รีวิว ทาวน์โฮม Q District กิ่งแก้ว – สุวรรณภูมิ ราคาเริ่มต้นที่ 2.89 ล้านบาท

---

---

ทาวน์โฮม CASA CITY ทำเลอื่นๆ ทีน่าสนใจ…
CASA CITY ดอนเมือง-ศรีสมาน
CASA CITY วงแหวน-ลำลูกกา
CASA CITY วงแหวน-ลำลูกกา 2
CASA CITY เกษตร – นวมินทร์
CASA CITY สุคนธสวัสดิ์ 2
CASA CITY วัชรพล-เพิ่มสิน
CASA CITY สุขุมวิท 101/1
CASA CITY บางขุนเทียน-พระราม 2
CASA CITY ลาดพร้าว
CASA CITY กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ
CASA CITY ประชาอุทิศ 90

---

---

ชื่อโครงการ	คิว ดิสทริค กิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ Q District Kingkaew – Suvarnabhumi
เจ้าของโครงการ	บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) Q.house
ลักษณะโครงการ	ทาวน์โฮม และทาวน์โฮมแฝด สูง 2 ชั้น
พื้นที่โครงการ	18-0-72 ไร่ และ 40 – 1 – 8 ไร่
จำนวนบ้าน	129 ยูนิต และ 439 ยูนิต
พื้นที่ใช้สอย	106 – 132 ตรม.
เนื้อที่บ้าน	เริ่มต้น 17 ตร.วา
จำนวนห้อง	3 – 4 ห้องนอน, 2 – 3 ห้องน้ำ
ที่จอดรถทั้งหมด	2 คัน
โซน	สมุทรปราการ
ขนส่งสาธารณะ	ถนนบางนา – ตราด วงแหวนรอบนอก มอเตอร์เวย์ Airport Link สุวรรณภูมิ
รถโดยสารที่ผ่าน	รถเมล์ รถตู้ รถ 2 แถว
ที่ตั้ง	ถนนกิ่งแก้ว ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
กำหนดการ	เปิดจอง 1 – 2 เมษายน 2560
ปีที่สร้างเสร็จ	ปลายปี 62
ราคา	ราคาเริ่มที่ 2.89  ล้านบาท (ก.ค.62)
ค่าส่วนกลางและกองทุน	35 บาท/ตร.วา/เดือน
สถานที่สำคัญใกล้เคียง	The Paseo : 4.6 กม. ตลาดกิ่งแก้ว : 8.3 กม. Makro บางพลี : 8.5 กม. HomePro บางพลี : 10.1 กม. Tesco Lotus บางพลี : 10.3 กม. Tesco Lotus อ่อนนุช : 10.8 กม. ราม 2 ไนท์บาร์ซาร์ : 12.5 กม. Mega บางนา และ Ikea บางนา : 13.3 กม. ตลาดเอี่ยมสมบัติ : 14.0 กม. Tesco Lotus บางนา : 14.1 กม. ตลาดนัดรถไฟ : 15.9 กม. ซีคอนสแควร์ : 15.9 กม. Paradise Park : 17.1 กม. Thanya Park : 17.2 กม. Makro ศรีนครินทร์ 2 : 17.2 กม. Index บางนา : 18.3 กม. Big C อ่อนนุช : 19.0 กม. Makro ศรีนครินทร์ : 19.4 กม. เซ็นทรัล บางนา : 21.0 กม. Bitec บางนา : 21.5 กม. Foodland ศรีนครินทร์ : 21.6 กม. ตลาดอุดมสุข : 22.7 กม. HABITO : 24.8 กม. รพ.จุฬารัตน์ 9 : 5.1 กม. รพ.ศิรินธร : 7.2 กม. รพ.จุฬารัตน์ : 10.3 กม. รพ.ศรีนครินทร์ : 19.2 กม. เทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯลาดกระบัง : 8.8 กม. ม.รามคำแหงบางนา : 12.1 กม. ม.หัวเฉียว : 13.1 กม. รร.เซนโยเซฟ บางนา : 22.6 กม. สนามบินสุวรรณภูมิ : 7.2 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก	คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนสาธารณะ Access Card Control CCTV รปภ. 24 ชม.
จุดเด่นของโครงการ	“Q District” บ้านแนวคิดใหม่ โครงการคุณภาพในเครือ ควอลิตี้เฮ้าส์ ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพโซนสมุทรปราการ ติดถนนกิ่งแก้ว ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมคลับเฮ้าส์หรู, สระว่ายน้ำ, สวนสาธารณะขนาดใหญ่ อุ่นใจกับระบบรักษาความปลอดภัยมาตรฐานตลอด 24 ชม.

---

---

:::: ที่ตั้งโครงการ ::::

ถนนกิ่งแก้ว ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

พิกัด : 13.700361, 100.728907

แผนที่จากทางโครงการ

ทำเลที่ตั้ง โครงการ Q District กิ่งแก้ว – สุวรรณภูมิ ตั้งอยู่บนถนนกิ่งแก้วใกล้สมุทรปราการย่านชานเมือง ตลอดเส้นถนนกิ่งแก้วส่วนมากจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรม, บริษัทขนส่งสินค้า, โกดัง, อาคารพาณิชย์, หอพัก และโครงการบ้านพักอาศัยในแนวราบ ถนนเส้นนี้จึงมีรถบรรทุกวิ่งผ่านค่อนข้างมาก มีร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อเป็นแหล่งพึ่งพิงได้บ้าง โดยรวมแล้วบนถนนเส้นนี้จะยังไม่มีจุดเด่นอะไรมากนัก บริเวณที่คึกคักขึ้นมาหน่อยก็จะเป็นช่วงแยกที่ตัดกับถนนบางนา – ตราด ตรงนั้นจะมีตลาดกิ่งแก้วหรือตลาดบางพลีใหญ่ ในบริเวณเดียวกันนั้นเองจะมีทั้ง Makro, Tesco Lotus, HomePro และรพ.จุฬารัตน์ 9 กระจุกรวมกันอยู่ เป็นหนึ่งแหล่งความอุดมสมบูรณ์ในระยะใกล้ให้คนในย่านนี้ได้มาจับจ่ายใช้สอยกัน

การเดินทางด้วยรถยนต์ ในย่านนี้การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวถือว่าสะดวกสบายค่ะ เพราะจากถนนกิ่งแก้วนั้นจะสามารถเข้าเมืองได้อยู่หลายเส้นทาง โดยถนนกิ่งแก้วเป็นถนนขนาด 4 – 8 เลน เชื่อมต่อกับถนนลาดกระบังไปทางอ่อนนุช, ถนนบางนา – ตราด และถนนเทพารักษ์ ซึ่งสามารถวิ่งไปเชื่อมกับถนนสุขุมวิทได้ทั้งหมด โดยทางที่สะดวกที่สุดก็จะเป็นทางมอเตอร์เวย์ (กรุงเทพ – ชลบุรี สายใหม่) สามารถวิ่งไปถึงพระราม 9 หรือทางพิเศษบูรพาวิถี ซึ่งจะไปเข้าเมืองทางฝั่งพระราม 4 ได้ ส่วนการเดินทางออกนอกเมืองจะสามารถใช้ได้ทั้งเส้นลาดกระบัง, มอเตอร์เวย์ และทางพิเศษบูรพาวิถีวิ่งออกไปทางชลบุรีค่ะ

ทางด่วน จากตัวโครงการจะมีตัวช่วยในการเดินทางอยู่ถึงสองเส้นด้วยกันนั่นก็คือทางมอร์เตอร์เวย์ (กรุงเทพ – ชลบุรี สายใหม่) ซึ่งอยู่ห่างจากตัวโครงการออกไปเพียง 5.3 กิโลเมตร โดยวิ่งจากถนนกิ่งแก้วตรงขึ้นไป วิ่งออกทางเลนขวาผ่านแยกลาดกระบังแล้วออกเลนซ้ายเพื่อขึ้นมอเตอร์เวย์ ซึ่งจากมอเตอร์เวย์จะสามารถวิ่งไปเข้าวงแหวนกาญจนาภิเษกได้ด้วย

ส่วนจุดขึ้นทางพิเศษบูรพาวิถีจะอยู่ห่างจากตัวโครงการออกไป 11.2 กิโลเมตร เมื่อออกจากหน้าโครงการแล้วให้กลับรถแล้ววิ่งไปออกทางคู่ขนานบางนา – ตราดแล้วยูเทิร์นกลับมาเพื่อขึ้นทางพิเศษบูรพาวิถี จะเข้า – ออกเมืองก็สะดวกสบายทั้ง 2 เส้น

ความอุดมสมบูรณ์ ความอุดมสมบูรณ์บนถนนกิ่งแก้วนั้นอาจจะยังมีไม่มากนักเพราะส่วนใหญ่จะเป็นที่ตั้งของโรงงาน, โกดังเก็บสินค้า, อาคารพาณิชย์ และบ้านพักอาศัยเป็นส่วนมาก เป็นเส้นที่มีรถบรรทุกวิ่งเป็นหลัก จะมีก็จะเป็นร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารร้านเล็กๆหลายร้าน แต่จะเป็นร้านที่เปิดเพื่อรองรับความต้องการของพนักงานในโรงงานเสียมากกว่า ถ้าจะหาห้างขนาดใหญ่จะต้องออกมาที่เส้นบางนา จะเป็นจุดรวมความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้เลย

ที่เส้นนั้นจะมีทั้งเซ็นทรัลบางนา, ไฮเปอร์มาร์เก็ตอย่าง Tesco Lotus และ Makro, ศูนย์รวมของตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์อย่าง Index และที่ใหญ่ที่สุดและครบครันที่สุดก็จะเป็น Mega และ Ikea บางนา นอกจากนั้นก็จะมีตลาดสดอย่างตลาดกิ่งแก้ว, โรงพยาบาลจุฬารัตน์ แต่ถ้าอยากจะไปเดินเล่นหาของกินชิวๆง่ายๆก็จะมี The Paseo เปนคอมมูนิตี้มอลล์อยู่ตรงเส้นลาดกระบังค่ะ ขับเลยจากแยกลาดกระบังไปไม่ไกลก็ถึง

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ บริเวณหน้าโครงการ Q District กิ่งแก้ว – สุวรรณภูมิ ก็จะมีรถสาธารณะวิ่งผ่านอยู่หลายสาย มีทั้งรถเมล์, รถตู้ และรถสองแถว ผ่านทั้งแอร์พอร์ตลิ้งค์, ตลาดหัวตะเข้ หรือไปถึงมีนบุรีเลยก็มี ถือว่าสามารถเดินทางได้สะดวกอยู่ ส่วนแอร์พอร์ตลิ้งค์สถานีลาดกระบังจะอยู่ห่างออกไปประมาณ 4.3 กม. ใครที่ต้องการเดินทางเข้าเมืองสามารถเรียกวินมอเตอร์ไซค์หรือรถ 2 แถวนั่งไปถึงได้ใช้เวลาเพียง 6 นาทีเท่านั้นเอง หรือจะขับรถไปจอดไว้ที่สถานีก็ทำได้เช่นกัน ในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงพัฒนาการ – สำโรงเกิดขึ้นมาอีก โดยสามารถนั่งจากแอร์พอร์ตลิ้งค์ไปลงที่สถานีหัวหมากต่อที่สถานีพัฒนาการได้สะดวก

---

:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::

วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการ Q District กิ่งแก้ว – สุวรรณภูมิ โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก

ถนนร่มเกล้า > แยกลาดกระบัง > ถนนลาดกระบัง > ถนนกิ่งแก้ว > โครงการ Q District กิ่งแก้ว – สุวรรณภูมิ

การเดินทางในวันนี้เราจะใช้เวลาประมาณ 12 นาทีค่ะ เริ่มจากถนนร่มเกล้าบริเวณแยกลาดกระบัง เมื่อมาถึงบริเวณแยกลาดกระบังแล้วให้เตรียมเลี้ยวขวาเข้าถนนลาดกระบังนะ

เมื่อเลี้ยวขวาเข้าถนนลาดกระบังแล้วก็ให้วิ่งตรงต่อไปเรื่อยๆ บนถนนลาดกระบังทั้งซ้ายและขวามือส่วนมากจะเป็นอาคารพาณิชย์และตึกแถว

จากนั้นให้สังเกตป้ายถนนกิ่งแก้วแล้วชิดซ้ายเอาไว้นะคะ

ชิดซ้ายแล้วเลี้ยวเข้าถนนกิ่งแก้วไปเลยค่า

เมื่อเลี้ยวเข้าถนนกิ่งแก้วมาแล้วให้วิ่งตรงไปตามป้ายบางนา – บางพลีค่ะ

วิ่งตรงตามถนนกิ่งแก้วไปเรื่อยๆ ริมถนนทั้งซ้ายและขวามือจะมีทั้งตึกแถว, อาคารพาณิชย์, โรงงาน และโกดังเก็บสินค้า เส้นนี้จึงมีรถบรรทุกวิ่งผ่านอยู่เป็นประจำ

ตรงไปเรื่อยๆจนถึงสะพานลอยที่ 3 จะเห็นจุดกลับรถที่ 1 อยู่ทางขวามือ แต่เราต้องไปกลับรถที่จุดกลับรถที่ 2 ค่ะ

เมื่อผ่านจุดกลับรถที่ 1 มาเล็กน้อยจะเห็นป้ายโครงการอยู่ฝั่งตรงข้ามแล้วค่ะ ถัดไปก็จะเป็นโชว์รูมของ Nissan และ Toyota

ตรงไปเรื่อยๆทางซ้ายมือจะเห็นโรงแรมแกรนด์ อินคำ

และร้าน Cockpit

เมื่อขับเลยจากร้าน Cockpit มาไม่ไกลให้ชิดขวาแล้วกลับรถที่จุดกลับรถที่ 2

เมื่อกลับรถมาแล้วให้วิ่งตรงตามถนนกิ่งแก้วมาเรื่อยๆ เมื่อเห็นป้ายโชว์รูม Toyota ให้รีบชิดซ้ายเลยนะคะ

แล้วเรามาถึงโครงการ Q District กิ่งแก้ว – สุวรรณภูมิ กันแล้วค่า

---

สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ

• ถนนลาดกระบัง : 3.3 กม.
• แยกลาดกระบัง : 3.8 กม.
• ถนนร่มเกล้า : 3.9 กม.
• แยกประเวศ : 7.8 กม.
• ถนนอ่อนนุช : 7.8 กม.
• ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร. 9 : 8.1 กม.
• ถนนบางนา – ตราด : 8.3 กม.
• ถนนกาญจนาภิเษก : 10.0 กม.
• ถนนพัฒนาการ : 16.1 กม.
• ถนนเทพารักษ์ : 16.4 กม.
• ถนนศรีนครินทร์ : 19.4 กม.
• ถนนอุดมสุข : 21.8 กม.
• ถนนแบริ่ง : 22.3 กม.
• ถนนสุขุมวิท : 22.7 กม.

---

สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ

• The Paseo : 4.6 กม.
• ตลาดกิ่งแก้ว : 8.3 กม.
• Makro บางพลี : 8.5 กม.
• HomePro บางพลี : 10.1 กม.
• Tesco Lotus บางพลี : 10.3 กม.
• Tesco Lotus อ่อนนุช : 10.8 กม.
• ราม 2 ไนท์บาร์ซาร์ : 12.5 กม.
• Mega บางนา และ Ikea บางนา : 13.3 กม.
• ตลาดเอี่ยมสมบัติ : 14.0 กม.
• Tesco Lotus บางนา : 14.1 กม.
• ตลาดนัดรถไฟ : 15.9 กม.
• ซีคอนสแควร์ : 15.9 กม.
• Paradise Park : 17.1 กม.
• Thanya Park : 17.2 กม.
• Makro ศรีนครินทร์ 2 : 17.2 กม.
• Index บางนา : 18.3 กม.
• Big C อ่อนนุช : 19.0 กม.
• Makro ศรีนครินทร์ : 19.4 กม.
• เซ็นทรัล บางนา : 21.0 กม.
• Bitec บางนา : 21.5 กม.
• Foodland ศรีนครินทร์ : 21.6 กม.
• ตลาดอุดมสุข : 22.7 กม.
• HABITO : 24.8 กม.

• รพ.จุฬารัตน์ 9 : 5.1 กม.
• รพ.ศิรินธร : 7.2 กม.
• รพ.จุฬารัตน์ : 10.3 กม.
• รพ.ศรีนครินทร์ : 19.2 กม.

• เทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯลาดกระบัง : 8.8 กม.
• ม.รามคำแหงบางนา : 12.1 กม.
• ม.หัวเฉียว : 13.1 กม.
• รร.เซนโยเซฟ บางนา : 22.6 กม.

• สนามบินสุวรรณภูมิ : 7.2 กม.

---

:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::

ดังที่กล่าวไปแล้วว่าถนนกิ่งแก้วนั้นส่วนมากจะเป็นโรงงานและโกดังเก็บสินค้า นอกเหนือจากนั้นก็จะเป็นอาคารพาณิชย์, ตึกแถว, หอพัก และบ้านพักอาศัยในแนวราบทั้งทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยว มีร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารที่เปิดขึ้นมารองรับความต้องการของพนักงานในโรงงาน บรรยากาศไม่ถึงกับเงียบสงบแต่ก็ไม่ได้คึกคักมากเช่นกัน

• ทิศเหนือ ติดกับ ซีเอช วัฒนายนต์
• ทิศใต้ ติดกับ หมู่บ้านทาวพลัส สุวรรณภูมิ, โชว์รูมนิสัน
• ทิศตะวันออก ติดกับ ถนนกิ่งแก้ว
• ทิศตะวันตก ติดกับ คลองบัวลอยใหม่

เดี๋ยวเราจะเดินสำรวจบริเวณใกล้เคียงกับตัวโครงการกันนะคะจะได้รู้ว่ามีอะไรอยู่แถวนี้บ้าง เริ่มต้นจากฝั่งตรงข้ามกับตัวโครงการจะเป็นบริษัทรับงานเกี่ยวกับเหล็กและอลูมิเนียม

มุมมองไปฝั่งขวามือเดี๋ยวเราจะเดินไปสำรวจเส้นทางฝั่งนี้กันก่อนนะ

ฝั่งซ้ายมือติดกับทางเข้าโครงการเลยจะเป็นโชว์รูมของ Nissan

ขั้นด้วยซอยกิ่งแก้ว 37/4 เป็นทางเข้าของหมู่บ้านทาวพลัส สุวรรณภูมิ

ถัดไปจะเป็นโชว์รูมของ Toyota

ติดๆกันเลยจะเป็นที่ดินเปล่า มองเลยไปจะเห็นโรงงานและลานจอดรถบรรทุก

ตรงไปข้างหน้าตามเส้นกิ่งแก้วจะวิ่งลงไปตัดกับเส้นบางนา – ตราด ซึ่งจะเป็นแหล่งที่มีความสมบูรณ์กระจุกรวมกันอยู่ทั้งเส้น

มุมมองไปฝั่งซ้ายมือกันบ้างจะเห็นตึกแถวและอาคารพาณิชย์อยู่ฝั่งตรงข้าม

ฝั่งขวาติดกับทางเข้าโครงการเลยจะเป็นที่ดินเปล่า ทำพื้นเอาไว้เรียบร้อย ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าที่ดินตรงนี้จะถูกใช้ทำประโยชน์อะไรในอนาคต

ฝั่งตรงข้ามก็จะมีทั้งอาคารพาณิชย์และหอพักของพนักงานในโรงงานย่านนี้

เดินเลยไปอีกหน่อย ไม่ไกลจากทางเข้าโครงการจะมีป้ายรถเมล์ เดินมาขึ้นรถประจำทางได้สะดวก

ป้ายรถเมล์จะอยู่บริเวณหน้าประตูทางเข้าบริษัทซีเอชวัฒนายนต์ เป็นบริษัทที่ผลิตหม้อน้ำรถยนต์ – ชิ้นส่วนอุปกรณ์รถยนต์

เลยจากหน้าบริษัทซีเอชวัฒนายนต์ไปทางขวามือก็จะมีสะพานลอย ถนนกิ่งแก้วนี่จะมีสะพานลอยเป็นช่วงๆอยู่แล้วเพราะไม่สามารถเดินข้ามเองได้นะ รถใหญ่วิ่งเยอะ

หลังสะพานลอยไปก็จะเป็นตึกแถว ด้านล่างเปิดเป็นกิจการส่วนตัว มีร้านขายเครื่องเสียงรถยนต์และระบบกันขโมย

ร้านอาหารเล็กๆแต่น่าลิ้มลองอย่างหัวปลาหม้อไฟ, เนื้อตุ๋น – หมูตุ๋น, เย็นตาโฟหม้อไฟ เดินเลยไปอีกก็จะเจอร้านอาหารอยู่เรื่อยๆทั้ง 2 ฝั่งถนน

ตรงไปข้างหน้าจะเข้าถนนลาดกระบังทางที่เราใช้เดินทางเข้ามาค่ะ

---

:::: ตัวโครงการ ::::

ตัวโครงการ Q District กิ่งแก้ว – สุวรรณภูมิ ภายในจะแบ่งออกเป็น 2 โครงการคือโครงการ Q District คาซ่า ซิตี้ กิ่งแก้ว – สุวรรณภูมิ และโครงการ Q District กัสโต้ กิ่งแก้ว – สุวรรณภูมิ โดยโครงการ Q District คาซ่า ซิตี้ กิ่งแก้ว – สุวรรณภูมิ เป็นโครงการทาวน์โฮมแฝดสูง 2 ชั้นบนพื้นที่ 18 – 0 – 72 ไร่ จำนวน 129 ยูนิต กับบ้านจำนวน 1 แบบ ส่วนโครงการ Q District กัสโต้ กิ่งแก้ว – สุวรรณภูมิ จะเป็นทาวน์โฮมสูง 2 ชั้นบนพื้นที่ 40 – 1 – 8 ไร่ จำนวน 439 ยูนิต กับแบบบ้านทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน

เมื่อผ่านเข้ามาใน Q District Avenue แล้วจะเจอซุ้มทางเข้าแยกของทั้ง 2 โครงการ เมื่อเข้าไปในตัวโครงการแล้วจะเจอกับถนนเมนกว้าง 12 เมตรก่อนแล้วแตกย่อยด้วยถนนขนาด 8 เมตร ตัวคลับเฮ้าส์และบ้านตัวอย่างจะอยู่บริเวณหน้าโครงการฝั่งขวามือของซุ้มทางเข้า ส่วนสวนสาธารณะจะขยับเข้ามาอยู่ตรงกลางไซท์โครงการ สำนักงานขายของทั้ง 2 โครงการจะอยู่ในโครงการ Q District คาซ่า ซิตี้ กิ่งแก้ว – สุวรรณภูมิ นะคะ โดยรวมแลวจากหน้าซุ้มทางเข้าโครงการไปจนถึงปลายไซท์จะมีระยะไม่เกิน 400 เมตร ซึ่งลูกบ้านทุกหลังยังสามารถเดินเข้า – ออกและมาใช้งานส่วนกลางได้สะดวก

---

:::: บริเวณภายในโครงการ ::::

จากถนนกิ่งแก้วเข้ามาใน Q District Avenue จะมีป้ายโครงการอยู่ข้างหน้าทางเข้าสวยงาม

มุมมองตรงเข้าไป เดี๋ยวเราจะเดินเข้าไปสำรวจภายในตัวโครงการกันค่ะ

ตรงเข้าไปประมาณ 250 เมตรก็จะเจอสะพานข้ามคลองบัวลอยใหญ่

สะพานข้ามคลองบัวลอยใหญ่

เมื่อข้ามสะพานเข้ามาแล้วก็จะเห็นซุ้มทางเข้าโครงการ Q District คาซ่า ซิตี้ กิ่งแก้ว – สุวรรณภูมิ ทาวน์โฮมแฝดสูง 2 ชั้นอยู่ข้างหน้า และโครงการ Q District กัสโต้ กิ่งแก้ว – สุวรรณภูมิ ทาวน์โฮมสูง 2 ชั้นอยู่ฝั่งขวามือ

::: ทางเข้าโครงการ Gusto :::

เดี๋ยวเราจะเข้าไปสำรวจโครงการ Q District กัสโต้ กิ่งแก้ว – สุวรรณภูมิ กันก่อน เริ่มจากหน้าซุ้มทางเข้าโครงการกันเลย

ดีไซน์ตัวซุ้มเป็นสไตล์โมเดิร์น ดูอบอุ่นด้วยวัสดุไม้เป็นหลักตัดด้วยระแนงเหล็กสีดำ

การเข้าออกตัวโครงการจะต้องผ่านรปภ.ประกอบด้วย ป้อมยาม, ระบบ Easy pass, กล้อง CCTV และรั้วไม้กระดก

มุมมองไปที่ด้านข้างปอมยามจะติดกล้อง CCTV และตัวเซ็นเซอร์ Easy pass

ตัวเซ็นเซอร์ระบบ Easy pass ที่จะติดเอาไว้ภายในรถ

กล้อง CCTV 2 ตัวพร้อมจอแสดงภาพ

มุมมองย้อนกลับไปที่ซุ้มทางเข้าโครงการ

::: บริเวณภายในโครงการ Gusto :::

เมื่อผ่านซุ้มทางเข้าโครงการเข้ามาแล้วจะมาเจอถนนเมนกว้าง 12 เมตร

มุมมองไปทางฝั่งขวามือจะเป็นตัวคลับเฮ้าส์ ตอนนี้ยังสร้างไม่เสร็จนะคะจึงยังไม่มีภาพมาให้ชมกัน

ถัดเข้าไปที่ซอยแรกจะเป็นบ้านตัวอย่างทั้ง 2 หลัง

มุมมองเข้าไปภายในซอยจะกว้าง 8 เมตร ฝั่งซ้ายคือที่จอดรถสำหรับผู้ที่เข้ามาติดต่อชมบ้านค่ะ

แบบบ้าน Urban ขนาด 132 ตรม. 4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ

และแบบบ้าน Bound ขนาด 106 ตรม. 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ

ตรงเข้าไปจะแตกย่อยด้วยถนนกว้าง 8 เมตร ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างค่ะ

::: ทางเข้าโครงการ Casa City :::

มาที่ซุ้มทางเข้าของโครงการ Q District คาซ่า ซิตี้ กิ่งแก้ว – สุวรรณภูมิ กันบ้าง

ดีไซน์ตัวซุ้มเป็นสไตล์โมเดิร์น วัสดุไม้เป็นหลักตัดด้วยระแนงเหล็กสีขาว

ระบบรปภ.ก็จะเป็นแบบเดียวกันกับโครงการ กัสโต้ เลย คือจะมีทั้งป้อมยาม, กล้อง CCTV และ Easy pass อยู่ในตำแหน่งเดียวกัน

มุมมองย้อนกลับไปที่ซุ้มทางเข้าโครงการ

::: บริเวณภายในโครงการ Casa City :::

เมื่อผ่านซุ้มทางเข้าโครงการมาแล้วจะเจอถนนหลักกว้าง 12 เมตร

ที่ฝั่งซ้ายมือจะเป็นสวนสาธารณะของโครงการ ล้อมไปทางซ้ายด้วยถนนกว้าง 8 เมตร

ส่วนฝั่งขวามือจะเป็นคลับเฮ้าส์ ที่ด้านหน้ามีที่จอดรถให้ ในรายอะเอียดจะอยู่ในหัวข้อถัดไปค่ะ

ถัดเข้าไปติดกับคลับเฮ้าส์ก็จะเป็นสำนักงานขาย ติดต่อดูโครงการ Q District กัสโต้ กิ่งแก้ว – สุวรรณภูมิ ก็ให้มาที่นี่นะ

ตามด้วยบ้านตัวอย่าง Citta ขนาด 132 ตรม. 4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ

ตรงเข้าไปก็จะเจอวงเวียนแล้วแจกด้วยถนนกว้าง 8 เมตร ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างอยู่เช่นกัน

---

:::: พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ::::

พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ประกอบด้วย

• ระบบ CCTV และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
• ระบบ Access card
• สวนสาธารณะ
• คลับเฮ้าส์
• สระว่ายน้ำ
• ห้องออกกำลังกาย

เมื่อสักครู่เราได้เดินชมพื้นที่ภายในโครงการกันแล้ว เดี๋ยวเราจะมาดูคลับเฮ้าส์และสวนสาธารณะซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางของโครงการกันต่อเลยค่ะ

::: คลับเฮ้าส์ :::

มาดูส่วนกลางของโครงการกันต่อเลยค่ะเริ่มจากคลับเฮ้าส์ ภายในจะประกอบด้วยโถง Lobby, ห้องออกกำลังกาย และสระว่ายน้ำ

ทางเข้าตัวคลับเฮ้าส์สามารถเดินเข้าได้จาก 2 ทางคือเดินผ่านโถง Lobby เข้าไป

หรือเดินเข้าจากทางด้านข้างเพื่อเข้าสู่ห้องออกกำลังกายและสระว่ายน้ำเลย

มุมมองไปที่สระว่ายน้ำของโครงการ ฝั่งซ้ายมือคือห้องออกกำลังกาย เป็นห้องกระจกทั้งหมด โดยจะใช้วิวจากสระว่ายน้ำพอดี

มุมมองไปที่ฝั่งตรงข้าม บริเวณทางเดินรอบสระว่ายน้ำและ Pool deck จะทำเป็นพื้นไม้เทียมทั้งหมด

บันไดลงสระจะทำเป็นชั้นบันไดลงไปในสระเลย สระกว้างประมาณ 6 x 10 เมตร ลึก 1.2 เมตร เป็นระบบเกลือ

ในส่วนของ Pool deck ก็จะมี Daybed สำหรับนอนรับลมอยู่ประมาณ 3 ตัว

มุมมองย้อนกลับ ข้างหน้าจะเป็นห้องโถง Lobby ส่วนฝั่งขวาก็คือห้องออกกำลังกาย

ข้างๆสระผู้ใหญ่จะมีสระเด็กความลึกประมาณ 0.4 เมตร โดยจะแบ่งพื้นที่สระด้วยกำแพงภายในสระ

อีกมุมมองหนึ่งในส่วนของสระว่ายน้ำไปที่ห้อง Lobby และห้องออกกำลังกาย

::: สวนสาธารณะ :::

เดี๋ยวเราจะเดินเข้าไปชมภายในสวนสาธารณะกันต่อเลยนะคะ

ทางเดินเข้าสวนสาธารณะจะอยู่บริเวณทั้ง 2 ฝั่งของสวน และบริเวณตรงกลางสวนที่แบ่งสวนออกเป็น 2 โซน

โดยรอบสวนจะปูเป็นพื้นทางเดิน สามารถใช้เป็น Jogging track ด้วยก็ได้ ฝั่งซ้ายมือจะเป็นโซนของสนามสำหรับเดินเล่น นั่งพักผ่อนหย่อนใจ

ภายในปูเป็นสนามหญ้าทั้งหมด และลงต้นไม้ใหญ่ล้อมรอบให้ความร่มรื่น

ภายในมีเก้าอี้นั่งพักผ่อนเป็นระยะๆ

มุมมองย้อนกลับไปที่ฝั่งขวา

ส่วนฝั่งขวาจะเป็นโซนของสนามเด็กเล่น

ตรงกลางจัดเป็นเครื่องเล่นของเด็ก ปูพื้นด้วยกระเบื้องยางเพื่อความปลอดภัย ล้อมรอบด้วยเก้าอี้นั่งพักคอยของบรรดาผู้ปกครอง

ในส่วนของเครื่องเล่นจะมีด้วยกันทั้งหมด 3 ชิ้น

2 ชิ้นเป็นไม้กระดก

ส่วนอีกชิ้นนึงจะเป็นปราสาทสไลเดอร์

มุมมองจากฝั่งสนามเด็กเล่นย้อนกลับไป

---

:::: แบบบ้านของโครงการ และ บ้านตัวอย่าง ::::

แบบบ้านของโครงการจะเป็นสไตล์โมเดิร์น ผสมผสานเข้ากับความทันสมัย นวัตกรรมใหม่ที่ตอบสนองการใช้ชีวิตด้วย Multi purpose function ด้วยการปรับ Available space ให้กลายเป็น Functional space เพื่อการใช้งานหลายรูปแบบ

::: แบบบ้านของโครงการ Gusto :::

แบบบ้านในโครงการ Q District กัสโต้ กิ่งแก้ว – สุวรรณภูมิ จะเป็นทาวน์โฮมสูง 2 ชั้น มีทั้งหมด 2 แบบดังนี้

• แบบบ้าน Bound : ขนาด 106 ตรม. 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน
• แบบบ้าน Urban : ขนาด 132 ตรม. 4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน

:: แบบบ้าน Bound ขนาด 106 ตรม. ::

แปลนบ้านชั้นที่ 1 ประกอบด้วย

• โรงจอดรถ
• ห้องนั่งเล่น
• ห้องรับประทานอาหาร – ห้องครัว
• พื้นที่อเนกประสงค์
• ห้องน้ำ 2

แปลนชั้นที่ 2 ประกอบด้วย

• โถงบันได
• ห้องนอน 1 (Master Bedroom)
• ห้องนอน 2
• ห้องนอน 3
• ห้องน้ำ 1

:: แบบบ้าน Urban ขนาด 132 ตรม. ::

แปลนบ้านชั้นที่ 1 ประกอบด้วย

• ลานจอดรถ
• ห้องนั่งเล่น
• ห้องรับประทานอาหาร – ห้องครัว
• ห้องนอน 4
• พื้นที่อเนกประสงค์
• ห้องน้ำ 3

แปลนชั้นที่ 2 ประกอบด้วย

• โถงบันได
• ห้องนอน 1 (Master Bedroom)
• ห้องน้ำ 1 Master Bedroom
• ห้องนอน 2
• ห้องนอน 3
• ห้องน้ำ 2

::: แบบบ้านของโครงการ Casa City :::

แบบบ้านในโครงการ Q District คาซ่า ซิตี้ กิ่งแก้ว – สุวรรณภูมิ จะเป็นทาวน์โฮมแฝดสูง 2 ชั้น มีทั้งหมด 1 แบบดังนี้

• แบบบ้าน Citta : ขนาด 132 ตรม. 4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน

:: แบบบ้าน Citta ขนาด 132 ตรม. ::

แปลนบ้านชั้นที่ 1 ประกอบด้วย

• ลานจอดรถ
• ห้องนั่งเล่น
• ห้องรับประทานอาหาร – ห้องครัว
• ห้องนอน 4
• พื้นที่อเนกประสงค์
• ห้องน้ำ 3

แปลนชั้นที่ 2 ประกอบด้วย

• โถงบันได
• ห้องนอน 1 (Master Bedroom)
• ห้องน้ำ 1 Master Bedroom
• ห้องนอน 2
• ห้องนอน 3
• ห้องน้ำ 2
• Multi Function Space

::: บ้านตัวอย่าง :::

วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo จะพาท่านผู้อ่านของเราไปชมบ้านตัวอย่าง 2 หลังด้วยกัน ลำดับเป็นแบบบ้าน Urban ขนาด 132 ตรม. จากโครงการ Q District กัสโต้ กิ่งแก้ว – สุวรรณภูมิ และตามด้วยแบบบ้าน Citta ขนาด 132 ตรม. จากโครงการ Q District คาซ่า ซิตี้ กิ่งแก้ว – สุวรรณภูมิ ไปชมกันเลยค่า ?

:: แบบบ้าน Urban ขนาด 132 ตรม. ::

เริ่มต้นจากแบบบ้าน Urban ขนาด 132 ตรม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำกันค่ะ ตัวบ้านใช้โทนสีเอิร์ทโทนสว่างๆสีเทาอมเขียวกับสีขาว ทำให้บ้านแลดูเย็นสบายตาและน่ารัก

ในส่วนของโรงจอดรถกันก่อน ภายในโรงจอดรถจะสามารถจอดรถได้ 2 คัน พื้นเป็นคอนกรีตขัดเรียบ

ที่ฝ้าเพดานเป็นฝ้าแผ่นเรียบไฟเบอร์ซีเมนต์ ดวงโคมดาวน์ไลท์ LED

มีช่องเก็บของเล็กๆสำหรับเก็บสายยาง, อุปกรณ์ล้างรถ และอุปกรณ์ทำสวน เป็นพื้นใต้ชานพักบันไดภายในบ้าน

มีก๊อกสนาม

และปลั๊กไฟเตรียมเอาไว้ให้ด้วย

พื้นเฉลียงทางเข้าบ้านจะทำยกระดับขึ้นมาจากระดับพื้นดินประมาณ 15 ซม. ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม.นะ

ประตูทางเข้าบ้านจะเป็นประตูบานเลื่อน UPVC ลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง สามารถเลื่อนเปิดได้ตามภาพ

มือจับประตูเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐาน

เมื่อเข้ามาในตัวบ้านแล้วจะเจอห้องนั่งเล่นก่อน ถัดเข้าไปคือห้องรับประทานอาหาร พื้นบ้านจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ผนังจะเป็นผนังฉาบเรียบ แปลนบ้านจะเป็นแบบ Open plan เป็นพื้นที่โถงโล่งๆ ทำให้ตัวบ้านดูกว้างขวางดี

ที่ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบ ส่วนดวงโคมที่ใช้จะเป็นดวงโคมดาวน์ไลท์ LED ทั้งหลัง

มุมมองไปทางชุดโซฟารับแขก

ทางบ้านตัวอย่างได้จัดวางชุด Arm Chair ขนาด 3 ที่นั่งเอาไว้ให้ แต่จริงๆแล้วจะวางเป็นโซฟารูปตัว L ก็มีที่เหลือพอ ข้างๆยังมีที่สำหรับวางโต๊ะตัวเล็กๆได้ทั้ง 2 ข้างเลย

ถ้าเป็นบ้านแปลงมุมจะได้กระจกด้านข้างฝั่งที่วางโซฟาด้วย 2 บาน

เป็นกระจกบานเลื่อน UPVC กระจกเขียวตัดแสง

ตัวล็อคท้ายบานหน้าต่าง

ฝั่งชั้นวางทีวีจะอยู่ระหว่างประตูห้องน้ำกับโถงบันได พื้นที่วางชั้นวางทีวีอาจจะมีขนาดไม่ใหญ่มากกว้างประมาณ 1.2 เมตรค่ะ ระยะดูทีวีนี่กว้างเกิน 3 เมตรอีก จะดูทีวีขนาดจอใหญ่ๆสัก 70 นิ้วก็ยังได้ แต่ต้องดูความกว้างของผนังด้วยว่าสามารถติดตั้งได้ขนาดเท่าไหร่

ที่ฝั่งโถงบันไดจะเป็นชั้นวางทีวี, ห้องน้ำ และห้องนอน 4 ทางบ้านตัวอย่างได้ทำประตูบานเลื่อนมาเป็นผนังบังประตูห้องน้ำเอาไว้ ทำให้บ้านดูเรียบร้อยขึ้นมากเลยค่ะ

มุมมองจากห้องนั่งเล่นไปที่ห้องรับประทานอาหารและห้องครัว

มาดูในส่วนของห้องรับประทานอาหารกันต่อ เนื่องจากหน้าบ้านค่อนข้างจะกว้างจึงทำให้ห้องรับประทานอาหารมีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างใหญ่

สำหรับโต๊ะอาหารในบ้านตัวอย่างได้จัดวางเอาไว้สำหรับ 4 ที่นั่งซึ่งจริงๆแล้วพื้นที่ในห้องนี้สามารถจัดวางเก้าอี้ต่อเพิ่มหัว – ท้ายโต๊ะได้อีกในวันที่มีแขก

มุมมองไปที่ห้องครัวหรือพื้นที่อเนกประสงค์

จริงๆแล้วจะเป็นประตูบานเลื่อน UPVC แบบนี้นะคะ

จริงๆแล้วพื้นที่ได้จะเป็นพื้นซีเมนต์ขัดหยาบปาดหน้าเรียบ

ซึ่งจะลดระดับลงจากพื้นชั้น 1 ประมาณ 10 ซม.

ทางบ้านตัวอย่างได้จัดให้พื้นที่อเนกประสงค์เป็นครัวไทยขนาดใหญ่

ทางบ้านตัวอย่างได้ทำฝ้าเพดานโปร่งใสส่วนหนึ่ง สามารถเลื่อนปิด – เปิดได้ ใช้แสงธรรมชาติให้เกิดประโยชน์เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน

มุมมองไปทางซ้ายมือ เป็นเคาน์เตอร์ตัวยาว สามารถใช้นั่งรับประทานอาหารเช้าแบบง่ายๆได้ พื้นที่ๆเหลืออยู่อีกก็สามารถตั้งเครื่องซักผ้าทำเป็นห้องซักรีดได้ในตัว

มุมมองไปทางขวามือจะเป็นเคาน์เตอร์ครัวสำหรับปรุงอาหาร

สามารถจัดวางเตาปรุงอาหารและอ่างล้างจานได้อย่างพอดีๆ ซึ่งจริงๆแล้วจะทำเคาน์เตอร์ที่มีขนาดใหญ่กว่านี้ก็ยังมีที่เหลือพอนะ

พื้นที่ยืนทำอาหารกว้างขวางอยู่ค่ะ จะตั้งเคาน์เตอร์ด้านหลังอีกตัวก็ยังพอนะ

พื้นที่อเนกประสงค์จริงๆที่จะได้ ถ้าเป็นแปลงมุมจะได้ประตูเชื่อมกับสวนข้างบ้านมาด้วย

ประตูจะเป็นบาน UPVC

มือจับลูกบิดสแตนเลส

บริเวณประตูบานเลื่อนจะติดดวงโคมฟลูออเรสเซ้นต์มาให้

มุมมองย้อนกลับไปที่ห้องรับประทานอาหารและห้องนั่งเล่น

จากนั้นมาดูที่ห้องนอน 4 กันต่อ

ประตูห้องนอนทุกห้องจะเป็นบานสำเร็จรูป มือจับลูกบิดสแตนเลสเหมือนกันทั้งหมด

มุมมองเข้าไปภายในห้องนอน 4 จริงๆแล้วก็สามารถใช้เป็นห้องอเนกประสงค์ได้เช่นกัน สามารถจัดเป็นห้องทำงาน – อ่านหนังสือ หรือห้องโฮมเธียร์เตอร์ก็ยังทำได้

ฝ้าเพดานภายในก็จะเป็นฝ้าฉาบเรียบ ดวงโคมดาวน์ไลท์ LED

มุมมองไปทางซ้ายมือ ทางบ้านตัวอย่างได้จัดพื้นที่ข้างหน้าต่างเป็นโต๊ะอ่านหนังสือ เป็นมุมที่สว่างและได้แสงจากธรรมชาติ

มุมมองไปอีกฝั่งหนึ่งจะจัดเป็นมุมนั่งเล่น

ที่ฝั่งนี้จะมีผนังกระจกเข้ามุม และหน้าต่างบานเปิดอีก 1 บาน ตรงนี้จะติดม่านเพิ่มเติมก็ได้นะคะ ในกรณีที่อยากได้ความเป็นส่วนตัวของห้อง

มาดูที่ห้องน้ำกันต่อ

ประตูห้องน้ำจะเป็นบาน UPVC ติดเกล็ดระบายอากาศ มือจับลูกบิดสแตนเลสมาตรฐาน

พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงจากพื้นชั้น 1 ประมาณ 5 ซม.

มุมมองเข้าไปภายในห้องน้ำจะเป็นพื้นที่ใต้โถงบันได ห้องน้ำ 3 จะเป็นห้องน้ำแขก แต่ติดฝักบัวอาบน้ำมาให้เผื่อในชั่วโมงเร่งด่วน พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคชนิดผิวด้านขนาด 30 x 30 ซม. ผนังกรุด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 20 x 30 ซม.จากพื้นจรดฝ้าเพดาน

ดวงโคมก็จะเป็นดวงโคมดาวน์ไลท์เช่นกัน มีติดพัดลมดูดอากาศให้เพราะภายในห้องนี้จะไม่มีหน้าต่างระบายอากาศนะ

มาดูที่สุขภัณฑ์กันต่อ อ่างล้างมือที่ได้จะเป็นชนิดแขวนผนัง ทรงอ่างกลมของ American standard

ก๊อกน้ำก็จะเป็นของ American standard เช่นกัน

ส่วนกระจกที่ได้จะเป็นกระจกเจียปรีของ Haus

อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นพื้นที่วางโถสุขภัณฑ์ กว้างขวางนั่งสบาย โถสุขภัณฑ์ใช้ของ American standard

Accessories ที่ขาดไม่ได้ประกอบโถสุขภัณฑ์

ราวแขวนผ้าเช็ดตัวติดตั้งไว้ข้างๆโถสุขภัณฑ์

ในส่วนของ Shower จะติดตั้งตรงข้ามกับโถสุขภัณฑ์

พื้นที่ยืนอาบน้ำยังพอได้อยู่ค่ะ แต่ไม่พอสำหรับการติดตั้ง Shower box นะ

หัวฝักบัวขนาดกำลังพอดีๆ ตัวก้านจับถนัดมือของ Vegarr

และที่วางสบู่ขนาดวางสบู่ได้ 1 ก้อนพอดี แนะนำให้ติดตั้งชั้นวางสบู่แบบแขวนผนังเพิ่มเติมเอานะคะ

เดี๋ยวเราจะขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กันต่อเลยค่ะ พื้นที่โถงบันได้กว้าง 0.9 เมตรตามมาตรฐาน

ตัวพื้นบันไดจะเป็นไม้อัดประสานสำเร็จรูป

บริเวณชานพักบันไดจะทำเป็นมุมนั่งเล่นอีก 1 จุด

ราวบันไดเป็นโครงเหล็กฝังผนังมือจับไม้อัดประสานสำเร็จรูปเช่นกัน

มุมมองขึ้นไปที่โถงบันไดชั้น 2

ที่ชั้น 2 พื้นจะปูด้วยไม้ลามิเนตทั้งหมดยกเว้นห้องนอน, ห้องน้ำ และระเบียง

มุมมองย้อนกลับลงไปที่ชานพักบันได

โถงบันไดจะเป็นตัวแจกเข้าห้องต่างๆ ฝั่งซ้ายคือห้องนอน Master bedroom และห้องน้ำ 2 ส่วนฝั่งขวาคือห้องนอน 2 และห้องนอน 3

มุมมองย้อนกลับไปที่โถงบันได ที่ฝ้าเพดานสูงโปร่งมาก มีการเจาะช่องแสงเพื่อใช้แสงจากธรรมชาติ ช่วยประหยัดพลังงาน

มาดูห้องฝั่งซ้ายของโถงบันไดก่อนเริ่มจากห้องนอน Master bedroom ตามด้วยห้องน้ำ 2 ประตูห้องนอนทุกห้องก็จะเหมือนกับประตูห้องนอน 4 เป็นบานสำเร็จรูป มือจับลูกบิดสแตนเลสมาตรฐาน

บริเวณวงกบประตูจะติดธรณีประตูให้ที่พื้น

มุมมองเข้าไปภายในห้องนอน Master bedroom บริเวณลายผนังของห้องนอนทุกห้องจะเดินปลั๊กไฟและสายอากาศเอาไว้ให้ด้วยสำหรับการติดตั้งทีวี ห้องนอนจะแบ่งออกเป็น 2 โซนคือโซนที่นอนและโซน Walk – in closet ฝ้าเพดานภายในห้องนอน Master bedroom นี่จะสูงถึง 3 เมตรเลยนะคะ

ภายในโซนที่นอนจะมีหน้าต่างบานเปิดคู่บานใหญ่มาให้ สามารถเห็นวิวจากห้องนอนได้อย่างกว้างขวาง

ในส่วนของโซนที่นอนจะมีพื้นที่ๆกว้างขวางสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้

เมื่อวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงฝั่งละประมาณ 0.6 เมตร สามารถทำเตียงเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้อย่างสะดวก

มุมมองไปฝั่งตรงข้ามจะเป็นโซน Walk – in closet ทางบ้านตัวอย่างได้ทำประตูบานเลื่อนกั้นโซนทั้ง 2 ออกจากกันให้ห้องดูเป็นสัดเป็นส่วน

ซึ่งห้องที่ได้จริงๆจะไม่ได้มีผนังกั้นหรือประตูแบ่งโซนมาให้นะคะ

เมื่อกั้นพื้นที่ห้องแล้วจะยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงอีกประมาณ 1 เมตร สามารถเดินผ่านได้สะดวก

มุมมองเข้าไปภายใน Walk – in closet จะสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าขนาดกลางๆได้อย่างละตัว

จาก Walk – in closet จะมีประตูระเบียงสามารถเดินออกไปสูดอากาศข้างนอกได้

พื้นระเบียงจะลดระดับจากพื้นห้องนอนลงไปเล็กน้อยพื้นปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม. กว้าง 0.9 เมตร

มุมมองไปที่ระเบียงฝั่งซ้ายและขวา มีขนาดไม่ใหญ่มาก ตัวราวกันตกเป็นระแนงเหล็กทาสีน้ำมัน

มุมมองออกไปภายนอกห้องห้อง

กลับเข้ามาภายในห้องไปดูห้องน้ำ 1 กันต่อ วัสดุประตูห้องน้ำ 1 ก็จะเหมือนกับห้องน้ำชั้นล่างเลย ทางบ้านตัวอย่างได้ทำประตูบานเลื่อน 2 ทางเพื่อซ่อนประตูห้องน้ำให้ดูสวยงาม และทำผนังอีกด้านหนึ่งให้เป็นตู้เก็บเสื้อผ้าไปในตัวด้วย

พื้นห้องน้ำก็จะลดระดับลงจากพื้นห้องนอนเล็กน้อย

มุมมองเข้าไปภายในห้องน้ำ ทั้งวัสดุและสุขภัณฑ์ก็จะใช้แบบเดียวกันกับห้องน้ำชั้นล่างทั้งหมด ยกเว้นกระเบื้องกรุผนังจะใช้เป็นขนาด 60 x 60 ซม.แทน ไล่สุขภัณฑ์จากส่วนแห้งเข้าไปยังส่วนเปียก

ที่ฝ้าเพดานจะเจาะช่องให้แสงธรรมชาติสามารถลอดผ่านเข้ามาได้ ติดพัดลมช่วยดูดอากาศเพราะห้องน้ำ 1 ก็จะไม่มีหน้าต่างระบายอากาศมาให้อีกเช่นกัน

อ่างล้างมือและก๊อกน้ำแบบเดียวกันกับห้องน้ำชั้นล่าง

โถสุขภัณฑ์รวมถึง Accessories ก็ใช้แบบเดียวกัน

ข้างในสุดจะเป็นโซน Shower

พื้นที่ยืนอาบน้ำกว้างขวางกำลังดี มีการก่อธรณีขึ้นมากันน้ำไหลย้อน ตรงนี้แนะนำให้ติด Shower box เพิ่มเติมเอานะคะ

ภายในจะติดตั้งชุดฝักบัวอาบน้ำแบบมีราวปรับระดับมาให้ เป็นของ Vegarr เหมือนเดิมค่ะ

มาดูที่ห้องน้ำ 2 กันต่อค่ะ

มุมมองเข้าไปภายในห้องน้ำ 2 ทั้งวัสดุและสุขภัณฑ์ก็จะใช้แบบเดียวกันกับห้องน้ำชั้นล่าง ยกเว้นกระเบื้องกรุผนังขนาด 20 x 30 ซม. และกระเบื้องตกแต่งที่เพิ่มเติมขึ้นมาบริเวณโซน Shower

ที่ฝ้าเพดานก็จะมีการเจาะช่องแสงและติดพัดลมดูดอากาศให้อีกเช่นกัน

เราจะไปดูห้องนอนฝั่งขวาของโถงบันไดกันต่อ เริ่มจากห้องนอน 2 ตามด้วยห้องนอน 3

มุมมองเข้าไปภายในห้องนอน 2 มีขนาดกว้างขวางไม่แพ้ห้องนอน Master bedroom เลย

ข้างในสุดจะเป็นพื้นที่วางเตียงนอน,ถัดออกมาเป็นโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า

ฝั่งปลายเตียงจะทำชั้นวางของยาวจากตู้เสื้อผ้ามาชนผนัง ก็ยังเหลือพื้นที่ปลายเตียง สามารถทำเตียงได้สะดวกอยู่

เตียงนอนที่วางได้จะเป็นขนาด 5 ฟุตค่ะ ถ้าวางขนาด 6 ฟุตจะไม่เหลือพื้นที่สำหรับโต๊ะเครื่องแป้งข้างๆนะ

มุมมองไปที่ฝั่งปลายเตียง จริงๆจะทำชั้นวางของแบบเต็มผนังเลยก็ได้นะ

มุมมองย้อนกลับไปที่ประตูทางเข้าห้อง

มาถึงห้องนอน 3 ห้องสุดท้ายกันแล้วค่ะ จะเป็นห้องนอนขนาดเล็กที่สุดแต่ก็ยังสามารถวางเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างครบครัน ตามห้องตัวอย่างได้จัดวางเตียงขนาด 3 ฟุตครึ่งเอาไว้

ยังพอมีพื้นที่ปลายเตียงเหลืออยู่บ้างเล็กน้อย สามารถทำชั้นวางของเพิ่มได้อีก

เมื่อวางเตียงขนาด 3 ฟุตครึ่งแล้วก็จะมีพื้นที่เหลือพอสำหรับโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้าขนาดกลางๆ

โต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้า ขนาดพอเพียงสำหรับ 1 คน

มุมมองย้อนกลับไปที่ประตูทางเข้าห้อง

:: แบบบ้าน Citta ขนาด 132 ตรม. ::

หน้าตาแบบบ้าน Citta จะไม่แตกต่างไปจากแบบบ้าน Urban มากนัก จะยังใช้สีเอิร์ทโทนอยู่เป็นสีครีม – น้ำตาล และสีขาว คงคอนเซ็ปต์ความน่ารักดูอยู่สบาย

รั้วบ้าน และโรงจอดรถ บ้านมาตรฐาน

มาดูหน้าบ้านมาตรฐานกันก่อนค่ะ นี่คือตัวบ้านจริงๆที่ใช้ส่งมอบ ทาวน์โฮมแฝดมีข้อดีกว่าทาวน์โฮมธรรมดาตรงที่ทุกยูนิตจะได้หน้าต่างที่เพิ่มขึ้น ทำให้ตัวบ้านสว่างกว่าและระบายอากาศได้ดีกว่า อีกทั้งยังได้พื้นที่สวนไปตกแต่งเล่นข้างบ้านด้วยค่ะ

มาดูที่รั้วหน้าบ้านกันก่อน

ที่ฝั่งซ้ายมือจะทำเป็นซุ้มประตูทางเข้า สามารถเปิดเข้าบ้านได้สะดวกโดยไม่จำเป็นต้องเปิดประตูรั้วโรงจอดรถให้ยุ่งยาก ซุ้มประตูจะมีส่วนทึบบังสวนข้างบ้านเอาไว้สร้างความเป็นส่วนมากขึ้น

ตรงนี้จะติดกริ่งออด, ป้ายเลขที่บ้าน และช่องทิ้งขยะเอาไว้ให้

มุมมองจากด้านหลัง จะเป็นถังขยะที่ลูกบ้านสามารถเปิดทิ้งได้จากภายในบ้าน ตัวซุ้มประตูจะสามารถกันแดดกันฝนได้นิดหน่อย

ส่วนประตูโรงจอดรถจะเป็นประตูบานเฟี้ยมเหล็ก 4 ตอน สามารถเปิด – ปิดได้ตามภาพ

เข้าไปสู่ภายในรั้วบ้านจะเป็นโรงจอดรถขนาดจอดได้ 2 คัน ฝ้าเพดานติดดวงโคมดาวน์ไลท์ LED ให้เหมือนบ้านหลังที่แล้ว ภายในมีตู้เก็บของให้

ที่พื้นเฉลียงทางเข้าบ้านจะทำเป็นสเต็ปขึ้นมาปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม.เช่นกัน

ส่วนข้างบ้านจะได้เป็นสวนเล็กๆ สามารถเดินเชื่อมไปถึงพื้นที่อเนกประสงค์หลังบ้านได้เลย

แบบบ้านตัวอย่าง

อย่ารอช้าเข้าไปดูบ้านตัวอย่างกันต่อเลยค่า

ประตูทางเข้าบ้านจะเป็นประตูบานเลื่อน UPVC ลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง มือจับประตูเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐานเหมือนบ้านหลังที่แล้ว

เมื่อเข้ามาในตัวบ้านแล้วจะเจอห้องนั่งเล่นก่อน ถัดเข้าไปคือห้องรับประทานอาหารและห้องครัว พื้นบ้านจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ผนังจะเป็นผนังฉาบเรียบ ที่ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร ใช้เป็นดวงโคมดาวน์ไลท์ LED ทั้งหลัง

มุมมองไปทางชุดโซฟารับแขก

ทางบ้านตัวอย่างได้จัดวางชุด Arm Chair ขนาด 3 ที่นั่งเอาไว้ให้ แต่จริงๆแล้วจะวางเป็นโซฟารูปตัว L ก็มีที่เหลือพอ

ชั้นวางทีวีมีระยะดูทีวีและขนาดเท่ากับหลังที่แล้วเลย ข้างๆจะเป็นห้องน้ำ ตกแต่งโดยใช้ประตูบานเลื่อนเหมือนกัน

มุมมองจากห้องนั่งเล่นไปที่ห้องรับประทานอาหารและห้องครัว ฝั่งซ้ายมือคือห้องน้ำ 3 และห้องนอน 4

มาดูในส่วนของห้องรับประทานอาหารกันต่อ

จะสามารถจัดวางได้ขนาดเท่ากับบ้านหลังที่แล้วเลยเพราะมีพื้นที่เท่ากันเป๊ะ

มุมมองไปที่ห้องครัวหรือพื้นที่อเนกประสงค์

จริงๆแล้วจะเป็นประตูบานเลื่อนแบบนี้นะคะ

พื้นที่ได้จะเป็นพื้นซีเมนต์ขัดหยาบปาดหน้าเรียบเหมือนกับบ้านหลังที่แล้ว

ทางบ้านตัวอย่างได้จัดให้พื้นที่อเนกประสงค์เป็นครัวไทยขนาดใหญ่เหมือนบ้านหลังที่แล้วเลย ที่ฝ้าเพดานก็จะทำเป็นช่องแสงเหมือนกัน

มุมมองไปฝั่งขวาจะมีประตูที่สามารถเปิดเชื่อมกับสวนข้างบ้านได้ เป็นประตูเป็นบาน UPVC มือจับแบบก้านโยกสแตนเลส

มุมมองไปฝั่งซ้ายมือจะจัดเป็นเคาน์เตอร์ครัว

พื้นที่อเนกประสงค์ที่ได้จริงๆจะเป็นแบบนี้ค่า

มุมมองย้อนกลับไปที่ห้องรับประทานอาหารและห้องนั่งเล่น

จากนั้นมาดูที่ห้องนอน 4 กันต่อ

มุมมองเข้าไปภายในห้องนอน 4 จะมีขนาด 2.7 x 2.5 เมตร การจัดวางเฟอร์นิเจอร์เหมือนบ้านหลังที่แล้วเลย จะขอข้ามไปเลยนะคะ

มาดูที่ห้องน้ำ 3 กันต่อ

มุมมองเข้าไปภายในห้องน้ำ 3 จะใช้วัสดุ,สุขภัณฑ์ รวมถึงการจัดวางแปลนเหมือนห้องน้ำหลังที่แล้วทุกประการเลยค่ะ

เดี๋ยวเราจะขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กันต่อเลยค่ะ พื้นที่โถงบันได้กว้าง 0.9 เมตรตามมาตรฐาน

ตัวพื้นบันไดและราวมือจับจะเป็นไม้อัดประสานสำเร็จรูป บริเวณชานพักบันไดก็จะทำเป็นมุมนั่งเล่นเหมือนบ้านหลังที่แล้วเป๊ะ

มุมมองขึ้นไปยังโถงบันไดชั้น 2

มุมมองย้อนกลับลงไปที่ชานพักบันได

ที่ชั้น 2 พื้นจะปูด้วยไม้ลามิเนตทั้งหมด

ทางฝั่งซ้ายมือของโถงจะเป็นห้องนอน 3 และห้องนอน 2 ตามลำดับ

ส่วนทางฝั่งขวาของโถงจะเป็นห้องน้ำ 2 และห้องนอน Master bedroom

มุมมองย้อนกลับไปที่โถงบันได

บริเวณโถงบันไดชั้น 2 จะทำเป็นพื้นที่ Multi Function เพิ่มขึ้นมาอีก 1 จุด บันไดทางเดินขึ้นใช้วัสดุเดียวกับบันไดหลัก แต่ทางบันไดจะกว้าง 0.7 เมตรนะ

พื้นที่ข้างบนจะทำเป็นพื้น 2 สเต็ป ตรงนี้เราสามารถดัดแปลงเป็น Function ได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นมุมนั่งเล่น, อ่านหนังสือ หรือจะเป็นมุมนั่งทำงานเงียบๆ ติดทีวีตัวเล็กๆดูข่าว หรือจะทำเป็นห้องพระก็ได้เหมือนกันค่ะ

มุมมองย้อนกลับลงไปที่โถงบันไดชั้น 2

เดี๋ยวเราจะเข้าไปดูห้องทางฝั่งขวามือของโถงบันไดกันก่อนเริ่มจากห้องนอน Master bedroom ตามด้วยห้องน้ำ 2

มุมมองเข้าไปภายในห้องนอน จะไม่ต่างอะไรจากบ้านหลังที่แล้วเลยค่ะ ห้องนอนจะแบ่งออกเป็น 2 โซนคือโซนที่นอนและโซน Walk – in closet ฝ้าเพดานภายในห้องนอน Master bedroom จะสูงถึง 3 เมตรเช่นกัน

ในโซนที่นอน เมื่อวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงฝั่งละประมาณ 0.6 เมตร สามารถทำเตียงเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้อย่างสะดวก

มุมมองไปฝั่งตรงข้ามจะเป็นโซน Walk – in closet ทางบ้านตัวอย่างได้ทำประตูบานเลื่อนกั้นโซนทั้ง 2 ออกจากกันให้ห้องดูเป็นสัดเป็นส่วนและยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงอีก 1 เมตร

ห้องที่ได้จริงๆจะเป็นห้องโล่งๆแบบนี้ ไม่มีผนังขึ้นมากั้นแบ่งโซน

มุมมองเข้าไปภายใน Walk – in closet จะสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าขนาดพอๆกับบ้านหลังที่แล้ว ที่ฝั่งขวามือจะมีประตูบานเลื่อนสามารถเปิดออกสู่ระเบียงภายนอกได้

ส่วนที่ฝั่งซ้ายมือจะทำประตูบานเลื่อน 2 ทางเพื่อซ่อนประตูห้องน้ำให้ดูสวยงาม และทำผนังอีกด้านหนึ่งให้เป็นตู้เก็บเสื้อผ้าไปในตัวด้วย

มุมมองเข้าไปภายในห้องน้ำ 1 ทั้งวัสดุและสุขภัณฑ์จะไม่แตกต่างจากบ้านหลังที่แล้วเลย ยกเว้น 3 จุด คือจะมีหน้าต่างระบายอากาศให้

แต่ก็ยังมีพัดลมดูดอากาศเสริมให้อยู่เหมือนเดิมนะ

ส่วนอ่างล้างมือจะเป็นแบบฝังเคาน์เตอร์สำเร็จรูป

ที่ใต้เคาน์เตอร์สามารถใช้เก็บของได้

และบริเวณหลังกระจกจะทำเป็นชั้นวางของเพิ่มให้อีก

ส่วนภายในที่เหลือจะเหมือนเดิมทุกประการค่ะ

มาดูที่ห้องน้ำ 2 กันต่อ

ส่วนภายในห้องน้ำ 2 จะเหมือนกับบ้านหลังที่แล้วทุกประการค่ะ

มาถึงห้องนอน 2 ห้องสุดท้ายกันแล้ว ลำดับเป็นห้องนอน 2 ฝั่งขวามือ และห้องนอน 3 ฝั่งซ้ายมือ

มุมมองเข้าไปภายในห้องนอน 2 ลักษณะการจัดวางและขนาดเฟอร์นิเจอร์จะเหมือนกับบ้านหลังที่แล้วทุกประการ ยกเว้นว่าภายในห้องนี้จะได้หน้าต่างเพิ่มขึ้นทั้ง 2 ด้านเลย

มุมมองเข้าไปภายในห้องนอนก็จะวางเตียงขนาด 5 ฟุตเช่นกัน

บริเวณข้างหัวเตียงก็จะทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง

ส่วนอีกด้านหนึ่งจะทำเป็นชั้นวางของพร้อมตู้เสื้อผ้า

มุมมองย้อนกลับไปที่ประตูทางเข้าห้อง

มุมมองเข้าไปภายในห้องนอน 3 ที่ห้องนี้ก็จะเหมือนเดิมทุกประการค่ะ ภายในห้องสามารถวางเตียงนอนขนาด 3 ฟุตครึ่งได้ ส่วนที่ฝั่งซ้ายของเตียงนอนจะวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงาน

ระยะทุกอย่างเท่ากับบ้านหลังที่แล้วเป๊ะ

มุมมองย้อนกลับไปที่ประตูทางเข้าห้อง

ส่วนตัวควบคุมสัญญาณกันขโมยภายในบ้านจะติดตั้งไว้บริเวณโถงบันไดชั้น 2 ถ้ามีการเปิด – ปิดประตูหน้าต่างชั้นล่างจะมีเสียงแจ้งเตือนตลอดค่ะ

ตู้ Load center ก็จะติดไว้บริเวณโถงบันไดชั้น 2 เช่นกัน เป็นของ Schneider electric

สวิตช์และปลั๊กไฟภายในบ้านทั้งหมดก็จะเป็นของ Schneider electric เช่นกัน

---

:::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (มีนาคม 2560) ::::

วัสดุโดยรวม

• พื้นชั้น 1 : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 × 60 ซม.
• พื้นชั้น 2 : พื้นไม้ลามิเนต
• พื้นเฉลียงทางเข้า, พื้นระเบียงห้องนอน และพื้นห้องน้ำ : กระเบื้องเซรามิกขนาด 30×30 ซม.
• พื้นลานจอดรถ และพื้นที่อเนกประสงค์หลังบ้าน : พื้นซีเมนต์ปาดเรียบขัดหยาบ
• ผนังภายใน : ผนังฉาบเรียบทาสี
• ผนังห้องน้ำ : กระเบื้องเซรามิค ขนาด 20 x 30 ซม., ขนาด 60 x 60 ซม. และกระเบื้องตกแต่ง
• ประตูภายนอก (บานเลื่อน) : ประตูบาน UPVC กระจกเขียวตัดแสง
• ประตูภายนอก (บานเปิด) : ประตูบาน UPVC มือจับลูกบิดสแตนเลส และแบบก้านโยก
• ประตูภายใน : ประตูบานสำเร็จรูป มือจับลูกบิดสแตนเลส และแบบก้านโยก
• หน้าต่างภายนอก : บานเลื่อน, บานเปิด และบานกระทุ้ง UPVC กระจกเขียวตัดแสง

ห้องน้ำ และสุขาภิบาล

• สุขภัณฑ์ และ Accessories : American standard, Haus และ Vegarr

งานไฟฟ้า

• ตู้ Load Center, สวิตช์ และปลั๊กไฟ : Schneider electric
• ดวงโคมทั่วไป : ดวงโคมดาวน์ไลท์ LED
• ดวงโคมในห้องน้ำ : ดวงโคมดาวน์ไลท์ LED
• ไฟภายนอก : ดวงโคมดาวน์ไลท์ LED และดวงโคมฟลูออเรสเซ้นต์

***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ

---

:::: ราคา (มีนาคม 2560) ::::

โครงการ Q District กัสโต้ กิ่งแก้ว – สุวรรณภูมิ

ราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท

• เงินจอง 10,000 บาท
• เงินทำสัญญา 20,000 บาท

• ที่ดินเพิ่ม – ลด ตร.วาละ 80,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง ตร.วาละ 35 บาท/เดือน (ชำระล่วงหน้า 3 ปี)

โครงการ Q District คาซ่า ซิตี้ กิ่งแก้ว – สุวรรณภูมิ

ราคาเริ่มต้น 4.09 ล้านบาท

• เงินจอง 10,000 บาท
• เงินทำสัญญา 30,000 บาท

• ที่ดินเพิ่ม – ลด ตร.วาละ 85,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง ตร.วาละ 35 บาท/เดือน (ชำระล่วงหน้า 3 ปี)

***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

---

:::: สรุป ::::

ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ Q District กิ่งแก้ว – สุวรรณภูมิ ตั้งอยู่บนถนนกิ่งแก้ว ตลอดเส้นถนนกิ่งแก้วส่วนมากจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรม, บริษัทขนส่งสินค้า, โกดัง, อาคารพาณิชย์, หอพัก และโครงการบ้านพักอาศัยในแนวราบ ถนนเส้นนี้จึงมีรถบรรทุกวิ่งผ่านค่อนข้างมาก มีร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อเป็นแหล่งพึ่งพิงได้บ้าง โดยรวมแล้วบนถนนเส้นนี้จะยังไม่มีจุดเด่นอะไรมากนัก

ความอุดมสมบูรณ์บนถนนกิ่งแก้วนั้นอาจจะยังมีไม่มากนัก ร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารร้านเล็กๆหลายร้านจะเป็นร้านที่เปิดเพื่อรองรับความต้องการของหนุ่มสาวโรงงาน ถ้าจะหาห้างขนาดใหญ่จะต้องออกมาที่เส้นบางนา จะเป็นจุดรวมความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้ มีทั้งเซ็นทรัลบางนา, ไฮเปอร์มาร์เก็ตอย่าง Tesco Lotus และ Makro, ศูนย์รวมของตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์อย่าง Index และที่ใหญ่ที่สุดและครบครันที่สุดก็จะเป็น Mega และ Ikea บางนา นอกจากนั้นก็จะมีตลาดสดอย่างตลาดกิ่งแก้ว, โรงพยาบาลจุฬารัตน์ นอกจากนี้ก็จะมีคอมมูนิตี้มอลล์ The Paseo อยู่ตรงเส้นลาดกระบังค่ะ

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ในย่านนี้เหมาะสำหรับการใช้รถยนต์ส่วนตัว เพราะจากถนนกิ่งแก้วนั้นจะสามารถเข้าเมืองได้อยู่หลายเส้นทาง เชื่อมต่อกับถนนลาดกระบัง ไปทางอ่อนนุช, ถนนบางนา-ตราด และถนนเทพารักษ์ ซึ่งสามารถวิ่งไปเชื่อมกับถนนสุขุมวิทได้ทั้งหมด โดยทางที่สะดวกที่สุดก็จะเป็นทางมอเตอร์เวย์ (กรุงเทพ – ชลบุรี สายใหม่) สามารถวิ่งไปถึงพระราม 9 หรือทางพิเศษบูรพาวิถี ซึ่งจะไปเข้าเมืองทางฝั่งพระราม 4 ได้ ส่วนการเดินทางออกนอกเมืองจะสามารถใช้ได้ทั้งเส้นลาดกระบัง, มอเตอร์เวย์ และทางพิเศษบูรพาวิถีวิ่งออกไปทางชลบุรี นอกจากนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากวงแหวนกาญจนาภิเษกอีกด้วย

การเดินทางโดยรถสาธารณะ สำหรับผู้ที่ไม่ใช้รถยนต์ การเดินทางด้วยรถสาธารณะก็ถือว่าไม่ยากลำบากมากนัก เพราะบริเวณหน้าโครงกาจะมีรถวิ่งผ่านอยู่หลายสาย มีทั้งรถเมล์, รถตู้ และรถสองแถว ที่ผ่านทั้งแอร์พอร์ตลิ้งค์สถานีลาดกระบังซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 4.3 กม. ส่วนรถแท็กซี่ก็สามารถเรียกได้ไม่ยากนัก ในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงพัฒนาการ – สำโรงเกิดขึ้นมาอีก โดยสามารถนั่งจากแอร์พอร์ตลิ้งค์ไปลงที่สถานีหัวหมากต่อที่สถานีพัฒนาการได้สะดวก

การออกแบบโครงการ และวัสดุ การวางผังของโครงการเริ่มจาก Q District Avenue เข้ามาถึงหน้าทางเข้าโครงการ คาซ่า ซิตี้ และโครงการ กัสโต้ เป็นระยะประมาณ 250 เมตรช่วยให้ลดมลภาวะทางฝุ่นควันและเสียงดังจากรถใหญ่ที่วิ่งผ่านไปผ่านมาได้มาก การวางผังในด้านอื่นๆก็จะไม่ได้แตกต่างอะไรจากโครงการอื่นๆมากนัก

ในเรื่องของตัวบ้านถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงประสิทธิภาพการใช้งานของพื้นที่ให้เกิดประโยชน์ โดยรวมแล้วการวางแปลนก็ไม่ได้ต่างจากโครงการอื่นมากมายนักตามสไตล์ทาวน์โฮม แต่ที่ดีมากกว่าก็คือทาวน์โฮมแฝดที่จะได้พื้นที่สวนข้างบ้านรวมถึงหน้าต่างที่เพิ่มขึ้นทำให้ตัวบ้านเย็นสบายสามารถระบายอากาศได้ดี รวมถึงพื้นที่ Multi function บนโถงบันไดชั้น 2 เป็นการใช้พื้นที่ในแนวตั้งในเกิดประโยชน์ด้วย

การออกแบบยังได้คำนึงถึงการประหยัดพลังงานภายในบ้านโดยเจาะช่องแสงให้ที่ฝ้าเพดานภายในห้องน้ำและโถงบันได รวมถึงการใช้ฉนวนกันความร้อนช่วยให้ประหยัดแอร์ภายในบ้านได้มากขึ้น นอกจากนี้ตัวบ้านยังได้ติดระบบกันขโมยให้ สร้างความสบายใจกับการอยู่อาศัยมากขึ้น ส่วนวัสดุและสุขภัณฑ์ที่ใช้ภายในบ้านก็ถือว่าได้มาตรฐานค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ภายในโครงการจะมีคลับเฮ้าส์, ห้องออกกำลังกาย, สระว่ายน้ำ และสวนพักผ่อนถือว่าให้มาค่อนข้างครบถ้วน หน้าตาดูสวยงามน่าใช้งาน ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยก็ได้มาตรฐาน มีรปภ.ตลอด 24 ชม., ระบบ Access Card และกล้อง CCTV

---

:::: คะแนน ::::

ทำเลที่ตั้งโครงการ	7.7	ตั้งอยู่บนถนนกิ่งแก้ว อยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และห้างสรรพสินค้า
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว	8.0	เดินทางได้สะดวก เพราะถนนกิ่งแก้วสามารถวิ่งเชื่อมต่อเข้าถนนสายหลักได้ไม่ยาก อีกทั้งยังอยู่ใกล้มอเตอร์เวย์, ทางพิเศษบูรพาวิถี และวงแหวนกาญจนาภิเษก
การเดินทางโดยรถสาธารณะ	7.7	มีรถสาธารณะวิ่งผ่านหน้าโครงการ อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ลาดกระบัง และอยู่ในละแวกการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง
บ้านและวัสดุ	7.5	บ้านสไตล์โมเดิร์น ฟังก์ชั่นมีความกระชับ พื้นที่ใช้สอยถูกจัดอย่างมีประสิทธิภาพ การออกแบบมีส่วนช่วยในการประหยัดพลังงาน และวัสดุได้มาตรฐาน
สิ่งอำนวยความสะดวก	7.5	สิ่งอำนวยความสะดวกถือว่าให้มาพอสมควร น่าจะพอใช้งานกับจำนวนยูนิตของโครงการ
ความคุ้มค่ากับราคา	7.5	โครงการเหมาะสำหรับครอบครัวขนาด 2 – 4 คน เดิมอาศัย หรือทำงานอยู่ใกล้เคียงกับบริเวณโครงการ มีงบประมาณ 3 – 4 ล้าน
คะแนนรวมเฉลี่ย	7.65	ดี

---

:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::

CALL CENTER : 1388

สำนักงานขาย : 02 – 175 – 2751 – 2

WEBSITE : Q District คาซ่า ซิตี้ กิ่งแก้ว – สุวรรณภูมิ (https://www.qh.co.th/project/Q-District/QDistrict-Casacity-Kingkaew-Suvarnabhumi)

Q District กัสโต้ กิ่งแก้ว – สุวรรณภูมิ (https://www.qh.co.th/project/Q-District/QDistrict-Gusto-Kingkaew-Suvarnabhumi)