EP.955 รีวิว ทาวน์โฮม ซิตี้เซนส์ พระราม 2-ท่าข้าม Citysense Rama 2-Thakham
สวัสดีผู้อ่านชาว HOMENAYOO ทุกคนค่ะ วันนี้เราจะขอพาไปชมโครงการ Citysense พระราม 2-ท่าข้าม จาก ปริญสิริ เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์น บนทำเลเลียบถนนกาญจนาภิเษกใต้ หรืออยู่ข้าง รร.สวนกุหลาบธนบุรี ใกล้ทางด่วนทั้ง 2 จุด เหมาะกับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
ซิตี้เซนส์ พระราม 2-ท่าข้าม โครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวน 425 ยูนิต บนที่ดินประมาณ 43 ไร่ มีแบบบ้านทั้งหมด 3 แบบ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 123 – 168 ตร.ม. 3 แบบ ทั้งหน้ากว้าง 5,5.7 และ 8 เมตร ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของลูกค้าที่แตกต่างกัน ทั้งกลุ่มที่พึ่ง-เริ่มต้นครอบครัว กลุ่มที่มีผู้สูงอายุ และต้องการห้องนอนชั้นล่าง หรือกลุ่มที่ต้องการบ้านใหญ่ รองรับการจอดรถถึง 3 คัน มีจุดเด่นคือ ฝ้าเพดานสูงพิเศษ 2.8 เมตร ทำให้ตัวบ้านดูโปร่งโล่ง ไม่อึดอัด สร้างเสร็จพร้อมอยู่ค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ มีครบครันเน้นใกล้ชิดธรรมชาติ พร้อมคลับเฮ้าส์หรู ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Oxygen Community” ไม่ว่าจะเป็น O2 Club หรือสโมสรส่วนกลาง พร้อมสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่ O2 Park หรือสวนสาธารณะบรรยากาศร่มรื่น พร้อม Outdoor Fitness และสนามเด็กเล่น, Bike Lane หรือเส้นทางจักรยาน เน้นให้ลูกค้าหันมาขี่จักรยาน แทนการขับรถในช่วงวันหยุด เข้า-ออกระบบ Key Card Access พร้อมกล้องวงจรปิด ทางเข้า-ออกโครงการ และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.ในราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท
ส่วนรายละเอียดอื่นๆ จะเป็นอย่างไร อ่านต่อด้านล่างได้เลยค่ะ 😉
ทาวน์โฮม Citysense ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
– Citysense ดอนเมือง-สรงประภา
– Citysense สรงประภา
– Citysense ศาลายา
– Citysense พระราม 2 – ท่าข้าม
– Citysense Prive พระราม 2 – ท่าข้าม
– Citysense เพชรเกษม 69
– Citysense รัตนาธิเบศร์ – เลี่ยงเมืองนนท์ 13
– Citysense รามอินทรา
– Citysense รามอินทรา 109 – วัชรพล
– Citysense บางนา กม.10
ชื่อโครงการ | ซิตี้เซนส์ พระราม 2-ท่าข้าม Citysense Rama 2-Thakham |
เจ้าของโครงการ | ปริญสิริ Prinsiri |
ลักษณะโครงการ |
|
พื้นที่โครงการ | ประมาณ 43 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 425 ยูนิต |
พื้นที่ใช้สอย | เริ่มต้น 123-168 ตร.ม. |
เนื้อที่บ้าน | เริ่มต้น 20.00-53.00 ตร.วา. |
จำนวนห้อง | 3 ห้องนอน, 2-3 ห้องน้ำ |
ที่จอดรถทั้งหมด | 2 คัน |
โซน | ท่าข้าม-พระราม 2 |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ถนนเลียบวงแหวนฯ แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม. |
กำหนดการ | Grand Opening 14 พ.ค. 60 |
ปีที่สร้างเสร็จ | พ.ศ.2560 |
ราคา | เริ่มต้น 2.49 ล้านบาท (พ.ย.60) |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | ซิตี้เซนส์ พระราม 2-ท่าข้าม ทาวน์โฮมใหม่ ฟังก์ชั่นบ้านเดี่ยว พร้อมคลับเฮ้าส์ + สระว่ายน้ำ เริ่ม 2.49 ล้านบาท* |
ถนนกาญจนาภิเษกด้านใต้ (บางพลี-บางขุนเทียน)
เขตทุ่งครุ / เขตบางขุนเทียน
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก (ข้าง รร.สวนกุหลาบธนบุรี) แขวงท่าข้าม เขต บางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร
พิกัด GOOGLE MAP : 13.626016, 100.470965
โครงการ Citysense พระราม 2 – ท่าข้าม เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น ตั้งอยู่ติดถนนพุทธบูชาหรือถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก (วงแหวนใต้) ฝั่งมุ่งหน้าบางขุนเทียน – ชายทะเล ที่อยู่ไม่ไกลจากจุดศูนย์กลางย่านพระราม 2 มากนักค่ะ เน้นทำเลอิงถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอก) ที่มีความสะดวกในการเดินทางด้วยถนนกาญจนาภิเษกเป็นหลัก
ทำเลในย่านนี้ส่วนใหญ่จะเห็นโครงการแนวราบค่อนข้างเยอะมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากการคมนาคมที่สะดวก เข้าถึงศูนย์กลางพระราม 2 อย่างบริเวณเซ็นทรัลพระราม 2 ได้ง่าย ประกอบกับราคาที่ดินในย่านนี้ที่ยังไม่สูงมากนัก สามารถรวมที่ดินได้แปลงขนาดใหญ่ จึงทำให้เกิดโครงการแนวราบขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในราคาขายที่หยิบจับได้ง่าย ไม่แพงเท่าโครงการแนวราบที่ตั้งอยู่บนถนนพระราม 2 ที่ขายกันในราคาหลักสิบล้านกันไปแล้ว
และส่วนใหญ่ที่โซนถนนเลียบวงแหวนนี้ จะเป็นบ้านเดี่ยวค่ะ ทาง ปริญสิริ จึงได้พัฒนาโครงการทาวน์โฮม Citysense แห่งนี้เป็นทางเลือกสำหรับลูกค้า เพิ่มขึ้นอีกทาง โดยทางปริญสิริเอง ก็มีโครงการบ้านเดี่ยว อยู่ใกล้ๆกันอีก 1 โครงการ นั่นก็คือ Zerene พระราม 2 – ท่าข้าม อยู่ห่างจาก Citysense ประมาณ 440 เมตร โดยมีโรงเรียนสวนกุหลาบธนบุรี กับสะพานข้ามคลองบางมดคั่นกลางค่ะ
สำหรับถนนพุทธบูชา หรือถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกนั้นเป็นถนนที่เชื่อมเข้าถนนประชาอุทิศ ซึ่งเป็นถนนที่มีแหล่งชุมชนดั้งเดิมอาศัยอยู่ค่อนข้างหนาแน่น จึงมีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างมากตามไปด้วย ซึ่งจากถนนพุทธบูชานั้นสามารถขับรถไปได้ง่าย สะดวกดีค่ะ แม้ความอุดมสมบูรณ์จะไม่ได้อยู่ในระดับที่เดินออกจากโครงการแล้วก็เจอเลย แต่ก็แลกมากับความสงบที่มากกว่า เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว และความสงบระดับนึง
การเดินทางด้วยรถยนต์ นั้น ถือว่าสะดวกที่สุดค่ะ โดยจากตัวโครงการจะสามารถออกขวาใช้เส้นพุทธบูชาวิ่งตรงไปเส้นพระราม 2 หรือขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครได้ จากโครงการออกซ้ายก็สามารถที่จะวิ่งตรงเข้าเส้นสุขสวัสดิ์ข้ามสะพานภูมิพลไปถึงเส้นพระราม 3 วิ่งเข้าสาทรได้แต่อาจจะมีรถติดบางช่วง หรือจะเลือกขึ้นกาญจนาภิเษก (วงแหวนใต้) ข้ามสะพานกาญจนาภิเษกก็สามารถไปถึงทางแบริ่ง อุดมสุขได้ค่อนข้างสะดวก นอกจากนั้นจากถนนพุทธบูชาเส้นเลียบกาญจนา จะมีซอยลัดคือซอยประชาอุทิศ 76 ที่สามารถใช้เข้าวิ่งบนถนนประชาอุทิศได้เพื่อวิ่งไปเชื่อมกับถนนสุขสวัสดิ์ตรงแยกประชาอุทิศได้ค่ะ
รวมถึงจากโครงการก็สามารถใช้เส้นทางลัดออกสู่ ถ.พุทธบูชาได้ทั้ง 2 เส้นทาง คือ ซ.พุทธบูชา 36 และ ถ.สมานมิตรพัฒนา ผ่าน รร.รุ่งอรุณ
ความอุดมสมบูรณ์ ในระยะใกล้กับโครงการเลยคือ ตลาดคลองบางมด ติดกันจะเป็นสเต็กเฮ้าส์ และโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรี เรียกว่าเดินออกจากโครงการไปนิดเดียวก็ถึงแล้ว ใครมีลูกให้ลูกเรียนโรงเรียนนี้ก็ใกล้บ้านมากๆ ไม่เสียเวลารถติด และไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทางของลูกด้วยนะคะ
ความอุดมสมบูรณ์แถวนี้จะต้องอาศัยการขับรถออกมาหน่อยค่ะ บนถนนเลียบวงแหวนเลยออกมาก็จะเป็นสุขรุ่งเรืองมาร์เก็ต และสามารถใช้ถนนเลียบวงแหวนวิ่งไปโซนประชาอุทิศ หรือพระราม 2 ได้ในระยะใกล้เคียงกัน แต่ใกล้กว่านั้นจะอยู่ในโซนอนามัยงามเจริญ เชื่อมต่อกับ ถ.ท่าข้าม ซึ่งก็จะพอมีร้านค้าอาคารพาณิชย์ และ 7-11 รวมถึงร้านอาหารอยู่หลายร้าน เนื่องจากบริเวณ ซ.ท่าข้าม 23 เป็นที่ตั้งของ สน.ท่าข้ามค่ะ ส่วนที่ทะลุออกไป ทางฝั่งท่าข้าม ติด ถ.พระราม 2 ก็จะมีโลตัส Express และ โฮมโปรพระราม 2 ส่วนฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกันก็เป็น Central พระราม 2 แล้วค่ะ
นอกจากนี้ความอุดมสมบูรณ์อื่นๆ จะอยู่บนเส้นประชาอุทิศ เนื่องจากเป็นแหล่งชุมชน มีทั้งโรงเรียน มหาลัยอยู่หลายแห่ง ที่เด่นๆเช่น รร.สารสาสน์ประชาอุทิศ, รร.สารสาสน์วิเทศศึกษาและ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี วิทยาเขตบางมด ซึ่งหากใครซื้อบ้านที่นี่ นั้นก็สะดวกตรงที่ ระยะทางการเดินทางไปยัง KMUTT วิทยาเขตบางมด และบางขุนเทียน นั้นใกล้เคียงกันค่ะ หากเป็นคณาจารย์หรือทำงานเดินทางอยู่ในระหว่างสองโซนนี้ ก็เหมาะ
ส่วนตลาด ก็จะเป็นตลาดยิ่งรวยตั้งอยู่ที่ปากซอยประชาอุทิศ 76 ถัดขึ้นไปเป็นห้าง Tesco Lotus ขนาดกลางๆ ด้านในมีซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านอาหารหลายร้านเช่น MK สุกี้, ยาโยอิ ฝั่งตรงข้ามโลตัสก็จะมี Max Value สาขาใหญ่ รอบๆบริเวณจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆด้วย เช่น ฟิตเนสเป็นต้น นอกจากนั้นถ้าลงมาทางถนนประชาอุทิศ 90 จะมี Big C สามารถจับจ่ายซื้อของสดของแห้งได้ ปั๊มน้ำมันในละแวกนี้จะอยู่ที่เส้นสุขสวัสดิ์ค่ะ เส้นประชาอุทิศไม่มีปั๊มน้ำมันนะคะ
สำหรับห้างใหญ่ๆที่ใกล้โครงการที่สุด จะเป็น Central พระราม 2 บนเส้นพระราม 2 ห่างจากโครงการประมาณ 10 กม. ค่ะ และโรงพยาบาลในละแวกนี้จะมีทางฝั่งถนนสุขสวัสดิ์คือโรงพยาบาลบางจาก, รพ.กรุงเทพพระประแดง, รพ.พระสมุทรเจดีย์ และทางเส้นพระราม 2 จะมีโรงพยาบาลบางปะกอก 9 ค่ะ
จุดขึ้นทางด่วน
จุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุด จะเป็นจุดขึ้นทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษกด้านใต้ ฝั่งมุ่งหน้าข้ามสะพานกาญจนาภิเษก โดยจะมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 8 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 14 – 20 นาที ค่ะ
และจุดขึ้นทางด่วนฝั่งพระราม 2 จุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครฝั่งมุ่งหน้าเเข้าเมือง จะมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 9.4 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 14 – 20 นาทีเช่นกัน ซึ่งสามารถเลี้ยวเข้า ถ.ท่าข้าม ซึ่งเป็นซอยทางลัดไปได้ ร่นระยะทาง ในการเดินทางไปได้ถึง 10 กม. โดยใช้เวลาแตกต่างกันประมาณ 5-10 นาทีค่ะ
หรือจะใช้ ถนนกาญจนาภิเษก เพื่อเดินทางไปบางใหญ่ หรือ จ.สมุทรสาคร ก็สามารถวิ่งเลียบวงแหวน แล้วใช้ทางกลับรถ บริเวณถ.บางขุนเทียนชายทะเล วิ่งทางขนานไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกับจุดทางขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษก ใช้เวลาประมาณ 15 นาที หรือ 12 กม. โดยประมาณ จากโครงการค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ และรถไฟฟ้า
สำหรับการเดินทางด้วยระบบสาธารณะนั้น ถือว่าไม่ได้สะดวกมากตามปกติของทำเลโครงการแนวราบที่ตั้งอยู่โซนถนนเลียบวงแหวนไม่ว่าจะโซนไหน ก็จะไม่ค่อยมีรถสาธารณะเป็นปกติอยู่แล้วค่ะ แต่เป็นโครงการที่เดินทางโดยรถส่วนตัวจะสะดวกที่สุด แต่ด้วยหน้าโครงการที่อยู่ติดกับถนนเลียบกาญจนาภิเษกนั้นก็จะมีพี่วินหรือ Taxi วิ่งผ่านบ้าง แต่ไม่ถี่มาก ต้องขยับเข้ามาที่ถนนประชาอุทิศถึงจะมีรถเมล์สาย 21 วิ่งผ่าน ซึ่งสายนี้สามารถวิ่งยาวเข้าเมืองไปถึงสยามเลยนะ ซึ่งหากใครที่ต้องพึ่งพารถสาธารณะนั้น ปัจจุบันสะดวกสุดก็อาจจะต้องพึ่ง Application เรียกแท็กซี่ให้เข้ามารับในโครงการแทน ซึ่งจะสะดวกสุดค่ะ
และอีกอย่างคือโครงการนี้ ไม่ได้เป็นโครงการที่เกาะแนวรถไฟฟ้าค่ะ แต่ในอนาคตจะมีโครงข่าย รถไฟฟ้ามหานคร สายสีม่วง (ช่วงเตาปูน-ราษฏร์บูรณะ) สถานีใกล้ที่สุดจะเป็น สถานีครุใน อยู่ใกล้กับถนนสุขสวัสดิ์ 70 ห่างจากโครงการไปประมาณ 8.3 กม. โดยรถไฟฟ้าสายนี้คาดว่าแล้วเสร็จในปี 2563
และรถไฟฟ้าสายสีม่วงนี้ในอนาคตก็จะ เชื่อมต่อ (Interchange) กับ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ที่สถานีเตาปูน ด้วยนะคะ และถัดมาอีกหน่อยก็จะเป็นในโครงข่ายรถไฟฟ้าในอนาคตสายสีเทา ซึ่งรอการพิจารณาเข้าครม. ซึ่งหากสร้างเสร็จก็จะเชื่อมต่อกับสายสีม่วงอีกทีด้วยค่ะ ซึ่งก็จะทำให้การเดินทางเข้าตัวเมือง จากโครงการเรามีเพิ่มและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นค่ะ
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวมาให้ชมกันค่ะ เส้นทางการเดินทางตาม ลูกศรแดง โดยเริ่มเดินทางจาก
สะพานกาญจนาภิเษก > ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งใต้ > ถนนสุขสวัสดิ์ > ทางคู่ขนานกาญจนาภิเษก > โครงการ Citysense พระราม 2 – ท่าข้าม
การเดินทางเริ่มต้นจาก สะพานกาญจนาภิเษก มุ่งหน้าสุขสวัสดิ์
เมื่อลงสะพานมาให้ชิดซ้ายตามป้ายสุขสวัสดิ์ (พระประแดง-พระสมุทรเจดีย์) ออกด่านบางครุ ขาออก2
จ่ายค่าผ่านทางที่ ด่านบางครุ ขาออก 2 เราจะวิ่งออก ถ.สุขสวัสดิ์ มุ่งหน้าพระประแดง
เมื่อออกจากด่านมา จะเจอป้ายให้ชิดขวา เพื่อไปพระสมุทรเจดีย์ค่ะ ชิดขวาไปยาวๆ ตามภาพเลย ระวังรถวิ่งมาเร็วนิดนึงนะคะ
ให้วิ่งขวาตามป้ายพระสมุทรเจดีย์ ขึ้นวงแหวนออกถ.สุขสวัสดิ์ค่ะ
ตอนนี้เราอยู่บน ถ.สุขสวัสดิ์แล้ว จริงๆคือหากเขาไม่ได้ห้ามเลี้ยวขวา เราสามารถเลี้ยวเข้า ถ.เลียบวงแหวนได้ที่ด้านหน้าทางออกนี้เลยค่ะ แต่เขาห้ามเลี้ยว เราจึงจะตรงไปหาจุดกลับรถด้านหน้า
จุดกลับรถ จะอยู่บริเวณปากซอยสุขสวัสดิ์ 74 ค่ะ
หรือจะเลี้ยวขวาตามเส้นทางสีเทา ออก ซ.สุขสวัสดิ์ 74 ก็ไปได้เช่นกันค่ะ แต่เราจะพาไปที่เส้นทางสีแดงนะ
เมื่อกลับรถมาแล้ว ก็จะผ่านมายังจุดใต้วงแหวนกาญจนาภิเษก ให้เลี้ยวขวา ออกสู่ ถ.เลียบวงแหวน
เมื่อเลี้ยวขวามาแล้วก็จะเจอทางแยกใต้สะพาน ให้เลี้ยวขวาอีกครั้งค่ะ
ขับตรงไปเรื่อยๆ จนสุดทาง
เมื่อสุดทางจะเจอกับทางบังคับให้เลี้ยวขวา ลอดใต้วงแหวนกาญจนา
เมื่อลอดออกมาแล้วก็จะเจอทางบังคับให้เลี้ยวซ้ายค่ะ
ขับมาเรื่อยๆ ก็จะเจอกับแยกไฟแดง ถ.ประชาอุทิศ ให้รอไฟแดงที่จุดนี้สักพัก
หรือหากไม่ต้องการรอไฟแดง จากวงแหวนให้วิ่งออกครุใน แล้วใช้เส้นทางลัด ตามเส้นลูกศรสีน้ำเงิน ก็จะช่วยลดระยะเวลาไปได้บ้างนะคะ แต่ระยะทางไม่ต่างกันมากค่ะ
หลุดไฟแดงมาแล้ว ขับมาเรื่อยๆ ก็จะเจอกับสุขรุ่งเรืองมาร์เก็ต ด้านขวามือ
ถึงแล้วค่ะ Citysense พระราม 2 – ท่าข้าม โครงการจะอยู่เลย สุขรุ่งเรืองมาร์เก็ต
สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
สรุปสถานที่สำคัญรอบๆโครงการ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางจากรถยนต์ สู่จุดหมาย โดยถนนเส้นที่ใกล้ที่สุด**
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
สภาพแวดล้อมโครงการจากหน้าทางเข้าโครงการ เป็นถนนกว้าง 14 ม. ตรงยาวเข้าไปค่ะ ด้านข้างปลูกต้นไม้ตลอดแนวทั้ง 2 ฝั่ง เป็นเสมือนรั้วโครงการดูสวยงามร่มรื่น และมีความเป็นส่วนตัวพอสมควร
ป้ายโครงการ Citysense พระราม 2 – ท่าข้าม เด่นและใหญ่มากเลย
บรรยากาศและสภาพแวดล้อมบริเวณทางเข้าโครงการที่ติดกับถนนพุทธบูชา หรือถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก ลักษณะถนนนั้นเป็นถนน 2 เลนขนาดกะทัดรัด วิ่งสวนกัน 2 ฝั่งนะคะ บริเวณใต้ทางด่วนค่อนข้างคึกคักไม่เปลี่ยวนะ มีร้านค้าแบบเพิงตั้งขายของด้วย มีขายอาหารตามสั่งด้วยนะ เป็นอีกแหล่งพึ่งพิงได้ สำหรับใครไม่อยากขับรถออกไปกินนอกบ้าน หรือขี้เกียจทำกับข้าวกินที่บ้าน
บรรยากาศอีกฝั่งที่ติดกับถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก มีการตกแต่งหน้าทางเข้าด้วยสนามหญ้าเปิดโล่งขนาดใหญ่ดูอลังการสวยงามดีค่ะ เดี๋ยวเราพาเดินเลียบถนนไปดูบรรยากาศหน้าโรงเรียนกัน โดยระยะห่างจากหน้าโครงการถึงโรงเรียนเพียง 130 ม. เอง ผู้ปกครองซื้อที่โครงการนี้นี่ไม่ต้องเสียเวลาไปรับ-ส่งลูกเลย ให้เด็กๆ เดินไปเรียนกันเองยังได้เลยค่ะ แถมไม่ต้องตื่นเช้าด้วยนะ ^^
บรรยากาศหน้าโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรีค่อนข้างคึกคักทีเดียวค่ะ แถวนี้มีรถสองแถวมารอรับนักเรียนอยู่ด้านหน้าโรงเรียนด้วยนะ บริเวณหน้าโรงเรียนนอกจากสองแถวแล้วก็มีพี่วินมอเตอร์ไซค์ด้วยค่ะ ซึ่งโรงเรียนนี้เปิดสอนนักเรียนมัธยมศึกษาตั้งแต่ ม.1-6
บรรยากาศหน้าโรงเรียนมีร้านรถเข็นขายของช่วงเด็กเลิกเรียนเยอะมากเลย
ทั้งร้านลูกชิ้นปิ้ง ร้านเครื่องดื่ม และขนมต่างๆ ในราคาย่อมเยา
บริเวณหน้าทางเข้าโรงเรียนจะสังเกตเห็นนักเรียนมานั่งคอยวินมอเตอร์ไซค์กันเต็ม
ราคาค่าโดยสารของพี่วินมอเตอร์ไซค์ป้ายนี้
ฝั่งตรงข้ามเป็นป้ายจอดรถ ซึ่งก็มีพี่แท็กซี่มาจอดคอยให้บริการอยู่นะ ใครที่หาเรียกแท็กซี่หน้าโครงการไม่เจอ ยอมเดินมาอีกหน่อยก็เรียกแท็กซีได้แล้วนะคะ
ฝั่งตรงข้ามเป็นที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ของนักเรียนและคนแถวนี้ค่ะ
ผังโครงการ Citysense พระราม 2 – ท่าข้าม ประกอบไปด้วยยูนิตทั้งหมด 425 ยูนิต บนที่ดินทั้งหมดประมาณ 43 ไร่ โดยจากหน้าโครงการที่ติดกับถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกเข้ามาประมาณ 450 ม. ก็จะเจอซุ้มทางเข้า-ออกโครงการ
ลักษณะการจัดผังภายในจัดมาให้มีความเรียบง่ายมากที่สุดเพื่อความสะดวกให้การใช้งานและสามารถใช้พื้นที่ภายในโครงการได้คุ้มค่า ซึ่งลักษณะการจัดจะมีรูปร่างคล้ายกับก้างปลา คือ มีถนนหลักขนาดใหญ่กว้าง 14 ม. เป็นแกนใหญ่ และมีถนนย่อยเป็นซอยๆ กว้าง 9 ม. ที่มีลักษณะเหมือนก้างปลา
ข้อดีของการจัดออกแบบผังแบบนี้คือ ช่วยลดความวุ่นวายของถนนหลักโครงการ ลดปัญหาการจอดรถบนถนนหลักในน้อยที่สุดเพื่อให้การสัญจรภายในโครงการมีความสะดวกมากที่สุดและดูเรียบร้อยสวยงาม นอกจากนี้ก็ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ดี เพราะเมื่อแบ่งเป็นซอยย่อยแล้วก็จะมีบ้านในซอยเพียงไม่กี่ยูนิต จึงค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวดีพอสมควร และบางส่วนของถนนจะเห็นว่ามีการออกแบบถนนให้มีลักษณะเป็นวงกลม เพื่อให้สามารถใช้ถนนนี้ออกกำลังกายเสมือนเป็น ลู่วิ่ง หรือลู่จักรยานได้ด้วยค่ะ
ในส่วนของการจัดตำแหน่งหน้าบ้านนั้นจะเน้นไปที่ทิศเหนือ-ใต้ ซึ่งทั้ง 2 ทิศนี้จัดเป็นทิศที่เหมาะสมกับการวางตำแหน่งหน้าบ้านนะคะ แต่จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน คือ ทิศเหนือ จะได้เปรียบในเรื่องของทิศทางแดด ซึ่งหน้าบ้านนั้นจะไม่โดนแดดในช่วงบ่ายที่มีอากาศร้อน ทำให้ตัวบ้านไม่โดนแดดเต็มๆ สะสมความร้อน ในขณะที่ทิศใต้มีจุดเด่นเรื่องของทิศทางลม ที่พัดผ่านหน้าบ้านได้ดี ดังนั้นเมื่อเปิดหน้าต่างหรือประตูก็ทำให้ลมพัดผ่านเข้ามาในตัวบ้านได้ดี ภายในตัวบ้านเย็นสบายค่ะ
สำหรับตำแหน่งของพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดประมาณ 2 ไร่ แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ด้านหน้าโครงการจัดให้เป็นส่วน O2 Club หรือ Club House พร้อมสระว่ายน้ำ สำหรับเป็นพื้นที่ผ่อนคลาย และพักผ่อนของสมาชิกในโครงการ และยังสามารถจัดเป็นพื้นที่รับแขกขนาดใหญ่ที่ลูกบ้านสามารถใช้ต้อนรับแขกได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องพาแขกเข้าบ้าน ถัดมาบริเวณกลางโครงการจะเป็น O2 Park หรือสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่เปรียบเสมือนปอดของคนในโครงการให้มาเดินเล่น หรือพาเด็กๆ มาวิ่งเล่นได้ค่ะ ทั้ง 2 พื้นที่ส่วนกลางนั้นจะอยู่คนละตำแหน่งกัน ซึ่งข้อดีคือการเข้าถึงของลูกบ้านทั้งด้านหน้าโครงการและส่วนหลังของโครงการสามารถเข้าถึงพื้นที่ส่วนกลางได้ดีทั้ง 2 โซนเลย
:::: House Type ::::
สำหรับแบบบ้านที่นี่จะมีทั้งหมด 3 แบบด้วยกันค่ะ นั่นก็คือ
ทาวน์โฮม Winter : หน้ากว้าง 5 เมตร
แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2
ทาวน์โฮม Autumn : หน้ากว้าง 5.7 เมตร
แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2
ทาวน์โฮม Rain : หน้ากว้าง 8 เมตร
แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2
:::: ภายในโครงการ ::::
ชมรายละเอียดกันไปหมดแล้ว มาดูของจริงกันบ้างค่ะ ถนนทางเข้าโครงการกว้าง 14 ม. เป็น 2 เลนสวนกันสบายๆ เลยค่ะ ด้านข้างแวดล้อมไปด้วยกำแพงต้นไม้ดูร่มรื่นและสวยงามดีทีเดียวค่ะ
มองจากภายในโครงการออกมาด้านหน้าโครงการที่เชื่อมกับถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกนะคะ
หน้าโครงการ และป้อมยาม
ตรงมาจากหน้าทางเข้าโครงการเลย อีกประมาณ 450 ม. จะถึงซุ้มทางเข้า-ออกโครงการแล้วค่ะ ลักษณะจะเป็นซุ้มที่มีหลังคาเรียบร้อยสวยงาม แบ่งทางเข้า-ออกไว้ซ้าย-ขวา ตรงกลางเป็นป้อมพี่รปภ. เพื่อที่จะสามารถดูแลลูกบ้านทั้งขาเข้าและขาออกได้ดี ด้านบนซุ้มติดป้ายโครงการเด่นสวยงาม
ประตูทางเข้า-ออกโครงการใช้เป็นประตูบานเลื่อนอัตโนมัติ ซึ่งค่อนข้างแข็งแรงและมีความปลอดภัยมากกว่าไม้กั้นกระดกอัตโนมัติ
ด้านข้างเป็นทางเข้า-ออกของพี่รปภ.
การเข้า-ออกของที่นี่ใช้ระบบสแกนด้วยบัตร หรือ Key Card Access แบบระยะใกล้ เพื่อให้ง่ายต่อการเข้า-ออกของลูกบ้าน ไม่ต้องรอพี่รปภ.มาเปิดให้เลย
ติดกันจะมีกล้อง CCTV ส่องหน้าคนขับและทะเบียนรถด้วย เพื่อความปลอดภัยของลูกบ้าน
อีกฝั่งที่ติดกับถนนมีทางเดินสำหรับคนเดินให้ด้วยนะคะ จัดเป็นทางเดินสวยงามทีเดียวค่ะ
ประตูทางเข้าสำหรับคนเดินแยกกับทางเข้ารถยนต์เพื่อความปลอดภัย
หันกลับมามองซุ้มทางเข้าโครงการอีกรอบ หลังจากที่เข้ามาในโครงการแล้วนะคะ บริเวณด้านหลังซุ้มจะปลูกหญ้าให้เล็กน้อยด้วยค่ะ
ถนนภายในโครงการ
เดี๋ยวเราพาทัวร์ภายในโครงการกันต่อเลยนะคะ จากถนนหลักภายในโครงการที่กว้างมาตลอด 14 ม. รอบข้างปลูกต้นไม้ใหญ่พร้อมทั้งไม้พุ่มที่มีการตัดแต่งทรงแบบสูง ดูสวยงามและเป็นเสมือนกำแพงได้ดีทีเดียวเลยค่ะ ตามสไตล์ของปริญสิริที่เน้นความร่มรื่นและมักจะให้ต้นไม้ขนาดใหญ่ สวยๆ เต็มไปหมดทุกโครงการที่ผ่านมาเลย
ด้านข้างตลอดทางปลูกเป็นไม้พุ่มสลับกับกำแพงที่ติดดวงโคมให้แสงสว่างด้วย ตอนกลางคืนนี้จะบรรยากาศสวยทีเดียวค่ะ
หันกลับไปยังซุ้มทางเข้าโครงการเหมือนเดิม จะเห็นว่าด้านข้างเลยซุ้มโครงการมาหน่อยเป็น Club House เลยนะคะ แต่ก่อนจะพาไปดู Club House เราจะพาไปเดินรอบโครงการกันก่อน ค่อยมาเจาะลึกโครงการกัน
บริเวณ Club House นี้ปลูกต้นไม้ใหญ่ทรงสวยๆ รอบ Club House เลย เพื่อให้บรรยากาศภายในร่มรื่น กันแดดได้ดี แล้วยังเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านที่กำลังใช้งาน Club House อยู่ ไม่ให้รถที่ผ่านไป-มาเห็นด้วยนะ ถือว่าออกแบบมาได้ตอบโจทย์การใช้งานจริงได้ดีเลยค่ะ
เดินกันต่อที่นะคะ ลักษณะของถนนหลักนี่จะตรงยาวไปจนสุดโครงการเลย
ภายในซอยย่อยกว้าง 9 ม. ในแต่ละซอยมีจำนวนยูนิตไม่มากเลยค่ะ ดูเป็นส่วนตัวดีทีเดียว
มาที่ถนนหลักกันต่อ รอบข้างก็ปลูกต้นไม้ต้นใหญ่ให้เห็นตลอดทางเลย
ที่นี่ถือว่าจัดสวนภายในโครงการได้ดีทีเดียวนะคะ ถือเป็น Value ของลูกบ้านที่ดีมากๆ
ภายในซอยย่อยอีกซอย บรรยากาศเงียบสงบดีค่ะ
มาที่ช่วงโซนกลางๆ ของโครงการ เมื่อมีทาวน์โฮมที่ต้องหันหน้าเข้าหากัน ทางโครงการก็ออกแบบให้ถนนมีความกว้างมาขึ้นและจัดทำพื้นที่ตรงกลางของถนนเป็นพื้นที่สวนที่ปลูกต้นไม้ใหญ่ เพื่อให้เป็นพื้นที่สีเขียวให้กับลูกบ้านในโซนนี้คั่นกลางทาวน์โฮมฝั่งตรงข้าม แทนที่จะหันประชันหน้ากันแล้วเสียความเป็นส่วนตัวไป แต่เมื่อคั่นกลางด้วยต้นไม้แล้วก็ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้นและได้พื้นที่สีเขียวไว้พักสายตาอีกด้วย
โซนพื้นที่สีเขียวที่ได้เรียกว่า O2 Park ต้นไม้ใหญ่มากและสวยด้วยนะคะ เรียกว่าหายากนะ ดูโครงการอื่นๆ จัดสวนมาให้ก็จริงแต่จะไม่ได้ต้นไม้ขนาดใหญ่แบบนี้เลย
ถนนในส่วนนี้แบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ซึ่งแต่ละฝั่งก็กว้าง 9 ม.ค่ะ
พื้นที่ระหว่างทาวน์โฮมแปลงมุม แทนที่จะปล่อยเป็นพื้นที่โล่งๆ แต่ที่นี่ก็จัดเป็นพื้นที่สวนเล็กๆ ให้ด้วยนะ
อาคาร Club House และสำนักงานขาย
กลับมาที่ส่วน Club House กันต่อนะคะ ที่นี่ Club House หรือ O2 Club นั้นจัดเป็นส่วนกลางสำหรับลูกบ้านที่ออกแบบให้มีความโปร่งโล่ง เพื่อให้ได้บรรยากาศการพักผ่อนมากขึ้น หรือใช้เป็นพื้นที่ต้อนรับแขกด้วยสวยงามเป็นหน้าเป็นตา ลักษณะการออกแบบหน้าทางเข้าทำออกมาได้สวยทีเดียว มีการยกระดับพื้นให้สูงกว่าถนนเพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ของผู้ใช้งานใน Club House เพราะอยู่คนละระดับสายตากับคนขับรถผ่านไป-มาด้วยนะคะ
ป้ายด้านหน้า Club House
ภายใน Club House นั้นจะแบ่งออกเป็น 2 โซนคือโซน Outdoor และ Indoor เดี๋ยวเราพาไปดูโซน Indoor กันก่อนนะคะ
เข้ามาบริเวณภายในนี้ถูกจัดให้เป็นห้องสมุดขนาดใหญ่ ที่มีฝ้าเพดานสูงและได้กระจกทรงสูงทำให้พื้นที่ส่วนนี้ดูโปร่งโล่งมากๆ ภายในจัดให้มีชุดเก้าอี้และโซฟาขนาดใหญ่หลายชุดไว้รองรับให้เพียงพอกับจำนวนลูกบ้าน
ป้ายให้ข้อมูลโครงการ ซึ่งทางปริญสิริให้ความมั่นใจกับทางลูกบ้านว่าโครงสร้างอาคารที่นี่มีความมั่นคง แข็งแรงและปลอดภัย เนื่องจากทางโครงการมีการทำการสำรวจชั้นดินจากวิศวกรโยธา และมีการใช้เสาเข็มขนาดยาวถึง 22 ม.ที่สามารถรับน้ำหนักได้ถึง 15 ตัน ในการก่อสร้าง เพื่อให้ลูกบ้านได้มั่นใจว่าตัวบ้านจะไม่มีการทรุดตัวง่ายแน่นอนค่ะ
อีกด้านหนึ่งของพื้นที่ส่วนห้องสมุดนี้ ซึ่งนอกจากจะสามารถใช้งานเป็นฟังก์ชันห้องสมุดแล้ว ก็ยังสามารถใช้ต้อนรับแขกหรือใครเบื่อบ้านก็มานั่งเล่นบริเวณนี้ได้นะ ไม่ต้องออกไปข้างนอกให้เปลืองตังด้วย
ฝั่ง Outdoor จะเป็นพื้นที่นั่งเล่นและสระว่ายน้ำค่ะ
บริเวณพื้นที่นั่งเล่นที่ได้วิวสระว่ายน้ำ สวยงาม
สระว่ายน้ำ
ด้านข้างสระว่ายน้ำออกแบบให้มีม้านั่งสลับกับต้นไม้ขนาดใหญ่เพื่อให้ความร่มรื่น ขนาดไปช่วงกลางวันแดดเปรี้ยงมากๆ ต้นไม้ก็เอาอยู่นะ สามารถนั่งเล่นบริเวณนี้ได้เลยค่ะ
สระว่ายน้ำที่นี่จะเป็นแบบ Outdoor นะคะ
ด้านข้างมีพื้นที่นั่งเล่น ใต้ระแนงไม้ ซึ่งช่วยกันแดดได้บ้างแต่ไม่ได้ช่วยกันฝนนะ
ภายในให้ชุดที่นั่งเล่นแบบ Outdoor มา 1 ชุด มี 6 ที่นั่ง
พื้นที่นั่งเล่นนี้ติดกับสระว่ายน้ำเลย ผู้ปกครองมานั่งเล่นดูแลเด็กๆ ไปพร้อมกันได้ด้วย หรือใครอยากจัดปาร์ตี้เล็กๆ บริเวณสระว่ายน้ำก็ได้เช่นกันนะคะ
ทางขึ้น-ลงสระว่ายน้ำ
สระว่ายน้ำที่นี่มีขนาด 8 x 25 ม. ถือว่าขนาดใหญ่พอสมควรเลยค่ะ สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้ดีทีเดียว
ลักษณะของสระว่ายน้ำที่นี่จะเป็นสระระบบเกลือ ซึ่งลดจำนวนคลอรีนลงไปได้พอสมควร สาวๆ คนไหนกลัวผิวเสีย หรือกลัวดำก็หมดห่วงไประดับนึงเลย
ห้องน้ำ และห้องอาบน้ำแยกชาย-หญิง
บริเวณ Club House มีห้องน้ำแยกชาย/หญิงไว้ให้บริการเรียบร้อยค่ะ
ทางเข้าห้องน้ำมี Signess ให้เรียบร้อย
บรรยากาศภายในห้องน้ำออกแบบมาเรียบง่ายแต่สะอาดสะอ้านดีทีเดียวค่ะ แบ่งเป็นโซนอ่างล้างมือ ห้องน้ำและห้องอาบน้ำ
ห้องน้ำทั้งหมด 4 ห้อง
ภายในห้องน้ำ สะอาดเรียบร้อยด้านหลังมีก่อ Low Wall เล็กน้อยไว้วางของเล็กๆ น้อยๆ ได้ค่ะ
ภายในห้องอาบน้ำทำออกมาสวยเลย ด้านข้างมีราวแขวนเสื้อ และทำช่องลึกเข้าไปเพื่อวางครีมอาบน้ำแชมพูได้ด้วยค่ะ
ภายในห้องน้ำผู้ชายจะคล้ายคลึงกับห้องน้ำผู้หญิงเลยค่ะ
เพิ่มเติมคือมีโถสุขภัณฑ์ชายไว้รองรับด้วย 3 โถสุภัณฑ์
:::: บ้านตัวอย่าง ::::
สำหรับบ้านตัวอย่างในวันนี้จะพาไปชม 2 แบบด้วยกันค่ะ คือ
ตามลำดับ ซึ่งเราจะพาไปชมบ้าน Autumn หลังกลางของโครงการกันก่อนที่จะชมหลังใหญ่นะคะ จะได้เห็นว่ามีขนาดเพิ่มเติมกันขึ้นมาอย่างไรบ้าง ไปชมกันค่ะ
บ้านตัวอย่าง ทาวน์โฮม Autumn : หน้ากว้าง 5.7 เมตร : 139 ตร.ม.
เริ่มต้นด้วยแบบบ้าน Autumn หลังกลางของโครงการกันนะคะ
บ้านมาตรฐาน Autumn และโรงจอดรถ
แต่ก่อนจะไปชมบ้านตกแต่ง เราจะมาชมบ้านตัวอย่างส่งมอบบริเวณโรงจอดรถกันก่อนค่ะ ว่าจะได้อะไรบ้าง
สำหรับรั้วทางเข้าหน้าบ้านจะได้เป็นรั้วเหล็กสีดำลักษณะบานเปิดเป็นบานพับ เปิดได้เต็มหน้ากว้าง 5.7 เมตร
เมื่อเข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่ส่วนจอดรถ โดยในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นพื้นซีเมนต์ขัดเรียบ จอดรถได้ 2 คัน
พื้นที่ด้านข้างมีแนวลงไม้พุ่มไว้ให้ด้วยค่ะ
กล่องจดหมายสแตนเลสติดไว้ให้ที่รั้ว สกรีนเลขที่บ้านและโลโก้โครงการ
และกริ่งออดติดไว้ให้แบบนี้
สำหรับแปลงมุมก็จะมีพื้นที่สวนด้านข้างพร้อมลงไม้พุ่มอีกฝั่งไว้ให้เช่นกันค่ะ
พื้นที่สวนด้านข้างของบ้าน
บ้าน Autumn : ชั้น 1
ก่อนจะเข้าไปในตัวบ้านจะมีเฉลียงทางเข้าค่ะ โดยเป็นเฉลียงยุบเข้าไป ความกว้างประมาณ 1 เมตร ยกระดับจากพื้นลานจอดรถประมาณ 7 ซม. วัสดุปูด้วยกระเบื้องเซรามิก
ข้อดีของเฉลียงนี้คือมีพื้นที่วางชั้นรองเท้าขนาดไม่ใหญ่มากได้ รวมถึงสามารถยืนหลบฝน ระหว่างเปิดประตูเข้าบ้านได้ค่ะ
ประตูทางเข้าวัสดุอลูมิเนียมสีขาว กระจกสีเขียวตัดแสง เป็นบานกระทุ้งเปิดออกสู่ภายนอกบ้านค่ะ
มือจับแบบเขาควายก้านโยกสแตนเลส มีกุญแจฝังอยู่ที่บ้าน
ภายนอกบ้านด้านหน้าประตูมีปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบเอาไว้สำหรับเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าภายนอกให้ด้วยนะคะ
เหนือประตูทางเข้าบ้านมีติดโช๊คกันกระแทกเอาไว้ให้ด้วย
เมื่อเข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่ส่วน Living Room เป็นส่วนแรก8jt ความสูงฝ้าเพดานของบ้านสูงถึง 2.8 เมตร ทำให้เข้ามาในบ้านแล้วจะรู้สึกว่าตัวบ้านมีความโปร่งและกว้างกว่าแบบทาวน์โฮมทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด ที่มาตรฐานจะอยู่ที่ประมาณ 2.6 เมตรค่ะ
มองย้อนกลับมาที่บริเวณส่วนห้องนั่งเล่นออกไปสู่ด้านหน้าของบ้านบ้าง สังเกตเห็นว่าหน้าต่างด้านหน้าบ้านเป็นหน้าต่างบานใหญ่สูงเกือบจรดฝ้าเพดานเลยค่ะ ซึ่งทำให้บ้านหลังนี้สามารถชมวิวด้านหน้าได้กว้างและมีความปลอดภัย เนื่องจากจะมองเห็นว่าใครผ่านไปผ่านมาด้านหน้าได้ตลอด หากต้องการความเป็นส่วนตัวก็ปิดม่าน
ส่วนพื้นที่ห้องนั่งเล่นโครงการได้จัดวางโซฟาขนาด 4 ที่นั่งเอาไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง จะเห็นว่าด้านข้างยังเหลือพื้นที่พอสมควรค่ะ ซึ่งสามารถจัดวางโซฟาได้ขนาด 5 หรือ 6 ที่นั่งเป็นรูปตัว L ได้เลย
ฝั่งตรงข้ามโซฟาจะเป็นผนังโล่ง สำหรับติดตั้งทีวี ซึ่งเราสามารถที่จะเลือกได้ว่าจะ Built – in เป็นชุดตู้พร้อมชั้นวางทีวีหรือจะหาชั้นวางทีวีง่ายๆมาวางก็ได้ค่ะ
ส่วนทางฝั่งขวามือที่เราเห็นจะเป็นโถงย่อยที่เชื่อมเข้าไปยังส่วนห้องน้ำ และห้องเก็บของ ถัดไปอีกจะเป็นบันไดขึ้นเตียงชั้น 2 ค่ะ
ปลั๊กและสวิตช์ไฟทั้งหมด ยี่ห้อ Bticino
โคมไฟเพดานโครงการติดเป็นโคมดาวน์ไลท์แอลอีดีมาให้ทั้งหมดค่ะ
ถัดมาเราไปดูในส่วนของห้องทานอาหารและห้องครัวกันต่อ โดยพื้นที่ส่วนห้องทานอาหารจะได้โคมดาวน์ไลท์ LED ทั้งหมดเช่นกัน
พื้นที่ส่วนทานอาหารสามารถที่จะวางโต๊ะขนาด 4-5 ที่นั่งได้สบายๆ
ด้านหลังสุดของห้องทานอาหารจะเป็นส่วนของห้องครัว
โดยพื้นที่ครัวที่ได้ จะได้เป็นครัวแบบเปิด เนื่องจากโครงการได้เจาะช่องเดินท่อไว้ให้เรียบร้อยที่จุดนี้ พร้อมตำแหน่งปลั๊กไฟที่น่าจะเพียงพอ เหมาะสำหรับครอบครัวไหนที่ทำอาหารไม่บ่อย อาจจะเป็นการเตรียมอาหารเล็กๆน้อยๆ
ส่วนถ้าใครทำอาหารหนักหรือทำเป็นประจำก็แนะนำให้กั้นห้องเพิ่มเติมหรือ ย้ายห้องครัว เข้าไปทำที่ห้องอเนกประสงค์ ที่อยู่ข้างๆกันในภาพก็ได้ค่ะ
ทางเข้าสู่ห้องอเนกประสงค์ที่ได้ โครงการจะไม่ได้กั้นประตูมาให้นะคะ แต่สามารถซื้อประตูวงกบอลูมิเนียมสําเร็จรูปมาติดเองได้ หรือจะ Build In เป็นประตูตกแต่งก็ได้แล้วแต่ความชอบของลูกค้า
ที่ห้องอเนกประสงค์นี้โครงการได้ตกแต่งให้ชมเป็นห้องนอน ที่สามารถวางเตียงขนาด 3.5 * 5 ฟุตได้ 1 ตัว เราจะเหลือพื้นที่หัวเตียงอีกความลึกประมาณ 40 cm ค่ะ โดยจะเป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุหรือแขกผู้มาเยือน หรือหากต้องการปรับเป็นห้องทำงาน หรือขยายห้องครัวเข้ามาอีกห้องก็ได้เช่นกันค่ะ
มุมมองจากภายในห้อง อเนกประสงค์ ออกไปยังห้องครัวและห้องทานอาหาร
ออกไปชมระเบียงกันค่ะ พื้นที่จากส่วนห้องทานอาหารและห้องครัวจะมีประตูเชื่อมต่อไปยังลานซักล้างหลังบ้าน ซึ่งบานประตูจะเป็นวัสดุเดียวกันกับทางเข้าบ้านด้านหน้าค่ะ คืออลูมิเนียมสีขาว บานกระทุ้งเปิดออกด้านนอก แต่กระจกที่ได้สระเป็นกระจกฝ้าโปร่งแสง
ส่วนในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นลานซักล้างพื้นคอนกรีตขัดหยาบแบบนี้ค่ะ
ก่อนที่เราจะขึ้นไปชมที่ชั้นสองของบ้านกัน กลับมาที่บริเวณส่วน Living room ค่ะ ด้านข้างบันไดจะเป็นทางเดินเชื่อมไปยังห้องน้ำ ซึ่งเป็นโถงทางเดินย่อยเล็กๆ เพื่อบังสายตาจากภายนอก
เข้ามาด้านในค่ะ ห้องน้ำจะอยู่ด้านซ้ายมือ ตรงไปจะเป็นห้องเก็บของใต้บันได
เข้าไปก็จะเป็นส่วนห้องเก็บของค่ะ ชื่อโครงการได้จัดฟังก์ชันให้สามารถใช้งานได้หลากหลายค่ะ คือจะเป็นห้องสตูดิโอเก็บเครื่องมือเครื่องใช้อุปกรณ์หนักสำหรับผู้ที่มีงานอดิเรกก็ได้ หรือสามารถแขวนจักรยานโชว์เท่ๆได้แบบนี้ด้วย
ด้านในก็จะเป็นส่วนห้องใต้บันไดที่สามารถทำเป็นห้องเก็บรองเท้าก็ได้ค่ะสำหรับผู้ที่มีรองเท้าเยอะ
เข้าไปชมภายในห้องน้ำกันค่ะ ประตูทั่วไปของบ้านหลังนี้จะความสูง 2.2 เมตร ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานทั้งหมด
สำหรับห้องน้ำที่ชั้นล่างห้องนี้จะเป็นห้องน้ำที่อยู่ติดกับภายนอกของบ้านและมีหน้าต่างระบายอากาศสู่ภายนอกค่ะ ซึ่งจะได้ฟังก์ชันมาครบทั้งส่วนแห้งและส่วนเปียก
โดยพื้นห้องน้ำสบู่ด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา ผิวด้าน ลดระดับลงไปจากพื้นภายนอกประมาณ 7 เซนติเมตร เพื่อป้องกันน้ำกระเซ็นออกมาทางด้านนอกค่ะ
ส่วนผนังก็จะกรุด้วยกระเบื้องสีดำ และมีผนังตกแต่งให้ด้านหลังโถสุขภัณฑ์ ออกโทนสีขาวเทาดำ ดูเรียบเท่ดี
สำหรับกระจกบริเวณเหนืออ่างล้างมือก็จะได้เป็นกระจกกรอบไม้แบบนี้เลยนะคะ ซึ่งอาจจะไม่ใช่กระจกสูง เนื่องจากด้านบนเป็นหน้าต่างช่องระบายอากาศค่ะ ก็ได้ประโยชน์ไปคนละแบบกัน
สวนอ่างล้างมือก็จะได้แบบลอยตัวทรงรี ยี่ห้อ Mogen ติดตั้งอยู่บน Low Wall ปูท๊อปด้วยหินสังเคราะห์สีดำ มีพื้นที่วางของเหนืออ่างนิดหน่อย
ก๊อกน้ำสแตนเลสแบบมือหมุนยี่ห้อ VRH
ด้านข้างอ่างล้างมือติดตั้งที่แขวนผ้าเช็ดตัวสแตนเลสยี่ห้อ VRH ให้ด้วยเช่นกัน
ส่วนโถสุขภัณฑ์จะได้มาครบชุด พร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระ โดยจะได้ของยี่ห้อ Mogen ระยะการใช้งานพอดีๆ
ด้านบนโถสุขภัณฑ์ ปุ่มกดแบบรุ่น Dual Flush ประหยัดน้ำ
สายชำระสแตนเลสผิวเงา และที่วางกระดาษทิชชูสแตนเลสเช่นกัน ยี่ห้อ VRH
มาชมพื้นที่โซนอาบน้ำกันบ้างค่ะ
ที่ชั้นล่างจะแยกส่วนเปียกส่วนแห้งให้ค่ะ พื้นที่ประมาณ 80 cm สามารถติดตั้ง Shower Box เพิ่มเติมบนธรณีนี้ได้
พร้อมติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower ปรับระดับได้ และเดินสายไฟรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น สำหรับฝักบัวที่ได้จะได้ของยี่ห้อ VRH
ข้อดีของห้องน้ำห้องนี้อีกอย่างหนึ่งคือ จะได้ฝ้าเพดานที่สูงโปร่งพอกับด้านนอกเลยค่ะ ซึ่งโครงการได้ ลดระดับฝ้าเพดานพร้อมซ่อนหลืบไฟเอาไว้ให้แบบนี้ด้วย ได้บรรยากาศสวยงามดีนะคะ
ขึ้นไปดูชั้น 2 ของบ้านกันค่ะ โดยบันไดของบ้านหลังนี้จะมีโครงสร้างเป็นคสล. ปิดหน้าด้วยไม้สำเร็จรูป ผิวขัดเรียบลายไม้ สีอ่อน
สำหรับราวบันไดจะได้เป็นไม้สำเร็จรูป ฝังกับผนังด้านข้างซ้ายมือ ผิวขัดเรียบพร้อมทาสียูรีเทน สีเข้ากับตัวบันได มองขึ้นไปยังด้านบนโถงของบันไดโครงการได้ซ่อนหลืบไฟเอาไว้ให้เช่นเดียวกันกับห้องน้ำค่ะ ซึ่งก็เป็นหลืบไฟที่ช่วยสร้างบรรยากาศบริเวณโถงบันไดให้ได้อย่างดีแบบไม่จำเป็นต้องติดโคมไฟอะไรเพิ่มก็ได้ค่ะ สวยแบบ Minimal Modern ดีอยู่แล้ว ตกแต่งแค่ผนัง แบบบ้านตัวอย่างก็พอ
ข้อดีของโครงการนี้อีกอย่างหนึ่งก็คือจะได้บันไดที่มีความปลอดภัยเนื่องจากเป็นชานพักแบบเต็มขั้นค่ะ ไม่ใช่ชานพักแบบสามเหลี่ยมซึ่งอาจจะเดินยากหรือเกิดอุบัติเหตุได้หากก้าวพลาด
ขึ้นมาบนชั้น 2 มองย้อนไปทางพื้นที่โถงโดยรวมราวจับบันไดออกแบบมาสวยดีค่ะ ด้านข้างก่อปูน ติดตั้งโครงเหล็กด้านบน
บ้าน Autumn : ชั้น 2
เราจะพาไปชมชั้น 2 ทั้งหมดกันนะคะ ขึ้นมาแล้วก็จะเจอกับโถงบันได ซื้อมองตรงไปก็จะเป็นพื้นที่ของอ่างล้างมือค่ะ
ที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำภายในห้อง Master bedroom ห้องน้ำห้องนี้ จะใช้ร่วมกันกับห้องนอนทั้งหมดที่ชั้น 2 ค่ะ
ที่โถงบันไดติดตู้โหลดเซ็นเตอร์ยี่ห้อ Bticino
บริเวณอ่างล้างหน้าพื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคผิวด้านแบบเดียวกับภายในห้องน้ำค่ะ ลดระดับลงจากพื้นถึงบันไดประมาณ 5 cm ด้านบนเหนือกระจกติดซ่อนหลืบไฟเอาไว้ให้ด้วย และได้กระจกขนาดใหญ่
ด้านหลังอ่างล้างมือทำ Low Wall ปูด้วย Top หินสังเคราะห์ อ่างล้างมือเซรามิค ทรงสี่เหลี่ยม ยี่ห้อ Mogen ด้านล่างมีตู้สำหรับเก็บของใต้อ่างเอาไว้ให้ด้วย
ส่วนภายในห้องน้ำก็จะได้สุขภัณฑ์แบบเดียวกันกับชั้นล่างทั้งหมดค่ะ
พื้นห้องน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้งและทำธรณีเอาไว้ให้เรียบร้อย กระเบื้องพื้นและกระเบื้องผนังเหมือนกันกับชั้นล่าง
โซนอาบน้ำพื้นที่ประมาณ 1.2 x 0.90 m สามารถติดตั้ง Shower box ได้ทั้งแบบประตูบานเลื่อนหรือบานสวิง
ชุดฝักบัวสแตนเลส VRH เหมือนกับชั้นล่าง มีเจาะช่องสำหรับวางของไว้ให้ด้วย
ด้านข้างมีเดินปลั๊กไฟสำหรับเครื่องทำน้ำอุ่น และมีช่องแสงหน้าต่างบานกระทุ้งขนาดใหญ่ วัสดุอลูมิเนียมสีขาว กระจกฝ้าโปร่งแสง มือจับแบบก้านโยก
เข้ามาในห้อง Master Bedroom จะเป็นห้องนอนขนาดใหญ่ที่สุดของบ้าน ภายในห้องมีจุดเด่นคือได้ช่องแสงมาค่อนข้างเยอะ และได้พื้นที่หน้ากว้างของบ้านไปทั้งหมด จึงสามารถที่จะแบ่งเป็นส่วนห้องนอน, พื้นที่ Walk – in Closet และมีพื้นที่ทำงานอีกนิดหน่อย
สำหรับห้องนอนห้องนี้ทางโครงการวางเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
พื้นที่ข้างเตียงที่เหลือสามารถที่จะวางโต๊ะหัวเตียงได้สบายๆ ส่วนพื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งเหลือค่อนข้างเยอะ สามารถที่จะติดตั้งเป็นโต๊ะนั่งทำงานขนาดใหญ่ได้เลยค่ะ ระยะการใช้งานเหลือเฟือ
พื้นที่ปลายเตียงก็สามารถติดตั้งชั้นวางทีวี หรือตู้ขนาด 35 cm ได้ แบบยังเหลือพื้นที่เดินปลายเตียงค่ะ
ภาพจากหัวเตียงมองไปยังโซนตู้เสื้อผ้าและประตูทางเข้าห้องค่ะ
ซึ่งห้องนอนนี้ สามารถตกแต่งบริเวณฝั่งประตูทางเข้าเป็นส่วนตู้เสื้อผ้าและห้องแต่งตัว จะเชื่อมต่อกับห้องนี้เป็นหนึ่งเดียวกันเลย เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ได้ซีเรียส เรื่องต้องการห้องแต่งตัวที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากนักค่ะ
สำหรับช่องแสงที่เด่นในห้องนี้คือชุดหน้าต่างบาน ฟิกซ์ผสมบานเลื่อน โดยจะได้เป็นกระจกแบบเข้ามุม ทำให้รับแสงธรรมชาติจากภายนอกได้มากขึ้นและยังเพิ่มมุมมองจากภายในบ้านออกไปด้านนอกได้อีกด้วยค่ะ
หน้าต่างห้องนอนก็จะได้แบบ Corner Window เข้ามุม เปิดมุมมองให้เห็นวิวภายนอกได้กว้าง บานเลื่อนด้านหน้า ส่วนด้านข้างติดกับระเบียงเป็นบานกระทุ้งค่ะ วัสดุอลูมิเนียมสีขาวกระจกสีเขียวตัดแสง
มือจับแบบเซาะร่องมาตรฐาน
ที่ด้านข้างของบ้านมีตัวล็อคแบบก้นหอยเพิ่มเติมด้วยกันงัดแงะ
พื้นที่ระเบียงด้านข้าง เป็นระเบียงระบายอากาศ หรือใช้เป็นทางสำหรับขึ้นไปเซอร์วิสซ่อมคอล์ยแอร์ ที่ซ่อนอยู่ด้านบนเฉยๆนะคะ หากต้องการออกไปใช้งานต้องปีนข้ามหน้าต่างออกไป หรือลืมไปตากผ้าที่ราวระเบียงก็ได้อยู่ค่ะ
ออกมาที่โถงบันไดเราจะไปดูในส่วนของห้องนอนรอง ทั้งสองห้องกันต่อ สำหรับประตูห้องนอนก็จะมีความสูงถึง 2.2 เมตร เช่นกัน
โดยเราจะเริ่มจากห้องฝั่งซ้ายมือก่อนนะคะ
สำหรับห้องนี้โครงการได้ตกแต่งสไตล์เด็กผู้ชายค่ะ ด้วยโทนสีฟ้า ทำเป็นเตียงแบบ Bunk Bed ที่ทำให้เพิ่มพื้นที่ใช้สอย เป็น Living Area ด้านล่างได้เยอะ
สังเกตที่ผนังฝั่งเปิดประตูออกมา โครงการได้ติดตั้งปลั๊กไฟและสายอากาศเอาไว้ให้สำหรับวางทีวีด้วยเช่นกัน
แอบปีนขึ้นไปสำรวจด้านบนเตียงมาให้ชมค่ะ คือเป็นเตียงที่สำหรับใช้นอนอย่างเดียวเลย ไม่สามารถนั่งเล่นได้ แต่ก็นั่นแหละค่ะ โครงการทาวน์โฮมทั่วไปมักจะไม่ได้ฝ้าเพดานที่สูงขนาดสามารถวางเตียง 2 ชั้นได้แบบนี้ ภาพมุมมองจากด้านบนเตียงลงไปที่ Living area ด้านล่าง
ออกจากห้องนอน 2 มาชมห้องนอนสุดท้ายกันค่ะ ห้องนอนนี้จะมีหน้าต่างช่องแสงบานเลื่อนอลูมิเนียมจุดเดียวที่หลังบ้านเช่นเดียวกันกับห้องนอน 2
ซึ่งโครงการได้ตกแต่งวางเตียงขนาด 3.5 * 5 ฟุตมาให้ 1 ตัว หากดูจากขนาดห้องแล้ว จริงๆถ้าไม่มีโต๊ะทำงาน ก็สามารถวางเตียงขนาดควีนไซส์ได้เลยนะคะ
ที่ผนังด้านข้างของโต๊ะทำงานฝั่งติดกับประตูทางเข้า เป็นผนังที่อยู่เข้าไปค่ะ ซึ่งสามารถบิวท์อินเป็นตู้เสื้อผ้าได้ตามใจ หรือจะทำเป็นมุมตู้หนังสือ สำหรับอ่านหนังสือภายในห้องนอนก็ย่อมได้
ฝ้าเพดานสูงโปร่งทำให้สามารถตกแต่งโดยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยสำหรับเก็บของด้านบนได้หากต้องการ
พื้นที่ปลายเตียงก็ยังเหลืออีกประมาณ 50 เซนติเมตรนะคะ หากต้องการวางเตียงให้สามารถเดินวนรอบเตียงก็ทำได้เช่นกัน
บ้านตัวอย่าง ทาวน์โฮม Rain : หน้ากว้าง 8 เมตร : 168 ตร.ม.
มาถึงบ้านตัวอย่างทาวน์โฮมขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการการะนะคะนั่นก็คือ แบบบ้าน Rain หน้ากว้าง 8 เมตรค่ะ
สำหรับพื้นที่จอดรถหน้าบ้าน ก็สามารถจอดได้ 2 คันเช่นเดียวกันกับทุกหลังค่ะ แต่จะได้บานประตูเป็นบานเลื่อน ซึ่งสามารถติดตั้งรีโมทประตูอัตโนมัติได้แบบไม่เกะกะ และมีพื้นที่สวนที่เฉลียงทางเข้าด้านหน้าของบ้านเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่ชอบปลูกต้นไม้
บ้าน Rain : ชั้น 1
เฉลียงทางเข้าด้านหน้าของบ้านจะอยู่ถัดออกไปจากโรงจอดรถด้านข้างค่ะ ซึ่งจะเป็นพื้นปูหญ้าเอาไว้ให้เรียบร้อย พร้อมลงต้นไม้เอาไว้ให้ด้วย
เฉียงทางเข้าบ้านจริงจะได้แบบนี้ค่ะ ความกว้างประมาณ 80 ซม. ปูกระเบื้องเซรามิกสีเทาอ่อนผิวสัมผัสด้าน
พื้นที่ข้างบ้านก็จะลงไม้พุ่มพร้อมปูหญ้าไว้ให้
ประตูทางเข้าจะเป็นบานเลื่อนอลูมิเนียมสีขาว กระจกสีเขียวตัดแสง เป็นบานเลื่อนเปิดคู่ค่ะ
วัสดุมือจับแบบเซาะร่องมาตรฐานโดยมีกุญแจฝังอยู่ในบ้าน
ตัวล็อคก้นหอยด้านข้างของบานเหมือนกันกับหน้าต่าง
เข้าไปภายในบ้านจะเจอกับห้องนั่งเล่นเต็มพื้นที่หน้ากว้างของบ้านค่ะ ฝ้าเพดานได้โคมดาวน์ไลท์ LED ทั้งหมด แต่ไม่ได้ Drop ฝ้าให้นะคะ พื้นบ้านปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโตขนาด 60×60 ซม.
พื้นที่วางโซฟาสามารถวางได้ขนาดใหญ่เต็มที่ 5-8 ที่นั่ง เป็นรูปตัว L ได้เลยค่ะ เนื่องจากบ้านกว้างมาก
มุมมองจากโซฟาไปยังผนังดูทีวีกันบ้าง ผนังวางทีวีคือผนังห้องน้ำซึ่งด้านข้างจะเป็นโถงทางเดินสู่บันไดทางขึ้นชั้น 2 ของบ้าน, ห้องอเนกประสงค์ และห้องน้ำ
ภาพมุมมองย้อนกลับไปยังหน้าบ้านโซนห้องรับแขก จะเห็นถึงความโปร่งโล่งของประตูบานใหญ่ที่มีลูกฟักกระจกด้านบนให้ด้วย
ถัดจากห้องนั่งเล่นไปก็จะเป็นห้องทานอาหารค่ะ ซึ่งเชื่อมต่อกับห้องครัว และห้องน้ำด้านข้าง หน้าต่างบานเลื่อนได้ขนาดใหญ่ค่ะ แต่ด้านข้างหากเป็นแปลงกลางจะไม่มีให้นะคะ
โต๊ะทานอาหารจัดวางได้ 4-5 ที่นั่งแบบเดินได้โดยรอบค่ะ จริงๆแล้วสามารถปรับพื้นที่ทานอาหารให้เป็นอีก Living Area ได้ โดยหาโซฟา หรือสตูลยาวๆ วางชิดผนังฝั่งติดหน้าต่างบานเลื่อน หรืดติดผนังในแปลงกลาง จะวางทางเดียวหรือเข้ามุมก็ได้ ก็จะสามารถนั่งสบายๆได้ รับแขกได้เพิ่ม และทานอาหารได้เหมือนเดิมค่ะ
การตกแต่งโต๊ะทานอาหารสวยงามน่ารักดีค่ะ ด้านข้างขวามือในภาพ จะเป็นห้องครัว
ภามุมมองจากห้องทานอาหาร ไปยังห้องครัว ซึ่งบ้านจริงที่ได้จะไม่มีประตูบานเฟี้ยมให้แบบนี้นะคะ ลูกบ้านสามารถตกแต่งเองตามสะดวก
เคาน์เตอร์ครัวสามารถสร้าง เต็มความยาวผนัง เป็นรูปตัวL และเดินท่อน้ำดี น้ำทิ้ง รวมถึงปลั๊กไฟไว้ให้
สำหรับพื้นที่วางตู้เย็นสามารถวางได้ 80 ซม. หรือใหญ่กว่า 7.4 คิวนิดหน่อยค่ะ
อีกมุมหนึ่งก็สามารถวางเครื่องซักผ้าได้เช่นกัน หรือจะทำเป็นตู้เก็บจานก็ได้นะคะ
ห้องครัวเชื่อมต่อกับระเบียง ลานซักล้างหลังบ้าน
ซึ่งประตูทางออกสู่ระเบียงก็จะเหมือนกันกับบ้านหลังที่แล้วค่ะ วัสดุอลูมิเนียมสีขาว กระจกฝ้าโปร่งแสง มือจับก้านโยกสแตนเลสแบบมีกุญแจฝังในบาน
ลานซักล้างหลังบ้านเป็นพื้นซีเมนต์ปาดเรียบ เดินระบบบ่อพักน้ำ, ถังดักไขมัน และแทงค์น้ำไว้ให้
เนื่องด้วยหน้ากว้างของบ้านนั้นถึง 8 เมตร ทำให้มีพื้นที่สวน สามารถปลูกต้นไม้ ที่โซนลานซักล้างได้เช่นกันค่ะ รวมถึงสามารถต่อเติมด้านหลังได้ หากต้องการ
หากเป็นแปลงมุมก็สามารถจัดสวนที่พื้นที่ด้านข้างของบ้านแบบนี้ได้ค่ะ
กลับมาภายในบ้าน ไปชมโถงทางเดิน ซึ่งเป็นทางขึ้นบันใดชั้น 2 กันนะคะ โถงทางเดินนี้จะประกอบด้วยห้องเก็บของที่อยู่ถัดจากบันได ห้องนอนสีหรือห้องอเนกประสงค์ และห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันกับชั้นล่างทั้งหมดค่ะ
พื้นที่ห้องเก็บของก็จะเป็นพื้นที่ใต้บันไดเช่นเดียวกันกับห้องที่แล้วค่ะ ซึ่งสามารถกั้นประตูปิดเป็นห้องทึบได้หากต้องการ
ภายในสุดของห้องก็จะแคบลงเนื่องจากเป็นพื้นที่ส่วนใต้ชั้นพักของบันได สามารถเก็บกล่องของใช้หรืออุปกรณ์ที่มักไม่ค่อยได้หยิบมาใช้งานบ่อยได้ค่ะ ภายในติดไฟฟลูออเรสเซนต์ให้ 1 ดวง
ข้างห้องเก็บของก็จะเป็นห้องเอนกประสงค์ค่ะ ซื้อห้องนอนนี้หน้าต่างเชื่อมต่อกับบริเวณโรงจอดรถหน้าบ้าน สามารถมองเห็นว่าใครผ่านไปผ่านมาหน้าบ้านได้ค่ะ
พื้นที่ใช้สอยของห้องนี้จะไม่มากนักสามารถวางเตียง 3.5×5 ฟุตได้ 1 ตัวพร้อมพื้นที่ข้างเตียงประมาณ 1 เมตรและตู้เสื้อผ้าขนาดเล็กๆที่ข้างประตู ซึ่งเหมาะสำหรับทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ ห้องนอนแม่บ้าน หรือแขกผู้มาเยือน หรือจะทำเป็นห้องทำงานอเนกประสงค์ก็ย่อมได้ค่ะ
ส่วนห้องน้ำของชั้นล่างจะอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามกับห้องนอนพอดีค่ะ
จุดติดตั้งตู้เบรกเกอร์ก็อยู่ตรงข้ามห้องน้ำด้วยเช่นกัน ยี่ห้อเดียวกับหลังที่แล้ว
ภายในห้องน้ำก็จะได้อุปกรณ์สุขภัณฑ์และ Accessories ต่างๆเหมือนกันกับบ้านหลังที่แล้วทุกประการค่ะ รวมถึงฝ้าเพดานที่สูงโปร่ง และซ่อนหลืบไฟ และกระจกบริเวณอ่างล้างหน้าที่ขนาดใหญ่ และมีซ่อนหลืบไฟเอาไว้ให้ด้วยเช่นกันค่ะ
ภาพอีกมุมหนึ่งของห้องน้ำมองออกไปที่ทางเข้า ห้องน้ำนี้มีโซนอาบน้ำให้ด้วยเช่นกันค่ะ ซึ่งถือว่าจัดตำแหน่งใดดี ห้องนอนชั้นล่างสามารถออกมาใช้ได้สะดวกและมีความเป็นส่วนตัว รวมถึงโซนอยู่อาศัยนั่งเล่นก็สามารถเดินมาใช้ที่จุดนี้ได้เช่นกัน
บันไดทางขึ้นชั้น 2 จะอยู่ที่ด้านหลังผนังวางทีวีพอดีเลยค่ะ วัสดุบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งได้เหมือนกันกับบ้านหลังที่แล้ว
จุดเด่นของทาวน์โฮมที่นี่อีกอย่างหนึ่งคือช่องแสงขนาดใหญ่และสูงเกือบจรดฝ้าเพดานบริเวณโถงชานพักของบันไดทำให้บ้านดูหรูมากยิ่งขึ้นค่ะ รวมถึงเป็นหน้าต่างบานเลื่อนที่สามารถเปิดระบายอากาศได้ด้วย ไม่ใช่บาน Fix ติดตาย ปกติทาวโฮมจะไม่ค่อยมีช่องแสงแบบนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยวเสียมากกว่า
ชานพักบันไดก็ได้มาแบบเต็มขั้นเดินสะดวกปลอดภัย
ภาพอีกมุมมองหนึ่งของโถงบันไดจากพื้นที่ชั้น 2 ของบ้านค่ะ
บ้าน Rain : ชั้น 2
จากหน้าโถงบันไดเมื่อสักครู่เรากลับหลังหันก็จะเจอกับห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องอยู่ตรงหน้า และห้องนอน Master bedroom จะอยู่ทางด้านขวามือค่ะ
มุมมองไปทางขวามือให้เห็นห้อง Master bedroom เราจะพาไปชมห้องนี้กันก่อน
ห้องนอนใหญ่ Master bedroom ฝ้าเพดานสูง 2.8 เมตร สามารถวางเตียงขนาดคิงไซส์ได้ โดยมีประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ความกว้างถึง 1.8 เมตรออกสู่ระเบียงเปิดมุมมองให้ห้องดูกว้าง
จะเห็นว่าห้องนอนนี้ค่อนข้างกว้างขวางและสะดวกเลยทีเดียวค่ะ ขนาดวางเตียง King size แล้วยังมีพื้นที่สามารถเดินได้โดยรอบเตียง
พื้นที่ปลายเตียงเหลือเยอะ สามารถวางโต๊ะวางทีวีขนาดความกว้างประมาณ 35 cm ได้ รวมถึงเดินสายอากาศและปลั๊กไฟเอาไว้ให้ด้วยถึง 2 ชุด
ภาพมุมมองจากปลายเตียงไปยังหัวเตียง พื้นที่ข้างเตียงด้านขวามือ 1 เมตร ซ้ายมือ 90 ซม. ค่อนข้างกว้างเลย
ประตูทางออกสู่ระเบียง หรือจะเรียกว่าหน้าต่างน่าจะถูกกว่าค่ะเนื่องจากห้องนอนนี้ไม่มีระเบียง วัสดุอลูมิเนียมสีขาว กระจกสีเขียวตัดแสง
ถึงแม้จะไม่มีพื้นที่ใช้สอยบริเวณระเบียงซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยได้ออกไปพักผ่อนบริเวณระเบียงของห้องนอนเสียเท่าไหร่นะค่ะ มีราวกันตกเหล็กไว้ให้ด้วยเพื่อความปลอดภัย ซึ่งเป็นเหล็กโปร่ง สามารถชมวิวได้กว้าง
ภาพมุมมองจากระเบียงไปยังทาวน์โฮมฝั่งตรงข้าม
ส่วน Walk in closet จะอยู่อีกฝั่งหนึ่งของห้องค่ะ ซึ่งเชื่อมต่อกับห้องนอนโดยตรงเหมือนกับบ้านหลังที่แล้ว มีพื้นที่ผนังของห้องน้ำยุบเข้าไป ซึ่งสามารถ Build In ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่สูงจรดฝ้าเพดานได้
โครงการได้ทำตู้เสื้อผ้ามาให้ชมค่ะว่าหน้าตาจะเป็นอย่างไร ซึ่งจริงๆแล้วก็สามารถทำให้เป็นห้องแต่งตัวแบบปิดได้เช่นกันนะคะหากต้องการความเป็นส่วนตัว ตรงกลางระหว่างตู้เสื้อผ้าจะเป็นทางเดินเข้าสู่ห้องน้ำค่ะ
ภายในห้องน้ำก็หน้าตาเหมือนกันกับทุกห้องค่ะ
โซนอาบน้ำ
ภาพมุมมองจากห้องน้ำออกไปยังห้องนอนหลัก
ออกมาจากห้องนอนหลับมองไปยังฝั่งตรงข้ามเยื้องไปทางขวามือนิดหน่อยก็จะเจอกับห้องนอนเล็กทั้งสองรวมถึงห้องน้ำ ของห้องนอนเล็ก ที่อยู่ตรงข้ามกันกับ Master Bedroom พอดีค่ะ
เข้าไปชมภายในห้องนอน 2 กัน ห้องนอนนี้ตกแต่งออกแนวโมเดิร์นวินเทจหน่อยๆค่ะ เน้นสีโทนขาวให้ดูอ่อนหวาน ตัดด้วยสีเทา และสีน้ำตาลเข้ม
ซึ่งสามารถวางเตียงขนาด 3.5×5 ฟุตได้แบบมีทางเดินรอบเตียง เดินได้แบบสบายๆ และมีสายอากาศ รวมถึงปลั๊กไฟให้ที่ปลายเตียงมุมห้องอีกด้วย
จุด Built in ตู้เสื้อผ้าด้านข้างของประตูก็สามารถทำได้ยาวถึง 1.6 เมตรค่ะ
ภาพมุมมองจากหัวเตียงไปยังปลายเตียง จะเห็นว่าพื้นที่ปลายเตียงของห้องนี้อาจจะเหลือแคบหน่อยนะคะประมาณ 40 ซม. ซึ่งไม่สามารถวางโต๊ะปลายเตียงได้เหมือนห้องอื่นๆ หากต้องการติดทีวีแนะนำเป็นทีวีแบบแขวนค่ะ
สำหรับห้องนอน 3 ที่อยู่ติดกันกับห้องนอน 2 จะมีขนาดเล็กลงนิดหน่อย มีหน้าต่างช่องแสงบานเลื่อน 1 จุด และสามารถวางเตียงขนาด 3.5 x 5 ฟุต ได้ 1 ตัว
อาจจะเห็นว่าพื้นที่ปลายเตียงเหลือเยอะกว่าห้องที่แล้ว แต่จริงๆคือพื้นที่ข้างเตียงจะเหลือแคบกว่าค่ะ เนื่องจากห้องนี้วางเตียงชิดผนังฝั่งเดียว
พื้นที่ด้านข้างเตียงก็สามารถวางโต๊ะทำงานขนาดกว้าง 80 ซม. ได้ และ Build In ตู้เสื้อผ้า ความกว้าง 1.6 เมตรที่ด้านข้างประตูได้
ส่วนภายในห้องน้ำที่อยู่ติดโถงบันได ใช้ร่วมกันกับห้องนอนและทั้ง 2 ห้องนี้ เข้าไปจะเห็นว่ามีขนาดใหญ่กว่าห้องน้ำของ Master Bedroom หน่อยนะคะ ซึ่งจริงๆแล้วจัดมาได้ดีค่ะ เนื่องจากเป็นห้องน้ำที่คนน่าจะใช้ร่วมกันหลายคนมากกว่า ความเป็นส่วนตัวน้อยกว่า แต่ได้เรื่องความโปร่งโล่งและขนาดไป
ส่วนอาบน้ำขนาด 2.0×90 ซม. ซึ่งกว้างขวางจนสามารถทำเก้าอี้นั่งอาบน้ำชิลๆ เพิ่มเติมได้เลยค่ะ
อีกมุมมองนึงของห้องน้ำ จากภายในโซน Shower จะเห็นว่ากระจกที่ได้ ฝังอยู่กับผนังจะเหลือขอบทั้งสองข้าง เนื่องจากได้กระจกไซส์เดียวกันกับชั้นล่างนะคะ รวมถึงซ่อนหลืบไฟบนล่างไว้ให้ด้วย แต่ไม่น่าจะติดขัดอะไรมากนัก หากรู้สึกขัดตา ก็สามารถหาคิ้วมาตกแต่งเพิ่มเติมได้ค่ะ
:::: ราคา (พฤศจิกายน 2560) ::::
ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท
แบบบ้าน Winter : พื้นที่ใช้สอย 123 ตร.ม.
ที่ดินขนาด 20.6 ตร.วา
ราคา 2,490,000 บาท
เงินดาวน์ 1 งวด 35,000 บาท
แบบบ้าน Autumn : พื้นที่ใช้สอย 139 ตร.ม. (เฟสใหม่)
ที่ดินขนาด 23.5 ตร.วา
ราคา 2,xxx,xxx บาท
เงินดาวน์ 1 งวด n/a บาท
แบบบ้าน Rain : พื้นที่ใช้สอย 168 ตร.ม.
ที่ดินขนาด 29 ตร.วา
ราคา 3,990,000 บาท
เงินดาวน์ 1 งวด 35,000 บาท
**ข้อมูลราคาและ โปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และข้อมูลที่อัพเดทที่สุดค่ะ
:::: สรุป ::::
• ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ Citysense พระราม 2 – ท่าข้าม ตั้งอยู่ติดถนนพุทธบูชาหรือถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก (วงแหวนใต้) ฝั่งมุ่งหน้าบางขุนเทียน – ชายทะเล ที่อยู่ไม่ไกลจากจุดศูนย์กลางย่านพระราม 2 มากนักค่ะ เน้นทำเลอิงถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอก) บรรยากาศโดยรอบค่อนข้างสงบเงียบ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับทำเลบนเส้นข้างเคียงอย่าง ประชาอุทิศและสุขสวัสดิ์ซึ่งจะมีที่อยู่อาศัยและการจราจรที่หนาแน่นกว่าค่ะ โดยโซนเลียบวงแหวนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นโซนที่ผู้คนทางฝั่งพระราม 2 มักจะขยายออกมาหาที่อยู่อาศัยใหม่กัน เพื่อสะดวกในการเดินทางด้วยถนนกาญจนาภิเษกเป็นหลัก ไปยังตัวเมืองสุขสวัสดฺและ กทม.โซนข้างเคียง
บริเวณรอบพื้นที่ข้างเคียงส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินเปล่าและที่อยู่อาศัยส่วนบุคคล ข้อดีคืออยู่ติดโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรี ในระยะเดิน เพียง 130 เมตรเท่านั้นค่ะ ส่วนความอุดมสมบูรณ์ใกล้เคียงก็จะต้องไปอิงตามความหนาแน่นของที่อยู่อาศัย คือจะเป็นทางฝั่งประชาอุทิศและสุขสวัสดิ์ส่วนใหญ่ แต่ใกล้ๆกันก็มีร้านอาหาร ตลาดคลองบางมด และสุขเจริญมาร์เก็ต อยู่ไม่ไกลในระยะขับรถเพียง 3 นาทีเท่านั้นค่ะ ส่วนห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่สุด ที่ใกล้โครงการมากที่สุด ก็จะเป็น Central พระราม 2 ห่างจากโครงการ 9.7 กม.
• การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ผู้ที่เลือกอยู่อาศัยในโซนถนนเลียบวงแหวนจะเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักค่ะ ซึ่งก็สะดวกสบายมากๆโดยจากตัวโครงการจะสามารถใช้เส้นพุทธบูชาวิ่งตรงไปเส้นพระราม 2 หรือขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครได้ และสามารถใช้เส้นสุขสวัสดิ์ข้ามสะพานภูมิพลไปถึงเส้นพระราม 3 วิ่งเข้าสาทรได้เลยแต่อาจจะมีรถติดบางช่วง หรือจะเลือกขึ้นกาญจนาภิเษก (วงแหวนใต้) ข้ามสะพานกาญจนาภิเษกก็สามารถไปถึงทางแบริ่ง อุดมสุขได้
นอกจากนั้นมีซอยลัด ออกสู่ ถ.พุทธบูชา คือซอยพุทธบูชา 36 และ ซ.บางโพธิ์ล่างออก ถ.สมานมิตรพัฒนา และ ซอยประชาอุทิศ 76 ที่สามารถใช้เข้าวิ่งบนถนนประชาอุทิศเชื่อมกับถนนสุขสวัสดิ์ตรงแยกประชาอุทิศได้ค่ะ
ส่วนทางด่วนที่ใกล้โครงการมีทางด่วนกาญจนาภิเษกฝั่งใต้ใช้เดินทางเข้าเมืองได้สะดวก และยังใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานครใช้วิ่งเข้าสาทร, ลุมพินี ได้ค่อนข้างสะดวกเลยค่ะ
• การเดินทางโดยรถสาธารณะ ถือว่าไม่ได้สะดวกมากตามปกติของทำเลโครงการแนวราบทีตั้งอยู่โซนถนนเลียบวงแหวนไม่ว่าจะโซนไหน ก็จะไม่ค่อยมีรถสาธารณะเป็นปกติอยู่แล้วค่ะ หน้าโครงการที่อยู่ติดกับถนนเลียบกาญจนาภิเษกนั้นก็จะมีพี่วินหรือ Taxi วิ่งผ่านบ้าง แต่ไม่ถี่มาก ต้องขยับเข้ามาที่ถนนประชาอุทิศถึงจะมีรถเมล์สาย 21 วิ่งผ่าน ซึ่งสายนี้สามารถวิ่งยาวเข้าเมืองไปถึงสยามเลยนะ ซึ่งหากใครที่ต้องพึ่งพารถสาธารณะนั้นปัจจุบันสะดวกสุดก็อาจจะต้องพึ่ง Application เรียกแท็กซี่ให้เข้ามารับในโครงการแทน ซึ่งจะสะดวกที่สุดค่ะ ส่วนรถไฟฟ้าในอนาคตจะมี รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีใกล้ที่สุดคือ สถานีครุใน ซึ่งคาดว่าเสร็จในปี 2563
• การออกแบบโครงการและวัสดุ โครงการ Citysense พระราม 2 – ท่าข้าม เป็นบ้านทาวน์โฮม 2 ชั้นทั้งหมดค่ะ บนที่ดินทั้งหมดประมาณ 43 ไร่ 425 ยูนิต จากหน้าโครงการที่ติดกับถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกเข้ามาประมาณ 450 ม. ก็จะเจอซุ้มทางเข้า-ออกโครงการ การจัดตำแหน่งหน้าบ้านนั้นจะเน้นไปที่ทิศเหนือ-ใต้ ซึ่งทั้ง 2 ทิศนี้จัดเป็นทิศที่เหมาะสมกับการวางตำแหน่งหน้าบ้าน
ส่วนแบบบ้าน มีทั้งหมด 3 แบบด้วยกันค่ะ คือทาวน์โฮม Winter (หน้ากว้าง 5 เมตร : 123 ตร.ม.), Autumn (หน้ากว้าง 5.7 เมตร : 139 ตร.ม.) และ Rain (หน้ากว้าง 8 เมตร : 168 ตร.ม.) สไตล์โมเดิร์น 2 ที่จอดรถทั้งหมด ที่ใส่ใจในรายละเอียดภายในและภายนอกของบ้านดีค่ะ
หน้าบ้านเน้นโทนสีขาว-น้ำตาลอ่อนวอลนัท ตัดด้วยสีเขียวของวัสดุกระจกตัดแสง และคอลย์ร้อนแอร์ที่ถูกซ่อนเอาไว้เหนือหน้าต่างชั้น 2 ของบ้าน ใต้หลังคา ทำให้หน้าบ้านดูสวยงามเรียบร้อย โครงสร้างคอนกรีตทั้งหมด และไม่มีเหลี่ยมเสาภายใน
ภายในบ้าน ฝ้าเพดานสูงโปร่งทั้งชั้น 1 และชั้น 2 ถึง 2.8 เมตร ส่งผลถึงระยะการออกแบบบันไดที่ทำให้ไม่ต้องบีบขั้นจนเกิดชานพักรูปสามเหลี่ยมให้เดินลำบากหรือสะดุดค่ะ หน้าต่างช่องแสงภายในบ้านขนาดใหญ่และเพียงพอ วัสดุอลูมิเนียมสีขาว กระจกสีเขียวตัดแสง ประตูภายในบ้านสูงเป็นพิเศษถึง 2.2 เมตรค่ะ รวมถึงภายในห้องน้ำที่ออกแบบมาสวยงามมากเลยทีเดียว สุขภัณฑ์เกรดทาวน์โฮมในราคาระดับเดียวกันทั่วไปค่ะ ยี่ห้อ Mogen, Accessories สแตนเลส VRH แต่ด้านหลังอ่างมีทำ Low Wall ปูท๊อปหิน พร้อมได้กระจกบานใหญ่ที่ซ่อนหลืบไฟตกแต่งไว้ให้ด้วย รวมถึงฝ้าเพดาน ก็ซ่อนหลืบไฟไว้เช่นกันค่ะ ช่วยเพิ่มบรรยากาศภายในบ้านให้ดูผ่อนคลายมากขึ้นด้วย และที่สำคัญ ได้แบบนี้ ทุกห้อง ทุกหลังค่ะ ไม่มีลดเกรด ชั้นล่างแบบนึง ชั้นบนแบบนึง
• สิ่งอำนวยความสะดวกและระบบรักษาความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวกให้มาค่อนข้างดีค่ะ ตั้งแต่การออกแบบผังรูปร่างคล้ายก้างปลาและให้ถนนเมนกว้างถึง 14 เมตร และถนนซอยกว้าง 9 เมตร ซึ่งโดยปกติแล้วทาวน์โฮมแบรนด์ทั่วไปจะให้มา 8 เมตร พร้อมทำลู่วิ่งจักรยานให้ด้วย ส่วนคลับเฮ้าส์ทั้งหมดพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ค่ะ แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ด้านหน้าโครงการเป็น O2 Club หรือ Club House พร้อมสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 25×8 เมตร พร้อมพื้นที่พักผ่อนริมสระขนาดใหญ่บรรยากาศดีด้วยเช่นกันค่ะ ถัดมาบริเวณกลางโครงการจะเป็น O2 Park หรือสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ซึ่ง ทั้ง 2 พื้นที่ส่วนกลางนั้นจะอยู่คนละตำแหน่งกันนะคะ ข้อดีคือเป็นการเฉลี่ยตำแหน่งใช้งานสำหรับผู้ที่อยู่หน้าโครงการ และท้ายโครงการค่ะ ใครที่อยู่ด้านหน้า หากอยากใช้งานสวน ก็ต้องเข้าไปลึกหน่อย ส่วนใครที่อยู่ท้าย อยากใช้คลับเฮ้าส์ ก็แค่ออกมาด้านหน้า
ส่วนระบบรักษาความปลอดภัย มาตรฐานค่ะ ข้อดีคือไม่ติดถนนใหญ่ ไม่วุ่นวาย มีรปภ. 24 ชั่วโมง พร้อม CCTV เข้า-ออกโครงการด้วยระบบ Key Card
:::: คะแนน ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 7.7 | ติดถนนพุทธบูชา สภาพแวดล้อมโดยรอบเงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัวเหมาะกับการอยู่อาศัย มีความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่ใกล้เคียง |
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว | 7.8 | ค่อนข้างสะดวกจากถนนพุทธบูชาสามารถเชื่อมไปพระราม 2 , ประชาอุทิศ, สุขสวัสดิ์ วิ่งตรงไปเข้าสาทรได้ ใกล้ทางด่วนกาญจนาภิเษกฝั่งใต้และทางด่วนเฉลิมมหานคร |
การเดินทางโดยรถสาธารณะ | 6 | มีแค่พี่วินหรือ Taxi ผ่านหน้าโครงการนานๆที นอกนั้นต้องไปบนเส้นประชาอุทิศถึงจะมีรถเมล์และรถกะป้อ และอยู่ในละแวกการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีม่วง |
บ้านและวัสดุ | 9 | ตัวบ้านออกแบบมาดีค่ะ ใส่ใจฟังก์ชั่นการใช้งาน ที่ลงตัวและวัสดุ ที่ผ่านการคิดมาแล้วว่าเหมาะสม และสามารถใช้ได้ยาวนาน โครงสร้างคสล. ทั้งหมด ฝ้าเพดานสูงโปร่ง วัสดุพื้น, ผนัง, หน้าต่างมาตรฐาน แต่ได้หน้าต่างช่องแสงบานใหญ่ นับว่าเป็นทาวน์โฮมที่ดีไซน์ค่อนข้างแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ โครงการนึงเลยค่ะ |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.5 | สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน บรรยากาศดี สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ให้คะแนนเรื่องบรรยากาศภายในโครงการที่ลงต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงามาเยอะจริงๆ ระบบรักษาความปลอดภัยดี มีสัญญาณกันขโมยให้ทุกหลัง |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8 | ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท เหมาะกับครอบครัวขนาด 1-3 คน อาศัยและทำงานอยู่ในย่านท่าข้าม – บางขุนเทียน-สุขสวัสดิ์-พระราม2-พระสมุทรเจดีย์ เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.83 | ดี |
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
Tel : 1753
Website : http://www.prinsiri.com
Facebook : http://www.facebook.com/PrinsiriPCL
หากท่านเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
แสดงความคิดเห็น