รีวิว : ตกแต่งต่อเติมบ้านเดี่ยว แบบจัดเต็ม..ไม่มีที่ใดอบอุ่นเท่าบ้านเรา
สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน วันนี้แอดมินมีรีวิวการตกแต่งต่อเติมบ้านสวยๆมาฝากกันค่ะ ใครที่เพิ่งซื้อบ้านใหม่ ยังหาแนวทางการตกแต่ง ต่อเติมไม่ได้ ลองเข้ามาเก็บไอเดียต่างๆ จากบทความนี้กันดูค่ะ
ที่มาของบ้านเดี่ยวหลังนี้
ผมอยู่ตึก (อาคารพาณิชย์) มาตลอดตั้งแต่เด็กครับ ผมโหยหาการอยู่บ้านเดี่ยวเป็นอย่างมาก เมื่อซัก 10 ปีที่แล้วเคยมีที่แปลงนึงให้ญาติมาเขียนแบบทำแบบบ้านซะดิบดีแต่โครงการก็ต้องล้มพับไปเพราะมีคนมาขอซื้อต่อได้ราคาดี
หลังจากนั้น 2-3 ปีที่แล้วก็มาตามหาบ้านเดี่ยวเดินดูบ้านตัวอย่างตามโครงการต่าง ๆ ทั้งแบรนด์ดัง ๆ และโนเนม ทั้งแถวบ้าน และห่าง ๆ ไปจนถึงปทุมฯ
แต่เหมือนจะหาไปอย่างงั้น เพราะดูเหมือนแม่ผมจะไม่ค่อยจริงจังซักเท่าไหร่ (ผมก็งงนะ แล้วจะไปดูโครงการนู้น โครงการนี้ ให้อยากได้ไปทำไมครับเด็จแม่ !!?)
จนมาปีนี้แหละครับไปดูทาวน์โฮม 2 ชั้น แบรนด์ พ… ราคา 2.xx บาท (เกือบใกล้เคียงบ้านเดี่ยว) ก็จ่ายเงินจองอะไรไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งผมไม่อยากได้เล้ยยย T.T
ผมคิดว่าทาวน์โฮมมันไม่ได้ต่างจากอาคารพาณิชย์เลยอะเพียงแค่ย้ายไปอยู่ในหมู่บ้านแค่นั้นเองพื้นที่ก็น้อยกว่าอาคารพาณิชย์ที่ผมอยู่ซะอีก อีกอย่างยี่ห้อนี้ในพันทิปนี่กระแสดีมาก (แง่ลบนะ 555) แต่ทำไงได้ครับเงินเด็จแม่
แต่กระนั้นโชคดีมากครับที่ด้านหลังของห้องที่จอง เป็นที่จอดรถขนขยะของเทศบาล โป๊ะเชะมาก แม่ไม่เอาครับทิ้งเงินจองแบบเข้าเนื้อนิด ๆ (จองช่วงที่ได้ note 2)
จากนั้นเลยพับโครงการในการหาบ้านไปอีก จนกระทั่งบทจะได้มันก็ได้ง่าย ๆ เลยนะครับ คือหลังจากไม่เอาเงิน 2 ล้านกว่าไปซื้อทาวน์โฮมของพี่พ…
เลยจะเอาเงินนี้แหละครับมาลงทุน Renovate ตึกอีกหลังหนึ่งที่ปล่อยเช่าราคาถูกมาเนิ่นนาน แม่ผมจึงได้ติดต่อผู้รับเหมาที่สนิทกันให้มาดูตึกเพื่อเสนอราคา
เฮียแกก็บอกแม่ผมว่า เจ๊อย่าไปทำเลยใครจะมาอยู่มันเสี่ยงนะ ถ้าจะทำหาที่ดี ๆ แล้วทำแบบผมดีกว่า เดี๋ยวผมจะพาไปดู ว่าแล้วก็พากันไปดู เพราะอยากรู้ว่าเฮียแกทำอะไรถึงได้รีเควสนัก…
ไปถึงฮาแตกครับพี่น้องเฮียเค้าทำ…ม่านรูด…แกบอกว่าทำแบบนี้แหละเจ๊ เก็บรายวัน วัน ๆ นึงได้หลายพัน เมื่อคืนก็มี สส พาเด็กมา…
แม่ผมรับไม่ได้ครับ จบตัดบทเฮียแกปุ๊ปก็รีบพาแกไปดูตึก แล้วเหตุบังเอิญมันเกิดขึ้นตรงนี้ล่ะครับ ก่อนถึงตึกนั้นจะมีหมู่บ้านจัดสรรอยู่โครงการนึง
เฮียแกรับเหมาต่อเติมครัวอยู่ในนั้นครับ แกขอแวะเข้าไปดูงานแปปนึง ก็พากันเข้าไป ปรากฎว่ามีบ้านเหลืออยู่ประมาณ 4-5 หลัง
เซลล์จึงมาขายของตามปกติ ผมกับแม่ก็พากันไปดูบ้านตัวอย่างกัน 2 คน ผมก็ค่อย ๆแซะแม่เรื่อย ๆ ดีนะแม่ แจ่มนะแม่ อยากได้อะแม่ เอาเนอะแม่ เอาน่าแม่ มีสวนด้วยนะแม่ โอเคอยู่นะแม่ บลาๆๆ
สักพักแม่เริ่มหลวมตัวครับ แม่บอกว่าเดี๋ยวกลับไปพาพ่อมาดูก่อน เซลล์บอกถ้าจองวันนี้จะลดให้แสนนึง เพิ่มสวน ปั๊มน้ำ แอร์ 1 ตัว ผมก็ยุแม่อย่างหนัก จองเลยแม่ ๆ เพราะผมมีประสบการณ์มาโชกโชน
ไอ้การเดี๋ยวกลับไปปรึกษากันก่อน ขอดูก่อน ร้อยละ 98% แห้วครับ
และแม่ผมก็ใจแข็งจะไปพาพ่อผมมาดูให้ได้ ผมก็โอเค “ยอมครับ” เป็นอันรู้กันว่าแห้วชัว แต่ไม่เป็นอย่างนั้นครับ เพราะแม่ไปพาพ่อผมมาดูจริง ๆ ในเย็นวันนั้นเลย พ่อผมดูแล้วก็โอเค เอาก็เอา ตกลงจองกันในเย็นวันนั้นอีกด้วย
- พื้นที่บ้านทั้งหมด 59.8 ตารางวาง พื้นที่ใช้สอย 178 ตารางเมตรครับ จะเห็นว่าพื้นที่ใช้สอยจะไม่เยอะมาก เหลือพื้นที่ด้านข้างด้านหน้า และด้านหลังซะเยอะ แต่ผมชอบครับ เหมาะแก่การต่อเติมในภายภาคหน้ามาก ๆ
ผมทำเอง และเลือกเองทั้งหมดตั้งแต่การหามืออาชีพมาตรวจบ้าน, ออกแบบบิ้วอินทั้งหมด, เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์/ของตกแต่ง , ต่อเติมหลังบ้าน ฯลฯ เรียกได้ว่าช่วงทำบ้านประมาณ 3 เดือนผมไปแทบทุกวัน เดือดร้อนรปภ. ต้องเปิดที่กั้นให้ผมบ่อย ๆ
หลังจากมัดจำแล้ว ก่อนโอนก็ต้องทำการตรวจรับบ้านก่อน สำหรับผม ผมจ้างให้มืออาชีพมาทำการตรวจรับให้ครับ
ผมคิดว่าบ้านหลายล้านซื้อมาแล้วเสียเงินเพิ่มอีกไม่กี่พันให้มืออาชีพที่เค้ามีความรู้ด้านนั้นจริง ๆ มาตรวจดีกว่าครับ เพราะกลัวจะเสียน้อย เสียยาก เสียมาก เสียง่าย
ผมใช้บริการแบบตรวจ 2 ครั้ง รอบแรกจะมีวิศวกร 1 คน และผู้ช่วย (น่าจะเป็นช่าง) อีก 1 คนครับ
- รอบแรกถือว่าตรวจได้ละเอียดเรียบร้อยดี ฏefect บ้านผมมีเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆ ก็สั่งแก้ไปรอ 1 อาทิตย์มาตรวจรอบสอง
- รอบสองคราวนี้แปลก ไม่มีวิศวกรมาด้วย มีแต่ช่างคนเดิม 1 คน กับลูกน้องอีก 1 คน เค้าบอกว่ารอบสองไม่มีอะไรมากแค่ตรวจตาม defect ที่ให้แก้ไปคราวที่แล้ว ผมก็โอเค ตรวจเสร็จถือว่าโครงการแก้ได้ในระดับที่พอรับได้ จึงนัดวันโอนบ้าน
พอโอนบ้านเสร็จ เราจะได้บ้านเปล่า ๆ แบบนี้ครับ
เริ่มที่ประตูก่อนเข้าบ้านครับ ของระเกะระกะมาก
หน้าทางเข้าห้องรับแขกจะมีพื้นที่กว้างพอสมควรประมาณนี้ครับ
เข้ามาในห้องรับแขกกันเลย ฟังก์ชั่นก็จะเหมือนบ้านเดี่ยวขนาดเล็กทั่ว ๆ ไปที่เดินขึ้นชายคามาเปิดประตูก็จะเป็นห้องรับแขกหรือ ห้องนั่งเล่นเลย พอเดินตรงไปก็จะเป็นบันไดขึ้นชั้นสอง และเป็นส่วนกินข้าว ด้านขวาเข้าไปจะเป็นห้องครัวเปล่า ๆ (โครงการไม่ได้ให้ชุดครัวมาครับ ต้องทำเอง)
ห้องครัวโล่ง ๆ แบบนี้ครับ
ขึ้นมาชั้นสองกันเลย นี่เป็นห้องนอนใหญ่
และมีระเบียงขนาดกลาง ๆ เหมาะจะเป็นที่ให้ฝนสาด และนกขี้มาก!!! 555 เดี๋ยวมาดูกันครับว่าตรงนี้ผมจะทำเป็นอะไร
ห้องนอนเล็กจะมีสองห้อง แต่มีรูปแค่ห้องเดียวอ่ะครับ มีห้องน้ำชั้นล่าง 1 ห้อง และห้องน้ำในห้องนอนใหญ่
ซึ่งจะตีทะลุให้คนภายนอกใช้ด้วย 1 ห้อง และในห้องนอนเล็กอีก 1 ห้อง
ลงมาดูข้างล่างกันบ้างครับ ส่วนของหลังบ้าน
ข้างบ้านมองจากข้างหลังไปหน้าบ้านครับ ทั้งสองฝั่งซ้าย-ขวา
จบบ้านเปล่า ๆ ก็ตามด้วย…สิ่งที่ผมทำเป็นอันดับแรก (ซึ่งผมว่ามันไม่ใช่นะ 55) คือการทำประตูรีโมท เป็นความใฝ่ฝันมากเลยครับว่าเราจะขับรถเข้าออกได้โดยไม่ต้องลงไปเปิดประตูเอง !!!
ผมใช้บริการของเจ้าเดียวกับที่มาทำให้บ้านหลังหนึ่งในโครงการไปขอเบอร์พี่เค้ามา ทำการติดตั้งไม่นานครับ 1 วันเต็ม ๆ
หลังจากนั้นที่ต้องทำ (อันนี้คือสิ่งที่ถูกต้องว่าจะต้องทำเป็นอันดับแรก) คือ หาช่างมาบิ้วท์อินครับ พี่เซลล์ก็แนะนำช่างที่ทำอยู่ในโครงการให้ ชื่อพี่ดิง พี่คนนี้ดีมากครับ คุยง่าย ขอเพิ่มนู่น เพิ่มนี่ ไม่บ่น ให้แก้บ่อย ๆ ไม่เคยบ่นซักครั้ง
ตอนแรกคอนเซ็ปที่ผมคิดไว้ คือโมเดิรน์เท่ ๆ ครับ สีของเฟอร์นิเจอร์บิ้วจะต้องเป็นสีพ่นไฮกรอสสวย ๆ เงา ๆ แต่ความคิดผมต้องเปลี่ยนไป หลังจากผมไปเจอเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวสัญชาติไทย ไม้โอ๊ค คือ Oggi นั่นเอง
ทำให้ผมหลงรักลายไม้อย่างจริงจัง จึงเปลี่ยนแนว เปลี่ยนคอนเซ็ปมาเป็น แนวอะไรก็ไม่รู้ ! 555 ผมตั้งเอาเองว่าให้มันดู minimal นิด ๆ ญี่ปุ่นหน่อย ๆ อบอุ่นน้อย ๆ แต่ลายไม้ต้องมาเต็ม เพราะฉะนั้นสีทั้งหมดผมจะเน้นไปสีธรรมชาติครับ ให้เห็นลายไม้ชัดเจน
ตอนคุยแบบ ผมก็บอกไปว่าต้องการแบบนี้ครับ
- ชั้นวางทีวีขอเป็นไม้จริงเซาะร่อง ส่วนช่องเก็บของต่าง ๆ ผมขอแบบเรียบ ๆ เน้นการใช้ประโยชน์นั่นคือ เก็บของให้ได้มากที่สุด
- ฉากกั้นแบ่งสวนห้องนั่งเล่นและห้องกินข้าว อันนี้เป็นไอเดียแฟนผมครับ ว่าขอเป็นซี่ไม้ และมีช่องว่างให้วางรูปบวกับของตกแต่งนิดหน่อย ๆ
- ห้องนอนใหญ่ ผมบอกพี่เค้าว่าขอเตียงแบบปูเต็มพื้นที่ และให้มีบันไดเล็กเป็นการเล่นระดับหน่อย ๆ แนวเตียงญี่ปุ่นตามคอนเซ็ป ใต้เตียงขอที่เก็บของใหญ่ ๆ ด้วย
- ตู้เสื้อผ้า หน้าบานขอเป็นลายไม้เซาะร่อง
- อันนี้ความใฝ่ฝันของผมมาก ๆ ตั้งแต่เด็กครับ ตั้งแต่เด็กผมชอบอ่านการ์ตูนมาก ผมอ่านแล้วก็เก็บมาเรื่อย ๆ ไม่ได้ทิ้ง ผมเลยอยากมีห้องหนังสือเล็ก ๆ นั่งอ่าน และนอนเกือกกลิ้งไปมา ผมจึงเลือกห้องนอนเล็ก 1 ห้องให้เป็นห้องแห่งความฝันของผมครับ วางแบบให้พี่เค้าทำตู้หนังสือเต็มผนังห้อง 1 แถบ และแน่นอนตู้ต้องเป็นลายไม้สวย ๆ แต่อันนี้ขอเป็นโทนเข้มนิดนึง
- และสุดท้าย แพนทรี่หน้าห้องครัว อันนี้เพิ่มมาหลังสุด หลังจากงานบิ้วท์ที่ทำไว้ใน 5 ข้อแรกทำใกล้เสร็จ เหลือเก็บงานนิดหน่อย คอนเซ็ปเหมือนเดิมครับ หน้าบานขอเป็นลายไม้สีธรรมชาติ โทนเดียวกับซี่ไม้ฉากกั้นห้องนั่งเล่น โทนสีจะได้ไปในทิศทางเดียวกัน แต่ท็อปของแพนทรี่ ตอนแรกพี่เค้าจะลงเป็นหินแกรนิต ผมขอเปลี่ยนเป็นหินสังเคราะห์สีขาวแทนครับ
*ช่วงนี้จะไม่มีรูปตอนดำเนินงานเลย เรามาดูแบบเสร็จกันแล้วเลยละกันนะครับ
เริ่มที่หน้าบ้านทางเข้าสู่ห้องรับแขก
ชั้นวางทีวี และฉากกั้น
ชั้นวางบน และล่าง
เรามาดูเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่ทำให้ผมเปลี่ยนคอนเซ็ปบ้านกันครับ
เป็นเฟอร์นิเจอร์คุณภาพดี ดีไซน์สวย เป็นไม้โอ๊คจริง ยี่ห้อ Oggi แต่อันนี้ผมเงิบมากครับ ตอนผมไปดูที่โชว์รูมผมเข้าใจผิดคิดว่ามันจะเป็นไม้โอ๊คจริงทั้งตัว
แต่พี่ดิงบอกว่าดู ๆ แล้วมันไม้จริงแค่ท็อปนะ ตัวโครงก็เป็นไม้อัด เงิบเลย T.T แต่ไม่ป็นไรครับสวยผมยอม เหมือนได้แฟนเป็นกระเทยดันมารู้ทีหลัง แต่ไม่เป็นไรเฉาะแล้ว สวยด้วย ยอม 555 ไม่เกี่ยว !!
อันนี้เป็นเก้าอี้ให้พ่อผมนั่งกินน้ำชา อ่านหนังสือ ครับแกชอบอ่าหนังสือมากผมเลยจัดตรงนี้ไว้ให้แกโดยเฉพาะ เหลือโต๊ะข้างเล็ก ๆ ซักตัวมาวางข้าง ๆ น่าจะลงตัวมากขึ้น
โต๊ะกินข้าว
โถงบันไดก่อนที่จะโดดไปชั้น 2 ของบ้าน
เราขึ้นชั้นสองไปดูห้องนอนใหญ่กันครับ ซึ่งผมพอใจมาก เพราะตรงตามคอนเซ็ป เตียงเล่นระดับได้กลิ่นอายญี่ปุ่นหน่อย ๆ
เตียงใช้กระเบื้องยางลายไม้เป็นวัสดุปูครับ เวลาเดิน หรือไปนั่งเล่นคอมตรงปลายเตียงจะได้ไม่มีเสี้ยนไม้ตำเข้า ส่วนที่นอนจะให้เหมือนญี่ปุ่นที่สุด จะต้องบาง ๆ ผมไปเดินหาที่งานเมืองทองเจอที่ถูกใจพอดี ขนาด 6 ฟุต หนาแค่ 4 นิ้วครึ่ง รีบสั่งอย่างไว และผ้าปูใช้ของ passaya ช่วงลดราคาครับ
ตรงปลายเตียงไว้นั่งเล่นโน๊ตบุค และเขียนหนังสือครับ
ตู้เสื้อผ้าผมบิ้วท์ชนฝ้า กระจกจากอิเกีย และเก้าอี้จาก Oggi ครับ ตอนแรกตรงกระจกพี่ดิงเค้าจะทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง ผมคิดว่ามันธรรมดาไปเลยเอาเป็นแบบนี้ดีกว่าครับให้ดูแตกต่างหน่อย
ที่หัวเตียงตอนแรกมันโล่ง ๆ ผมเลยขอพี่เค้ากรุไม้เซาะร่อง และขอสีให้เหมือนหน้าบานของตู้เสื้อผ้าครับ อันนี้พี่เค้าก็ทำแถมให้ครับ และไปหารูปภาพแบบ Abstract หน่อย ๆ มาแขวน ให้ไม่โล่งเกินไปครับ
มาดูตรงระเบียงกันครับ
ผมลืมบอกครับ ก่อนหน้าที่จะเริ่มบิ้วท์อิน ผมจัดการแก้ปัญหาตรงระเบียงในห้องนอนใหญ่ก่อนครับ ซึ่งผมทำเป็นห้อง Entertainment เล็ก ๆ ไว้นั่งดูบอล เล่นเกม โดยจะติดกระจก และติดแอร์ ห้องนี้ผมให้พี่ดิงเดินไฟลอย ใส่ท่อสีขาวสวย ๆไว้เป็นปลั๊กไฟไว้ให้ด้วย ^^ มีปัญหาอีกอย่างนึง คือ เนื่องจากมันเป็นระเบียง บนฝ้ามันจึงมีช่องเล็ก ๆ ไว้ระบายอากาศ ผมเลยติดวอลล์เปเปอร์ซะเลย แอร์จะได้ไม่ออก
จากระเบียงกลายเป็นห้องกะทัดรัดแบบนี้ครับ ไว้อยากดูทีวีค่อยไปดูในนั้น ในห้องนอนไม่ต้องมีทีวีจะได้มีเวลาทำกิจกรรมอย่างอื่นมากขึ้น อิอิ
โต๊ะข้าง และที่วางทีวิจาก Oggi ส่วนโซฟาซื้อจากงานเฟอร์ที่เมืองทองครับ
มองเข้าไปที่ห้องนอนอีกทีครับ
ห้องที่ใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็ก เชิญเข้าห้องครับ
โต๊ะทำงานใช้บริการจาก Oggi เช่นเคยครับ
ลงข้างล่างกันครับ
มาดูแพนทรี่กับครัว
สวนและหลังบ้าน
สวนทางโครงการให้งบมา 20k ถ้าอยากเพิ่มเติมอะไรต้องบวกส่วนต่างเอง ค่าสวนทั้งหมด 48k ต้องออกเองอีก 28k ครับ
สวนนี่แฟนผมเป็นคนออกแบบทั้งหมด
ปิดท้ายด้วยสวนตอนเช้าและกลางคืนครับ
*เพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดเรื่องรีโนเวท และบิ้วท์อินต่าง ๆ นะครับ
** ตรงท็อปของแพนทรี่ผมใช้บริการจากบุญถาวรครับ เป็นหินสังเคราะห์ของสตาลอนราคา 20k บาทครับ คือให้พี่ดิงเค้าขึ้นโครงของแพนทรี่เสร็จเรียบร้อยช่างจากสตาลอนจะมาวัดพื้นที่และไปทำการผลิต จากนั้นมาติดตั้งครับ
ข้อดี ของช่างที่ชื่อพี่ดิง คือ …
- งานปานกลาง ความสวยงามอยู่ในระดับที่พอใจ(ไม่สวยเวอร์) เหมาะสมกับราคา
- ของแถมเยอะมาก ขอพี่เค้าเพิ่มนู่น เพิ่มนี่ ถ้าไม่เหนื่อมากจนเกินไปพี่เค้าไม่คิดเงินเพิ่มครับ
- คุยง่าย ไม่บ่น ไม่ค้านความคิดเราที่เราออกแบบเอง พี่เค้าจะเน้นแนะนำว่าแบบนี้น่าจะสวยว่ารึปล่าว หรือแบบนี้มันจะไม่เหมาะกับการใช้งานนะ อะไรแบบนี้ครับ
- ตามมาเก็บงานทีหลังได้สบาย ไม่เบี้ยวแน่นอน ทำจนกว่าคุณจะพอใจ
ข้อเสีย คือ …
- ทำงานช้าแบบ… 555 เนื่องจากพี่เค้าลุยงานเองเลย ทั้งงานสี และงานไม้ มีลูกน้องแค่ 5-6 คน
- ลูกน้องไม่ค่อยมีฝีมือ ทำได้แค่งานง่าย ๆ งานยาก ๆ พี่เค้าต้องลุยเอง พวกงานเก็บสี เก็บมุม ถ้าส่วนไหนพี่เค้าให้ลูกน้องทำเราต้องคอยเช็คให้ดีครับ
เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ผมใช้บริการ Oggi เกือบทั้งหมดครับ แต่ผมจำราคาแยกเป็นชิ้น ๆ ไม่ได้แล้วจำได้แต่ราคารวมนะครับ
ส่วนครัวเทพื้น ปูกระเบื้องเจ้าเดียวกันครับ เหมาค่าแรง และปูน หิน ดิน ทราย ในส่วนของผมจะวัดหาสเกลหน้างานไปให้โฮมโปรออกแบบ และซื้อของจากที่นั่นเลยครับ ขอบกับโครงใช้กระเบื้องลายหิน ภายในปูด้วยกระเบื้องสีขาว ท็อปใช้แกรนิตโต้แผ่นใหญ่ เจ้านี้ข้อดีอย่างเดียวครับ คือ ฝีมือในการปูใช้ได้ครับ ปูสวย
แต่…ข้อเสียเพียบ…การวางแผนการทำงานของเค้าแย่มาก ทำครัวให้ผมพื้นที่เล็กแค่นั้นใช้เวลาทำเกือบ 2 อาทิตย์
วันแรกขึ้นโครงปูนไว้แล้วหายไป 3 วัน (ปกติขึ้นโครงทิ้งให้แห้งแค่วันเดียวก็มาปูกระเบื้องต่อได้แล้ว)
หลังจาก 3 วันมาปูกระเบื้องอีก 1 วัน แล้วก็โทรมาบอกผมว่าติดงานที่อื่นขออนุญาตไม่ทำ 1 วันนะครับ -“-
หลังจากนั้นมาทำอีก 1 วัน หายไปอีก 1 วันโทรมาบอกว่าลูกน้องเมา เห้อ…กว่าจะเสร็จ
ยาวมายังการติดตั้งเครื่อง Hood ดูดควันไม่ดีอีก ไม่ยอมถอดปีกผีเสื้อที่อยู่ข้างในออก เดือดร้อนว่าที่ภรรเมียไหมล่ะ
ที่สุดของช่างคนนี้ คือ ของไม่เคยพอดีซักที ผมต้องขับรถไปโฮมโปรทุกวันในช่วงที่ทำครัว วันนึงยาแนวไม่พอ อีกวันกระเบื้องไม่พอ อีกวัน คิ้วไม่พอ อีกวันยาแนวผิดสี โอย… ไปจนพนักงานโซนกระเบื้องสนิทกับผมละ ><”
แต่…งานยังดีที่เสร็จออกมาสวยงามอยู่ครับ
ส่วนหลังบ้าน เห็นบ้านหลังอื่น ๆ ต่อเติมกันโครมคราม ผมไม่ค่อยชอบครับ มันดูอึดอัดลมไม่ flow ผมเลยเอาแค่เทพื้นปูกระเบื้อง และทำหลังคา
ยังไม่เข็ดหรืออย่างไร…ยังโทรตามเจ้าที่ทำครัวเดิมนี่แหละครับ มาตีราคา เค้าคิดค่าแรงทั้งหมด 13k รวมเลาะกระเบื้องตรงลานซักล้างที่โครงการให้มาออก และปูกระเบื้องเป็นลายเดียวกันทั้งหมด
รวมถึงปูโมเสกตรงแพนทรี่ให้ด้วย และเห็นว่าราคาพอรับได้เลยใช้บริการเจ้านี้อีก ปรากฎว่า…ปวดหัวหนักเหมือนเดิม!
ปูกระเบื้องเป็นคราบขาวแบบนี้ครับ เต็มพื้นที่หลังบ้านเลย ปวดหัวมากโทรไปให้มาแก้ แกบอกขอพรุ่งนี้มาทำ
พอถึงวันทำ ปรากฎว่าแกเลื่อนไปอีก 2 วัน ผมเลยลุยกับพี่ชายครับ ขัดกันเองหาข้อมูลจากกูเกิลได้ความว่าต้องใช้น้ำส้มสายชู ใช้เวลาในการขัด และล้างทำความสะอาดไปครึ่งวัน รอแห้ง ปรากฎว่าไม่ออก เลยรอให้ช่างแกมาทำดีกว่า
หลังจากนั้น 2 วันแกก็ยังไม่มาครับ นัดผมตอน 10 โมงเช้า ผมโทรไปตาม แกบอกขอเป็น 5 โมงเย็น ผมรอยัน 6 โมงเย็นโทรไปอีกที แกบอกขับรถออกมาแล้วจากสนามหลวง ! กำลังไป
เรือหาย!!! (ชิปหาย 55) จากสนามหลวงมาดอนเมืองช่วง 6 โมงเย็น จะถึงเมื่อไหร่ครับท่าน…
ผมโมโหเลยโทรไปบอกแกว่า น้าไม่ต้องมาละ (ผมประชด) น้าแกรีบบอก…”โอเคครับ”แล้วก็วางทันที ผมนี่เงิบเลย 55
ผมเลยไปโฮมโปร ไปแผนกกระเบื้องบอกเค้าว่าซื้อน้ำยาขัดคราบปูนยาแนว ได้มา 1 กระปุกของ cotto 1 ลิตร โดนไป 500
อันนี้ผมแนะนำเลยครับ ใครที่ปูกระเบื้องแล้วมีคราบปูนหลงเหลือ ใช้อันนี้ดีมาก ผมไม่ได้ถ่ายรูปมา แต่ทุก ๆ คนไปที่โฮมโปรแล้วบอกเค้าได้เลยครับ ว่าขอซื้อน้ำยาขัดคราบปูนยาแนวของ cotto
วิธีใช้ คือ ผสมน้ำในอัตรา 1:5 แล้วก็เอามาขัดที่บริเวณคราบ จากนั้นทิ้งไว้ 5 นาที ค่อยล้างน้ำออก ผลปรากฎเป็นดังภาพครับ (ดีกว่าเดิมเยอะเลย)
เพิ่มเติมอีกอย่างครับ แนะนำสำหรับคนที่จะนำเครื่องซักผ้าไปไว้ด้านหลังนะครับ เดินปลั๊กกับก๊อกน้ำดีคงไม่ลืมกันอยู่แล้ว
แต่อย่าลืมให้ช่างต่อท่อน้ำทิ้งเอาไว้นะครับ ผมเห็นบ้านหลังหนึ่งในโครงการ สงสัยจะลืม ต้องลากสายท่อน้ำทิ้งเป็นออกมาให้ลงท่อ เห็นแล้วไม่สวยงามครับ
ต่อมาหลังคา ผมใช้บริการ ร้านลือนามกันสาด งานดี งานสวย เจ๊เจ้าของร้านใจดีพูดเพราะ คุยง่าย ค่าเสียหาย 38k หลังคาใช้โพลีคาร์บอเนตครับ
ขอจบรีวิวเลยละกันครับ ขอบคุณมากครับ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : คุณหมูน้อยเกี่ยวก้อยกับลิงอ้วน สมาชิก Pantip.com
แสดงความคิดเห็น