่วนโถปัสสาวะชายค่ะ
ด้านในแบ่งเป็นล็อคเกอร์, ห้องน้ำ และห้องอาบน้ำ ตรงกลางเป็นอ่างล้างมือ 2 จุด
ถัดเข้ามาทางฝั่งซ้ายมือเป็น Multifunction Room และ Boxing Room ส่วนขวามือเป็นสระว่ายน้ำค่ะ
เรามาดูในห้อง Multifunction Room กันก่อน
เข้ามาส่วนแรกเป็น Boxing Area จัดเป้าซ้อมมาให้ 2 ชุด วิวในห้องโล่งๆ ผนังเป็นกระจก 2 ฝั่ง และบนฝ้ามีทำเป็นกระจกเงาช่วยสะท้อนให้ห้องดูกว้างขึ้น
มีอุปกรณ์ซ้อมมาให้เป็นนวม Med Ball และเสื่อ
อีกห้องที่กั้นแยกกั้นจะเป็น Multifunction Room มีอุปกรณ์สำหรับ Functional Training มาครบชุดเลย โดยห้องนี้สามารถจองส่วนตัว และให้เทรนเนอร์เข้ามาสอนออกกำลังกายได้ค่ะ
อุปกรณ์ที่ให้มามีสเตชั่นเก็บอุปกรณ์สำหรับ Functional Training และ เครื่อง Nexersys ที่มีติดตั้งเป็นที่แรกของแสนสิริ เป็นเครื่องคาร์ดิโอแบบ Full Body สามารถเลือกโปรแกรมออกกำลังกายได้หลากหลาย
นอกจากนั้นก็ยังมีทีวี ไว้เปิดวิดีโอออกกำลังไว้ดูด้วยก็ได้
ถัดมาเป็นห้องฟิตเนส
ฟิตเนสจัดมาให้ใหญ่เลยทีเดียวค่ะ แยกเป็น 2 โซน อุปกรณ์เพียงพอสำหรับคนที่ออกกำลังกายจริงจังขึ้นมาระดับนึงเลย
โดยโซนแรกจะมีอุปกรณ์ที่จัดมาให้มีลู่วิ่งไฟฟ้า 3 ตัว, เครื่องบริหารกล้ามเนื้ออก/ไหล่, เครื่องบริหารกล้ามเนื้อขา และเครื่องบริหารกล้ามเนื้อหลัง
อีกโซนจะเป็นโซน Free Weight และ คาดิโอ
มุม Free Weight จัดดัมเบลคละน้ำหนักมา 20 ชิ้น พร้อมเบาะปรับระดับได้มาให้ 3 ตัว
อุปกรณ์คาดิโอ มีจักรยานไฟฟ้า 2 ตัว และ Elliptical 1 ตัว
ระหว่างทั้ง 2 โซน จะมีตู้กดน้ำและถังขยะไว้ให้บริการด้วย ไม่ต้องพกน้ำมาเองค่ะ แต่ควรจะมีขวดน้ำส่วนตัวติดมาด้วยนะ
กลับออกมาด้านนอก ตัวสระว่ายน้ำเป็นสระระบบเกลือ แบบ Infinity Edge Pool ขนาด 30 x 24 เมตร
ตัวสระยาว 30 ม. เป็นสระรูปตัว L โดยจะมีโซน Lap Pool ที่สามารถว่ายออกกำลังกายได้
และโซน Jacuzzi ขนาดใหญ่พอสมควร
เดินถัดมาจะเป็นพื้นที่ในสวน มีทางเดินเลาะสระว่ายน้ำ พร้อมพื้นที่นั่งพักผ่อน บรรยากาศร่มรื่นดีค่ะ ลงต้นไม้มาให้เยอะมากๆ ทั้งแบบพุ่มและไม้ยืนต้นที่ให้ร่มเงา
ชั้น 10 – 34 จะเป็นส่วนของยูนิตพักอาศัยล้วนๆ โดยในอาคารจะมี Pocket Garden แทรกอยู่ในชั้น 12, 15, 18, 24, 30 ค่ะ
โถงลิฟต์ในชั้นพักอาศัย Typical Floor
บรรยากาศในโถงทางเดิน
ชั้น 35 จะเป็นส่วน Play Ground หรือ Kid’s Yard ด้านหน้า และยูนิตพักอาศัยด้านหลัง
บรรยากาศในโถงลิฟต์ชั้นพักอาศัยจะทำมาเรียบๆ แยกโซนพักอาศัยโดยใช้ระบบคีย์การ์ดค่ะ
ส่วนสนามเด็กเล่นจะมีประตูออกอีกฝั่ง
Kid’s Yard (Play Ground) สนามเด็กเล่น มีเนินดินสำหรับปีนป่าย และมีเครื่องเล่นต่างๆ แทรกตัวอยู่ พื้นปูพื้นยางกันกระแทกเพื่อความปลอดภัย พร้อมด้วยที่นั่งรูปทรงสี่เหลี่ยมหลากสีสัน ที่กระจายตัวอยู่บนพื้นที่สีเขียว ช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูสนุกสนาน รอบๆก็จะมีลงต้นไม้ทำให้บรรยากาศร่มรื่น
โซนด้านในก็จะมีเครื่องเล่นสีสันสดใส ให้เด็กเลือกเล่นได้ค่ะ
ชั้น 46 เป็นชั้นยูนิตพักอาศัยเช่นกัน แต่จะพิเศษตรงที่มีห้อง Sky Lounge มาให้นั่งพักผ่อนชมวิวเมืองค่ะ
ออกมาจากโถงลิฟต์ก็จะเจอ Sky Lounge เลยค่ะ
ด้านในแบ่งโซนเป็นพื้นที่นั่งทำงาน พักผ่อน โดยจุดแรกที่เราเข้ามาจะเป็นโถงแบบฝ้าเพดานสูง 5 ม.
มีบันไดเชื่อมขึ้นไปชั้น Rooftop
อีกฝั่งจะมีกั้นแยก มีทางเดินเชื่อมไปห้องน้ำ และโซน Sky Lounge ที่มีฟังก์ชั่นคล้าย Library Room
เข้ามาด้านในเจอผนังกระจกเปิดโล่ง ตอนเย็นๆเปิดมู่ลี่จะเห็นวิวเมืองสวยเลย แต่ช่วงกลางวันก็ต้องปิดกันแดดหน่อย เพื่อรักษาเฟอร์นิเจอร์ให้ใช้งานได้นานๆ
มีจัดชุดโซฟาใหญ่ๆมาให้ 2 ชุด
ผนังฝั่งในทำเป็นตาราง ใช้วางหนังสือได้
นอกจากนั้นยังมี Ipad ให้ใช้งานอีกด้วย
ส่วนห้องน้ำก็เป็นไฮไลท์ไม่แพ้กันค่ะ เปิดเช้ามาเจอวิวเต็มๆตาแบบนี้เลย ใครไม่มั่นใจกก็ไม่ต้องกังวลนะ เค้ามีมู่ลี่ติดมาให้ด้วยค่ะ
สุขภัณฑ์มีติดตั้งมาให้ตามมาตรฐาน
วิวจากห้องน้ำค่ะ มองเห็นเพื่อนบ้านใกล้ๆ Rhythm นั่นเอง
หมุนมาฝั่งซ้ายเป็นแถวๆ แยกสะพานควาย
ฝั่งขวามือก็เป็นเส้นพระราม 6 โล่งๆเลย
ต่อเนื่องขึ้นมาที่ชั้น Rooftop ส่วนแรกเป็นพื้นที่ลานโล่ง มีศาลานั่งพักผ่อน 2 จุด ตอนเย็นๆ มาออกกำลังกายกลางแจ้งได้เลย
ถัดเข้ามาด้านในจะมี Sansiri Backyard ผักสวนครัวปลอดสารพิษ ที่ลูกบ้านสามารถมาเก็บไปประกอบอาหารกันได้
วิวจากชั้น Rooftop ค่ะ
แบบห้อง
สำหรับแบบห้องในโครงการจะมีมากมายกว่า 39 แบบเลยค่ะ แต่สามารถแบ่งตามขนาดห้องได้ดังนี้
1 Bedroom 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดตั้งแต่ 26.25 – 40.75 ตร.ม.
2 Bedroom 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดตั้งแต่ 51.50 – 67.00 ตร.ม.
3 Bedroom 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาดตั้งแต่ 79.00 – 111.50 ตร.ม.
ห้องแบบ 1 Bedroom 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ เป็นแบบที่มีเยอะที่สุดในโครงการ มีขนาดตั้งแต่ 26.25 – 40.75 ตร.ม. ส่วนลักษณะการจัดวางฟังก์ชั่นในแต่ละห้องจะแตกต่างกันไปตามขนาดและตำแหน่งของห้องในอาคารค่ะ
ห้องแบบ 2 Bedroom 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดตั้งแต่ 51.50 – 51.75 ตร.ม.
ห้องแบบ 2 Bedroom 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาดตั้งแต่ 54.00 – 67.00 ตร.ม.
ห้องแบบ 3 Bedroom 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาดตั้งแต่ 79.00 – 111.50 ตร.ม.
ห้องตัวอย่าง
วันนี้เราจะพาชมห้องตัวอย่าง 2 แบบ คือ
1 Bedroom ขนาด 33 ตร.ม.
2 Bedroom ขนาด 52 ตร.ม.
โดยห้องของโครงการจะขายแบบ Fully Fitted อุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งมาให้จะมีเคาน์เตอร์ครัว พร้อม Hob & Hood, ตู้เสื้อผ้า Built – in, สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ ยี่ห้อ Cotto พร้อมฉากกั้นอาบน้ำ
มาดูห้องตัวอย่างห้องแรก เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 33 ตร.ม. ประตูทางเข้าห้องเป็นบานสำเร็จ ปิดผิวลามิเนตลายไม้ พร้อมติดตั้งป้ายเลขที่ห้อง, ตาแมว และกริ่งหน้าห้อง
ติดตั้ง Digital Door Lock ยี่ห้อ Yale ใช้ได้ทั้งระบบ Password, Key Card, กุญแจ และ ใช้ Bluetooth จากโทรศัพท์มือถือค่ะ
พื้นระหว่างโถงทางเดินและห้องพัก จะมียกขอบธรณีขึ้นด้วยแกรนิต ช่วยกันฝุ่นและแมลงเข้ามาในห้อง ส่วนด้านหลังบานประตูในห้องจะมีตัว Stopper ติดตั้งมาให้เพื่อป้องกันประตูกระแทกกับตู้ด้านหลัง
เข้ามาในห้องส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ครัวเปิด เชื่อมต่อยาวไปถึงห้องนั่งเล่น ได้ช่อแสงหลักเป็นประตูระเบียง ความสูงฝ้าเพดาน 2.7 ม.
เข้ามาในห้อง ถ่ายย้อนมาให้ดูพื้นที่ส่วนครัว จะเห็นว่ามีการจัดพื้นที่มาให้เป็นสัดส่วนดี เราสามารถกั้นห้องเพิ่มได้ ถ้ากังวลเรื่องของกลิ่นและควันที่จะไปรบกวนส่วนอื่นๆของห้อง แต่จริงๆห้องในโครงการนี้ก็มี Layout 1 Bedroom ที่กั้นครัวแยกมาอยู่แล้วนะ สำหรับ Type นี้จะเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยได้ทำอาหารทานเองมากกว่า
โดยเคาน์เตอร์ครัวจะได้มาตามนี้ ครบชุด ทั้งเคาน์เตอร์ตัวล่าง และตู้เก็บของด้านบน หน้าตาสวย ดูดีเลยค่ะ
ขนาดเคาน์เตอร์ครัวกว้างพอสมควรนะ ใช้เตรียมอาหารเล็กๆน้อยได้สะดวกทีเดียว ติดตั้งซิ้งค์ล้างจานและเตาไฟฟ้า 2 หัว โดย Top ใช้ Porlain Slap มียกขอบขึ้นมาให้ด้วย ช่วยให้ล้างทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น โดยตัววัสดุชนิดนี้จะมีความทนสูง เป็นรอยยาก ทำให้ดูแลรักษาได้ง่ายในระยะยาว
ส่วนด้านหลังจะติด Backsplash กระจกดำ ให้ทั้งความสวยงามและทำความสะอาดง่าย พร้อมราวแขวนก็ได้มาครบชุด ตามนี้เลย
อุปกรณ์ที่ติดตั้งมาให้จะมีซิ้งค์ล้างจานทรงสี่เหลี่ยม ยี่ห้อ MEX ขนาดไม่กว้างมาก แต่มีความลึกพอสมควร ติดตั้งมาพร้อมก๊อกน้ำเย็น
ตู้เก็บของด้านล่างจะแบ่งเป็นช่องๆตามนี้ ซึ่งจะมีทั้งลิ้นชัก, ตู้ที่แบ่งเป็นชั้นๆเพื่อความเป็นระเบียบในการจัดเก็บ และช่องวางไมโครเวฟ โดยหน้าบานดูปิดผิวเมลามีนค่ะ
ลิ้นชักมีช่องแบ่งเก็บช้อนส้อมมาให้ด้วย ส่วนลิ้นชักล่างมีแกนไม้ที่ให้เราจัดแจงพื้นที่ได้ตามขนาดของอุปกรณ์ที่เราจะจัดเก็บ ซึ่งตรงนี้เป็นอีกดีเทลเล็กๆที่ทำมาให้ในหลายๆโครงการแล้ว น่ารักดีค่ะ
ตู้เก็บของด้านบนหน้าบานเป็นกระจกซาติน สีแชมเปญ ความพิเศษคือ เวลาเราใช้งานก็จะไม่มีรอยนิ้วมือติดหน้าบาน ทำให้ดูสวยสะอาดอยู่ตลอด ส่วนภายในตู้จะแบ่งชั้นวางมาให้ตามภาพเลย โดยจะมีหลายช่อง โดยช่องล่างสุดซ้ายมือ มีก้านสำหรับใส่กระดาษทิชชู่ใช้งานในครัว สามารถดึงมาใช้งานได้เลย สะดวกดีค่ะ
เคาน์เตอร์ครัวอีกฝั่งได้สเปกเดียวกันเลย แต่ฝั่งนี้จะเป็นเคาน์เตอร์สำหรับเตรียมอาหาร หรือวางอุปกร์เครื่อใช้ไฟฟ้าตัวเล็กๆ อย่างเครื่องต้มน้ำร้อน, เครื่องปิ้งขนมปัง เป็นต้น ส่วนพื้นที่ติดกับผนังด้านใน จะเป็นจุดวางตู้เย็น ตำแหน่งตามในภาพเลยค่ะ
ด้านหลังยังคงมี Backsplash ติดตั้งมาให้ พร้อมราวแขวน
ตู้ด้านล่างเป็นตู้ไซส์ใหญ่หน่อย สำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้าค่ะ
ด้านบนจะแบ่งเป็นช่องๆมาให้ตามนี้ เก็บของได้เยอะพอสมควร
ถัดเข้ามาจากส่วนครัว เป็นห้องนั่งเล่น โดยพื้นตั้งแต่ห้องนั่งเล่น ไปจนถึงห้องนอนจะใช้ลามิเนตลายไม้ ให้ความรู้สึกอบอุ่น สบายๆ มากขึ้น
ติดกับครัว ทางโครงการจัดมาให้ดูเป็นโต๊ะทานอาหาร 2 ที่นั่ง เป็นขนาดที่กำลังเหมาะกับพื้นที่ในห้อง ใช้งานได้สบายๆ
ส่วนขนาดโซฟาที่เหมาะ จะเป็นโซฟาขนาดประมาณ 2 – 2.5 ที่นั่ง กำลังดี
ฝั่งตรงข้ามเป็นผนังโล่งๆ เราสามารถวางชั้นวางทีวี หรือถ้าใครมีของเยอะๆ ก็สามารถ Built – in เป็นตู้เก็บของหรือชั้นวางโชว์ของสูงๆได้ เป็นการใช้ประโยชน์จากความสูงฝ้าเพดานได้เต็มที่ขึ้นอีกด้วย
ติดกับห้องนั่งเล่นจะเป็นส่วนระเบียง โดยประตูได้เป็นบานสไลด์ 3 ตอน สามารถเปิดใช้งานได้กว้างกว่าแบบ 2 บาน บานกรอบเป็นอลูมิเนียม สีดำ กระจกเขียวตัดแสง
พื้นที่ระเบียงมีขนาดไม่ใหญ่มาก ได้พอให้วางราวตากผ้าได้สบายๆค่ะ หรือใครอยากปลูกต้นไม้ จัดสวนเล็กๆริมระเบียงก็ได้
พื้นที่ตรงระเบียงมีติดเค้าเสียบ ปลั๊กไฟ พร้อมฝาครอบกันน้ำมาให้ 1 จุด
ส่วนตัว Compressor จะติดตั้งแบบแขวน จำนวนขึ้นอยู่กับขนาดห้องค่ะ โดยจะมีห้องแยกเป็นสัดส่วน พร้อมกริลล์บังสายตา ทำให้ภาพรวมของตัวอาคารดูเรียบร้อย สวยงาม
กลับเข้ามาในห้อง ให้ดูภาพรวมย้อนจากห้องนั่งเล่นไปยังห้องครัว
เราเข้าไปดูภายในห้องนอนกันต่อ
ภายในห้องนอนจัดพื้นที่มาได้กำลังดีเลยค่ะ มีพื้นที่วางเตียงขนาดควีนไซส์ได้กำลังดี และยังมีมุมสำหรับวางโต๊ะทำงานมาให้ด้วย เหมาะกับไลฟ์สไตล์ทุกวันนี้ ที่คนส่วนใหญ่จะต้องมีงานกลับมาทำต่อที่บ้าน
ลองดูการจัดวางเตียงควีนไซส์ จะเห็นว่ามีพื้นที่ข้างเตียงเหลือให้วางโต๊ะหัวเตียงได้
ปลายเตียงมีระยะให้เดินผ่านได้สะดวก ถ้าใครชอบดูทีวีก่อนนอนก็สามารถติดทีวีแบบแขวนได้ โดยทางโครงการเดินช่องสัญญาณมาให้เรียบร้อยค่ะ
ติดกับเตียงนอน อีกฝั่งเป็นมุมนั่งทำงานริมหน้าต่างบานใหญ่
พื้นที่การใช้งานตรงนี้เป็นมุมนั่งทำงานที่มีขนาดกำลังดีเลยนะ สำหรับคนที่มีงานกลับมาทำที่บ้านเป็นประจำ คือมีพื้นที่ให้วางโต๊ะไซส์กลางๆ ได้
ด้านหลังโต๊ะมีพื้นที่ให้เลื่อนเก้าอี้เข้า – ออกได้ และยังมีพื้นที่เหลืออีกนิดหน่อย เผื่อวางอุปกรณ์ที่ใช้ทำงานเล็กๆน้อยๆ
นอกจากมีพื้นที่ใช้งานที่กำลังดีแล้ว ยังได้วิวจากหน้าต่างบานใหญ่ด้วยค่ะ ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นช่องแสงที่รับแสงธรรมชาติเข้ามาในตัวห้องได้เยอะ และเป็นจุดที่ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้น เพราะความสูงบานจรดฝ้าเลย
มีบานกระทุ้งที่เปิดระบายอากาศได้ด้วย
ส่วนอีกฝั่งของห้อง จะเป็นมุมตู้เสื้อผ้า และห้องน้ำ
ตู้เสื้อผ้าจะได้ตามนี้เลยค่ะ หน้าบานฝั่งนึงเป็นกระจกดำ
ภายในตู้แบ่งช่องให้ตามนี้ มีทั้งราวแขวน, ชั้นวางของ และลิ้นชัก นอกจากนั้นบริเวณด้านข้างตู้ยังมีช่องสำหรับเก็บพวกเครื่องประดับที่ต้องแขวน หรือกระเป๋าถือใบเล็กๆได้ โดยตรงนี้จะมีกระจกเงามาให้ด้วย
ส่วนห้องน้ำ จะได้ตามนี้เลย ทำออกมาดูดี เรียบๆ ใช้กระเบื้องสีพื้น กับกระเบื้องสีออกน้ำตาลๆ ให้ความรู้สึกสบายตา
สุขภัณฑ์ที่ติดตั้งมาให้ ใช้ของ Cotto โดยอ่างล้างมือได้เป็นอ่างแบบฝังเคาน์เตอร์ ขนาดกำลังดี ติดตั้งมาพร้อมก๊อกน้ำเย็น
ใต้อ่างมีตู้ที่สามารถใช้เก็บอุปกรณ์ต่างๆได้
เหนืออ่างติดตั้งตู้กระจกเงา ด้านในแบ่งเป็นช่องเก็บของ และด้านล่างจะมีไฟซ่อนสวยๆ มาให้ตามนี้ ส่วนด้านข้างมีเต้าเสียบ ปลั๊กไฟ พร้อมฝาครอบกันน้ำ
ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์แบบ Dual Flush ติดตั้งมาพร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระ
สำหรับห้องอาบน้ำจะมี Shower Box ติดตั้งมาให้เป็นสัดส่วน ประตูเป็นบานผลักเข้าด้านใน
มือจับก้านยาว สามารถวางพาดผ้าขนหนูได้
ภายในห้องน้ำติดตั้งฝักบัวขนาดใหญ่ ปรับขนาดหยดน้ำได้พร้อม Rain Shower และชั้นวางสบู่
ขนาดห้องอาบน้ำพอให้ยืนอาบได้สบายๆ
ห้องตัวอย่างแบบถัดมา เราจะมาดู ห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 52 ตร.ม ฟังก์ชั่นในห้องเมื่อเข้ามาจะเจอกับพื้นที่โถงกว้างๆ แบ่งพื้นที่เป็นห้องทานอาหาร เชื่อมต่อไปยังห้องนั่งเล่นและระเบียงภายนอก ส่วนห้องครัวเมื่อเข้าห้องมาจะอยู่ทางซ้ายมือ ได้เป็นครัวปิด มีระเบียงภายนอก ส่วนทางขวามือจะเป็นห้องน้ำ ซึ่งจะมีเพียงห้องเดียว สามารถเข้าถึงได้ 2 ทาง จากทางห้องทานอาหารและห้อง Master Bedroom
ส่วนห้องนอนจะสามารถเข้าได้จากบริเวณห้องนั่งเล่น ฝั่งซ้ายเป็นห้องนอนรอง และฝั่งขวาเป็นห้อง Master Bedroom มีพื้นที่ Walk – in Closet และมีทางเข้าห้องน้ำด้วยค่ะ
เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอกับพื้นที่ทานอาหารก่อน มองตรงไปเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น ส่วนแสงธรรมชาติที่ได้ภายในห้องนี้จะมาจากประตูเชื่อมระเบียงภายนอก ความสูงฝ้าเพดาน 2.7 เมตร
มองย้อนกลับไปทางประตู ติดกับประตูเจะได้ตู้เก็บของ ชั้นล่างเป็นชั้นวางรองเท้า
พื้นที่ห้องทานอาหารสามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาดประมาณ 3 – 4 ที่นั่งได้
จากห้องทานอาหารเราไปดูห้องครัวทางซ้ายมือ
โดยครัวที่ได้จะได้เป็นครัวปิด ประตูบานเลื่อนคู่ บานกรอบอลูมิเนียมกระจกใส ช่วยให้ห้องไม่ทึบ ภายในห้องครัวได้เคาน์เตอร์ครัว 2 ฝั่ง ตามในห้องตัวอย่างเลย
โดยชุดเคาน์เตอร์ครัวที่ได้จะมี Spec เหมือนๆกับห้องตัวอย่างห้องที่แล้ว เพียงแต่จะได้ขนาดและฟังก์ชั่นเพิ่มเติมบางจุด โดยเคาน์เตอร์ฝั่งขวามือจะติดตั้งเตาไฟฟ้า 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควัน
ตู้และเคาน์เตอร์ฝั่งซ้าย ติดตั้งซิ้งค์ล้างจาน และมีพื้นที่วางตู้เย็นค่ะ
ระยะทำครัวประมาณ 90 ซม. พอให้ยืนทำครัวคนเดียวได้สบาย แต่ถ้ามีคนมาช่วยอาจจะแน่นๆหน่อยนึง
จากห้องครัวจะมีพื้นที่เชื่อมออกไปยังระเบียงภายนอกด้วยประตูบานเลื่อนคู่
ระเบียงภายนอกพื้นลดระดับลงไปประมาณ 10 ซม. ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 60 x 60 ซม.
ติดโคมไฟติดผนังมาให้ 1 ดวง พร้อมเต้าเสียบปลั๊กไฟ ติดฝาครอบกันน้ำ
Facade บานเลื่อนเราสามารถเลือกได้ว่าจะเลื่อนเปิดปิดแบบไหน แต่จะมีมาให้ในบางห้องนะคะ
ถัดมาเราจะไปดูในส่วนของห้องนั่งเล่นกันต่อ
พื้นที่ห้องนั่งเล่นวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง ได้ระยะการใช้งานที่พอดี เหมาะสมกับระยะของกำแพงที่เหลือ
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นที่วางทีวี เราสามารถ Built – in เป็นตู้เก็บของสูงๆก็ได้ จะได้มีพื้นที่เก็บของเยอะขึ้น ระยะดูทีวีเหลือประมาณ 1.6 เมตร สามารถวางทีวีขนาดประมาณ 26″ – 42″ ค่ะ
จากห้องนั่งเล่นสามารถเชื่อมต่อออกไปยังพื้นที่ระเบียงภายนอกได้ โดยระหว่างพื้นที่จะถูกกั้นด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอน
พื้นระเบียงลดระดับลงไปประมาณ 10 ซม. ระเบียงค่อนข้างกว้าง พอให้วางราวตากผ้าได้ หรือใครจะวางโต๊ะกาแฟเล็กๆ/ไม้กระถางขนาดเล็กๆก็พอได้อยู่ค่ะ
มีตะแกรงกั้นเป็นห้องสำหรับวางแอร์คอมเพรสเซอร์แยกไว้เป็นสัดส่วน อีกด้านจะติดโคมไฟมาให้ 1 ดวง
กลับเข้ามาในห้องนั่งเล่น มองย้อนไปทางห้องทานอาหาร
ต่อมาเราจะไปดูส่วนของห้อง Master Bedroom ต่อด้วยห้องน้ำห้องเดียวของห้องนี้กันต่อ
เข้ามาในห้องนอนจะเห็นว่าพื้นที่จะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วน Walk – in Closet และ พื้นที่ห้องนอน
ตู้เสื้อผ้าได้เป็นบานเปิดคู่ ด้านในแบ่งเป็นราวแขวนเสื้อ 2 ช่อง, 2 ลิ้นชัก เก็บของและ 1 รางเลื่อนสำหรับพาดกางเกง ส่วนด้านบนก็แบ่งช่องไว้ให้สำหรับเก็บพวกผ้าขนหนู หรืออื่นๆ
ติดกับตู้เสื้อผ้าเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง ด้านล่างมีลิ้นชักเก็บของให้ 1 ช่อง ระยะใช้งานส่วน Walk – in Closet ประมาณ 1 เมตร
ในส่วนของห้องนอนจะได้ช่องแสงบานใหญ่ ความสูงเกือบจรดฝ้ามาด้วย ทำให้ห้องนี้ดูโปร่งมาก
โดยชุดช่องแสงบานใหญ่ที่ได้ จะได้เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง ผสมบานฟิกซ์
เมื่อวางเตียงขนาดควีนไซส์ลงไปแล้วจะเหลือระยะข้างเตียง พอให้วางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้ง 2 ด้านเลยค่ะ
ส่วนปลายเตียงพอให้เดินผ่านได้สะดวก มีเดินช่องรับสัญญาณ และเต้าเสียบปลั๊กไฟมาพร้อมใช้งาน
มองย้อนไปฝั่ง Walk – in Closet
ตู้เสื้อผ้าฝั่งห้องนอนจะเปิดได้ 1 บาน เป็นช่องวางของเชื่อมอยู่กับฝั่งโต๊ะเครื่องแป้งนั่นเองค่ะ
ภายในห้องน้ำมีทางเข้าออก 2 ทาง คือจากทางฝั่งห้องทานอาหารด้านนอกและจากห้องนอน Master Bedroom
ส่วนฟังก์ชั่นในห้องน้ำนี้จะมีแยกส่วนแห้งและส่วนเปียกมาเรียบร้อย
อ่างล้างมือที่ได้จะได้อ่างล้างมือทรงสี่เหลี่ยมแบบหลุม และโถสุขภัณฑ์ ยี่ห้อ Cotto ผนังข้างโถสุขภัณฑ์จะเว้าเข้าไปช่วยให้มีที่วางของเพิ่มขึ้น
อีกด้านเป็น Shower Box บานเปิดแบบผลักเข้าด้านใน ภายในห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัวแบบ Rain Shower และ Hand Shower ขนาดค่อนข้างใหญ่ ยี่ห้อ Cotto
พื้นห้องน้ำมีธรณีก่อสูงขึ้นมาประมาณ 5 ซม. ขนาดห้องอาบน้ำ พอให้ยืนอาบได้สบายๆ
ออกมาจากห้อง Master Bedroom ถัดมาเราไปดูในห้องนอนรองกันต่อ
ภายในห้องนอนรองทางโครงการจะจัดเป็นห้องนอนเด็ก จะเห็นว่าการจัดวางเตียงในห้องนี้จะมีระยะที่พอดีๆ เหลือพื้นที่ข้างเตียงค่อนข้างเยอะ สามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้
ส่วนตู้เสื้อผ้าที่ได้แถมมาจะมี Spec เหมือนห้องอื่นๆทุกห้อง
ภายในตู้ค่ะ
ราคา (พ.ค.63)
จอง 5,000 บาท
ค่าส่วนกลาง 52 บาท/ตร.ม./เดือน (ตั้งแต่ปี 2565)
ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก* www.sansiri.com/condominium/theline-phahon-pradipat/th/
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ : The Line พหลฯ – ประดิพัทธ์ ตั้งอยู่ติดถนนประดิพัทธ์ฝั่งมุ่งหน้าแยกสะพานควาย จุดเด่นของโครงการนี้คือตั้งอยู่เกาะเส้น BTS ในระยะทางประมาณ 550 เมตร ที่ถึงแม้ว่าจะเกินระยะเดินสบายไปหน่อยแต่เส้นทางจาก BTS จนมาถึงตัวโครงการจะมีฟุตบาทตลอดทาง ทำให้การเดินเท้ามาโครงการยังพอรับได้อยู่ แต่เนื่องจากย่านนี้มีคนอาศัยอยู่เยอะ ทำให้เวลาเดินช่วงเช้าหรือเย็นๆจะมีคนค่อนข้างแน่น อาจจะต้องเผื่อเวลากันนิดนึงเพราะเราเร่งฝีเท้าไม่ค่อยได้ ต้องเดินตามสเต็ปไปค่ะ
จุดเด่นอีกอย่างของทำเลที่ตั้งโครงการคือความอุดมสมบูรณ์โดยรอบที่มีค่อนข้างเยอะ ออกมาหน้าโครงการก็มีร้านให้เลือกหลายร้านทั้งกลางวันและกลางคืน โดยจะเป็นร้านในราคาที่สามารถจับจ่ายในชีวิตประจำวันได้สบายๆค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : สะดวกค่ะ ตัวโครงการติดถนนถนนประดิพัทธ์ ที่สามารถเชื่อมกับถนนเส้นหลักๆอย่างพหลโยธินและถนนสุทธิสารวินิจฉัยได้ นอกจากนั้นตัวถนนประดิพัทธ์เองยังใช้วิ่งยาวไปเชื่อมกับถนนทหารและถนนสามเสน ใช้ลัดไปถนนราชวิถีเพื่อไปฝั่งธนฯได้ นอกจากนั้นยังใช้ไปถนนพระราม 6 , ถนนเทอดดำริ, ถนนพระราม 5 ที่สามารถใช้เชื่อมไปถนนประชาชื่นใช้วิ่งยาวผ่านรัชดาภิเษกไปจนถึงแจ้งวัฒนะ หลักสี่ได้ค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : มีให้เลือกใช้หลายเส้นทาง โดยจุดเด่นของโครงการอยู่ที่ห่างจาก BTS สะพานควายประมาณ 550 ม. มีฟุตบาทตลอดทางจากโครงการถึงตัวสถานีจึงทำให้เดินได้สะดวกแต่จำนวนคนใช้ฟุตบาทจะเยอะหน่อย ทำให้ในเวลาเร่งด่วนอาจจะเร่งฝีเท้าไม่ค่อยได้ จึงต้องเผื่อเวลาเดินทางให้ดีค่ะ
นอกจากนั้นยังมีป้ายรถเมล์อยู่เยื้องจากหน้าโครงการ และพี่วินมอเตอร์ไซค์อยู่ตรงปากซอยประดิพัทธ์ 21 ที่ติดกับพื้นที่ของโครงการเลย ส่วน Taxi เรียกหน้าโครงการได้เลย ภาพรวมถือว่าสะดวกไม่มีรถส่วนตัวก็อยู่โครงการนี้ได้อย่างไม่ลำบากค่ะ
การออกแบบโครงการและวัสดุ : โครงการออกแบบมา 1 อาคารพักอาศัย สูง 46 ชั้น และ 1 อาคารส่วนกลางสูง 2 ชั้น บนพื้นที่ดินขนาดประมาณ 5 ไร่ มีแนวคิดการออกแบบที่คำนึงถึงความกลมกลืน และสอดคล้องไปกับธรรมชาติ Concept การออกแบบที่ออกแบบมาที่ต้องการให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกเหมือนอยู่ในบ้านหลังใหญ่ที่ถูกโอบกอดด้วยธรรมชาติ
การออกแบบห้องพักอาศัยที่นี่มีให้เลือกมากถึง 39 แบบ แต่แยกเป็นแบบหลักๆได้ตามจำนวนห้องนอน คือ 1 Bedroom มีขนาดตั้งแต่ 26.25 – 40.75 ตร.ม. , 2 Bedroom ขนาดตั้งแต่ 51.50 – 67.00 ตร.ม. , 3 Bedroom ขนาดตั้งแต่ 79.00 – 111.50 ตร.ม.
โดยทุกแบบจะถูกออกแบบมาให้ดูโปร่งไม่อึดอัดด้วยความสูงฝ้า 2.7 ม. กระจกภายในห้องให้มาใหญ่ สูงจากพื้นจนเกือบถึงฝ้าเลย ช่วยในเรื่องแสงที่เข้าถึงในห้องได้ดี การจัดฟังก์ชั่นในห้องจากที่ได้ดูในห้องตัวอย่างก็ลงตัว ไม่มีจุดไหนที่ใช้งานแล้วรู้สึกติดขัด
โครงการขายแบบ Fully Fitted เฟอร์นิเจอร์ตัวมาตรฐานหลักที่จะมีมาให้ทุกห้อง เป็นแบบ Built – in คือเคาน์เตอร์ครัว Top เป็น Porcelain Slab อ่างล้างจานฝังท็อป และ Hob & Hood ของ Mex และตู้เสื้อผ้าบานกระจกสีดำ
พื้นครัว, ระเบียงและห้องน้ำใช้กระเบื้อง ส่วนห้องนอนและห้องนั่งเล่นพื้นปูลามิเนต, ประตูทางเข้าห้องได้ Digital Door Lock จาก Yale และสุขภัณฑ์ครบชุดจาก Cotto ทั้งหมด พร้อม Shower Box กระจกนิรภัย
สิ่งอำนวยความสะดวก : Facilities เป็นอีกจุดเด่นของโครงการ โดยรวมทำออกมาได้สวยน่าใช้ตามสไตล์แสนสิริ จะมีส่วนกลางมาตรฐานในอาคารหลักคือ Lobby สูง 9.2 เมตร ที่ชั้น 1, สระว่ายน้ำแยกสระเด็กสระผู้ใหญ่ ขนาด 30 x 7 เมตร พร้อม Pool Terrace, Play Ground, Rooftop Garden, Sky Lounge, Fitness, Sauna & Stream
และอาคารส่วนกลางแยกจากอาคารหลัก มี Secret Garden, Co-Kitchen, Co-Working Space, Outdoor Dinning, Theatre Room
ลิฟต์โดยสารมีให้ 6 ตัว อัตราส่วนอยู่ที่ 163 ต่อลิฟต์ 1 ตัว ที่จอดรถจอดได้ที่ชั้น 2 – 8 และรอบๆอาคาร ทั้งโครงการจอดได้ 50% รวมซ้อนคัน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1685
Website : http://www.sansiri.com
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
ขายดาว์นห้องขนาด 33.5 ตร.ม. ที่คอนโดไลน์ ประดิพัทธ์ type 1F ชั้น 25 ทิศออกใต้ วิวสระ ไม่โดนแดดบ่ายครับ เจ้าของขายเอง สนใจสอบถามได้นะครับที่ 090-9947101