รีวิวจองคอนโดออนไลน์กับ Ananda พร้อมทริคการเลือกห้องโครงการ Ideo Mobi Asoke / Venio Sukhumvit 10
สวัสดีค่ะผู้อ่าน Homenayoo ทุกท่าน สำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดใจกลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้า เพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อการลงทุนกันอยู่นั้น วันนี้เรามีบทความฉบับพิเศษมาฝากกันค่ะ กับรีวิวจองคอนโดออนไลน์กับ Ananda พร้อมทริคการเลือกห้องโครงการ Ideo Mobi Asoke และโครงการ Venio Sukhumvit 10 ซึ่งเป็นโครงการใหม่ล่าสุดจาก Ananda บนทำเลสุดฮอตใจกลางเมืองย่านอโศกที่ใกล้รถไฟฟ้าทั้งคู่
ด้วยความร้อนแรงของทำเลและความแข็งของแบรนด์ที่ติดตลาดและมีประสบการณ์สูง ทำให้โครงการลักษณะนี้ปกติแล้วในวันจองจะมีความวุ่นวาย คิวยาว รถติด ไม่มีที่จอดรถ จองไม่ทันหรืออื่นๆอีกมากมาย ซึ่งเราจะเห็นกันอยู่เรื่อยๆตามวันเปิดจองคอนโดที่ขึ้นบนที่ดินโซนที่เริ่มหายากแบบนี้ จึงเป็นครั้งแรกของอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ กับการพลิกโฉมรูปแบบการจองคอนโดผ่านออนไลน์แพลตฟอร์ม Ananda Online Booking พร้อมราคาสุดพิเศษ ส่วนลดสูงสูด 200,000 บาท จองผ่านออนไลน์เท่านั้น รายละเอียดขั้นตอนการจองพร้อมทริคการเลือกชั้นและห้องของแต่ละโครงการจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่า : )
เริ่มจากข้อดีของการจองแบบ Ananda Online Booking กันก่อนนะคะ จะได้เห็นภาพกันว่ามันดีกว่าการจองแบบปกติยังไงบ้าง ซึ่งข้อดีหลักๆเลยคือ
- Easy จองได้ง่ายและจ่ายได้สะดวกกว่า หลายๆคนที่ยุ่งๆทั้งเรื่องงานหรือติดธุระอยู่ที่อื่นในวันนั้นพอดี ก็สามารถจองออนไลน์และจ่ายทางมือถือหรือคอมพิวเตอร์ได้เลย โดยไม่ต้องมาถึง Sales Office นั่นเอง
- Fast ไวกว่าการจองปกติ เนื่องจากหน้าจอจะมีข้อมูลตัวโครงการ ชั้น และ ห้องมาให้เลือกเลยแบบชัดๆ
- Smart เป็นระบบอัจฉริยะที่ช่วยประหยัดเวลาและพลังงานให้เรา เพราะเราจองผ่านระบบออนไลน์ ได้ทุกที่ ทุกเวลา และ ทุก Device
- Secure มีความปลอดภัยสูง เพราะมีการการันตีความปลอดภัยผ่านระบบ E-Payment ผ่านบัตรเครดิตจากธนาคารชั้นนำ
ซึ่งโครงการจะเปิดให้จองออนไลน์ พร้อมส่วนลดพิเศษสูงสุด 200,000 บาท ภายในวันที่ 22 กันยายน 2559 นี้ เพียงวันเดียว ในช่วงเวลา 3 ทุ่ม – เที่ยงคืน เท่านั้นนะคะ ซึ่งตอนนี้ผู้สนใจให้คลิกที่ภาพด้านบนหรือเข้าไปที่เว็บ www.ananda.co.th/onlinebooking เพื่อลงทะเบียนรับ Username และ Password ค่ะ สามารถเข้าไปกรอกข้อมูลพร้อมตรวจสอบ Email ของคุณเพื่อยืนยันสิทธิในการจองในวันที่ 22 กันยายน นี้ได้เลย
ก่อนวันจองคอนโดที่ 22 กันยายน นี้ เราก็เตรียมความพร้อมกันไปก่อนนะคะ ไม่ว่าจะเช็ควงเงินเราในบัตรเครดิตว่าเพียงพอมั้ย ถ้าใครใช้บัตรเดบิตก็จองได้เช่นกันนะคะ แต่ต้องโทรไปธนาคารเพื่อ Activate บัญชีเพื่อชำระเงินออนไลน์ก่อนนั่นเอง โดยราคาจองห้องของทั้งสองโครงการจะอยู่ที่ 30,000 – 100,000 บาทค่ะ
สำหรับคนที่เป็นสมาชิก AMC ด้วย ว่าให้ตรวจสอบ AMC Code เพื่อรับสิทธิพิเศษในการจองด้วยค่ะ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ 02-316-2222
อีกอย่างที่เป็น Must have ที่ควรทำก่อนวันจอง คือเราควรเริ่มศึกษาข้อมูลโครงการที่เราจะซื้อ และเลือกชั้นเลือกห้องเผื่อไว้ 2-3 ห้อง เผื่อกรณีวันจองมีคนจองไปก่อนเรา เราก็จะยังได้มีตัวเลือกที่เราต้องการเผื่อเอาไว้อยู่นะคะ โดยขั้นตอนการจองในวันที่ 22 กันยายนนี้ จะแบ่งเป็น 3 สเต็ปหลักๆดังนี้ค่ะ
Step 1 เลือกโครงการที่ถูกใจ ซึ่งในกรณีนี้คือมี 2 โครงการให้เลือกคือโครงการ Ideo Mobi Asoke และโครงการ Venio Sukhumvit 10 ซึ่งเราจะจองไว้ทั้งสองโครงการก็ทำได้นะคะ แต่คือเลือกจองให้เสร็จกันไปทีละโครงการแล้วค่อยมากดใหม่นั่นเอง และเนื่องจากเวลามีจำกัดเพียง 3 ชั่วโมง เราว่าอันนี้คิดจัดลำดับไว้ก่อนก็ดีค่ะ ว่าอยากได้โครงการไหนมากกว่ากัน แล้วเราเลือกโครงการที่เราอยากได้มากที่สุดไว้ก่อน
Step 2 เลือกชั้น / ห้อง ซึ่งแต่ละคนก็มีความต้องการที่แตกต่างกันไปนะคะ แต่อย่างที่แจ้งไว้ข้างต้นค่ะ คือแนะนำให้เก็งไว้ก่อนเลย ว่าเราอยากได้ชั้นไหนห้องไหนบ้างเผื่อไว้ พอถึงตอนเลือกชั้นเลือกห้องเราก็จะจัดการได้รวดเร็วเพราะเลือกไว้แล้ว สมมติห้องที่อยากได้เต็มก็ลองห้องหรือชั้นถัดไปที่เราเลือกเผื่อไว้แล้วนั่นเอง ซึ่งอันนี้ส่วนท้ายบทความจะมีทริคประกอบการตัดสินใจเลือกห้องมาให้ด้วยค่ะ
Step 3 จอง จ่าย จบ ตามนั้นเลยค่ะ อารมณ์แบบซื้อของออนไลน์หรือจองตั๋วเครื่องบินออนไลน์เลย คือพอเลือกชั้นเลือกห้องเรียบร้อย เรากดยืนยันการจอง และจ่ายเงินออนไลน์ผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตที่ Activate สำหรับจ่ายออนไลน์ไว้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ
เลือกโครงการไหน ชั้นไหน ห้องไหน ถึงจะดีที่สุด? คงเป็นคำถามที่หลายๆคนถามตัวเองกันอยู่นะคะ ซึ่งจริงๆก็เป็นคำถามปลายเปิดซึ่งแปรผันกับความต้องการของแต่ละคน รวมถึงงบประมาณที่แตกต่างกันด้วยค่ะ แต่มันก็มีหลักการในการเลือกอยู่เช่นกัน ในบทความนี้เราจะเลือกชั้นและห้องที่เราว่าน่าจองใน 2 โครงการนี้ให้ดูเป็นไอเดียเพิ่มเติมกันด้วยนะคะ
เริ่มจากราคาและชั้นของทั้งสองโครงการ ที่นำมาจัดโปรโมชั่นในการจองออนไลน์วันที่ 22 กันยายนนี้กันก่อนนะคะ ซึ่งส่วนลดก็จะมีตารางมาเลยคือโครงการ Venio Sukhumvit 10 ราคาห้องเริ่มต้นที่ 3.49 ล้านบาท จะเปิดให้จองชั้น 2 และชั้น 4 ซึ่งมีส่วนลดเท่ากันหมดทุกห้องคือ 20,000 บาท โดยราคาจองสตูดิโอเริ่มที่ 30,000 บาท 1 Bed 40,000 บาท และ 2 Beds/Duplex 50,000 บาท
ส่วน Ideo Mobi Asoke ราคาห้องเริ่มต้นที่ 4.19 ล้านบาท เปิดให้จองชั้น 10, 22, 32 ซึ่งส่วนลด Studio กับ 1 Bed ลดให้ 100,000 บาท และ 2 Beds เป็นส่วนลดสูงสุดคือ 200,000 บาท โดยราคาจองสตูดิโอกับ 1 Bed มีราคาเท่ากันคือ 50,000 บาท และ 2 Beds/Duplex 100,000 บาท
ก่อนวันเปิดจองจริง จะมีวันทดลองเปิดจองวันที่ xx กันยายน พร้อมราคาของยูนิตต่างๆมาให้ผู้จองเปิดดูกันอีกทีค่ะ ตอนนี้เรามาไล่ดูข้อมูลและแปลนชั้นและห้องที่เปิดจองกันไปทีละโครงการ โดยเริ่มจาก Ideo Mobi Asoke กันก่อน
ก่อนที่เราจะมาเลือกชั้นเลือกห้องกันได้นี่ เราต้องมีความมั่นใจและเข้าใจในตัวทำเลโครงการกันก่อนนะคะ อย่าง Ideo Mobi Asoke เราเคยเขียนรีวิววิเคราะห์ทำเลโครงการซึ่งรวมถึง ศักยภาพของทำเลในอนาคต บรรยากาศรอบโครงการ และมีภาพพาเดินจากที่ตั้งโครงการไป MRT เพชรบุรี เอาไว้ โดยผู้อ่านสามารถเข้าไปดูรีวิวพร้อมข้อมูลการวิเคราะห์ทำเลโครงการ Ideo Mobi Asoke จากเราได้ ที่นี่
คลิกที่ภาพเพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่
หลังจากศึกษาข้อมูลทำเลโครงการแล้ว เราเห็นว่ามีศักยภาพและเป็นทำเลที่ดีจริงน่าซื้อหา เราก็มาดูตัวตึกโครงการกันต่อนะคะ เพราะบทความนี้เราจะโฟกัสเรื่องการเลือกห้องและเลือกชั้นเป็นหลักค่ะ โดยโครงการ Ideo Mobi Asoke เป็นโครงการคอนโดมิเนียม High Rise 36 ชั้น+ชั้นลอย 1 อาคาร ยูนิตที่พักอาศัย 507 ยูนิต ยูนิตร้านค้า 1 ยูนิต รวมทั้งหมด 508 ยูนิต
พื้นที่ส่วนกลาง ก็อลังการงานสร้างสไตล์แบรนด์ไอดีโอที่เด่นเรื่องดีไซน์และส่วนกลางที่สวยอยู่แล้วนะคะ ส่วนหนึ่งเพราะเป็นโครงการ High Rise ด้วย ก็จะได้ส่วนกลางมาเยอะและใหญ่เลย โดยจะมีพื้นที่ส่วนกลางหลักๆอยู่ 3 ชั้น คือชั้นล่างเป็น Lobby พร้อมสวน, ลานจอดรถชั้น 1 – 6 และ Urban Trail Running ทางวิ่งไล่ระดับจากชั้น 1 ขึ้นไปสวนชั้น 7 ได้ ชั้น 7 มี Retreat Garden หรือสวนพร้อมลู่วิ่ง และชั้น 36 ชั้นบนสุดเป็นชั้นส่วนกลางหลักของโครงการค่ะ ทุกยูนิตไม่ว่าจะวิวไหน มุมไหน ก็สามารถขึ้นไปใช้งานส่วนกลาง และชมวิวเมืองได้ทุกคนค่ะ
ส่วนกลางชั้น 36 นี้ประกอบด้วย Sky Lounge, Panoramic Skypool, Jacuzzi , Library & Co-Working space, Changing Rooms, Steam room and Sauna พร้อม Cloud Fitness และ Scenic Deck อยู่ชั้น 36M สวนชั้นดาดฟ้าอีกชั้น
เราไปดูรายละเอียดการจัดผังห้องของชั้น 10, 22, 32 ที่เปิดให้จองออนไลน์พร้อมส่วนลดพิเศษกันต่อเลยค่ะ ว่าเราจะเลือกห้องไหนชั้นไหนกันดี
เริ่มกันจากชั้น 10 ที่เปิดให้จองกันก่อนนะคะ โดยผังอาคารจะเป็น Typical Floor Plan ที่ชั้น 8 – 15 จัดเหมือนกันหมด ใครที่ดูวิเคราะห์ทำเลมาจะทราบว่าโครงการ ไอดีโอ โมบิ อโศก นี้ มีเงื่อนไขที่น่าสนใจของที่ตั้งอยู่ คือขนาบสองฝั่ง ทิศตะวันออกด้วยคอนโดมายรีสอร์ทสูง 35 ชั้น และทิศตะวันตกเป็นคอนโดศุภาลัย พรีเมียร์ อโศก สูง 38 ชั้น ทำให้ผังโครงการถูกออกแบบมาแบบหันด้านเฉียงเพื่อไม่ให้แต่ละยูนิตบล็อควิวกันนั่นเอง
ข้อดีของชั้น 10 นอกจากได้ส่วนลดพิเศษของการจองออนไลน์แล้ว อย่างแรกคือ ราคาชั้น 10 ปกติแล้วจะถูกกว่าชั้นบนๆ อย่างชั้น 22 และ 32 นั่นเองค่ะ ความสูงชั้น 10 ห่างจากพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นสวนชั้น 7 ขึ้นมา 2 ชั้น ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวและห่างจากเสียงรบกวนพอสมควร
ต่อมาผังชั้น 22 ที่เปิดให้จองกันต่อ โดยผังอาคารจะเป็น Typical Floor Plan ที่ชั้น 16, 18, 20, 22, 24, 26, 28 และ 30 จัดเหมือนกันหมด ซึ่งข้อดีของชั้น 22 คือการเป็นชั้นที่ถือว่าเริ่มสูงและสามารถมองวิวออกไปได้ไกลแล้วค่ะ เนื่องจากส่วนใหญ่ใครๆก็อยากได้ชั้นสูงๆทั้งนั้น ยิ่งโครงการที่เอาพื้นที่ส่วนกลางหลักๆไปไว้ชั้นบนสุดแบบนี้แล้วด้วย ราคาชั้นบนๆที่วิวดีและใกล้พื้นที่ส่วนกลางนั้นราคาสูงกว่าชั้นกลางๆแน่นอนค่ะ
การจัดผังก็จะเหมือนๆกันกับชั้น 10 เลย จึงขอพูดเรื่องการเลือกห้องไว้พร้อมกันในส่วนนี้เลยนะคะ การเลือกห้องจริงๆนั้นแล้วแต่ความชอบและงบประมาณของแต่ละคนนะคะ แต่ในแง่ความได้เปรียบในด้านการขายต่อให้ได้ราคาดี ปล่อยเช่าให้ง่ายและเร็ว มันก็มีหลักการของการเลือกห้องที่ดีอยู่ดังนี้ค่ะ
อย่างแรกคือทิศห้องกับวิว ซึ่งอันนี้ในผังจะเห็นว่าเราลงสีกับเขียนอาคารรอบๆคร่าวๆไว้ให้เห็นภาพกันนะคะ แน่นอนว่าไม่ใช่ระยะห่างเป๊ะๆที่เอามาใช้อ้างอิงกันได้แบบเมตรต่อเมตร แต่เอาพอเห็นภาพนะคะ ให้เราดูด้านที่ลมดี ไม่เจอแดดแรง เห็นวิวดี เราเลือกด้านที่เป็นยูนิต 16 – 11, 16 – 12 และ 16 – 12A ค่ะ คือหันหน้าไปทางทิศเหนือ วิวฝั่งถนนเพชรบุรี เพราะสามารถมองออกไปทางที่ดินมักกะสันที่ต่อไปมีแผนเป็นสวนสาธารณะใหญ่ และ แอร์พอร์ตลิงก์มักกะสันได้ แถมตำแหน่งห้องอยู่ห่างลิฟท์ดีมีความเป็นส่วนตัว ไม่ติดห้องขยะหรือห้องงานระบบ
แถมจากการที่เราไปเดินดูทำเลโครงการมา คอนโดเพื่อนบ้านอย่างศุภาลัย พรีเมียร์ อโศก นั้นสูง 38 ชั้นก็จริง แต่ตัวตึกนั้นจะอยู่ติดมาทางด้านหลังที่ดินโครงการติดคลองแสนแสบ ทำให้ด้านหน้าตึกนั้นเป็นสวนโล่ง ทำให้ด้วยมุมเอียงของตึกที่หันหน้าไปทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนืออย่างยูนิต 16 – 07 ไปจนถึง 16 – 12A ถือว่าเป็นด้านที่ได้วิวดีค่ะ มองออกไปทางแยกเพชรบุรีได้ ยิ่งหลังจากโครงการ สิงห์คอมเพล็กซ์ สร้างเสร็จ ด้านนี้จะเห็นวิวตึกสิงห์ด้วย ซึ่งเราใช้เรื่องวิวเป็นกิมมิคในการขายต่อหรือปล่อยเช่าได้ดี บวกได้แดดไม่แรงเพราะหันหน้าไปทางทิศเหนือด้วย แต่ด้านอื่นจริงๆก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไปซึ่งเราจะอธิบายในผังชั้น 32 รวมถึงเรื่องราคาส่วนต่างที่ต้องมาพิจารณากันอีกทีตอนราคาออกมาด้วยค่ะ
ต่อมาผังชั้น 32 ซึ่งถือเป็นชั้นสูงสุดเปิดให้จองกัน ซึ่งสำหรับคนที่เล็งชั้นสูงอยู่ เราว่าชั้น 32 เป็นชั้นที่เวิร์คมากในหลายๆข้อค่ะ ข้อแรกคือจัดอยู่ในชั้นสูงของโครงการและมองวิวออกไปได้ไกล ข้อสองคืออยู่ห่างจากพื้นที่ส่วนกลางหลักๆชั้นบนสุดอย่างชั้น 36 และสวนชั้นดาดฟ้าเพียง 4 ชั้น สำหรับเรา มันดีกว่าชั้น 35 หรือ 34 ซะอีกค่ะ เพราะว่าเราอยู่ห่างจากเสียงรบกวนจากพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ของชั้น 36 ซึ่งห่างมา 4 ชั้นนี่ถือว่ากำลังโอเคเลย แถมเวลาจะขึ้นลิฟต์ไปใช้งานก็แค่แปปเดียว เดินขึ้นบันไดไปยังได้ แต่ปกติยิ่งชั้นสูง ราคาก็จะยิ่งสูงตามไปด้วยนั่นเองค่ะ
แถมชั้นนี้มีสวนหย่อมอยู่ด้วยค่ะ ซึ่งนอกจากจะทำให้ความหนาแน่นห้องน้อยลง 2 ห้องต่อชั้นแล้ว ยังได้พื้นที่พักผ่อนชมวิวดีๆเพิ่มจากส่วนกลางอีกด้วย ส่วนการจัดผังอื่นๆไม่ได้ต่างกับชั้น 10 และ 22 เลยค่ะ วิวจึงคล้ายกัน ต่างกันที่ระดับความสูงนั่นเอง
ด้านที่ถือว่าได้ลมดี แสงอ่อนๆยามเช้า คือด้านทิศตะวันออก ฝั่งที่หันไปทางคอนโดมายรีสอร์ท 35 ชั้นนะคะ คือด้านนี้ลมแดดดีสุดละ และตัวโครงการก็จัดมุมมา ให้ยูนิตด้านนี้มีระยะห่างจากคอนโดมายรีสอร์ทเข้ามา และตัวระเบียงห้องไม่บล็อควิวกัน ยกเว้นห้องสตูดิโอที่ดูจะไม่เน้นการใช้ระเบียงมาก
ส่วนฝั่งห้องที่หันไปทางด้านหลังที่ดิน ทางทิศใต้ ที่แดดอาจจะแรงกว่าด้านอื่นซักหน่อย แต่ข้อดีที่ได้มากกว่าด้านอื่น คือหันไปทางฝั่งถนนสุขุมวิท ที่ดินด้านล่างอยู่ติดคลองแสนแสบ ถัดไปเป็นวิวอาคารของ มศว คณะแพทย์ศาสตร์ ซึ่งจัดเป็นวิวที่น่าสนใจทีเดียว เพราะชั้นสูงๆนี่มองออกไปเห็นมหาวิทยาลัยแทบทั้งหมดพร้อมวิวถนนอโศกมนตรีวิ่งไปทางสุขุมวิท และตอนกลางคืนหรือวันหยุดที่มหาวิทยาลัยปิดหรือนักศึกษากลับบ้าน ก็กลายเป็นด้านที่มีความเป็นส่วนตัวสูงสุดอีกด้วย
มาดูอีกโครงการกันต่อนะคะ กับโครงการ Venio Sukhumvit 10 จะเปิดให้จองชั้น 2 และชั้น 4 ซึ่งมีส่วนลดเท่ากันหมดทุกห้องคือ 20,000 บาท โดยราคาจองสตูดิโอเริ่มที่ 30,000 บาท 1 Bed 40,000 บาท และ 2 Beds/Duplex 50,000 บาท
สามารถเข้าไปดูแผนที่และข้อมูลโครงการได้ ที่นี่ Venio Sukhumvit 10 เป็นโครงการคอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น ยูนิตที่พักอาศัย 162 ยูนิต ซึ่งอันนี้เป็นทำเลที่ตอบโจทย์คนที่ไม่ได้อยากอยู่โครงการใหญ่มาก แต่ชอบโครงการ Low Rise เป็นส่วนตัว ใกล้ห้างทั้ง Robinson และ Terminal 21 ใกล้ BTS โซน CBD อย่างสถานีนานาและอโศก ในระยะเดินประมาณ 650 – 750 เมตร เป็นระยะที่เดินไปกลับได้ และมีความอุดมสมบูรณ์สูง
คลิกที่ภาพเพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่
ตัวโครงการ Venio Sukhumvit 10 ล้อมรอบไปด้วยสวนสาธารณะขนาดใหญ่ถึงสองแห่ง ซึ่งอันนี้ถือเป็นจุดเด่นสำคัญของโครงการเลยค่ะ นอกจากจะอยู่ใกล้ห้างใหญ่และ BTS แบบเดินถึงได้แล้ว พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ก็จัดว่าให้มาครบครัน มีสระว่ายน้ำ สวน ฟิตเนส ซึ่งส่วนนี้จะจัดไว้ชั้นล่างสุดเลย และมีสวนชั้นดาดฟ้ามาให้อีกชั้น และระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ ซึ่งขายแบบ fully furnished ราคาห้องเริ่มต้นที่ 3.49 ล้านบาท
เราไปดูรายละเอียดการจัดผังห้องของชั้น 2 และ 4 ที่เปิดให้จองออนไลน์พร้อมส่วนลดพิเศษกันต่อเลยค่ะ ว่าเราจะเลือกห้องไหนชั้นไหนกันดี
ชั้น 2 ที่เปิดให้จองมีข้อดีหลายอย่างค่ะ สำหรับคนที่ไม่ชอบใช้ลิฟต์ ก็สามารถเดินขึ้นลงบันไดได้สบายๆ และการที่โครงการจัดพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดไว้ชั้นล่าง ไม่ว่าจะเป็นสวน สระว่ายน้ำ หรือห้องฟิตเนส ชั้น 2 นี้ก็มีความสะดวก ลงมาใช้งานได้ง่าย เหมาะกับคนที่ชอบเดิน บวกกับบริบทอาคารที่อยู่ใกล้สวนสาธารณะและความเงียบสงบร่มรื่นของซอยแล้ว ชั้น 2 ก็มีความน่าสนใจและน่าอยู่ทีเดียว บวกกับจะมีความหนาแน่นของยูนิตน้อยกว่าชั้นบนๆถึงสองห้องอีกด้วย แต่ข้อเสียคืออาจมองเห็นวิวไปได้ไม่ไกลนักค่ะ เพราะสูงแค่ชั้น 2 ก็อาจถูกอาคารรอบๆบังวิวได้นั่นเอง
การเลือกชั้นและห้องของอาคาร Low Rise นั้นจริงๆหลักการไม่ได้ต่างกันกับ High rise เลยค่ะ คือทิศลมแดด วิว ซึ่งจะเห็นว่าทางโครงการได้จัดห้อง A2-07 ไปจนถึง A2-16 ที่หันหน้าไปทางทิศเหนือที่ได้แดดอ่อนกว่า ลมเย็นกว่า และวิวหันไปทางถนนสุขุมวิท และสวนชูวิทย์ เป็นห้องที่ใหญ่กว่าห้องที่หันไปทางด้านทิศใต้อยู่แล้วค่ะ แต่โครงการทำเลดี Low Rise แบบนี้ ถ้างบประมาณถึงเราก็เชียร์ซื้อห้องขนาด 33 ตร.ม.ค่ะ เพราะอยู่สบายกว่าห้องเล็กในระยะยาวด้วย แต่ส่วนต่างราคาก็น่าจะไม่น้อยเลย อันนี้ก็เป็นเรื่องที่แต่ละคนต้องชั่งน้ำหนักความต้องการและกำลังในการซื้อดูด้วยค่ะ
ชั้น 4 นี่ก็เป็นชั้นกลางๆของตัวอาคาร ที่ยังเดินขึ้นลงบันไดได้อยู่ และเห็นวิวรอบๆได้ไกลขึ้น มีระยะห่างจากส่วนกลางชั้นล่างมากพอ สำหรับคนที่ต้องการหลีกเลี่ยงเสียงรบกวนจากส่วนกลางนะคะ ซึ่งจากชั้น 4 ขึ้นไป วิวทิศใต้จะมองผ่านโบสถ์คริสตจักรมหาพรสุขุมวิทออกไปที่สวนสาธารณะเบญจกิตติซึ่งอยู่ใกล้โครงการกว่าสวนชูวิทย์และมีขนาดใหญ่กว่าด้วย ซึ่งเราจะเห็นว่าห้องชั้น 4 ทิศใต้ก็เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ทั้งนั้นค่ะ เพราะหันมาทางด้านที่มีวิวสวยนั่นเอง เรียกได้ว่าจากชั้น 4 ขึ้นไปทิศใต้ก็มีความน่าสนใจสูงค่ะ
ในยุคที่ดอกเบี้ยเงินฝากในธนาคารต่ำแบบทุกวันนี้ การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีค่ะ อย่างไรก็ดี การเลือกซื้อคอนโดมิเนียม ถือเป็นการลงทุนก้อนใหญ่ที่ต้องศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลและเตรียมตัวกันดีๆนะคะ หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ต่อคนที่กำลังมองหาคอนโดเพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อลงทุนกันอยู่ค่ะ ขอให้ได้ห้องและชั้นที่ถูกใจ ถูกงบ และส่วนลดดีๆกันถ้วนหน้านะคะ : )
โดยสามารถคลิกที่ภาพด้านบนหรือที่นี่ เพื่อลงทะเบียนรับสิทธิการจองพร้อมส่วนลดพิเศษจากโครงการได้เลยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปค่ะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 02-316-2222
Website : http://onlinebooking.ananda.co.th/register
แสดงความคิดเห็น